พันธกิจ | [ミッション] (n, org) กิจการหรืองานที่มีภาระรับผิดชอบที่ต้องปฏิบัติให้บรรลุผล |
|
| รับผิดชอบ | (v) be responsible, See also: take responsibilities, be accountable for, Example: พ่อแม่ควรอบรมเด็กให้ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ และรับผิดชอบในกรณีที่สมควร, Thai Definition: ยอมตามผลที่ดีหรือไม่ดีในกิจการที่ได้กระทำไป | ผู้รับผิดชอบ | (n) responsible man, See also: person in charge of, Example: รัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบในโครงการรถไฟฟ้ามหานคร, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้ยอมตามผลที่ดีหรือไม่ดีในกิจการที่ได้กระทำไป | ไม่รับผิดชอบ | (v) be irresponsible, See also: be not responsible, disclaim a responsibility, Syn. ปัดความรับผิดชอบ, Example: บริษัทไม่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะถือว่านอกเหนือไปจากสัญญา, Thai Definition: ไม่ยอมตามผลที่ได้กระทำลงไป, ไม่สนในหรือไม่ใส่ใจกับผลที่ได้กระทำลงไป | ความรับผิดชอบ | (n) responsibility, See also: obligation, answerability, accountability, Example: นักเรียนทุกคนควรมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนคือตั้งใจศึกษาเล่าเรียน |
| จำกัดความรับผิดชอบ | น. บริษัทจำกัดซึ่งจำกัดความรับผิดของผู้ถือหุ้นไว้ไม่เกินจำนวนเงินที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่ารวมของหุ้นที่ตนถือ. | รับผิดชอบ | ก. ยอมรับผลทั้งที่ดีและไม่ดีในกิจการที่ตนได้ทำลงไปหรือที่อยู่ในความดูแลของตน เช่น สมุห์บัญชีรับผิดชอบเรื่องเกี่ยวกับการเงิน, รับเป็นภารธุระ เช่น งานนี้เขารับผิดชอบเรื่องอาหาร เธอจะไปไหนก็ไปเถอะ ฉันรับผิดชอบทุกอย่างในบ้านเอง. | ขอบข่าย | น. ขอบเขตงานหรือความรู้ที่อยู่ในความรับผิดชอบ. | คณะกรรมการอำเภอ | น. คณะบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่และรับผิดชอบร่วมกันในการปกครองอำเภอ ปัจจุบันได้ถูกยุบเลิกไปแล้ว โดยโอนอำนาจและหน้าที่ไปเป็นของนายอำเภอ. | เค้าสนามหลวง | น. สำนักผู้ปกครองบ้านเมือง, ที่ว่าราชการเมือง, คณะผู้ว่าการบ้านเมืองซึ่งประกอบด้วยเจ้าผู้ครองเมืองหรือผู้ครองเมืองข้าหลวงประจำนครหรือเมืองซึ่งต่อมาเรียกว่า ปลัดมณฑลประจำจังหวัด และข้าหลวงผู้ช่วย มีหน้าที่บังคับบัญชารับผิดชอบในกิจการทั่วไปของเมือง, เค้าสนาม ก็ว่า. | เจ้าไข้ | น. เจ้าของคนไข้, ผู้รับผิดชอบในตัวคนไข้. | ฐาน ๒, ฐาน-, ฐานะ | (ถาน, ถานะ-) น. ตำแหน่งหน้าที่ เช่น เธอต้องรับผิดชอบในฐานที่เป็นหัวหน้าห้อง | ตรวจการณ์ | ก. ตรวจค้นด้วยสายตาหรือใช้เครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์เข้าช่วย เพื่อรวบรวมข่าวสารหรือประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ. | ตัวใครตัวมัน | ว. ต่างคนต่างเอาตัวรอดหรือรับผิดชอบตัวเอง เช่น นักพนันพอเห็นตำรวจมาก็วิ่งตัวใครตัวมัน อาหารมื้อเย็นวันนี้ตัวใครตัวมันนะ, ไม่เกี่ยวข้องหรือช่วยเหลือกัน เช่น สังคมเมืองหลวงอยู่กันอย่างตัวใครตัวมัน. | ตำรวจ | (-หฺรวด) น. เจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ตรวจตรารักษาความสงบ จับกุม และปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมาย เรียกชื่อตามหน้าที่ที่รับผิดชอบ เช่น ตำรวจสันติบาล ตำรวจกองปราบ ตำรวจนํ้า ตำรวจรถไฟ ตำรวจป่าไม้. | เท้าแชร์ | น. ผู้เป็นหัวหน้าวงแชร์ มีหน้าที่จัดการและรับผิดชอบเรื่องเงิน ตามปรกติจะเป็นผู้ได้เงินเป็นคนแรกโดยไม่เสียดอกเบี้ย. | นายด้าน | น. ผู้รับผิดชอบในการปลูกสร้างหรือปฏิสังขรณ์สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น นายด้านปฏิสังขรณ์ศาลาราย. | นายประกัน | น. ผู้รับประกันหรือคํ้าประกัน, ผู้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแทน. | นายอำเภอ | น. ตำแหน่งเจ้าพนักงานผู้ปกครองท้องที่ ซึ่งเป็นหัวหน้าปกครองบังคับบัญชาข้าราชการในอำเภอ และรับผิดชอบในการบริหารราชการของอำเภอ. | นายกเทศมนตรี | น. ตำแหน่งผู้รับผิดชอบสูงสุดในการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบเทศบาล. | นายกเมืองพัทยา | น. ตำแหน่งผู้รับผิดชอบสูงสุดในการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบพิเศษ เมืองพัทยา. | นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด | น. ตำแหน่งผู้รับผิดชอบสูงสุดในการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบองค์การบริหารส่วนจังหวัด. | นายกองค์การบริหารส่วนตำบล | น. ตำแหน่งผู้รับผิดชอบสูงสุดในการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบองค์การบริหารส่วนตำบล. | เนตรนารี | น. เด็กหญิงที่ได้รับการฝึกให้เป็นผู้นำในทางความประพฤติ, สมาชิกแห่งองค์การที่มีวัตถุประสงค์ในการฝึกหัดอบรมบ่มนิสัยเด็กหญิงให้เป็นพลเมืองดีตามจารีตประเพณี มีอุดมคติ และความรับผิดชอบตัวเองและต่อผู้อื่นเป็นต้น. | บรรณาธิการ | (บันนาทิกาน) น. ผู้จัดเลือกเฟ้น รวบรวม ปรับปรุง และรับผิดชอบเรื่องลงพิมพ์. | บรรณารักษ์ | (บันนารัก) น. บุคคลที่รับผิดชอบในการบริหารและดำเนินงานในห้องสมุด. | บอกศาลา | ก. ประกาศไม่รับผิดชอบหรือตัดขาดไม่ให้ความอุปการะเลี้ยงดูอีกต่อไป. | บังคับการ | ก. รับผิดชอบในการควบคุมและสั่งการ, เรียกผู้มีอำนาจเช่นนั้น ว่า ผู้บังคับการ. | แบก | ก. วางของที่มีนํ้าหนักบนบ่าหรือบนหลัง เช่น แบกกระสอบข้าวสาร แบกปืน, โดยปริยายหมายความว่า รับภาระหนัก, มีความรับผิดชอบมาก, เช่น แบกค่าใช้จ่ายในบ้านคนเดียว แบกงานไว้มาก. | ประจำ | ที่กำหนดให้มีเป็นปรกติ เช่น งานประจำปี, เรียกรถโดยสารที่วิ่งอยู่บนเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งเป็นปรกติ ว่า รถประจำทาง, เรียกครูหรืออาจารย์ที่สอนและดูแลรับผิดชอบนักเรียนชั้นใดชั้นหนึ่งเป็นปรกติ ว่า ครูหรืออาจารย์ประจำชั้น, เรียกบัตรที่ออกให้ไว้เฉพาะบุคคลและจะต้องเก็บไว้กับตัวเป็นปรกติ ว่า บัตรประจำตัว, เรียกลูกจ้างที่จ้างไว้เป็นปรกติ ไม่ใช่ชั่วคราว ว่า ลูกจ้างประจำ, เรียกผู้ที่มาติดต่อหรือไปมาหาสู่กันเสมอเป็นปรกติ เช่น ลูกค้าประจำ ขาประจำ, ลักษณะการฝากเงินไว้กับธนาคารโดยจะได้รับดอกเบี้ยเมื่อฝากครบตามเวลาที่กำหนดไว้ เรียกว่า ฝากประจำ. | ประชาสัมพันธ์ | น. เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการนี้. | ปัดสวะ | (-สะหฺวะ) ก. ทำอย่างขอไปที, ผลักให้พ้นหน้าที่ความรับผิดชอบของตนไป. | ผู้โฆษณา | น. บุคคลซึ่งรับผิดชอบในการจัดให้สิ่งพิมพ์นั้นแพร่หลายด้วยประการใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขายหรือให้เปล่า. | ผู้พิมพ์ | น. บุคคลซึ่งจัดการและรับผิดชอบในการพิมพ์. | ภาร, ภาร-, ภาระ ๑ | หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เช่น พ่อแม่มีภาระในการเลี้ยงดูลูก ครูมีภาระในการอบรมสั่งสอนศิษย์, ความรับผิดชอบ เช่น พ่อแม่ตายหมด พี่ต้องรับภาระส่งเสียเลี้ยงดูน้อง. | มอบหมาย | ก. กำชับสั่งเสีย เช่น มอบหมายการงาน, กะให้, กำหนดให้, เช่น มอบหมายหน้าที่ให้แต่ละคนรับผิดชอบ. | แม่กองธรรมสนามหลวง | น. พระเถระผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการสอบไล่พระปริยัติธรรม แผนกนักธรรมและธรรมศึกษาของคณะสงฆ์. | แม่กองบาลีสนามหลวง | น. พระเถระผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการสอบไล่พระปริยัติธรรม แผนกบาลีของคณะสงฆ์. | แม่งาน | น. หัวหน้าผู้รับผิดชอบในงานบางอย่าง เช่น เขาเป็นแม่งานในการจัดเลี้ยงแขกที่มาในงาน. | ไม่รู้ไม่ชี้ | ว. ไม่รับรู้, ไม่รับผิดชอบ, เช่น ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้. | โยนกลอง | ก. ปัดภาระหรือความรับผิดชอบไปให้คนอื่น. | รัฐมนตรี | (รัดถะมนตฺรี) น. ผู้เป็นสมาชิกของคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐบาล รับผิดชอบร่วมกับคณะรัฐมนตรีในนโยบายทั่วไปของรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน, ถ้าเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหรือทบวง ก็เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในกระทรวงหรือทบวงที่ตนว่าการ และรับผิดชอบในการบริหารราชการกระทรวงหรือทบวงนั้นด้วยอีกฐานะหนึ่ง | รับรู้ | รับผิดชอบ, มักใช้ในความปฏิเสธ เช่น ลูกไปทำผิด พ่อแม่จะไม่รับรู้ได้อย่างไร. | รายงานตัว | ก. รายงานต่อผู้บังคับบัญชาตามแบบพิธี โดยบอกชื่อ นามสกุล ยศ ตำแหน่ง หน้าที่ และภารกิจที่ต้องรับผิดชอบ. | เรือขาดหางเสือ | น. คนที่ขาดสติสัมปชัญญะ, ครอบครัวที่ขาดผู้ดูแลรับผิดชอบ, การงานที่ขาดหัวหน้า. | ลูกผู้ชาย | น. เรียกผู้ชายที่มีความยุติธรรม ความซื่อสัตย์ เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว กล้าหาญ และมีความรับผิดชอบ เป็นต้น. | ลูกเสือ | น. สมาชิกแห่งองค์การที่มีวัตถุประสงค์ในการฝึกหัดอบรมบ่มนิสัยเด็กชายให้เป็นพลเมืองดีตามจารีตประเพณี มีอุดมคติและความรับผิดชอบตัวเองและต่อผู้อื่นเป็นต้น. | เละเทะ | มีความประพฤติเหลวไหลไม่มีความรับผิดชอบ เช่น คนกินเหล้าเมายาเป็นคนเละเทะ เชื่อถือไม่ได้, มีความประพฤติเป็นที่น่ารังเกียจ (มักใช้ในทางชู้สาว) เช่น ผู้หญิงคนนั้นทำตัวเละเทะ. | วัวพันหลัก | ว. อาการที่วกหรือย้อนกลับไปหาจุดเริ่มต้น เช่น ให้การเป็นวัวพันหลัก, ลักษณะที่วกหรือย้อนกลับไปหาบุคคลที่เป็นต้นตอผู้รับผิดชอบ (มักใช้ในทางชู้สาว) มาจากสำนวนเต็มว่า แม่สื่อแม่ชัก ไม่ได้เจ้าตัว เอาวัวพันหลัก หมายความว่า ชายที่ใช้แม่สื่อไปติดต่อหญิงที่ตนชอบ แล้วไม่ได้ตัวหญิงคนนั้น เลยเอาแม่สื่อนั้นเองเป็นภรรยา หรือผู้หญิงทำทีรับอาสาไปติดต่อหญิงคนใดคนหนึ่งให้แก่ชาย แต่ในที่สุดก็เอาตัวเองเข้าพัวพันจนได้ชายคนนั้นเป็นสามี. | เวน | ก. มอบหรือย้ายโอนในอาการที่สละกรรมสิทธิ์ซึ่งมีอยู่ในขณะนั้น เช่น เวนหน้าที่ให้ผู้รับผิดชอบคนต่อไป เวนราชสมบัติ. | ศักดินา | น. อำนาจหรือสิทธิที่พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานให้แก่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินตามศักดิ์ของแต่ละคน เดิมเป็นการถือครองที่ดินคิดเป็นจำนวนไร่ ต่อมาถือเป็นการกำหนดสถานะ สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของคนในสังคม เช่น มหาอุปราช มีศักดินา ๑๐๐๐๐๐ เจ้าพระยาจักรี มีศักดินา ๑๐๐๐๐ ภิกษุรู้ธรรม เสมอนา ๖๐๐ ไพร่มีครัว มีศักดินา ๒๐ ยาจก วณิพก ทาส ลูกทาส มีศักดินา ๕ (สามดวง) | สมุหนายก | น. ตำแหน่งข้าราชการชั้นอัครมหาเสนาบดีฝ่ายพลเรือน ดูแลรับผิดชอบและเป็นประธานที่ประชุมเสนาบดีของฝ่ายพลเรือน รวมทั้งการปกครองและการยุติธรรมในหัวเมืองฝ่ายเหนือ. | สมุหพระกลาโหม | น. ตำแหน่งข้าราชการชั้นอัครมหาสนาบดีฝ่ายทหาร ดูแลรับผิดชอบและเป็นประธานที่ประชุมเสนาบดีของฝ่ายทหาร รวมทั้งการปกครองและการยุติธรรมในหัวเมืองปักษ์ใต้. | สังฆมนตรี | น. ตำแหน่งพระเถระผู้รับผิดชอบในองค์การปกครองของคณะสงฆ์ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พุทธศักราช ๒๔๘๔ เช่น สังฆมนตรีว่าการองค์การปกครอง. | สำนอง | ก. รับผิดชอบ, ต้องรับใช้แทน. |
| | Statement of responsibility | การแจ้งความรับผิดชอบ [เทคโนโลยีการศึกษา] | Statement of responsibility | การแจ้งความรับผิดชอบ [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] | Cost, Insurance and Freight | ประเภทของสัญญาซื้อขายน้ำมันที่ผู้ขายจะต้องรับผิดชอบในการส่งน้ำมันไปถึงผู้ซื้อ , ประเภทของสัญญาซื้อขายน้ำมันที่ผู้ขายจะต้องรับผิดชอบในการส่งน้ำมันไปถึงผู้ซื้อ และจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าขนส่งและค่าประกันภัยแทนผู้ซื้อ [ปิโตรเลี่ยม] | Free on Board | สัญญาการซื้อขายน้ำมัน, สัญญาการซื้อขายน้ำมันประเภทที่ผู้ขายรับผิดชอบในการขนถ่ายน้ำมันลงเรือของผู้ซื้อ ณ ท่าเรือขนถ่าย ความสูญเสียหรือภัยอันตรายที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางผู้ซื้อจะต้องรับผิดชอบเอง [ปิโตรเลี่ยม] | Delegation of authority | การแบ่งแยกความรับผิดชอบ [TU Subject Heading] | Educational accountability | ภาระรับผิดชอบทางการศึกษา [TU Subject Heading] | Environmental responsibility | ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม [TU Subject Heading] | Ministerial responsibility | ความรับผิดชอบของรัฐมนตรี [TU Subject Heading] | Responsibility | ความรับผิดชอบ [TU Subject Heading] | Responsibility in children | ความรับผิดชอบในเด็ก [TU Subject Heading] | Social responsibility of business | ความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจ [TU Subject Heading] | ASEAN Ministers Responsible for Information | การประชุมรัฐมนตรีสารนิเทศอาเซียน เป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานทางด้านสารนิเทศของประเทศสมาชิก อาเซียน จัดขึ้นทุก ๆ 2 ปี [การทูต] | APSC | แผนงานการจัดตั้งประชาคมการเมืองและความมั่นคงอา เซียน เป็นเอกสารที่รวบรวมรายการกิจกรรมต่างๆ ที่รัฐสมาชิกอาเซียนจะทำร่วมกันเพื่อสร้างประชาคมการเมืองและความมั่นคงอา เซียนภายในปี 2558 แผนงานฯ ได้รับการรับรองโดยผู้นำในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 14 ที่ชะอำ หัวหิน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2552 โดยแผนงาน มีวิสัยทัศน์ 3 ประการ ให้อาเซียนเป็น(1) ประชาคมที่มีกฎเกณฑ์และค่านิยมร่วมกัน (2)เป็นประชาคมที่สงบสุขและรับผิดชอบร่วมกันในการรักษาความมั่นคงสำหรับ ประชาชนที่ครอบคลุมในทุกด้าน และ (3)เป็นประชาคมที่มีพลวัตรและร่วมมือปฎิสัมพันธ์กับโลกภายนอก [การทูต] | ASEAN Senior Officials on Drugs Matter | เจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านยาเสพติด " ประกอบด้วยผู้แทนระดับปลัดกระทรวงฯ ที่รับผิดชอบงานด้าน ยาเสพติดของประเทศสมาชิกอาเซียน มีการประชุมปีละครั้ง " [การทูต] | Conference on Disamament | การประชุมว่าด้วยการลดอาวุธ จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2522 เพื่อเป็นเวทีเจรจาการลดอาวุธระหว่างประเทศ มีขอบเขตความรับผิดชอบเกี่ยวกับประเด็นด้านการลดอาวุธทุกด้าน และมีหน้าที่ รายงานต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติทุกปี ปัจจุบันมีสมาชิก 65 ประเทศ(ไทยมิได้เป็นสมาชิก) โดยที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จในการเจรจาจัดทำความตกลงระหว่างประเทศ ด้านการลดอาวุธหลายฉบับ ที่สำคัญได้แก่ สนธิสัญญาไม่แพร่อาวุธนิวเคลียร์ อนุสัญญาห้ามเคมี อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ และสนธิสัญญาห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ [การทูต] | Commission on Human Rights | คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เป็นคณะกรรมาธิการหลัก ซึ่งรับผิดชอบในการเสาะหามาตรการในการส่งเสริมเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศ ต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งตรวจสอบและสอดส่องการดำเนินการด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษย ชนในประเทศต่าง ๆ ด้วย คณะกรรมาธิการฯ ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 53 ประเทศ มาจากการเลือกตั้ง ดำรงตำแหน่งวาระละ 3 ปี คณะกรรมาธิการฯ โดยจะมีการประชุมเป็นประจำทุกปี ประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน ณ นครเจนีวา ประเทศไทยได้รับเลือกตั้งเข้าเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการฯ สำหรับวาระ พ.ศ. 2544-2546 [การทูต] | Commission on Human Rights | คณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น [การทูต] | Diplomatic Privilege of Accommodation | มาตรา 21 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตบัญญัติไว้ว่า ?1. รัฐผู้ต้อนรับจะต้องอำนวยความสะดวกตามบทกฎหมายของประเทศของตน ในการจัดการให้ได้มาซึ่งดินแดนของตนให้แก่รัฐผู้ส่ง ซึ่งจำเป็นแก่การปฏิบัติภาระหน้าที่ของรัฐนั้น หรือช่วยเหลือให้รัฐผู้ส่งได้รับอาคารที่พำนักด้วยวิธีการหนึ่งใด 2. ในกรณีจำเป็น รัฐผู้รับจะต้องช่วยให้คณะเจ้าหน้าที่ทางการทูต ได้มีสถานที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม?เมื่อตัวแทนทางการทูตที่เพิ่งได้รับแต่ง ตั้งได้เดินทางไปถึงประเทศที่เขาจะเข้าดำรงตำแหน่ง ซึ่ง ณ ที่นั้นมีคณะผู้แทนทางการทูตของรัฐบาลของเขาประจำทำงานอยู่แล้ว ตามปกติตัวแทนทูตดังกล่าวจะมีสำนักงานทางการทูตตั้งอยู่แล้วในสถานที่เหมาะ สม มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไม้สอยสำหรับการปฏิบัติงานโดยครบครัน และผู้ที่ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าเขาหรืออุปทูตชั่วคราวมักจะเตรียมการไว้ก่อน แล้วเกี่ยวกับที่พักอาศัย เรียกว่าทำเนียบ นอกจากว่าจะมีทำเนียบตั้งอยู่ภายในบริเวณตึกสถานเอกอัครราชทูตซึ่งรัฐบาลของ เขาเป็นเจ้าของเองแต่ถ้าหากตัวแทนทางการทูตที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งใหม่ จะต้องตั้งคณะผู้แทนทางการทูตในประเทศที่เขาเข้าดำรงตำแหน่งเป็นครั้งแรก ก็จะต้องประสบกับปัญหาเรื่องหาสถานที่สำหรับใช้เป็นที่ตั้งสถานเอกอัคร ราชทูตขึ้น ในกรณีเช่นนี้จึงจำเป็นจะต้องอาศัยคำแนะนำและความช่วยเหลือจากกระทรวงการ ต่างประเทศของรัฐผู้รับ กระทรวงการต่างประเทศของบางประเทศจะมีแผนกหนึ่งทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่คณะทูตต่างประเทศโดยเฉพาะ เป็นแผนกหนึ่งในกรมพิธีการทูต ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้อยู่แล้ว [การทูต] | Honorary Consul | กงสุลกิตติมศักดิ์ " ได้แก่ บุคคลในท้องถิ่นผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งและมอบหมายให้ดูแล ส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศและคนชาติในพื้นที่ในเขตอาณา และดำเนินการตรวจลงตราหนังสือเดินทางแก่บุคคลที่จะเดินทางเข้าประเทศที่ กงสุลกิตติมศักดิ์เป็นผู้แทน การแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวต้องได้รับความเห็นชอบจากประเทศผู้รับ และต้องยื่นสัญญาบัตร และได้รับอนุมัติบัตรเช่นเดียวกับผู้แทนฝ่ายกงสุลอาชีพ (career consular officer) ทั้งนี้ กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์จะได้รับมอบหมายให้ดูแลเขตอาณาที่ครอบคลุมพื้นที่ กว้างกว่าและสำคัญกว่า ในส่วนของไทย กงสุลกิตติมศักดิ์แตกต่างจากกงสุลอาชีพใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ (1) กงสุลกิตติมศักดิ์ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศที่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม หรือเป็นผู้นำที่มีความสัมพันธ์พิเศษกับไทย (2) กงสุลกิตติมศักดิ์ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งสำนักงาน ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์หรือสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ทั้งหมด (3) กงสุลกิตติมศักดิ์ได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางกงสุลน้อยกว่ากงสุลอาชีพ ในการปฏิบัติงานของกงสุลกิตติมศักดิ์ของไทยจะมีคู่มือกงสุลกิตติมศักดิ์ เป็นระเบียบกฎเกณฑ์และข้อมูลสำหรับการปฏิบัติงาน " [การทูต] | Indigent Nationals | คนในชาติที่ต้องประสบความยากจนข้นแค้นในต่างแดน ในเรื่องนี้ มีหลายประเทศได้อนุญาตให้ผู้แทนทางการทูตและทางกงสุลของตนอำนวยความช่วย เหลือเท่าที่จำเป็นแก่คนชาติของตนที่ประสบความยากจนข้นแค้นในต่างประเทศรวม ทั้งค่าส่งตัวกลับประเทศด้วย มีหลายรายที่กำหนดให้คนชาติที่ต้องทุกข์นั้น แจ้งถึงสาเหตุที่ต้องประสบความยากจนข้นแค้น และสัญญาว่าเงินที่ได้รับนี้จะต้องชดใช้คืนภายหลัง ตามปกติ ผู้แทนทางการทูตหรือกงสุลจะต้องปรึกษากับกระทรวงการต่างประเทศของตน ก่อนที่จะนำเงินให้คนชาติของตนกู้ยืมหรือไปรับรองบุคคลเหล่านั้น หรือไปรับผิดชอบทางการเงินใดๆ [การทูต] | International Civil Aviation Organization | เรียกโดยย่อว่า ICAO คือองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1947 หลังจากที่ประเทศสมาชิก 28 แห่ง ได้ให้สัตยาบันแก่อนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือน ซึ่งได้ร่างขึ้นโดยที่ประชุมองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศในนครชิคาโก เมื่อปี ค.ศ.1944วัตถุประสงค์ของ ICAO คือการศึกษาปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการบินพลเรือนระหว่างประเทศ รวมทั้งจัดวางมาตรฐานระหว่างประเทศ และระเบียบข้อบังคับสำหรับการบินพลเรือนองค์การจะพยายามสนับสนุนให้มีการใช้ มาตรการว่าด้วยความปลอดภัย วางระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการปฏิบัติให้เสมอเหมือนกันหมด และให้ใช้วิธีปฏิบัติที่สะดวกง่ายขึ้นตรงพรมแดนระหว่างประเทศ องค์การจะส่งเสริมการใช้วิธีการทางเทคนิคและอุปกรณ์เครื่องมือใหม่ ๆ ดังนั้น ด้วยความร่วมมือจากประเทศสมาชิก องค์การจะจัดวางแนวบริการทางอุตุนิยมวิทยา การควบคุมการจราจรทางอากาศ การคมนาคมสื่อสารไฟสัญญาณด้านวิทยุ จัดระเบียบการค้นหาและช่วยเหลือ รวมทั้งอุปกรณ์ความสะดวกอื่น ๆ ซึ่งจำเป็นที่จะให้การบินระหว่างประเทศได้รับความปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังชักจูงให้รัฐบาลประเทศสมาชิกวางแนวทางปฏิบัติด้านศุลกากรให้สะดวกง่าย ขึ้น รวมทั้งการตรวจคนเข้าเมือง และระเบียบเกี่ยวกับสาธารณสุขที่ใช้กับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ นอกจากนี้ องค์การยังรับผิดชอบต่องานร่างกฎหมายเกี่ยวกับการบินระหว่างประเทศ ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศในด้านเศรษฐกิจมาก มายหลายอย่างองค์การ ICAO ดำเนินงานโดยองค์การต่าง ๆ ดังนี้1. สมัชชา (Assembly) ประกอบด้วยผู้แทนของประเทศสมาชิกทุกประเทศ ทำการประชุมกันปีละครั้ง และจะลงมติเกี่ยวกับมาตรการทางการเงิน และจะรับพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ที่คณะมนตรีส่งมาให้ดำเนินการ2. คณะมนตรี (Council) ประกอบด้วยผู้แทนจากชาติต่าง ๆ 21 ชาติ ซึ่งสมัชชาเป็นผู้เลือก โดยคำนึงถึงประเทศที่มีความสำคัญในการขนส่งทางอากาศ รวมทั้งประทเศที่มีส่วนเกื้อกูลไม่น้อยในการจัดอำนวยอุปกรณ์ความสะดวกแก่การ เดินอากาศฝ่ายพลเรือนระหว่างประเทศ และจัดให้มีตัวแทนตามจำนวนที่เหมาะสมในเขตภูมิศาสตร์ใหญ่ ๆ ของโลก คณะมนตรีเป็นผู้เลือกตั้งประธาน (President) ขององค์การ3. เลขาธิการ (Secretary-General) ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่ขององค์การ [การทูต] | Introducer of Ambassadors | หมายถึง เจ้าหน้าที่แนะนำเอกอัครราชทูต ในนครหลวงของบางประเทศจะมีเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะ ซึ่งรับผิดชอบการติดต่อกับเอกอัครราชทูตซึ่งกำหนดจะยื่นสารตราตั้ง ให้เดินทางจากทำเนียบเอกอัครราชทูตไปยังทำเนียบของประมุขแห่งรัฐ และจะเป็นผู้เบิกตัว หรือแนะนำเอกอัครราชทูตผู้นั้นต่อประมุขของรัฐในพิธียื่นสารตราตั้ง ในนครหลวงของอีกบางประเทศ เจ้าหน้าที่แนะนำตัวเอกอัครราชทูตจะมีตำแหน่งเรียกอย่างอื่นคือ Master of Ceremonies ส่วนในประเทศอังกฤษ ณ พระราชสำนักแห่งเซนต์เจมส์ ผู้ที่ทำหน้าที่เช่นนี้จะเรียกว่า Her Majesty?s Marshal of the Diplomatic Corps ส่วนในสหรัฐอเมริกา ผู้กระทำหน้าที่นี้คืออธิบดีกรมพิธีการทูต (Chief of Protocol) [การทูต] | Neighbouring Countries Economic Development Cooperation Fund | กองทุนให้ความช่วยเหลือพัฒนาเศรษฐกิจแก่ประเทศเพื่อนบ้าน " ได้รับการจัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนให้ความช่วย เหลือพัฒนาเศรษฐกิจแก่ประเทศเพื่อนบ้าน พ.ศ. 2539 โดยให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เป็นหน่วยงาน รับผิดชอบ มีวัตถุประสงค์ให้เงินกู้ผ่อนปรนแก่รัฐบาล หรือรัฐวิสาหกิจ หรือสถาบันการเงินของรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว กัมพูชา พม่า และเวียดนาม เพื่อลงทุนในโครงการพัฒนาประเทศ โดยเงินกู้ที่ รัฐบาลไทยปล่อยให้กู้นี้ จะต้องเป็นเงินสกุลบาท และส่วนหนึ่งของ เงินกู้จะต้องนำไปซื้อสินค้าและบริการจากภาคเอกชนไทย " [การทูต] | Placement | หมายถึง วิธีจัดที่นั่งโต๊ะในการเลี้ยงอาหารสำหรับนักการทูต โดยคำนึงถึงลำดับอาวุโส เพื่อป้องกันมิให้เกิดความรู้สึกขุ่นเคืองหรือหัวเสีย เรื่องการจัดที่นั่งในการเลี้ยงอาหารโดยคำนึงถึงลำดับอาวุโสนี้ นักการทูตส่วนใหญ่ไม่ว่าที่ไหน มักจะถือว่ามีความสำคัญไม่น้อย เพราะถือเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีในฐานะที่เป็นตัวแทนของประเทศ ฝ่ายที่รับผิดชอบโดยตรงต่อการจัดที่นั่งเช่นนี้ได้แก่ กรมพิธีการทูตของกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนลำดับของอาวุโสก็ถือตามวันเวลาที่นักการทูตแต่ละคนได้เข้าประจำตำแหน่ง ที่ในประเทศผู้รับ กล่าวคือ ผู้ที่เข้าประจำตำแหน่งก่อนก็คือผู้ทีมีอาวุโสกว่าผู้ที่มาประจำตำแหน่ง หน้าที่ทีหลัง [การทูต] | Political Appointee | หมายถึง บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งด้วยเหตุผลทางการเมือง คือ ผู้ที่มิได้มีอาชีพทางการทูตโดยแท้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูต ซึ่งต่างกับนักการทูตอาชีพ (Career diplomat) ในประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหภาพโซเวียต ธรรมเนียมปฏิบัติโดยทั่วไปจะแต่งตั้งเฉพาะบุคคลที่มีอาชีพนักการทูตแท้ ๆ เข้าดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตและอัครราชทูต อย่างไรก็ดี เฉพาะในกรณีพิเศษจริง ๆ เท่านั้นจึงจะแต่งตั้งบุคคลจากภายนอก และบุคคลจากภายนอกที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตได้รับผลสำเร็จในการ ปฏิบัติหน้าที่ก็มีอยู่หลายราย ทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก แฮโรลด์ นิโคลสัน ได้ให้ความเห็นไว้ในหนังสือเรื่องการทูตของท่านว่า ในประเทศใหญ่ ๆ เป็นที่พึงปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้นักการทูตอาชีพเท่านั้นเป็นผู้รับผิดชอบ ในการดำเนินนโยบายการต่างประเทศ เพราะได้ผ่านการศึกษาและฝึกฝนในวิชาการทูตมาเป็นอย่างดีแล้ว ส่วนเอกอัครราชทูตที่แต่งตั้งจากคนภายนอกจะมีข้อเสียบางอย่าง เช่น ในการเขียนรายงานไปยังรัฐบาล เช่น รายงานการเมือง เขาอาจมุ่งแต่จะอวดความเฉียบแหลมของเขาเอง และร้อยกรองคำอย่างไพเราะเพราะพริ้ง มากกว่าที่จะมุ่งเสนอรายงานข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบและมีเหตุผลอันสมควร เป็นต้น [การทูต] | proactive foreign policy | นโยบายต่างประเทศเชิงรุก " เป็นนโยบายต่างประเทศของไทยในช่วงยุคหลังสงครามเย็นที่การแข่งขันและความขัด แย้งทางอุดมการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ ได้เกือบหมดสิ้นไป โดยประเทศไทยได้เน้นบทบาทนำทางการทูต และ มีส่วนร่วมรับผิดชอบในกิจการต่าง ๆ ของประชาคมระหว่างประเทศมากขึ้น " [การทูต] | protocol | 1. พิธีการทูต 2. พิธีสาร " 1. พิธีการทูต หมายถึง หลักปฏิบัติ หรือมารยาททางการทูต (etiquette) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในนานาประเทศจนกลายเป็นรูปแบบที่ใช้กันในงานพิธีการ หรือรัฐพิธีต่าง ๆ รวมถึงเรื่องเอกสิทธิ์ ความคุ้มกัน ลำดับอาวุโส ฯลฯ ทั้งนี้ บุคคลซึ่งเป็นหัวหน้ารับผิดชอบด้านพิธีการทูต เรียกว่า Chief of Protocol สำหรับประเทศไทย คือ อธิบดีกรมพิธีการทูต ส่วนเจ้าหน้าที่พิธีการทูต เรียกว่า protocol official 2. พิธีสาร เป็นความตกลงระหว่างประเทศอย่างหนึ่ง โดยมากเป็นพิธีสารต่อท้ายสนธิสัญญาหรืออนุสัญญา หรือพิธีสารแก้ไขเพิ่มเติมสนธิสัญญาหรืออนุสัญญานั้น " [การทูต] | Responsibility to protect | หลักการความรับผิดชอบในการคุ้มครอง เป็นหลักการที่ได้รับการรับรองในการประชุมระดับผู้นำ เพื่อทบทวนผลของปฏิญญาสหัสวรรษ(High Level Panel Meeting - HLPM) เมื่อวันที่ 14-16 กันยายน พ.ศ. 2548 ณ นครนิวยอร์ก ที่เกี่ยวข้องกับการแทรกแซงทางมนุษยธรรม ( humanitarian interference/intervention of humanity)เพื่อคุ้มครองประชาชนจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การฆ่าล้างชนชาติ โดยจะถือเป็นความรับผิดชอบและที่จะต้องดำเนินการร่วมกันโดยประชาคมระหว่าง ประเทศ อย่างไรก็ตาม หลักการเรื่องนี้มีนัยเกี่ยวข้องกับกฏหมายระหว่างประเทศ อธิปไตย ของรัฐ ความอ่อนไหวทางการเมือง และความชอบธรรมในการปฏิบัติ จึงยังไม่มีการนิยามแนวความคิด R2P รวมถึงขอบเขตของ R2P ที่ชัดเจน [การทูต] | Regional Organizations | คือองค์การส่วนภูมิภาค ในเรื่องนี้ ข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติไว้ว่า ?ไม่มีข้อความใดในกฎบัตรฉบับปัจจุบัน อันจักริดรอนสิทธิประจำตัวในการป้องกันตนเองโดยลำพังหรือโดยร่วมกัน หากการโจมตีโดยกำลังอาวุธบังเกิดแก่สมาชิกของสหประชาชาติ จนกว่าคณะมนตรีความมั่นคงจะได้ดำเนินมาตรการที่จำเป็น เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ มาตรการที่สมาชิกได้ดำเนินไปในการใช้สิทธิป้องกันตนเองนี้ จักต้องรายงานให้คณะมนตรีความมั่นคงทราบโดยทันที และจักไม่กระทบกระเทือนอำนาจและความรับผิดชอบของคณะมนตรีความมั่นคงภายใต้กฎ บัตรฉบับปัจจุบันแต่ทางหนึ่งทางใด ในอันที่จักดำเนินการเช่นที่เห็นจำเป็น เพื่อธำรงไว้หรือสถาปนากลับคืนมา ซึ่งสันติภาพความมั่นคงระหว่างประเทศ?จะเห็นได้ว่า ประเทศต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเดียวกันมักจะทำข้อตกลงกันในส่วนภูมิภาค โดยอาศัยสนธิสัญญา และโดยที่อาศัยอยู่ในเขตภูมิศาสตร์ใกล้เคียงกัน ( Geographical Propinquity ) หรือมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด และมีวัตถุประสงค์ที่จะอำนวยความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเมืององค์การส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่งที่พอจะหยิบยก มาเป็นตัวอย่างได้ คือ องค์การสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEATO) ซึ่งบัดนี้ได้ยุบเลิกไปแล้วเพราะหมดความจำเป็น องค์การรัฐอเมริกัน (Organization of American States-OAS) องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ (NATO) องค์การร่วมมือระหว่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา (ANZUS) เป็นต้น องค์การภูมิภาคเหล่านี้ตั้งขึ้นโดยอาศัยข้อ 51 ของกฎบัตร สหประชาชาติ ซึ่งกล่าวถึงสิทธิของประเทศสมาชิกที่จะทำการป้องกันตนเองโดนลำพังหรือโดย ร่วมกัน หากถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธ [การทูต] | Secretariat of the United Nations | คือสำนักเลขาธิการสหประชาชาติ ประกอบด้วยตัวเลขาธิการ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยสมัชชาตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตามที่องค์การต้องการหน้าที่สำคัญของเลขาธิการสหประชา ชาติ คือ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารขององค์การ นำเรื่องใดก็ตามเสนอต่อคณะมนตรีความมั่นคง ซี่งตามทรรศนะของเลขาธิการเห็นว่าเป็นภัยคุกคามสันติภาพและความมั่นคง ระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่ทำรายงานประจำปี และรายงานเพิ่มเติมใด ๆ ที่จำเป็นเสนอต่อสมัชชาสหประชาชาติ เกี่ยวกับงานขององค์การ สหประชาชาติคณะเจ้าหน้าที่ที่ทำงานช่วยเหลือเลขาธิการนั้น ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระหว่างประเทศ ประกอบด้วยชนชาติต่าง ๆ ในการเกณฑ์เจ้าหน้าที่เหล่านี้เข้าทำงานกับสหประชาชาติ จะคัดแต่ผู้ที่มีประสิทธิภาพ ความสามารถ และความซื่อสัตย์ในระดับสูงสุด และคำนึงถึงเขตภูมิศาสตร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในการทำงานตามหน้าที่ ทั้งตัวเลขาธิการและคณะเจ้าหน้าที่ผู้ร่วมงาน จะต้องไม่แสวงหรือรับคำสั่งจากรัฐบาลใด ๆ หรือจากผู้มีอำนาจหน้าที่อื่นใดที่อยู่นอกเหนือองค์การสหประชาชาติ ขณะเดียวกัน สมาชิกของสหประชาชาติได้ตกลงยอมรับนับถือความรับผิดชอบที่มีลักษณะระหว่าง ประเทศของสำนักเลขาธิการ และจักไม่แสวงใช้อิทธิพลใด ๆ ต่อสำนักเลขาธิการ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบเหล่านั้น [การทูต] | Servicio Nacional de Sanidad y Calidad Agroalimentaria | สำนักงานตรวจสอบสุขอนามัยพืชและสัตว์ของ อาร์เจนตินา เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการตรวจสอบมาตรฐานการส่งออก และนำเข้าสินค้าเกษตรและสัตว์ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเศรษฐกิจและการผลิตของอาร์เจนตินา โรงงานผลิตสัตว์น้ำของไทยที่ส่งออกสินค้าไปยังอาร์เจนตินาจะต้องได้รับใบ รับรองมาตรฐานการผลิตจาก SENASA ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้นำสินค้าเข้าสู่อาร์เจนตินา [การทูต] | Technical Cooperation among Developing Countries | ความร่วมมือทางวิชาการระหว่างประเทศกำลังพัฒนา " เป็นกิจกรรมการแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางวิชาการภายใต้กรอบขององค์การสหประชา ชาติ โดยเป็นการแลกเปลี่ยนคณะเจ้าหน้าที่เพื่อการดูงาน/ฝึกอบรม และแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศกำลังพัฒนาด้วยกัน โดยประเทศที่ขอหรือส่งเจ้าหน้าที่จะรับผิดชอบ ค่าเดินทางระหว่างประเทศ ในขณะที่ประเทศเจ้าภาพจะรับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายภายในประเทศ อาทิ ค่ากินอยู่ ค่าฝึกอบรม/ดูงาน " [การทูต] | Team Thailand | ทีมประเทศไทย หมายถึง รูปแบบของการทำงานที่เป็นเอกภาพของหน่วยราชการไทยในการปกป้อง รักษา และส่งเสริมผลประโยชน์ของไทยในต่างประเทศ ตลอดจนเพื่อช่วยประหยัดงบประมาณ ขจัดความซ้ำซ้อน ลดการทำงานที่ไม่จำเป็นให้หมดไป และช่วยให้มีการประสานงานระหว่างหน่วยงานมากยิ่งขึ้น อันจะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพ และเพิ่มประสิทธิผลของการทำงาน แนวคิดเรื่องทีมประเทศไทยเป็นการสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการทำงานของหน่วยงานไทย ในต่างประเทศ โดยเน้นให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีภารกิจในต่างประเทศทำงานร่วมกัน อย่างมีเอกภาพ ไม่ซ้ำซ้อน มีทิศทางเดียวกันเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายร่วมกันบนพื้นฐานของแผน งานรวมที่เป็นเอกภาพ (unified work plan) มีสำนักงานที่เป็นเอกภาพ (unified structure) และมีกรอบการประสานงานที่เป็นเอกภาพ (unified command) โดยมีกระทรวงการต่างประเทศซึ่งรับผิดชอบภาพรวมของการดำเนินความสัมพันธ์กับ ต่างประเทศทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมในการประสานงาน ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายการปฏิรูประบบราชการในต่างประเทศ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2541 [การทูต] | Termination of Mission of Diplomatic Agent | ภารกิจของผู้แทนทางการทูตหรือหัวหน้าคณะทูตจะสิ้น สุดลง 1. ระยะเวลาที่ผู้แทนทางการทูตได้รับแต่งตั้งให้ประจำอยู่ในประเทศผู้รับได้ครบ กำหนดตามวาระ2. เมื่อวัตถุประสงค์ของภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติได้สัมฤทธิผลเรียบ ร้อยแล้ว3. ถูกเรียกตัวกลับเนื่องจากต้องโยกย้ายไปที่อื่น หรือลาออก หรือเนื่องจากครบเกษียณอายุ4. ถูกเรียกตัวกลับเนื่องจากไม่เป็นที่พอใจของรัฐบาลของตน หรือกระทำตามคำขอร้องของรัฐบาลของประเทศผู้รับ ซึ่งเขาได้รับแต่งตั้งให้ประจำทำงานอยู่5. เนื่องจากการเสด็จสวรรคตของพระมหากษัตริย์ของประเทศตน หรือประเทศที่ตนได้รับแต่งตั้งให้ประจำทำงาน6. หากตัวเขาเองได้กระทำการอันเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศบางอย่าง หรือเนื่องจากเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่คาดไม่ถึง และมีลักษณะร้ายแรงจริง ๆ ตัวเขาเองจะต้องรับผิดชอบในการตัดความสัมพันธ์7. เมื่อรัฐบาลผู้รับ ซึ่งตัวเขาได้รับแต่งตั้งให้ประจำทำงานอยู่นั้น แล้วจะด้วยเหตุผลอย่างใดก็ตาม ได้แจ้งให้เขาเดินทางออกไปจากประเทศในทันที โดยไม่ต้องระให้รัฐบาลของตนเรียกตัวกลับ8. เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งของผู้แทนทางการทูต ดังเช่น ได้รับเลื่อนตำแหน่งจากอัครราชทูตขึ้นเป็นเอกอัครราชทูต9. เนื่องจากเกิดสงครามขึ้นระหว่างรัฐทั้งสอง10. เนื่องจากถูกถอดจากตำแหน่ง หรือสละราชบัลลังก์ของประมุขของประเทศใดประเทศหนึ่ง 11. เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงในประเทศใดประเทศหนึ่ง จากระบบพระมหากษัตริย์เป็นระบบสาธารณรัฐ หรือเป็นระบบสาธารณรัฐอันมีประมหากษัตริย์ทรงอยู่ใต้กฎหมาย12. เนื่องจากรัฐใดรัฐหนึ่งของทั้งสองรัฐต้องสูญสภาวะในการเป็นรัฐเหตุผลข้างต้น ทั้งหมดนี้ เป็นทรรศนะของเซอร์เออร์เนสท์ ซาทาว ซึ่งได้ให้ไว้ในหนังสือของท่าน ชื่อว่า ?A Guide to Diplomatic Practice? ฉบับเรียบเรียงใหม่ครั้งที่ 4 โดยเซอร์เนวิลล์ แบลนด์ [การทูต] | United Nations Conference on Trade and Development | การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) " เป็นองค์กรของสหประชาชาติที่รับผิดชอบเรื่องการค้า การเงิน การ ลงทุน เทคโนโลยี และการพัฒนาแบบเบ็ดเสร็จ โดยมีหน้าที่เป็นเวทีประสานนโยบายระหว่างรัฐบาล ศึกษาวิเคราะห์สภาวะเศรษฐกิจโลกและให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ประเทศ กำลังพัฒนา ปัจจุบันมีรัฐสมาชิก 190 ประเทศ ประชุมระดับรัฐมนตรีปีละ 4 ครั้ง ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอังค์ถัดครั้งล่าสุด (ครั้งที่ 10) เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2543 " [การทูต] | United Nations University | มหาวิทยาลัยสหประชาชาติ จัดตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1973 ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นสถาบันอิสระที่บริหารปกครองตนเองภายในโครงร่างของสหประชาชาติ เรียกได้ว่าเป็นสถาบันการศึกษาที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือ ระหว่างประเทศในเชิงวิชาการ ในอันที่จะมีส่วนช่วยเหลือเกื้อกูลต่อการแก้ปัญหาเร่งด่วนต่าง ๆ ของโลก มหาวิทยาลัยนี้มีลักษณะไม่เหมือนกับมหาวิทยาลัยอื่นทั่ว ๆ ไป ทั้งในด้านโครางสร้างและแบบอย่างการดำเนินงาน กล่าวคือ ไม่มีนิสิตนักศึกษาของตนเอง ไม่มีคณะในมหาวิทยาลัย และไม่มีบริเวณมหาวิทยาลัย (campus) ดำเนินงานภายในเครือข่ายของสถาบันวิจัยและวิชาการต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งศูนย์ฝึกและศูนย์วิจัยของตนเอง ทั้งยังรวมไปถึงผู้คงแก่เรียนเป็นรายบุคคลด้วย ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันหาทางแก้ปัญหาต่าง ๆ ของโลกเป็นจุดสำคัญเรื่องที่มหาวิทยาลัยสหประชาชาติกำลังกังวลและสนใจอยู่ใน ขณะนี้ คือ เรื่องเกี่ยวกับค่านิยมของมนุษย์ทั่วโลก รวมทั้งความรับผิดชอบทั้งหลายที่มนุษย์ทั่วโลกจะพึงมี เรื่องทิศทางใหม่ ๆ ในภาวะเศรษฐกิจที่กลังปรากฏอยู่ในโลก รวมทั้งเรื่องความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และวิทยาการทางเทคโนโลยีเรื่องพลัง ที่ทำให้เกิดความผันแปรระหว่างพลเมืองของโลก ตลอดจนเรื่องสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ยังมุ่งหมายที่จะช่วยเพิ่มพูนศักยภาพในการวิจัย และการฝึกในประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลายด้วย และภายในมหาวิทยาลัยเองก็กำลังสนใจด้านวิจัยและการฝึกฝนในบางเรื่องโดยเฉพาะ [การทูต] | Work of the United Nations on Human Rights | งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต] | Responsibility accounting | การบัญชีตามความรับผิดชอบ [การบัญชี] | Authority | อำนาจความรับผิดชอบ, อำนาจ, ผู้มีอำนาจ [การแพทย์] | Ego-Involvement | การให้คนมีส่วนร่วมรับผิดชอบในงานต่างๆ [การแพทย์] | ความผิดปกติทางจิต | ความผิดปกติทางจิต, อาการที่แสดงออกที่ผิดแปลก ทำให้การปรับตัวหรือสัมพันธภาพหรือความรับผิดชอบหรือชีวิตประจำวันที่เคยมี เสียไป หรือแตกต่างจากคนทั่วไปอย่างผิดปกติ ซึ่งสามารถแสดงออกหลายด้านไล่เรียงตั้งแต่สิ่งที่สังเกตยากที่สุด คือ ความคิด ความรู้สึก การรับรู้ อารมณ์ หรือพฤติกรรม [สุขภาพจิต] | Corporate Social Responsibility | ความรับผิดชอบทางสังคมของธุรกิจ, Example: ความรับผิดชอบทางสังคมของธุรกิจ [ธุรกิจ] | Job Description | พิจารณาบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ, การทำรายละเอียดของงาน [การแพทย์] |
| Business thing. | ท่านประธานของเรารับผิดชอบพนักงานมากมายแล้สก้อมีงานมากมายที่ต้องทำ Hero (1992) | No, it's very nice, actually. | ถ้าคุณช่วยผมในตอนนี้ ผมจะรับผิดชอบมันเป็นอย่างดีเลย Hero (1992) | Sorry, Ev, to bother you again. | รู้แล้วน่ะ รู้แล้ว หัดรับผิดชอบให้เยอะๆรู้มั้ย Hero (1992) | As the project supervisor and the government liaison... it was my responsibility... to use the strongest measures available. | ในฐานะหัวหน้าโครงการ และผู้ประสานงานของรัฐบาล มันเป็นความรับผิดชอบของฉัน ที่จะใช้มาตรการเด็ดขาด The Lawnmower Man (1992) | You and I have been responsible... for so much destruction. | ทั้งแกและฉันล้วนต้องรับผิดชอบ.. ..กับสิ่งที่สิ่งเกิดขึ้น The Lawnmower Man (1992) | What happened to him is my responsibility. | สิ่งที่เกิดกับเขา เป็นความรับผิดชอบของผม The Lawnmower Man (1992) | Not only is he responsible for knowing every inch of every course he races, he's also responsible for the lives of the other three people in his sled. | ไม่เพียงแค่เป็นความรับผิดชอบของเขา ที่ต้องรู้สภาพทางวิ่งทุกกระเบียดนิ้ว เขายังต้องรับผิดชอบต่อชีวิต ของอีกสามคนในสเลดอีกด้วย Cool Runnings (1993) | Now, do you want that responsibility? | ทีนี้ นายยังต้องการ รับผิดชอบอีกมั้ย? Cool Runnings (1993) | - Are you the man in charge? | - - คุณเป็นคนที่รับผิดชอบหรือไม่ In the Name of the Father (1993) | The people looked to you, Inspector, to find those responsible. | คนมองให้คุณ ตรวจสอบเพื่อหาผู้รับผิดชอบ In the Name of the Father (1993) | Whether Barker was responsible or not... for bringing in the riot squad, Joe never forgave him. | ไม่ว่าจะเป็น Barker รับผิดชอบหรือไม่ ... เพื่อนำในทีมจลาจล, โจไม่เคยให้อภัยเขา In the Name of the Father (1993) | - l take responsibility for the baby. | - เรื่องลูกผมรับผิดชอบเอง Junior (1994) | Right. Now you're responsible for it. | ใช่ ตอนนี้คุณเลยต้องรับผิดชอบไง Léon: The Professional (1994) | I feel terribly responsible. | ผมรู้สึกรับผิดชอบกับเรื่องนี้ The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | Don't worry, I've fixed everything. Wait and see. | ไม่เป็นไร ฉันรับผิดชอบเอง รอดูล่ะกัน The Great Dictator (1940) | After all, I am responsible for your behavior here. | ยังไงซะฉันก็คือผู้ที่รับผิดชอบ ต่อพฤติกรรมของเธอตอนที่อยู่ที่นี่ Rebecca (1940) | This poor child has no mother, so I shall take responsibility for all the arrangements. | ดังนั้นฉันควรจะเป็น ฝ่ายรับผิดชอบเรื่องการจัดงาน-- Rebecca (1940) | "I am not responsible", says the Kapo. | "ผมไม่มีส่วนรับผิดชอบครับ" คาโปว คนหนึ่งบอก Night and Fog (1956) | "I am not responsible". | "ผมไม่ได้รับผิดชอบมันครับ" Night and Fog (1956) | Then who is responsible? | แล้วใครจะเป็นคนรับผิดชอบ? Night and Fog (1956) | You are faced with a grave responsibility. Thank you, gentlemen. | คุณจะต้องเผชิญกับความรับผิดชอบหลุมฝังศพ ขอขอบคุณคุณสุภาพบุรุษ 12 Angry Men (1957) | Here, you take on the responsibility. I'll just keep my mouth shut. | ที่นี่คุณใช้ในความรับผิดชอบ ฉันเพิ่งจะเก็บปากของฉันปิด 12 Angry Men (1957) | We have a responsibility. | เรามีความรับผิดชอบ 12 Angry Men (1957) | Who is responsible for this? | ใครคือผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้? Yellow Submarine (1968) | You know, my dear, the trouble with us intellectuals is that we have responsibilities and no power. | คุณรู้มั้ย ปัญหาไม่อยู่ที่ความฉลาด อยู่ที่เรามีความรับผิดชอบ เเต่ไร้ซึ่งอํานาจ Beneath the Planet of the Apes (1970) | You know I'm responsible to your father for your life. | คุณรู้ว่าฉันรับผิดชอบต่อคุณพ่อของคุณสำหรับชีวิตของคุณ The Godfather (1972) | But now I feel sort of responsible for you. | แต่ตอนนี้ผมรู้สึกรับผิดชอบคุณ The Little Prince (1974) | You always feel responsible for what you've tamed. | เธอรู้สึกรับผิดชอบ สิ่งที่เธอทำให้เชื่องเสมอ The Little Prince (1974) | And I was responsible for her, and I had to go back and take care of her. | ผมรับผิดชอบเธอ ผมต้องกลับไปดูแลเธอ The Little Prince (1974) | I'm responsible for this flower. | ผมรับผิดชอบดอกไม้ดอกนี้ The Little Prince (1974) | I'm the one who's held responsible by their families. | ฉันเป็นคนเดียวที่จะต้องรับผิดชอบ ต่อครอบครัวของเธอ. Suspiria (1977) | I'm not responsible for anything. | ฉันไม่รับผิดชอบอะไร Mad Max (1979) | What's hurt you the most is your record since the war - different cities, different jobs - and not one of them shows you can accept any real responsibility. | สิ่งที่ทำร้ายคุณมากที่สุด คือประวัติของคุณตั้งแต่สงคราม เมืองต่างๆ งานต่างๆ ไม่มีเลยที่แสดงให้เห็นว่าคุณ ยอมรับความรับผิดชอบที่แท้จริงได้ Airplane! (1980) | But it's his ship now. He's in charge. | แต่ตอนนี้เครื่องเป็นของเขา เขารับผิดชอบ Airplane! (1980) | "Mahatma Gandhi has become the spokesman for the conscience of all mankind. | "มหาตมะ คานธี เป็นตัวแทน ความรู้สึกรับผิดชอบของมนุษยชาติ Gandhi (1982) | The function of a civil resister is to provoke response. | หน้าที่ของนักต่อสู้คือ กระตุ้นความรับผิดชอบ Gandhi (1982) | And we will continue to provoke until they respond or they change the law. | และเราจะกระตุ้นต่อไป จนพวกเขาจะรับผิดชอบ หรือเปลี่ยนกฎหมาย Gandhi (1982) | You were responsible for the Discovery mission. | คุณมีความรับผิดชอบ สำหรับภารกิจดิสคัเฟอรี 2010: The Year We Make Contact (1984) | you understand, sir, that we are responsible for launching a nuclear weapon against our own country? | เข้าใจมั้ยว่า เราต้องรับผิดชอบ การยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ โจมตีประเทศเราเอง Spies Like Us (1985) | - Who's responsible for this girl? | - ใครรับผิดชอบสาวน้อยคนนี้? Dirty Dancing (1987) | If they think you're trying to avoid taking responsibility, it'll blow up in your face. | ถ้าเธอพยายามปัดความรับผิดชอบล่ะก็ it'll blow up in your face. Akira (1988) | We're partly to blame for his actions. | เรามีส่วนต้องรับผิดชอบสำหรับการกระทำของเขา Akira (1988) | - "I'm not ready to make a commitment." | "ผมยังไม่พร้อมจะัต้องรับผิดชอบ" Big (1988) | I will accept no responsibility. | ไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น Rambo III (1988) | I'm not responsible for it! | ฉันไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นนะ Rambo III (1988) | - Let me carry the weight. | ฉันรับผิดชอบเอง Casualties of War (1989) | Lt. Reilly detailed it to me just after you brought it to him. | หมวดไรลีย์รายงานฉันแล้ว ตอนนี้เป็นความรับผิดชอบของฉัน Casualties of War (1989) | The cup that caught His blood at the Crucifixion and was entrusted to Joseph of Arimathea. | จอกนี้ยังเคยรองรับพระโลหิตของพระองค์ ตอนถูกตรึงกางเขน และได้ มอบความรับผิดชอบให้โจเซฟแห่งอารามาเทีย Indiana Jones and the Last Crusade (1989) | You're taking a leak in some filthy public urinal, and the man in the next stall leans across and asks you about God, or Kafka, or freedom versus responsibility. | คุณกำลังการรั่วไหลในบางปัสสาวะสาธารณะสกปรก และคนที่อยู่ในคอกต่อไปชะโงกข้ามและถามคุณเกี่ยวกับพระเจ้าหรือคาฟคา หรือเสรีภาพกับความรับผิดชอบ The Russia House (1990) | I'm responsible to submit reports on those meetings. | ชั้นจะรับผิดชอบเรื่องการเขียนรายงานเอง เหรอ Good Will Hunting (1997) |
| จำนวนคดีซึ่งรับผิดชอบอยู่ | [jamnūan khadī seung rapphitchøp yū] (n, exp) EN: caseload | การมอบหมายความรับผิดชอบ | [kān møpmāi khwām rapphitchøp] (n, exp) EN: delegation of responsibility | ความรับผิดชอบ | [khwām rapphitchøp] (n) EN: responsibility ; obligation ; answerability ; accountability FR: responsabilité [ f ] | ความรับผิดชอบร่วมกัน | [khwām rapphitchøp ruam kan] (n, exp) EN: collective responsibility FR: responsabilité collective [ f ] | ความรับผิดชอบทางแพ่ง | [khwām rapphitchøp thāng phaeng] (n, exp) EN: civil liability | ความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ | [khwām rapphitchøp tø phalittaphan] (n, exp) EN: product liability | ความรับผิดชอบต่อสังคม | [khwām rapphitchøp tø sangkhom] (n, exp) EN: social responsibility ; Corporate Social Responsibility (CSR) FR: responsabilité sociale des entreprises (RSE) [ f ] | ความสำนึกรับผิดชอบ | [khwām samneuk rapphitchøp] (n, exp) EN: sense of responsibility | เลี่ยงความรับผิดชอบ | [līeng khwām rapphitchøp] (v, exp) EN: avoid responsibility ; evade one's responsibility ; shirk one's responsibility FR: échapper à ses responsabilités ; fuir ses responsabilités | ไม่รับผิดชอบ | [mai rapphitchøp] (adj) EN: be irresponsible ; be not responsible ; disclaim a responsibility FR: décliner toute responsabilité | มีความรับผิดชอบ | [mī khwām rapphitchøp] (adj) EN: responsible | ภาระรับผิดชอบ | [phāra rapphitchøp] (n, exp) EN: accountability | ผู้รับผิดชอบ | [phūrapphitchøp] (n) EN: person responsible ; responsible man ; person in charge of FR: responsable [ m ] ; personne responsable [ f ] | รับผิดชอบ | [rapphitchøp] (v) EN: be responsible ; take responsibilities ; accept responsibility ; be accountable for ; bear ; shoulder FR: assumer la responsabilité ; prendre ses responsabilités ; être responsable ; répondre de | รับผิดชอบ | [rapphitchøp] (adj) EN: responsible FR: responsable | ต้องรับผิดชอบ | [tǿng rapphitchøp] (x) EN: responsible ; accountable |
| in charge | (adj) ที่อยู่ในความรับผิดชอบในหน้าที่ | hypengyophobia | (n) โรคกลัวความรับผิดชอบ, Syn. fear of responsibility | buckpassing | (n, adj) การปัดความรับผิดชอบ, ที่ปัดความรับผิดชอบ เช่น The most important one is the non-trust and buckpassing bureaucracy., The managers are active when there's benefit and buckpassing when things go bad., See also: avoiding |
| accept | (vt) ยอมรับการตำหนิ, See also: รับผิดชอบ | assume | (vt) ยอมรับ, See also: รับผิดชอบ | answer for | (phrv) รับผิดชอบต่อ, See also: รับผิดชอบ | at someone's doorstep | (idm) ในความดูแลของ, See also: ในความรับผิดชอบของ | bear | (vt) รับผิดชอบ, Syn. accept | blame | (n) การรับผิดชอบต่อสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้น, Syn. liability, responsibility | blame | (vt) รับผิดชอบต่อสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้น | bounden | (adj) ซึ่งผู้มัดหรือเป็นภาระรับผิดชอบ | buck | (vt) ส่งต่อไปยัง (เพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ) | be in charge of | (idm) จัดการ, See also: ดูแล, รับผิดชอบ | be in one's right mind | (idm) สามารถใช้เหตุผลตัดสินได้, See also: มีสติรู้รับผิดชอบชั่วดี, Syn. be out of, go out of | be in someone's hands | (idm) อยู่ในความรับผิดชอบของ, See also: เป็นความรับผิดชอบของ, Syn. be out of | be off one's chump | (idm) เสียสติ, See also: ไม่รู้สึกรับผิดชอบชั่วดี, ไม่มีสติ, Syn. go off | be off one's hands | (idm) เลิกรับผิดชอบ, See also: หมดภาระ, หยุดรับภาระ, Syn. be on | be off one's head | (idm) เสียสติ, See also: ไม่รู้สึกรับผิดชอบชั่วดี, ไม่มีสติ, Syn. go off | be off one's nut | (idm) เสียสติ, See also: ไม่รู้สึกรับผิดชอบชั่วดี, ไม่มีสติ, Syn. go off | be off one's rocker | (idm) เสียสติ, See also: ไม่รู้สึกรับผิดชอบชั่วดี, ไม่มีสติ, Syn. go off | be on someone's head | (idm) รับผิดชอบ, See also: เป็นความรับผิดชอบของ | be on | (phrv) รับหน้าที่, See also: รับภาระ, รับผิดชอบ | be out of one's hands | (idm) ไม่อยู่ในความรับผิดชอบ, Ant. be in someone's hands | be upon | (phrv) รับหน้าที่, See also: รับภาระ, รับผิดชอบ | bunk off | (phrv) หนีจาก (ความรับผิดชอบ, ครอบครัว, โรงเรียนฯลฯ) | caseload | (n) จำนวนงานที่รับผิดชอบอยู่ (เช่น ของหมอหรือนักสังคมสงเคราะห์) | casting vote | (n) การลงคะแนนตัดสินโดยผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบการประชุมเนื่องจากแต่ละฝ่ายมีคะแนนเท่ากัน | caveat emptor | (n) หลักในการซื้อขายที่ผู้ซื้อจะต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบในการหาคุณภาพที่บกพร่องของสินค้า | charge | (n) ความดูแล, See also: หน้าที่, สิ่งที่ต้องรับผิดชอบ, Syn. custody, care, responsibility, duty | charge | (n) ภาระ, See also: ความรับผิดชอบ, Syn. burden | commission | (n) งานที่รับผิดชอบ, Syn. duty, work, abligation | commit | (vt) มอบหมายให้, See also: ให้รับผิดชอบ, Syn. consign, entrust | commitment | (n) ความรับผิดชอบ, Syn. responsibility, engagement | confide | (vt) ให้ความไว้วางใจ, See also: มอบความรับผิดชอบให้, Syn. entrust, charge, consign | consign | (vt) ให้อยู่ในความรับผิดชอบของ, See also: ให้อยู่ในความดูแลของ, Syn. entrust | cop-out | (n) การละทิ้งความรับผิดชอบ (คำสแลง) | custodian | (n) ผู้รับผิดชอบในการดูแลทรัพย์สินมีค่า, Syn. guardian, caretaker, keeper | contribute to | (phrv) รับผิดชอบต่อ, See also: เป็นสาเหตุของ, นำมาซึ่ง, Syn. conduce to | contribute towards | (phrv) รับผิดชอบต่อ, See also: เป็นสาเหตุของ, นำมาซึ่ง, Syn. conduce to | cop out | (phrv) เลี่ยงความรับผิดชอบในเรื่อง (คำไม่เป็นทางการ), Syn. opt in, opt out | devolve on | (phrv) มอบให้ (อำนาจ, หน้าที่, ความรับผิดชอบฯลฯ) | devolve upon | (phrv) มอบให้ (อำนาจ, หน้าที่, ความรับผิดชอบฯลฯ) | do one's duty | (idm) รับผิดชอบหน้าที่ของตนเอง | fall on | (phrv) ตกมาถึง, See also: มาถึง, เป็นความรับผิดชอบของ | fall to someone's lot | (phrv) กลายเป็นความรับผิดชอบในการทำบางสิ่ง | fall to someone's share | (phrv) กลายเป็นความรับผิดชอบในการทำบางสิ่ง | fall upon | (phrv) ตกมาถึง, See also: มาถึง, เป็นความรับผิดชอบของ | footloose and fancy-free | (idm) ปราศจากการผูกมัด, See also: ไม่รับผิดชอบ | deck officer | (n) เจ้าหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการเดินเรือและสินค้าเรือ | devil-may-care | (adj) สุรุ่ยสุร่าย, See also: ซึ่งไม่กังวลกับเรื่องในอนาคต, ซึ่งไม่แยแสสิ่งใด, ซึ่งไม่รับผิดชอบ, สนใจแต่เรื่องกิน - เล่, Syn. cavalier, casual, indifferent | devolution | (n) การกระจายความรับผิดชอบ, See also: การมอบหมายหน้าที่, Syn. delegation | devolve | (vt) ถ่ายโอนอำนาจไปยังคนที่มีอำนาจน้อยกว่า, See also: ถ่ายโอนความรับผิดชอบไปยังคนที่มีความรับผิดชอบน้อยกว่า, Syn. commit, entrust, offer a post | disclaimer | (n) ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ, Syn. denial, rejection, contradiction, Ant. avowal, affirmation |
| accountable | (อะเคา' ทะเบิล) adj. ซึ่งต้องรายงานหรืออธิบาย, ซึ่งรับผิดชอบ, สามารถอธิบายได้, Syn. responsible, liable | age of discretion | ขีดอายุที่คนมีความนึกคิดที่รับผิดชอบได้ | amenable | (อะมี' นะเบิล) adj. อ่อนโยน, ไม่ดื้อ, ซึ่งรับผิดชอบ, ยอม รับฟัง, ยอมให้วิจารณ์หรือทดสอ บ ได้-amenableness, amenability n., Syn. agreeable, Ant. stubborn | avouch | (อะเวาชฺ') vt. รับประกัน, รับรอง, รับผิดชอบ, ยอมรับ, สารภาพ. -avoucher n. | blame | (เบลม) { blamed, blaming, blames } vt. กล่าวโทษ, ตำหนิ, ประณาม, นินทา, กล่าวร้าย, โยนความผิดให้ -Phr. (be to blame ควรถูกตำหนิ, ควรรับผิดชอบ) n. การตำหนิ, ความรับผิดชอบ, ภาระ, See also: blamer n. blameful adj. ดูblame blameless adj. ดูblame -Conf. put | cerebrum | (เซอ'ริบรัม) n. สมองใหญ่ เป็นส่วนที่อยู่ด้านหน้า แบ่งเป็น 2 ซีก มี cerebralcortex ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการติดต่อของเส้นประสาททั่วร่างกาย สมองส่วน cerebrum ทำหน้าที่เกี่ยวกับความคิด ความฉลาด ไหวพริบ ความทรงจำ ความยั้งคิดและความรู้สึกรับผิดชอบต่าง ๆ และนอกจากยัง nerve center ท่ควบคุมการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของร่างกายส่วนต่าง ๆ | cop-out | (คอพ'เอาท) n. การไม่ยอมรับผิดชอบ, การไม่ยอมปฏิบัติตามคำมั่นหรือสัญญา, ผู้ที่ชองละทิ้ง | discharge | (ดิสชาร์จ') vi., vt., n. (การ) ปล่อย, เอาลง, ขับออก, ทำให้พ้นหน้าที่ความรับผิดชอบหรืออื่น ๆ , ปลดจากประจำการ, ปลดจากงาน, ปล่อยกระแสไฟฟ้า, หนังสือหลักฐานการปลดจากภาระหน้าที่, การชำระสะสาง, See also: discharger n. ดูdischarge, Syn. unl | dutiful | (ดิว'ทิฟูล) adj. เกี่ยวกับหน้าที่, ซึ่งรับผิดชอบต่อหน้าที่, เชื่อฟัง, ซื่อสัตย์, น่าเคารพ | entrust | (เอนทรัสทฺ') { entrusted, entrusting, entrusts } vt. มอบความรับผิดชอบ, มอบความไว้วางใจ., See also: entrustment n. ดูentrust, Syn. intrust | fainaigue | (ฟะเนก') vi. หลบหนีงานหรือความรับผิดชอบ, หลบหนี, โกง. vt. โกง, หลอก, ลวง -fainaiguer n. | flighty | (ไฟล'ที) adj. เปลี่ยนใจง่าย, เหลาะแหละ, ไม่แน่นอน, ไม่รับผิดชอบ, จิตฟุ้งซ่าน, ไม่เต็มบาท, ซึ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว. -flightily adv., See also: flightiness n., Syn. unstable | harumscarum adj | adv., n. (คนที่) สะเพร่า, เลินเล่อ, มุทะลุ, ไม่รับผิดชอบ, ซุ่มซ่าม. | irresponsible | (เออริสพอน'ซะเบิล) adj. ไม่รับผิดชอบ, ขาดความรับผิดชอบ., See also: irresponsibility, irresponsibleness n. irresponsibly adv., Syn. irresolute | lap | (แลพ) { lapped, lapping, laps } n. หน้าตัก, ตัก, ที่เป็นแอ่ง, ชายเสื้อ, กระพุ้งผ้า, การควบคุม, การรับผิดชอบ, การพับ, การพัน, การคาด, การคาด, การห่อ, การวางซ้อน, การวิ่งรอบ, ส่วนที่เกย v. พับ, พัน, คาด, ห่อ, วางซ้อน, วิ่งแซงหน้าไปหนึ่งรอบ, ก่อเชื่อม, ทับเกย, วิ่งรอบ, เลย. abbr. laparotomy, leucine aminopeptidase, left atrail presaure, leukocyte alkaline phosphatase | legality | (ลิแกล'ลิที) n. ความถูกต้องตามกฎหมาย, การปฏิบัติตามกฎหมาย, หน้าที่หรือความรับผิดชอบด้วยกฎหมาย | liability | (ไลอะบิล'ลิที) n. หนี้, หนี้เงิน, หนี้สิน, ความรับผิดชอบ, ภาระหน้าที่, ด้านลูกหนี้ของบัญชี, ข้อเสียเปรียบ, ความโน้มเอียง, Syn. accountability | liable | (ไล'อะเบิล) adj. โน้มเอียง, โน้มน้าว, อาจจะ, ง่ายต่อ, รับผิดชอบ (ตามกฎหมาย) | onus | (โอ'นิส) n. ความรับผิดชอบ, ภาระ | piper | (ไพ'เพอะ) n. ผู้เป่าปี่หรือขลุ่ย, ผู้เป่าปี่สก๊อต, คนวางท่อ. -Phr. (pay the piper รับผิดชอบ) | responsibility | (ริสพอนซะบิล'ลิที) n. ความรับผิดชอบ, ภาระ, ภาระหน้าที่, สิ่งที่รับผิดชอบ, สิ่งที่เป็นภาระหน้าที่, Syn. accountability | responsible | (รีสพอน'ซะเบิล) adj. รับผิดชอบ, เป็นภาระ, เป็นภาระหน้าที่, เชื่อถือได้, See also: responsibleness n., Syn. accountable | share | (แชร์) n. ส่วน, ส่วนหนึ่ง, ส่วนแบ่ง, ส่วนร่วมมือ, ส่วนที่รับผิดชอบ, หุ้นส่วน vt. แบ่งส่วน, แบ่งสรร, แบ่งเฉลี่ย, แบ่ง, แบ่งกำไร. vi. มีส่วน, ร่วมส่วน, ร่วมหุ้น, ร่วมกันทำ, ร่วมกันรับ, ร่วมกันรับผิดชอบ, See also: sharable adj. shareable adj. sharer n. | shirk | (เชิร์ค) vt. หนีงาน, หนีภาระหน้าที่, หนีความรับผิดชอบ., Syn. soldier, malinger | shirker | (เชิร์ค'เคอะ) n. ผู้หนีงาน, ผู้หนีความรับผิดชอบ, Syn. idler, slacker, quitter | shoulder | (โชล'เดอะ) n. ไหล่, บ่า, สะบัก, ไหล่เสื้อ, ไหล่เขา, ไหล่ถนน, ขอบถนน, ท่าแบกปืน. vt., vi. ใช้ไหล่ดัน, ใช้ไหล่เบียด, แบก, รับผิดชอบ, รับภาระ. shoulder arms เอาปืนขึ้นประทับไหล่., Syn. endure, assume, take on | system engineer | วิศวกรระบบหมายถึง วิศวกรที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์อาจมีหน้าที่ออกแบบ หรือวางข้อกำหนดในการซื้อหรือหาเครื่องให้เหมาะสมกับงานที่จะใช้คอมพิวเตอร์ ชี้แนะจุดผิดพลาดกว้าง ๆ เมื่อเครื่องทำงานผิดวัตถุประสงค์ รวมทั้งชี้แนะว่า ควรใช้เครื่องมากน้อยอย่างใดจึงจะคุ้มค่า หรืออาจหมายถึง การชี้แนะในเรื่องการจัดหาอุปกรณ์บางชนิดเพิ่มเติม เพื่อให้การทำงานเฉพาะอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น | trust | (ทรัสทฺ) n. ความเชื่อถือ, ความไว้วางใจ, ความมั่นใจ, ความหวัง, สิ่งที่ไว้ใจได้, บุคคลที่ไว้ใจได้, บริษัทใหญ่ที่รวมบริษัทเล็ก ๆ เข้าไว้, ความรับผิดชอบ, การฝากฝัง, ความพิทักษ์, ความอุปถัมภ์, การปกครอง, สินเชื่อ, -Phr. (in trust อยู่ในความพิทักษ์ของคนอื่น) adj. เกี่ยวกับสินเชื่อ | two-way | (ทู'เว) adj. สองทาง, สองฝ่าย, สองด้าน, รับผิดชอบทั้งสองฝ่าย, รับภาระทั้งสองฝ่าย | unaccountable | (อันอะเคา'ทะเบิล) adj. ไม่ได้อธิบายไว้, ไม่สามารถอธิบายได้, ไม่ต้องรับผิดชอบ, ไม่มีภาระหน้าที่, แปลก, พิกล, ไม่ สามารถตอบโต้., See also: unaccountableness n. unaccountability n. | undertake | (อันเดอะเทค') vt., vi. เข้าทำ, ดำเนินการ, อาสา, รับรอง, ประกัน, รับผิดชอบ., Syn. take on | undertaker | (อันเดอะเทค'เทอะ) n. ผู้รับหน้าที่, ผู้รับผิดชอบ, สัปเหร่อ, ผู้จัดการศพ, นักวิสาหกิจ | vagabond | (แวก'กะบอนดฺ) adj. พเนจร, ร่อนเร่, จรจัด, ไร้ค่า, ขี้เกียจ. n. คนพเนจร, คนร่อนเร่, คนจรจัด, คนที่ไม่มีความรับผิดชอบ., See also: vagabondish adj., Syn. tramp, vagrant | wanton | (วอน'ทัน) adj. มุ่งร้ายและไม่ยุติธรรม, ขี้เล่น, ซุกซน, ชอบเล่นพิเรน, ไม่รับผิดชอบ, มั่วโลกีย์, ฟุ่มเฟือย, ฟุ้งเฟ้อ, สุรุ่ยสุร่าย, เขียวชอุ่ม, See also: wantonly adv. wantonness n. | wheel | (วีล) n. ล้อ, ล้อรถ, บุคคลที่กระฉับกระเฉงและมีอิทธิพล, at the wheel ถือพวงมาลัยควบคุม บังคับบัญชา vi. vt. (ทำใหั) หมุน, หมุนรอบ, หัน, วนเวียน, หันกลับ, แล่นไปอย่างราบรื่น, กลิ้งบนล้อ, wheel and deal กระทำอยู่อย่างอิสระหรือโดยพลการ รับผิดชอบ, See also: wheel |
| accountable | (adj) ซึ่งต้องรายงาน, ซึ่งรับผิดชอบ, ซึ่งอธิบายได้ | amenable | (adj) รับผิดชอบ, ยอมรับฟัง, ถือสาหาความได้ | answerable | (adj) รับผิดชอบ, ที่แก้ได้, ที่ตอบได้ | avouch | (vt) รับผิดชอบ, ยอมรับ, รับรอง, รับประกัน | charge | (n) หน้าที่, ความรับผิดชอบ, ภาระ, ค่าธรรมเนียม, มูลค่า, การฟ้องร้อง | delinquency | (n) การหลีกเลี่ยงหน้าที่, ความไม่รับผิดชอบ, ความเหลวไหล, การกระทำผิด | delinquent | (adj) หลีกเลี่ยงหน้าที่, เหลวไหล, ไม่รับผิดชอบ, กระทำผิด | dutiful | (adj) ซื่อสัตย์, ซึ่งรับผิดชอบต่อหน้าที่, ทำตามหน้าที่, เชื่อฟัง | duty | (n) หน้าที่, ภาระหน้าที่, อากร, ภาษี, ความรับผิดชอบ | entrust | (vt) ไว้ใจ, มอบหมาย, มอบความรับผิดชอบ | irresponsible | (adj) ขาดความรับผิดชอบ | liability | (n) ความเป็นไปได้, ความรับผิดชอบ, ข้อบกพร่อง, หนี้, พันธกรรม, ความโน้มเอียง | liable | (adj) อาจเป็นไปได้, รับผิดชอบ, มีแนวโน้ม, โน้มเอียง | responsibility | (n) ภาระหน้าที่, ความรับผิดชอบ | responsible | (adj) รู้จักหน้าที่, รับผิดชอบ, เป็นภาระ | trust | (n) ความไว้ใจ, การให้เชื่อ, ความเชื่อถือ, ความรับผิดชอบ, สินเชื่อ, ของฝาก | unaccountable | (adj) อธิบายไม่ได้, ไม่รับผิดชอบ, แปลก, พิกล | undertaker | (n) สัปเหร่อ, ผู้รับผิดชอบ |
| -responsible- | (vi, vt, aux, verb) รับผิดชอบ | accountability | (n) ความรับผิดชอบ | authority | [อ่อธ้อเหรอะทิ] (n) (1) อำนาจ (權柄) (2) บุคคลหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น MEA, PEA (3) แหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ (權威) | Chaaim | [ชา ไอม์] (slang) ขาดความรับผิดชอบ, See also: unzuverlässig, unvorsichtig, A. verantwortlich, Syn. unverantwortlich | Incur | (vt) รับผิด/รับผิดชอบ |
| 引責辞任 | [いんせきじにん, insekijinin] (n) การแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออก | 義務 | [ぎむ, gimu] (n) หน้าที่, ความรับผิดชอบ | 責任 | [せきにん, sekinin] (n) หน้าที่, ความรับผิดชอบ | 責任者 | [せきにんしゃ, sekininsha] (n) ผู้รับผิดชอบ |
| 担当者 | [たんとうしゃ, tantousha] (n) ผู้รับผิดชอบ, ผู้ได้รับมอบหมาย | 無責任 | [むせきにん, musekinin] (n, adj) ไม่มีความรับผิดชอบ | 責任感 | [せきにんかん, sekininkan] (n) มีความรับผิดชอบ | 移管 | [いかん, ikan] (n) การโอนหน้าที่หรือความรับผิดชอบให้หน่วยงานอื่นทำ | アップリンクID | [アップリンクアイディー, appurinkuaidi^] ก. ผู้ควบคุมข้อมูล | เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล ผู้ควบคุมข้อมูลสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลคือ Freiwillige รับผิดชอบในการควบคุม Unterhaltungssoftware GmbH Torstr. 6 10119 เบอร์ลิน เยอรมนี อีเมล |
| 一人まえになる | [いちにんまえになる, ichininmaeninaru] TH: เป็นคนที่รับผิดชอบตัวเองได้ | 引責 | [いんせき, inseki] TH: รับผิดชอบ EN: taking responsibility (vs) |
| Prüfungsamt | (n) |das| ฝ่ายวิชาการในมหาวิทยาลัย ซึ่งรับผิดชอบเรื่องที่เกี่ยวกับการสอบโดยตรง | Verantwortung | (n) |die, pl. Verantwortungen| ความรับผิดชอบ เช่น Für mein Leben trage ich selbst die Verantwortung. ฉันรับผิดชอบชีวิตของฉันด้วยตัวฉันเอง |
| Chaaim | [ชา ไอม์] (slang) ขาดความรับผิดชอบ, See also: unzuverlässig, unvorsichtig, A. verantwortlich, Syn. unverantwortlich |
|
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |