ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*จัง*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: จัง, -จัง-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary ไทยภาคอีสานตอนเหนือ (TH-NE-N) - ไทย (TH)
จั่งใด๋[จัง^-ได๋] (pron) ยังไง, อย่างไร

Longdo Dictionary ไทย (TH) - อังกฤษ (EN)
ปลัดจังหวัดDeputy Governor

Longdo Dictionary ไทย (TH) - ไทย (TH)
เบยเลย เป็นคำแผลงที่มาจากการใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือพิมพ์ข้อความ เนื่องจากแป้นตัวอักษร ล ลิง และ บ ใบไม้ อยู่ใกล้กัน จึงทำให้เกิดการพิมพ์ผิดได้บ่อยครั้ง จนเป็นที่เข้าใจกันว่าถ้าพิมพ์ว่า เบย จะหมายความถึง เลย และยังแฝงถึงความรู้สึกเล่นๆ สนุกๆ ไม่จริงจัง กรณีที่พบบ่อย เช่นคำว่า จังเลย อาจแผลงได้เป็น จุงเบย เช่น เจ๊บจุงเบย (เจ็บจังเลย), ฮาจุงเบย (ฮา จังเลย)

Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
กระพรืบ[กะ-พืบ] (vi, adv) ขยับยกขึ้นลงเป็นจังหวะ ตัวอย่าง เช่น หายใจอกกระพรืบจนเห็นได้ชัด, น้ำในบ่อไหวกระพรืบเป็นร่องคลื่น เป็นต้น
จุงเบยจังเลย เป็นภาษาวัยรุ่น เพี้ยนมาจาก "จังเลย" บ้างว่าเนื่องมาจาก การพิมพ์บนคอมพิวเตอร์ที่ ไม้หันอากาศ อยู่ใกล้กับ สระอุ และ ล ลิง อยู่ใกล้กับ บ ใบไม้ พิมพ์ผิดบ่อยครั้งเลยกลายเป็นที่ใช้กันพอสมควรในบริบทที่เป็นลักษณะเล่นๆ หรือ เด็กๆ หรือ ทีเล่นทีจริง
บวก(vt) จู่โจม ปะทะ โจมตี มักใช้กันในกลุ่มผู้เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ บ้างก็ว่ามาจากวงการมวย คือ จังหวะบวกสวน เอาแรงชกของคู่ต่อสู้ที่ชกมาแล้วพลาด สะท้อนสวนกลับไปให้แรงยิ่งขึ้น
ม่อนวิวงาม[ม่อน-วิว-งาม] (n) คือรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
วัดนาปรังประชาราม[วัด-นา-ปรัง-ประ-ชา-ราม] (org) วัดนาปรังประชาราม เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๑ ตำบลคลองกวาง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา

Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - อังกฤษ (EN) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(n) Provincial Public Health Medical Doctor
ปฏิบัติราชการแทน(adv, conj) For + position Ex. For Governor = ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด
สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด(n, name, org, uniq) Provincial Industry Office

Longdo Dictionary ภาษา ไทยภาคเหนือ (TH-NORTH) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
สวก(adj) ดุ ตัวอย่าง: "ตั๋วหยังมาสวกแต๊ว่า(เธอทำไมดุจัง)"

Longdo Dictionary ภาษา ไทยภาคอีสานตอนใต้ (TH-NE-S) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
แถะคำเน้นท้ายคำที่ทำให้ประโยคดูเด่นขึ้น เช่น หิวแถะๆ แปลว่า หิวจังเลย *หมายเหตุ ภาษาโคราช

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
จัง(adv) greatly, See also: extremely, exceedingly, Syn. มาก, ยิ่งนัก, เต็มที่, เต็มแรง, Ant. นิดหน่อย, เล็กน้อย, Example: เด็กๆ เหล่านี้กินเก่งจัง เห็นทีผมจะต้องหารายได้พิเศษเพื่อเอาเงินมาเลี้ยงพวกเขา
จังไร(v) be accursed, See also: be cursed, be doomed, be ill-fated, Syn. จัญไร, เลวทราม, Thai Definition: ไม่เป็นมงคล
จังกอบ(n) tax, See also: duty, port tax, Example: นอกจากการเกณฑ์แรงงาน เศรษฐกิจในสมัยอยุธยายังอยู่ได้ด้วยส่วย ฤชา จังกอบ และอากร, Thai Definition: ภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้าและขนาดของพาหนะที่บรรทุก
จังก้า(adv) with leg widespread, Example: อย่าเพิ่งเข้าไปตอนนี้เลย เห็นหรือเปล่าว่าเขายืนจังกาอยู่ที่ประตูแน่ะ, Thai Definition: ลักษณะยืนถ่างขาตั้งท่าเตรียมสู้
จังงัง(v) be dazed, See also: be stunned, Syn. นิ่งงัน, ตะลึง, ตกตะลึง, Example: คำพูดของเขาทำให้เธอจังงังไปชั่วขณะ, Thai Definition: อาการที่ตกตะลึงนิ่งงันอยู่
จังหวะ(n) chance, See also: opportunity, Syn. โอกาสอันควร, โอกาส, Example: เมื่อได้จังหวะที่เหมาะสม เราก็ต้องรีบจัดการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว
จังหวะ(n) rhythm, See also: pattern of sounds or movements, Syn. จังหวะจะโคน, Example: เด็กๆ เต้นไปตามจังหวะของเพลง, Count Unit: จังหวะ, Thai Definition: ระยะที่สม่ำเสมอ, ระยะที่กำหนดไว้เป็นตอนๆ
จริงจัง(adv) seriously, See also: extremely, earnestly, Syn. จริงๆ, แท้จริง, แน่แท้, Ant. ล้อเล่น, เล่นๆ, Example: ตลาดแรงงานทางด้านซอฟต์แวร์ในประเทศไทยยังไม่ได้ถูกใช้งานอย่างจริงจัง
จริงจัง(v) be serious, See also: be earnest, Syn. แน่แท้, Ant. เล่นๆ, Example: เขาจริงจังกับทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต
จังหน้า(adv) utterly on the face, Syn. เต็มหน้า, เต็มที่, Example: หากไม่เจอกันจังหน้า เขาก็คงไม่ทักทายผมหรอก
จังหรีด(n) cricket, See also: leaping chirping insect, Syn. จิ้งหรีด, Example: ทุกวันนี้ไม่ค่อยมีใครได้ยินเสียงจังหรีดร้อง, Count Unit: ตัว, Thai Definition: แมลงมีปีกชนิดหนึ่ง มักมีสีน้ำตาลแดง และขุดรูอยู่ใต้ดิน ตัวผู้มีอวัยวะทำเสียงเป็นฟันเล็กๆ อยู่ตามเส้นปีก ใช้กรีดกับแผ่นทำเสียงที่อยู่ที่ปีกอีกข้างหนึ่ง, Notes: (กวี)
จังหวัด(n) province, Example: เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหนึ่งเดินทางไปยังภาคเหนือ และกระจายกันอยู่หลายจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ลำปาง แพร่, Count Unit: จังหวัด, Thai Definition: หน่วยการปกครองส่วนภูมิภาคที่รวมท้องที่หลายๆ อำเภอเข้าด้วยกัน และมีฐานะเป็นนิติบุคคล
อนิจจัง(adv) impermanent, See also: transient, unstable, Syn. ไม่เที่ยง, ไม่แน่นอน, Example: ทุกอย่างในโลกนี้ต้องเปลี่ยนแปลงเป็นอนิจจัง, Notes: (บาลี)
อนิจจัง(int) Alas!, Thai Definition: คำที่เปล่งออกมาแสดงความสงสารสังเวช
ขัดจังหวะ(v) interrupt, See also: break, Syn. สอดแทรก, ขัดคอ, พูดแทรก, Example: เขาชอบขัดจังหวะเพื่อนเวลาคุยกันทำให้เสียบรรยากาศ, Thai Definition: ขวางเข้ามาเพื่อไม่ให้ทำหรือพูดได้สะดวก
คอยจังหวะ(v) wait for the right moment, See also: wait for a chance, bide one's time, await a favorable opportunity, Syn. คอยโอกาส, Example: มือปืนเป็นคนมีสี มาจากต่างจังหวัด คอยจังหวะสะกดรอยตามนายวิทูรย์อยู่หลายวัน, Thai Definition: รอโอกาสเหมาะ
ผิดจังหวะ(adv) out of step, Example: เธอก้าวเท้าผิดจังหวะ, Thai Definition: ไม่ถูกจังหวะ
ให้จังหวะ(v) keep strokes, Example: ครูให้จังหวะนักเรียนในการร้องเพลงประสานเสียง, Thai Definition: คอยบอกจังหวะเป็นระยะที่สม่ำเสมอต่อเนื่องไป
ได้จังหวะ(v) be at right timing, See also: get a chance, Syn. ได้โอกาส, สบโอกาส, Example: เขาได้จังหวะตอนที่ทุกคนยุ่งหลบออกมา
ได้จังหวะ(v) get a chance, See also: have an opportunity, Syn. ได้โอกาส, สบโอกาส, Example: วันนี้ได้จังหวะเข้าไปขอพบท่านเพื่อขออนุญาตจัดงานเลี้ยงรับรองที่บริเวณหน้าวัง
จังหวะลีลา(n) rhythmics, See also: rhythm, Syn. จังหวะ, Example: การแต่งฉันท์ต้องพิจารณาเรื่องจังหวะลีลาเป็นสำคัญ เพราะประกอบด้วยเสียงหนักเบาหรือเสียงเน้น
ปลงอนิจจัง(v) realize the transitoriness of all things, See also: be disillusioned with impermanence, meditate on the impermanency of life, be filled with r, Syn. สังเวชใจ, Example: ข่าวอุบัติเหตุใหญ่ทำให้เรารู้สึกปลงอนิจจัง, Thai Definition: รู้สึกสังเวชใจว่าไม่น่าจะเป็นถึงเช่นนั้น
ศาลจังหวัด(n) provincial court, Example: อาทิตย์ที่จะถึงนี้ศาลฎีกาได้นัดฟังคำพิพากษาคดีทุจริตการเลือกตั้งที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ, Thai Definition: ศาลยุติธรรมประจำจังหวัดที่เป็นศาลชั้นต้น สามารถพิจารณาคดีได้ทุกตัวบทกฎหมาย
สภาจังหวัด(n) City Council, See also: Provincial Council, Example: สภาจังหวัดไม่ต้องวางเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
เข้าจังหวะ(adv) rhythmically, Syn. ตามจังหวะ, Example: คู่เต้นรำทุกคู่บนฟลอร์เต้นได้เข้าจังหวะพร้อมเพรียงกันดี, Thai Definition: อย่างสอดคล้องกับจังหวะของดนตรี
เป็นจังหวะ(adv) rhythmically, Syn. มีลีลา, มีสัมผัส, คล้องจอง, Example: ผู้เข้าประกวดอ่านสุนทรพจน์ทุกคนอ่านได้เป็นจังหวะชวนให้ประทับใจ
เป็นจังหวะ(adv) intermittently, See also: periodically, Syn. เป็นช่วง, เป็นพักๆ, Example: ด้านส่งต้องหยุดเป็นจังหวะ เพื่อให้ทางด้านรับได้มีโอกาสโต้ตอบ
ความจริงจัง(n) seriousness, See also: earnestness, solemnity, gravity, Syn. ความเอาจริงเอาจัง, Example: ลูกน้องยกย่องความจริงจังในการทำงานของหัวหน้า
ต่างจังหวัด(adj) provincial, See also: up-country, out of town, Example: ทุกคนต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าคนใช้สมัยนี้หายากมาก เพราะคนต่างจังหวัดนิยมเข้าทำงานในโรงงานกันหมด, Thai Definition: ที่อยู่ในเขตพื้นที่ปกครองของประเทศที่ไม่ใช่เมืองหลวง
ต่างจังหวัด(n) province, See also: country, Example: เธอเลือกทำงานที่ต่างจังหวัดเพราะมีรายได้มาจุนเจือครอบครัวได้มากกว่าทำงานที่บ้านเกิดตัวเอง, Thai Definition: เขตพื้นที่ปกครองของประเทศที่ไม่ใช่เมืองหลวง
ต่างจังหวัด(adj) provincial, See also: upcountry, out of town, regional, inland, Ant. เมืองหลวง, Example: ทุกคนต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าคนใช้สมัยนี้หายากมากเพราะคนต่างจังหวัดนิยมเข้าทำงานในโรงงานกันหมด, Thai Definition: ที่อยู่ในเขตพื้นที่ปกครองของประเทศที่ไม่ใช่เมืองหลวง
ต่างจังหวัด(n) province, See also: country, Example: เธอเลือกทำงานที่ต่างจังหวัดเพราะมีรายได้มาจุนเจือครอบครัวได้มากกว่าทำงานที่บ้านเกิดตัวเอง, Thai Definition: เขตพื้นที่ปกครองของประเทศที่ไม่ใช่เมืองหลวง
ต่างจังหวัด(adj) provincial, See also: up-country, out of town, Example: ทุกคนต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าคนใช้สมัยนี้หายากมาก เพราะคนต่างจังหวัดนิยมเข้าทำงานในโรงงานกันหมด, Thai Definition: ที่อยู่ในเขตพื้นที่ปกครองของประเทศที่ไม่ใช่เมืองหลวง
ประจำจังหวัด(adj) provincial, Example: โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนชายประจำจังหวัดเดิม
อย่างจริงจัง(adv) seriously, See also: solemnly, conscientiously, Syn. อย่างเคร่งครัด, Example: ตลาดแรงงานทางด้านซอฟต์แวร์ในประเทศไทยยังไม่ได้ถูกใช้งานอย่างจริงจัง
คนต่างจังหวัด(n) countryman, See also: country person, rustic, rural person, Syn. คนบ้านนอก, คนชนบท, Ant. คนเมือง, คนกรุง, Example: หมอชิตเป็นที่ชุมนุมของคนต่างจังหวัดและเป็นย่านการขนส่งที่คับคั่ง, Count Unit: คน
เอาจริงเอาจัง(v) be serious, See also: be in earnest, be stern, be austere, be rigid, Syn. เอาจริง, จริงจัง, Ant. เหลาะแหละ, Example: ที่ประชุมไม่ได้เอาจริงเอาจังแต่อย่างใด, Thai Definition: ตั้งใจทำอย่างจริงจัง, ถือเอาเป็นแน่นอน
เอาจริงเอาจัง(adv) seriously, See also: earnestly, Syn. เอาจริง, จริงจัง, Ant. เหลาะแหละ, Example: ครั้งนี้เขาทำข้อสอบอย่างเอาจริงเอาจังมากกว่าครั้งที่ผ่านมา, Thai Definition: เกี่ยวกับอาการที่ตั้งใจทำอย่างจริงจัง, ถือเอาเป็นแน่นอน
ศาลากลางจังหวัด(n) city hall, Syn. ศาลาการ, Example: สำนักงานประชาสงเคราะห์จังหวัดฉะเชิงเทราตั้งอยู่ที่ศาลากลางจังหวัด, Count Unit: แห่ง, Thai Definition: อาคารสำหรับเป็นที่ว่าราชการของจังหวัด
เป็นจริงเป็นจัง(adv) seriously, See also: earnestly, Syn. จริงจัง, เอาจริงเอาจัง, Example: การประมูลภาพเขียนยังไม่เคยมีใครจัดเป็นจริงเป็นจังเพราะอยู่ในวงแคบและคนสนใจมีจำกัด
กิจกรรมเข้าจังหวะ(n) rhythmic activities
ศึกษาธิการจังหวัด(n) provincial education officer, Example: ครูที่ทุจริตการสอบกำลังถูกศึกษาธิการจังหวัดสอบสวน, Thai Definition: ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษา การศาสนา และการวัฒนธรรมในระดับจังหวัด
อย่างเอาจริงเอาจัง(adv) seriously, Syn. อย่างตั้งใจ, อย่างจริงจัง, Example: น้องอ่านหนังสือเตรียมสอบอย่างเอาจริงเอาจัง
ผู้ว่าราชการจังหวัด(n) provincial governor, Syn. ผู้ว่า, เจ้าเมือง, ผู้ว่าราชการ, ข้าหลวงประจำจังหวัด, Example: ในที่สุดก็ได้มีการย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีออกจากพื้นที่, Count Unit: คน, ท่าน, Thai Definition: หัวหน้าข้าราชการส่วนภูมิภาคที่เป็นจังหวัด
อย่างเป็นจริงเป็นจัง(adv) really, See also: actually, tangibly, substantially, Syn. จริงจัง, เป็นล่ำเป็นสัน, Example: รัฐบาลจะต้องมีมาตรการเสริมในเชิงประหยัดพลังงานต่างๆ อย่างเป็นจริงเป็นจังอีกครั้ง

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
กรมการจังหวัดน. คณะกรมการจังหวัด
กรมการจังหวัดกรมการจังหวัดแต่ละคนที่เป็นองค์ประกอบของคณะกรมการจังหวัด. <i> (ดู คณะกรมการจังหวัด)</i>.
กระจังน. ชื่อลายอย่างหนึ่ง อยู่ในรูปทรงสามเหลี่ยม ใช้เป็นลวดลายสำหรับเครื่องประดับที่อยู่บนชั้นหรือตามขอบของสิ่งบางอย่าง เช่น ชั้นฐานธรรมาสน์ กระจังมีหลายแบบ เช่น กระจังตาอ้อย กระจังเจิม กระจังปฏิญาณ, เครื่องประดับที่มีลวดลายชนิดนี้ เรียกว่า ตัวกระจัง ใช้ประดับบนลับแลและอื่น ๆ.
กระจังหลังเบี้ยน. ชื่อกระจังแบบหนึ่ง ด้านหน้านูนเหมือนเบี้ย.
กระจังน. ชื่อปลานํ้ากร่อยชนิด <i> Periophthalmodon</i><i> schlosseri</i> (Pallas) ในวงศ์ Gobiidae พบในบริเวณป่าชายเลน รูปร่าง การเคลื่อนไหว และความสามารถขึ้นมาพ้นนํ้าได้คล้ายปลาจุมพรวดซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า มีครีบอกเป็นกล้ามเนื้อใช้ต่างตีน ช่วยครีบหาง ทำรูลึกอยู่ในเลน เคลื่อนไหวได้รวดเร็วบนผิวเลนและผิวนํ้า ปีนเกาะบนที่ชันและกระโจนเป็นห้วง ๆ ได้ ขนาดยาวได้ถึง ๒๗ เซนติเมตร, กะจัง ก็เรียก.
กะจัง<i>ดู กระจัง ๒</i>.
ขัดจังหวะก. แทรกเข้ามาในระหว่างร้องรำ
ขัดจังหวะขวางเข้ามาเพื่อไม่ให้ทำหรือพูดได้สะดวก.
คณะกรมการจังหวัดน. คณะบุคคลซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารราชการแผ่นดินในจังหวัดนั้น และให้ความเห็นชอบในการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด กับปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายหรือมติของคณะรัฐมนตรีกำหนด.
จริงจังว. แน่แท้ เช่น เชื่อถืออย่างจริงจัง, ไม่เป็นการเล่น เช่น ทำงานอย่างจริงจัง.
จังว. ยิ่งนัก เช่น เก่งจัง ร้อนจัง ของสิ่งนี้ถูกจัง
จังเต็มที่, เต็มแรง, เช่น ชนกันเข้าอย่างจัง.
จังหนับว. เต็มที่, เต็มแรง, จั๋ง จำหนับ หรือ จ๋ำหนับ ก็ว่า.
จังหน้าว. เต็มหน้า, เต็มที่, เช่น เจอเข้าจังหน้า โดนเข้าจังหน้า.
จังกวด ๑น. จะกวด.
จังกวด ๒ว. บ้า เช่น เฒ่าจังกวดกามกวน (ม. คำหลวง ชูชก).
จังกอบน. ภาษีสินค้าผ่านด่าน, ภาษีปากเรือ, จกอบ ก็เรียก.
จังกอบก. ผูก, มัด, เชิงกอบ ก็เรียก.
จังกอบเรือ<i>ดู ค่าปากเรือ</i>.
จังกาน. ไม้ขาหยั่ง.
จังก้าว. ลักษณะยืนตั้งท่าเตรียมสู้, ลักษณะที่ตั้งปืนกลเป็นต้นเตรียมพร้อมที่จะยิง.
จังกูดน. เครื่องถือท้ายเรือ คล้ายหางเสือ ทำด้วยไม้เป็นแผ่นใหญ่ รูปร่างคล้ายพาย มีด้ามยาว, จะกูด หรือ ตะกูด ก็เรียก.
จังเกน. สะเอว เช่น มือนวดแนบจังเก แกะพลิ้ว (โคลงพระยาตรัง).
จังโกฏก์น. ผอบ.
จังงังว. อาการที่ตกตะลึงนิ่งงันอยู่.
จังมังน. ไม้สำหรับขัดก้นกระบุงและตะกร้าทั้ง ๔ มุมให้แน่นและแข็งแรง.
จังมังว. แข็งแรง, จั้งมั่ง ก็ว่า.
จังไรว. เลวทราม, เป็นเสนียด, ไม่เป็นมงคล, จัญไร ก็ว่า.
จังลอนน. ปลาหรือเนื้อโขลกปั้นเป็นก้อนหรือเป็นแผ่นเคี่ยวกับนํ้ากะทิ สำหรับกินกับขนมจีนซาวนํ้า, บางทีใช้โขลกปลาปั้นเป็นก้อนเสียบไม้ปิ้งไฟ เรียกว่า จังลอนแห้ง, แจงลอน ก็ว่า.
จังเว็จ(จังเหฺว็ด) น. เจว็ด.
จังหรีดน. จิ้งหรีด. <i> (ดู จิ้งหรีด)</i>.
จังหล่อน. จำหล่อ.
จังหวะน. ระยะที่สม่ำเสมอ เช่น หัวใจเต้นเป็นจังหวะ, ระยะที่กำหนดไว้เป็นตอน ๆ เช่น เพลงจังหวะช้า จังหวะเร็ว พูดเป็นจังหวะ, โดยปริยายหมายความว่าโอกาสอันควร เช่น เจ้านายกำลังโกรธ ไม่มีจังหวะจะเข้าพบ.
จังหวะจะโคนน. จังหวะ.
จังหวัดน. หน่วยการปกครองส่วนภูมิภาคที่รวมท้องที่หลาย ๆ อำเภอเข้าด้วยกัน มีฐานะเป็นนิติบุคคล, (โบ) เมือง, หัวเมือง
จังหวัดถิ่น, เขต, บริเวณ, เช่น อารามขึ้นคณะป่าแก้วในจังหวัดเมืองนครศรีธรรมราช (ประชุมพระตำราบรมราชูทิศเพื่อกัลปนา).
จังหัน ๑น. ข้าว, อาหาร, (ใช้แก่พระสงฆ์).
จังหัน ๒น. กังหัน.
จังออนน. มาตราตวงตามวิธีประเพณีของไทยโบราณ ๘ กำมือ = ๑ จังออน และ ๒ จังออน = ๑ แล่ง.
จิงจัง, จิ้งจังน. อาหารอย่างหนึ่ง ทำด้วยปลาเล็ก ๆ หมักเกลือกับข้าวคั่ว อย่างเดียวกับปลาจ่อม ใช้เป็นเครื่องจิ้ม, จุ้งจัง ก็ว่า.
จุ้งจังน. อาหารอย่างหนึ่ง ทำด้วยปลาเล็ก ๆ หมักเกลือกับข้าวคั่ว อย่างเดียวกับปลาจ่อม ใช้เป็นเครื่องจิ้ม, จิงจัง หรือ จิ้งจัง ก็ว่า.
ทองจังโกน. ทองเหลืองที่ตีแผ่เป็นแผ่นบาง ลงรักแล้วปิดทองคำเปลว นิยมใช้หุ้มองค์พระเจดีย์ ป้องกันการผุกร่อน, ทองสักโก ก็ว่า.
นครบาลจังหวัดน. ผู้ว่าราชการจังหวัดในเขตนครหลวง.
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน. ตำแหน่งผู้รับผิดชอบสูงสุดในการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบองค์การบริหารส่วนจังหวัด.
ปลงอนิจจังก. รู้สึกสังเวชใจว่าไม่น่าจะเป็นถึงเช่นนั้น.
เป็นจริงเป็นจังว. เป็นหลักฐานมั่นคง, เป็นชิ้นเป็นอัน, เป็นลํ่าเป็นสัน.
ผู้ว่าราชการจังหวัดน. ผู้รับนโยบายและคำสั่งจากราชการส่วนกลางมาปฏิบัติให้เหมาะสมกับท้องที่และเป็นหัวหน้าบังคับบัญชาบรรดาข้าราชการฝ่ายบริหาร ในการบริหารราชการส่วนภูมิภาค.
ศาลจังหวัดน. ศาลยุติธรรมชั้นต้นที่ตั้งประจำในแต่ละจังหวัดหรือในบางอำเภอ มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งและคดีอาญาทั้งปวงที่มิได้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรมชั้นต้นที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะ.
สมจริงสมจังว. คล้ายกับที่เป็นจริงมาก เช่น เขาเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ได้สมจริงสมจัง.
องค์การบริหารส่วนจังหวัดน. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบหนึ่งที่มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งจังหวัด โดยทับซ้อนกับพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบอื่น มีอำนาจหน้าที่ในการประสานและร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น รวมตลอดทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการให้บริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่อยู่ในเขตพื้นที่ของตน.<i> (ดู ราชการบริหารส่วนท้องถิ่น ประกอบ)</i>

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
processor interruptการขัดจังหวะตัวประมวล(ผล) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
province๑. จังหวัด (ไทย)๒. มณฑล (ในบางประเทศ) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
provinceจังหวัด [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
province๑. จังหวัด (ไทย)๒. มณฑล (ในบางประเทศ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
Provincial Organizationองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ไทย) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
prefectureศาลากลางจังหวัด (ฝรั่งเศส) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
programmable interrupt controller (PIC)ตัวควบคุมการขัดจังหวะแบบโปรแกรมได้ (พีไอซี) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
pulse, dropped-beat; pulse, intermittentชีพจรตกจังหวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
PIC (programmable interrupt controller)พีไอซี (ตัวควบคุมการขัดจังหวะแบบโปรแกรมได้) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
pulsateรู้สึกเต้นเป็นจังหวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pulsatile-เต้นเป็นจังหวะได้ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pulsation; throb; throbbing๑. การเต้นเป็นจังหวะ๒. ความรู้สึกเต้นเป็นจังหวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pulsation weldingการเชื่อมแบบพัลส์, การเชื่อมพักจังหวะ [การเชื่อม ๒๐ ก.ย. ๒๕๔๔]
power strokeจังหวะกำลัง [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
power strokeจังหวะกำลัง [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
pacemakerตัวคุมจังหวะ, ส่วนคุมจังหวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pacemaker, cardiacตัวคุมจังหวะหัวใจ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pulse, intermittent; pulse, dropped-beatชีพจรตกจังหวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pulse, allorhythmicชีพจรเสียจังหวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
levy๑. จังกอบ, ภาษี๒. การเกณฑ์ทหาร [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
rhythmจังหวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
rhythmจังหวะ [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
rhythm methodวิธีรอจังหวะ [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
rhythmical-เป็นจังหวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
rhythmicityความเป็นจังหวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
rising rhythmจังหวะขึ้น [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
surge drumหม้อลดจังหวะความดัน [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕]
systole, extra; extrasystoleการบีบตัวของหัวใจนอกจังหวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
suction stroke; inlet stroke; intake strokeจังหวะดูด [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
suction stroke; inlet stroke; intake strokeจังหวะดูด [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
stroke๑. ระยะชัก๒. จังหวะ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
automatic interruptการขัดจังหวะอัตโนมัติ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
allorhythmic pulseชีพจรเสียจังหวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
arrhythmiaภาวะหัวใจเสียจังหวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
arrhythmicเสียจังหวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
biorhythmจังหวะชีวภาพ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
machine interruptionการขัดจังหวะเครื่อง [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
cardiac pacemakerตัวคุมจังหวะหัวใจ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
compression strokeจังหวะอัด [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
compression strokeจังหวะอัด [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
cessภาษีส่วนท้องถิ่น, จังกอบ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
circadian rhythmจังหวะรอบวัน [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
caesuraจังหวะหยุด [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
cowlโครงกระจังหน้ารถ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
department๑. กรม๒. จังหวัด๓. กระทรวง (อเมริกัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
dropped-beat pulse; pulse, intermittentชีพจรตกจังหวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
d&eacute;partement (Fr.)จังหวัด (ฝรั่งเศส) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
four-cycle; four-stroke; four-stroke cycleวัฏจักรสี่จังหวะ [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
four-cycle; four-stroke; four-stroke cycleวัฏจักรสี่จังหวะ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
four-cycle; four-stroke; four-stroke cycleวัฏจักรสี่จังหวะ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Junction Boxจังชั่นบ็อก, Example: กล่องรวมสายไฟ ที่ติดอยู่ด้านหลังแผงเซลล์แสงอาทิตย์ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
P-N junctionพี-เอ็น จังก์ชั่น, Example: บริเวณสัมผัสสารกึ่งตัวนำต่างชนิดกันสองชั้น คือชั้นพีและเอ็น [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Interruptขัดจังหวะ [คอมพิวเตอร์]
interactive mediaสื่อเชิงโต้ตอบ, สื่อที่ผู้ใช้สามารถมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบได้ เช่น หยุด เล่นซ้ำ หาหัวเรื่องใหม่ ตอบคำถามเพื่อเดินเรื่องไปตามจังหวะที่ผู้รับต้องการ เหมาะสำหรับการเรียนรู้&nbsp;และการศึกษารายบุคคลตามความถนัดและความสนใจ [Assistive Technology]
Arrhythmias, Cardiacภาวะหัวใจเสียจังหวะ [TU Subject Heading]
Circadian rhythmsจังหวะรอบวัน [TU Subject Heading]
County budgetsงบประมาณจังหวัด [TU Subject Heading]
County council membersสมาชิกสภาจังหวัด [TU Subject Heading]
County councilsสภาจังหวัด [TU Subject Heading]
County governmentการบริหารส่วนจังหวัด [TU Subject Heading]
Emblems, Stateเครื่องหมายประจำจังหวัด [TU Subject Heading]
Games with musicกิจกรรมเข้าจังหวะ [TU Subject Heading]
Governorsผู้ว่าราชการจังหวัด [TU Subject Heading]
Gross state productผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด [TU Subject Heading]
Impermance (Buddhism)อนิจจัง [TU Subject Heading]
Metrics and rhythmicsการสัมผัสและจังหวะเสียง [TU Subject Heading]
Musical meter and rhythmอัตราจังหวะและจังหวะดนตรี [TU Subject Heading]
Provincial emblemsสัญลักษณ์ประจำจังหวัด [TU Subject Heading]
Provincial flowersดอกไม้ประจำจังหวัด [TU Subject Heading]
Provincial treesต้นไม้ประจำจังหวัด [TU Subject Heading]
Rhythmจังหวะเสียง [TU Subject Heading]
Two-stroke cycle engines ; Motors (Two-stroke cycle)เครื่องยนต์สองจังหวะ [TU Subject Heading]
Junkของเลิกใช้, จังค์, Example: สิ่งของที่ไม่ใช้แล้วและเก็บรวบรวมไว้ในที่ เดียวกัน พวกเครื่องใช้ในบ้าน รถเก่าพัง เป็นต้น [สิ่งแวดล้อม]
Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong Economic Cooperation Strategyยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิระวดี ? เจ้าพระยา ? แม่โขง ACMECS หรือชื่อเดิม ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัมพูชา ลาว พม่า และไทย (ECS : Economic Cooperation Strategy among Cambodia, Lao PDR, Myanmar and Thailand) คือ กรอบความร่วมมือระหว่าง 5 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม ACMECS เป็นแนวคิดที่ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกขึ้นหารือกับผู้นำกัมพูชา ลาว และพม่า ในช่วงการประชุมผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษว่าด้วยโรค SARS เมื่อ 29 เมษายน 2546 ที่กรุงเทพฯ และได้มีพัฒนาการอย่างรวดเร็วต่อเนื่องจนถึงการประชุมระดับผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 1 ที่เมืองพุกาม สหภาพพม่า เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2546 โดยผู้นำทั้ง 4 ประเทศร่วมกันออกปฏิญญาพุกาม (Bagan Declaration) รวมทั้งแผนปฏิบัติการ (Plan of Action) ครอบคลุมความร่วมมือ 5 สาขา ได้แก่ การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการ ลงทุน ความร่วมมือทางด้านเกษตรและอุตสาหกรรม การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม การท่องเที่ยว และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ บนหลักการที่เน้นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและยกระดับความ เป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งเปิดกว้างให้นานาประเทศและองค์การระหว่างประเทศได้มีส่วนร่วมเป็น หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (Development Partner) ในโครงการต่างๆ ของ ACMECS ด้วย * เวียดนามร่วมเป็นสมาชิก ACMECS เมื่อ 10 พฤษภาคม 2547 สถานะล่าสุด ระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2547 ที่จังหวัดกระบี่ ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสสมัยพิเศษและการประชุม รัฐมนตรี ACMECS อย่างไม่เป็นทางการ รวมทั้งการประชุมร่วมกับ Development Partners (ผู้แทนจากออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย) ซึ่งการประชุมประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง สมาชิก ACMECS ทั้ง 5 ประเทศได้ร่วมกันแสดงความเป็น เอกภาพ โดยยืนยันเจตนารมณ์ที่จะดำเนินการตามกรอบความร่วมมือ ACMECS อย่าง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อผู้แทนของ Development Partners รวมทั้งมีการหารือถึงความคืบหน้าของการดำเนินโครงการระหว่างกันอย่างเป็น รูปธรรม นอกจากนี้ ยังสามารถมีข้อสรุปที่สำคัญๆ เกี่ยวกับกลไกการประสานงานระหว่างกันซึ่งจะช่วยให้การดำเนินกิจกรรมความร่วม มือของ ACMECS มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป * ไทยมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 2 ในเดือนธันวาคม 2548 ที่กรุงเทพฯ [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangleโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย " จัดตั้งในสมัยรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน เมื่อกลางปี พ.ศ. 2535 โดยมีพื้นที่โครงการครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ คือ ไทย ได้แก่ สงขลา ยะลา ปัตตานี สตูล และนราธิวาส มาเลเซีย ได้แก่ 4 รัฐทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซีย (เคดาห์ เปอร์ลิส เปรัก และปีนัง) อินโดนีเซีย ได้แก่ 4 จังหวัดบนเกาะสุมาตรา (เขตปกครองพิเศษอาเจ่ห์) สุมาตราเหนือ สุมาตราตะวันตก และจังหวัดเรียว (Riau) " [การทูต]
Joint Declaration for a Socially Cohesive and Caring ASEANปฏิญญาร่วมว่าด้วยสังคมที่เป็นปึกแผ่นและเอื้ออาทรในอาเซียน เป็นคำประกาศของอาเซียนซึ่งมีการลงนามที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2543 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะให้มีการดำเนินโครงการด้านโครงข่ายรองรับทาง สังคมในภูมิภาคนี้ร่วมกันอย่างจริงจัง ในอันที่จะเป็นการนำอาเซียนไปสู่การเป็นสังคมที่มีความเป็นปึกแผ่นและเอื้อ อาทรตามวิสัยทัศน์อาเซียนปี พ.ศ. 2563 [การทูต]
New World Orderระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต]
point of orderประท้วง หรือขัดจังหวะในระหว่างการประชุม หรือระหว่างการกล่าวถ้อยแถลงในเรื่องผิดข้อบังคับการประชุม [การทูต]
Regional Operate Centerศูนย์ปฏิบัติการร่วม กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ROC เป็นโครงการนำร่อง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศกระทรวงมหาดไทย สำนักงาน ก.พ.ร. และ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ร่วมกันจัดตั้งขึ้น เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2549 เพื่อพัฒนาการทำงานร่วมกันระหว่างเอกอัครราชทูตในประเทศเพื่อนบ้านกับผู้ว่า ราชการจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยทำหน้าที่ประสานเชื่อมโยงการทำงานระหว่างเอกอัครราชทูตกับผู้ว่าราชการ จังหวัด เพื่อบูรณาการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ให้สอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศ รวมทั้งให้บริการข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านและจังหวัดในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ การพัฒนาสมรรถนะบุคลากรและงานวิจัยในท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนนโยบายต่างประเทศ [การทูต]
Work of the United Nations on Human Rightsงานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต]
sterile insect techniqueการควบคุมจำนวนแมลงด้วยแมลงที่เป็นหมัน, คือ วิธีการควบคุมประชากรแมลง โดยใช้แมลงชนิดเดียวกันที่เป็นหมันด้วยรังสี โดยมีหลักการคือ นำแมลงม ทำให้เป็นหมันด้วยรังสีชนิดก่อไอออน แล้วปล่อยไปในธรรมชาติ แมลงตัวเมียที่ได้รับการผสมพันธุ์กับแมลงตัวผู้ที่เป็นหมัน จะไม่สามารถขยายพันธุ์ต่อไปได้ การควบคุมแมลงวิธีนี้ จะต้องปล่อยแมลงที่เป็นหมันจำนวนมากหลายรุ่นต่อเนื่องกัน จนกว่าประชากรแมลงลดลงหรือหมดไป ข้อดีของวิธีการนี้เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการใช้ยาฆ่าแมลง คือ ไม่มีสารพิษตกค้างในผลิตผลการเกษตร และไม่ทำลายแมลงที่เป็นประโยชน์ ประเทศไทยมีการใช้วิธีการนี้ควบคุมแมลงวันผลไม้ (Oriental fruit fly) ที่ดอยอ่างขาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง และ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา [พลังงาน]
Aerophobiaการสะดุ้งเป็นจังหวะ [การแพทย์]
Anti-Arrhythmia Agentsยาแก้หัวใจเต้นผิดจังหวะ, ยากดกล้ามเนื้อหัวใจ [การแพทย์]
Antiarrhythmic Drugsยาต้านหัวใจเสียจังหวะ, ยารักษาการเต้นผิดจังหวะของหัวใจ [การแพทย์]
Appendicitis, Acuteหัวใจเต้นเสียจังหวะอย่างเฉียบพลัน [การแพทย์]
Arrhythmiaภาวะหัวใจเสียจังหวะ, หัวใจเต้นผิดจังหวะ, หัวใจเสียจังหวะ, การเต้นผิดจังหวะ, หัวใจเต้นผิดปกติ, ชีพจรไม่สม่ำเสมอ, การเต้นไม่เป็นจังหวะของหัวใจ, หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ, หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ, การเต้นผิดจังหวะของหัวใจ, หัวใจเต้นจังหวะไม่สม่ำเสมอ [การแพทย์]
Arrhythmia Surveillanceการเฝ้าระวังการเต้นไม่เป็นจังหวะของหัวใจ [การแพทย์]
Arrhythmia, Cardiacหัวใจเต้นผิดจังหวะ, การเต้นผิดจังหวะของหัวใจ, การเต้นผิดปกติของหัวใจ, หัวใจเต้นผิดปกติ, หัวใจเสียจังหวะ, โรคหัวใจเต้นผิดปกติ, การเต้นของหัวใจเสียจังหวะ, การเต้นผิดปกติของหัวใจ, หัวใจเสียจังหวะ, คาร์ดิแอคอะริธเมีย, หัวใจเต้นผิดปกติ [การแพทย์]
Arrhythmia, Common Cardiacการเต้นผิดจังหวะของหัวใจ [การแพทย์]
Arrhythmia, Fetal Cardiacหัวใจเด็กเต้นแบบเสียจังหวะ [การแพทย์]
Arrhythmia, Supraventricularหัวใจเต้นผิดจังหวะจากตำแหน่งเหนือต่อเวนตริเกิ้ล [การแพทย์]
Arrhythmia, Ventricularการเต้นไม่เป็นจังหวะของหัวใจห้องล่าง, หัวใจเต้นผิดจังหวะจากเวนตริเกิ้ล [การแพทย์]
Atrial Rhythm, Chronic Abnormalจังหวะการเต้นผิดปกติของเอเตรียมเรื้อรัง [การแพทย์]
Biological Rhythmsจังหวะทางชีวภาพ [การแพทย์]
Breathing Exercises, Rhythmic Deepการบริหารการหายใจเป็นจังหวะ [การแพทย์]
Breathing, Biot'sหายใจไม่เป็นจังหวะ [การแพทย์]
Cardiac Dysrhythmiaหัวใจเต้นผิดจังหวะ [การแพทย์]
Circadian Rhythmจังหวะเซอร์คาเดียน, การหลั่งตามรอบวัน [การแพทย์]
Conjunctivaคอนจังไตว่า, เปลือกตาด้านใน, เยื่อบุตา, เยื่อตาขาว, เยื่อตาขาว, บริเวณตาขาว, บริเวณเยื่อตาขาว, เยื่อตาขาว, เยื่อนัยน์ตา, เยื่อบุนัยน์ตา, เยื่อตา, เยื่อบุลูกตา, คอนจังติวา, เยื่อบุนัยน์ตา, เยื่อบุตาขาว [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Too bad.แย่จัง Please, Do Talk About Me When I'm Gone (2010)
Nice.สวยจัง Gyre, Part 2 (2012)
That's odd.แปลกจัง The Inspiration (2013)
Darn!แย่จัง ! Millennium Actress (2001)
Hello. Pardon me for interfering, but that's a nice shirt.ขอโทษที่ขัดจังหวะ... Schindler's List (1993)
Why the long face, Jonesy?ทำไมทำหน้าเศร้าจัง โจนส์ ? The Young Indiana Jones Chronicles (1992)
Hmm, tell him that's very sweet.อืมม บอกเขาว่า นั่นไพเราะจัง Aladdin (1992)
Hey, I think there's something written here, but it's hard to make out.เฮ้ มีอะไรเขียนอยู่ตรงนี้ แต่มันยากที่จะอ่านจัง Aladdin (1992)
Iago, I love the way your foul little mind works!อิอาโก้ ข้าชอบเวลาที่สมองอันสกปรกของเจ้าใช้งานได้จัง Aladdin (1992)
Well, don't I feel just sheepish?อา ทำไมฉันรู้สึกเชื่อฟังดีจัง Aladdin (1992)
I like it, muy macho!ข้าชอบจัง แมนมาก Aladdin (1992)
Purple peacocks, he's got fifty-three! -Fabulous, Harry, I love the feathers!นกยูงสีม่วง เขามีกว่า 53 ตัว เหลือเชื่อ จริงๆ ข้าชอบขนนกจัง Aladdin (1992)
I'm serious. Look, I'm sorry--I really am.ฉันจริงจังนะ ดูสิ ฉันเสียใจ นี่เเหละตัวฉัน Aladdin (1992)
God, Michael, how dramatic.พระเจ้า ไมเคิล น้ำเน่าจัง Basic Instinct (1992)
It's beautiful.สวยจัง The Bodyguard (1992)
Rachel! God, this is so embarrassing.ว้า ขายหน้าจังแฮะ The Bodyguard (1992)
It's very quiet here.ที่นี่เงียบจังเลย The Bodyguard (1992)
It's good to hear you laugh.ดีจังที่ได้ยินคุณหัวเราะ The Bodyguard (1992)
I'm surprised. Thorough fellow like you.แปลกจัง คนถี่ถ้วนอย่างคุณ The Bodyguard (1992)
It's big.โตจัง The Bodyguard (1992)
It was so scary, just thinking about it.น่ากลัวจังเลยนะ The Bodyguard (1992)
Very good. You look lovely. - Thank you.น่ารักจังเลยนะ The Bodyguard (1992)
That's why the district attorney is so hard-nosed this time.ชั้นดีใจจังเลยที่จะได้ทำหนังสือพิมพ์เอง ว้าว มีความสุขจัง วิ้ว บราโว่ Hero (1992)
What we have to do is focus on the probation officer's report.ฉันต้องการให้คุณช่วย จริงจังนะ Hero (1992)
Oh, my God!พี่นี่หล่อจังเลยนะครับ Hero (1992)
I don't have to explain how much my cameraman, editor, assignment editor and news director, to name a few, did to get me this award.หือ ทำไมมีมิสคอลเยอะจัง สวัสดีครับคุณนักสืบ อ่าครับ ผมทำงานพิเศษอยู่น่ะครับ ผมเลยไม่ได้พกโทรศัพท์ Hero (1992)
Somebody's coming.ฮ่าๆๆ หนุกจังนะเนี่ย Hero (1992)
-What do you think I'm doing?คุณนี่ตลอกจังเลยนะครับ Hero (1992)
Do you want to give it to him, or should I?หนูสองคนนี่โชคดีจังนะจ๊ะ มีคุณปู่พาไปโรงดรียนด้วย -มันไม่ใช่หยั่งงั้นนะครับ Hero (1992)
LaPlante, you're under arrest! You have the right---ทำไมพวกเธอใจร้ายจังเลย Hero (1992)
Where I got the plastic? I got a million bucks from the jet! Bullshit!ไอกู นี่เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กๆกลับถึงบ้านปลอดภัย ชิมิ ปลื้มจัง Hero (1992)
John Bubber was living in his car at the time of the crash.ว้าวว อยากรู้จังจะเป็นยังไง อย่าพูดเรื่องที่คุณไม่รู้อะไรเลยจะได้มะ ชั้นไม่ได้อยากรู้เรื่องนั้น Hero (1992)
God, I hate it when you smoke in bed.พระเจ้า เกลียดจังเลย เวลาคุณสูบบนเตียง The Lawnmower Man (1992)
Too dark.มืดจัง The Lawnmower Man (1992)
Why is this place so far from town?ทำไมที่นี่ถึงอยู่ห่างจากเมืองจัง? The Lawnmower Man (1992)
I want to get him up for something strange tonight.อยากทำอะไรสนุกๆคืนนี้จัง The Lawnmower Man (1992)
It'll be nice sleeping here, just looking up at the leaves.ดีจังที่ได้นอนที่นี่ ได้มองใบไม้บนนั้น Of Mice and Men (1992)
- She's pretty.- เธอสวยจัง Of Mice and Men (1992)
It's hot out here. Not cool like in the barn.ข้างนอกร้อนจัง ไม่เห็นเย็นเหมือนในโรงนาเลย Of Mice and Men (1992)
I said it's hot out here!ฉันบอกว่าข้างนอกร้อนจัง Of Mice and Men (1992)
That's nice.ดีจัง Of Mice and Men (1992)
What makes you so nuts about rabbits?ทำไมนายถึงบ้าเรื่องกระต่ายจัง Of Mice and Men (1992)
That's nice.ดีจัง Of Mice and Men (1992)
He's just cool.เขาดูเท่จัง เนอะ The Cement Garden (1993)
You do look nice, son.ลูกดูดีจังวันนี้ The Cement Garden (1993)
I'm really tired of just lying here all day...เบื่อจังที่ต้องนอนทั้งวัน The Cement Garden (1993)
So you actually read it?งั้นเธอก็อ่านมันจริงๆจังๆเลยสินะ The Cement Garden (1993)
The soup is terrific. I love it.ซุปนี่อร่อยจัง ฉันชอบ The Cement Garden (1993)
I really love those little gnomes. They, they...ผมชอบรูปปั้นตัวโนมนั่นจัง มัน เอ่อ... The Cement Garden (1993)
I wonder if they're watching us now...สงสัยจัง ว่าพวกเขาจะมองดูเราอยู่รึเปล่า The Cement Garden (1993)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
อนิจจัง[anitjang] (adj) EN: impermanent
อนิจจัง[anitjang] (interj) EN: alas!
เอาจริงเอาจัง[aojing-aojang] (v) EN: be serious ; be in earnest ; be stern ; be austere ; be rigid  FR: prendre au sérieux
อร่อยจัง[arøi jang] (x) EN: very good ; delicious ; yummy  FR: très bon ; délicieux ; succulent ; savoureux ; appétissant ; alléchant
บ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัด[bānphak phūwārātchakān jangwat] (n, exp) EN: governor's official resident
เบื่อจัง[beūa jang] (v, exp) FR: j'en ai marre ! ; ras-le-bol !
ได้จังหวะ[dāi jangwa] (v, exp) EN: be at right timing ; get a chance ; have an opportunity
เด็กต่างจังหวัด[dek tāngjangwat] (n, exp) EN: rustic boy ; country boy
ดีจัง[dī jang] (adj) EN: how good! ; how nice!  FR: merveilleux
หิวจังเลย[hiū jang loēi] (v, exp) FR: avoir terriblement faim
ใจร้ายจัง[jairāi jang] (xp) EN: you are wicked ! ; how could you !
จัง[jang] (adv) EN: greatly ; squarely ; quite ; extremely ; really ; truly ; indeed  FR: vraiment ; totalement ; tout à fait ; tellement ; terriblement ; très
จังเลย[jang loēi] (adv) EN: really  FR: vraiment
จังงัง[jang-ngang] (adj) EN: dazed ; stunned ; stock-still  FR: hébété ; abasourdi ; assomé (fig.)
จังหวะ[jangwa] (n) EN: rhythm ; tempo ; phase ; timing ; swing ; cadence ; spacing ; step ; pace ; pulse  FR: rythme [ m ] ; tempo [ m ] ; cadence [ f ]
จังหวะลีลา[jangwa lilā] (n) EN: rhythmics ; rhythm
จังหวัด[jangwat] (n) EN: province  FR: province [ f ]
จังหวัดอำนาจเจริญ[Jangwat Amnāt Jaroēn] (n, prop) EN: Amnat Charoen province  FR: province de Amnat Charoen [ f ]
จังหวัดอ่างทอง[Jangwat Āng Thøng] (n, prop) EN: Ang Thong province  FR: province de Ang Thong [ f ]
จังหวัดบุรีรัมย์[Jangwat Burīram] (n, prop) EN: Buri Ram province ; Buriram province  FR: province de Buri Ram [ f ] ; province de Buriram [ f ]
จังหวัดฉะเชิงเทรา[Jangwat Chachoēngsao] (n, prop) EN: Chachoengsao province  FR: province de Chachoengsao [ f ]
จังหวัดชายแดน[jangwat chāidaēn] (n, exp) EN: border province  FR: province frontalière [ f ]
จังหวัดชัยนาท[Jangwat Chai Nāt] (n, prop) EN: Chai Nat province  FR: province de Chai Nat [ f ]
จังหวัดชัยภูมิ[Jangwat Chaiyaphūm] (n, prop) EN: Chaiyaphum province  FR: province de Chaiyaphum [ f ]
จังหวัดเชียงใหม่[Jangwat Chīeng Mai] (n, prop) EN: Chiang Mai province ; Chieng Mai province  FR: province de Chiang Mai [ f ] ; province de Chieng Mai [ f ]
จังหวัดเชียงราย[Jangwat Chīeng Rāi] (n, prop) EN: Chiang Rai province ; Chieng Rai province  FR: province de Chiang Rai [ f ] ; province de Chieng Rai [ f ]
จังหวัดชลบุรี[Jangwat Chonburī] (n, prop) EN: Chonburi province ; Chon Buri province  FR: province de Chonburi [ f ] ; province de Chon Buri [ f ]
จังหวัดชุมพร[Jangwat Chumphøn] (n, prop) EN: Chumphon province  FR: province de Chumphon [ f ]
จังหวัดจันทบุรี[Jangwat Janthaburī] (n, prop) EN: Chanthaburi province  FR: province de Chanthaburi [ f ]
จังหวัดกาฬสินธุ์[Jangwat Kālasin] (n, prop) EN: Kalasin province  FR: province de kalasin [ f ]
จังหวัดกำแพงเพชร[Jangwat Kamphaēng Phēt] (n, prop) EN: Kamphaeng Phet province  FR: province de Kamphaeng Phet [ f ]
จังหวัดกาญจนบุรี[Jangwat Kānjānaburī] (n, prop) EN: Kanchanaburi province  FR: province de Kanchanaburi [ f ]
จังหวัดของประเทศไทย[jangwat khøng Prathēt Thai] (n, exp) EN: province of Thailand  FR: province de Thaïlande [ f ] ; province Thaïlandaise [ f ]
จังหวัดขอนแก่น[Jangwat Khøn Kaen] (n, prop) EN: Khon Kaen province  FR: province de Khon Kaen [ f ]
จังหวัดกระบี่[Jangwat Krabī] (n, prop) EN: Krabi province  FR: province de Krabi [ f ]
จังหวัดลำปาง[Jangwat Lampāng] (n, prop) EN: Lampang province  FR: province de Lampang [ f ]
จังหวัดลำพูน[Jangwat Lamphūn] (n, prop) EN: Lamphun province  FR: province de Lamphun [ f ]
จังหวัดเลย[Jangwat Loēi] (n, prop) EN: Loei province  FR: province de Loei [ f ]
จังหวัดลพบุรี[Jangwat Lopburī] (n, prop) EN: Lopburi province ; Lop Buri province  FR: province de Lopburi [ f ] ; province de Lop Buri [ f ]
จังหวัดแม่ฮ่องสอน[Jangwat Mae Hǿng Søn] (n, prop) EN: Mae Hong Son province  FR: province de Mae Hong Son [ f ]
จังหวัดมหาสารคาม[Jangwat Mahā Sārakhām] (n, prop) EN: Maha Sarakham province  FR: province de Maha Sarakham [ f ]
จังหวัดมุกดาหาร[Jangwat Mukdāhān] (n, prop) EN: Mukdahan province  FR: province de Mukdahan [ f ]
จังหวัดนครนายก[Jangwat Nakhøn Nāyok] (n, prop) EN: Nakhon Nayok province  FR: province de Nakhon Nayok [ f ]
จังหวัดนครปฐม[Jangwat Nakhøn Pathom] (n, prop) EN: Nakhon Pathom province  FR: province de Nakhon Pathom [ f ]
จังหวัดนครพนม[Jangwat Nakhøn Phanom] (n, prop) EN: Nakhon Phanom province  FR: province de Nakhon Phanom [ f ]
จังหวัดนครราชสีมา[Jangwat Nakhøn Rātchasīmā] (n, prop) EN: Nakhon Ratchasima province  FR: province de Nakhon Ratchasima [ f ]
จังหวัดนครสวรรค์[Jangwat Nakhøn Sawan] (n, prop) EN: Nakhon Sawan province  FR: province de Nakhon Sawan [ f ]
จังหวัดนครศรีธรรมราช[Jangwat Nakhøn Sī Thammarāt] (n, prop) EN: Nakhon Si Thammarat province  FR: province de Nakhon Si Thammarat [ f ]
จังหวัดน่าน[Jangwat Nān] (n, prop) EN: Nan province  FR: province de Nan [ f ]
จังหวัดนราธิวาส[Jangwat Narāthiwāt] (n, prop) EN: Narathiwat province  FR: province de Narathiwat [ f ]

English-Thai: Longdo Dictionary
Payao(n) จังหวัดพะเยา

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
accelerando(adj) ที่ค่อยๆเพิ่มจังหวะดนตรีให้เร็วขึ้น
accelerando(adv) อย่างค่อยๆเพิ่มจังหวัดดนตรีให้เร็วให้
adjure(vt) สั่งการ, See also: สั่งอย่างเอาจริงเอาจัง
allegretto(adv) ซึ่งมีจังหวะค่อนข้างเร็ว (ดนตรี)
allegretto(adj) ซึ่งมีจังหวะค่อนข้างเร็ว (ดนตรี)
allegretto(n) ดนตรีซึ่งมีจังหวะค่อนข้างเร็ว
allegro(adv) (ดนตรี) ซึ่งมีจังหวะที่สั่นและเร็ว
allegro(adj) (ดนตรี) ซึ่งมีจังหวะที่สั่นและเร็ว
Ang Thong(n) จังหวัดอ่างทอง
Ayutthaya(n) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, See also: อยุธยา
backbeat(n) จังหวะดนตรีที่หนักแน่น โดยเฉพาะจังหวะร็อก
ballroom dancing(n) การเต้นรำจังหวะบอลรูม
Bangkok(n) กรุงเทพมหานคร (เมืองหลวงของประเทศไทย), See also: บางกอก, จังหวัดกรุงเทพมหานคร
beat(vt) (ชีพจร) เต้นเป็นจังหวะ, See also: หอบ, ใจ เต้น, เต้นเป็นจังหวะ
beat(n) จังหวะ
bent(adj) แน่วแน่, See also: จริงจัง
blues(n) เพลงช้าที่มีจังหวะหนัก (เพลงบลูส์)
bluesy(adj) ซึ่งมีจังหวะหนัก ช้าและเศร้า
bandy about(phrv) พูดถึงอย่างไม่จริงจัง
bandy around(phrv) พูดถึงเกี่ยวกับบางสิ่งอย่างไม่จริงจัง
bandy round(phrv) พูดถึงเกี่ยวกับบางสิ่งอย่างไม่จริงจัง
barge in(phrv) ขัดจังหวะอย่างไม่สุภาพ (คำไม่เป็นทางการ)
barge into(phrv) ขัดคอ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ขัดจังหวะ การพูด
be beyond a joke(idm) เลิกเล่นสนุก, See also: เอาจริงเอาจังเกินไป, เลิกตลก, Syn. be past a joke
be past a joke(idm) จริงจังเกินไป, See also: เลิกเล่นตลก, เลิกสนุกสนาน, Syn. be beyond a joke, go beyond
be well away(idm) โชคดี, See also: มีจังหวะดี, มีตำแหน่งเหมาะสม
botch up(phrv) ทำลวกๆ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ทำเล่นๆ, ทำไม่จริงจัง, ทำไม่ระวัง, Syn. mess up
break in(phrv) ขัดจังหวะ, Syn. burst in, cut in
break in on(phrv) ขัดจังหวะ, See also: แทรก, Syn. burst in on
break in upon(phrv) ขัดจังหวะ, See also: แทรก, Syn. burst in on
break into(phrv) ขัดจังหวะ
bung in(phrv) ขัดจังหวะ (คำไม่เป็นทางการ), See also: พูดแทรก
burst in on(phrv) รีบขัดจังหวะ, Syn. break in on
butt in(phrv) พูดขัดจังหวะ
cadence(n) จังหวะ, Syn. rhythm
castanets(n) เครื่องให้จังหวะชนิดหนึ่งเป็นไม้ 2 อันประกบกันมีรูปร่างคล้ายเปลือกหอย (ทำให้เกิดเสียงโดยถือไม้ทั้งสองอันไว้ในมือแล้วตีให้เกิดเสียง), Syn. bones, clappers
Chachoengsao(n) จังหวัดฉะเชิงเทรา
Chainat(n) จังหวัดชัยนาท
Chaiyaphum(n) จังหวัดชัยภูมิ
Chanthaburi(n) จังหวัดจันทบุรี
Chiang Mai(n) จังหวัดเชียงใหม่
Chiangrai(n) จังหวัดเชียงราย
Chonburi(n) จังหวัดชลบุรี
continuation(n) การเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง (หลังจากถูกขัดจังหวะ)
cool(adj) ซึ่งมีจังหวะที่ผ่อนคลาย (บทเพลง)
countryman(n) คนต่างจังหวัด, Syn. rustic, farmer
countryseat(n) คฤหาสน์ในต่างจังหวัด
countryside(n) ชนบท, See also: บ้านนอก, ต่างจังหวัด, Syn. rural area, rural district
cut in(phrv) ขัดจังหวะ
cut off(phrv) ขัดจังหวะ, See also: พูดแทรก, ทำให้หยุดพูด, Syn. interrupt, intrude

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
a gogo(อาโก' โก) มากเท่าที่คุณต้องการ, ไม่มีขอบเขต, เดินเพ่นพ่าน, จังหวะเต้นรำอะโกโก้, เวที่เต้นรำจังหวะอะโกโก้, Syn. a Go go, a go-go, au gogo
accentual(แอคเซน' ชวล) adj. เกี่ยวกับการเน้นเสียงหนัก, ซึ่งเป็นจังหวะ. -accentuality n.
adjunct(แอด' จังคฺ) n., adj. สิ่งเสริม, สิ่งเพิ่มเติม, ผู้ช่วย, ส่วนประกอบ, บทเพิ่ม, Syn. appendage
adjunctive(อะจังคฺ' ทิฟว) adj. เป็นสิ่งประกอบหรือส่งเสริม, คำเสริม, ส่วนสังกัด
adjuncton(อะจังคฺ' เชิน) n. การอยู่ติดกัน, การอยู่ข้างเคียง (addition to an adjunct)
alack(อะแลค') interj. อนิจจา, อนิจจัง.
allegretto(แอลลิเกรท' โท) adj., n. (pl. -tos) ซึ่งมีจังหวะเบาและค่อนข้างเร็ว (ดนตรี) , - n. จังหวะที่เบาและค่อนข้างเร็ว
allegro(อะเล' โกร) adj., n. (pl. -gros) สั้นและเร็ว (จังหวะดนตรี) -n. การเคลื่อนที่ที่สั้นและเร็ว (จังหวะ)
allemande(แอล' ลิมานดฺ) n., (pl. -mandes) การเต้นรำในศตวรรษที่ 17-18 ที่มีจังหวะคู่ที่ช้า, ดนตรีที่อาศัยหลักการเต้นรำดังกล่าว
amhara(อามฮา' รา) n. ราชอาณาจักรโบราณในอาฟริกาตะวันออกเดี๋ยวนี้เป็นจังหวัดหนึ่งในเอธิโอเปีย
andante(แอนแดน' ที) adj. ค่อนข้างช้าและแรียบ (เสมอ) . จังหวะช้า ๆ (walking)
andantino(แอนแดนที' โน) n., adj. adv. จังหวะที่ค่อนข้างเร็วกว่า andante, ค่อนข้างเร็วกว่า andante
apropos(แอพระโพ') adv., adj. เหมาะสม, ถูกจุดประสงค์, ถูกจังหวะ, Syn. opportunely
arrhythmia(อะริธ'เมีย) n. ภาวะหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ, ภาวะไม่ได้จังหวะ., Syn. arrhythmia, arythmia, arythmia -arrhythmia al
arsis(อาร์'ซิส) n., (pl. -ses) จังหวะขึ้น, จังหวะเมา, พยางค์เสียงหนัก (ในโคลงกลอนภาษาอังกฤษ
azerbijan(อาเซอะไบแจน') n. ชื้อดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย, ชื่อจังหวัดในอิหร่าน., Syn. Azerbaidzhan
bandmaster(แบนมาส'เทอะ) n. ผู้นำจังหวะวงดนตรี
batonn. ตะบอง, กระบอง, ไม้ของผู้นำจังหวะดนตรี, คทา, ไม้ต่อแรงของการวิ่งผลัด
beat(บีท) { beat, beaten, beating, beats } vt. ตี, เคาะ, หวด, ตบ, เฆี่ยน, กระทบ, รบชนะ, พิชิต, ฟัน, ดีกว่า, เก่งกว่า, โกง, ค้นหา n. จังหวะ, การเต้น, เสียงเดินติ๊ก ๆ ของนาฬิกา, ทางเดินปกติ, การเน้น adj. เหนื่อยอ่อน
beguine(บิกีน') n. ชื่อการเต้นรำชนิดหนึ่งในอาฟริกาใต้, จังหวะบิกิน
business(บิซ'ซิเนส) n. ธุรกิจ, การค้า, เรื่องที่ยากลำบาก, เรื่องที่ถือว่าสำคัญและเอาจริงเอาจัง, ธุระ, สถานการณ์, ภาระหน้าที่, การงาน -Id. (mean business) เอาจริง adj. เกี่ยวกับธุรกิจการค้า
businesslikeadj. เกี่ยวกับธุรกิจ, มีประสิทธิภาพ, เอาจริงเอาจัง
cadence(แคด'เดินซฺ) { cadenced, cadencing, cadences } n. ท่วงทำนองดนตรี, จังหวะในการพูด, จังหวะ, ท่วงทำนอง vt. ให้จังหวะ, ทำเป็นจังหวะ, See also: cadent, cadential adj., Syn. beat
cadency(แคด'เดินซี่) n. จังหวะ, ท่วงทำนอง, ความสัมพันธ์ของสมาชิกวงศ์ตระกูล
cadent(แคด'เดินทฺ) adj. เป็นจังหวะ, เป็นท่วงทำนอง, ซึ่งกำลังตก
calypso(คะลิพ'โซ) n. จังหวะคาลิพโซ, นางฟ้าในนวนิยาย
cha-cha(ชา'ชา) n. จังหวะเต้นรำ ชะ-ชะ-ชะ
city halln. ศาลากลางจังหวัด
clapper n.คนตบมือ, สิ่งที่กระทบและเกิดเสียงดัง, ไม้ตีจังหวะ,
click(คลิค) 1. { clicked, clicking, clicks } n. เสียงดังกริ๊ก, กลอนสปริง, ตัวดึง, เสียงกระเดาะลิ้น vi. เสียงดังกริ๊ก, เปล่งเสียงดังกริ๊ก, กระเดาะลิ้นดังกริ๊ก, กระทำสำเร็จ, ประสานกันได้ดี, สอดคล้อง, ได้รับการต้อนรับจากประชาชน vt. ทำให้เกิดเสียงดังกริ๊ก, กระทบดังกริ๊ก 2. กด (เมาส์) การกดนิ้วในจังหวะสั้น ๆ เร็ว ๆ 1 ที ลงบนปุ่มใดปุ่มหนึ่งของของเมาส์ (ส่วนใหญ่จะใช้ปุ่มซ้ายมือสุด) แล้วยกออกในทันที ใช้เมื่อต้องการสั่งการตามรายการในเมนู หรือเลือกรายการที่ต้อง การที่มีแสดงอยู่บนจอภาพ โดยเลื่อนเมาส์ให้ลูกศรชี้อยู่ที่คำสั่งที่ต้องการก่อน จึงค่อยกด (ในภาษาไทยอาจใช้สั้น ๆ ว่า "กดเมาส์ ") ในบางกรณี ต้องกดสองทีเร็ว ๆ เรียกว่า double click ดู double click ประกอบ
clock ticksสัญญาณนาฬิกาหมายถึง จังหวะช่วงเวลาที่นาฬิกาเดิน (ติ๊ก) ซึ่งจะเป็นช่วงที่แน่นอนสม่ำเสมอ ในแต่ละช่วงเดินของนาฬิกาที่เรียกว่า "ติ๊ก" นั้น คอมพิวเตอร์จะทำงานตามคำสั่ง และจะหยุดทำงานในช่วงว่างระหว่างติ๊ก ยิ่งช่วงติ๊กนี้ถี่เท่าใด ก็ยิ่งแปลว่าคอมพิวเตอร์ทำงานเร็วเท่านั้น สัญญาณนาฬิกานี้ จึงถือเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความเร็วของการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ความ เร็วของการเดินของนาฬิกา หรือความถี่นี้วัดกันเป็นเมกะเฮิรตช์ (megahertz) 1 เมกะเฮิรตซ์ จะเท่ากับ 1 ล้านติ๊กของนาฬิกาต่อ 1 วินาที คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือพีซีในยุคปัจจุบันนั้นมีหน่วยความจำที่ทำงานด้วยความเร็ว ถึงประมาณ 33-66 เมกะเฮิร์ตซ์
conjunct(คันจังคฺ', คอน'จังคฺ) adj. ซึ่งรวมกัน, ซึ่งเกิดจากการรวมกัน, See also: conjunctly adv., Syn. conjoined
conjunction(คันจังคฺ'เชิน) n. สันธาน, การร่วมกัน, การชุมนุมกัน, การบังเกิดขึ้นพร้อมกัน, Syn. association
conjunctiva(คอนจังคฺไท'วะ) n. เยื่อตาขาว -pl. conjunctivas, conjunctivae
conjunctive(คอนจังคฺ'ทิฟว) adj. ซึ่งเชื่อมกัน, ซึ่งรวมกัน n. สันธาน connective
conjunctivitis(คอนจังคฺทิไว'ทิส) n. เยื่อตาขาวอักเสบ
conjuncture(คอนจังคฺ'เชอะ) n. การรวมกัน, การเชื่อมผนึก, เหตุการณ์ทั้งหลายรวมกัน, ภาวะฉุกเฉิน, See also: conjunctural adj. ดูconjuncture, Syn. concatenation, juncture, connection
department(ดิพาร์ท'เมินทฺ) n. แผนก, ภาค, กอง, กรม, ทบวง, กระทรวง, เขต, จังหวัด., See also: departmental adj. ดูdepartment, Syn. section
dimeter(ดิม'มิเทอะ) n. โคลง, กลอน, ฉันท์-กาพย์-ที่มี2จังหวะ
disjunct(ดิสจังคฺ') adj. ซึ่งแยกออกจากกัน, หลุดจากกัน, ไม่ต่อเนื่อง, Syn. disjoined, separated
disjunctive(ดิสจังคฺ'ทิฟว) n. ซึ่งมีลักษณะที่แยกออก.
doer(ดู'เออะ) n. ผู้กระทำ, ผู้ปฏิบัติ, ผู้ทำงานอย่างจริง ๆ จัง
double-clickคลิกคลิกกดเมาส์สองครั้ง (เร็ว ๆ) หมายถึง การใช้นิ้วชี้กดบนปุ่มของเมาส์สองครั้งในจังหวะติด ๆ กัน อาจเป็นคำสั่งเรียกโปรแกรม หรือคำสั่งเปิดแฟ้มข้อมูล ก็ได้ ดู click ประกอบ
down-to-earthadj. ซึ่งเป็นความจริง, จริงจัง, ตามความเป็นจริง, Syn. practical
drum(ดรัม) { drummed, drumming, drums } n. กลอง, เสียงกลอง, เยื่อแก้วหู vt., vi. ตีกลอง, เคาะจังหวะ. ดรัม <คำอ่าน>หมายถึงสื่อเก็บข้อมูลชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นวัสดุรูปทรงกระบอกที่หมุนรอบแกนด้วยความเร็ว ที่ผิวนอกฉาบด้วยสารแม่เหล็ก การบันทึกข้อความลงเก็บ จะต้องบันทึกลงบนผิวดรัม ผ่านหัวบันทึก (write head) และอ่านข้อความออกโดยหัวอ่าน (read head) จึงเป็นได้ทั้งหน่วยรับข้อมูล (input) และหน่วยแสดงผล (output) มีความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล สูงกว่าเทปแม่เหล็ก (magnetic tape) แต่ยังช้ากว่าจานแม่เหล็ก (magnetic disk) โดยปกติจะต้องเรียกเต็ม ๆ ว่า magnetic drum
duple(ดิว'เพิล) adj. ซึ่งมี2 (ส่วน, เท่า, จังหวะ) , คู่
earnest(เอิร์น'นิสทฺ) adj. จริงจัง, เอาใจ, ตั้งใจจริง, ซึ่งมีความกระตือรือร้นจริง, สำคัญมาก, ซึ่งควรได้ความสนใจมาก. n. ความจริงจัง, ความตั้งใจจริง, See also: earnestly adv. earnestness n. ดูearnest, Syn. serious
eurhythmic(ยูริธ'มิค) adj. เป็นจังหวะดี, ซึ่งได้สัดส่วน., Syn. eurythmic, eurhythmical
fanfold paperหมายถึง กระดาษที่พับไว้อย่างปราณีต เพื่อประโยชน์ใน การใช้ อย่างต่อเนื่อง ในบางครั้ง จะเรียกว่า กระดาษต่อเนื่อง (continuous paper) กระดาษชนิดนี้จะมีรูเจาะไว้ทั้งสองข้าง เพื่อให้ได้เกาะเกี่ยวกับฟันเฟือง ของเครื่องพิมพ์เป็นระยะ ๆ ทำให้การเคลื่อนตัวได้ฉาก และเป็นจังหวะอย่างดี (ไม่บิดเบี้ยว)
flippantadj. ทะลึ่ง, ทะเล้น, ไม่จริงจัง, ซึ่งเป็นการหยอกเล่น, ไร้มารยาท, สะเพร่า., See also: flippancy n.

English-Thai: Nontri Dictionary
bandmaster(n) ผู้นำจังหวะ, วาทยากร
beat(n) การตี, ความชนะ, จังหวะ, การเต้น
burgh(n) เมือง, หัวเมือง, จังหวัด, เทศบาลเมือง
cadence(n) จังหวะ, ท่วงทำนอง, เสียงต่ำ
candid(adj) จริงจัง, ตรงไปตรงมา, เปิดเผย, ไม่มีอคติ
canton(n) ตำบล, อำเภอ, จังหวัด, เมือง, มณฑล
cess(n) ภาษี, จังกอบ, ดวง, โชค
CITY city hall(n) ศาลากลางจังหวัด
civic(adj) เกี่ยวกับพลเมือง, เกี่ยวกับเมือง, ของจังหวัด, ของเทศบาล
cockswain(n) สรั่ง, คนบอกจังหวะเรือ
county(n) มณฑล, จังหวัด, อำเภอ, เขตการปกครอง
department(n) ภาค, แผนก, กระทรวง, กรม, กอง, ทบวง, จังหวัด, เขต
downright(adj) จริงจัง, ชัดแจ้ง, โดยสิ้นเชิง
downright(adv) อย่างจริงจัง, อย่างแท้ๆ, ทีเดียว, อย่างสิ้นเชิง, เต็มที่
drum(vi) ตีกลอง, เคาะกลอง, เคาะจังหวะ
earnest(adj) เอาจริงเอาจัง, จริงจัง, ตั้งใจจริง, ซึ่งมีความกระตือรือร้น
earnestness(n) ความเอาจริงเอาจัง, ความจริงจัง, ความตั้งใจจริง, ความมุ่งมั่น
eurhythmics(n) การดัดตนตามจังหวะดนตรี
felicitous(adj) เหมาะสม, ถูกจังหวะ, ถูกกาลเทศะ, เป็นมงคล
foot(n) เท้า, ตีน, บาทา, ทหารราบ, จังหวะในโคลง
footwork(n) การใช้เท้า, การก้าวเท้า, จังหวะเท้า
frivolity(n) ความเหลาะแหละ, ความตลกคะนอง, ความไม่เอาจริงเอาจัง
frivolous(adj) เหลาะแหละ, ไม่สำคัญ, ไม่เอาจริงเอาจัง, เล่นๆ
governor(n) ผู้ปกครอง, เจ้าเมือง, ข้าหลวง, ผู้ว่าราชการจังหวัด
grave(adj) เอาการเอางาน, เอาจริงเอาจัง, หนัก, มหันต์, สำคัญ, ร้ายแรง, รุนแรง
gravity(n) ความถ่วง, แรงดึงดูด, ความเอาการเอางาน, ความสำคัญ, ความจริงจัง
hexameter(adj) มีหกท่อนหรือหกจังหวะ
hexameter(n) โคลงภาษาอังกฤษที่มีหกจังหวะ
iambic(n) จังหวะในโคลงภาษาอังกฤษ
inopportune(adj) ไม่ถูกกาลเทศะ, ไม่ได้จังหวะ, ไม่เหมาะสม
interrupt(vt) ทำให้ชะงัก, ขัดขวาง, สอดเข้าไป, ขัดจังหวะ
interruption(n) การหยุดชะงัก, การขัดจังหวะ, การสอดเข้ามา, การขัดคอ
levity(n) ความไม่สำรวม, ความตลกคะนอง, ความไม่เอาจริงเอาจัง
LIGHT-light-minded(adj) ไม่จริงจัง, เหลาะแหละ, สะเพร่า
lilt(n) การร้องเพลง, ความร่าเริง, จังหวะเพลง
MATTER-OF-matter-of-fact(adj) ตามความจริง, จริงจัง, ไม่เพ้อฝัน
measure(n) ขนาด, เครื่องวัด, มาตราวัด, เครื่องมือ, จังหวะดนตรี, การกระทำ
metre(n) ความยาวเป็นเมตร, เครื่องวัดจังหวะดนตรี
metric(adj) เกี่ยวกับระบบเมตริก, เกี่ยวกับจังหวะในบทกวี
metrical(adj) เกี่ยวกับระบบเมตริก, เกี่ยวกับจังหวะในบทกวี
mimic(adj) ไม่จริงจัง, ชอบล้อเลียน, เล่นๆ
opportunity(n) ช่อง, โอกาส, กาลเทศะ, จังหวะ
practically(adv) อย่างจริงจัง, แท้จริง, ปฏิบัติจริง, ได้ผล
pragmatic(adj) ในทางปฏิบัติ, อย่างจริงจัง, เกี่ยวกับความเป็นจริง
province(n) จังหวัด, ภูมิภาค, มณฑล, เขต
provincial(adj) เกี่ยวกับจังหวัด, บ้านนอก, เกี่ยวกับส่วนภูมิภาค
pulsation(n) การเต้น, การสั่น, ชีพจร, จังหวะ, ความสะเทือน
pulse(n) ชีพจร, จังหวะ, การเต้น, ความสั่นสะเทือน, ถั่ว
resonant(adj) ดังกังวาน, ได้ระดับกัน, ได้จังหวะ, ก้อง, สะท้อน
rhythm(n) จังหวะชีวิต, จังหวะ, ลีลา, เสียงสัมผัส

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
-kuy-[[ kuːy ]] (n) kuy (n ) ภาษากูย หรือ ภาษากวย เป็นภาษาตระกูลออสโตรเอเชียติก สาขามอญ-เขมร กลุ่มกะตู พบในไทยพื้นที่จังหวัดแถบภาคอีสานใต้ เช่น จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และร้อยเอ็ด
Assumption College Sriracha[-] (name) โรงเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่เลขที่ 29 หมู่ 10 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 20110 โทรศัพท์ 038-311055-6
cadencial[เเคเดินเชิล] (adj) ทางจังหวะ, ตามจังหวะ
cadenciate[เเคเดินเชิท] สร้างจังหวะ, ทําจังหวะ
cadenciative[เเคเดินเชอะทิฟว] (adj) ซึ่งทําจังหวะ, ซึ่งสร้างจังหวะ
cadent[เเคเดินทฺ] (adj) เป็นจังหวะ, มีจังหวะ
cadentify[เเคเดินทิไฟ] (vt) กําหนดจังหวะ
cadentity[เเคเดินทิดิ] (n) อัตราจังหวะ, ปริมาณจังหวะ
Canki(n) จังกีพราหมณ์ ในพุทธประวัติ ครอบครองหมู่บ้านพราหมณ์ชื่อโอปาสาทะ ซึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศลพระราชทานให้ครอบครอง
casion[เเคเชิน] (n) จังหวะ
casional[เเคเชอะเนิล] (adj) ทางจังหวะ, ตามจังหวะ
casionate[เเคเชอะเนิท] (vt) สร้งจังหวะ, ทําจังหวะ
casionative[เเคเชอะเนทิฟว] (adj) ซึ่งทําจังหวะ, ซึ่งสร้างจังหวะ
casive[เเคซิฟว] (adj) เป็นจังหวะ, มีจังหวะ
casivify[เเคซิฝิไฟ] (vt) กําหนดจังหวะ
casivity[เเคซิฝิดิ] (n) อัตราจังหวะ, ปริมาณจังหวะ
casural[เเคเชอะเริล] (adj) โดยเคาะจังหวะ
casurate[เเคเชอะเริท] (vt) เคาะจังหวะ
casurative[เเคเชอะเรทิฟว] (adj) ซึ่งเคาะจังหวะ
casure[เเคเชอะ] (n) เครื่องเคาะจังหวะ
doesn't time flyทำไมเวลาผ่าไปเร็วจัง
Dysrhythmiaจังหวะที่ผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง : จังหวะที่ผิดปกติซึ่งจัดแสดงในบันทึกกิจกรรมทางไฟฟ้าของสมองหรือหัวใจ
governorผู้ว่าราชการจังหวัด
Governor of Province(n) ผู้ว่าราชการจังหวัด
hitum(n, adj, malasia) สีดำ เช่นแถบชายแดนไทยมาเลเซีย (ด่านนอก/จังโหลน) มีภูเขาชื่อ ถูเขาไม้สีดา bukit kayu hitam
intensity(n) ความเข้มข้น, ความหนาแน่น, ความแรงกล้า, ความรุนแรง, ความเร่าร้อน, การเอาจริงเอาจัง
inw[เทพ] (n, adv) ใช้กันในวงการ DotA มีความหมายว่า ฝีมือการเล่นระดับเทพ(ไม่ได้หมายความว่าจะ grean ไม่ได้นะ) เช่น พี่ชายคนนั้นเล่น inwจังเลยอ้ะ หรือ แม่ง inw อย่าไปท้ามันนะฮ้ะ
kuy(n) ภาษากูย หรือ ภาษากวย หรือ ภาษาส่วย เป็นภาษาตระกูลออสโตรเอเชียติก สาขามอญ-เขมร กลุ่มกะตู พบในไทย ในจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และร้อยเอ็ด
LANNA(n) ล้านนา คือดินแดนที่มีจำนวนที่นานับล้าน เป็นอาณาจักรที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ได้แก่จังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน แพร่ พะเยา น่าน ลำพูน และ ลำปาง โดยมีเมืองเชียงใหม่ เป็นราชธานี มีภาษาที่เรียกว่า คำเมือง หรือภาษาเหนือ ตัวหนังสือ ตัวเมือง วัฒนธรรม และ ประเพณี เป็นของตนเอง ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง เป็นระบอบมณฑลเทศาภิบาล ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยมี พระเจ้าอินทวิชยานนท์, พระเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 7 เป็นพระเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ในฐานะราชอาณาจักรพระองค์สุดท้าย และ เจ้าแก้วนวรัฐ, เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 9 เป็นเจ้าผู้ปกครองนครองค์สุดท้าย ปัจจุบันเจ้านายฝ่ายเหนือและเชื้อสาย "ราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ (เจ้าเจ็ดตน)" อยู่ในราชตระกูล ณ เชียงใหม่ ณ ลำพูน ณ ลำปาง และ ณ น่าน
progamer(n) โปรเกมเมอร์, ผู้ที่สามารถหาเงินได้จากการเล่นเกมคอมพิวเตอร์เป็นอาชีพ โดยส่วนมากอาชีพนี้จะอยู่ในโซนยุโรปและประเทศเกาหลี ซึ่งมีทัวร์นาเมนท์การแข่งขันเกมคอมพิวเตอร์อย่างจริงจัง อาทิเช่น Starcraft ll , Warcraft lll เป็นต้น
salsa['ซัลซ่า] (n) การเต้นซัลซ่า เป็นการเต้นแบบอเมริกันลาติน เป็นจังหวะสนุกๆ และเซ๊กซี่นิดๆ(เป็นการเต้นรำชนิดหนึ่ง)
sino(n) จีน คนจีน ชาวจีน กลุ่มภาษาจีนเช่น ตึกแบบ sino portugese แถวจังหวัดภูเก็ต หาดใหญ่ (สายหนี่ง), Syn. sinitic
Subprefecture[ซับพรี'เฟคเชอะ] (n) กิ่งจังหวัด
take seriously(vt) เอาจริงเอาจัง

Japanese-Thai: Longdo Dictionary
中国[ちゅうごく, chuugoku] (n) ภูมิภาคหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น บริเวณใต้หรือตะวันตกสุดของเกาะฮอนชู ประกอบด้วยจังหวัดโอกายามา ฮิโรชิมา ทดโทริ ชิมะเนะ และยะมะกูจิ
千葉[ちば, chiba] (n, name) จังหวัดชิบะ อยู่ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว, เป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ
大阪城[おおさかじょう, oosakajou] (n) ปราสาทโอซะกะ สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของจังหวัดโอซะกะ เริ่มสร้างขึ้นครั้งแรกโดยโตะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ
Image:
新潟[にいがた, niigata] (n) จังหวัดนีกาตะ (新潟県) ริมชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น
本格的[ほんかくてき, honkakuteki] (adj, adv) อย่างจริงจัง, อย่างเป็นทางการ, อย่างเป็นมาตรฐาน
真剣[しんけん, shinken] (n) ความเอาจริงเอาจัง, ความตั้งใจจริง
真面目[まじめ, majime] (adj) ขยันขันแข็ง, เอาจริงเอาจัง
知事[ちじ, chiji] (n) ผู้ว่าราชการจังหวัด
福島[ふくしま, fukushima] (n, name) จังหวัดฟุคุชิมะ (福島県) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น
近畿[きんき, kinki] (n) ชื่อภูมิภาคหนึ่งทางตะวันตกของญี่ปุ่น ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดโอซาก้า เกียวโต เฮียวโกะ นารา วะคะยะมะ ชิงะ และมิเอะ
関東[かんとう, kantou] (n) ภูมิภาคที่เป็นศูนย์กลางของญี่ปุ่นประกอบด้วยจังหวัดโตเกียว คะนะงะวะ ชิบะ ไซตะมะ อิบะระงิ โตะจิงิ และกุมมะ

Japanese-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ฮิรากะนะ[ฮิรากะนะ] (adj) รักจัง
田舎[いなか, inaka] บ้านนอก บ้านเกิด(ของคนที่เกิดต่างจังหวัด) ต่างจังหวัด
本気[ほんき, honki] (adj, adv) จริงจัง, เอาจริง, ไม่ล้อเล่น
時期[じき, jiki] (n, vi, vt, adj) (ไทมฺ) n. เวลา, ช่วงเวลา, กะเวลา, โอกาส, สมัย, ยุค, กาล, ฤดูกาล, ครั้ง, ช่วง, อายุ, วันตาย, เท่า, จังหวะ, อัตราความเร็ว, เวลาพักผ่อน, อัตราค่าจ้างตามช่วงเวลา, สิทธิ, ระยะเวลาการตั้งครรภ์, adj. เกี่ยวกับเวลา, เกี่ยวกับระเบิดเวลา, ตั้งเวลา vt., vi. จับเวลา, ตั้งเวลา, ควบคุมเวลา
チェンマイ[じき, chenmai] จังหวัดเชียงใหม่
一筋[ひとすじ, hitosuji] (adv) [ ADV ] อย่างจริงจัง, See also: อย่างเอาจริงเอาจัง, Syn. seriously, sincerely
鼓動[こどう, kodou] (n) จังหวะ, เต้นเป็นจังหวะ
シンクロナイズド[しんくろないずど, shinkuronaizudo] (vi, vt) ที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน, ที่ทำให้เป็นจังหวะเดียวกัน, ทำให้สอดคล้องกัน, ทำให้พร้อมกัน, ทำให้คล้องจองกัน, See also: S. happen together, be synchronous, coexist, adjust, harmonize
北海道[ほっかいどう, hokkaidou] (n, name) ฮอกไกโด(ชื่อจังหวัด เป็นจังหวัดที่อยู่ทางเหนือสุดของประเทศญีุ่ปุ่น และเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น มีเนื้อที่22เปอร์ของเป็นเทศญี่ปุ่น)
地方自治法[ほっかいどう, chihoujichi hou] พระราชญัติว่าด้วยการปกครองตนเองของท้องถิ่น(พระราชบัญญัติที่ว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น ประเภทต่างๆ เช่น จังหวัด เทศบาล และบทบาทหน้าที่ขององค์กรปกครองท้องถิ่นเหล่านั้นเป็นต้น)
県営[けんえい, ken'ei] การบริหารโดยจังหวัด

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
[けん, ken] TH: จังหวัด
割込む[わりこむ, warikomu] TH: แทรก ขัดจังหวะ ขัดคอ  EN: to interrupt

German-Thai: Longdo Dictionary
Schritt(n) |der, pl. Schritte| ก้าว, ฝีก้าว, ขั้น, จังหวะ
elend(adj, adv) หดหู่, เศร้าสร้อย, ไม่มีความสุข เช่น Ich fühle mich heute elend. วันนี้ผมรู้สึกหดหู่จัง, See also: unglücklich, verzweifelt, Syn. traurig
stoßen(vi) |stößt, stieß, ist gestoßen, + an/gegen jmdn./etw.| เดินหรือเคลื่อนไหวไปชนคนหรือสิ่งของอย่างแรงโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น Ich bin gegen ihm im Gang gestoßen. ฉันเดินชนเขาอย่างจังตรงทางเดิน
gelegentlich(adj, adv) ที่ถูกจังหวะ, ที่โอกาสเหมาะสม เช่น Du kommst gelegentlich. Wir sind gerade beim Essen. เธอมาได้ถูกจังหวะ พวกเรากำลังทานอาหารอยู่เลย, See also: A. ungelegentlich
gemein(adj) ใจร้าย เช่น Das ist gemein von dir. เธอใจร้ายจัง, See also: A. anständig
Rathaus(n) |das, pl. Rathäuser| ที่ว่าการเมือง (ที่ว่าการอำเภอหรือจังหวัด)
Image:
humorvoll(adj) ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน, ที่เต็มไปด้วยมุกตลก เช่น Er ist humorvoll. Er kann immer über sich selbst lachen. เขามีอารมณ์ขันจัง เขาสามารถหัวเราะขำตัวเองได้ตลอดเวลา, See also: A. humorlos
Zugzwang(n) |der, nur Sg.| เป็นคำศัพท์จากหมากรุกสากล ซึ่งมีความหมายว่า โดนบังคับให้เดินเสียเปรียบ (ไม่มีตาดีให้เดิน) คำว่า Zug นั้นแปลว่าการเคลื่อนที่หรือการเดินหรือการดึง ส่วนคำว่า Zwang แปลว่าการบังคับ ผู้ที่อยู่ในจังหวะ Zugzwang นั้นก็คือผู้ที่เสียเปรียบ หมายเหตุ: ทางที่ดีที่สุดนั้นก็คือไม่เดินนั่นเอง
klicken(vt) |klickte, hat geklickt| คลิ๊ก, กดนิ้วในจังหวะสั้น ๆ ลงบนปุ่มใดปุ่มหนึ่งของของเมาส์คอมพิวเตอร์ เช่น Klicken Sie hier!

French-Thai: Longdo Dictionary
avoir froid(phrase) รู้สึกหนาว, หนาวตัว เช่น j'ai froid! = ฉันหนาวจัง, Ant. avoir chaud
consacrer(vt) |je consacre, tu consacres, il consacre, nous consacrons, vous consacrez, ils consacrent| อุทิศตัว, ทุ่มเทอย่างจริงจัง, Syn. dédicacer

French-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Les spectacles traditionnels au milieu d'eau[เล สเปคตาค ทราดิซิยองแนล โอ มิลิเยอ โดว] (n, name, uniq) การแสดงละตรพื้นบ้านกลางน้ำ เช่น การแสดงละครพื้นบ้าน กลางน้ำที่ตลาดน้ำคลองสระบัว จังหวัดอยุธยา

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top