มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ เบย | เลย เป็นคำแผลงที่มาจากการใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือพิมพ์ข้อความ เนื่องจากแป้นตัวอักษร ล ลิง และ บ ใบไม้ อยู่ใกล้กัน จึงทำให้เกิดการพิมพ์ผิดได้บ่อยครั้ง จนเป็นที่เข้าใจกันว่าถ้าพิมพ์ว่า เบย จะหมายความถึง เลย และยังแฝงถึงความรู้สึกเล่นๆ สนุกๆ ไม่จริงจัง กรณีที่พบบ่อย เช่นคำว่า จังเลย อาจแผลงได้เป็น จุงเบย เช่น เจ๊บจุงเบย (เจ็บจังเลย), ฮาจุงเบย (ฮา จังเลย) |
|
| เบิ้ง | (ว) คำที่แสดงความรู้สึกต้องการทำร่วมหรือมีส่วนร่วม เช่น ฉันขอลองทำเบิ้ง แปลว่า ฉันขอลองทำบ้าง *ภาษาโคราช, See also: S. บ้าง, ด้วย |
| เยี่ยวมากแม่ | (jargon) ดีมากๆ ให้ความรู้สึกชมว่าดีจนทนไม่ไหว จนฉี่จะราดกันเลยทีเดียว |
| ความรู้สึก | (n) feeling, See also: emotion, passion, Example: เขาอยากได้ความรู้สึกของการอยู่ร่วมกันอย่างฉันท์มิตรในบ้านของเขา | มีความรู้สึก | (v) have feelings, See also: be emotive, Ant. หมดความรู้สึก, ไร้ความรู้สึก, Example: มนุษย์คือสิ่งมีชีวิต มีความคิด มีความรู้สึก | ความรู้สึกผิด | (n) guilt, See also: conscience, Example: เธอโกหกพ่อแม่แต่เธอก็ยังมีความรู้สึกผิดในใจ | ไร้ความรู้สึก | (v) be paralyzed, Ant. มีความรู้สึก, Example: แขนข้างซ้ายของเขาไร้ความรู้สึกไปแล้ว | ไร้ความรู้สึก | (adj) emotionless, Syn. ไร้อารมณ์, Ant. มีความรู้สึก, Example: ฉันรู้ว่าภายใต้ทีท่าไร้ความรู้สึกนั้น แม่ได้ซ่อนความรู้สึกใดไว้บ้าง | ความรู้สึกด้อย | (n) inferiority feeling, Syn. ปมด้อย, Ant. ความรู้สึกเด่น, ปมเด่น | ความรู้สึกเด่น | (n) superiority feeling, Syn. ความรู้สึกเขื่อง, ปมเด่น, Ant. ความรู้สึกด้อย, ปมด้อย | เสียความรู้สึก | (v) feel bad, Syn. รู้สึกไม่ดี | ความรู้สึกนึกคิด | (n) feeling, See also: emotion, sentiment, Syn. ความนึกคิด, Example: การที่มนุษย์มองว่าสิ่งใดดีเลวขึ้นอยู่กับความรู้สึกนึกคิดของตัวมนุษย์เอง | ความรู้สึกเขื่อง | (n) superiority feeling, Syn. ความรู้สึกเด่น, ปมเด่น, Ant. ความรู้สึกด้อย, ปมด้อย, Example: ถ้าเด็กเกิดความรู้สึกเขื่องขึ้นบ่อยๆ จะติดเป็นนิสัยได้ | ความรู้สึกสะเทือนใจ | (n) sympathy, See also: compassion, condolence, Syn. ความสะเทือนใจ |
| ความรู้สึกเขื่อง, ความรู้สึกเด่น | น. ความรู้สึกว่าตนเองมีความสามารถเหนือกว่าหรือดีเด่นกว่าผู้อื่น ความรู้สึกนี้ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ในจิตใต้สำนึก แต่ถ้าเกิดขึ้นเสมอ ๆ และมิได้แก้ไขหรือได้รับการสนับสนุน เช่นในการอบรมเลี้ยงดูเด็ก ก็อาจเก็บสะสมไว้เกิดเป็นนิสัยของบุคคลนั้นได้ | ความรู้สึกเขื่อง, ความรู้สึกเด่น | ความเชื่อหรือความมั่นใจว่าตนเองมีฐานะหรือความสามารถเหนือกว่าผู้อื่น. | ความรู้สึกช้า | น. ลักษณะอาการที่รับอารมณ์ต่าง ๆ ได้ช้า เช่น เขาเป็นคนมีความรู้สึกช้า ต้องใช้เวลานานกว่าจะเข้าใจ. | ความรู้สึกด้อย | น. ความรู้สึกว่าตนเองมีความสามารถไม่เท่าเทียมบุคคลทั่วไป ความรู้สึกนี้ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ในจิตใต้สำนึกและผู้นั้นไม่จำเป็นต้องมีปมด้อย อาจเกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อมหรือในบางขณะเท่านั้น แต่ถ้าเกิดขึ้นเสมอ ๆ และมิได้แก้ไข ก็อาจเก็บกดไว้จนเกิดเป็นปมด้อยได้ | ความรู้สึกด้อย | ความไม่เชื่อมั่นว่าตนเองมีฐานะหรือความสามารถเท่าเทียมผู้อื่น. | ความรู้สึกไว | น. ลักษณะอาการที่รับอารมณ์ต่าง ๆ ได้รวดเร็ว เช่น ผู้ที่ศึกษาวรรณคดีควรจะมีความรู้สึกไวจึงจะรับรสวรรณคดีได้. | กรรมเวร | คำแสดงความรู้สึกเดือดร้อนเพราะกรรมหรือชะตากรรมในอดีต เช่น อายุตั้ง ๗๐ ปีแล้วยังต้องมาหาบขนมขายอีก กรรมเวรแท้ ๆ, เวร หรือ เวรกรรม ก็ว่า. | กระดิ่งทอง | น. ชื่อแมลงพวกด้วงชนิด Martianus dermestoides Chevrolat ในวงศ์ Tenebrionidae ลำตัวยาว ๖-๗ มิลลิเมตร กว้าง ๒-๓ มิลลิเมตร สีน้ำตาลเกือบดำตลอดทั้งลำตัว ขา และปีก กินของแห้งทั้งพืชและสัตว์โดยเฉพาะเมล็ดบัว นิยมนำมาเลี้ยงด้วยเมล็ดบัวแห้ง หัวข้าวเย็นเหนือ หัวข้าวเย็นใต้ โดยเชื่อว่าเมื่อนำมารับประทานจะช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ, ม่าเหมี่ยว ก็เรียก. | กระเทือนซาง | ก. เป็นทุกข์กังวลเพราะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากระทบความรู้สึกอย่างรุนแรง เช่น ว่าเท่าไร ๆ ก็ไม่กระเทือนซาง ถูกตำหนิอย่างแรงทำให้รู้สึกกระเทือนซาง. | กลัดมัน | ว. มีความรู้สึกในทางกามารมณ์อย่างรุนแรง. | กลั้น | (กฺลั้น) ก. บังคับความรู้สึกหรือสิ่งที่อยู่ภายในร่างกายไม่ให้แสดงออกหรือหลุดออกมา เช่น กลั้นโทสะ กลั้นปัสสาวะ. | ขอบคุณ, ขอบพระคุณ | คำกล่าวแสดงความรู้สึกบุญคุณ (เป็นคำที่ใช้แก่บุคคลที่เสมอกัน หรือผู้น้อยใช้แก่ผู้ใหญ่). | ขอบใจ | คำกล่าวแสดงความรู้สึกพอใจในความดีที่ผู้อื่นได้มีต่อตน (เป็นคำที่ผู้ใหญ่ใช้แก่ผู้น้อย). | ขี้ขึ้นขมอง, ขี้ขึ้นสมอง | น. ความรู้สึกตกใจกลัวจนไม่คิดหน้าคิดหลัง เช่น พอได้ยินเสียงตวาดก็ขี้ขึ้นสมองแล้ว, มักใช้ประกอบคำ กลัว ว่า กลัวจนขี้ขึ้นขมอง หรือ กลัวจนขี้ขึ้นสมอง. | เข้า ๑ | ใช้ประกอบคำอื่นแสดงความหมายเร่งรัด เช่น เร็วเข้า คิดเข้า, ใช้ประกอบคำอื่นแสดงความหมายมากขึ้น เช่น หนักเข้า ดึกเข้า นานเข้า, ใช้ประกอบคำอื่นแสดงสภาพหรือความรู้สึกที่เกิดมีขึ้น เช่น พอสวยเข้าก็มีหนุ่ม ๆ มารุมจีบ พอเหนื่อยเข้าก็อยากจะเลิกทำ, ใช้ประกอบคำอื่นแสดงความหมายว่าหนุนให้ทำ (มักใช้ในความประชดประชัน) เช่น เอาเข้าไป ว่าแล้วยังไม่ยอมหยุด. | เข้าตรีทูต | ว. มีอาการหมดความรู้สึกเมื่อใกล้จะตาย, อาการหนักปางตาย. | คร้าน | (คฺร้าน) ว. มีความรู้สึกไม่อยากจะทำหรือคิดหรือไม่อยากแสดงอาการใด ๆ, ตามปรกติเมื่อใช้พูดมักมีคำ ขี้ ประกอบหน้า เช่น ขี้คร้าน และมักใช้เข้าคู่กับคำ เกียจ เป็น เกียจคร้าน ขี้เกียจขี้คร้าน หมายความว่า ไม่อยากทำงาน. | ความเครียด | ลักษณะอาการที่สมองไม่ได้ผ่อนคลายเพราะคร่ำเคร่งอยู่กับงานจนเกินไป, ลักษณะอาการที่จิตใจมีอารมณ์บางอย่างมากดดันความรู้สึกอย่างรุนแรง. | เงี่ยน | ก. อยากจัด, กระหายจัด, มีความรู้สึกอยากหรือกระหายเป็นกำลัง, (โดยมากใช้เฉพาะของเสพติดและกามคุณ). | จิตแพทย์ | (จิดตะ-) น. แพทย์ผู้รักษาโรคทางจิตใจ ซึ่งมีอาการแสดงความรู้สึก ความคิด อารมณ์ หรือพฤติกรรมที่ผิดปรกติ. | จิตไร้สำนึก | น. ความคิด ความรู้สึก และแรงผลักดัน ซึ่งถูกกดเก็บไว้ภายในจิตใจโดยไม่รู้ตัว แม้จะพยายามนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก. | จินตนิยม | น. ขบวนการในประวัติศาสตร์ของปรัชญาและศิลปะที่เน้นการเป็นตัวของตัวเอง เป็นอิสระจากกฎเกณฑ์และระเบียบการที่ยึดถือกันมา นักปรัชญาและศิลปินของขบวนการนี้ถือว่าอารมณ์ ความรู้สึกสำคัญกว่าเหตุผล | จุดรวม | น. จุดกลางซึ่งเป็นที่รวมของคน สิ่งของ หรือความรู้สึกนึกคิดเป็นต้น, จุดศูนย์กลาง ก็ว่า. | เจตคติ | (เจตะ-) น. ท่าทีหรือความรู้สึกของบุคคลต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง. | ใจ | น. สิ่งที่ทำหน้าที่รู้ รู้สึก นึก และคิด เช่น ใจก็คิดว่าอย่างนั้น, หัวใจ เช่น ใจเต้น, ลมหายใจ เช่น กลั้นใจ อึดใจ หายใจ, ความรู้สึกนึกคิด เช่น ใจคด ใจซื่อ | ใจเดียวกัน | ว. มีความรู้สึกนึกคิดตรงกัน. | ชา ๒ | ว. อาการที่รู้สึกได้น้อยกว่าปรกติ เนื่องจากเส้นประสาทรับความรู้สึกถูกกด ถูกตัดขาด หรือถูกสารพิษ เช่น มือชา เท้าชา | ชาติ ๒, ชาติ- ๒ | กลุ่มชนที่มีความรู้สึกในเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา ประวัติศาสตร์ ความเป็นมา ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมอย่างเดียวกัน หรืออยู่ในปกครองรัฐบาลเดียวกัน. | ซึมเศร้า | อาการที่มีอารมณ์เศร้า หดหู่ ว้าเหว่ ซึม มีความรู้สึกท้อถอย สิ้นหวัง เป็นต้น. | ตกประหม่า | ก. เกิดความรู้สึกสะทกสะท้านพรั่นใจ. | ตงิด, ตงิด ๆ | (ตะหฺงิด) ว. เล็กน้อย, ทีละน้อย ๆ, (ใช้แก่ความรู้สึก) เช่น โกรธตงิด ๆ หิวตงิด ๆ. | ตราบาป | น. บาปติดตัว, ความรู้สึกว่าเป็นบาปซึ่งมีฝังอยู่ในจิตใจตลอดไป. | ตัวเป็นเกลียว | แสดงกิริยาท่าทางด้วยความรู้สึกรุนแรง เช่น เมื่อนั้น โฉมนางตะเภาทองผ่องใส ทั้งนางตะเภาแก้วแววไว ครั้นได้ข่าวผัวตัวเป็นเกลียว จึงว่าดูเอาหรือเจ้าไกร ว่าจะไปหาครูสักประเดี๋ยว มิรู้ช่างโป้ปดลดเลี้ยว ไปเที่ยวเกี้ยวชู้แล้วพามา (ไกรทอง). | ตายด้าน | ก. หมดความรู้สึกทางสัมผัส, ไม่มีความรู้สึกเหมือนอย่างที่เคยมี | ตีหน้าตาย | ก. ทำหน้าเฉยเหมือนไม่มีความรู้สึกหรือไม่รู้เรื่อง. | ถือเขาถือเรา | ก. มีความรู้สึกว่าเป็นคนละพวก, แบ่งพรรคแบ่งพวก, ถือเราถือเขา ก็ว่า. | ถือผิว | ก. รังเกียจผู้ที่มีสีผิวต่างกับตน (มักใช้แก่พวกผิวขาวที่มีความรู้สึกรังเกียจพวกที่มีผิวสีอื่น). | ถือเราถือเขา | ก. มีความรู้สึกว่าเป็นคนละพวก, แบ่งพรรคแบ่งพวก, ถือเขาถือเรา ก็ว่า. | ทำตา | ก. แสดงความรู้สึกด้วยสายตา เช่น ทำตาเล็กตาน้อย ทำตาขุ่นตาเขียว. | ทุกขเวทนา | (ทุกขะเวทะนา) น. ความรู้สึกไม่สบายกายไม่สบายใจ, ความรู้สึกเจ็บปวดทรมาน. | ทุกขารมณ์ | น. ความรู้สึกเจ็บปวด, ความรู้สึกไม่สบายกายไม่สบายใจ. | น้อย ๑ | โดยปริยายหมายถึงลักษณะที่ด้อยความสำคัญหรือเป็นรอง เช่น ครูน้อย ผู้น้อย, แสดงความรู้สึกว่าน่ารักน่าเอ็นดู เช่น เณรน้อย เด็กน้อย น้องน้อย สาวน้อย หนูน้อย. | น้ำใจ | น. ใจแท้ ๆ, ใจจริง, ความรู้สึกนึกคิดจริง ๆ, เช่น อยู่ด้วยกันไม่นานก็เห็นนํ้าใจว่าเขาเป็นคนอย่างไร, ความจริงใจ เช่น เราเห็นว่าเขามีน้ำใจกับเรา ไม่เคยหลอกลวงเราเลย, นิสัยใจคอ เช่น นํ้าใจชาย นํ้าใจหญิง, ความเอื้ออาทร เช่น เขาเป็นคนมีนํ้าใจ เธอช่างแล้งนํ้าใจ. | บรรยากาศ | น. อากาศที่หุ้มห่อโลกหรือเทห์ฟากฟ้าใด ๆ, โดยปริยายหมายความถึงความรู้สึกหรือสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัว เช่น บรรยากาศในที่ประชุม บรรยากาศรอบ ๆ บ้าน. | ปมจิต | น. อารมณ์และความรู้สึกของบุคคลที่เก็บกดสะสมไว้ในจิตใต้สำนึกมาตั้งแต่ในวัยเด็ก ปมจิตนี้จะทำให้บุคคลผู้นั้นแสดงออกในด้านความคิด ความรู้สึก และการกระทำในลักษณะที่ซํ้ากันจนเกิดเป็นอุปนิสัยประจำตัว. | ปมด้อย | น. ลักษณะความคิด ความรู้สึก อารมณ์ หรือการกระทำของบุคคล ที่แสดงออกถึงความตํ่าต้อยกว่าผู้อื่น. | ประสาท ๑, ประสาท- ๑ | (ปฺระสาทะ-) น. ส่วนของร่างกาย มีลักษณะคล้ายเส้นใย มีหน้าที่นำคำสั่งและความรู้สึกไปสู่หรือออกจากสมองหรืออวัยวะส่วนอื่นของร่างกาย, โดยปริยายหมายความว่า จิตใจ, ความรู้สึก. | ปลาบปลื้ม | (-ปฺลื้ม) ก. มีความรู้สึกยินดีแล่นวาบเข้าในใจ. | พฤติกรรม | น. การกระทำหรืออาการที่แสดงออกทางกล้ามเนื้อ ความคิด และความรู้สึก เพื่อตอบสนองสิ่งเร้า. | พิชาน | น. ความรู้สึกตัว, การรับรู้อารมณ์หรือสิ่งเร้า. |
| panaesthesia; panesthesia | ความรู้สึกทุกอย่าง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | paresthesia; paraesthesia | ความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | phantom | ๑. ความรู้สึกหลอน, อวัยวะหลอน๒. หุ่นส่วนร่างกาย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | parapsia; dysaphia; paraphia; parapsis; pseudapsia | ความรู้สึกสัมผัสผิดธรรมดา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | parapsis; dysaphia; paraphia; parapsia; pseudapsia | ความรู้สึกสัมผัสผิดธรรมดา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | panesthesia; panaesthesia | ความรู้สึกทุกอย่าง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pselaphesia; pselaphesis | ความรู้สึกสัมผัส [ มีความหมายเหมือนกับ taction ๒ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pselaphesis; pselaphesia | ความรู้สึกสัมผัส [ มีความหมายเหมือนกับ taction ๒ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pseudoaesthesia; pseudaesthesia; pseudesthesia; pseudoesthesia | ความรู้สึกสัมผัสหลอน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pulsation; throb; throbbing | ๑. การเต้นเป็นจังหวะ๒. ความรู้สึกเต้นเป็นจังหวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | paraphia; dysaphia; parapsia; parapsis; pseudapsia | ความรู้สึกสัมผัสผิดธรรมดา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | postanaesthetic; postanesthetic | -หลังหมดฤทธิ์ยาระงับความรู้สึก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | postanesthetic; postanaesthetic | -หลังหมดฤทธิ์ยาระงับความรู้สึก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pseudaesthesia; pseudesthesia; pseudoaesthesia; pseudoesthesia | ความรู้สึกสัมผัสหลอน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pseudapsia; dysaphia; paraphia; parapsia; parapsis | ความรู้สึกสัมผัสผิดธรรมดา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pseudesthesia; pseudaesthesia; pseudoaesthesia; pseudoesthesia | ความรู้สึกสัมผัสหลอน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pseudoesthesia; pseudaesthesia; pseudesthesia; pseudoaesthesia | ความรู้สึกสัมผัสหลอน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | paralysis, sensory | อัมพาตส่วนความรู้สึก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | pain sense; agaesthesia; agesthesia; nociception | ความรู้สึกเจ็บปวด [ มีความหมายเหมือนกับ algesia ๑ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | paraesthesia; paresthesia | ความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | perception; aesthesia; esthesia | ความรู้สึก, การรับรู้, การกำหนดรู้ [ มีความหมายเหมือนกับ sense ๑ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | local anaesthetic | ยาชา, ยาระงับความรู้สึกเฉพาะที่ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | rhigosis | ๑. ความรู้สึกเย็น๒. สัมผัสเย็น [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | receptive aphasia; aphasia, impressive; aphasia, sensory; aphasia, temporoparietal; aphasia, Wernicke's | ภาวะเสียการสื่อความเหตุศูนย์รับความรู้สึก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | receptor | ๑. หน่วยรับความรู้สึก๒. ตัวรับ, ที่รับ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | receptor | หน่วยรับความรู้สึก [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] | sensation, cincture; sensation, girdle; strangalaesthesia; strangalesthesia; zonaesthesia; zonesthesia | ความรู้สึกถูกรัด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | sensation, girdle; sensation, cincture; strangalaesthesia; strangalesthesia; zonaesthesia; zonesthesia | ความรู้สึกถูกรัด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | sense | ๑. ความรู้สึก, การรับรู้, การกำหนดรู้ [ มีความหมายเหมือนกับ aesthesia; esthesia; perception ]๒. สัมผัส๓. นัย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | sixth sense; sense, body; somatognosis | ความรู้สึกทางกาย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | sensiferous | -นำความรู้สึก, -นำสัมผัส [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | sensigenous | ๑. -ก่อความรู้สึก๒. -ก่อพลังประสาทรู้สึก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | sensimeter | มาตรความรู้สึก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | sense, sixth; sense, body; somatognosis | ความรู้สึกทางกาย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | somataesthesia; somaesthesia; somatesthesia; somesthesia | ความรู้สึกมีกาย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | somatesthesia; somaesthesia; somataesthesia; somesthesia | ความรู้สึกมีกาย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | somatognosis; sense, body; sense, sixth | ความรู้สึกทางกาย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | somesthesia; somaesthesia; somataesthesia; somatesthesia | ความรู้สึกมีกาย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | subjective | -ความรู้สึกแห่งตน, เชิงจิตวิสัย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | strangalaesthesia; sensation, cincture; sensation, girdle; strangalesthesia; zonaesthesia; zonesthesia | ความรู้สึกถูกรัด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | strangalesthesia; sensation, cincture; sensation, girdle; strangalaesthesia; zonaesthesia; zonesthesia | ความรู้สึกถูกรัด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | sensibility | ๑. ความรู้สึกได้, การรับรู้ได้, การกำหนดรู้ได้๒. สภาพสัมผัสได้ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | sense, body; sense, sixth; somatognosis | ความรู้สึกทางกาย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | sense, pain; agaesthesia; agesthesia; nociception | ความรู้สึกเจ็บปวด [ มีความหมายเหมือนกับ algesia ๑ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | splanchnaesthesia; splanchnesthesia | ความรู้สึกของอวัยวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | splanchnesthesia; splanchnaesthesia | ความรู้สึกของอวัยวะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | subconsciousness | ความรู้สึกใต้สำนึก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | sensorium | ๑. ระดับความรู้สึกตัว๒. ศูนย์รับความรู้สึก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | sensory | -รับความรู้สึก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | sensory aphasia; aphasia, impressive; aphasia, receptive; aphasia, temporoparietal; aphasia, Wernicke's | ภาวะเสียการสื่อความเหตุศูนย์รับความรู้สึก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| Spinal anesthesia | การระงับความรู้สึกทางไขสันหลัง [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | มรณภาพ | ความรู้สึกกลัวต่อความตาย ภัยที่อันตรายถึงตาย, Example: คำที่มักเขียนผิด มรณะภาพ [คำที่มักเขียนผิด] | Anesthesia | การระงับความรู้สึก [TU Subject Heading] | Anesthesia, Dental | การระงับความรู้สึกทางทันตกรรม [TU Subject Heading] | Anesthesia, Intravenous | การระงับความรู้สึกทางหลอดเลือดดำ [TU Subject Heading] | Anesthesia, Local | การระงับความรู้สึกเฉพาะที่ [TU Subject Heading] | Anesthesia, Obstetrical | การระงับความรู้สึกทางสูติศาสตร์ [TU Subject Heading] | Anesthesia, Spinal | การระงับความรู้สึกที่กระดูกสันหลัง [TU Subject Heading] | Anesthetics | ยาระงับความรู้สึก [TU Subject Heading] | Anesthetics industry | อุตสาหกรรมยาระงับความรู้สึก [TU Subject Heading] | Anesthetics, Local | ยาระงับความรู้สึกเฉพาะที่ [TU Subject Heading] | Emotions | ความรู้สึก [TU Subject Heading] | Helplessness (Psychology) | ความรู้สึกหมดหนทางช่วยเหลือ (จิตวิทยา) [TU Subject Heading] | Neuromuscular blockade | การระงับความรู้สึกที่จุดเชื่อมต่อระหว่างเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ [TU Subject Heading] | Senses and sensation | ประสาทสัมผัสและการรับความรู้สึก [TU Subject Heading] | Voyeurism in motion pictures | ความรู้สึกกำหนัดจากการแอบมองในภาพยนตร์ [TU Subject Heading] | Cultural Diplomacy | การทูตวัฒนธรรม หมายถึง กิจกรรมด้านวัฒนธรรมในกรอบกว้าง ทั้งภาษา ความคิด อุดมการณ์ ทัศนคติ ประเพณี วิทยาการความรู้ การกีฬาและวิถีชีวิต (ไม่เพียงแต่การส่งคณะนาฏศิลป์ไปแสดงในต่างประเทศเท่านั้น) ทั้งนี้ เพื่อ ใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือสร้างความรู้สึกที่ดีต่อกัน โดยใช้แนวทางปฏิบัติอย่างต่อเนื่องในลักษณะซึมลึกเพื่อให้เข้าถึงประชาชน [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Hugo Grotius (1583-1645) | บรมครูทางกฎหมายของเนเธอร์แลนด์ เป็นบุคคลแรกที่ได้ประกาศเสรีภาพของทะเล (Freedom of the Seas) ในตำราของท่านชื่อ Mare Liberumนักกฎหมาย รัฐบุรุษ และปรัชญาเมธีด้านมนุษยธรรมของเนเธอร์แลนด์ผู้นี้ ภายหลังเกิดมาได้ไม่กี่ปีก็ส่อให้เห็นว่าเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดอย่างน่า มหัศจรรย์ เขาเริ่มศึกษาวิชากฎหมายตั้งแต่มีอายุได้ 11 ขวบ ณ สถาบันศึกษาชั้นสูงแห่งเลย์เด็นในเนเธอร์แลนด์ และได้รับปริญญาเอกทางกฎหมายจากมหาวิทยาลัย ณ เมืองออร์ลีนส์ ในประเทศฝรั่งเศสเมื่อมีอายุได้เพียง 15 ปี โดยที่เป็นผู้ฝักใฝ่ในการเมือง เขาได้ถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1618 ด้วยข้อหาทางการเมือง แต่ต่อมาใน ค.ศ. 1621 ได้หลบหนีไปยังประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ 1625 เขาได้แต่งตำรากฎหมายซึ่งถือกันว่าเป็นตำราอมตะชื่อว่า Jure Belli ac Pacis (แปลว่า เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยสงครามและสันติภาพ) เป็นงานเขียนที่เหมาะกับสมัย และเขียนอย่างนักวิชาการอันเยี่ยมยอดที่สุดไม่มีใครเหมือนในสมัยนั้น และด้วยความรู้สึกที่รักความยุติธรรมอย่างแรงกล้าด้วยเหตุนี้ ทั่วโลกจึงขนานนาม Hugo Grotius ว่าเป็นบิดาแห่งกฎหมายระหว่างประเทศหรือกฎหมายนานาชาติ (Father of the Law of Nations) [การทูต] | Notes in Diplomatic Correspondence | หมายถึง หนังสือหรือจดหมายโต้ตอบทางการทูตระหว่างหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต (Head of mission) กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่หัวหน้าคณะผู้ แทนทางการทูตนั้นประจำอยู่ หรือกับหัวหน้าผู้แทนทางการทูตอีกแห่งหนึ่ง หนังสือทางการทูตนี้ อาจใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 หรือบุรุษที่ 3 ก็ได้ หนังสือทางการทูตที่ใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 มักจะเกี่ยวกับเรื่องที่มีความสำคัญหรือมีความละเอียดอ่อนกว่าหนังสืออีก ชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า Note Verbale หรือต้องการจะแทรกความรู้สึกส่วนตัวลงไปด้วย หนังสือนี้จะส่งจากหัวหน้า หรือผู้รักษาการแทนหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือไปถึงหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตอื่น ๆ ไม่เหมือนกับ Note Verbale กล่าวคือ หนังสือทางการทูตนี้จะต้องระบุสถานที่ตั้ง รวมทั้งลงชื่อของผู้ส่งด้วยตามปกติ ประโยคขึ้นต้นด้วยประโยคแรกในหนังสือจะใช้ข้อความว่า ?have the honour? นอกจากจะมีถึงอุปทูตซึ่งมีฐานะตำแหน่งต่ำกว่าอัครราชทูต ถ้อยคำลงท้ายของหนังสือทางการทูตจะมีรูปแบบเฉพาะ เช่น?Accept, Excellency (หรือ Sir), ในกรณีที่ผู้รับมีตำแหน่งเป็นอุปทูต (Charge d? Affaires) the assurances (หรือ renewed assurances ) of my highest (หรือ high ในกรณีที่เป็นอุปทูต ) consideration?หรือ ?I avail myself of this opportunity to express to your Excellency, the assurances ( หรือ renewed assurances) of my highest consideration ?ถ้อยคำที่ว่า ?renewed assurances ? นั้น จะใช้ก็ต่อเมื่อผู้ส่งหนังสือกับผู้รับหนังสือ ได้มีหนังสือติดต่อทางทูตกันมาก่อนแล้ว ส่วนถ้อยคำว่า ?high consideration ? โดยปกติจะใช้ในหนังสือที่มีไปยังอุปทูต ถ้อยคำ ?highest consideration ? จะใช้เมื่อมีไปถึงเอกอัครราชทูต และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ย่อมแล้วแต่ท้องถิ่นด้วย บางแห่งอาจนิยมใช้แตกต่างออกไป และก็จะเคารพปฏิบัติตามท้องถิ่นนั้น ๆ โดยมารยาทส่วนหนังสือที่เรียกว่า Note Verbale หรือ Third person note เป็นหนังสือทางการทูตที่ใช้บ่อยที่สุด หนังสือนี้จะขึ้นต้นด้วยประโยคดังต่อไปนี้?The Ambassador (หรือ The Embassy ) of Thailand presents his (หรือ its ) compliments to the Minster (หรือ Ministry ) of Foreign affairs and has the honour??หนังสือบุรุษที่สาม หรืออาจเรียกว่าหนังสือกลางนี้ ไม่ต้องบอกตำบลสถานที่ ( Address) และไม่ต้องลงชื่อ แต่บางทีในตอนลงท้ายของหนังสือกลางมักใช้คำว่า?The Ambassador avails himself of this opportunity to express to his Excellency the renewed assurances of his highest consideration?มีหนังสือทางการทูตอีกประเภทหนึ่งเรียกว่า Collective note เป็นหนังสือที่หัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตของรัฐบาลหลายประเทศรวมกันมีไปถึง รัฐบาลแห่งเดียว เกี่ยวกับเรื่องที่รัฐบาลเหล่านั้นพร้อมใจกันที่จะร้องเรียน หรือต่อว่าร่วมกัน หัวหน้าคณะทูตทั้งหมดอาจร่วมกันลงนามในหนังสือนั้น หรือ อาจจะแยกกันส่งหนังสือซึ่งมีถ้อยคำอย่างเดียวกันไปถึงก็ได้ [การทูต] | Personal Diplomacy | คือการเจรจากันโดยตรงระหว่างรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงต่างประเทศด้วยกัน ส่วนการเจรจากันโดยตรงระหว่างประมุขของรัฐ หรือหัวหน้าของรัฐบาล แต่เดิมก็จัดอยู่ในประเภทการมทูตส่วนบุคคล แต่มาในปัจจุบันนี้ มักนิยมเรียกกันว่าเป็นทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) แยกออกต่างหากจากการทูตส่วนบุคคลมีผู้สังเกตการณ์หลายคนเตือนว่า ในกรณีที่เกิดเรื่องหรือปัญหาที่ยังคาราคาซังอยู่นั้น ไม่ควรหันเข้าใช้วิธีส่งผู้แทนพิเศษจากนครหลวงไปแก้ปัญหา ควรให้เอกอัครราชทูตเป็นผู้ดำเนินการมากกว่า เพราะประการแรก การกระทำเช่นนั้นยังผลเสียหายต่อศักดิ์ศรีของตัวเอกอัครราชทูตเอง ทั้งยังกระทบกระเทือนต่อการที่เขาจะปฏิบัติงานให้ประสบผลอย่างเต็มที่ ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้นในภายหน้าด้วย อีกประการหนึ่ง จะพึงคาดหมายได้อย่างไรว่า ตัวผู้แทนพิเศษที่ส่งไปนั้นจะมีความรอบรู้เกี่ยวกับภูมิหลังของปัญหา รวมทั้งตัวบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเท่ากับตัวเอกอัครราชทูตเอง ซึ่งได้ประจำทำงานอยู่ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ณ ที่นั่น แม้แต่ แฮโรลด์ นิโคลสัน ก็ไม่เห็นด้วย และได้เตือนว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศหนึ่งไปเยือนและพบปะกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอีกประเทศหนึ่งบ่อย ๆ นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำและไม่ควรสนับสนุน เพราะการกระทำเช่นนี้ นอกจากจะทำให้ประชาชนคาดหมายไปต่าง ๆ นานาแล้ว ยังจะทำให้เกิดเข้าใจผิด และเกิดความสับสนขึ้นมาได้แม้แต่ผู้รอบรู้ในเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติทางการ ทูตบางคนก็ยังแคลงใจว่า การทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) จะได้ประโยชน์และให้ผลจริง ๆ หรือไม่ นอกจากเฉพาะในกรณียกเว้นจริง ๆ เท่านั้น บ้างเห็นว่า การพบปะเจรจาแบบสุดยอดมักจะกลายสภาพเป็นการโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์มากกว่า ที่จะเป็นการเจรจากันอย่างแท้จริง เพราะมีอันตรายอยู่ว่า ผู้ร่วมเจรจามักจะแสดงความคิดเห็นตามความรู้สึกมากกว่าตามข้อเท็จจริง เพราะมัวแต่เป็นห่วงและคำนึงถึงประชามติในประเทศของตนมากเกินไปนอกจากนี้ ผู้เจรจาไม่อยู่ในฐานะที่จะให้ข้อลดหย่อนหรือทำการประนีประนอม ( ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งหากจะให้เจรจาบังเกิดผล) เพราะกลัวเสียหน้าหากกระทำเช่นนั้น ตามปกติ ถ้าให้นักการทูตเป็นผู้เจรจา เขาจะมีโอกาสมากกว่าที่จะใช้วิธีหลบหลีกอันชาญฉลาดในการเจรจาต่อรอง เพื่อให้เป็นผลตามที่มุ่งประสงค์ [การทูต] | Placement | หมายถึง วิธีจัดที่นั่งโต๊ะในการเลี้ยงอาหารสำหรับนักการทูต โดยคำนึงถึงลำดับอาวุโส เพื่อป้องกันมิให้เกิดความรู้สึกขุ่นเคืองหรือหัวเสีย เรื่องการจัดที่นั่งในการเลี้ยงอาหารโดยคำนึงถึงลำดับอาวุโสนี้ นักการทูตส่วนใหญ่ไม่ว่าที่ไหน มักจะถือว่ามีความสำคัญไม่น้อย เพราะถือเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีในฐานะที่เป็นตัวแทนของประเทศ ฝ่ายที่รับผิดชอบโดยตรงต่อการจัดที่นั่งเช่นนี้ได้แก่ กรมพิธีการทูตของกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนลำดับของอาวุโสก็ถือตามวันเวลาที่นักการทูตแต่ละคนได้เข้าประจำตำแหน่ง ที่ในประเทศผู้รับ กล่าวคือ ผู้ที่เข้าประจำตำแหน่งก่อนก็คือผู้ทีมีอาวุโสกว่าผู้ที่มาประจำตำแหน่ง หน้าที่ทีหลัง [การทูต] | Acupuncture Anesthesia | วิชาแทงเข็มระงับความรู้สึก [การแพทย์] | Adjectival Scale | ความรู้สึกเจ็บปวดของผู้ป่วย [การแพทย์] | Adrenergic Alpha Receptor Blockaders | สารสกัดกั้นตัวรับแอลฟาแอดรีเนอร์จิก, สารสกัดกั้นหน่วยรับความรู้สึกแอลฟาอะดรีเนอร์จิก [การแพทย์] | Adrenergic Beta Receptor Blockaders | สารสกัดกั้นตัวรับบีตาแอดรีเนอร์จิก, สารสกัดกั้นหน่วยรับความรู้สึกบีตาอะดรีเนอร์จิก [การแพทย์] | Affection | อารมณ์รักและพึงใจ, ความรัก, ทัศนคติด้านความรู้สึก [การแพทย์] | Affective | ท่าทีความรู้สึกนึกคิดและเจตคติ, เจตคติ, ด้านความรู้สึก [การแพทย์] | Affective Components | ส่วนประกอบทางอารมณ์, องค์ประกอบทางด้านท่าทีความรู้สึก [การแพทย์] | Afferent Fiber Branch | เส้นประสาทนำความรู้สึกรับรส [การแพทย์] | Afferent Fibers | เส้นใยประสาทรับความรู้สึก, ใยประสาทที่รับความรู้สึก, แอ็ฟเฟอเรนท์ไฟเบอร์ [การแพทย์] | Afferent Nerve | เส้นประสาทรับความรู้สึก [การแพทย์] | Afferent Nerve Fibers | เส้นประสาทนำความรู้สึก, ใยประสาทนำเข้า [การแพทย์] | Afferent Nerve from Bladder | เส้นประสาทที่รับความรู้สึกจากกระเพาะปัสสาวะ [การแพทย์] | Afferent Nerves | ประสาทรับความรู้สึกจากสิ่งที่มากระตุ้น [การแพทย์] | Afterpain | ความรู้สึกปวดมดลูก [การแพทย์] | Ambivalence | ความคิดสองจิตสองใจ, ความรู้สึกสองฝักสองฝ่าย, อารมณ์รวนเร [การแพทย์] | Ambivalent | ความรู้สึกสองฝักสองฝ่าย [การแพทย์] | Ambivalent Feelings | ความรู้สึกสองฝักสองฝ่าย [การแพทย์] | Analgesia | การขาดความรู้สึกเจ็บ, การระงับความปวด, ความรู้สึกหายไป, ระงับปวด, ความไม่รู้สึกเจ็บปวด, ฤทธิ์แก้ปวด [การแพทย์] | Analgesic Drugs | ยาระงับปวด, ยาระงับความรู้สึก [การแพทย์] | Anesthesia | การระงับความรู้สึก, ระงับความรู้สึก, การไม่รู้สึก, การไม่รู้สึกปวด, การสูญเสียความรู้สึก, การใช้ยาระงับความรู้สึก, ชา, ยาระงับความรู้สึก, ยาสลบ, ไม่มีความรู้สึก, อาการชา [การแพทย์] | Anesthesia, Conduction | ระงับความรู้สึกเฉพาะบริเวณ, การระงับความรู้สึกเฉพาะบริเวณ [การแพทย์] | Anesthesia, Dental | การระงับความรู้สึกทันตกรรม, ระงับความรู้สึกทางทันตกรรม [การแพทย์] | Anesthesia, Epidural | ระงับความรู้สึกทางไขสันหลังชั้นนอก [การแพทย์] | Anesthesia, General | ยาสลบ, การดมยาสลบ, ยาสลบชนิดออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย, การเจ็บปวดทั้งในเวลาหลับ, วิธีดมยา, ระงับความรู้สึกทั่วไป, การให้ยาดมสลบ, การระงับความรู้สึกทั่วไป [การแพทย์] | Anesthesia, Glove and Stocking | การเสียความรู้สึกเริ่มบริเวณปลายเท้าปลายมือค่อย [การแพทย์] | Anesthesia, Inhalation | การระงับความรู้สึกโดยวิธีสูด, ระงับความรู้สึกด้วยวิธีสูด [การแพทย์] | Anesthesia, Intratracheal | การระงับความรู้สึกทางหลอดลมคอ, ระงับความรู้สึกทางหลอดลม [การแพทย์] | Anesthesia, Intravenous | ระงับความรู้สึกเข้าหลอดเลือดดำ, การระงับความรู้สึกทางหลอดเลือดดำ [การแพทย์] |
| Unbelievable sights, Indescribable feeling | วิวท่าน่าเหลือเชื่อ ความรู้สึกที่เอ่อล้น Aladdin (1992) | Yet inside, I believe she vacillates between a feeling of godlike omnipotence and a sense that she simply doesn't exist which, of course, is intolerable. | แต่ข้างในตัวเธอ ผมเชื่อว่า... ...เธอโอนเอนอยู่ระหว่าง ความรู้สึกในการมีอำนาจเหมือนพระเจ้า... ...และสัมผัส ที่เธอไม่มีตัวตน... Basic Instinct (1992) | However, after the trial you experienced what we might term an emotional meltdown: | ยังไงก็ตาม หลังจากการประชาทัณฑ์... ...คุณได้ประสบกับสิ่งที่อาจถูกเรียกว่า การละลายความรู้สึก Basic Instinct (1992) | Let's just see how she is. | ถามความรู้สึกราเชลก่อน The Bodyguard (1992) | Feels like tree bark. | ให้ความรู้สึกเหมือนเปลือกต้นไม้เลย Wuthering Heights (1992) | I could be dead. | ตั้งใจทำงานหน่อย อย่าเอาความรู้สึกส่วนตัวมาปะปน Hero (1992) | Endocrine: it carries secretions of certain glands... like the thyroid, adrenal, and pituitary... which regulate growth. | ต่อมที่ทำหน้าที่รับเพื่อสร้างความรู้สึกทั้งหมด เหมือนต่อมไทรอยด์, แอดดรีนัล และพีทูอีทารี่ ซึ่งควบคุมการเติบโต The Lawnmower Man (1992) | Make sense of me | ทำให้ความรู้สึกของฉัน In the Name of the Father (1993) | We were just trying to scare some sense into them. | เราเพียงแค่พยายาม สร้างความหวาดกลัวความรู้สึกบางอย? In the Name of the Father (1993) | - Now, this bombing campaign... struck deep into the British people's sense of security. | - ตอนนี้ระเบิดแคมเปญนี้ ... หลงลึกเข้าไปในคนอังกฤษของ ความรู้สึกของการรักษาควา? In the Name of the Father (1993) | That he could bejealous. | ว่าเขาสามารถมีความรู้สึกอิจฉา In the Name of the Father (1993) | Now, for the recital, more feeling! | ทีนี้ สำหรับการเล่นเดี่ยว ใส่ความรู้สึกมากกว่านี้ The Joy Luck Club (1993) | I didn't want to hurt your feelings. | ฉันไม่ตั้งใจจะทำร้ายความรู้สึกของเธอหรอก ฉันพยายามจะดูว่า... The Joy Luck Club (1993) | That special kind of feeling in Christmasland | ความรู้สึกที่พิเศษในเมืองแห่งคริสมาสต์ The Nightmare Before Christmas (1993) | Can't shake this feeling that I have | ฉันคิดว่าคงจะไม่สามารถ เอาความรู้สึกนี้ออกไป The Nightmare Before Christmas (1993) | My feelings for him | ความรู้สึกที่ฉันมีต่อเขา The Nightmare Before Christmas (1993) | It's just this baby thing has got me a little, you know-- l'm having some feelings, you know. | เพราะตอนนี้มีเรื่องลูก มันเลยทำให้ฉันรู้สึก มีความรู้สึก เท่านั้นแหละ Junior (1994) | You've lied to me, you steal from me... you engage in an utterly immoral... selfish, arrogant stunt without any regard for my feelings whatsoever. | คุณโกหกฉัน ขโมยของของฉัน คุณทำในสิ่งที่ผิดทำนองคลองธรรม เห็นแก่ตัว หยิ่งยะโสทำอะไรไม่เห็นแก่ความรู้สึกของฉันเลย Junior (1994) | There's a sensuous thing goin' on... where you don't talk about it, but you know it and she knows it. | มีสิ่งที่เกี่ยวกับความรู้สึก Goin 'ที่เป็น ... ที่คุณไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่คุณรู้ว่ามันและเธอก็รู้ว่ามัน Pulp Fiction (1994) | That's his fuckin' wife, man. This ain't a man with a sense of humor about this shit. | นั่นคือไอ้ภรรยาของเขามนุษย์ นี้ไม่ได้คนที่มีความรู้สึกของอารมณ์ขันเกี่ยวกับอึนี้ Pulp Fiction (1994) | I ain't eating' nothin' ain't got sense enough to disregard its own feces. | ฉันไม่ได้ eatin 'ไม่มีอะไรที่ไม่ได้มีความรู้สึกมากพอที่จะไม่สนใจอุจจาระของตัวเอง Pulp Fiction (1994) | That doesn't bother me. | ฉันไม่มีความรู้สึกทางเพศกับเธอ Wild Reeds (1994) | I understand what you feel. | ฉันเข้าใจความรู้สึกเธอ Wild Reeds (1994) | You'd better start making sense. | คุณควรที่จะเริ่มต้นสร้างความรู้สึก The Shawshank Redemption (1994) | No hard feelings. Brooks." | ไม่มีความรู้สึกยาก บรูคส์ ". The Shawshank Redemption (1994) | Here's where it makes the most sense. | นี่คือสิ่งที่จะทำให้ความรู้สึกมากที่สุด The Shawshank Redemption (1994) | these women... have fingers... with the same sensitivities as their legs. | ผู้หญิงเหล่ามีนิ้วมือ ที่ไวต่อความรู้สึก เช่นเดียวกับขา Don Juan DeMarco (1994) | I wanna try and talk some sense to him, tell him the way things are. | ฉันต้องการที่จะพยายามและพูดคุยความรู้สึกบางอย่างกับเขา บอกเขาว่าวิธีการสิ่งที่มี The Shawshank Redemption (1994) | The fingertips have the same feelings as their feet. | ปลายนิ้วมือมีความรู้สึกเดียวกับเท้า Don Juan DeMarco (1994) | Have you never met a woman who inspires you to love... until your every sense is filled with her? | คุณเคยพบผู้หญิงที่ทำให้คุณรัก จนทุกอนูความรู้สึกเต็มไปด้วยเธอไหม Don Juan DeMarco (1994) | My feelings consumed me day and night. | ความรู้สึกมันเกาะกินใจผมทุกเช้าค่ำ Don Juan DeMarco (1994) | An epidemic of monumental proportions... of senseless, seemingly unmotivated acts of violence. | การแพร่ระบาด ที่มีทั้งความรุนแรงและบ้าคลั่งของประชาชน ที่ไม่ใช้ความรู้สึกและความคิดในการตัดสินใจ In the Mouth of Madness (1994) | - Well, it's like that. With feelings. | - มันเหมือนอย่างนั้น แต่มีความรู้สึก The One Where Monica Gets a Roommate (1994) | Yes, the moon, the glow, the magical feeling. | ใช่ ดวงจันทร์ แสงนวล ความรู้สึกวิเศษ The One with George Stephanopoulos (1994) | I know. I've seen you making eyes. | ฉันรู้ ฉันเคยมีความรู้สึกแบบนั้น The Great Dictator (1940) | We think too much and feel too little. | เราคิดว่ามันมากเกินไป จนไร้ความรู้สึก The Great Dictator (1940) | - What are conscience? | อะไรคือความรู้สึกผิดชอบชั่ว? Pinocchio (1940) | - What are conscience! | อะไรคือความรู้สึกผิดชอบชั่ว! Pinocchio (1940) | - Are you my conscience? | คุณเห็น? คุณมีความรู้สึกผิด ชอบชั่วของฉันได้อย่างไร Pinocchio (1940) | - You are sensational! | คุณอยู่ที่ความรู้สึก! Pinocchio (1940) | As I despise myself. | ผมก็รังเกียจตัวเอง คุณไม่เข้าใจว่า ความรู้สึกของผมเป็นยังไงใช่มั้ย Rebecca (1940) | OK. Here's what I think. And I have no personal feelings about this. | ตกลง นี่คือสิ่งที่ผมคิดว่า และผมไม่ได้มีความรู้สึกส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ 12 Angry Men (1957) | I began to get a peculiar feeling about this trial. I mean, nothing is that positive. | ฉันเริ่มที่จะได้รับความรู้สึกที่แปลก ๆ เกี่ยวกับการทดลองนี้ ฉันหมายความว่าไม่มีอะไรที่เป็นบวกว่า 12 Angry Men (1957) | Twice he had felt faint and dizzy... ... and that had worried him. | สองครั้งที่เขามีความรู้สึกและ ลมวิงเวียน และที่เป็นห่วงเขา The Old Man and the Sea (1958) | And he had only to look at his hands and feel his back against the stern... ... to know this had truly happened and was not a dream. | และความรู้สึกกลับมาของเขา กับสเติร์นที่จะรู้ว่า นี้จึงเกิดขึ้นอย่างแท้จริงและ ไม่ได้เป็นความฝัน The Old Man and the Sea (1958) | I like operations, they give you a sense of outlook. | ฉันชอบการดำเนินงาน มันให้ความรู้สึกของมุมมองที่มัน ไม่ได้ Help! (1965) | # Feeling two foot small | ความรู้สึกสองเท้าเล็ก ๆ Help! (1965) | # That's when it hurt me | นั่นคือเมื่อมันทำร้ายฉัน และความรู้สึกเช่นนี้ Help! (1965) | # That's when it hurt me | นั่นคือเมื่อมันทำร้ายฉัน และความรู้สึกเช่นนี้ Help! (1965) | I could understand the feelings of ordinary chaps like them. | ความรู้สึกของคนธรรมดา เหมือนพวกเขา How I Won the War (1967) |
| ความรู้สึก | [khwām rūseuk] (n) EN: feeling ; emotion ; passion ; sentiment FR: sentiment [ m ] ; sensation [ f ] | ความรู้สึกเด่น | [khwām rūseuk den] (n, exp) EN: superiority feeling | ความรู้สึกด้อย | [khwām rūseuk dǿi] (n, exp) EN: inferiority feeling FR: sentiment d'infériorité [ m ] | ความรู้สึกเจ็บปวด | [khwām rūseuk jeppūat] (n, exp) EN: discomfort | ความรู้สึกเขื่อง | [khwām rūseuk kheuang] (n, exp) EN: superiority feeling FR: sentiment de supériorité [ m ] | ความรู้สึกนึกคิด | [khwām rūseuk neukkhit] (n, exp) EN: feeling ; emotion ; sentiment | ความรู้สึกผิด | [khwām rūseuk phit] (n, exp) EN: guilt ; conscience | ความรู้สึกแปลกแยก | [khwām rūseuk plaēk yaēk] (n, exp) EN: feeling of alienation | ความรู้สึกรัก | [khwām rūseuk rak] (n, exp) FR: sentiment d'amour [ f ] | ความรู้สึกรำคาญ | [khwām rūseuk ramkhān] (n, exp) EN: annoyance | ความรู้สึกสะเทือนใจ | [khwām rūseuk satheūoenjai] (n, exp) EN: sympathy ; compassion ; condolence | ความไวต่อความรู้สึก | [khwām wai tø khwām rūseuk] (n, exp) EN: sensitivity to other people's feelings |
| give so. the creeps | (colloq) ให้ความรู้สึกที่น่ากลัวสะหวั่นพรั่นพรึง เช่น That black cat gives me the creeps every time I see it. | give so. the creeps | (colloq) ไม่ถูกชะตา, ให้ความรู้สึกที่ไม่ชอบ เช่น He really gives me the creeps. | homoeopathy | [โฮมีโอพาธี] (n) การบำบัดแบบโฮมีโอพาธีมีแนวคิดหรือปรัชญาพื้นฐานในการทำความเข้าใจร่างกายมนุษย์ที่แตกต่างจากระบบการแพทย์แผนปัจจุบันโดยสิ้นเชิง การมองร่างกายและจิตใจของ ผู้ป่วยจะไม่ได้มองเป็นอวัยวะที่แยกส่วนออกจากกัน แต่จะมองร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยเป็นภาพรวมเดียวกัน ดังนั้นก่อนที่จะบำบัดผู้ป่วยจะต้องมีการสัมภาษณ์และคุยกับผู้ป่วยในเรื่องของลักษณะทั่วไป บุคลิกภาพ ประวัติทางการแพทย์ของครอบครัว อารมณ์ ความรู้สึกส่วนบุคคลต่อสิ่งแวดล้อม อาหาร อากาศ ฯลฯ รวมทั้งอาการของโรคด้วย นักบำบัด (practitioner) จะต้องนำคำตอบทั้งหมดมาประมวลและสรุปเป็นภาพรวมโดยเรียกว่า “ภาพของอาการ” (symtom picture)ดังนั้นการประเมินประสิทธิภาพของการบำบัดจึงไม่ควรใช้กรอบและแนวคิดของระบบการแพทย์แผนปัจจุบันประเมินแต่เพียงอย่างเดียว ควรมีการศึกษาและทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐานของการบำบัดแบบโฮมีโอพาธีด้วย โดยสรุปแล้วการบำบัดแบบโฮมีโอพาธีจัดเป็นศาสตร์การรักษาสุขภาพแบบองค์รวมที่เน้นเรื่องการปรับสมดุลสารชีวเคมีและพลังไหลเวียนภายในร่างกาย การให้ยาเป็นไปเพียงเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการปรับสมดุลด้วยกลไกตามธรรมชาติของร่างกายเอง ไม่ได้มุ่งหมายให้ยาไปขจัดหรือทำลายกลไกของร่างกายหรือสารที่ก่อให้เกิดอาการป่วย รวมทั้งไม่ได้มุ่งหมายที่จะขจัดสิ่งมีชีวิตใด ๆ ออกจากร่างกายด้วย | collectivism | (n) ความรู้สึกผูกพันกับกลุ่ม เช่น Collectivism is an answer to the first question. It says value to the collective, whether that's society, your tribe, your family, your nation and your race. |
| abet | (vt) ให้กำลังใจ, See also: กระตุ้นความรู้สึกให้ดีขึ้น, Syn. incite, sanction | ache | (n) ความปวดร้าว, See also: ความเจ็บปวด, ความรู้สึกเจ็บปวด, Syn. dull pain, throbbing, twinge | aesthesia | (n) ความรู้สึกต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง, See also: ความรับรู้ | affect | (vt) ทำให้กระทบจิตใจ, See also: ทำให้กระทบความรู้สึก, กินใจ | affinity | (n) ความรู้สึกชอบพอ, Syn. fondness, liking, sympathy | ah | (int) ฮ้า (คำอุทานแสดงความรู้สึกยินดี, พอใจ, เสียใจหรือไม่เห็นด้วยกับคนอื่น), See also: ความเจ็บปวด, ความประหลาดใจ | analgesia | (n) ภาวะไร้ความรู้สึกเจ็บปวด | anesthesia | (n) การไร้ความรู้สึก, See also: การชา, การสูญเสียความรู้สึก, Syn. insentience, unconsciousness, numbness | anesthetic | (adj) ที่เกี่ยวกับการไร้ความรู้สึก | anesthetic | (n) ยาระงับความรู้สึก, See also: ยาชา | annoyance | (n) ความรำคาญ, See also: ความรู้สึกรำคาญ, Syn. vexation, irritation, uneasiness, Ant. pleasure, joy, delight | asleep | (adj) ชา, See also: ไม่มีความรู้สึกเนื่องจากมีเลือดไปเลี้ยงไม่พอ | bad blood | (n) ความเกลียดชัง, See also: ความไม่พอใจ, ความรู้สึกไม่ดีต่อกัน, Syn. hatred, Ant. affection | bad feeling | (n) ความเกลียดชัง, See also: ความไม่พอใจ, ความรู้สึกไม่ดีต่อกัน, Syn. bad blood | bigotry | (n) การแสดงความรู้สึกหรือความเชื่อที่ไม่มีเหตุผล | blandness | (n) การไม่มีอารมณ์ความรู้สึก | blank | (adj) ไม่แสดงความรู้สึก, See also: ว่างเปล่า, เฉย, Syn. expressionless | bluff | (adj) เป็นมิตรแต่พูดตรงโดยไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่น, See also: เป็นมิตรแต่โผงผาง, Syn. outspoken | be of | (phrv) มี (ความรู้สึก, คุณภาพ, สถานภาพฯลฯ) | bottle up | (phrv) ปิดกั้น (ความรู้สึก), See also: เก็บความรู้สึก, อดกลั้น, Syn. cork up, dam up | break down | (phrv) ควบคุมอารมณ์หรือความรู้สึกไม่ได้ | brim over with | (phrv) เต็มไปด้วยความรู้สึก (บางอย่าง), Syn. bubble over with | bring away | (phrv) กลับไปพร้อมกับ (บางสิ่งเช่น ความคิดหรือความรู้สึกบางอย่าง), Syn. come away with, go away with | bubble over | (phrv) (ความรู้สึก)ท่วมท้น, See also: หัวเราะร่วน, อารมณ์พลุ่งพล่าน | burst with | (phrv) เต็มไปด้วย (ความรู้สึกหรือสุขภาพ) | bury in | (phrv) ปิดหน้าหรือหัวเพื่อซ่อนความรู้สึก | carry | (vt) ชักนำทางความรู้สึก | chasm | (n) ช่องว่าง, See also: ช่วงที่ขาดตอน, ความแตกต่างทางความคิดหรือความรู้สึก, Syn. gap | clitoris | (n) คลิทอริส, See also: อวัยวะที่อยู่บนสุดของอวัยวะเพศหญิงมีลักษณะเป็นปุ่มเล็กไวต่อความรู้สึก | cold | (adj) เย็นชา, See also: เยือกเย็น, ไร้ความรู้สึก, เฉยเมย, ไม่แยแส, Syn. cool, unfeeling, callous, heartless, chilly, icy, frigid, frosty, clammy, chilled, cold-blooded, Ant. hot | coldly | (adv) อย่างไร้อารมณ์ความรู้สึก, See also: อย่างเฉยเมย, อย่างเย็นชา | comfort | (n) ความสบายกาย, See also: ความสบาย, ความรู้สึกสบาย, Syn. relaxation, satisfaction, ease, rest, repose, assuagement, coziness, Ant. discomfort, uneasiness, distress | compassion | (n) ความเห็นใจ, See also: ความรู้สึกเศร้าใจไปกับความทุกข์ของผู้อื่น, Syn. sympathy, empathy, pity | compunction | (n) ความรู้สึกสำนึกผิด, Syn. penitence, qualm | conscience | (n) ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี, Syn. moral sense, inner voice | conscientious | (adj) ที่ทำด้วยความรู้สึกด้านดี, See also: ที่ควบคุมด้วยความรู้สึกในด้านดี, Syn. honest, scrupulous | consolation | (n) ความรู้สึกสะดวกสบาย, Syn. comfort, solace | consternation | (n) ความรู้สึกตกตะลึง, See also: ความตกใจ, Syn. shock, alarm, terror | constraint | (n) ความยับยั้งชั่งใจ, See also: การระงับความรู้สึก | constriction | (n) ความรู้สึกแน่นหน้าอก | contain | (vt) ยับยั้ง, See also: ควบคุมความรู้สึก, Syn. restrict, restrain | contempt | (n) การดูถูก, See also: ความรู้สึกรังเกียจอย่างมาก, Syn. disdain, scorn | contrition | (n) ความสำนึกผิด, See also: ความรู้สึกผิด, Syn. remorse, sorrow | cool | (adj) เย็นชา, See also: ซึ่งไร้ความรู้สึก, ซึ่งไม่เป็นมิตร, Syn. unfriendly | cork | (vt) บังคับความรู้สึก | culture shock | (n) ความรู้สึกสับสนต่อวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคย | cutting | (adj) ที่ทำให้เสียความรู้สึก, Syn. sarcastic | consume with | (phrv) ท่วมท้นไปด้วย (ความรู้สึก) | cork up | (phrv) ปิดกั้นความรู้สึก (คำไม่เป็นทางการ), See also: เก็บความรู้สึก | cover in | (phrv) ท่วมท้นไปด้วย (อารมณ์ความรู้สึก) |
| aesthetic | (al) (เอสเธท' ทิค, -เคิล) adj. เกี่ยวกับความรู้สึกต่อความงาม, เกี่ยวกับสุนทรีย์ศาสตร์, เกี่ยวกับอารมณ์และความรู้สึกที่บริสุทธิ์, ทฤษฏีหรือความคิดเห็นที่ถือความงามเป็นใหญ่., Syn. esthetic al -esthetician n. | affect | (vi., vt. อะเฟคทฺ'; -n. เอฟ' แฟคทฺ, อะเฟคท'ฺ) -vt., vi. มีผลต่อ, ส่งผลต่อ, กระทบกระเทือน, ทำให้เสียใจ, ทำให้สงสาร, เป็น (โรค) , เสแสร้ง, ชอบ, โน้มเอียงไปทาง-n. ความรู้สึก, อารมณ์ | affective | (อะเฟค' ทิฟว) adj. ด้าน (ความรู้สึก) , เกี่ยวกับอารมณ์, ทำให้เกิดอารมณ์หรือความรู้สึก, | afternoons | (อาฟเทอะนูนซฺ', แอฟ-') n. รสที่ยังกรุ่นอยู่ในปาก, ความรู้สึกที่กรุ่นอยู่หลังเหตุการณ์ที่พอใจผ่านไป | algometer | (แอลกอม' มิเทอะ) n. เครื่องมือวัดความรู้สึกต่อความเจ็บปวดที่เกิดจากการกดหรือแรงกด. -algometric (al) adj. -algometry n. | ambitendency | (แอมบิเทน' ดันซึ่) n., (pl. -cies) Psycho. ความรู้สึกรวมที่เป็นทั้งเชิงบวกและเชิงบวกและเชิงลบที่มีต่อบุคคลอื่นหรือสิ่งของ | ambivalence | (แอมบิฟ' วะลันซฺ) n. ความไม่แน่ใจ (โดยเฉพาะในการเลือกสิ่งที่ตรงกันข้าม) ความรู้สึกรวมที่มีทั้งที่เป็นเชิงบวกและเชิงลบต่อบุคคลอื่นหรือสิ่งของ. -ambivalent adj. | anaesthesia | (แอนเอสธี' เซีย) n. การไร้ความรู้สึก, การทำให้ชา, ภาวะชา. -anesthetic adj., -n. anesthetist (loss of sensation) | anaesthetize | (อะเนส' ธีไทซ) vt. ทำใ้ห้ชา, ทำให้หมดความรู้สึก -anaesthetization n., , Syn. anesthetise anesthetise | analgesia | (แอนนะจี' เซีย) n. การไร้ความรู้สึกปวด, อาการชา | anesthesia | (แอนเนสธี' เซีย) n. การไร้ความรู้สึกต่อความเจ็บปวด, อาการชา. | anesthetic | (แอนเนสเธท' ทิค) n., adj. เกี่ยวกับหรือสามารถทำให้เกิดการชาหรือไม่รู้สึกตัว, ยาชา, ยาระงับความรู้สึก, ยาสลบ, Syn. anodyne, analgesic | anesthetize | (อะเนส' ธีไทซ) vt. ทำให้หมดความรู้สึกต่อความเจ็บปวด, ทำให้ชา. (to render physically insensible) | anima | (แอน' นิมะ) n. จิตวิญญาณ, ความรู้สึกตัว, ชีวิต (soul, life, inner personality) | antipathetic | (al) (แอนทีพาเธท' ทิค, -เคิล) adj. เป็นปรปักษ์ต่อ, ไม่ชอบ, ไม่ลงรอยต่อ, เกลียด, ไม่พอใจกับ, ทำให้มีความรู้สึกดังกล่าว (averse) | approbation | (แอพระเบ'เชิน) n. การเห็นด้วย, การแนะนำ, การยินยอม, ความรู้สึกพอใจต่อ. | attachment | (อะแทช'เมินทฺ) n. การติด, การผูกติด, ภาวะที่ผูกติด, ความรู้สึกผูกพัน, การอุทิศ, สิ่งยึดติด, สิ่งที่ผูกพัน, อุปกรณ์ติดตั้ง, การยึดทรัพย์, Syn. connection, device, affinity | aura | (ออ'ระ) n., (pl. auras, aurae) กลิ่นไอ, รัศมี, กลด, กระแสลม, ไฟฟ้า, แสงสว่าง, ความรู้สึกสังหรณ์-aural adj., Syn. air, atmosphere | aw | (ออ) interj. คำอุทานแสดงความรู้สึกคัดค้านไม่เชื่อ รังเกียจ (an exclamation) | bear | (แบร์) { bore, borne/born, bearing, bears } vt., vi. ค้ำ, รับ, พยุง, หนุน, แบก, รับภาระ, พบ, ทรงไว้, อดทน, ทาน, ทน, มี, ออกลูก, มีลูก, มีความรู้สึก, ถือ, พัด, พา, กด, ดัน, ให้, แสดง, ไปทาง, วางท่าทาง n. หมี, คนหยาบคาย, คนงุ่มง่าม, ชื่อดาวที่อยู่ทางทิศเหนือ (Great Bear ดาวจระเข้, Little B | cerebrum | (เซอ'ริบรัม) n. สมองใหญ่ เป็นส่วนที่อยู่ด้านหน้า แบ่งเป็น 2 ซีก มี cerebralcortex ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการติดต่อของเส้นประสาททั่วร่างกาย สมองส่วน cerebrum ทำหน้าที่เกี่ยวกับความคิด ความฉลาด ไหวพริบ ความทรงจำ ความยั้งคิดและความรู้สึกรับผิดชอบต่าง ๆ และนอกจากยัง nerve center ท่ควบคุมการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของร่างกายส่วนต่าง ๆ | chloroform | n. ยาสลบหรือระงับความรู้สึกชนิดหนึ่ง | chord | (คอร์ด) n. สายเครื่องดนตรีดีดสี, สายซอ, เส้นตรงระหว่างจุด1จุดบนเส้นรอบวง, เอ็น, เส้น, ความรู้สึก, อารมณ์, เสียงที่คล้ายเส้นเชือก, เสียงประสาน vi. ประสาน, สัมผัส vt. ดีดสายให้เสียงสัมผัสกัน, See also: chordal adj. ดูchord | cockle | (คอค'เคิล) { cockled, cockling, cockles } n. หอยแครง, หอย2ฝา, เปลือกหอย, เรือบดเล็กของเรือใหญ่, เรือเล็ก ๆ -Phr. (cockles of one's heart) ส่วนลึกของหัวใจ, ความรู้สึกที่แท้จริง. vi. หด, ย่น, เหี่ยว vt. ทำให้เหี่ยว, ทำให้หด, | cold-blooded | (โคลดฺ'บลัดดิด) adj. เกี่ยวกับสัตว์เลือดเย็น, ไร้ความรู้สึกหรืออารมณ์, อย่างเลือดเย็น (อำมหิต) , ไวต่อความเย็น, See also: cold-bloodedness n. cold-bloodededly adv., Syn. cruel, Ant. humane | cold-hearted | (โคลดฺ'ฮาร์ททิด) adj. ไร้ความปรานี, ไร้ความรู้สึก, ไร้ความกรุณา, See also: cold-heartedness n. ดูcold-hearted, Syn. indifferent, Ant. sympathetic | consciousness | (คอน'เชิสเนส) n. ความมีสติ, ความมีจิตสำนึก, ความคิดและความรู้สึกรวมกัน, ภาวะจิต, ความตระหนัก, Syn. knowledge | constrain | (คันสเทรน') { constrained, constraining, constrains } vt. บังคับ, ผลักดัน, ขัง, จำกัด, ระงับความรู้สึก -Conf. restrain | constrained | (คันสเทรนดฺ') adj. ถูกบังคับ, ซึ่งระงับความรู้สึกไว้, ฝืนใจ, ถูกจำกัด | constraint | (คันเทรนทฺ') n. การคุมขัง, การจำกัด, การควบคุมความรู้สึก, การบีบบังคับ, แรงบีบบังคับ, ภาวะที่ถูกบีบบังคับ, Syn. compulsion | creep { crept | (ครีพ) vi. คลาน, ค่อย ๆ เข้ามา, เลื้อย, ย่อง, เล็ดลอด, พลัด, ประจบ, เอาใจ, รู้สึกขนลุก. n. การคลาน, การเลื้อย, การค่อย ๆ เข้ามา, การย่อง, ความรู้สึกที่ขนลุกขนพอง, คอกล้อม, คนที่น่าเบื่อและรบกวนคนอื่น, คนครุ่นคิด, ความน่ากลัว, ความน่าขยะแขยง, Syn. cr | creeping | (ครีพ) vi. คลาน, ค่อย ๆ เข้ามา, เลื้อย, ย่อง, เล็ดลอด, พลัด, ประจบ, เอาใจ, รู้สึกขนลุก. n. การคลาน, การเลื้อย, การค่อย ๆ เข้ามา, การย่อง, ความรู้สึกที่ขนลุกขนพอง, คอกล้อม, คนที่น่าเบื่อและรบกวนคนอื่น, คนครุ่นคิด, ความน่ากลัว, ความน่าขยะแขยง, Syn. cr | creeps } | (ครีพ) vi. คลาน, ค่อย ๆ เข้ามา, เลื้อย, ย่อง, เล็ดลอด, พลัด, ประจบ, เอาใจ, รู้สึกขนลุก. n. การคลาน, การเลื้อย, การค่อย ๆ เข้ามา, การย่อง, ความรู้สึกที่ขนลุกขนพอง, คอกล้อม, คนที่น่าเบื่อและรบกวนคนอื่น, คนครุ่นคิด, ความน่ากลัว, ความน่าขยะแขยง, Syn. cr | crept | (ครีพ) vi. คลาน, ค่อย ๆ เข้ามา, เลื้อย, ย่อง, เล็ดลอด, พลัด, ประจบ, เอาใจ, รู้สึกขนลุก. n. การคลาน, การเลื้อย, การค่อย ๆ เข้ามา, การย่อง, ความรู้สึกที่ขนลุกขนพอง, คอกล้อม, คนที่น่าเบื่อและรบกวนคนอื่น, คนครุ่นคิด, ความน่ากลัว, ความน่าขยะแขยง, Syn. cr | dead | (เดด) adj.ตาย, สิ้นลมหายใจ, ไม่มีชีวิต, ไม่มีความรู้สึก, ทื่อ, จืดชืด, โดยสิ้นเชิง, แม่นยำ, กะทันหัน, ตรง, จริง ๆ , ไม่มีกระแสไฟฟ้า adv. โดยสิ้นเชิง, เต็มที่, อย่างกะทันหัน n. คนตาย, Syn. deceased | demonstrate | (เดม'เมินสเทรท) vt. แสดง, สาธิต, เดินขบวน, พิสูจน์, แสดงความรู้สึก, ทดลองให้เห็นจริง, See also: demonstration n. ดูdemonstrate demonstrative adj. ดูdemonstrate demonstrator n. ดูdemonstrate | desensitise | (ดิเซน'ซิไทซ) vt. ทำให้ไม่ไวต่อ, ขจัดปฎิกิริยาโต้ตอบ, ทำให้ความรู้สึกเฉื่อยชา, ขจัดอาการภูมิแพ้, ลดหรือขจัดการแพ้แสง., See also: desensitization n. ดูdesensitize desensitisation n. ดูdesensitize desensitiser n. ดูdesensitize desensitizer n. ด | desensitize | (ดิเซน'ซิไทซ) vt. ทำให้ไม่ไวต่อ, ขจัดปฎิกิริยาโต้ตอบ, ทำให้ความรู้สึกเฉื่อยชา, ขจัดอาการภูมิแพ้, ลดหรือขจัดการแพ้แสง., See also: desensitization n. ดูdesensitize desensitisation n. ดูdesensitize desensitiser n. ดูdesensitize desensitizer n. ด | disapproval | (ดิสอะพรู'เวิล) n. ความไม่เห็นด้วย, การไม่อนุญาต, ความไม่พอใจ, ความรังเกียจ, สีหน้าความรู้สึกหรือคำพูดที่ไม่เห็นด้วย, Syn. blame | disdain | (ดิสเดน') { disdained, disdaining, disdains } vt. ดูถูก, ดูหมิ่น, เหยียดหยาม, รังเกียจ. n. การดูถูก, การดูหมิ่น, ความรู้สึกที่รังเกียจ, Syn. scorn, contempt | electricity | (อีเลคทริส'ซิที) n. ไฟฟ้า, กระแสไฟฟ้า, วิชาไฟฟ้า, การไฟฟ้า, ประจุไฟฟ้า, ไฟฟ้าสถิต, อารมณ์หรือความรู้สึกที่ตื่นเต้น, เร่าร้อนตึงเครียด | elitism | (อีลิท'ทิสซึม) n. วิธีการปกครองของบุคคลชั้นหัวกะทิ, ความรู้สึกภาคภูมิใจที่เป็นคนชั้นยอด, See also: elitist n. ดูelitism, Syn. elitism. | emotional | (อิโม'เชินเนิล) adj. มีอารมณ์, เกี่ยวกับความรู้สึก, ซึ่งกระเทือนอารมณ์, ซึ่งเร้าอารมณ์, Syn. feeling | euphoria | (ยูฟอ'เรีย) n. ความรู้สึกสบาย, ความเคลิบเคลิ้มเป็นสุข., See also: euphoric adj. ดูeuphoria | feeling | (ฟีล'ลิง) n. ความรู้สึก, ความคิดเห็น, ความรู้สึกสัมผัส, อารมณ์, จิตใจ, ความเห็นใจ, ความสำนึก. adj. ไว (ความรู้สึก) , เห็นใจ, มีอารมณ์., See also: feelingly adv. feelingness n., Syn. sensation | fishy | (ฟิช'ชี) adj. คล้ายปลา (กลิ่น, รสหรืออื่น ๆ) , ซึ่งประกอบด้วยปลา, ซึ่งมีปลาอุดมสมบูรณ์, เหลือเชื่อ, ไม่น่าเป็นไปได้, น่าสงสัย, ทื่อ, ปราศจากความรู้สึก | foreplay | n. การกระตุ้น ความรู้สึกทางเพศก่อนการร่วมสังวาส | frosty | (ฟรอส'ที) n. หนาวจัด, ซึ่งจับตัวเป็นน้ำแข็ง, ขาดความรู้สึกที่อบอุ่น, ผมหงอก, แก่เฒ่า., See also: frostily adv. frostiness n., Syn. icy, hoary | frozen | (โฟร'เซิน) v. แข็งตัวเนื่องจากความเย็นจัด, แข็งกระด้าง, หนาวมาก, ไร้ความรู้สึก, ยังไม่เปลี่ยนเป็นเงินสด., See also: frozenly adv. frozenness n., Syn. frigid | glimmer | (กลิม'เมอะ) n., v. (ส่อง) แสงสลัว, แสงริบหรี่, จำนวนเล็กน้อย, ความรู้สึกที่เลอะเลือน, ความสะดุดใจ -, See also: glimmeringly adv., Syn. ficker, glow |
| affective | (adj) เกี่ยวกับความรู้สึก, เกี่ยวกับอารมณ์ | anaesthesia | (n) การหมดความรู้สึก, การชา | anaesthetic | (adj) ซึ่งหมดความรู้สึก | anesthesia | (n) การหมดความรู้สึก, การชา | benumb | (vt) ทำให้ชา, ทำให้หมดความรู้สึก, ทำให้มึนงง | COLD-cold-blooded | (adj) เย็นชา, เฉยเมย, เลือดเย็น, ดุร้าย, ไม่มีความรู้สึก, อำมหิต | COLD-cold-hearted | (adj) ไม่สงสาร, ไม่ปรานี, ไม่มีความรู้สึก, ไร้ความเมตตา | conscience | (n) สติ, สติสัมปชัญญะ, ความรู้สึกผิดชอบ, คุณธรรม | consciousness | (n) ความมีสติ, ความสำนึก, ความตระหนัก, ความรู้สึกตัว, จิตสำนึก | constraint | (n) การบีบบังคับ, การฝืนใจ, การจำกัด, การระงับความรู้สึก, การคุมขัง | emotion | (n) อารมณ์, ความรู้สึก | emotional | (adj) ซึ่งเร้าอารมณ์, ซึ่งสะเทือนอารมณ์, ตื่นเต้นง่าย, เกี่ยวกับความรู้สึก | feeling | (n) ความรู้สึก, อารมณ์, จิตใจ, ความสำนึก, ความคิดเห็น | heart | (n) หัวใจ, จิตใจ, ความรัก, ความรู้สึก, ส่วนสำคัญ, แก่น, ความกล้าหาญ | heartless | (adj) ดุร้าย, ใจร้าย, ไม่มีหัวใจ, โหดเหี้ยม, ไม่มีความรู้สึก | ICE-ice-cold | (adj) เฉยเมย, เย็นชา, เยือกเย็น, ไร้ความรู้สึก | impassible | (adj) ไม่มีความรู้สึก, ไม่สะดุ้งสะเทือน, เฉย, เย็นชา | impassioned | (adj) เร้าความรู้สึก, เร่าร้อน, กระตือรือร้น | impression | (n) ร่องรอย, ความรู้สึก, ความประทับใจ, รอยพิมพ์ | impressive | (adj) เร้าความรู้สึก, ประทับใจ, ซาบซึ้งใจ | insensate | (adj) ไม่มีความรู้สึก, อำมหิต, โหดเหี้ยม, ไม่ปรานี, ขาดสติ | insensibility | (n) การหมดความรู้สึก, ความตายด้าน, ความเมินเฉย | insensible | (adj) หมดความรู้สึก, สลบ, หาเหตุผลไม่ได้ | mood | (n) อารมณ์, ความรู้สึก, ใจคอ, มาลา | narcosis | (n) การทำให้มึนเมา, การหมดความรู้สึก, การง่วงนอน | narcotic | (adj) ทำให้มึนเมา, ทำให้หมดความรู้สึก, ง่วงนอน | penitence | (n) ความรู้สึกผิด, ความสำนึกผิด, การสารภาพผิด | perception | (n) การสังเกตเห็น, การได้ยิน, ความรู้สึก, ความเข้าใจ, การหยั่งรู้, ญาณ | revulsion | (n) ความรู้สึกขยะแขยง, การเปลี่ยนแปลงโดยฉับพลัน | sensation | (n) ประสาทสัมผัส, ความรู้สึก, ความตื่นเต้น | sensational | (adj) น่าตื่นเต้น, เกี่ยวกับความรู้สึก, เกี่ยวกับประสาทสัมผัส | SENSE sense organ | (n) อวัยวะรับความรู้สึก | sense | (n) ความรู้สึก, ไหวพริบ, ความเข้าใจ, ประสาทสัมผัส, สติปัญญา, เหตุผล | senseless | (adj) หมดสติ, หมดความรู้สึก, โง่ | sensibility | (n) ไหวพริบ, ความรู้สึก, สติสัมปชัญญะ, ความเฉียบแหลม | sensitiveness | (n) ความรู้สึกไว, ความอ่อนไหว | sensory | (adj) เกี่ยวกับความรู้สึก | sensual | (adj) ราคะจัด, มั่วโลกีย์, กระตุ้นความรู้สึก, ทางโลก | sensuous | (adj) เกี่ยวกับความรู้สึก, เกี่ยวกับประสาทสัมผัส, หมกมุ่นในโลกีย์ | sentient | (adj) ตื่นเต้น, มีความรู้สึก, เกรียวกราว, อื้อฉาว | sentiment | (n) อารมณ์, ความรู้สึกทางใจ, ความคิดเห็น | sex | (n) เพศ, ความรู้สึกทางเพศ, เรื่องประเวณี, กาม, การร่วมเพศ | sexy | (adj) กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ, น่าตื่นเต้น, มั่วโลกีย์ | stimulant | (n) เครื่องเร้าความรู้สึก, เครื่องกระตุ้น, ยาบำรุง, ยากระตุ้นหัวใจ | subconscious | (adj) เกี่ยวกับจิตใต้สำนึก, ซึ่งหมดความรู้สึก | susceptibility | (n) ความรู้สึกไว, ความอ่อนไหว, ความอ่อนแอทางใจ | tentacle | (n) สิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึก, หนวดสัตว์, กิ่งก้านสาขา | unfeeling | (adj) โหดร้าย, ทารุณ, ไม่มีความรู้สึก |
| a sense of occasion | a sense of occasion / Mostly used in UK / the feeling people have when there is a very important event or celebration: The decorations, flowers, and crowds gave the town a real sense of occasion. a sense of occasion / หลักๆใช้ในสหราชอาณาจักร์ / ความรู้สึกของผู้คนที่มีต่อการเฉลิมฉลองหรือเหตุการณ์สำคัญๆ เช่น การประดับประดาต่างๆทั้งดอกไม้และฝูงชนที่แออัดทำให้ตัวเมืองเป็นที่ตื่นตาตื่นใจไปหมด | Compartment syndrome | เงื่อนไขที่เจ็บปวดและอันตรายที่เกิดจากการสะสมของความดันจากเลือดออกภายในหรือบวมของเนื้อเยื่อ ความดันลดการไหลเวียนของเลือด, กีดกันกล้ามเนื้อและเส้นประสาทของการบํารุงที่จําเป็น.อาการอาจรวมถึงอาการปวดอย่างรุนแรงความรู้สึกของหมุดและเข็มและความอ่อนแอของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ สําหรับกรณีที่รุนแรงของโรคช่องจําเป็นต้องผ่าตัดฉุกเฉิน | conciously | (adv) อย่างมีสติ, อย่างมีความรู้สึก | condition | (n) ภาวะสุขภาพผิดปกติที่รบกวนการทำกิจกรรมตามปกติหรือความรู้สึกเป็นอยู่ที่ดี | diffuse | (vt) แก้สถานการณ์หรือความรู้สึกที่เลวร้าย | ebullience | (n) ความรู้สึกร่าเริง | empathic | (adj) ความเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น | Hypersensitivity | แพ้ (หรือที่เรียกว่าปฏิกิริยาแพ้หรือแพ้) หมายถึงปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ที่ผลิตโดยระบบภูมิคุ้มกันปกติรวมถึงโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันอัตโนมัติ ปฏิกิริยาแพ้ต้องมีสถานะก่อนไวต่อความรู้สึก (ภูมิคุ้มกัน) ของโฮสต์ (สัตว์หรือพืชที่เป็นที่อาศัยของปรสิต) | insensitivity | ความรู้สึกช้า, ไม่มีความรู้สึกต่อ | Mynt | (n, slang) ทุกความรู้สึกที่ทำให้รู้สึกดี, Syn. feel good | prejudice | (n) ความรู้สึกไม่ชอบโดยไม่มีเหตุผล (โดยมากมักเกี่ยวข้องกับ เชื้อชาติ, ศาสนา, สีผิว ฯลฯ), อคติ | restedness | [เรส-เท็ด-เนส] (n) ความรู้สึกได้พักผ่อน | sense of well-being | (phrase) ความรู้สึกดีๆ ความรู้สึกเป็นสุข ความรู้สึกสบายใจ | Simethicone | เป็นตัวแทนที่มีการใช้ยาต่อต้านฟองเพื่อลดอาการท้องอืดความรู้สึกไม่สบายหรือความเจ็บปวดที่เกิดจากก๊าซมากเกินไปซึ่งจะกลืนกินอากาศที่มีปริมาณไฮโดรเจนและมีเทนในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กน้อย | subjectivity | ความรู้สึกนึกคิด | under the impression | ด้วยความรู้สึกว่า | ทุกขอริยสัจ | [ทุก-อะ-ริ-ยะ-สัต] (n) ทุกขอริยสัจ คือความรู้สึกจากสภาพธรรมชาติ 3 อย่างของมนุษยชาติวิญญูชนคือรู้สึกว่าเกิดมาแล้วจะต้องแสวงหาปัจจัยเครื่องค้ำจุนให้มีชีวิตอยู่รอด รู้สึกร่างกายของตนจะต้องแก่เพื่อพัฒนาไปวัยต่าง ๆ ตามสภาพธรรมชาติ 3 อย่างคือเกิด แก่ และตายของมนุษยชาติ และรู้สึกว่าในที่สุดจะต้องตาย ซึ่งพุทธะศาสดาของศาสนาพุทธเรียกโดยย่อว่า อุปาทานขันธ์ 5 หรือตัวทุกข์หรือตัวปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษยชาติวิญญูชนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ทุก ๆ คนเหมือนกันเป็นตัวทุกข์ในอริยสัจ 4 เมื่อมนุษยชาติวิญญูชนใช้วิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ 4 | ทุกขอริยสัจ | [ทุก-อะ-ริ-ยะ-สัต] (n) ทุกขอริยสัจ คือความรู้สึกจากสภาพธรรมชาติ 3 อย่างของมนุษยชาติวิญญูชนคือรู้สึกว่าเกิดมาแล้วจะต้องแสวงหาปัจจัยเครื่องค้ำจุนให้มีชีวิตอยู่รอด รู้สึกร่างกายของตนจะต้องแก่เพื่อพัฒนาไปวัยต่าง ๆ ตามสภาพธรรมชาติ 3 อย่างคือเกิด แก่ และตายของมนุษยชาติ และรู้สึกว่าในที่สุดจะต้องตาย ซึ่งพุทธะศาสดาของศาสนาพุทธเรียกโดยย่อว่า อุปาทานขันธ์ 5 หรือตัวทุกข์หรือตัวปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษยชาติวิญญูชนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ทุก ๆ คนเหมือนกันเป็นตัวทุกข์ในอริยสัจ 4 เมื่อมนุษยชาติวิญญูชนใช้วิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ 4 | ทุกขอริยสัจ | [ทุก-อะ-ริ-ยะ-สัต] (n) ทุกขอริยสัจ คือความรู้สึกจากสภาพธรรมชาติ 3 อย่างของมนุษยชาติวิญญูชนคือรู้สึกว่าเกิดมาแล้วจะต้องแสวงหาปัจจัยเครื่องค้ำจุนให้มีชีวิตอยู่รอด รู้สึกร่างกายของตนจะต้องแก่เพื่อพัฒนาไปวัยต่าง ๆ ตามสภาพธรรมชาติ 3 อย่างคือเกิด แก่ และตายของมนุษยชาติ และรู้สึกว่าในที่สุดจะต้องตาย ซึ่งพุทธะศาสดาของศาสนาพุทธเรียกโดยย่อว่า อุปาทานขันธ์ 5 หรือตัวทุกข์หรือตัวปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษยชาติวิญญูชนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ทุก ๆ คนเหมือนกันเป็นตัวทุกข์ในอริยสัจ 4 เมื่อมนุษยชาติวิญญูชนใช้วิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ 4 | ทุกขอริยสัจ | [ทุก-อะ-ริ-ยะ-สัต] (n) ทุกขอริยสัจ คือความรู้สึกจากสภาพธรรมชาติ 3 อย่างของมนุษยชาติวิญญูชนคือรู้สึกว่าเกิดมาแล้วจะต้องแสวงหาปัจจัยเครื่องค้ำจุนให้มีชีวิตอยู่รอด รู้สึกร่างกายของตนจะต้องแก่เพื่อพัฒนาไปวัยต่าง ๆ ตามสภาพธรรมชาติ 3 อย่างคือเกิด แก่ และตายของมนุษยชาติ และรู้สึกว่าในที่สุดจะต้องตาย ซึ่งพุทธะศาสดาของศาสนาพุทธเรียกโดยย่อว่า อุปาทานขันธ์ 5 หรือตัวทุกข์หรือตัวปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษยชาติวิญญูชนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ทุก ๆ คนเหมือนกันเป็นตัวทุกข์ในอริยสัจ 4 เมื่อมนุษยชาติวิญญูชนใช้วิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ 4 |
| 共感 | [きょうかん, kyoukan] (n) ความรู้สึกร่วม |
| 感情 | [かんじょう, kanjou] (n) อารมณ์ ความรู้สึก | 陳述 | [ちんじゅつ, chinjutsu] การแถลง(ความรู้สึกนึกคิด), การกล่าวฟ้อง(ของโจทก์) | 親近感 | [しんきんかん, shinkinkan] ความรู้สึกชอบพอ | とても | [とても, totemo] (adv) มาก (ใช้กับความรู้สึก) เช่น ชอบมาก, เหนื่อยมาก เป็นต้น | ぽっかり | [とても, pokkari] (slang) คำแสดงความรู้สึก เช่น ใจหาย หรือ รู้สึกว่างโหวงในหัวใจ (hole in heart) | 感想 | [かんそう, kansou] (n) ความรู้สึก | 感性 | [かんせい, kansei] (n) ความรู้สึก | 想い | [おもい;โอโมะอิ;omoi, omoi ;] Feeling; ความรู้สึก | 現実感 | [げんじつかん, genjitsukan] (n) สัจจรส, รสแห่งความจริง, ความรู้สึกว่าเป็นเรื่องจริง |
| 気分 | [きぶん, kibun] TH: อารมณ์ความรู้สึก EN: feeling | 浮かべる | [うかべる, ukaberu] TH: แสดงความรู้สึกออกมา EN: to express |
| kalt | (adj) เย็นชา, ไร้ความรู้สึก, เมินเฉย, See also: Syn. eisig, frostig | spüren | (vi, vt) |spürte, hat gespürt| รู้สึกถึง, รับความรู้สึก, รับรู้ เช่น Du sollst spüren, daß sie immer für dich da ist. นายควรรับรู้ไว้ว่าเธออยู่ตรงนี้เสมอสำหรับนาย (สังเกตความแตกต่างระหว่าง spüren และ fühlen โดยมาก fühlen ใช้บ่งความรู้สึกทางร่างกาย เช่น Ich fühle mich schlecht.ซึ่งจะไม่พูดว่า Ich spüre schlecht. ), See also: Related: fühlen | etw. nimmt etw.(D) den Stachel. | (idiomatisch) สิ่งหนึ่งทำให้ความรู้สึกอึดอัด หรือความไม่สบายใจของอีกสิ่งหนึ่งลดลง | knallhart | (adv) โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น เช่น ich hab' ihm knallhart meine Meinung gesagt! = ผมแสดงความคิดเห็นกับเขาโดยไม่ต้องเกรงใจอะไร, See also: schonungslos, Syn. deutlich | zartfühlend | (adj) คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นมาก, See also: taktvoll, Syn. rücksichtsvoll | kaltbleiben | (vi) |blieb kalt, ist kalt geblieben| ไม่มีความรู้สึกร่วม, มีแต่ความเย็นชา |
| Ahnung { f } | [อาห์นุ่ง] (n) การรู้ล่วงหน้า, ความรู้สึกสังหรณ์ใจ |
| sentir | (vt) รู้สึก, เช่น รูป รส กลิ่น เสียง และ ความรู้สึก | agréable | (adj) (มักใช้กับบรรยากาศหรือสถานที่) อบอุ่น, น่ารักดี, ให้ความรู้สึกดี เช่น Ce restaurant est très agréable. |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |