ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ที่ว่า, -ที่ว่า- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ 毕竟 | [bì jìng, ㄅㄧˋ ㄐㄧㄥˋ, 毕 竟] เป็นคำที่ใช้เน้นความหมายของประโยคที่ว่า ไม่ว่าจะยังไงเหตุการณ์ก็จะไม่เปลี่ยนแปลง |
|
| ที่ว่า | (pron) that | ที่ว่าง | (n) space, See also: blank, gap, margin, Syn. ระยะห่าง, ช่องว่าง, ระยะ, ช่องไฟ | ที่ว่าการ | (n) government office, See also: administrative office, Syn. สำนักงาน, ที่ทำการ, Count Unit: แห่ง, Thai Definition: สถานที่ปฏิบัติราชการ | ที่ว่างเปล่า | (n) vacant, See also: space, unoccupied land, blank land, Syn. ที่ร้าง, ที่รกร้างว่างเปล่า, Count Unit: ที่, แห่ง | ที่ว่าการอำเภอ | (n) district office, Count Unit: แห่ง, Thai Definition: สถานที่ปฏิบัติราชการระดับอำเภอ |
| ที่ว่าการ | น. สถานที่ปฏิบัติราชการระดับอำเภอ เรียกว่า ที่ว่าการอำเภอ. | กรุ ๒ | (กฺรุ) ก. ปิดกันช่องโหว่หรือที่ว่าง เช่น กรุฝาเรือน, รองไว้ข้างล่าง เช่น กรุก้นชะลอม, ปิดกั้น เช่น กรุบ่อ. | กลวง ๒ | (กฺลวง) น. บริเวณ, ที่ว่าง, ท่ามกลาง, เช่น ในกลวงป่าตาลนี๋มีศาลาสองอัน (จารึกสยาม). | กลอนด้น | น. กลอนที่ว่าปากเปล่าโดยไม่เคร่งครัดตามหลักสัมผัส. | กสิณ | (กะสิน) น. สมถกรรมฐานหมวดหนึ่งที่กำหนดอารมณ์โดยอาศัยธาตุ ๔ คือ ปฐวี (ดิน) อาโป (นํ้า) เตโช (ไฟ) วาโย (ลม), วรรณะ (สี) ๔ คือ นีล (สีเขียวคราม) ปีต (สีเหลือง) โลหิต (สีแดง) โอทาต (สีขาว), อากาศ (ที่ว่าง) และ อาโลก (แสงสว่าง) รวมเป็น ๑๐ อย่าง โดยเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งในการกำหนดอารมณ์ให้เหมาะกับจริตของผู้ที่จะเจริญกรรมฐาน. | กั้นซู่รั้วไซมาน | น. เครื่องมือชนิดหนึ่งใช้จับปลา ลักษณะเป็นถุงตาข่ายยาว ใช้หลักขนาดใหญ่ ๒ ต้น ปักห่างกันประมาณ ๖ เมตร เพื่อกางปากถุงไว้ใต้น้ำสำหรับดักปลาที่ว่ายตามกระแสน้ำลง มีไม้จริงขนาดเล็กหรือไม้รวกปักเป็นระยะออกจากปากถุงเป็นปีก ๒ ข้าง ให้ปีกกางเฉียงออกทำมุมประมาณ ๔๕-๙๐ องศา, ซู่กั้นรั้วไซมาน หรือ รั้วไซมาน ก็เรียก. | แกม | ว. ปน เช่น ด้ายแกมไหม คือ ด้ายปนไหม, แต่มีความหมายไปในทางที่ว่า สิ่งที่ปนมีอยู่เป็นส่วนน้อย. | ขุนนางใช่พ่อแม่ หินแง่ใช่ตายาย | ถ้าไม่ใช่ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยายของตน ก็ไม่ควรไว้วางใจใคร, ทำนองเดียวกับภาษิตที่ว่า อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง. | เข้าปิ้ง | ก. อาการที่ว่าวปักเป้าติดสายป่านว่าวจุฬาแล้วกระดิกไม่ไหว | คติชาวบ้าน | น. เรื่องราวของชาวบ้านที่เป็นของเก่าเล่าต่อปากและประพฤติสืบ ๆ กันมาหลายชั่วอายุคนในรูปคติความเชื่อ ประเพณี นิทาน เพลง ภาษิต ปริศนาคำทาย ศิลปะ สถาปัตยกรรม การละเล่นของเด็ก เป็นต้น, วิชาที่ว่าด้วยเรื่องเหล่านั้น. | คลื่นความถี่ | น. คลื่นวิทยุหรือคลื่นแฮรตเซียนซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่ต่ำกว่าสามล้านเมกะเฮิรตซ์ลงมาที่ถูกแพร่กระจายในที่ว่างโดยปราศจากสื่อนำที่ประดิษฐ์ขึ้น. | คำกล่าวโทษ | น. การที่บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ว่ามีบุคคลรู้ตัวหรือไม่ก็ดี ได้กระทำความผิดอย่างหนึ่งขึ้น. | เคมีอนินทรีย์ | (-อะนินซี) น. วิชาเคมีแขนงที่ว่าด้วยการศึกษาเกี่ยวกับธาตุทั้งสิ้นและสารประกอบของธาตุเหล่านั้น ยกเว้นธาตุคาร์บอนซึ่งศึกษาแต่เพียงตัวธาตุคาร์บอน สารประกอบออกไซด์ สารประกอบซัลไฟด์ และโลหะคาร์บอเนตเท่านั้น. | เคมีอินทรีย์ | น. วิชาเคมีแขนงที่ว่าด้วยการศึกษาเกี่ยวกับสารประกอบทั้งสิ้นของธาตุคาร์บอน ยกเว้นเรื่องสารประกอบออกไซด์ สารประกอบซัลไฟด์ และโลหะคาร์บอเนต. | เค้าสนามหลวง | น. สำนักผู้ปกครองบ้านเมือง, ที่ว่าราชการเมือง, คณะผู้ว่าการบ้านเมืองซึ่งประกอบด้วยเจ้าผู้ครองเมืองหรือผู้ครองเมืองข้าหลวงประจำนครหรือเมืองซึ่งต่อมาเรียกว่า ปลัดมณฑลประจำจังหวัด และข้าหลวงผู้ช่วย มีหน้าที่บังคับบัญชารับผิดชอบในกิจการทั่วไปของเมือง, เค้าสนาม ก็ว่า. | โคราช | น. ชื่อเพลงพื้นเมืองอย่างหนึ่งของชาวโคราชที่ว่าแก้กันเป็นทำนองตีฝีปากโต้คารมกันบ้าง เกี้ยวพาราสีกันบ้าง คล้ายเพลงฉ่อย วรรคหนึ่งใช้คำตั้งแต่ ๔ ถึง ๗ คำ ๓ คำกลอนเป็นบทหนึ่ง ความไพเราะอยู่ที่สัมผัสในการเล่นคำเล่นความให้สละสลวย บาทสุดท้ายจะเอื้อนเสียงในเวลาร้อง. | จริยาปิฎก | น. ชื่อคัมภีร์ที่ว่าด้วยการบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้าในชาติที่ล่วงแล้ว รวมอยู่ในขุทกนิกายแห่งสุตตันตปิฎก. | ฉันทลักษณ์ | (ฉันทะลัก) น. ลักษณะแบบแผนคำประพันธ์ประเภทร้อยกรอง, ชื่อตำราไวยากรณ์ตอนที่ว่าด้วยลักษณะของคำประพันธ์. | ช่อง | น. ที่ว่างซึ่งเป็นทางเข้าออกได้ เช่น ช่องเขา ช่องหน้าต่าง ช่องลม, ที่ว่างซึ่งเป็นที่กำหนดเฉพาะ เช่น จอดรถให้ตรงช่อง ช่องซื้อตั๋ว ช่องจ่ายเงิน | ช่องว่าง | น. พื้นที่ว่างในระหว่างที่กั้น เช่น ช่องว่างระหว่างตึก ๒ หลัง | ชักเย่อ | (ชักกะ-) น. ชื่อการเล่นอย่างหนึ่ง โดยแบ่งผู้เล่นออกเป็น ๒ ฝ่าย แต่ละฝ่ายจะมีจำนวนเท่า ๆ กันหรือกำลังพอ ๆ กัน มักใช้เชือกขนาดพอกำรอบ ยาวพอที่จะให้ผู้เล่นทั้ง ๒ ฝ่ายเรียงแถวจับได้ โดยมีที่ว่างระหว่างกลางเหลือไว้ประมาณ ๒ เมตร กลางเชือกคาดด้วยผ้าหรือใช้สีป้ายเป็นเครื่องหมายไว้ วางกึ่งกลางเชือกไว้บนพื้นที่ที่มีเส้นขีดกลางเป็นเส้นแบ่งเขตแดน เมื่อกรรมการให้สัญญาณ ผู้เล่นทั้ง ๒ ฝ่ายต่างก็จะพยายามดึงเชือกให้กึ่งกลางของเชือกเข้ามาในแดนของตน ถ้าฝ่ายใดสามารถดึงกึ่งกลางเชือกเข้ามาในแดนของตนได้ ถือว่าชนะ ตามปรกติจะแข่งกัน ๓ ครั้ง ฝ่ายที่ชนะ ๒ ใน ๓ ครั้งถือว่าชนะเด็ดขาด. | ซู่กั้นรั้วไซมาน | น. เครื่องมือชนิดหนึ่งใช้จับปลา ลักษณะเป็นถุงตาข่ายยาว ใช้หลักขนาดใหญ่ ๒ ต้น ปักห่างกันประมาณ ๖ เมตร เพื่อกางปากถุงไว้ใต้น้ำสำหรับดักปลาที่ว่ายตามกระแสน้ำลง มีไม้จริงขนาดเล็กหรือไม้รวกปักเป็นระยะออกจากปากถุงเป็นปีก ๒ ข้าง ให้ปีกกางเฉียงออกทำมุมประมาณ ๔๕-๙๐ องศา, กั้นซู่รั้วไซมาน หรือ รั้วไซมาน ก็เรียก. | ณ ๒ | (นะ) บ. ใน, ที่, เป็นคำบ่งเวลาหรือสถานที่ว่า ตรงนั้นตรงนี้, เช่น ณ ที่นั้น ณ ห้องประชุม, ถ้าใช้นำหน้าสกุล หมายความว่า แห่ง เช่น ณ อยุธยา ณ เชียงใหม่ ณ นคร. | ด้น | น. เรียกกลอนที่ว่าปากเปล่าโดยไม่เคร่งครัดตามหลักสัมผัส ว่า กลอนด้น | ตรีโกณมิติ | (ตฺรีโกน-) น. คณิตศาสตร์แขนงหนึ่งที่ว่าด้วยฟังก์ชันของตัวแปรจริง ซึ่งแทนขนาดของมุมในรูปสามเหลี่ยม, คณิตศาสตร์แขนงหนึ่งที่ว่าด้วยการใช้ฟังก์ชันของมุมเป็นรากฐานในการศึกษาสมบัติของรูปสามเหลี่ยมหรือรูปอื่นใดที่ทอนลงมาเป็นรูปสามเหลี่ยมได้. | ตรีเอกภาพ, ตรีเอกานุภาพ | น. คติความเชื่อในศาสนาคริสต์ที่ว่าพระบิดา พระบุตร และพระจิต (คาทอลิก) หรือ พระวิญญาณบริสุทธิ์ (โปรเตสแตนต์) เป็น ๓ บุคคลที่รวมเป็นหนึ่ง ซึ่งความจริงก็คือพระเป็นเจ้าองค์เดียวกันนั่นเอง. | ตะลุมพุก ๒ | น. ชื่อปลาทะเลขนาดกลางชนิด Tenualosa toli (Valenciennes) ในวงศ์ Clupeidae ที่ว่ายเข้านํ้าจืดเพื่อสืบพันธุ์ ลำตัวยาวรี แบนข้างมาก ครีบหางเป็นแฉกลึก ท้องเป็นสันแหลม เกล็ดใหญ่ ขอบเรียบ เกล็ดที่สันท้องเป็นเหลี่ยมคม เรียงต่อกันคล้ายฟันเลื่อย พื้นลำตัวสีเงิน หลังสีนํ้าเงินอมเทา ขนาดยาวได้ถึง ๕๐ เซนติเมตร, กระลุมพุก หรือ ชิขัก ก็เรียก. | ตำรา | น. แบบแผนที่ว่าด้วยหลักวิชาต่าง ๆ, ตำรับตำรา ก็ว่า. | ติดลม | ก. อาการที่ว่าวขึ้นไปสูงได้ลมพยุงให้ทรงตัวอยู่ | ตูหนา | น. ชื่อปลาไหลนํ้าจืดชนิด Anguilla bicolor (Richardson) ในวงศ์ Anguillidae ที่ว่ายลงทะเลเพื่อขยายพันธุ์ ลำตัวกลมยาว แบนข้างทางท่อนหาง มีครีบอก เกล็ดเล็กฝังแน่นอยู่ในหนัง ลำตัวและครีบสีนํ้าตาลหรือเกือบดำเสมอกัน พบทางเขตภาคใต้ด้านทะเลอันดามัน ขนาดยาวได้ถึง ๑.๕ เมตร. | เต็ม | ว. มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งบรรจุอยู่จนไม่มีที่ว่าง, ไม่พร่อง, เช่น นํ้าเต็มโอ่ง คนเต็ม | ทนายความ | น. ผู้ซึ่งกฎหมายให้มีอำนาจหน้าที่ว่าต่างแก้ต่างแทนคู่ความในคดี, เรียกสั้น ๆ ว่า ทนาย | ธาตุ ๑, ธาตุ- | (ทาด, ทาตุ-) น. สิ่งที่ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่คุมกันเป็นร่างของสิ่งทั้งหลาย โดยทั่ว ๆ ไปเชื่อว่ามี ๔ ธาตุ ได้แก่ ธาตุดิน (ปฐวีธาตุ) ธาตุนํ้า (อาโปธาตุ) ธาตุไฟ (เตโชธาตุ) ธาตุลม (วาโยธาตุ) แต่ในทางพระพุทธศาสนาถือว่าสิ่งที่มีชีวิตเพิ่มอีก ๒ ธาตุ คือ อากาศธาตุ (ที่ว่าง) และวิญญาณธาตุ (ธาตุรู้). | นิติวิทยาศาสตร์ | น. วิชาที่ว่าด้วยการนำหลักวิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ มาประยุกต์เพื่อแก้ปัญหาทางกฎหมาย และการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีความ. | นิติเวชศาสตร์ | น. วิชาที่ว่าด้วยการใช้หลักทางการแพทย์ช่วยแก้ปัญหาทางกฎหมาย และการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีความ. | นิยัตินิยม | (นิยัดติ-) น. ลัทธิความเชื่อที่ว่า การกระทำทุกอย่างของมนุษย์หรือเหตุการณ์ทั้งหลายได้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว. | แน่น | ว. อาการที่แออัดยัดเยียดหรือเบียดเสียดจนแทบไม่มีที่ว่าง เช่น คนแน่น ต้นไม้ขึ้นแน่น, อยู่กับที่หรือทำให้อยู่กับที่อย่างมั่นคงไม่ให้หลุดไม่ให้คลอน เช่น เกาะแน่น ปักเสาแน่น, ลักษณะของเสียงดังแบบหนึ่งที่เนื่องมาจากมีการอัดแน่นเป็นพิเศษอย่างเสียงพลุเสียงระเบิด. | บรรณารักษศาสตร์ | (บันนารักสะสาด, บันนารักสาด) น. วิชาที่ว่าด้วยการบริหารห้องสมุด. | บ้อ, บ้อหุ้น | น. ชื่อการพนันชนิดหนึ่ง เขียนตารางสี่เหลี่ยมหรือวงกลมลงบนพื้น มีผู้เล่น ๒ ฝ่าย แต่ละฝ่ายออกสตางค์ฝ่ายละ ๒-๓ อัน เอามารวมกัน ฝ่ายหนึ่งจะเป็นผู้โยนสตางค์ทั้งหมดลงในตารางหรือวงกลมนั้นให้กระจาย อีกฝ่ายหนึ่งจะชี้สตางค์อันใดอันหนึ่งให้ฝ่ายโยน ฝ่ายโยนจะต้องใช้สตางค์อีกอันหนึ่ง เรียกว่า “อีตัว” โยนลงให้ประกบสตางค์อันที่เขาชี้ให้ ถ้าโยนลงไปประกบได้ ก็เป็นฝ่ายชนะ ได้สตางค์ทั้งหมด ถ้าโยนถูกสตางค์อันอื่น ก็เป็นฝ่ายแพ้ ต้องเสียสตางค์ทั้งหมดให้ฝ่ายชี้ แต่ถ้าฝ่ายโยนไม่มั่นใจว่าจะโยนอีตัวไปประกบได้ ก็อาจโยนอีตัวลงไปในที่ว่าง เรียกว่า “อู้ไว้” หมายความว่า กินไม่ได้ แล้วอีกฝ่ายหนึ่งก็จะเป็นผู้โยนบ้าง ฝ่ายที่โยนก่อนก็เปลี่ยนมาเป็นผู้ชี้บ้าง. | ปรสิตวิทยา | (ปะระสิดตะวิดทะยา, ปะระสิดวิดทะยา) น. วิชาที่ว่าด้วยพยาธิ. | ประทานบัตร | ใบอนุญาตซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดออกให้แก่บุคคลผู้ประมูลได้ ให้มีสิทธิทำการประมงในที่ว่าประมูล. | ปากปลา | น. ส่วนหัวของสำเภาที่ว่างอยู่ ไม่ได้อุดกระดาน. | เปรต, เปรต- | (เปฺรด, เปฺรดตะ-) น. สัตว์พวกหนึ่งเกิดในอบายภูมิ คือ แดนทุกข์, ผีเลวจำพวกหนึ่ง มีหลายชนิด ชนิดหนึ่งตามที่ว่ากันว่ามีรูปร่างสูงโย่งเย่งเท่าต้นตาล ผมยาวหย็อกหย็อย คอยาว ผอมโซ มีปากเท่ารูเข็ม มือเท่าใบตาล กินแต่เลือดและหนองเป็นอาหาร มักร้องเสียงดังวี้ด ๆ ในตอนกลางคืน | เภสัชกรรม | (เพสัดชะกำ) น. วิทยาศาสตร์แขนงที่ว่าด้วยการเตรียมเครื่องยา ตัวยาจากธรรมชาติหรือการสังเคราะห์ให้เป็นยาสำเร็จรูป. | เภสัชเคมี | (เพสัด-) น. วิทยาศาสตร์แขนงที่ว่าด้วยการเตรียม การสังเคราะห์ การวิเคราะห์ และการทำสารเคมีที่ใช้เป็นยาให้ได้มาตรฐาน. | เภสัชพฤกษศาสตร์ | (เพสัดชะพฺรึกสะสาด) น. วิทยาศาสตร์แขนงที่ว่าด้วยพืชที่ใช้เป็นยา. | เภสัชวิทยา | (เพสัดชะวิดทะยา, เพสัดวิดทะยา) น. วิทยาศาสตร์แขนงที่ว่าด้วยฤทธิ์ของยาหรือของสารที่มีต่อสิ่งมีชีวิต. | เภสัชเวท | (เพสัดชะเวด) น. วิทยาศาสตร์แขนงที่ว่าด้วยยาที่ได้จากพืช สัตว์ และแร่ธาตุโดยตรง หรือสารที่เกิดจากสิ่งเหล่านั้น, วิทยาศาสตร์แขนงที่ว่าด้วยสมุนไพร. | เภสัชอุตสาหกรรม | (เพสัดอุดสาหะกำ) น. วิทยาศาสตร์แขนงที่ว่าด้วยการเตรียมยาระดับอุตสาหกรรม. | มุม | น. จุดที่เส้น ๒ เส้นมาบรรจบกัน เช่น เดินชนมุมโต๊ะ, เนื้อที่ตรงด้านยาวกับด้านสกัดมาบรรจบกัน เช่น วางตู้ไว้ที่มุมห้อง, ที่ว่างซึ่งเกิดจากเส้นตรง ๒ เส้น แยกออกจากกัน โดยปลายข้างหนึ่งของแต่ละเส้นอยู่ร่วมจุดเดียวกัน เช่น มุมฉาก มุมแหลม, โดยปริยายหมายถึงสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ถูกต้อนเข้ามุม จนมุม. |
| rebus sic stantibus (L.) | หลักที่ว่าพันธกรณีตามสนธิสัญญายังคงอยู่เมื่อสถานการณ์ยังคงเดิม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | spatial | ๑. -ช่อง, -โพรง, -ห้อง, -แอ่ง๒. -ห้วง, -ระยะที่ว่าง๓. -อวกาศ๔. -ปริภูมิ, -บริเวณ, -พื้นที่ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | space | ๑. ช่อง, โพรง, ห้อง, แอ่ง๒. ห้วง, ระยะที่ว่าง๓. อวกาศ๔. ปริภูมิ, บริเวณ, พื้นที่ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | space | ที่ว่าง [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | blank | ๑. หน้าว่าง๒. ตัวว่าง๓. พื้นที่ว่าง๔. ว่าง [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | blank | ๑. หน้าว่าง๒. ตัวว่าง๓. พื้นที่ว่าง๔. ว่าง [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | freespace | ที่ว่าง, สุญเขต [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | freespace loss | การสูญเสีย(สัญญาณ)ในที่ว่าง, การสูญเสีย(สัญญาณ)ในสุญเขต [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
| Space (Architecture) | ที่ว่าง (สถาปัตยกรรม) [TU Subject Heading] | Space (Art) | ที่ว่าง (ศิลป์) [TU Subject Heading] | Unused Land | ที่ว่าง, Example: พื้นที่อันปราศจากหลังคาหรือสิ่งปลูกสร้างปก คลุม เช่น บ่อน้ำ สระว่ายน้ำ หรือที่จอดรถ และให้หมายความรวมถึง พื้นที่ของสิ่งก่อสร้างหรืออาคารที่สูงระดับพื้นดินไม่เกิน 1.20 เมตร และไม่มีหลังคาหรือสิ่ง ก่อสร้างปกคลุมเหนือระดับนั้น [สิ่งแวดล้อม] | Public Poperty | ที่ว่าง, Example: พื้นที่อันปราศจากหลังคาหรือสิ่งปลูกสร้างปก คลุม เช่น บ่อน้ำ สระว่ายน้ำ หรือที่จอดรถ และให้หมายความรวมถึง พื้นที่ของสิ่งก่อสร้างหรืออาคารที่สูงระดับพื้นดินไม่เกิน 1.20 เมตร และไม่มีหลังคาหรือสิ่งก่อสร้างปกคลุมเหนือระดับนั้น [สิ่งแวดล้อม] | Nekton | สิ่งมีชีวิตที่ว่ายน้ำเป็นอิสระ, Example: สัตว์น้ำที่สามารถว่ายน้ำด้วยกำลังของตนเองตาม หรือทวนกระแสน้ำได้ ส่วนใหญ่เป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังในทะเล ได้แก่ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม พวกโลมา ปลาวาฬ สัตว์เลื้อยคลาน พวกงู และเต่าทะเล และสัตว์ในทะเล ส่วนใหญ่ คือ ปลา นอกจากนี้ หมึกซึ่งเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังทีสามารถว่ายน้ำก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ด้วย [สิ่งแวดล้อม] | Consul | ข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งอย่างถูกต้องและได้รับ มอบหมายให้ไปประจำยังต่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประเทศทั้งในด้าน พาณิชย์ การเดินเรือ คุ้มครองความเป็นอยู่อันดีของพลเมืองของประเทศตน พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่บางอย่างด้านธุรการ หรือวางระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ ตลอดจนด้านการเป็นสักขีพยานการลงนามในเอกสาร เพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทางกฎหมาย (Notary) การให้การตรวจลงตรา รวมทั้งการรับรองเอกสารที่แท้จริง (มิใช่เอกสารปลอม) และจัดการการสัตย์สาบานตนหรืออีกนัยหนึ่ง ภาระหน้าที่ของกงสุลอาจแบ่งออกได้เป็น 5 ประการ ดังต่อไปนี้1 ทำหน้าที่ส่งเสริมผลประโยชน์ในทางพาณิชย์ของประเทศที่ตนเป็นผู้แทนอยู่2 ควบคุมดูแลผลประโยชน์ด้านการเดินเรือ3 คุ้มครองผลประโยชน์ของคนชาติของประเทศที่แต่งตั้งให้ตนไปประจำอยู่4 ทำหน้าที่สักขีพยานในการลงนามในเอกสารเพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทาง กฎหมาย5 ทำหน้าที่ธุรการเบ็ดเตล็ดอื่นๆ หรือระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ เช่น การออกหนังสือเดินทาง การให้การตรวจลงตรา (Visas) การจดทะเบียนคนเกิด คนตาย ฯลฯอนุสัญญากรุงเวียนนา ภาคที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลข้อที่ 5 ได้กำหนดภาระหน้าที่ของฝ่ายกงสุลไว้ดังต่อไปนี้ ก. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่ง และของคนในชาติของรัฐผู้ส่ง ทั้งเอกชนและบรรษัทในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาตข. เพิ่มพูนการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านการพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาการ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกันในทางอื่น ตามบทแห่งอนุสัญญานี้ค. สืบเสาะให้แน่โดยวิถีทางทั้งปวงอันชอบด้วยกฎหมายถึงภาวะและความคลี่คลายใน ทางพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและวิทยาการของรัฐผู้รับ แล้วรายงานผลของการนั้นไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่ง และให้ข้อสนเทศแก่บุคคลที่สนใจง. ออกหนังสือเดินทางและเอกสารการเดินทางให้แก่คนในชาติของรัฐผู้ส่ง ตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือออกเอกสารที่เหมาะสมให้แก่บุคคลที่ประสงค์จะเดินทางไปยังรัฐผู้ส่งจ. ช่วยเหลือคนในชาติของรัฐผู้ส่งทั้งเอกชนและบรรษัทฉ. ทำหน้าที่นิติกรและนายทะเบียนราษฎร์ และในฐานะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ปฏิบัติการหน้าที่บางประการอันมีสภาพทางธุรการ หากว่าการหน้าที่นั้นไม่ขัดกับกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับช. พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของผู้เยาว์ และบุคคลไร้ความสามารถ ซึ่งเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง ภายในขีดจำกัดที่ได้ตั้งบังคับไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ โดยเฉพาะในกรณีที่จำเป็นต้องมีความปกครองหรือภาวะทรัสตีใดๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลเหล่านั้นฌ. แทนคนชาติของรัฐผู้ส่ง หรือจัดให้มีการแทนอย่างเหมาะสมในองค์กรตุลาการ และต่อเจ้าหน้าที่ที่อื่นของรัฐผู้รับ เพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้ได้มา ซึ่งมาตรการชั่วคราวสำหรับการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของคนในชาติเหล่านี้ ไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ ในกรณีที่คนในชาติเหล่านี้ไม่สามารถเข้าทำการป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของ ตนในเวลาอันเหมาะสมได้ เพราะเหตุของการไม่อยู่หรือเหตุอื่นใด ทั้งนี้ ให้อยู่ภายในข้อบังคับแห่งทางปฏิบัติ และวิธีดำเนินการซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับญ. ส่งเอกสารทางศาล หรือเอกสารที่มิใช่ทางศาล หรือปฏิบัติตาม หนังสือของศาลของรัฐผู้ส่งที่ขอให้สืบประเด็น หรือตามการมอบหมายให้สืบพยานให้แก่ศาลของรัฐผู้ส่งนั้น ตามความตกลงระหว่างประเทศที่ใช้บังคับอยู่ หรือเมื่อไม่มีความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่านั้น โดยทำนองอื่นใดที่ต้องด้วยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับด. ใช้สิทธิควบคุมดูแลและตรวจพินิจตามที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของ รัฐผู้ส่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับเรือที่มีสัญชาติของของรัฐผู้ส่ง หรืออากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐนั้น รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับลูกเรือของเรือและอากาศยานดังกล่าวต. ให้ความช่วยเหลือแก่เรือและอากาศยานที่ระบุไว้ในอนุวรรค (ด) ของข้อนี้ รวมทั้งลูกเรือของเรือและอากาศยานนั้น บันทึกถ้อยคำเกี่ยวกับการเดินทางของเรือ ตรวจดูและประทับตรากระดาษเอกสารของเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใด ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในระหว่างนายเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใดๆ ที่ได้เกิดขั้นในระหว่างนายเรือ เจ้าพนักงาน และกะลาสี ตราบเท่าที่การนี้อาจได้อนุมัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง ทั้งนี้ จะต้องไม่เป็นการเสื่อมเสียแก่อำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับถ. ปฏิบัติการหน้าที่อื่นใดที่รัฐผู้ส่งมอบหมายแก่สถานีทำการทางกงสุล ซึ่งมิได้ต้องห้ามโดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ หรือซึ่งไม่มีการแสดงข้อคัดค้านโดยรัฐผู้รับ หรือซึ่งมีอ้างถึงไว้ในความตกลงระหว่างประเทศ ที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับ [การทูต] | Consular office Declared ?Non grata? | เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลจะถูกประกาศว่าไม่พึงปรารถนา หรือไม่พึงโปรดได้ ดังข้อ 23 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติไว้ด้วยข้อความดังนี้?1. รัฐผู้รับอาจบอกกล่าวแก่รัฐผู้ส่งในเวลาใดก็ได้ว่าพนักงานฝ่ายกงสุลเป็น บุคคลที่ไม่พึงโปรด หรือบุคคลอื่นใดในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลเป็นที่ไม่พึงยอมรับได้ ในกรณีนั้นรัฐผู้ส่งจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นกลับ หรือเลิกการหน้าที่ของผู้นั้นต่อสถานที่ทำการทางกงสุล แล้วแต่กรณี2. ถ้ารัฐผู้ส่งปฏิเสธหรือไม่นำพาภายในเวลาอันสมควรที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีของ ตนตามวรรค 1 ของข้อนี้ รัฐผู้รับอาจเพิกถอนอนุมัติบัตรจากบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น หรือเลิกถือว่าบุคคลนั้นเป็นบุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลก็ได้ แล้วแต่กรณี3. รัฐผู้รับอาจประกาศว่า บุคคลหนึ่งบุคคลใดซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล เป็นผู้ที่ไม่อาจยอมรับได้ ก่อนที่บุคคลนั้นจะมาถึงอาณาเขตของรัฐผู้รับ หรืออยู่ในรัฐผู้รับแล้ว แต่ก่อนเข้ารับหน้าของตนต่อสถานที่ทำการทางกงสุลก็ได้ ในกรณีใด ๆ เช่นว่านั้น รัฐผู้ส่งจะเพิกถอนการแต่งตั้งบุคคลนั้น4. ในกรณีที่ได้บ่งไว้ในวรรค 1 และ 3 ของข้อนี้ รัฐผู้รับไม่มีพันธะที่จะต้องให้เหตุผลในการวินิจฉัยของตนแก่รัฐผู้ส่ง?การ ที่รัฐผู้รับปฏิเสธที่จะออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตรหลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วนั้น เป็นสิทธิของรัฐผู้รับอันจะถูกโต้แย้งมิได้ ประเด็นที่เป็นปัญหาก็คือ รัฐผู้รับมีพันธะที่จะต้องอธิบายเหตุผลอย่างใดหรือไม่ ในการที่ปฏิเสธไม่ยอมออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตร หลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วข้อนี้ น้ำหนักของผู้ทรงอำนาจหน้าที่ดูแลจะเห็นคล้อยตามทรรศนะที่ว่า รัฐผู้รับไม่จำเป็นต้องแสดงเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้นในการกระทำดังกล่าวเหตุผลของการไม่ยอมออกอนุมัติบัตรให้นั้นคือว่า ผู้ที่ไม่เห็นด้วย หรือไปแสดงสุนทรพจน์อันมีข้อความเป็นที่เสื่อมเสียแก่รัฐผู้รับ หรือเคยมีส่วนร่วมในการก่อการกบฏต่อรัฐผู้รับหรือเข้าไปแทรกแซงกิจการการ เมืองภายในของรัฐผู้รับ เป็นต้น [การทูต] | Diplomatic Expressions | ถ้อยคำสำนวนที่ใช้ในวงการทูต กล่าวคือ ในวงการทูตจะมีการนิยมใช้ถ้อยคำสำนวนการทูต ถือกันว่าเป็นภาษาที่สุภาพ ซึ่งจะมีความหมายลึกซื้งเพียงใดนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะทราบกันดี อาทิเช่น?My Government views with concern หรือ with grave concern? จะแสดงถึงท่าทีที่ไม่เห็นด้วย หรือแสดงการประท้วง?My Government cannot remain indifferent to the matter? จะส่อถึงเจตนาที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปส่วนถ้อยคำสำนวนที่ว่า ?In such event my Government would feel bound to reconsider its position หรือ to consider its own interest??My Government will have to claim a free hand? หรือ ?feel obliged to formulate express reservations regarding?เหล่านี้เป็นถ้อยคำสำนวนที่เตือนให้ทราบว่า อาจเกิดการแตกร้าว หรือตัดขาดในพันธไมตรีที่มีต่อกันได้เมื่อรัฐบาลหนึ่งประกาศถือว่าการกระทำ ของอีกรัฐบาลหนึ่งเป็น ?an unfriendly act? หรือการกระทำที่ไม่เป็นมิตรเช่นนี้ ย่อมหมายถึงการเตือนให้ทราบว่า การกระทำเช่นนั้นอาจนำไปสู่สงครามได้ถ้าหากในตอนเสร็จสิ้นการประชุมกันมีการ แถลงการณ์หรือโฆษกของที่ประชุมแจ้งให้ทราบว่า ที่ประชุมได้ทำความตกลงกันโดยสมบูรณ์ (Full agreement) แต่ไม่มีการเปิดเผยให้ทราบว่ามีการตกลงอะไรกันบ้าง จะทำให้เป็นที่สงสัยกันว่าได้มีการตกลงกันโดยสมบูรณ์จริงละหรือ ถ้าหากคำประกาศนั้นใช้ถ้อยคำว่า มี ?substantial agreement? ก็พอจะอนุมานได้ว่าแท้ที่จริงยังมีเรื่องสำคัญ ๆ ที่ยังตกลงกันไม่ได้อีกบางเรื่อง อนึ่ง หากว่ามีการแถลงว่า ?there was a full exchange of views? ก็เท่ากับพูดว่า มิได้มีการตกลงกันแต่อย่างใดทั้งสิ้น [การทูต] | Extradition | การส่งผู้ร้ายข้ามแดน การที่ชาติหนึ่งยอมส่งคนในชาติของตนให้แก่อีกชาติหนึ่ง คือคนในชาติที่ถูกกล่าวหา หรือต้องโทษฐานกระทำความผิดภายนอกเขตแดนของตน และเป็นความผิดที่กระทำขึ้นในเขตอำนาจของอีกชาติหนึ่ง ซึ่งมีความสามารถที่จะตัดสินคดี รวมทั้งลงโทษบุคคลที่ถูกกล่าวหานั้นข้ออ้างว่า ในกรณีที่ชนชาติหนึ่งซึ่งถูกกล่าวหาว่าประกอบอาชญากรรมแล้วหลบหนีไปยังต่าง ประเทศนั้น รัฐของผู้ที่ประกอบอาชญากรรมมีสิทธิที่จะขอให้ต่างประเทศนั้นส่งตัวผู้กระทำ ผิดกลับคืนมา เพื่อส่งตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาลงโทษได้ แต่หลายคนยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ในข้อนี้ มีไม่น้อยที่สนับสนุนหลักการที่ว่า กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองหน้าที่ที่จะต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดน กล่าวคือ นอกจากสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่มีต่อกันแล้ว กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองสิทธิที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กัน อย่างไรก็ดี ตามสนธิสัญญาที่มีต่อกัน ผู้ร้ายที่หนีความยุติธรรมจะถูกส่งไปให้อีกประเทศหนึ่งตามสนธิสัญญานั้น จักกระทำโดยวิถีทางการทูต ส่วนผู้หลบหนีเจ้าหน้าที่เพราะเหตุผลทางการเมือง จะส่งข้ามแดนอย่างผู้ร้ายไม่ได้ และเมื่อหลบหนีไปยังอีกประเทศหนึ่งได้สำเร็จ ประเทศนั้นๆ มักจะให้อาศัยพักพิงในประเทศของตนเป็นในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง [การทูต] | Exercise of Consular Functions in a Third State | การปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลในรัฐที่สาม (A Third State) ในเรื่องนี้ข้อ 7 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้ระบุว่า?เมื่อได้บอกกล่าวให้รัฐที่เกี่ยวข้องทราบ แล้ว รัฐูผู้ส่งอาจมอบหมายให้สถานีที่ทำการทางกงสุลที่ได้ตั้งอยู่ในรัฐหนึ่งโดย เฉพาะปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลในอีกรัฐหนึ่งได้ นอกจากจะมีการคัดค้านอย่างชัดเจนโดยรัฐหนึ่งในบรรดารัฐที่เกี่ยวข้อง?นอกจาก นี้ สถานที่ทำการทางกงสุลยังอาจปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลแทนรัฐที่สามได้ เรื่องนี้ข้อ 8 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้กำหนดว่า เมื่อบอกกล่าวอย่างเหมาะสมแก่รัฐผู้รับแล้ว สถานที่ทำการทางกงสุลของรัฐผู้ส่งอาจปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลในรัฐผู้รับ แทนรัฐที่สามได้ นอกจากรัฐผู้รับนั้นจะคัดค้าน และพนักงานฝ่ายกงสุลอาจปฏิบัติการหน้าที่ของตนนอกเขตกงสุลได้ในพฤติการณ์ พิเศษ และด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ ทั้งนี้เป็นไปตามข้อ 6 แห่งอนุสัญญากรุงเวียนนา อย่างไรก็ดี ยังไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ที่จะให้พนักงานฝ่ายกงสุลปฏิบัติการหน้าที่ทาง กงสุลนอกเขตกงสุล ฝ่ายที่เห็นด้วยว่าควรปฏิบัติการนอกเขตกงสุลได้ อ้างว่า การใช้เอกสิทธิ์เช่นนั้นเป็นการชอบแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า อาจจะมีภาวะฉุกเฉินเกิดขึ้นในสถานที่นอกเขตกงสุล ซึ่งเป็นความจำเป็นที่พนักงานฝ่ายกงสุลจะได้ให้บริการในทันที่ที่มีการแจ้ง โดยกะทันหัน [การทูต] | Freedom of Communication | เสรีภาพในการติดต่อและสื่อสาร ถือเป็นสิทธิทางกฎหมาย (ไม่ใช่เพียงเอกสิทธิ์เท่านั้น) ที่สำคัญอันหนึ่งของนักการทูตย่อมจะเห็นได้ชัดว่า คณะทูต จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างพึงพอใจ นอกจากจะมีอิสระอย่างสมบูรณ์ในการที่จะมีหนังสือหรือวิถีทางอื่นๆ เพื่อติดต่อกับรัฐบาลของตน หรือจะส่งและรับจดหมาย หรือหนังสือต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ถือสารพิเศษ หรือโดยถุงทางการทูต (Diplomatic pouch) สำหรับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติไว้ในข้อ 27 ดังนี้?1. ให้รัฐผู้รับอนุญาตและคุ้มครองการสื่อสารโดยเสรีในส่วนของคณะผู้แทน เพื่อความมุ่งประสงค์ในทางการทั้งมวลเพื่อการติดต่อกับรัฐบาล และกับคณะผู้แทนและสถานกงสุลอื่นของรัฐผู้ส่ง ไม่ว่าตั้งอยู่ ณ ที่ใด คณะผู้แทนอาจใช้วิถีทางที่เหมาะสมทั้งมวลได้ รวมทั้งผู้ถือสารทางการทูต และสารเป็นรหัสหรือประมวล อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนอาจติดตั้งและใช้เครื่องส่งวิทยุได้ด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ เท่านั้น 2. หนังสือโต้ตอบทางการของคณะผู้แทนจะถูกละเมิดมิได้ หนังสือโต้ตอบทางการ หมายถึง หนังสือโต้ตอบทั้งมวลที่เกี่ยวกับคณะผู้แทนและภารกิจหน้าที่ของคณะผู้แทน 3. ถุงทางการทูต (Diplomatic Pouch) จะไม่ถูกเปิดหรือถูกกักไว้ 4. หีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางการทูต จะต้องมีเครื่องหมายภายนอกที่เห็นได้ชัดเจน สามารถแสดงลักษณะของถุงทางการทูต ซึ่งอาจบรรจุเพียงเอกสารหรือสิ่งของทางการทูตที่เจตนาเพื่อใช้ในทางการเท่า นั้น 5. ผู้ถือสารทางการทูต (Diplomatic courrier) จะได้รับเอกสารทางการแสดงสถานภาพของตน และจำนวนหีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางทูตนั้น ให้ได้รับความคุ้มครองจากรัฐผู้รับ ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ของตน ให้ผู้ถือสารทางการทูตได้อุปโภคความละเมิดมิได้ ส่วนบุคคลจะต้องไม่ถูกจับกุมหรือกักขังในรูปใด 6. รัฐผู้ส่งหรือคณะผู้แทนอาจแต่งตั้งผู้ถือสารทางการทูตเฉพาะกรณีได้ ในกรณีที่ว่านี้ให้นำบทแห่งวรรค 5 ของข้อนี้มาใช้ด้วย เว้นแต่ว่าความคุ้มกันที่กล่าวไว้ในวรรคนั้นให้ยุติไม่ใช้ เมื่อผู้ถือสารนี้ได้ส่งถุงทางการทูตในหน้าที่ของตนให้แก่ผู้รับแล้ว 7. ถุงทางการทูตอาจจะมอบหมายไว้แก่ผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งได้มีพิกัดจะลง ณ ท่าเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาตแล้วได้ ให้ผู้บังคับบัญชาของเครื่องบินพาณิชย์รับเอกสารทางการแสดงจำนวนหีบห่อซึ่ง รวมเป็นถุง แต่ไม่ใช่ถือว่าผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์เป็นผู้ถือสารทางทูต คณะผู้แทนอาจส่งบุคคลหนึ่งในคณะผู้แทนไปรับมอบถุงทางการทูตได้โดยตรง และโดยเสรีจากผู้บังคับการของเครื่องบิน? [การทูต] | Intelligence | เรื่องสืบราชการลับ กล่าวอย่างกว้าง ๆ คือ เรื่องลับไม่ว่าชนิดใด โดยเฉพาะที่จะมีประโยชน์แก่ผู้กำหนดนโยบาย หรือฝ่ายทหารที่มีหน้าที่ว่างนโยบายหรือวางแผนยุทธศาสตร์ ถือว่าเป็น Intelligence ทั้งสิ้น เช่น ในสหรัฐอเมริกามีองค์กรสืบราชการลับอยู่หลายแห่ง เช่น CIA (สำนักงานสืบราชการลับกลาง) The NSA (National Security Agency หรือองค์การรักษาความมั่นคงปลอดภัยแห่งชาติ) G-2 (ฝ่ายสืบราชการลับของกองทัพบก) FBI (Federal Bureau of Investigation หรือหน่วยสืบสวนของรัฐบาลกลาง) Bureau of Intelligence and Research of the State Department หรือหน่วยสืบราชการลับและวิจัยของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ รวมทั้งฝ่ายสืบราชการลับของกองทัพเรือและกองทัพอากาศ ส่วนในโซเวียตรัสเซีย (ปัจจุบันเรียกชื่อใหม่ว่ารัสเซีย) แต่เดิมมีองค์การสืบราชการลับอยู่จำนวนหนึ่ง ที่สำคัญๆ ได้แก่ ฝ่ายสืบราชการลับทางทหารของกระทรวงกลาโหม หรือที่เรียกว่า YRU (Ylavnoe Razdevyvatelnoe Uptavlenie) และ KGB (Kommissariat Gosudatstvennoie Bezopastnotsi หรือ Commisariat of State Security) ในประเทศอังกฤษ มีฝ่ายสืบราชการลับเรียกว่า M15 (British Counter Intelligence) M16 เป็นหน่วยสาขาซึ่งทำงานด้านจารกรรมในต่างประเทศ และ M18 เป็นฝ่ายสืบราชการฝ่ายทหาร (Cryptographic Bureau of Military Intelligence) [การทูต] | New World Order | ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต] | Notes in Diplomatic Correspondence | หมายถึง หนังสือหรือจดหมายโต้ตอบทางการทูตระหว่างหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต (Head of mission) กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่หัวหน้าคณะผู้ แทนทางการทูตนั้นประจำอยู่ หรือกับหัวหน้าผู้แทนทางการทูตอีกแห่งหนึ่ง หนังสือทางการทูตนี้ อาจใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 หรือบุรุษที่ 3 ก็ได้ หนังสือทางการทูตที่ใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 มักจะเกี่ยวกับเรื่องที่มีความสำคัญหรือมีความละเอียดอ่อนกว่าหนังสืออีก ชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า Note Verbale หรือต้องการจะแทรกความรู้สึกส่วนตัวลงไปด้วย หนังสือนี้จะส่งจากหัวหน้า หรือผู้รักษาการแทนหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือไปถึงหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตอื่น ๆ ไม่เหมือนกับ Note Verbale กล่าวคือ หนังสือทางการทูตนี้จะต้องระบุสถานที่ตั้ง รวมทั้งลงชื่อของผู้ส่งด้วยตามปกติ ประโยคขึ้นต้นด้วยประโยคแรกในหนังสือจะใช้ข้อความว่า ?have the honour? นอกจากจะมีถึงอุปทูตซึ่งมีฐานะตำแหน่งต่ำกว่าอัครราชทูต ถ้อยคำลงท้ายของหนังสือทางการทูตจะมีรูปแบบเฉพาะ เช่น?Accept, Excellency (หรือ Sir), ในกรณีที่ผู้รับมีตำแหน่งเป็นอุปทูต (Charge d? Affaires) the assurances (หรือ renewed assurances ) of my highest (หรือ high ในกรณีที่เป็นอุปทูต ) consideration?หรือ ?I avail myself of this opportunity to express to your Excellency, the assurances ( หรือ renewed assurances) of my highest consideration ?ถ้อยคำที่ว่า ?renewed assurances ? นั้น จะใช้ก็ต่อเมื่อผู้ส่งหนังสือกับผู้รับหนังสือ ได้มีหนังสือติดต่อทางทูตกันมาก่อนแล้ว ส่วนถ้อยคำว่า ?high consideration ? โดยปกติจะใช้ในหนังสือที่มีไปยังอุปทูต ถ้อยคำ ?highest consideration ? จะใช้เมื่อมีไปถึงเอกอัครราชทูต และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ย่อมแล้วแต่ท้องถิ่นด้วย บางแห่งอาจนิยมใช้แตกต่างออกไป และก็จะเคารพปฏิบัติตามท้องถิ่นนั้น ๆ โดยมารยาทส่วนหนังสือที่เรียกว่า Note Verbale หรือ Third person note เป็นหนังสือทางการทูตที่ใช้บ่อยที่สุด หนังสือนี้จะขึ้นต้นด้วยประโยคดังต่อไปนี้?The Ambassador (หรือ The Embassy ) of Thailand presents his (หรือ its ) compliments to the Minster (หรือ Ministry ) of Foreign affairs and has the honour??หนังสือบุรุษที่สาม หรืออาจเรียกว่าหนังสือกลางนี้ ไม่ต้องบอกตำบลสถานที่ ( Address) และไม่ต้องลงชื่อ แต่บางทีในตอนลงท้ายของหนังสือกลางมักใช้คำว่า?The Ambassador avails himself of this opportunity to express to his Excellency the renewed assurances of his highest consideration?มีหนังสือทางการทูตอีกประเภทหนึ่งเรียกว่า Collective note เป็นหนังสือที่หัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตของรัฐบาลหลายประเทศรวมกันมีไปถึง รัฐบาลแห่งเดียว เกี่ยวกับเรื่องที่รัฐบาลเหล่านั้นพร้อมใจกันที่จะร้องเรียน หรือต่อว่าร่วมกัน หัวหน้าคณะทูตทั้งหมดอาจร่วมกันลงนามในหนังสือนั้น หรือ อาจจะแยกกันส่งหนังสือซึ่งมีถ้อยคำอย่างเดียวกันไปถึงก็ได้ [การทูต] | R.S.V.P. | โปรดตอบให้ผู้เชิญทราบด้วยว่าผู้ได้รับเชิญจะไป ร่วมงานหรือไม่ เป็นคำย่อมาจากภาษาฝรั่งเศสที่ว่า Répondez s'il vous plaît ซึ่งระบุในบัตรเชิญเข้าร่วมงานต่าง ๆ แปลว่า โปรดตอบให้ผู้เชิญทราบด้วยว่าผู้ได้รับเชิญจะไปร่วมงานหรือไม่ [การทูต] | Stalemate | ภาวะจนมุม เป็นคำที่ยืมมาจากเกมหมากรุกและใช้ในความหมายที่ว่า ตกอยู่ในสภาพชะงักงันหรือทางตัน คำนี้จะใช้กันแพร่หลายในด้านการทูต และในด้านการเจรจาระหว่างประเทศ คือ ทั้งสองฝ่ายต่างยึดมั่นในหลักการของแต่ละฝ่าย ซึ่งแตกต่างกันได้ก็ด้วยอาศัยมือที่สาม หรือประเทศที่สามเข้ามาแทรกแซงแก้ไขให้ [การทูต] | Work of the United Nations for the Independence of Colonial Peoples | งานขององค์การสหประชาชาติ ในการช่วยให้ชาติอาณานิคมทั้งหลายได้รับความเป็นเอกราช นับตั้งแต่เริ่มตั้งองค์การสหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ.1945 เป็นต้นมา มีชนชาติของดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเอง รวมทั้งดินแดนในภาวะทรัสตีตามส่วนต่าง ๆ ของโลก ได้รับความเป็นเอกราชไปแล้วไม่น้อยกว่า 170 ล้านคน ดินแดนที่แต่ก่อนยังไม่มีฐานะปกครองตนเองราว 50 แห่งได้กลายฐานะเป็นรัฐเอกราช มีอธิปไตยไปแล้ว ขณะนี้ยังเหลือดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเองอีกไม่มาก กำลังจะได้รับฐานะเป็นประเทศเอกราชต่อไปแม้ว่าปัจจัยสำคัญที่สุดซึ่งทำให้ เกิดวิวัฒนาการอันมีความสำคคัญทางประวัติศาสตร์ จะได้แก่ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของประชาชนในดินแดนเมืองขึ้นทั้งหลาย แต่องค์การสหประชาชาติก็ได้แสดงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนชนชาติ ที่ยังมิได้เป็นเอกราช และชาติที่ยังปกครองดินแดนเหล่านั้นอยู่ ให้รีบเร่งที่จะให้ชาชาติในดินแดนเหล่านั้นได้รับฐานะเป็นเอกราชโดยเร็วที่ สุดเท่าที่จะเป็นไปได้การที่องค์การสหประชาชาติมีบทบาทหน้าที่ดังกล่าวเพราะ ถือตามหลักแห่งความเชื่อศรัทธาที่ว่า มนุษย์ไม่ว่าชายหรือหญิง และชาติทั้งหลายไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกัน และได้ยืนยันความตั้งใจอันแน่วแน่ของประเทศสมาชิกที่จะใช้กลไกระหว่างประเทศ ส่งเสริมให้ชนชาติทั้งหลายในโลกได้ประสบความก้าวหน้าทั้งในทางเศรษฐกิจและ สังคมนอกจากนั้น เพื่อเร่งรัดให้ชนชาติที่ยังอยูใต้การปกครองแบบอาณานิคมได้ก้าวหน้าไปสู่ เอกราช สมัชชาของสหประชาชาติ (General Assembly of the United Nations) ก็ได้ออกปฏิญญา (Declaration) เกี่ยวกับการให้ความเป็นเอกราชแก่ประเทศและชนชาติอาณานิคม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 ซึ่งในปฏิญญานั้น ได้ประกาศยืนยันความจำเป็นที่จะให้ลัทธิอาณานิคมไม่ว่าในรูปใด สิ้นสุดลงโดยเร็วและปราศจากเงื่อนไขใด ๆ สมัชชายังได้ประกาศด้วยว่า การที่บังคับชนชาติอื่นให้ตกอยู่ใต้อำนาจการปกครอง แล้วเรียกร้องประโยชน์จากชนชาติเหล่านั้น ถือว่าเป็นการปฏิเสธไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชนขั้นมูลฐาน เป็นการขัดกับกฎบัตรของสหประชาชาติ เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือของโลกสมัชชาสหประชาชาติ ยังได้ประกาศต่อไปว่า จะต้องมีการดำเนินการโดยด่วนที่สุด โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อสงวนใด ๆ ตามเจตนารมณ์ ซึ่งแสดงออกอย่างเสรี โดยไม่จำกัดความแตกต่างในเรื่องเชื้อชาติ หลักความเชื่อถือ หรือผิว เพื่อให้ดินแดนทั้งหลายที่ยังไม่ได้มีการปกครองของตนเองเหล่านั้นได้รับความ เป็นเอกราชและอิสรภาพโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1961 สมัชชาสหประชาชาติก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อตรวจดูและให้มีการปฏิบัติให้เป็นตามคำปฏิญญาของสหประชาชาติ และถึงสิ้นปี ค.ศ. 1962 คณะกรรมการดังกล่าวได้ประชุมกันหลายต่อหลายครั้งทั้งในและนอกสำนักงานใหญ่ ขององค์การสหประชาชาติ แล้วรวบรวมเรื่องราวหลักฐานจากบรรดาตัวแทนของพรรคการเมืองทั้งหลาย จากดินแดนที่ยังไม่ได้รับการปกครองตนเอง แล้วคณะกรรมการได้ตั้งข้อเสนอแนะต่าง ๆ โดยมุ่งจะเร่งรัดให้การปกครองอาณานิคมสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ [การทูต] | Specific gravity | ความถ่วงจำเพาะ สามารถคำนวนได้จากอัตราส่วนของความหนาแน่นของสารหรือวัสดุหารด้วยความหนา แน่นของน้ำ ปกติจะเท่ากับความหนาแน่นของสารนั้น แต่ไม่มีหน่วย (เนื่องจากสมมติฐานที่ว่าน้ำมีความหนาแน่นเท่ากับ 1.00 g/mL) [เทคโนโลยียาง] | Cardiology | หทัยวิทยา, วิทยาที่ว่าด้วยเรื่องหัวใจ, วิทยาโรคหัวใจ [การแพทย์] | taxonomy | อนุกรมวิธาน, วิชาที่ว่าด้วยการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | calculus | แคลคูลัส, วิชาคณิตศาสตร์แขนงหนึ่งที่ว่าด้วยการหาอนุพันธ์และการหาปริพันธ์ของฟังก์ชัน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | trigonometry | ตรีโกณมิติ, วิชาที่ว่าด้วยฟังก์ชันตรีโกณมิติ และความสัมพันธ์ระหว่างมุมและด้านของรูปสามเหลี่ยม [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | negation | นิเสธ, นิเสธของประพจน์ p หมายถึง ประพจน์ที่สามารถเขียนให้อยู่ในรูปที่มีข้อความ "ไม่เป็นความจริงที่ว่า" เติมอยู่ข้างหน้าประพจน์ p [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | method of least-square | วิธีกำลังสองน้อยสุด, วิธีการประมาณค่าของจำนวนคงตัวซึ่งปรากฏอยู่ในสมการที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร โดยอาศัยหลักที่ว่า สมการที่สร้างขึ้นจะดีที่สุด ถ้าผลรวมของกำลังสองของความแตกต่างระหว่างค่าที่ได้จากความสัมพันธ์เชิงฟิงก์ชันที่สร้างขึ้น กับค่าที่เกิดขึ้นจริงทุก ๆ ค่า มีค่า [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Newton's laws of motion | กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน, กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎที่ว่าด้วยการเคลื่อนที่ของวัตถุซึ่งเป็นพื้นฐานของวิชากลศาสตร์มี 3 ข้อ คือ กฎข้อ 1 วัตถุจะรักษาสภาพอยู่นิ่งหรือสภาพเคลื่อนที่อย่างสม่ำเสมอในแนวตรง นอกจากจะมีแรงลัพธ์ซึ่งมีค่าไม่เป็นศูนย์มากระทำ(กฎนี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่ากฎความเฉื่อย [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | gas law | กฎของแก๊ส, กฎที่ว่าด้วยสมบัติของแก๊สคือ ความดันและปริมาตรของแก๊สเป็นปฏิภาคโดยตรงกับอุณหภูมิสัมบูรณ์ เป็นกฎที่ได้จากกฎของบอยล์และกฎของชาร์ลรวมกัน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Coulomb's law | กฎของคูลอมบ์, กฎของคูลอมบ์ กฎที่ว่าด้วยแรงกระทำระหว่างประจุสองประจุอาจเป็นแรงดูดหรือแรงผลัก ซึ่งเป็นไปตามสูตร เมื่อ F เป็นแรงกระทำระหว่างประจุ Q1 และ Q2 เป็นค่าของประจุ R เป็นระยะทางระหว่างประจุ และ K เป็นค่าคงตัว [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Charles' law | กฎของชาร์ล, กฎที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิและปริมาตรของแก๊สในภาชนะปิด คือ เมื่อความดันคงตัวปริมาตรของแก๊สจะเป็นปฏิภาคตรงกับอุณหภูมิสัมบูรณ์ของแก๊ส [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Boyle's law | กฎของบอยล์, กฎที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างความดันและปริมาตรของแก๊สในภาชนะปิด คือเมื่ออุณหภูมิคงตัง ความดันของแก๊สแปรผกผันกับปริมาตรของแก๊ส [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | vacuum | สุญญากาศ, ที่ว่างซึ่งมีความดันแก๊สต่ำ กล่าวคือ ยังคงมีโมเลกุลของแก๊สอยู่เล็กน้อย [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | geology | ธรณีวิทยา, วิทยาศาสตร์สาขาหนึ่งที่ว่าด้วยส่วนประกอบ โครงสร้าง ประวัติความเป็นมาและการเปลี่ยนแปลงของโลก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Skylab | สกายแลบ, ห้องปฏิบัติการอวกาศของสหรัฐอเมริกา ขึ้นไปโคจรอยู่ในอวกาศรอบโลกเมื่อวันที่14 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 และตกลมาสู่โลกบริเวณมหาสมุทรอินเดียและที่ว่างภาคเหนือของประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2522 [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | binomial theorem | ทฤษฎีบททวินาม, ทฤษฎีที่ว่าด้วยการกระจาย (a+b)n เมื่อ a และ b เป็นจำนวนจริงและ n เป็นจำนวนเต็มบวก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Interstitium | ที่ว่างระหว่างเนื้อเยื่อ ชั้นกลาง ช่องว่างระหว่างเซลล์ อินเตอร์สติเชียม [การแพทย์] |
| You got to keep a low profile. | จิงรึเปล่าที่ว่าไม่มีอะไร Hero (1992) | Excuse me. | พี่ครับ ที่ว่าหนังสือพิมพ์ หมายความว่าไงครับ Hero (1992) | In Scotland, the leader of a religious sect claims the mysterious hero is, in fact, an angel anticipated in scripture. | แล้วก้อเพื่อที่จะไปดูแลคนที่ไม่รุจักหัวนอนปลายเท้า มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ มันเป็นเรื่องจริงที่ว่า โจยังด๊อก เป็นอาวุธที่มีชีวิต เราไม่รุว่าเค้าจะทำอะไรต่อไป Hero (1992) | The psychiatrist figured she'd probably witnessed... one of the murders, and she's just in shock... but I've seen people flipped out before... and this girl is flipped out for good. | นักจิตวิทยาบอกว่า เธอเจอบางอย่างที่ร้ายแรงมาก จนถึงขั้นที่ว่าช็อคอย่างรุนแรง ผมเคยเห็นคนเพี้ยนแย่ๆมามาก The Lawnmower Man (1992) | How far is far away? | ที่ว่าไกลน่ะไกลแค่ไหน Of Mice and Men (1992) | Our case was so insane that if you made it up, nobody would believe it. | กรณีของเราบ้าเพื่อที่ว่าถ้าคุณ ทำให้มันขึ้นไม่มีใค? In the Name of the Father (1993) | Talking about what you're worth. | พูดเรื่องที่ว่าลูกมีค่าควรกับอะไรไง The Joy Luck Club (1993) | What do you mean, disappoint? | - ลูกหมายความว่ายังไงที่ว่าผิดหวัง The Joy Luck Club (1993) | These empty tears | หยดน้ำตาที่ว่างเปล่าพวกนี้เลย The Nightmare Before Christmas (1993) | This empty place inside of me is filling up I simply cannot get enough | พื้นที่ว่างเปล่าภายในตัวฉันถูกเติมเต็ม / ฉันยังไม่ได้มันอย่างเพียงพอ The Nightmare Before Christmas (1993) | I fully endorse it Let's try it at once | ฉันเห็นด้วยอย่างเต็มที่ว่าน่าจะลองทำดูสักครั้ง The Nightmare Before Christmas (1993) | There's plenty of room to hold the embryo through the first trimester. | มีที่ว่างพอจะฝังตัวอ่อนได้สามเดือน Junior (1994) | What what would be like? | อะไรที่ว่ามันต้องเกิดขึ้น Junior (1994) | How will I ever cope?" You know... I think we have to dispense with the myth... that some are born with the maternal instinct... and others are not. | "ฉันจะรับมืออย่างไรดี " รู้ไหม ฉันว่าเรามาแชร์ความคิดเรื่องตำนาน ที่ว่าผู้หญิงบางคนเกิดมามีสัญชาติญาณความเป็นแม่ Junior (1994) | That's that Hawaiian burger joint. | ที่ว่าชาวเมืองร่วมกันที่ฮาวาย Pulp Fiction (1994) | That's right. That's exactly what it means. | ที่เหมาะสม ที่ว่ามันหมายถึงอะไร Pulp Fiction (1994) | 'Cause it ain't there, 'cause storing dead niggers ain't my fuckin' business, that's why! | เพราะมันไม่ได้มี 'ทำให้การจัดเก็บพวกนิโกรที่ตายแล้วไม่ได้ธุรกิจของไอ้ที่ว่าทำไม! Pulp Fiction (1994) | - She wouldn't at that. | - เธอจะไม่ได้อยู่ที่ว่า Pulp Fiction (1994) | That means that he fired the gun empty, and then stopped to reload... | นั่นหมายความว่าเขายิงปืนที่ว่างเปล่า และแล้วก็หยุดที่จะโหลด ... The Shawshank Redemption (1994) | That's exactly what they take. | ที่ว่าสิ่งที่พวกเขาใช้เวลา The Shawshank Redemption (1994) | You'd better get used to that idea. | คุณควรที่จะได้รับใช้ความคิดที่ว่า The Shawshank Redemption (1994) | Why don't we talk about... who I am? | ทำไมคุณไม่คุยเรื่องที่ว่าผมเป็นใคร Don Juan DeMarco (1994) | It was no secret that Dona Julia, would have been much better served by... two men of 25. | มันไม่ใช่ความลับที่ว่า ดอนน่า จูเลีย อยากจะให้ชายวัย 25 สองคน ปรนเปรอเธอมากกว่า Don Juan DeMarco (1994) | my mask had been replaced by a mask of another sort... and so I supposed I was keeping the vow I made to hide my face. | หน้ากากของผม ถูกแทนที่ด้วยหน้ากากอีกอย่างหนึ่ง และผมก็ยังรักษาสัญญาที่ว่า จะปิดบังใบหน้าของผม Don Juan DeMarco (1994) | Have you heard the rumors... that Cane's books have affected certain readers? | คุณเคยได้ยินข่าวลือที่ว่า หนังสือของเคนมีอิทธิพลกับผู้อ่านบ้างมั้ย In the Mouth of Madness (1994) | You probably think it's about making love with your socks on, but it isn't. | คุณคงคิดว่ามันคงเกี่ยวกับที่ฉันพูดคืนก่อน ที่ว่าคุณใส่ถุงเท้าเมคเลิฟ The One Where Monica Gets a Roommate (1994) | Tell me specifically, which part was the fun part? | ช่วยบอกให้ละเอียดที ส่วนไหนเหรอที่ว่าสนุกน่ะ The One with George Stephanopoulos (1994) | And my work habits? | แล้วที่ว่าบ้างานล่ะ Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | Of course, it didn't change the fact that Morgan the Goat wouldn't talk to Reverend Jones and Reverend Jones wouldn't talk to Morgan the Goat. | แน่นอนมันไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่า มอร์แกน คนเลี้ยงแพะ ไม่พูดกับบาทหลวงโจนส์ The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | And there are many who still say we would've succeeded but fate had one more trick up her sleeve. | มีหลายคนที่ว่าเราควรทำได้ตั้งแต่แรก แต่เพราะชะตาเล่นตลกกับเราอีกคัร้ง The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | Come on, they are not as bad as everyone says. | พวกเขาไม่เลวอย่างที่ว่ากัน... Schindler's List (1993) | That's a charming suggestion, but I'm afraid I cling to the old motto, | ช่างมีน้ำใจจริงครับ แต่ผมขอยึดคติเดิมที่ว่า Rebecca (1940) | Fact is, that empty house got on his nerves to such an extent, he nearly went off his head. | ความจริงคือบ้านที่ว่างเปล่านั่น ทําให้เขาประสาทเสียเเทบบ้า Rebecca (1940) | I was just wondering if you meant what you said the other day - about showing me the run of things. | ฉันแค่สงสัยว่าวันก่อนคุณพูดจริงรึเปล่าที่ว่า จะแสดงให้ฉันดูเรื่องการบริหารจัดการนี่ Rebecca (1940) | To confirm the fact that she was going to have a child. | เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงที่ว่าหล่อนกําลังจะมีเด็ก Rebecca (1940) | Yes. Yes. In connection with the body that was found in a boat. | ใช่ครับที่ว่าเกี่ยวข้องกับศพที่พบในเรือ Rebecca (1940) | You want to know if I can suggest any motive as to why Mrs. De Winter should have taken her life? | คุณอยากรู้ว่าผมจะบอกถึงเเรงจูงใจที่ว่าทําไม คุณนายเดอ วินเทอร์ถึงอยากฆ่าตัวตายได้รึเปล่า Rebecca (1940) | That's why she stood there laughing when she... | นี่ล่ะที่ว่าทําไมหล่อนถึงยืนหัวเราะตอนที่-- Rebecca (1940) | It's interesting that he'd find a knife exactly like the boy's. | มันน่าสนใจที่ว่าเขาจะพบมีดเหมือนเด็กผู้ชาย 12 Angry Men (1957) | This is one of the reasons why we are strong. | นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมเรามีความแข็งแรง 12 Angry Men (1957) | - It just seemed there was room for doubt. | - มันก็ดูเหมือนไม่มีที่ว่างสำหรับข้อสงสัย 12 Angry Men (1957) | - Still no room for reasonable doubt? | - ยังมีที่ว่างสำหรับข้อสงสัยหรือไม่ 12 Angry Men (1957) | An important point for the prosecution was the fact that after the boy claimed he was at the movies when the killing took place, he couldn't remember the names of the movies or who starred in them. | จุดสำคัญสำหรับการดำเนินคดีเป็น ความจริงที่ว่าหลังจากที่เด็กอ้างว่าเขาเป็นที่หนังเมื่อการฆ่าที่เกิดขึ้น เขาไม่สามารถจำชื่อของภาพยนตร์หรือผู้แสดงในพวกเขา 12 Angry Men (1957) | What a fish that was. | สิ่งที่ว่าปลาเป็น The Old Man and the Sea (1958) | There's a certain amount of hurry up involved here. | มีจำนวนหนึ่งของรีบขึ้น เกี่ยวข้องกับที่นี่ เพชรพลอย, เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าชีวิตของฉัน อยู่ในอันตราย Help! (1965) | You can't say fairer than that. | คุณไม่สามารถพูดคือธรรมกว่า ปล้นรถไฟวิธีการที่ว่าจะไปไหม Help! (1965) | We are going for a friendly walk with the police down by the river. | พวกเราจะไปเดินเล่นที่คือมิตร กับตำรวจลงแม่น้ำ โอดูที่ว่า Help! (1965) | You should have thought of that before you left the house. | คุณควรจะมีความคิดที่ว่า ก่อนที่คุณจะออกจากบ้าน Help! (1965) | Otherwise the key'll get rusty and Just be a spot on the wall. | ไม่อย่างนั้นกุญแจที่ว่าก็จะขึ้นสนิม และเป็นแค่จดบนผนัง The Good, the Bad and the Ugly (1966) | -If we had that power here in our hands, we'd be worse than them. | ถ้าเรามีอํานาจที่ว่าในมีอเรา เราอาจพินาศเเล้วก็ได้ Beneath the Planet of the Apes (1970) |
| | longdo | (n) ชื่อของบริการนี้ มาจากภาษาไทยว่า ลองดู มาจากแนวคิดที่ว่า แนวคิดนี้อาจจะดีหรือไม่ดี ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ก็ไม่แน่ ลองดูเลยดีกว่า | itchy feet | (slang) คล้ายสำนวนไทยที่ว่า ชีพจรลงเท้า เพราะ itchy feet แปลตรงๆ คือ เท้าที่คันยุบยิบ | RSVP | กรุณาตอบกลับมา (เป็นคำย่อที่นำมาจากภาษาฝรั่งเศสที่ว่า repondez s'il vous plait ซึ่งถูกนำมาใช้มากในภาษาอังกฤษ) เช่น Please RSVP in the comments of this entry., You must RSVP after the start of registration and prior to 2:30 PM. | civil disobedience | (n) ลัทธิดื้อแพ่ง/อารยะขัดขืน, เป็นการปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามกฎหมายบางมาตรา ด้วยเหตุผลที่ว่ากฎหมายนั้นๆ ไม่ชอบธรรม | stat | (abbrev) 1) สถิติ ย่อมาจาก statistics 2) อย่างเฉียบพลัน, ทันทีทันใด ย่อมาจากภาษาพูดที่ว่า sooner than already there | ethnocentrism | (n) ความเชื่อที่ว่าชนชาติ ประชาชน ขนบธรรมเนียม ประเพณีของ เชื้อชาติของตนนั้น ดีเลิศกว่าชนชาติอื่น | YOLO | [โย โล่] (jargon, slang) ย่อมาจากประโยคที่ว่า You only live once ซึ่งหมาายถึง เรามีชีวิตอยู่แค่ครั้งเดียว หรือ เกิดมาแค่หนเดียว, จะทำอะไรก็ทำไปเถอะเพราะเกิดมาแค่ครั้งเดียว ต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า |
| abiogenesis | (n) สมมติฐานที่ว่าสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นได้จากสิ่งไม่มีชีวิต | admit | (vt) จุได้ (จำนวนคน), See also: มีที่ว่างสำหรับ | blank | (n) ช่องว่าง, See also: ที่ว่าง, Syn. space, gap | charter | (adj) ที่เช่ามา, See also: ที่เหมาจ้าง, ที่ว่าจ้าง, ซึ่งเหมา | crowd out | (phrv) เต็ม, See also: แน่น, ไม่มีที่ว่างสำหรับ, Syn. crush out, squeeze out | elitism | (n) ความเชื่อที่ว่าคนบางคนสูงส่งกว่าคนอื่นและสมควรจะได้รับสิทธิพิเศษต่างจากคนอื่น | epicycle | (n) การเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์ตามทฤษฎีระบบสุริยะของเพลโตที่ว่าวัตถุทรงกลมจะเคลื่อนที่ไปตามเส้นรอบวงของวัตถุทรงกลมที่ใหญ่กว่า, Syn. cycle, orbit | equalitarian | (adj) เกี่ยวกับความเชื่อที่ว่าตามหลักการแล้วทุกๆ คนเท่าเทียมกัน, See also: เกี่ยวกับความเชื่อที่ว่าทุกๆ คนเสมอภาคกัน, Syn. egalitarian | etymology | (n) นิรุกติศาสตร์, See also: วิชาที่ว่าด้วยกำเนิดและการพัฒนาของคำ | fold | (n) แอ่งหรือที่ว่างระหว่างเนินเขา | foreboding | (n) ความรู้สึกที่ว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น, See also: สังหรณ์, Syn. augury, premonition | geophysics | (n) ธรณีฟิสิกส์, See also: ภูมิศาสตร์กายภาพ, วิชาฟิสิกส์ที่ว่าด้วยพื้นดินและโลก | hatchback | (n) รถยนต์ที่มีประตูหลังซึ่งเปิดให้กางขึ้นข้างบนได้ ทำให้ด้านหลังมีที่ว่างเก็บของได้มากขึ้น | headroom | (n) ที่ว่างโค้งส่วนบน, See also: ที่ว่างเหนือศีรษะ, Syn. headway | idyll | (n) งานวรรณกรรมและเนื้อเพลงที่ว่าด้วยความงามของชนบท, Syn. eclogue, epic, poem | intellectualism | (n) ความเชื่อที่ว่าความรู้มาจากการคิดอย่างมีเหตุผล (ทางปรัชญา) | make a room for | (idm) หาที่ว่างหรือเวลาสำหรับ | Malthusian | (n) เกี่ยวกับทฤษฎีที่ว่าประชากรโลกเพิ่มขึ้นรวดเร็วมากกว่าปริมาณอาหาร | Malthusianism | (n) ทฤษฎีที่ว่าประชากรโลกเพิ่มขึ้นรวดเร็วมากกว่าปริมาณอาหาร | open | (n) ที่กว้าง, See also: ที่ว่าง, ที่โล่ง, ที่แจ้ง, Syn. clear space | open verdict | (n) คำพิพากษาของศาลที่ว่าสาเหตุของการตายไม่ทราบแน่ชัด | opening | (n) ตำแหน่งงานที่ว่าง | plunge | (n) สถานที่ว่ายน้ำ | positivism | (n) ทฤษฎีที่ว่าความรู้ได้จากการรับโดยตรงมากกว่าการเทียบเคียง, Syn. atheism | room | (n) ที่ว่าง, See also: ช่องว่าง, เนื้อที่, Syn. area, space | roomful | (adj) เต็มไปด้วยผู้คนและสิ่งของ, See also: ซึ่งไม่มีที่ว่าง | semantics | (n) สาขาวิชาหนึ่งทางภาษาศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องของความหมาย, See also: อรรถศาสตร์, Syn. semasiology, semiology | semantics | (n) การศึกษาสัญลักษณ์ (ทางตรรกวิทยา), See also: วิชาที่ว่าด้วยสัญลักษณ์และการเข้าใจเหตุผล, Syn. semasiology | space | (n) ที่ว่าง, See also: พื้นที่ว่าง, Syn. room | supposing | (conj) สมมุติว่า, See also: ในกรณีที่ว่า, Syn. if, in case that, granting that, presuming | tight | (adj) หนาแน่น, See also: ไม่มีที่ว่าง, Syn. cramped | thin out | (phrv) เอาออก, See also: ลอกออก, ถอนออก เพื่อให้ที่ว่าง | utilitarianism | (n) ความเชื่อที่ว่าความสุขคือการเอาประโยชน์สูงสุด | vacancy | (n) พื้นที่ว่าง, See also: ที่ว่าง, ช่องว่าง, Syn. void | void | (adj) ที่ไม่มีสิ่งใด, See also: ที่ปราศจากสิ่งใด, ที่ว่างเปล่า, Syn. null, empty, devoid, Ant. empty | xenogenesis | (n) หลักการที่ว่าสิ่งมีชีวิตกำเนิดจากสิ่งไม่มีชีวิต, See also: การสร้าง |
| absolute idea | หลักการที่ว่าขบวนการของโลกเป็นการแสดงออกและบรรลุผล (spiritual principle) | acoustics | (อะคู' สทิคซฺ) n. วิชาที่ว่าด้วยเสียง, โสตศาสตร์, ประสิทธิภาพของห้องที่มีต่อเสียง | activism | (แอค' ทิฟวิซึม) n. ทฤษฎีที่ว่าความจริงคือการดำเนินการที่บริสุทธิ์โดยเฉพาะทางจิต, ทฤษฎีที่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างจิตและวัตถุ การดำเนินการหรือขบวนการของจิต, ลัทธิดำเนินการเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือง (essence of reality) | actualism | (แอค' ซวลลิสซึม) n. ความเชื่อที่ว่าความจริงทั้งหมดนั้นเปนสิ่งมีตัวตน. -actualistic adj. -actualist n. | alibi | (แอล' ละไบ) n., (pl. -bis) ความแก้ตัวของจำเลยที่ว่าเขาไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ, คำแก้ตัว. | all clear | สัญญาณที่ว่าการโจมตีทางอากาศได้ผ่านพ้นไปแล้ว | animism | (แอน' นิมิสซึม) n. ความเชื่อถือที่ว่ามีวิญญาณในธรรมชาติและจักรวาล, ความเชื่อว่าวิญญาณอาจอยู่แยกต่างหากจากร่างกาย, ความเชื่อถือว่าวิญญาณเป็นส่วนสำคัญของชีวิตและสุขภาพที่ดี, ความเชื่อในเรื่องวิญญาณ -animist n. -animistic adj. | areaway | (แอร'เรียเวย์) n. ที่ว่างหน้าห้องใต้ดิน | atheism | (เอ'ธีอิสซึม) n. ความเชื่อที่ว่าไม่มีพระเจ้า, ความไม่มีพระเจ้า, ความชั่วร้าย | atomism | (แอท'ทัมมิสซึม) n. ทฤษภ๊ที่ว่าธาตุที่ไม่สามารถแบ่งให้เล็กกว่าเดิมได้อีกนั้นเป็นส่วนประกอบที่สุดของสารทั้งหลาย. -atomist n. -atomic (al) adj. (atomic theory) | autogenesis | (ออโทเจน'นิซิส) n. การเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ, ความเชื่อที่ว่าสิ่งชีวิตเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ. -autogenetic adj. (abiogenesis) | avogadro's law | กฎที่ว่าแก๊สทั้งหลายที่มีปริมาตรที่เท่ากัน ภายใต้อุณหภูมิและความกดดันเดียวกันย่อมมีจำนวนโมเลกุลเท่ากัน | blank | (แบลงคฺ) { blanked, blanking, blanks } adj. ว่าง, ว่างเปล่า, ปราศจากเรื่องราว, ยังไม่ได้เขียนหรือพิมพ์อะไร, จืดชืด, ไม่น่าสนใจ, โดยสิ้นเชิง, ทั้งสิ้น, ซีด, ไร้สี n. สถานที่ว่างเปล่า, ช่องว่างสำหรับเติม, แบบฟอร์มที่ว่างเปล่า, จุดขาวตรงกลางของเป้า, เป้า, กระสุนเปล่า, เครื่องห | blank book | n. สมุดที่ว่างเปล่า | categorical imperative | n. กฎที่ว่าการกระทำของคนนั้นควรเป็นการบริหารซึ่งเป็นพื้นฐานของกฎทั่วไป | computer science | วิทยาการคอมพิวเตอร์สาขาวิชาทางคอมพิวเตอร์สาขาหนึ่ง ที่ว่าด้วยการกำหนดรูปแบบ และการนำเครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์มาใช้งาน หรือสั่งให้ทำงานให้ตามความประสงค์ เป็นต้นว่า กระบวนการต่าง ๆ ในการประมวลผลข้อมูลเพื่อให้เป็นสารสนเทศ (information) ฯ อนึ่ง ศัพท์นี้ในภาษาไทยมีใช้กันอยู่หลายคำ เป็นต้นว่า คอมพิวเตอร์ศาสตร์ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ศาสตร์คอมพิวเตอร์ แต่ปัจจุบันนิยมใช้ วิทยาการคอมพิวเตอร์ | cryptography | วิทยาการเข้ารหัสลับหมายถึง วิชาที่ว่าด้วยการกำหนดรหัสให้แก่ข้อความต่าง ๆ ที่คนภายนอกจะไม่สามารถเข้าใจ ผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่จะสามารถถอดรหัสและเข้าใจความหมายได้ | ctrl+alt+del | (เริ่มเครื่องใหม่) <ความหมาย>แป้น CTRL, ALT, DEL ล้วนเป็นแป้นพิมพ์พิเศษของเครื่องคอมพิวเตอร์ไอบีเอ็ม หรือ เครื่องที่ทำเลียนแบบไอบีเอ็ม เมื่อกดทั้งสามแป้นนี้พร้อมกันแล้ว จะเท่ากับสั่งให้คอมพิวเตอร์เริ่มต้น การทำเช่นนี้เรียกว่า "warm boot" จะเหมือนกับการปิดแล้วเปิดสวิตซ์ที่เครื่องใหม่ (cold boot) ในกรณีเช่นที่ว่านี้ ถ้ามีแฟ้มข้อมูลที่กำลังทำอยู่ ข้อมูลจะหายไปหมด เพราะไม่ได้สั่งเก็บหรือบันทึก | defrag | นำ (แฟ้มข้อมูล) มาต่อกันในฮาร์ดดิสก์นั้น เมื่อมีการสั่งบันทึกข้อมูลลงไปแล้วมาสั่งลบภายหลัง จะทำให้มีที่ว่างเกิดขึ้นเป็นหย่อม ๆ ฉะนั้น เมื่อมีการนำแฟ้มข้อมูลใหม่บันทึกลงไป คอมพิวเตอร์ก็จะจัดการแบ่งข้อมูลใหม่นี้ให้ได้สัดส่วนพอดีกับช่องที่ว่างอยู่ก่อน ทำให้แฟ้มข้อมูลเดียวถูกเก็บเป็นหย่อม ๆ การเก็บแฟ้มข้อมูลในลักษณะนี้ เรียกว่า เป็นการกระจาย (fragmentation) โปรแกรมระบบดอสรุ่น 6.0 จึงมีคำสั่ง "defrag" ซึ่งจะช่วยจัดการนำแฟ้มข้อมูลเดียวกันมาเรียงให้ติดต่อกัน เพื่อให้การค้นคืนแฟ้มทำได้รวดเร็วขึ้น ในระบบวินโดว์ ก็จะต้องสั่งให้มีการนำแฟ้มมาต่อกันนี้เป็นครั้งคราวเสมอ | file compression | การอัดแฟ้มข้อมูลหมายถึง การอัดข้อมูลในแฟ้มให้แน่นเข้า เพื่อให้ใช้เนื้อที่เก็บในจานบันทึกน้อยลง หรือเพื่อให้มีที่ว่างในจานบันทึกให้บรรจุข้อมูลอื่นได้เพิ่มมากขึ้น | fragmentation | การแยกส่วนหมายถึง อาการอย่างหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นกับฮาร์ดดิสก์ที่ ใช้มาเป็นเวลานานแล้ว ในฮาร์ดดิสก์นั้น เมื่อมีการสั่งบันทึก ข้อมูลลงไป แล้วมาสั่งลบภายหลัง ก็จะทำให้มีที่ว่างเกิดขึ้นเป็นหย่อม ๆ ฉะนั้น เมื่อมีการนำแฟ้มข้อมูลใหม่ บันทึกลงไป คอมพิวเตอร์ก็จะจัดการ แบ่งแฟ้มใหม่นี้ให้ได้ สัดส่วนพอดีกับช่องที่ว่างอยู่ก่อน บางที แฟ้มเดียวกันจึงต้อง ถูกเก็บเป็นหย่อม ๆ การเก็บแฟ้มข้อมูลในลักษณะนี้ เรียกว่า เป็นการเก็บแยกส่วน ในโปรแกรมระบบดอสรุ่น 6.0 จะมีคำสั่ง "DE FRAG" ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหา ในเรื่องนี้ได้ | frontage | (ฟรัน'ทิจฺ) n. ด้านหน้า, ที่ว่างหน้าบ้าน, Syn. front | hard space | (ฮาร์ดสเปซ) หมายถึงที่ว่างที่ถือเสมือนไม่ใช่ที่ว่าง ใช้เฉพาะในโปรแกรมประมวลผลคำ ในกรณีที่พิมพ์คำบางคำที่มีที่ว่างระหว่างคำ เช่น World War II หรือ พิมพ์วันที่ เช่น May 7 เช่นนี้ ถ้าบังเอิญพิมพ์คำนี้มาถึงปลายบรรทัด แต่ไม่มีที่ว่างพอจะพิมพ์ทั้งคำ คอมพิวเตอร์จะแยกนำคำหลังช่องว่างมาขึ้นบรรทัดใหม่ ซึ่งจะเป็นการไม่ถูกต้อง เราจึงต้องกำหนดให้ที่ว่างที่เห็นนั้นเป็นฮาร์ดสเปซ เพื่อให้โปรแกรมไม่แยกเป็นคนละบรรทัด ถ้าที่ไม่พอในบรรทัดบน ก็จะนำลงมาบรรทัดใหม่ทั้งคำ | headroom | n. ที่ว่างโค้งส่วนบน, ที่ว่างเหนือศีรษะ., Syn. headway | hollow | (ฮอล'โล) adj., adv. เป็นโพรง, เป็นหลุม, กลวง, ว่าง, เว้า, ไม่มีความหมาย, ไม่จริงใจ, เท็จ n., vt. (ทำให้เป็น, กลายเป็น) โพรง, หลุม, แอ่ง, ที่ว่าง, ที่กลวง, หุบเขา -Phr. (beat all hollow ชนะสิ้นเชิง), See also: hollowness n., Syn. empty, su | homeopathy | (โฮมีออพ'พะธี) n. ความเชื่อที่ว่ายาที่ใช้รักษาโรคสามารถทำให้เกิดอาการเดียวกันของโรคถ้าให้ในปริมาณน้อยที่สุดแก่ผู้ที่ไม่เป็นโรคนั้น, See also: homeopathic adj. | in | (อิน) prep. ใน, ภายใน, ข้างใน, ในระหว่าง, ในสภาพ, ในภาวะ, ในข้อที่ว่า., See also: in that เนื่องจาก, เพราะว่า. in so far as ตราบใดที่ -adv. ใน, ภายใน, อยู่ข้างใน, ในบ้าน, ในที่ทำงาน, ในตำแหน่ง, ในฤดูเก็บเกี่ยว, ในการบริหารงาน, สอดคล้องกับ -adj. | inconsistence | (อินคันซิส' เทินซฺ) n. ความไม่สอดคล้องกัน, ความไม่ลงรอยกัน, ความขัดกัน, ความไม่เป็นไปตามที่ว่า, สิ่งที่ไม่สอดคล้องกัน., Syn. inconsistency | inconsistent | (อินคันซิส' เทินทฺ) n. ไม่สอดคล้องกัน, ไม่ลงรอยกัน, เข้ากันไม่ได้, ขัดกัน, ไม่เป็นไปตามที่ว่า., See also: inconsistently adv., Syn. incompatible, incongruent | laissez faire | (เลสเซแฟรฺ') n. ทฤษฎีที่ว่ารัฐบาลควรเข้ายุ่งเกี่ยวในเรื่องเศรษฐกิจให้น้อยที่สุด, ทฤษฎีการไม่ยุ่งเรื่องของผู้อื่น., See also: laissez-faire adj. ดูlaissez faire laisser-faire adj. ดูlaissez faire, Syn. laisser faire | lost cluster | ส่วนตกค้างหมายถึง ส่วนของแฟ้มข้อมูลที่ยังเหลือค้างอยู่ในจานบันทึก แม้ว่าแฟ้มตาราง แสดงรายการข้อมูลจะไม่บ่งบอกว่ามีเหลืออยู่ก็ตาม การที่เป็นเช่นนี้ อาจเป็นเพราะในขณะที่มีการคัดลอกแฟ้มข้อมูลลงไปในแผ่นจานบันทึก ไฟเกิดตก แต่บางทีก็หาสาเหตุไม่พบ โดยปกติ เราอาจใช้คำสั่ง Chkdsk/F ซึ่งเป็นคำสั่งในระบบปฏิบัติการดอส สั่งลบส่วนที่เหลือออกให้หมด จะได้มีที่ว่างไว้เก็บแฟ้มอื่นได้ | magnetic ink character re | เครื่องอ่านอักขระหมึกแม่เหล็กใช้ตัวย่อว่า MICR (อ่านว่า เอ็มไอซีอาร์) หมายถึง เครื่องอ่านตัวอักขระที่พิมพ์ด้วยหมึกแม่เหล็ก การอ่านหมึกแม่เหล็กที่ว่านี้ ใช้วิธีอ่านด้วยแสง ซึ่งจะทำให้คอมพิวเตอร์นำข้อมูลที่อ่านไปเก็บในหน่วยความจำแล้วประมวลผลให้ เหมือนกับการป้อนข้อมูลทางแป้น ส่วนมากใช้อ่านในกิจการของธนาคาร เช่น อ่านเลขที่บัญชีของลูกค้าในสมุดเช็ค เป็นต้น | management information sy | ระบบการจัดการสารสนเทศใช้ตัวย่อว่า MIS อ่านว่า เอ็มไอเอส เป็นวิชาที่ว่าด้วยระบบการจัดการสารสนเทศ มีความหมายกว้าง ๆ ว่าเป็นการนำเอาข้อมูลมาประมวลผลให้เกิดเป็นความหมายที่จะทำให้เข้าใจได้ ซึ่งต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นหลัก เพราะทำได้รวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ เพื่อเสนอให้ผู้บริหารตัดสินใจได้เร็วขึ้น | mis | (o) - Pref."เกลียด" เอ็มไอเอส <คำอ่าน>ย่อมาจาก management information system เป็นวิชาที่ว่าด้วยระบบการจัดการสารสนเทศ มีความหมายกว้าง ๆ ว่าเป็นการนำเอาข้อมูลมาประมวลผลให้เกิดเป็นความหมายที่จะทำให้เข้าใจได้ ซึ่งต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นหลัก เพราะทำได้รวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ เพื่อเสนอให้ผู้บริหารตัดสินใจได้เร็วขึ้น | monism | (มอน'นิซึม, โม'นิสซึม) ความเชื่อที่ว่ามีเพียงปัจจัย, See also: monist n. monistic adj. monistical adj. | oa | (โอเอ) ย่อมาจาก office automation แปลว่า การอัตโนมัติสำนักงาน, สำนักงานอัตโนมัติ หมายถึง การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ภายในสำนักงาน เพื่อให้ดำเนินการไปโดยอัตโนมัติ หลีกเลี่ยงการปฏิบัติด้วยมือให้มากที่สุด เป็นต้นว่า การทำจดหมายเวียน (ข้อความในจดหมายเหมือน ๆ กัน แต่ส่งถึงชื่อคนหลายคน) ในกรณีนี้ หากใช้คอมพิวเตอร์ทำ ก็จะประหยัดเวลาได้มาก เพราะสามารถสั่งทีเดียวได้เลย ส่วนในความหมายของคำแปลที่ว่า "สำนักงานอัตโนมัติ" นั้น อธิบายง่าย ๆ ได้ว่า หมายถึง สำนักงานที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์นั่นเอง (ในภาษาอังกฤษ บางทีใช้ automated office) | office automation | การอัตโนมัติสำนักงานใช้ตัวย่อว่า OA (อ่านว่า โอเอ) หมายถึง การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ภายในสำนักงาน เพื่อให้ดำเนินการไปโดยอัตโนมัติ หลีกเลี่ยงการปฏิบัติด้วยมือให้มากที่สุด เป็นต้นว่า การทำจดหมายเวียน (ข้อความในจดหมายเหมือน ๆ กัน แต่ส่งถึงชื่อคนหลายคน) ในกรณีนี้ หากใช้คอมพิวเตอร์ทำ ก็จะประหยัดเวลาได้มาก เพราะสามารถสั่งทีเดียวได้เลย ส่วนในความหมายของคำแปลที่ว่า "สำนักงานอัตโนมัติ" นั้น อธิบายง่าย ๆ ได้ว่า หมายถึง สำนักงานที่ใช้เครื่อวคอมพิวเตอร์นั่นเอง (ในภาษาอังกฤษ บางทีใช้ automated office) | opening | (โอ'พะนิง) n. การเปิด, การเปิดเผย, ที่โล่ง, กลางแจ้ง, รูเปิด, ช่อง, การเริ่ม, ตอนแรก, การฉลองการเปิดปฐมฤกษ์, ตำแหน่งงานที่ว่าง, โอกาส, การเปิดเกม, Syn. hole, gap, start | orchidology | (ออร์คิดคอล'โลจี) n. วิชาที่ว่าด้วยการเลี้ยงกล้วยไม้., See also: orchidologist n. | overlay | ซ้อนแทนหมายถึง การแบ่งโปรแกรมขนาดใหญ่ออกเป็นหลาย ๆ โปรแกรม บางทีเรียกส่วนย่อย ๆ นี้ว่า มอดุล (modul) ด้วยเหตุที่ว่าโปรแกรมนั้นมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะบรรจุได้ในหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ จึงต้องมีการจัดแยกคำสั่งบางชุดไว้ต่างหาก จะเรียกมาใช้เมื่อถึงเวลาจำเป็นเท่านั้น โปรแกรมที่แยกไปนี้เรียกว่าโปรแกรมซ้อนแทน การเรียกมาใช้ต้องเรียกผ่านโปรแกรมใหญ่อีกทีหนึ่ง (ให้โปรแกรมใหญ่เป็นผู้เรียกให้) โปรแกรมเหล่านี้จะใช้นามสกุลว่า .OVR ซึ่งก็คงมาจากคำ " overlay " นั้นเอง | panentheism | (แพนเนน'ธิอิสซึม) n. ลัทธิหรือความเชื่อที่ว่ามีพระเจ้าอยู่ทั่วโลก ทั่วโลกและทั่วจักรวาล | panlogism | n. ทฤษฎีที่ว่าจักรวาลนั้นครอบคลุมหมด, See also: panlogical adj. panlogistic adj. panlogistical adj. panologist n. | periodic law | n. กฎทางเคมีที่ว่าธาตุต่าง ๆ สามารถแบ่งออกโดยคุณสมบัติเป็นกลุ่ม ๆ (ตารางแบ่งกลุ่มนี้เรียกว่า periodic table), Syn. period system, Mendeleev's law | plunge | (พลันจฺ) vt., vi., n. (การ) จุ่ม, จุ้ม, จ้วง, โผ, พรวด, สอด, ทำให้ถลำเข้า, ผลัก, เป็นหนี้, สถานที่กระโดดน้ำ, สถานที่ว่ายน้ำ -Phr. (take the plunge ตัดสินใจกะทันหัน), Syn. immerse | presentiment | (พรีเซน'ทะเมินทฺ) n. ความรู้สึกที่ว่ามีบางสิ่งบางอย่างจะเกิดขึ้น, ความรู้สึกที่รู้ล่วงหน้า, ความสังหรณ์ใจ., Syn. foreboding | providing | (โพรไว'ดิง) conj. หาก, ถ้า, ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า, Syn. provided, if | realism | (รี'อะลิสซึม) n. ความสนใจในความเป็นจริง, ลักษณะที่เหมือนจริง, การมองสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง, ลัทธินิยมความจริง, ลัทธิเขียนตามความเป็นจริง, ลัทธิที่ว่าจักรวาลเป็นสิ่งที่มีตัวตนจริง ๆ | recycled bin | ถังขยะเป็นศัพท์ที่ใช้ในระบบวินโดว์ 95 ของพีซี (แมคอินทอชใช้ trash) หมายถึง ที่ซึ่งจัดไว้เป็นการเฉพาะสำหรับลากแฟ้มข้อมูลที่ไม่ต้องการทิ้งลงไป สัญรูปก็มีลักษณะเหมือนถังขยะ ใช้เป็นที่ทิ้งสิ่งที่ไม่ต้องการใช้อีกแล้ว (ถ้าเก็บต่อไป จะทำให้เปลืองที่ อย่างน้อยก็ทำให้มีที่ว่างมากขึ้น) มีความหมายคล้ายคำสั่ง delete ในดอสนั่นเอง เมื่อต้องการกำจัดของในถังขยะให้หมดไป ก็ใช้คำสั่ง "empty recycled bin " แต่ถ้าเปลี่ยนใจไม่ลบทิ้ง ก็สามารถเปิดถัง (กดเมาส์ที่ถัง 2 ที) ลากแฟ้มข้อมูลนั้นกลับคืนออกมาได้ | room | (รูม) n. ห้อง, ที่ว่าง, ที่พัก, ช่องว่าง, เนื้อที่, โอกาส, , See also: rooms n. ที่พักอาศัย, คนที่อยู่ในห้อง vi. กินเนื้อที่, พัก, พักอาศัย, อยู่ vt. ขอให้พัก, ขอให้พักอาศัย, Syn. cubicle, chamber | space | (สเพสฺ) n. อวกาศ, ช่องว่าง, ที่ว่างเปล่า, ที่นั่ง ช่องว่างระหว่างบรรทัด, ระยะห่าง, ระยะช่อง, ระยะทาง, ระยะเวลา, หน้ากระดาษ, สลักเปิด vt., vi. เว้นช่อง, เว้นช่องบรรทัด, เว้นระยะ, เว้นวรรค adj. เกี่ยวกับช่องว่าง, เกี่ยวกับอวกาศ, Syn. range, area |
| aperture | (n) ช่อง, ที่ว่าง, รู, โพรง | blank | (n) ช่องว่าง, ที่ว่าง | fallow | (n) ที่รกร้าง, ที่ว่างเปล่า | ichthyology | (n) สัตวศาสตร์แขนงที่ว่าด้วยปลา | opening | (n) ที่ว่าง, ช่อง, รู, การเปิด, ลู่ทาง, โอกาส | promissory | (adj) ซึ่งให้สัญญาไว้, ซึ่งแสดงท่าที่ว่า, ซึ่งให้คำมั่น | room | (n) ที่ว่าง, ห้อง, โอกาส, เนื้อที่, ที่พัก | seat | (n) ที่ตั้ง, ที่นั่ง, ตำแหน่ง, ที่ว่าการ, ทำเนียบ | space | (n) ช่องว่าง, อวกาศ, ที่ว่าง, เนื้อที่, ระยะ, หน้ากระดาษ | vacancy | (n) ความว่าง, ตำแหน่งว่าง, ช่องว่าง, ที่ว่าง | void | (n) ที่ว่างเปล่า, ตำแหน่งว่าง, ช่องว่าง |
| acatalepsy | (n) แนวคิดทางปรัชญาที่ว่าความรู้ของมนุษย์ไม่เคยมีความแน่นอน | Barrister | (n) เนติบริกร เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายประจำศาลในระบบคอมมอนลอว์ มีหน้าที่ว่าความในศาลและให้ความเห็นด้านกฎหมายต่อศาล, Syn. Advocate | ecohydrology | [UK [ ˌɛkəʊhaɪˈdrɒlədʒi ], US [ ˌɛkoʊhaɪˈdrɑːlədʒi ]] (n, uniq) น. นิเวศนุกวิทยา - วิชาที่ว่าด้วยระบบน้ำที่มีอยู่ในโลกและระบบนิเวศ (eco + hydrology: นิเวศ + อุทกวิทยา) | knowledge management | (n) เป็นวิชาที่ว่าด้วยการจัดการความรู้ มีตัวอักษรย่อ (KM) คือ การจัดการความรู้ในองค์กรไม่ให้หายไป (สมองไหล) - เมื่อมีสมาชิกในองค์กรคนหนึ่งคนใดหายไปเพื่อไม่ให้ความรู้หายไปด้วย | malware | (n) Malicious software (mal-ware) is a form of computer program designed with malicious intent. This intent may be to cause annoying pop-up ads with the hope you click on one and generate revenue, or forms of spyware and viruses that can be used to steal your identity or track your activities. รูปแบบหนึ่งของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ถูกออกแบบมาด้วยจุดประสงค์แอบแฝงบางอย่าง จุดประสงค์ดังกล่าวอาจจะเพื่อสร้างหน้าต่างโฆษณาที่เปิดขึ้นมาเองโดยอัติโนมัติ ด้วยความหวังที่ว่าจะให้คุณกดเข้าไปและสร้างรายได้ให้กับบุคคลเหล่านั้น หรือ รูปแบบของ spyware และ ไวรัสคอมพิวเตอร์ ที่สามารถใช้เพื่อการขโมยตัวตนของคุณบนอินเตอร์เน็ต หรือ ติดตามกิจกรรมต่างของคุณ, Syn. Malicious software | Ohio | (n, adj, slang) แปลกๆ, ไม่ดี, ศัพท์ในกลุ่ม generation alpha โดยมาจาก meme ในอินเทอร์เน็ตที่ว่า เรื่องอะไรแย่ๆ ทั้งหลายเกิดใน Ohio ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นชื่อของมลรัฐหนึ่ง ในประเทศสหรัฐอเมริกา | pimiento | (n) พริกฝรั่ง เม็ดใหญ่กลมคล้ายมะเขือเทศ, เครื่องเทศชนิดหนึ่งทำจากพริกที่ว่านี้ | so that | (1) เพื่อที่ว่า... เช่น I go to school so that I may learn something. (2) จึงทำให้… เช่น The birds return every year around March, so that April is a good time to see them. | to the extent that | ในขอบเขตที่ว่า |
| sweatshop | [sweatshop] (n) ร้านค้าหรือโรงงานที่ว่าจ้างคนทำงานหรือเด็กให้ทำงานด้วยชั่วโมงที่ยาวนานแต่ได้ค่าจ้างต่ำ ไม่มีสวัสดิการที่ดีและอยู่ในสภาพที่มีผลต่อสุขภาพ, See also: R. โรงงานนรก | 書面 | [しょめん, shomen] เอกสาร (มักใช้หรือพูดในเวลาที่ต้องการจะกล่าวถึงวิธีการ เช่น บอกด้วยปากเปล่า อย่างกรณี 書面 นี้ก็จะเป็นว่า ด้วยเอกสาร หรืออาจจะใช้ในความหมายในลักษณะที่ว่า ในหน้าเอกสาร) ความแตกต่างระหว่าง 書類 ก็คือ 書類 มักใช้ในความหมายถึงเอกสารทั่วไปโดยปกติ, See also: R. 書類 | 音韻論 | [おんいんろん, on'inron] (n) วิชาที่ว่าด้วยระบบเสียงของภาษา, See also: R. phonology | 地方自治法 | [おんいんろん, chihoujichi hou] พระราชญัติว่าด้วยการปกครองตนเองของท้องถิ่น(พระราชบัญญัติที่ว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น ประเภทต่างๆ เช่น จังหวัด เทศบาล และบทบาทหน้าที่ขององค์กรปกครองท้องถิ่นเหล่านั้นเป็นต้น) |
| 合間 | [あいま, aima] TH: ช่วงที่ว่าง EN: interval |
| Platz | (n) |der, pl. Plätze| ที่นั่ง, สถานที่, ที่ว่างเปล่า | daß | (konj) ที่ว่า (ใช้เป็นคำเชื่อมระหว่างวลี หรืออนุประโยค คล้าย that ในภาษาอังกฤษ) เช่น Ich rechne damit, daß er mich heute anruft. ฉันคาดว่า เขาจะโทรมาหาฉันวันนี้ | haben | (vt) |hat, hatte, hat gehabt| มี เช่น Hast du Essen übrig? เธอมีอาหารเหลือไหม, Haben Sie noch Plätze frei? คุณมีที่ว่างเหลือบ้างไหมคะ | bei | (prep) อยู่ใกล้ๆ เช่น Der Wochenmarkt ist beim Rathaus. ตลาดสดประจำอาทิตย์อยู่ใกล้กับที่ว่าการเมือง | Pragmatismus | (n) |der, nur Sg.| ปฏิบัตินิยม, หลักการหรือปรัชญาที่ว่าผลของการปฏิบัติเป็นแกนหรือความหมายของความรู้ | Rathaus | (n) |das, pl. Rathäuser| ที่ว่าการเมือง (ที่ว่าการอำเภอหรือจังหวัด) Image: | Leergut | (n) |das, nur Sg.| กล่องหรือลังที่ว่างเปล่า, ขวดเปล่าที่สามารถนำไปคืนขวดแล้วได้ค่าขวดเปล่ากลับมา |
| remplir | (vt) 1)เติมสิ่งใดสิ่งหนึ่งลงในภาชนะจนเต็ม, ยึดครองพื้นที่ว่าง Image: | Je vous en prie. | (phrase) ไม่เป็นไร (ใช้ในกรณีที่มีคนขอบคุณเรา มีความหมายเท่ากับ You're welcome.ในภาษาอังกฤษ เป็นภาษาสุภาพ ถ้าพูดกับคนคุ้นเคยกันใช้ประโยคที่ว่า Je t'en prie!), Syn. De rien!, Il n'y a pas de quoi. | espace | (n) |m| ที่ว่าง, พื้นที่, มิติ, อวกาศ |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |