มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ libretto | [ละ-เบรต-โต] (n) เนื้อร้องประกอบดนตรีที่ใช้ในอุปรากร, จุลอุปรากร, งานแสดงสวมหน้ากาก, ละครเพลง และบัลเลต์ คำว่าบทร้องบางครั้งอาจจะหมายถึงเนื้อของงานสำคัญทางศาสนาสำหรับงานเช่นมิสซา, บทสรรเสริญผู้เสียชีวิต (requiem) หรือเพลงศาสนา (cantata) (Wikipedia.org), See also: R. opera, cantata, requiem |
|
| วงวาร | [วง-วาน] (jargon) สงสาร ที่มาคือ ปกติ ส.เสือ และ ว.แหวน ในแป้นพิมพ์ จะอยู่ติดกัน ทำให้บางครั้งรีบพิมพ์เร็วไปหน่อย นิ้วเลยไปโดน ว.แหวน แทน ส.เสือ แต่ก็ออกมาแล้ว ดูน่ารักดีนะ ก็เลยใช้ไปละกัน “วงวาร” ก็ตรงตัว ความหมายคือ สงสาร นั้นเอง | แล้ว | (jargon) เสร็จ, จบสิ้น, แล้วเสร็จ นอกจากจะใช้เป็นคำลงท้ายเพื่อบ่งบอกว่าเรื่องนั้นจบลงหรือเสร็จสิ้น คนเหนือยังใช้คำคำนี้แทนคำว่า “เสร็จ” ทำให้บางครั้งก็จะเผลอพูดทับลงไปตรงๆเวลาพูด เช่น “ฉันกินข้าวจะแล้วแล้วนะ” ก็แปลได้ว่า “ฉันกินข้าวจะเสร็จแล้วนะ” |
| บางครั้ง | (adv) sometimes, See also: occasionally, Syn. บางคราว, บางครั้งบางคราว, บางที, บางขณะ, Example: เขาเอาเงินไปให้พ่อแม่ที่บ้านนอกเป็นบางครั้งเท่านั้น, Thai Definition: ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่ไม่ใช่ทั้งหมด | บางครั้งบางคราว | (adv) sometimes, See also: occasionally, Syn. บางคราว, บางครั้ง, บางที, Example: วัฒนธรรมเก่าที่ล้าสมัยแล้วอาจจะนำมาฟื้นฟูเป็นบางครั้งบางคราว เพื่อจะให้คนรุ่นหลังได้รู้จักภูมิหลังของชาติตน, Thai Definition: ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่ไม่ใช่ทั้งหมด |
| กบบัว | น. ชื่อกบขนาดเล็กชนิด Rana erythraea (Schlegel) ในวงศ์ Ranidae ตัวสีเขียวมีแถบสีขาวพาดตามยาวลำตัว อาศัยอยู่ตามกอบัว จึงมีผู้เรียกว่า เขียดบัว และร้องเสียง “จิ๊ก ๆ ” บางครั้งจึงเรียกว่า เขียดจิก. | กลอนสุภาพ | น. กลอนเพลงยาว บางครั้งเรียกว่า กลอนตลาด. | กุดจี่ | น. ชื่อแมลงพวกด้วงหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Scarabaeidae หัวแบน ขาแบน ด้านข้างขามีลักษณะเป็นหนามคล้ายฟันเลื่อย ลำตัวยาว ๐.๕-๖.๐ เซนติเมตร ส่วนใหญ่สีน้ำตาลเข้มหรือดำ อาศัยอยู่ตามมูลสัตว์ ปั้นมูลสัตว์เป็นก้อนเพื่อวางไข่ ตัวเต็มวัยเมื่อถูกตัวมักทำเสียงดังฉู่ฉี่ บางครั้งจึงเรียก ตัวฉู่ฉี่หรือด้วงจู้จี้ ชนิดที่พบบ่อย เช่น Onitis subopacusArrow, Onthophagus seniculus Fabricius พบทุกภาค, กุดจี่ที่มีขนาดใหญ่ เช่น กุดจี่ขี้ช้างหรือด้วงขี้ช้าง ( Heliocopris dominus Bates) พบมากในภาคเหนือและภาคอีสาน, จี่ ก็เรียก. | ค่าง | น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในวงศ์ Cercopithecidae ลักษณะคล้ายลิง ขนสีเทาหรือดำ ลำตัว แขน ขา และหางยาวกว่าลิงทั่ว ๆ ไป กินใบไม้และบางครั้งผลไม้ ในประเทศไทยมี ๔ ชนิด คือ ค่างดำ [ Presbytis melalophos (Raffles) ] ค่างแว่นถิ่นใต้ [ P. obscura (Reid) ] ค่างหงอกหรือค่างเทา [ P. cristata (Raffles) ] และค่างแว่นถิ่นเหนือ ( P. phayrei Blyth). | ไต่ไม้ | น. ชื่อนกขนาดเล็กในวงศ์ Sittidae ปากแหลม ตัวเล็ก หางสั้น มักไต่จากยอดไม้ลงสู่โคนโดยเอาหัวลง ทำรังในโพรงไม้ กินหนอนและแมลงในเปลือกไม้ แต่บางครั้งก็กินเมล็ดพืช เคยพบในประเทศไทย ๕ ชนิด เช่น ไต่ไม้ท้องสีเม็ดมะขาม ( Sitta castaneaLesson) ไต่ไม้หน้าผากกำมะหยี่ ( S. frontalis Swainson) ไต่ไม้สีสวย ( S. formosa Blyth). | บางที | ว. บางเวลา, บางคราว, บางครั้ง, บางหน, ลางที ก็ใช้. | ปอมขาง, ปอมข่าง | น. ชื่อกิ้งก่าขนาดใหญ่ชนิด Calotes mystaceus Dumeril & Bibron ในวงศ์ Agamidae หัวสีนํ้าเงิน แต่บางครั้งเปลี่ยนเป็นสีนํ้าตาลได้, กะปอมขาง ก็เรียก. | ปากจิ้งจก ๒ | น. ชื่องูขนาดกลางชนิด Ahaetulla prasina (Boie) ในวงศ์ Colubridae ยาวประมาณ ๑.๓ เมตร หัวและลำตัวเรียวยาว มีหลายสี ส่วนมากสีเขียวปลายหางสีนํ้าตาลแดง มักพบอาศัยบนต้นไม้ หากินเวลากลางวัน ส่วนใหญ่กินกิ้งก่า พบทั่วประเทศไทย มีพิษอ่อนมาก, บางครั้งเรียกชื่อตามสี เช่น ตัวสีส้มเรียก งูง่วงกลางดง ตัวสีเทาเรียก งูกล่อมนางนอน, เขียวหัวจิ้งจก เชือกกล้วย รากกล้วย หรือ แห้ว ก็เรียก. | แผ่นดินไหว | น. การสั่นสะเทือนของแผ่นดินที่รู้สึกได้ ณ บริเวณใดบริเวณหนึ่งบนผิวโลก ส่วนใหญ่เกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกที่รองรับผิวโลกอยู่ บางครั้งเกิดจากภูเขาไฟระเบิด. | แผลริมอ่อน | น. แผลที่อวัยวะสืบพันธุ์เนื่องจากเชื้อกามโรคชนิด Haemophilus ducreyi จะเกิดเป็นตุ่มขึ้นก่อน แล้วแตกเป็นแผล ลักษณะขอบแผลอ่อนคล้ายแผลเปื่อย เลือดออกง่าย เจ็บ และบางครั้งต่อมนํ้าเหลืองบริเวณขาหนีบจะบวมโต. | พายุฟ้าคะนอง | น. พายุที่มีทั้งฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนัก บางครั้งมีลูกเห็บตกลงมาด้วย. | พิษสุราเรื้อรัง | น. ชื่อโรคชนิดหนึ่ง ซึ่งสมองและประสาทเสื่อมเนื่องจากดื่มสุรามากเป็นเวลานาน มีอาการมือสั่น เดินเซ สติปัญญาเสื่อม บางครั้งชักแบบลมบ้าหมู. | มังกง | น. ชื่อปลาชนิด Mystus gulio (Hamilton) ในวงศ์ Bagridae ไม่มีเกล็ด มีหนวดยาว ๔ คู่ หัวแบนลง ปากอยู่ตํ่าที่ตอนปลายของหัว ครีบหลังตอนที่ ๒ ซึ่งเป็นแผ่นเนื้อมีขนาดเล็ก ลำตัวและครีบมีเพียงพื้นสีนํ้าตาลคลํ้าหรือเทาดำ มีชุกชุมทั่วไปตามแหล่งนํ้าจืดใกล้ทะเล บางครั้งจับได้ในนํ้ากร่อย ขนาดยาวได้ถึง ๒๕ เซนติเมตร, แขยงหนู ก็เรียก. | รำ ๒ | น. การแสดงที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น แขน ขา ลำตัว นิ้ว มือ และเท้า ไปตามลีลาดนตรี ใช้ผู้แสดงตั้งแต่ ๑ คนขึ้นไป มีลีลาและแบบท่ารำสวยงาม เช่น รำแม่บท รำฉุยฉายพราหมณ์, ถ้าเป็นการถืออาวุธประกอบเรียกว่า รำอาวุธ เช่น รำดาบ รำทวน รำกริช, บางครั้งมีการรำเป็นหมู่ก็เรียกว่า รำ เช่น รำโคม รำวง, อาการที่แสดงท่าแสดงท่าคล้ายคลึงเช่นนั้น, ฟ้อน. | โรคระบบประสาท | น. โรคของสมองและไขสันหลัง มิได้เกี่ยวข้องกับจิตใจ เช่น เนื้องอกในสมอง เส้นเลือดในสมองตีบตันหรือแตก โรคเหล่านี้ก่อให้เกิดภาวะวิกลจริตได้ในบางครั้งบางคราว. | ละครเพลง | น. ละครเวทีแบบหนึ่ง ผู้แสดงร้องเพลงดำเนินเรื่องตลอดทั้งเรื่อง ใช้เพลงและดนตรีสากล ไม่มีลูกคู่ จัดฉากและแต่งกายแบบสมัยนิยมตามเนื้อเรื่อง ต้องการเน้นเพลง เช่น จุฬาตรีคูณ บางครั้งนำบทละครเวที เช่น เรื่องราชินีบอด เรื่องเปลวสุริยา มาดัดแปลงเป็นละครเพลง. | ศูนย์หน้า | น. ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งกลางของแถวหน้าในการเล่นฟุตบอลทำหน้าที่ยิงประตูเป็นสำคัญ บางครั้งอาจลงมาช่วยเซนเตอร์ฮาล์ฟซึ่งอยู่ในตำแหน่งกลางของแถวกลางและพาลูกขึ้นไปในแดนฝ่ายตรงข้ามด้วย. | สุขุม | ว. ประณีต, ลึกซึ้ง, รอบคอบ, ไม่วู่วาม, เช่น เขาจะไม่ด่วนตัดสินใจ ก่อนที่จะพิจารณาอย่างสุขุมทั้งทางได้และทางเสีย เขามีปัญญาสุขุม, บางครั้งใช้เข้าคู่กับคำอื่น เช่น สุขุมคัมภีรภาพ สุขุมรอบคอบ สุขุมลึกซึ้ง. | หน้าเฉยตาเฉย, หน้าตาเฉย | ว. อาการที่วางหน้าเป็นปรกติ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทั้ง ๆ ที่ตนกระทำความผิด หรือบางครั้งกระทำความผิดโดยไม่เจตนา เช่น เขาหยิบฉวยของผู้อื่นไปอย่างหน้าเฉยตาเฉย. | หัวแข็ง ๒ | น. ชื่อกุ้งชนิด Exopalaemon styliferus (H. Milne-Edwards) ในวงศ์ Palaemonidae ลำตัวใส หัวมีผิวเกลี้ยงเรียบ ปลายกรีงอนขึ้นมีสีแดง ปลายหางสีแดง อาศัยอยู่ในน้ำตื้น ส่วนใหญ่พบในทะเลหรือน้ำกร่อย บางครั้งพบในน้ำจืด. |
| cooling tower | หอทำความเย็น บางครั้งเรียก water-cooling tower [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕] | equilibrium pressure | ความดันสมดุล บางครั้งใช้ในความหมายของ balance pressure [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕] |
| Spontaneous fission | ฟิชชันเกิดเอง, การแบ่งแยกนิวเคลียสที่เกิดขึ้นโดยไม่มีตัวกระตุ้นจากภายนอก ไอโซโทปของธาตุหนักหลายชนิดสลายตัวในลักษณะนี้เป็นส่วนใหญ่ เช่น แคลิฟอร์เนียม-252 เฟอร์เมียม-257 และ ไอน์สไตน์เนียม-255 วัสดุเกิดฟิชชันได้ทุกชนิดสามารถเกิดกระบวนการนี้ได้เช่นกันเป็นบางครั้ง [นิวเคลียร์] | Nuclear reactor | เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์, อุปกรณ์สำหรับให้ปฏิกิริยาลูกโซ่การแบ่งแยกนิวเคลียสเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและสามารถควบคุมได้ ใช้สำหรับผลิตนิวตรอน หรือพลังงานความร้อน มีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ แกนปฏิกรณ์ ซึ่งบรรจุเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ สารหน่วงความเร็วนิวตรอน สารสะท้อนนิวตรอน สารหล่อเย็น วัสดุกำบังรังสี และระบบควบคุม <br>บางครั้งเรียกว่า เครื่องปฏิกรณ์ปรมาณู (atomic reactor)</br> [นิวเคลียร์] | Mass-energy equation | สมการมวล-พลังงาน, สมการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างมวลกับพลังงาน ของ แอลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ซึ่งอธิบายว่า “มวลของวัตถุก็คือมาตรวัดพลังงานที่มีอยู่ในวัตถุนั้น” ต่อมาได้รับการพิสูจน์ยืนยัน โดยการวัดค่าของมวลและพลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ ดังสมการ <br>E = mc<sup>2</sup></br> <br>เมื่อ E คือ พลังงาน</br> <br>m คือ มวลของวัตถุที่เปลี่ยนเป็นพลังงาน</br> <br>c คือ ความเร็วของแสงในสุญญากาศ</br> <br>สมการนี้บางครั้งเรียกว่า Einstein equation</br> [นิวเคลียร์] | Fissile material | วัสดุฟิสไซล์, วัสดุซึ่งประกอบด้วยธาตุที่นิวเคลียสแบ่งแยกได้โดยนิวตรอนทุกพลังงาน โดยเฉพาะกับ<font color="#8b0000"><em>เทอร์มัลนิวตรอน</em></font> วัสดุฟิสไซล์ที่สำคัญ เช่น พลูโทเนียม-239 ยูเรเนียม-235 และยูเรเนียม-233 วัสดุฟิสไซล์นี้บางครั้งเรียกว่า วัสดุเกิดฟิชชันได้ [นิวเคลียร์] | Marginal Worker | ผู้ที่ทำงานบางครั้งบางคราว, Example: บุคคลที่เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรม ทางเศรษฐกิจเป็นครั้งคราวเท่านั้น [สิ่งแวดล้อม] | Cluster munitions | ระเบิดพวง เป็นลูกระเบิดชนิดที่ปล่อยจากเครื่องบินหรือลูกกระสุน ปืนใหญ่ที่ภายในบรรจุลูกระเบิดขนาดเล็ก (submunition) ไว้จำนวนมาก อาจมีจำนวนถึงหลายร้อยลูก ซึ่งจะระเบิดกลางอากาศและปล่อยลูกระเบิดขนาดเล็ก และสะเก็ดระเบิดกระจายเป็นวงกว้าง มีอัตราความคลาดเคลื่อนผิดพลาดจากเป้าหมายสูงและบางครั้งอาจไม่ระเบิดใน ทันที และตกค้างบนพื้นดิน ซึ่งมีผลทำลายล้างเหมือนกับทุ่นระเบิด [การทูต] | concert of nations | ความปรองดองระหว่างชาติ หลักการและแนวคิดเรื่องความปรองดองระหว่างชาติเกิดขึ้นในยุโรป ระหว่าง พ.ศ. 2357-2358 ซึ่งเรียกว่า Concert of Europe หรือบางครั้งเรียกว่า Concert of Allies โดยการรวมตัวของกลุ่มรัฐพันธมิตรที่ต่อต้านการขยายอำนาจของฝรั่งเศส คือ รัสเซีย ออสเตรีย ปรัสเซีย และอังกฤษ ได้รวมตัวกันเป็นระบบแห่งยุโรป (European system) หรือระบบแห่งมหาอำนาจในยุโรป ซึ่งต่อมาฝรั่งเศสและสเปนได้เข้าร่วมในระบบความปรองดองแห่งยุโรปด้วย นอกจากนี้การเกิดระบบความปรองดองแห่งยุโรปซึ่งมีระบบการประชุมคองเกรส ระหว่างชาติมหาอำนาจเป็นกลไกสำคัญนั้น ยังเป็นการแสดงถึง "มหาอำนาจแห่งปฐมลำดับ" (The powers of the first order) และยังถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการเรียกชื่อที่ระบุคำว่ามหาอำนาจ (The first expression of the idea of the Great Powers) อย่างไรก็ตาม ระบบความปรองดองแห่งยุโรปได้ล่มสลายลงในปี พ.ศ. 2365 [การทูต] | Parliamentary Diplomacy | การทูตแบบรัฐสภา หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ [การทูต] | sanction | การคว่ำบาตร (ในกรอบสหประชาชาติ) " หมายถึง มาตรการลงโทษที่คณะมนตรีความมั่นคง ใช้ต่อประเทศสมาชิกที่มีการกระทำที่ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ รวมทั้งเป็นภัยต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศโดยการจำกัด หรือห้ามประเทศสมาชิกอื่น ๆ ติดต่อในด้านต่าง ๆ (เช่น ด้านการค้า การคมนาคมขนส่ง) อย่างเป็นทางการกับประเทศนั้น ๆ เพื่อบีบบังคับให้มีการปฏิบัติตามข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคง มาตรการห้ามการ ติดต่อเหล่านี้ บางครั้งเรียกว่า ปิดล้อม (embargo) เช่น ปิดล้อมด้านอาวุธ ปิดล้อมด้านการค้า เป็นต้น " [การทูต] | law of combining volumes of gases | กฎการรวมปริมาตรของแก๊ส, กฎที่กล่าวว่า เมื่อแก๊สต่าง ๆ ทำปฏิกิริยากันพอดี ปริมาตรของแก๊สเหล่านั้นกับปริมาตรของแก๊สที่เกิดจากปฏิกิริยา จะเป็นอัตราส่วนของเลขจำนวนเต็มอย่างง่าย บางครั้งเรียกกฎนี้ว่า กฎของเกย์ลุสแซก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | acetylcholine | แอซิติลโคลีน, สารซึ่งหลั่งออกมาจากปลายของใยประสาทบริเวณไซแนปส์ สารนี้ช่วยให้กระแสประสาทผ่านจากเซลล์ประสาทหนึ่งไปสู่อีกเซลล์หนึ่งได้ สารนี้บางครั้งเรียกว่า สารสื่อประสาท [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | power | เลขยกกำลัง, จำนวนจริงที่เขียนอยู่ในรูป xn โดยที่ x เป็นจำนวนจริงใด ๆ ที่ไม่เท่ากับศูนย์ และ n เป็นจำนวนนับใด ๆ ในบางครั้งใช้ในความหมายเดียวกับเลขชี้กำลัง [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | standard electrode [ reference electrode ] | ขั้วไฟฟ้ามาตรฐาน, ขั้วไฟฟ้าที่กำหนดขึ้นให้เป็นมาตรฐานสำหรับเปรียบเทียบหาค่าศักย์ไฟฟ้าของครึ่งเซลล์ต่าง ๆ บางครั้งเรียกว่าขั้วไฟฟ้าอ้างอิง เช่น ขั้วไฟฟ้าไฮโดรเจนมาตรฐาน ขั้วไฟฟ้าคาโลเมลอิ่มตัว เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | bronze | ทองสัมฤทธิ์, โลหะผสมระหว่างทองแดงกับดีบุก ซึ่งอาจมีสัดส่วนต่าง ๆ กัน บางครั้งอาจเติมโลหะอื่นด้วย เช่น สังกะสี ตะกั่ว หรือ นิกเกิล เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | electromagnetic lens | เลนส์แม่เหล็กไฟฟ้า, สนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่ใช้สำหรับโฟกัสลำของอิเล็กตรอน บางครั้งเรียกสั้น ๆ ว่า เลนส์แม่เหล็ก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | ozalid paper | กระดาษโอซาลิด, กระดาษที่ฉาบด้วยสารเคมีที่ไวต่อแสง โดยทั้วไปใช้ในการพิมพ์แบลแปลน บางครั้งเรียกว่า กระดาษแอมโมเนีย [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Metropolitan Area Network( MAN) | เครือข่ายนครหลวง หรือแมน, เครือข่ายที่ใช้เชื่อมโยงแลนที่อยู่ห่างไกลออกไป เช่นการเชื่อมต่อเครือข่ายระหว่างสำนักงานที่อาจอยู่คนละอาคารและมีระยะทางไกลกัน การเชื่อมต่อเครือข่ายชนิดนี้อาจใช้สายไฟเบอร์ออพติก หรือบางครั้งอาจใช้ไมโครเวฟเชื่อมต่อ เครือข่ายแบบนี้ที่ใช้ในสถานศึกษามีชื่อเรียก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Central Processing Unit (CPU) | ซีพียู, ชิปที่ติดตั้งอยู่บนเมนบอร์ด ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นสารกึ่งตัวนำขนาดเล็ก ภายในบรรจุวงจรอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไว้มากมาย โดยวงจรจะประกอบด้วยทรานซิสเตอร์ขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก บางครั้งจึงเรียกชิปต่างๆ ว่า ไอซี ทำหน้าที่ในการประมวลผล และควบคุมการทำงานของคอมพิ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | simplex transmission | การสื่อสารทางเดียว, รูปแบบของการรับ-ส่งข้อมูล โดยข้อมูลสามารถส่งได้ทางเดียวโดยแต่ละฝ่ายจะทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เป็นผู้รับหรือผู้ส่ง บางครั้งเรียกการสื่อสารแบบนี้ว่าการส่งทิศทางเดียว (unidirectional transmission) เช่น การกระจายเสียงของสถานีโทรทัศน์หรือสถานีวิทยุ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | cable modem | เคเบิลโมเด็ม, โมเด็มทำหน้าที่รับและส่งข้อมูลดิจิทัลจากคอมพิวเตอร์ผ่านทางสายเคเบิลทีวี บางครั้งเรียกว่าบรอดแบนด์โมเด็ม สามารถรับและส่งข้อมูลได้สูงเหมือนกับดีเอสแอลโมเด็ม [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | cirrostratus | ซีร์โรสเตรตัส, แผ่นเมฆบาง ๆ มีสีขาวหรือสีน้ำเงินจาง บางครั้งปกคลุมทั่วท้องฟ้าเหมือนม่าน อาจมีวงแสงรอบดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ ประกอบด้วยผลึกน้ำแข็งบาง ๆ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
| บางครั้ง | [bāngkhrang] (adv) EN: sometimes ; occasionally ; on occasion ; maybe FR: quelquefois ; parfois ; à l'occasion ; peut-être | บางครั้งบางคราว | [bāngkhrang-bāngkhrāo] (adv) EN: sometimes ; occasionally ; from time to time FR: quelquefois ; parfois ; de temps en temps ; occasionnellement ; de temps à autre |
| hyperventilate | (vi) หายใจลึก ยาว และเร็วกว่าปกติ บางครั้งทำให้เกิดการวิงเวียนศีรษะ |
| at times | (idm) บางครั้ง, See also: บางคราว | at times | (idm) บางครั้ง | casual | (adj) เป็นบางครั้งบางคราว, Syn. irregular, occasional | casually | (adv) อย่างเป็นบางครั้งบางคราว, Syn. irregularly, occasionally | casualness | (n) ความเป็นบางครั้งบางคราว | every now and again | (idm) เป็นครั้งคราว, See also: บางครั้ง | every now and then | (idm) เป็นครั้งคราว, See also: บางครั้ง | every once in a while | (idm) เป็นครั้งคราว, See also: บางครั้ง | every so often | (idm) บางครั้งบางคราว, See also: บางครั้ง | from time to time | (idm) บางครั้ง, See also: เป็นครั้งคราว | diamond jubilee | (n) การฉลองครบรอบ 60 ปี (บางครั้ง 75 ปี), Syn. diamond anniversary, anniversary | diamond wedding | (n) การฉลองครบรอบ 60 ปี (บางครั้ง 75 ปี), Syn. diamond anniversary, anniversary | espadrille | (n) รองเท้าแตะที่ทำจากผ้าหรือผ้าใบ พื้นล่างของรองเท้าทำจากเชือกถัก บางครั้งก็มีสายผูกรอบข้อเท้า | evening star | (n) ดาวที่มักจะเห็นสว่างอยู่ทางขอบฟ้าด้านตะวันตกในช่วงหลังพระอาทิตย์ตกดิน โดยปกติแล้วจะเป็นดาวศุกร์ แต่บางครั้งก็เป็นดาวพุธ, See also: ดาวประจำเมือง, Syn. Hesperus, Venus | gnomic | (adj) ฉลาดและสุขุม (แต่บางครั้งเข้าใจยาก) | momently | (adv) อย่างชั่วขณะ, See also: บางครั้งบางคราว | now and again | (adv) บางครั้ง, See also: บางคราว | now and then | (adv) บางครั้ง, See also: บางคราว | occasionally | (adv) บางครั้งบางคราว, See also: บางที, บางครั้ง, บางโอกาส, Syn. now and then, at times, Ant. frequently, often | odd | (adj) เกิดขึ้นบางครั้งบางคราว, Syn. occasional, Ant. regular, frequent | off and on | (adv) บางคราว, See also: บางครั้ง, บางโอกาส, บางเวลา, Syn. now and again, now and then | periodic | (adj) บางครั้งบางคราว, See also: ซี่งเป็นช่วงๆ, Syn. rhythmic | sometimes | (adv) บางครั้ง, See also: บางคราว, บางครั้งบางคราว, บางที, บางโอกาส |
| adam strok syndrome | อาการอ่อนเพลียอย่างกระทันหัน บางครั้งเกิดการชัก | ansi c | (แอนซี ซี) หมายถึงข้อกำหนดมาตรฐานสำหรับการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาซี (C language) ที่สถาบันแอนซี (ANSI) เป็นผู้กำหนดไว้ บริษัทที่ผลิตตัวแปลภาษาซี (C compiler) ก็ พยายามที่จะทำทุกอย่างตามมาตรฐานนี้ แต่ก็ได้เพิ่มคุณสมบัติต่าง ๆ เข้าไป เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นไปอีก จนบางครั้งเหมือนกับลืมจุดประสงค์ดั้งเดิมไปเลยดู ANSI ประกอบ | binary | (ไบ'นะรี) adj. เกี่ยวกับหรือมีคู่, เกี่ยวกับ 2, ซ้ำสอง n. 2 คู่, เลขคู่, ระบบฐานสอง หมายถึง ระบบเลขฐานสอง ที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 กับ 1 บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสจะเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น เปิดกับปิด, ใช่กับไม่ใช่ | cold start | เปิดเครื่อง (คอมพิวเตอร์) การเริ่มต้นระบบการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ทั้งหมด โดยเปิดสวิตซ์ที่ตัวเครื่อง การเริ่มต้นเช่นนี้เป็นการเริ่มต้นครั้งแรกหรือเริ่มต้นใหม่เนื่องจากบางครั้ง ขณะที่ใช้อยู่ เกิดข้อผิดพลาดบางประการเกี่ยวกับตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ จนทำให้ไม่สามารถประมวลผลต่อไปได้ จึงต้องใช้วิธีปิดสวิตช์ แล้วเริ่มต้นใหม่ดู warm start เปรียบเทียบ | dry running | การตรวจสอบ (โปรแกรม) นอกเครื่องหมายถึง การตรวจสอบดูชุดคำสั่งในเชิงตรรกะ และการใช้รหัสคำสั่งจากผังงาน (flowchart) และคำสั่งข้อเขียน เพื่อดูว่า ชุดคำสั่งที่เขียนขึ้นถูกต้องหรือไม่ก่อนที่จะนำไปใช้กับคอมพิวเตอร์ อาจใช้ตัวเลขสมมติใส่เข้าไปก็ได้ ในบางครั้ง ใช้คำว่า การไล่สอบบนโต๊ะทำงาน (desk check) | ems | (อีเอ็มเอส) ย่อมาจาก expanded memory specification บางครั้งก็เรียกชื่อเต็มเลยว่า LIM-EMS ย่อมาจากคำว่า Lotus-Intel Microsoft Expanded Memory Specification อีเอ็มเอสนั้นเป็นโปรแกรมที่ขยายตัวประมวลผล 8088 ที่มีหน่วยความจำ 640 K ให้มีเนื้อที่มากขึ้น เพื่อให้มีที่พอบรรจุโปรแกรมโลตัส 1-2-3 ซึ่งเป็นโปรแกรมตารางจัดการ (spreadsheet) ขนาดใหญ่ ลงไปในหน่วยความจำที่มีขนาดเพียง 640 K ได้ ในปัจจุบัน ไม่มีความจำเป็นต้องใช้โปรแกรมอีเอ็มเอสนี้แล้ว เพราะหน่วยความจำของไมโครคอมพิวเตอร์รุ่น ใหม่ ๆ มีขนาดใหญ่กว่าสมัยก่อนมาก | enter key | แป้นป้อนเข้าหมายถึง แป้นที่จะใช้กด เมื่อพิมพ์คำสั่งเสร็จแล้ว และต้องการให้คอมพิวเตอร์เริ่มทำงานตามคำสั่ง ถ้าเป็นโปรแกรมประมวลผลคำ (word processing) แป้นนี้เป็นแป้นสำหรับสั่งให้ขึ้นย่อหน้าใหม่ ในบางครั้งก็เรียกกันว่า Return key และมักเขียนย่อว่า <RET> ในบางโปรแกรม แป้นนี้อาจถูกกำหนดให้ทำอย่างอื่นก็ได้ แป้นพิมพ์ของคอมพิวเตอร์ทุกชนิด ทุกยี่ห้อ จะต้องมีแป้นนี้ | every | (เอฟว'รี) adj. ทุก ๆ , แต่ละ, ทั้งหมด. -Phr. (every now and then บางครั้งบางคราว) -Phr. (every other day วันเว้นวัน), Syn. each, all possible | fanfold paper | หมายถึง กระดาษที่พับไว้อย่างปราณีต เพื่อประโยชน์ใน การใช้ อย่างต่อเนื่อง ในบางครั้ง จะเรียกว่า กระดาษต่อเนื่อง (continuous paper) กระดาษชนิดนี้จะมีรูเจาะไว้ทั้งสองข้าง เพื่อให้ได้เกาะเกี่ยวกับฟันเฟือง ของเครื่องพิมพ์เป็นระยะ ๆ ทำให้การเคลื่อนตัวได้ฉาก และเป็นจังหวะอย่างดี (ไม่บิดเบี้ยว) | hash | (แฮช) n. เนื้อสับหรือเนื้อหั่นที่บางครั้งใส่ผัก, ความยุ่งเหยิง, กัญชา vt. สับเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย, ทำให้ยุ่ง | hypermedia | สื่อหลายมิติมีความหมายเหมือนมัลติมีเดีย (mulltimedia) หรือบางครั้งก็เรียกว่า ไฮเปอร์เทกซ์ (hypertext) ซึ่งก็คือการผสมผสานของข้อความ - ภาพ - เสียง และวีดิทัศน์ (video) ในการเสนอเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความตื่นเต้นเร้าใจ ฯ | intelligent terminal | เครื่องปลายทางฉลาดเครื่องปลายทางเชิงปัญญาหมายถึง เครื่องปลายทางที่เชื่อมต่ออยู่กับเครือข่าย (network) แต่ในบางครั้งสามารถทำงานอย่างอิสระได้ เครื่องปลายทางประเภทนี้ จะต้องมีคุณสมบัติของคอมพิวเตอร์อยู่ด้วย กล่าวคือ ต้องมีหน่วยความจำ หน่วยประมวลผล ฯ เครื่องปลายทางอีกแบบหนึ่ง จะเป็นแบบที่เรียกว่า เครื่องปลายทางธรรมดา (dumb terminal) กล่าวคือ จะทำได้เพียงรับหรือแสดงผลเท่านั้นมีความหมายเหมือน smart terminal ดู dumb terminal เปรียบเทียบ | keyboard buffer | ที่พักข้อมูล (ที่ส่งเข้าไปทางแป้นพิมพ์) หมายถึง เขตพื้นที่ของหน่วยความจำส่วนหนึ่ง ที่แบ่งเอาไว้เพื่อรองรับสัญญาณ ที่จะเกิดขึ้น เมื่อเราพิมพ์สัมผัสเร็วกว่าที่เครื่องจะรับปฏิบัติตามคำสั่งได้ทัน คอมพิวเตอร์ จะนำข้อมูลที่เรากดแป้นพิมพ์แล้ว ไปเก็บไว้ยัง "ที่พักข้อมูล" นี้ก่อน จะเห็นได้ว่า ในบางครั้ง แม้เราจะหยุดพิมพ์แล้ว ที่พักข้อมูลส่วนนี้ก็ยังทะยอยส่งข้อมูลที่เรากดแป้นไว้เข้าไปยังหน่วยความจำมีความหมายเหมือน keystroke buffer | keystroke buffer | หมายถึง เขตพื้นที่ของหน่วยความจำส่วนหนึ่ง ที่แบ่งเอาไว้เพื่อรองรับสัญญาณ ที่จะเกิดขึ้น เมื่อเราพิมพ์สัมผัสเร็วกว่าที่เครื่องจะรับปฏิบัติตามคำสั่งได้ทัน คอมพิวเตอร์ จะนำข้อมูลที่เรากดแป้นพิมพ์แล้ว ไปเก็บไว้ยัง "ที่พักข้อมูล" นี้ก่อน จะเห็นได้ว่า ในบางครั้ง แม้เราจะหยุดพิมพ์แล้ว ที่พักข้อมูลส่วนนี้ก็ยังทะยอยส่งข้อมูลที่เรากดแป้นไว้เข้าไปยังหน่วยความจำมีความหมายเหมือน keyboard buffer | now | (เนา) adv. ขณะนี้, เดี๋ยวนี้, บัดนี้, ปัจจุบัน -Phr. (now and again, now and then บางครั้งบางคราว) conj. ตราบใด, เนื่องจาก. n. เวลาปัจจุบัน, สมัยนี้ | object-oriented programmi | การทำโปรแกรมเชิงวัตถุหมายถึง วิธีการเขียนโปรแกรมของนักเขียนโปรแกรมรุ่นใหม่ ที่จัดแบ่งการเขียนคำสั่งกันออกเป็นชุด ๆ แต่ละชุดเรียกว่า "วัตถุ" (object) แล้วจึงนำเอาชุดคำสั่งแต่ละชุดนั้นมารวมกันเป็นโปรแกรมชุดใหญ่อีกทีหนึ่ง ในบางครั้งยังอาจนำ "วัตถุ" ของโปรแกรม หนึ่งไปรวมกับ "วัตถุ" ของอีกโปรแกรมหนึ่ง แล้วเรียกออกมาใช้ได้เลย ทั้งนี้ทำให้ผู้เขียนโปรแกรมใหม่ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด วิธีการดังกล่าวนี้ช่วยประหยัดเวลาได้มาก พูดให้ง่ายก็คือ ทุกโปรแกรมไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ อนึ่ง คำว่า "วัตถุ" นั้น หมายรวมไปถึงภาพหรือกราฟิกด้วย ภาพหนึ่งภาพ เช่น การสร้างวงกลมนั้น เกิดจากการเขียนโปรแกรมโดยใช้สูตรคำนวณเส้นโค้ง ซึ่งจะประกอบด้วยคำสั่งหลายร้อยคำสั่ง แล้วเก็บไว้เป็น "วัตถุ" หนึ่ง ฉะนั้น เมื่อใดที่เราสั่งวาดวงกลม ก็เท่ากับไปเรียก "วัตถุ" นี้มาใช้ หลังจากนั้น หากเราจะต่อเติมเป็นภาพอื่นต่อไป คอมพิวเตอร์ก็จะไปดึงอีก "วัตถุ" หนึ่งมาทำต่อให้ | occasion | (อะเค'เชิน) n. โอกาส, จังหวะ, กาลสมัย, ฤกษ์, คราว, เหตุผล, เหตุ, ชนวน, ธุรกิจ, งาน vt. ทำให้เกิดขึ้นvt. ทำให้เกิดขึ้น, See also: occasions n., pl. สิ่งจำเป็น. -Phr on occasion เป็นครั้งเป็นคราว, บางครั้งบางคราว, Syn. event, gala | on | (ออน) prep., adv. บน, ที่, ตาม, ณ, ในเวลาที่, ในขณะที่, ในวันที่, เกี่ยวกับ, อยู่ในสถานการณ์, ในเรื่อง, โดย, อาศัย, ทันทีหลังจาก, ไปสู่, ไปทาง, ติดกัน, ประชิด, ประจำ adj. เปิดอยู่, ใช้อยู่, ซึ่งกำลังเกิดขึ้น, ตามแผน, ตามกำหนด n. ความเป็นอยู่, สถานการณ์, ด้านข้าง -Phr. (on and off บางครั้งบางคราวเป็นช่วง ๆ) | oop | (โอโอพี, อุป) ย่อมาจาก object-oriented programming หมายถึง วิธีการเขียนโปรแกรมของนักเขียนโปรแกรมรุ่นใหม่ ที่จัดแบ่งการเขียนคำสั่งกันออกเป็นชุด ๆ แต่ละชุดเรียกว่า "วัตถุ" (object) แล้วจึงนำเอาชุดคำสั่งแต่ละชุดนั้นมารวมกันเป็นโปรแกรมชุดใหญ่อีกทีหนึ่ง ในบางครั้งยังอาจนำ "วัตถุ" ของโปรแกรม หนึ่งไปรวมกับ "วัตถุ" ของอีกโปรแกรมหนึ่ง แล้วเรียกออกมาใช้ได้เลย ทั้งนี้ทำให้ผู้เขียนโปรแกรมใหม่ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด วิธีการดังกล่าวนี้ช่วยประหยัดเวลาได้มาก พูดให้ง่ายก็คือ ทุกโปรแกรมไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ อนึ่ง คำว่า "วัตถุ" นั้น หมายรวมไปถึงภาพหรือกราฟิกด้วย ภาพหนึ่งภาพ เช่น การสร้างวงกลมนั้น เกิดจากการเขียนโปรแกรมโดยใช้สูตรคำนวณเส้นโค้ง ซึ่งจะประกอบด้วยคำสั่งหลายร้อยคำสั่ง แล้วเก็บไว้เป็น "วัตถุ" หนึ่ง ฉะนั้น เมื่อใดที่เราสั่งวาดวงกลม ก็เท่ากับไปเรียก "วัตถุ" นี้มาใช้ หลังจากนั้น หากเราจะต่อเติมเป็นภาพอื่นต่อไป คอมพิวเตอร์ก็จะไปดึงอีก "วัตถุ" หนึ่งมาทำต่อให้ | personal computer | คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลใช้ตัวย่อว่า PC (อ่านว่า พีซี) หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ทำขึ้นไว้ใช้เป็นการเฉพาะหรือส่วนบุคคล ส่วนมากจะหมายถึงไมโครคอมพิวเตอร์ (ก่อนหน้านี้ จะมีขายก็แต่คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่) ซึ่งเน้นในเรื่องของการเคลื่อนย้ายได้สะดวก และมีราคาถูกพอที่จะซื้อหามาใช้เป็นของส่วนตัวได้ ปัจจุบัน มีการผลิตซอฟต์แวร์สำเร็จ (packaged software) สำหรับคอมพิวเตอร์ขนาดนี้กันมาก โปรแกรมเหล่านี้ใช้ง่าย เหมาะกับงานทั่ว ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นงานบ้าน งานส่วนตัว เช่น งานพิมพ์ สมุดบันทึกประจำวัน บัญชีรับจ่าย จึงทำให้พีซีเป็นที่นิยมทั่วไป แต่ในบางครั้งนำมาใช้หมายถึงเฉพาะไมโครคอมพิวเตอร์ไอบีเอ็ม หรือประเภทเทียบเคียงไอบีเอ็ม (IBM compatibles) เพื่อให้เห็นแตกต่างระบบแมคอินทอช | shrub | (ชรับ) n. ต้นไม้ขนาดเล็ก, ต้นไม้เตี้ย ๆ มน้ำผลไม้ใส่น้ำตาล (และบางครั้งใส่เหล้า) | smart terminal | หมายถึง เครื่องปลายทางที่เชื่อมต่ออยู่กับเครือข่าย (network) แต่ในบางครั้งสามารถทำงานอย่างอิสระได้ เครื่องปลายทางประเภทนี้ จะต้องมีคุณสมบัติของคอมพิวเตอร์อยู่ด้วย กล่าวคือ ต้องมีหน่วยความจำ หน่วยประมวลผล ฯ เครื่องปลายทางอีกแบบหนึ่ง จะเป็นแบบที่เรียกว่า เครื่องปลายทางธรรมดา (dumb terminal) กล่าวคือ จะทำได้เพียงรับหรือแสดงผลเท่านั้นมีความหมายเหมือน intelligent terminalดู dumb terminal เปรียบเทียบ | sometime | (ซัม'ไทมฺ) adv. บางครั้ง adv. เมื่อก่อน, แต่ก่อน, อดีต, Syn. occasionally | sometimes | (ซัม'ไทมซ) adv. บางครั้ง, บางคราว, บางโอกาส, บางท' | whiles | (ไวซ) adv. บางครั้ง, บางเวลา conj. ในขณะที่, ระหว่างที่, Syn. in the meantime |
| OFF AND off and on | (adv) บางครั้งบางคราว, เป็นครั้งคราว | periodic | (adj) เป็นบางครั้งบางคราว, เป็นระยะ, เป็นบางคราว, เป็นช่วงๆ, ตามเวลา | periodical | (adj) เป็นบางครั้งบางคราว, เป็นระยะ, เป็นบางคราว, เป็นช่วงๆ, ตามเวลา | periodically | (adv) เป็นบางคราว, เป็นบางครั้งบางคราว, เป็นระยะ, เป็นช่วงๆ | sometime | (adv) บางเวลา, บางที, บางครั้ง, บางโอกาส, บางคราว | sometimes | (adv) บางเวลา, บางที, บางครั้ง, บางโอกาส, บางคราว |
| Anise | เทียนสัตตบุษย์ (เครื่องเทศคล้ายโป๊ยกั๊ก-star anise) บางครั้งเรียก fennel seeds | arm's length transaction | ธุรกรรมระหว่างคู่สัญญาสองฝ่ายที่มีความสัมพันธ์หรือเป็นเครือเดียวกัน แต่ดำเนินธุรกรรมเสมือนไม่ได้มีความเกี่ยวพันกัน ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน หรือบางครั้งอาจหมายถึงธุรกรรมระหว่างคู่สัญญาที่ต่างไม่มีความสัมพันธ์หรือไม่อยู่ในเครือเดียวกัน | avalon | (n) เกาะที่เชื่อว่าเป็นเกาะสวรรค์ทางตะวันตกที่กษัตริย์อาเธอร์ได้ทรงไปประทับอยู่ภายหลังจากการบาดเจ็บสาหัสจากการสู้รบและทรงสวรรคตที่นั่น บางครั้งใช้แสดงความหมายแฝงหมายความว่า เป็นที่พักพิงใจและกายเมื่อมีความทุกข์ระทม island paradise in Celtic mythology: in Celtic mythology, an island paradise in the west. King Arthur is said to have been taken to Avalon after being apparently mortally wounded. (Encarta Wold English Dictionary), Syn. แดนสุขาวดี | caduceus | (n) คทางูไขว้. คือคทาสั้นที่มีงูสองตัวพันกันเป็นเกลียวขึ้นมา บางครั้งก็จะมีปีกอยู่ข้างบนด้วย ผู้ใช้คทางูไขว้คนแรกคือเทพีไอริสผู้เป็นผู้สื่อสารของเทพีเฮรา ต่อมาคทานี้เรียกว่า “คทาเฮอร์มีส” (wand of Hermes) ที่ถือโดยเทพเฮอร์มีสผู้ที่เป็นผู้ถือคทาต่อมาในตำนานเทพหลังจากนั้นเป็นเวลานาน บางครั้งคทางูไขว้ก็ใช้เป็นสัญลักษณ์สำหรับการแพทย์เช่นในประเทศไทยหรือในทวีปอเมริกาเหนือ บางครั้งสัญลักษณ์นี้ก็ใช้สับสนกับสัญลักษณ์สำหรับการแพทย์ในสมัยโบราณซึ่งเป็น[ [ คทางูเดี่ยว ] ] (rod of Asclepius) เท่านั้นที่มีงูเพียงตัวเดียวและไม่มีปีก (wikipedia.org/wiki/Caduceus), See also: rod of Asclepius | caduceus | (n) คทางูไขว้. คือคทาสั้นที่มีงูสองตัวพันกันเป็นเกลียวขึ้นมา บางครั้งก็จะมีปีกอยู่ข้างบนด้วย ผู้ใช้คทางูไขว้คนแรกคือเทพีไอริสผู้เป็นผู้สื่อสารของเทพีเฮรา ต่อมาคทานี้เรียกว่า “คทาเฮอร์มีส” (wand of Hermes) ที่ถือโดยเทพเฮอร์มีสผู้ที่เป็นผู้ถือคทาต่อมาในตำนานเทพหลังจากนั้นเป็นเวลานาน บางครั้งคทางูไขว้ก็ใช้เป็นสัญลักษณ์สำหรับการแพทย์เช่นในประเทศไทยหรือในทวีปอเมริกาเหนือ บางครั้งสัญลักษณ์นี้ก็ใช้สับสนกับสัญลักษณ์สำหรับการแพทย์ในสมัยโบราณซึ่งเป็น[ [ คทางูเดี่ยว ] ] (rod of Asclepius) เท่านั้นที่มีงูเพียงตัวเดียวและไม่มีปีก (wikipedia.org/wiki/Caduceus), See also: rod of Asclepius | oligohydramnios | (n) ถุงน้ำคร่ำแตกตั้งแต่อายุครรภ์อ่อนๆ ทำให้น้ำคร่ำในโพรงมดลูกลดน้อยลง ทารกในครรภ์จะถูกกดทับโดยผนังมดลูกจนทำให้ทารกมีความพิการเกิดขึ้น เช่น เท้าปุก (club foot) บางครั้งทำให้ทารกมีกลุ่มอาการคล้ายกับที่พบใน Potter’s syndrom ซึ่งเรียกกลุ่มอาการดังกล่าวว่า | oligohydramnios | (n) ถุงน้ำคร่ำแตกตั้งแต่อายุครรภ์อ่อนๆ ทำให้น้ำคร่ำในโพรงมดลูกลดน้อยลง ทารกในครรภ์จะถูกกดทับโดยผนังมดลูกจนทำให้ทารกมีความพิการเกิดขึ้น เช่น เท้าปุก (club foot) บางครั้งทำให้ทารกมีกลุ่มอาการคล้ายกับที่พบใน Potter’s syndrom ซึ่งเรียกกลุ่มอาการดังกล่าวว่า oligohydramnios tetrad | Sternomastoid | [สเตอร์โนไคลโดมาสตอยด์] เป็นกล้ามเนื้อที่อยู่ในส่วนนอกของลำคอ ชื่อของกล้ามเนื้อมัดนี้มาจากจุดเกาะทั้งสามจุดของกล้ามเนื้อ ซึ่งได้แก่ กระดูกอก (sternum, sterno- ) กระดูกไหปลาร้า (clavicle, cleido- ) และมาสตอยด์ โพรเซส (mastoid process) ซึ่งเป็นส่วนนูนขนาดใหญ่บนกระดูกขมับ (temporal bone) ในบางครั้งอาจเรียกชื่อกล้ามเนื้อนี้ว่า สเตอร์โนมาสตอยด์ (sternomastoid) กล้ามเนื้อสเตอร์โนไคลโดมาสตอยด์ทำหน้าที่หลักในการหมุนและการงอของศีรษะ นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับกลุ่มของกล้ามเนื้อสคาลีนนัส (scalenus muscles) เพื่อช่วยในการเคลื่อนไหวของช่องอกระหว่างการหายใจ แนวของกล้ามเนื้อนี้ยังใช้ในการแบ่งอาณาบริเวณทางกายวิภาคของลำคอเป็นสองส่วน คือพื้นที่สามเหลี่ยมลำคอด้านหน้า (anterior triangle of neck) และพื้นที่สามเหลี่ยมลำคอด้านหลัง (posterior triangle of neck) | tum | (n) บุคคลที่กำลังศึกษาคณะแพทย์, บุคคลที่นิยมกันดั้ม บางครั้งใช้เรียกคนประเทศเกาหลี, See also: sensei, Apae, Syn. Otaku | turbulent | (adj) 1.ชุลมุนวุ่นวาย บางครั้งมีการใช้ความรุนแรง 2.(ใช้เกี่ยวกับกระแสน้ำและอากาศ) พัดอย่างแรง |
| 〜歳 | [〜さい, ~ sai] (n) ลักษณนามของอายุ เช่น 14歳 14ปีี บางครั้งอาจจะเขียนโดยใช้ตัว 才 แทน |
| 勘弁 | [かんべん, kanben] (n) ยกโทษ ขออภัย ในบางครั้งใช้ในการปฏิเสธคำขอร้อง | 時々 | [ときどき, tokidoki, tokidoki , tokidoki] (adv) บางครั้ง |
| gelegentlich | (adj, adv) บางครั้งบางคราว, ในบางโอกาส เช่น Er raucht gelegentlich, aber ich nie. เขาสูบบุหรี่เป็นบางครั้ง แต่ฉันไม่สูบเลย, Syn. manchmal | abschleppen | (vt) |schleppte ab, hat abgeschleppt| รับ(คน), นำใครกลับบ้าน(โดยหวังจะมีเซ็กส์ด้วย ในภาษาพูดบางครั้ง) | von Zeit zu Zeit | (phrase) เป็นบางครั้งบางคราว |
| |
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |