ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ห่วงใย, -ห่วงใย- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ ห่วงใย | (v) worry, See also: feel anxious about, concern about, Syn. กังวล, Ant. หมดห่วง, หายห่วง, Example: เธอห่วงใยและเอาใจใส่ผมยิ่งกว่าตัวเธอเสียอีก, Thai Definition: มีใจพะวงอยู่, มีทุกข์กังวลอยู่ | ความห่วงใย | (n) worry, See also: care, anxiety, concern, Syn. ความห่วง, ความกังวล, Example: แม่ทุกคนมีความห่วงใยในลูกของตนเสมอ, Thai Definition: การที่มีใจกังวลอยู่, การที่มีทุกข์กังวลอยู่ |
| ห่วงใย | ก. มีใจพะวงอยู่, มีทุกข์กังวลอยู่. | กังวล | ก. ห่วงใย, มีใจพะวงอยู่. | กำดัด | ก. พะวง, ห่วงใย, ขวนขวาย, เช่น ฤๅสองศุขารมย ชวนชายชํไม้เมิลป่า พระวงวิ่งวาศนาเด็กกำดัดเล่น (ม. คำหลวง มัทรี) | ทรทึง | (ทอระ-) ก. คอยท่า, ห่วงใย | ทรรทึง | (ทัน-) ก. คอยท่า, ห่วงใย | ทังวล, ทังวี้ทังวล | ก. กังวล, ห่วงใย, เช่น เป็นทังวี้ทังวลวุ่นวาย (คาวี). | ทำงน | ก. ห่วงใย, ยุ่งใจ. | ทำวน | ก. ห่วงใย, วุ่นวายใจ. | นอนตาไม่หลับ | ก. นอนหวาดต่อภัยหรือเป็นทุกข์หรือห่วงใย. | นิราลัย | (-ไล) ว. ไม่มีที่อยู่, ไม่มีที่ห่วงใย. | ปลิโพธ | (ปะลิโพด) น. ความกังวล, ความห่วงใย. | พะวง | ก. กังวล, ห่วงใย. | รัก ๒ | ก. มีใจผูกพันด้วยความห่วงใย เช่น พ่อแม่รักลูก รักชาติ รักชื่อเสียง, มีใจผูกพันด้วยความเสน่หา, มีใจผูกพันฉันชู้สาว, เช่น ชายรักหญิง, ชอบ เช่น รักสนุก รักสงบ. | โศกาลัย | น. ความเศร้าหมองใจและความห่วงใย, ร้องไห้สะอึกสะอื้น. | สงสาร ๒ | (สงสาน) ก. รู้สึกเห็นใจในความเดือดร้อนหรือความทุกข์ของผู้อื่น, รู้สึกห่วงใยด้วยความเมตตากรุณา, เช่น เห็นเด็ก ๆ อดอยากก็รู้สึกสงสาร เห็นเขาประสบอัคคีภัยแล้วสงสาร. | อะร้าอร่าม ๑ | ก. ห่วงหน้าห่วงหลัง, งกเงิ่นด้วยความห่วงใย. | อาทร | (-ทอน) น. ความเอื้อเฟื้อ, ความเอาใจใส่, ความห่วงใย. | อาลัย ๑ | ก. ห่วงใย, พัวพัน, ระลึกถึงด้วยความเสียดาย. | อาลัย ๑ | น. ความห่วงใย, ความพัวพัน, ความระลึกถึงด้วยความเสียดาย. | อาวรณ์ | (-วอน) ก. ห่วงใย, อาลัย, คิดกังวลถึง, นิยมใช้เข้าคู่กับคำ อาลัย เป็น อาลัยอาวรณ์. |
|
| Eisenhower Doctrine | ลัทธิไอเซนฮาวร์ เมื่อวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1957 ประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความวิตกห่วงใยในสถานการณ์ที่ล่อแหลมต่ออันตรายในภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้อ่านสารพิเศษต่อที่ประชุมร่วมระหว่างสภาผู้แทนกับวุฒิสภาขอร้องให้รัฐสภา สหรัฐฯ ลงมติรับรองโครงการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและทางทหาร เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งเอกราชแห่งชาติของบรรดาประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น ดังนั้น ในการสนองตอบสารพิเศษดังกล่าว รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านข้อมติร่วมกันเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1957 มอบให้ประธานาธิบดีมีอำนาจให้ความร่วมมือและอำนวยความช่วยเหลือแก่ชาติหรือ กลุ่มชาติต่างๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งต้องการความช่วยเหลือเช่นนั้น ในการที่จะพัฒนาพลังทางเศรษฐกิจเพื่อรักษาไว้ซึ่งเอกราชแห่งชาติตน และให้จัดโครงการช่วยเหลือทางทหารแก่ชาติต่างๆ ในภาคนั้นซึ่งต้องการความช่วยเหลือดังกล่าว ทั้งได้มอบอำนาจให้ประธานาธิบดีสามารถใช้กองทัพสหรัฐฯ เข้าช่วยเหลือชาติเหล่านั้นที่แสดงเจตนาขอความช่วยเหลือ เพื่อต่อต้านการรุกรานจากประเทศใด ๆ ที่อยู่ใต้อำนาจควบคุมของคอมมิวนิสต์ระหว่างประเทศ [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | New World Order | ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต] | persons of concern | บุคคลในความห่วงใย หมายถึง ผู้หนีภัยจากการประหัตประหารที่มิได้มีสถานะเป็นผู้ลี้ภัย หรือผู้พลัดถิ่น แต่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) จะดูแลช่วยเหลือโดยมีสถานะพิเศษตามที่ได้ตกลงกับประเทศผู้รับ [การทูต] |
|
| You don't want him to grow up soft, do you? It's tough out there. | แกเป็นคนเดียวที่ห่วงใยชั้นมาตลอด ชั้นจะฆ่าแกได้ไง Hero (1992) | I got friends here, people who care and someone who makes me feel good about myself. | ผมได้เพื่อนที่นี่, ผู้คนที่ห่วงใย... ...และใครบางคนที่ทำให้ผม รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง Mannequin (1987) | By having a night of distasteable sex with someone that you care absolutely nothing about. | โดยการมีเซ็กส์อย่างถึงพริกถึงขิง... ...กับใครบางคนที่ห่วงใยต่อคุณอย่างจริงใจ Mannequin (1987) | You can die, too, for all I care! | นายก็ตายซะ เพื่อคนที่ฉันห่วงใย! The Princess Bride (1987) | He cares nothing for you or the people you hurt. | พระองค์ทรงห่วงใยอะไรสำหรับคุณหรือคนที่คุณเจ็บ Teenage Mutant Ninja Turtles (1990) | People who cared for you all your life. | คนที่ห่วงใยชีวิตคุณมาตลอด Goodfellas (1990) | I had a letter from him yesterday, a very generous letter. | ฉันได้รับจดหมายจากเขาเมื่อวาน ท่าทางห่วงใยดี Pola X (1999) | if you care about them you'll obey me | หากคุณห่วงใยพวกเขา คุณต้องเชื่อฟังฉัน GTO (1999) | "If you care for them you will obey me" | "ถ้าหากคุณห่วงใยพวกเขา คุณต้องเชื่อฟังฉัน" GTO (1999) | Asano's mother is not bad mouthing you she's only expressing her concern | คุณแม่ของอาซาโนจะไม่พูดเรื่องไม่ดี เธอเพียงแสดงความห่วงใยเธอ GTO (1999) | My sole concern has always been and will always be the welfare of this school and, of course, its students. | สิ่งที่ผมห่วงใยมีอยู่อย่างเดียว และตลอดไป คือสวัสดิภาพของโรงเรียนนี้ และแน่นอนของนักเรียน Harry Potter and the Chamber of Secrets (2002) | And, look, it's signed "anonymous concerned citizen." | ดู มันเซ็นว่า "พลเมืองคนหนึ่งที่ห่วงใย" Inspector Gadget 2 (2003) | Well, it's good to know that we still have a concerned citizen who's willing to get involved. | ดีที่ได้รู้ว่าเรายังมีพลเมืองที่ห่วงใย... Inspector Gadget 2 (2003) | Just worry about your own life. | นี่หัดรู้จักห่วงใยใส่ใจชีวิตคุณเองบ้าง My Tutor Friend (2003) | No worries No hands folded perfect | ไม่ต้องการความห่วงใย ไม่ต้องเก็บเนื้อเก็บตัว Mulan 2: The Final War (2004) | No escorts, no manners, no nursemaids, No worries, no hands folded perfect | ไม่ต้องการพี่เลี้ยง ไม่ต้องมีมารยาท ไม่ต้องการคนดูแล ไม่ต้องการความห่วงใย ไม่ต้องเก็บเนื้อเก็บตัว Mulan 2: The Final War (2004) | We care about you. | เราห่วงใยคุณ Around the World in 80 Days (2004) | Appreciate the sentiment. | ขอบคุณสำหรับความห่วงใย 50 First Dates (2004) | Absolutely. But do I care about saving the open spaces? | แต่ฉันห่วงใยเรื่อง อนุรักษ์โอเพ่นสเปซมั้ย ฉันห่วง I Heart Huckabees (2004) | I had a fire and almost died, and he me. And he almost died 'use he res about the same things. | เขามาและเขาต้องเกือบตาย เพราะเขาห่วงใยในสิ่งเดียวกับฉัน I Heart Huckabees (2004) | But in a marriage, you're promising to care about everything - the good things, the bad things, the terrible things, the mundane things, | แต่ในการแต่งงาน คุณทำสัญญา ว่าจะห่วงใยทุกๆอย่าง เรื่องดี เรื่องไม่ดี เรื่องเลวร้าย เรื่องธรรมดา Shall We Dance (2004) | I really care for you. You saw it for yourself. Seriously. | ฉันห่วงใยแกจริงๆนะ แกไม่เห็นรึไง เพื่อตัวของเองนะ นี่มันเรื่องซีเรียส Kung Fu Hustle (2004) | I loved the way she looked at me. | ผมรักสิ่งที่เธอคอยห่วงใยใส่ใจผม Mr. Monk and the Blackout (2004) | You know, you live through something like this... it really makes you appreciate having the right woman in your life. | รู้ไม๊, หลังจากผ่านประสพการณ์แบบนี้... ทำให้ นายรุ้ว่านายรักห่วงใยใคร Fantastic Four (2005) | Our factory is there, I have no choice. | โรงงานเราอยู่ที่นั่น ผมไม่มีทางเลือก ผมจะบอกความห่วงใยของคุณกับโนบุซังเอง Memoirs of a Geisha (2005) | And if you still care for me wait for me. | และถ้าคุณยังคงห่วงใยชั้น. ...โปรดรอชั้นด้วย. The Lake House (2006) | I can see it, the two of us standing together. | เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าท่าน ห่วงใยราชัน 300 (2006) | The election. You need me to leave. | ผมห่วงใยโลก ผมแค่อยากรักษามัน Chapter Twenty-One 'The Hard Part' (2007) | Yeah, I am. | และเขาจะไม่หยุดจนกว่า ทุกสิ่งที่คุณห่วงใยสูญสิ้นไป Chapter Twenty-One 'The Hard Part' (2007) | ROSA CARED FOR YOU AS IF YOU WERE HER OWN, | โรซ่าห่วงใยเธอ เหมือนเธอเป็นลูก Betty's Wait Problem (2007) | - I did it, out of my own concern over your obsessive behavior. | จากความห่วงใยของฉันเอง ที่เห็นเธอหมกมุ่นเกินเหตุ That Night, a Forest Grew (2007) | If press find about this... so what am i mad, i am handling every thing alone. | ถ้านักข่าวเจอเรื่องนี้... เช่นนั้น ผมเป็นบ้าอะไร, ผมจัดการ ทุกอย่างโดยลำพัง คุณไม่แม้กระทั่งห่วงใย และความวิกลจริตนี้อีก, ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น กับคุณกันแน่ Om Shanti Om (2007) | I truly cared for her. | ผมค่อนข้างห่วงใยเธอ No Such Thing as Vampires (2007) | A girlfriend, anyone who cares-- | แฟน หรือใครที่ห่วงใย Out of the Past (2007) | A girlfriend, anyone who cares. | แฟน, ใครก็ตามที่แกห่วงใย Dr. Feelgood (2007) | Gosh, ever since your parents split up, you have your dad wrapped around your little finger. | พระเจ้า ตั้งแต่พ่อแม่เธอแยกทางกัน เธอมีพ่อเธอห่วงใยมาตั้งแต่ตีนเท้าฝาหอย Halloween (2007) | Totally wrapped. | ห่วงใยเสมอ Halloween (2007) | They tricked her, cared for her, | พวกนั้นลวงดาวดวงนั้น แสร้งทำห่วงใย Stardust (2007) | Love! Affection! Caring! | ความรัก ความลุ่มหลง ความห่วงใย! Heyy Babyy (2007) | It is time to announce that I have decided to trust the care of our family | ถึงเวลาแล้วที่จะประกาศว่าชั้นตัดสินใจ ที่จะเชื่อความห่วงใยในครอบครัวนี้ Frontier(s) (2007) | You are worried about me? | คุณห่วงใยชั้นเหรอ Spider Lilies (2007) | You are worried about what? [ Traps are everywhere on the internet. ] | คุณห่วงใยเรื่องอะไร ตำรวจอยู่ทุกที่ในอินเตอร์เน็ต Spider Lilies (2007) | So, tell me, how do you feel about paper? | เพราะว่าตราบเท่าที่เพื่อนและครอบครัว ยังเป็นที่ห่วงใย มันเป็นชีวิตของคุณ Chapter Seventeen 'Company Man' (2007) | This man tried to steal from Mr. Linderman. | คุณลินเดอร์แมนส่ง ความห่วงใยและคำแนะนำ Chapter Eighteen 'Parasite' (2007) | Interesting. I can't wait to try that one. | ฉันห่วงใยเธอนะ a great deal Chapter Nineteen '.07%' (2007) | Well, I didn't want you to think that we are parents who don't really bother or care about their kids. | ผมก็แค่ไม่อยากให้คุณคิดว่า... เราในฐานะพ่อแม่ แต่ไม่เคยห่วงใยลูกเลย Like Stars on Earth (2007) | Caring. It's very important, Mr Awasthi. | ความห่วงใย มันสำคัญมากครับ คุณอาวาสตี้ Like Stars on Earth (2007) | Caring. | ความห่วงใยนี่แหละ Like Stars on Earth (2007) | Isn't that how one would describe caring, Mr Awasthi? | นี่ไม่ใช่หรือที่คนๆหนึ่งสื่อถึงความห่วงใย คุณอาวาสตี้ Like Stars on Earth (2007) | It's nice to hear that you think that you care. | ก็ดีที่ได้ยินว่าคุณคิดว่าคุณห่วงใย Like Stars on Earth (2007) |
| You don't want him to grow up soft, do you? It's tough out there. | แกเป็นคนเดียวที่ห่วงใยชั้นมาตลอด ชั้นจะฆ่าแกได้ไง Hero (1992) | I got friends here, people who care and someone who makes me feel good about myself. | ผมได้เพื่อนที่นี่, ผู้คนที่ห่วงใย... ...และใครบางคนที่ทำให้ผม รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง Mannequin (1987) | By having a night of distasteable sex with someone that you care absolutely nothing about. | โดยการมีเซ็กส์อย่างถึงพริกถึงขิง... ...กับใครบางคนที่ห่วงใยต่อคุณอย่างจริงใจ Mannequin (1987) | You can die, too, for all I care! | นายก็ตายซะ เพื่อคนที่ฉันห่วงใย! The Princess Bride (1987) | He cares nothing for you or the people you hurt. | พระองค์ทรงห่วงใยอะไรสำหรับคุณหรือคนที่คุณเจ็บ Teenage Mutant Ninja Turtles (1990) | People who cared for you all your life. | คนที่ห่วงใยชีวิตคุณมาตลอด Goodfellas (1990) | I had a letter from him yesterday, a very generous letter. | ฉันได้รับจดหมายจากเขาเมื่อวาน ท่าทางห่วงใยดี Pola X (1999) | if you care about them you'll obey me | หากคุณห่วงใยพวกเขา คุณต้องเชื่อฟังฉัน GTO (1999) | "If you care for them you will obey me" | "ถ้าหากคุณห่วงใยพวกเขา คุณต้องเชื่อฟังฉัน" GTO (1999) | Asano's mother is not bad mouthing you she's only expressing her concern | คุณแม่ของอาซาโนจะไม่พูดเรื่องไม่ดี เธอเพียงแสดงความห่วงใยเธอ GTO (1999) | My sole concern has always been and will always be the welfare of this school and, of course, its students. | สิ่งที่ผมห่วงใยมีอยู่อย่างเดียว และตลอดไป คือสวัสดิภาพของโรงเรียนนี้ และแน่นอนของนักเรียน Harry Potter and the Chamber of Secrets (2002) | And, look, it's signed "anonymous concerned citizen." | ดู มันเซ็นว่า "พลเมืองคนหนึ่งที่ห่วงใย" Inspector Gadget 2 (2003) | Well, it's good to know that we still have a concerned citizen who's willing to get involved. | ดีที่ได้รู้ว่าเรายังมีพลเมืองที่ห่วงใย... Inspector Gadget 2 (2003) | Just worry about your own life. | นี่หัดรู้จักห่วงใยใส่ใจชีวิตคุณเองบ้าง My Tutor Friend (2003) | No worries No hands folded perfect | ไม่ต้องการความห่วงใย ไม่ต้องเก็บเนื้อเก็บตัว Mulan 2: The Final War (2004) | No escorts, no manners, no nursemaids, No worries, no hands folded perfect | ไม่ต้องการพี่เลี้ยง ไม่ต้องมีมารยาท ไม่ต้องการคนดูแล ไม่ต้องการความห่วงใย ไม่ต้องเก็บเนื้อเก็บตัว Mulan 2: The Final War (2004) | We care about you. | เราห่วงใยคุณ Around the World in 80 Days (2004) | Appreciate the sentiment. | ขอบคุณสำหรับความห่วงใย 50 First Dates (2004) | Absolutely. But do I care about saving the open spaces? | แต่ฉันห่วงใยเรื่อง อนุรักษ์โอเพ่นสเปซมั้ย ฉันห่วง I Heart Huckabees (2004) | I had a fire and almost died, and he me. And he almost died 'use he res about the same things. | เขามาและเขาต้องเกือบตาย เพราะเขาห่วงใยในสิ่งเดียวกับฉัน I Heart Huckabees (2004) | But in a marriage, you're promising to care about everything - the good things, the bad things, the terrible things, the mundane things, | แต่ในการแต่งงาน คุณทำสัญญา ว่าจะห่วงใยทุกๆอย่าง เรื่องดี เรื่องไม่ดี เรื่องเลวร้าย เรื่องธรรมดา Shall We Dance (2004) | I really care for you. You saw it for yourself. Seriously. | ฉันห่วงใยแกจริงๆนะ แกไม่เห็นรึไง เพื่อตัวของเองนะ นี่มันเรื่องซีเรียส Kung Fu Hustle (2004) | I loved the way she looked at me. | ผมรักสิ่งที่เธอคอยห่วงใยใส่ใจผม Mr. Monk and the Blackout (2004) | You know, you live through something like this... it really makes you appreciate having the right woman in your life. | รู้ไม๊, หลังจากผ่านประสพการณ์แบบนี้... ทำให้ นายรุ้ว่านายรักห่วงใยใคร Fantastic Four (2005) | Our factory is there, I have no choice. | โรงงานเราอยู่ที่นั่น ผมไม่มีทางเลือก ผมจะบอกความห่วงใยของคุณกับโนบุซังเอง Memoirs of a Geisha (2005) | And if you still care for me wait for me. | และถ้าคุณยังคงห่วงใยชั้น. ...โปรดรอชั้นด้วย. The Lake House (2006) | I can see it, the two of us standing together. | เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าท่าน ห่วงใยราชัน 300 (2006) | The election. You need me to leave. | ผมห่วงใยโลก ผมแค่อยากรักษามัน Chapter Twenty-One 'The Hard Part' (2007) | Yeah, I am. | และเขาจะไม่หยุดจนกว่า ทุกสิ่งที่คุณห่วงใยสูญสิ้นไป Chapter Twenty-One 'The Hard Part' (2007) | ROSA CARED FOR YOU AS IF YOU WERE HER OWN, | โรซ่าห่วงใยเธอ เหมือนเธอเป็นลูก Betty's Wait Problem (2007) | - I did it, out of my own concern over your obsessive behavior. | จากความห่วงใยของฉันเอง ที่เห็นเธอหมกมุ่นเกินเหตุ That Night, a Forest Grew (2007) | If press find about this... so what am i mad, i am handling every thing alone. | ถ้านักข่าวเจอเรื่องนี้... เช่นนั้น ผมเป็นบ้าอะไร, ผมจัดการ ทุกอย่างโดยลำพัง คุณไม่แม้กระทั่งห่วงใย และความวิกลจริตนี้อีก, ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น กับคุณกันแน่ Om Shanti Om (2007) | I truly cared for her. | ผมค่อนข้างห่วงใยเธอ No Such Thing as Vampires (2007) | A girlfriend, anyone who cares-- | แฟน หรือใครที่ห่วงใย Out of the Past (2007) | A girlfriend, anyone who cares. | แฟน, ใครก็ตามที่แกห่วงใย Dr. Feelgood (2007) | Gosh, ever since your parents split up, you have your dad wrapped around your little finger. | พระเจ้า ตั้งแต่พ่อแม่เธอแยกทางกัน เธอมีพ่อเธอห่วงใยมาตั้งแต่ตีนเท้าฝาหอย Halloween (2007) | Totally wrapped. | ห่วงใยเสมอ Halloween (2007) | They tricked her, cared for her, | พวกนั้นลวงดาวดวงนั้น แสร้งทำห่วงใย Stardust (2007) | Love! Affection! Caring! | ความรัก ความลุ่มหลง ความห่วงใย! Heyy Babyy (2007) | It is time to announce that I have decided to trust the care of our family | ถึงเวลาแล้วที่จะประกาศว่าชั้นตัดสินใจ ที่จะเชื่อความห่วงใยในครอบครัวนี้ Frontier(s) (2007) | You are worried about me? | คุณห่วงใยชั้นเหรอ Spider Lilies (2007) | You are worried about what? [ Traps are everywhere on the internet. ] | คุณห่วงใยเรื่องอะไร ตำรวจอยู่ทุกที่ในอินเตอร์เน็ต Spider Lilies (2007) | So, tell me, how do you feel about paper? | เพราะว่าตราบเท่าที่เพื่อนและครอบครัว ยังเป็นที่ห่วงใย มันเป็นชีวิตของคุณ Chapter Seventeen 'Company Man' (2007) | This man tried to steal from Mr. Linderman. | คุณลินเดอร์แมนส่ง ความห่วงใยและคำแนะนำ Chapter Eighteen 'Parasite' (2007) | Interesting. I can't wait to try that one. | ฉันห่วงใยเธอนะ a great deal Chapter Nineteen '.07%' (2007) | Well, I didn't want you to think that we are parents who don't really bother or care about their kids. | ผมก็แค่ไม่อยากให้คุณคิดว่า... เราในฐานะพ่อแม่ แต่ไม่เคยห่วงใยลูกเลย Like Stars on Earth (2007) | Caring. It's very important, Mr Awasthi. | ความห่วงใย มันสำคัญมากครับ คุณอาวาสตี้ Like Stars on Earth (2007) | Caring. | ความห่วงใยนี่แหละ Like Stars on Earth (2007) | Isn't that how one would describe caring, Mr Awasthi? | นี่ไม่ใช่หรือที่คนๆหนึ่งสื่อถึงความห่วงใย คุณอาวาสตี้ Like Stars on Earth (2007) | It's nice to hear that you think that you care. | ก็ดีที่ได้ยินว่าคุณคิดว่าคุณห่วงใย Like Stars on Earth (2007) |
| ห่วงใย | [huangyai] (v) EN: worry ; feel anxious about ; concern about FR: se préoccuper ; se soucier | ความห่วงใย | [khwām huangyai] (n) EN: worry ; care ; anxiety ; concern FR: souci [ m ] ; préoccupation [ f ] |
| anxiety | (n) ความวิตกกังวล, See also: ความกังวล, ความวิตก, ความห่วงใย, Syn. worry, concern, uneasiness, Ant. relief | bother about | (phrv) วิตกกังวลเกี่ยวกับ, See also: ห่วงใยในเรื่อง, Syn. bother with | bother with | (phrv) วิตกกังวลเกี่ยวกับ, See also: ห่วงใยในเรื่อง, Syn. bother about | care | (n) ความห่วงใย, Syn. concern, close attention | care | (vt) ห่วงใย, Syn. concern | care | (vi) ห่วงใย | caring | (adj) ที่ห่วงใยผู้อื่น, Syn. affection, kindness, Ant. dislike | devour with | (phrv) ห่วงใย, See also: กังวล | fear for | (phrv) วิตกกังวลเกี่ยวกับ, See also: ห่วงใยเกี่ยวกับ | get beyond | (phrv) เลิกสนใจ, See also: เลิกห่วงใย, ไม่ต้องดูแล, Syn. go past | house-proud | (idm) ความห่วงใยมากเกินไป (คำไม่เป็นทางการ) | reck | (vi) ระมัดระวัง, See also: ห่วงใย | reck | (vt) ระมัดระวัง, See also: ห่วงใย | beeswax | (sl) ภาระ, See also: ความวิตกกังวล, ความห่วงใย | ungreen | (adj) เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม, See also: ไม่ห่วงใยในสิ่งแวดล้อม | worry | (vi) วิตกกังวล, See also: กลุ้มใจ, เป็นทุกข์, พะวง, ห่วงใย, เป็นห่วง, กลุ้มใจ | worry about | (phrv) กังวลเกี่ยวกับ, See also: ห่วงใยเกี่ยวกับ, Syn. trouble about | worry over | (phrv) กังวลเกี่ยวกับ, See also: ห่วงใยเกี่ยวกับ, Syn. worry about |
| anxiety | (แองไซ'อิที) n. ความกังวล, ความห่วงใย, ความกลุ้มใจ, ความเป็นทุกข์, ความกระตือ รือร้น, เรื่องน่าห่วง, Syn. concern, worry | anxious | (แอง'เชิส) adj. ห่วงใย, น่าห่วง, กังวลใจ, เป็นทุกข์. -anxiousness n. |
| anxiety | (n) ความกังวล, ความกระวนกระวาย, ความกระตือรือร้น, ความห่วงใย | anxious | (adj) กระวนกระวาย, ห่วงใย, ร้อนใจ, กระตือรือร้น |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |