ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ศักย, -ศักย- |
ศักย | (adj) able, See also: capable, possible, Syn. ทำได้, สามารถ, เป็นได้, อาจจะ, อาจ, Notes: (สันสกฤต) | ศักยภาพ | (n) latency, Syn. ความสามารถ, สมรรถนะ, ประสิทธิภาพ | ศักยภาพ | (n) potential, See also: ability, capability, capacity, aptitude, power, potentiality, possibility, Example: ขบวนการขจก. ลดน้อยลงมากจึงไม่มีศักยภาพที่จะสั่นคลอนอำนาจรัฐได้แล้ว, Thai Definition: อำนาจหรือคุณสมบัติที่มีแฝงอยู่ในสิ่งต่างๆ อาจทำให้พัฒนาหรือให้ปรากฏเป็นสิ่งที่ประจักษ์ได้ | ความต่างศักย์ | (n) voltage, Example: เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดมีความต่างศักย์แตกต่างกันออกไป, Thai Definition: ความแตกต่างของพลังงานที่ใช้ดันกระแสไฟฟ้า |
| พลังงานศักย์ | น. พลังงานที่มีในเทหวัตถุ เนื่องจากตำแหน่งที่อยู่ของเทหวัตถุนั้น. | ศักย- ๑ | (สักกะยะ–) ว. อาจ, สามารถ. | ศักยภาพ | (สักกะยะพาบ) น. ภาวะแฝง, อำนาจหรือคุณสมบัติที่มีแฝงอยู่ในสิ่งต่าง ๆ อาจทำให้พัฒนาหรือให้ปรากฏเป็นสิ่งที่ประจักษ์ได้ เช่น เขามีศักยภาพในการทำงานสูง น้ำตกขนาดใหญ่มีศักยภาพในการให้พลังงานได้มาก. | ศักย- ๒ | (สักกะยะ-) น. ศากยะ. | ศักย์, ศักยะ | (สัก, สักกะยะ) น. พลังงานที่ใช้ดันกระแสไฟฟ้า ณ จุดใดจุดหนึ่ง มีหน่วยเป็นโวลต์. | ขั้วบวก | น. ขั้วไฟฟ้าที่มีศักย์ไฟฟ้าสูงกว่าอีกขั้วหนึ่ง. | ขั้วลบ | น. ขั้วไฟฟ้าที่มีศักย์ไฟฟ้าตํ่ากว่าอีกขั้วหนึ่ง. | สายดิน | น. สายตัวนำไฟฟ้าที่ต่อกับจุดใด ๆ ในวงจรไฟฟ้าให้เชื่อมกับพื้นโลก โดยประสงค์ให้จุดนั้น ๆ มีศักย์ไฟฟ้าเท่ากับศักย์ไฟฟ้าของโลก. | เหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า | น. ปรากฏการณ์ซึ่งมีกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นเนื่องจากอำนาจแม่เหล็ก, เรียกกระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้นเนื่องจากอำนาจแม่เหล็ก ว่า กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำ, เรียกเครื่องมือสำเร็จที่ใช้สำหรับเปลี่ยนศักย์ไฟฟ้าให้มีค่าสูงขึ้นมาก ๆ โดยอาศัยอำนาจแม่เหล็ก ว่า ขดลวดเหนี่ยวนำ. | โอห์ม | น. หน่วยวัดความต้านทาน ใช้สัญลักษณ์ Ω ความต้านทาน ๑ โอห์ม คือ ความต้านทานระหว่างจุด ๒ จุดบนตัวนำ ซึ่งเมื่อจุดคู่นี้มีความต่างศักย์ไฟฟ้า ๑ โวลต์แล้ว จะทำให้มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ ๑ แอมแปร์. |
|
| | Agricultural potential | ศักยภาพการเกษตร [เศรษฐศาสตร์] | Development potential | ศักยภาพในการพัฒนา [เศรษฐศาสตร์] | Industrial potential | ศักยภาพทางอุตสาหกรรม [เศรษฐศาสตร์] | Land capability | ศักยภาพของที่ดิน [เศรษฐศาสตร์] | Potenxtial energy | พลังงานศักย์, Example: พลังงานที่มีในวัตถุ เนื่องจากตําแหน่งที่อยู่ของวัตถุนั้น [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Electron volt | อิเล็กตรอนโวลต์, หน่วยหนึ่งของพลังงานหรืองาน 1 อิเล็กตรอนโวลต์ คือ พลังงานจลน์ของอิเล็กตรอนที่เคลื่อนที่ผ่านความต่างศักย์ไฟฟ้าขนาด 1 โวลต์ มีค่าเท่ากับ 1.603 x 10<sup>-12</sup> เอิร์ก [นิวเคลียร์] | Van de Graaff generator | เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแวนเดอแกรฟฟ์, เครื่องผลิตประจุไฟฟ้าสถิตศักย์สูง โดยประจุไฟฟ้าจากเครื่องกำเนิดประจุถูกส่งผ่านโลหะปลายแหลมไปยังสายพานซึ่งทำหน้าที่พาประจุขึ้นไปสะสมไว้ที่ผิวทรงกลมจนได้ศักย์ไฟฟ้าสูง เครื่องนี้สามารถสะสมประจุจนกระทั่งมีศักย์ไฟฟ้าสูงถึง 20 ล้านโวลต์ เครื่องนี้สามารถใช้เป็นเครื่องเร่งอนุภาคที่มีประจุ มักใช้เร่งอนุภาคก่อนยิงเข้าสู่เครื่องเร่งอนุภาคแบบอื่นที่ให้พลังงานสูงขึ้น รอเบิร์ต แวน เดอ แกรฟฟ์ (Robert Van de Graaff) เป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องมือนี้ในปี พ.ศ. 2474, Example: [นิวเคลียร์] | Van de Graaff accelerator | เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแวนเดอแกรฟฟ์, เครื่องผลิตประจุไฟฟ้าสถิตศักย์สูง โดยประจุไฟฟ้าจากเครื่องกำเนิดประจุถูกส่งผ่านโลหะปลายแหลมไปยังสายพานซึ่งทำหน้าที่พาประจุขึ้นไปสะสมไว้ที่ผิวทรงกลมจนได้ศักย์ไฟฟ้าสูง เครื่องนี้สามารถสะสมประจุจนกระทั่งมีศักย์ไฟฟ้าสูงถึง 20 ล้านโวลต์ เครื่องนี้สามารถใช้เป็นเครื่องเร่งอนุภาคที่มีประจุ มักใช้เร่งอนุภาคก่อนยิงเข้าสู่เครื่องเร่งอนุภาคแบบอื่นที่ให้พลังงานสูงขึ้น รอเบิร์ต แวน เดอ แกรฟฟ์ (Robert Van de Graaff) เป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องมือนี้ในปี พ.ศ. 2474 [นิวเคลียร์] | Patenability | ความสามารถของการประดิษฐ์ที่มีศักยภาพตามข้อกำหนดทางกฏหมายสิทธิบัตร, ความสามารถของการประดิษฐ์ที่มีศักยภาพตามข้อกำหนดทางกฏหมายสิทธิบัตร, Example: รวมถึงความใหม่ ในบางประเทศไม่นับรวมสิ่งมีชีวิต และซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ปกติมีเกณฑ์หลัก 3 เกณฑ์ คือ ใหม่ที่สุดในโลก มีขั้นตอนการประดิษฐ์สูงขึ้นกว่าเดิม และประยุกต์กับภาคอุตสาหกรรมได้ [ทรัพย์สินทางปัญญา] | Potential exposure | การรับรังสีไม่คาดหมาย, การรับรังสีเชิงศักย์, การรับรังสีที่ไม่ได้คาดไว้ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากการดำเนินงานตามปกติ เช่น เกิดจากอุบัติเหตุของต้นกำเนิดรังสี เครื่องมือชำรุดเสียหาย หรือเกิดความผิดพลาดในการดำเนินงาน การรับรังสีนี้ สามารถวิเคราะห์ ประเมิน และกำหนดแนวทางป้องกัน เพื่อลดโอกาสการรับรังสี [นิวเคลียร์] | Assistive Technology | เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก, เครื่องมือ อุปกรณ์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือบริการที่ใช้สำหรับคนพิการหรือผู้สูงวัย หรือที่มีการดัดแปลงหรือปรับใช้ให้ตรงกับความต้องการจำเป็นพิเศษของแต่ละบุคคล เพื่อเพิ่ม รักษา คงไว้ หรือพัฒนาความสามารถและศักยภาพที่จะเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร การสื่อสาร รวมถึงกิจกรรมอื่นใดในชีวิตประจำวันเพื่อการดำรงชีวิตอิสระ [Assistive Technology] | Rating of | การประเมินศักยภาพ [TU Subject Heading] | Self rating of | การประเมินศักยภาพตนเอง [TU Subject Heading] | Gravitational Potential | ศักย์โน้มถ่วง, Example: งาน (work) ต่อจำนวนของน้ำบริสุทธิ์ ที่ต้องใช้ในการเคลื่อนย้ายน้ำในดิน จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งที่มีความสูงแตกต่างกัน ดังสมการ Yz = r g z เมือ Yz คือ ศักย์โน้มถ่วง z คือ ระดับความสูงที่แตกต่างกัน r คือ ความหนาแน่นของน้ำ g คือ แรงโน้มถ่วง [สิ่งแวดล้อม] | Erosivity | ศักยภาพการกร่อน, Example: ศักยภาพของตัวการ เช่น น้ำ ลม และแรงโน้มถ่วง ฯลฯ ที่ทำให้เกิดการกร่อน [สิ่งแวดล้อม] | Oxidation-Reduction Potential | ศักย์ออกซิเดชัน-รีดักชัน, Example: ความต่างศักย์ที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายอีเล็ก ตรอนจากตัว oxidant ไปยังตัว reductant [สิ่งแวดล้อม] | ASEAN Industrial Cooperation Scheme | โครงการความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมอาเซียน เป็นมาตรการเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัตถุดิบการผลิตในรูปสินค้าสำเร็จ รูป/กึ่งสำเร็จรูป เพื่อใช้ในการผลิตทางอุตสาหกรรมระหว่างบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศอาเซียน อันจะเป็นการสนับสนุนการแบ่งกันผลิตและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของภาค อุตสาหกรรมในอาเซียน โดยจะต้องเป็นความร่วมมือตั้งแต่สองประเทศขึ้นไป และมีคนชาติประเทศสมาชิกอาเซียนมีหุ้นส่วนอยู่ในแต่ละบริษัทอย่างน้อยร้อยละ 30 สินค้าที่ได้รับอนุมัติให้อยู่ในโครงการจะได้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรใน อัตราร้อยละ 0-5 ในทันที โดยไม่ต้องรอให้เขตการค้าเสรีอาเซียนมีผลบังคับใช้ [การทูต] | Commission on Human Rights | คณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น [การทูต] | emerging markets | ตลาดเกิดใหม่ มี 2 ความหมาย ความหมายที่ 1 คือ ตลาดที่อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่เริ่มเติบโตขึ้นและซับซ้อน มากขึ้น ส่วนความหมายที่ 2 คือ ตลาดในประเทศกำลังพัฒนาที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาต่อไปได้ [การทูต] | Free Trade Zones | เขตปลอดภาษี เป็นอาณาบริเวณที่อยู่ใกล้ท่าเรือหรือท่าอากาศยานที่อนุญาตให้นำเข้าโดยไม่ ต้องเสียภาษีนำเข้า ทั้งนี้ อาจเป็นการนำเข้าเพื่อส่งไปยังประเทศที่สาม หรือนำเข้าเพื่อใช้ในการผลิตสินค้าสำหรับส่งออกตามที่กฎหมายกำหนด จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตสินค้าของประเทศ นั้น ๆ ให้สามารถส่งออกไปขายแข่งกับตลาดโลกได้มากขึ้น [การทูต] | International Law Enforcement Academy | สถาบันฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย จัดตั้งขึ้นในประเทศไทยเมื่อเดือนกันยายน 2541 เป็นโครงการ 3 ปี (ระหว่าง 2541-2544) โดยสหรัฐอเมริกาให้เงินสนับสนุน 3 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจัดการฝึกอบรมแก่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน เพื่อเสริมศักยภาพการดำเนินการตามกฎหมายในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ระหว่างประเทศ [การทูต] | New World Order | ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต] | Thailand ? Cambodia Joint Development Study for Economic Cooperation Plan | โครงการจัดทำแผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจและแผน ปฏิบัติการระหว่างไทย-กัมพูชา มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนา ตลอดจนสาขาทางเศรษฐกิจที่ควรมีความร่วมมือต่อกันเพื่อกระตุ้นให้เกิดความ ร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-กัมพูชาในระยะสั้น ระยะปานกลางและระยะยาว รวม 5 สาขา ได้แก่ โครงสร้างทางกายภาพ (ถนนและไฟฟ้า) อุตสาหกรรมการเกษตรและประมง อุตสาหกรรมเบา การพัฒนาการท่องเที่ยว และการเชื่อมโยงทางการค้า โดยจะส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทและลงทุนในกิจกรรมทางเศรษฐกิจดัง กล่าว ทั้งนี้ โครงการและกิจกรรมต่าง ๆ จะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 15 ปี เริ่ม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 เป็นต้นไป [การทูต] | United Nations University | มหาวิทยาลัยสหประชาชาติ จัดตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1973 ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นสถาบันอิสระที่บริหารปกครองตนเองภายในโครงร่างของสหประชาชาติ เรียกได้ว่าเป็นสถาบันการศึกษาที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือ ระหว่างประเทศในเชิงวิชาการ ในอันที่จะมีส่วนช่วยเหลือเกื้อกูลต่อการแก้ปัญหาเร่งด่วนต่าง ๆ ของโลก มหาวิทยาลัยนี้มีลักษณะไม่เหมือนกับมหาวิทยาลัยอื่นทั่ว ๆ ไป ทั้งในด้านโครางสร้างและแบบอย่างการดำเนินงาน กล่าวคือ ไม่มีนิสิตนักศึกษาของตนเอง ไม่มีคณะในมหาวิทยาลัย และไม่มีบริเวณมหาวิทยาลัย (campus) ดำเนินงานภายในเครือข่ายของสถาบันวิจัยและวิชาการต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งศูนย์ฝึกและศูนย์วิจัยของตนเอง ทั้งยังรวมไปถึงผู้คงแก่เรียนเป็นรายบุคคลด้วย ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันหาทางแก้ปัญหาต่าง ๆ ของโลกเป็นจุดสำคัญเรื่องที่มหาวิทยาลัยสหประชาชาติกำลังกังวลและสนใจอยู่ใน ขณะนี้ คือ เรื่องเกี่ยวกับค่านิยมของมนุษย์ทั่วโลก รวมทั้งความรับผิดชอบทั้งหลายที่มนุษย์ทั่วโลกจะพึงมี เรื่องทิศทางใหม่ ๆ ในภาวะเศรษฐกิจที่กลังปรากฏอยู่ในโลก รวมทั้งเรื่องความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และวิทยาการทางเทคโนโลยีเรื่องพลัง ที่ทำให้เกิดความผันแปรระหว่างพลเมืองของโลก ตลอดจนเรื่องสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ยังมุ่งหมายที่จะช่วยเพิ่มพูนศักยภาพในการวิจัย และการฝึกในประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลายด้วย และภายในมหาวิทยาลัยเองก็กำลังสนใจด้านวิจัยและการฝึกฝนในบางเรื่องโดยเฉพาะ [การทูต] | linear electron accelerator | เครื่องเร่งอิเล็กตรอนเชิงเส้น, เป็นเครื่องเร่งอนุภาคแบบหนึ่ง ใช้เร่งอิเล็กตรอน โดยอิเล็กตรอนจะถูกเร่งให้วิ่งเป็นเส้นตรงภายใต้สนามไฟฟ้าสถิตย์(electrostatic field) หรือสนามไฟฟ้าสลับย่านความถี่คลื่นวิทยุ (Radio frequency field) เครื่องเร่งอนุภาคทั้งสองแบบ ให้อิเล็กตรอนที่มีช่วงพลังงานแตกต่างกัน ในเครื่องเร่งแบบไฟฟ้าสถิตย์ (electrostatic accelerator)หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เครื่องเร่งแบบกระแสตรง (DC-accelerator) อิเล็กตรอนถูกเร่งให้วิ่งเป็นเส้นตรง ภายใต้ความต่างศักย์ระหว่างขั้วไฟฟ้า 2 ขั้ว เครื่องเร่งชนิดนี้สามารถเร่งลำอิเล็กตรอนให้มีพลังงานระหว่าง 0.1-0.5 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ นิยมใช้ในงานเคลือบผิววัตถุ การปรับปรุงคุณภาพวัสดุ เช่น ฉนวนหุ้มสายไฟ การวัลคาไนซ์ของน้ำยาง ในเครื่องเร่งแบบใช้สนามไฟฟ้าย่านความถี่คลื่นวิทยุ (high frequency accelerator) อิเล็กตรอนถูกเร่งให้วิ่งผ่านท่อทรงกระบอกซึ่งเรียงกันเป็นเส้นตรง และต่อกับแหล่งกำเนิดศักดาไฟฟ้าซึ่งสลับขั้วด้วยความถี่ในย่านของคลื่นวิทยุ เครื่องเร่งนี้สามารถเร่งลำอิเลคตรอนให้มีพลังงานสูงในช่วง 5-10 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ เหมาะสำหรับงานผลิตเวชภัณฑ์ปลอดเชื้อ และงานวิจัยทางฟิสิกส์ [พลังงาน] | Absolute Potentials | ค่าศักย์สมบูรณ์ [การแพทย์] | Action Potential Period | ระยะเวลาที่เกิดศักย์ไฟฟ้า [การแพทย์] | Action Potentials | ศักย์ขณะทำงาน, ศักย์ไฟฟ้า, ศักย์ไฟฟ้าขณะทำงาน, ศักย์ในการทำงาน, กระแสไฟฟ้า, ศักย์ไฟฟ้าขณะกำลังทำงาน, ศักย์ไฟฟ้าขณะทำงาน [การแพทย์] | Action Potentials, Compound | ศักย์ไฟฟ้าขณะทำงานผสม [การแพทย์] | Behavioral Potentials | ศักยภาพแห่งพฤติกรรม [การแพทย์] | Bioelectric Potentials | ศักย์ไฟฟ้า2ขั้ว [การแพทย์] | Chemical Potentials | ศักยภาพทางเคมี [การแพทย์] | Depolarization | ดีโพลาไรเซชัน, การกระตุ้น, ดีโปลาไรเซซั่น, การลดความต่างศักย์, ทิศทางการกระจายของคลื่นไฟฟ้า [การแพทย์] | Depolarization, Local | การเปลี่ยนความต่างศักย์ไฟฟ้าเฉพาะที่ [การแพทย์] | Depolarizing Current | วงจรที่ลดความต่างศักย์ [การแพทย์] | Depolarizing Stimulus | สิ่งเร้าโดยลดความต่างศักย์ [การแพทย์] | Diastolic Potentials, Maximum | ความต่างศักย์สูงสุดที่ส่งผ่านผิวเนื้อเยื่อ [การแพทย์] | Diffusion Potentials | ศักย์การแพร่ [การแพทย์] | Electric Potentials | ศักยทางไฟฟ้า [การแพทย์] | Electrical Potential Difference | การเปลี่ยนแปลงความต่างศักย์ทางไฟฟ้า [การแพทย์] | Electrical Potentials | ศักย์ทางไฟฟ้า, ความต่างศักย์ไฟฟ้า, ศักย์ไฟฟ้า, ความแตกต่างในศักย์ไฟฟ้า [การแพทย์] | Electrochemical Potentials | ศักยภาพทางเคมีไฟฟ้า, ศักย์ไฟฟ้าเคมี [การแพทย์] | Electrode Potentials | ศักย์ไฟฟ้าอีเล็คโตรด [การแพทย์] | Electrodes, Active | ความต่างศักย์ระหว่างขั้วไฟฟ้า [การแพทย์] | Endocochlear Potentials | ศักย์บวกภายในอวัยวะรูปหอยโข่งที่เป็นกระแสสลับ [การแพทย์] | Energy, Gravitational Potential | พลังงานศักย์ที่เกิดจากแรงโน้มถ่วงของโลก [การแพทย์] | Energy, Potential Chemical | พลังงานศักย์ [การแพทย์] | Evoked Potentials | กระแสไฟที่เกิดขึ้นที่กล้ามเนื้อ, ศักย์บันดล, ศักยบันดล, การตอบสนองโดยทันที [การแพทย์] | Capillary potential | ศักย์ของการซึมขึ้น [อุตุนิยมวิทยา] | Potential due to hydrostatic pressure | ศักย์เนื่องจากความ กดของน้ำนิ่ง [อุตุนิยมวิทยา] |
| You've got a legal obligation to protect a potential victim. | คุณมีข้อตกลงทางกฎหมายที่จะปกป้อง เหยื่อที่มีศักยภาพ Basic Instinct (1992) | The potentials for human advancement are endless! | การพัฒนาศักยภาพมนุษย์ เป็นอันจบสิ้นกันแล้ว! The Lawnmower Man (1992) | It works with a human subject, Timms. | โครงการพัฒนาศักยภาพมันได้ผล ทิมส์ The Lawnmower Man (1992) | - Potential for your drug is remarkable. | - ศักยภาพยาของคุณจะต้องไม่ธรรมดาแน่ Junior (1994) | We'll put on the greatest military show the world has ever known. | เราจะแสดง ศักยภาพทางการทหาร ให้โลกเห็น The Great Dictator (1940) | It's no secret that children from slums are potential menaces to society. I think... | มันเป็นความลับที่เด็กจากสลัมเป็น menaces ศักยภาพในสังคมไม่มี ผมคิดว่า ... 12 Angry Men (1957) | I rallied to the flag in October 1939 and was immediately selected as officer potential. | ฉันทำใจให้ธงในตุลาคม 1939 และได้รับเลือกทันที เป็นเจ้าหน้าที่ที่มีศักยภาพ How I Won the War (1967) | This is designated as a potential Code 3 Red Alert. | ซึ่งจะกำหนดไว้ เป็นรหัสที่มีศักยภาพ 3 แดง Mad Max (1979) | Listen, I pride myself on being able to size up a job applicant and see just what kind of executive potential he has. | ฉันภูมิใจความสามารถของตัวเอง ในการประเมินศักยภาพของผู้สมัครงานทุกคน... รวมถึงตำแหน่งงานที่เหมาะสม ตามศักยภาพนั้น ๆ ของแต่ละคนด้วย Mannequin (1987) | Thanks to you so many potentials began to show up this should not be crushed | ขอบคุณมาก ศักยภาพมากมายเหล่านี้กำลังจะเริ่มแสดงขึ้น มันไม่ควรถูกบดขยี้ GTO (1999) | I think she's got a lot of potential. | ผมว่าเธอมีศักยภาพมากเลย Legally Blonde (2001) | You see, my caste concentrated... on expanding our cerebral abilities. | เจ้าได้เห็นแล้วว่า ชนัช้นเรากำลังขยาย พลังสมองให้มีศักยภาพ The Time Machine (2002) | so you can increase your profit potential. | เพื่อให้คุณสามารถเพิ่มศักยภาพในการสร้างกำไร The Corporation (2003) | In response to the potential volcanic threat to Dante's Peak, | ในการตอบสนองที่มีศักยภาพ ภูเขาไฟภัยคุกคามที่จะพีคของดันเต้, Dante's Peak (1997) | You have as much riding on this as I do. | คุณมีศักยภาพที่จะทำเรื่องนี้เหมือนกับที่ผมทำ Anacondas: The Hunt for the Blood Orchid (2004) | And if she's going to fulfill her potential, there's no room in her life for some gang member. | ถ้าเธอจะเติมเต็มศักยภาพชีวิต เธอก็ไม่มีที่สำหรับสมาชิกก๊กไหนๆ Gridiron Gang (2006) | Unfortunately, ma'am, it has been scientifically proven that lack of intelligence is genetically inherited, hence contagious in a way. | แผนกเราไม่อยากให้ผิดพลาดครับ การทดสอบเชาว์ปัญญาเป็นเรื่องที่ เราต้องคัดเลือกคนมีคุณภาพเข้าประเทศ หรือมีศักยภาพพอใช้ได้ Golden Door (2006) | Is he finally standing at the threshold of true human potential? | หรือมนุษย์กำลังเริ่มก้าวสู่ ศักยภาพแท้จริงของมนุษย์ในที่สุด Chapter One 'Genesis' (2006) | (Sylar) You helped me to discover my potential. | (ไซลาส) คุณต้องช่วยผม เพื่อค้นหาศักยภาพของผม Chapter Two 'Don't Look Back' (2006) | You helped me to discover my potential. | คุณช่วยให้ฉันค้นพบศักยภาพของฉันเอง Chapter Ten 'Six Months Ago' (2006) | Waiting to unlock their true potential. I know it. | รอที่จะปลดศักยภาพที่แท้จริงของพวกเขา ฉันรู้ Chapter Ten 'Six Months Ago' (2006) | - Their full potential! | - ในการพัฒนาศักยภาพให้เต็มที่ไง That Night, a Forest Grew (2007) | I've got some tests here to figure out your potential. | ต้องมีการทดสอบ ศักยภาพก่อน Surf's Up (2007) | Look, Mrs. Bartlett, to be honest, I think he has a lot of potential. | คุณนายบาร์ทเล็ตครับ ด้วยใจจริง ผมคิดว่าเขามีศักยภาพสูงมาก Charlie Bartlett (2007) | Mom! | สลับคู่ผสมพันธุ์กันเพื่อให้ได้ ลูกที่มีศักยภาพดีที่สุด Chapter Sixteen 'Unexpected' (2007) | Mom! | คุณหมายความว่าอะไร เรื่องศักยภาพที่ดีที่สุด? Chapter Sixteen 'Unexpected' (2007) | I mean, I helped you out of a tough spot, spared you that long walk to the gas chamber, even. | เขาพูดว่า คุณพูดว่าอย่างนั้น เขาบอกว่าคุณไม่มีความเข้าใจ ในศักยภาพของตัวคุณเอง... ศักยภาพของตัวคุณเอง Chapter Nineteen '.07%' (2007) | Your potential is endless like the sky | ศักยภาพเธอนั้นกว้างใหญ่ดั่งท้องฟ้า Like Stars on Earth (2007) | Tereus is the only one whose fighting potential compares to Briareos. | เทเรอุสเป็นเพียงคนเดียวที่ศักยภาพการต่อสู้ สูสีกับไบรอาเรียส Appleseed Ex Machina (2007) | This will enhance our.... | ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพของ... Appleseed Ex Machina (2007) | Morgan, do you remember a time when I actually had potential? | มอร์แกน, นายจำตอนที่ ฉันมีศักยภาพได้มั้ย? Chuck Versus the Seduction (2008) | Bennett has been extremely effective at stealing weapons and reselling them on the global black market. | เบ็นเน็ตต์มีศักยภาพสูงสุด ที่จะขโมยอาวุธต่างๆ แล้วขายให้กับ ตลาดมืดทั่วโลก Chuck Versus the Sensei (2008) | He has potential. He may succeed here. | เขามีศักยภาพ อาจทำเรื่องนี้สำเร็จก็ได้ It's the Great Pumpkin, Sam Winchester (2008) | He's very resistant, but a classic abandoned child. | เขาเป็นคนที่ขัดขวางมากๆ แต่เป็นก็เด็กถูกละทิ้งที่มีศักยภาพสูง The Sunshine State (2008) | This was the kind of guitar that had possibilities. | มันเป็นกีตาร์ ที่มีศักยภาพมากมาย It Might Get Loud (2008) | The potency of the dose that i found In mr. | ศักยภาพของปริมาณที่ใช้ ที่ผมพบ The Dreamscape (2008) | In its potent form, Used as a chemical weapon. | มันมีศักยภาพพัฒนา The Dreamscape (2008) | The hot ones are the ones that cause trouble the ones that distract you from realizing your true potential. | คนที่ฮอตคือคนที่เป็นทำให้เกิดเรื่องเดือดร้อน ที่ทำให้คุณไขว้เขวจากการตระหนักถึงการมีศักยภาพที่แท้จริง All by Myself (2008) | Not like there wasn't potential. | แค่นั้นมันไม่มีศักยภาพ ที่จะให้เกิดเรื่องนี้ Lucky Thirteen (2008) | The potential to be... | มีศักยภาพที่จะเป็น Heroes: Countdown to the Premiere (2008) | - Why have you brought me here? - Because you have the potential | แล้วทำไมคุณถึงพาผมมาที่นี่ละครับ เพราะตัวเธอมีศักยภาพ Superhero Movie (2008) | Now our operation is small but there is a lot of potential for aggressive expansion. | เดี๋ยวนี้... เอาหล่ะปฏิการของเราเล็กก็จริง แต่มีศักยภาพสูงส่ง... The Dark Knight (2008) | You're not maximizing your potential. Think this girl takes you seriously? | คุณไม่ได้ขยายศักยภาพตัวเองให้เต็มที่ คิดว่าแม่สาวนี่จะจริงจังกับคุณรึ Pineapple Express (2008) | ...which means that our weekly capabilities would be almost tripled, so, therefore, by the end of the summer... | ...ซึ่งแสดงว่า เราจะมีศักยภาพต่อสัปดาห์หนึ่ง มากขึ้นถึง 3 เท่าตัว... ดังนั้น ก่อนหมดหน้าร้อนนี้... The Boy in the Striped Pajamas (2008) | Now under the classified Alien Autobot Cooperation Act, you are agreeing to share your intel with us, but not your advancements in weaponry. | ณ ตอนนี้ ภายใต้หน่วยลับ ร่วมกับเอเลี่ยน ออโต้บอท คุณได้เห็นดีด้วยที่จะแบ่งปันศักยภาพของคุณกับเรา แต่ไม่ใช่เพื่อการพัฒนาด้านอาวุธคุณ Transformers: Revenge of the Fallen (2009) | We've witnessed your human capacity for war. | เราได้ศึกษาด้านศักยภาพด้านการรบของมนุษย์แล้ว Transformers: Revenge of the Fallen (2009) | He's got great potential. | เขามีศักยภาพมาก Nothing But the Blood (2009) | - It's not that you must think, that people of good birth and successfully, flirts off potential, could be. | ที่จะคิดว่าผู้คนที่มีชนชั้นและประสบความสำเร็จ จะเพิ่มศักยภาพได้ในชีวิตจริง จริงไหม Drag Me to Hell (2009) | In light of Mr Sheltons economic means and his, potential flight risk, the egregious nature of both | ในแง่มุมทางเศรษฐกิจของคุณเชลตันและ ศักยภาพของเขามีความเสี่ยง เป็นธรรมชาติที่จะทำให้เขาฆ่าทั้งสองได้ Law Abiding Citizen (2009) | I'm sorry. Hank Schrader. | คุณครูไวท์ คงจะมองเห็นศักยภาพในตัวเจสซี่ Grilled (2009) |
| การพัฒนาศักยภาพมนุษย์ | [kān phatthanā sakkayaphāp manut] (n, exp) EN: human potential development | ความต่างศักย์ | [khwām tāng sak] (n, exp) EN: potential difference FR: différence de potentiel [ f ] | ความต่างศักย์ไฟฟ้า | [khwām tāng sak faifā] (n, exp) EN: electrical potential differenc | พลังงานศักย์ | [phalang-ngān sak] (n, exp) EN: potential energy FR: énergie potentielle [ f ] | พลังงานศักย์โน้มถ่วง | [phalang-ngān sak nōmthūang] (n, exp) EN: gravitational potential energy FR: énergie potentielle gravitationnelle [ f ] | พลังงานศักย์ยืดหยุ่น | [phalang-ngān sak yeūtyun] (n, exp) EN: elastic potential energy FR: énergie potentielle élastique [ f ] | พลังศักยภาพ | [phalang sakkayaphāp] (n, exp) EN: latent force | ผู้สมัครที่มีศักยภาพ | [phūsamak thī mī sakkayaphāp] (n, exp) EN: potential candidate FR: candidat potentiel [ m ] | ศักย์ | [sak] (n) EN: voltage ; electrical potential FR: potentiel électrique [ m ] | ศักย์ไฟฟ้า | [sak faifā] (n, exp) EN: electric potential | ศักย | [sakkaya] (n, exp) EN: voltage ; electrical potential FR: potentiel électrique [ m ] | ศักย | [sakkaya] (adj) EN: latent ; potential ; capable ; possible FR: potentiel ; latent | ศักยภาพ | [sakkayaphāp] (n) EN: potential ; ability ; capability ; capacity ; competency ; aptitude ; power ; potentiality ; possibility FR: compétence [ f ] | ศักยภาพ | [sakkayaphāp] (n) EN: latency | ศักยภาพของตลาด | [sakkayaphāp khøng talāt] (n, exp) EN: market potential | ศักยภาพในการแข่งขัน | [sakkayaphāp nai kān khaengkhan] (n, exp) EN: competitiveness |
| faculty | (n) ศักยภาพหรือความสามารถในด้านร่างกายและจิตใจ, See also: สติปัญญา | latency | (n) การซ่อนเร้นอยู่ภายใน, See also: การแฝงอยู่, ศักยภาพ | potency | (n) ศักยภาพ, See also: อำนาจ, ความสามารถ, พละกำลัง, Syn. power, energy, vigor, influence, control, Ant. weakness | potential | (n) ศักยภาพที่จะพัฒนาได้, See also: สมรรถภาพ, Syn. capability, ability, Ant. inability, incompetence | potential difference | (n) ความแตกต่างของขั้วไฟฟ้า, See also: ศักย์ไฟฟ้า, Syn. voltage | potentiality | (n) ความสามารถที่ซ่อนเร้น, See also: ศักยภาพ, Syn. ability, capacity, possibility | voltameter | (n) เครื่องมือวัดความต่างศักย์ระหว่าง 2 จุด |
| ampere | (แอม' แพร์, แอมแพร์') n. หน่วยของกำลังไฟฟ้าที่เท่ากับกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านความต้านทานหนึ่งโอห์ม เมื่อมีศักยไฟฟ้าหนึ่งโวลต์ หรือมีค่าเท่ากับหนึ่งคูลอมบ์ต่อวินาที. | arpanet | (อาร์ปาเน็ต) ARPA นั้นย่อมาจาก Advanced Research Project Agency เป็นชื่อหน่วยงานที่ทำการวิจัยและทดลองเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วประเทศของกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา ที่เชื่อมโยงสถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยมีจุดประสงค์ที่จะเพิ่มศักยภาพทางการทหารให้แก่กระทรวงกลาโหม ปัจจุบัน เครือข่ายอาร์ปาเน็ต ได้ไปผนวกเข้ากับเครือข่ายอื่น ๆ อีกหลายเครือข่าย เป็นเครือข่ายรวมใหญ่ในชื่อว่า "อินเตอร์เน็ต" (Internet) | darpanet | (ดาร์พาเน็ต) ย่อมาจาก Defense Advanced Research Projects Agency Network (แปลว่า เครือข่ายสำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงของกระทรวงกลาโหม) เป็นชื่อหน่วยงานที่เป็นเครือข่ายสำนักงานที่ทำโครงการวิจัยขั้นสูงทั่วประเทศของกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา ที่เชื่อมโยงสถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยมีจุดประสงค์ที่จะเพิ่มศักยภาพทางการทหารให้แก่กระทรวงกลาโหม ปัจจุบันเครือข่ายดาร์ปาเน็ต ได้ไปผนวกเข้ากับเครือข่ายอื่น ๆ อีกหลายเครือข่าย เป็นเครือข่ายรวมใหญ่ในชื่อว่า "อินเตอร์เน็ต" (internet) ดู internet ประกอบ | latency | (เลท'เทินซี) n. การซ่อนเร้นอยู่ภายใน, การแฝงอยู่, ศักยภาพ, ระยะแฝง, สิ่งที่แฝงอยู่, ปัจจัยที่แฝงอยู่, Syn. abeyance | latent | (เลท'เทินทฺ) adj. แฝงอยู่, ซ่อนเร้น, แอบแฝง, ศักยะ. | potential | (โพทัน'เชิล) adj. เป็นไปได้, เป็นได้, กลายเป็นได้, มีความสามารถซ่อนเร้นอยู่, ซ่อนแฝง. n. ความเป็นไปได้, ความสามารถหรือำนาจที่ซ่อนเร้นอยู่, ศักยะทางไฟฟ้า หลุมลึก | potentiality | (พะเทนชิแอล'ลิที) n. ศักยภาพ, สิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่, ความเป็นไปได้, ขีดความสามารถ | voltage | (โวล'ทิจฺ) n. แรงดันไฟฟ้าหรือความแตกต่างศักยะที่มีหน่วยเป็นโวลต์ | watt | (วอท) หน่วยกำลังไฟฟ้าเป็นเมตร-กิโลกรัม-วินาท'มีค่าเท่ากับหนึ่ง joule ต่อวินาทีและเท่ากับกำลังไฟฟ้าของกระแสไฟฟ้าหนึ่งแอมแปร์ที่ไหลผ่านความต่างศักย์หนึ่งโวลท์ |
| ability | (n) ศักยภาพ, ความสามารถ, สมรรถภาพ | potential | (adj) ศักยะ, อาจเป็นไปได้, สามารถเป็นได้ | potentiality | (n) ศักยภาพ, ความเป็นไปได้, ขีดความสามารถ |
| Inclusive Education | (n) การศึกษาแบบเรียนร่วม การจัดการศึกษาให้กับกลุ่มบุคคลที่มีความต้องการพิเศษ เช่น คนพิการ คนด้อยโอกาส คนไร้สัญชาติ คนอพยพ โดยคำนึงถึงการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ในโรงเรียน หรือระบบการศึกษาแบบปกติ มีจุดมุงหมายเพื่อสร้างความเข้าใจ และการยอมรับความแตกต่าง ความสามารถระหว่างบุคคล เพื่อให้ผู้เรียนค้นพบศักยภาพของตนเอง และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปกติสุข | Multipotentialite | [มัลติ โพเทน เชียล ไลท์] (n) นที่มีศักยภาพหลากหลายด้าน หรือชอบทำหลายอย่างจนทำให้ตัวเองไม่เจอด้านที่ชอบที่สุด | plant health | (n) ความสามารถในการทำหน้าที่ทางสรีระวิทยาตามปกติในระดับที่ยอมรับได้ ซึ่งสอดคล้องกับศักยภาพทางพันธุกรรม | Prostaglandins | ที่มีศักยภาพฮอร์โมนเช่นสารที่พบในหลายเนื้อเยื่อร่างกาย (และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในน้ำอสุจิ); ผลิตในการตอบสนองต่อการบาดเจ็บและอาจส่งผลกระทบต่อความดันโลหิตและการเผาผลาญและกิจกรรมกล้ามเนื้อเรียบ | self-actualization | (n) การค้นหาศักยภาพสูงสุดของตัวเอง; การค้นหาตัวตนที่แท้จริง | self-actualization (psychology) | (n) ความตระหนักในศักยภาพสูงสุดของตน |
| Spannungsmesser | (n) |der, pl. Spannungsmesser| เครื่องมือวัดความต่างศักย์ไฟฟ้า, Syn. Voltmeter | Energieumwandlung | (n) |die, pl. Energieumwandlungen| การเปลี่ยนรูปของพลังงาน เช่น von potentieller Energie in kinetische Energie = จากพลังงานศักย์ เป็น พลังงานจลน์ เป็นต้น |
| Aufrüstung { f } | (n) การติดอาวุธ การใช้อาวุธที่มีศักยภาพที่ดีกว่าเดิมหรือใหม่กว่าเดิม |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |