ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: มาตรา, -มาตรา- |
คำต้องห้าม | คำด่าเหล่านี้ผู้ใช้อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393 ฐานดูุหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า: อีดอก, อีเหี้ย, อีสัตว์, อีควาย, อีตอแหล, ไอ้ระยำ, ไอ้เบื๊อก, ไอ้ตัวแสบ, เฮงซวย, ผู้หญิงต่ำๆ, พระหน้าผี, พระหน้าเปรต, มารศาสนา, ไอ้หน้าโง่, อีร้อย...(ตามด้วยคำลามก), อีดอกทอง ที่มา: http://www.komchadluek.net/news/scoop/287099 | ผู้หญิงต่ำๆ, พระหน้าผี, พระหน้าเปรต, มารศาสนา, ไอ้หน้าโง่, อีร้อย..., อีดอกทอง | (colloq, vulgar) คำด่าเหล่านี้ผู้ใช้อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393 ฐานดูุหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า ที่มา: http://www.komchadluek.net/news/scoop/287099 | อีดอก, อีเหี้ย, อีสัตว์, อีควาย, อีตอแหล, ไอ้ระยำ, ไอ้เบื๊อก, ไอ้ตัวแสบ, เฮงซวย | (colloq, vulgar) คำด่าเหล่านี้ผู้ใช้อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393 ฐานดูุหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า ที่มา: http://www.komchadluek.net/news/scoop/287099 |
| มาตรา | (n) section, See also: code, article, clause, provision, Syn. ข้อกำหนด, หลักกำหนด, Example: มาตรา 301 ของกฎหมายการค้าฉบับปี 2531 นั้น เป็นการแก้ไขมาตรา 301 ในกฎหมายการค้าฉบับปี 2517, Count Unit: มาตรา, Thai Definition: บทบัญญัติในกฎหมายที่แบ่งออกเป็นข้อๆ โดยมีเลขกำกับเรียงตามลำดับ, Notes: (กฎหมาย) | มาตรา | (n) system, See also: unit, standard, Example: หน่วยวัดระยะทางต่างๆ เหล่านี้จะต้องทอนลงมาเป็นมาตราเมตริก, Thai Definition: หลักกำหนดการวัดต่างๆ | มาตรา | (n) text, Example: ในแบบเรียนโบราณมีการนำตัวสะกดมาตราต่างๆ มาผูกเป็นกลอนเพื่อให้เด็กท่องจำ, Count Unit: มาตรา, Thai Definition: แม่บทแจกลูก | สุมาตรา | (n) Sumatra, Syn. เกะสุมาตรา, Example: กองถ่ายละครปักหลักถ่ายทำอยู่ที่สุมาตรามากว่า 2 อาทิตย์แล้ว, Thai Definition: ชื่อเกาะๆ หนึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสิงคโปร์ | อนุมาตรา | (n) subsection, Example: มาตราที่ 11 ยังมีอนุมาตราอีกหลายอนุมาตรา, Count Unit: อนุมาตรา, Thai Definition: ข้อย่อยของมาตราในกฎหมายที่มีเลขกำกับอยู่ในวงเล็บ | มาตราส่วน | (n) scale, Syn. อัตราส่วน, Example: แผนที่ฉบับนี้ใช้มาตราส่วน 1 ต่อ 50, 000, Thai Definition: อัตราส่วนระหว่างระยะห่างในแผนที่หรือภาพเป็นต้น กับระยะห่างจริง หรือกับระยะห่างบนแผนที่หรือภาพอื่น | มาตราส่วน | (n) scale, Syn. อัตราส่วน, Example: แผนที่ฉบับนี้ใช้มาตราส่วน 1 ต่อ 50, 000, Thai Definition: อัตราส่วนระหว่างระยะห่างในแผนที่หรือภาพเป็นต้น กับระยะห่างจริง หรือกับระยะห่างบนแผนที่หรือภาพอื่น |
|
| มาตรา | (มาดตฺรา) น. หลักกำหนดการวัดขนาด จำนวน เวลา และมุม เช่น มาตราชั่ง ตวง วัด มาตราเมตริก | มาตรา | แม่บทแจกลูกพยัญชนะต้นกับสระโดยไม่มีตัวสะกด เรียกว่า มาตรา ก กา หรือ แม่ ก กา, หลักเกณฑ์ที่วางไว้เพื่อให้กำหนดได้ว่าคำที่มีพยัญชนะตัวใดบ้างเป็นตัวสะกดอยู่ในมาตราใดหรือแม่ใด คือ ถ้ามีตัว ก ข ค ฆ สะกด จัดอยู่ในมาตรากกหรือแม่กก, ถ้ามีตัว ง สะกด จัดอยู่ในมาตรากงหรือแม่กง, ถ้ามีตัว จ ฉ ช ซ ฌ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ด ต ถ ท ธ ศ ษ ส สะกด จัดอยู่ในมาตรากดหรือแม่กด, ถ้ามีตัว ญ ณ น ร ล ฬ สะกด จัดอยู่ในมาตรากนหรือแม่กน, ถ้ามีตัว บ ป พ ฟ ภ สะกด จัดอยู่ในมาตรากบหรือแม่กบ, ถ้ามีตัว ม สะกด จัดอยู่ในมาตรากมหรือแม่กม, ถ้ามีตัว ย สะกด จัดอยู่ในมาตราเกยหรือแม่เกย, ถ้ามีตัว ว สะกด จัดอยู่ในมาตราเกอวหรือแม่เกอว | มาตรา | หน่วยลำดับที่ใช้ในการแบ่ง บทบัญญัติของกฎหมายออกเป็นเรื่อง ๆ เพื่อสะดวกในการใช้และอ้างอิง โดยมีหมายเลขกำกับเรียงตามลำดับ | มาตรา | ระยะเวลาการออกเสียงสระสั้นยาว สระสั้น ๑ มาตรา สระยาว ๒ มาตรา. | มาตราพฤติ | น. ฉันท์ที่กำหนดด้วยมาตรา คือ กำหนดคำในฉันท์แต่ละคำเป็นมาตราส่วน เช่น คำครุ กำหนดเป็นความยาวของเสียง ๒ มาตรา คำลหุ กำหนดเป็นความยาวของเสียง ๑ มาตรา. | มาตราส่วน | น. อัตราส่วนระหว่างระยะห่างในแผนที่หรือภาพเป็นต้น กับระยะห่างจริงหรือกับระยะห่างบนแผนที่หรือภาพอื่น. | ศุภมาตรา | น. ตำแหน่งข้าราชการหัวเมืองตำแหน่งหนึ่ง ในปัจจุบันหมายถึงผู้ช่วยสรรพากรจังหวัด. | เสือสุมาตรา | น. ชื่อปลาน้ำจืดขนาดเล็กชนิด <i>Systomus partipentazona</i> (Fowler) ในวงศ์ Cyprinidae มีรูปทรงคล้ายปลาตะเพียน แต่ครีบหลังมีก้านครีบแข็งก้านสุดท้ายมีขอบจักเป็นฟันเลื่อยละเอียด มีหนวดเพียงที่ขากรรไกรบน เกล็ดใหญ่ เส้นข้างตัวไปสุดที่แนวใต้ครีบหลังเท่านั้น พื้นลำตัวทั่วไปสีเหลืองเทา โดยเฉพาะใกล้แนวสันหลัง ที่สำคัญคือมีแถบสีดำเด่นพาดขวางจากสันหลังถึงหรือเกือบถึงสันท้อง ๔ แถบ คือ ที่บนหัว ที่แนวหน้า หลังครีบหลัง และที่คอดหาง ฐานครีบหลังและครีบก้นมีสีดำ ที่จะงอยปาก ขอบปลายครีบหลัง ครีบท้อง และครีบหางมีสีแดง ขนาดยาวไม่เกิน ๕ เซนติเมตร, ปักษ์ใต้เรียก เสือ หรือ ข้างลาย. | อนุมาตรา | (-มาดตฺรา) น. ข้อย่อยของมาตราในกฎหมายที่มีเลขกำกับอยู่ในวงเล็บ. | ก | (กอ) พยัญชนะตัวที่ ๑ เรียกว่า กอ ไก่ เป็นอักษรกลาง ใช้เป็นพยัญชนะต้น และเป็นตัวสะกดในมาตรากกหรือแม่กก เช่น กก ปาก สัก. | ก กา | น. เรียกแม่บทแจกลูกพยัญชนะต้นกับสระโดยไม่มีตัวสะกด ว่า มาตรา ก กา หรือแม่ ก กา. | กก ๑ | น. เรียกคำหรือพยางค์ที่มีตัว ก ข ค ฆ สะกด ว่า มาตรากกหรือแม่กก. | กง ๑ | น. เรียกคำหรือพยางค์ที่มีตัว ง สะกด ว่า มาตรากงหรือแม่กง. | กด ๑ | น. เรียกคำหรือพยางค์ที่มีตัว จ ฉ ช ซ ฌ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ด ต ถ ท ธ ศ ษ ส สะกด ว่า มาตรากดหรือแม่กด. | กน ๑ | น. เรียกคำหรือพยางค์ที่มีตัว ญ ณ น ร ล ฬ สะกด ว่า มาตรากนหรือแม่กน. | กบ ๑ | น. เรียกคำหรือพยางค์ที่มีตัว บ ป พ ฟ ภ สะกด ว่า มาตรากบหรือแม่กบ. | กม ๑ | น. เรียกคำหรือพยางค์ที่มีตัว ม สะกด ว่า มาตรากมหรือแม่กม. | กรมการในทำเนียบ | น. กรมการเมืองพวกหนึ่ง เป็นตำแหน่งข้าราชการที่มีเงินเดือน ซึ่งจัดเป็น ๒ พวก กรมการชั้นผู้ใหญ่ ประกอบด้วย ปลัด ยกกระบัตร และผู้ช่วยราชการ กับกรมการชั้นผู้น้อย ประกอบด้วย จ่าเมือง สัสดี แพ่ง ศุภมาตรา และสารเลข. | กระเบียด | น. มาตราวัดตามวิธีประเพณี ๑ กระเบียด เท่ากับ ๑ ใน ๔ ส่วนของนิ้ว. | กระผีก | น. มาตราตวง มีพิกัดเท่ากับ ๑ ภาค (คือ ๑ ใน ๔) ของกระเพาะ. | กรัม | (กฺรำ) น. หน่วยมาตราชั่งนํ้าหนัก ตามมาตราเมตริก มีอัตรา = ๑๐๐ เซนติกรัม หรือ ๑ ใน ๑, ๐๐๐ แห่งกิโลกรัม, อักษรย่อว่า ก. | กรีส ๒ | (กะหฺรีด) น. มาตราวัดความยาว เท่ากับ ๑ เส้น ๑๑ วา ๑ ศอก หรือ ๑๒๕ ศอก, ความจุเท่ากับ ๔ อัมพณะ คือ ประมาณ ๔๔ ทะนาน. | กล่อม ๑ | (กฺล่อม) น. ชื่อมาตราชั่งของไทยโบราณ ๔ เมล็ดข้าวเปลือก เป็น ๑ กล่อม ๒ กล่อม เป็น ๑ กลํ่า. | กล่ำ ๑ | (กฺลํ่า) น. ชื่อมาตราชั่งของโทยโบราณ ๒ กล่อม เป็น ๑ กลํ่า ๒ กลํ่า เป็น ๑ ไพ. | กอบ | ชื่อมาตราตวง ๔ กอบ เป็น ๑ ทะนาน. | กะรัต ๑ | (-หฺรัด) น. หน่วยมาตราชั่งเพชรพลอย ๑ กะรัต เท่ากับ ๒๐ เซนติกรัม หรือ ๓.๐๘๖๕ เกรน เช่น เพชรเม็ดนี้หนัก ๕ กะรัต. | กะรัตหลวง | น. มาตรานํ้าหนักตามวิธีประเพณี ใช้สำหรับชั่งเพชรพลอยเท่านั้น เป็นเมตริกกะรัต เท่ากับ ๒๐ เซนติกรัม, อักษรย่อว่า กต. | กัฐ | ไม้วัด (คือใช้ในมาตราวัด). | กากณึก | ชื่อมาตราเงินอย่างตํ่าที่สุด. | กาฐ | ไม้วัด (คือใช้ในมาตราวัด) | กาษฐะ | ไม้วัด (คือใช้ในมาตราวัด). | กำ ๑ | มาตราวัดรอบของกลม เมื่อวัดได้เท่าไร แล้วทบกึ่งได้ยาวราว ๑๐ เซนติเมตร เช่น ของกลมวัดรอบได้ยาว ๒๐ เซนติเมตร ของกลมนั้นเรียกว่ามีขนาด ๑ กำ, มี ๓ ชนิด คือ ๑. กำสลึง (ยาว ๔ นิ้ว ๑ กระเบียด หรือ ๑๐.๗๕ เซนติเมตร) ๒. กำเฟื้อง (ยาว ๔ นิ้ว ครึ่งกระเบียด หรือ ๑๐.๕ เซนติเมตร) ๓. กำสองไพ (ยาว ๔ นิ้ว ๒ หุน หรือ ๑๐.๒๕ เซนติเมตร) | กำมือ | มาตราตวงตามวิธีประเพณีของไทยโบราณ ๔ หยิบมือ = ๑ กำมือ ๔ กำมือ = ๑ ฟายมือ และอีกแบบหนึ่ง ๔ ใจมือ = ๑ กำมือ ๘ กำมือ = ๑ จังออน. | กิโล, กิโล- | เป็นคำประกอบข้างหน้าหน่วยมาตราเมตริก หมายความว่า พัน เช่น กิโลเมตร กิโลกรัม. | กิโลกรัม | น. ชื่อมาตราชั่งนํ้าหนัก เท่ากับ ๑, ๐๐๐ กรัม, อักษรย่อว่า กก., (ปาก) เรียกสั้น ๆ ว่า กิโล หรือ โล. | กิโลเมตร | น. ชื่อมาตราวัด เท่ากับ ๑, ๐๐๐ เมตร, อักษรย่อว่า กม., (ปาก) เรียกสั้น ๆ ว่า กิโล. | กิโลลิตร | น. ชื่อมาตราตวง เท่ากับ ๑, ๐๐๐ ลิตร หรือ ๑ ลูกบาศก์เมตร, อักษรย่อว่า กล. | กุรุส | น. มาตรานับจำนวน เท่ากับ ๑๒ โหล หรือ ๑๔๔. | เกย ๑ | น. เรียกคำหรือพยางค์ที่มีตัว ย สะกด ว่า มาตราเกยหรือแม่เกย. | เกรน | (เกฺรน) น. มาตราชั่งอย่างหนึ่งของอังกฤษ ๑ เกรน เท่ากับ ๖๔.๗๙๙ มิลลิกรัม. | เกวียน | ชื่อมาตราตวง ๘๐ สัด หรือ ๑๐๐ ถัง เป็น ๑ เกวียน. | เกวียนหลวง | น. มาตราตวงตามแบบราชการ มีอัตราเท่ากับ ๒, ๐๐๐ ลิตร หรือ ๒ กิโลลิตร, อักษรย่อว่า กว. | เกอว | น. เรียกคำหรือพยางค์ที่มีตัว ว สะกด ว่า มาตราเกอวหรือแม่เกอว. | โกฏิ | (โกด) น. ชื่อมาตรานับ เท่ากับ ๑๐ ล้าน. | โกรศ | มาตราวัด เท่ากับ ๕๐๐ คันธนู. | ข | (ขอ) พยัญชนะตัวที่ ๒ เรียกว่า ขอ ไข่ เป็นอักษรสูง ใช้เป็นพยัญชนะต้น และเป็นตัวสะกดในมาตรากกหรือแม่กก เช่น มุข เลข. | ข้างลาย ๒ | น. เสือสุมาตรา. | ขุน ๑ | น. ผู้เป็นใหญ่, หัวหน้า, บรรดาศักดิ์ข้าราชการรองจากหลวงลงมา เช่น ขุนวิจิตรมาตรา | ไข่เหา | น. ชื่อมาตราวัดโบราณ, ๘ เส้นผม เท่ากับ ๑ ไข่เหา ๘ ไข่เหา เท่ากับ ๑ ตัวเหา. | ค | (คอ) พยัญชนะตัวที่ ๔ เรียกว่า คอ ควาย เป็นอักษรตํ่า ใช้เป็นพยัญชนะต้น และเป็นตัวสะกดในมาตรากกหรือแม่กก เช่น โรค มรรค มารค เทคนิค. |
| pentameter | มาตราห้าคณะ [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | long measure; long meter | มาตรายาว [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | long meter; long measure | มาตรายาว [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | linear measure | มาตราวัดความยาว [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | logarithmic scale | มาตราส่วนเชิงลอการิทึม [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | rating scale | มาตราการประเมิน [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | Richter scale | มาตราริกเตอร์ [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] | short measure; short meter | มาตราสั้น [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | short meter; short measure | มาตราสั้น [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | standard | มาตรฐาน, มาตรา, ขนาด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | septenary scale | มาตราฐานเจ็ด [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | standard, double | มาตราเงินตราคู่ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | standard, gold | มาตราทองคำ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | single standard | มาตราโลหะเดี่ยว [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | senary scale | มาตราฐานหก [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | section | ๑. มาตรา๒. ตอน๓. แผนก [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | scale | มาตราส่วน, สเกล [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | scale | ๑. เกล็ด [ มีความหมายเหมือนกับ squama ๑ ]๒. มาตราส่วน๓. เครื่องชั่ง๔. ขูดหินน้ำลาย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | scale | มาตราส่วน, มาตรา (ชั่ง, ตวง, วัด) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | scale | มาตราส่วน, สเกล [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | scale | ๑. มาตรา๒. มาตราส่วน [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | scale factor | ตัวประกอบมาตราส่วน [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | scaling | การปรับมาตรา [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | standard | มาตรฐาน, มาตรา [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | scale of notation | มาตราสัญกรณ์ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | scaled partial pivoting | การหาตัวหลักบางส่วนตามมาตรา [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | subsection | อนุมาตรา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | standard of measure; standard of weight | มาตราชั่ง ตวง วัด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | standard of weight; standard of measure | มาตราชั่ง ตวง วัด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | octonary scale | มาตราฐานแปด [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | octameter | มาตราแปดคณะ [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | advancing-line speedometer | มาตราอัตราเร็วแบบแถบเลื่อน [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | angular measure | มาตราวัดมุม [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | area measure | มาตราวัดพื้นที่ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | article | ข้อ, มาตรา [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | article | ๑. มาตรา (ในกฎหมาย), ข้อ๒. ข้อบังคับ, กฎ๓. บท๔. บทความ, ข้อความ๕. ของ, สิ่งของ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | quinary scale | มาตราฐานห้า [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | quaternary scale | มาตราฐานสี่ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | binary scale | มาตราฐานสอง [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | metre; meter | มาตรา [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | metric measure | มาตราเมตริก [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | monometer | มาตราคณะเดียว [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | measure | ๑. มาตรา(วัด)๒. การวัด๓. เมเชอร์ [ ใช้ในคณิตวิเคราะห์ ] [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | meter; metre | มาตรา [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | marking up | การแก้ไขร่างกฎหมาย (เรียงมาตรา) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | common measure; common meter | มาตราสามัญ [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | common meter; common measure | มาตราสามัญ [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | denary scale | มาตราฐานสิบ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | dimeter | มาตราสองคณะ [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | duodenary scale | มาตราฐานสิบสอง [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
| Equivalent ton | ตันสมมูล, หน่วยหรือมาตราที่ใช้ระบุแรงระเบิดของระเบิดนิวเคลียร์ โดยเทียบต่อหน่วยน้ำหนักของระเบิดทีเอ็นที 1 ตัน ที่ปลดปล่อยพลังงานออกมาเท่ากัน (ดู TNT equivalent ประกอบ) [นิวเคลียร์] | International Nuclear Event Scale | มาตราระหว่างประเทศว่าด้วยเหตุการณ์ทางนิวเคลียร์, ขั้นความรุนแรงของเหตุการณ์เกี่ยวกับปัญหาด้านความปลอดภัยที่เกิดขึ้นในโรงงานนิวเคลียร์ โดยกำหนดเป็นมาตราสากล ตั้งแต่ระดับ 0 ถึง 7 เพื่อสื่อสารแก่ประชาชนให้เข้าใจได้ทันที [นิวเคลียร์] | เซนติเมตร | ชื่อมาตราวัดตามวิธีเมตริก มีอัตราเท่ากับ 1 ใน 100 ของ 2 เมตร, Example: คำที่มักเขียนผิด คือ เซ็นติเมตร [คำที่มักเขียนผิด] | Agreement on the Application of Sanitary and Phytosanitary Mesures (1995) | ความตกลงทั่วไปว่าด้วยการบังคับใช้มาตราการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (ค.ศ. 1995) [TU Subject Heading] | Sumatra (Indonesia) | สุมาตรา (อินโดนีเซีย) [TU Subject Heading] | Sumatra Earthquake, 2004 | แผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา, ค.ศ. 2004 [TU Subject Heading] | Accession | การภาคยานุวัติ คือการที่รัฐหนึ่งเข้าไปเป็นภาคีสนธิสัญญา ซึ่งรัฐอื่น ๆ ได้วินิจฉัยตกลงก่อนแล้วและสนธิสัญญานั้นได้มีผลใช้บังคับก่อนแล้วด้วย บางที่ใช้คำ ?accession? ซึ่งตรงกับคำในภาษาฝรั่งเศสว่า ?adhésion? รัฐจะเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาไม่ได้ นอกจากว่าในสนธิสัญญานั้นมีบทบัญญัติยอมให้รัฐอื่นเข้ามาเป็นภาคีด้วยได้ เช่น มาตรา 4 ของกฎบัตรแห่งสหประชาชาติบัญญัติไว้ว่า?(1) สมาชิกภาพในสหประชาชาติ เปิดรับบรรดารัฐอื่นๆ ทั้งหลายที่ยอมรับพันธกรณีที่ระบุไว้ในกฎบัตรปัจจุบันและองค์การสหประชาชาติ พิจารณาวินิจฉัยแล้วว่า รัฐนั้น ๆ สามารถและเต็มใจที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีเหล่านั้น??(2) การรับรัฐใดๆ ดังกล่าวเข้าเป็นสมาชิกในสหประชาชาติจะเป็นผลสำเร็จก็ต่อเมื่อสมัชชาสหประชา ชาติได้ลงมติรับรองตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง? คือ เอกสิทธิ์ทางการทูตในการที่จะได้มีถิ่นพำนัก [การทูต] | Break of Diplomatic Relations | การตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อสองรัฐตัดความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งกันและกัน เพราะมีการไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรง หรือเพราะเกิดสงคราม จึงไม่มีหนทางติดต่อกันได้โดยตรง ดังนั้น แต่ละรัฐมักจะขอให้มิตรประเทศที่เป็นกลางแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐอีกฝ่ายหนึ่ง ช่วยทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในอีกรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ช่วยดูแลคนชาติของรัฐนั้น ตัวอย่างเช่น ในตอนที่สหรัฐอเมริกากับคิวบาได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกดัน สหรัฐอเมริกาได้ขอให้คณะผู้แทนทางการทูตของสวิส ณ กรุงฮาวานา ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเทศคิวบา ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเช็คโกสโลวาเกียในกรุงวอชิงตัน ก็ได้รับการขอจากประเทศคิวบา ให้ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในสหรัฐอเมริกาถึงสังเกตว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกงสุลจะต้องตัดขาดไปด้วย มาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า ?ถ้าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองรัฐขาดลง หรือถ้าคณะผู้แทนถูกเรียกกลับเป็นการถาวรหรือชั่วคราวก. แม้ในกรณีการขัดแย้งกันด้วยอาวุธ รัฐผู้รับจะต้องเคารพและคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทนด้วยข. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการพิทักษ์สถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทน ให้แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับแก่รัฐผู้รับก็ได้ค. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการอารักขาผลประโยชน์ของคนและคนชาติของตน แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แก่รัฐผู้รับก็ได้ [การทูต] | Commencement of the Functions of the Head of Diplomatic Mission | การเริ่มต้นรับหน้าที่ของหัวหน้าคณะผู้แทนทางการ ทูต กล่าวคือ เมื่อหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตเดินทางไปถึงนครหลวงของประเทศผู้รับแล้ว ควรรีบแจ้งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทราบว่า ตนได้เดินทางมาถึงแล้วและขอนัดเยี่ยมคารวะ ตามปกติกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมพิธีการทูตจะดำเนินการตระเตรียมให้หัวหน้าคณะ ผู้แทนทางการทูตได้เข้ายื่นสารตราตั้งต่อไประหว่างนั้น หัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตจะต้องไม่ไปพบเยี่ยมผู้ใดเป็นทางการ จนกว่าจะได้ยื่นสารตราตั้งเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดี หัวหน้าคณะผู้แทนอาจขอพบเป็นการภายในกับหัวหน้าของคณะทูตานุทูต (Dean หรือ Doyen of the Diplomatic Corps) ได้ เพื่อขอทราบพิธีการปฏิบัติในการเข้ายื่นสารตราตั้งต่อประมุขของประเทศผู้รับ เกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนา ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 13 ว่า1. พึงถือได้ว่าหัวหน้าคณะผู้แทนได้เข้ารับภารกิจหน้าที่ของตนในรัฐผู้รับ เมื่อตนได้ยื่นสารตราตั้งหรือเมื่อตนได้บอกกล่าวการมาถึงของตน พร้อมทั้งได้เสนอสำเนาที่ถูกต้องของสารตราตั้งต่อกระทรวงการต่างประเทศของ รัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกันในแนวปฏิบัติที่มีอยู่ในรัฐผู้รับ ซึ่งจะต้องใช้ในทำนองอันเป็นเอกรูป2. ลำดับของการยื่นสารตราตั้ง หรือสำเนาที่ถูกต้องของสารตราตั้ง จะได้พิจารณากำหนดตามวันและเวลาของการมาถึงของหัวหน้าคณะผู้แทน [การทูต] | Conduct of Diplomatic Mission Towards the Receiving State | ในการปฏิบัติของคณะผู้แทนทางการทูตต่อรัฐผู้รับ นั้นหน้าที่สำคัญที่สุดอันหนึ่งของนักการทูตคือ จะต้องละเว้นจากการเข้าแทรกแซงใด ๆ ในกิจการภายในของรัฐผู้รับ อนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติเรื่องนี้ไว้ในมาตราที่ 41 ว่า1. โดยไม่เสื่อมเสียแก่เอกสิทธิ์และความคุ้มกันของตน เป็นหน้าที่ของบุคคลทั้งมวลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นนี้ ที่จะเคารพกฎหมายรวมทั้งข้อบังคับของรัฐผู้รับ บุคคลเหล่านี้มีหน้าที่ที่จะไม่แทรกสอดในกิจการภายในของรัฐนั้นด้วย2. ธุรกิจในทางการทั้งมวลกับรัฐผู้รับ ซึ่งรัฐผู้ส่งได้มอบหมายแก่คณะผู้แทนให้กระทำกัน โดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นเช่นที่อาจจะตกลงกัน3. สถานที่ของคณะผู้แทนต้องไม่ใช้ไปในทางที่ไม่ต้องด้วยกับการหน้าที่ของคณะผู้ แทน ดังที่ได้กำหนดลงไว้ในอนุสัญญานี้ หรือโดยกฎเกณฑ์อื่นของกฎหมายระหว่างประเทศทั่วไป หรือด้วยการตกลงพิเศษอื่นใดที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ ข้อ 42 ของอนุสัญญากรุงเวียนนายังได้บัญญัติด้วยว่า ตัวแทนทางการทูตจะต้องไม่ปฏิบัติกิจกรรมใดทางวิชาชีพหรือพาณิชย์เพื่อ ประโยชน์ส่วนตัวในรัฐผู้รับตามบทบัญญัติข้างต้นของอนุสัญญากรุงเวียนนา พอจะตีความหมายได้ว่า ผู้แทนทางการทูตจะต้องเคารพกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ เพื่อที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประชาชน รวมทั้งความปลอดภัยในรัฐผู้รับ การปฏิบัติใดๆ ที่ถูกต้องของผู้แทนทางการทูตนั้นย่อมเป็นเครื่องประกันอย่างดีที่สุด ที่ตัวบุคคลของผู้แทนทางการทูตนั้นจะถูกล่วงละเมิดมิได้ตามที่กล่าวอ้าง [การทูต] | Diplomatic Privilege of Accommodation | มาตรา 21 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตบัญญัติไว้ว่า ?1. รัฐผู้ต้อนรับจะต้องอำนวยความสะดวกตามบทกฎหมายของประเทศของตน ในการจัดการให้ได้มาซึ่งดินแดนของตนให้แก่รัฐผู้ส่ง ซึ่งจำเป็นแก่การปฏิบัติภาระหน้าที่ของรัฐนั้น หรือช่วยเหลือให้รัฐผู้ส่งได้รับอาคารที่พำนักด้วยวิธีการหนึ่งใด 2. ในกรณีจำเป็น รัฐผู้รับจะต้องช่วยให้คณะเจ้าหน้าที่ทางการทูต ได้มีสถานที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม?เมื่อตัวแทนทางการทูตที่เพิ่งได้รับแต่ง ตั้งได้เดินทางไปถึงประเทศที่เขาจะเข้าดำรงตำแหน่ง ซึ่ง ณ ที่นั้นมีคณะผู้แทนทางการทูตของรัฐบาลของเขาประจำทำงานอยู่แล้ว ตามปกติตัวแทนทูตดังกล่าวจะมีสำนักงานทางการทูตตั้งอยู่แล้วในสถานที่เหมาะ สม มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไม้สอยสำหรับการปฏิบัติงานโดยครบครัน และผู้ที่ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าเขาหรืออุปทูตชั่วคราวมักจะเตรียมการไว้ก่อน แล้วเกี่ยวกับที่พักอาศัย เรียกว่าทำเนียบ นอกจากว่าจะมีทำเนียบตั้งอยู่ภายในบริเวณตึกสถานเอกอัครราชทูตซึ่งรัฐบาลของ เขาเป็นเจ้าของเองแต่ถ้าหากตัวแทนทางการทูตที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งใหม่ จะต้องตั้งคณะผู้แทนทางการทูตในประเทศที่เขาเข้าดำรงตำแหน่งเป็นครั้งแรก ก็จะต้องประสบกับปัญหาเรื่องหาสถานที่สำหรับใช้เป็นที่ตั้งสถานเอกอัคร ราชทูตขึ้น ในกรณีเช่นนี้จึงจำเป็นจะต้องอาศัยคำแนะนำและความช่วยเหลือจากกระทรวงการ ต่างประเทศของรัฐผู้รับ กระทรวงการต่างประเทศของบางประเทศจะมีแผนกหนึ่งทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่คณะทูตต่างประเทศโดยเฉพาะ เป็นแผนกหนึ่งในกรมพิธีการทูต ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้อยู่แล้ว [การทูต] | Duration of Diplomatic Privileges and Immunities | ระยะเวลาของการอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทาง การทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตราที่ 39 ว่า?1. บุคคลทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน ที่จะได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันนั้นตั้งแต่ขณะที่บุคคลนั้นเข้ามาใน อาณาเขตของรัฐผู้รับในการเดินทางไปรับตำแหน่งของตน หรือถ้าอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับแล้ว ตั้งแต่ขณะที่ได้บอกกล่าวการแต่งตั้งของตนต่อกระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน 2. เมื่อภารกิจหน้าที่ของบุคคล ซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันยุติลง เอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามปกติให้สิ้นสุดลงขณะที่บุคคลนั้นออกไปจากประเทศ หรือเมื่อสิ้นกำหนดอันสมควรที่จะทำเช่นนั้น แต่จะยังมีอยู่จนกระทั่งเวลานั้น แม้ในกรณีของการขัดแย้งด้วยอาวุธ อย่างไรก็ดี ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่ได้ปฏิบัติไปโดยบุคคลเช่นว่านั้น ในการปฏิบัติการหน้าที่ของตนในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน ความคุ้มกันนั้นให้มีอยู่สืบไป 3. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามีสิทธิที่จะได้สืบไป จนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป 4. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นอยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว รัฐผู้รับสามารถอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่การส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดก และการรับมรดกนั้น ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับเพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่เพียงถ่ายเดียวของผู้วายชนม์ ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน หรือในฐานะเป็นคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน? [การทูต] | Establishment of Diplomatic Relations and Missions | การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและคณะผู้แทนถาวร ทางการทูต ข้อนี้มีบทบัญญัติไว้ในมาตรา 2 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตว่าการสถาปนาความ สัมพันธ์ทางการทูตระหว่างรัฐ และคณะผู้แทนถาวรทางการทูตมีขึ้นได้ด้วยความยินยอมของกันและกันในเรื่องนี้ รัฐที่มีอธิปไตยโดยสมบูรณ์ทุกรัฐ มีสิทธที่จะส่งตัวแทนทางการทูตไปทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนยังรัฐ อื่นๆ ซึ่งถือกันว่ามี Active right of legation แต่การใช้สิทธิดังกล่าว เป็นเรื่องดุลยพินิจของแต่ละรัฐ เพราะจะบังคับให้รัฐหนึ่งส่งคณะผู้แทนทางทูตประจำ ณ ที่ใดหาได้ไม่ ถ้าหากรัฐนั้นไม่ปรารถนาจะปฏิบัติเช่นนั้น ในทำนองเดียวกันจะมีการบังคับให้รัฐผู้รับต้องรับคณะผู้แทนทางการทูตจากรัฐ ใดหาได้ไม่ ทั้งนี้เพราะเป็นเรื่องดุลยพินิจของรัฐผู้รับเช่นกัน [การทูต] | Functions of Diplomatic Mission | ภาระหน้าที่ต่าง ๆ ของคณะผู้แทนทางการทูต หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง หน้าที่ที่ปฏิบัติเป็นประจำของผู้แทนทางการทูตนั้น ได้แก่ หน้าที่การเจรจา การสังเกต และการคุ้มครอง อย่างไรก็ดี มีบางประเทศได้มอบอำนาจให้ผู้แทนทางการทูตของตนปฏิบัติหน้าที่ทางกงสุล และกิจกรรมเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ด้วย ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างสำคัญใด ๆ กับการทูตเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติไว้ในมาตรา 3 ว่า1. นอกจากประการอื่นแล้ว การหน้าที่ของคณะผู้แทนทางการทูตประกอบด้วยก. ทำหน้าที่แทนรัฐผู้ส่งในรัฐผู้รับข. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่งและของคนชาติของรัฐผู้ส่งในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดอันกฎหมายระหว่างประเทศได้อนุญาตให้ค. เจรจากับรัฐบาลของรัฐผู้รับง. สืบเสาะให้แน่ด้วยวิถีทางทั้งมวลอันชอบด้วยกฎหมายถึงสถาวะและพัฒนาการในรัฐ ผู้รับ แล้วรายงานไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่งจ. ส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ ตลอดจนพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ2. ไม่มีข้อความในอนุสัญญานี้ ที่จะหมายความได้ว่าเป็นการห้ามไม่ให้คณะผู้แทนทางการทูตปฏิบัติหน้าที่ทางกงสุล [การทูต] | Head of Diplomatic Mission | บุคคลซึ่งได้รับมอบหมายจากรัฐผู้ส่งให้ทำหน้าที่ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต ในกรณีของสถานเอกอัครราชทูตผู้ที่เป็นหัวหน้าคณะผู้แทน ทางการทูต เรียกว่า เอกอัครราชทูตวิสามัญและมีอำนาจเต็ม (Ambassador Extraordinary and plenipotentiary) หัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตจะได้แก่ อัครราชทูตวิสามัญและมีอำนาจเต็ม หรือเรียกว่าอุปทูต (Chargé d?Affaires entitre) คองเกรสแห่งเวียนนาและที่ประชุมแห่งเอกซ์ ลา ชา แปล (Congress of Aix-la-Chapelle) ได้จำแนกหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตไว้ดังต่อไปนี้ คือ1. เอกอัครราชทูต (Ambassadors) หรือเอกอัครสมณทูต (Papal Nucios)2. อัครราชทูต (Envoys Extraordinary and Ministers Plenipotentiary)3. อัครราชทูตผู้มีถิ่นพำนัก (Mission Resident)4. อุปทูต (Chargé d?Affaires)แต่อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติไว้ในมาตร 14 ว่า?1. หัวหน้าคณะผู้แทนแบ่งออกเป็น 3 ชั้น คือก. ชั้นเอกอัครราชทูตหรือเอกอัครสมณทูต ซึ่งแต่งตั้งไปยังประมุขของรัฐ และหัวหน้าคณะผู้แทนอื่นที่มีชั้นเท่ากันข. ชั้นรัฐทูต อัครราชทูต และอัครสมณทูต ซึ่งแต่งตั้งไปยังประมุขของรัฐค. ชั้นอุปทูตซึ่งแต่งตั้งไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 2. ข้อยกเว้นที่เกี่ยวกับลำดับอาวุโสและมารยาท ต้องไม่ให้มีความแตกต่างกันระหว่างหัวหน้าคณะผู้แทน ในมาตรา 15 ก็ได้ระบุว่า ชั้นที่กำหนดให้แก่หัวหน้าคณะผู้แทนนั้น ต้องทำความตกลงกันระหว่างรัฐ? [การทูต] | Immunity from Jurisdiction of Diplomatic Agents | ความคุ้มกันจากอำนาจศาลของตัวแทนทางการทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตรา 31 ว่า?1. ให้ตัวแทนทางการทูตได้อุปโภคความคุ้มกันจากอำนาจศาลทางอาญาของรัฐผู้รับ ตัวแทนทางการทูตยังจะได้อุปโภคความคุ้มกันจากอำนาจศาลทางแพ่ง และทางการปกครองของรัฐผู้รับด้วย เว้นแต่ในกรณีของก) การดำเนินคดีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัว ที่ตั้งอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับนอกจากตัวแทนทางการทูตครอบครองไว้ในนามของ รัฐผู้ส่งเพื่อความมุ่งประสงค์ของคณะผู้แทนข) การดำเนินคดีเกี่ยวกับการสืบมรดกซึ่งเกี่ยวพันถึงตัวแทนทางการทูตในฐานะผู้ จัดการมรดกโดยพินัยกรรม ผู้จัดการมรดกโดยศาลตั้งทายาท หรือผู้รับมรดกในฐานะเอกชน และมิใช่ในนามของรัฐผู้ส่งค) การดำเนินคดีเกี่ยวกับกิจกรรมใดในทางวิชาชีพ หรือพาณิชย์ ซึ่งตัวแทนทางการทูตได้กระทำในรัฐผู้รับ นอกเหนือจากการหน้าที่ทางการของตน 2. ตัวแทนทางการทูตไม่จำเป็นต้องให้การในฐานะพยาน 3. มาตรการบังคับคดี ไม่อาจดำเนินได้ในส่วนที่เกี่ยวกับตัวแทนทางการทูต เว้นแต่ในกรณีซึ่งอยู่ภายใต้อนุวรรค (ก) (ข) และ (ค) ของวรรค 1 ของข้อนี้ และโดยมีเงื่อนไขว่ามาตรการที่เกี่ยวข้องอาจดำเนินไปได้โดยปราศจากการละเมิด ความละเมิดมิได้ในตัวบุคคลของตัวผู้แทนทางการทูต หรือที่อยู่ของตัวแทนทางการทูต 4. ความคุ้มกันของตัวแทนทางการทูตจากอำนาจศาลของรัฐผู้รับ ไม่ยกเว้นตัวแทนทางการทูตจากอำนาจศาลของรัฐผู้ส่ง?เกี่ยวกับความคุ้มกันตัว แทนทางการทูตจากขอบเขตของอำนาจศาลทางแพ่ง อาจกล่าวได้อย่างกว้างๆ ว่า ตัวแทนทางการทูตนั้นได้รับการยกเว้นจากอำนาจของศาลแพ่งในท้องถิ่นคือตัวแทน ทางการทูตนั้นได้รับการยกเว้นจากอำนาจของศาลแพ่งในท้องถิ่นคือตัวแทนทางการ ทูตจะถูกฟ้องมิได้ และถูกจับกุมมิได้เกี่ยวกับหนี้สิน รวมทั้งทรัพย์สินของเขา เช่น เครื่องเรือน รถยนต์ ม้า และสิ่งอื่นๆ ทำนองนั้นก็จะถูกยืดเพื่อใช้หนี้มิได้ ตัวแทนทางการทูตจะถูกกีดกันมิให้ออกไปจากรัฐผู้รับในฐานะที่ยังมิได้ชดใช้ หนี้สินของเขานั้นก็มิได้เช่นกัน อนึ่ง นักกฎมายบางกลุ่มเห็นว่า ตัวแทนทางการทูตจะถูกหมายศาลเรียกตัว (Subpoenaed) ไม่ได้ หรือแม้แต่ถูกขอร้องให้ไปปรากฎตัวเป็นพยานในศาลแพ่งหรือศาลอาญาก็ไม่ได้ อย่างไรก็ดี ถ้าหากตัวแทนทางการทูตสมัครใจที่จะไปปรากฏตัวเป็นพยานในศาล ก็ย่อมจะทำได้ แต่จะต้องขออนุมัติจากรัฐบาลในประเทศของเขาก่อน [การทูต] | Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle | โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย " จัดตั้งในสมัยรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน เมื่อกลางปี พ.ศ. 2535 โดยมีพื้นที่โครงการครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ คือ ไทย ได้แก่ สงขลา ยะลา ปัตตานี สตูล และนราธิวาส มาเลเซีย ได้แก่ 4 รัฐทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซีย (เคดาห์ เปอร์ลิส เปรัก และปีนัง) อินโดนีเซีย ได้แก่ 4 จังหวัดบนเกาะสุมาตรา (เขตปกครองพิเศษอาเจ่ห์) สุมาตราเหนือ สุมาตราตะวันตก และจังหวัดเรียว (Riau) " [การทูต] | Inviolability of Residence and Property of Diplomatic Agents | หมายถึง ความละเมิดมิได้ของทำเนียบและทรัพย์สินของตัวแทนทางการทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 30 ว่า ?1. ให้ที่อยู่ส่วนตัวของตัวแทนทางการทูต ได้อุปโภคความละเมิดมิได้และความคุ้มครอง เช่นเดียวกับสถานที่ของคณะผู้แทน 2. ให้กระดาษเอกสาร หนังสือโต้ตอบ และยกเว้นที่ได้บัญญัติไว้ในวรรค 3 ของข้อ 31 ทรัพย์สินของตัวแทนทางการทูตได้อุปโภคและละเมิดมิได้เช่นกัน?วรรค 3 ของข้อ 31 ในอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า มาตรการบังคับคดีไม่อาจดำเนินได้ในส่วนที่เกี่ยวกับตัวแทนทางการทูต (เว้นแต่ในกรณีซึ่งอยู่ภายใต้อนุวรรค (ก) (ข) และ (ค) ของวรรค 1 ของข้อนี้ และโดยเงื่อนไขว่า มาตรการที่เกี่ยวข้องอาจดำเนินไปได้ โดยปราศจาการละเมิด) หรือที่อยู่ของตัวแทนทางการทูต [การทูต] | Judicial Settlement | การระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐโดยศาลตุลาการ ก่อนที่จะเกิดองค์การสหประชาชาติ รัฐทั้งหลายที่มีกรณีพิพาทระหว่างประเทศจะฟ้องร้องต่อศาลระวห่างประเทศแห่ง หนึ่ง มีชื่อว่าศาลประจำยุติธรรมระหว่าประเทศ (Permanent Court of International Justice) ซึ่งองค์การสันนิบาตชาติ (League of Nations) จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1920 ได้ประชุมกันเป็นครั้งแรก ณ กรุงเฮก เมื่อวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1922 หลังจากนั้นเป็นเวลา 23 ปี ผู้พิพากษาของศาลก็ได้ลาออกในปีค.ศ. 1946 และสันนิบาตชาติได้ยุบศาลนี้ในปีเดียวกันเมื่อมีการสถาปนาองค์การสหประชา ชาติขึ้น ได้มีการจัดตั้งศาลระหว่างประเทศขึ้นใหม่ เรียกว่า ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) ตามกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรนี้ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 92 ว่า ?ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศจักเป็นองค์กรทางตุลาการอันสำคัญของสหประชาชาติ ศาลจักดำเนินหน้าที่ตามธรรมนูญผนวกท้าย ซึ่งยึดถือธรรมนูญของศาลประจำยุติธรรมระหว่างประเทศเป็นมูลฐาน และซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับกฎบัตรฉบับปัจจุบัน?ศาลยุติธรรมระหว่าง ประเทศนี้ ประชุมกันเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1946 [การทูต] | Nuclear Test Ban | หมายถึง สนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งในบรรยากาศ ในอวกาศ และใต้น้ำ สนธิสัญญาฉบับนี้ได้มีผลบังคับเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1963 ประเทศที่ลงนามเริ่มแรกในสนธิสัญญาได้แก่ อังกฤษ สหภาพโซเวียต และ สหรัฐอเมริกา รวมสามประเทศจุดมุ่งหมายสำคัญของสนธิสัญญาคือ รัฐบาลของประเทศทั้งสาม ต้องการให้มีการทำความตกลงกันเป็นผลสำเร็จเกี่ยวกับการลดอาวุธ หรือปลดกำลังอาวุธทั้งหมดโดยสิ้นเชิง ภายใต้การควบคุมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ตามความมุ่งประสงค์ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งต้องการให้ยุติหรือเลิกการแข่งขันกันสะสมอาวุธ และกำจัดมิให้มีเหตุจูงใจที่จะผลิตและทดสอบอาวุธไม่ว่าชนิดใดทั้งหมด รวมทั้งอาวุธนิวเคลียร์ด้วย นอกจากนี้ ยังเสาะแสวงหาที่จะให้หยุดการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ไปตลอดชั่วกาลนานสนธิ สัญญานี้มีข้อความอยู่ 5 มาตรา และไม่จำกัดอายุเวลา ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประเทศอื่น ๆ ทั้งหลายเข้าร่วมลงนามเป็นภาคีได้ ในทางตรงกันข้าม ประเทศภาคีก็มีสิทธิใช้อธิปไตยแห่งชาติได้เพื่อถอนตัวจากสนธิสัญญา ถ้าหากประเทศนั้น ๆ เห็นว่า ประโยชน์อันสูงสุดของประเทศตนต้องตกอยู่ในอันตราย และแจ้งล่วงหน้าสามเดือนให้ประเทศภาคีอื่น ๆ ทั้งหมดทราบการตกลงใจนั้น [การทูต] | Open Diplomacy | คือการทูตแบบเปิดเผย อดีตประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน แห่งสหรัฐอเมริกา เป็นบุคคลที่สนับสนุนและเผยแพร่วิธีการทูตแบบเปิดเผยอย่างเต็มที่ หวังจะให้ชุมชนนานาชาติพร้อมใจกันสนับสนุนการทูตนี้เช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1918 วูดโรว์ วิลสัน ได้ประกาศให้โลกทราบนโยบายของท่าน 14 ข้อ ข้อหนึ่งในจำนวนนั้นท่านปรารถนาว่า ในอนาคตประเทศต่าง ๆ ควรจะทำความตกลงกันเกี่ยวกับเรื่องสันติภาพอย่างเปิดเผย และต่อไปไม่ควรจะมีการเจรจาทำความตกลงระหว่างประเทศแบบลับเฉพาะอย่างใดทั้ง สิ้นแม้ว่าโดยทั่วไปจะเห็นพ้องด้วยกับนโยบายข้อแรกของ วูดโรว์ วิลสัน คือ ความตกลงหรือสนธิสัญญาใด ๆ เมื่อตกลงเสร็จสิ้นแล้ว ให้ประกาศเปิดเผยให้โลกทราบ แต่สำหรับข้องสองคือการเจรจาในระหว่างทำสนธิสัญญาให้กระทำกันอย่างเปิดเผย นั้น ส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะเห็นว่าลำพังการเจรจานั้น โดยสารัตถะสำคัญแล้วควรจะถือเป็นความลับไว้ก่อนจนกว่าจะเสร็จการเจรจา ทั้งนี้ เซอร์เดวิด เคลลี่ อดีตนักการทูตอังกฤษเคยให้ทรรศนะว่า การทูตแบบเปิดเผยนั้นเป็นถ้อยคำที่ขัดกันในตัว คือหากกระทำกันอย่างเปิดเผยเสียแล้วก็ไม่ใช่การทูตเกี่ยวกับเรื่องนี้ มาตรา 102 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติว่า ?1. สนธิสัญญาทุกฉบับ และความตกลงระหว่างประเทศทุกฉบับ ซึ่งสมาชิกใด ๆ แห่งสหประชาชาติได้เข้าเป็นภาคี ภายหลังที่กฎบัตรปัจจุบันได้ใช้บังคับ จักต้องจดทะเบียนไว้กับสำนักเลขาธิการโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจักได้พิมพ์ขึ้นโดยสำนักงานนี้ 2. ภาคีแห่งสนธิสัญญา หรือความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่าใด ซึ่งมิได้จดทะเบียนไว้ตามบทบัญญัติในวรรคหนึ่งข้อนี้ ไม่อาจยกเอาสนธิสัญญาหรือความตกลงนั้น ๆ ขึ้นกล่าวอ้างต่อองค์กรใด ๆ ของสหประชาชาติ? [การทูต] | Personal Inviolability of Diplomatic Agents | หมายถึง ตัวบุคคลของตัวแทนทางทูตจะถูกละเมิดมิได้ กล่าวคือ มาตรา 29 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติในเรื่องนี้ไว้ว่า ?ตัวบุคคลของตัวแทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้ ตัวแทนทางการทุตจะไม่ถูกจับกุมหรือกักขังในรูปใด ๆ ให้รัฐผู้รับปฏิบัติต่อตัวแทนทางการทูตด้วยความเคารพตามสมควร และดำเนินการที่เหมาะสมทั้งมวลที่จะป้องกันการประทุษร้ายใด ๆ ต่อตัวบุคคล เสรีภาพ หรือเกียรติของตัวแทนทางการทูต?ตัวบุคคลของตัวแทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้ นั้น ได้ถือเป็นปัจจัยหลักในการที่ให้ผู้แทนทางการทูตได้รับสิทธิและความคุ้มกัน ทั้งมวล ถึงกับมีการพูดกันว่า ผู้ใดประทุษร้ายต่อตัวเอกอัครราชทูต จักถือว่าเป็นการทำร้ายต่อประมุขของประเทศซึ่งผู้แทนทางการทูตผู้นั้นเป็น ตัวแทนอยู่ ทั้งยังถือว่าเป็นการยังผลร้ายต่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชาติทั้ง มวลด้วยตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1964 ชายหนุ่มญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งมีจิตวิปลาส ได้ใช้มีดแทง นายเอ็ดวิน โอไรส์ชาวเออร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศญี่ปุ่น ในเขตนอกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงโตเกียว รัฐมนตรีว่าการกระทวงมหาดไทยญี่ปุ่นได้ลาออกจากตำแหน่งทันทีและรุ่งขึ้นใน วันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1964 นายอิเคดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในสมัยนั้น ได้ทำการขอโทษต่อประชาชนชาวอเมริกันทางวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการดำเนินการในทำนองนี้ และการที่นายกรัฐมนตรีอิเคดะได้ปฏิบัติดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า การที่ตัวบุคคลของผู้แทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้นั้น มีความสำคัญมากเพียงใดตัวแทนทางการทูตจะถูกจับ ถูกฟ้องศาล หรือถูกลงโทษฐานประกอบอาชญากรรมนั้นไม่ได้ เพราะถือว่าผู้แทนทางการทูตมิได้อยู่ในอำนาจศาลของรัฐผู้รับ อย่างไรก็ดี หากผู้แทนทางการทูตกระทำความผิดอย่างโจ่งแจ้ง รัฐผู้รับอาจขอให้รัฐผู้ส่งเรียกตัวกลับไปยังประเทศของเขาได้ในทันที [การทูต] | Persons Entitled to Diplomatic Privileges and Immunities | บุคคลทีมีสิทธิที่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้ม ครองกันทางการทูต มาตรา 37 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ว่า ?1. คนในครอบครัวของตัวแทนทางการทูต ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของตัวแทนทางการทูต ถ้าไม่ใช่คนในชาติของรัฐผู้รับ ให้ได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ระบุไวในข้อ 29 ถึง 36 2. บุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการและฝ่ายวิชาการของคณะผู้แทน รวมทั้งคนในครอบครัวของตน ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของตน ตามลำดับ ถ้าไม่ใช่คนในชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับ ให้ได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ได้ระบุไว้ในข้อ 29 ถึง 35 เว้นแต่ว่าความคุ้มกันจากอำนาจศาลทางแพ่งและทางปกครองของรัฐผู้รับ ที่ได้ระบุไว้ในวรรค 1 ของข้อ 31 นั้น ไม่ให้ขยายไปถึงการกระทำที่ได้ปฏิบัติไปเกินภารกิจหน้าที่ของตน ให้บุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการและฝ่ายวิชาการได้อุปโภคเอกสิทธิ์ ที่ได้ระบุไว้ในข้อ 36 วรรค 1 ในส่วนที่เกี่ยวกับสิ่งของที่ได้นำเข้าเมื่อเข้ารับหน้าที่ครั้งแรกด้วย 3. บุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการของคณะผู้แทนซึ่งไม่ใช่คนในชาติของรัฐผู้ รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับให้ได้อุปโภคความคุ้มกัน ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่ได้ปฏิบัติตามภารกิจหน้าที่ตน การยกเว้นจากค่าภาระผูกพันรวมทั้งภาษีสำหรับค่าบำเหน็จที่ตนได้รับโดยเหตุผล จากการรับจ้างของตน และการยกเว้นที่ได้บรรจุไว้ในข้อ 33 4. คนรับใช้ส่วนตัวของบุคคลในคณะผู้แทน ถ้าไม่ใช่คนในชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ประจำในรัฐผู้รับ ให้ได้รับการยกเว้นจากค่าภาระผูกพัน หรือภาษีสำหรับค่าบำเหน็จที่เขาได้รับโดยเหตุผลจากการรับจ้างของตนในส่วน อื่น คนรับใช้ส่วนตัวเช่นว่านี้ อาจได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเท่าที่รัฐผู้รับยอมให้เท่านั้น อย่างไรก็ดี รัฐผู้รับต้องใช้อำนาจของตนเหนือบุคคลเช่นว่านี้ ในการที่จะไม่แทรกสอดโดยไม่สมควรในการปฏิบัติการหน้าที่ของคณะผู้แทน [การทูต] | Size of Staff of Diplomatic Mission | ขนาดของคณะผู้แทนทางการทูต โดยพฤตินัย จำนวนคณะผู้แทนทางการทูตจะมีตั้งแต่แห่งละหนึ่งหรือสองคนขึ้นไป จนถึงแห่งละ 100 กว่าคนได้ แต่โดยส่วนเฉลี่ย คณะผู้แทนทางการทูต จะมีจำนวนระหว่าง 12 ถึง 24 คน สำหรับคณะผู้แทนทางการทูตที่ประจำอยู่ในนครหลวงของประเทศใหญ่ๆ เช่น ที่กรุงวอชิงตันดีซี กรุงลอนดอน กรุงปารีส กรุงมอสโก กรุงปักกิ่ง และกรุงโตเกียว เป็นต้น จะมีเจ้าหน้าที่ทูตมากกว่าปกติอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทาง การทูตได้บัญญัติอยู่ในมาตรา 11 ว่า ?1. เมื่อไม่มีความตกลงเฉพาะในเรื่องขนาดของคณะผู้แทน รัฐผู้รับอาจเรียกร้องให้ขนาดของคณะผู้แทนอยู่ในจำนวนจำกัดตามที่ตนเห็นว่า เหมาะหรือเป็นปกติได้ ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงพฤติการณ์หรือสภาวการณ์ในรัฐผู้รับ และความจำเป็นของคณะผู้แทนเฉพาะราย 2. ภายในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน และบนมูลฐานที่ไม่เลือกปฏิบัติ รัฐผู้รับอาจปฏิเสธได้เช่นเดียวกัน ที่จะยอมรับพนักงานเฉพาะรายประเภทหนึ่งประเภทใดก็ได้? [การทูต] | Treaty of Amity and Cooperation | สนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ " เป็นสนธิสัญญาที่จัดทำขึ้นโดยอาเซียนเมี่อปี พ.ศ. 2519 เพื่อกำหนด หลักการดำเนินความสัมพันธ์ในภูมิภาค โดยมีหลักการที่สำคัญได้แก่ การเคารพในอำนาจอธิปไตย ความเท่าเทียมกัน บูรณภาพแห่งดินแดน การไม่แทรกแซงกิจการภายใน การแก้ไขปัญหาโดยสันติ การไม่ใช้หรือขู่ว่าจะใช้กำลัง และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน รวมทั้งมีมาตราเกี่ยวกับแนวทางยุติความขัดแย้งโดยสันติวิธี โดยอาศัยกลไกคณะอัครมนตรี (High Council) ปัจจุบันประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้ง 10 ประเทศ เป็นภาคีสนธิสัญญาฯ " [การทูต] | Waiver of Immunity | การสละความคุ้มกันทางการทูต ในเรื่องนี้บางประเทศออกกฎไว้ว่า ความคุ้มกันจากอำนาจทั้งทางแพ่งหรืออาญาของผู้แทนทางการทูตที่ประจำอยู่ใน ประเทศผู้รับ ตามที่กฎหมายระหว่างประเทศได้มอบให้ รวมทั้งคณะเจ้าหน้าที่ทางการทูตและบุคคลในครอบครัวของเขานั้น ย่อมสละมิได้ นอกจากจะได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่าง ประเทศของผู้นั้น เหตุผลของการออกกฎข้อนี้เป็นเพราะเขาถือว่า ความคุ้มกันนั้นมิได้เกี่ยวกับตัวเจ้าหน้าที่โดยตรงหากแต่เกี่ยวกับตำแหน่ง หน้าที่ของเขามากกว่าเรื่องการสละความคุ้มกันข้างต้น อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตรา 32 ว่า?1. ความคุ้มกันจากอำนาจศาลของตัวแทนทางการทูตและของบุคคลที่อุปโภคความคุ้มกัน ภายใต้ขอ้ 37 อาจสละได้โดรัฐผู้ส่ง 2. การสละต้องเป็นที่ชัดแจ้งเสมอ 3. การริเริ่มคดีโดยตัวแทนทางการทูต หรือโดยบุคคลที่อุปโภคความคุ้มกันจากอำนาจศาลภายใต้ข้อ 37 จะกันตัวแทนทางการทูตหรือบุคคลนั้นจากการอ้างความคุ้มกันของอำนาจศาล ในส่วนที่เกี่ยวกับการฟ้องแย้งที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเรียกร้องสิทธิ สำคัญนั้น 4. การสละความคุ้มกันจากอำนาจศาลในส่วนที่เกี่ยวกับคดีแพ่งหรือคดีปกครอง ไม่ให้ถือว่ามีนัยเป็นการสละความคุ้มกันในส่วนที่เกี่ยวกับการบังคับคดีตาม คำพิพากษา ซึ่งจำเป็นต้องมีการสละต่างหากอีก? [การทูต] | Work of the United Nations on Human Rights | งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต] | สถานีบริการ | สถานีบริการ, สถานที่สำหรับจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่ประชาชนโดยวิธีเติมหรือใส่ลงในที่บรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงของยานพาหนะ โดยใช้มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงตามกฎหมายว่าด้วยมาตราชั่งตวงวัด ที่ติดตั้งไว้เป็นประจำ และให้หมายความรวมถึงสถานที่จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่ประชาชนตามที่กำหนดในกฎกระทรวง [พลังงาน] | Conversion | การแปลงมาตรา, การแปรสภาพ [การแพทย์] | Conversion, Approximate | การแปลงมาตราโดยประมาณ [การแพทย์] | Flowmeters | มิเตอร์การไหล, เครื่องวัดการไหล, เครื่องวัดการไหล, เครื่องควบคุมการไหล, มาตราอัตราการไหล [การแพทย์] | Compensated scale barometer | บารอมิเตอร์แบบใช้ มาตราส่วนสัมพันธ์กับความกดอากาศ [อุตุนิยมวิทยา] | Richter scale | Richter scale, มาตราริกเตอร์ [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ] | semi-logarithm graph | กราฟกึ่งลอการิทึม, กราฟที่มีมาตราส่วนบนแกนนอนเป็นมาตราส่วนเลขคณิต และมาตราส่วนบนแกนตั้งเป็นมาตราส่วนลอการิทึม [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | scale | มาตราส่วน, ระบบที่แสดงการแบ่งช่วงหรือความยาวออกเป็นหน่วยย่อยที่เท่ากัน เช่น มาตราส่วนบนไม้บรรทัด มาตราส่วนบนเทอร์โมมิเตอร์ เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | burette | บิวเรตต์, อุปกรณ์ใช้วัดปริมาตรของของเหลวในการไทเทรต มักทำด้วยแก้วใสและมีมาตราส่วนบอกปริมาตรไว้อย่างละเอียด และมีที่ปิดเปิดควบคุมการไหลของของเหลว ดูรูป [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | orthographic drawing | ภาพฉาย, ภาพแสดงรายละเอียดของแนวคิดในการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ ประกอบด้วยภาพด้านหน้า ภาพด้านข้าง และภาพด้านบน แสดงขนาด สัดส่วน มาตราส่วนและหน่วยในการวัด เพื่อสามารถนำไปสร้างแบบจำลองหรือต้นแบบได้ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Morbidity, Measures of | มาตราการวัดการป่วย [การแพทย์] |
| He's going to be judged by people of a different standard. | เขาจะต้องถูกตัดสินจาก ผู้คนที่มีหลากหลายมาตราฐาน The Joy Luck Club (1993) | In accordance with the provision of Article 43 of Meishu school rules | ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 43 ของกฎระเบียบของโรงเรียนเมชู GTO (1999) | This is the statute that is well-known. | นี่คือข้อกฎหมายที่ทราบกันดี (โรเบิร์ต เบนสัน ศาสตราจารย์กฎหมาย มหาวิทยาลัยยูซีแอลเอ) มาตรานี้เคยนำมาใช้ The Corporation (2003) | - Standard tap procedure. | - เริ่มดักฟังตามมาตราฐาน. National Treasure (2004) | We're going to find Skull Island. | เรือเขาหลงไปเกยเกาะๆ นึง ทางตะวันตกของสุมาตรา King Kong (2005) | ...heightened security measures are now in place. | ...สนามบินได้มีมาตราการรักษาความปลอดภัย Red Eye (2005) | Because now we're going to have to take measures to keep your daughter quiet. | เพราะตอนนี้เราจะต้องใช้มาตราการ เพื่อให้ลูกสาวนายเงียบ Chapter Eleven 'Powerless' (2007) | Are you aware that according to article one, section 25 of the Maryland constitution, I'm allowed to fish in public water? | รู้หรือเปล่าว่า มาตรา 1 วรรคที่ 25 ตามกฎหมายของแมร์รี่แลนด์ บอกว่าผมมีสิทธิ์ตกปลาที่ไหนก็ได้ ? National Treasure: Book of Secrets (2007) | That is because that idiot Punjabi boy accepted a challenge.. | นั่นเพราะหนุ่มปันจาบที่โง่ได้มาตราฐานคอยกระตุ้นอยู่... Namastey London (2007) | As long as no one knows you're here, y I'll be back. | แล้วฉันจะกลับมาตราบใดที่แกอยู่ที่นี่ แกจะปลอดภัย Fire/Water (2007) | Section 216 of the Patriot Act allows us to circumvent probable cause in the face of a national security threat, in this case, | มาตรา 216 กฏหมายต่อการก่อการร้าย ไม่ให้เราหลีกเลี่ยง เหตุสงสัย ที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคง Eagle Eye (2008) | And we can let their sacrifice remind us that sometimes the very measures we put into place to safeguard our liberty become threats to liberty itself. | ต่อความเสียสละของพวกเขา และมันจะเป็นสิ่งเตือนใจเรา.. ว่าบางครั้ง มาตราการมากมายที่เราวางไว้ Eagle Eye (2008) | sir, i don't want to slap you with a 44/16, but i will. | คุณครับ ผมไม่อยากจะฟ้องคุณ มาตรา 44/16 หรอกนะ แต่ก็ไม่แน่ Wishful Thinking (2008) | When the plane lands, the same precautions will be taken. | เมื่อเครื่องบินลงจอด มาตราการปลอดภัยไว้ก่อนจะนำมาใช้ Quiet Riot (2008) | U.s. code 1111. | มาตรา 1111 Pilot (2008) | U.s. code 2332-a. | มาตรา 2332 เอ Pilot (2008) | U.s. code 2332-b. | มาตรา 2332 บี Pilot (2008) | U.s. code 1132-a. | มาตรา 1113 เอ Pilot (2008) | It's in the agents' manual, section 35, sub-section two, clause E: Seizure of evidence. | ในคู่มือปฏิบัติงานเรื่องสภาพบังคับ มาตรา35ส่วนที่2ข้อEว่าด้วยเรื่องการยึดหลักฐาน. Last Man Standing (2008) | CT shows one more calcification near the superior pyramid on the left kidney. | ซีที แสดงอย่างหนึ่งมากกว่ามาตราฐาน ใกล้ส่วนสำคัญที่สุดบนไตข้างซ้าย Lucky Thirteen (2008) | We have to put an end to this. | เราจะใช้มาตราการณ์นี้\ เมื่อจำเป็นที่สุดเท่านั้นนะ Last Resort (2008) | Classic signs of an upper-Lobe tumor. | ลักษณะมาตราฐานของอาการเนื้องอกที่ระบบทางเดินหายใจ Last Resort (2008) | There are also classic signs of an adrenal problem. | เป็นลักษณะมาตราฐานของคนที่มีปัญหากับต่อมหมวกไต Last Resort (2008) | That your version of morality? | นั่นมาตราฐานศีลธรรมคุณหรือ? Last Resort (2008) | - Standard- | - ขั้นตอนมาตราฐาณน่ะ Babylon A.D. (2008) | No, we're not going there on the 25th amendment. | ไม่, เราจะไม่ใช้มาตรา 25 เด็ดขาด Vantage Point (2008) | You violated Code 753. That's unlawful spitting. | คุณทำผิดกฏหมายมาตรา 753 ที่ว่าด้วยการบ้วนน้ำลายลงบนที่สาธารณะ The House Bunny (2008) | My eyesight is great too. It's better than 20/10. | สายตาของคุณดีมาก ถึงว่าอยู่ในมาตราฐาน 20/10 Cyborg Girl (2008) | I had such a horrible time converting these recipes from the metric system. | ในการแปลงมาตราวัดส่วนผสมนี่ Julie & Julia (2009) | Article 75 says that because your child is living in dangerous conditions, I'm gonna take him down to Child Services. | มาตรา 75 บอกว่า ถ้าเด็กๆ อาศัยอยู่ในสถานที่อันตราย ผมมีสิทธิ์ที่จะนำลูกๆคุณ ไปยังสถานเลี้ยงเด็กน่ะ เข้าใจ? District 9 (2009) | I don't care what you do to me. | อนุมาตราสาม สี่ และห้า Trust Me (2009) | - RICO's designed for this check out section 901 of the organized crime control act and you should let Sarah try this case, too. | - ข้อหาอั้งยี่ฉ้อโกงเหมาะกับคดีนี้ ลองดูมาตรา 901 ของ พรบ.ควบคุมองค์กรอาชญากรรม และคุณควรให้ซาร่าห์ว่าความคดีนี้ด้วย Law Abiding Citizen (2009) | Blair is being Horribly scapegoated. | เพื่อมาถกเรื่องมาตราการเว็บไซด์ใหม่ของพวกนักเรียนซะอีก Carrnal Knowledge (2009) | But, uh, you have the bar set pretty high. Sure. | แต่เอ่อ คุณเจอมาตราฐานสูงทั้งนั้น The Wrath of Con (2009) | William, amendment 63, seventh addendum: | วิลเลี่ยม... มาตรา 63 ภาคผนวกที่ 7 Mattress (2009) | So woof on prop 15, ohio. | จงสนับสนุนมาตรา 15 โอไฮโอ้ Mash-Up (2009) | Oh, so there's a double standard? | โอ งั้นนี่ก็เป็น 2 มาตราฐาน? The Plain in the Prodigy (2009) | I found a powder coating similar to the type used on industrial-strength Dumpsters. | ผมเจอผงแป้งคลุมอยู่บาง ๆ คล้ายกับชนิดที่ ใช้ในโรงงานมาตราฐานที่ทิ้งขยะ The Plain in the Prodigy (2009) | Standard cub fantasy. | มาตราฐานทั่วไปของลูกเสือ Bolt Action (2009) | And the victim's brother's wife is an average-sized woman, isn't she? | และพี่สะใภ้ของเหยื่อ เป็นผู้หญิงไซส์มาตราฐานไม่ใช่หรือ The Dwarf in the Dirt (2009) | What I believe to be a violation of security protocol 49.09 governing the treatment of prisoners aboard a starship. | ผมเชื่อว่าเป็นการทำผิดกฏด้านความมั่นคงมาตรา 49.09 ว่าด้วยการปฏิบัติต่อนักโทษบน... Star Trek (2009) | However, there is Starfleet regulation 619. | แต่ว่า มีกฏระเบียบของาตาร์ฟลีทมาตรา 619 Star Trek (2009) | By Starfleet order 28455, you are hereby directed to report to admiral Pike... | ตามกฏของสตาร์ฟลีทมาตรา 28455 ขอให้คุณรายงานตัวโดยตรงกับพลเรือเอกไพค์ Star Trek (2009) | My father told me he planned to expand his trade route to Sumatra and Borneo, but I don't think he was looking far enough. | พ่อของหนูเคยบอกว่าต้องการขยายเส้นทางการค้า ไปให้ถึงเกาะสุมาตราแล้วก็บอเนียว แต่หนูคิดว่าพ่อยังมองไปไม่ไกลพอ Alice in Wonderland (2010) | Now, if you can't afford the full payment of $618, 429, we can offer monthly installments at an APR of 19.6%, standard for a generic pancreatic unit. | หากคุณไม่พร้อมจะจ่ายเงินทั้งหมดที่ 618, 429 ดอลลาร์ เราขอเสนอการผ่อนแบบรายเดือน ดอกเบี้ย 19.6% ต่อปี ซึ่งเป็นราคามาตราฐาน สำหรับการเปลี่ยนถ่ายตับอ่อน Repo Men (2010) | My measurements. | มาตรากฎหมาย Your Secrets Are Safe (2010) | To pull up the latest white house readiness protocols. | ช่วยดึงข้อมูลล่าสุดของ ทำเนียบขาวเพื่อเตรียมพร้อม ตามมาตราการ Day 8: 5:00 a.m.-6:00 a.m. (2010) | Probably take it to the next level, sir. | ขอให้ใช้มาตราการระดับต่อไปครับท่าน Subversion (2010) | I will exercise my right to remain silent under the Fifth Amendment to the Constitution. | ผมจะรักษาสิทธิของผม โดยการเงียบไว้ ภายใต้มาตราที่ห้า Chuck Versus the Tic Tac (2010) | With the friendship clause of our roommate agreement nullified you are no longer entitled to accompany me to go swimming at Bill Gates' house should I be invited. | เมื่อมาตรามิตรภาพของข้อตกลง เพื่อนร่วมห้องของเราเป็นโฆษะ นายหมดสิทธิ์ไปว่ายน้ำที่ บ้าน Bill Gates กับฉัน ถ้าฉันได้รับเชิญ The Large Hadron Collision (2010) |
| อนุมาตรา | [anumātrā] (n) EN: subsection | มาตรา | [māttrā] (n) EN: system ; table ; unit ; standard FR: système (d'unités) [ m ] | มาตรา | [māttrā] (n) EN: section ; code ; article ; clause ; provision ; text FR: clause [ f ] ; article [ m ] ; alinéa [ m ] | มาตราก่อน | [māttrā køn] (n, exp) EN: foregoing section FR: partie précédente [ f ] | มาตราเมตริก | [māttrā mettrik] (n, exp) EN: metric system FR: système métrique [ m ] | มาตราเงิน | [māttrā ngoen] (n, exp) EN: silver standard | มาตราริกเตอร์ | [māttrā Riktoē] (n, exp) EN: Richter scale FR: échelle de Richter [ f ] | มาตราส่วน | [māttrāsuan = māttrāsūan] (n) EN: scale FR: échelle (graphique) [ f ] ; rapport [ m ] | มาตราตัวสะกด | [māttrā tūasakot] (n, exp) FR: consonnes finales [ f ] | นกเค้าใหญ่พันธุ์สุมาตรา | [nok khao yai phan Sumāttrā] (n, exp) EN: Barred Eagle Owl FR: Grand-duc bruyant [ m ] ; Grand-duc de Malaisie [ m ] | แรดสุมาตรา | [raēt Sumāttrā] (n, exp) EN: Sumatran Rhinoceros | สุมาตรา | [Sumāttrā] (n, exp) EN: Sumatra | ตามมาตราริกเตอร์ | [tām māttrā Riktoē] (n, exp) FR: sur l'échelle de Richter |
| Richter scale | (n, name) หน่วยวัดขนาดของแผ่นดินไหว จากพลังงานที่แผ่นดินไหวปล่อยออกมา เช่น แผ่นดินไหวขนาด (หรือแมกนิจูด) 6.1 ตามมาตราวัดริกเตอร์ หมายเหตุ: แผ่นดินไหวจะรุนแรงไม่รุนแรง ต้องดูขนาดควบคู่ไปกับความลึกของจุดศูนย์กลาง กล่าวคือ ถ้าขนาดใหญ่แต่ถ้าอยู่ลึกมากก็อาจจะไม่แรง แต่ถึงขนาดไม่ใหญ่มาก แต่จุดศูนย์กลางอยู่ตื้นก็อาจสร้างความเสียหายได้มาก, ส่วนสิ่งที่รับรู้ได้บนดินคือ ความสั่นสะเทือน (ความรุนแรง, intensity) ซึ่งแต่ละพื้นที่บนพื้นดินจะมีความสั่นสะเทือนแตกต่างกัน แล้วแต่ว่าอยู่ใกล้ไกล จุดเหนือศูนย์แผ่นดินไหว (epicenter) แค่ไหน <p> <b>เพิ่มเติม:</b>ความสั่นสะเทือน (intensity) ในภาษาญี่ปุ่นจะเรียก ชินโดะ (震度) และมีมาตรวัดของญี่ปุ่นเอง มีระดับตั้งแต่ 1 (เบา) ถึง 7 (รุนแรง) ถ้าพูดถึงขนาดจะใช้ว่า Magnitude | civil disobedience | (n) ลัทธิดื้อแพ่ง/อารยะขัดขืน, เป็นการปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามกฎหมายบางมาตรา ด้วยเหตุผลที่ว่ากฎหมายนั้นๆ ไม่ชอบธรรม |
| article | (n) ข้อย่อย, See also: ข้อ, มาตรา, อนุมาตรา, Syn. section, portion | grain | (n) หน่วยมาตราชั่ง | hectogram | (n) หน่วยการชั่งน้ำหนักตามมาตราเมตริกมีค่าเท่ากับ 100 กรัม ใช้อักษรย่อ hg., See also: เฮกโตกรัม, Syn. hectogramme | hectoliter | (n) หน่วยวัดความจุตามมาตราเมตริกมีค่าเท่ากับ 100 ลิตร, See also: เฮกโตลิตร | hectometer | (n) หน่วยวัดความยาวตามมาตราเมตริกมีค่าเท่ากับ 100 เมตรหรือ 328.08 ฟุต, See also: เฮกโตเมตร, Syn. hectometre | hektogram | (n) หน่วยการชั่งน้ำหนักตามมาตราเมตริกมีค่าเท่ากับ 100 กรัม ใช้อักษรย่อ hg. | orangutan | (n) ลิงอุรังอุตัง (มักพบตามป่าแถวเกาะบอร์เนียวและสุมาตรา) | palm | (n) มาตราวัดโดยฝ่ามือ, Syn. length, longtitude | run to seed | (phrv) แย่กว่า, See also: ต่ำกว่ามาตราฐาน, Syn. go to | scale | (n) อัตรา, See also: ระดับ, ขนาด, ชั้น, มาตร, มาตราส่วนแผนที่ | section | (n) หมวด, See also: มาตรา, หมู่, ข้อ | stone | (n) หน่วยวัดน้ำหนักตามมาตราอังกฤษเท่ากับ 14 ปอนด์ |
| article | (อาร์'ทิเคิล) n. สิ่งของ, ชิ้น, สินค้า, บทความ, มาตรา, ข้อ, ข้อบังคับ, รายการ, คำนำหน้านาม. -vt. กล่าวหา, ฟ้อง, ทำให้ข้อบังคับผูกมัด, Syn. item, object, piece, essay | assize | (อะไซซ') n. สภานิติบัญญัติ, ศาลอังกฤษที่พิจารณาความโดยข้าหลวงพิเศษ, คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลชนิดนี้, การไตร่สวน, การนั่งพิจารณาคดี, มาตราการกำหนดราคาสินค้า | clause | (คลอส) n. มาตรา, อนุประโยค, ประโยคเล็ก, ข้อย่อย | conformal | (คันฟอร์'เมิล) adj. เกี่ยวกับแผนที่ที่แสดงให้เห็นถึงมุมและมาตราส่วน | denomination | (ดินอมมิเน'เชิน) n. ชื่อ, การตั้งชื่อ, ประเภท, นิกาย, สำนัก, หน่วย (เงินตรา, มาตรา, น้ำหนัก, ปริมาตร ฯลฯ) | incommensurable | (อินคะเมน' เชอระเบิล) adj. เปรียบเทียบไม่ได้, ไม่ได้สัดส่วน, ไม่มีมาตราฐาน. -n. สิ่งที่เปรียบเทียบไม่ได้, สิ่งที่ไม่ได้มาตราฐาน., See also: incommensurability, incommensurableness n. incommensurably adv., Syn. incomp | item | (ไอ'เทิม) n. เรื่อง, อัน, ชิ้น, สิ่งของในรายการ, รายการในบัญชี, ข่าว, มาตรา, ข้อ. adv. ด้วย, เช่นเดียวกัน. vt. ลงรายการ, ลงบันทึก | k&r | (เคแอนด์อาร์) เป็นชื่อย่อของสองนักเขียนชื่อดัง คือ Brian Kernighan กับ Dennis Ritchie ที่เขียนหนังสือเรื่อง " การเขียนโปรแกรมภาษาซี " (The C Programming Language) หนังสือเล่มนี้ใช้เป็นมาตรฐานของภาษาซีตลอดมาจนกระทั่งแอนซี (ANSI) ได้กำหนดมาตราฐานของภาษาซีขึ้นใหม่ ดู ANSI และ C ประกอบ | kanamajiri | (คา'นะมา'จิรี) n. ตัวหนังสือมาตราฐานของญี่ปุ่น | midi | (มิด'ดิ) n. =midiskirt มิดอี <คำอ่าน>ย่อมาจาก musical instrument digital interface หมายถึง มาตรฐานสำหรับการใส่รหัสเสียงเพลงให้อยู่ในรูปของตัวเลข ความแตกต่างของเสียง (sound) และเสียง เพลง (musical voice) ก็สามารถวัดและนำไปเก็บได้โดยใช้มาตราฐานมิดอีนี้ | musical instrument digita | ตัวประสานระหว่างเสียงดนตรีกับตัวเลขใช้ตัวย่อว่า MIDI หมายถึง มาตรฐานสำหรับการใส่รหัสเสียงเพลงให้อยู่ในรูปของตัวเลข ความแตกต่างของเสียง (sound) และเสียง เพลง (musical voice) ก็สามารถวัดและนำไปเก็บได้โดยใช้มาตราฐานมิดอีนี้ | scale 2 | (สเคล) n. การแบ่งเป็นชั้น ๆ , การแบ่งเป็นขีด ๆ , มาตราส่วน, มาตราส่วนแผนที่, มาตราการนับ, ไม้บรรทัดที่มีเส้นแบ่ง, เครื่องวัดที่มีเส้นแบ่ง, ระดับเสียง, ระดับชั้น, อัตรา, ความใหญ่เล็ก, ระบบเลื่อนชั้น, ขั้นบันได vt. ขั้นบันได, ปีนไต่, บรรลุผล, ทำตามขั้นตอน, วัดตามขั้นตอน, วัดด้วยไม้บรรทัด | scale-down | (สเคล'เดาน์') n. การหดลง, การลดลง, การเลื่อนลงตามมาตราส่วน | scaler | (สเคล'เลอะ) n. ผู้ลอกเอาเกล็ดออก, ผู้ลอกเอาเปลือกออก, สัตว์ที่ลอกคราบ, ผู้ชั่งตาชั่ง, ผู้ทำหน้าที่วัด (ตามมาตราส่วน) , ผู้ใช้ไม้บรรทัดวัด | section | (เซค'เชิน) n. การตัดออก, ส่วนที่ตัดออก, ส่วนตัด, ท่อน, ส่วน, ตอน, ข้อ, ชิ้น, ช่วง, มาตรา, หมวด, วรรค, หมู่, หน่วย, เหล่า, กลุ่ม, วงการ, เครื่องหมายแบ่งตอน vt. ตัด, แบ่ง, แยก, ผ่า, ผ่าตัด, See also: sectional adj., Syn. part, division, district | sector | (เซค'เทอะ) n. รูปตัด, รูปตัดที่อยู่ระหว่างเส้นรัศมี2เส้นกับส่วนของเส้นรอบวง, อุปกรณ์คณิตศาสตร์ที่ประกอบด้วยไม้บรรทัด2อันที่ติดกันที่ปลายหนึ่งและมีขีดแบ่งมาตราส่วน vt. แบ่งออกเป็นส่วน ๆ เซ็กเตอร์วิธีการจัดรูปแบบการบันทึกข้อมูลลงบนจานบันทึกนั้น จะต้องมีการกำหนดให้เป็นวง เรียกว่า แทร็ก (track) ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนกับลู่วิ่งวนเป็นวงกลม แล้วแบ่งแต่ละแทร็กนี้ออกเป็นส่วน ๆ เรียกว่า "ส่วนวง" หรือที่ยังนิยมเรียกทับศัพท์กันว่า "เซ็กเตอร์" ก็มีมาก แต่ละส่วนวงนี้จะเก็บข้อมูลได้ 1 ระเบียน (record) ไม่ว่าส่วนวงจะกว้างหรือแคบ (ด้านในที่ติดกับจุดศูนย์กลางจะแคบกว่าด้านนอก), See also: sectoral adj., Syn. class, ca | security | (ซีเคียว'ริที) n. ความมั่นคง, ความปลอดภัย, สิ่งที่ทำให้ปลอดภัย, เครื่องป้องกัน, การป้องกัน, มาตราการป้องกัน, การรับรอง, การค้ำประกัน, สิ่งค้ำประกัน, หลักทรัพย์ประกัน, หลักทรัพย์, หุ้น, ธนบัตร, คนรับรอง, คนค้ำประกัน adj. เกี่ยวกับการประกัน, ซึ่งค้ำประกัน. คำที่มีความ |
| avoirdupois | (n) มาตราชั่งน้ำหนักเป็นปอนด์ | clause | (n) อนุประโยค, อนุมาตรา, มาตรา, ข้อย่อย, ประโยค | criterion | (n) มาตรฐาน, บรรทัดฐาน, เกณฑ์, มาตรา | litre | (n) มาตราตวงเป็นลิตร | mark | (n) เครื่องหมาย, จุดหมาย, คะแนน, มาตราเงินของเยอรมัน | measure | (n) ขนาด, เครื่องวัด, มาตราวัด, เครื่องมือ, จังหวะดนตรี, การกระทำ | measurement | (n) การวัด, ขนาด, เครื่องวัด, มาตราการ, เกณฑ์ | scale | (n) สะเก็ด, เกล็ด, เปลือก, มาตราส่วน, ตาชั่ง, อัตรา, คราบหินปูน | section | (n) ตอน, ส่วน, แผนก, มาตรา, วรรค, หมวด, วงการ | statute | (n) พระราชบัญญัติ, มาตรา, ข้อบังคับ, กฎ, ระเบียบ |
| absolute altimeter | (n) มาตราวัดความสูงสัมบูรณ์ม เครื่องวัดความสูงสัมบูรณ์--เครื่องวัดความสูงชนิดหนึ่ง ซึ่งวัดระยะตามแนวดิ่งไปยังผิวพื้นด้านล่าง โดยใช้เทคโนโลยีทางวิทยุ เรดาร์ เสียง เลเซอร์ หรือ คาแพซิทิฟ | Celsius scale | (n) มาตราวัดอุณหภูมิเซลเซีส | RFCs | (n) เอกสาร ที่ใช้เป็นมาตราฐาน เพื่อการอ้างอิง ของ Internet |
| |
add this word
You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |