ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ดำรง, -ดำรง- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ ดำรง | (v) maintain, See also: uphold, sustain, support, remain, conserve, exist, remain, continue, Syn. คง, ดำรงอยู่, คงอยู่, อยู่ยง, คงทน, คงไว้, ทรงไว้, Example: ประเพณีไทยจะดำรงต่อไปถ้าคนไทยช่วยกันส่งเสริมและรักษาไว้ | การดำรง | (n) maintenance, See also: protection, preservation, keeping, Syn. การรักษา, Thai Definition: การรักษาไว้ให้มีอยู่ | การดำรง | (n) living, See also: existence, subsistence, Syn. การคงอยู่, Thai Definition: การมีชีวิตอยู่ | ดำรงชีพ | (v) live, See also: earn one's livelihood, make a living, support oneself, Syn. ครองชีพ, เลี้ยงชีพ, ดำรงชีวิต | ดำรงฐานะ | (v) maintain one's status, See also: sustain, hold, bear, lead, Syn. เป็น, ครอบครอง, Example: ปัจจุบันท่านดำรงฐานะเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้าน | ดำรงอยู่ | (v) hold, See also: occupy, Syn. คงอยู่ได้, อยู่, ธำรง, คงไว้, ชูไว้, ทรงไว้, Example: ขณะนี้เขาดำรงอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรี | ดำรงชีวิต | (v) live, See also: subsist, exist, be alive, Syn. ดำเนินชีวิต, Example: เป็นหน้าที่ของหมอที่ต้องช่วยผู้ป่วยทางจิตเวชให้ดำรงชีวิตอยู่ในชุมชนได้อย่างผาสุก, Thai Definition: ใช้ชีวิตให้คงอยู่ไปตามวัน | การดำรงอยู่ | (n) existence, See also: living, Syn. การดำรงชีวิต, การดำรงชีพ, Example: การรักษาคุ้มครองระบบนิเวศน์จำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงอยู่ของธรรมชาติ | การดำรงอยู่ | (n) existence, See also: living, Syn. การดำรงชีวิต, การดำรงชีพ, Example: การรักษาคุ้มครองระบบนิเวศน์จำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงอยู่ของธรรมชาติ | ดำรงตำแหน่ง | (v) take a position of, See also: take up, take a post of, Example: ผมได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบก, Thai Definition: ทำหน้าที่เป็น, ได้รับหน้าที่เป็น | การดำรงชีวิต | (n) living, See also: existence, Syn. การดำรงอยู่, การดำรงชีพ, Example: ปัจจุบันปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการดำรงชีวิต | การดำรงชีวิต | (n) living, See also: existence, Syn. การดำรงอยู่, การดำรงชีพ, Example: ปัจจุบันปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการดำรงชีวิต | การดำรงตำแหน่ง | (n) holding the post of, See also: being in charge of, holding a position, Example: การดำรงตำแหน่งประธานของบริษัททำให้เขาเครียดจนต้องเข้าร.พ. |
|
| ดำรง | ก. ทรงไว้, ชูไว้, ทำให้คงอยู่, เช่น ดำรงวงศ์ตระกูล ดำรงธรรม, คงอยู่ เช่น ประเทศชาติจะดำรงอยู่ได้ด้วยความสามัคคี. | ดำรง | ว. ตรง, เที่ยง, มั่นคง, เช่น ไผทของไทยทุกส่วน อยู่ดำรงคงไว้ได้ทั้งมวล. (แผลงมาจาก ตรง). | ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง | น. ผู้ซึ่งได้รับเลือกตั้งหรือแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งทางการเมือง เช่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี นายกเทศมนตรี. | กรสานต์ | (กฺระ-) ว. กระสานติ์, สงบ, ราบคาบ, เช่น ดำรงกรษัตรให้กรสานต์ (ยวนพ่าย). | กรอบ ๒ | แทบดำรงตนไปไม่รอด เช่น จนกรอบ. | กระสานติ์ | ว. สงบ, ราบคาบ, กสานติ์ ก็ใช้, เขียนเป็น กรสานต์ ก็มี เช่น ดำรงกรษัตรให้กรสานต์ (ยวนพ่าย). | กเรณุ | (กะเรนุ) น. ช้าง เช่น ไร้เกวียนกาญจนยานสินธพแลสี- พิกากเรณุหัสดี ดำรง (สรรพสิทธิ์). | กลาโหม | (กะลาโหมฺ) น. ชื่อกรมฝ่ายทหารในสมัยโบราณ คือ กรมพระกลาโหม, ชื่อมหาเสนาบดีฝ่ายทหารในสมัยโบราณ ดำรงฐานะเป็นสมุหพระกลาโหม | ครอง | ดำรงไว้, รักษาไว้, เช่น ครองสิกขา ครองชีพ ครองตัว | ครองราชสมบัติ | ก. ดำรงอยู่ในราชสมบัติ. | ค่าครองชีพ | น. ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ. | ค่ายเยาวชน | น. สถานที่ซึ่งจัดขึ้นหรือใช้ฝึกอบรมเยาวชนให้รู้จักการดำรงชีวิตเป็นหมู่คณะ โดยให้ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ให้รู้จักช่วยตัวเอง ช่วยหมู่คณะ รู้จักระเบียบวินัย. | ค้ำจุน | ก. อุดหนุนให้ดำรงอยู่ได้. | จระเข้คับคลอง | น. ผู้ที่ชอบวางตัวใหญ่โตเกินไปย่อมมีอุปสรรคในการดำรงตนในสังคม. | เจ้าอธิการ | น. พระที่ดำรงตำแหน่งเป็นพระอุปัชฌาย์หรือเจ้าคณะตำบลซึ่งไม่มีสมณศักดิ์อย่างอื่น. | เจ้าอาวาส | น. พระภิกษุซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ปกครองวัด. | ชายกระเบน | คำเรียกผู้ชายที่อาศัยน้ำพักน้ำแรงผู้หญิงในการดำรงชีวิต. | ชีพ, ชีพ- | ความดำรงชีวิตอยู่ เช่น ค่าครองชีพ. | ฐายี | ว. ตั้งอยู่, ดำรงอยู่, มักประกอบท้ายศัพท์ เช่น กัปปัฏฐายี ว่า ตั้งอยู่กัปหนึ่ง. | ฐิติ | (ถิติ) น. การตั้งอยู่, การยืนอยู่, การดำรงอยู่ | ตั้ง | ทรง, ดำรง, เช่น ตั้งอยู่ในคลองธรรม ตั้งอยู่ในศีลในธรรม | ถือ | ทรงไว้, ดำรงไว้, เช่น ถือศีล ถือศักดินา | ทะเลทราย | น. อาณาบริเวณที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยทราย มีอากาศหนาวจัดในเวลากลางคืนและร้อนจัดในเวลากลางวัน ยากแก่การดำรงชีวิต มีพืชขึ้นอยู่น้อยมาก. | ที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกา | น. การประชุมของผู้พิพากษาศาลฎีกาและผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาทุกคนเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่มีกฎหมายกำหนด เช่น การวินิจฉัยปัญหาในคดีตามที่ประธานศาลฎีกาเห็นสมควร หรือการเลือกองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง. | ทุนสำรองเงินตรา | น. กองทุนสินทรัพย์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยรักษาไว้ เพื่อดำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพของเงินตรา. | ธนาคารแห่งประเทศไทย | น. ธนาคารกลางที่มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินภารกิจอันพึงเป็นงานของธนาคารกลาง เพื่อดำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพทางการเงินและเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงินและระบบการชำระเงิน, (ปาก) ธนาคารชาติ หรือ แบงก์ชาติ. | ธรมาน | (ทอระมาน) ว. ยังดำรงชีวิตอยู่. | ธรรมฐิติ | น. “การตั้งอยู่แห่งความจริงแท้”, การดำรงอยู่แห่งความจริงแท้คือ สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ สิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตา. | ธรรมธาตุ | น. “การทรงอยู่แห่งความจริงแท้”, การดำรงอยู่แห่งความจริงแท้ คือ สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ สิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตา. | ธรรมนิยาม | น.“การกำหนดแน่นอนแห่งความจริงแท้”, การดำรงอยู่แห่งความจริงแท้ คือ สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ สิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตา. | ธรรมสถิติ | น. “การตั้งอยู่แห่งความจริงแท้”, การดำรงอยู่แห่งความจริงแท้ คือ สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ สิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตา. | นั่งแท่น | ก. ดำรงตำแหน่งที่มีอำนาจวาสนา. | นิล ๒ | (นิน) น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด <i>Oreochromis</i> <i>niloticus</i> (Linn.) ในวงศ์ Cichlidae ลักษณะคล้ายปลาหมอเทศ แต่มีลำตัวสีเขียวหรือฟ้าปนน้ำตาล มีจุดดำด่างทั่วตัว ปลาขนาดเล็กจะมีลายเข้มพาดขวางลำตัว ครีบหลัง ครีบก้น และครีบหางมีลายหรือแนวจุดสีคลํ้าหรือขาวพาดขวางหรือทแยงอยู่โดยตลอด ขนาดยาวได้ถึง ๔๖ เซนติเมตร ทำรังเป็นแอ่งดินและปกป้องดูแลลูกอ่อนไว้ในโพรงปาก สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต ครั้งดำรงพระราชอิสริยยศ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น น้อมเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานชื่อว่า ปลานิล. | ประทัง | ก. ทำให้ทรงอยู่ได้, ทำให้ดำรงอยู่ได้, เช่น เรือนโย้เอาเสาไปคํ้าพอประทังไว้ก่อน กินพอประทังชีวิต. | ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร | น. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งจากหัวหน้าพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรที่สมาชิกในสังกัดของพรรคตนมิได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ. | พงศธร | (-สะทอน) น. ผู้ดำรงวงศ์สกุล, ผู้สืบสกุล. | พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ | น. ข้าราชการฝ่ายปกครองซึ่งดำรงตำแหน่งระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่นายอำเภอหรือปลัดอำเภอซึ่งเป็นหัวหน้ากิ่งอำเภอขึ้นไปถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้ากิ่งสถานีตำรวจที่มียศตั้งแต่ชั้นร้อยตำรวจตรีขึ้นไปจนถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ. | พ่ะย่ะค่ะ | ว. คำรับหรือคำลงท้ายที่ผู้ชายใช้เพ็ดทูลพระราชวงศ์ที่ดำรงพระยศเจ้าฟ้า สันนิษฐานว่ามาจากคำว่า พระพุทธเจ้าข้า. | พุทธกาล | น. สมัยเมื่อพระพุทธเจ้ายังมีพระชนม์อยู่, พุทธสมัย ก็ใช้, (ปาก) ช่วงระยะเวลาที่เชื่อกันว่าหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พระพุทธศาสนาจะดำรงอยู่ ๕, ๐๐๐ ปี. | แมงดา | ชายที่อาศัยนํ้าพักนํ้าแรงของผู้หญิงโสเภณีดำรงชีวิต. | โมเลกุล | น. ส่วนที่เล็กที่สุดของสารซึ่งสามารถดำรงอยู่ได้ตามลำพัง และทั้งยังคงรักษาสมบัติต่าง ๆ ของสารนั้นไว้ได้ด้วย โมเลกุลประกอบด้วยอะตอมของธาตุ, เดิมเรียกว่า อณู. | ยาปนมัต | น. อาหารที่พอจะให้ร่างกายดำรงอยู่ได้. | ยิปซี | น. ชนเผ่าเร่ร่อน เชื้อสายคอเคซอยด์ ผิวคลํ้า เดิมอาศัยอยู่ในอินเดีย เข้าไปเร่ร่อนในยุโรปประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๙-๒๐ ดำรงชีพด้วยการเล่นดนตรี ค้าม้า ทำนายโชคชะตา เป็นต้น. | ยุทโธปกรณ์ | น. วัสดุอุปกรณ์ทั้งปวงและยุทธภัณฑ์ทุกชนิดซึ่งใช้ในราชการทหาร รวมทั้งเครื่องมือยานยนต์ ชิ้นส่วนอะไหล่สาธารณูปโภคอันจำเป็นเพื่อปฏิบัติการรบหรือเพื่อดำรงและสนับสนุนกิจกรรมทางทหารโดยไม่คำนึงถึงว่าจะมีความมุ่งหมายทางธุรการหรือทางการรบ. | ระไว | ก. คอยระวัง เช่น อยู่ระไวต่างองค์ ดำรงรั้งรักษา (ลอ), มักใช้เข้าคู่กับคำ ระวัง เป็น ระวังระไว. | ราชินีนาถ | น. พระราชินีที่ทรงได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทนพระองค์หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และทรงได้รับการสถาปนาพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถ, พระเจ้าแผ่นดินที่เป็นผู้หญิง เช่น พระราชินีนาถวิกตอเรีย. | ลาออก | ก. ขออนุญาตให้พ้นจากสภาพที่ดำรงอยู่ เช่น ลาออกจากการเป็นกรรมการ นักเรียนลาออกจากโรงเรียน. | ลิงนั่งแป้น | น. ผู้ที่เขายกให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญ แต่ไม่มีอำนาจอะไรจริงจัง ต้องทำตามที่เขาสั่ง. | เลขาธิการ | น. ผู้ดำรงตำแหน่งบริหารระดับสูงตำแหน่งหนึ่ง เช่น เลขาธิการสหประชาชาติ เลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน เลขาธิการรัฐสภา เลขาธิการสมาคม. | เลี้ยงชีพ | ก. เลี้ยงตัว, ทำมาหากินเพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่ได้, เลี้ยงอาตมา ก็ว่า. |
| perpetuity | การดำรงอยู่ตลอดชีวิต, การดำรงอยู่ตลอดกาล [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | perpetuity of the king | พระมหากษัตริย์ทรงดำรงตำแหน่งตลอดกาล [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | predecessor | บุพการี, ผู้ดำรงตำแหน่งก่อน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | permanent appointment | การแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งถาวร [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | livelihood | การดำรงชีพ, ทางดำรงชีพ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | reappointment | การแต่งตั้งให้กลับเข้าดำรงตำแหน่ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | subsistence | การดำรงชีพ, การยังชีพ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | accession | ๑. การเข้าดำรงตำแหน่ง๒. ภาคยานุวัติ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | accession | ๑. การได้กรรมสิทธิ์ในส่วนควบของทรัพย์ (ก. แพ่ง)๒. ภาคยานุวัติ (ก. ระหว่างประเทศ)๓. การเข้าดำรงตำแหน่ง (ก. ปกครอง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | appointment, permanent | การแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งถาวร [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | coexist | ดำรงอยู่ร่วมกัน [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] | coexistence | การดำรงอยู่ร่วมกัน [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] | commissary | ๑. ผู้แทนผู้ดำรงตำแหน่ง๒. เกียกกาย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | co-existence | การดำรงอยู่ร่วมกัน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | designation | การแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | designation | การแต่งตั้ง (ให้ดำรงตำแหน่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | existence | ความมีอยู่, การดำรงอยู่ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | investiture | การสถาปนา (เข้าดำรงตำแหน่ง) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | visible means of support | ปัจจัยอันปรากฏชัดสำหรับดำรงชีพ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | term of office | ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | hold office | ดำรงตำแหน่ง, อยู่ในตำแหน่ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | holdover | ผู้ดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| emeritus professor | ศาสตราจารย์กิตติคุณ, ศาสตราจารย์เกียรติคุณ, ตำแหน่งที่แต่งตั้งจากอาจารย์ประจำ ผู้เคยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัย ซึ่งมีความรู้ ความสามารถและความชำนาญเป็นพิเศษ และพ้นจากตำแหน่งไปโดยไม่มีความผิด สภามหาวิทยาลัยอาจแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์กิตติคุณหรือศาสตราจารย์เกียรติคุณในสาขาวิชาที่ศาสตราจารย์นั้นมีความเชี่ยวชาญเพื่อเป็นเกียรติยศได้ <p>ศาสตราจารย์ผู้นี้อาจสอนในมหาวิทยาลัยต่อไปก็ได้ แต่ไม่ใช่ศาสตราจารย์ที่ต่ออายุราชการ บางมหาวิทยาลัยจะปรากฏชื่อศาสตราจารย์กิตติคุณหรือศาสตราจารย์เกียรติคุณแยก จากศาสตราจารย์ธรรมดาในคู่มือการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา <p>การเรียกชื่อศาสตาราจารย์กิตติคุณหรือศาสตราจารย์เกียรติคุณนั้นขึ้นอยู่กับ พระราชบัญญัติของแต่ละมหาวิทยาลัย เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียกว่า ศาสตราจารย์กิตติคุณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรียกว่า ศาสตราจารย์เกียรติคุณ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Mutual fund for resolving capital problem of commercial banks | กองทุนรวมเพื่อแก้ไขปัญหาการดำรงเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์, Example: กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนเพื่อแก้ไขปัญหาการดำรงเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์ โดยจะต้องเป็นกองทุนรวมที่กำหนดอายุโครงการจัดการกองทุนรวมที่แน่นอน [ตลาดทุน] | Assistive Technology | เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก, เครื่องมือ อุปกรณ์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือบริการที่ใช้สำหรับคนพิการหรือผู้สูงวัย หรือที่มีการดัดแปลงหรือปรับใช้ให้ตรงกับความต้องการจำเป็นพิเศษของแต่ละบุคคล เพื่อเพิ่ม รักษา คงไว้ หรือพัฒนาความสามารถและศักยภาพที่จะเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร การสื่อสาร รวมถึงกิจกรรมอื่นใดในชีวิตประจำวันเพื่อการดำรงชีวิตอิสระ [Assistive Technology] | Independent Living | การดำรงชีวิตอิสระ, การดำรงชีวิตอิสระเป็นแนวคิดการเคลื่อนไหวทางสังคม ที่เชื่อว่าคนพิการควรได้รับสิทธิความเป็นพลเมืองและสิทธิการตัดสินใจเช่นเดียวกับผู้ที่ไม่พิการ นั่นหมายถึงเป็นการจัดการชีวิตความเป็นอยู่ของคนพิการให้มีความเป็นอิสระมากที่สุด โดยให้คนพิการได้เลือกตัดสินใจด้วยตนเอง เพื่อใช้ชีวิตอยู่ในชุมชน [Assistive Technology] | Maintenance margin rate | อัตรามาร์จินที่ต้องดำรงไว้, Example: อัตราที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดไว้เป็นเกณฑ์บังคับว่า มูลค่าหลักประกันของลูกค้า (Margin) ที่วางไว้กับบริษัทหลักทรัพย์เมื่อเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ที่ซื้อด้วยเงินกู้ (หรือที่ขายชอร์ต)ไว้จะต้องเป็นอัตราที่สูงกว่าอัตรา Maintenance Margin Rate ที่เป็นเกณฑ์บังคับนี้ ตลาดหลักทรัพย์กำหนด Maintenance Margin Rate ไว้ 2 ระดับ ระดับแรกคือระดับที่ใช้เป็นเกณฑ์ Margin Call (เรียกให้ลูกค้าวางมาร์จินเพิ่ม) เช่นกำหนดไว้ที่ 35% หากมูลค่ามาร์จิน (หรือหลักประกัน) ส่วนที่เหลืออยู่ของลูกค้าเมื่อเทียบกับ มูลค่าหลักทรัพย์ที่ซื้อ (หรือที่ขายชอร์ตไว้) แล้วมีอัตราเท่ากับหรือต่ำกว่า 35% บริษัทหลัก ทรัพย์เจ้าหนี้จะต้องเรียกให้ลูกค้าราย นี้วางมาร์จินเพิ่ม เพื่อให้มาร์จินกลับมาสูงกว่าอัตรา Margin Call ระดับที่สองคือระดับที่ใช้เป็นเกณฑ์ Forced Sell (กรณีเป็น ลูกค้าเงินกู้เพื่อซื้อหลักทรัพย์) หรือเกณฑ์ Forced Buy (กรณีเป็นลูกค้าขายชอร์ต)ระดับที่ สองนี้จะมีอัตราต่ำกว่าระดับแรก เช่น เกณฑ์ Forced Sell กำหนดที่อัตรา 25% เป็นต้น หากมูลค่ามาร์จินที่เหลืออยู่ของลูกค้า เทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ที่ซื้อไว้มีอัตรา ต่ำถึงระดับดังกล่าว บริษัทหลักทรัพย์เจ้าหนี้จะต้องทำการบังคับขายหลักทรัพย์บางส่วน ของลูกค้านั้นเพื่อลดภาระหนี้ของลูกค้า ซึ่งจะมีผลให้มาร์จินของลูกค้าเมื่อเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ที่เหลืออยู่มีอัตราไม่ต่ำกว่า เกณฑ์ Forced Sell นี้ เกณฑ์ Forced Buy ก็เป็นทำนองเดียวกัน (ดู Margin Call, Forced Sell, Forced Buy) ได้ [ตลาดทุน] | Pimps | ชายที่ดำรงชีพด้วยรายได้ของโสเภณี [TU Subject Heading] | Agreement | การที่รัฐที่ผู้จะไปประจำตำแหน่งในรัฐนั้นได้ตกลง เห็นชอบกับบุคคลที่รัฐผู้ส่งเสนอชื่อให้เป็นผู้แทนทางการทูต อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้ บัญญัติไว้ว่า1. รัฐผู้ส่งไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นที่แน่นอนว่า รัฐผู้รับได้ให้ความเห็นชอบแล้ว สำหรับบุคคลที่รัฐผู้ส่งเสนอจะแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไปยังรัฐนั้น2. รัฐผู้รับไม่จำเป็นต้องให้เหตุผลแก่รัฐผู้ส่งในการปฏิเสธไม่ให้ความเห็นชอบ เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตซึ่งรอการถวายสารตราตั้งจะต้องเริ่มดำเนิน การเพื่อเดินทางไปยังรัฐผู้รับในเรื่องนี้ มีตัวอย่างไม่น้อยที่รัฐผู้รับปฏิเสธไม่ให้ความเห็นชอบด้วยเหตุผลบางอย่าง นับตั้งแต่อ้างว่า การเสนอชื่อผู้รับการแต่งตั้งได้กระทำกะทันหันเกินไป และมิได้แจ้งข้อเท็จจริงมาก่อน หรือว่าผู้ที่ได้รับการเสนอให้เป็นผู้แทนทางการทูตผู้นั้นเคยกล่าวตำหนิ วิพากษ์รัฐผู้รับ หรือผู้รับการเสนอชื่อมมีภรรยาเป็นชาวยิว หรือผู้รับการเสนอชื่อถือศาสนาโรมันคาทอลิก หรือผู้นั้นเคยปฏิบัติไม่ดีต่อชนชาติของรัฐผู้รับ หรือผู้นั้นในขณะนั้นกำลังอยู่ในระหว่างถูกฟ้องร้อง ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกง เป็นต้นกล่าวโดยย่อ agr?ment คือ การให้ความเห็นชอบของรัฐผู้รับ แก่บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อจากรัฐผู้ส่งให้เป็นผู้แทนทางการทูตนั่นเอง [การทูต] | Ambassador | เอกอัครราชทูต - Ambassador Extraordinary and Plenipotentiary : เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม หมายถึง เอกอัครราชทูตที่รัฐผู้ส่งแต่งตั้งไปยังรัฐผู้รับ โดยมอบหมายอำนาจให้ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนของรัฐผู้ส่ง ในกรณีที่เอกอัครราชทูตมิได้มีถิ่นพำนักอยู่ในรัฐผู้รับ เรียกว่า Non-resident Ambassador - Ambassador-Designate : ว่าที่เอกอัครราชทูตประจำรัฐผู้รับ หมายถึง บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต แต่ยังมิได้ยื่นสาส์นตราตั้งต่อประมุขแห่งรัฐผู้รับ - Ambassador-at-Large : เอกอัครราชทูตผู้แทนพิเศษ หมายถึง ผู้แทนพิเศษของกระทรวงการต่างประเทศที่มีสิทธิและสถานะเทียบเท่าเอกอัคร ราชทูตผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลงานและกิจการเฉพาะกิจ หรือเฉพาะเรื่องในต่างประเทศเป็นครั้งคราว - Ambassador attached to the Ministry of Foreign Affairs : เอกอัครราชทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ หมายถึง บุคคล ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต มีภารกิจดูแลกิจการภายในของกระทรวงการต่างประเทศ ตามที่ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงการต่างประเทศ - Resident Ambassador : เอกอัครราชทูตผู้มีถิ่นพำนักในประเทศไทย หมายถึง เอกอัครราชทูตของไทยที่ได้รับการแต่งตั้งให้ประจำต่อประมุขแห่งรัฐผู้รับ แต่ยังคงมีถิ่นพำนักอยู่ในรัฐผู้ส่ง เอกอัครราชทูตผู้มีถิ่นพำนักในประเทศไทยนี้ จะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในรัฐผู้รับเป็นครั้งคราว [การทูต] | Amnesty International | องค์การนิรโทษกรรมสากล องค์การนี้เริ่มต้นจากเป็นขบวนการเล็ก ๆ ก่อน เพื่อทำหน้าที่ประท้วง (Protest) แต่ภายในเวลาไม่นานนัก ได้ขยายตัวออกเป็นองค์การ เพื่อให้สมกับเป้าหมายและภารกิจที่ต้องปฏิบัติเพิ่มขึ้นมากมาย คติดั้งเดิมของการรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนบรรดาบุคคลที่ต้องถูกคุม ขังอยู่ทั่วโลก ด้วยข้อหาเกี่ยวกับความเชื่อถือทางการเมืองและการศาสนานั้น ได้บังเกิดจากความคิดของบุคคลหนึ่งชื่อปีเตอร์ เบเนนสันปีเตอร์ เบเนนสัน ได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ประจำวันอาทิตย์ของอังกฤษชื่อ Sunday Observer เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1961 โดยให้หัวเรื่องบทความว่า ?นักโทษที่ถูกลืม? (The Forgotten Prisoners) บทความนี้ได้ประทับใจมติมหาชนทั่วโลกทันที และภายในปีเดียว องค์การได้รับเรื่องร้องเรียนในนามของนักโทษกว่า 200 รายองค์การนิรโทษกรรมสากลมีเป้าหมายนโยบายกว้างๆ อยู่ 3 ข้อ คือ ต้องการให้ปล่อยนักโทษผู้มีนโนธรรม (Prisoners of Conscience) ทั้งหมด ให้มีการยุติการทรมานนักโทษไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ รวมทั้งการลงโทษประหารชีวิตและให้มีการพิจารณาพิพากษาคดีนักโทษการเมืองทั้ง หมดอย่างเป็นธรรมและไม่รอช้า องค์การนี้นอกจากจะมีชื่อเสียงว่าเป็นผู้ดำรงความเป็นกลางไม่เข้ากับฝ่ายใด และเป็นที่น่าเชื่อถือไว้วางใจได้อย่างแท้จริงแล้ว ยังเป็นเสมือนศูนย์ข้อมูลและข้อสนเทศที่สำคัญ ซึ่งบรรดาบุคคลสำคัญๆ ทางการเมืองทั่วโลกได้ใช้อ้างอิงอีกด้วยในปัจจุบัน องค์การนิรโทษกรรมมีสมาชิกและผู้สนับสนุนเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านคน จากประเทศต่างๆ กว่า 150 ประเทศ องค์การอยู่ภายใต้การบริหารของคณะกรรมการบริหารจำนวน 9 คน รวมทั้งตัวเลขาธิการอีกผู้หนึ่ง ทำหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อมติเกี่ยวกับนโยบาย และเป็นหัวหน้าของสำนักเลขาธิการขององค์การด้วย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ องค์การมีผู้แทนของตนประจำอยู่กับองค์การสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ. 1978 ได้รับรางวัลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ และในปี ค.ศ. 1977 ก็ได้รับรางวัลสันติภาพโนเบลมาแล้ว [การทูต] | ASEAN Secretariat | สำนักเลขาธิการอาเซียน " ตั้งอยู่ที่กรุงจาการ์ตา มีหน้าที่ให้การสนับสนุนงานการประชุม ประสานงาน และเสนอข้อคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ และมีเลขาธิการอาเซียนเป็น หัวหน้าสำนักงาน อยู่ในตำแหน่งคราวละ 5 ปี ทั้งนี้ นายแผน วรรณเมธี เป็นคนไทยคนเดียวที่เคยดำรงตำแหน่งนี้ ระหว่าง ปี พ.ศ. 2527-2529 " [การทูต] | Commission on Human Rights | คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เป็นคณะกรรมาธิการหลัก ซึ่งรับผิดชอบในการเสาะหามาตรการในการส่งเสริมเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศ ต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งตรวจสอบและสอดส่องการดำเนินการด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษย ชนในประเทศต่าง ๆ ด้วย คณะกรรมาธิการฯ ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 53 ประเทศ มาจากการเลือกตั้ง ดำรงตำแหน่งวาระละ 3 ปี คณะกรรมาธิการฯ โดยจะมีการประชุมเป็นประจำทุกปี ประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน ณ นครเจนีวา ประเทศไทยได้รับเลือกตั้งเข้าเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการฯ สำหรับวาระ พ.ศ. 2544-2546 [การทูต] | Dean (of the Diplomatic Corps) | คณบดีคณะทูต เอกอัครราชทูตที่อาวุโสที่สุด (ยื่นสาส์นตราตั้งก่อนผู้อื่น) ในประเทศนั้น ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหรือผู้แทนของคณะทูตานุทูต (ในกรณีที่รัฐผู้รับนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิก สมณทูตวาติกันจะดำรงตำแหน่งคณบดีทูต) [การทูต] | Dean (หรือ Doyen) of the Diplomatic Corps | หัวหน้า (Dean) ของคณะทูตานุทูตในนครหลวงของประเทศใดก็ตาม ได้แก่ ตัวทูตที่อาวุโสที่สุด (คือเป็นทูตอยู่ในประเทศนั้นๆ เป็นเวลานานที่สุด) ตัวหัวหน้าคณะทูตานุทูตจะมีลำดับอาวุโสเหนือทุกคนในคณะทูตานุทูต ทำหน้าที่เป็นโฆษกของคณะทูตเมื่อถึงความจำเป็น และเป็นผู้ดูแลและคุ้มครองบรรดาเอกสิทธ์และความคุ้มกันทางการทูตที่คณะ ทูตานุทูตมีอยู่ แต่หน้าที่ที่แท้จริงนั้น โดยมากเกี่ยวกับเรื่องพิธีการทูตมากกว่า อาทิเช่น เมื่อถึงวันที่ระลึกครบรอบวันเกิดประมุขของรัฐ (เช่นวันเฉลิมพระชนมพรรษาในประเทศไทย) Dean ของคณะทูตจะเป็นผู้กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสดังกล่าวในนามของคณะทูตทั้งหมด แต่การที่จะเรียกหรือขอให้บุคคลในคณะทูตไปประชุมเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง นั้น เป็นสิ่งที่ Dean ไม่พึงกระทำ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีผู้แทนทางการทูตคนใดไปร่วมการประชุมระหว่างบุคคลในคณะทูตด้วยกัน เกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศโดยมิได้รับคำสั่งโดยเฉพาะจากรัฐบาลของตนก่อน ภริยาของ Dean หรือ Doyen นั้นเรียกว่า Doyenneเมื่อหัวหน้าคณะทูตวายชนม์ขณะที่ดำรงตำแหน่งอยู่ บุคคลในคณะทูตที่มีอาวุโสรองลงมาหรือเป็นบุคคลที่สองจะเป็นผู้รับช่วงงาน ทันที และมีตำแหน่งเรียกว่า อุปทูตชั่วคราว (Chargé d?Affaires ad interim) ทั้งจะต้องดูว่า เอกสารทางราชการต่าง ๆ โดยเฉพาะเอกสารลับหรือปกปิด จะไม่ทิ้งรวมอยู่กับ เอกสารส่วนตัวของทูตผู้วายชนม์อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทาง การทูต ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1961 จากการประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับการติดต่อและความคุ้มกันทางการทูต ได้บัญญัติไว้ว่า?ข้อ 39 (3) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามี สิทธิที่จะได้รับไปจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป(4) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว ให้รัฐผู้รับอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่ส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้ามในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในคราอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดกและการรับมรดกนั้น ๆ ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับ เพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่ฝ่ายเดียวของผู้วายชนม์ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทนอนึ่ง อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1963 ได้บัญญัติไว้ว่า ?ข้อ 51 ในกรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล หรือของคนในครอบครัว ซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว รัฐผู้รับ(ก) จะอนุญาตให้ส่งออกซึ่งสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ โดยมีข้อยกเว้นแก่ทรัพย์สินเช่นว่า ทรัพย์ใด ๆ ที่ได้มาในรัฐผู้รับนั้น ซึ่งการส่งออกของทรัพย์ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลดังกล่าวถึงแก่มรณกรรม(ข) จะไม่เรียกเก็บอากรกองมรดก อากรสืบช่วงมรดกหรืออากรรับมรดก และอากรการโอน ไม่ว่าจะเป็นอากรของชาติ ของภูมิภาค หรือของเทศบาล จากสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการที่สังหาริมทรัพย์นั้นอยู่ในรัฐผู้รับก็เนื่องมาแต่ฝ่ายเดียว จากการที่ผู้วายชนม์อยู่ในรัฐนั้นฐานะบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุลหรือใน ฐานะคนในครอบครัวของบุคคลในที่ทำการกงสุล? ?ข้อ 53(5) กรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล คนในครอบครัวซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว จะคงได้รับอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ได้ประสาทให้แก่ตนต่อไป จนกว่าตนจะออกไปจากรัฐผู้รับ หรือจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะสามารถให้ตนกระทำดังนั้นได้ แล้วแต่ว่าเวลาไหนจะมาถึงก่อนกัน? [การทูต] | Diplomatic Privilege of Accommodation | มาตรา 21 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตบัญญัติไว้ว่า ?1. รัฐผู้ต้อนรับจะต้องอำนวยความสะดวกตามบทกฎหมายของประเทศของตน ในการจัดการให้ได้มาซึ่งดินแดนของตนให้แก่รัฐผู้ส่ง ซึ่งจำเป็นแก่การปฏิบัติภาระหน้าที่ของรัฐนั้น หรือช่วยเหลือให้รัฐผู้ส่งได้รับอาคารที่พำนักด้วยวิธีการหนึ่งใด 2. ในกรณีจำเป็น รัฐผู้รับจะต้องช่วยให้คณะเจ้าหน้าที่ทางการทูต ได้มีสถานที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม?เมื่อตัวแทนทางการทูตที่เพิ่งได้รับแต่ง ตั้งได้เดินทางไปถึงประเทศที่เขาจะเข้าดำรงตำแหน่ง ซึ่ง ณ ที่นั้นมีคณะผู้แทนทางการทูตของรัฐบาลของเขาประจำทำงานอยู่แล้ว ตามปกติตัวแทนทูตดังกล่าวจะมีสำนักงานทางการทูตตั้งอยู่แล้วในสถานที่เหมาะ สม มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไม้สอยสำหรับการปฏิบัติงานโดยครบครัน และผู้ที่ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าเขาหรืออุปทูตชั่วคราวมักจะเตรียมการไว้ก่อน แล้วเกี่ยวกับที่พักอาศัย เรียกว่าทำเนียบ นอกจากว่าจะมีทำเนียบตั้งอยู่ภายในบริเวณตึกสถานเอกอัครราชทูตซึ่งรัฐบาลของ เขาเป็นเจ้าของเองแต่ถ้าหากตัวแทนทางการทูตที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งใหม่ จะต้องตั้งคณะผู้แทนทางการทูตในประเทศที่เขาเข้าดำรงตำแหน่งเป็นครั้งแรก ก็จะต้องประสบกับปัญหาเรื่องหาสถานที่สำหรับใช้เป็นที่ตั้งสถานเอกอัคร ราชทูตขึ้น ในกรณีเช่นนี้จึงจำเป็นจะต้องอาศัยคำแนะนำและความช่วยเหลือจากกระทรวงการ ต่างประเทศของรัฐผู้รับ กระทรวงการต่างประเทศของบางประเทศจะมีแผนกหนึ่งทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่คณะทูตต่างประเทศโดยเฉพาะ เป็นแผนกหนึ่งในกรมพิธีการทูต ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้อยู่แล้ว [การทูต] | Exequatur | คำนี้แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า ?let him perform? เป็นหนังสือหรืออนุมัติบัตรแสดงการรับรองผู้ที่ดำรงตำแหน่งกงสุลโดยประมุข หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัฐซึ่งกงสุลผู้นั้นได้ถูกส่งไป ประจำ Exequatur เป็นอนุมัติบัตรที่มอบให้กงสุล แสดงว่ามีอำนาจที่จะปฏิบัติตามหน้าที่ของกงสุลทั้งหมด สามารถเป็นหลักฐานที่ใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นภายในเขตอาณัติของกงสุล ด้วย รัฐที่ปฏิเสธไม่ออก Exequatur ให้นั้น ไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผลแก่รัฐผู้ส่งว่าเพราะเหตุผลใดจึงปฏิเสธ ในเรื่องนี้ข้อ 12 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลได้บัญญัติไว้ว่า?1. หัวหน้า สถานที่ทำการทางกงสุล จะเข้าปฏิบัติการหน้าที่ของตนได้ โดยอนุมัติจากรัฐผู้รับเรียกว่า อนุมัติบัตรไม่ว่าการให้อนุมัติจะเป็นไปในรูปใดก็ตาม 2. รัฐซึ่งปฏิเสธไม่ให้อนุมัติบัตรไม่มีพันธะที่จะต้องให้เหตุผลในการปฏิเสธ เช่นว่านั้นแก่รัฐผู้ส่ง 3. ภายในข้อบังคับแห่งบทของข้อ 13 และ 15 หัวหน้าสถานที่ทำการทางกงสุลจะไม่เข้ารับหน้าที่ของตนจนกว่าจะได้รับอนุมัติ บัตรแล้ว? [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Honorary Consul | กงสุลกิตติมศักดิ์ " ได้แก่ บุคคลในท้องถิ่นผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งและมอบหมายให้ดูแล ส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศและคนชาติในพื้นที่ในเขตอาณา และดำเนินการตรวจลงตราหนังสือเดินทางแก่บุคคลที่จะเดินทางเข้าประเทศที่ กงสุลกิตติมศักดิ์เป็นผู้แทน การแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวต้องได้รับความเห็นชอบจากประเทศผู้รับ และต้องยื่นสัญญาบัตร และได้รับอนุมัติบัตรเช่นเดียวกับผู้แทนฝ่ายกงสุลอาชีพ (career consular officer) ทั้งนี้ กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์จะได้รับมอบหมายให้ดูแลเขตอาณาที่ครอบคลุมพื้นที่ กว้างกว่าและสำคัญกว่า ในส่วนของไทย กงสุลกิตติมศักดิ์แตกต่างจากกงสุลอาชีพใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ (1) กงสุลกิตติมศักดิ์ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศที่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม หรือเป็นผู้นำที่มีความสัมพันธ์พิเศษกับไทย (2) กงสุลกิตติมศักดิ์ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งสำนักงาน ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์หรือสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ทั้งหมด (3) กงสุลกิตติมศักดิ์ได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางกงสุลน้อยกว่ากงสุลอาชีพ ในการปฏิบัติงานของกงสุลกิตติมศักดิ์ของไทยจะมีคู่มือกงสุลกิตติมศักดิ์ เป็นระเบียบกฎเกณฑ์และข้อมูลสำหรับการปฏิบัติงาน " [การทูต] | International Court of Justice | ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1945 ตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ กฎข้อบังคับ (Statute) ของศาลโลกนั้นได้ผนวกอยู่ท้ายกฎบัตรของสหประชาชาติ และถือเป็นส่วนสำคัญอย่างแยกจากกันมิได้ของกฎบัตร ศาลนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นองค์กรแห่งศาลหรือแห่งตุลาการสำคัญที่สุดขององค์การสหประชาชาติ ประเทศใดที่เข้าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลก ย่อมมีสิทธิที่จะส่งคดีใดก็ตามไปให้ศาลโลกพิจารณาได้ ภายใต้เงื่อนไขที่คณะมนตรีความมั่นคงได้จัดวางไว้ นอกจากนั้น คณะมนตรีความมั่นคงก็อาจจะส่งกรณีพิพาททางกฎหมายไปให้ศาลพิจารณาได้ทั้ง สมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงสามารถขอคำปรึกษาหรือความเห็นจากศาลเกี่ยวกับ ปัญหาข้อกฎหมายใดๆ และองค์กรอื่น ๆ ของสหประชาชาติ อันรวมถึงองค์การชำนัญพิเศษ ก็สามารถขอคำปรึกษา หรือความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางกฎหมายใดๆ ที่อยู่ภายในกรอบของงานที่ปฏิบัติอยู่ แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับอนุมัติเห็นชอบจากสมัชชาสหประชาชาติก่อน สมัชชาเคยมอบอำนาจเช่นนี้แก่คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะมนตรีภาวะทรัสตี คณะกรรมาธิการระหว่างกาล (Interim Committee) ของสมัชชา รวมทั้งองค์กรระหว่างรัฐบาลบางแห่งด้วยรัฐทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของสหประชา ชาติถือว่าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกไปในตัว ส่วนประเทศใดที่มิใช่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็อาจเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกได้ ตามเงื่อนไขที่สมัชชาสหประชาชาติเป็นผู้กำหนดเป็นราย ๆ ไป ตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง ศาลโลกมีอำนาจที่จะพิจารณาปัญหาทั้งหลายที่รัฐสมาชิกขอให้พิจารณา รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ทั้งหลายที่ระบุอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ และตามสนธิสัญญาหรืออนุสัญญาที่ใช้บังคับอยู่ รัฐสมาชิกย่อมยอมผูกพันตนล่วงหน้าได้ที่จะยอมรับอำนาจศาลในกรณีพิเศษต่าง ๆ โดยจะต้องลงนามในสนธิสัญญา หรืออนุสัญญาซึ่งยอมให้ส่งเรื่องไปที่ศาลได้ หรือออกประกาศเป็นพิเศษว่าจะปฏิบัติเช่นนั้น ในคำประกาศเช่นนั้นจะต้องระบุว่ายอมรับอำนาจบังคับของศาลโลก และอาจจะยกเว้นคดีบางประเภทมิให้อยู่ในอำนาจของศาลได้ ในการวินิจฉัยลงมติ ศาลโลกจะอาศัยแหล่งที่มาของกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้ คือ- สัญญาหรืออนุสัญญาระห่างประเทศซึ่งวางกฎข้อบังคับที่รัฐคู่กรณียอมรับ- ขนบธรรมเนียมระหว่างประเทศซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปตามที่ กฎหมายรับรองศาลโลกอาจจะตัดสินชี้ขาดว่าสิ่งใดยุติธรรมและดี โดยรัฐภาคีที่เกี่ยวข้องตกลงเห็นชอบด้วยคณะมนตรีความมั่นคงอาจจะรับการขอ ร้องจากรัฐภาคีหนึ่งใดในกรณีพิพาท ให้กำหนดมาตรการที่จะใช้เพื่อให้คำตัดสินของศาลมีผลบังคับ ถ้าคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใต้อำนาจศาลศาลโลก ประกอบด้วยผู้พิพากษารวม 15 ท่าน ซึ่งถือกันว่าเป็น ?สมาชิก? ของศาล และได้รับเลือกตั้งจากสมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ผู้พิพากษาเหล่านี้จะมีอำนาจออกเสียงลงคะแนนอย่างอิสระเสรีหลักเกณฑ์การคัด เลือกผู้พิพากษาศาลโลกจะถือตามคุณสมบัติขอผู้พิพากษานั้น ๆ มิใช่ถือตามสัญชาติของบุคคลดังกล่าว อย่างไรก็ดี จะมีการระมัดระวังด้วยว่า กฎหมายที่นำมาใช้ในศาลจะต้องมาจากระบบกฎหมายที่สำคัญ ๆ ของโลก ในศาลโลกจะมีผู้พิพากษาที่เป็นชาติเดียวกันมากกว่าหนึ่งคนไม่ได้ ผู้พิพากษาทั้งหลายจะมีสิทธิ์ดำรงอยู่ในตำแหน่งได้ เป็นเวลา 9 ปี มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งซ้ำได้ และระหว่างที่ดำรงอยู่ในตำแหน่ง จะต้องไม่ประกอบอาชีพการงานอื่นใดทั้งสิ้น [การทูต] | International Law Commission of the United Nations | คือคณะกรรมการกฎหมายระหว่างประเทศของสหประชาชาติ มีวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมปรับปรุงกฎหมายระหว่า ประเทศ รวมทั้งการทำประมวลกฎหมายให้ก้าวหน้าและทันสมัยคณะกรรมาธิการนี้ประกอบด้วย สมาชิกรวม 25 คน ซึ่งได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งสมาชิกคราวละ 5 ปี และจะทำงานในคณะกรรมาธิการในฐานะตัวบุคคล มิใช่เป็นตัวแทนจากประเทศของตน ตลอดการประชุมสมัชชาสหประชาชาติเป็นจำนวนหลายสมัยมาแล้ว คณะกรรมาธิการได้ทำหน้าที่ร่างกฎหมายในเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นกฎหมายระหว่างประเทศเป็นจำนวนไม่น้อย บางเรื่องได้ริเริ่มขึ้นเองโดยคณะกรรมาธิการ แต่บางเรื่องทางสมัชชาสหประชาชาติหรือคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม ได้ส่งไปให้พิจารณาดำเนินการคณะกรรมาธิการได้ร่างสัญญาเกี่ยวกับกฎหมายทาง ทะเลไปแล้วไม่น้อยกว่า 4 ฉบับ เช่น อนุสัญญาว่าด้วยทะเลหลวง อนุสัญญาว่าด้วยอาณาเขตทางทะเลและพื้นที่ติดชายฝั่งอนุสัญญาเกี่ยวกับการจับ ปลา การอนุรักษ์ทรัพยากรที่มีชีวิตในท้องทะเลหลวง พร้อมทั้งได้รับสัตยาบันสารจากประเทศต่าง ๆ ไว้แล้วเป็นจำนวนมาก เมื่อ ค.ศ.1961 และ 1963 คณะกรรมาธิการได้จัดให้มีการประชุมใหญ่สองครั้งตามลำดับ ณ กรุงเวียนนา พร้อมทั้งได้ลงมติรับรองอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต และอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล [การทูต] | Neutralization, Neutrality หรือ Neutralism | คำว่า Neutraliza-tion หมายถึง กระบวนการซึ่งรัฐได้รับการค้ำประกันความเป็นเอกราชและบูรณภาพอย่างถาวรภาย ใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ รัฐที่ได้รับการประกันรับรองให้เป็นกลาง (Neutralized State) เช่นนี้จะผูกมัดตนว่า จะละเว้นจาการใช้อาวุธโจมตีไม่ว่าประเทศใดทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าจะถูกโจมตีก่อน ตัวอย่างอันเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความ เป็นกลางอย่างถาวร คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามปฏิญญา (Declaration) ซึ่งมีการลงนามกัน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1815 ประเทศใหญ่ ๆ ในสมัยนั้น คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษ ปรัสเซีย และรัสเซีย ได้รับรองว่า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม จึงเป็นการจำเป็นที่จะให้รัฐเฮลเวติก(Helvetic Swiss States) ได้รับการประกันความเป็นกลางตลอดไป ทั้งยังประกาศด้วยว่า รัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์ตกลงรับปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้ระบุไว้เมื่อไร ความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์ก็จะได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางในทันที และแล้วสมาพันธ์สวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประกาศยอมรับปฏิบัติตาม หรือให้ภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1815 บรรดาประเทศที่รับรองค้ำประกันความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์จึงประกาศ รับรองดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1815 อนึ่ง การค้ำประกันความเป็นกลางในลักษณะที่ครอบคลุมทั้งประเทศของรัฐใดรัฐหนึ่ง นั้น มีความแตกต่างกับการค้ำประกันเพียงดินแดนส่วนใดส่วนหนึ่งของรัฐหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าดินแดนส่วนหนึ่งของรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางจะ ไม่ยอมให้ฝ่ายใดใช้ดินแดนส่วนที่ค้ำประกันนั้นเป็นเวทีสงครามเป็นอันขาด การค้ำประกันความเป็นกลางยังมีอีกแบบหนึ่งคือ รัฐหนึ่งจะประกาศตนแต่ฝ่ายเดียวว่าจะรักษาความเป็นกลางของตนตลอดไปโดยถาวร แต่ในกรณีเช่นนี้ ความเป็นเอกราชและบูรณภาพของรัฐที่ประกาศตนเป็นกลางเพียงฝ่ายเดียว จะไม่ได้รับการค้ำประกันร่วมกันจากรัฐอื่น ๆ แต่อย่างใดส่วนคติหรือลัทธิความเป็นกลาง (Neutralism) เป็นศัพท์ที่หมายถึงสถานภาพของรัฐต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการน้ำประเทศของตนเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสงครามเย็น ( Cold War) ที่กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ระหว่างกลุ่มประเทศภาคตะวันออกกับกลุ่มประเทศภาค ตะวันตก นอกจากนี้ ผู้นำบางคนในกลุ่มของรัฐที่เป็นกลาง ไม่เห็นด้วยกีบการที่ใช้คำว่า ?Neutralism? เขาเหล่านี้เห็นว่าควรจะใช้คำว่า ?ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด? ( Uncommitted ) มากกว่าจะเห็นได้ว่า คำว่า ?ความเป็นกลาง? ( Neutrality ) นั้น หมายถึงความเป็นกลางโดยถาวร ซึ่งได้รับการค้ำประกันจากกลุ่มประเทศกลุ่มหนึ่ง เช่นในกรณีประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้หรือหมายถึงความเป็นกลางเฉพาะในดินแดน ส่วนหนึ่งของรัฐที่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปทำสงครามกันในดินแดนที่เป็นกลางส่วน นั้นเป็นอันขาดก็ได้ ดังนั้น พอจะเห็นได้ว่า แก่นแท้ในความหมายของความเป็นกลาง ( Neutrality) จึงอยู่ที่ท่าที หรือ ทัศนคติของประเทศที่ดำรงตนเป็นกลาง ไม่ต้องการเข้าข้างประเทศคู่สงครามใด ๆ ในสงคราม ในสมัยก่อนผู้คนยังไม่รู้จักความคิดเรื่องความเป็นกลางดังที่รู้จักเข้าใจ กันในปัจจุบัน ความเป็นกลางเป็นผลมาจากการทยอยวางหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของความเป็นกลาง นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน [การทูต] | Niccolo Machiavelli (1469-1527) | คือรัฐบุรุษและปรัชญาเมธีทางการเมืองของสาธารณรัฐ ฟลอเรนส์ (Florence) ระหว่างรับราชการ ท่านดำรงตำแหน่งฝ่ายธุรการหลายตำแหน่งซึ่งไม่สู้มีความสำคัญเท่าใด แต่สิ่งที่ท่านสนใจมากที่สุดได้แก่ศิลปะของการเมือง หนังสือสำคัญ ๆ ที่ท่านประพันธ์ขึ้นไว้คือ The Prince เล่มหนึ่ง อีกเล่มหนึ่งชื่อ The Art of War และอีกเล่มหนึ่งคือ Discourses on the First Ten Books of Livyมีนักเขียนหลายคนวิพากษ์ Machiavelli ที่แสดงความเห็นสนับสนุนว่า รัฐบาลใดก็ตมที่ต้องการรักษาอำนาจการปกครองตนให้เข้มแข็งไว้ ย่อมจะใช้วิถีทางใด ๆ ก็ได้ ถึงแม้หนทางเช่นนั้นจะผิดกฎหมายหรือไร้ศีลธรรมก็ตาม และก็มีนักเขียนอีกหลายคนสนับสนุนท่าน โดยชี้ให้เห็นว่า ท่านเป็นแต่เพียงตีแผ่ให้เห็นพฤติกรรมที่แท้จริงของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในยุคสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่มากกว่าอย่างอื่น อาทิเช่น ในหนังสือ The Prince ของท่านตอนหนึ่งอ้างว่า การต่อสู้นั้นมีอยู่สองวิธี วิธีแรกเป็นการต่อสู้โดยวิถีทางกฎหมาย อีกวิธีหนึ่งคือการต่อสู้โดยใช้กำลัง (Force) วิธีแรกนั้นเป็นวิธีที่มนุษย์พึงใช้ ส่วนวิธีที่สองเป็นวิธีเยี่ยงสัตว์ป่า แต่การใช้วิธีแรกมักจะไม่ค่อยได้ผลเสมอไป เพราะไม่เพียงพอ ก็ย่อมจะหันเข้าใช้วิธีที่สองได้ ฉะนั้น ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้น ซึ่ง Machiavelli เรียกว่า Prince จึงจำเป็นต้องรู้ดีว่าจะใช้ทั้งวิธีที่มนุษย์จะพึงใช้ และวิธีเยี่ยงสัตว์ป่าอย่างไร ด้วยเหตุนี้ ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้นไม่จำเป็นต้องมีสัจธรรม หากการกระทำนั้น ๆ จะทำความเสียหายแก่ผลประโยชน์ของประเทศ ท่านเห็นว่า หากมนุษย์ทุกคนเป็นคนดี กฎเช่นนี้ก็เป็นกฎที่ไม่ถูกต้อง แต่โดยที่มนุษย์ไม่ใช่คนดีทั้งหมด ในเมื่อเขาไม่ยอมให้ความศรัทธาความไว้วางใจในตัวท่าน ก็ไม่มีอะไรที่จะมาห้ามมิให้ท่านเลิกศรัทธากับเขาเหล่านั้นได้ [การทูต] | Personal Diplomacy | คือการเจรจากันโดยตรงระหว่างรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงต่างประเทศด้วยกัน ส่วนการเจรจากันโดยตรงระหว่างประมุขของรัฐ หรือหัวหน้าของรัฐบาล แต่เดิมก็จัดอยู่ในประเภทการมทูตส่วนบุคคล แต่มาในปัจจุบันนี้ มักนิยมเรียกกันว่าเป็นทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) แยกออกต่างหากจากการทูตส่วนบุคคลมีผู้สังเกตการณ์หลายคนเตือนว่า ในกรณีที่เกิดเรื่องหรือปัญหาที่ยังคาราคาซังอยู่นั้น ไม่ควรหันเข้าใช้วิธีส่งผู้แทนพิเศษจากนครหลวงไปแก้ปัญหา ควรให้เอกอัครราชทูตเป็นผู้ดำเนินการมากกว่า เพราะประการแรก การกระทำเช่นนั้นยังผลเสียหายต่อศักดิ์ศรีของตัวเอกอัครราชทูตเอง ทั้งยังกระทบกระเทือนต่อการที่เขาจะปฏิบัติงานให้ประสบผลอย่างเต็มที่ ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้นในภายหน้าด้วย อีกประการหนึ่ง จะพึงคาดหมายได้อย่างไรว่า ตัวผู้แทนพิเศษที่ส่งไปนั้นจะมีความรอบรู้เกี่ยวกับภูมิหลังของปัญหา รวมทั้งตัวบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเท่ากับตัวเอกอัครราชทูตเอง ซึ่งได้ประจำทำงานอยู่ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ณ ที่นั่น แม้แต่ แฮโรลด์ นิโคลสัน ก็ไม่เห็นด้วย และได้เตือนว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศหนึ่งไปเยือนและพบปะกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอีกประเทศหนึ่งบ่อย ๆ นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำและไม่ควรสนับสนุน เพราะการกระทำเช่นนี้ นอกจากจะทำให้ประชาชนคาดหมายไปต่าง ๆ นานาแล้ว ยังจะทำให้เกิดเข้าใจผิด และเกิดความสับสนขึ้นมาได้แม้แต่ผู้รอบรู้ในเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติทางการ ทูตบางคนก็ยังแคลงใจว่า การทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) จะได้ประโยชน์และให้ผลจริง ๆ หรือไม่ นอกจากเฉพาะในกรณียกเว้นจริง ๆ เท่านั้น บ้างเห็นว่า การพบปะเจรจาแบบสุดยอดมักจะกลายสภาพเป็นการโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์มากกว่า ที่จะเป็นการเจรจากันอย่างแท้จริง เพราะมีอันตรายอยู่ว่า ผู้ร่วมเจรจามักจะแสดงความคิดเห็นตามความรู้สึกมากกว่าตามข้อเท็จจริง เพราะมัวแต่เป็นห่วงและคำนึงถึงประชามติในประเทศของตนมากเกินไปนอกจากนี้ ผู้เจรจาไม่อยู่ในฐานะที่จะให้ข้อลดหย่อนหรือทำการประนีประนอม ( ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งหากจะให้เจรจาบังเกิดผล) เพราะกลัวเสียหน้าหากกระทำเช่นนั้น ตามปกติ ถ้าให้นักการทูตเป็นผู้เจรจา เขาจะมีโอกาสมากกว่าที่จะใช้วิธีหลบหลีกอันชาญฉลาดในการเจรจาต่อรอง เพื่อให้เป็นผลตามที่มุ่งประสงค์ [การทูต] | Political Appointee | หมายถึง บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งด้วยเหตุผลทางการเมือง คือ ผู้ที่มิได้มีอาชีพทางการทูตโดยแท้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูต ซึ่งต่างกับนักการทูตอาชีพ (Career diplomat) ในประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหภาพโซเวียต ธรรมเนียมปฏิบัติโดยทั่วไปจะแต่งตั้งเฉพาะบุคคลที่มีอาชีพนักการทูตแท้ ๆ เข้าดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตและอัครราชทูต อย่างไรก็ดี เฉพาะในกรณีพิเศษจริง ๆ เท่านั้นจึงจะแต่งตั้งบุคคลจากภายนอก และบุคคลจากภายนอกที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตได้รับผลสำเร็จในการ ปฏิบัติหน้าที่ก็มีอยู่หลายราย ทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก แฮโรลด์ นิโคลสัน ได้ให้ความเห็นไว้ในหนังสือเรื่องการทูตของท่านว่า ในประเทศใหญ่ ๆ เป็นที่พึงปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้นักการทูตอาชีพเท่านั้นเป็นผู้รับผิดชอบ ในการดำเนินนโยบายการต่างประเทศ เพราะได้ผ่านการศึกษาและฝึกฝนในวิชาการทูตมาเป็นอย่างดีแล้ว ส่วนเอกอัครราชทูตที่แต่งตั้งจากคนภายนอกจะมีข้อเสียบางอย่าง เช่น ในการเขียนรายงานไปยังรัฐบาล เช่น รายงานการเมือง เขาอาจมุ่งแต่จะอวดความเฉียบแหลมของเขาเอง และร้อยกรองคำอย่างไพเราะเพราะพริ้ง มากกว่าที่จะมุ่งเสนอรายงานข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบและมีเหตุผลอันสมควร เป็นต้น [การทูต] | Security Council of the United Nations | คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีนี้ประกอบด้วยสมาชิกถาวร (Permanent members) 5 ประเทศ คือ จีน ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต อังกฤษ และสหรัฐฯ และมีสมาชิกไม่ถาวร (Non-permanent members) อีก 10 ประเทศ ซึ่งสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเป็นผู้เลือกตั้ง และให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งประเทศละ 2 ปี สมาชิกประเภทนี้ไม่มีสิทธิรับเลือกตั้งใหม่ในทันที และในการเลือกตั้งจะคำนึงส่วนเกื้อกูลหรือบทบาทของประเทศผู้สมัครที่มีต่อ การธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งที่มีต่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ขององค์การสหประชาชาติด้วย ในการเลือกตั้ง จะคำนึงถึงการแบ่งกลุ่มประเทศสมาชิกดังนี้คือ ก. 5 ประเทศจากแอฟริกาและเอเชียข. 1 ประเทศจากยุโรปตะวันออกค. 2 ประเทศจากละตินอเมริกาง. 2 ประเทศจากยุโรปตะวันตก และประเทศอื่น ๆหน้าที่ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีดังนี้1. ธำรงรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ2. สอบสวนเกี่ยวกับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งระหว่างประเทศ3. เสนอแนะวิธีที่จะใช้กรณีพิพาทเช่นว่านั้น หรือ เงื่อนไขที่ให้มีการตกลงปรองดองกัน4. วางแผนเพื่อสถาปนาระบบการควบคุมกำลังอาวุธ5. ค้นหาและวินิจฉัยว่ามีภัยคุกคามต่อสันติภาพ หรือ เป็นการกระทำที่รุกรานหรือไม่ แล้วเสนอแนะว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร 6. เรียกร้องให้สมาชิกประเทศที่ทำการลงโทษในทางเศรษฐกิจ และใช้มาตรการอื่น ๆ ที่ไม่ถึงขั้นทำสงคราม เพื่อป้องกันมิให้เกิดหรือหยุดยั้งการรุกราน7. ดำเนินการทางทหารตอบโต้ฝ่ายที่รุกราน8. เสนอให้รับประเทศสมาชิกใหม่ รวมทั้งเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ ในการที่จะเข้าเป็นภาคีตามกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ 9. ทำหน้าที่ให้ภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ ในเขตที่ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์10. เสนอแนะให้สมัชชาสหประชาชาติ แต่งตั้งตัวเลขาธิการและร่วมกับสมัชชาในการเลือกตั้งผู้พิพากษาศาลโลก11. ส่งรายงานประจำปีและรายงานพิเศษต่อสมัชชาสหประชาชาติบรรดาประเทศสมาชิกของสห ประชาชาติ ต่างตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อมติใด ๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง ทั้งยังรับรองที่จะจัดกำลังกองทัพของตนให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงหากขอร้อง รวมทั้งความช่วยเหลือและและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ [การทูต] | Bacteria, Anaerobic | แบคทีเรียชนิดแอนแอโรบิก, พวกที่ไม่จำเป็นต้องใช้ก๊าซออกซิเจนในการดำรงชีวิต, แอนแอโรบิคแบคทีเรีย, แบคทีเรียเจริญเติบโตได้โดยไม่ต้องมีอ๊อกซิเจน [การแพทย์] | Endocrine Glands, Nonessential | ไม่ใช่ต่อมที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต [การแพทย์] | คุณภาพชีวิต | คุณภาพชีวิต, ความรู้สึกพึงพอใจในเรื่องต่าง ๆ อันเป็นความต้องการของตัวบุคคล ที่มีการดำรงชีพของมนุษย์ในระดับที่เหมาะสมตามความจำเป็นพื้นฐานในสังคม หนึ่ง ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง โดยจะมีเกณฑ์ความจำเป็นพื้นฐานที่ต้องบรรลุแต่ละด้าน หรือกำหนดเป็นตัวชี้วัด จึงเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงระด [สุขภาพจิต] | protocooperation | การได้รับประโยชน์ร่วมกัน, ความสัมพันธ์แบบหนึ่งของสิ่งมีชีวิต 2 ชนิดที่ต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์ซึ่งกันและกันในขณะที่มาดำรงชีพร่วมกัน แต่สิ่งมีชีวิตทั้ง 2 ชนิดนั้นไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เช่น นกเอี้ยงเกาะบนหลังควาย เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | budding | การแตกหน่อ, การแตกตา, การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศแบบหนึ่ง เกิดขึ้นโดยส่วนของเซลล์ หรือกลุ่มเซลล์เจริญยื่นออกมาจากลำตัวหรือลำต้นเดิม แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงรูปร่างจนคล้ายตัวเดิมหรือต้นเดิม จากนั้นจะเจริญขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดสามารถจะดำรงชีวิตได้ด้วยตนเอง มักพบในสิ่งมีชีวิตชั้นต [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | predation | การล่าเหยื่อ, วิธีการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิตที่คอยล่าสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เป็นอาหาร [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | respiration | การหายใจ, กระบวนการสลายโมเลกุลของอาหารในสิ่งมีชีวิตเพื่อให้ได้พลังงานในการดำรงชีวิต มี 2 ชนิด คือ การหายใจแบบใช้ออกซิเจน และการหายใจแบบไม่ใช้ออกซิเจน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | aerobic respiration | การหายใจแบบใช้ออกซิเจน, การสลายโมเลกุลของอาหารในสิ่งมีชีวิตเพื่อให้ได้พลังงานในการดำรงชีวิต โดยใช้ออกซิเจนเข้าไปทำปฏิกิริยา [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | crustose lichen | ครัสโตสไลเคน, ไลเคนที่สามารถดำรงชีวิตอยู่บนก้อนหินหรือในที่แห้งแล้งได้ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | saprophytism | ภาวะย่อยสลาย, สภาพการดำรงชีวิตของผู้ย่อยอินทรียสารซึ่งดำรงชีพโดยได้พลังงานจากการย่อยสลายซากของสิ่งมีชีวิต เช่น พวกเชื้อรา แบคทีเรีย เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | autotrophic bacteria | แบคทีเรียที่สร้างอาหารได้เอง, แบคทีเรียที่ดำรงชีวิตโดยสร้างอาหารได้เองจากการสังเคราะห์ด้วยแสงหรือสังเคราะห์ทางเคมี [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | nitrifying bacteria | ไนตริไฟอิงแบคทีเรีย, แบคทีเรียที่ดำรงชีวิตโดยการออกซิไดส์อนุมูลแอมโมเนียให้เป็นสารประกอบไนไตรต์หรือไนเตรต [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | omnivore | ผู้บริโภคทั้งพืชและสัตว์, สิ่งมีชีวิตดำรงชีพอยู่ได้โดยได้รับพลังงานจากการกินทั้งพืชและสัตว์ เช่น คน ไก่ เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | herbivore | ผู้บริโภคพืช, สัตว์ที่ดำรงชีวิตโดยอาศัยพืชเป็นอาหารเท่านั้น เช่น วัว ควาย ช้าง ม้า กระต่าย เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | carnivore | ผู้บริโภคสัตว์, สิ่งมีชีวิตที่ดำรงชีพโดยการกินเนื้อ เช่น แมว เสือ สิงโต เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | decomposer | ผู้ย่อยสลายอินทรียสาร, กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่ดำรงชีพโดยได้พลังงานจากการย่อยสลายซากของสิ่งมีชีวิต ได้แก่ เห็ดราและแบคทีเรียบางชนิด [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | predator | ผู้ล่า, สิ่งมีชีวิตที่ดำรงชีพโดยการล่าสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นอาหาร [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | mutualism | ภาวะพึ่งพากัน, สภาพความสัมพันธ์แบบหนึ่งของการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิต 2 ชนิดที่ต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์จากการดำรงชีวิตร่วมกัน ถ้าขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ไม่สามารถจะดำรงชีวิตอยู่ได้ เช่น ไลเคน ซึ่งเป็นการอยู่ร่วมกันของสาหร่ายและรา เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | water pollution | มลพิษทางน้ำ, สภาวะของน้ำที่ไม่บริสุทธิ์ มีสิ่งสกปรกเจือปน อาจไม่เหมาะต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิต [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | nutrient | สารอาหาร, สารที่สิ่งมีชีวิตนำเอาไปใช้ในกระบวนการดำรงชีวิต สารอาหารมี 6 ชนิด คือ คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน เกลือแร่ น้ำ และ วิตามิน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | environment | สิ่งแวดล้อม, ภาวะแวดล้อม, สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ล้อมรอบตัวของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งภาวะการณ์ต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตนั้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | nematode [ round worm ] | หนอนตัวกลม, สัตว์ในไฟลัมนีมาโทดา ลำตัวกลมยาว ผิวเรียบ มีหลายขนาด สามารถดำรงชีวิตได้แบบปรสิตหรืออิสระ เช่น ไส้เดือนฝอย พยาธิตัวกลม เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | enzyme | เอนไซม์, สารอินทรีย์จำพวกโปรตีนที่ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในปฏิกิริยาชีวเคมี เฉพาะอย่างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีอันจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของเซลล์ เช่น ในปฏิกิริยาย่อยแป้งไปเป็นน้ำตาลมอลโทส จะต้องมีเอนไซม์ชื่ออะไมเลส [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | metabolism | เมแทบอลิซึม, การเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิต และมีผลต่อการดำรงชีพของสิ่งชีวิต [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | fungi (พหูพจน์), fungus | ฟังไจ, สิ่งมีชีวิตที่มีทั้งเซลล์เดียวและหลายเซลล์ มักมีโครงสร้างเป็นเส้นใยที่เรียกไฮฟา ไม่มีคลอโรฟิลล์ ดำรงชีวิตได้โดยได้รับอาหารจากการย่อยสลายสารอินทรีย์ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | physical factor | ปัจจัยทางกายภาพ, องค์ประกอบทางกายภาพ, สภาพแวดล้อมทางกายภาพ, สิ่งแวดล้อมที่ไม่มีชีวิตซึ่งมีอิทธิพลต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิต เช่น ดิน น้ำ อากาศ เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
| Six wardens have been through here in my tenure, and I've learned one immutable, universal truth. | ลูกชายของลูกชาย หกพิทักษ์ได้รับการผ่านที่นี่ในการดำรงตำแหน่งของฉัน และฉันได้เรียนรู้หนึ่งไม่เปลี่ยนรูปจริงสากล The Shawshank Redemption (1994) | If you're on me and you got to move when I move... how do you expect to keep a marriage? | ถ้าคุณจะจับผมก็ต้องไล่ตามผม แล้วคุณจะดำรงชีวิตสมรสได้ไง Heat (1995) | If we slip back through time at this rate, very soon we'll all disappear up our own existence. | เราลื่นหลังผ่านช่วงเวลาที่อัตรานี้ เร็ว ๆ นี้เราจะหายไปทั้งหมด ขึ้นดำรงอยู่ของเราเอง Yellow Submarine (1968) | By direct presidential order, the existence of that monolith was kept secret. | ตามคำสั่งของประธานาธิบดี โดยตรงการดำรงอยู่ ของหินใหญ่ก้อนเดียวที่ถูกเก็บ เป็นความลับ ดังนั้น? 2010: The Year We Make Contact (1984) | What do you do for a living? | สิ่งที่คุณทำเพื่อการดำรงชีวิตหรือไม่ The Russia House (1990) | Uh... the clever guy? | มันจำเป็นต่อการดำรงชีวิต Fight Club (1999) | Intolerable as it may be I'm completely dependent upon those wretched drones for sustenance. | ฉันยังต้องพึ่งนังกาฝากคนนั้นในการดำรงชีพ Death Has a Shadow (1999) | The wonder of living, the wonder of dying | ความหมายของการดำรงอยู่ ความหมายแห่งการดับสูญ Spirited Away (2001) | After the moon fell from the sky, the Earth could no longer sustain the species. | หลังจากที่ดวงจันทร์ ตกลงมาจากฟากฟ้า สิ่งมีชีวิต ก็ดำรงเผ่าพันธุ์อยู่บนโลกไม่ได้ The Time Machine (2002) | He's being held prisoner by a very dangerous program one of the oldest of us. | เขาถูกกักตัวไว้โดย โปรแกรมอันตราย ผู้ซึ่งดำรงอยู่มายาวนาน เขามีชื่อว่า เมโรวินเจียน The Matrix Reloaded (2003) | - ...we would not exist. - lt is purpose that created us. | เราก็มิอาจดำรง/คือความประสงค์ที่สร้างเรา The Matrix Reloaded (2003) | Temporary constructs of a feeble human intellect trying desperately to justify an existence that is without meaning or purpose! | สร้างขึ้นชั่วคราวโดยความอ่อนแอของสติปัญญามนุษย์ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะอธิบายถึง การดำรงอยู่ซึ่งไร้ความหมาย หรือเป่้าหมาย The Matrix Revolutions (2003) | So the decisions they make come from not the reality that exists in the world. | ดังนั้น การตัดสินใจของผู้บริหารบรรษัท จึงไม่ได้ตั้งอยู่บนความเป็นจริงที่ดำรงอยู่ทั่วโลก The Corporation (2003) | Medieval life uh was a collectively lived life | ชีวิตในยุคกลางนั้นเป็นการดำรงชีวิตแบบชุมชน The Corporation (2003) | Simply to survive by avoiding the weaknesses of an unchanging system. | ก็เพื่อการดำรงอยู่, -- โดยการขจัดผู้อ่อนแอออกจากระบบ. Ghost in the Shell (1995) | Thirdly, for the mutual society, help and comfort that the one ought to have of the other, both in prosperity and adversity, into which holy estate these persons present come now to be joined. | และอย่างที่สาม เพื่อดำรงอยู่ด้วยกัน ช่วยเหลือและดูแลกัน ในเวลาที่คนหนึ่งคนใดต้องการจากอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งในยามสุขและยามทุกข์ Episode #1.6 (1995) | An all-powerful God created the universe then decided not to give any proof of His existence? | ขอบคุณ ทั้งหมดที่มีประสิทธิภาพ พระเจ้าทรงสร้างจักรวาล แล้วก็ตัดสินใจที่จะไม่ให้หลักฐาน ของการดำรงอยู่ของเขาหรือไม่? Contact (1997) | 23 hours ago, the world was stunned by the announcement of the existence of another Machine and its passenger, Eleanor Ann Arroway. | 23 ชั่วโมงที่ผ่านมาโลก ตะลึงโดยการประกาศ การดำรงอยู่ของเครื่องอื่น Contact (1997) | But not that day? | "วิเวียน แจฟฟ์ นักสืบเพื่อการดำรงชีวิต" I Heart Huckabees (2004) | What kind of investigation? | เพื่อการดำรงอยู่ I Heart Huckabees (2004) | I don't mean to give you a hard time. Existential? | เพื่อการดำรงชีวิต เหมือนจิตบำบัดเหรอครับ I Heart Huckabees (2004) | So you come by huckabees corporate and say you're my fucking existential detectives? | แล้วบอกว่าเป็นนักสืบ เพื่อการดำรงชีวิตของผมเหรอ I Heart Huckabees (2004) | Hey, you play Mancala? Didn't know you were interested in existential issues, Brad. | เพิ่งรู้นะนายสนใจ ประเด็นการดำรงชีวิตด้วยแบรด I Heart Huckabees (2004) | Albert, what brought you to the philosophical club? | หมายถึงนักสืบ เพื่อการดำรงชีวิตเหรอครับ I Heart Huckabees (2004) | No, Brad, this is how it works. You go to the police. You... you tell them that you went to the existential detectives. | คุณไปแจ้งตำรวจ ว่าคุณมาหานักสืบเพื่อการดำรงชีวิต I Heart Huckabees (2004) | The board learns that rising star, Brad stand, has weird existential issues. | มีปัญหาในการดำรงชีวิต - หรือแกล้งทำ I Heart Huckabees (2004) | Live your life and don't you stop for anyone | ดำรงชีวิตให้ดี แล้วอย่าหยุดตัวเองเพียงเพราะคนอื่นล่ะ Rice Rhapsody (2004) | And I use my imagination for a living, so I know what I'm talking about. | และ พ่อใช้จินตนการในการ มีดำรงชีวิต นั่นแหละที่พ่อกำลังพูดถึง Zathura: A Space Adventure (2005) | By creating a legacy, I'm living a life who's remembers you become immortal. | ด้วยการสืบทอดมรดก, ฉันคงดำรงชีวิตอยู่ ใครที่จำได้ Saw II (2005) | You must become the king of Balhae. I will be escorting you to Balhae. | องค์ชาย ท่านต้องดำรงค์ตำแหน่งกษัตริย์แห่ง บัีลเฮ Shadowless Sword (2005) | Crown Prince, Hyo Ryul would have already taken the position.. | เจ้าชายรัชทายาทHyo Ryulก้คงได้ดำรงตำแหน่งไปแล้ว Episode #1.3 (2006) | Charles Xavier did more for mutants than you'll ever know. | สิ่งที่ฉันเสียใจที่สุด นั่นก็คือการที่เค้าต้องตาย เพื่อปกป้องความฝันที่จะดำรงอยู่ของพวกเรา X-Men: The Last Stand (2006) | From the furthest corners of the world... where the dark arts still hold sway... he returns to us to demonstrate... how nature's laws may be bent. | จากแดนอันไกลโพ้น.. สถานที่ที่ศาสตร์ดำยังคงดำรงอยู่.. เขากลับมาเพื่อแสดงให้พวกท่านได้เห็นว่า.. The Illusionist (2006) | Now I will give you something to live for. | เอาหละ ผมจะให้อะไรคุณบางอย่าง เพื่อดำรงชีวิตต่อไป Saw III (2006) | And that's a good thing because it keeps the temperature of the Earth within certain boundaries, keeps it relatively constant and livable. | และนั่นเป็นสิ่งดีเพราะมันรักษาอุณหภูมิของโลก ให้อยู่ในขอบเขตที่แน่นอน รักษาระดับให้ค่อนข้างคงที่และเหมาะกับการดำรงชีวิต An Inconvenient Truth (2006) | Perhaps it is time for Prince Dae-So to become Crown Prince. | บางทีนี่อาจเป็นเวลาสำหรับองค์ชายแดโซที่จะดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมาร Episode #1.41 (2006) | The code I live by has been shattered. | กฎที่ใช้ดำรงชีวิตก็ถูกฉีกไม่มีชิ้นดี Left Turn Ahead (2007) | There are many ways to define Our fragile existence. | มีหลายวิธีที่จะนิยามความเปราะบาง ของการดำรงอยู่ของเรา Chapter Eight 'Four Months Ago...' (2007) | Can still remain there with you... | ยังคงดำรงอยู่กับคุณ... Sweeney Todd: The Demon Barber of Fleet Street (2007) | Can still remain there with you there... | ยังคงดำรงอยู่กับคุณ... Sweeney Todd: The Demon Barber of Fleet Street (2007) | It must feed on energy to survive. | มันต้องได้รับพลังงานเพื่อดำรงชีวิต Fantastic 4: Rise of the Silver Surfer (2007) | He's jaded and disgusted by the emptiness of existence. | เค้าเป็นคนที่น่าเบื่อและน่าขยะแหยงของการดำรงชีวิตอันไร้ค่า Funny Games (2007) | You okay? | การดำรงคงอยู่ของพวกเรา อยู่ในอันตราย... Chapter Fifteen 'Run!' (2007) | He is going to be a problem. | การโกหกทั้งสองด้านจำเป็น เพื่อดำรงชีวิตทั้งสองด้าน Chapter Nineteen '.07%' (2007) | Now, the concept here being that just as your left hand and your right hand are mirror images of one another, right, identical and yet opposite well, so, too, organic compounds can exist as mirror-image forms of one another all the way down at the molecular level. | ตอนนี้ แนวคิดคิดนั่นมาจาก เช่นเดียวกับมือซ้ายของคุณและขวามือของคุณ... ภาพกระจกเงาของอีกด้านหนึ่ง ถูกต้อง เหมือนกับสิ่งที่อยู่ตรงกันข้าม เอาล่ะ งั้นก็ อินทรีย์เคมีเป็นสารประกอบที่ยังดำรงอยู่ Cat's in the Bag... (2008) | But today I'd like to offer a special honor to the detective who's been on this case right from the beginning who proved through hard work and dedication that the people who died did not die in vain. | ในวันนี้ ผมจะเสนอ เกียรติยศพิเศษ ...แก่นักสืบผู้ดำรงไว้ บนความถูกต้องและกล้าหาญ ผู้ที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความทุ่มเท และการอุทิศตน Saw V (2008) | Senator Davis, you serve as a special advisor for WilPharma Corporation. | ท่านส.ว.คะ ท่านดำรงตำแหน่ง\ ที่ปรึกษาของวิลฟาร์มา Resident Evil: Degeneration (2008) | He works at the Buy More, not living up to his potential. | เขาทำงานอยู่ที่บายมอร์ ไม่มีหลักเกณฑ์ในการดำรงชีวิต Chuck Versus the Cougars (2008) | Oh, this country has gotten by for 200 years without an Intersect. | ประเทศนี้ดำรงมาได้ 200 ปี โดยไม่ต้องพึ่งข้อมูลอินเตอร์เซ็คนั่น Chuck Versus the Sensei (2008) | I will do my utmost in this position, and I trust that I can rely on you as the section chief assistant from now on. | ผมจะดำรงตำแหน่งนี้ให้ดีที่สุดเลยครับ Absolute Boyfriend (2008) |
| ดำรง | [damrong] (v) EN: uphold ; support ; maintain ; sustain ; keep ; conserve ; continue ; remain ; preserve FR: se maintenir ; rester ; subsiter | ดำรง | [damrong] (v) EN: live ; subsist ; exist ; survive ; remain ; continue FR: subsister | ดำรง | [damrong] (adj) EN: lasting ; straight ; upright | ดำรงชีพ | [damrongchīp] (v, exp) EN: live ; earn one's livelihood ; make a living ; support oneself FR: vivre ; gagner sa vie | ดำรงชีวิต | [damrongchīwit] (v) EN: live ; subsist ; exist ; be alive FR: vivre ; subsister | ดำรง พุฒตาล | [Damrong Phuttān] (n, prop) EN: Dumrong Poottan FR: Dumrong Poottan | ดำรงตำแหน่ง | [damrong tamnaeng] (v, exp) EN: take a position of ; take up ; take a post of | ดำรงตำแหน่งต่อ | [damrong tamnaeng tø] (n, exp) EN: successor | ดำรงฐานะ | [damrong thāna] (v, exp) EN: maintain one's status ; sustain ; hold ; bear ; lead | ดำรงอยู่ | [damrong yū] (v, exp) EN: hold ; occupy FR: exister ; subsister ; occuper | การดำรง | [kān damrong] (n) EN: living | การดำรง | [kān damrong] (n) EN: maintenance | การดำรงชีพ | [kān damrongchīp] (n) EN: living | การดำรงชีวิต | [kān damrongchīwit] (n) EN: living ; existence FR: vie [ f ] ; existence [ f ] | การดำรงชีวิตของสัตว์ | [kān damrongchīwit khøng sat] (xp) FR: vie des animaux [ f ] | การดำรงตำแหน่ง | [kān damrong tamnaeng] (n, exp) EN: holding the post of | การดำรงอยู่ | [kān damrong yū] (n, exp) EN: existence | ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต | [khāchaijāi nai kān damrongchīwit] (n, exp) EN: living expenses | เข้าดำรงตำแหน่ง | [khao damrong tamnaeng] (v, exp) EN: take up a post | ปัจจัยการดำรงชีวิต | [patjai kān damrongchīwit] (n, exp) EN: means of livelihood ; means of subsistence |
| stonefly | (n, name) สโตนฟลาย เป็นแมลงใน อันดับ พลีคอปเทอร่า (Order Plecoptera: Class Insecta) ลักษณะตัวเต็มวัย (adult) แบ่งออกเป็น ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง ชัดเจน; ส่วนหัว (head) มีหนวด (antennae) ยาว 1 คู่ มีตารวม (compound eyes) 1 คู่ มีตาเดี่ยว (ocelli) 0-3 ตา มีปากแบบกัดกิน (Chewing mouthpart), ส่วนอก (thorax) มีขา 3 คู่ มีปีก 2 คู่เป็นแผ่นบางใส (membranous wings) ปีกคู่หลัง (hind wings) จะซ้อนพับอยู่ใต้ปีกคู่หน้า (fore wings), ส่วนท้อง (abdomen) ยาวแบ่งเป็นปล้อง; มีการเจริญเติบโตแบบไม่สมบูรณ์ (Incomplete metamorphosis) คือเจริญเติบโตจากไข่ ฟักออกมาเป็นตัวอ่อน ลอกคราบหลายครั้งจนเป็นตัวเต็มวัย โดยไม่มีระยะดักแด้; ในระยะตัวอ่อน (nymph) มีลักษณะคล้ายตัวเต็มวัยแต่ไม่มีปีก อาจพบเหงือก (gills) รูปร่างต่าง ๆ ตามลำตัวเป็นอวัยวะช่วยในการหายใจ อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำไหล (Lotic habitat, running water) บางชนิดมีนิสัยการกินแบบผู้ล่า (predator) กินสัตว์อื่นที่มีขนาดเล็กกว่าเป็นอาหาร แต่บางชนิดกินเศษซากตะกอนในแหล่งน้ำเป็นอาหาร (detritivore) และเมื่อลอกคราบครั้งสุดท้ายเป็นตัวเต็มวัยจะอาศัยอยู่บนบกใกล้แหล่งน้ำ สโตนฟลายบางชนิดที่มีวงจรชีวิตระยะตัวอ่อนเป็นเวลายาวนาน เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะจับคู่ผสมพันธุ์ทันทีโดยไม่กินอาหาร แต่ในบางชนิดที่มีวงจรชีวิตใช้เวลาในระยะตัวอ่อนน้อย เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะกินน้ำหรือเศษซากพืชหรือซากตะกอนเพียงเล็กน้อย เพื่อพัฒนาระบบสืบพันธุ์ให้เจริญเต็มที่ ก่อนจับคู่ผสมพันธุ์ เมื่อผสมพันธุ์แล้วตัวเต็มวัยเพศเมียจะวางไข่ลงในแหล่งน้ำไหลเพื่อให้ไข่ฟักออกมาเป็นตัวอ่อนอาศัยเจริญเติบโตในแหล่งน้ำไหลนั้นต่อไป; จากลักษณะการดำรงชีวิตโดยอาศัยพึ่งพาแหล่งน้ำอยู่เกือบตลอดทั้งวงจรของชีวิต แมลงชนิดนี้จึงจัดอยู่ในกลุ่มของแมลงน้ำ (Aquatic insect), See also: plecoptera |
| aerobic | (adj) ซึ่งต้องการอากาศหรือออกซิเจนในการดำรงชีวิต | being | (n) การมีอยู่, See also: การดำรงอยู่, Syn. existence | bohemian | (n) ผู้ดำรงชีวิตแตกต่างจากคนอื่น (แบบไม่ทำตามกฎทางสังคม) | be lapped in luxury | (idm) มีชีวิตอย่างสุขสบาย, See also: ดำรงชีวิตอย่างสุขสบาย | chair | (vt) ดำรงตำแหน่งประธาน, See also: ทำหน้าที่ในฐานะประธาน, Syn. preside | coenobite | (n) ผู้ที่ดำรงตนอย่างสันโดษ | draw apart | (phrv) แยกกัน (ความคิดหรือการดำรงชีวิต) | existence | (n) การดำรงอยู่, See also: การคงอยู่, การมีชีวิตอยู่, Syn. being, living, survival | fill | (vt) แต่งตั้ง, See also: บรรจุ, ว่าจ้าง, เลือกให้ดำรงตำแหน่ง, Syn. appoint, elect | find | (vt) พบ (ยังมีอยู่), See also: ดำรงอยู่, Syn. exist | go astray | (phrv) ดำรงชีวิตอย่างผิดทำนองคลองธรรม, See also: ไม่ถูกต้อง, Syn. lead astray | go back | (phrv) ดำรงอยู่, See also: กินเวลานาน, อยู่มานาน, Syn. date back to, go back to | go down | (phrv) ตกต่ำลง (ระดับสังคม, มาตรฐานการดำรงชีวิต), Syn. come down: come up | go on | (phrv) ประพฤติ, See also: ปฏิบัติตัว, มีชีวิตอยู่, ดำรงชีวิต | go straight | (phrv) ดำรงชีวิตอย่างสุจริต (หลังจากทำผิดเช่น ทำอาชญากรรม เป็นคำไม่ทางการ) | hedonist | (n) คนเจ้าสำราญ, See also: ผู้ที่แสวงหาความสนุกสนานเพลิดเพลินในการดำรงชีวิต, Syn. pleasure-lover, sensualist, thrill-seeker | holdover | (n) เจ้าหน้าที่ที่ยังคงดำรงตำแหน่งเดิมอยู่หลังจากหมดวาระแล้ว | immanent | (adj) ซึ่งอยู่ภายใน (คำทางการ), See also: ดำรงอยู่ภายใน, ซึ่งมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง, Syn. deep-seated, inherent, intrinsic, native | incumbent | (n) ผู้ดำรงตำแหน่ง, Syn. office holder, official | induct | (vt) ให้ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ, See also: ให้เข้ารับตำแหน่ง, Syn. commission, install | induction | (n) การให้เข้ารับตำแหน่ง, See also: กระบวนการให้คนเข้าดำรงตำแหน่ง, Syn. installation, inauguration | indwell | (vi) ดำรงอยู่ (ทางวรรณคดี), See also: มีอยู่ใน, อาศัยอยู่ใน, Syn. abide, inhabit | indwell | (vt) ดำรงอยู่ใน (ทางวรรณคดี), See also: มีอยู่ใน, อาศัยอยู่ใน, Syn. abide, inhabit | inexistent | (adj) ซึ่งไม่ได้ดำรงอยู่, Syn. nonexistent, absent | live from hand to mouth | (phrv) ดำรงชีวิตแบบหาเช้ากินค่ำ, See also: มีชีวิตอยู่ไปวันๆ | live on one's own | (idm) ดำรงชีวิตตามลำพัง, See also: อยู่ลำพัง, Syn. live by | live to | (phrv) ดำรงชีวิตอยู่ตามลำพัง (โดยไม่ต้องการเพื่อนหรือไม่ผูกมิตรกับคนอื่น) | live under | (phrv) อาศัยอยู่ใต้, See also: อยู่ข้างใต้, ดำรงชีวิตอยู่ใต้ | live up to | (phrv) ดำรงชีวิตโดยยึดตาม (กฎเกณฑ์, หลักการ, มาตรฐานฯลฯ) | live well | (phrv) ดำรงชีวิตอยู่อย่างมีคุณธรรม | live within one's income | (phrv) ดำรงชีวิตตามฐานะ, See also: มีชีวิตอยู่ตามอัถตภาพ, Syn. live within one's means | live within one's means | (phrv) ดำรงชีวิตตามฐานะ, See also: มีชีวิตอยู่ตามอัถตภาพ, Syn. live within one's income | live without | (phrv) ดำรงอยู่ได้โดยปราศจาก, See also: มีชีวิตอยู่โดยไม่มี บางสิ่ง, Syn. depense with, do without, go without, manage without | life | (n) รูปแบบการดำเนินชีวิต, See also: การดำรงชีวิต, วิถีชีวิต | livelihood | (n) ความเป็นอยู่, See also: การดำรงชีวิต, การครองชีพ, Syn. sustenance, subsistence | living | (n) การดำรงชีวิต, See also: การดำรงชีพ | living | (adj) เพียงพอต่อการมีชีวิตอยู่, See also: เหมาะสมกับการดำรงชีพ | living wage | (n) เงินที่เพียงพอในการดำรงชีวิต | maintain | (vt) รักษา, See also: ดูแลต่อไป, คงอยู่, ดำรง, คงเอาไว้, ทรงไว้, รักษาไว้, Syn. sustain, keep up, preserve | mendicant | (adj) ซึ่งดำรงชีวิตด้วยการขอทาน, Syn. alms-seeking | necessaries | (n) สิ่งจำเป็นโดยเฉพาะต่อการดำรงชีวิต | nominate | (vt) แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหรือรับหน้าที่, See also: แต่งตั้ง, ระบุชื่อ, เลือกให้เป็น, Syn. choose, pick | nomination | (n) การแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหรือรับหน้าที่, Syn. assignment | occupy | (vt) ดำรงตำแหน่ง, See also: ครองตำแหน่ง, Syn. hold | ontology | (n) การศึกษาเกี่ยวกับการดำรงอยู่ | politician | (n) ผู้ดำรงตำแหน่งหน้าที่ทางการเมือง | preservation | (n) การสงวน, See also: การรักษาไว้, การดำรงรักษา, Syn. security, safety, conservation | privation | (n) การขาดแคลนซึ่งสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต, Syn. want, poverty | prefer to | (phrv) แต่งตั้ง, See also: มอบให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ | regius | (adj) ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยของอังกฤษ |
| aerobe | (แอ' โรบ) n. สิ่งมีชีวิต (โดยเฉพาะแบคทีเรีย) ที่ต้องอาศัยออกซิเจนในการดำรงชีพ | aerobic | (แอโร' บิค) adj. ซึ่งต้องการอากาศหรือออกซิเจนในการดำรงชีพ | anaerobic | (แอนแอโร' บิค) adj. ซึ่งดำรงชีพได้โดยปราศจากอากาศหรือออกซิเจน | beige | (เบจ) n. สีเทาอ่อน, การดำรงอยู่, ชีวิต | being | (บี'อิง) n. การเป็นอยู่, การดำรงอยู่, ชีวิต, สาร, ธรรมชาติ, สิ่งมีชีวิต, บุคคล, พระเจ้า (Being) , ธาตุแท้, คุณสมบัติ, Syn. existence, creature | competition | (คอมพิทิช'เชิน) n. การแข่งขัน, การชิงชัย, ผู้แข่งขัน, การดิ้นรนต่อสู้ในการดำรงชีพ | exist | (เอคซิสทฺ') { existed, existing, exists } vi. ดำรงอยู่, มีอยู่, คงอยู่, Syn. live | existence | (เอคซิส'เทินซฺ) n. การดำรงอยู่, การมีอยู่, การมีชีวิตอยู่, ความเป็นอยู่, สิ่งที่มีอยู่จริง | existent | (เอคซิส'เทินทฺ) adj. ซึ่งมีอยู่, ซึ่งดำรงอยู่, ในขณะนี้. n. ผู้ที่ดำรงอยู่, สิ่งที่มีอยู่จริง | free-living | n. การดำรงชีวิตอย่างอิสระ | immanent | (อิม'มะเนินทฺ) adj. อยู่ภายใน, ดำรงอยู่ภายใน, ซึ่งมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง, อยู่ภายในจิต, See also: immanence, immanency n., Syn. inherent | in-dwell | (อินดฺเวล') v. ดำรงอยู่ใน, อาศัยอยู่, มีอยู่ใน., See also: indweller n. | incumbent | (อินคัม' เบินทฺ) adj. ซึ่งดำรงตำแหน่ง, ซึ่งมีหน้าที่, เป็นภารกิจ, ซึ่งวาง, พิงหรือขดอยู่ -n. ผู้ดำรงตำแหน่งหน้าที่, See also: incum- bently adv., Syn. obligatory, lying | inexistent | (อินอิกซิส'เทินทฺ) adj. ซึ่งไม่ได้ดำรงอยู่., See also: inexistency n. | life | (ไลฟฺ) n. ชีวิต, สิ่งมีชีวิต, การดำรงชีวิต, ช่วงระยะเวลาที่มีชีวิต, ชั่วชีวิต, ชีวประวัติ, ความยืดหยุ่น, ความกลับได้ง่าย, วิธีการดำรงชีวิต, สิ่งมีค่าของชีวิต, บุคคลที่มีค่าของชีวิต, ช่วงระยะเวลาแห่งอำนาจ, ความรุ่งเรืองหรืออื่น ๆ , โทษจำคุกตลอดชีวิต, ฟอง | lifetime | (ไลฟฺ'ไทมฺ) n. ช่วงระยะเวลาของการดำรงชีวิต, ตลอดชีวิต, ชั่วชีวิต. adj. ตลอดชีวิต | livelihood | (ไลว'ลิฮูด) n. การดำรงชีวิต, วิธีการดำเนินชีวิต, ชีวิต, Syn. support | living | (ลิฟ'วิง) adj. มีชีวิตอยู่, ไม่ตาย, มีอยู่, แรง, ขะมักเขม้น, คุกรุ่น, ไหล, เกี่ยวกับการครองชีพ, ในสภาพธรรมชาติ, แน่นอนที่สุด, n. การดำรงชีพ, วิธีการครองชีพ, คนที่มีชีวิตอยู่, เงินเดือนของพระ (ศาสนาคริสต์), Syn. live, alive, -A. dead, dull | precursor | (พรีเคอ'เซอะ) n. ผู้นำก่อน, ผู้มาก่อน, กองหน้า, ผู้ดำรงตำแหน่งมาก่อน, ลาง, เครื่องแสดง, Syn. predecessor | preservation | (เพรซเซอเว'เชิน) n. การเก็บรักษาไว้, การสงวน, การปกปักรักษา, การคุ้มครอง, การดำรง, การคงไว้, การพิทักษ์รักษา, See also: preservationist n. | preserve | (พรีเซิว์ฟว') vt. สงวน, ดำรง, ปกปักรักษา, คุ้มครอง, ดอง, หมัก, อนุรักษ์. n. สิ่งที่ใช้สงวน, ยากันบูด, ของดอง, ของหมัก, บริเวณป่าสงวน., See also: preservability n. preservable adj. preservation n. preserver n., Syn. guard, m | president-elect | (เพรส'ซิเดินทฺ'-) n. ประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าดำรงตำแหน่ง | privation | (ไพรเว'เชิน) n. การขาดแคลนสิ่งจำเป็นในการดำรงชีพ, การขาดแคลน, ความคับแค้น, การเพิกถอน, Syn. want, need | provost | (พรอฟ'โวสทฺ, โพร'โวสทฺ) n. ผู้เป็นประธาน, ผู้ดำรงตำแหน่งบริหารชั้นสูงของมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัย, พระครู, หัวหน้าพระศาสนา, See also: provostship n., Syn. chairman, president | regius | (รี'เจียส) adj. (ศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยอังกฤษ) ดำรงตำแหน่งที่ตั้งขึ้นโดยหรือขึ้นอยู่กษัตริย์, ราช | relive | (รีลิฟว') vt. ประสบอีก, มีชีวิตอีก, มีชีวิตใหม่, vi. มีชีวิตอีก, มีชีวิตใหม่, ดำรงชีวิตใหม่, See also: relivable adj., Syn. live again, revive | subsist | (ซับซิสทฺ') vi. มีอยู่, ยังชีพ, ยังอยู่, อยู่รอด, ประทังชีพ, ดำรงชีพ, (ปรัชญา) ดำรงอยู่อย่างไม่มีที่สิ้นสุด., Syn. exist, love, be, occur, endure | subsistence | (ซับซิส'เทินซฺ) n. การมีอยู่, การยังชีพ, การดำรงชีพ, วิธีการอยู่รอดหรือดำรงชีพ, แหล่งอาหารและปัจจัยการยังชีพอื่น ๆ , สิ่งที่มีอยู่, สิ่งที่เป็นของจริง, Syn. life, existence, sustenance | subsistent | (ซัยซิส'เทินทฺ) adj. มีอยู่, ยังชีพ, อยู่รอด, ดำรงชีพ, ประทังชีพ, ฝังติด, ประจำตัว n. (ปรัชญา) สิ่งที่มีอยู่หรือเป็นของจริง | survival | (เซอไว'เวิล) n. การอยู่รวด, การรอดตาย, การดำรงอยู่, การเหลืออยู่, สิ่งที่ดำรงอยู่, บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่, สิ่งหรือบุคคลที่เหลืออยู่. adj. เกี่ยวกับเครื่องยังชีพ | survive | (เซอไวว') vi. อยู่รอด, รอดตาย, ดำรงอยู่, เหลืออยู่, ยังคงมีชีวิตอยู่, ยังชีพอยู่, อยู่รอด, มีชีวิตอยู่ต่อไป., See also: survivability n. survivable adj., Syn. outlast, outlive, persist | sustenance | (ชัส'ทะเนินซฺ) n. วิธีการยังชีพ, การบำรุงเลี้ยง, วิธีการดำรงชีพ, ขบวนการสนับสนุน, การสนับสนุน, การค้ำจุน, การยังชีพ, Syn. food, support | term | (เทอม) n. เวลาที่กำหนด, คราว, ครั้ง, ระยะเวลา, ภาคเรียน, สมัย, วาระ, ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง, คำศัพท์, พจน์, จำนวนในคณิตศาสตร์, ภาคศาล, ระยะเวลาการตั้งครรภ์, ข้อสรุป, ข้อสัญญา, เกณฑ์, ขอบเขต, ฐานะ, ความสัมพันธ์, เครื่องหมายเขตvt. ใช้คำ, ตั้งชื่อ, See also: terms n. เง |
| alive | (adj) มีชีวิตอยู่, คงอยู่, ดำรงอยู่, ร่าเริง, กระปรี้กระเปร่า | being | (n) ความเป็นอยู่, การดำรงอยู่, สิ่งมีชีวิต | exist | (vi) ดำรงอยู่, คงอยู่, อยู่, มีจริง, มีชีวิตอยู่ | existence | (n) การดำรงอยู่, การมีอยู่, การอยู่, ชีวิต, ความเป็นอยู่ | incumbent | (adj) เป็นหน้าที่, เป็นภาระ, ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ | livelihood | (n) การทำมาหากิน, อาชีพ, การดำรงชีวิต | preservation | (n) การสงวน, การเก็บรักษา, การดอง, การดำรงไว้ | preservative | (adj) ซึ่งสงวนไว้, ซึ่งรักษาไว้, ซึ่งดำรงไว้, ซึ่งเก็บรักษา | preserve | (vt) สงวน, รักษาไว้, ดำรง, คุ้มครอง, ดอง, หมัก, อนุรักษ์ | subsistence | (n) การเลี้ยงชีพ, การอยู่, การยังชีพ, การดำรงชีพ | survival | (n) การมีอายุยืนกว่า, การรอดชีวิต, การดำรงอยู่ | survive | (vi) รอดชีวิต, มีเหลือ, มีอายุยืนกว่า, ดำรงอยู่ |
| Biotrophs | (n) เชื้อโรคที่ตามธรรมชาติ ได้รับอาหารจากเนื้อเยื่อ และดำรงชีวิตอยู่จนครบชีพจักรบนพืชอาศัยที่มีชีวิตอยู่ | entity | [เอ๊นถิถิ] (n) สัจภัณฑ์ (ของที่ดำรงอยู่จริง) | existential | (adj) เกี่ยวกับการมีุอยู่ / ดำรงอยู่, เกี่ยวกับการดำรงชีวิตของมนุษย์ | Political Office Holder | (jargon) ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง | presidency | (n) ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี | puppet government | (n) รัรัฐบาลหุ่นเชิด รัฐบาลที่ทำงานโดยมีผู้อื่นบางการอยู่ข้างหลัง เช่น คุณสมัครดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยมีคุณทักษิณเป็นคนคอยสั่งการ แต่งตั้ง โยกย้ายตำแหน่งต่างๆและกำหนดนโยบายต่างๆเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ตนและญาติพี่น้อง แม้จะพักอาศัยอยู่ไกลถึงลอนดอนก็ตาม | stewardship, during | ในระหว่างการดำรงตำแหน่ง | Stoneflies | (n) สโตนฟลาย เป็นแมลงใน อันดับ พลีคอปเทอร่า (Order Plecoptera: Class Insecta) ลักษณะตัวเต็มวัย (adult) แบ่งออกเป็น ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง ชัดเจน; ส่วนหัว (head) มีหนวด (antennae) ยาว 1 คู่ มีตารวม (compound eyes) 1 คู่ มีตาเดี่ยว (ocelli) 0-3 ตา มีปากแบบกัดกิน (Chewing mouthpart), ส่วนอก (thorax) มีขา 3 คู่ มีปีก 2 คู่เป็นแผ่นบางใส (membranous wings) ปีกคู่หลัง (hind wings) จะซ้อนพับอยู่ใต้ปีกคู่หน้า (fore wings), ส่วนท้อง (abdomen) ยาวแบ่งเป็นปล้อง; มีการเจริญเติบโตแบบไม่สมบูรณ์ (Incomplete metamorphosis) คือเจริญเติบโตจากไข่ ฟักออกมาเป็นตัวอ่อน ลอกคราบหลายครั้งจนเป็นตัวเต็มวัย โดยไม่มีระยะดักแด้; ในระยะตัวอ่อน (nymph) มีลักษณะคล้ายตัวเต็มวัยแต่ไม่มีปีก อาจพบเหงือก (gills) รูปร่างต่าง ๆ ตามลำตัวเป็นอวัยวะช่วยในการหายใจ อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำไหล (Lotic habitat, running water) บางชนิดมีนิสัยการกินแบบผู้ล่า (predator) กินสัตว์อื่นที่มีขนาดเล็กกว่าเป็นอาหาร แต่บางชนิดกินเศษซากตะกอนในแหล่งน้ำเป็นอาหาร (detritivore) และเมื่อลอกคราบครั้งสุดท้ายเป็นตัวเต็มวัยจะอาศัยอยู่บนบกใกล้แหล่งน้ำ สโตนฟลายบางชนิดที่มีวงจรชีวิตระยะตัวอ่อนเป็นเวลายาวนาน เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะจับคู่ผสมพันธุ์ทันทีโดยไม่กินอาหาร แต่ในบางชนิดที่มีวงจรชีวิตใช้เวลาในระยะตัวอ่อนน้อย เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะกินน้ำหรือเศษซากพืชหรือซากตะกอนเพียงเล็กน้อย เพื่อพัฒนาระบบสืบพันธุ์ให้เจริญเต็มที่ ก่อนจับคู่ผสมพันธุ์ เมื่อผสมพันธุ์แล้วตัวเต็มวัยเพศเมียจะวางไข่ลงในแหล่งน้ำไหลเพื่อให้ไข่ฟักออกมาเป็นตัวอ่อนอาศัยเจริญเติบโตในแหล่งน้ำไหลนั้นต่อไป; จากลักษณะการดำรงชีวิตโดยอาศัยพึ่งพาแหล่งน้ำอยู่เกือบตลอดทั้งวงจรของชีวิต แมลงชนิดนี้จึงจัดอยู่ในกลุ่มของแมลงน้ำ (Aquatic insect), See also: Stonefly, Plecoptera, Stonefly, Syn. Plecoptera |
| 現職 | [げんしょく, genshoku] (n) ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน |
| 推薦 | [すいせん, suisen] (n) การแนะนำแก่ผู้อื่นว่าดี การเสนอให้ได้รับดำรงตำแหน่ง | 存在 | [そんざい, sonzai] (n) (n) การดำรงอยู่, การมีอยู่, การอยู่, ชีวิต, ความเป็นอยู่ |
| 立てる | [たてる, tateru] TH: ทำให้ดำรงอยู่ |
| Existenz | (n) |die, pl. Existenzen| การดำรงอยู่, การมีอยู่, การมีชีวิตอยู่ เช่น Man kann die Existenz von Geistern noch nicht identifizieren., See also: existieren, vorhanden |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |