ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: อิทธิ, -อิทธิ- |
新正如意 新年发财 | [xīn zhèng rú yì xīn nián fā cái, ㄒㄧㄣ ㄓㄥˋ ㄖㄨˊ ㄧˋ ㄒㄧㄣ ㄋㄧㄢˊ ㄈㄚ ㄘㄞˊ, 新 正 如 意 新 年 发 财] (phrase) คำอวยพรสวัสดีปีใหม่ของชาวจีนในวันตรุษจีน ความหมายคือ ขอให้ปีใหม่นี้สมหวังทุกประการ และร่ำรวยมั่งคั่ง คนไทยมักอ่านว่า ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดใช้ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากสำเนียงแต้จิ๋ว |
|
| อิทธิ | (n) power, See also: might, Syn. ฤทธิ์, อำนาจ, อำนาจศักดิ์สิทธิ์, Example: ชุมชนในสมัยป่าเถื่อนอาศัยกำลังกายและอิทธิที่เกิดจากอาวุธในการรักษาสวัสดีของตนไว้ | อิทธิ | (n) prosperity, See also: success, achievement, Syn. ความเจริญ, ความสำเร็จ, ความงอกงาม | อิทธิบาท | (n) Four Rddhippada, See also: effective means to attain successes, Example: เขารักที่จะสืบทอดเจตน์จำนงค์ของบิดาผู้เป็นบุรพาจารย์ของตนด้วยอำนาจของอิทธิบาท 4, Thai Definition: คุณเครื่องให้สำเร็จความประสงค์ 4 อย่าง คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา | มีอิทธิพล | (v) influence, See also: be influential in, have an influence in, Example: เทเลเท็กซ์และวีดีโอเท็กซ์มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาระบบทางไกล | ทรงอิทธิพล | (v) be influential, See also: be important, be in the saddle, be consequential, be forceful, be powerful, Syn. มีอำนาจ, มีอิทธิพล, Ant. หมดอิทธิพล, หมดอำนาจ, ไร้อำนาจ, Example: ผู้สมัครส่วนใหญ่ ล้วนแต่มีชื่อเสียงโด่งดัง และทรงอิทธิพลด้วยกันทั้งสิ้น | อิทธิฤทธิ์ | (n) supernatural power, Syn. อำนาจศักดิ์สิทธิ์, Example: เมื่อเกิดความล้มเหลวขึ้น เรามักจะโทษดวง หรือบอกว่าเป็นอิทธิฤทธิ์อะไรบางอย่าง แทนที่จะพิจารณาว่าเราทำดีแล้วหรือไม่ | แผ่อิทธิพล | (v) extend one's influence, See also: expand one's influence, Syn. ขยายอิทธิพล, แผ่อำนาจ, Example: กลุ่มผู้ค้ายายังคงแผ่อิทธิพลเข้าไปตามหมู่บ้านและโรงเรียน, Thai Definition: แสดงหรือขยายกำลังอำนาจออกไปให้กว้างขวางไปสู่ที่อื่นๆ | ผู้มีอิทธิพล | (n) influential person, See also: despot, tyrant, Example: ผู้มีอิทธิพลมักร่วมมือกันเพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตน โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้มีอำนาจที่สามารถบันดาลให้เป็นไปได้ต่างๆ | ผู้ทรงอิทธิพล | (n) influential person, See also: person who influences, Syn. ผู้มีอิทธิพล, ผู้ทรงอำนาจ, Example: รัฐมนตรีคลังเป็นผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในคณะรัฐมนตรีชุดนี้, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้มีลูกสมุนมาก มักประพฤตินอกกฎหมาย | อิทธิปาฎิหาริย์ | (n) miracle, See also: supernatural power, Example: ขณะที่พระวชิรญาณภิกขุเสด็จออกธุดงค์ยังปูชนียสถานต่างๆ ก็จะมีอิทธิปาฎิหาริย์เกิดขึ้นเสมอ, Thai Definition: การปาฎิหารย์โดยฤทธิ์อำนาจ |
| อิทธิ, อิทธิ- | (อิดทิ) น. ฤทธิ์, อำนาจศักดิ์สิทธิ์ | อิทธิ, อิทธิ- | ความเจริญ, ความสำเร็จ, ความงอกงาม. | อิทธิปาฏิหาริย์ | น. ฤทธิ์เป็นอัศจรรย์ หมายถึง การแสดงฤทธิ์ที่พ้นวิสัยของสามัญมนุษย์ได้อย่างน่าอัศจรรย์, เป็นปาฏิหาริย์อย่าง ๑ ในปาฏิหาริย์ ๓ ได้แก่ อิทธิปาฏิหาริย์ อาเทสนาปาฏิหาริย์ และอนุสาสนีปาฏิหาริย์. | อิทธิพล | น. กำลังที่ยังผลให้สำเร็จ, อำนาจซึ่งแฝงอยู่ในบุคคลหรือรัฐ ซึ่งสามารถบันดาลให้เป็นไปตามความประสงค์, อำนาจที่สามารถบันดาลให้ผู้อื่นต้องคล้อยตามหรือทำตาม, อำนาจที่สามารถบันดาลให้เป็นไปได้ต่าง ๆ เช่น อิทธิพลของดวงดาว, อำนาจนอกเหนือหน้าที่ เช่น ใช้อิทธิพลบังคับให้ยอม. | อิทธิฤทธิ์ | น. อำนาจศักดิ์สิทธิ์ | อิทธิฤทธิ์ | อำนาจ. | กระตุกหนวดเสือ | ก. ทำให้ผู้มีอิทธิพลไม่พอใจ. | กระแสสังคม | น. ความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ในสังคมที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินการเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น กระแสสังคมกดดันให้ตำรวจไม่ดำเนินคดีกับเด็กที่ผิดกฎหมาย. | กินลูกตะกั่ว, กินลูกปืน | ก. ถูกยิง เช่น ไปขัดผลประโยชน์ของผู้มีอิทธิพลเข้าระวังจะได้กินลูกตะกั่ว ใครล่ะอยากจะกินลูกปืน. | ขาใหญ่ | น. นักเลงผู้มีอิทธิพล, นักโทษหรือผู้กักขังที่มีอิทธิพล. | เจ้าพ่อ | น. เทพารักษ์ผู้คุ้มเกรงถิ่นนั้น ๆ, ผู้เป็นใหญ่หรือมีอิทธิพลในถิ่นนั้น. | เจ้าแม่ | น. เทพารักษ์ผู้หญิงที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์จะให้ความคุ้มเกรงรักษาได้ เช่น เจ้าแม่ทับทิม, หญิงผู้เป็นใหญ่หรือมีอิทธิพลในถิ่นนั้น. | เซียน | น. ผู้บำเพ็ญพรตจนมีอิทธิฤทธิ์, ผู้วิเศษ | น้ำเกิด | น. นํ้าในทะเลและแม่นํ้าลำคลองที่มีทางติดต่อโดยตรงกับทะเลหรือได้รับอิทธิพลจากนํ้าทะเลเป็นต้น มีระดับนํ้าขึ้นสูงมากและลงตํ่ามากเนื่องจากอิทธิพลของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ ในช่วงเวลาที่ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์อยู่ในวงโคจรเกือบเป็นแนวเดียวกันกับโลก นํ้าเกิดจะมี ๒ ช่วง คือ ช่วงวันเดือนเพ็ญ ตั้งแต่วันขึ้น ๑๓ คํ่า ถึงวันแรม ๒ คํ่า และช่วงวันเดือนดับ ตั้งแต่วันแรม ๑๓ คํ่า ถึงวันขึ้น ๒ คํ่า. | น้ำขึ้น | น. นํ้าในทะเลและแม่นํ้าลำคลองที่มีทางติดต่อโดยตรงกับทะเลหรือได้รับอิทธิพลจากนํ้าทะเลเป็นต้นที่มีระดับนํ้าสูงขึ้น ในวันหนึ่ง ๆ ตามปรกตินํ้าจะขึ้น ๒ ครั้ง และนํ้าขึ้นครั้งแรกจะมีระดับสูงกว่าขึ้นครั้งที่ ๒. | น้ำลง | น. นํ้าในทะเลและแม่นํ้าลำคลองที่มีทางติดต่อโดยตรงกับทะเลหรือได้รับอิทธิพลจากนํ้าทะเลเป็นต้นที่มีระดับนํ้าตํ่าลง ในวันหนึ่ง ๆ ตามปรกตินํ้าจะลง ๒ ครั้ง และนํ้าลงครั้งแรกจะมีระดับตํ่ากว่าลงครั้งที่ ๒. | ปาฏิหาริย์ | (-ติหาน) น. สิ่งที่น่าอัศจรรย์, ความอัศจรรย์, มี ๓ อย่าง คือ ๑. อิทธิปาฏิหาริย์ = ฤทธิ์เป็นอัศจรรย์ หมายถึง การแสดงฤทธิ์ที่พ้นวิสัยของสามัญมนุษย์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ๒. อาเทสนาปาฏิหาริย์ = การดักใจเป็นอัศจรรย์ หมายถึง การดักใจทายใจคนได้อย่างน่าอัศจรรย์ ๓. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ = การสอนเป็นอัศจรรย์ หมายถึง คำสั่งสอนอันอาจจูงใจคนให้นิยมเชื่อถือไปตามได้อย่างน่าอัศจรรย์. | ผู้กว้างขวาง | น. นักเลงใหญ่, ผู้มีอิทธิพล. | ผู้วิเศษ | น. ผู้มีอิทธิฤทธิ์, ผู้รอบรู้เวทมนตร์คาถาอาคม. | ผู้สำเร็จ | น. ผู้บำเพ็ญพรตจนมีอิทธิฤทธิ์, ผู้วิเศษ. | มนิลา | เรียกเรือนที่มีลักษณะทรงหลังคาที่มีจั่วทั้ง ๒ ด้าน มีหลังคาลาดลงมาทั้ง ๔ ด้าน ได้รับอิทธิพลจากเรือนในกรุงมนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ว่า เรือนทรงมนิลา, เรือนทรงมลิลา ก็เรียก. | มหาตมะ | (มะหาดตะมะ) ว. ผู้มีอิทธิฤทธิ์, ผู้มีใจสูง. | มือปืน | น. ผู้ที่พกพาอาวุธปืนคอยคุ้มกันผู้มีอิทธิพลหรือบุคคลสำคัญเป็นต้น, ผู้ที่รับจ้างยิงคน, ผู้ที่ยิงเขาตาย. | รัว ๒ | น. ชื่อเพลงไทยประเภทเพลงหน้าพาทย์ ใช้บรรเลงในลักษณะต่าง ๆ กันคือ รัวธรรมดาหรือรัวลาเดียว ใช้บรรเลงเมื่อการเปลี่ยนแปลงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ในการแสดงโขนละครเป็นต้น และใช้บรรเลงต่อท้ายเพลงหน้าพาทย์ที่แสดงผลสำเร็จของพิธีการหรือพิธีกรรมนั้น ๆ, รัวเฉพาะ ใช้บรรเลงต่อท้ายเพลงหน้าพาทย์บางเพลง เช่น รัวท้ายเพลงบาทสกุณี รัวท้ายเพลงปลูกต้นไม้ รัวสามลา เป็นเพลงในชุดโหมโรงเย็นมีความหมายแทนการกราบไหว้บูชา ในการแสดงโขนละคร ใช้บรรเลงประกอบกิริยาแสดงอิทธิฤทธิ์ของตัวละครสูงศักดิ์ ในการเทศน์มหาชาติใช้เป็นเพลงประจำกัณฑ์จุลพน. | ราชสีห์สองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ | น. คนที่มีอำนาจหรืออิทธิพลพอ ๆ กันอยู่รวมกันไม่ได้, เสือสองตัวอยู่ถํ้าเดียวกันไม่ได้ หรือ จระเข้สองตัวอยู่ถํ้าเดียวกันไม่ได้ ก็ว่า. | รีด | ใช้กำลังหรืออิทธิพลบังคับเอาทรัพย์สินของผู้อื่น เช่น รีดเอาเงิน รีดเอาทรัพย์, ใช้ว่า รีดไถ ก็มี. | เรือนทรงมนิลา | น. เรือนที่เรียกตามลักษณะทรงหลังคาที่มีจั่ว ๒ ด้าน มีหลังคาลาดลงมาทั้ง ๔ ด้าน ได้รับอิทธิพลจากเรือนในกรุงมนิลา ประเทศฟิลิปปินส์, เรือนทรงมลิลา ก็เรียก. | แรง ๒ | น. อิทธิพลภายนอกใด ๆ ที่เปลี่ยนแปลงหรือพยายามทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสถานะอยู่นิ่งหรือสถานะการเคลื่อนที่ของเทหวัตถุด้วยอัตราเร็วสม่ำเสมอในแนวเส้นตรง. | ล้มช้าง | โค่นคนที่มีอำนาจมีอิทธิพลลงได้. | ละครพูด | น. ละครแบบหนึ่ง รับอิทธิพลจากละครแบบยุโรป ตัวละครพูดบทของตนในการดำเนินเรื่อง อาจพูดเป็นถ้อยคำธรรมดา คำกลอน คำฉันท์ มีการจัดฉากและแต่งกายตามสมัยที่ปรากฏในเรื่อง เช่น ละครพูดเรื่องหัวใจนักรบ ละครพูดคำกลอนเรื่องพระร่วง ละครพูดคำฉันท์เรื่องมัทนะพาธา. | ละครร้อง | น. ละครแบบหนึ่ง ได้รับอิทธิพลจากละครแบบยุโรป ตัวละครร้องเพลงเองในการดำเนินเรื่องและมีลูกคู่ช่วยร้องเป็นตอน ๆ มีบทเจรจาแทรก มีการจัดฉากและแต่งกายตามสมัยที่ปรากฏในเรื่อง เช่น ละครร้องเรื่องพระร่วง เรื่องสาวเครือฟ้า. | ละครสังคีต | น. ละครแบบหนึ่ง ได้รับอิทธิพลจากละครแบบยุโรป ตัวละครร้องและพูดบทของตน การร้องเพลงและการพูดมีความสำคัญเท่ากัน ถ้าตัดส่วนใดออกเนื้อเรื่องจะขาดไป ดนตรีประกอบไพเราะ มีการจัดฉากและแต่งกายตามสมัยที่ปรากฏในเรื่อง เช่น เรื่องวิวาหพระสมุท มิกาโด วั่งตี. | วิชชา | (วิด-) น. ความรู้แจ้ง เช่น วิชชา ๓ วิชชา ๘ ในพระพุทธศาสนา, วิชชา ๓ คือ ๑. บุพเพนิวาสานุสติญาณ (รู้จักระลึกชาติได้) ๒. จุตูปปาตญาณ (รู้จักกำหนดจุติและเกิด) ๓. อาสวักขยญาณ (รู้จักทำอาสวะให้สิ้น), ส่วนวิชชา ๘ คือ ๑. วิปัสสนาญาณ (ญาณอันนับเข้าในวิปัสสนา) ๒. มโนมยิทธิ (ฤทธิ์ทางใจ) ๓. อิทธิวิธิ (แสดงฤทธิ์ได้) ๔. ทิพโสต (หูทิพย์) ๕. เจโตปริยญาณ (รู้จักกำหนดใจผู้อื่น) ๖. บุพเพนิวาสานุสติญาณ ๗. ทิพจักขุ (ตาทิพย์) ๘. อาสวักขยญาณ. | วิเศษ | ยอดเยี่ยมในทางวิทยาคมเป็นต้น เช่น ผู้วิเศษ, กายสิทธิ์, มีอำนาจหรืออิทธิฤทธิ์ในตัว, เช่น พรมวิเศษ ของวิเศษ ดาบวิเศษ. | สาว ๒ | โดยปริยายหมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น เรื่องนี้พอสาวเข้ามาก็พบว่ามีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง. | เหยียบถ้ำเสือ, เหยียบถิ่นเสือ | ก. เข้าไปในแดนผู้มีอิทธิพลโดยไม่แสดงความยำเกรง. | อนุสาสนีปาฏิหาริย์ | น. การสอนเป็นอัศจรรย์ หมายถึง คำสั่งสอนอันอาจจูงใจคนให้นิยมเชื่อถือไปตามได้อย่างน่าอัศจรรย์, เป็นปาฏิหาริย์อย่าง ๑ ในปาฏิหาริย์ ๓ ได้แก่ อิทธิปาฏิหาริย์ อาเทสนาปาฏิหาริย์ และอนุสาสนีปาฏิหาริย์. | อภิญญา, อภิญญาณ | (อะพินยา, อะพินยาน) น. “ความรู้ยิ่ง” ในพระพุทธศาสนามี ๖ อย่าง คือ ๑. อิทธิวิธิ การแสดงฤทธิ์ได้ ๒. ทิพโสต หูทิพย์ ๓. เจโตขปริยญาณ ญาณรู้จักกำหนดใจผู้อื่น ๔. ปุพ-เพนิวาสานุสติญาณ การระลึกชาติได้ ๕. ทิพจักขุ ตาทิพย์ ๖. อาสวักขยญาณ ญาณรู้จักทำอาสวะให้สิ้นไป. | อาเทสนาปาฏิหาริย์ | น. การดักใจเป็นอัศจรรย์ หมายถึง การดักใจทายใจคนได้อย่างน่าอัศจรรย์, เป็นปาฏิหาริย์อย่าง ๑ ในปาฏิหาริย์ ๓ ได้แก่ อิทธิปาฏิหาริย์ อาเทสนาปาฏิหาริย์ และอนุสาสนีปาฏิหาริย์. | อำนาจมืด | น. อิทธิพลที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรือระเบียบเป็นต้น ที่บังคับให้ผู้อื่นต้องยอมทำตาม. |
| | influence | อิทธิพล [TU Subject Heading] | Ability, Influence of age on | อิทธิพลของอายุที่มีต่อความสามารถ [TU Subject Heading] | Buddhist influences | อิทธิพลพุทธศาสนา [TU Subject Heading] | Chinese influences | อิทธิพลจีน [TU Subject Heading] | Extraterestrial influences | อิทธิพลนอกพิภพ [TU Subject Heading] | Foreign influences | อิทธิพลต่างประเทศ [TU Subject Heading] | Forest influences | อิทธิพลของป่า [TU Subject Heading] | Indic influences | อิทธิพลอินเดีย [TU Subject Heading] | Influence | อิทธิพล [TU Subject Heading] | Influence (Psychology) | อิทธิพล (จิตวิทยา) [TU Subject Heading] | Influence of climate | อิทธิพลของภูมิอากาศ [TU Subject Heading] | Influence on nature | อิทธิพลต่อธรรมชาติ [TU Subject Heading] | Jewish influences | อิทธิพลยิว [TU Subject Heading] | Music, Influence of | อิทธิพลของดนตรี [TU Subject Heading] | Pressure groups | กลุ่มอิทธิพล [TU Subject Heading] | Roman influences | อิทธิพลโรมัน [TU Subject Heading] | Western influence | อิทธิพลตะวันตก [TU Subject Heading] | Great Powers | ประเทศมหาอำนาจ รัฐที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นประเทศมหาอำนาจ คือรัฐที่มีอำนาจอิทธิพลครอบงำในกิจการระหว่างประเทศ ไม่มีกฎหมายใดๆ ที่จะกำหนดว่าประเทศนั้น ประเทศนี้มีสถานภาพเป็นมหาอำนาจ หากเป็นเพียงเพราะรัฐนั้นๆ มีขนาด พละกำลัง และอำนาจอิทธิพลทางเศรษฐกิจเป็นพื้นฐาน และจะสังเกตได้ว่า สถานะของกลุ่มประเทศมหาอำนาจเช่นนี้ก็จะเปลี่ยนแปลงได้บ่อยๆ เช่น ในสมัยการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาในปี ค.ศ. 1815 ประเทศมหาอำนาจในสมัยนั้นได้แก่ อังกฤษ ออสเตรีย ฝรั่งเศส ปอร์ตุเกส ปรัสเซีย สเปน สวีเดน และรัสเซีย หลังจากนั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่เกี่ยวกับพละกำลังของประเทศมหาอำนาจ คือก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ หนึ่ง ประเทศที่จัดว่าเป็นมหาอำนาจในตอนนั้นคือ อังกฤษ ฮังการี ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และรัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในทวีปยุโรป รวมทั้งสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่นอกยุโรป เมื่อตอนสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศที่เป็นมหาอำนาจได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ โซเวียตรัสเซีย ฝรั่งเศส และจีน พึงสังเกตด้วยว่า องค์การสหประชาชาติได้ถือว่า ประเทศทั้ง 5 นี้มีอำนาจและมีความสำคัญมากที่สุดในขณะนั้น ทั้ง 5 ประเทศนี้ต่างเป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ซึ่งมีอำนาจใช้สิทธิยับยั้ง (Veto) ในที่ประชุม ซึ่งในปัจจุบันก็ยังปฏิบัติเช่นนั้นอยู่ [การทูต] | New Diplomacy | การทูตแบบใหม่ ภายหลังสงครามโลกครั้งแรก หรือตั้งแต่ ค.ศ. 1918 เป็นต้นมา ได้เกิดการทูตแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างไปจาการทูตแบบเก่า อันได้ปฏิบัติกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี นักวิชาการบางท่านมีความเอนเอียงที่จะตำหนิว่า การที่เกิดสงครามโลกขึ้นนั้น เป็นเพราะการทูตประสบความล้มเหลวมากกว่าอย่างไรก็ดี บางท่านเห็นว่าแม้ส่วนประกอบของการทูตจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่เนื้อหาหรือสาระสำคัญของการทูตยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เป็นการผสมผสานเข้าด้วยกันระหว่างการทูตแบบเก่ากับการทูตแบบใหม่อาจกล่าวได้ ว่า มีปัจจัยสำคัญ ๆ อยู่สามประการ ที่มีอิทธิพลหรือบังเกิดผลโดยเฉพาะต่อวิธีการหรือทฤษฎีของการเจรจาระหว่าง ประเทศ กล่าวคือ ข้อแรก ชุมชนนานาชาติทั้งหลายเกิดการตื่นตัวมากขึ้น ข้อที่สอง ได้มีการเล็งเห็นความสำคัญของมติสาธารณะ ( Public Opinion) มากขึ้น และประการสุดท้าย เป็นเพราะการสื่อสารคมนาคมได้เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วอดีตนักการทูตผู้มี ชื่อเสียงคนหนึ่งของอินเดีย ได้แสดงความไม่พอใจและรังเกียจความหยาบอย่างปราศจากหน่วยก้านของการดำเนิน การทูตแบบใหม่ เช่น การโฆษณาชวนเชื่อเข้าใส่กัน การใช้ถ้อยคำในเชิงผรุสวาทต่อกัน การเรียกร้องกันอย่างดื้อ ๆ ขาดความละมุนละไมและประณีต อาทิเช่น การเรียกร้องข้ามหัวรัฐบาลไปยังประชาชนโดยตรงในค่ายของฝ่ายตรงกันข้ามการ กระทำต่าง ๆ ที่จะให้รัฐบาลต้องเสียชื่อหรือขาดความน่าเชื่อถือ ตลอดจนการใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ห้ามไม่ให้ประชาชนติดต่อกันทางสังคม และอื่น ๆ เป็นต้น [การทูต] | New World Order | ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต] | Parliamentary Diplomacy | การทูตแบบรัฐสภา หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ [การทูต] | Potsdam Proclamation | คือคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดม ออกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 โดยหัวหน้าคณะรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และจีน ลงนามโดยประธานาธิบดีของรัฐบาลจีนคณะชาติ เป็นคำประกาศเมื่อตอนใกล้จะเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง โดยฝ่ายสัมพันธมิตรดังกล่าวกำลังทำสงครามขับเคี่ยวอยู่กับฝ่ายญี่ปุ่น พึงสังเกตว่า สหภาพโซเวียต ในตอนนั้นมิได้มีส่วนร่วมในการออกคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดมแต่อย่างใดโดยแท้จริงแล้ว คำประกาศนี้เท่ากับเป็นการยื่นคำขาดให้ฝ่ายญี่ปุ่นตัดสินใจเลือกเอาว่าจะทำ การสู้รบต่อไป หรือจะยอมจำนนเพื่อยุติสงคราม คำประกาศได้เตือนอย่างหนักแน่นว่า หากญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะสู้รบต่อไป แสนยานุภาพอันมหาศาลของสัมพันธมิตรก็จะมุ่งหน้าโจมตีบดขยี้กองทัพและประเทศ ญี่ปุ่นให้แหลกลาญ แต่หากว่าญี่ปุ่นยอมโดยคำนึงถึงเหตุผล ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้ตั้งเงื่อนไขไว้หลายข้อ สรุปแล้วก็คือ ลัทธิถืออำนาจทหารเป็นใหญ่จะต้องถูกกำจัดให้สูญสิ้นไปจากโลกอำนาจและอิทธิพล ของบรรดาผู้ที่ชักนำให้พลเมืองญี่ปุ่นหลงผิด โดยกระโจนเข้าสู่สงครามเพื่อครองโลกนั้น จะต้องถูกทำลายให้สิ้นซาก รวมทั้งพลังอำนาจในการก่อสงครามของญี่ปุ่นด้วยจุดต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด จะต้องถูกยึดครองไว้จนกระทั่งได้ปฏิบัติตามจุดมุ่งหมายของสัมพันธมิตรเป็นผล สำเร็จแล้ว อำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่นให้จำกัดอยู่เฉพาะภายในเกาะฮอนซู ฮ็อกไกโด กิวชู ชิโกกุ และเกาะเล็กน้อยอื่น ๆ ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด อาชญากรสงครามทุกคนจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาล รวมทั้งที่ทำทารุณโหดร้ายต่อเชลยศึกของสัมพันธมิตร รัฐบาลญี่ปุ่นจะต้องกำจัดสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อการรื้อฟื้น และเสริมสร้างความเชื่อถือในหลักประชาธิปไตยในระหว่างพลเมืองญี่ปุ่น และจัดให้มีเสรีภาพในการพูด การนับถือศาสนา และในการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการด้านอุตสาหกรรมที่จะเกื้อกูลต่อภาวะ เศรษฐกิจของประเทศ และความสามารถที่จะชำระค่าปฏิกรรมสงคราม แต่จะไม่ยอมให้คงไว้ซึ่งกิจการอุตสาหกรรมชนิดที่จะช่วยให้ญี่ปุ่นสร้างสม อาวุธเพื่อทำสงครามขึ้นมาอีก ในทีสุด กำลังทหารสัมพันธมิตรจะถอนตัวออกจากประเทศญี่ปุ่นในทันทีที่จุดประสงค์ต่าง ๆ ได้บรรลุผลเรียบร้อยแล้ว ในตอนท้ายของเงื่อนไข สัมพันธมิตรได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข เสียโดยไว [การทูต] | Secretariat of the United Nations | คือสำนักเลขาธิการสหประชาชาติ ประกอบด้วยตัวเลขาธิการ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยสมัชชาตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตามที่องค์การต้องการหน้าที่สำคัญของเลขาธิการสหประชา ชาติ คือ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารขององค์การ นำเรื่องใดก็ตามเสนอต่อคณะมนตรีความมั่นคง ซี่งตามทรรศนะของเลขาธิการเห็นว่าเป็นภัยคุกคามสันติภาพและความมั่นคง ระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่ทำรายงานประจำปี และรายงานเพิ่มเติมใด ๆ ที่จำเป็นเสนอต่อสมัชชาสหประชาชาติ เกี่ยวกับงานขององค์การ สหประชาชาติคณะเจ้าหน้าที่ที่ทำงานช่วยเหลือเลขาธิการนั้น ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระหว่างประเทศ ประกอบด้วยชนชาติต่าง ๆ ในการเกณฑ์เจ้าหน้าที่เหล่านี้เข้าทำงานกับสหประชาชาติ จะคัดแต่ผู้ที่มีประสิทธิภาพ ความสามารถ และความซื่อสัตย์ในระดับสูงสุด และคำนึงถึงเขตภูมิศาสตร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในการทำงานตามหน้าที่ ทั้งตัวเลขาธิการและคณะเจ้าหน้าที่ผู้ร่วมงาน จะต้องไม่แสวงหรือรับคำสั่งจากรัฐบาลใด ๆ หรือจากผู้มีอำนาจหน้าที่อื่นใดที่อยู่นอกเหนือองค์การสหประชาชาติ ขณะเดียวกัน สมาชิกของสหประชาชาติได้ตกลงยอมรับนับถือความรับผิดชอบที่มีลักษณะระหว่าง ประเทศของสำนักเลขาธิการ และจักไม่แสวงใช้อิทธิพลใด ๆ ต่อสำนักเลขาธิการ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบเหล่านั้น [การทูต] | Mechanical stability time | ความเสถียรเชิงกลของน้ำยาง หมายถึง ความเสถียรของน้ำยางต่ออิทธิพลทางกล เช่น การกวน การปั๊ม การเคลื่อนย้าย หรือการกระทำทางกลโดยวิธีอื่นๆ สามารถทำได้โดยวัดระยะเวลาที่เริ่มปั่นกวนน้ำยางจนกระทั่งสังเกตเห็นน้ำยาง เริ่มจับตัวเป็นเม็ดเล็กๆ ในหน่วยของวินาที ค่า MST สูงจะบ่งชี้ว่า น้ำยางมีความเสถียรต่ออิทธิพลทางกลได้สูง แต่ถ้าค่า MST ต่ำแสดงว่าน้ำยางนั้นจะสูญเสียความเสถียร สามารถจะจับเป็นเม็ดได้ง่าย เมื่อน้ำยางถูกกระทบกับอิทธิพลทางกล [เทคโนโลยียาง] | Environment Factors | อิทธิพลของสิ่งแวดล้อม [การแพทย์] | Environmental Influences | อิทธิพลสิ่งแวดล้อม, อิทธิพลจากสิ่งแวดล้อม [การแพทย์] | Foreign Hull | อิทธิพลอื่นๆที่อยู่ห่างออกไป [การแพทย์] | ความคับข้องใจ | ความคับข้องใจ, สภาพทางจิตใจหรือความรู้สึกที่เป็นผลสืบเนื่องอันได้แก่ ความหงุดหงิด กระวนกระวายใจ กลุ้มใจ สิ่งเหล่านี้มาจากความปรารถนาที่บุคคลมุ่งหวัง แต่ถูกขัดขวาง ทำให้ลดแรงจูงใจ บั่นทอนอิทธิพลความพยายาม ไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย ไม่ตอบสนองความต้องการของตนเองได้ ด้วยอุปสรร [สุขภาพจิต] | ความสุข | ความสุข, สิ่งที่ใช้บ่งบอกระดับสภาวะจิตใจของบุคคล ณ ช่วงเวลา หรือ สถานการณ์หนึ่ง ๆ ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามที่บุคคลนั้นรู้สึก (ปัจจัยภายนอกตัวบุคคล) และรับรู้ (ปัจจัยภายในบุคคล) จากสิ่งกระตุ้น โดยที่การรับรู้จะมีอิทธิพลเหนือกว่าความรู้สึก เพราะใช้สร้างสมดุลของร่างกายแล [สุขภาพจิต] | law of inheritance of acquired characteristic | กฎการถ่ายทอดลักษณะที่เกิดขึ้นใหม่, กฎที่ลามาร์กตั้งขึ้นเพื่ออธิบายการถ่ายทอดลักษณะที่เกิดขึ้นใหม่ในรุ่นพ่อแม่ อันเนื่องจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมไปยังรุ่นลูก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | indole acetic acid (IAA) | กรดอินโดลแอซีติก(ไอเอเอ), ออกซินชนิดหนึ่ง สูตรเคมีคือ C10H9O2N เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตของพืช [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | environment | สิ่งแวดล้อม, ภาวะแวดล้อม, สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ล้อมรอบตัวของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งภาวะการณ์ต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตนั้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | auxin | ออกซิน, ฮอร์โมนในพืชที่มีอิทธิพลเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของพืช [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | physical factor | ปัจจัยทางกายภาพ, องค์ประกอบทางกายภาพ, สภาพแวดล้อมทางกายภาพ, สิ่งแวดล้อมที่ไม่มีชีวิตซึ่งมีอิทธิพลต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิต เช่น ดิน น้ำ อากาศ เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | biological factor | ปัจจัยทางชีวภาพ, องค์ประกอบทางชีวภาพ, สภาพแวดล้อมทางชีวภาพ, สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในสภาวะแวดล้อมและมีอิทธิพลต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง เช่น สาหร่ายเป็นปัจจัยทางชีวภาพของปลา เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | dependent variable | ตัวแปรตาม, ตัวแปรที่ต้องเปลี่ยนแปรสภาพ หรือลักษณะไปตามอิทธิพลของตัวแปรต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Group Influence | อิทธิพลของกลุ่ม [การแพทย์] | Individual Exogenous Factors | ปัจจัยภายนอกที่มีอิทธิพลต่อร่างกาย [การแพทย์] | Influence System | การสร้างระบบอิทธิพล [การแพทย์] | Multifactorial Control | อิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมหลายๆอย่างบีบบังคับ [การแพทย์] |
| I would caution you not to be swayed by your emotions. | ผมจะไม่เตือนคุณ จะโดนอิทธิพลโดยอารมณ์ของคุณ In the Name of the Father (1993) | My man was killed right here on your turf. | คนของฉันถูกฆ่าในเขตอิทธิพลของนาย Léon: The Professional (1994) | Horror writer Sutter Cane... a harmless pop phenomenon... or a deadly mad prophet of the printed page? | นักเขียนแนวสยองขวัญ ซัทเตอร์ เคน ผู้มีอิทธิพลอย่างมากต่อนักอ่าน หรือผู้ทำนายในความบ้าคลั่งของวงการหนังสือ In the Mouth of Madness (1994) | Cane's writing has been known to have an effect... on his less stable readers. | นิยายของเคนได้รับความนิยมอย่างมาก จึงมีอิทธิพลต่อผู้อ่านด้วย In the Mouth of Madness (1994) | Have you heard the rumors... that Cane's books have affected certain readers? | คุณเคยได้ยินข่าวลือที่ว่า หนังสือของเคนมีอิทธิพลกับผู้อ่านบ้างมั้ย In the Mouth of Madness (1994) | Glad you're not one of those who lets these emotional appeals influence him. | ดีใจที่คุณไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้ที่ช่วยดึงดูดความสนใจของอารมณ์เหล่านี้มีอิทธิพลต่อเขา 12 Angry Men (1957) | So I receive 30% for finance, political influence and legal protection? | ดังนั้นผมจึงได้รับ 30% สำหรับเงินทุน อิทธิพลทางการเมืองและการป้องกันกฎหมายหรือไม่ The Godfather (1972) | - big cheese, head honcho... | - ผู้ มีอิทธิพล, เหนือหัว... Airplane! (1980) | Her husband, the senator, has influence over defense contracts. | สามีของเธอ วุฒิสมาชิกมีอิทธิพล มากกว่าพวกคนดูแลป้องกันอยู่แล้ว Clue (1985) | Jimmy was one of the most feared guys in the city. | จิมมี่เป็นคนที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในเมือง Goodfellas (1990) | How these events helped shape your present perspective... concerning life in contemporary America. | เหตุการณ์เหล่านั้น มีิอิทธิพล ต่อความคิดของคุณ... เกี่ยวกับชีวิต ในอเมริกา ร่วมสมัย American History X (1998) | - What's the matter, upset that I rubbed off on her? | เป็นอะไรไป? โมโหที่หนูมีอิทธิพลกับน้องหรอ? 10 Things I Hate About You (1999) | Mem Leonowens, Jao Jom Manda Ung is daughter of very influential family. | แหม่มเลียวโนวส์, เจ้าจอมมารดาอุ่น\เป็นลูกสาวของผู้มีอิทธิพลครอบครัวหนึ่ง Anna and the King (1999) | I don't want a bad influence to spread chaos among them | ฉันไม่ต้องการให้มีอิทธิพลไม่ดี มาทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายกับพวกเขา GTO (1999) | And that's Grantland Rice, the most powerful sports writer in the country. | และนั่นแกรนท์แลนด์ ไรซ์ นักข่าวกีฬาที่ทรงอิทธิพลที่สุด The Legend of Bagger Vance (2000) | The Gous are a very powerful family. | ครอบครัวกูส มีอิทธิพลมาก Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) | Ithildin. | อิทธิลดีน The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001) | At the beginning of the 21st century, the Umbrella Corporation... had become the largest commercial entity in the United States. | ตอนต้นของศตวรรษที่ 21, แอมเบลล่า คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุด และทรงอิทธิพลที่สุดในสหรัฐ Resident Evil (2002) | Its political and financial influence is felt everywhere. | อิทธิพลของบริษัทมีมากมายทั้งในระบบการเมือง หรือแม้แต่การคลัง Resident Evil (2002) | They told me you had influence. | ยิทซ์ชาค เขาว่านายมีอิทธิพล ใครบอกนาย The Pianist (2002) | In terms of influencing movements. | ทางด้านอิทธิพลการเคลื่อนไหวค่ะ Mona Lisa Smile (2003) | If I talk about it, gangster people will come to my house and cut me. | ขืนฉันพูดไป แก็งค์อิทธิพลไปที่บ้าน เชือดฉันแน่ Bringing Down the House (2003) | We wouldn't want you influencing your testimony. | ทางเราไม่อยากให้คุณมีอิทธิพลต่อคำให้การ The O.C. (2003) | Initially given a narrow legal mandate what has allowed today's corporation to achieve such extraordinary power and influence over our lives? | ในยุคเริ่มต้น บรรษัทได้รับมอบอำนาจตามกฎหมายที่จำกัดมาก แต่อะไรทำให้บรรษัทในวันนี้มีอำนาจล้นเหลือ และมีอิทธิพลเหนือชีวิตของเรา? The Corporation (2003) | They're selling themselves they're selling their domination they're selling their rule and they're creating an image for themselves as just regular folks down the block. | พวกเขาขายตัวเอง พวกเขาขายอิทธิพล พวกเขาขายกฎเกณฑ์ The Corporation (2003) | In a world economy where information is filtered by global media corporations keenly attuned to their powerful advertisers who will defend the publics right to know? | ในระบบเศรษฐกิจโลกที่ข่าวสารถูกกลั่นกรอง โดยบรรษัทสื่อมวลชนข้ามชาติ ที่คอยเอาใจผู้ซื้อโฆษณาอันทรงอิทธิพล The Corporation (2003) | and the leverage they had 50 or 60 years ago. | รวมทั้งไม่มีอิทธิพลต่อบรรษัทเหมือนเมื่อ 50-60 ปีก่อน และนั่นคือความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ The Corporation (2003) | The most feared of them all is the Axe Gang. | กลุ่มที่มีอิทธิพลมากที่สุดนั้นก็คือ แก๊งค์ขวานซิ่ง Kung Fu Hustle (2004) | - influenced the modern church. | - ที่มีอิทธิพลต่อโบสถ์ในยุคปัจจุบันครับ Love So Divine (2004) | See, I've been approached by several very influential people wondering if I'd be interested in standing for governor. | ผู้มีอิทธิพลหลายคนเคยมาทาบฉัน... ไปลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ The Longest Yard (2005) | Understanding our past determines actively.. | การเข้าใจอดีต มีอิทธิพลต่อ The Da Vinci Code (2006) | You above all people shouldn't be one to dismiss the influence of the past. | คุณไม่ใช่คนประเภทมองข้ามอิทธิพลในอดีตอย่างแน่นอน The Da Vinci Code (2006) | The County Board of Supervisors firmly believes we can't allow gangs to dictate the terms by which our young people live. | คณะกรรมการฝ่ายบริหารมั่นใจว่า เราจะไม่ยอมให้กลุ่มแก๊ง มีอิทธิพลต่อเด็กในท้องถิ่น Gridiron Gang (2006) | The pull of the soul to a far-off place. | อิทธิพลของจิตวิญญาณต่อดินแดนที่ห่างไกล Chapter Five 'Hiros' (2006) | I never said it was stupid. I said it's beneath you. | ฉันไม่เคยพูดว่ามันงี่เง่า ฉันพูดว่ามันอยู่ใต้อิทธิพลของคุณ Chapter Nine 'Homecoming' (2006) | So, for it to be expedited, there had to have been some sort of political influence, right? | ที่คดีของลินคอล์น ตัดสินเร็วขนาดนี้ เพราะอิทธิพลทางการเมืองด้วยรึเปล่า ? 445 00: Cute Poison (2005) | He's got a lot of influence with the governor. | เขามีอิทธิพลมากกับท่านผู้ว่าการรัฐ Pilot (2005) | It's our understanding that you have great influence with the governor. | พวกเราเข้าใจว่าท่านมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อท่านผู้ว่า Pilot (2005) | I wouldn't say it's great or influence. | พ่อคงไม่พูดว่ามากหรือมีอิทธิพลอะไร พวกเราแค่เป็นเพื่อนกัน Pilot (2005) | Very soon our om will dominate all of the bombay industry. | อีกไม่นาน โอมของพวกเรา จะมีอิทธิพล เหนือธุรกิจของเมืองบอมเบย์ทั้งหมด. Om Shanti Om (2007) | But i have seen to be a biggest man of this industry. | แต่ผมได้จัดการกับ คนที่มีอิทธิพลที่สุดในธุระกิจนี้ Om Shanti Om (2007) | This guy's important, we can't be wrong. You sure? | หมอนี่มีอิทธิพล เราจะพลาดไม่ได้ นายแน่ใจนะ Chuck Versus the Crown Vic (2007) | He's the local big shot businessman. | ตอนนี้เป็นนักธุรกิจ มีอิทธิพลมากแถบนี้ Chuck Versus the Sizzling Shrimp (2007) | I don't need some new boy influencing her, distracting her from her needs. | ชั้นไม่ต้องการให้หนุ่มหน้าไหน มีอิทธิพลต่อลูก และมากวนใจเธออีก The Wild Brunch (2007) | I DON'T NEED SOME NEW BOY INFLUENCING HER, | ฉันไม่ต้องการหนุ่มหน้าไหน ที่จะมามีอิทธิพลต่อลูก Poison Ivy (2007) | IS INFLUENCED BY EARLY FAULKNER. | ได้รับอิทธิพล มาจากเออร์ลี่ ฟอลค์เนอร์ Poison Ivy (2007) | Life forms take the land's force and greatly flourish here. | วิถีชีวิตได้รับอิทธิพลจากพื้นดิน แล้วที่นี่ก็เป็นที่ที่จะทำให้มั่งคังเฟื่องฟู Unstoppable Marriage (2007) | As if the writing of women did not display the greatest powers of mind, knowledge of human nature, the liveliest effusions of wit and humour and the best-chosen language imaginable? | ราวกับว่างานเขียนของผู้หญิง ไม่ได้มีอิทธิพลทางด้านจิตใจ แต่เขียนออกมาจากความรู้ น้ำท่วมทุ่งและอารมณ์ขัน ด้วยภาษาที่ดีที่สุดที่พอจะนึกออก Becoming Jane (2007) | It's just goddamned beyond everything. | มันช่างมีอิทธิพลเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง No Country for Old Men (2007) | Probably the most powerful man in San Fancisco... and he hasn't set foot on American soil. | บางทีอาจจะเป็นผู้ชายที่มีอิทธิพลที่สุด ในซานฟราน และไม่ได้มีรากฐานยืนอยู่บนพื้นดินอเมริกา War (2007) |
| อิทธิ | [itthi] (n) EN: power ; might FR: prestige [ m ] | อิทธิ | [itthi] (n) EN: prosperity ; success ; achievement ; progress FR: succès [ m ] | อิทธิ | [itthi] (n) EN: supernormal power ; sacred power ; spiritual power FR: pouvoir surnaturel [ m ] ; magie [ f ] | อิทธิบาท | [itthibāt] (n) EN: Four Rddhippada ; four foundations for accomplishment ; effective means to attain successes ; basis for success FR: base d'accomplissement [ f ] ; chemin vers le pouvoir [ m ] | อิทธิปาฏิหาริย์ | [itthipātihān] (n) EN: miracle ; supernatural power ; magical power FR: miracle [ m ] ; mystère [ m ] ; pouvoir magique [ m ] ; pouvoir surnaturel [ m ] | อิทธิพล | [itthiphon] (n) EN: influence ; pull ; authority ; control FR: influence [ f ] ; autorité [ f ] ; impact [ m ] | อิทธิพล(ของ)ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย | [itthiphon (khøng) phāsā tāngprathēt nai phāsā Thai] (xp) EN: influence of foreign languages on Thai | อิทธิฤทธิ์ | [itthirit] (n) EN: power ; might ; efficacy ; potency ; supernatural power ; magical power | เขตอิทธิพล | [khēt itthiphon] (n, exp) EN: sphere of influence | มีอิทธิพล | [mī ittiphon] (v, exp) EN: influence ; be influential in ; have an influence in FR: être influent ; avoir de l'influence | มีอิทธิพล | [mī ittiphon] (adj) EN: influential FR: influent | ผู้มีอิทธิพล | [phū mī ittiphon] (n, exp) EN: influential person FR: personnage influent [ m ] | ผู้มีอิทธิพล | [phū mī ittiphon] (n, exp) EN: despot ; tyrant ;gang boss ; Mafia boss | ผู้ทรงอิทธิพล | [phūsong ittiphon] (n, exp) EN: influential person ; person who influences |
| action | (n) อิทธิพล, See also: อำนาจ, ฤทธิ์ | anticlerical | (adj) ต่อต้านอิทธิพลและการกระทำของพระ | arbiter | (n) ผู้ที่มีอิทธิพล, See also: ผู้ที่มีอำนาจ | big | (adj) มีความสำคัญหรือมีอิทธิพล, Syn. influential, important | be in the play | (idm) มีผล, See also: มีอิทธิพล, Syn. bring into, call into | bring someone to the fore | (idm) ทำให้กลายเป็นผู้นำหรือมีอิทธิพล, See also: ทำให้มีอำนาจ, Syn. come to | bring something into play | (idm) ทำให้มีผล, See also: ทำให้มีอิทธิพล, Syn. be in, come into | bring something to bear on | (idm) ทำให้มีอิทธิพลต่อ, See also: ทำให้ บางคน ทำบางสิ่ง | catharsis | (n) การปลดปล่อยอารมณ์ที่รุนแรง (โดยอาจได้รับอิทธิพลจากละครหรือเพลง) เพื่อให้อารมณ์นั้นอ่อนลง | clout | (n) อิทธิพลของความคิด (คำไม่เป็นทางการ), Syn. influence, power, pull | color | (vt) มีอิทธิพลต่อ (ความคิด), Syn. influence, control, power | colour | (vt) มีอิทธิพลต่อ (ความคิด), Syn. influence, control, power | dominate over | (phrv) มีอำนาจเหนือ, See also: มีอิทธิพลเหนือ, ควบคุม, Syn. domineer over | domineer over | (phrv) มีอำนาจเหนือ, See also: มีอิทธิพลเหนือ, ควบคุม, Syn. dominate over | fall beneath | (phrv) ทำให้ตกอยู่ภายใต้ (อิทธิพล), Syn. fall under | deprogram | (vt) ทำให้หลุดพ้นจากอิทธิพลของคำสั่งสอนในลัทธิ, See also: ปลดเปลื้องให้พ้นจากคำสั่งสอนในลัทธิ, Syn. deprogramme | determine | (vt) มีอิทธิพลต่อ, See also: กระตุ้น, Syn. influence | dominate | (vt) ปกครอง, See also: ควบคุม, ครอบงำ, มีอิทธิพลต่อ, มีอำนาจเหนือ, Syn. govern, rule, overshadow | dominate | (vi) ปกครอง, See also: ควบคุม, ครอบงำ, มีอิทธิพลต่อ, มีอำนาจเหนือ, Syn. govern, rule, overshadow | electioneer | (vi) ใช้อิทธิพลหรือวิธีการที่ไม่ซื่อสัตย์เพื่อได้คะแนนเสียงมา | electrophoresis | (n) การเคลื่อนไหวของอนุภาคคอลลอยด์ที่แขวนอยู่ในของเหลวเนื่องจากอิทธิพลของสนามไฟฟ้าในของเหลวนั้น, See also: วิธีการวิเคราะห์ประเภทของสารโดยการวัดอัตราการเคลื่อนที่ของแต่ละสารประกอบในคอลลอยด์ข | exert | (vt) ใช้อำนาจ (ไปกระทบบางคนหรือบางสิ่ง), See also: ใช้อิทธิพล ไปกระทบบางคนหรือบางสิ่ง, Syn. bring to bear, put forth | factor | (n) ปัจจัย, See also: ตัวประกอบ, ปัจจัยที่ทำให้เกิดผลหรือมีอิทธิพลต่อสิ่งต่างๆ, Syn. constituent, determinant, portion | force | (n) คนหรือสิ่งที่มีอำนาจหรืออิทธิพล | get | (vt) มีอิทธิพลต่อ, See also: มีผลต่อ, กระตุ้น, ชักจูง, Syn. arouse, stimulate | hand | (n) อิทธิพล | hegemony | (n) ความมีอำนาจ (คำทางการ), See also: ความมีอิทธิพลเหนือกว่า | have pull with | (idm) มีอิทธิพลต่อบางคน | in with | (idm) เป็นเพื่อนกับบางคน, See also: มีอิทธิพลต่อ, มีความสำคัญต่อ | immune | (adj) ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจาก, See also: ซึ่งไม่รู้สึกต่อบางสิ่ง, ซึ่งไม่ได้รับอิทธิพลจากบางสิ่ง | impervious | (adj) ซึ่งไม่ได้รับอิทธิพลจากบางสิ่ง, See also: ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากบางสิ่ง, Syn. impenetrable, impermeable, Ant. permeable, pervious | influence | (n) เจ้าถิ่น, See also: ผู้ทรงอิทธิพล | influence | (vt) มีอิทธิพลต่อ, See also: ชักจูง อำนาจบังคับ, Syn. manipulate, sway, affect | influence | (n) อำนาจ, See also: อิทธิพล, การบังคับควบคุม, Syn. authority, power, domination | influential | (adj) ซึ่งมีอิทธิพลต่อ, See also: ซึ่งมีอำนาจชี้ขาด, Syn. authoritative, powerful, significant, Ant. unpersuasive, unconvincing | influential | (n) ผู้มีอิทธิพล | influential person | (n) ผู้มีอิทธิพล, See also: ผู้มีอำนาจ | inspiring | (adj) จับใจ, See also: ทรงอิทธิพล | lead on | (phrv) บังคับ, See also: มีอิทธิพลให้กระทำบางสิ่ง | lead | (vt) มีอิทธิพลต่อความคิดหรือการกระทำ, See also: ครอบงำ, Syn. influence | lord | (n) ผู้ทรงอิทธิพลในอาชีพ | lord | (vi) มีอำนาจหรืออิทธิพลเหนือ, Syn. domineer | magic | (n) เวทมนตร์, See also: อิทธิฤทธิ์, อำนาจวิเศษ, Syn. sorcery | magnate | (n) คนสำคัญมาก, See also: ผู้มีอิทธิพลมาก, คนใหญ่คนโต, Syn. baron, big businessman, mogul | mid-Atlantic | (n) ซึ่งได้รับอิทธิพลจากอเมริกาเหนือและ Great Britain | mould | (vt) ฝึก (นิสัย), See also: มีอิทธิพลในการสร้าง นิสัย, ปั้นแต่ง นิสัย, สร้าง นิสัย, เพาะ นิสัย | mover | (n) ผู้มีอำนาจ, See also: ผู้มีอิทธิพล | nonentity | (n) คนหรือสิ่งที่ไม่สำคัญ, See also: คนไม่มีอำนาจ, ผู้ไม่มีอิทธิพลใดๆ, Syn. cipher, cypher, nobody, Ant. celebrity, somebody, VIP | other-directed | (adj) ซึ่งได้รับอิทธิพลจากภายนอก | penetrate | (vt) ขยายอิทธิพล, See also: แผ่ขยายวัฒนธรรม |
| affected | (อะเฟค' ทิด) adj. ได้รับผล, ได้รับอิทธิพล, กระทบกระเทือน (จิตใจ) , เสียใจ, สงสาร, แกล้ง, เสแสร้ง, โน้มเอียงไปทาง, Syn. supurious, artificial, Ant. spontaneous, real, moved | almighty | (ออลไม' ที) adj. ซึ่งมีอำนาจทุกอย่าง, ซึ่งมีความสามารถทุกอย่าง, ซึ่งมีอำนาจหรืออิทธิพลมาก, น่ากลัว, สุดขีด. -n. -Almighty พระ-เจ้า -almightiness n., Syn. all-powerful | ascendant | (อะเซน'เดินทฺ) n. ตำแหน่งที่ครอง, อิทธิพล, อำนาจ, บรรพบุรุษ. -adj. รุ่งเรือง, มีอำนาจ, ฐานะได้เปรียบ, ก้าวหน้า, มีอิทธิพลเหนือ | ascendent | (อะเซน'เดินทฺ) n. ตำแหน่งที่ครอง, อิทธิพล, อำนาจ, บรรพบุรุษ. -adj. รุ่งเรือง, มีอำนาจ, ฐานะได้เปรียบ, ก้าวหน้า, มีอิทธิพลเหนือ | before | (บิฟอร์') adv., prep., conj. ก่อน, ก่อนหน้า, อยู่หน้า, หน้า, ตรงหน้า, กว่า, ในอนาคต, คอยอยู่, ภายใต้อิทธิพลของ, Syn. ahead | benignant | (บินิก'เนินทฺ) adj. กรุณาปรานี, มีอิทธิพลที่ดีต่อ, มีประโยชน์ต่อ, ใจดี, See also: benignancy n., Syn. kind | bias | (ไบ'อัส) n. อคติ, เส้นเอียง, ความโน้มเอียง, adj. เอียง, เฉียง, ทแยง vt. ทำให้มีใจโน้มเอียง, มีอิทธิพลต่อ, See also: biasedly adv. ดูbias biassedly adv. ดูbias biasness n. ดูbias, Syn. prejudice | big gun | n. บุคคลสำคัญ, ผู้มีอิทธิพล | big shot | n. ผู้มีอิทธิพล, ผู้ยิ่งใหญ่, Syn. brass hat | clout | (เคลาทฺ) { clouted, clouting, clouts } n. การตี, การต่อย, การตบ, การตีลูกไกล, อิทธิพลของความคิด, ปาฏิหาริย์, เป้า, ลูกกระสุนที่ถูกเป้า, เศษผ้าปะ, เศษของที่ใช้ซ่อมแซม, เศษผ้า, ผ้าขี้ริ้ว. vt. พันผ้า, ปะ, ซ่อมแซม, ตอกตะปูเสริม, ตี, ต่อย, Syn. blow, wal | compel | (คัมเพล') { compelled, compelling, compels } vt. บังคับ, ผลักดัน, เกณฑ์, ใช้วิธีบังคับ, ได้มาโดยการบังคับ, ต้อน. vi. ใช้กำลัง, มีอิทธิพลต่อ, See also: compeller n., Syn. enforce | demon | (ดี'เมิน) n. ปีศาจ, มาร, ผี, ภูติ, อารมณ์ร้าย, อิทธิพลร้าย, คนชั่วร้าย, คนที่ขยันงานมาก, คนที่มีพลกำลังมาก, สัตว์ดุร้าย, daimon, daemon พระเจ้า เทพเจ้า เทวดา | descension | (ดิเซน'เชิน) n. ส่วนของจักรราศี (zodiac) ที่ดาวนพเคราะห์มีอิทธิพลน้อยที่สุด | dominate | (ดอม'มะเนท) vt., vi. ครอบงำ, มีอำนาจเหนือ, มีอิทธิพลเหนือ, ปกครอง, อยู่เหนือ., See also: dominatingly adv. ดูdominate dominator n. ดูdominate | domination | (ดอมมะเน'เชิน) n. การครอบงำ, การมีอำนาจเหนือ, การมีอิทธิพลเหนือ, การปกครอง, การควบคุม, Syn. jurisdiction | ectogony | (เอค'โทโกนี) n. อิทธิพลของตัวอ่อนที่มีต่อมารดา | effect | (อิเฟคทฺ') { effected, effecting, effects } n. ผล, อิทธิพล, ปรากฎการณ์ที่ลวงตา, ความหมาย, ทรัพย์สิน vt. ทำให้เกิดผล, ทำให้เกิด., See also: effectible adj. ดูeffect -Phr. of no effect ไร้ผล -Phr. take effect ทำให้เกิดผล -S... | electrophoresis | (อีเลคโทรฟะรี'ซีส) n. การเคลื่อนไหวของอนุภาคคอลลอยด์ที่แขวนอยู่ในของเหลวเนื่องจากอิทธิพลของสนามไฟฟ้าใน ของเหลวนั้น., See also: electrophoretic adj., Syn. cataphoresis. | elite | (อีลีท', เอลีท') n. ชั้นยอด, หัวกะทิ, บุคคลที่ยอดเยี่ยม, สิ่งที่ได้เลือกสรรแล้ว, กลุ่มอิทธิพล adj. ชั้นยอด, หัวกะทิ, เป็นส่วนที่ดีที่สุด, Syn. gentry อีลีต <คำอ่าน>เป็นศัพท์ที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ดีดมาก่อน หมายถึงขนาดความกว้างของตัวอักษรที่พิมพ์ได้ 12 ตัว ต่อ 1 นิ้ว บางทียังนำมาใช้เป็นคำสั่งให้เลือกบนเครื่องพิมพ์ว่าต้องการ ให้เป็นอีลีตหรือไพกา pica ซึ่งหมายถึงอักษรขนาด 10 ตัวต่อนิ้ว ดู pica ประกอบ | force | (ฟอร์ส) n. กำลัง, แรง, พลัง, อำนาจ, อิทธิพล, ผลบังคับทางกฎหมาย, พลังจิต, กองกำลัง, กองทัพ, กลุ่ม, คณะบุคคล -Phr. (in force ซึ่งปฏิบัติการอยู่, มีผล) . vt. บังคับ, ผลักดัน, บีบบังคับ, รุน, ดัน, ยัด, เร่ง. vi. บากบั่น, บุกเบิก, ไปด้วยกำลัง., See also: able adj. force | good offices | การบริการของผู้ไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทอิทธิพล | heavyweight | (เฮฟ'วิเวท) adj. หนัก, หนักเป็นพิเศษ, เกี่ยวกับนักมวยหรือนักมวยปล้ำรุ่นหนัก (เกิน175 ปอนด์) n. นักมวยหรือมวยปล้ำรุ่นดังกล่าว, คนที่มีอิทธิพลมาก, คนที่ฉลาดมาก | hegemony | (ฮิเจม'โมนี่) n. ความเป็นเจ้าโลก, ความเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือกว่า., See also: hegemonic, hegemonical adj., Syn. leadership | heteronomy | n. ภาวะที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมของผู้อื่น | impact | (อิม'แพคทฺ) n. การกระทบ, การปะทะ, แรงกระทบ, แรงปะทะ, ผลกระทบ, อิทธิพล, ผล. vt. กระทบ, ปะทะ, อัดแน่น. vi. มีผลต่อ, กระทบ, ปะทะ, Syn. shock, collision | important | (อิมพอร์' เทินทฺ) adj. สำคัญ, มีความหมาย, เด่น, โอหัง, ยะโส, มีอิทธิพลมาก, มีอำนาจมาก, มีฐานะสูง, ใหญ่โต, มากมาย., See also: importantly adv., Syn. subtantial, serious | induce | (อินดิวซฺ') vt. ชักจูง, ชักนำ, ชักชวน, เหนี่ยวนำ, มีอิทธิพลต่อ, ทำให้เกิดขึ้น, พิสูจน์, หาความจริงด้วยการสังเกตข้อเท็จจริง., See also: inducer n. inducible adj., Syn. instigate, persuade | inductive | (อินดัค'ทิฟว) adj. อุปนัย, เกี่ยวกับการเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าหรือสนามแม่เหล็ก, ชักนำมีอิทธิพลต่อ, See also: inductively adv. inductiveness n., Syn. leading, influencing | infection | (อินแฟค'เชิน) n. การติดเชื้อ, การติดโรค, โรคติดต่อ, เชื้อ, อิทธิพล, การทำให้มัวหมอง, Syn. disease, illness | influence | (อิน'ฟลูเอินซฺ) n. อิทธิพล, อำนาจชักจูง, สิ่งชักจูง, ผู้มีอิทธิพลโน้มน้าว. vt. มีอิทธิพลต่อ, มีอำนาจโน้มน้าว., See also: influenceable adj. influencer n., Syn. control, power | influential | (อินฟลูเอน'เชิล) adj. มีอิทธิพล, มีอำนาจชักจูง, มีผลสะท้อน., Syn. weighty | junto | (จัน'โท) n. คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นเอง (โดยเฉพาะที่มีจุดประสงค์ทางการเมือง) , กลุ่มอิทธิพลทางการเมือง, ฝ่าย, พรรค, Syn. cabal | leverage | (เลฟ'เวอริจฺ, ลี'เวอริจฺ) n. การงัด, กำลังงัด, พลัง, อิทธิพล, อำนาจกระทำ, อำนาจงัด, ง้าง, อำนาจเพิ่มผลทางการเงิน. vt. ให้อำนาจเพิ่มผลทางการเงิน, Syn. influence, pull | lord | (ลอร์ด) n. เจ้าศักดินา, ขุนนาง, เจ้าของที่ดิน, ท่านลอร์ด, สมาชิกสภาขุนนาง, ผู้นำในการค้า, เจ้านาย, เจ้าเหนือหัว, พระผู้เป็นเจ้า, พระเยซูคริสต์, ดาวนพเคราะห์ที่มีอิทธิพลครอบงำ. -interj. คำอุทานแสดงความประหลาดใจ. vi. มีอำนาจหรืออิทธิพล, ตั้งตัวเป็นเจ้าเหนือหัว | magnate | (แมก'เนท) n. ผู้มีอิทธิพลมาก, ผู้มีความสำคัญมาก, นักธุรกิจที่มีอิทธิพลมาก., See also: magnateship n. | magnetise | (แมก'นิไทซ) vt. ทำให้มีคุณสมบัติของแม่เหล็ก, มีอิทธิพลต่อ, สะกดจิต, ทำให้งงงวย, ทำให้หลงเสน่ห์, See also: magnetisation, magnetiszation n. magnetiser, magnetiszer n. | magnetize | (แมก'นิไทซ) vt. ทำให้มีคุณสมบัติของแม่เหล็ก, มีอิทธิพลต่อ, สะกดจิต, ทำให้งงงวย, ทำให้หลงเสน่ห์, See also: magnetisation, magnetiszation n. magnetiser, magnetiszer n. | manage | (แมน'นิจฺ) v. จัดการ, จัด, ควบคุม, ดูแล, บริหาร, ปกครอง, ทำให้เกิดขึ้น, ประสบความสำเร็จ, มีอิทธิพลต่อ, พลิกแพลง, ปฏิบัติ, ถือ (อาวุธ, เครื่องมือ) , , Syn. direct | miasma | (ไมแอซ'มะ) n. บรรยากาศที่เป็นพิษ, อำนาจมือ, อิทธิพลร้าย, See also: misamal adj. miasmatic adj. miastical adj. miasmic adj. pl. miasmata, miasmas | mogul | (โม'เกิล, โมเกิล') n. ชาวมองโกลผู้พิชิตอินเดียที่ตั้งอาณาจักรขึ้นในสมัย ค.ศ.1526-1857, ผู้สืบเชื้อสายชาวมองโกลดังกล่าว, ชาวมองโกล, บุคคลที่สำคัญมีอำนาจหรือมีอิทธิพล | operative | (ออพ'พะเรทิฟว) n. ผู้ปฏิบัติการ, นักสืบ, สายลับ, ช่าง, คนงาน. adj. เกี่ยวกับปฏิบัติการ, มีอิทธิพล, มีผล, ได้ผล, เกี่ยวกับศัลยกรรม, เกี่ยวกับการงาน, See also: operativity n. | orbit | (ออร์'บิท) n. วงโคจร, วิถีโคจร, วิถีทาง, เขตอิทธิพล, เบ้าตา, ขอบตา, ตา. vt., vi. โคจร, See also: orbital adj. orbiter n., Syn. path, circuit | predominance | (พรีดอม'มิเนินซฺ) n. ความมีอำนาจหรืออิทธิพลเหนือ, ความเหนือกว่า, ความมีมากกว่า, ความเด่น., Syn. predominancy | predominant | (พรีดอม'มิเนินทฺ) adj. มีอำนาจเหนือ, มีอิทธิพลเหนือ, มีมากกว่า, เด่น, | predominate | (พรีดอม'มิเนท) vi., vt. เหนือกว่า, มีอำนาจเหนือ, มีอิทธิพลเหนือ, มีมากกว่า, ปกครอง, ครอบงำ., See also: predomination n. predominator n. | preeminence | (พรีเอม'มิเนินซฺ) n. ความเหนือกว่า, ความดีกว่าเพื่อน, ความมีอำนาจหรืออิทธิพลมากกว่า., Syn. pre-eminence, preวminence | preeminent | (พรีเอม'มะเนินทฺ) adj. เหนือกว่า, ดีกว่า, เด่นกว่า, มีอำนาจหรืออิทธิพลมากกว่า, ดีเลิศ, เด่นชัด., Syn. superior | preponderance | (พรีพอน'เดอะเรินซฺ) n. ความเหนือกว่า (น้ำหนัก, อำนาจ, อิทธิพล, จำนวนหรืออื่น ๆ), Syn. preponderancy | preponderate | (พรีพอน'ดะเรท) vi. เหนือกว่า (น้ำหนัก, อำนาจ, อิทธิพล, จำนวนหรืออื่น ๆ) ., See also: preponderation n., Syn. prevail | radius | (เร'เดียส) n. รัศมี, เส้นรัศมี, ความยาวของรัศมี, ส่วนที่รัศมี, อิทธิพล, ขอบเขต, กระดูกแขนท่อนนอก, เส้นเลือดดำตามยาวที่สำคัญในส่วนหน้าของปีกแมลง pl. radii, radiuses |
| affected | (adj) ได้รับผล, ได้รับอิทธิพล, เสแสร้ง | almighty | (adj) ยิ่งใหญ่, มีอานุภาพ, มีอำนาจมาก, มีอิทธิพล | ascendant | (n) ตำแหน่งสูง, อิทธิพล | ascendent | (adj) สูงขึ้น, เฟื่องฟู, รุ่งเรือง, มีอำนาจ, มีอิทธิพลเหนือ | ascendent | (n) ตำแหน่งสูง, อิทธิพล | BIG big gun | (n) ผู้มีอิทธิพล, ผู้มีอำนาจ, บุคคลสำคัญ | BIG big shot | (n) ผู้ยิ่งใหญ่, ผู้มีอิทธิพล | dominant | (adj) ซึ่งมีอำนาจเหนือ, ซึ่งมีบทบาทสำคัญ, เด่น, มีอิทธิพลต่อ | effect | (n) ผล, ผลกระทบ, ประสิทธิภาพ, อิทธิพล, ปรากฏการณ์, ทรัพย์สิน | FAR-far-reaching | (adj) แผ่ไปไกล, มีอิทธิพลมาก, กว้างขวาง | force | (n) แรง, อำนาจ, การบังคับ, กำลัง, พละกำลัง, กองทัพ, อิทธิพล | inductive | (adj) นำเข้ามา, มีอิทธิพลต่อ, อุปมาน | influence | (n) อิทธิพล, บารมี, อำนาจ, การโน้มน้าว | influence | (vt) ใช้อิทธิพลต่อ, ชักจูง, ชักชวน, บีบบังคับ | influential | (adj) มีอิทธิพล, มีผลกระทบ, มีผลพวง | lord | (vt) บังคับบัญชา, ปกครอง, มีอำนาจเหนือ, มีอิทธิพล | magnate | (n) คนสำคัญ, คนมั่งมี, พ่อค้าใหญ่, เจ้าสัว, ผู้มีอิทธิพล | overlord | (n) เจ้าเหนือหัว, เจ้าศักดินา, ผู้มีอิทธิพล | predominate | (vt) เด่นกว่า, เหนือกว่า, ครอบงำ, มีมากกว่า, มีอิทธิพลเหนือ | prestige | (n) ชื่อเสียง, อิทธิพล, ศักดิ์ศรี, บารมี, รัศมี, เกียรติยศ | strong | (adj) มีกำลัง, แข็งแรง, มั่นคง, มีอิทธิพล, รุนแรง | titan | (n) ยักษ์, ผู้มีสติปัญญากว้างขวาง, ผู้มีอิทธิพล | titanic | (adj) มหึมา, ใหญ่โต, เหมือนยักษ์, มีกำลังมาก, มีอิทธิพล | weighty | (adj) หนัก, สำคัญ, เป็นภาระ, ลำบาก, มีอิทธิพล |
| Anthropocene | [อันโธรพะซีน] (adv) เกี่ยวกับหรือหมายถึงยุคสมัยในทางธรณีวิทยาที่ซึ่งการกระทำของมนุษย์มีอิทธิพลมากที่สุดต่อสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม | hold sway over | (vt) มีอำนาจเหนือ, มีอิทธิพลเหนือ | overed right | [over right] (n, phrase) ถือสิทธิเหนือกฎความถูกต้องอื่นใด หรือมีอำนาจกระทำอย่างไดอย่างหนึงออกนอกกฎเกณฑ์ปกติ มีอิทธิพลมากกว่าเงื่อนไขใดๆที่กำหนดไว้ เมื่อแสดงสิทธินี้แล้วทุกอย่างที่เป็นข้อจำกัดจะเป็นไปตามที่ผู้ถือสิทธิต้องการ | Plassey | (name) ปลาศี เป็นหมู่บ้านในรัฐเบงกอลตะวันตก ประเทศอินเดีย ในปี ค.ศ. 1757 อังกฤษได้รับชัยชนะในยุทธการที่ปลาศี และเริ่มแผ่อิทธิพลครอบงำอินเดีย | งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารอยต่อเหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กกล้าไร้สนิม เนื่องจ | งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารอยต่อเหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กกล้าไร้สนิม เนื่องจากมีความแตกต่างด้านสมบัติวัสดุทั้งสองชนิดทำให้เกิดจุดบกพร่องต่างๆทำให้การเชื่อมรอยต่อโลหะทั้งสองได้ค่อนข้างยาก งานวิจัยนี้เพื่อศึกษาปัจจัยการเชื่อมที่มีผลต่อสมบัติเชิงกลความต้านแรงดึงและค่าความแข็งด้วยโปรแกรม ทางสถิติ โดยใช้กระบวนการเชื่อม มิกส์ ลวดเชื่อมสเตนเลสSpeedarc308 Lsi*1.2mm การทดสอบประกอบด้วยโครงสร้างจุลภาค ความแข็ง ความแข็งแรงดึง การดัดโค้ง และการใช้โปรแกรมทางสถิติ กระแสไฟเชื่อม 112A ความเร็วเชื่อ 2 m/s แก๊สปกคลุมแนวเชื่อม Ar 80% + CO2 20 % การทดสอบตามมาตรฐาน ASME BPVC IX ผลการทดสอบค่าความแข็งเฉลี่ย 166.23 HV ความแข็งแรงดึงเฉลี่ย 262.25 MPa การดัดโค้งพบว่าชิ้นงานที่ทำการทดสอบนั้นแตกหัก (Broken) ทั้งหมด จึงสรุปได้ว่าชิ้นงานที่ทำการทดสอบนั้นไม่สามารถรับแรงดัดโค้งได้ การวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมทางสถิติ เมื่อกำหนดค่า α มีค่าเท่ากับ 0.05 พิจารณาอันตรกิริยาจากค่า P-Value Strength เท่ากับ 0.884 และค่าความแข็ง Hardness เท่ากับ 0.227 การทดลองทั้งหมดมีระดับความเชื่อมั่นอยู่ที่ 95% ทำให้การทดลองครั้งนี้ไม่มีอิทธิพลต่อผลการทดลองอย่างนี้นัยสำคัญ คำสำคัญ: เหล็กคาร์บอน SS400 , เหล็กกล้าไร้สนิม SUS304 , การเชื่อมมิก , โปรแกรมทางสถิติ |
| 影響力 | [えいきょうりょく, eikyouryoku] อิทธิพล |
| 三昧 | [さんまい, sanmai] (n) สมาธิ (คำว่า สัมไม เป็นคำศัพท์ทางศาสนาที่ได้รับอิทธิพลมาจากภาษาบาลีสันสกฤตของอินเดียอย่างเดียวกับที่ภาษาไทยใช้ ที่อินเดียจะออกเสียงว่า สะ-มา-ดิ๊) | 反映 | [はんえい, han'ei] (n) (อิน'ฟลูเอินซฺ) n. อิทธิพล, อำนาจชักจูง, สิ่งชักจูง, ผู้มีอิทธิพลโน้มน้าว. vt. มีอิทธิพลต่อ, มีอำนาจโน้มน้าว., S. . influenceable adj. influencer n., S. control, power |
| prägen | (vt) |prägte, hat geprägt| มีอิทธิพลอย่างมาก เช่น Die Menschen und das Leben in Thailand sind stark vom Bhuddismus geprägt. ผู้คนและชีวิตในเมืองไทยได้รับอิทธิพลอย่างมากจากศาสนาพุทธ, Syn. beeinflussen | übernatürliche Kräfte | |pl.| อิทธิฤทธิ์ | Äußere | (n) |das, nur Sg.| ภาพลักษณ์ภายนอก, รูปโฉมภายนอก เช่น Das Äußere spielt heute bei Bewerbungsgesprächen eine größere Rolle. ภาพลักษณ์ภายนอกมีอิทธิพลมากต่อการสัมภาษณ์งานในปัจจุบัน |
| eminence grise | (jargon) ผู้มีอำนาจ อิทธิพล โดยไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |