ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ติว, -ติว- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ |
| ติว | (v) cram for an examination, See also: study, mug up, swot, Syn. กวดวิชา, Example: ดวงดอมไม่ได้ไปติว แต่ไปหาซื้อคู่มือการสอบมาอ่านเอง, Thai Definition: เรียนเพิ่มเติมจากที่เรียนมาแล้ว | ชาติวุฒิ | (n) good background, Syn. ชาติกำเนิด, Example: ชีวิตของหล่อนมีเกียรติมีศักดิ์มีศรีทั้งด้วยชาติวุฒิ คุณวุฒิ และวัยวุฒิมากยิ่งกว่าเขามาก | ปกติวิสัย | (n) normality, See also: nature, common, regularity, Syn. ธรรมดา, ปกติ, สามัญ, Ant. ผิดวิสัย, Example: การนันทนาการตลอดจนความสนุกสนานรื่นเริงต่างๆ เป็นสิ่งที่เป็นไปตามปกติวิสัยหรือทำอยู่เป็นประจำ, Thai Definition: ลักษณะที่เป็นไปตามที่เคย | สติวิปลาส | (v) be insane, See also: be mad, be crazy, be mentally ill, be out of one's mind, be crazed, unhinge, Syn. ฟั่นเฟือน, วิปลาส, สติฟั่นเฟือน, บ้า, วิกลจริต, Ant. สติดี, Example: คนโบราณเชื่อว่าอำนาจทางไสยศาสตร์ทำให้สติวิปลาส, Thai Definition: สติผิดปกติไป | สันติวิธี | (n) peaceful means, See also: peaceful way, Example: รัฐบาลควรหาทางออกด้วยสันติวิธี, Thai Definition: วิธีที่ไม่ต้องใช้กำลัง | สันติวิธี | (n) peaceful means, See also: peaceful way, Example: รัฐบาลควรหาทางออกด้วยสันติวิธี, Thai Definition: วิธีที่ไม่ต้องใช้กำลัง | สันตติวงศ์ | (n) royal succession, Example: รัฐบาลกราบบังคมทูล ขอพระราชทานอัญเชิญพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดลขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบสันตติวงศ์ตามกฏมฌเฑียรบาล เป็นรัชกาลที่ 8 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์, Thai Definition: การสืบต่อตระกูลของพระมหากษัตริย์โดยเชื้อสาย, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | สันตติวงศ์ | (n) royal succession, Example: รัฐบาลกราบบังคมทูล ขอพระราชทานอัญเชิญพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดลขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบสันตติวงศ์ตามกฏมฌเฑียรบาล เป็นรัชกาลที่ ๘ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์, Thai Definition: การสืบต่อตระกูลของพระมหากษัตริย์โดยเชื้อสาย, Notes: (บาลี/สันสกฤต) | สืบราชสันตติวงศ์ | (v) succeed to the throne, See also: enthrone, Syn. สืบราชสมบัติ, สืบสาย, สืบตระกูล |
| กฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ | น. กฎหมายที่วางหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการสืบราชสมบัติ. | นิติวิทยาศาสตร์ | น. วิชาที่ว่าด้วยการนำหลักวิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ มาประยุกต์เพื่อแก้ปัญหาทางกฎหมาย และการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีความ. | ปติวัตร | น. ความประพฤติต่อผัว, ความจงรักในผัว. | พฤหัสปติวาร | น. วันพฤหัสบดี, คุรุวาร หรือ ชีววาร ก็ว่า. | ราชสันตติวงศ์ | น. ลำดับชั้นพระบรมราชวงศ์ในการสืบราชสมบัติตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ. ๒๔๖๗. | สติวินัย | น. วิธีระงับอนุวาทาธิกรณ์ของสงฆ์โดยไม่ต้องพิจารณา เพียงแต่สวดกรรมวาจาประกาศความไม่มีโทษของจำเลยไว้ซึ่งเรียกว่า ให้สติวินัย แล้วยกฟ้องของโจทก์เสีย. | สติวิปลาส | (-วิปะลาด) ว. มีสติฟั่นเฟือนคล้ายคนบ้า, สัญญาวิปลาส ก็ว่า. | สันติวิธี | น. วิธีที่จะก่อให้เกิดความสงบ เช่น เจรจาสงบศึกโดยสันติวิธี. | สืบราชสันตติวงศ์ | ก. ครองราชสมบัติสืบต่อจากพระมหากษัตริย์พระองค์ก่อนซึ่งอยู่ในราชวงศ์เดียวกัน เช่น กฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ. ๒๔๖๗, สืบสันตติวงศ์ ก็ว่า. | สืบสันตติวงศ์ | ก. ครองราชสมบัติสืบต่อจากพระมหากษัตริย์พระองค์ก่อนซึ่งอยู่ในราชวงศ์เดียวกัน, สืบราชสันตติวงศ์ ก็ว่า. | อิติวุตตกะ | น. ชื่อคัมภีร์ในพระพุทธศาสนา เป็น ๑ ใน ๙ ส่วนของคัมภีร์นวังคสัตถุศาสน์. (ป.). (ดู นวังคสัตถุศาสน์ ประกอบ). | กฎธรรมดา | น. ความเป็นไปตามปรกติวิสัยของมนุษย์และสังคม. | กามวิตถาร | (กามวิดถาน) น. การประกอบกามกิจที่ผิดปรกติวิสัย เช่น รักร่วมเพศ, การทรมานตนหรือผู้อื่นก่อนหรือในระหว่างร่วมเพศ. | ขวางโลก | ว. แปลกไปจากคนอื่น, ผิดจากปรกติวิสัย. | คดีอาญา | น. คดีที่เกี่ยวกับการกระทำที่กฎหมายบัญญัติว่า เป็นความผิดและมีโทษทางอาญา. | คุรุวาร | น. วันครู คือ วันพฤหัสบดี, ชีววาร หรือ พฤหัสปติวาร ก็ว่า. | คู่โค | น. นาที่ต้องเสียค่านาตามหน้าโฉนดทุก ๆ ปี ผิดกับนาฟางลอย ซึ่งต้องเสียค่านาแต่เฉพาะในปีที่ปลูกข้าว. [ “ที่เรียกว่า นาคู่โค เพราะวิธีเก็บหางข้าวนาชนิดนี้นับจำนวนโค (กระบือ) ที่ใช้ทำนาในที่นั้น ๆ ด้วยถือเป็นยุติว่า โคคู่หนึ่งคงจะทำนาในที่เช่นนั้นได้ผลประมาณปีละเท่านั้น เอาเกณฑ์จำนวนโคขึ้นตั้งเป็นอัตราหางข้าวที่จะต้องเสีย เพราะฉะนั้น นาคู่โค ถึงจะทำหรือมิทำจึงต้องเสียหางข้าว” พงศ. ร. ๒ ]. | ชิงสุกก่อนห่าม | ก. ทำสิ่งที่ยังไม่สมควรแก่วัยหรือยังไม่ถึงเวลา (มักหมายถึงการลักลอบได้เสียกันก่อนแต่งงาน), ใช้เป็นคำสอนหรือเตือนสติว่า อย่าชิงสุกก่อนห่าม. | ชีววาร | น. วันพฤหัสบดี, คุรุวาร หรือ พฤหัสปติวาร ก็ว่า. | ญัตติ | ข้อเสนอเพื่อลงมติ เช่น ผู้แทนราษฎรเสนอญัตติเข้าสู่สภาเพื่อขอให้ที่ประชุมลงมติว่าจะเห็นชอบด้วยหรือไม่ | ญัตติ | หัวข้อโต้วาที เช่น โต้วาทีในญัตติว่า ขุนช้างดีกว่าขุนแผน. | ต่างว่า | สัน. เหมือนว่า, เปรียบว่า, สมมุติว่า. | ตำหนิ | ก. ติว่าบกพร่อง. | ติ๊งต่าง, ติ๋งต่าง | ก. ต่างว่า, สมมุติว่า, ติ๊ต่าง ตี๊ต่าง หรือ ตี๋ต่าง ก็ว่า. | ตีเสียว่า | ก. กะเอาว่า, สมมุติว่า. | เทวาลัย, เทวาวาส | น. ที่ซึ่งสมมุติว่าเป็นที่อยู่ของเทวดา. | นมาซ | น. การปฏิบัติศาสนกิจในศาสนาอิสลามเพื่อชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ ปฏิบัติวันละ ๕ เวลา, ละหมาด ก็เรียก. | นวังคสัตถุศาสน์ | (นะวังคะสัดถุสาด) น. คำสอนของพระศาสดา คือ พระพุทธเจ้า มีองค์ประกอบ ๙ อย่าง คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม เวทัลละ. | ปรนนิบัติ | (ปฺรนนิบัด) ก. เอาใจใส่คอยปฏิบัติรับใช้, ปรนนิบัติวัตถาก ก็ว่า. | ประวัติ, ประวัติ- | (ปฺระหฺวัด, ปฺระหฺวัดติ-, ปฺระหวัด-) น. เรื่องราวว่าด้วยความเป็นไปของคน สถานที่ หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น ประวัติศรีปราชญ์ ประวัติวัดมหาธาตุ. | ปลาจีน | น. ชื่อปลานํ้าจืดขนาดใหญ่หลายชนิดในวงศ์ Cyprinidae มีประวัติว่าชาวจีนได้นำเข้ามาเลี้ยงจากประเทศจีนเพื่อใช้เป็นอาหาร เช่น เฉาฮื้อหรือปลาเฉา [ Ctenopharyngodon idellus (Cuvier) ] เล่งฮื้อหรือปลาเล่ง [ Hypophthalmichthys molitrix (Cuvier) ] ซ่งฮื้อหรือปลาซ่ง ( H. nobilisRichardson) ทั้งยังอาจหมายถึงปลาหลีฮื้อหรือปลาไน [ Cyprinus carpio (Linn.) ] ด้วย. | ปั๊ม | น. เรียกเครื่องยนต์สำหรับสูบน้ำ ว่า เครื่องปั๊มน้ำ, เรียกเครื่องยนต์สำหรับสูบลมหรือแก๊ส ว่า เครื่องปั๊มลม, เรียกเครื่องอุปกรณ์ที่ช่วยทำให้หัวใจกลับเต้นเป็นปรกติว่า เครื่องปั๊มหัวใจ | เปรตวิษัย, เปรตวิสัย | (เปฺรดตะ-) น. ภูมิหรือขอบเขตที่อยู่แห่งเปรต, เปตวิสัย ก็ใช้. (ส. ไปตฺรฺย + วิษฺย; ป. เปตฺติวิสย). | เผื่อว่า | สัน. ถ้าว่า, สมมุติว่า, หากว่า, เช่น เผื่อว่ามากันมาก ๆ จะได้มีที่นั่ง, เผื่อ ก็ใช้. | มกุฎราชกุมาร | (มะกุดราดชะ-) น. ตำแหน่งรัชทายาทที่จะสืบราชสันตติวงศ์ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงสถาปนา. | มหัศจรรย์ | (มะหัดสะจัน) ว. แปลกประหลาดมาก, น่าพิศวงมาก, ผิดปรกติวิสัยของธรรมชาติ. | มิจฉาวาจา | น. “การเจรจาถ้อยคำผิด” คือ ประพฤติวจีทุจริต. | ร้อนวิชา | เร่าร้อนอยากจะแสดงวิชาความรู้พิเศษหรือคาถาอาคมจนผิดปรกติวิสัย. | รากษส | (รากสด) น. ยักษ์ร้าย, ผีเสื้อนํ้า, ชื่อพวกอสูรชั้นต่ำ มีนิสัยดุร้าย ในคัมภีร์โลกทีปกสารว่า เป็นบริวารของพญายม, ในคัมภีร์โลกบัญญัติว่า เป็นบริวารของพระวรุณ, ใช้ รากโษส ก็มี. | ละหมาด | น. การปฏิบัติศาสนกิจในศาสนาอิสลามเพื่อชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ ปฏิบัติวันละ ๕ เวลา, นมาซ ก็เรียก. | แล้วก็แล้วไป | ว. อาการที่พูดปลอบใจหรือให้สติว่า เมื่อเหตุการณ์สิ้นสุดหรือยุติลงแล้ว ก็ไม่ควรเก็บมาเป็นกังวลหรือรื้อฟื้นขึ้นมาอีก. | วางวาย | ก. ตาย เช่น นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ (กฤษณา), วายวาง ก็ว่า. | วิกลจริต | (วิกนจะหฺริด) ว. มีความประพฤติหรือกิริยาผิดปรกติเพราะสติวิปลาส เช่น เขาเป็นคนวิกลจริต ร้องไห้บ้างหัวเราะบ้างโดยไม่มีสาเหตุ, เป็นบ้า. | วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง | น. การเตรียมการและการดำเนินการของเจ้าหน้าที่เพื่อจัดให้มีคำสั่งทางปกครองหรือกฎ และรวมถึงการดำเนินการใด ๆ ในทางปกครองตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง. | วินิบาต | ภพที่ต้องโทษ, ภพที่รับทุกข์, เช่น ทุคติวินิบาต. | วิบัติ | น. พิบัติ, ความฉิบหาย, ความหายนะ, ความเป็นอัปมงคล, เช่น ทรัพย์สมบัติวิบัติ | วิปลาส | (วิปะลาด, วิบปะลาด) ก. คลาดเคลื่อนไปจากธรรมดาสามัญ เช่น สติวิปลาส ตัวอักษรวิปลาส สัญญาวิปลาส. | วิปัสสนายานิก | น. ผู้มีวิปัสสนาเป็นยาน, ผู้ปฏิบัติวิปัสสนาล้วน ๆ โดยมิได้เคยฝึกหัดเจริญสมาธิใด ๆ มาก่อน. | สงฆ์ | ภิกษุตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไปร่วมกันทำสังฆกรรม แต่จำนวนภิกษุที่เข้าร่วมสังฆกรรมแต่ละอย่างไม่เท่ากัน คือในสังฆกรรมทั่ว ๆ ไป เช่น ในการสวดพิธีธรรม สวดอภิธัมมัตถสังคหะ ประกอบด้วยภิกษุ ๔ รูป เรียกว่า สงฆ์จตุรวรรค ในการรับกฐิน สวดพระปาติโมกข์ ปวารณากรรม และอุปสมบทในถิ่นที่ขาดแคลนภิกษุ ต้องประกอบด้วยภิกษุ ๕ รูป เรียกว่า สงฆ์ปัญจวรรค ในการอุปสมบทในถิ่นที่มีภิกษุมาก ต้องประกอบด้วยภิกษุ ๑๐ รูป เรียกว่า สงฆ์ทสวรรค และในการสวดอัพภานระงับอาบัติสังฆาทิเสส ต้องประกอบด้วยภิกษุ ๒๐ รูป เรียกว่า สงฆ์วีสติวรรค, ภิกษุที่เข้าร่วมสังฆกรรมดังกล่าว ถ้ามากกว่าจำนวนที่กำหนดจึงจะใช้ได้ ถ้าขาดจำนวนใช้ไม่ได้. | สมมต, สมมติ, สมมติ-, สมมุติ, สมมุติ- | (สมมด, สมมด, สมมดติ-, สมมุด, สมมุดติ-) สัน. ต่างว่า, ถือเอาว่า, เช่น สมมุติว่าได้มรดกสิบล้าน จะบริจาคช่วยคนยากจน สมมุติว่าถูกสลากกินแบ่งรางวัลที่ ๑ จะไปเที่ยวรอบโลก. |
| peaceful settlement; pacific settlement | การระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | pacific settlement; peaceful settlement | การระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | line of succession | ลำดับการสืบราชสันตติวงศ์, ลำดับการสืบทอดตำแหน่ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | right of accession | สิทธิที่จะสืบราชสันตติวงศ์ (ก. รัฐธรรมนูญ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | Rights, Bill of | บัญญัติว่าด้วยสิทธิพื้นฐานของพลเมือง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | settlement, pacific; settlement, peaceful | การระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | settlement, peaceful; settlement, pacific | การระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | succession, line of | ลำดับการสืบราชสันตติวงศ์, ลำดับการสืบทอดตำแหน่ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | articles of war | บทบัญญัติว่าด้วยระเบียบวินัยกองทัพ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | accession, right of | สิทธิที่จะสืบราชสันตติวงศ์ (ก. รัฐธรรมนูญ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | Bill of Rights | บัญญัติว่าด้วยสิทธิพื้นฐานของพลเมือง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | global property | สมบัติวงกว้าง [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | evolution, emergent | อุบัติวิวัฒนาการ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | emergent evolution | อุบัติวิวัฒนาการ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | italic | ติวเอน [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | ideology | อุดมคติวิทยา, คตินิยม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | vorticism | คติวัฏฏารมณ์ [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | teratology | อปรกติวิทยา [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | Heir to the Throne | รัชทายาท, ผู้สืบสันตติวงศ์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | war, articles of | บทบัญญัติว่าด้วยระเบียบวินัยกองทัพ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| Antivenins | แอนติวีนิน [TU Subject Heading] | Forensic sciences | นิติวิทยาศาสตร์ [TU Subject Heading] | Nettivibhavini | เนตติวิภาวิณี [TU Subject Heading] | Pacific settlement of international disputes | การระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี [TU Subject Heading] | Sarvastivadins | นิกายสรวาสติวาท [TU Subject Heading] | Spiritual biography | ชีวประวัติวิญญาณ [TU Subject Heading] | United Nations Conference on Trade and Development | การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา [TU Subject Heading] | United Nations Convention Against Transnational Organized Crime (2000) | อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร (ค.ศ. 2000) [TU Subject Heading] | United Nations Convention against Corruption (2003) | อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต (ค.ศ. 2003) [TU Subject Heading] | United Nations Convention on Contracts for the International Sale of Goods (1980) | อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสัญญาซื้อขายระหว่างประเทศ (ค.ศ.1980) [TU Subject Heading] | United Nations Convention on the Law of the Sea (1982) | อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (ค.ศ. 1982) [TU Subject Heading] | United Nations Convention on the Carriage of Goods by sea (1978) | อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการขนส่งของทางทะเล (ค.ศ. 1978) [TU Subject Heading] | United Nations Framework Convention on Climate Change (1992). Protocols, etc., 1997 Dec. 11. | อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ค.ศ.1992). พิธีสาร (11 ธ.ค. ค.ศ. 1997) [TU Subject Heading] | Vinayapitaka Vimativinodanitika | วิมติวิโนทนีฏีกา [TU Subject Heading] | United Nations Conference on Trade and Development | ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา, Example: องค์การระหว่างประเทศถือกำเนิดขึ้นจากข้อมติ ของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เมื่อ พ.ศ. 2507 เพื่อแก้ไขปัญหาการค้าระหว่างประเทศของประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะในปัญหาที่แกตต์ (ดู GATT) ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ อังค์แทดเป็นเวทีการประชุมระหว่างประเทศ ที่เปิดโอกาสให้ประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา ปรึกษาหารือร่วมกันแก้ไขปัญหาการค้าและการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งมีผลให้ประเทศกำลังพัฒนาสามารถรวมกลุ่มกัน ใช้เป็นเวทีเรียกร้องให้ประเทศพัฒนาแล้วผ่อนคลาดมาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อ การค้าของประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงให้ประเทศกำลังพัฒนามีบทบาทร่วมในการตัดสินใจ เกี่ยวกับนโยบายและการจัดระบบเศรษฐกิจของโลกมากขึ้น ผลงานสำคัญของที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา เช่น จีเอสพี (ดู GSP) โครงการร่วมโภคภัณฑ์ (ดู Commodity Stabilization Agreements) และจีเอสทีพี (ดู GSTP) อังค์เทดมีสำนักงานอยู่ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีสมาชิกรวม 168 ประเทศ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศสังคมนิยมยุโรปตะวันออก และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา [สิ่งแวดล้อม] | Act on Consular Privileges and Immunities B.E. 2541 | พระราชบัญญัติว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางกงสุล พ.ศ. 2541 [การทูต] | Act on Diplomatic Privileges and Immunities B.E. 2527 | พระราชบัญญัติว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางทูต พ.ศ. 2527 [การทูต] | Bangkok Process | เป็นการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในระดับรัฐมนตรี เพื่อแลกเปลี่ยน ข้อคิดเห็นระหว่างกันอย่างตรงไปตรงมาและสร้างสรรค์เกี่ยวกับแนวทางในการสนับ สนุนกระบวนการสร้างความปรองดองภายในชาติและการพัฒนาประชาธิปไตยในพม่าตาม ?Roadmap towards Democracy in Myanmar? เดิมเรียกว่า Forum on International Support for National Reconciliation in Myanmar ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Bangkok Process ครั้งแรกเมื่อ 15 ธันวาคม 2546 ที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนพิเศษของรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศจาก 12 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย ออสเตรีย จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น พม่า สิงคโปร์ และไทย รวมทั้งนาย Razali Ismail เป็นผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติว่าด้วยพม่าเข้าร่วม [การทูต] | Break of Diplomatic Relations | การตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อสองรัฐตัดความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งกันและกัน เพราะมีการไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรง หรือเพราะเกิดสงคราม จึงไม่มีหนทางติดต่อกันได้โดยตรง ดังนั้น แต่ละรัฐมักจะขอให้มิตรประเทศที่เป็นกลางแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐอีกฝ่ายหนึ่ง ช่วยทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในอีกรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ช่วยดูแลคนชาติของรัฐนั้น ตัวอย่างเช่น ในตอนที่สหรัฐอเมริกากับคิวบาได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกดัน สหรัฐอเมริกาได้ขอให้คณะผู้แทนทางการทูตของสวิส ณ กรุงฮาวานา ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเทศคิวบา ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเช็คโกสโลวาเกียในกรุงวอชิงตัน ก็ได้รับการขอจากประเทศคิวบา ให้ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในสหรัฐอเมริกาถึงสังเกตว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกงสุลจะต้องตัดขาดไปด้วย มาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า ?ถ้าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองรัฐขาดลง หรือถ้าคณะผู้แทนถูกเรียกกลับเป็นการถาวรหรือชั่วคราวก. แม้ในกรณีการขัดแย้งกันด้วยอาวุธ รัฐผู้รับจะต้องเคารพและคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทนด้วยข. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการพิทักษ์สถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทน ให้แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับแก่รัฐผู้รับก็ได้ค. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการอารักขาผลประโยชน์ของคนและคนชาติของตน แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แก่รัฐผู้รับก็ได้ [การทูต] | Exclusive Economic Zone | เขตเศรษฐกิจจำเพาะ คือ บริเวณที่อยู่เลยไปจากและประชิดกับทะเลอาณาเขต สิทธิและเขตอำนาจของรัฐชายฝั่งและสิทธิเสรีภาพของรัฐอื่นถูกกำหนดโดยบท บัญญัติที่เกี่ยวข้องของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล พ.ศ. 2525 [การทูต] | European Union | สหภาพยุโรป สหภาพยุโรปได้มีวิวัฒนาการมาเป็นลำดับ นับแต่การก่อตั้งประชาคมถ่านหินและเหล็กกล้า (European Coal and Steal Community) ในปี พ.ศ. 2494 ต่อมาในปี พ.ศ. 2500 ได้มีการจัดทำสนธิสัญญากรุงโรม (Treaty of Rome) ได้มีการก่อตั้งประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (European Economic Community : EEC) และประชาคมพลังงานปรมาณู (Euratom) ในช่วงเวลานั้นจึงเรียกชื่อกันว่าประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (EEC) ต่อมาได้มีการรวม 3 ประชาคมเข้าด้วยกันและได้มีกฎหมายยุโรปตลาดเดียว (Single European Act) ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2530 เพื่อให้ประชาคมเศรษฐกิจยุโรปเข้าสู่ขั้นตอนการเป็นตลาดร่วมและตลาดเดียวที่ สมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2535 ดังนั้นในทางปฏิบัติจึงเปลี่ยนมาเรียกชื่อเป็นประชาคมยุโรป (European Communities : EC) ตั้งแต่ พ.ศ. 2530 ต่อมาเมื่อสนธิสัญญามาสทริชท์ (Maastricht Treaty) มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2536 ซึ่งได้กำหนดเป้าหมายและขั้นตอนให้ประชาคมยุโรปพัฒนาไปสู่การเป็นสหภาพยุโรป จึงได้เปลี่ยนมาเรียกชื่อในทางปฏิบัติว่า สหภาพยุโรป (European Union : EU) ตั้งแต่ พ.ศ. 2536 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีสมาชิก 15 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน โปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก เดนมาร์ก สวีเดน ไอร์แลนด์ กรีซ ฟินแลนด์ ออสเตรีย [การทูต] | International Conference on Financing for Development | การประชุมนานาชาติว่าด้วยการสนับสนุนทางการเงิน สำหรับการพัฒนา [การทูต] | Inviolability of Residence and Property of Diplomatic Agents | หมายถึง ความละเมิดมิได้ของทำเนียบและทรัพย์สินของตัวแทนทางการทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 30 ว่า ?1. ให้ที่อยู่ส่วนตัวของตัวแทนทางการทูต ได้อุปโภคความละเมิดมิได้และความคุ้มครอง เช่นเดียวกับสถานที่ของคณะผู้แทน 2. ให้กระดาษเอกสาร หนังสือโต้ตอบ และยกเว้นที่ได้บัญญัติไว้ในวรรค 3 ของข้อ 31 ทรัพย์สินของตัวแทนทางการทูตได้อุปโภคและละเมิดมิได้เช่นกัน?วรรค 3 ของข้อ 31 ในอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า มาตรการบังคับคดีไม่อาจดำเนินได้ในส่วนที่เกี่ยวกับตัวแทนทางการทูต (เว้นแต่ในกรณีซึ่งอยู่ภายใต้อนุวรรค (ก) (ข) และ (ค) ของวรรค 1 ของข้อนี้ และโดยเงื่อนไขว่า มาตรการที่เกี่ยวข้องอาจดำเนินไปได้ โดยปราศจาการละเมิด) หรือที่อยู่ของตัวแทนทางการทูต [การทูต] | Organization of American States | คือองค์การของรัฐในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1947 สหรัฐอเมริกา และประเทศต่าง ๆ ในละตินอเมริกา ยกเว้นประเทศนิคารากัวและอีเควดอร์ ได้ตกลงทำสนธิสัญญาระหว่างรัฐในอเมริกาด้วยกัน ณ กรุงริโอเดจาเนโร เพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า สนธิสัญญาริโอ ประเทศเหล่านั้นต่างมุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือกันอย่างมีประสิทธิผล ถ้าหากรัฐในอเมริกาหนึ่งใดถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธหรือถูกคุกคามจาการรุกราน ต่อมาในเดือนเมษายน ค.ศ. 1948 ได้มีการจัดตั้งองค์การของรัฐอเมริกัน (Organization of American States) ขึ้น ณ กรุงโบโกตา ประเทศโบลิเวีย ประกอบด้วยรัฐต่าง ๆ ในอเมริการวม 21 ประเทศ ยกเว้นประเทศแคนาดา เพื่อดำเนินการให้เป็นผลตามสนธิสัญญาริโอ และจัดวางระบบการรักษาความมั่นคงร่วมกันขึ้น กฎบัตร (Charter) ขององค์การได้มีผลบังคับให้เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1951องค์การโอเอเอสนี้ เป็นองค์การส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่ง ภายในกรอบของสหประชาชาติ ประเทศสมาชิกต่างปฏิญาณร่วมกันที่จะทำการธำรงรักษากระชับสันติภาพ ตลอดจนความมั่นคงในทวีปอเมริกา เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุแห่งความยุ่งยากใด ๆ และต้องการระงับกรณีพิพาทที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างประเทศสมาชิกด้วยกันโดย สันติวิธี อนึ่ง ถ้าหากมีการรุกรานเกิดขึ้นก็จะมีการปฏิบัติการร่วมกัน นอกจากนี้ ยังจะหาทางระงับปัญญาหาทางการเมือง ทางการศาล และทางเศรษฐกิจ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างประเทศสมาชิก พร้อมทั้งจะพยายามร่วมกัน ในการหาหนทางส่งเสริมพัฒนาการทางเศรษฐกิจสังคม และวัฒนธรรม สำนักงานใหญ่ขององค์การโอเอเอสตั้งอยู่ ณ กรุงวอชิงตันดีซี นครหลวงของสหรัฐอเมริกา [การทูต] | Open Diplomacy | คือการทูตแบบเปิดเผย อดีตประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน แห่งสหรัฐอเมริกา เป็นบุคคลที่สนับสนุนและเผยแพร่วิธีการทูตแบบเปิดเผยอย่างเต็มที่ หวังจะให้ชุมชนนานาชาติพร้อมใจกันสนับสนุนการทูตนี้เช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1918 วูดโรว์ วิลสัน ได้ประกาศให้โลกทราบนโยบายของท่าน 14 ข้อ ข้อหนึ่งในจำนวนนั้นท่านปรารถนาว่า ในอนาคตประเทศต่าง ๆ ควรจะทำความตกลงกันเกี่ยวกับเรื่องสันติภาพอย่างเปิดเผย และต่อไปไม่ควรจะมีการเจรจาทำความตกลงระหว่างประเทศแบบลับเฉพาะอย่างใดทั้ง สิ้นแม้ว่าโดยทั่วไปจะเห็นพ้องด้วยกับนโยบายข้อแรกของ วูดโรว์ วิลสัน คือ ความตกลงหรือสนธิสัญญาใด ๆ เมื่อตกลงเสร็จสิ้นแล้ว ให้ประกาศเปิดเผยให้โลกทราบ แต่สำหรับข้องสองคือการเจรจาในระหว่างทำสนธิสัญญาให้กระทำกันอย่างเปิดเผย นั้น ส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะเห็นว่าลำพังการเจรจานั้น โดยสารัตถะสำคัญแล้วควรจะถือเป็นความลับไว้ก่อนจนกว่าจะเสร็จการเจรจา ทั้งนี้ เซอร์เดวิด เคลลี่ อดีตนักการทูตอังกฤษเคยให้ทรรศนะว่า การทูตแบบเปิดเผยนั้นเป็นถ้อยคำที่ขัดกันในตัว คือหากกระทำกันอย่างเปิดเผยเสียแล้วก็ไม่ใช่การทูตเกี่ยวกับเรื่องนี้ มาตรา 102 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติว่า ?1. สนธิสัญญาทุกฉบับ และความตกลงระหว่างประเทศทุกฉบับ ซึ่งสมาชิกใด ๆ แห่งสหประชาชาติได้เข้าเป็นภาคี ภายหลังที่กฎบัตรปัจจุบันได้ใช้บังคับ จักต้องจดทะเบียนไว้กับสำนักเลขาธิการโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจักได้พิมพ์ขึ้นโดยสำนักงานนี้ 2. ภาคีแห่งสนธิสัญญา หรือความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่าใด ซึ่งมิได้จดทะเบียนไว้ตามบทบัญญัติในวรรคหนึ่งข้อนี้ ไม่อาจยกเอาสนธิสัญญาหรือความตกลงนั้น ๆ ขึ้นกล่าวอ้างต่อองค์กรใด ๆ ของสหประชาชาติ? [การทูต] | pacific settlement of disputes | การระงับข้อพิพาทด้วยสันติวิธี [การทูต] | Pacific Settlement of International Disputes | หมายถึง การระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี คงจะจำกันได้ว่า ในตอนเสร็จสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศในโลกฝ่ายเสรีซึ่งเป็นผู้ชนะ ต่างมีเจตนาอันแน่วแน่ที่จะหาทางมิให้เกิดสงครามขึ้นอีกในโลก จึงตกลงร่วมกันก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ (Charter of the United Nations)ดังนั้น ข้อ 2 ของกฎบัตรสหประชาชาติจึงได้กำหนดให้ประเทศสมาชิกมีพันธกรณีที่จะต้องหาทางระ งังกรณีพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี และข้อ 33 ของกฎบัตรก็ได้บัญญัติไว้ว่า ?1. ผู้เป็นคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในกรณีพิพาทใด ๆ ซึ่งหากดำเนินอยู่ต่อไป น่าจะเป็นอันตรายแก่การธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ก่อนอื่นจักต้องแสวงหาการแก้ไขโดยการเจรจา ไต่สวน ไกล่เกลี่ย ประนีประนอม อนุญาโตตุลาการ การระงับโดยทางศาล การหันเข้าอาศัยทบวงการตัวแทน การตกลงส่วนภูมิภาค หรือสันติวิธีประการอื่นใดที่คู่กรณีจะพึงเลือก 2. เมื่อเห็นว่าจำเป็น คณะมนตรีความมั่นคงจักเรียกร้องให้คู่พิพาทระงับกรณีพิพาทของตนโดยวิธีเช่น ว่านั้น? [การทูต] | peace making | การทำให้เกิดสันติภาพ เป็นการดำเนินการทางการทูตโดยมักใช้วิธีไกล่เกลี่ย และเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งโดยสันติวิธี [การทูต] | Treaty of Amity and Cooperation | สนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ " เป็นสนธิสัญญาที่จัดทำขึ้นโดยอาเซียนเมี่อปี พ.ศ. 2519 เพื่อกำหนด หลักการดำเนินความสัมพันธ์ในภูมิภาค โดยมีหลักการที่สำคัญได้แก่ การเคารพในอำนาจอธิปไตย ความเท่าเทียมกัน บูรณภาพแห่งดินแดน การไม่แทรกแซงกิจการภายใน การแก้ไขปัญหาโดยสันติ การไม่ใช้หรือขู่ว่าจะใช้กำลัง และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน รวมทั้งมีมาตราเกี่ยวกับแนวทางยุติความขัดแย้งโดยสันติวิธี โดยอาศัยกลไกคณะอัครมนตรี (High Council) ปัจจุบันประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้ง 10 ประเทศ เป็นภาคีสนธิสัญญาฯ " [การทูต] | territorial sea | ทะเลอาณาเขต รัฐทุกรัฐมีสิทธิกำหนดความกว้างของทะเลอาณาเขตของตนได้จนถึงขอบเขตหนึ่งซึ่ง ไม่เกิน 12 ไมล์ทะเล โดยวัดจากเส้นฐานที่กำหนดขึ้นตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล พ.ศ. 2525 [การทูต] | The Hague Peace Conferences | การประชุมสันติภาพ ณ กรุงเฮก ในประเทศเนเธอร์แลนด์ การประชุมนี้ได้กระทำกันเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1899 โดย พระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่สอง ของประเทศรัสเซียเป็นผู้จัดให้มีขึ้น ณ กรุงเฮก เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1899 ที่ประชุมได้รับรองอนุสัญญาว่าด้วยการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติ วิธี ได้ตกลงจัดตั้งศาลซึ่งตัดสินประเทศโดยสันติวิธี พร้อมทั้งได้ตกลงจัดตั้งศาลซึ่งตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการเป็นการถาวร และเสนอแนะให้วางประมวลพิจารณาโดยอนุญาโตตุลาการ ทั้งยังได้ตกลงรับรองอนุสัญญาและปฏิญญาต่าง ๆ หลายฉบับ ในจำนวนนี้ ที่สำคัญที่สุดได้แก่ อนุสัญญาควบคุมกฎหมายและขนบประเพณีว่าด้วยการทำสงครามภาคพื้นดินการประชุม สันติภาพ ณ กรุงเฮกครั้งที่สอง หรือการประชุม ณ กรุงเฮกปี ค.ศ.1907 ตามคำขอร้องของรัฐบาลรัสเซีย ได้มีขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ.1907 วัตถุประสงค์สำคัญของการประชุมคือต้องการปรับปรุงและขยายข้อความในอนุสัญญา ต่าง ๆ ที่ทำไว้เมื่อปี ค.ศ. 1899 ว่าด้วยการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี รวมทั้งกฎหมายและขนบประเพณีเกี่ยวกับสงครามภาคพื้นดิน ตลอดจนรับรองอนุสัญญาเกี่ยวกับกฎหมายและขนมประเพณีของการทำสงครามทางทะเล การประชุม ณ กรุงเฮกครั้งที่สองนี้ยังได้เสนอแนะให้ที่ประชุมกำหนดให้ประเทศผู้ลงนาม รับรองและนำออกใช้ซึ่งร่างอนุสัญญาว่าด้วยการก่อตั้งศาลสถิตยุติธรรม เพื่อพิจารณาโดยอนุญาโตตุลาการอีกด้วย [การทูต] | United Nations Conference on Environment and Development | การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาและสิ่งแวด ล้อม [การทูต] | United Nations Conference on Trade and Development | การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) " เป็นองค์กรของสหประชาชาติที่รับผิดชอบเรื่องการค้า การเงิน การ ลงทุน เทคโนโลยี และการพัฒนาแบบเบ็ดเสร็จ โดยมีหน้าที่เป็นเวทีประสานนโยบายระหว่างรัฐบาล ศึกษาวิเคราะห์สภาวะเศรษฐกิจโลกและให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ประเทศ กำลังพัฒนา ปัจจุบันมีรัฐสมาชิก 190 ประเทศ ประชุมระดับรัฐมนตรีปีละ 4 ครั้ง ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอังค์ถัดครั้งล่าสุด (ครั้งที่ 10) เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2543 " [การทูต] | Work of the United Nations on Human Rights | งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต] | Afferent Activity | กระตุ้นแอ็ฟเฟอเรนท์แอ็คติววิตี [การแพทย์] | Alkyl Substitution | ซับสติวชันหมู่อัลคิล [การแพทย์] | Allosteric Enzymes, Multivalent | เอ็นซัยม์อัลโลสเตอริกมัลติวาเลนต์ [การแพทย์] | Antivenins | เซรุ่มแก้พิษงู, แอนติวีนิน [การแพทย์] | Aromatic Acid Substitution | ซัปสติติวชันในกรดอะโรมาติค [การแพทย์] | Aryl Substitution | ซับสติติวชันหมู่แอริล [การแพทย์] | Conjunctiva | คอนจังไตว่า, เปลือกตาด้านใน, เยื่อบุตา, เยื่อตาขาว, เยื่อตาขาว, บริเวณตาขาว, บริเวณเยื่อตาขาว, เยื่อตาขาว, เยื่อนัยน์ตา, เยื่อบุนัยน์ตา, เยื่อตา, เยื่อบุลูกตา, คอนจังติวา, เยื่อบุนัยน์ตา, เยื่อบุตาขาว [การแพทย์] | Dementia | จิตเสื่อม, อาการทางระบบประสาทคล้ายคนเสียสติ, อาการทางจิตและประสาท, เสื่อมพิการทางจิต, สมองเสื่อม, เฉื่อยชา, ปัญญาเสื่อม, อาการทางประสาท, สติวิปลาส, ความจำเสื่อม, อาการทางระบบประสาทคล้ายคนเสียสติ, จิตปรวนแปร, หลง, โรคสมองเสื่อม, โรควิกลจริตจิตเสื่อม [การแพทย์] | Electronegativity | อิเล็กโตรเนกาติวิตี, การดึงดูดอีเล็คตรอน, มีความรักอีเล็กตรอนสูง, อิเล็คโตรเนกาติวิตี, อีเล็กโตรเนกาทิพวิตี, อิเลคโตรเนคกาทิวิตี้ [การแพทย์] | Electrophilic Aromatic Substitution | อิเลกโตรฟิลิกอะโรมาติกซับสติติวชัน [การแพทย์] | Elements, Multivalent | ธาตุมัลติวาเลนต์ [การแพทย์] | Evaluation, Norm Referenced | การประเมินผลโดยเปรียบเทียบกับเกณฑ์ปกติวิสัย [การแพทย์] | Forensic Sciences | นิติวิทยาศาสตร์ [การแพทย์] | polar covalent bond | พันธะโคเวเลนต์มีขั้ว, พันธะโคเวเลนต์ระหว่างอะตอมที่มีค่าอิเล็กโตรเนกาติวิตีไม่เท่ากัน จึงทำให้เกิดอำนาจไฟฟ้าลบปรากฏอยู่ด้านอะตอมที่มีค่าอิเล็กโตรเนกาติวิตีสูงกว่า และอำนาจไฟฟ้าบวกปรากฏอยู่ด้านอะตอมที่มีค่าอิเล็กโทรเนกาติวิตีต่ำกว่า [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | electronegativity | อิเล็กโทรเนกาติวิตี, ความสามารถในการดึงดูดอิเล็กตรอนของธาตุต่าง ๆ ในโมเลกุลของสารประกอบที่ยึดกันด้วยพันธะโคเวเลนต์ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | hydrogen bond | พันธะไฮโดรเจน, แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลที่เกิดจากอะตอมไฮโดรเจนกับอะตอมของธาตุที่มีขนาดเล็กและมีค่าอิเล็กโทรเนกาติวิตีสูง เช่น F Cl N [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
| Suppose I do. What's it to you? | สมมุติว่ารู้จักล่ะ ลุงจะทำอะไรเหรอ Of Mice and Men (1992) | Suppose... | สมมติว่า... Of Mice and Men (1992) | Well, suppose he get hurt or killed and he can't come back. | สมมติว่าเขาบาดเจ็บหรือถูกฆ่า และเขากลับมาไม่ได้ Of Mice and Men (1992) | Well, just suppose. Suppose he don't come back. What you do then? | แค่สมมติน่ะ สมมติว่าเขาไม่กลับมา นายจะทำยังไงต่อไป Of Mice and Men (1992) | You got George. Suppose you ain't got nobody. | นายมีจอร์จอยู่ สมมติว่านายไม่มีใคร Of Mice and Men (1992) | Suppose you can't go into the bunkhouse and play rummy because you's black. | สมมติว่านายไปบ้านพักและเล่นรัมมี่ไม่ได้ เพราะนายเป็นคนดำ Of Mice and Men (1992) | Suppose you have to sit out here with the mules and read books. | สมมติว่านายต้องนั่งกับลา และอ่านหนังสือ Of Mice and Men (1992) | Oh, extra maths. | เอ่อ มีติวเลขครับ The Cement Garden (1993) | So what ifl had a salad and he had three courses? | สมมติว่าถ้าฉันกินสลัด ส่วนเขากินจานหลักสามจานล่ะ The Joy Luck Club (1993) | What if these kids are involved in some kind of a cult and that man knows something about it? | ฉันคิดว่า มีบางอย่างเคยอยู่ที่นั่น อาจจะ... เป็นการบูชายันสักอย่าง สมมุติว่าเด็กพวกนั้น ร่วมประกอบพีธีอะไรบางอย่าง Deep Throat (1993) | That's assuming Blatch is even still there. | ที่สมมติว่าบลัทช์ยังคงมี The Shawshank Redemption (1994) | - Let's say hello to Figaro. - Hello to Figaro. | สมมติว่าสวัสดีกับฟิกาโร สวัสดี ฟิกาโร Pinocchio (1940) | - Supposing we're wrong? | - สมมุติว่าเราผิดหรือเปล่า? 12 Angry Men (1957) | - Supposing this building fell on my head? | - สมมุติว่าอาคารหลังนี้ลงบนหัวของฉันได้อย่างไร 12 Angry Men (1957) | Supposing we go once around the table? | สมมุติว่าเราไปอีกรอบโต๊ะได้หรือไม่ 12 Angry Men (1957) | Now supposing you tell me what it proves. | ตอนนี้สมมติว่าคุณบอกฉันว่ามันพิสูจน์ 12 Angry Men (1957) | Since the woman saw the killing through the last two cars, we can assume that the body hit the floor just as the train went by. | ตั้งแต่ผู้หญิงที่เห็นการฆ่าผ่านสุดท้ายรถสองคัน เราสามารถสมมติว่าร่างกายกระแทกพื้นเช่นเดียวกับที่รถไฟผ่านไป 12 Angry Men (1957) | Let us assume that the boy really did commit the murder. | ให้เราสมมติว่าเด็กจริงๆไม่ฆ่า 12 Angry Men (1957) | Suppose we ain't got no union cards, and we go in and start playing anyway? | สมมุติว่าพวกเราไม่มีบัตรสหภาพและพวกเราจะเล่นนอกจากนั้น The Blues Brothers (1980) | But just suppose... that it had something to do with the monolith? | แต่สมมติว่าเพียงแค่คิดว่ามัน มีสิ่งที่จะทำอย่างไรกับหินใหญ่ ก้อนเดียว? 2010: The Year We Make Contact (1984) | And to help him, he gave him five sacred stones with magical properties. | และเพื่อช่วยเขาให้เขา ห้าหินศักดิ์สิทธิ์ที่มีคุณสมบัติวิเศษ Indiana Jones and the Temple of Doom (1984) | Wait a minute. Suppose that one of us is the murderer. | เดี๋ยวก่อนนะ สมมติว่าใครคนหนึ่งในเราเป็นฆาตกร Clue (1985) | Just suppose that I told this story. | แค่สมมติว่า ฉันบอกเรื่องนี้นะ Stand by Me (1986) | What's that supposed to mean? | สมมุติว่ามันเป็นไปได้ละ? Akira (1988) | Making up these superheroes of my own. | ...สมมุติว่า... ...ตัวเองเป็นยอดมนุษย์ Punchline (1988) | I took her to the hospital, a natural thing to do. | ฉันพาไปโรงพยาบาลตามปกติวิสัย Casualties of War (1989) | Lf, somehow, a burst of gravity waves escaped from the core, it could distort space-time. | -สมุมติว่ามีคลื่นพลังหลุดออกมาจากแกนปั่น มันจะไปบิดเบนห้วงเวลาทำให้จัสตินดูเหมือนหายไป Event Horizon (1997) | Yeah, but I need a tutor. | ได้ แต่ผมต้องมีคนติว Rushmore (1998) | Artist, inventor, sculptor, naturalist. | ศิลปิน, นักประดิษฐ์, ประติมากร , นักธรรมชาติวิทยา ชาวอิตาลี ในคริสตศตวรรษที่ 15 Pi (1998) | - Imagine if it'd been someone else? | สมมุติว่าถ้าฉันเป็นคนอื่นล่ะ? Show Me Love (1998) | Imagine if I'd be embarrassed myself? | สมมุติว่าฉันต้องอับอายขายหน้าล่ะ? Show Me Love (1998) | If I say it was the truth you'll hate me. | สมมุติถ้าฉันบอกว่ามันเป็นความจริง... ...เธอก็จะเกลียดฉัน แล้วสมมุติว่าฉันโกหก... Brokedown Palace (1999) | Well, if you must know, a small study group of friends. | ถ้าพ่ออยากจะรู้นะคะ ไปติวหนังสือค่ะ 10 Things I Hate About You (1999) | We have these really fun pizza study groups, and we go to these aII-county meets. | เรากินพิซซ่าติวเลขกันสนุกนะ แล้วยังไปนัดเจอกับกลุ่มอื่นในเขตด้วย Never Been Kissed (1999) | OK, so just imagine that the bananas... are the real thing. | เอาล่ะ.. สมมุติว่ากล้วย.. เป็นไอ้นั่น Never Been Kissed (1999) | I suppose if he wishes his son to be tutored in the ways of the West, then I should be quite honored. | สมมติว่า ถ้าพระองค์ต้องการให้พระโอรส ศึกษาู้แบบชาวตะวันตก แม่จะเป็นคนที่น่าเคารพไม่น้อยทีเดียว Anna and the King (1999) | Assuming there is one. | สมมติว่ามันเป็นสิ่งที่ Anna and the King (1999) | Suppose you manage to kill yourself | สมมติว่าเธอฆ่าตัวตายสำเร็จ GTO (1999) | I blew off Greek week to study for the LSATs. | ฉันงดงานสัปดาห์กรีกเพื่อติวสอบ แอลแซท Legally Blonde (2001) | Rule 3.03 of Supreme Judicial Court... states that a law student may appear on behalf... of a defendant in criminal proceedings. | กฎข้อที่ 3 วรรค 3 ศาลสูงสุด... บัญญัติว่านักศึกษานิติศาสตร์สามารถว่าความในฐานะ... ทนายฝ่ายจำเลยในการพิจารณาคดีอาชญากรรม Legally Blonde (2001) | Tutoring. | มีติวเตอร์จ้ะ A Walk to Remember (2002) | And for fun, you tutor on weekends and hang out with the Stars and Planets kids. | และเพื่อความสนุก เธอเลยเป็นติวเตอร์วันเสาร์อาทิตย์ และไปเดินเล่นมองท้องฟ้ากับพวกเด็กๆ A Walk to Remember (2002) | Remind myself I'm a cop every day? | เตือนสติว่าตัวเองเป็นตำรวจ Infernal Affairs (2002) | It was our very own cultural revolution. It was our very own cultural revolution. | มันคือการปฏิวัติวัฒนธรรม ของกลุ่มเราโดยแท้จริง The Dreamers (2003) | I understand that. But let's say that it did. | เข้าใจ แต่สมมุติว่ามันเกิดล่ะ The Dreamers (2003) | Don't you have tutoring lessons today? | วันนี้เธอไม่ไปติวหนังสือเหรอ My Tutor Friend (2003) | You can play it at night before you go to sleep and pretend that it's me singing. | หลานสามารถบรรเลงตอนกลางคืน ก่อนเข้านอน และสมมติว่าย่ากำลังร้องเพลงอยู่ Anastasia (1997) | Oh, come on. Am I supposed to believe that thing woke up after all these years just because some guy claims she's a Romanov? | โอ้ ไม่เอาน่า จะให้ฉันสมมติว่าสิ่งนั้น ได้ปรากฏขึ้นหลังจากปีนั้น Anastasia (1997) | And I suppose the money doesn't interest you, either? | แล้วฉันสมมติว่าคุณคง ไม่ต้องการเงินใช่ไหม? Anastasia (1997) | We must stop wasting money on pie-in-the-sky abstractions and spend it on practical, measurable ways to improve the lives of the people who are paying. | เราต้องหยุดการสูญเสียเงินใน การนามธรรมพายในท้องฟ้า และใช้มันในทาง ปฏิบัติวิธีที่สามารถวัดได้ เพื่อปรับปรุงคุณภาพ ชีวิตของผู้คนที่จะจ่ายเงิน Contact (1997) |
| การปฏิวัติวัฒนธรรม | [kān patiwat watthanatham] (n, exp) EN: cultural revolution FR: révolution culturelle [ f ] | ค่าอิเลกโตรเนกาติวิตี้ | [khā ilēktrōnēkātiwitī] (n, exp) EN: electronegativity FR: électronégativité [ f ] | นักธรรมชาติวิทยา | [nak thammachātwitthayā] (n) EN: naturalist FR: naturaliste [ m ] | นิติวิทยาศาสตร์ | [nitiwitthayāsāt] (n, exp) EN: forensic science | สันติวิธี | [santiwithī] (n) EN: peaceful means ; peaceful way | ธรรมชาติวิทยา | [thammachātwitthayā] (n) EN: natural science FR: sciences naturelles [ fpl ] |
| CIFS | (org) สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม (Central Institute of Forensic Science) |
| accredit | (vt) ให้การยอมรับนับถือ, See also: ให้เกียรติว่า | customarily | (adv) โดยปรกติวิสัย, Syn. commonly, usually | customary | (adj) เป็นปรกติวิสัย, Syn. usual, habitual | if | (conj) ถ้า, See also: ถ้าหากว่า, สมมุติว่า, แม้นว่า, แม้ว่า, ดุจดังที่ | inherent | (adj) ซึ่งมีอยู่เป็นปกติวิสัย, Syn. intrinsic, inseparable, included | lunatic | (n) คนบ้า, See also: คนวิกลจริต, ผู้มีสติวิปลาส, Syn. insane, person | lunatic | (adj) บ้า, See also: วิกลจริต, มีสติวิปลาส, Syn. insane, demented, crazy | nurse through | (phrv) ช่วยทำให้ได้, See also: ช่วยทำให้สำเร็จ, ช่วยติวจนผ่าน การสอบ | succession | (n) การสืบสันตติวงศ์, See also: การสืบสกุล, Syn. heirship, heredity | supposed | (adj) ซึ่งทึกทักว่าเป็นจริง, See also: ซึ่งสมมุติว่าเป็นจริง, Syn. assumed, presumed, Ant. definited, proved | supposing | (conj) สมมุติว่า, See also: ในกรณีที่ว่า, Syn. if, in case that, granting that, presuming |
| anomalistic | (อะนอม' มะลิสทิค) adj. ซึ่งผิดปกติวิปริต, ไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์, ผิดหลัก, ผิดที่ | ansi | (แอนซี) ย่อมาจาก American National Standards Institute ซึ่งราชบัณฑิตสถานบัญญัติว่า "สถาบันมาตรฐานแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา" เป็นสถาบันเอกชน ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ทำหน้าที่กำหนดและควบคุมมาตรฐานของอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ รวมทั้งอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ โดยไม่หวังผลกำไรใด ๆ ทั้งสิ้นดู ANSI C, ANSI character set, ANSI graphics | clan | (แคลน) n. เผ่า, เผ่าพันธุ์, วงศ์, วงศ์ตะกูล, ชาติวงศ์, ครอบครัว, กลุ่มคน, พวก, พ้อง | ethnology | (เอธนอล'โลจี) n. ชาติวงศ์วิทยา, ชาติพันธุ์วิทยา, ชนชาติวิทยา., See also: ethnologic adj. ดูethnology ethnological adj. ดูethnology ethnologist n. ดูethnology | gens | (เจนซฺ) n. ชาติวงศ์, ครอบครัวหมู่คน -pl. gentes | ideology | (ไอดิออล'ละจี) n. มโนคติวิทยา, ความคิดที่เป็นไปไม่ได้, ระบบความนึกคิด | if | (อิฟ) conj. ถ้า, ถ้าหมก, เผื่อ, สมมุติว่า, หาก n. ความไม่แน่นอน, ข้อสมมุต | insanity | (อินแซน'นิที) n. ความมีสติที่ไม่ปกติ, ภาวะสติวิปลาส, ความวิกลจริต, Syn. mania | micro | ไมโครหมายถึง คำที่ใช้นำหน้าคำอื่น มีค่าเท่ากับ 1 /ล้าน เช่น microsecond หรือ ไมโครวินาที ก็เท่ากับ 1 /ล้านวินาที (10 -6) คำ "micro" นั้นแปลแต่เพียงว่า ขนาดเล็กจิ๋ว เช่น microproces sor ราชบัณฑิตยสถานบัญญัติว่า ตัวประมวลแบบจุลภาค เมื่อนำมาใช้กับคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า microcomputer ก็หมายถึงคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก หรือที่บางทีเรียกว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (personal computer) หรือพีซี | norm | (นอร์ม) n. มาตรฐาน, รูปแบบ, แบบแผน, ค่าเฉลี่ย, มาตรฐานการ ศึกษา, ปกติวิสัย | normal | (นอร์'เมิล) adj. ปกติ, ธรรมดา, โดยธรรมชาติ, เป็นประจำ, เป็นมาตรฐาน, มีจิตปกติ, เป็นมุมฉาก, ตั้งฉาก, ซึ่งปราศจากการติดเชื้อ. n. มาตรฐาน, ปกติวิสัย, รูปแบบธรรมดา, ค่าเฉลี่ย, เส้นตั้งฉาก., See also: normality n., Syn. usual | normalcy | (นอร์'เมิลซี) n. ความปกติ, ปกติวิสัย | yogi | (โย'กี) n. โยคี, ผู้ปฏิบัติวิธีโยคะ (ดูYoga) pl. yogis, Syn. yogin | yogini | (โย'กะนี) n. หญิงที่ปฏิบัติวิธีโยคะ |
| ethnography | (n) ชาติพันธุ์วรรณนา, ชาติวงศ์วรรณนา | ethnology | (n) ชาติพันธุ์วิทยา, ชนชาติวิทยา, ชาติวงศ์วิทยา | genealogy | (n) ชาติวงศ์, กำพืด, การลำดับวงศ์ตระกูล | ideology | (n) ลัทธิ, มโนคติวิทยา | if | (con) ถ้า, แม้ว่า, เผื่อ, สมมุติว่า, ถ้าหาก | insane | (adj) บ้า, ประสาท, วิกลจริต, สติวิปลาส | lunatic | (n) คนบ้า, คนวิกลจริต, คนฟั่นเฟื่อน, คนเสียสติ, คนสติวิปลาส | naturalist | (n) นักธรรมชาติวิทยา | spontaneity | (n) ความคล่อง, ความเป็นปกติวิสัย, ความเป็นธรรมชาติ | spontaneous | (adj) โดยตนเอง, เป็นปกติวิสัย, โดยธรรมชาติ, คล่อง | suppose | (vi) สมมุติว่า, คาดคะเน, ทึกทักเอา, จินตนาการ | tutor | (vt) ฝึก, รับจ้างกวดวิชา, สอนพิเศษ, ติวให้ |
| chulatutor | จุฬาติวเตอร์ เป็นสถาบันที่ก่อตั้งโดยพี่เปิ้ล | Foreign Corrupt Practices Act | (n, uniq) รัฐบัญญัติว่าด้วยพฤติกรรมการคอร์รัปชั่นในต่างประเทศ, See also: FCPA | idodature | [ไอโดเดเชอะ] (n) อัตชาติวัตถุ | งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารอยต่อเหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กกล้าไร้สนิม เนื่องจ | งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารอยต่อเหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กกล้าไร้สนิม เนื่องจากมีความแตกต่างด้านสมบัติวัสดุทั้งสองชนิดทำให้เกิดจุดบกพร่องต่างๆทำให้การเชื่อมรอยต่อโลหะทั้งสองได้ค่อนข้างยาก งานวิจัยนี้เพื่อศึกษาปัจจัยการเชื่อมที่มีผลต่อสมบัติเชิงกลความต้านแรงดึงและค่าความแข็งด้วยโปรแกรม ทางสถิติ โดยใช้กระบวนการเชื่อม มิกส์ ลวดเชื่อมสเตนเลสSpeedarc308 Lsi*1.2mm การทดสอบประกอบด้วยโครงสร้างจุลภาค ความแข็ง ความแข็งแรงดึง การดัดโค้ง และการใช้โปรแกรมทางสถิติ กระแสไฟเชื่อม 112A ความเร็วเชื่อ 2 m/s แก๊สปกคลุมแนวเชื่อม Ar 80% + CO2 20 % การทดสอบตามมาตรฐาน ASME BPVC IX ผลการทดสอบค่าความแข็งเฉลี่ย 166.23 HV ความแข็งแรงดึงเฉลี่ย 262.25 MPa การดัดโค้งพบว่าชิ้นงานที่ทำการทดสอบนั้นแตกหัก (Broken) ทั้งหมด จึงสรุปได้ว่าชิ้นงานที่ทำการทดสอบนั้นไม่สามารถรับแรงดัดโค้งได้ การวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมทางสถิติ เมื่อกำหนดค่า α มีค่าเท่ากับ 0.05 พิจารณาอันตรกิริยาจากค่า P-Value Strength เท่ากับ 0.884 และค่าความแข็ง Hardness เท่ากับ 0.227 การทดลองทั้งหมดมีระดับความเชื่อมั่นอยู่ที่ 95% ทำให้การทดลองครั้งนี้ไม่มีอิทธิพลต่อผลการทดลองอย่างนี้นัยสำคัญ คำสำคัญ: เหล็กคาร์บอน SS400 , เหล็กกล้าไร้สนิม SUS304 , การเชื่อมมิก , โปรแกรมทางสถิติ | ทุกขอริยสัจ | [ทุก-อะ-ริ-ยะ-สัต] (n) ทุกขอริยสัจ คือความรู้สึกจากสภาพธรรมชาติ 3 อย่างของมนุษยชาติวิญญูชนคือรู้สึกว่าเกิดมาแล้วจะต้องแสวงหาปัจจัยเครื่องค้ำจุนให้มีชีวิตอยู่รอด รู้สึกร่างกายของตนจะต้องแก่เพื่อพัฒนาไปวัยต่าง ๆ ตามสภาพธรรมชาติ 3 อย่างคือเกิด แก่ และตายของมนุษยชาติ และรู้สึกว่าในที่สุดจะต้องตาย ซึ่งพุทธะศาสดาของศาสนาพุทธเรียกโดยย่อว่า อุปาทานขันธ์ 5 หรือตัวทุกข์หรือตัวปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษยชาติวิญญูชนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ทุก ๆ คนเหมือนกันเป็นตัวทุกข์ในอริยสัจ 4 เมื่อมนุษยชาติวิญญูชนใช้วิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ 4 | ทุกขอริยสัจ | [ทุก-อะ-ริ-ยะ-สัต] (n) ทุกขอริยสัจ คือความรู้สึกจากสภาพธรรมชาติ 3 อย่างของมนุษยชาติวิญญูชนคือรู้สึกว่าเกิดมาแล้วจะต้องแสวงหาปัจจัยเครื่องค้ำจุนให้มีชีวิตอยู่รอด รู้สึกร่างกายของตนจะต้องแก่เพื่อพัฒนาไปวัยต่าง ๆ ตามสภาพธรรมชาติ 3 อย่างคือเกิด แก่ และตายของมนุษยชาติ และรู้สึกว่าในที่สุดจะต้องตาย ซึ่งพุทธะศาสดาของศาสนาพุทธเรียกโดยย่อว่า อุปาทานขันธ์ 5 หรือตัวทุกข์หรือตัวปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษยชาติวิญญูชนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ทุก ๆ คนเหมือนกันเป็นตัวทุกข์ในอริยสัจ 4 เมื่อมนุษยชาติวิญญูชนใช้วิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ 4 | ทุกขอริยสัจ | [ทุก-อะ-ริ-ยะ-สัต] (n) ทุกขอริยสัจ คือความรู้สึกจากสภาพธรรมชาติ 3 อย่างของมนุษยชาติวิญญูชนคือรู้สึกว่าเกิดมาแล้วจะต้องแสวงหาปัจจัยเครื่องค้ำจุนให้มีชีวิตอยู่รอด รู้สึกร่างกายของตนจะต้องแก่เพื่อพัฒนาไปวัยต่าง ๆ ตามสภาพธรรมชาติ 3 อย่างคือเกิด แก่ และตายของมนุษยชาติ และรู้สึกว่าในที่สุดจะต้องตาย ซึ่งพุทธะศาสดาของศาสนาพุทธเรียกโดยย่อว่า อุปาทานขันธ์ 5 หรือตัวทุกข์หรือตัวปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษยชาติวิญญูชนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ทุก ๆ คนเหมือนกันเป็นตัวทุกข์ในอริยสัจ 4 เมื่อมนุษยชาติวิญญูชนใช้วิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ 4 | ทุกขอริยสัจ | [ทุก-อะ-ริ-ยะ-สัต] (n) ทุกขอริยสัจ คือความรู้สึกจากสภาพธรรมชาติ 3 อย่างของมนุษยชาติวิญญูชนคือรู้สึกว่าเกิดมาแล้วจะต้องแสวงหาปัจจัยเครื่องค้ำจุนให้มีชีวิตอยู่รอด รู้สึกร่างกายของตนจะต้องแก่เพื่อพัฒนาไปวัยต่าง ๆ ตามสภาพธรรมชาติ 3 อย่างคือเกิด แก่ และตายของมนุษยชาติ และรู้สึกว่าในที่สุดจะต้องตาย ซึ่งพุทธะศาสดาของศาสนาพุทธเรียกโดยย่อว่า อุปาทานขันธ์ 5 หรือตัวทุกข์หรือตัวปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษยชาติวิญญูชนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ทุก ๆ คนเหมือนกันเป็นตัวทุกข์ในอริยสัจ 4 เมื่อมนุษยชาติวิญญูชนใช้วิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ 4 |
| 若し | [もし, moshi] (prep) ถ้า..., สมมติว่า... |
| 地方自治法 | [もし, chihoujichi hou] พระราชญัติว่าด้วยการปกครองตนเองของท้องถิ่น(พระราชบัญญัติที่ว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น ประเภทต่างๆ เช่น จังหวัด เทศบาล และบทบาทหน้าที่ขององค์กรปกครองท้องถิ่นเหล่านั้นเป็นต้น) | 仮に | [かりに, karini] (adv) สมมติว่า |
| angenommen | (adv, phrase) ถ้า, สมมุติว่า เช่น 1° Angenommen, daß es die Wahrheit ist, würde ich ihn killen. = นี่ถ้ามันเป็นเรื่องจริงนะ ฉันจะไปฆ่ามัน 2° Angenommen, daß du mitfährst, sind wir dann zu viert. = สมมุติว่าเธอไปด้วย ก็จะกลายเป็นสี่คน | angenommen | สมมุติว่า (ใช้บ่งสมมุติฐาน) เช่น Angenommen, wir verpassen den Zug. Was machen wir dann? สมมุติว่าพวกเราตกรถไฟ เราควรทำอะไรต่อ |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |