bloatware | (n) โปรแกรมที่มีความสามารถหลากหลายแต่ก็สิ้นเปลืองทรัพยากรของเครื่องมากเกินความจำเป็น |
|
| | กฎอัยการศึก | น. กฎหมายที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารลิดรอนสิทธิเสรีภาพบางประการของประชาชนได้ตามความจำเป็น ทั้งให้มีอำนาจหน้าที่เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนในส่วนที่เกี่ยวกับการยุทธ การระงับปราบปรามหรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาบางอย่างที่ประกาศระบุไว้แทนศาลพลเรือน การใช้กฎอัยการศึกจะกระทำได้เมื่อมีเหตุจำเป็นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เช่น ในกรณีเกิดสงคราม การจลาจล โดยจะให้มีผลบังคับทุกท้องที่หรือบางท้องที่ก็ได้ตามความจำเป็น. | กิ่งอำเภอ | น. ท้องที่ที่มีความจำเป็นในการปกครอง แยกมาจากอำเภอที่มีเขตท้องที่กว้างขวางแต่จำนวนประชากรไม่มาก หรือที่ที่มีชุมชนมากแต่ท้องที่ไม่กว้างขวางพอที่จะตั้งขึ้นเป็นอำเภอ มีปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอเป็นหัวหน้าปกครอง. | ทู่ซี้ | ก. ทนไปจนกว่าจะตาย, ทนไปเพราะความจำเป็นหรือเพื่อให้สมประสงค์. | บ้าสมบัติ | ที่ชอบสะสมสิ่งของต่าง ๆ ไว้มากจนเกินความจำเป็น. | พระราชกำหนด | น. รูปแบบของกฎหมายที่พระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้นให้มีผลใช้บังคับไปพลางก่อนตามคำแนะนำของฝ่ายบริหาร เนื่องจากเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ ตามเงื่อนไขที่กำหนดให้รัฐธรรมนูญ พระราชกำหนดเมื่อได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้วมีผลใช้บังคับเป็นพระราชบัญญัติ. | พึง | ว. คำช่วยกริยาอื่น หมายความยอมตาม แปลว่า ควร เช่น พึงไป ว่า ควรไป, หมายความจำเป็น แปลว่า ต้อง เช่น กิจที่สงฆ์จะพึงทำ ว่า กิจที่สงฆ์จะต้องทำ. | ฟุ่มเฟือย | ว. สุรุ่ยสุร่าย, ใช้จ่ายโดยไม่คำนึงถึงความสิ้นเปลือง, เกินความจำเป็น เช่น ใช้ถ้อยคำฟุ่มเฟือย. | ยุทธศาสตร์ | น. วิชาว่าด้วยการพัฒนาและการใช้อำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจ จิตวิทยา และกำลังรบทางทหารตามความจำเป็นทั้งในยามสงบและยามสงคราม. | ลงแขก | ก. ร่วมแรงเพื่อนบ้านมาช่วยกันทำงานเช่นดำนา เกี่ยวข้าว ให้ลุล่วงเร็วขึ้นโดยไม่รับค่าจ้าง และผลัดเปลี่ยนช่วยกันไปตามความจำเป็นของแต่ละบ้าน | ไล่ ๑ | สอบดูลำดับก่อนหลังเพื่อทบทวนความรู้ความจำเป็นต้น เช่น เรียกนักเรียนมาไล่แบบ. | อนัญคติ | ความจำเป็น. |
| | Radiation worker | ผู้ปฏิบัติงานรังสี, ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติงานในบริเวณรังสีชนิดก่อไอออน เช่น ผู้ปฏิบัติงานผลิตสารไอโซโทปรังสี ผู้ปฏิบัติงานฉายรังสี ผู้ปฏิบัติงานกับเครื่องวัดเชิงนิวเคลียร์ และเครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ <br>ผู้ปฏิบัติงานรังสีอาจรวมถึงผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติงานด้านเทคนิค แต่มีความจำเป็นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริเวณรังสีหรือรังสีดังกล่าวเป็นประจำ ทำให้มีโอกาสได้รับรังสีมากกว่าประชาชนทั่วไป เช่น พนักงานทำความสะอาด พนักงานขับรถขนส่งสารกัมมันตรังสี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ป้องกันอันตรายจากรังสีจะกำหนดให้บุคคลใดเป็นผู้ปฏิบัติงานทางรังสีตามกฎระเบียบ หรือแล้วแต่กรณี</br> <br>ผู้ปฏิบัติงานรังสีดังกล่าวข้างต้น ย่อมมีโอกาสได้รับรังสีจากการปฏิบัติงานเป็นปริมาณแตกต่างกัน กล่าวคือ ผู้ปฏิบัติงานผลิตสารไอโซโทปรังสี หรือผู้ปฏิบัติงานฉายรังสี จะมีโอกาสได้รับรังสีมากกว่าผู้ปฏิบัติงานกับเครื่องวัดเชิงนิวเคลียร์ และเครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ</br> [นิวเคลียร์] | Necessity (Law) | ความจำเป็น (กฎหมาย) [TU Subject Heading] | ASEAN Committee in Tokyo | คณะกรรมการอาเซียนประจำกรุงโตเกียว ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตอาเซียน 10 ประเทศซึ่งประจำที่กรุง โตเกียว มีการหารือเป็นประจำทุก 1-2 เดือน หรือตามความจำเป็น [การทูต] | ASEAN Ministerial Meeting on Haze | การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนเกี่ยวกับปัญหาหมอกควัน " จัดขึ้นตามความจำเป็นและด้วยความเห็นชอบของทุกประเทศสมาชิก เพื่อติดตามความคืบหน้าของการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ อาเซียนด้านปัญหาหมอกควัน " [การทูต] | arms control | การควบคุมอาวุธ หมายถึง การจำกัดชนิดและจำนวนอาวุธไม่ให้มีมากเกินความจำเป็น [การทูต] | Convention on Prohibitions or Restrictions on the Use od Certain Conventional Weapons Which May Be Deemed to Be Excessively Inju | Convention on Prohibitions or Restrictions on the Use od Certain Conventional Weapons Which May Be Deemed to Be Excessively Injurious or to Have Indiscriminate Effects = อนุสัญญาห้ามอาวุธตามแบบบางชนิดที่ก่อให้เกิดการบาด เจ็บร้ายแรงเกินความจำเป็นหรือก่อให้เกิดลโดยไม่จำกัดเป้าหมาย มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการห้ามหรือหารจำกัดการใช้อาวุธตามแบบบางชนิดที่ก่อให้ เกิดผลกระทบร้ายแรงด้านมนุษยธรรม โดยสาระสำคัญของการ คอบคุมอาวุธตามแบบแต่ละชนิดจะถูกกำหนดไว้ในพิธีสารแต่ละฉบับต่างหาก ซึ่งในชั้นนี้ มีพิธีสาร 5 ฉบับ และรัฐต่างๆ สามารถเลือกยอมรับพิธีสารต่อท้ายอนุสัญญาฯ ฉบับใดก็ได้อย่างน้อยจำนวน 2 ฉบับ [การทูต] | Certificate of Identity (C.I.) | หนังสือสำคัญประจำตัว จะออกให้แก่คนไทยในต่างประเทศที่มีความจำเป็นต้องเดินทางกลับประเทศไทยโดย รีบด่วน หากแต่ไม่มีหนังสือเดินทาง เพราะสูญหายหรือปล่อยให้ขาดอายุนาน แต่ยังไม่มีเหตุผลสมควรที่จะต่ออายุหรือออกหนังสือเดินทางให้ใหม่ [การทูต] | Dean (หรือ Doyen) of the Diplomatic Corps | หัวหน้า (Dean) ของคณะทูตานุทูตในนครหลวงของประเทศใดก็ตาม ได้แก่ ตัวทูตที่อาวุโสที่สุด (คือเป็นทูตอยู่ในประเทศนั้นๆ เป็นเวลานานที่สุด) ตัวหัวหน้าคณะทูตานุทูตจะมีลำดับอาวุโสเหนือทุกคนในคณะทูตานุทูต ทำหน้าที่เป็นโฆษกของคณะทูตเมื่อถึงความจำเป็น และเป็นผู้ดูแลและคุ้มครองบรรดาเอกสิทธ์และความคุ้มกันทางการทูตที่คณะ ทูตานุทูตมีอยู่ แต่หน้าที่ที่แท้จริงนั้น โดยมากเกี่ยวกับเรื่องพิธีการทูตมากกว่า อาทิเช่น เมื่อถึงวันที่ระลึกครบรอบวันเกิดประมุขของรัฐ (เช่นวันเฉลิมพระชนมพรรษาในประเทศไทย) Dean ของคณะทูตจะเป็นผู้กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสดังกล่าวในนามของคณะทูตทั้งหมด แต่การที่จะเรียกหรือขอให้บุคคลในคณะทูตไปประชุมเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง นั้น เป็นสิ่งที่ Dean ไม่พึงกระทำ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีผู้แทนทางการทูตคนใดไปร่วมการประชุมระหว่างบุคคลในคณะทูตด้วยกัน เกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศโดยมิได้รับคำสั่งโดยเฉพาะจากรัฐบาลของตนก่อน ภริยาของ Dean หรือ Doyen นั้นเรียกว่า Doyenneเมื่อหัวหน้าคณะทูตวายชนม์ขณะที่ดำรงตำแหน่งอยู่ บุคคลในคณะทูตที่มีอาวุโสรองลงมาหรือเป็นบุคคลที่สองจะเป็นผู้รับช่วงงาน ทันที และมีตำแหน่งเรียกว่า อุปทูตชั่วคราว (Chargé d?Affaires ad interim) ทั้งจะต้องดูว่า เอกสารทางราชการต่าง ๆ โดยเฉพาะเอกสารลับหรือปกปิด จะไม่ทิ้งรวมอยู่กับ เอกสารส่วนตัวของทูตผู้วายชนม์อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทาง การทูต ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1961 จากการประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับการติดต่อและความคุ้มกันทางการทูต ได้บัญญัติไว้ว่า?ข้อ 39 (3) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามี สิทธิที่จะได้รับไปจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป(4) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว ให้รัฐผู้รับอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่ส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้ามในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในคราอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดกและการรับมรดกนั้น ๆ ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับ เพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่ฝ่ายเดียวของผู้วายชนม์ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทนอนึ่ง อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1963 ได้บัญญัติไว้ว่า ?ข้อ 51 ในกรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล หรือของคนในครอบครัว ซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว รัฐผู้รับ(ก) จะอนุญาตให้ส่งออกซึ่งสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ โดยมีข้อยกเว้นแก่ทรัพย์สินเช่นว่า ทรัพย์ใด ๆ ที่ได้มาในรัฐผู้รับนั้น ซึ่งการส่งออกของทรัพย์ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลดังกล่าวถึงแก่มรณกรรม(ข) จะไม่เรียกเก็บอากรกองมรดก อากรสืบช่วงมรดกหรืออากรรับมรดก และอากรการโอน ไม่ว่าจะเป็นอากรของชาติ ของภูมิภาค หรือของเทศบาล จากสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการที่สังหาริมทรัพย์นั้นอยู่ในรัฐผู้รับก็เนื่องมาแต่ฝ่ายเดียว จากการที่ผู้วายชนม์อยู่ในรัฐนั้นฐานะบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุลหรือใน ฐานะคนในครอบครัวของบุคคลในที่ทำการกงสุล? ?ข้อ 53(5) กรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล คนในครอบครัวซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว จะคงได้รับอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ได้ประสาทให้แก่ตนต่อไป จนกว่าตนจะออกไปจากรัฐผู้รับ หรือจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะสามารถให้ตนกระทำดังนั้นได้ แล้วแต่ว่าเวลาไหนจะมาถึงก่อนกัน? [การทูต] | Exercise of Consular Functions in a Third State | การปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลในรัฐที่สาม (A Third State) ในเรื่องนี้ข้อ 7 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้ระบุว่า?เมื่อได้บอกกล่าวให้รัฐที่เกี่ยวข้องทราบ แล้ว รัฐูผู้ส่งอาจมอบหมายให้สถานีที่ทำการทางกงสุลที่ได้ตั้งอยู่ในรัฐหนึ่งโดย เฉพาะปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลในอีกรัฐหนึ่งได้ นอกจากจะมีการคัดค้านอย่างชัดเจนโดยรัฐหนึ่งในบรรดารัฐที่เกี่ยวข้อง?นอกจาก นี้ สถานที่ทำการทางกงสุลยังอาจปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลแทนรัฐที่สามได้ เรื่องนี้ข้อ 8 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้กำหนดว่า เมื่อบอกกล่าวอย่างเหมาะสมแก่รัฐผู้รับแล้ว สถานที่ทำการทางกงสุลของรัฐผู้ส่งอาจปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลในรัฐผู้รับ แทนรัฐที่สามได้ นอกจากรัฐผู้รับนั้นจะคัดค้าน และพนักงานฝ่ายกงสุลอาจปฏิบัติการหน้าที่ของตนนอกเขตกงสุลได้ในพฤติการณ์ พิเศษ และด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ ทั้งนี้เป็นไปตามข้อ 6 แห่งอนุสัญญากรุงเวียนนา อย่างไรก็ดี ยังไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ที่จะให้พนักงานฝ่ายกงสุลปฏิบัติการหน้าที่ทาง กงสุลนอกเขตกงสุล ฝ่ายที่เห็นด้วยว่าควรปฏิบัติการนอกเขตกงสุลได้ อ้างว่า การใช้เอกสิทธิ์เช่นนั้นเป็นการชอบแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า อาจจะมีภาวะฉุกเฉินเกิดขึ้นในสถานที่นอกเขตกงสุล ซึ่งเป็นความจำเป็นที่พนักงานฝ่ายกงสุลจะได้ให้บริการในทันที่ที่มีการแจ้ง โดยกะทันหัน [การทูต] | Regional Organizations | คือองค์การส่วนภูมิภาค ในเรื่องนี้ ข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติไว้ว่า ?ไม่มีข้อความใดในกฎบัตรฉบับปัจจุบัน อันจักริดรอนสิทธิประจำตัวในการป้องกันตนเองโดยลำพังหรือโดยร่วมกัน หากการโจมตีโดยกำลังอาวุธบังเกิดแก่สมาชิกของสหประชาชาติ จนกว่าคณะมนตรีความมั่นคงจะได้ดำเนินมาตรการที่จำเป็น เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ มาตรการที่สมาชิกได้ดำเนินไปในการใช้สิทธิป้องกันตนเองนี้ จักต้องรายงานให้คณะมนตรีความมั่นคงทราบโดยทันที และจักไม่กระทบกระเทือนอำนาจและความรับผิดชอบของคณะมนตรีความมั่นคงภายใต้กฎ บัตรฉบับปัจจุบันแต่ทางหนึ่งทางใด ในอันที่จักดำเนินการเช่นที่เห็นจำเป็น เพื่อธำรงไว้หรือสถาปนากลับคืนมา ซึ่งสันติภาพความมั่นคงระหว่างประเทศ?จะเห็นได้ว่า ประเทศต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเดียวกันมักจะทำข้อตกลงกันในส่วนภูมิภาค โดยอาศัยสนธิสัญญา และโดยที่อาศัยอยู่ในเขตภูมิศาสตร์ใกล้เคียงกัน ( Geographical Propinquity ) หรือมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด และมีวัตถุประสงค์ที่จะอำนวยความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเมืององค์การส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่งที่พอจะหยิบยก มาเป็นตัวอย่างได้ คือ องค์การสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEATO) ซึ่งบัดนี้ได้ยุบเลิกไปแล้วเพราะหมดความจำเป็น องค์การรัฐอเมริกัน (Organization of American States-OAS) องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ (NATO) องค์การร่วมมือระหว่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา (ANZUS) เป็นต้น องค์การภูมิภาคเหล่านี้ตั้งขึ้นโดยอาศัยข้อ 51 ของกฎบัตร สหประชาชาติ ซึ่งกล่าวถึงสิทธิของประเทศสมาชิกที่จะทำการป้องกันตนเองโดนลำพังหรือโดย ร่วมกัน หากถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธ [การทูต] | regionalism | ภูมิภาคนิยม " เป็นการรวมกลุ่มของประเทศในภูมิภาคบนพื้นฐานของการตระหนักถึงผลประโยชน์ร่วม กันในการพัฒนาและความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันในด้านต่าง ๆ เพื่อเป็นการระดมพลังในการปกป้องและเสริมสร้างความก้าวหน้าและสันติภาพความ มั่นคงของแต่ละประเทศและของภูมิภาคโดยส่วนรวม - open regionalism ภูมิภาคนิยมแบบเปิด เป็นกระบวนการ รวมตัวและร่วมมือกันในภูมิภาคเพื่อลดอุปสรรคทางการค้าซึ่งกันและกัน โดยไม่มีการกีดกันประเทศภายนอก - closed regionalism ภูมิภาคนิยมแบบปิด เป็นกระบวนการ รวมตัวและร่วมมือกันในภูมิภาคเพื่อลดอุปสรรคทางการค้าซึ่งกันและกัน โดยมีการกีดกันประเทศภายนอก " [การทูต] | Size of Staff of Diplomatic Mission | ขนาดของคณะผู้แทนทางการทูต โดยพฤตินัย จำนวนคณะผู้แทนทางการทูตจะมีตั้งแต่แห่งละหนึ่งหรือสองคนขึ้นไป จนถึงแห่งละ 100 กว่าคนได้ แต่โดยส่วนเฉลี่ย คณะผู้แทนทางการทูต จะมีจำนวนระหว่าง 12 ถึง 24 คน สำหรับคณะผู้แทนทางการทูตที่ประจำอยู่ในนครหลวงของประเทศใหญ่ๆ เช่น ที่กรุงวอชิงตันดีซี กรุงลอนดอน กรุงปารีส กรุงมอสโก กรุงปักกิ่ง และกรุงโตเกียว เป็นต้น จะมีเจ้าหน้าที่ทูตมากกว่าปกติอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทาง การทูตได้บัญญัติอยู่ในมาตรา 11 ว่า ?1. เมื่อไม่มีความตกลงเฉพาะในเรื่องขนาดของคณะผู้แทน รัฐผู้รับอาจเรียกร้องให้ขนาดของคณะผู้แทนอยู่ในจำนวนจำกัดตามที่ตนเห็นว่า เหมาะหรือเป็นปกติได้ ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงพฤติการณ์หรือสภาวการณ์ในรัฐผู้รับ และความจำเป็นของคณะผู้แทนเฉพาะราย 2. ภายในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน และบนมูลฐานที่ไม่เลือกปฏิบัติ รัฐผู้รับอาจปฏิเสธได้เช่นเดียวกัน ที่จะยอมรับพนักงานเฉพาะรายประเภทหนึ่งประเภทใดก็ได้? [การทูต] | Work of the United Nations for the Independence of Colonial Peoples | งานขององค์การสหประชาชาติ ในการช่วยให้ชาติอาณานิคมทั้งหลายได้รับความเป็นเอกราช นับตั้งแต่เริ่มตั้งองค์การสหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ.1945 เป็นต้นมา มีชนชาติของดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเอง รวมทั้งดินแดนในภาวะทรัสตีตามส่วนต่าง ๆ ของโลก ได้รับความเป็นเอกราชไปแล้วไม่น้อยกว่า 170 ล้านคน ดินแดนที่แต่ก่อนยังไม่มีฐานะปกครองตนเองราว 50 แห่งได้กลายฐานะเป็นรัฐเอกราช มีอธิปไตยไปแล้ว ขณะนี้ยังเหลือดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเองอีกไม่มาก กำลังจะได้รับฐานะเป็นประเทศเอกราชต่อไปแม้ว่าปัจจัยสำคัญที่สุดซึ่งทำให้ เกิดวิวัฒนาการอันมีความสำคคัญทางประวัติศาสตร์ จะได้แก่ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของประชาชนในดินแดนเมืองขึ้นทั้งหลาย แต่องค์การสหประชาชาติก็ได้แสดงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนชนชาติ ที่ยังมิได้เป็นเอกราช และชาติที่ยังปกครองดินแดนเหล่านั้นอยู่ ให้รีบเร่งที่จะให้ชาชาติในดินแดนเหล่านั้นได้รับฐานะเป็นเอกราชโดยเร็วที่ สุดเท่าที่จะเป็นไปได้การที่องค์การสหประชาชาติมีบทบาทหน้าที่ดังกล่าวเพราะ ถือตามหลักแห่งความเชื่อศรัทธาที่ว่า มนุษย์ไม่ว่าชายหรือหญิง และชาติทั้งหลายไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกัน และได้ยืนยันความตั้งใจอันแน่วแน่ของประเทศสมาชิกที่จะใช้กลไกระหว่างประเทศ ส่งเสริมให้ชนชาติทั้งหลายในโลกได้ประสบความก้าวหน้าทั้งในทางเศรษฐกิจและ สังคมนอกจากนั้น เพื่อเร่งรัดให้ชนชาติที่ยังอยูใต้การปกครองแบบอาณานิคมได้ก้าวหน้าไปสู่ เอกราช สมัชชาของสหประชาชาติ (General Assembly of the United Nations) ก็ได้ออกปฏิญญา (Declaration) เกี่ยวกับการให้ความเป็นเอกราชแก่ประเทศและชนชาติอาณานิคม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 ซึ่งในปฏิญญานั้น ได้ประกาศยืนยันความจำเป็นที่จะให้ลัทธิอาณานิคมไม่ว่าในรูปใด สิ้นสุดลงโดยเร็วและปราศจากเงื่อนไขใด ๆ สมัชชายังได้ประกาศด้วยว่า การที่บังคับชนชาติอื่นให้ตกอยู่ใต้อำนาจการปกครอง แล้วเรียกร้องประโยชน์จากชนชาติเหล่านั้น ถือว่าเป็นการปฏิเสธไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชนขั้นมูลฐาน เป็นการขัดกับกฎบัตรของสหประชาชาติ เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือของโลกสมัชชาสหประชาชาติ ยังได้ประกาศต่อไปว่า จะต้องมีการดำเนินการโดยด่วนที่สุด โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อสงวนใด ๆ ตามเจตนารมณ์ ซึ่งแสดงออกอย่างเสรี โดยไม่จำกัดความแตกต่างในเรื่องเชื้อชาติ หลักความเชื่อถือ หรือผิว เพื่อให้ดินแดนทั้งหลายที่ยังไม่ได้มีการปกครองของตนเองเหล่านั้นได้รับความ เป็นเอกราชและอิสรภาพโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1961 สมัชชาสหประชาชาติก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อตรวจดูและให้มีการปฏิบัติให้เป็นตามคำปฏิญญาของสหประชาชาติ และถึงสิ้นปี ค.ศ. 1962 คณะกรรมการดังกล่าวได้ประชุมกันหลายต่อหลายครั้งทั้งในและนอกสำนักงานใหญ่ ขององค์การสหประชาชาติ แล้วรวบรวมเรื่องราวหลักฐานจากบรรดาตัวแทนของพรรคการเมืองทั้งหลาย จากดินแดนที่ยังไม่ได้รับการปกครองตนเอง แล้วคณะกรรมการได้ตั้งข้อเสนอแนะต่าง ๆ โดยมุ่งจะเร่งรัดให้การปกครองอาณานิคมสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ [การทูต] | คุณภาพชีวิต | คุณภาพชีวิต, ความรู้สึกพึงพอใจในเรื่องต่าง ๆ อันเป็นความต้องการของตัวบุคคล ที่มีการดำรงชีพของมนุษย์ในระดับที่เหมาะสมตามความจำเป็นพื้นฐานในสังคม หนึ่ง ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง โดยจะมีเกณฑ์ความจำเป็นพื้นฐานที่ต้องบรรลุแต่ละด้าน หรือกำหนดเป็นตัวชี้วัด จึงเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงระด [สุขภาพจิต] | mineral salts | แร่ธาตุ, สารอาหารประเภทที่ไม่ให้พลังงานแต่มีความจำเป็นสำหรับกระบวนการเมแทบอลิซึมในร่างกาย เช่น เกลือของโซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
| -I only use his name when necessary. | - ฉันเท่านั้นที่ใช้ชื่อของเขาเมื่อมีความจำเป็น The Godfather (1972) | This pursuit is designated a standard Code 44. Please respond only to that code. Code 44 indicates no requirement for a blockade. | 44 บ่งชี้ว่ามีความจำเป็นสำหรับ การปิดล้อมไม่มี Mad Max (1979) | There is no need to awaken the others. | ไม่มีความจำเป็นที่จะปลุกคน อื่น ๆ คือ 2010: The Year We Make Contact (1984) | That which is called progress encourages extravagance! | สิ่งนั้นถูกเรียกว่าความก้าวหน้า ที่ฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น Akira (1988) | "Secrecy essential to success. | "ความจำเป็นในการเก็บความลับ เพื่อความสำเร็จ. Indiana Jones and the Last Crusade (1989) | To save it, perhaps it's necessary to betray it. Yes? | ที่จะบันทึกไว้อาจจะมีความจำเป็นที่จะทรยศมัน ใช่? The Russia House (1990) | - All right. Do you have a photographic memory? I don't know. | คุณมีความจำเป็นเลิศเหรอ Good Will Hunting (1997) | People either drive or fly. | ไม่มีความจำเป็น คนส่วนมากมักขับรถหรือไม่ก็บินมา The Jackal (1997) | - I see no reason to tell anyone. | - ผมก็ไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องไปบอกใครๆ Brokedown Palace (1999) | And not that you need it, and I don´t wanna sound like the Godfather, but we could offer you a certain amount of protection, if you know what I mean. | ก็ไม่ใช่ว่าเธอมีความจำเป็นหรอกนะ แล้วฉันก็ไม่อยากเบ่งเป็นมาเฟียหรอก แต่เราสามารถคุ้มครองเธอได้ในระดับหนึ่ง Never Been Kissed (1999) | Please convey to His Excellency that my purpose here is as tutor to the king's son and it is not necessary to ask personal questions. | ขอประทานอภัยค่ะ ดิฉันมาที่นี่ในฐานะ ครู ผู้สอนหนังสือให้กับพระโอรสของพระมหากษัตริย์ และไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องมาตอบคำถามผู้ใด Anna and the King (1999) | But why try more than you have to? | แต่ใยเล่าจึงต้องลองเกินความจำเป็น Woman on Top (2000) | I think you're making all this much more complicated than it needs to be. | ฉันว่าคุณทำให้มันยุ่งเหยิงเกินความจำเป็นไปนะ Hope Springs (2003) | So the first product Monsanto comes up with is a product that produces more of what we don't need. | แต่ผลิตภัณฑ์ยาตัวแรกที่มอนซานโตคิดค้นขึ้นมา ดันเป็นยากระตุ้นน้ำนมที่ไม่มีความจำเป็นเลย The Corporation (2003) | They have to be turned into completely mindless consumers of goods that they do not want. | ให้เป็นผู้บริโภคที่ไร้ความคิดโดยสิ้นเชิง คอยบริโภคสินค้าที่ไม่มีความจำเป็น The Corporation (2003) | There's something I have to find out | เจ้าจะรู้ไปทำไม่รึ ข้ามีความจำเป็นอยากรู้หนะค่ะ The Great Jang-Geum (2003) | There's no need for concern. Our country is quite capable of covering its tracks. | ไม่เห็นมีความจำเป็นเลยครับ, ประเทศเราสามารถที่จะควบคุมปัญหานี้ได้สบาย Ghost in the Shell (1995) | If necessary, we'll get the Pope's blessing. It's not hard. | หากมีความจำเป็นที่เราจะได้รับพรของสมเด็จพระสันตะปาปา มันไม่ใช่เรื่องยาก The Birdcage (1996) | - There is no need to be alarmed yet. | - มีความจำเป็นที่จะต้องตกใจยังไม่เป็น Dante's Peak (1997) | In the interest of self-preservation, you might start with that. | และด้วยความจำเป็นในการป้องกันตัวเอง คุณจะต้องเริ่มทำตามที่ผมบอก The Bourne Supremacy (2004) | We gotta change Keefe's room. | เรามีความจำเป็นต้องย้ายห้องคีฟ Red Eye (2005) | This barbaric lawlessness that's taking place at Ontario Airport only underscores the need... the necessity for this accord and for our continued vigilance and commitment to fighting terrorism around the world. | ยิ่งตอกย้ำถึงความจำเป็น ที่ต้องมีการร่วมมือครั้งนี้ และย้ำให้มีการเฝ้าระวัง Day 5: 10:00 a.m.-11:00 a.m. (2006) | Good, because we are going to need a little bit of privacy. | เยี่ยม เพราะเรามีความจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่าง ที่เป็นความลับเพียงเล็กน้อย American Pie Presents: The Naked Mile (2006) | No, I feel there's a need. | ไม่หรอก แต่ฉันคิดว่ามันมีความจำเป็น Bomui walcheu (2006) | There's no need to let them handle this. | ไม่มีความจำเป็นที่เจ้าพวกนั้นต้องมายุ่งกับงานนี้หรอกน่า Last Order: Final Fantasy VII (2005) | I find it incumbent that you see the inside of a prison cell. | ศาลเห็นว่ามีความจำเป็นต้องติดสินลงโทษจำคุก Riots, Drills and the Devil: Part 1 (2005) | There's no need to be frustrated. | ไม่มีความจำเป็นที่ท่านต้องทรงโมโห Episode #1.42 (2006) | It's the right cause you've been looking for. Right? | มันไม่ใช่เรื่องผิด เพราะความจำเป็น ใช่มั้ยคะ 200 Pounds Beauty (2006) | There's this thing about being a surgeon-- maybe it's pride or maybe it's just about being tough-- but a true surgeon never admits they need help unless absolutely necessary. | สิ่งที่ต้องนึกถึง เรื่องจะเป็นศัลยแพทย์ บางทีมันคือความภาคภูมิใจหรือบางที มันก็แค่เรื่องที่เราอยากให้มันเป็น แต่ความจริงคือ ศัลยแพทย์พวกเขาไม่เคย ต้องการความช่วยเหลือ ถ้ามิใช่ความจำเป็นจริง จริง Kung Fu Fighting (2007) | He's a janitor? | มีความจำเป็นมากที่ผมบอกไม่ได้ Alone (2007) | Children means education, so wherever we set up camp... .. education is a necessity, we're just so happy to take care of that. | เด็กๆหมายถึงการศึกษา ดังนั้น ทุกๆแห่งที่เราไปตั้งค่ายพัก การศึกษาคือความจำเป็น เราสุขใจมากที่ได้ดูแลเรื่องนี้ There Will Be Blood (2007) | They say you don't have to do this. | พูดว่าไม่มีความจำเป็นต้องทำอย่างนี้ No Country for Old Men (2007) | This basic requirement, Ishaan can't fulfil. | ความจำเป็นพื้นฐานนี้ อีชานยังไม่เข้าใจเลย Like Stars on Earth (2007) | We were forced to eliminate him in the interest of national security. | เรามีความจำเป็นต้องกำจัดเขา Eagle Eye (2008) | I deemed it necessary to open fire and issued the order. | ผมเห็นความจำเป็นที่จะต้องเปิดฉากยิง และทำตามคำสั่ง Resident Evil: Degeneration (2008) | So, it became a necessity relative to the song, if you like. | มันก็เลยเกิดความจำเป็น สำหรับเพลงนี้ ถ้าคุณชอบนะ It Might Get Loud (2008) | Amazing memory that kid had. | มีความจำเป็นเลิศ Minimal Loss (2008) | Never think that war, no matter how necessary, nor how justified is not a crime. | ไม่ว่ามันจะมีความจำเป็น หรือมีความชอบธรรมขนาดไหน สงครามก็คืออาชญากรรมดีๆนี่เอง เออร์เนส เฮมมิ่งเวย์ Mayhem (2008) | It's not an unreasonable request. | เป็นความจำเป็นที่มีเหตุผล Brave New World (2008) | There's no need for the patient to be in pain. | ไม่มีความจำเป็นที่คนไข้จะต้องเจ็บปวดอีกแล้ว The Itch (2008) | I assume she's already said no to that idea, or there'd be no need to screw up your courage before saying it. | ฉันเดาว่าเธอคงบอกว่า"ไม่" สำหรับเรื่องนั้น หรือไม่มีความจำเป็นที่จะทำลาย ความกล้าของคุณ ก่อนที่จะพูดมัน Emancipation (2008) | That it was medically necessary. | มันเป็นความจำเป็นทางการแพทย์ Last Resort (2008) | There was no need of you to pretend to be kind when you are going to end it like this. | ไม่มีความจำเป็นที่คุณจะแกล้งทำเป็นใจดีอีกต่อไป ในเมื่อคุณกำลังจะทำให้มันจบลงเช่นนี้ Beethoven Virus (2008) | A necessity to maintain balance in the world. | ความจำเป็นของความสมดุล ในโลก Wanted (2008) | We negotiated with the revolutionaries, Dictators or coup, that if the current president was more accessible, it would not be talking to you. | เราทำงานร่วมกับคณะปฎิวัตื เผด็จการ หรือแม้แต่พวกคณะรัฐประหาร ดังนั้นถ้าหากประธานาธิบดีคนปัจจุบันยอมที่จะทำตามข้อเสนอเรา เราก้อคงไม่มีความจำเป็นต้องมาคุยกัน Quantum of Solace (2008) | Just give it to me. I have a great memory. | ส่งมาให้ฉัน ฉันความจำเป็นเลิศ The House Bunny (2008) | I'm calling with regard to your request for an interview and to say, having considered it, my client is not necessarily opposed to the idea. | ผมโทรมาเพื่อจะแจ้งให้ทราบ เรื่องที่คุณขอสัมภาษณ์ และบอกถึงผลการพิจารณา ว่าท่านปธน.ไม่มีความจำเป็น ตอบปฏิเสธข้อเสนอทางคุณ Frost/Nixon (2008) | There's no need to say anything. | ไม่มีความจำเป็นต้องพูดอะไร Frost/Nixon (2008) | You sensed there was a need. | คุณสัมผัสได้ถึงความจำเป็น Chapter Four 'Cold Wars' (2009) | Well, that need still exists. | แล้วก็ ความจำเป็นนั้นก็ยังคงอยู่ Chapter Four 'Cold Wars' (2009) |
| ความจำเป็น | [khwām jampen] (n) EN: necessity ; need ; essence FR: nécessité [ f ] |
| nerd | (n, jargon) nerd เป็นคำเรียกบุคคลที่มีระดับสติปัญญาสูงซึ่งมีความสนใจในการเรียนหรือ การศึกษาเรื่องบางเรื่องที่เขาสนใจ คนภายนอกจะมองว่าพวกนี้เป็นพวกที่ไม่เข้าสังคม แต่จริงๆแล้วเป็นเพราะว่าพวกนี้ไม่สนใจและไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเข้าต่างหาก (ความหมายโดยชาว Nerd) |
| call of nature | (n) ความจำเป็นที่จะต้องขับถ่าย | excess | (adj) ซึ่งมากเกินไป, See also: ซึ่งมากเกินความจำเป็น, ซึ่งมากเกินความต้องการ | excessive | (adj) ซึ่งมากเกินกว่าจะยอมรับได้, See also: ซึ่งมากเกินความจำเป็น, ซึ่งมากเกินพอ, Syn. immoderate, inordinate | excessively | (adv) อย่างมากเกินกว่าจะยอมรับได้, See also: อย่างเกินไป, อย่างมากเกินความจำเป็น, Syn. immoderately, inordinately | exigence | (n) ความจำเป็นเร่งด่วน (คำทางการ), See also: ความต้องการเร่งด่วน, Syn. need, requirement, urgency | exigency | (n) ความจำเป็นเร่งด่วน (คำทางการ), See also: ความต้องการด่วน, Syn. need, requirement, urgency | featherbedding | (n) การจัดให้มีคนมากเกินความจำเป็น | out of necessity | (idm) เพราะความจำเป็น | necessity | (n) ความต้องการ, See also: ความจำเป็น | need | (n) ความต้องการ, See also: ความจำเป็น, ความขาดแคลน, Syn. poverty, indigence | neediness | (n) ความจำเป็น, See also: ความต้องการ | perforce | (adv) ด้วยความจำเป็น, See also: อย่างเลี่ยงไม่พ้น, Syn. unavoidably, inescapably | spare | (adj) ที่มากเกินความจำเป็น, See also: มีเหลือเฟือ, Syn. redundant, superfluous, extra |
| bank switching | การสลับชิปไปมาหมายถึง การสลับไปมาของการใช้ชิปในหน่วยความจำเดิมที่ติดมากับเครื่อง กับหน่วยความจำที่เพิ่มภายหลัง ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งทำให้รู้สึกเสมือนว่า หน่วยความจำทั้งสองนั้นเป็นหน่วยความจำเดียวกัน เช่น บริษัทไอบีเอ็มผลิตไมโครคอมพิวเตอร์ออกมาขายในตลาดโดยมีหน่วยความจำติดมาภายในตัวเครื่องเพียง 640 เคไบต์ แต่เรานำไปเพิ่มหน่วยความจำเป็นถึง 16 เมกกะไบต์ การที่จะทำให้หน่วยความจำเดิมกับหน่วยความจำที่เพิ่มมาใหม่ทำงานสลับกันไปมาได้ ก็จะต้องอาศัยการสลับชิปไปมานี้ อย่างไรก็ตาม หากเราเป็นเพียงผู้ใช้เครื่อง (user) ก็ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องนี้เท่าไรนัก เป็นหน้าที่ของช่างฝ่ายเทคนิคที่จะต้องติดตั้งหรือจัดการทำให้ | behoove | (บิโฮฟว', บิฮูฟว) { behoved, behooved, behoving, behooving, behoves, behooves } vt., vi. เป็นความจำเป็น, เป็นความเหมาะสม, Syn. become | behove | (บิโฮฟว', บิฮูฟว) { behoved, behooved, behoving, behooving, behoves, behooves } vt., vi. เป็นความจำเป็น, เป็นความเหมาะสม, Syn. become | ems | (อีเอ็มเอส) ย่อมาจาก expanded memory specification บางครั้งก็เรียกชื่อเต็มเลยว่า LIM-EMS ย่อมาจากคำว่า Lotus-Intel Microsoft Expanded Memory Specification อีเอ็มเอสนั้นเป็นโปรแกรมที่ขยายตัวประมวลผล 8088 ที่มีหน่วยความจำ 640 K ให้มีเนื้อที่มากขึ้น เพื่อให้มีที่พอบรรจุโปรแกรมโลตัส 1-2-3 ซึ่งเป็นโปรแกรมตารางจัดการ (spreadsheet) ขนาดใหญ่ ลงไปในหน่วยความจำที่มีขนาดเพียง 640 K ได้ ในปัจจุบัน ไม่มีความจำเป็นต้องใช้โปรแกรมอีเอ็มเอสนี้แล้ว เพราะหน่วยความจำของไมโครคอมพิวเตอร์รุ่น ใหม่ ๆ มีขนาดใหญ่กว่าสมัยก่อนมาก | excess | (อิคเซส') adj., n. (ความ) มากเกินพอ, มากเกินความจำเป็น, Syn. surplus | excessive | (อิคเซส'ซิฟว) adj. มากเกินปกติ, มากเกินความจำเป็น., See also: excessiveness n. ดูexcess excessively adv. ดูexcess, Syn. extreme | exclusive or | หรือใช้ตัวย่อว่า XOR (อ่านว่า ซอร์) เป็นคำที่นักเขียนโปรแกรมใช้ เมื่อจะสั่งให้แสดงภาพออกมาเป็นตัวดำเนินการเชิงตรรกะตัวหนึ่ง ซึ่งใช้เลขฐานสอง สองตัวมาทำให้เกิดเป็นค่าใหม่ ถ้าในการคำนวณได้ผลลัพธ์เป็น 0 แสดงว่าคอมพิวเตอร์คำนวณได้ผลออกมาเหมือนกัน แต่ถ้าค่าออกมาไม่เท่ากัน ผลลัพธ์จะออกมาเป็นหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่คิดจะเป็นนักเขียนโปรแกรม ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องเข้าใจเรื่องตรรกะนี้ก็ได้ | exigence | (เอค'ซิเจินซฺ, -ซี) n. ภาวะฉุกเฉิน, ความต้องการ, ความจำเป็น, เรื่องด่วน, เหตุฉุกเฉิน., Syn. necessity | exigency | (เอค'ซิเจินซฺ, -ซี) n. ภาวะฉุกเฉิน, ความต้องการ, ความจำเป็น, เรื่องด่วน, เหตุฉุกเฉิน., Syn. necessity | imperative | (อิมเพอ' ระทิฟช) adj. ซึ่งเลี่ยงไม่ได้, จำเป็น, เชิงบังคับ -n. คำสั่ง, ความจำเป็น, ข้อบังคับ, กฎเกณฑ์, น้ำเสียงขอร้องหรือเป็นเชิงบังคับ, มาลาเชิงบังคับของไวยากรณ์ | necessarily | (เนสซิแซ'ระลี) adv. โดยความจำเป็น, แน่แท้, ไม่มีทางอื่น | necessary | (เนส'ซิเซอรี) adj. จำเป็น, ไม่มีทางอื่น, สำคัญ n. สิ่ง จำเป็น, ความจำเป็น | necessitarian | (นะเซส'วิแท'เรียน) n. บุคคลผู้นิยมลัทธิความจำเป็น (necessarian) | necessitarianism | (นะเซสวิแทร'เรียนนิสซึม) n. ลัทธิความจำเป็น., See also: necessitarian, n., adj. | necessity | (นะเซส'ซิที) n. ความจำเป็น, สิ่งจำเป็น, ความขัดสน, ความยากจน. -Phr. (of necessity อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงเป็นแน่แท้), Syn. want, need | need | (นีด) { needed, needing, needs } n. ความจำเป็น, ความต้องการ, สิ่งที่ต้องการ, สิ่งที่ขาดแคลน, ความคับขัน, ความขัดสน if need be ในกรณีจำเป็น vt., vi. มีความจำเป็น, จำเป็น, ต้องการ, ประสงค์., See also: needer n. | neediness | (นี'ดีนิส) n. ความจำเป็น | obligation | (ออบละเก'เชิน) n. พันธะ, ความจำเป็น, ภาวะหน้าที่, หน้าที่, ข้อผูกพัน, เกณฑ์, หนี้, การบังคับ, บุญคุณ, ความรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณ, สัญญา, พันธบัตร, ตั๋วเงิน, เงินชำระหนี้., See also: obligative adj., Syn. duty, debt | perforce | (เพอฟอร์สฺ') adv. ด้วยความจำเป็น, อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น |
| exigency | (n) เหตุด่วน, เหตุฉุกเฉิน, เรื่องด่วน, ความจำเป็น | imperative | (n) คำสั่ง, ข้อบังคับ, กฎเกณฑ์, ความจำเป็น | necessarily | (adv) โดยความจำเป็น, อย่างเลี่ยงไม่ได้, แน่แท้ | necessity | (n) ความจำเป็น, สิ่งจำเป็น, ความแน่แท้, เครื่องบังคับ | need | (n) ความต้องการ, ความจำเป็น, ของจำเป็น, ความขัดสน | needless | (adj) ไม่ต้องการ, ไม่มีความจำเป็น | needs | (n) ความจำเป็น, ความต้องการ | perforce | (adv) ด้วยความจำเป็น, ด้วยกำลัง, อย่างเลี่ยงไม่พ้น | requirement | (n) ข้อกำหนด, ความต้องการ, ความจำเป็น, ข้อบังคับ, การเรียกร้อง | requisite | (n) ความจำเป็น, สิ่งจำเป็น, สิ่งต้องการ |
| ineluctably { adv } | [อิิน อะ ลัค เต บลี] (adv) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้, โดยความจำเป็น, , See also: inevitably, unavoidably, Syn. inescapably |
| 必要 | [ひつよう, hitsuyou] (n, adj) ความจำเป็น, สิ่งที่ต้องการ, Syn. 必要性, Ant. 不要 |
| 余計 | [よけい, yokei] เกินความจำเป็น |
| 必要 | [ひつよう, hitsuyou] TH: ความจำเป็น EN: necessity (an) |
| müssen | |muß, mußte, hat gemußt| ต้อง (เป็นกริยาช่วย บ่งความจำเป็น, การบังคับ) เช่น Du muß dich erst mal ausruhen!, Alle Menschen müssen sterben. | bedeutend | (adj, adv) มีความสำคัญต่อ, มีความหมายต่อ, ที่มีความจำเป็น เช่น Mit Rücksicht auf meinen Hals musste ich den Vortrag leider bedeutend verkürzen.; Sicher aber ist, dass die Burg im Mittelalter bedeutend größer war als die heutige Anlage. Im Jahr 1525 wurde sie während der Bauernkriege nahezu zerstört. | Notwendigkeit | (n) |die, pl. Notwendigkeiten| ความจำเป็น เช่น Es ist keine Notwendigkeit die Waffe bei sich zu führen. |
| |
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |