ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: จอย่า, -จอย่า- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: N | [มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: N] (n, vi, vt, modal, verb, aux, verb, adj, adv, prep, conj, pron, phrase, jargon, slang, colloq, vulgar, abbrev, name, o) มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: Norma Jeane Mortenson) เกิดวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1926 – 5 สิงหาคม ค.ศ. 1962) เป็นอดีตนักแสดง นักร้อง นางแบบชาวอเมริกัน มีชื่อเสียงจากบทบาท "dumb blonde" เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ทางเพศที่ได้รับความนิยมในคริสต์ทศวรรษ 1950 เป็นสัญลักษณ์ของทัศนคติที่มีต่อเพศแห่งยุค แม้ว่าเธอได้เป็นนักแสดงระดับต้น ๆ เพียงแค่หนึ่งทศวรรษ ภาพยนตร์ของเธอทำรายได้ได้ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐก่อนที่เธอจะเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดใน ค.ศ. 1962[ 1 ] เธอยังถือว่าเป็นสัญรูปของวัฒนธรรมสมัยนิยมหลัก ๆ นับแต่นั้นมา[ 2 ] มอนโรเกิดและเติบโตในลอสแอนเจลิส วัยเด็กเธออาศัยอยู่ในบ้านรับเลี้ยงเด็ก และสถานเด็กกำพร้า และสมรสครั้งแรกเมื่ออายุ 16 ปี ขณะทำงานในโรงงานเป็นส่วนหนึ่งของกำลังสงคราม ใน ค.ศ. 1944 เธอพบกับช่างภาพคนหนึ่ง และเริ่มทำอาชีพนางแบบ งานของเธอทำให้เธอได้เซ็นสัญญากับภาพยนตร์ขนาดสั้น 2 เรื่องกับค่ายทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ (1946-1947) และโคลัมเบียพิกเจอส์ (1948) หลังจากรับบทย่อยในภาพยนตร์จำนวนหนึ่ง เธอเซ็นสัญญาใหม่กับฟอกซ์ใน ค.ศ. 1951 เธอกลายเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วด้วยบทบาทตลกขบขันหลายบทบาท เช่นในเรื่อง แอสยังแอสยูฟีล (1951) และมังกีบิสเนส (1952) และในภาพยนตร์ดรามาเรื่อง แคลชบายไนต์ (1952) และ โดนต์บาเดอร์ทูน็อก (1952) มอนโรเผชิญหน้ากับข่าวลือหลังจากมีการเปิดเผยว่าเธอเคยถ่ายแบบเปลือยก่อนมาเป็นนักแสดง แต่แทนที่จะทำลายอาชีพเธอ มันกลับทำรายได้ให้กับบอกซ์ออฟฟิศ ก่อน ค.ศ. 1953 มอนโรเป็นหนึ่งในดาราฮอลลิวูดที่มีบทบาทนำในภาพยนตร์ 3 เรื่อง ได้แก่ ฟิล์มนัวร์ เรื่อง ไนแอการา (ภาพยนตร์ ค.ศ. 1953)|ไนแอการา ซึ่งมุ่งจุดสนใจที่เสน่ห์ทางเพศของเธอ และภาพยนตร์ตลกเรื่อง เจนเทิลเม็นพรีเฟอร์บลอนส์ และ ฮาวทูแมร์รีอะมิลเลียนแนร์ ซึ่งสร้างภาพลักษณ์ให้เธอเป็น "dumb blonde" แม้ว่าเธอจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างและจัดการภาพลักษณ์สาธารณะของเธอตลอดอาชีพการทำงาน เธอรู้สึกผิดหวังต่อสตูดิโอที่ไทป์แคสต์ และการให้ค่าตัวเธอต่ำไป เธอถูกพักงานเป็นช่วงสั้น ๆ ในต้นปี ค.ศ. 1954 เนื่องจากเธอปฏิเสธโครงการทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง แต่กลับมาเป็นดาราในภาพยนตร์เรื่องที่ประสบความสำเร็จที่สุดเรื่องหนึ่งคือ เดอะเซเวนเยียร์อิตช์ (1955) เมื่อสตูดิโอยังลังเลที่จะเปลี่ยนแปลงสัญญาของเธอ มอนโรก่อตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ใน ค.ศ. 1954 ชื่อ มาริลิน มอนโร โพรดักชันส์ (MMP) ขณะก่อสร้างบริษัท เธอเริ่มศึกษาการแสดงที่แอกเตอส์สตูดิโอ ในปลายปี ค.ศ. 1955 ฟอกซ์มอบฉันทะให้เธอควบคุมและให้เงินเดือนสูงขึ้น หลังจากได้รับคำสรรเสริญจากการแสดงในเรื่อง บัสสต็อป (1956) และการแสดงในภาพยนตร์อิสระเรื่องแรกของบริษัท MMP เรื่อง เดอะพรินซ์แอนด์เดอะโชว์เกิร์ล (1957) เธอได้รับรางวัลลูกโลกทองคำจากเรื่อง ซัมไลก์อิตฮอต (1959) ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของเธอที่ถ่ายทำจนเสร็จคือเรื่อง เดอะมิสฟิตส์ (1961) |
|
| ก่อการร้าย | น. เป็นฐานความผิดอาญา ที่ผู้กระทำก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อบุคคล ต่อทรัพย์สินอันเป็นสาธารณะ หรือต่อทรัพย์สินของรัฐหนึ่งรัฐใด หรือของบุคคลใดหรือต่อสิ่งแวดล้อมอันก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างสำคัญ โดยผู้กระทำมุ่งหมายเพื่อขู่เข็ญหรือบังคับรัฐบาลไทย รัฐบาลต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศ ให้กระทำหรือไม่กระทำการใดอันจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง หรือเพื่อสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน แต่ทั้งนี้ไม่รวมถึงการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ. | กองทัพน้อย | น. หน่วยทหารที่ประกอบด้วยทหารหลายกองพล มีจำนวนไม่แน่นอน เป็นการจัดตั้งขึ้นเฉพาะกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง มีแม่ทัพน้อยเป็นผู้บังคับบัญชา. | โกรธ | (โกฺรด) ก. ขุ่นเคืองใจอย่างแรง, ไม่พอใจอย่างรุนแรง, ราชาศัพท์ว่า ทรงพระโกรธ เช่น ก็จะทรงพระโกรธดั่งเพลิงกาล (อิเหนา). | เข้าถึง | ก. เข้าใจอย่างซาบซึ้ง เช่น เข้าถึงบท เข้าถึงวรรณคดี, เข้าใกล้ชิดสนิทสนมเพื่อจะได้รู้ซึ้งถึงชีวิตจิตใจและความต้องการเป็นต้น เช่น เข้าถึงประชาชน. | จุดบอด | น. บริเวณที่เครื่องมือสื่อสารรับสัญญาณได้ไม่ชัด, บริเวณหลังลูกตาที่ไม่รับแสง, บริเวณที่ควรจะมองเห็นแต่ไม่สามารถมองเห็นได้ เช่น ทางโค้งนี้มีจุดบอด ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันบ่อย ๆ, จุดของปัญหาที่ไม่สามารถตัดสินใจหรือแยกแยะได้อย่างชัดเจนอาจจะเนื่องจากขาดความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้เป็นต้น, โดยปริยายหมายถึงสภาวะที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้. | เจ็บแสบ | ก. รู้สึกเจ็บใจอย่างเผ็ดร้อน. | ใจเร็ว | ว. ตกลงใจอย่างรวดเร็วโดยไม่พิจารณาให้รอบคอบ. | ช็อก | น. สภาวะที่ร่างกายเสียเลือดจนความดันเลือดต่ำมาก หรือถูกกระทบจิตใจอย่างรุนแรง หรือถูกกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน เป็นต้น จนทำให้เป็นลมหรือหมดสติในทันที. | ซาบซึ้ง | ว. อาการที่รู้สึกจับใจอย่างลึกซึ้ง, อาการที่รู้สึกปีติปลาบปลื้มมาก. | ตาเป็นมัน | ว. อาการที่จับตามองจ้องดูสิ่งที่ต้องใจอย่างจดจ่อ. | ทะลุปรุโปร่ง | ว. อาการที่เห็นหรือเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งโดยตลอด. | น้ำตาตกใน | เศร้าโศกเสียใจอย่างมาก แต่ไม่แสดงให้ปรากฏ. | ประท้วง | ก. กระทำการหรือแสดงกิริยาอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการคัดค้านเพราะไม่เห็นด้วยหรือไม่พอใจอย่างยิ่ง เช่น อดข้าวประท้วง เขียนหนังสือประท้วง. | ประพจน์ | ประโยคบอกเล่าหรือประโยคปฏิเสธซึ่งเป็นข้อความจริงหรือเท็จอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น จะมีความหมายกำกวมไม่ได้. (อ. proposition). | เปิดอก | ก. บอกความในใจอย่างไม่ปิดบัง, พูดความจริงอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่มีลับลมคมใน. | เผด็จการ | น. การใช้อำนาจบริหารเด็ดขาด, เรียกลัทธิหรือแบบการปกครองที่ผู้นำคนเดียวหรือบุคคลกลุ่มเดียวใช้อำนาจอย่างเด็ดขาดในการบริหารประเทศ ว่า ลัทธิเผด็จการ, เรียกผู้ใช้อำนาจเช่นนั้น ว่า ผู้เผด็จการ. | พะอืดพะอม | โดยปริยายหมายความว่า ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดี, ไม่กล้าที่จะตัดสินใจเด็ดขาดลงไป, กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก็ว่า. | ฟูมฟายน้ำตา | ก. เอามือทั้ง ๒ ข้างเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบหน้าเพราะความเศร้าโศกเสียใจอย่างหนัก. | มุ่งมั่น | ก .ตั้งใจอย่างแน่วแน่ เช่น เขามุ่งมั่นในการทำความดี. | ล้นหลาม | ว. มากมายเหลือประมาณ เช่น ประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จอย่างล้นหลาม. | ลองใจ | ก. พิสูจน์ว่าจะมีนํ้าใจอย่างที่คาดหมายไว้หรือไม่ เช่น เอาแหวนวางไว้ลองใจคนใช้ว่าจะซื่อสัตย์หรือไม่. | ล้างสมอง | ก. ทำให้บุคคลเปลี่ยนความคิดเห็นหรือความเชื่อถือของตนโดยเฉพาะในลัทธิการเมือง สังคม หรือศาสนาไปอย่างสิ้นเชิง และยอมรับความคิดเห็นหรือความเชื่อใหม่โดยใช้วิธีการต่าง ๆ รวมทั้งอาจมีการทรมานจิตใจอย่างรุนแรง. | ลิงโลด | ก. อาการตื่นเต้นดีใจอย่างมาก เช่น เด็ก ๆ ลิงโลดเมื่อเห็นขนม พอยิงประตูฟุตบอลได้เขาก็ลิงโลด, ตื่นเต้นดีใจมากเพราะสมปรารถนาในอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เขารู้สึกลิงโลดใจที่สอบได้ที่ ๑. | เล็งผลเลิศ | ก. คาดหวังเฉพาะผลได้หรือผลสำเร็จอย่างดีเยี่ยม. | วงการ | น. กลุ่มบุคคลที่มีอาชีพหรือความสนใจอย่างเดียวหรือในแนวเดียวกัน เช่น วงการธุรกิจ วงการบันเทิง วงการครู. | สู้รบตบมือ | ก. ต่อสู้, ทะเลาะวิวาท, เช่น เราจะเอากำลังที่ไหนไปสู้รบตบมือกับคนมีอำนาจอย่างเขา เขาไม่ยอมสู้รบตบมือด้วย. | หน้าขึงตาขึง | น. หน้าซึ่งแสดงว่าโกรธหรือไม่พอใจอย่างมาก. |
| | Task related monitoring | การเฝ้าสังเกตตามภารกิจ, การตรวจติดตามปริมาณรังสีที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการเฉพาะ เพื่อให้ได้ข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจอย่างเร่งด่วนสำหรับการบริหารจัดการในการปฏิบัติงาน ซึ่งอาจเป็นการเฝ้าสังเกตรายบุคคล หรือ การเฝ้าสังเกตสถานปฏิบัติการ [นิวเคลียร์] | Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong Economic Cooperation Strategy | ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิระวดี ? เจ้าพระยา ? แม่โขง ACMECS หรือชื่อเดิม ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัมพูชา ลาว พม่า และไทย (ECS : Economic Cooperation Strategy among Cambodia, Lao PDR, Myanmar and Thailand) คือ กรอบความร่วมมือระหว่าง 5 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม ACMECS เป็นแนวคิดที่ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกขึ้นหารือกับผู้นำกัมพูชา ลาว และพม่า ในช่วงการประชุมผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษว่าด้วยโรค SARS เมื่อ 29 เมษายน 2546 ที่กรุงเทพฯ และได้มีพัฒนาการอย่างรวดเร็วต่อเนื่องจนถึงการประชุมระดับผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 1 ที่เมืองพุกาม สหภาพพม่า เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2546 โดยผู้นำทั้ง 4 ประเทศร่วมกันออกปฏิญญาพุกาม (Bagan Declaration) รวมทั้งแผนปฏิบัติการ (Plan of Action) ครอบคลุมความร่วมมือ 5 สาขา ได้แก่ การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการ ลงทุน ความร่วมมือทางด้านเกษตรและอุตสาหกรรม การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม การท่องเที่ยว และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ บนหลักการที่เน้นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและยกระดับความ เป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งเปิดกว้างให้นานาประเทศและองค์การระหว่างประเทศได้มีส่วนร่วมเป็น หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (Development Partner) ในโครงการต่างๆ ของ ACMECS ด้วย * เวียดนามร่วมเป็นสมาชิก ACMECS เมื่อ 10 พฤษภาคม 2547 สถานะล่าสุด ระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2547 ที่จังหวัดกระบี่ ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสสมัยพิเศษและการประชุม รัฐมนตรี ACMECS อย่างไม่เป็นทางการ รวมทั้งการประชุมร่วมกับ Development Partners (ผู้แทนจากออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย) ซึ่งการประชุมประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง สมาชิก ACMECS ทั้ง 5 ประเทศได้ร่วมกันแสดงความเป็น เอกภาพ โดยยืนยันเจตนารมณ์ที่จะดำเนินการตามกรอบความร่วมมือ ACMECS อย่าง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อผู้แทนของ Development Partners รวมทั้งมีการหารือถึงความคืบหน้าของการดำเนินโครงการระหว่างกันอย่างเป็น รูปธรรม นอกจากนี้ ยังสามารถมีข้อสรุปที่สำคัญๆ เกี่ยวกับกลไกการประสานงานระหว่างกันซึ่งจะช่วยให้การดำเนินกิจกรรมความร่วม มือของ ACMECS มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป * ไทยมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 2 ในเดือนธันวาคม 2548 ที่กรุงเทพฯ [การทูต] | Diplomatist หรือ Diplomat | ใช้กับราชการทุกคนที่ประจำทำงานในด้านทางการทูต ไม่ว่าจะประจำอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศ หรือในราชการต่างประเทศ คือ ในสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือในสำนักงานทางทูตอื่นๆในทรรศนะของ เซอร์แฮโรลด์ นิโคลสัน นักการทูตยอดเยี่ยมคนหนึ่งของอังกฤษ ได้ระบุไว้ว่า นักการทูตหรือ Diplomat จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ ยึดถือความเป็นจริง มีความแม่นยำ สงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น อารมณ์ดี มีความสงบเสงี่ยมและมีความจงรักภักดี ทั้งยังจะต้องเป็นผู้ที่มีสติปัญญา มีความรู้ มองเห็นการณ์ไกล มีความสุขุมรอบคอบ ใจดีกับแขกและผู้แปลกหน้า มีเสน่ห์ มีความอุตสาหะวิริยะ มีความกล้า และมีปฏิภาณในทำนองเดียวกัน Francoise de Callieres (1645-1717) นักการทูตชั้นเยี่ยมของฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นเอกอัครราชทูตประจำโปแลนด์ ซาวอย ฮอลแลนด์ บาวาเรีย และลอเรน ได้เขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่งชื่อว่า De la miniere avec les souverains เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการเจรจาทางการทูต ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังเป็นที่รับรองกันทั่วไปว่าเป็นหนังสือที่ดีเยี่ยมเล่ม หนึ่ง หรือเป็นจินตกวีนิพนธ์เรื่องการดำเนินการทูตกับเจ้าผู้ครองนคร (Princes) สมัยนั้นCallieres ได้วางมาตรฐานของนักการทูตไว้สูงมากเพราะเขาเห็นว่า ไม่มีงานราชการใด ๆ ที่จะยากยิ่งไปกว่าการเจรจา ในการเจรจานั้น ผู้เจรจาจะต้องสามารถมองเห็นเหตุการณ์ทะลุปรุโปร่ง หรือมีสติปัญญาเฉียบแหลม มีความคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง มีความละมุนละไม มีความรอบรู้และความเข้าใจอย่างกว้างขวาง ตลอดจนข้อสำคัญที่สุด ต้องเป็นผู้มีความสุขุมคัมภีรภาพ สามารถมองเห็นการณ์ไกลชนิดเจาะลึกทีเดียว นอกจากนี้ จะต้องเป็นผู้มีอารมณ์ขันอย่างสม่ำเสมอ ไม่โกรธง่าย มีจิตใจสงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น พร้อมเสมอที่จะรับฟังทุกคนที่เขาพบด้วยความตั้งอกตั้งใจ พูดจาอย่างเปิดเผย และมีอารมณ์ร่าเริงไม่หน้าเง้าหน้างอ มีอัธยาศัยไมตรี รวมทั้งมีกิริยาท่าทางเป็นที่ต้องตาต้องใจกับทุกคน ในฐานะนักเจรจา (Negotiator) นักการทูตจะต้องมีคุณลักษณะและคุณสมบัติตามที่กล่าวมานี้เป็นอย่างน้อย เนื่องจากมีการเจรจาเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของนักการทูตนั่นเอง [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Organization of European Economic Cooperation | คือองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจของยุโรป สัญญาที่ก่อตั้งองค์การนี้ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงปารีส เมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ.1948 โดยรัฐบาลของประเทศออสเตรีย เบลเยี่ยม เดนมาร์ก ฝรั่งเศส กรีซ ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี โดยแม่ทัพของฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาที่ประจำอยู่ในเขตยึดครองในเยอรมนี (หลังเสร็จสงครามโลกครั้งที่สอง)จุดประสงค์สำคัญที่สุดขององค์การนี้คือ ต้องการให้ทวีปยุโรปมีภาวะเศรษฐกิจกลับคืนมาใหม่อย่างมั่นคง ด้วยการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิก สำนักงานใหญ่ขององค์การนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสอย่างไรก็ดี บัดนี้ได้มีองค์การตั้งขึ้นใหม่แทนองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจของยุโรป เรียกว่า องค์การร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organization for Economic Cooperation and Development ) หรือ OECD สำหรับสัญญาจัดตั้งองค์การโอดีซีดีนี้ ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงปารีส เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 โดยรัฐบาลของประเทศออสเตรีย เบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา สัญญาดังกล่าวมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1961จุดประสงค์สำคัญขององค์การโออีซีดี มีดังนี้1. เพื่อให้บรรดาประเทศสมาชิกได้มีความเติบโตทางเศรษฐกิจ มีแรงงาน อาชีพ และมาตรฐานการครองชีพให้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็พยายามรักษาเสถียรภาพทางการคลังไว้เพื่อเป็นการเกื้อกูลต่อการ พัฒนาเศรษฐกิจของโลก2. ระหว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ให้ประเทศสมาชิกมีโอกาสขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคง รวมทั้งในประเทศที่มิได้เป็นสมาชิกด้วย3. ต้องการมีส่วนเกื้อกูลต่อการขยายตัวทางการค้าในรูปพหุภาคี และปราศจากการกีดกันแต่อย่างใด ตามพันธกรณีระหว่างประเทศองค์การสำคัญในองค์การโออีซีดีคือคณะมนตรี ( Council ) ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิกทั้งหมด มีคณะกรรมการบริหารรวมทั้งเลขาธิการ สำนักงานใหญ่ขององค์การตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส [การทูต] | Recall of Diplomats | การเรียกตัวนักการทูตกลับประเทศของตน คือ ผู้แทนทางการทูตอาจถูกรัฐบาลของตนริเริ่มเรียกตัวกลับประเทศได้ด้วยเหตุผล ต่าง ๆ เช่น ผู้แทนทางการทูตนั้นขอลาออก หรือลาออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญ หรือถูกโยกย้ายไปประจำอีกแห่งหนึ่ง หรือเกิดความไม่พอใจอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ถ้าหากรัฐบาลปรารถนาจะเรียกหัว หน้าคณะผู้แทนทางการทูตกลับโดยถาวรเนื่องจากไม่พอใจในตัวเขา โดยมากเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกัน คือ รัฐบาลจะเปิดโอกาสให้หัวหน้าคณะทูตผู้นั้นทำหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งเสีย มากกว่าที่จะใช้วิธีสั่งปลด อันเป็นการกระทำที่รุนแรงกว่ามากนอกจากนี้ หัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตหรือเอกอัครราชทูตอาจถูกรัฐบาลเรียกตัวกลับตามคำ ขอร้องของรัฐบาลประเทศผู้รับ เนื่องจากกระทำตนไม่เป็นที่พึงปราถนาของประเทศผู้รับ (Persona non grata) ก็ได้ ตามปกติ คำขอร้องจากรัฐผู้รับขอให้เรียกตัวกลับนั้น มักได้รับการตอบสนองโดยดีในทันทีจากรัฐผู้ส่ง แต่ถ้าหากรัฐผู้ส่งปฏิเสธคำขอร้องดังกล่าวนั้น รัฐผู้รับอาจขับให้ออก (Dismiss) จากประเทศก็ได้ [การทูต] | Air Hunger | ขาดอากาศ, การหายใจอย่างมาก, การหายใจเฮือก, หายใจเฮือก [การแพทย์] | Airway Obstruction, Acute | การอุดกั้นทางหายใจอย่างเฉียบพลัน [การแพทย์] | Anxiety Attacks, Acute | ความกระวนกระวายใจอย่างมากเพราะประสาทเครียด [การแพทย์] | Anxiety, Severe | การกังวลอึดอัดใจอย่างรุนแรง [การแพทย์] | Anxiety, Severe | การกังวลอึดอัดใจอย่างรุนแรง [การแพทย์] | Decision Making, Professional | การตัดสินใจอย่างชาญฉลาด [การแพทย์] | Formal Test | การตรวจอย่างมีแบบแผน [การแพทย์] | proposition [ statement ] | ประพจน์, ข้อความที่เป็นจริงหรือเท็จอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น โดยอาจอยู่ในรูปประโยคบอกเล่าหรือประโยคปฏิเสธก็ได้ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Gratification, Immediate | ความพึงพอใจอย่างเฉียบพลัน [การแพทย์] | Informal Tests | การตรวจอย่างคร่าวๆ [การแพทย์] | Myocardial Infarction, Acute | กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน, กล้ามเนื้อหัวใจบางส่วนตายเฉียบพลัน, อินฟาร์คชั่นของหัวใจอย่างเฉียบพลัน, กล้ามเนื้อหัวใจตายอย่างปัจจุบัน, กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน, กล้ามเนื้อหัวใจตายฉับพลัน, กล้ามเนื้อหัวใจตายชนิดเฉียบพลัน, โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน, โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน, กล้ามเนื้อหัวใจตายอย่างเฉียบพลัน, [การแพทย์] |
| I am exceedingly sorry, princess. | ข้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง องค์หญิง Aladdin (1992) | You follow all her moves this closely? It's a living. | คุณตามเขาแจอย่างนี้เสมอรึ The Bodyguard (1992) | Subsequently, I was deeply shocked when a fellow attorney came to me... and asked me if I was now going to wash my hand. | ต่อมาผมตกใจอย่างมาก เมื่อทนายเพื่อนมาหาผม ... และถามฉัน ifl ตอนนี้ ไปซักมือของฉัน In the Name of the Father (1993) | I literally don't understand what those words mean. | ผมไม่เข้าใจอย่างแท้จริง สิ่งที่คำเหล่านั้นหมายถึง In the Name of the Father (1993) | What is this horrible, unexplainable madness... that is gripping our lives? | เป็นเรื่องที่น่าสลดใจอย่างยิ่ง เป็นความบ้าคลั่งที่ไม่สามารถอธิบาย ถึงสิ่งที่กำลังคืบคลานเข้ามาหาเราได้ In the Mouth of Madness (1994) | Other people are satisfied with staying where they are. | คนบางคนพอใจอย่างที่เป็นอยู่ The One with the Sonogram at the End (1994) | - Ho! | ความเข้าใจอย่างฉับพลัน Help! (1965) | It's not personal, Sonny. It's strictly business. | มันไม่ใช่ส่วนบุคคลของซันนี่ เป็นธุรกิจอย่างเคร่งครัด The Godfather (1972) | As I grew up, whenever I'd meet one who seemed to be at all clear-sighted, in order to find out if he was really a person of true understanding, | ขณะที่ผมเติบโตขึ้น เมื่อไรก็ตามที่ผม เจอคนที่ดูจะมีสายตาคมกริบ เพื่อที่จะรู้ว่าเขาเป็นคนที่ มีความเข้าใจอย่างแท้จริงหรือไม่ The Little Prince (1974) | This man is grossly offensive! | ชายคนนี้เป็นที่น่ารังเกียจอย่าง ไม่มีการลด! Mad Max (1979) | We gotta figure out something these people like, and fast! | พวกเราต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วว่าคนเหล่านี้ชอบอะไร The Blues Brothers (1980) | I breathe regularly. | ฉันหายใจอย่างสม่ำเสมอ 2010: The Year We Make Contact (1984) | Something truly amazing is going on out here and I really believe this black giant is controlling it all. | สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างแท้จริง ที่เกิดขึ้น ออกจากที่นี่และฉันเชื่อว่าจริงๆ ยักษ์สีดำคือการควบคุมมัน ทั้งหมด 2010: The Year We Make Contact (1984) | I am fully confident in your ability to study the phenomenon by yourself. | ฉันมั่นใจอย่างเต็มที่ใน ความสามารถของคุณ เพื่อศึกษาปรากฏการณ์ด้วย ตัวเอง 2010: The Year We Make Contact (1984) | But I didn't mean it. | แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจอย่างนั้นนี่นา Labyrinth (1986) | But we came all this way? | แต่เราตั้งใจอย่างนี้มาตลอด? Stand by Me (1986) | With pride. What can I do for you? | ภูมิใจอย่างมาก หม่อมฉันทำอะไรให้ท่านได้บ้างล่ะ? The Princess Bride (1987) | -..two ties and an exercise tape. | ก็เป็นธุรกิจอย่างเดียว แต่ถ้ามัน.. Big (1988) | The bigger the man, the deeper his imprint. | ชายหนุ่มยิ่งโต, ก็ยิ่งประทับใจอย่างสุดซึ้ง. Cinema Paradiso (1988) | If we don't go to the airport to greet him, he will be upset. | ถ้าเราไม่รีบไปรับท่านเคาน์ที่สนามบิน เขาต้องไม่พอใจอย่างมากแน่ Mannequin: On the Move (1991) | Like most other parents of their day, they'd determine that their next child would be brought into the world in what has become the natural way. | ก็เหมือนพวกพ่อแม่ทั่วไปในตอนนั้น, พวกเขาตัดสินใจอย่างแน่นอนว่า ลูกคนต่อไป- จะมาเกิดตามธรรมชาติ Gattaca (1997) | No, no, no, I'm not saying, like, better off. No. | เปล่าๆๆ ผมไม่ได้พูดอย่างนั้น ผมไม่ได้ตั้งใจอย่างนั้น Good Will Hunting (1997) | I can't climb with my usual confidence. | ผมปีนต่อไม่ได้เพราะ ไม่มีความมั่นใจอย่างเคย Seven Years in Tibet (1997) | I never let it in. | ไม่เคยเข้าใจอย่างถ่องแท้เลย Titanic (1997) | Yeah, I'm clear. | เข้าใจอย่างถ่องแท้เลย American History X (1998) | "Swinging in the Breeze" or... | จับใจอย่างพลิ้วแผ่วในสายลม The Legend of 1900 (1998) | He screams "Eureka!" and he is so overwhelmed, he runs naked through the streets to the king's palace to report his discovery. | "ยูเรก้า !" และด้วยความดีใจอย่างท่วมท้น จึงวิ่งออกไปทั้งเปลือยกายอย่างนั้น ผ่านถนนสายต่าง ๆ ไปยังพระราชวัง เพื่อที่จะถวายรายงานการค้นพบของเขา Pi (1998) | It's like real life. There's just enough to make it interesting. | มันเหมือนชีวิตจริง มีแค่การสนใจอย่างเพียงพอ eXistenZ (1999) | And I just loved that book because... | มันโดนใจอย่างจัง อาจจะเป็นเพราะว่า ... The Story of Us (1999) | To express our deepest condolences for the loss of Lt Nino Scordia, heroically killed in action in Northern Africa and to his bride Maddalena who, stricken with grief, unfortunately isn't here with us. | ซึ่งเกิดขึ้นกับเมืองของเรา เพื่อแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อการจากไปของร้อยโทนีโน่สกอร์เดีย Malèna (2000) | You're glad to see me? | ดีใจอย่างนั้นรึ? Autumn in My Heart (2000) | Toshi, you're such an amazing narcissist. | โทชิ คุณเป็นคนที่ทำให้ฉันว่าวุ่นใจอย่างมาก Platonic Sex (2001) | - Make this quick. | - ตรวจอย่างนี้ Wrong Turn (2003) | Thank you, sir. | ขอบคุณค่ะ ดิฉันอยากให้ท่านเข้าใจอย่างนั้น Yankee White (2003) | Be assured, ladies, that Mrs Collins and myself sincerely sympathise with you in your distress, which must be of the bitterest kind, proceeding from a cause which no time can remove. | โปรดมั่นใจได้เลยครับสาวๆ ว่าคุณนายคอลลินส์และตัวผม เห็นอกเห็นใจอย่างแท้จริงในความทุกข์ของพวกคุณ สำหรับความขมขื่นสุดแสนที่ดำเนินไป โดยที่เวลาก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ Episode #1.5 (1995) | I am most seriously displeased. Drive on! | ฉันไม่พอใจอย่างที่สุด ออกรถได้ Episode #1.6 (1995) | Heart, don't fail me now | ใจอย่ากลัวนะเรา Anastasia (1997) | But, when I met your granma, how young she was and how she could dance! | แต่หลังจากจากที่เจอย่าของหลาน ตอนนั้นเธอยังสาว และ... ...เธอเต้นแบบนั้นได้อย่างไร! The Education of Little Tree (1997) | "It is with great distress that Scotland Yard announces that the Bank of England... | "สก็อตแลนด์ยาร์ดเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ต้อง แจ้งให้ทราบว่าธนาคารอังกฤษถูกโจรกรรม" Around the World in 80 Days (2004) | I know you can do it, I've never seen a fire with more spark. | ฉันรู้ว่านายทำได้ ฉันไม่เคยเห็นไฟที่เก่งกาจอย่างนายมากก่อน Howl's Moving Castle (2004) | Sam, I'm heartbroken. | แซม ฉันเสียใจอย่างสุดซึ้ง A Cinderella Story (2004) | And now he's here today to unnerve me so that when orrin comes to town, I will blow it. | เขามาที่นี่เพื่อยั่วผม เมื่อออรินมาผมจะได้ทำพลาด ตั้งใจอย่างนั้นใช่มั้ย - บอกมาซิว่าตั้งใจอย่างนั้น I Heart Huckabees (2004) | He convinced himself I must have somehow been involved with the murders... | เขามั่นใจอย่างมากว่า ฉันต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม Saw (2004) | I'm gonna take great pleasure in seeing you pay for this! | ฉันจะรู้สึกพอใจอย่างมาก ถ้าได้เห็นแกชดใช้ในเรื่องที่แกทำ Saw (2004) | Help them commit themselves to the training... and send them a letter of friendship | ขอให้เขาช่วยให้คำมั่นต่อพวกเธอ เพื่อจะได้จบหลักสูตรนี้ให้ได้ และให้ส่งจดหมาย มาเป็นแรงใจอย่างต่อเนื่อง Spygirl (2004) | But as weeks became months... their enthusiasm became a slow realization that they were out of their depth. | แต่จากสัปดาห์ล่วงเป็นเดือน ความกระตือรือร้นก็กลายเป็นความเข้าใจอย่างช้าๆ ว่าสิ่งประดิษฐ์ของพวกตนนั้นซับซ้อนเกินจะเข้าใจ Primer (2004) | With such an extreme decision, we lose too much. | ถ้าเราตัดสินใจอย่างนั้น เราจะสูญเสียอย่างมากนะคะ Spin Kick (2004) | What is it about San francisco that attracts so many kooks? | แล้วเรื่องที่ซานฟรานซิสโก มีมูลเหตุจูงใจอย่างมากเกี่ยวข้องอะไรด้วยคะ Mr. Monk and the Blackout (2004) | You're very thorough. | คุณตรวจอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากเลยค่ะ Mr. Monk Meets the Godfather (2004) | What is going on? | อย่าทำให้ตกใจอย่างนี้ซิฮะ A Love Triangle of a Roller-coaster Ride Hair-trigger Crisis (2005) |
| | grok | (vt, jargon) ดื่มด่ำ, เข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง [ เริ่มใช้โดย Robert A. Heinlein ในนิยายเรื่อง Stranger in a Strange Land. ] | to be on the top of the world | เป็นสำนวนแปลได้สองแบบ คือ มีความสุขอย่างล้นหลาม มีความสุขที่สุด หรือประสบความสำเร็จอย่างสูง |
| backslap | (vi) ส่งเสียงพึงพอใจมาก, See also: แสดงความพอใจอย่างยิ่ง, Syn. be jovial | backslap | (vt) ส่งเสียงพึงพอใจมาก, See also: แสดงความพอใจอย่างยิ่ง | be satisfy with | (phrv) พึงพอใจอย่างยิ่งกับ | caprice | (n) การเปลี่ยนใจอย่างกะทันหัน, Syn. whim, vagary, notion | capricious | (adj) ที่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนใจอย่างกะทันหัน, Syn. changeable, whimsical | coast | (vi) สำเร็จอย่างง่ายดาย | consummation | (n) ความสำเร็จจากการทำบางสิ่งจนลุล่วง, See also: การทำให้สำเร็จอย่างสมบูรณ์, ผลหรือผลสรุปที่สมบูรณ์แบบ | contempt | (n) การดูถูก, See also: ความรู้สึกรังเกียจอย่างมาก, Syn. disdain, scorn | crying | (adj) ที่ควรให้ความสนใจ, See also: ที่ควรให้ความสนใจอย่างเร่งด่วน, Syn. urgent, pressing | do something the hard way | (idm) ทำสำเร็จอย่างเหนื่อยยากหรือยุ่งยาก | dumbfound | (vt) ทำให้ประหลาดใจอย่างมาก, See also: ทำให้แปลกใจอย่างมาก, ทำให้ตะลึงงัน, Syn. astound, amaze, awe | effectual | (adj) ที่ได้ผลตามที่ตั้งใจ, See also: ได้ผล, ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวังไว้, Syn. efficient, qualified | expedient | (n) วิธีที่ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว, Syn. expediency | get onto | (phrv) เข้าใจอย่างถ่องแท้ | go from | (phrv) เพิ่ม (อำนาจ, ชื่อเสียง, ความสำเร็จอย่างรวดเร็ว) | go over | (phrv) ตรวจตรา, See also: สำรวจ, ตรวจอย่างละเอียด, Syn. go through, look over, run over | have at | (idm) สนใจอย่างจริงจัง | grasp | (n) ความสามารถในการเข้าใจ, See also: การเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง | heartbreak | (n) อาการไข้ใจ, See also: อาการอกหัก, ความเสียใจอย่างมาก, Syn. grief, heartache, sorrow | heartsick | (adj) เป็นไข้ใจ, See also: เสียใจอย่างมาก, ที่ผิดหวังอย่างแรง, Syn. dejected, sick-at-heart, despondent, dispirited | get the once-over | (idm) โดนมองสำรวจอย่างเร็ว | high-flyer | (idm) คนทะเยอทะยาน, See also: คนที่อยากประสบความสำเร็จอย่างมาก | hit the bull's-eye | (idm) ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม (คำไม่เป็นทางการ) | sail through something | (idm) ง่ายๆ, See also: ผ่านมาง่ายๆ, ทำได้สำเร็จอย่างง่ายๆ | inly | (adv) ไปข้างใน (วรรณคดี), See also: อย่างสนิทสนม, ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง, Syn. inwardly, intimately, inside | look up and down | (idm) สำรวจอย่างละเอียด (ด้วยตา) | mind-bending | (adj) ซึ่งมีผลต่อจิตใจอย่างมาก | nonplus | (vt) ทำให้ประหลาดใจอย่างที่สุด, Syn. baffle, perplex, puzzle | no-win | (adj) ซึ่งจบลงอย่างเลวร้ายไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร | once-over | (n) การมองสำรวจอย่างรวดเร็ว | plumb | (vt) เข้าใจอย่างลึกซึ้ง, Syn. fathom | rapture | (n) ความปิติยินดีอย่างยิ่ง, See also: ความดีใจล้นเหลือ, ความพึงพอใจอย่างมาก, Syn. happiness, pleasure, satisfaction | resolution | (n) การตัดสินใจอย่างเด็ดขาด, See also: ความตั้งใจอย่างแน่วแน่, Syn. determination, firmness, purpose | rhapsodic | (adj) ที่เต็มไปด้วยความดีใจอย่างเหลือล้น (ภาษาหรืออารมณ์), See also: ที่เต็มไปด้วยความปีติอย่างเหลือล้น, Syn. enthusiastic, ecstatic | rhapsodical | (adj) ที่เต็มไปด้วยความดีใจอย่างเหลือล้น (ภาษาหรืออารมณ์), See also: ที่เต็มไปด้วยความปีติอย่างเหลือล้น, Syn. enthusiastic, ecstatic | romp | (vi) ประสบความสำเร็จอย่างง่ายๆ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ชนะการแข่งขันอย่างง่ายดาย, Syn. win easily | face like a bulldog chewing a wasp | (sl) ไม่มีความน่าดึงดูด, See also: ที่ไม่น่าสนใจอย่างมาก | yucky | (sl) น่ารังเกียจ, See also: ไม่น่าพึงใจอย่างมาก | sate | (vt) ทำให้พอใจอย่างเต็มที่, See also: ทำให้อิ่มแปล้, ทำให้อิ่มอกอิ่มใจ, ทำให้เอือมระอา | self-determination | (n) อำนาจในการตัดสินใจอย่างอิสระ, See also: การกำหนดใจตนเอง, การตัดสินใจด้วยตัวเอง, Syn. free will, independence, freedom, liberty | sift | (vt) วินิจฉัย, See also: ตรวจอย่างละเอียด, กลั่นกรอง, คัดเลือก, Syn. investigate, scrutinize, Ant. disregard | skyrocket | (vi) ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว | skyrocket | (vt) ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างฉับพลัน | take someone's breath away | (idm) ทำให้ประหลาดใจอย่างมาก | upstart | (n) ผู้ที่ร่ำรวยหรือมีอำนาจอย่างรวดเร็ว, Syn. parvenu, nouveau riche | wow | (vt) ทำให้ตื่นเต้นยินดีอย่างมาก (คำไม่เป็นทางการ), See also: ทำให้ประทับใจอย่างมาก, Syn. delight, impress | wow | (n) ความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม (คำไม่เป็นทางการ) | wade though | (phrv) พยายามทำงานให้เสร็จอย่างค่อยๆ ทำ, Syn. plough through |
| application | (แอพพลิเค'เชิน) n. การสมัคร, ความเกี่ยวข้อง, ความมีประโยชน์, การใช้, การร้องขอ, คำร้องขอ, ใบสมัคร, ความสนใจอย่างใกล้ชิด, การประยุกต์, โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับรูปแบบหนึ่งรูปแบบใด, Syn. administration, utility, request | copacetic | (โคพะเซท'ทิค) adj. พอใจที่สุด, ดีมาก, น่าพอใจอย่างยิ่ง | copasetic | (โคพะเซท'ทิค) adj. พอใจที่สุด, ดีมาก, น่าพอใจอย่างยิ่ง | copesetic | (โคพะเซท'ทิค) adj. พอใจที่สุด, ดีมาก, น่าพอใจอย่างยิ่ง | coup | (คู) n. การดำเนินการอย่างกะทันหัน, การกระทำที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก, รัฐประหาร -pl. coups | dawn | (ดอน) { dawned, dawning, dawns } n. อรุณ, รุ่งอรุณ, การเริ่มต้น, การเริ่มปรากฎขึ้น, การเข้าใจอย่างกะทันหัน vi. เริ่มทอแสง, เริ่มมองเห็นได้, เริ่มปรากฎขึ้นในใจครั้งแรก -S.beginning | ecstatic | (เอคสแทท'ทิค) adj. ซึ่งดีใจอย่างเหลือล้น, ซึ่งปลาบปลื้มอย่างเหลือล้น. n. ผู้ที่ดีใจอย่างเหลือล้น, See also: ecstatics n. ความปลาบปลื้มอย่างมาก, Syn. exultant | facinorous | (ฟะชิน' เนอรัส) adj. ร้ายกาจอย่างน่ากลัว | heartsick | adj. เป็นไข้ใจ, เสียใจอย่างมาก, ช้ำใจมาก., See also: heartsickeningly adj. heartsickness n. | indecisive | (อินดีไซ' ซิฟว) adj. ไม่เด็ดขาด, ซึ่งตัดสินใจอย่างไม่เด็ดขาด, ลังเล, ไม่ชัดเจน | insight | (อิน'ไซทฺ) n. การเข้าใจอย่าถ่องแท้, การเข้าใจอย่างลึกซึ้ง, การมองทะลุ, Syn. judgment | muddle | (มัด'เดิล) vt. ทำให้ยุ่ง, ทำให้สับสน, ทำให้มึน, ผสมเหล้า, ทำให้ขุ่น, ทำเหลวไหล. vi. คิดฟุ้งซ่าน, มั่ว, กระทำเหลวไหล, muddle through ประสบความสำเร็จอย่างไม่ได้พยายามเต็มที่. n. ภาวะยุ่งเหยิง, ภาวะสับสน, , See also: muddleness n. muddlement n. muddligly | realisation | (รีอะไลเซ'เชิน) n. การทำให้เป็นจริง, การเข้าใจอย่างแท้จริง, การสำนึก, การเปลี่ยนให้เป็นเงินสดหรือเงิน, ได้รับกำไรหรือรายได้สำหรับตนเอง, การขายได้เงิน, ความสมปรารถนา, Syn. understanding | realization | (รีอะไลเซ'เชิน) n. การทำให้เป็นจริง, การเข้าใจอย่างแท้จริง, การสำนึก, การเปลี่ยนให้เป็นเงินสดหรือเงิน, ได้รับกำไรหรือรายได้สำหรับตนเอง, การขายได้เงิน, ความสมปรารถนา, Syn. understanding | remorse | (รีมอร์ส') n. ความสำนึกผิด, ความเสียใจอย่างมากต่อความผิดที่ได้กระทำไป, ความเห็นอกเห็นใจ, Syn. compunction, sorrow | repugnance | (รีพัก'เนินซฺ) n. การต่อต้าน, การคัดค้าน, การเป็นปฏิปักษ์, ความรังเกียจอย่างแรง, ความเกลียดชัง, ความรู้สึกสะอิดสะเอียน, Syn. repugnancy, aversion | repugnant | (รีพัก'เนินทฺ) adj. ต่อต้าน, คัดค้าน, เป็นปฏิปักษ์, รังเกียจอย่างแรง, สะอิดสะเอียน, Syn. repulsive | romp | (รอมพฺ) vi., n. (การ) เล่นอึกทึกครึกโครม, วิ่งเล่น, เล่นอย่างครื้นเครง, กระทำอย่างรวดเร็ว, การประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและง่ายดาย, See also: romper n. rompingly adv., Syn. play, gambol, sport | rubicon | (รู'บะคอน) n. ชื่อแม่น้ำในภาคเหนือของอิตาลี -Phr. (cross (pass) the Rubicon ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว) | sate | (เซท) vt. ทำให้พอใจอย่างเต็มที่, ทำให้อิ่มแปล้, ทำให้อิ่มอกอิ่มใจ, ทำให้เบื่อหน่าย, กริยาช่อง 2 และ 3 ของ sit | satiate | (เซ'ชีเอท) vt. ทำให้พอใจอย่างยิ่ง, ทำให้อิ่มแปล้, ทำให้น่าเบื่อ, ทำให้เอียน. adj. พอใจยิ่ง, อิ่มอกอิ่มใจ, เต็มอิ่ม, See also: satiation n., Syn. surfeit, satisfy, gratify, suffice | satiated | (เซ'ชีเอทิด) adj. เต็มอิ่ม, อิ่มแปล้, อิ่มจนเอียน, พอใจอย่างยิ่ง | scan | (สแคน) vt., vi. ตรวจอย่างละเอียด, มองกวาด, ดูผ่าน ๆ ตา, วิเคราะห์เสียงสัมผัสของบทกวี, อ่านบทกวีโดยพิจารณาเสียงสัมผัส, (โทรทัศน์, เรดาร์) กวาดภาพ ปรากฎภาพ., See also: scannable adj. scanner n., Syn. inspect, scrutinize, peruse, glan | shock | (ชอค) n. การกระทบกระแทกอย่างกะทันหัน, อาการสะเทือน, อาการสะเทือนทางใจอย่างกะทันหัน, อาการตื่นตะลึง, ความสะดุ้งตกใจ, อาการสั่นกระตุก, อาการเป็นลม, อาการแน่นิ่งไปอย่างกระทันหัน. vt. ทำให้ตะลึงงัน, ทำให้สะดุ้งตกใจ, เขย่าขวัญ, ทำให้สะเทือน, กระทบอย่างแรง, ตีอย่างแรง. vi.ตะลึงงัน, สดุ้งตกใจ | shook-up | (ชูค'อัพ) adj. ถูกกระทบกระเทือนทางใจอย่างรุนแรง | sift | (ซิฟทฺ) vt. ร่อน, ตรวจอย่างละเอียด, สอบถามอย่างละเอียด, เลือกพันธุ์, คัดเลือก. vi. ร่อน., See also: sifter n., Syn. sieve, analyze | skunk | (สคังคฺ) n. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กสีดำ หนังขนมีกลิ่นเหม็นและมีแถบสีขาวรูปตัว"V", บุคคลที่น่ารังเกียจอย่างมาก.vt. ทำให้พ่ายแพ้สิ้นเชิง, Syn. rotter, scoudrel | smash | (สแมช) vt., vi., n. (การ) ทำให้แตกละเอียด, ตีแตกละเอียด, ทำลายสิ้นเชิง, ตีอย่างแรง, ตีแตกพ่าย, ขว้างอย่างแรง, เหวี่ยงอย่างแรง, ชนอย่างแรง, ชนพัง, แตกละเอียด, การล้มละลาย, ความหายนะทางการเงิน, การประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง, สิ่งที่ประสบความสำเร็จ, น้ำผลไม้คั้น. adj. เกี่ยวกับความสำเร็จอย่างมาก | squeak | (สควีค) n. เสียงเอี๊ยด ๆ (ของบานพับเป็นต้น) , เสียงเจี๊ยก ๆ (ของหนูหรือสัตว์อื่น) , การหลบหนีจากภัยหรือความตาย, โอกาส vi. ส่งเสียงดังกล่าว; -Phr. (squeak by (through) ชนะแต่เส้นยาแดงประสบความสำเร็จอย่างหวุดหวิด, รับสารภาพ, เปิดเผย) . | stupefaction | (สทูพะแฟค'เชิน) n. การทำให้มึนงง, ความมึนงง, ความไม่รู้สึก, ความงงงวย, ความประหลาดใจอย่างที่สุด, ภาวะที่กึ่งสลบ. | toss | (ทอสฺ) vt., vi., n. (การ) โยน, ขว้าง, ปา, เหวี่ยง, ทอย, เขย่า, แกว่ง, สอด (คำพูด) , แกว่ง, กวน, กระสับกระส่าย, เคลื่อนไปมา, -Phr. (toss off ทำสำเร็จอย่างรวดเร็ว, บริโภคอย่างรวดเร็ว), See also: tosser n. | vintage year | n. ปีที่มีการกลั่นเหล้าองุ่นที่ได้ผลดี, ปีที่ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง | well-content | (ed) (เวลคันเทน'ทิด) adj. พอใจอย่างยิ่ง | wow | (เวา) vt. ได้รับความตอบสนองที่เกรียวกราวจาก, ทำให้ตื่นเต้น n. ความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม interj. (คำอุทานแสดงความสำเร็จอันยอดเยี่ยม) แจ๊ว!!, Syn. amaze, bowl | wrench | (เรนชฺ) vt., vi. บิด, ขัน, ขันชะเนาะ, ไข, ทำเคลื่อน, ทำเคล็ด n. ประแจ, คีม, การบิด, การขับ, การขันชะเนาะ, การไข, อาการเคล็ดยอกที่เจ็บปวด, อาการกลัดกลุ้มใจอย่างแรงและฉับพลัน, Syn. twist, jerk, pain |
| ironic | (adj) พูดอย่างใจอย่าง, แดกดัน, เยาะเย้ย | ironical | (adj) พูดอย่างใจอย่าง, แดกดัน, เยาะเย้ย | irony | (n) การพูดอย่างใจอย่าง, คำประชดประชัน |
| flabbergasted | (adj) แปลกใจและตกใจอย่างมาก | satiated | (n, vt) อิ่มอกอิ่มใจอย่างเต็มที่, ทำให้เสพย์สุขอย่างเต็มที่, ทำให้เกิดความอาเจียน, อิ่มหนำสำราญ, เสพสุขอย่างเต็มที่, เอียนเพราะมากเกินไป n. การพอใจอย่างเต็มที่, การเกิดความเบื่อหน่าย, การเสพสุขอย่างเต็มที่ slang. อิ่มที่ได้ killing, See also: repletion, Syn. filled to | satiated | (n, adj) 1) มีความต้องการ....อีกไม่เพียงพอ 2) อิ่มแปล้ , เต็มอิ่ม , พอใจอย่างยิ่ง 3) ความมีมากจนเกินความต้องการ, See also: surfeit, fullly, A. unsatisfied, Syn. satistfied |
| 極める | [きわめる, kiwameru] TH: สำรวจอย่างถี่ถ้วน EN: to investigate thoroughly | 判る | [わかる, wakaru] TH: เข้าใจอย่างถ่องแท้ EN: to understand |
| bewusst | (adj) ที่รู้ตัว, ที่มีสติ, ที่ตื่นตัว, ที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |