“Demure” : The word redefines elegance and confidence in 2024 (เรียนภาษาอังกฤษ in English) “Demure” เป็นคำศัพท์ที่ได้รับความสนใจจากโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะ Tiktok ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่หันมาให้ความสำคัญกับความเรียบง่าย ความมั่นใจ และความใส่ใจในรายละเอียดทั้งในรูปลักษณ์และพฤติกรรม โดยคำนี้ได้รับการนิยามใหม่จากความหมายดั้งเดิมที่เกี่ยวกับความสุภาพถ่อมตัวและความสงวนท่าที ให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความสง่างามที่มาพร้อมความมั่นใจอย่างมีชั้นเชิงในโลกที่เต็มไปด้วยความโดดเด่นฉูดฉาด การเปลี่ยนแปลงนี้ซึ่งได้รับอิทธิพลอย่างมากจากเทรนด์ในโซเชียลมีเดียและทัศนคติของสังคมที่พัฒนาไป ชี้ให้เห็นถึงการยอมรับในรูปแบบการแสดงตัวตนที่แฝงด้วยความลึกซึ้งและงดงามในปัจจุบัน The word “demure” was selected as Dictionary.com’s 2024 Word of...
ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*มีความสำคัญ*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: มีความสำคัญ, -มีความสำคัญ-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
มีความสำคัญ(v) be significant, See also: be important, Syn. มีความหมาย, Ant. หมดความสำคัญ, หมดความหมาย, Example: ปัจจุบัน การเก็บบันทึกข้อมูลทางด้านคอมพิวเตอร์มีความสำคัญกับมนุษย์มากขึ้น

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ [with local updates]
จุดยุทธศาสตร์น. พื้นที่และสถานที่ตั้งที่มีความสำคัญในทางการเมือง เศรษฐกิจ จิตวิทยา และกำลังรบทางทหารทั้งในยามสงบและยามสงคราม.
ไนโตรเจนน. ธาตุลำดับที่ ๗ สัญลักษณ์ N เป็นอโลหะ ลักษณะเป็นแก๊ส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ไวต่อปฏิกิริยาเคมี มีปรากฏอยู่ประมาณร้อยละ ๘๐ ในบรรยากาศ ธาตุนี้มีความสำคัญยิ่งต่อสิ่งมีชีวิต โดยเป็นองค์ประกอบสำคัญของโปรตีนและกรดนิวคลิอิก.
ปลายแถวน. คนที่อยู่ท้ายแถว, โดยปริยายหมายถึง ผู้น้อย, ผู้ที่มีความสำคัญน้อย, หางแถว ก็ว่า.
พิธีสารน. ความตกลงระหว่างประเทศอย่างหนึ่ง ได้แก่ ตราสารอันบรรจุไว้ซึ่งความตกลงที่มีความสำคัญรองลงมาจากสนธิสัญญาและอนุสัญญา โดยมากเป็นพิธีสารต่อท้ายหรือแก้ไขเพิ่มเติมสนธิสัญญาหรืออนุสัญญา.
พิพิธภัณฑ์, พิพิธภัณฑสถาน(พิพิดทะพัน, -พันทะสะถาน) น. สถานที่เก็บรวบรวมและแสดงสิ่งต่าง ๆ ที่มีความสำคัญด้านวัฒนธรรมหรือด้านวิทยาศาสตร์ โดยมีความมุ่งหมายเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา และก่อให้เกิดความเพลิดเพลินใจ.
มือรองน. ผู้มีความสำคัญเป็นคนที่ ๒ รองจากมือแรก, คนที่ลงมือทำเป็นคนที่ ๒ รองจากมือต้น.
ยุทธศาสตร์ว. ที่มีความสำคัญทางการเมือง เศรษฐกิจ จิตวิทยา และกำลังรบทางทหาร ทั้งในยามสงบและยามสงคราม เช่น จุดยุทธศาสตร์.
ละครสังคีตน. ละครแบบหนึ่ง ได้รับอิทธิพลจากละครแบบยุโรป ตัวละครร้องและพูดบทของตน การร้องเพลงและการพูดมีความสำคัญเท่ากัน ถ้าตัดส่วนใดออกเนื้อเรื่องจะขาดไป ดนตรีประกอบไพเราะ มีการจัดฉากและแต่งกายตามสมัยที่ปรากฏในเรื่อง เช่น เรื่องวิวาหพระสมุท มิกาโด วั่งตี.
หางแถวน. คนที่อยู่ท้ายแถว, โดยปริยายหมายถึงผู้น้อย, ผู้ที่มีความสำคัญน้อย, ปลายแถว ก็ว่า.

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Convention on Wetlands of International Importance Especially as Waterfowl Habitat, 1971อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศโดยเฉพาะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกน้ำ (ค.ศ. 1971) [TU Subject Heading]
Communiquéคำประกาศทางการหรือแถลงการณ์ทางการ ซึ่งรายงานให้ทราบผลของการประชุม หรือการเจรจาเป็นทางการระหว่างเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ในรัฐบาล เช่น ประมุขของรัฐ หัวหน้ารัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เอกอัครราชทูต หรือบุคคลอื่นในระดับนั้น คำแถลงการณ์ที่เรียกว่า Communiqué นี้ไม่มีรูปแบบโดยเฉพาะแต่อย่างใด โดยปกติอะไรที่ได้ตกลงกันไว้ในการเจรจาจะบรรจุไว้ด้วยถ้อยคำกว้างๆ ส่วนอะไรที่มิได้ระบุไว้ในแถลงการณ์มักจะมีความสำคัญยิ่งกว่าถ้อยคำที่เขียน ไว้เสียด้วย [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
Great Powersประเทศมหาอำนาจ รัฐที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นประเทศมหาอำนาจ คือรัฐที่มีอำนาจอิทธิพลครอบงำในกิจการระหว่างประเทศ ไม่มีกฎหมายใดๆ ที่จะกำหนดว่าประเทศนั้น ประเทศนี้มีสถานภาพเป็นมหาอำนาจ หากเป็นเพียงเพราะรัฐนั้นๆ มีขนาด พละกำลัง และอำนาจอิทธิพลทางเศรษฐกิจเป็นพื้นฐาน และจะสังเกตได้ว่า สถานะของกลุ่มประเทศมหาอำนาจเช่นนี้ก็จะเปลี่ยนแปลงได้บ่อยๆ เช่น ในสมัยการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาในปี ค.ศ. 1815 ประเทศมหาอำนาจในสมัยนั้นได้แก่ อังกฤษ ออสเตรีย ฝรั่งเศส ปอร์ตุเกส ปรัสเซีย สเปน สวีเดน และรัสเซีย หลังจากนั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่เกี่ยวกับพละกำลังของประเทศมหาอำนาจ คือก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ หนึ่ง ประเทศที่จัดว่าเป็นมหาอำนาจในตอนนั้นคือ อังกฤษ ฮังการี ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และรัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในทวีปยุโรป รวมทั้งสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่นอกยุโรป เมื่อตอนสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศที่เป็นมหาอำนาจได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ โซเวียตรัสเซีย ฝรั่งเศส และจีน พึงสังเกตด้วยว่า องค์การสหประชาชาติได้ถือว่า ประเทศทั้ง 5 นี้มีอำนาจและมีความสำคัญมากที่สุดในขณะนั้น ทั้ง 5 ประเทศนี้ต่างเป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ซึ่งมีอำนาจใช้สิทธิยับยั้ง (Veto) ในที่ประชุม ซึ่งในปัจจุบันก็ยังปฏิบัติเช่นนั้นอยู่ [การทูต]
Heads of Stateผู้แทนที่สำคัญที่สุดของรัฐ หรือประมุขของรัฐ ในบางกรณีอาจทำหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐ ในการเจริญความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ โดยมีอำนาจเต็มที่จะประกอบการใด ๆ ได้ ประมุขของรัฐนั้นอาจได้แก่ พระจักรพรรดิ (Emperor) พระเจ้าแผ่นดิน (King) พระราชินี (Queen) และประธานาธิบดี (President)ประมุขของรัฐย่อมมีสิทธิที่จะได้รับการเคารพ และการยอมรับนับถือจากประเทศอื่นๆ ในสังคมนานาประเทศ ในแง่พิธีการทูต ผู้ที่เป็นกษัตริย์อาจได้รับเกียรติแตกต่างกับผู้ที่เป็นประธานาธิบดี แต่ความแตกต่างเช่นนี้หามีความสำคัญในแง่กฎหมายอย่างใดไม่ เมื่อประมุขของรัฐเดินทางไปเยือนต่างประเทศ ตัวประมุขพร้อมด้วยบุคคลในครอบครัวและบริวารทั้งหลาย ตลอดจนถึงทรัพย์สินของประมุขจะไดรับความคุ้มกัน (Immunity) ทั้งในทางแพ่งและอาญาคำว่าประมุขของรัฐอาจหมายถึงหัวหน้าของรัฐบาลก็ได้ เช่น ในกรณีสหรัฐอเมริกา แต่ในบางประเทศ เช่น อังกฤษ ประมุขของรัฐมิได้เป็นหัวหน้าของรัฐบาล ผู้ที่เป็นหัวหน้าของรัฐบาลได้แก่ นายกรัฐมนตรี (Prime Minister) ในประเทศที่มีการปกครองในรูปสาธารณรัฐ (Republic) ถือว่าอำนาจอธิปไตยตกอยู่กับประชาชน แม้แต่ตัวประธานาธิบดีของประเทศก็ไม่มีอำนาจอธิปไตย หากแต่เป็นประชาชนพลเมืองคนหนึ่ง ซึ่งได้รับการเลือกตั้งให้เข้าไปบริหารประเทศตามกำหนดระยะเวลาหนึ่งภายใต้ รัฐธรรมนูญ และตัวประธานาธิบดี เช่น ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็อาจถูกฟ้องให้ขับออกจากตำแหน่งโดยรัฐสภา หรือสภานิติบัญญัติได้ เรียกว่า Impeachment [การทูต]
International Civil Aviation Organizationเรียกโดยย่อว่า ICAO คือองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1947 หลังจากที่ประเทศสมาชิก 28 แห่ง ได้ให้สัตยาบันแก่อนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือน ซึ่งได้ร่างขึ้นโดยที่ประชุมองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศในนครชิคาโก เมื่อปี ค.ศ.1944วัตถุประสงค์ของ ICAO คือการศึกษาปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการบินพลเรือนระหว่างประเทศ รวมทั้งจัดวางมาตรฐานระหว่างประเทศ และระเบียบข้อบังคับสำหรับการบินพลเรือนองค์การจะพยายามสนับสนุนให้มีการใช้ มาตรการว่าด้วยความปลอดภัย วางระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการปฏิบัติให้เสมอเหมือนกันหมด และให้ใช้วิธีปฏิบัติที่สะดวกง่ายขึ้นตรงพรมแดนระหว่างประเทศ องค์การจะส่งเสริมการใช้วิธีการทางเทคนิคและอุปกรณ์เครื่องมือใหม่ ๆ ดังนั้น ด้วยความร่วมมือจากประเทศสมาชิก องค์การจะจัดวางแนวบริการทางอุตุนิยมวิทยา การควบคุมการจราจรทางอากาศ การคมนาคมสื่อสารไฟสัญญาณด้านวิทยุ จัดระเบียบการค้นหาและช่วยเหลือ รวมทั้งอุปกรณ์ความสะดวกอื่น ๆ ซึ่งจำเป็นที่จะให้การบินระหว่างประเทศได้รับความปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังชักจูงให้รัฐบาลประเทศสมาชิกวางแนวทางปฏิบัติด้านศุลกากรให้สะดวกง่าย ขึ้น รวมทั้งการตรวจคนเข้าเมือง และระเบียบเกี่ยวกับสาธารณสุขที่ใช้กับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ นอกจากนี้ องค์การยังรับผิดชอบต่องานร่างกฎหมายเกี่ยวกับการบินระหว่างประเทศ ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศในด้านเศรษฐกิจมาก มายหลายอย่างองค์การ ICAO ดำเนินงานโดยองค์การต่าง ๆ ดังนี้1. สมัชชา (Assembly) ประกอบด้วยผู้แทนของประเทศสมาชิกทุกประเทศ ทำการประชุมกันปีละครั้ง และจะลงมติเกี่ยวกับมาตรการทางการเงิน และจะรับพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ที่คณะมนตรีส่งมาให้ดำเนินการ2. คณะมนตรี (Council) ประกอบด้วยผู้แทนจากชาติต่าง ๆ 21 ชาติ ซึ่งสมัชชาเป็นผู้เลือก โดยคำนึงถึงประเทศที่มีความสำคัญในการขนส่งทางอากาศ รวมทั้งประทเศที่มีส่วนเกื้อกูลไม่น้อยในการจัดอำนวยอุปกรณ์ความสะดวกแก่การ เดินอากาศฝ่ายพลเรือนระหว่างประเทศ และจัดให้มีตัวแทนตามจำนวนที่เหมาะสมในเขตภูมิศาสตร์ใหญ่ ๆ ของโลก คณะมนตรีเป็นผู้เลือกตั้งประธาน (President) ขององค์การ3. เลขาธิการ (Secretary-General) ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่ขององค์การ [การทูต]
International Conferencesคือการประชุมระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการระหว่าง ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็มจากหลาย ๆ ประเทศ เพื่อพิจารณาหาทางระงับปัญหาระหว่างประเทศ การประชุมเช่นนี้บางทีเรียกว่า คองเกรสระหว่างประเทศ แม้จะเรียกต่างกัน แต่ก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันที่สำคัญระหว่างสองคำนี้ บ้างมีความเห็นว่า ใช้คำคองเกรส ดูจะมีความสำคัญและมีลักษณะเป็นทางการมากกว่าใช้คำ คอนเฟอเรนซ์ผู้แทนจากประเทศที่ร่วมการประชุมในบางโอกาส ได้แก่บุคคลในระดับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือเอกอัครราชทูต แล้วแต่ว่าการประชุมนั้น ๆ มีความสำคัญระดับใดในการประชุมระหว่างประเทศ แต่เดิมใช้ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสกันมากทั้งสองภาษา มาในภายหลังมักนิยมใช้ภาษาอังกฤษเกือบทั้งหมด ส่วนการประชุมระหว่างประเทศที่องค์การสหประชาชาติเป็นผู้จัด จะใช้ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน รัสเซีย และจีน รวม 5 ภาษาตามปกติ มักจะเลือกหัวหน้าคณะผู้แทนของประเทศเจ้าภาพให้ทำหน้าที่ประธานการประชุม ส่วนเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ของการประชุม ได้แก่ รองประธาน เลขานุการของการประชุม ประธานกรรมการ และผู้บันทึกรายงานสำหรับรายงานการประชุม ข้อมติของที่ประชุมและข้อเสนอแนะนั้น จะรวมเข้าไว้ในเอกสารที่เรียกว่า กรรมสารสุดท้าย (Final Act) ซึ่งผู้แทนประเทศผู้มีอำนาจเต็มจะเป็นผู้ลงนามในเอกสารนั้นในการประชุมครั้ง สุดท้าย [การทูต]
Niccolo Machiavelli (1469-1527)คือรัฐบุรุษและปรัชญาเมธีทางการเมืองของสาธารณรัฐ ฟลอเรนส์ (Florence) ระหว่างรับราชการ ท่านดำรงตำแหน่งฝ่ายธุรการหลายตำแหน่งซึ่งไม่สู้มีความสำคัญเท่าใด แต่สิ่งที่ท่านสนใจมากที่สุดได้แก่ศิลปะของการเมือง หนังสือสำคัญ ๆ ที่ท่านประพันธ์ขึ้นไว้คือ The Prince เล่มหนึ่ง อีกเล่มหนึ่งชื่อ The Art of War และอีกเล่มหนึ่งคือ Discourses on the First Ten Books of Livyมีนักเขียนหลายคนวิพากษ์ Machiavelli ที่แสดงความเห็นสนับสนุนว่า รัฐบาลใดก็ตมที่ต้องการรักษาอำนาจการปกครองตนให้เข้มแข็งไว้ ย่อมจะใช้วิถีทางใด ๆ ก็ได้ ถึงแม้หนทางเช่นนั้นจะผิดกฎหมายหรือไร้ศีลธรรมก็ตาม และก็มีนักเขียนอีกหลายคนสนับสนุนท่าน โดยชี้ให้เห็นว่า ท่านเป็นแต่เพียงตีแผ่ให้เห็นพฤติกรรมที่แท้จริงของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในยุคสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่มากกว่าอย่างอื่น อาทิเช่น ในหนังสือ The Prince ของท่านตอนหนึ่งอ้างว่า การต่อสู้นั้นมีอยู่สองวิธี วิธีแรกเป็นการต่อสู้โดยวิถีทางกฎหมาย อีกวิธีหนึ่งคือการต่อสู้โดยใช้กำลัง (Force) วิธีแรกนั้นเป็นวิธีที่มนุษย์พึงใช้ ส่วนวิธีที่สองเป็นวิธีเยี่ยงสัตว์ป่า แต่การใช้วิธีแรกมักจะไม่ค่อยได้ผลเสมอไป เพราะไม่เพียงพอ ก็ย่อมจะหันเข้าใช้วิธีที่สองได้ ฉะนั้น ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้น ซึ่ง Machiavelli เรียกว่า Prince จึงจำเป็นต้องรู้ดีว่าจะใช้ทั้งวิธีที่มนุษย์จะพึงใช้ และวิธีเยี่ยงสัตว์ป่าอย่างไร ด้วยเหตุนี้ ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้นไม่จำเป็นต้องมีสัจธรรม หากการกระทำนั้น ๆ จะทำความเสียหายแก่ผลประโยชน์ของประเทศ ท่านเห็นว่า หากมนุษย์ทุกคนเป็นคนดี กฎเช่นนี้ก็เป็นกฎที่ไม่ถูกต้อง แต่โดยที่มนุษย์ไม่ใช่คนดีทั้งหมด ในเมื่อเขาไม่ยอมให้ความศรัทธาความไว้วางใจในตัวท่าน ก็ไม่มีอะไรที่จะมาห้ามมิให้ท่านเลิกศรัทธากับเขาเหล่านั้นได้ [การทูต]
Notes in Diplomatic Correspondenceหมายถึง หนังสือหรือจดหมายโต้ตอบทางการทูตระหว่างหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต (Head of mission) กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่หัวหน้าคณะผู้ แทนทางการทูตนั้นประจำอยู่ หรือกับหัวหน้าผู้แทนทางการทูตอีกแห่งหนึ่ง หนังสือทางการทูตนี้ อาจใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 หรือบุรุษที่ 3 ก็ได้ หนังสือทางการทูตที่ใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 มักจะเกี่ยวกับเรื่องที่มีความสำคัญหรือมีความละเอียดอ่อนกว่าหนังสืออีก ชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า Note Verbale หรือต้องการจะแทรกความรู้สึกส่วนตัวลงไปด้วย หนังสือนี้จะส่งจากหัวหน้า หรือผู้รักษาการแทนหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือไปถึงหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตอื่น ๆ ไม่เหมือนกับ Note Verbale กล่าวคือ หนังสือทางการทูตนี้จะต้องระบุสถานที่ตั้ง รวมทั้งลงชื่อของผู้ส่งด้วยตามปกติ ประโยคขึ้นต้นด้วยประโยคแรกในหนังสือจะใช้ข้อความว่า ?have the honour? นอกจากจะมีถึงอุปทูตซึ่งมีฐานะตำแหน่งต่ำกว่าอัครราชทูต ถ้อยคำลงท้ายของหนังสือทางการทูตจะมีรูปแบบเฉพาะ เช่น?Accept, Excellency (หรือ Sir), ในกรณีที่ผู้รับมีตำแหน่งเป็นอุปทูต (Charge d? Affaires) the assurances (หรือ renewed assurances ) of my highest (หรือ high ในกรณีที่เป็นอุปทูต ) consideration?หรือ ?I avail myself of this opportunity to express to your Excellency, the assurances ( หรือ renewed assurances) of my highest consideration ?ถ้อยคำที่ว่า ?renewed assurances ? นั้น จะใช้ก็ต่อเมื่อผู้ส่งหนังสือกับผู้รับหนังสือ ได้มีหนังสือติดต่อทางทูตกันมาก่อนแล้ว ส่วนถ้อยคำว่า ?high consideration ? โดยปกติจะใช้ในหนังสือที่มีไปยังอุปทูต ถ้อยคำ ?highest consideration ? จะใช้เมื่อมีไปถึงเอกอัครราชทูต และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ย่อมแล้วแต่ท้องถิ่นด้วย บางแห่งอาจนิยมใช้แตกต่างออกไป และก็จะเคารพปฏิบัติตามท้องถิ่นนั้น ๆ โดยมารยาทส่วนหนังสือที่เรียกว่า Note Verbale หรือ Third person note เป็นหนังสือทางการทูตที่ใช้บ่อยที่สุด หนังสือนี้จะขึ้นต้นด้วยประโยคดังต่อไปนี้?The Ambassador (หรือ The Embassy ) of Thailand presents his (หรือ its ) compliments to the Minster (หรือ Ministry ) of Foreign affairs and has the honour??หนังสือบุรุษที่สาม หรืออาจเรียกว่าหนังสือกลางนี้ ไม่ต้องบอกตำบลสถานที่ ( Address) และไม่ต้องลงชื่อ แต่บางทีในตอนลงท้ายของหนังสือกลางมักใช้คำว่า?The Ambassador avails himself of this opportunity to express to his Excellency the renewed assurances of his highest consideration?มีหนังสือทางการทูตอีกประเภทหนึ่งเรียกว่า Collective note เป็นหนังสือที่หัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตของรัฐบาลหลายประเทศรวมกันมีไปถึง รัฐบาลแห่งเดียว เกี่ยวกับเรื่องที่รัฐบาลเหล่านั้นพร้อมใจกันที่จะร้องเรียน หรือต่อว่าร่วมกัน หัวหน้าคณะทูตทั้งหมดอาจร่วมกันลงนามในหนังสือนั้น หรือ อาจจะแยกกันส่งหนังสือซึ่งมีถ้อยคำอย่างเดียวกันไปถึงก็ได้ [การทูต]
Personal Inviolability of Diplomatic Agentsหมายถึง ตัวบุคคลของตัวแทนทางทูตจะถูกละเมิดมิได้ กล่าวคือ มาตรา 29 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติในเรื่องนี้ไว้ว่า ?ตัวบุคคลของตัวแทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้ ตัวแทนทางการทุตจะไม่ถูกจับกุมหรือกักขังในรูปใด ๆ ให้รัฐผู้รับปฏิบัติต่อตัวแทนทางการทูตด้วยความเคารพตามสมควร และดำเนินการที่เหมาะสมทั้งมวลที่จะป้องกันการประทุษร้ายใด ๆ ต่อตัวบุคคล เสรีภาพ หรือเกียรติของตัวแทนทางการทูต?ตัวบุคคลของตัวแทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้ นั้น ได้ถือเป็นปัจจัยหลักในการที่ให้ผู้แทนทางการทูตได้รับสิทธิและความคุ้มกัน ทั้งมวล ถึงกับมีการพูดกันว่า ผู้ใดประทุษร้ายต่อตัวเอกอัครราชทูต จักถือว่าเป็นการทำร้ายต่อประมุขของประเทศซึ่งผู้แทนทางการทูตผู้นั้นเป็น ตัวแทนอยู่ ทั้งยังถือว่าเป็นการยังผลร้ายต่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชาติทั้ง มวลด้วยตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1964 ชายหนุ่มญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งมีจิตวิปลาส ได้ใช้มีดแทง นายเอ็ดวิน โอไรส์ชาวเออร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศญี่ปุ่น ในเขตนอกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงโตเกียว รัฐมนตรีว่าการกระทวงมหาดไทยญี่ปุ่นได้ลาออกจากตำแหน่งทันทีและรุ่งขึ้นใน วันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1964 นายอิเคดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในสมัยนั้น ได้ทำการขอโทษต่อประชาชนชาวอเมริกันทางวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการดำเนินการในทำนองนี้ และการที่นายกรัฐมนตรีอิเคดะได้ปฏิบัติดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า การที่ตัวบุคคลของผู้แทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้นั้น มีความสำคัญมากเพียงใดตัวแทนทางการทูตจะถูกจับ ถูกฟ้องศาล หรือถูกลงโทษฐานประกอบอาชญากรรมนั้นไม่ได้ เพราะถือว่าผู้แทนทางการทูตมิได้อยู่ในอำนาจศาลของรัฐผู้รับ อย่างไรก็ดี หากผู้แทนทางการทูตกระทำความผิดอย่างโจ่งแจ้ง รัฐผู้รับอาจขอให้รัฐผู้ส่งเรียกตัวกลับไปยังประเทศของเขาได้ในทันที [การทูต]
Placementหมายถึง วิธีจัดที่นั่งโต๊ะในการเลี้ยงอาหารสำหรับนักการทูต โดยคำนึงถึงลำดับอาวุโส เพื่อป้องกันมิให้เกิดความรู้สึกขุ่นเคืองหรือหัวเสีย เรื่องการจัดที่นั่งในการเลี้ยงอาหารโดยคำนึงถึงลำดับอาวุโสนี้ นักการทูตส่วนใหญ่ไม่ว่าที่ไหน มักจะถือว่ามีความสำคัญไม่น้อย เพราะถือเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีในฐานะที่เป็นตัวแทนของประเทศ ฝ่ายที่รับผิดชอบโดยตรงต่อการจัดที่นั่งเช่นนี้ได้แก่ กรมพิธีการทูตของกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนลำดับของอาวุโสก็ถือตามวันเวลาที่นักการทูตแต่ละคนได้เข้าประจำตำแหน่ง ที่ในประเทศผู้รับ กล่าวคือ ผู้ที่เข้าประจำตำแหน่งก่อนก็คือผู้ทีมีอาวุโสกว่าผู้ที่มาประจำตำแหน่ง หน้าที่ทีหลัง [การทูต]
Security Council of the United Nationsคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีนี้ประกอบด้วยสมาชิกถาวร (Permanent members) 5 ประเทศ คือ จีน ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต อังกฤษ และสหรัฐฯ และมีสมาชิกไม่ถาวร (Non-permanent members) อีก 10 ประเทศ ซึ่งสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเป็นผู้เลือกตั้ง และให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งประเทศละ 2 ปี สมาชิกประเภทนี้ไม่มีสิทธิรับเลือกตั้งใหม่ในทันที และในการเลือกตั้งจะคำนึงส่วนเกื้อกูลหรือบทบาทของประเทศผู้สมัครที่มีต่อ การธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งที่มีต่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ขององค์การสหประชาชาติด้วย ในการเลือกตั้ง จะคำนึงถึงการแบ่งกลุ่มประเทศสมาชิกดังนี้คือ ก. 5 ประเทศจากแอฟริกาและเอเชียข. 1 ประเทศจากยุโรปตะวันออกค. 2 ประเทศจากละตินอเมริกาง. 2 ประเทศจากยุโรปตะวันตก และประเทศอื่น ๆหน้าที่ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีดังนี้1. ธำรงรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ2. สอบสวนเกี่ยวกับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งระหว่างประเทศ3. เสนอแนะวิธีที่จะใช้กรณีพิพาทเช่นว่านั้น หรือ เงื่อนไขที่ให้มีการตกลงปรองดองกัน4. วางแผนเพื่อสถาปนาระบบการควบคุมกำลังอาวุธ5. ค้นหาและวินิจฉัยว่ามีภัยคุกคามต่อสันติภาพ หรือ เป็นการกระทำที่รุกรานหรือไม่ แล้วเสนอแนะว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร 6. เรียกร้องให้สมาชิกประเทศที่ทำการลงโทษในทางเศรษฐกิจ และใช้มาตรการอื่น ๆ ที่ไม่ถึงขั้นทำสงคราม เพื่อป้องกันมิให้เกิดหรือหยุดยั้งการรุกราน7. ดำเนินการทางทหารตอบโต้ฝ่ายที่รุกราน8. เสนอให้รับประเทศสมาชิกใหม่ รวมทั้งเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ ในการที่จะเข้าเป็นภาคีตามกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ 9. ทำหน้าที่ให้ภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ ในเขตที่ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์10. เสนอแนะให้สมัชชาสหประชาชาติ แต่งตั้งตัวเลขาธิการและร่วมกับสมัชชาในการเลือกตั้งผู้พิพากษาศาลโลก11. ส่งรายงานประจำปีและรายงานพิเศษต่อสมัชชาสหประชาชาติบรรดาประเทศสมาชิกของสห ประชาชาติ ต่างตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อมติใด ๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง ทั้งยังรับรองที่จะจัดกำลังกองทัพของตนให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงหากขอร้อง รวมทั้งความช่วยเหลือและและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ [การทูต]
wetlandsพื้นที่ชุ่มน้ำ หมายถึง พื้นที่ลุ่ม พื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่ลุ่มชื้นแฉะ พื้นที่ฉ่ำน้ำ มีน้ำท่วม มีน้ำขัง พื้นที่พรุ พื้นที่แหล่งน้ำ ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยอาจเป็นแหล่งน้ำนิ่งและน้ำไหล ทั้งที่เป็นน้ำจืด น้ำกร่อยและน้ำเค็ม รวมไปถึงพื้นที่ชายทะเล และพื้นที่ของทะเล ในบริเวณซึ่งเมื่อน้ำลดลงต่ำสุดมีความลึกของระดับน้ำไม่เกิน 6 เมตร ซึ่งภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ ประเทศต่าง ๆ สามารถที่จะกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญ ระหว่างประเทศ เช่น ประเทศไทยได้ประกาศให้บริเวณเขตพรุควนขี้เสียน และบริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ นอกจากนี้ พื้นที่ชุ่มน้ำบางแห่งอาจอยู่ตามพรมแดนระหว่างประเทศด้วย [การทูต]
Coagulum contentปริมาณยางจับเป็นก้อน หมายถึง ปริมาณของสารที่ตกค้างอยู่บนตัวกรองสเตนเลสที่ทดสอบ สารเหล่านี้ประกอบด้วยเศษยางจับตัวและสารอื่นที่เจือปนมากับน้ำยาง ค่านี้มีความสำคัญต่อกระบวนการผลิตที่เข้มงวด เช่น ในการผลิตเส้นด้ายยางยืด ถ้าน้ำยางมีค่า coagulum content สูงอาจก่อให้เกิดปัญหาการอุดตันที่ปลายหลอดในระหว่างกระบวนการผลิตได้ [เทคโนโลยียาง]
Dry rubber contentปริมาณส่วนที่เป็นเนื้อยางทั้งหมดในน้ำยาง ซึ่งได้จากการทำให้น้ำยางจับตัวด้วยกรดแอซิติก ภายใต้การควบคุมสภาพการจับตัวอย่างแน่นอน เป็นค่าบ่งชี้ปริมาณของเนื้อยางจริงๆ ซึ่งมีความสำคัญในการซื้อขาย การนำน้ำยางไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยาง เช่น การออกสูตรส่วนผสมของสารเคมีต่างๆ [เทคโนโลยียาง]
Oscillating disc rheometerเครื่องมือที่ใช้ในการหาเวลาที่ยางเกิดการคงรูป (หรือหาอัตราเร็วของการเกิด ปฏิกิริยาวัลคาไนเซชัน) โดยวัดค่าความแข็งที่เพิ่มขึ้นของยางคอมพาวด์เมื่อเกิดการวัลคาไนซ์จากการ สั่นของตัววัด (Disc) ภายในช่องวัด (Chamber) เครื่องมือชนิดนี้มีความสำคัญมากต่อโรงงานอุตสาหกรรมยาง เพราะนอกจากเครื่อง ODR จะช่วยบอกระยะเวลาที่ทำให้เกิดยางตายหรือที่เรียกในภาษาเทคนิคว่า “scorch time” แล้ว เครื่องมือนี้ยังบอกระยะเวลาที่เหมาะสมในการอบยางให้คงรูป (optimum cure time)อีกด้วย [เทคโนโลยียาง]
Plasticity numberการวัดค่าพลาสติซิตี้ขึ้นกับความสูงของตัวอย่างทดสอบหลังเกิดการ เปลี่ยนแปลงรูปร่างภายใต้สภาวะที่กำหนด เช่น แรงกด เวลา และอุณหภูมิ ค่าพลาสติซิตี้ของยางจะบอกถึงความนิ่มหรือแข็งของยางยางที่มีค่าพลาสติซิตี้ สูงคือยางแข็ง ยางที่มีค่าพลาสติซิตี้ต่ำคือยางนิ่ม ซึ่งค่าพลาสติซิตี้ของยางมีความสำคัญต่อการแปรรูปยาง เช่น บ่งถึงพลังงานที่ต้องใช้ในการแปรรูปยาง ยางนิ่มจะใช้พลังงานน้อยและจะรับสารเคมีเข้าไปในยางได้รวดเร็ว เป็นต้น [เทคโนโลยียาง]
chromosomeโครโมโซม, องค์ประกอบหนึ่งของเซลล์มีลักษณะเป็นท่อนอยู่ในนิวเคลียส ประกอบด้วย DNA และโปรตีน มีความสำคัญในการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
tryptophanทริปโตเฟน, กรดอะมิโนที่จำเป็นชนิดหนึ่งของร่างกาย  สูตรเคมีคือ C11H12N2O2 มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
weighted arithmetic meanค่าเฉลี่ยเลขคณิตถ่วงน้ำหนัก, ค่าเฉลี่ยเลขคณิตที่ใช้ในกรณีที่ข้อมูลแต่ละค่ามีความสำคัญไม่เท่ากัน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
lysineไลซีน, กรดอะมิโนที่จำเป็นชนิดหนึ่งของร่างกาย สูตรโมเลกุลคือ C6H14N2O2 มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกายมนุษย์ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
lone pair electronsอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว, เวเลนซ์อิเล็กตรอนคู่ใดคู่หนึ่งของอะตอมซึ่งไม่ได้มีส่วนในการสร้างพันธะ  แต่มีความสำคัญในการทำให้อะตอมนั้น ๆ  มีจำนวนอิเล็กตรอนครบตามกฎออกเทต [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
pistilเกสรเพศเมีย, อวัยวะสืบพันธุ์เพศเมียของพืชดอก ประกอบด้วยยอดเกสรตัวเมีย คอเกสรตัวเมียและรังไข่ ซึ่งมีความสำคัญต่อการสืบพันธุ์ของพืชดอก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
ionosphereไอโอโนสเฟียร์, ชั้นบรรยากาศถัดขึ้นไปจากมีโซสเฟียร์จนถึงระยะประมาณ 800 กิโลเมตร เป็นชั้นที่มีความสำคัญต่อการสื่อสารระยะไกล ๆ เพราะบรรยากาศชั้นนี้สามารถสะท้อนคลื่นวิทยุทำให้สามารถส่งสัญญาณคลื่นวิทยุได้เป็นระยะพัน ๆ กิโลเมตร อุณหภูมิของอากาศชั้นนี้จะเริ่มสูงขึ้นและเปลี่ยนแ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
Megalomaniaความรู้สึกว่าตัวเองมีอำนาจหรือมีความสำคัญ [การแพทย์]
Monocultureการปลูกพืชที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจแต่เพียงชนิด [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
My mother's very important to me, just like her words.แม่ของแม่มีความสำคัญกับแม่มาก เหมือนกับคำสอนของเธอ The Joy Luck Club (1993)
Come on, fella. He didn't mean you. Let's not be so sensitive.Come on, หนุ่ม เขาไม่ได้หมายความว่าคุณ ให้ไม่เป็นที่มีความสำคัญเพื่อให้ 12 Angry Men (1957)
Wait a minute. Are you tellin' us he'd lie just so he could be important once?รอสักครู่ คุณ tellin 'เราว่าเขาต้องการอยู่เพียงเพื่อที่เขาจะมีความสำคัญในครั้งเดียว 12 Angry Men (1957)
He's just sayin' so to be important, right?เขาก็พูดอย่างมากที่จะมีความสำคัญใช่มั้ย? 12 Angry Men (1957)
Do we give your son-in-law something important?เราจะให้สิ่งที่ลูกชายของสามีของคุณมีความสำคัญอย่างไร The Godfather (1972)
This is dedicated to the late, great Magic Sam.นี้ซึ่งอุทิศให้ผู้วิเศษมีความสำคัญแต่ตายไปแล้ว แซม The Blues Brothers (1980)
The launch windows are critical for both spacecrafts.หน้าต่างเปิดตัวมีความสำคัญ สำหรับทั้งยานอวกาศ 2010: The Year We Make Contact (1984)
And, what is more important, he must be seen to be so.และสิ่งที่มีความสำคัญมากขึ้นเขา จะต้องเห็นจะเป็นอย่างนั้น Greystoke: The Legend of Tarzan, Lord of the Apes (1984)
No one of consequence.คนไม่มีความสำคัญอะไร The Princess Bride (1987)
The loser is nothing.ผู้แพ้ไม่มีความสำคัญ The Princess Bride (1987)
I'm no one to be trifled with.เป็นคนที่ไม่มีความสำคัญอะไร The Princess Bride (1987)
Because maybe it matters more.เพราะมันมีความสำคัญ Casualties of War (1989)
What's so interesting about half an inning that you'd come from Iowa ... to talk to me about it 50 years after it happened?ช่วงต้นของอินนิ่งนั้นมีความสำคัญอะไรเหรอ จนทำให้คุณต้องเดินทางไกล มาจากไอโอว่า เพื่อคุยกับผม 50 ปีหลังจากที่มันเกิดขึ้น Field of Dreams (1989)
I believe that Yakov is a great and important man, who is trying to restore himself and cannot survive without me.ผมเชื่อว่ายาโคฟเป็นคนที่ยอดเยี่ยมและมีความสำคัญ ที่พยายามที่จะเรียกคืนตัวเองและไม่สามารถอยู่รอดได้โดยไม่ต้องฉัน The Russia House (1990)
Do you realize how important that presentation is?คุณรู้มั้ย ว่างานจัดแสดงครั้งนี้มีความสำคัญยังไง Mannequin: On the Move (1991)
Everything that's important in the world is in this bed right now.ทุกอย่างที่มีความสำคัญต่อโลก เดี๋ยวนี้อยู่บนเตียงนี้แล้ว The Story of Us (1999)
But property is also important.แต่ทรัพย์สินก็มีความสำคัญ... Bicentennial Man (1999)
Like most things, I am nothing.เหมือนของทั่วๆ ไป ฉันไม่มีความสำคัญ Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000)
Their research is of the highest importance.การวิจัยของพวกเขาเป็นการวิจัยที่มีความสำคัญมาก Resident Evil (2002)
You're too important to Umbrella to be at risk.คุณมีความสำคัญกับอัมเบลร่ามากกว่าจะมาเสี่ยงที่นี่ Resident Evil: Apocalypse (2004)
Like the waters of the mighty ocean people also represent tremendous force the understanding of which is the greatest importance to the American way of life.เช่นเดียวกับคลื่นในมหาสมุทรใหญ่ ประชาชนเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจมหาศาล ความเข้าใจในเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง The Corporation (2003)
This is not to deny the significance of government and politicians but these are the new high priests.นี่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลและนักการเมือง ไม่มีความสำคัญ แต่ทุนนิยมคือศาสดาสูงสุดองค์ใหม่ The Corporation (2003)
It sounds important So how could I tell you for free?หา อยากรู้ขนาดนี้ คงเป็นเรื่องสำคัญมากนะ ถ้ามีความสำคัญข้าจะพูกส่งเดจ ได้อย่างไร The Great Jang-Geum (2003)
You risk it all. You put her in front of everything, your future, your life all of it.เธอมีความสำคัญเหนือสิ่งทั้งปวง อนาคตของคุณ ชีวิตของคุณ... The Girl Next Door (2004)
Duty, obligation, tradition, it all means nothing to you.ภาะหน้าที่, บุญคุณของชาติ, ขนมธรรมมเนียม-ประเพณี มันไม่มีความสำคัญอะไรเลยเหรอ Mulan 2: The Final War (2004)
- The contents could be very sensitive.เนื้อหาอาจจะมีความสำคัญมาก Contact (1997)
Don't you understand how important you are to me?คุณไม่เข้าใจหรอว่าคุณมีความสำคัญแค่ไหนสำหรับฉัน Resident Evil: Apocalypse (2004)
It's why I came here.ทำไมลายเซ็นถึงมีความสำคัญนัก I Heart Huckabees (2004)
A document of that importance would ensure the map's survival.เอกสารนั่นมีความสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าแผนที่จะไม่สูญหาย. National Treasure (2004)
This competition is very important for me, too.การแข่งขันครั้งนี้มีความสำคัญต่อผมมาก Spin Kick (2004)
They're important.มันมีความสำคัญ Nin x Nin: Ninja Hattori-kun, the Movie (2004)
It's not the rules that are important... but one's pledge to keep them.มันไม่ใช่กฏ สิ่งนั้นมีความสำคัญ... ทว่ามันคือคำมั่นสัญญาในปกป้องพวกเขาไว้ Nin x Nin: Ninja Hattori-kun, the Movie (2004)
ff I wonder if it has any significance.ฉันสงสัยว่า มันมีความสำคัญอะไรหรือเปล่า Pilot (2004)
I knew you were important.ผมรู้ว่าคุณมีความสำคัญ Æon Flux (2005)
And why? So you could kill a nobody.เพื่อที่เธอจะได้ฆ่าคน ที่ไม่มีความสำคัญอะไรเลยแค่คนเดียว Casino Royale (2006)
the theme being, "it's not the big events... but the little moments" that matter.แนวคิดเริ่มมาจาก "เหตุการณ์ที่ไม่สำคัญ ... แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่เล็กน้อย" ที่มีความสำคัญ Pilot (2006)
I don't really need clothes.ชุดไม่ได้มีความสำคัญกับผมเท่าไรน่ะ Bomui walcheu (2006)
For the time being, it seems I'm more important to them alive.สำหรับเวลานี้, มันดูเหมือนว่าผมมีความสำคัญมากที่จะต้องมีชีวิตอยู่ Chapter Two 'Don't Look Back' (2006)
But I remember how important... the thing I forgot was, by instinct.แต่ฉันจำได้โดยสัญชาตญาณ ว่าสิ่งที่ฉันลืมไปมีความสำคัญเพียงใด Boys Over Flowers (2005)
What's so great about being a Section Chief?อะไรมีความสำคัญที่สุดในชีวิตของสารวัตรเหรอ? Sweet Spy (2005)
Oh, the prime object.วัตถุที่มีความสำคัญอันดับแรกๆ The Key and the Clock (2006)
If it wasn't for you, I would've never known the importance of the Da-Mul Army.ถ้าไม่เพราะท่าน ข้าคงไม่รู้ว่ากองทัพดามูลมีความสำคัญขนาดไหน Episode #1.42 (2006)
These people are all out there waiting to be told that they are important.ผู้คนเหล่านี้ ทั้งหมดรออยู่ข้างนอกเพื่อบอกว่า พวกเขามีความสำคัญ Chapter Ten 'Six Months Ago' (2006)
Sylar?ผมรู้ว่าเรายังตามหลัง นั่นเป็นเหตุผล ว่าทุกคะแนนมีความสำคัญ Chapter Twenty-One 'The Hard Part' (2007)
This is so important to her.นี่มันมีความสำคัญกับแม่มาก Kung Fu Fighting (2007)
Actually, I'm glad you pushed me it ended up beinga very important day for me.แน่นอน ฉันยินดีที่คุณผลักดันฉันจนจบ เป็นวันที่มีความสำคัญกับฉันมาก Bad News Blair (2007)
She is of higher rank and therefore should have priority.พระสนมยูนลำดับชั้นสูงกว่า ดังนั้น ควรจะมีความสำคัญกว่า Lee San, Wind of the Palace (2007)
The Ministry of Magic, has always considered... the education of young witches and wizards... to be a vital importance.กระทรวงเวทมนตร์ คำนึงอยู่เสมอว่า การศึกษาของพ่อมดแม่มดเด็ก มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด Harry Potter and the Order of the Phoenix (2007)
Furthermore, be aware that my nephew has withdrawn his addresses to someone without family, fortune, importance and fatally tainted by suspicion.ยังไงก็ตาม รู้เอาไว้ด้วยว่า หลานฉันขอถอนข้อเสนอของเขา จากผู้หญิงที่ไม่มีครอบครัว ไม่มีเงิน ไม่มีความสำคัญ และก็ถูกสงสัยว่าจะด่างพร้อย Becoming Jane (2007)
Is it of no consequence to you whether she has a relationship with her mother, you fuck...มันอาจไม่มีความสำคัญสำหรับคุณ... แต่เธอก็ควรมีความสัมพันธ์ กับแม่เธอนะ คุณมันช่าง... Charlie Bartlett (2007)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
มีความสำคัญมาก[mī khwām samkhan māk] (adv) FR: de grande importance

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
big(adj) มีความสำคัญหรือมีอิทธิพล, Syn. influential, important
bulk large(phrv) มีความสำคัญ, See also: มีบทบาท, เป็นส่วนสำคัญ, Syn. loom large
colossus(n) สิ่งที่ใหญ่โตหรือมีอำนาจมาก, See also: สิ่งที่มีความสำคัญมาก
count(vi) มีความสำคัญ
count against(phrv) ไม่มีความสำคัญต่อ, See also: ไม่มีประโยชน์ต่อ, Syn. hold against
count for(phrv) มีค่า (มาก, น้อย, ไม่มีเลย), See also: มีประโยชน์, มีความสำคัญ, Syn. go for
ephemera(n) สิ่งที่มีอายุสั้นและไม่ค่อยมีความสำคัญมาก, See also: สิ่งที่มีอายุสั้น
epochal(adj) ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก, Syn. momentous, significant
epoch-making(adj) ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก, Syn. earthshaking, eventful, world-shaking
eventful(adj) ซึ่งมีความหมาย (ต่อชีวิตของบางคน), See also: ซึ่งมีความสำคัญ ต่อชีวิตของบางคน, Syn. important, meaningful
everything(pron) สิ่งที่มีความสำคัญที่สุด, See also: คนที่สำคัญที่สุด
fiddle-faddle(n) ความไร้สาระ, See also: ความเหลวไหล, สิ่งที่ไม่มีความสำคัญ, Syn. nonsense, foolishness, silliness, Ant. sense, wisdom
finished(adj) ไม่มีผลอีกต่อไป, See also: ไม่มีความสำคัญอีกต่อไป, ไม่มีอำนาจอีกต่อไป, Syn. doomed, ruined
fornicate(vi) มีความสำคัญทางเพศโดยไม่ได้แต่งงาน, See also: ผิดประเวณี
has-been(n) บุคคลที่เคยมีชื่อเสียงในอดีต แต่ปัจจุบันนี้แทบจะถูกลืม (คำไม่เป็นทางการ), See also: บุคคลที่เคยมีความสำคัญ แต่ปัจจุบันนี้แทบจะถูกลืม
in with(idm) เป็นเพื่อนกับบางคน, See also: มีอิทธิพลต่อ, มีความสำคัญต่อ
mean to(phrv) มีความหมายต่อ, See also: มีความสำคัญต่อ
marginalisation(n) การทำให้ไม่มีความสำคัญ
marginalise(vt) ทำให้ไม่มีความสำคัญ
marginalization(n) การทำให้ไม่มีความสำคัญ
marginalize(vt) ทำให้ไม่มีความสำคัญ
matter(vi) เป็นเรื่องสำคัญ, See also: มีความหมาย, มีสาระสำคัญ, มีความสำคัญ, Syn. carry weight, count
mean(vt) มีความหมายต่อ, See also: มีความสำคัญต่อ
outbalance(vt) มีน้ำหนักกว่า, See also: มีความสำคัญกว่า, เหนือกว่า, Syn. outweigh
rub off(phrv) (ความสำเร็จ) กลายเป็นสิ่งมีความสำคัญน้อย
showplace(n) สถานที่งดงามหรือมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
signify(vt) มีความหมาย, See also: เป็นเครื่องแสดง, มีความสำคัญ, Syn. count, matter, weigh
structural(adj) มีความสำคัญกับโครงสร้าง
substantive(adj) สำคัญ, See also: มีสาระสำคัญ, มีความสำคัญ, Syn. essential, important
subordinate to(phrv) ทำให้มีความสำคัญน้อยกว่า, See also: ทำให้เป็นรอง บางสิ่ง
tidy(adj) ที่มีความสำคัญ (คำไม่เป็นทางการ), Syn. considerable, significant
weigh(vi) มีความสำคัญ

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
apolitical(เอพะลิท'ทิคัล) adj. ไม่ใช่การเมือง, ไม่มีความสำคัญทางการเมือง, ไม่สนใจการเมือง
basophilsเป็นเม็ดเลือดขาวที่มีแกรนูล มีจำนวนน้อยมากประมาณ 0-1.6 % มีหน้าที่ในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เกี่ยวกับการอักเสบ มีความสำคัญต่อปฏิกริยา antigen antibody คือจะทำให้ basophils แตกออกแล้วปล่อย histamine ออกมา
co-ordinate(โคออร์'ดิเนท) adj. ขนานกัน, ในระดับเดียวกัน, เท่ากัน, ประสานกัน, พร้อมเพรียงกัน n. สิ่งหรือบุคคลที่มีความสำคัญหรือตำแหน่งเท่ากัน, ระยะพิกัด vt. ทำให้เป็นระดับเดียวกัน, ทำให้เท่ากัน, ทำให้ประสานกัน. vi. เท่ากัน, อยู่ในระดับเดียวกัน, ประสานกัน., See also: c
coordinate(โคออร์'ดิเนท) adj. ขนานกัน, ในระดับเดียวกัน, เท่ากัน, ประสานกัน, พร้อมเพรียงกัน n. สิ่งหรือบุคคลที่มีความสำคัญหรือตำแหน่งเท่ากัน, ระยะพิกัด vt. ทำให้เป็นระดับเดียวกัน, ทำให้เท่ากัน, ทำให้ประสานกัน. vi. เท่ากัน, อยู่ในระดับเดียวกัน, ประสานกัน., See also: c
dinky(ดิง'คี) adj. ซึ่งมีขนาดเล็ก, ซึ่งมีความสำคัญน้อย
emphasis(เอม'ฟะซิส) n. การเน้น, ความสำคัญ, สิ่งที่มีความสำคัญ, การเน้น คำ, ความเข้มข้น, ความ
everyplacepron., n. ทุกสิ่ง, ทุกอย่าง, ทั้งหมด, สิ่งที่มีความสำคัญยิ่ง.
gospel(กอส'เพิล) n., adj. คำสั่งสอนหรือเรื่องราวของพระเยซูคริสต์, ลัทธิหรือความเชื่อที่มีความสำคัญมาก.
magnate(แมก'เนท) n. ผู้มีอิทธิพลมาก, ผู้มีความสำคัญมาก, นักธุรกิจที่มีอิทธิพลมาก., See also: magnateship n.
mean(มีน) vt. มุ่งหมาย, มีเจตนา, ตั้งใจ, หมายถึง, ทำให้เกิดขึ้น, นำมาซึ่ง, มีความหมายต่อ, มีความสำคัญต่อ. vi. ตั้งใจ, มุ่งหมาย adj. ต่ำต้อย, ชั้นต่ำ, ไม่สำคัญ, ถ่อย, สกปรก, เลว, ใจแคบ, ขี้เหนียว, เห็นแก่ตัว, สร้างความเดือดร้อน, ร้าย, เชี่ยวชาญ, ประทับใจ, ระหว่างกลาง, โดยเฉลี่ย n. ค่าเฉลี่ย
outweigh(เอาทฺเว') vt. มีค่าเกิน, มีความสำคัญเกินไป, มีภาระมากเกิน, มีน้ำหนักเกิน, Syn. overshadow
pygmy(พิก'มี) n. ชนผิวดำตัวเล็กในทวีปแอฟริกาแถบเส้นศูนย์สูตร, See also: pygmy n. คนแคระ คนร่างเล็กสิ่งที่มีความสำคัญเล็กน้อย adj. เกี่ยวกับคนแคระดังกล่าว, เล็กมาก, แทบไม่สำคัญ pygmoid adj. pygmyish adj. pygmyism n.
signify(ซิก'นิไฟ) vt. แสดงออก, มีความหมาย, ชี้บ่ง, บอกใบ้, บุ้ย, เป็นลาง, เป็นนิมิต, บอกให้รู้ล่วงหน้า vt. มีความสำคัญ., See also: signifiable adj.
structural(สทรัค'เชอะเริล) adj. เกี่ยวกับโครงสร้างหรือการก่อสร้าง, มีความสำคัญ
system diskจานบันทึกระบบหมายถึง จานบันทึกที่บรรจุระบบปฏิบัติการ (ถ้าเป็นพีซี ก็หมายถึง MS DOS) สามารถนำมาใช้เริ่มเครื่องใหม่ได้ (boot) โดยใส่ในหน่วยบันทึก A : จานบันทึกระบบต้องมีโปรแกรม 3 โปรแกรม เป็นอย่างน้อย คือ lo.sys, Msdos.sys และ Command.com สองแฟ้มแรกจะถูกซ่อนอยู่ (hidden files) แม้ว่าจะใช้คำสั่ง Dir ก็จะไม่แสดงบนจอภาพโปรแกรม lo.Sys จะดูแลในเรื่องการนำข้อมูลเข้า และการแสดงผล ส่วน MSDOS.sys จะจัดการเกี่ยวกับเรื่องการอ่านและการบันทึกข้อมูลลงในแผ่นจานบันทุกนั้น ส่วน Command.com ก็จะมีคำสั่งพื้นฐานต่าง ๆ เช่น dir, copy, delete จานบันทึกระบบนี้มีความสำคัญมาก (โดยเฉพาะเครื่องที่ไม่มีฮาร์ดดิสก์) ถ้าไม่มีจานบันทึกนี้จะเริ่มต้นใช้คอมพิวเตอร์ไม่ได้เลย ถ้ามีฮาร์ดดิสก์ อาจใช้ฮาร์ดดิสก์เป็นจานบันทึกระบบเลยก็ได้
tantamount(แทน'ทะเมาทฺ) adj. เท่ากับ, พอ ๆ กับ, ประหนึ่งเป็น, มีความสำคัญเท่ากับ
valuable(แวล'ลิวเบิล) adj. มีค่า, มีคุณค่า, มีค่าเป็นเงินมาก, มีราคา, มีประโยชน์มาก, มีความสำคัญมาก. n. ของมีค่า, ของที่มีค่าเป็นเงินมาก., See also: valuableness n. valuably adv., Syn. costly, valued, worthy
weigh(เว) vt. ชั่ง, หนัก, ถ่วง, ทำให้หนัก, พิจารณา, ยก, ชัก, ถอน (สมอเรือ) vi. หนัก, มีความสำคัญ, มีอิทธิพล, เป็นภาระ, กด, ออกเดินเรือ, ถอนสมอเรือ, See also: weighable adj. weigher n. -Phr. weigh anchor ถอนสมอเรือ ทำให้หนัก กด ทับ เป็นภาระ -Phr. weigh in ชั่ง
weight(เวท) n. น้ำหนัก, ความหนัก, มวล, วัตถุสิ่งของ, ความสำคัญ, อิทธิพล vt. เพิ่มน้ำหนัก, เป็นภาระ, ให้น้ำหนักทางสถิติแก่, มีอคตี, เข้าข้าง -Phr. (carry weigth มีความสำคัญ มีอิทธิพล), See also: weighter n.

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Alwayzzมีความสำคัญกับ Destinyzz มากๆ
dismissive[dɪsˈmɪs·ɪv] (adj) บางสิ่งบางอย่างหรือบุคคลที่คุณคิดนั้นไม่ได้มีความสำคัญหรือมีค่าพอให้พิจารณา

German-Thai: Longdo Dictionary
denen(rel, pron) สรรพนามสำหรับนามพหูพจน์รูป Dativ ที่ใช้ในวลีที่เชื่อมกับประโยคหลัก เช่น Wir kümmern uns um die Personen, von denen ihr Geschäft abhängt. เราดูแลผู้คนที่มีความสำคัญต่อธุรกิจของเขาเอง
historisch(adj) ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เช่น die historische Innenstadt ใจกลางเมืองที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์
Ostern(n, uniq) |das, pl. Ostern, ส่วนใหญ่ใช้เป็น Pl.| เทศกาลอีสเตอร์ มีความสำคัญทางศาสนาคริสต์ กล่าวคือ เป็นเทศกาลที่ชาวคริสต์ระลึกถึงการฟื้นคืนชีพของพระเยซู นอกจากนี้ Ostern ยังจัดเป็นเทศกาลฉลองความเขียวชอุ่มและความอุดุมสมบูรณ์ที่ฤดูใบไม้ผลินำมาด้วย
Schwerpunkt(n) |der, pl. Schwerpunkte| ความสำคัญ, จุดสำคัญ, สิ่งที่มีความสำคัญ
bedeutend(adj, adv) มีความสำคัญต่อ, มีความหมายต่อ, ที่มีความจำเป็น เช่น Mit Rücksicht auf meinen Hals musste ich den Vortrag leider bedeutend verkürzen.; Sicher aber ist, dass die Burg im Mittelalter bedeutend größer war als die heutige Anlage. Im Jahr 1525 wurde sie während der Bauernkriege nahezu zerstört.

German-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
keine Rolle spielen(phrase) ไม่มีบทบาท/ไม่มีความสำคัญ
ตัวสำรอง(n) ตัวสำรอง(คนที่มีความสำคัญรอง)

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top