ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: จล, -จล- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ | มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: N | [มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: N] (n, vi, vt, modal, verb, aux, verb, adj, adv, prep, conj, pron, phrase, jargon, slang, colloq, vulgar, abbrev, name, o) มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: Norma Jeane Mortenson) เกิดวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1926 – 5 สิงหาคม ค.ศ. 1962) เป็นอดีตนักแสดง นักร้อง นางแบบชาวอเมริกัน มีชื่อเสียงจากบทบาท "dumb blonde" เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ทางเพศที่ได้รับความนิยมในคริสต์ทศวรรษ 1950 เป็นสัญลักษณ์ของทัศนคติที่มีต่อเพศแห่งยุค แม้ว่าเธอได้เป็นนักแสดงระดับต้น ๆ เพียงแค่หนึ่งทศวรรษ ภาพยนตร์ของเธอทำรายได้ได้ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐก่อนที่เธอจะเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดใน ค.ศ. 1962[ 1 ] เธอยังถือว่าเป็นสัญรูปของวัฒนธรรมสมัยนิยมหลัก ๆ นับแต่นั้นมา[ 2 ] มอนโรเกิดและเติบโตในลอสแอนเจลิส วัยเด็กเธออาศัยอยู่ในบ้านรับเลี้ยงเด็ก และสถานเด็กกำพร้า และสมรสครั้งแรกเมื่ออายุ 16 ปี ขณะทำงานในโรงงานเป็นส่วนหนึ่งของกำลังสงคราม ใน ค.ศ. 1944 เธอพบกับช่างภาพคนหนึ่ง และเริ่มทำอาชีพนางแบบ งานของเธอทำให้เธอได้เซ็นสัญญากับภาพยนตร์ขนาดสั้น 2 เรื่องกับค่ายทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ (1946-1947) และโคลัมเบียพิกเจอส์ (1948) หลังจากรับบทย่อยในภาพยนตร์จำนวนหนึ่ง เธอเซ็นสัญญาใหม่กับฟอกซ์ใน ค.ศ. 1951 เธอกลายเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วด้วยบทบาทตลกขบขันหลายบทบาท เช่นในเรื่อง แอสยังแอสยูฟีล (1951) และมังกีบิสเนส (1952) และในภาพยนตร์ดรามาเรื่อง แคลชบายไนต์ (1952) และ โดนต์บาเดอร์ทูน็อก (1952) มอนโรเผชิญหน้ากับข่าวลือหลังจากมีการเปิดเผยว่าเธอเคยถ่ายแบบเปลือยก่อนมาเป็นนักแสดง แต่แทนที่จะทำลายอาชีพเธอ มันกลับทำรายได้ให้กับบอกซ์ออฟฟิศ ก่อน ค.ศ. 1953 มอนโรเป็นหนึ่งในดาราฮอลลิวูดที่มีบทบาทนำในภาพยนตร์ 3 เรื่อง ได้แก่ ฟิล์มนัวร์ เรื่อง ไนแอการา (ภาพยนตร์ ค.ศ. 1953)|ไนแอการา ซึ่งมุ่งจุดสนใจที่เสน่ห์ทางเพศของเธอ และภาพยนตร์ตลกเรื่อง เจนเทิลเม็นพรีเฟอร์บลอนส์ และ ฮาวทูแมร์รีอะมิลเลียนแนร์ ซึ่งสร้างภาพลักษณ์ให้เธอเป็น "dumb blonde" แม้ว่าเธอจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างและจัดการภาพลักษณ์สาธารณะของเธอตลอดอาชีพการทำงาน เธอรู้สึกผิดหวังต่อสตูดิโอที่ไทป์แคสต์ และการให้ค่าตัวเธอต่ำไป เธอถูกพักงานเป็นช่วงสั้น ๆ ในต้นปี ค.ศ. 1954 เนื่องจากเธอปฏิเสธโครงการทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง แต่กลับมาเป็นดาราในภาพยนตร์เรื่องที่ประสบความสำเร็จที่สุดเรื่องหนึ่งคือ เดอะเซเวนเยียร์อิตช์ (1955) เมื่อสตูดิโอยังลังเลที่จะเปลี่ยนแปลงสัญญาของเธอ มอนโรก่อตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ใน ค.ศ. 1954 ชื่อ มาริลิน มอนโร โพรดักชันส์ (MMP) ขณะก่อสร้างบริษัท เธอเริ่มศึกษาการแสดงที่แอกเตอส์สตูดิโอ ในปลายปี ค.ศ. 1955 ฟอกซ์มอบฉันทะให้เธอควบคุมและให้เงินเดือนสูงขึ้น หลังจากได้รับคำสรรเสริญจากการแสดงในเรื่อง บัสสต็อป (1956) และการแสดงในภาพยนตร์อิสระเรื่องแรกของบริษัท MMP เรื่อง เดอะพรินซ์แอนด์เดอะโชว์เกิร์ล (1957) เธอได้รับรางวัลลูกโลกทองคำจากเรื่อง ซัมไลก์อิตฮอต (1959) ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของเธอที่ถ่ายทำจนเสร็จคือเรื่อง เดอะมิสฟิตส์ (1961) |
|
| จลาจล | (n) riot, See also: disturbance, insurgence, insurrection, disorder, Syn. ความวุ่นวาย, ความปั่นป่วน, Ant. ความสงบเรียบร้อย, Example: ประชาชนลุกฮือก่อจลาจลเชื้อชาติตามที่ต่างๆ, Thai Definition: ความวุ่นวายในบ้านเมือง, ความปั่นป่วนของบ้านเมือง, Notes: (บาลี) | ใจลอย | (v) be absent-minded, See also: be dreamy, be inattentive, Syn. เหม่อลอย, Example: บรรดาผู้ที่นั่งฟังเทศน์นั่งพนมมืออยู่อย่างนั้น แต่ใจลอยไปถึงไหนๆ ก็ไม่รู้ ไม่ได้ตั้งใจฟังเทศน์ฟังธรรมอะไร, Thai Definition: มีความรู้สึกเลื่อยลอยอย่างเผลอตัว | ใจลอย | (adj) absent-minded, See also: dreamy, inattentive, abstracted, wandering (mind), Syn. เหม่อลอย, Example: เขาเดินเหมือนคนใจลอยออกจากบ้านเช่าตรงไปที่สะพาน | การจลาจล | (n) insurrection, See also: riot, Example: ประชาชนก่อการจลาจลเพราะไม่พอใจรัฐบาล | ตำรวจลับ | (n) secret police, See also: plainclothesman, plainclothes policeman, police in civilian clothes, Example: เขาเป็นตำรวจลับที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดียาบ้า เขาจึงไม่ต้องแต่งเครื่องแบบ, Count Unit: คน, นาย, Thai Definition: ตำรวจที่ต้องปกปิดหรือควรปกปิดว่าปฏิบัติหน้าที่เป็นตำรวจ เช่น ไม่สวมเครื่องแบบตำรวจ เป็นต้น | ผู้ก่อการจลาจล | (n) rioter, See also: rebel, revolutionary, Syn. ผู้ก่อความไม่สงบ, ผู้ก่อการร้าย, Example: ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ก่อการจลาจล เพื่อให้หยุดทำลายทรัพย์สินของรัฐ, Count Unit: คน, กลุ่ม, Thai Definition: บุคคลที่ทำความวุ่นวายหรือความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง |
| จล | (จน) ก. ไหว, สั่น, เช่น จลวิจล. | จลนพลศาสตร์ | (จะละนะพนละ-, จนละนะพนละ-) น. สาขาหนึ่งของพลศาสตร์ ว่าด้วยการเคลื่อนที่ของเทหวัตถุที่เป็นของแข็ง และแรงที่ก่อให้เกิดการเคลื่อนที่นั้นด้วย. | จลนศาสตร์ | (จะละนะ-, จนละนะ-) น. สาขาหนึ่งของพลศาสตร์ ว่าด้วยการเคลื่อนที่ของเทหวัตถุที่เป็นของแข็ง โดยไม่คำนึงถึงแรงที่ก่อให้เกิดการเคลื่อนที่นั้น. | จลนี ๑ | (จะ-) น. เนื้อสมัน. | จลนี ๒ | (จะ-) น. ชะนี เช่น จลนีหวนโหนปลายทูม (ม. คำหลวง ทานกัณฑ์). | จลา | (จะ-) น. ธูป, ของหอม | จลา | แสงสว่าง, ฟ้าแลบ, เช่น จลาจเลนทร์ (ม. คำหลวง แปลจากคำ คนฺธมาทโน; ส. จล + อจล + อินฺทฺร). | จลาจล | (จะลาจน) น. ความปั่นป่วนวุ่นวายไม่มีระเบียบ. | จินต์จล | ก. คิดหวั่น, คิดหวาดหวั่น, เช่น ใจปราชญ์ฤๅเฟื่องฟื้นห่อนได้จินต์จล (โลกนิติ). | เจลียง | (จะเลียง) น. ชื่อไข้ที่มีอาการจับวันเว้นวัน. | โจล | (โจน, โจละ) น. ผ้า, ท่อนผ้า, เช่น บริขารโจล. | ใจลอย | ว. เผลอสติ, เคลิบเคลิ้ม. | บริขารโจล | (-โจน) น. ผ้าสำหรับใช้สอยเล็กน้อย, ใช้ว่า บริขารโจฬ ก็มี. | พลังงานจลน์ | น. พลังงานที่มีในเทหวัตถุ เนื่องจากการเคลื่อนที่ของเทหวัตถุนั้น. | พิจล | ก. หวั่นไหว. | มุจลินท์ | (มุดจะ-) น. ต้นจิก | มุจลินท์ | ชื่อสระใหญ่ในป่าหิมพานต์ ซึ่งขอบสระประกอบด้วยต้นจิก. | วิจล | (วิจน) ว. อาการที่เคลื่อนไปมา, อาการที่หวั่นไหว, อาการที่ส่ายไปมา | วิจล | วุ่นวาย, วุ่นใจ, เช่น ในสุรสถานดำหนักพน อย่ารู้วิจลสักอันเลย (ม. คำหลวง จุลพน). | อจล- | (อะจะละ-) ว. ไม่หวั่นไหว, ไม่คลอนแคลน, เช่น อจลศรัทธา. | อจลา | (อะจะ-) น. แผ่นดิน. | อเจลก, อเจละ | (อะเจ-ลก) น. คนไม่นุ่งผ้า, คนเปลือย, ชีเปลือย. | กฎอัยการศึก | น. กฎหมายที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารลิดรอนสิทธิเสรีภาพบางประการของประชาชนได้ตามความจำเป็น ทั้งให้มีอำนาจหน้าที่เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนในส่วนที่เกี่ยวกับการยุทธ การระงับปราบปรามหรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาบางอย่างที่ประกาศระบุไว้แทนศาลพลเรือน การใช้กฎอัยการศึกจะกระทำได้เมื่อมีเหตุจำเป็นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เช่น ในกรณีเกิดสงคราม การจลาจล โดยจะให้มีผลบังคับทุกท้องที่หรือบางท้องที่ก็ได้ตามความจำเป็น. | ก่น ๑ | ก. ตั้งหน้า, มุ่ง, เช่น อยู่เย็นยงงก่นเกอดพิจลการ (ม. คำหลวง ทานกัณฑ์). | กระบวนการ | น. ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงอย่างมีระเบียบ ไปสู่ผลอย่างหนึ่ง เช่น กระบวนการเจริญเติบโตของเด็ก, กรรมวิธีหรือลำดับการกระทำซึ่งดำเนินต่อเนื่องกันไปจนสำเร็จลง ณ ระดับหนึ่ง เช่น กระบวนการเคมีเพื่อผลิตสิ่งใดสิ่งหนึ่ง. | กระเวนกระวน | ก. วนเวียน เช่น กระเวนกระวนกาม กวนอก พี่นา (นิ. นรินทร์), หวนตลบ เช่น หอมกระเวนกระวน, เขียนเป็น กรเวนกรวล ก็มี เช่น ชื่อจลาจรเรนทร์ หอมกรเวนกรวล อาจจิญจญจวนใจ (ม. คำหลวง มหาราช). | การ์ตูน ๑ | น. ภาพล้อ, ภาพตลก, บางทีเขียนเป็นภาพบุคคล บางทีเขียนเป็นภาพแสดงเหตุการณ์ที่ผู้เขียนตั้งใจล้อเลียนจะให้ดูรู้สึกขบขัน, หนังสือเล่าเรื่องด้วยภาพเขียน ซึ่งแบ่งหน้ากระดาษเป็นช่อง ๆ มีคำบรรยายสั้น ๆ อ่านง่าย เนื้อเรื่องมักเป็นนิทานหรือนวนิยาย. | แก้ตก | ก. แก้ให้สำเร็จลุล่วงไปได้. | ขายผ้าเอาหน้ารอด | ก. ยอมเสียสละแม้แต่ของจำเป็นที่ตนมีอยู่ เพื่อรักษาชื่อเสียงของตนไว้, ทำให้สำเร็จลุล่วงไป เพื่อรักษาชื่อเสียงของตนไว้. | เข้าฌาน | ก. ทำใจให้สงบตามหลักทางศาสนา, โดยปริยายหมายถึงนั่งหลับหรือเหม่อใจลอยไม่รับรู้อะไร. (ดู ฌาน ประกอบ). | คลางแคลง | (คฺลางแคฺลง) ก. แคลงใจ, ไม่แน่ใจหรือวางใจลงไปได้เพราะออกจะสงสัย, แคลงคลาง ก็ว่า, บางทีก็พูดสั้น ๆ ว่า แคลง. | คว่ำกระดาน | ก. อาการที่ฝ่ายซึ่งเห็นว่าตนกำลังจะแพ้ในการเล่นหมากรุก จึงพาลล้มกระดานเลิกเล่นกันโดยแกล้งปัดตัวหมากรุกบนกระดานให้กระจัดกระจายหรือเทตัวหมากรุกบนกระดานเป็นต้น, โดยปริยายหมายถึงการที่ฝ่ายมีอำนาจล้มเลิกการประชุมหรือกิจการใด ๆ เสียกลางคัน เช่น ประธานเห็นว่าจะคุมเสียงในการประชุมไม่อยู่ เลยสั่งปิดประชุมเป็นการคว่ำกระดานเสีย, ล้มกระดาน ก็ว่า. | ค้างเติ่ง | ก. ค้างอยู่, ไม่สำเร็จลุล่วง. | แคลงคลาง | (แคฺลงคฺลาง) ก. แคลงใจ, ไม่แน่ใจหรือวางใจลงไปได้เพราะออกจะสงสัย, คลางแคลง ก็ว่า, บางทีก็พูดสั้น ๆ ว่า แคลง. | แคลงใจ | ก. ไม่แน่ใจหรือวางใจลงไปได้เพราะออกจะสงสัย, คลางแคลง ก็ว่า. | จระลุง, จะลุง | (จะระ-) น. เสาตะลุง, โบราณเขียนเป็น จรลุง หรือ จลุง ก็มี เช่น แท่นที่สถิตย์ จรลุงโสภิต พื้นฉลักฉลุทอง (ดุษฎีสังเวย), จลุงอาศน์เบญพาศเกลี้ยงเกลา พเนกพนักน่าเนา จะนอนก็ศุขสบไถง (ดุษฎีสังเวย). | ชักพระ | น. ชื่อประเพณีอย่างหนึ่งทางภาคใต้ ถือว่าเป็นประเพณีสำคัญ นิยมมีในวันแรม ๑ คํ่า เดือน ๑๑ ซึ่งถือว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์กลับจากโปรดพระพุทธมารดา คล้ายวันตักบาตรเทโวของภาคกลาง, การชักพระมี ๒ อย่าง คือ ชักพระทางบกกับทางน้ำ, ถ้าชักพระทางบก ก็อัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานไว้บนบุษบกซึ่งตั้งอยู่บนยานพาหนะแล้วช่วยกันชักลากไป, ถ้าชักพระทางน้ำ ก็อัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานบนบุษบกในเรือ แล้วใช้เชือกผูกเรือพระช่วยกันลากไปยังสถานที่ที่กำหนด แล้วจึงถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์ มักจะมีการโยนข้าวต้มรูปสามเหลี่ยมห่อด้วยใบกะพ้อเป็นต้นใส่กัน บางทีก็มีแข่งเรือและอื่น ๆ ด้วย. | ดำบล | น. ตำบล, ถิ่น, หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ๆ เช่น ธก็เสด็จดล ดำบลมุจลินทร์สระน้นน (ม. คำหลวง วนประเวศน์). | ดีดลูกคิด | ก. คำนวณผลได้ผลเสียหรือกำไรขาดทุนอย่างละเอียดแล้วจึงตัดสินใจลงมือกระทำ | เดินเรื่อง | ติดต่อวิ่งเต้นให้เรื่องราวสำเร็จลุล่วงไป. | ตรมวล | (ตฺรม-วน) น. ตำบล เช่น เขาแก้วว่าวงกาจล ตรมวลใดท้าวธบอก (ม. คำหลวง วนปเวสน์). | ตาโพลง | ว. ตาเบิกกว้าง เช่น ตกใจลืมตาโพลง | ทหารผ่านศึก | น. ทหารหรือบุคคลซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ในราชการทหาร หรือบุคคลซึ่งทำหน้าที่ทหารตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด และได้กระทำหน้าที่นั้นในการสงครามหรือในการรบไม่ว่าภายในหรือภายนอกราชอาณาจักรหรือในการปราบปรามการจลาจล | ทักษิณานุปทาน, ทักษิณานุประทาน | น. การที่พระมหากษัตริย์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทรงพระราชอุทิศถวายเจ้านายที่มีศักดิ์สูงซึ่งเสด็จล่วงลับไปแล้ว. | บัลลูน | น. ลูกกลมขนาดใหญ่บรรจุแก๊สที่เบากว่าอากาศ ทำให้ลอยได้ ใช้ประโยชน์ในกิจการบางอย่าง เช่น ตรวจลมชั้นบน, ใช้ว่า บอลลูน ก็มี. | โบกขรณี | (-ขะระนี, -ขอระนี) น. สระบัว เช่น ชื่อมุจลินท์สินธุสาโรชโบกขรณี (ม. ร่ายยาว มหาพน), บางทีเขียนเป็น โบษขรณี ก็มี เช่น ท้าวธก็จะยลสระสโรช อันชื่อโบษขรณี อันมีทรุมทํทุมแลไหล้ (ม. คำหลวง วนประเวศน์). | เปิดโลก | ก. เผยโลกทั้ง ๓ ให้เห็นกันในวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากดาวดึงส์. | ฝีมือ | โดยปริยายหมายถึง ความสามารถหรือทักษะและชั้นเชิงในการปฏิบัติการใด ๆ เช่น เขามีฝีมือในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปได้โดยรวดเร็ว. | พรวด ๑ | (พฺรวด) ว. อาการที่เป็นไปอย่างรวดเร็วโดยทันที เช่น เทน้ำพรวดเดียวหมดขวด ตกใจลุกพรวดออกมา | พลศาสตร์ | (พนละ-) น. วิชากลศาสตร์แขนงหนึ่ง ซึ่งว่าด้วยการเคลื่อนที่ของเทหวัตถุที่เป็นของแข็ง แบ่งเป็นสาขาย่อย ๆ คือ จลนพลศาสตร์ และ จลนศาสตร์. |
| percussion, deep | การเคาะตรวจลึก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pharmacokinetics | เภสัชจลนศาสตร์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | labored respiration; respiration, dyspnea; respiration, dyspnoea; respiration, laboured | การหายใจลำบาก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | legal willfulness | การจงใจละเลยหน้าที่ตามกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | laboured respiration; respiration, dyspnea; respiration, dyspnoea; respiration, labored | การหายใจลำบาก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | reduced paid-up insurance | การประกันชีวิตใช้เงินสำเร็จลดเงินเอาประกันภัย [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | respiration, dyspnea; respiration, dyspnoea; respiration, labored; respiration, laboured | การหายใจลำบาก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | respiration, dyspnoea; respiration, dyspnea; respiration, labored; respiration, laboured | การหายใจลำบาก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | respiration, labored; respiration, dyspnea; respiration, dyspnoea; respiration, laboured | การหายใจลำบาก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | respiration, laboured; respiration, dyspnea; respiration, dyspnoea; respiration, labored | การหายใจลำบาก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | riot | การจลาจล [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | respiratory failure | ภาวะการหายใจล้มเหลว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | silica gel | ซิลิกาเจล [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕] | obstinate desertion | การจงใจละทิ้งร้าง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | mobile | ประติมากรรมจลดุล [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | cardiac failure; failure, heart | ภาวะหัวใจวาย, ภาวะหัวใจล้มเหลว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | dyspnea; dyspnoea | อาการหายใจลำบาก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | dyspnea respiration; respiration, dyspnoea; respiration, labored; respiration, laboured | การหายใจลำบาก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | dyspnoea; dyspnea | อาการหายใจลำบาก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | dyspnoea respiration; respiration, dyspnea; respiration, labored; respiration, laboured | การหายใจลำบาก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | deep percussion | การเคาะตรวจลึก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | dinoflagellate | ไดโนแฟลเจลเลต [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] | De Stijl | เดสตีเจล [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | Gelisols | เจลิซอลส์ [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] | gelatin | เจละติน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | Gestapo | เกสตาโป (ตำรวจลับของนาซีเยอรมัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | failure, heart; failure, cardiac | ภาวะหัวใจวาย, ภาวะหัวใจล้มเหลว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | failure, respiratory | ภาวะการหายใจล้มเหลว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | failure, cardiac; failure, heart | ภาวะหัวใจวาย, ภาวะหัวใจล้มเหลว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | four-way wheel nut wrench | ประแจล้อแบบกากบาท [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | flagellum | ๑. แส้เซลล์๒. เดือยยึด๓. แฟลเจลลัม [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | exit visa | การตรวจลงตราอนุญาตให้ออกจากประเทศ [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] | visa | ตรวจลงตรา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | visa | การตรวจลงตรา [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | visa | การตรวจลงตรา [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] | voluntary abandonment | การจงใจละทิ้ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | kinetic art | จลนศิลป์ [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | kinetic energy | พลังงานจลน์ [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕] | kinetic exchange model | ๑. แบบจำลองการแลกเปลี่ยนจลน์๒. ตัวแบบการแลกเปลี่ยนจลน์ [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕] | heart attack | อาการหัวใจล้ม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | heart failure; failure, cardiac | ภาวะหัวใจวาย, ภาวะหัวใจล้มเหลว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | wilful default | การจงใจละเลย, การจงใจผิดนัด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | wilful neglect to maintain | การจงใจละเลยไม่เลี้ยงดู [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | wilful negligence | การจงใจละเลย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | wire feeler gauge | เกจลวดสอด [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | wake | อนุจลน์ [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕] | wilful tort | การจงใจละเมิด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
| เมรุทิศ | เมรุประจำ 4 ทิศ หรือ 8 ทิศ หรืออาจลดลงสุดแต่เหตุการณ์ [ศัพท์พระราชพิธี] | Dinoflagellate | ไดโนแฟลกเจลเลต [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Kinetic energy | พลังงานจลน์, Example: พลังงานที่สะสมอยู่ในวัตถุอันเนื่องมาจากอัตราเร็วของวัตถุมีขนาดเท่ากับ งานต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุจนอยู่นิ่ง [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Accelerator | เครื่องเร่งอนุภาค, เครื่องเพิ่มความเร็วและพลังงานจลน์ของอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า เช่น <em>โปรตอน</em>หรือ<em>อิเล็กตรอน</em> โดยใช้แรงแม่เหล็กและ/หรือไฟฟ้า ทำให้อนุภาคเหล่านั้นเคลื่อนที่ด้วยความเร็วใกล้ความเร็วแสง เครื่องเร่งอนุภาคมีหลายชนิด เช่น <em>ไซโคลทรอน</em> <em>ซิงโครทรอน เครื่องเร่งอนุภาคเชิงเส้น</em> และ<em>บีตาทรอน</em> [นิวเคลียร์] | Particle accelerator | เครื่องเร่งอนุภาค, เครื่องเพิ่มความเร็วและพลังงานจลน์ของอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า เช่น โปรตอนหรืออิเล็กตรอน โดยใช้แรงแม่เหล็กและ/หรือไฟฟ้า ทำให้อนุภาคเหล่านั้นเคลื่อนที่ด้วยความเร็วใกล้ความเร็วแสง เครื่องเร่งอนุภาคมีหลายชนิด เช่น ไซโคลทรอน ซิงโครทรอน เครื่องเร่งอนุภาคเชิงเส้น และบีตาทรอน [นิวเคลียร์] | Electron volt | อิเล็กตรอนโวลต์, หน่วยหนึ่งของพลังงานหรืองาน 1 อิเล็กตรอนโวลต์ คือ พลังงานจลน์ของอิเล็กตรอนที่เคลื่อนที่ผ่านความต่างศักย์ไฟฟ้าขนาด 1 โวลต์ มีค่าเท่ากับ 1.603 x 10<sup>-12</sup> เอิร์ก [นิวเคลียร์] | Chemical kinetics | จลนพลศาสตร์เคมี [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Kinematics | จลนศาสตร์ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Pair production | แพร์โพรดักชัน, การแปลงพลังงานจลน์ของโฟตอนหรืออนุภาคที่มีพลังงานสูงให้เป็นมวล เกิดเป็นอนุภาคย่อยและปฏิยานุภาคของอนุภาคนั้น เช่น การที่รังสีแกมมาหรือรังสีเอกซ์ที่มีพลังงานตั้งแต่ 1.022 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ขึ้นไป ผ่านสนามไฟฟ้ารอบนิวเคลียสแล้วกลายเป็นอิเล็กตรอนและโพซิตรอนที่มีพลังงานเท่ากัน <br>พลังงาน 1.022 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์เทียบเท่ากับมวลนิ่งของอิเล็กตรอนกับโพซิตรอนรวมกัน</br>, Example: [นิวเคลียร์] | Silica gel | ซิลิกาเจล [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Kinetic energy released in matter | เคอร์มา, ผลรวมของพลังงานจลน์เริ่มต้นของอนุภาคที่มีประจุซึ่งเกิดจากรังสีชนิดก่อไอออนที่ไม่มีประจุทำปฏิสัมพันธ์กับวัตถุ มีหน่วยเป็นเกรย์ [นิวเคลียร์] | Habit survey | การสำรวจลักษณะนิสัย, การสำรวจลักษณะนิสัยของกลุ่มประชากรในแต่ละพื้นที่ ที่อาจนำไปสู่การได้รับรังสี เช่น พฤติกรรมการบริโภคและอาชีพ เพื่อประเมินปริมาณรังสีที่คาดว่าจะได้รับ โดยมุ่งเน้นไปยังกลุ่มประชากรที่คาดว่าจะได้รับรังสีสูงสุด, Example: [นิวเคลียร์] | jelly | เจลลี [คำทับศัพท์ที่มักใช้ผิด] | Chemical kinetics | จลนพลศาสตร์เคมี [TU Subject Heading] | Colonoscopy | การส่องตรวจลำไส้ใหญ่ด้วยกล้อง [TU Subject Heading] | Dinoflagellae blooms | การเพิ่มขยายของไดโนแฟลกเจลเลต [TU Subject Heading] | Dinoflagellates | ไดโนแฟลกเจลเลต [TU Subject Heading] | Dyspnea | การหายใจลำบาก [TU Subject Heading] | Electrophoresis, Polyacrylamide gel ; Polyacrylamide gel electrophoresis | โพลีอคริย์ลาไมด์ เจล อิเล็กโตรฟอเรซิส [TU Subject Heading] | Gelatin | เจลาติน [TU Subject Heading] | Gels | เจล [TU Subject Heading] | Hydrogel | ไฮโดรเจล [TU Subject Heading] | Kinematics | จลนศาสตร์ [TU Subject Heading] | Kinetic art | จลนศิลป์ [TU Subject Heading] | Kinetic theory of Gases | ทฤษฎีจลน์ของก๊าซ [TU Subject Heading] | Kwangju Uprising, Swangju-Si, Korea, 1980 | การจลาจลเมืองกวางจู, เกาหลี, ค.ศ. 1980 [TU Subject Heading] | Los Angeles (California) | ลอส แองเจลิส (แคลิฟอร์เนีย) [TU Subject Heading] | Peasant uprisings | การจลาจลของชาวไร่ชาวนา [TU Subject Heading] | Pharmacokinetics | เภสัชจลนศาสตร์ [TU Subject Heading] | Prison riots | การจลาจลในเรือนจำ [TU Subject Heading] | Respiratory distress syndrome | กลุ่มอาการหายใจลำบาก [TU Subject Heading] | Respiratory distress syndrome, Newborn | กลุ่มอาการหายใจลำบากในทารกแรกเกิด [TU Subject Heading] | Respiratory distress syndrome, Adult | กลุ่มอาการหายใจลำบากในผู้ใหญ่ [TU Subject Heading] | Riots | การจลาจล [TU Subject Heading] | Kjeldahl | เจลดาห์ล [สิ่งแวดล้อม] | Consul | ข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งอย่างถูกต้องและได้รับ มอบหมายให้ไปประจำยังต่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประเทศทั้งในด้าน พาณิชย์ การเดินเรือ คุ้มครองความเป็นอยู่อันดีของพลเมืองของประเทศตน พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่บางอย่างด้านธุรการ หรือวางระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ ตลอดจนด้านการเป็นสักขีพยานการลงนามในเอกสาร เพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทางกฎหมาย (Notary) การให้การตรวจลงตรา รวมทั้งการรับรองเอกสารที่แท้จริง (มิใช่เอกสารปลอม) และจัดการการสัตย์สาบานตนหรืออีกนัยหนึ่ง ภาระหน้าที่ของกงสุลอาจแบ่งออกได้เป็น 5 ประการ ดังต่อไปนี้1 ทำหน้าที่ส่งเสริมผลประโยชน์ในทางพาณิชย์ของประเทศที่ตนเป็นผู้แทนอยู่2 ควบคุมดูแลผลประโยชน์ด้านการเดินเรือ3 คุ้มครองผลประโยชน์ของคนชาติของประเทศที่แต่งตั้งให้ตนไปประจำอยู่4 ทำหน้าที่สักขีพยานในการลงนามในเอกสารเพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทาง กฎหมาย5 ทำหน้าที่ธุรการเบ็ดเตล็ดอื่นๆ หรือระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ เช่น การออกหนังสือเดินทาง การให้การตรวจลงตรา (Visas) การจดทะเบียนคนเกิด คนตาย ฯลฯอนุสัญญากรุงเวียนนา ภาคที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลข้อที่ 5 ได้กำหนดภาระหน้าที่ของฝ่ายกงสุลไว้ดังต่อไปนี้ ก. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่ง และของคนในชาติของรัฐผู้ส่ง ทั้งเอกชนและบรรษัทในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาตข. เพิ่มพูนการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านการพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาการ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกันในทางอื่น ตามบทแห่งอนุสัญญานี้ค. สืบเสาะให้แน่โดยวิถีทางทั้งปวงอันชอบด้วยกฎหมายถึงภาวะและความคลี่คลายใน ทางพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและวิทยาการของรัฐผู้รับ แล้วรายงานผลของการนั้นไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่ง และให้ข้อสนเทศแก่บุคคลที่สนใจง. ออกหนังสือเดินทางและเอกสารการเดินทางให้แก่คนในชาติของรัฐผู้ส่ง ตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือออกเอกสารที่เหมาะสมให้แก่บุคคลที่ประสงค์จะเดินทางไปยังรัฐผู้ส่งจ. ช่วยเหลือคนในชาติของรัฐผู้ส่งทั้งเอกชนและบรรษัทฉ. ทำหน้าที่นิติกรและนายทะเบียนราษฎร์ และในฐานะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ปฏิบัติการหน้าที่บางประการอันมีสภาพทางธุรการ หากว่าการหน้าที่นั้นไม่ขัดกับกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับช. พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของผู้เยาว์ และบุคคลไร้ความสามารถ ซึ่งเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง ภายในขีดจำกัดที่ได้ตั้งบังคับไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ โดยเฉพาะในกรณีที่จำเป็นต้องมีความปกครองหรือภาวะทรัสตีใดๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลเหล่านั้นฌ. แทนคนชาติของรัฐผู้ส่ง หรือจัดให้มีการแทนอย่างเหมาะสมในองค์กรตุลาการ และต่อเจ้าหน้าที่ที่อื่นของรัฐผู้รับ เพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้ได้มา ซึ่งมาตรการชั่วคราวสำหรับการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของคนในชาติเหล่านี้ ไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ ในกรณีที่คนในชาติเหล่านี้ไม่สามารถเข้าทำการป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของ ตนในเวลาอันเหมาะสมได้ เพราะเหตุของการไม่อยู่หรือเหตุอื่นใด ทั้งนี้ ให้อยู่ภายในข้อบังคับแห่งทางปฏิบัติ และวิธีดำเนินการซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับญ. ส่งเอกสารทางศาล หรือเอกสารที่มิใช่ทางศาล หรือปฏิบัติตาม หนังสือของศาลของรัฐผู้ส่งที่ขอให้สืบประเด็น หรือตามการมอบหมายให้สืบพยานให้แก่ศาลของรัฐผู้ส่งนั้น ตามความตกลงระหว่างประเทศที่ใช้บังคับอยู่ หรือเมื่อไม่มีความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่านั้น โดยทำนองอื่นใดที่ต้องด้วยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับด. ใช้สิทธิควบคุมดูแลและตรวจพินิจตามที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของ รัฐผู้ส่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับเรือที่มีสัญชาติของของรัฐผู้ส่ง หรืออากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐนั้น รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับลูกเรือของเรือและอากาศยานดังกล่าวต. ให้ความช่วยเหลือแก่เรือและอากาศยานที่ระบุไว้ในอนุวรรค (ด) ของข้อนี้ รวมทั้งลูกเรือของเรือและอากาศยานนั้น บันทึกถ้อยคำเกี่ยวกับการเดินทางของเรือ ตรวจดูและประทับตรากระดาษเอกสารของเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใด ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในระหว่างนายเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใดๆ ที่ได้เกิดขั้นในระหว่างนายเรือ เจ้าพนักงาน และกะลาสี ตราบเท่าที่การนี้อาจได้อนุมัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง ทั้งนี้ จะต้องไม่เป็นการเสื่อมเสียแก่อำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับถ. ปฏิบัติการหน้าที่อื่นใดที่รัฐผู้ส่งมอบหมายแก่สถานีทำการทางกงสุล ซึ่งมิได้ต้องห้ามโดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ หรือซึ่งไม่มีการแสดงข้อคัดค้านโดยรัฐผู้รับ หรือซึ่งมีอ้างถึงไว้ในความตกลงระหว่างประเทศ ที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับ [การทูต] | employment prohibited | ห้ามทำงาน คนต่างด้าวที่ได้รับการตรวจลงตราประเภทเดินทางผ่าน นักท่องเที่ยว และคนอยู่ชั่วคราว (บางประเภท) จะถูกห้ามทำงานขณะพำนักในราชอาณาจักร [การทูต] | Honorary Consul | กงสุลกิตติมศักดิ์ " ได้แก่ บุคคลในท้องถิ่นผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งและมอบหมายให้ดูแล ส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศและคนชาติในพื้นที่ในเขตอาณา และดำเนินการตรวจลงตราหนังสือเดินทางแก่บุคคลที่จะเดินทางเข้าประเทศที่ กงสุลกิตติมศักดิ์เป็นผู้แทน การแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวต้องได้รับความเห็นชอบจากประเทศผู้รับ และต้องยื่นสัญญาบัตร และได้รับอนุมัติบัตรเช่นเดียวกับผู้แทนฝ่ายกงสุลอาชีพ (career consular officer) ทั้งนี้ กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์จะได้รับมอบหมายให้ดูแลเขตอาณาที่ครอบคลุมพื้นที่ กว้างกว่าและสำคัญกว่า ในส่วนของไทย กงสุลกิตติมศักดิ์แตกต่างจากกงสุลอาชีพใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ (1) กงสุลกิตติมศักดิ์ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศที่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม หรือเป็นผู้นำที่มีความสัมพันธ์พิเศษกับไทย (2) กงสุลกิตติมศักดิ์ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งสำนักงาน ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์หรือสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ทั้งหมด (3) กงสุลกิตติมศักดิ์ได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางกงสุลน้อยกว่ากงสุลอาชีพ ในการปฏิบัติงานของกงสุลกิตติมศักดิ์ของไทยจะมีคู่มือกงสุลกิตติมศักดิ์ เป็นระเบียบกฎเกณฑ์และข้อมูลสำหรับการปฏิบัติงาน " [การทูต] | Legalisation (legalization) | นิติกรณ์ กระบวนการรับรองความถูกต้อง คำแปลหรือลายมือชื่อผู้มีอำนาจลงนามในเอกสาร โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ สถานฑูต สถานกงสุล หรือหน่วยงานตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ได้รับการยอมรับและสามารถนำไปใช้ได้ในทางการระหว่างประเทศ [การทูต] | Mekong Institute | สถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง [การทูต] | Passport | หนังสือเดินทาง คือเอกสารทางราชการที่ใช้แสดงตัวและสัญชาติ ซึ่งทางราชการออกให้แก่บุคคลที่จะเดินทางไป หรือพำนักอยู่ชั่วคราวในต่างประเทศเมื่อสมัยก่อนสงครามโลกทั้งสองครั้ง ประเทศต่าง ๆ มิได้ขอให้คนต่างด้าวที่จะเข้าไปในประเทศของตนต้องมีหนังสือเดินทาง มีการเริ่มใช้หนังสือเดินทางอย่างแพร่หลายก็ในระยะหลังสงครามดังกล่าว ทุกวันนี้ ประเทศส่วนมากในโลกต่างต้องการให้คนต่างด้าวที่จะเดินทางเข้าไปในดินแดนของ ตนมีหนังสือเดินทางซึ่งได้รับการตรวจลงตรา (Visa) โดยถูกต้องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลของตนเสียก่อน อย่างไรก็ดี ทุกวันนี้ประเทศส่วนมากได้มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลของตนในต่าง ประเทศเป็นผู้ออกหนังสือเดินทางได้ด้วยหนังสือเดินทางที่ใช้กันในปัจจุบันมี อยู่หลายประเภทอันได้แก่1. หนังสือเดินทางทูต (Diplomatic passports ) ออกให้แก่ผู้ที่มีตำแหน่งเอกอัครราชทูต อัครราชทูต เจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ของสถานเอกอัครราชทูต และบุคคลอื่น ๆ ที่มีตำแหน่งทางการทูต รวมทั้งบุคคลในครอบครัวของเขาเหล่านั้น2. หนังสือเดินทางพิเศษ (Special passports) ออกให้ แก่ข้าราชการที่ไม่มีสถานะทางการทูต และบุคคลในครอบครัวของเขาเหล่านั้น3. หนังสือเดินทางธรรมดา ( Regular passports ) ออกให้แก่บุคคลธรรมดา (Private persons) ซึ่งมีสิทธิจะขอหนังสือเดินทางดังกล่าวได้ตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของ ประเทศของตนมีบางประเทศได้ออกหนังสือเดินทางประเภทอื่น นอกเหนือจากที่ได้กล่าวมาข้างต้นด้วยเหตุผลเฉพาะ เช่น ภายใต้ระบบของสหรัฐอเมริกา มีการออกหนังสือเดินทางที่เรียกว่า1. หนังสือเดินทางบริการ (Service passports) ออกให้แก่คนอเมริกัน หรือชนชาติที่สวามิภักดิ์ต่อสหรัฐอเมริกาที่อยู่ในต่างประเทศ2. หนังสือเดินทางบุคคลในครอบครัว (Dependent passports) ออกให้แก่บุคคลที่ถือหนังสือเดินทางนี้ในกรณีที่เดินทางไปชั่วคราว หรือพำนักอยู่นาน ๆ ในต่างประเทศในฐานะที่เป็นบุคคลในครอบครัวของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ หรือพลเรือนอเมริกันที่ยังรับราชการอยู่นอกเขตประเทศสหรัฐอเมริกา [การทูต] | Schengen States | กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปบางประเทศที่ยอมรับกันให้ประชาชนของแต่ละประเทศ สามารถเดินทางไปมาถึงกันและเข้าเมืองได้โดยไม่มีการตรวจลงตราหรือมีการควบ คุมใดๆ ระหว่างกัน และสำหรับประชาชนจากประเทศที่สาม หากได้รับอนุญาตให้เดินทางไปประเทศหนึ่งประเทศใดในกลุ่มประเทศนี้แล้ว จะสามารถเดินทางต่อไปประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มนี้ได้โดยไม่มีการควบคุม สมาชิกประกอบด้วย เบลเยี่ยม เยอรมนี ฝรั่งเศส กรีซ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ และสเปน [การทูต] | Sister Cities | บ้านพี่เมืองน้อง หมายถึง ความตกลงระหว่างประเทศ หรือเมืองในประเทศที่ต่างกัน ในการที่จะสถาปนาเมืองในประเทศของแต่ละฝ่ายให้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเป็น พิเศษ เช่น นครเชียงใหม่เป็นบ้านพี่เมืองน้องกับนครเซี่ยงไฮ้ หรือกรุงเทพฯ เป็นบ้านพี่เมืองน้องกับนครลอสแอนเจลิส [การทูต] | The Foreign Office | ในสมัยก่อน เมื่อสังคมนานาชาติมีสมาชิกประเทศอยู่เพียงไม่กี่แห่ง และการเจริญความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็ไม่มีอะไรที่ยุ่งยากซับซ้อน ดังนั้น ประมุขของรัฐหรือหัวหน้าของรัฐบาลจะเป็นผู้บริหารกิจการต่างประเทศด้วยตนเอง แต่มาในปัจจุบันเป็นไปไม่ได้ที่จะกระทำเช่นนี้ ดังนั้นทุกวันนี้ รัฐบาลของประเทศเกือบจะทุกแห่งจะมีสำนักงานในระดับกระทรวงแยกออกต่างหาก เพื่อดำเนินกิจการต่างประเทศโดยเฉพาะสำนักงานนี้จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันใน แต่ละประเทศ เช่นเรียกว่า The Ministry of (หรือ for) Foreign Affairs, The Ministry of External Affairs, The Department of State หรือ The Department of Foreign Affairs หรือ Gaimusho เป็นต้น ส่วนหัวหน้าสำนักงานหรือเจ้ากระทรวงนั้น จะเป็นบุคคลในคณะรัฐมนตรี และเรียกชื่อตำแหน่งต่างๆ กัน เช่น The Secretary of Foreign Affairs, The Minister of External Affairs, The Secretary of State หรือ Foreign Minister หรือ Foreign Secretary ตัวรัฐมนตรีนี้จะมีผู้ช่วย ซึ่งบางตำแหน่งเรียกว่า ปลัดกระทรวง (Under-Secretaries), ผู้ช่วยปลัดกระทรวง (Assistant Under-Secretaries) พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการที่ได้ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วงาน ของกระทรวงการต่างประเทศ โดยทั่วไปมักจะแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกเรียกว่าฝ่ายธุรการ (Home Service) ทำหน้าที่บริหารกิจการต่าง ๆ ภายในประเทศ ซึ่งเกี่ยวกันกับกิจการต่างประเทศ รวมทั้งการติดต่อเกี่ยวข้องกับคณะทูตานุทูต และฝ่ายที่สองเรียกว่า Foreign Service เป็นฝ่ายดำเนินงานเกี่ยวกับกิจการต่างประเทศ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในต่างแดน อันมีสถานทูต สถานกงสุล และสำนักงานอื่น ๆ เป็นตัวแทน ประกอบด้วยข้าราชการฝ่ายการทูตและฝ่ายวิชาการ ซึ่งประจำทำงานในสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลและสำนักงานระหว่างประเทศอื่น ๆ แต่ประเทศไทยเรายังมิได้แบ่งออกเป็นสองฝ่ายดังกล่าวตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศเป็นตัวกลาง ทำหน้าที่ติดต่อระหว่างประเทศ ส่วนหัวหน้าคณะทูตภายในนครหลวงของแต่ละประเทศจะทำการติดต่อใด ๆ ทั้งหมดกับกระทวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับงานภายในกระทรวงการต่างประเทศ โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็นกรม กอง โดยถือตามเขตภูมิศาสตร์ต่าง ๆ เช่น กรมหรือกองการเอเชีย กรมการแอฟริกา กรมการอเมริกัน กรมการยุโรป และอื่น ๆ เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีกรมกองอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่ด้านธุรการ และด้านการสื่อสารติดต่อ การประชุม การประสานงานความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การคลัง การบริการในต่างประเทศ การสารนิเทศ การกฎหมาย การห้องสมุด การหนังสือเดินทาง การบุคลากร การพิธีการทูต การวิจัย การสนธิสัญญา การตรวจลงตรา (Visa) และการสหประชาชาติในปัจจุบันในหลาย ๆ ประเทศ ผู้ที่สมัครขอรับราชการในกระทรวงการต่างประเทศจะต้องมีคุณวุฒิตามที่กระทรวง กำหนด เช่น จะต้องผ่านการสอบไล่ ทั้งในภาคปากเปล่า และข้อเขียน ตลอดจนจะต้องปรากฏตัวต่อหน้าคณะกรรมการสอบไล่ (Board) ซึ่งจะเป็นฝ่ายให้คะแนนบุคลิกและคุณภาพส่วนตัว แล้วนำคะแนนไปบวกกับคะแนนสอบข้อเขียน ในบางแห่งต้องการให้ผู้สมัครสอบเข้ารับการฝึกอบรม และให้อยู่ในระหว่างการทดลองดูความประพฤติ (Probationary period) อีกด้วย [การทูต] | validity of visa | อายุการตรวจลงตรา [การทูต] | visa | การตรวจลงตรา " การประทับตราหรือข้อความในหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางของคนต่างด้าวโดยเจ้าพนักงานของรัฐ เพื่อแสดงว่า ผู้เดินทางได้รับอนุญาตให้เข้ามาพำนัก เดินทางผ่าน และเดินทางออกจากราชอาณาจักร - courtesy visa การตรวจลงตราประเภทอัธยาศัยไมตรี การตรวจลงตราประเภทนี้จำกัดเฉพาะคนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เป็นการชั่วคราว ซึ่ง (1) ปฏิบัติหน้าที่เพื่อการอื่นนอกเหนือจากการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ทางการทูต กงสุล หรือราชการ (สำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางทูต หนังสือเดินทางราชการ หรือหนังสือเดินทางสหประชาชาติที่เทียบเท่าหนังสือเดินทางทูต หรือหนังสือ เดินทางราชการ) และ (2) เข้ามาในฐานะเป็นพระราชอาคันตุกะ ราชอาคันตุกะ แขกของรัฐบาล หรือหน่วยของรัฐ (สำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางธรรมดา) - diplomatic visa การตรวจลงตราประเภททูต - immigrant visa การตรวจลงตราประเภทคนเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร - non-immigrant visa การตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว - non-quota immigrant visa การตรวจลงตราประเภทคนเข้าเมืองนอกกำหนดจำนวนคนต่างด้าว ซึ่งเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นรายปี การตรวจลงตราประเภทนี้จะอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ 1 ปี - official visa การตรวจลงตราประเภทราชการ - re-entry visa การตรวจลงตราประเภทให้กลับเข้ามาในราชอาณาจักรได้อีก - tourist visa การตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว - transit visa การตรวจลงตราประเภทคนเดินทางผ่านราชอาณาจักร - visa on arrival การตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง " [การทูต] | Visa | การตรวจลงตรา กล่าวคือ เป็นเครื่องหมายแสดงการรับรองที่ประทับอยู่ในหนังสือเดินทางว่า หนังสือเดินทางฉบับนั้นได้รับการตรวจตราแล้ว ในกรณีที่ผู้ถือหนังสือดังกล่าวยื่นขอเดินทางเข้าไปในประเทศที่ให้การตรวจลง ตรา และทุกอย่างถูกต้องจึงให้ผู้นั้นเดินทางไปยังประเทศดังกล่าวได้อนุสัญญากรุง เวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลได้บัญญัติไว้ในข้อ 5 ของวรรค D ว่า หน้าที่ทางกงสุลข้อหนึ่งคือ ?ออกหนังสือเดินทางและเอกสารเดินทางให้แก่คนชาติของรัฐผู้ส่ง และตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือออกเอกสารที่เหมาะสมให้แก่บุคคลที่ประสงค์จะเดินทางไปยังรัฐผู้ส่ง?พึง เข้าใจว่า แม้หนังสือเดินทางจะได้รับการตรวจลงตราแล้วก็ตาม ก็มิได้เป็นการประกันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ผู้ถือหนังสือนั้นจะได้รับการยินยอมให้เดินทางเข้าไปในรัฐที่ให้การตรวจลง ตรา คือ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในรัฐนั้นอาจห้ามมิให้เข้าประเทศได้ ทั้ง ๆ ที่ได้รับการตรวจตราแล้วก็ตาม แต่การกระทำเช่นนี้เป็นกรณีที่เกิดขึ้นน้อยมากการตรวจลงตราหรือวีซ่านั้น แบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 3 ประเภท คือ1) การตรวจลงตราทางการทูต ซึ่งออกให้แก่บุคคลในคณะทูตและกงสุล รวมทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของต่างประเทศ2) การตรวจลงตราทางราชการ ออกให้แก่ข้าราชการที่ไม่รวมอยู่ในประเภทที่ 1) ซึ่งจะเดินทางไปธุระราชการ และ3) การตรวจลงตราธรรมดา ออกให้แก่บุคคลทั่วไปที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และไม่รวมอยู่ในประเภทที่ 1) และ 2) มีหลายประเทศได้ให้การตรวจลงตราชั่วคราว การตรวจลงตราสำหรับลูกเรือเดินทะเล การตรวจลงตราสำหรับพ่อค้าต่างประเทศ การตรวจลงตราสำหรับนักศึกษา และการตรวจลงตราสำหรับผู้อพยพลี้ภัย เป็นต้น [การทูต] | Visa Waiver Agreement | ความตกลงยกเว้นการตรวจลงตรา [การทูต] | accelerator (particle accelerator) | เครื่องเร่งอนุภาค, เป็นเครื่องเพิ่มความเร็วและพลังงานจลน์ของอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า เช่น โปรตรอน หรืออิเล็กตรอน โดยใช้แรงแม่เหล็ก หรือแรงไฟฟ้า ทำให้อนุภาคเหล่านั้นเคลื่อนที่ด้วยความเร็วใกล้ความเร็วแสง เครื่องเร่งอนุภาคมีหลายชนิด เช่น ไซโคลตรอน ซินโครตรอน เครื่องเร่งอนุภาคเชิงเส้น และบีตาตรอน [พลังงาน] | neutron generato | เครื่องกำเนิดนิวตรอน, เป็นเครื่องผลิตนิวตรอนพลังงานสูง โดยการเร่งอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า เช่น ดิวเทอรอน (deuteron) ให้มีพลังงานจลน์ในช่วง 150-500 กิโลอิเล็กตรอนโวลต์ แล้วให้ชนกับเป้าบางๆ โดยทั่วไปปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่ใช้ในการผลิตนิวตรอน ได้จากการเร่งดิวเทอรอนให้ชนกับตริเตรียม(tritium) ทำให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ ดังสมการ [พลังงาน] |
| I see. | เข้าใจล่ะ Bound (2009) | I see. | เข้าใจละ Insurgent (2015) | Please, try to understand. I've never done a thing on my own. | ได้โปรดเข้าใจลูกด้วยเถอะ ลูกไม่เคยทำอะไรด้วยตัวของลูกเองเลย Aladdin (1992) | Just let her meet me. I will win your daughter! | ข้าจะชนะใจลูกสาวท่าน กล้าดียังไง Aladdin (1992) | Get the point? | เข้าใจละยัง Aladdin (1992) | I see. | เข้าใจล่ะ Basic Instinct (1992) | - Bill said you were in the Secret Service. - That's right. | - ได้ยินว่าเคยเป็นตำรวจลับ The Bodyguard (1992) | So you were in the Secret Service? What made you get out? | คุณว่าเคยเป็นตำรวจลับ The Bodyguard (1992) | You're not attracted to your client anymore? | แสดงว่าคุณไม่ติตใจลูกค้าคุณอีกแล้ว The Bodyguard (1992) | I don't understand what you mean by "technicality," Mr. LaPlante. | ครับ ผมเข้าใจละ Hero (1992) | And then after that well, I've been.... | เจอสถานการณ์แบบนี้ ทำไมไม่เรียกตำรวจล่ะ นายกับนักสืบนาก้อสนิทกันหนิ ทำไมปล่อยให้เรื่องบานปลายขนาดนี้ Hero (1992) | When I think of what I might have accomplished... with a human subject. | ถ้าเพียงแต่หามันเจอได้สำเร็จล่ะก็ โครงการพัฒนามนุษย์อาจประสบความสำเร็จ The Lawnmower Man (1992) | I had a shot once, Dr. Angelo, and it hurt. | เข็มเดียวก็เจ็บ จะเเย่แล้ว หมอแองเจลโล ชอบทำเเรง The Lawnmower Man (1992) | Please? You get a kick out of that, don't you? | คงถูกใจล่ะสิ ใช่มั้ย Of Mice and Men (1992) | - Los Angeles. | - ลอส แองเจลลิส. Hocus Pocus (1993) | They're very health conscious in Los Angeles. | ในลอสเองเจลลิส เค้ารักษาสุขภาพกัน. Hocus Pocus (1993) | They've started a riot to cover the sniper. | พวกเขาได้เริ่มต้นก่อการจลาจล เพื่อให้ครอบคลุมซุ่มย? In the Name of the Father (1993) | And that's when the riot squad was ordered in. | และเมื่อ ทีมจลาจลได้รับคำสั่งสิ่งต่อไปนี้ In the Name of the Father (1993) | After the riot, my father's health deteriorated badly. | หลังจากการจลาจล, พ่อของฉัน สุขภาพที่เสื่อมสภาพไม่ดี In the Name of the Father (1993) | Whether Barker was responsible or not... for bringing in the riot squad, Joe never forgave him. | ไม่ว่าจะเป็น Barker รับผิดชอบหรือไม่ ... เพื่อนำในทีมจลาจล, โจไม่เคยให้อภัยเขา In the Name of the Father (1993) | Otherwise when you go to Huang Tai Tai's, she will disapprove of you. | ไม่อย่างนั้นเวลาที่ลูกไปอยู่บ้านของฮวงไท่ไท่แล้ว เธอจะไม่พอใจลูกเอานะ The Joy Luck Club (1993) | It's ours this time And won't the children be surprised | นี่เป็นเวลาของเรา ทำไมเด็กๆจะไม่แปลกใจล่ะ The Nightmare Before Christmas (1993) | - l'm busy, Angela. | - แองเจล่า ผมยุ่งอยู่ Junior (1994) | - Angela, what are you doin' here? | - แองเจล่า เธอมาทำอะไรที่นี่ Junior (1994) | Thank you very much, Angela, but l-- | ขอบคุณมากแองเจล่า แต่ Junior (1994) | - Angela, this is my house now. | - แองเจล่า นี่บ้านผมแล้ว Junior (1994) | Alex, Angela. Angela, Alex. | อเล็กซ์ นี่แองเจล่า แองเจล่า นี่อเล็กซ์ Junior (1994) | Angela, we've been over this. | แองเจล่าเราคุยกันไปแล้วนะ Junior (1994) | - Angela. | - แองเจล่า Junior (1994) | Hi, Angela. | สวัสดีแองเจล่า Junior (1994) | I couldn't get Angela pregnant. | แต่ก็ทำให้แองเจล่าท้องไม่ได้ Junior (1994) | - l'm sorry, Larry. - Yeah. | - ฉันเสียใจลาร์รี่ Junior (1994) | Just easy, easy. Breathe. Breathe. | ใจเย็นๆ หายใจลึกๆ Junior (1994) | - Okay, okay. Just breathe. | - โอเค โอเค หายใจลึกๆ Junior (1994) | - Breathe. Breathe. | - หายใจลึกๆ หายใจลึกๆ Junior (1994) | Angela, enough with the huffing'. We're all alone. | แองเจล่าหยุดหอบได้แล้ว เหลือแค่พวกเราแล้ว Junior (1994) | - Up, Angela, out of there. | - แองเจล่าลุก หลบให้หน่อย Junior (1994) | Just go outside with Angela, okay? Keep her company. | อยู่ข้างนอกกับแองเจล่านะ เป็นเพื่อนเธอหน่อย Junior (1994) | Go in there! Angela. Angela. | ตอนนี้เหรอ แองเจล่าคุยกับผมนะ Junior (1994) | All right, breathe, honey. Just breathe. | เอาละ หายใจลึกๆ ที่รัก หายใจไว้ Junior (1994) | Ange. | แองเจล่า Junior (1994) | Take a deep breath. Hold it. | สูดหายใจลึก ๆ รอไว้ Léon: The Professional (1994) | Now I get it. | เข้าใจล่ะ Wild Reeds (1994) | Rioters fired at French police, who shot back, | ผู้ก่อจลาจลยิงตำรวจฝรั่งเศส ผู้ยิงโต้ตอบ Wild Reeds (1994) | The police dragged that river for three days, and nary a gun was found. | ตำรวจลากแม่น้ำที่เป็นเวลาสามวันและอันเป็นปืนที่พบ The Shawshank Redemption (1994) | It was like... the Garden before the Fall. | มันเหมือนสวนอีเดนก่อนถูกปีศาจล่อลวง Don Juan DeMarco (1994) | Sporadic riots continue to hit Eastern cities... and reports of violence from Boston and Philadelphia... are now coming in. | เหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นอย่าต่อเนื่อง ทางด้านตะวันออกของเมือง และมีรายงานการจลาจลที่บอสตันและฟิลลาเดลเฟีย เกิดในขณะนี้เช่นกัน In the Mouth of Madness (1994) | Oh, shit. The key. | เวรเอ๊ย กุญแจล่ะ In the Mouth of Madness (1994) | "Trent's eyes refused to close. | สายตาของเทรนท์ไม่อาจละออกไปได้ In the Mouth of Madness (1994) | On the local scene, police are at a loss to explain... the outbreak of violent crime among the city's clergy. | รายงานท้องถิ่นแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจขาดการติดต่อ ระหว่างการรายงานเหตุการณ์จลาจล ของกลุ่มประท้วงที่เกิดกลางเมือง In the Mouth of Madness (1994) |
| ใจลอย | [jailøi] (adj) EN: absent-minded FR: distrait ; absent ; rêveur | จลาจล | [jalājon] (n) EN: riot ; disturbance ; insurgence ; insurrection ; uprising ; disorder ; great confusion FR: émeute [ f ] ; désordres [ mpl ] ; troubles [ mpl ] ; insurrection [ f ] ; révolte [ f ] ; soulèvement [ m ] ; grande confusion [ f ] | การจลาจล | [kān jalājon] (n) EN: insurrection ; riot FR: insurrection [ f ] ; émeute [ f ] | การจราจล | [kān jarājøn] (n) EN: rebellion ; riot ; sedition | การจงใจละทิ้ง | [kān jongjai lathing] (n, exp) EN: voluntary abandonment | เข้าใจล่ะ | [khaojai la] (xp) EN: I see FR: je vois ! | กุญแจล็อก | [kunjaē lǿk] (n) EN: key FR: clé = clef [ f ] | ผู้ก่อการจลาจล | [phū køkān jalājon] (n, exp) EN: rioter | ผู้ก่อการจลาจล | [phū kø kānjalājon] (n, exp) EN: rioter ; rebel ; revolutionary | ปราบปรามการจลาจล | [prāpprām kān jalājon] (v, exp) EN: put down a riot ; suppress ariot ; quell a riot FR: mater une révolte | ตำรวจลับ | [tamrūat lap] (n, exp) EN: secret police ; plainclothesman ; plainclothes policeman ; police in civilian clothes FR: police secrète [ f ] | ตำรวจลับ | [tamrūat lap] (n, exp) EN: secret police; security police FR: police secréte [ f ] | ตรวจลงตราเลขที่ ... | [trūat long trā lēk thī ...] (n, exp) EN: visa number ... FR: numéro de visa ... |
| secret service | (name) หน่วยตำรวจลับซึ่งมีหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีสหรัฐ | hyperventilate | (vi) หายใจลึก ยาว และเร็วกว่าปกติ บางครั้งทำให้เกิดการวิงเวียนศีรษะ |
| absent-minded | (adj) ใจลอย, See also: ตกอยู่ในภวังค์, เคลิ้ม, เหม่อลอย, Syn. inattentive, absent, unmindful, Ant. attentive, observant | abstracted | (adj) ใจลอย, Syn. absent-minded | achievement | (n) การบรรลุผลสำเร็จ, See also: การสำเร็จลุล่วง, ความสำเร็จ, ผลสำเร็จ, Syn. attainment, accomplishment, fulfillment | breathless | (adj) หายใจลำบาก | coronary | (n) ภาวะหัวใจล้มเหลว, Syn. heart attack | croup | (n) อาการไอและหายใจลำบาก | cruise | (vt) เคลื่อนไปช้าๆ, See also: ขับรถไปช้าๆ รถแท็กซี่หาลูกค้าหรือรถตำรวจลาดตระเวน | eclipse | (vt) ทำให้ลดความสำคัญลง, See also: ทำให้อำนาจลดลง | evangelical | (n) ศาสนิกชนของศาสนาคริสต์อีแวนเจลิค (ซึ่งเป็นสายหนึ่งในนิกายโปรแตสแตนท์) | firebrand | (n) ผู้ปลุกระดม, See also: นักปลุกระดม, ผู้ก่อให้เกิดการจลาจล, Syn. rabble-rouser, instigator | go through with | (phrv) ทำให้สำเร็จลุล่วง, See also: ประสบผลสำเร็จ, Syn. go through | gel | (n) เจลสำหรับแต่งผม, See also: ครีมแต่งผม, สิ่งที่เหมือนวุ้นแข็ง, Syn. jelly | gel | (vi) กลายเป็นเจล, See also: กลายเป็นวุ้น | gelate | (vi) กลายเป็นเจล, See also: กลายเป็นวุ้น | gelatin | (n) วุ้น, See also: เจลาติน, เจล, Syn. jelly | Gestapo | (n) ตำรวจลับนาซี (มาจากภาษาเยอรมัน), See also: เกสตาโป | haunting | (adj) ยังคงอยู่ในความทรงจำ, See also: ซึ่งยังไม่อาจลืมได้ | heart failure | (n) หัวใจวาย, See also: หัวใจล้มเหลว, ภาวะที่หัวใจหยุดทำงาน, Syn. cardiac arrest | insight | (n) ความเข้าใจลึกซึ้ง, See also: เชาวน์ปัญญา, Syn. comprehension, understanding | insurgence | (n) การจลาจล, See also: การก่อจลาจล, การประท้วง, Syn. rebellion, revolt, Ant. obedience, compliance | insurgency | (n) การจลาจล, See also: การก่อจลาจล, การประท้วง, Syn. rebellion, revolt, Ant. obedience, compliance | insurrection | (n) การจลาจล, See also: การกบฏ, การต่อต้าน, Syn. insurgence, rebellion, uprising | insurrectionary | (n) การกบฏ, See also: การจลาจล, การต่อต้าน, Syn. uprising, insurgence, rebellion | insurrectionary | (adj) เกี่ยวกับการกบฏ, See also: ซึ่งทำให้เกิดการจลาจล, เกี่ยวกับการต่อต้าน, Syn. insurgent, rebellious | look into | (phrv) สำรวจลวกๆ, See also: เปิดดูคร่าวๆ, ดูผ่านๆ, Syn. dip into | kinetics | (n) จลนศาสตร์, See also: การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนไหวของร่างกายและแรงที่กระทำร่างกาย, Syn. dynamics | loot | (n) ของที่ได้จากการปล้นในระหว่างสงครามหรือการจลาจล, See also: ของที่แย่งชิงมา, ของที่ขโมยมา, Syn. spoil | Los Angeles | (n) ลอสแองเจลิส ชื่อเมืองท่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา | mob | (vt) ก่อการจลาจล, See also: ชุลมุนวุ่นวาย, โจมตีอย่างรุนแรง, Syn. crowd | money box | (n) กระปุกออมสินแบบมีกุญแจล็อกได้, See also: ที่เก็บเงินออม, Syn. repository, treasury | mutinously | (adv) ซึ่งก่อการจลาจล, See also: ซึ่งก่อความไม่สงบ | mutinousness | (n) การก่อจลาจล | mutiny | (vi) ก่อการจลาจล, See also: ก่อการกบฏ, ต่อต้านอำนาจ | mutiny | (n) การจลาจล, See also: การกบฏ, การลุกฮือขึ้นต่อต้านอำนาจ, Syn. uprising, overthrow | perusal | (n) การพินิจพิเคราะห์, See also: การตรวจละเอียด, การพิจารณา, Syn. scrutiny, survey | rapture | (n) ความปิติยินดีอย่างยิ่ง, See also: ความดีใจล้นเหลือ, ความพึงพอใจอย่างมาก, Syn. happiness, pleasure, satisfaction | revolt | (vi) ปฏิวัติ, See also: กบฏ, จลาจล, Syn. mutiny, rebel, resist | revolt | (n) การปฏิวัติ, See also: การกบฏ, จลาจล, Syn. rebellion, revolution | riot | (n) การจลาจล, See also: การก่อความไม่สงบ, Syn. disturbance, disorder, turmoil | riot | (vi) ก่อการจลาจล, See also: ก่อความไม่สงบ, Syn. rampage, revolt | rioter | (n) ผู้ก่อการจลาจล, Syn. rebel, mutinee, brawler | riotous | (adj) เกี่ยวกับการจลาจล, Syn. tumultuous, disorderly | riotously | (adv) อย่างโกลาหล, See also: อย่างจลาจล, Syn. fiercely | riotousness | (n) ความโกลาหล, See also: การจลาจล | rise | (n) การก่อจลาจล, See also: การลุกฮือ, การกบฏ, Syn. rebellion | smoother | (vi) ปิดหน้าทำให้หายใจไม่ออก, See also: ทำให้หายใจลำบาก, Syn. squelch, suffocate | smoother | (vt) ปิดหน้าทำให้หายใจไม่ออก, See also: ทำให้หายใจลำบาก, Syn. squelch, suffocate | spacy | (adj) ใจลอย, See also: ซึ่งดูลอยๆ, ซึ่งสติไม่อยู่กับตัว, Syn. spacey, spaced-out, absent-minded | strike | (vi) หยุดงานประท้วง, See also: ก่อการจลาจล, Syn. mutiny, revolt, walk out | subtle | (adj) ซึ่งบอกเป็นนัยๆ, See also: ซึ่งบอกไม่หมด, ซึ่งเข้าใจลำบาก, Syn. implied, understated |
| absent | (adj. แอบ'เซินทฺ vt. แอบเซนทฺ') ไม่อยู่, ขาด, ลาหยุด, ไม่ได้มาร่วมด้วย, ไม่สนใจ, ใจลอย, ขาดแคลน -vt. ทำให้ขาด -absentation, absentness n., Syn. missing, Ant. present | abstracted | (แอ็บสแทรค' เทด) adj. ใจลอย | abstraction | (แอ็บสแทรค' เชิน) n. นามธรรม (รูป, ผล, ปฏิกิริยา, มโนคติ) , การเอาหรือแยกออก, ภาวะใจลอย -abstractionist n. | agile | (แอจ' ไจลฺ, แอจ' จิล) adj. คล่องแคล่ว, ว่องไว, กระฉับ กระเฉง , ปราดเปรียว. -agility n. -agileness n., Syn. nimble, lithe, quick | angelfish | (เอน' เจลฟิช) ปลาผีเสื้อที่มีหนามที่หัว มีสีสรรหลายสี | angelica | (แอนเจล' ลิกะ) n. ต้นไ้จำพวกหนึ่ง ใช้ทำเครื่องหอม, ต้นต้นเกย., Syn. archangel | angelology | (เอนเจลลอล' โลจี) n. ทูตสวรรค์วิทยา, ทฤษฎีเกี่ยวกับทูตสวรรค์ | apercu | (อะเพอซี') n., (pl. -cus) fr. การมองแวบเดียว, ความเข้าใจลึกซึ้ง, การสรุป | argyle | (อาร์'ไจล) adj. ซึ่งมีรูปแบบคล้ายเพชรหลายสี. -n. รูปแบบคล้ายเพชรหลายสี | cajole | (คะโจล') { cajoled, cajoling, cajoles } vt., vi. ล่อลวง, หลอกลวง, ล่อใจ n., See also: cajoler n., Syn. coax | cajolery | (คะโจล'ละรี) n. การล่อลวง, การหลอกลวง, การล่อใจ, Syn. flattery | commotion | (คะโม'เชิน) n. ความชุลมุนวุ่นวาย, ความจลาจล, Syn. agitation, Ant. calm | completion | (คัมพลี'เชิน) n. การทำให้สมบูรณ์, การทำให้เสร็จ, การสำเร็จลุล่วง, การสรุป, การส่งลูกฟุตบอลไปข้างหน้าได้สำเร็จ, Syn. fulfillment, attainment | completive | (คัมพลี'ทิฟว) adj. เสร็จ, ซึ่งสำเร็จลุล่วง | cow | (คาว) n. วัวตัวเมีย, แม่วัว, สัตว์ตัวเมียจำพวก Bos, สัตว์ตัวเมียขนาดใหญ่ (เช่นช้าง ปลาวาฬ แรด แม่น้ำ) , หญิงอ้วนพุงพลุ้ย -Phr. (a sacred cow วัวในอินเดีย (ถือเป็นสัตว์ที่ศักดิ์สิทธิ์) , บุคคลที่ศักดิ์สิทธิ์ที่หาอาจล่วงละเมิดได้.) -Phr. (till the cows come home นาน | croup | (ครูพ) n. อาการหดเกร็งของกล่องเสียง (larynx) ทำให้หายใจลำบาก, ส่วนสูงสุดของตะโพกสัตว์ (โดยเฉพาะของม้า), See also: croupous adj. ดูcroup | distrait | (ดิสเทร') adj. ซึ่งมีจิตทีไม่อยู่กับเนื้อกับตัว (เพราะความกังวล ความกลัวใจลอย) | distraite | (ดิสเทร') adj. ซึ่งมีจิตทีไม่อยู่กับเนื้อกับตัว (เพราะความกังวล ความกลัวใจลอย) | drag and drop | ลากแล้วปล่อยลากไปวางหมายถึง การใช้เมาส์ลากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง (ภาพหรือข้อความทั้งบล็อก) บนจอภาพ ไปวางไว้ยังตำแหน่งใหม่ โดยต้องกำหนด (select) ให้คอมพิวเตอร์รู้ก่อน แล้วจึงใช้เมาส์ลากไป การลากด้วยเมาส์นั้น จะต้องกดนิ้วชี้บนปุ่มซ้ายของเมาส์แช่ไว้ ในขณะที่ลากเมาส์เพื่อนำไปวางในที่ ๆ ต้องการ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงจะยกนิ้วออกจากเมาส์ได้ ในโปรแกรมตารางจัดการ (spreadsheet) อาจลากไปได้ทั้งแถวหรือทั้งคอลัมน์ | dynamic | (ไดแนม'มิค) adj. เกี่ยวกับพลังงาน, เกี่ยวกับฤทธิ์, เกี่ยวกับการเคลื่อนที่, จลนะ, เกี่ยวกับแรง, เกี่ยวกับอำนาจ, เคลื่อนที่ได้, มีพลัง, ปราดเปรียว. n. อำนาจหรือแรงเคลื่อนที่, พลวัต, Syn. motive, kinetic | dyspnea | (ดิสพเนีย') n.การหายใจลำบาก., See also: dyspneal adj. dyspneic adj. dyspnoeal adj. dyspnoeic adj. dyspnoic adj. ดูdysentery | dyspnoea | (ดิสพเนีย') n.การหายใจลำบาก., See also: dyspneal adj. dyspneic adj. dyspnoeal adj. dyspnoeic adj. dyspnoic adj. ดูdysentery | emeu | (อี'มู) n. จลาจล, ความไม่สงบ -pl. emeutes | fathom | (ฟา'เธิม) n. หน่วยความยาว (ลึก) ที่เท่ากับ6ฟุตหรือ1.829เมตรใช้อักษรย่อว่าfath vt. วัดความลึกด้วยเสียง, เข้าใจละเอียด., See also: fathomable adj., Syn. six feet | flagellate | (ฟละเจล'เลท) vt. หวด, เฆี่ยน. adj. ซึ่งมีแส้ | fragile | (แฟรก'ไจล์) adj. เปราะ, หักง่าย, แตกง่าย, เสียหายง่าย, อ่อนแอ, บอบบาง, อ่อน. -fragilely adv, See also: fragility n. fragileness n., Syn. frail, brittle, feeble, Ant. strong, durable | gaol | (เจล) n., vt. คุก, จำคุก., See also: gaoler n. | gel | (เจล) n. สารคล้ายวุ้น. | gelatin | (เจล'ละทิน) n. โปรตีนวุ้นที่ได้จากการเคี่ยวหนังหรือกระดูกสัตว์., Syn. gelatine | geld | (เจลดฺ) vt. ตอน (สัตว์) , ตัวอวัยวะสืบพันธุ์ออก, ภาษีที่ดินที่จ่ายกับกษัตริย์., See also: gelder n. | gelding | (เจล'ดิง) n. ม้าตัวผู้ถูกตอน, ขันที | gelid | (เจล'ลิด) adj. หนาวมาก, เป็นน้ำแข็ง., See also: gelidity, gelidness n. gelidly adv. | gelt | (เจลทฺ) n. เงิน | gestapo | (กัสทา'โพ) n. ตำรวจลับนาซี | heart block | ภาวะการฉีดโลหิตของห้องหัวใจล่างและบนไม่ประสานกัน | hypernea | หายใจลึกและถี่ | insurgence | (อินเซอ'เจินซฺ) n. การจลาจล, การกบฏ, Syn. rebellion | insurgency | (อินเซอ'เจินซี) n. การจลาจล, การกบฏ, | insurgent | (อินเซอ'เจินทฺ) n. ผู้ก่อการจลาจล, ผู้ก่อการกบฏ, adj. จลาจล, กบฏ, ลุกลาม, เป็นระลอก, Syn. rebellious | insurrection | (อินซะเรค'เชิน) n. การกบฏ, การจลาจล., See also: insurrectional adj. insurrectionism n. insurrectionist n., Syn. revolt | intimacy | (อิน'ทะมาซี) n. ความคุ้นเคย, ความใกล้ชิด, ความสนิทสนม, ความเข้าใจลึกซึ้ง, ความสนิทสนมในทางเพศ, ความเป็นเรื่องส่วนตัว, Syn. closeness | jail | (เจล) { jailed, jailing, jails } n. คุก. vt. เอาเข้าคุก | jailer | (เจล'เลอะ) n. ผู้คุม -S.jailor | jealous | (เจล'ลัส) adj. อิจฉา, ริษยา, ขี้หึง, หึงหวง, หวงแหน, ระแวง, เตรียม, พร้อม, ทนไม่ได้., See also: jealously adv. ดูjealous jealousness n. ดูjealous | jealousy | (เจล'ละซี) n. ความอิจฉา, ความริษยา, ความหึงหวง, Syn. distrust, envy, misgiving | jell | (เจล) vi. กลายเป็นวุ้นแข็ง, กลายเป็นชัดเจน, (โครงการ) กระจ่างชัดขึ้น n. วุ้น | jelly | (เจล'ลี) n. วุ้น, วุ้นผลไม้, อาหารวุ้น, สิ่งที่คล้ายวุ้น. vt., vi. ทำให้เป็น, วุ้น, กลายเป็นวุ้น | jellyfish | (เจล'ละฟิช) n. แมงกะพรุน, คนเหลาะแหละ, คนที่อ่อนแอ | jolt | (โจลทฺ) { jolted, jolting, jolts } vt., vi., n. (การ) กระทุ้ง, กระแทก, เขย่า, ทำให้สั่นไหว, ทำให้ส่าย, ต่อยจนมึน, ทำให้งงงวย, บุกรุก, ทำให้วุ่นวาย, สิ่งที่ทำให้เกิดการสั่นไหว, ความพ่ายแพ้อย่างกะทันหัน, การปฏิเสธอย่างกะทันหัน., See also: jolter n. ดูjolt joltingl | jolterhead | (โจล'เทอเฮด) n. คนโง่, คนทึ่ม |
| ABSENT-absent-minded | (adj) เหม่อ, เหม่อลอย, ใจลอย | abstracted | (adj) ที่แยกออกไป, ใจลอย | agitator | (n) ผู้ก่อการจลาจล, ผู้ปลุกปั่น, ผู้ยุแหย่, ผู้ก่อกวน | commotion | (n) ความวุ่นวาย, ความสับสน, ความชุลมุนวุ่นวาย, ความจลาจล | distraction | (n) ใจลอย, ความว้าวุ่นใจ, ความวอกแวก, เครื่องล่อใจ | HEART heart attack | (n) หัวใจวาย, หัวใจล้มเหลว | HEART heart failure | (n) หัวใจล้มเหลว, หัวใจวาย | insurgence | (n) การกบฏ, การจลาจล, การลุกลาม, การกำเริบ | insurgent | (adj) เป็นกบฏ, จลาจล, กำเริบ, ลุกลาม | insurgent | (n) กบฏ, อาการกำเริบ, ผู้ก่อการจลาจล | insurrection | (n) การกบฏ, การจลาจล, การลุกลาม | magic | (n) เวทมนตร์คาถา, มนตร์ดำ, อาถรรพณ์, อำนาจลึกลับ | mob | (vt) ห้อมล้อม, กลุ้มรุมทำร้าย, ก่อการจลาจล, ชุลมุนวุ่นวาย | mutineer | (n) กบฏ, ผู้ก่อการจลาจล, ผู้แข็งข้อ, ผู้ขัดขืน | mutineer | (vi) กบฏ, กำเริบ, ก่อการจลาจล, แข็งข้อ, ขัดขืน | mutinous | (adj) เป็นกบฏ, กำเริบ, ซึ่งก่อการจลาจล, แข็งข้อ, ขัดขืน | mutiny | (n) การกบฏ, การก่อการจลาจล, การแข็งข้อ | predetermine | (vt) ตัดสินใจล่วงหน้า, กำหนดล่วงหน้า | prejudge | (vt) ตัดสินใจล่วงหน้า, วินิจฉัยล่วงหน้า | rebel | (n) การจลาจล, กบฏ, ผู้ก่อการจลาจล, ผู้ขัดขืน, ผู้ทรยศ | rebel | (vi) ก่อจลาจล, ก่อกบฏ, ขัดขืน, ดื้อรั้น, ต่อต้าน | rebellion | (n) การก่อการจลาจล, การกบฏ, การทรยศ, การขัดขืน | rebellious | (adj) ซึ่งก่อการจลาจล, เป็นกบฏ, ทรยศ | revolt | (n) การกำเริบ, การกบฏ, การจลาจล | riot | (n) ความวุ่นวาย, ความอลหม่าน, การจลาจล, ความโกลาหล | riot | (vi) ก่อจลาจล, ก่อความอลหม่าน, ก่อความไม่สงบ | rioter | (n) ผู้ก่อการจลาจล, ผู้ก่อความวุ่นวาย, ผู้ก่อความไม่สงบ | riotous | (adj) วุ่นวาย, อลหม่าน, โกลาหล, เกี่ยวกับการจลาจล | seditious | (adj) เป็นการปลุกระดม, เป็นการปลุกปั่น, เป็นการยุยง, เป็นการจลาจล | uprising | (n) การลุกขึ้น, การลอยขึ้น, การจลาจล | vacant | (adj) ว่าง, เหม่อ, ใจลอย, ขาดปัญญา, ว่างเปล่า | wheeze | (n) การหายใจลำบาก, การหายใจหอบ | wheeze | (vi) หายใจลำบาก, หายใจหอบ |
| congestive | ภาวะหัวใจล้มเหลว | dynamic | (adj) จลนวิสัย, See also: A. static | hit the road | (slang) หนีหัวซุกหัวซุน เช่น นายกอภิสิทธิ์ ตอกกลับนายใจล์เรื่องการหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในการสัมมนา ที่ oxford ประเทศอังกฤษว่า : If you are not hit the road , why do you stand here ? | kinesiologist | (n) นักจลนสรีรศาสตร์ | Patmose | [พัท มอส] (n) Patmos เป็นชื่อเกาะขนาดเล็กใน(เป็นภาษากริก) Aegean ทะเลและสามารถพบได้ระหว่างเกาะ Leros และ Ikaria. ... ประมงประวัติของพิพิธภัณฑ์เป็นนักท่องเที่ยว Philoproodos กล่าวกันว่านักบุญจอห์นอีแวนเจลลิสเป็นคนคนเดียวกับ “นักบุญอัครสาวก” ... (ดูเพิ่ม นักบุญจอห์นเพรสไบเตอร์ (John the Presbyter) และ นักบุญจอห์นแห่งพัทโมส (John of Patmos) ...ได้เห็นนิมิตที่พระเจ้าททรงประทานให้พ่านทูตสวรรค์ และยอห์นเขียนขึ้นมาเป็นเล่มเรียกชื่อว่า "พระธรรมวิวรณ์" | pursue | [เพอร์ซู] (vt) ความพยายามในการทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้สำเร็จลุล่วงลงไป โดยเฉพาะสิ่งที่ต้องใช้เวลา | riot police | (n) ตำรวจต้านการจลาจล |
| 暴動 | [ぼうどう, boudou] (n) การจลาจล | ロスンゼレス | [ろすんぜれす, rosuzeresu, rosunzeresu , rosuzeresu] (n) ลอสแองเจลิส |
| 果たす | [はたす, hatasu] TH: ทำให้สำเร็จลุล่วงไป EN: to accomplish |
| Energieumwandlung | (n) |die, pl. Energieumwandlungen| การเปลี่ยนรูปของพลังงาน เช่น von potentieller Energie in kinetische Energie = จากพลังงานศักย์ เป็น พลังงานจลน์ เป็นต้น | Herzinfarkt | (n) |der, pl. Herzinfarkte| หัวใจล้มเหลว เช่น Vichai hat einen Herzinfarkt gleich nach dem Essen bekommen. คุณวิชัยมีอาการหัวใจล้มเหลวหลังทานอาหาร | an etw.(Dat.) sterben | (vi) เสียชีวิตด้วยสาเหตุหนึ่งใด เช่น Er ist an einem Herzinfarkt gestorben. เขาสิ้นใจด้วยโรคหัวใจล้มเหลว | wann | เมื่อไหร่ (ขึ้นต้นประโยคคำถาม) เช่น Wann bist du fertig? เมื่อไหร่เธอถึงเสร็จล่ะ | drohen | (vi) |drohte, hat gedroht, + zu Infinitiv| อาจเกิดขึ้นได้ เช่น Das Gebäude droht einzustürzen. ตึกนี้อาจล้มลงมาได้ | Gelatine | (n) |die, nur Sg.| เจลาติน, ผงที่ใช้ทำให้เกิดเจล | einweichen | (vt) |weichte ein, hat eingeweicht| ทำให้นุ่มโดยแช่ไว้ในน้ำ เช่น Klebreis, Gelatine einweichen แช่ข้าวเหนียว, เจลาตินในน้ำ |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |