ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*พาท*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: พาท, -พาท-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
พาท(n) word, See also: speech, Syn. คำพูด, ถ้อยคำ
พิพาท(v) dispute, See also: argue, quarrel, discuss, debate, wrangle, Syn. วิวาท, ทะเลาะ, ถกเถียง, ทุ่มเถียง, โต้แย้ง, โต้เถียง, Example: ประเทศไทยกับกัมพูชาพิพาทกันด้วยเรื่องกรรมสิทธิ์เขาพระวิหาร, Thai Definition: โต้เถียงกัน, โต้แย้งกัน, พูดเกี่ยงแย่งกัน
ข้อพิพาท(n) dispute, See also: argument, controversy, Syn. กรณีพิพาท, ข้อโต้เถียง, ข้อโต้แย้ง, Example: เมื่อเกิดข้อพิพาทขึ้น คู่กรณีควรใช้วิธีแก้ปัญหาโดยสันติวิธี, Thai Definition: เรื่องโต้เถียง หรือโต้แย้งกัน
คู่พิพาท(n) litigant, See also: claimant, party, plaintiff, Syn. คู่ความ, คู่กรณี, Example: คู่พิพาทได้ประนีประนอมกันแล้ว, Thai Definition: บุคคล 2 ฝ่ายซึ่งมีกรณีโต้แย้งกัน, Notes: (กฎหมาย)
บูรพาทิ(n) east, Syn. ทิศตะวันออก, บูรพา, บุรพทิศ, บุริมทิศ, Example: บริเวณเนื้อที่ริมกำแพงเมืองเบื้องบูรพาทิศของกรุงเทพพระมหานครเคยเป็นสวนผลไม้มาก่อน
ปี่พาทย์(n) Thai orchestra consisting of five groups of wood and percussion instruments, See also: gamelan, Syn. พิณพาทย์, Example: โรงละครแห่งชาติมักจัดแสดงการบรรเลงเพลงโดยวงปี่พาทย์อยู่เป็นประจำ, Count Unit: วง, Thai Definition: เครื่องประโคมทีมีปี่เป็นหลัก และประกอบด้วยกลองใหญ่ ตะโพน ระนาด ฆ้องวง ฯ
พิณพาทย์(n) classical Thai orchestra, Syn. ปี่พาทย์, Example: ขณะที่พระสวดชยันโต พิณพาทย์มโหรีก็เริ่มบรรเลงเพลงมหาฤกษ์, Count Unit: วง, Thai Definition: เครื่องประโคมวงหนึ่ง มีกำหนดตั้งแต่ 5 ขึ้นไป คือ ตะโพน ปี่ ฆ้องวง ระนาด กลอง
กรณีพิพาท(n) conflict, See also: fight, battle, dispute, collision, Example: มีการปลูกยูคาลิปตัสรุกเข้าไปในที่ที่ชาวบ้านทำกินอยู่มีกรณีพิพาทเกิดขึ้นเป็นประจำ, Count Unit: เรื่อง, เหตุ
ข้อพิพาทแรงงาน(n) labor dispute, See also: labor controversy, Example: รัฐมนตรีมีอำนาจออกคำสั่งให้ข้อพิพาทแรงงานนำไปสู่การชี้ขาด, Count Unit: ข้อ, Thai Definition: ข้อขัดแย้งระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างหรือสหภาพแรงงาน ที่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องที่เกี่ยวกับสภาพการจ้าง

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ข้อพิพาทน. ข้อขัดแย้งหรือโต้แย้งระหว่างผู้เป็นคู่กรณี.
ข้อพิพาทแรงงานน. ข้อขัดแย้งระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างเกี่ยวกับสภาพการจ้าง.
คุกพาทย์น. ชื่อเพลงไทยประเภทเพลงหน้าพาทย์ชั้นสูง ใช้บรรเลงเพื่อแสดงการแผลงฤทธิ์ ในการเทศน์มหาชาติใช้เป็นเพลงประจำกัณฑ์จุลพน.
คู่พิพาทน. บุคคลตั้งแต่ ๒ ฝ่ายขึ้นไปซึ่งมีข้อโต้แย้งกัน.
ปี่พาทย์น. ชื่อเรียกการผสมวงดนตรีไทย มีขนาดวงอยู่ ๓ ขนาด คือ ปี่พาทย์เครื่องห้า ปี่พาทย์เครื่องคู่ ปี่พาทย์เครื่องใหญ่, เดิมเรียกว่า พิณพาทย์.
ปี่พาทย์เครื่องคู่น. วงปี่พาทย์ประกอบด้วย ปี่ใน ปี่นอก ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็ก ตะโพน กลองทัด และฉิ่ง (ปัจจุบันนิยมใช้ปี่ในเพียงเลาเดียว).
ปี่พาทย์เครื่องห้าน. วงปี่พาทย์ประกอบด้วย ปี่ใน ระนาดเอก ฆ้องวงใหญ่ ตะโพน กลองทัด และฉิ่ง.
ปี่พาทย์เครื่องใหญ่น. วงปี่พาทย์ประกอบด้วย ปี่ใน ปี่นอก ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ระนาดเอกเหล็ก ระนาดทุ้มเหล็ก ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็ก กลองทัด และฉิ่ง, แต่บางทีก็มีฉาบเล็ก ฉาบใหญ่ กรับ และฆ้องโหม่งผสมด้วย (ปัจจุบันนิยมใช้แต่ปี่ใน).
ปี่พาทย์นางหงส์น. วงปี่พาทย์ที่ใช้บรรเลงเฉพาะในงานอวมงคล เรียกชื่อตามเพลงซึ่งใช้เป็นหลักในการบรรเลง คือ เพลงเรื่องนางหงส์ อัตรา ๒ ชั้น การประสมเครื่องดนตรีเหมือนวงปี่พาทย์ธรรมดาประสมกับวงบัวลอย แต่ใช้ปี่ชวาแทนปี่ใน ใช้กลองมลายูแทนตะโพนหรือกลองทัด.
ปี่พาทย์มอญน. วงปี่พาทย์ที่นำเพลงและเครื่องดนตรีของมอญ ประกอบด้วย ปี่มอญ ฆ้องมอญ ตะโพนมอญ และเปิงมางคอกมาบรรเลง มีเครื่องกำกับจังหวะ ได้แก่ ฉิ่ง ฉาบ โหม่ง.
พาทน. คำพูด, ถ้อยคำ.
พาทย์น. เครื่องประโคม.
พิณพาทย์น. ชื่อเรียกวงดนตรีไทยโบราณ ประกอบด้วยเครื่องดีด คือ พิณ ผสมกับเครื่องตี ได้แก่ ระนาดและฆ้องวงชนิดต่าง ๆ เป็นหลัก และเครื่องกำกับจังหวะ เช่น ฉิ่ง ฉาบ กรับ โหม่ง ตะโพน กลองทัด กลองแขก และกลองสองหน้า ต่อมาเปลี่ยนพิณ เป็น ปี่ จึงเปลี่ยนชื่อเป็น ปี่พาทย์.
พิณพาทย์เครื่องคู่น. ปี่พาทย์เครื่องคู่.
พิณพาทย์เครื่องห้าน. ปี่พาทย์เครื่องห้า.
พิณพาทย์เครื่องใหญ่น. ปี่พาทย์เครื่องใหญ่.
พิพาทก. โต้แย้งสิทธิ์ เช่น พิพาทเรื่องที่ดิน พิพาทเรื่องมรดก.
เพลงหน้าพาทย์ดู หน้าพาทย์.
วงปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์น. ชื่อวงปี่พาทย์ประสมชนิดหนึ่งที่นำเครื่องดนตรีที่มีเสียงแหลมออกไปทำให้เกิดเสียงทุ้มนุ่มนวล เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕.
หน้าพาทย์น. เพลงประเภทที่ใช้บรรเลงในการแสดงกิริยาอาการเคลื่อนไหวของตัวโขนละคร หรือสำหรับอัญเชิญเทพเจ้า ฤๅษี หรือบูรพาจารย์ ให้มาร่วมชุมนุมในพิธีไหว้ครูหรือพิธีมงคลต่าง ๆ เช่น เชิด ใช้ในการเดินทางไกล เสมอ ใช้ในการเดินระยะใกล้ เสมอมาร สำหรับยักษ์เดิน เสมอเถร สำหรับฤๅษีเดิน สาธุการใช้ในการแสดงการคารวะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเริ่มพิธีต่าง ๆ ตระเชิญ ใช้อัญเชิญเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์.
หน้าพาทย์แผลง(-แผฺลง) น. การเรียกชื่อเพลงหน้าพาทย์ให้แตกต่างไปจากชื่อเดิมตามเจตนาของผู้พากย์ โดยคงความหมายชื่อใหม่ให้สัมพันธ์กับชื่อเดิม เช่น สี่ศอก หมายถึง เพลงวา ไม่ได้ไม่เสีย หมายถึง เพลงเสมอ แม่ลูกอ่อนไปตลาด หมายถึง เพลงเร็ว.
อาศิรพจน์, อาศิรพาท, อาศิรวจนะ, อาศิรวาท, อาเศียรพจน์, อาเศียรพาท, อาเศียรวจนะ, อาเศียรวาทน. คำอวยพร (เป็นคำที่ผู้น้อยใช้กับผู้ใหญ่).
กรมนาน. กรมใหญ่กรมหนึ่งในจตุสดมภ์ มีเสนาบดีเป็นผู้บังคับบัญชา มีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษานาหลวง เก็บหางข้าวขึ้นฉางหลวง ทำนุบำรุงอาชีพเกษตรกรรมและเก็บค่าภาษีอากรเกี่ยวกับการนั้น รวมทั้งบังคับบัญชาศาลในสังกัดซึ่งมีอำนาจพิจารณาคดีพิพาทเกี่ยวกับที่นาและโคกระบือเป็นต้น
กระแต ๑น. ชื่อฆ้องวงขนาดเล็ก ใช้บรรเลงในวงปี่พาทย์มอญ ลักษณะร้านฆ้องเป็นรูปเว้าหงายขึ้น คล้ายฆ้องมอญแต่ปลายไม่สูง วงหนึ่งมีลูกฆ้อง ๑๑ ลูก, ฆ้องขนาดเล็กลูกเดียวแขวนกับไม้ ใช้มือหิ้วหรือแขวนไม้กับไม้ขาหยั่ง ใช้ตีเป็นสัญญาณในการอยู่เวรยามหรือแจ้งข่าวสารต่าง ๆ, ทั้ง ๒ ชนิดเรียกว่า ฆ้องกระแต.
กลม ๑(กฺลม) น. ชื่อเพลงไทยประเภทเพลงหน้าพาทย์ ใช้ปี่พาทย์ทำตอนตัวละครที่เป็นเทพเจ้าหรือเจ้าเงาะเหาะโดยลำพัง และใช้เป็นเพลงบรรเลงในเวลาเทศน์มหาชาติประจำกัณฑ์สักบรรพ.
กลองชาตรีน. ชื่อกลองชนิดหนึ่ง มี ๒ หน้า รูปร่างลักษณะคล้ายกลองทัดแต่เล็กกว่ามาก ตีด้วยไม้ ๒ อัน เช่นเดียวกับกลองทัด แต่วิธีการตี ลักษณะของไม้ตี และเสียงจะแตกต่างจากกลองทัด ใช้ร่วมในวงปี่พาทย์ในการแสดงละครชาตรีที่เรียกว่า ปี่พาทย์ชาตรี ใช้ในการบรรเลงเพลงชุดออกภาษาหรือสิบสองภาษา และใช้ประกอบการบรรเลงในเพลงทำนองตะลุง กลองชาตรีมักใช้บรรเลงคู่กับโทน เรียกว่า โทนชาตรี มีชื่อเรียกตามเสียงอีกอย่างหนึ่งว่า กลองตุ๊ก.
กลองตะโพนน. ชื่อกลองชนิดหนึ่ง ใช้ตะโพนไทย ๒ ลูก เสียงสูงต่ำต่างกัน ถอดเท้าออกแล้วนำมาตั้งเอาหน้าเท่งขึ้นตีอย่างกลองทัด นิยมใช้ตีแทนกลองทัดในวงปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์ หรือเพื่อให้เกิดเสียงนุ่มนวลเมื่อบรรเลงภายในห้องหรืออาคาร.
กลองติ๋งน. ชื่อกลองชนิดหนึ่ง รูปร่างและการตีเหมือนกับกลองทัด แต่มีขนาดเล็กกว่าและเสียงสูงกว่า ใช้บรรเลงผสมวงปี่พาทย์รวมกับกลองทัดในการแสดงหนังใหญ่เท่านั้น.
กลองทัดน. ชื่อกลองชนิดหนึ่ง มีรูปทรงกระบอก ตรงกลางป่องออกเล็กน้อย ขึ้นหนัง ๒ หน้า มีหูเรียกว่า หูระวิง สำหรับร้อยไม้ขาหยั่ง ใช้บรรเลงในวงปี่พาทย์ ชุดหนึ่งอาจมี ๒-๓ ใบ, ถ้าใช้ใบเดียวแขวนที่หอกลองในวัด เรียกว่า กลองเพล.
กลองมลายูน. ชื่อกลองชนิดหนึ่ง รูปร่างลักษณะอย่างเดียวกับกลองแขก แต่ตัวกลองสั้นและอ้วนกว่า สายโยงเร่งเสียงทำด้วยหนัง ขึ้นหนัง ๒ หน้าด้วยหนังวัว ตีด้วยไม้งอน ใช้บรรเลงในวงบัวลอยในงานศพ และใช้บรรเลงในวงปี่พาทย์นางหงส์.
กลองสองหน้าน. ชื่อกลองชนิดหนึ่ง ลักษณะคล้ายเปิงมาง แต่ขนาดใหญ่และยาวกว่า ใช้ใบเดียวตีกำกับจังหวะในวงปี่พาทย์ไม้แข็ง เสภา และกำกับการบรรเลงเพลงเดี่ยวเครื่องดนตรีของวงปี่พาทย์.
กล่อม ๓(กฺล่อม) น. ชื่อเพลงเครื่องปี่พาทย์ ทำตอนพระเข้าหานาง ซึ่งเรียกว่า โลม หรือตอนขับบำเรอ เรียกว่า กล่อมมโหรี อันใช้เป็นเครื่องสายประสมในภายหลัง และมีชื่อเป็นชนิดต่าง ๆ คือ กล่อมช้าง กล่อมพระยา กล่อมนารี และกล่อมในพิธีพราหมณ์ เรียกว่า ช้าหงส์ หรือ ช้าเจ้าหงส์, ชาวบ้านมักเรียกว่า กล่อมหงส์.
กันชนน. เครื่องป้องกันการกระทบกระแทกด้านหน้าและด้านหลังรถยนต์, เรียกประเทศหรือรัฐที่กั้นอยู่ระหว่างดินแดนของ ๒ ประเทศ เพื่อมิให้พิพาทกันในเรื่องดินแดนและผลประโยชน์ ว่า ประเทศกันชน หรือ รัฐกันชน.
กัลยาณมิตร(กันละยานะมิด) น. ชื่อเพลงไทยประเภทโหมโรงเสภา อัตรา ๓ ชั้น แต่งขึ้นจากเพลงหน้าพาทย์ชื่อชำนาญ.
กำนล(-นน) น. เงินค่าคำนับครู, เงินคำนับบูชาครูปี่พาทย์ คือ พระประคนธรรพ หรือ พระนารท ซึ่งถือว่าเป็นครูเดิมของตน มีเทียนสำหรับจุดที่ตะโพนด้วย.
โกร่ง ๔(โกฺร่ง) น. เครื่องตีทำด้วยกระบอกไม้ไผ่ค่อนข้างยาว เจาะรูเป็นช่วง ๆ ใช้ไม้กรับตีให้เกิดเสียง เช่น พิณพาทย์ฆ้องกลองดังทั้งเกราะโกร่ง (อิเหนา).
ขลุ่ยอู้น. ชื่อขลุ่ยชนิดหนึ่ง มีขนาดยาวและใหญ่กว่าขลุ่ยเพียงออ มีเสียงต่ำ ใช้เฉพาะในวงปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์.
ข้อเนื้อความตอนหนึ่ง ๆ, ใจความสั้น ๆ ของเรื่อง, ข้อความ ก็ว่า, เรื่อง เช่น ข้อพิพาท ข้อยุติ, หัวข้อ เช่น ข้ออ้าง ข้อข้องใจ
คดีปกครองน. คดีที่เป็นข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกับเอกชนหรือระหว่างหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยกัน ซึ่งเป็นข้อพิพาทอันเนื่องมาจากกระทำหรือการละเว้นการกระทำในทางปกครองของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ.
คู่กรณีน. ผู้ที่เกิดพิพาทกัน.
เครื่องคู่น. ลักษณะการผสมของวงดนตรีไทย โดยมีเครื่องดนตรีประเภทเดียวกัน ๒ ชิ้น บรรเลงร่วมอยู่ในวงเดียวกัน เช่น วงปี่พาทย์เครื่องคู่ที่มีปี่ในกับปี่นอกผสมคู่กัน.
เครื่องห้า ๒น. ปี่พาทย์ที่ใช้เครื่องดนตรี ๕ อย่าง คือ ปี่ใน ระนาดเอก ฆ้องวงใหญ่ ตะโพน กลองทัด และฉิ่ง.
เครื่องใหญ่น. ปี่พาทย์เครื่องคู่ที่เพิ่มระนาดเอกเหล็กและระนาดทุ้มเหล็ก.
โคมเวียนชื่อเพลงไทยประเภทเพลงหน้าพาทย์.
ฆ้องโหม่งน. ฆ้องขนาดใหญ่รองลงมาจากฆ้องชัย มีเชือกร้อยรูทั้ง ๒ ที่ใบฉัตร แขวนห้อยในแนวดิ่งกับขาหยั่งหรือคานไม้ หัวไม้ที่ใช้ตีพันด้วยผ้าหรือเชือกให้เป็นปุ่มโตอ่อนนุ่ม เวลาตีจะมีเสียงดังโหม่ง ๆ ใช้ตีกำกับจังหวะในวงปี่พาทย์ วงเครื่องสาย วงมโหรี และวงเถิดเทิง, สมัยโบราณใช้ตีในเวลากลางวันเป็นสัญญาณบอกเวลา “โมง” คู่กับกลองที่ตีเป็นสัญญาณในเวลากลางคืนบอกเวลา “ทุ่ม”.
ชาตรี ๒ชื่อเพลงที่มีคำนี้อยู่ คือ ชาตรีตะลุง ชาตรีใน โอ้ชาตรี ร่ายชาตรี, ชื่อวงปี่พาทย์ลักษณะหนึ่ง ประกอบด้วยโทน ปี่ตับ ฆ้องคู่ แกระ กลองชาตรี วงปี่พาทย์.
ชำนาญเกลากลอนชื่อเพลงปี่พาทย์ทำนองหนึ่ง (ดึกดำบรรพ์).
ชิงทรัพย์น. เป็นฐานความผิดอาญา ที่ผู้กระทำ ลักทรัพย์ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ (๑) ให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป (๒) ให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น (๓) ยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้ (๔) ปกปิดการกระทำความผิดนั้น หรือ (๕) ให้พ้นจากการจับกุม.
ชี้สองสถานก. กระบวนการที่ศาลกำหนดประเด็นข้อพิพาทในคดี และระบุให้คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำพยานมาสืบในประเด็นข้อใดก่อนหรือหลัง.
เชิดน. ชื่อเพลงไทยประเภทเพลงหน้าพาทย์ ใช้บรรเลงประกอบกิริยา เช่นการเดินทางระยะไกล ๆ รีบเร่ง สู้รบกัน มีลักษณะ ทำนอง อัตราจังหวะและชื่อเรียกต่าง ๆ ดังนี้ เชิดกลอง เชิดฉิ่ง เชิดฉาน เชิดนอก

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
peaceful settlement; pacific settlementการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
pacific settlement; peaceful settlementการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
point in disputeประเด็นข้อพิพาท [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
lis (L.)คดีความ, ข้อพิพาท [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
labour disputeข้อพิพาทแรงงาน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
labour disputeข้อพิพาทแรงงาน [ ดู industrial dispute ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
litigantคู่ความ, คู่พิพาท [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
litigiousที่พิพาทกัน, ที่เป็นความกัน, ที่ชอบค้าความ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
settlement, comprehensiveการระงับข้อพิพาทแบบเบ็ดเสร็จ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
settle a disputeระงับข้อพิพาท [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
settlement๑. การตั้งถิ่นฐาน, นิคม๒. การระงับข้อพิพาท [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
settlement, pacific; settlement, peacefulการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
settlement, peaceful; settlement, pacificการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ante litem motam (L.)ก่อนเกิดกรณีพิพาท [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
adjudicatory processกระบวนการระงับข้อพิพาททางปกครอง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
amount in disputeจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาท [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
justiciable controversyคดีที่มีข้อพิพาท [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
minor disputeข้อพิพาทแรงงานในข้อตกลงร่วม (เกี่ยวกับสภาพการจ้าง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
major disputeข้อพิพาทแรงงานนอกข้อตกลงร่วม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
matter in disputeข้อพิพาท, กรณีพิพาท [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
matter in issueประเด็นข้อพิพาท [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
contentious caseคดีมีข้อพิพาท [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
contentieux (Fr.)กรณีพิพาท, คดีความ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
comprehensive settlementการระงับข้อพิพาทแบบเบ็ดเสร็จ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
conflictข้อพิพาท, ข้อขัดแย้ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
conciliationการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
compromise๑. ประนีประนอมยอมความ (ก. แพ่ง)๒. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท (ก. ระหว่างประเทศ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
chose in action๑. สิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับทรัพย์๒. ทรัพย์พิพาทในคดี [ ดู thing in action ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
dispute, labourข้อพิพาทแรงงาน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
dispute๑. ข้อพิพาท๒. โต้แย้ง, ค้าน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
industrial disputeข้อพิพาทแรงงาน [ ดู labour dispute ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
international disputeข้อพิพาทระหว่างประเทศ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
interference๑. กระบวนพิจารณาข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิบัตร (ก. สิทธิบัตร)๒. การสอดแทรก (ก. ระหว่างประเทศ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
value of the property in disputeมูลค่าของทรัพย์สินที่พิพาท [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
trade disputeข้อพิพาททางการค้า [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
thing in action๑. สิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับทรัพย์๒. ทรัพย์พิพาทในคดี [ ดู chose in action ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
non contentious caseคดีที่ไม่มีข้อพิพาท [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Disputeข้อพิพาท [เศรษฐศาสตร์]
Investment disputeข้อพิพาทในการลงทุน [เศรษฐศาสตร์]
Conflictข้อพิพาท [เศรษฐศาสตร์]
Boundary disputesข้อพิพาทเขตแดน [TU Subject Heading]
Cisplatinซิสพาทิ[TU Subject Heading]
Dispute resolution (Law)การระงับข้อพิพาท (กฎหมาย) [TU Subject Heading]
Labor disputesการพิพาทแรงงาน [TU Subject Heading]
Pacific settlement of international disputesการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี [TU Subject Heading]
Piphatวงปี่พาทย์ [TU Subject Heading]
Piphat musicดนตรีปี่พาทย์ [TU Subject Heading]
awardคำตัดสินอนุญาโตตุลาการ (ใช้ในแง่การระงับกรณีพิพาท) [การทูต]
Convention on Elimination of All Forms of Discrimination Against Womenอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ ได้รับการรับรองจากที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2522 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2527 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบและเพื่อความ เสมอภาคระหว่างสตรีและบุรุษในทุกด้าน ขณะนี้มีประเทศต่าง ๆ เป็นภาคีอนุสัญญาฯ แล้ว 167 ประเทศ (ข้อมูลถึงกรกฎาคม 2543) ไทยยังคงมีข้อสงวนอีก 2 ข้อ ในอนุสัญญาฯ คือ ข้อ 16 เรื่องความเสมอภาคในด้านครอบครัวและการสมรส และ ข้อ 29 เรื่องการระงับการตีความ การระงับข้อพิพาท โดยรับอนุญาโตตุลาการ [การทูต]
Conciliationการไกล่เกลี่ย คือ กระบวนการของการส่งเรื่องกรณีพิพาทไปให้คณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยบุคคลผู้ได้รับมอบอำนาจเป็นทางการ เพื่อทำหน้าที่พิจารณาข้อเท็จจริง แล้วเสนอรายงาน ซึ่งประกอบด้วยข้อเสนอแนะในอันที่จะระงับกรณีพิพาทนั้น อย่างไรก็ดี ข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการนี้ไม่มีผลบังคับแก่คู่พิพาทแต่อย่างใด ไม่เหมือนกับคำวินิจฉัยในการตัดสินชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ (Arbitration) [การทูต]
dispute settlementการระงับข้อพิพาท [การทูต]
Good Offices และ Mediationวิธีการที่จะระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐโดยฉันมิตร คำว่า Good Offices หมายถึง การช่วยเป็นสื่อกลาง ส่วน Mediation หมายถึง การไกล่เกลี่ยศัพท์ทั้งสองนี้หมายถึงวิธีการที่จะระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐ โดยฉันมิตร กล่าวคือ ในกรณีข้อพิพาทซึ่งการเจรจากันทางการทูตไม่สามารถตกลงกันได้ง่าย ๆ ดังนั้น รัฐที่สามอาจยื่นมือเข้าช่วยเป็นสื่อกลาง หน้าที่ในการนี้มิใช่ออกความเห็นหรือวินิจฉัยชี้ขาดว่าใครถูกใครผิดในกรณี ข้อพิพาท หากเป็นแต่เพียงแสวงหาลู่ทางที่จะระงับข้อพิพาทจะต้องมีให้น้อยที่สุดเท่า ที่จะทำได้ และถือว่าเป็นกาดรกระทำฉันมิตร (Friendly act) คู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจปฏิเสธข้อเสนอได้โดยไม่ถือว่าเป็นความผิดทางการ เมือง หรือคู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจขอร้องให้ช่วยเป็นสื่อกลาง หรือให้ช่วยไกล่เกลี่ย ตามธรรมดาการช่วยเป็นสื่อกลางนั้นเป็นเพียงการเข้าช่วยงานพื้นฐาน หรือให้มีการเริ่มต้นการเจรจาเท่านั้น ส่วนงานเจรจาที่จะกระทำโดยตรงกว่าจะมีลักษณะเป็นการไกล่เกลี่ย แต่ในทางปฏิบัติไม่ค่อยมีการคำนึงกันนักถึงความแตกต่างจริงๆ ระหว่างวิธีทั้งสอง คู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจปฏิเสธไม่ยอมรับการไกล่เกลี่ยไม่ว่าเวลาใดก็ได้ จะเห็นได้ว่า การช่วยเป็นสื่อกลางกับการไกล่เกลี่ยนั้นแตกต่างกัน คือ ในกรณีการช่วยเป็นสื่อกลาง ฝ่ายที่สามจะกระทำแต่เพียงช่วยให้มีการหันหน้าเข้าเจรจากันระหว่างคู่พิพาท ส่วนในกรณีการไกล่เกลี่ย ฝ่ายที่สามพยายามจัดให้มีการเจรจากันจริง ๆ ตามมูลฐานข้อเสนอของตน ฝ่ายที่เสนอช่วยเป็นสื่อกลางหรือช่วยไกล่เกลี่ยนั้น อาจจะมาจากประเทศที่สาม หรือจากองค์การระหว่างประเทศ หรือจากบุคคลธรรมดาคนหนึ่งก็ได้ [การทูต]
International Court of Justiceศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1945 ตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ กฎข้อบังคับ (Statute) ของศาลโลกนั้นได้ผนวกอยู่ท้ายกฎบัตรของสหประชาชาติ และถือเป็นส่วนสำคัญอย่างแยกจากกันมิได้ของกฎบัตร ศาลนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นองค์กรแห่งศาลหรือแห่งตุลาการสำคัญที่สุดขององค์การสหประชาชาติ ประเทศใดที่เข้าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลก ย่อมมีสิทธิที่จะส่งคดีใดก็ตามไปให้ศาลโลกพิจารณาได้ ภายใต้เงื่อนไขที่คณะมนตรีความมั่นคงได้จัดวางไว้ นอกจากนั้น คณะมนตรีความมั่นคงก็อาจจะส่งกรณีพิพาททางกฎหมายไปให้ศาลพิจารณาได้ทั้ง สมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงสามารถขอคำปรึกษาหรือความเห็นจากศาลเกี่ยวกับ ปัญหาข้อกฎหมายใดๆ และองค์กรอื่น ๆ ของสหประชาชาติ อันรวมถึงองค์การชำนัญพิเศษ ก็สามารถขอคำปรึกษา หรือความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางกฎหมายใดๆ ที่อยู่ภายในกรอบของงานที่ปฏิบัติอยู่ แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับอนุมัติเห็นชอบจากสมัชชาสหประชาชาติก่อน สมัชชาเคยมอบอำนาจเช่นนี้แก่คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะมนตรีภาวะทรัสตี คณะกรรมาธิการระหว่างกาล (Interim Committee) ของสมัชชา รวมทั้งองค์กรระหว่างรัฐบาลบางแห่งด้วยรัฐทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของสหประชา ชาติถือว่าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกไปในตัว ส่วนประเทศใดที่มิใช่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็อาจเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกได้ ตามเงื่อนไขที่สมัชชาสหประชาชาติเป็นผู้กำหนดเป็นราย ๆ ไป ตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง ศาลโลกมีอำนาจที่จะพิจารณาปัญหาทั้งหลายที่รัฐสมาชิกขอให้พิจารณา รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ทั้งหลายที่ระบุอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ และตามสนธิสัญญาหรืออนุสัญญาที่ใช้บังคับอยู่ รัฐสมาชิกย่อมยอมผูกพันตนล่วงหน้าได้ที่จะยอมรับอำนาจศาลในกรณีพิเศษต่าง ๆ โดยจะต้องลงนามในสนธิสัญญา หรืออนุสัญญาซึ่งยอมให้ส่งเรื่องไปที่ศาลได้ หรือออกประกาศเป็นพิเศษว่าจะปฏิบัติเช่นนั้น ในคำประกาศเช่นนั้นจะต้องระบุว่ายอมรับอำนาจบังคับของศาลโลก และอาจจะยกเว้นคดีบางประเภทมิให้อยู่ในอำนาจของศาลได้ ในการวินิจฉัยลงมติ ศาลโลกจะอาศัยแหล่งที่มาของกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้ คือ- สัญญาหรืออนุสัญญาระห่างประเทศซึ่งวางกฎข้อบังคับที่รัฐคู่กรณียอมรับ- ขนบธรรมเนียมระหว่างประเทศซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปตามที่ กฎหมายรับรองศาลโลกอาจจะตัดสินชี้ขาดว่าสิ่งใดยุติธรรมและดี โดยรัฐภาคีที่เกี่ยวข้องตกลงเห็นชอบด้วยคณะมนตรีความมั่นคงอาจจะรับการขอ ร้องจากรัฐภาคีหนึ่งใดในกรณีพิพาท ให้กำหนดมาตรการที่จะใช้เพื่อให้คำตัดสินของศาลมีผลบังคับ ถ้าคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใต้อำนาจศาลศาลโลก ประกอบด้วยผู้พิพากษารวม 15 ท่าน ซึ่งถือกันว่าเป็น ?สมาชิก? ของศาล และได้รับเลือกตั้งจากสมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ผู้พิพากษาเหล่านี้จะมีอำนาจออกเสียงลงคะแนนอย่างอิสระเสรีหลักเกณฑ์การคัด เลือกผู้พิพากษาศาลโลกจะถือตามคุณสมบัติขอผู้พิพากษานั้น ๆ มิใช่ถือตามสัญชาติของบุคคลดังกล่าว อย่างไรก็ดี จะมีการระมัดระวังด้วยว่า กฎหมายที่นำมาใช้ในศาลจะต้องมาจากระบบกฎหมายที่สำคัญ ๆ ของโลก ในศาลโลกจะมีผู้พิพากษาที่เป็นชาติเดียวกันมากกว่าหนึ่งคนไม่ได้ ผู้พิพากษาทั้งหลายจะมีสิทธิ์ดำรงอยู่ในตำแหน่งได้ เป็นเวลา 9 ปี มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งซ้ำได้ และระหว่างที่ดำรงอยู่ในตำแหน่ง จะต้องไม่ประกอบอาชีพการงานอื่นใดทั้งสิ้น [การทูต]
Joint Development Areaพื้นที่พัฒนาร่วม " หมายถึง พื้นที่พัฒนาร่วมระหว่างไทยกับมาเลเซีย อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการแก้ไขปัญหาเขตแดนทางทะเลระหว่างทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะแปรปัญหาเขตทับซ้อนในไหล่ทวีป ซึ่งมีพื้นที่ 7,250 ตารางกิโลเมตร ให้เป็นพื้นที่พัฒนาร่วม โดยการแสวงหาและนำเอาทรัพยากรปิโตรเลียมในพื้นที่ดังกล่าวมาใช้และแบ่งปันผล ประโยชน์ บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกันในลักษณะ 50 : 50 ซึ่งนับว่าเป็น ตัวอย่างที่ดีในการแก้ไขกรณีพิพาทเกี่ยวกับเขตทับซ้อนทางทะเลสำหรับประเทศ อื่น ๆ " [การทูต]
Judicial Settlementการระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐโดยศาลตุลาการ ก่อนที่จะเกิดองค์การสหประชาชาติ รัฐทั้งหลายที่มีกรณีพิพาทระหว่างประเทศจะฟ้องร้องต่อศาลระวห่างประเทศแห่ง หนึ่ง มีชื่อว่าศาลประจำยุติธรรมระหว่าประเทศ (Permanent Court of International Justice) ซึ่งองค์การสันนิบาตชาติ (League of Nations) จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1920 ได้ประชุมกันเป็นครั้งแรก ณ กรุงเฮก เมื่อวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1922 หลังจากนั้นเป็นเวลา 23 ปี ผู้พิพากษาของศาลก็ได้ลาออกในปีค.ศ. 1946 และสันนิบาตชาติได้ยุบศาลนี้ในปีเดียวกันเมื่อมีการสถาปนาองค์การสหประชา ชาติขึ้น ได้มีการจัดตั้งศาลระหว่างประเทศขึ้นใหม่ เรียกว่า ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) ตามกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรนี้ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 92 ว่า ?ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศจักเป็นองค์กรทางตุลาการอันสำคัญของสหประชาชาติ ศาลจักดำเนินหน้าที่ตามธรรมนูญผนวกท้าย ซึ่งยึดถือธรรมนูญของศาลประจำยุติธรรมระหว่างประเทศเป็นมูลฐาน และซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับกฎบัตรฉบับปัจจุบัน?ศาลยุติธรรมระหว่าง ประเทศนี้ ประชุมกันเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1946 [การทูต]
Organization of American Statesคือองค์การของรัฐในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1947 สหรัฐอเมริกา และประเทศต่าง ๆ ในละตินอเมริกา ยกเว้นประเทศนิคารากัวและอีเควดอร์ ได้ตกลงทำสนธิสัญญาระหว่างรัฐในอเมริกาด้วยกัน ณ กรุงริโอเดจาเนโร เพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า สนธิสัญญาริโอ ประเทศเหล่านั้นต่างมุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือกันอย่างมีประสิทธิผล ถ้าหากรัฐในอเมริกาหนึ่งใดถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธหรือถูกคุกคามจาการรุกราน ต่อมาในเดือนเมษายน ค.ศ. 1948 ได้มีการจัดตั้งองค์การของรัฐอเมริกัน (Organization of American States) ขึ้น ณ กรุงโบโกตา ประเทศโบลิเวีย ประกอบด้วยรัฐต่าง ๆ ในอเมริการวม 21 ประเทศ ยกเว้นประเทศแคนาดา เพื่อดำเนินการให้เป็นผลตามสนธิสัญญาริโอ และจัดวางระบบการรักษาความมั่นคงร่วมกันขึ้น กฎบัตร (Charter) ขององค์การได้มีผลบังคับให้เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1951องค์การโอเอเอสนี้ เป็นองค์การส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่ง ภายในกรอบของสหประชาชาติ ประเทศสมาชิกต่างปฏิญาณร่วมกันที่จะทำการธำรงรักษากระชับสันติภาพ ตลอดจนความมั่นคงในทวีปอเมริกา เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุแห่งความยุ่งยากใด ๆ และต้องการระงับกรณีพิพาทที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างประเทศสมาชิกด้วยกันโดย สันติวิธี อนึ่ง ถ้าหากมีการรุกรานเกิดขึ้นก็จะมีการปฏิบัติการร่วมกัน นอกจากนี้ ยังจะหาทางระงับปัญญาหาทางการเมือง ทางการศาล และทางเศรษฐกิจ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างประเทศสมาชิก พร้อมทั้งจะพยายามร่วมกัน ในการหาหนทางส่งเสริมพัฒนาการทางเศรษฐกิจสังคม และวัฒนธรรม สำนักงานใหญ่ขององค์การโอเอเอสตั้งอยู่ ณ กรุงวอชิงตันดีซี นครหลวงของสหรัฐอเมริกา [การทูต]
pacific settlement of disputesการระงับข้อพิพาทด้วยสันติวิธี [การทูต]
Pacific Settlement of International Disputesหมายถึง การระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี คงจะจำกันได้ว่า ในตอนเสร็จสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศในโลกฝ่ายเสรีซึ่งเป็นผู้ชนะ ต่างมีเจตนาอันแน่วแน่ที่จะหาทางมิให้เกิดสงครามขึ้นอีกในโลก จึงตกลงร่วมกันก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ (Charter of the United Nations)ดังนั้น ข้อ 2 ของกฎบัตรสหประชาชาติจึงได้กำหนดให้ประเทศสมาชิกมีพันธกรณีที่จะต้องหาทางระ งังกรณีพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี และข้อ 33 ของกฎบัตรก็ได้บัญญัติไว้ว่า ?1. ผู้เป็นคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในกรณีพิพาทใด ๆ ซึ่งหากดำเนินอยู่ต่อไป น่าจะเป็นอันตรายแก่การธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ก่อนอื่นจักต้องแสวงหาการแก้ไขโดยการเจรจา ไต่สวน ไกล่เกลี่ย ประนีประนอม อนุญาโตตุลาการ การระงับโดยทางศาล การหันเข้าอาศัยทบวงการตัวแทน การตกลงส่วนภูมิภาค หรือสันติวิธีประการอื่นใดที่คู่กรณีจะพึงเลือก 2. เมื่อเห็นว่าจำเป็น คณะมนตรีความมั่นคงจักเรียกร้องให้คู่พิพาทระงับกรณีพิพาทของตนโดยวิธีเช่น ว่านั้น? [การทูต]
Shanghai Cooperation Organizationพัฒนามาจากเวทีการประชุม Shanghai Five ซึ่งจีนเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 เดิมมีสมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ จีน รัสเซีย คาซัคสถาน สาธารณรัฐคีร์กีซ และทาจิกิสถาน ต่อมาเมื่อเดือนมิถุนายน 2544 อุซเบกิสถาน ได้เข้าเป็นสมาชิกด้วย จึงมีการเปลี่ยนชื่อกลไกความ ร่วมมือนี้เป็น Shanghai Cooperation Organization เดิมมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับพรมแดนของประเทศสมาชิก และต่อมาได้ขยายขอบเขตความร่วมมือให้ครอบคลุม ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจการค้า วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม การศึกษา พลังงาน การคมนาคม [การทูต]
Security Council of the United Nationsคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีนี้ประกอบด้วยสมาชิกถาวร (Permanent members) 5 ประเทศ คือ จีน ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต อังกฤษ และสหรัฐฯ และมีสมาชิกไม่ถาวร (Non-permanent members) อีก 10 ประเทศ ซึ่งสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเป็นผู้เลือกตั้ง และให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งประเทศละ 2 ปี สมาชิกประเภทนี้ไม่มีสิทธิรับเลือกตั้งใหม่ในทันที และในการเลือกตั้งจะคำนึงส่วนเกื้อกูลหรือบทบาทของประเทศผู้สมัครที่มีต่อ การธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งที่มีต่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ขององค์การสหประชาชาติด้วย ในการเลือกตั้ง จะคำนึงถึงการแบ่งกลุ่มประเทศสมาชิกดังนี้คือ ก. 5 ประเทศจากแอฟริกาและเอเชียข. 1 ประเทศจากยุโรปตะวันออกค. 2 ประเทศจากละตินอเมริกาง. 2 ประเทศจากยุโรปตะวันตก และประเทศอื่น ๆหน้าที่ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีดังนี้1. ธำรงรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ2. สอบสวนเกี่ยวกับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งระหว่างประเทศ3. เสนอแนะวิธีที่จะใช้กรณีพิพาทเช่นว่านั้น หรือ เงื่อนไขที่ให้มีการตกลงปรองดองกัน4. วางแผนเพื่อสถาปนาระบบการควบคุมกำลังอาวุธ5. ค้นหาและวินิจฉัยว่ามีภัยคุกคามต่อสันติภาพ หรือ เป็นการกระทำที่รุกรานหรือไม่ แล้วเสนอแนะว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร 6. เรียกร้องให้สมาชิกประเทศที่ทำการลงโทษในทางเศรษฐกิจ และใช้มาตรการอื่น ๆ ที่ไม่ถึงขั้นทำสงคราม เพื่อป้องกันมิให้เกิดหรือหยุดยั้งการรุกราน7. ดำเนินการทางทหารตอบโต้ฝ่ายที่รุกราน8. เสนอให้รับประเทศสมาชิกใหม่ รวมทั้งเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ ในการที่จะเข้าเป็นภาคีตามกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ 9. ทำหน้าที่ให้ภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ ในเขตที่ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์10. เสนอแนะให้สมัชชาสหประชาชาติ แต่งตั้งตัวเลขาธิการและร่วมกับสมัชชาในการเลือกตั้งผู้พิพากษาศาลโลก11. ส่งรายงานประจำปีและรายงานพิเศษต่อสมัชชาสหประชาชาติบรรดาประเทศสมาชิกของสห ประชาชาติ ต่างตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อมติใด ๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง ทั้งยังรับรองที่จะจัดกำลังกองทัพของตนให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงหากขอร้อง รวมทั้งความช่วยเหลือและและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ [การทูต]
Shuttle Diplomacyการทูตแบบกระสวย หมายถึง การเดินทางไปเจรจาทางการทูตเพื่อคลี่คลายปัญหาหรือกรณีพิพาทโดยผู้ไกล่ เกลี่ยจะต้องเดินทางกลับไป-กลับมาระหว่างประเทศหรือคู่กรณีที่มีความขัดแย้ง กัน เช่น การแก้ปัญหาในตะวันออกกลาง [การทูต]
The Hague Peace Conferencesการประชุมสันติภาพ ณ กรุงเฮก ในประเทศเนเธอร์แลนด์ การประชุมนี้ได้กระทำกันเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1899 โดย พระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่สอง ของประเทศรัสเซียเป็นผู้จัดให้มีขึ้น ณ กรุงเฮก เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1899 ที่ประชุมได้รับรองอนุสัญญาว่าด้วยการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติ วิธี ได้ตกลงจัดตั้งศาลซึ่งตัดสินประเทศโดยสันติวิธี พร้อมทั้งได้ตกลงจัดตั้งศาลซึ่งตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการเป็นการถาวร และเสนอแนะให้วางประมวลพิจารณาโดยอนุญาโตตุลาการ ทั้งยังได้ตกลงรับรองอนุสัญญาและปฏิญญาต่าง ๆ หลายฉบับ ในจำนวนนี้ ที่สำคัญที่สุดได้แก่ อนุสัญญาควบคุมกฎหมายและขนบประเพณีว่าด้วยการทำสงครามภาคพื้นดินการประชุม สันติภาพ ณ กรุงเฮกครั้งที่สอง หรือการประชุม ณ กรุงเฮกปี ค.ศ.1907 ตามคำขอร้องของรัฐบาลรัสเซีย ได้มีขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ.1907 วัตถุประสงค์สำคัญของการประชุมคือต้องการปรับปรุงและขยายข้อความในอนุสัญญา ต่าง ๆ ที่ทำไว้เมื่อปี ค.ศ. 1899 ว่าด้วยการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี รวมทั้งกฎหมายและขนบประเพณีเกี่ยวกับสงครามภาคพื้นดิน ตลอดจนรับรองอนุสัญญาเกี่ยวกับกฎหมายและขนมประเพณีของการทำสงครามทางทะเล การประชุม ณ กรุงเฮกครั้งที่สองนี้ยังได้เสนอแนะให้ที่ประชุมกำหนดให้ประเทศผู้ลงนาม รับรองและนำออกใช้ซึ่งร่างอนุสัญญาว่าด้วยการก่อตั้งศาลสถิตยุติธรรม เพื่อพิจารณาโดยอนุญาโตตุลาการอีกด้วย [การทูต]
unsettled disputeข้อพิพาทที่ยังไม่ระงับ [การทูต]
Work of the United Nations on Human Rightsงานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Far out.นี่ไม่คิดว่าชั้นทำทั้งหมดนี่ก้อเพื่่อพวกนายเหรอ แน่สิ พาทุกคนมาที่นี่เลยนะ ด่วน Hero (1992)
If we tell them, they will come and put Tom into care, ถ้าเราบอก พวกนั้นจะมาพาทอมไปดูแล The Cement Garden (1993)
And then last year, when we finally decided to get married, we agreed, love, yes, false dependencies, no.แล้วเมื่อปีที่แล้ว ตอนที่เราตัดสินใจแต่งงานกัน เราตกลงกัน ความรัก... ใช่ การพึ่งพาที่ผิด... The Joy Luck Club (1993)
Let us fight for a world of reason, a world where science and progress will lead to the happiness of all.เราจะสู้บนเหตุและผล โลกแห่งวิทยาศาสตร์และความก้าวหน้า จะพาทุกคนไปสู่ความสุข The Great Dictator (1940)
-And we are counting on you too, Doctor.เราก็หวังพื่งพาท่าน Beneath the Planet of the Apes (1970)
We'll be back with the Magic Tones for the Armada Room's... two-hour disco swing party after this short break.พวกเราจะกลับมาพร้อมกับ เตอะแมจิคโทนส เพื่อแอมอาดะรูม สองชั่วโมงดิสโคซวีงพาที หลังจากหยุดพักช่วงสั้นๆ The Blues Brothers (1980)
We'll take it!นั่นอพาทเม้นท์ผม Big (1988)
Yes, sir, this is the one. This is my ticket to paradise.เชื่อซี่ ถูกแน่ๆ นี่แหละตั๋วพาทัวร์สวรรค์ของชั้น Good Will Hunting (1997)
They'll try to get her off the stage. If they do that, he will shoot her in the crowd!ถ้าเขาพาท่านหลบไปล่ะก็ แจ็คกอลจะยิงกราดไปที่ฝูงชน The Jackal (1997)
If I made it through Chino, this should be a piece of cake.ถ้าฉันผ่านเรื่องกรณีพิพาทจินไปได้ /นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของเค้ก American History X (1998)
Kind of instant paralysis from the waist down.เหมือนการเป็นอัมพาท ชั่วคราวตั้งแต่เอวลงไป eXistenZ (1999)
WILLING TO PAY ANY PRICE!ในที่สุดผมก็ถูกพาที่ตึกนี้ One Piece: Wan pîsu (1999)
? That's going overboard, you guys.ผมก็ถูกพาที่ตึกนี้ One Piece: Wan pîsu (1999)
We were all so looped when we left.ฉันพูดได้เลยว่าต้องมีใครเข้ามาในอะพาทเมนฉันแน่ Valentine (2001)
Take a dozen of your best men, track him down, kill him and bring her back to me.พาทหารมือดีของเจ้าไป 12 คน ตามหามันให้พบ... ฆ่ามัน... เเละนํานางกลับมาให้ข้า The Scorpion King (2002)
You'II get a life sentence for this. You're a kidnapper and a whore!เอางั้นเหรอ เป็นโดนโทษตลอดชีวิตแน่ เป็นทั้งพวกลักพาทั้งโสเภณี Bringing Down the House (2003)
Soren will handle it.โซเรนจะพาทีมไป Underworld (2003)
I'll put Tom Thumb to bed, and I'll show Marie her room.ฉั้นจะไปพาทอมไปนอน และจะพา Marie ไปดูห้องนอนของเธอ High Tension (2003)
-Would you like a tour?-พาทัวร์เอามั้ย The Day After Tomorrow (2004)
She trashed an apartment and wouldn't leave.เธอเข้าไปในอะพาทเมนท์และก็ไม่ได้ออกมาเลย The Forgotten (2004)
-Who? Whose apartment?-ใคร อะพาทเมนท์ของใคร? The Forgotten (2004)
They don't care about anybody's apartment.พวกเขาไม่น่าจะมาสนใจเกี่ยวกับอะพาทเมนท์ของใครนี่ The Forgotten (2004)
-Meet me at my apartment.-ไปเจอผมที่อะพาทเมนท์ The Forgotten (2004)
My job is over when everyone is back on the boat safely.งานของชั้นจบเมื่อพาทุกคนกลับไปถึงเรือโดยปลอดภัย AVP: Alien vs. Predator (2004)
I went to bed in my shit-hole apartment and woke up in an actual shit-hole.ฉันกลับไปนอนที่อพาทเม้นท์เน่า ๆ แล้วก็มาตื่นในรูหนูเน่า ๆ เนี่ย Saw (2004)
Paul, please, let us take Tatiana with us.พอล ได้โปรด พาทาเทียน่าไปกับเราด้วย Hotel Rwanda (2004)
Take everybody with us.พาทุกคนออกไปหมดแล้วนะ The Great Raid (2005)
- You've gotten us this far.- นายพาทุกคนไปจากที่นี่ The Cave (2005)
- Got us this far, Tyler?- พาทุกคนไปจากที่นี่ได้ไหม เทย์เลอร์? The Cave (2005)
Code red! Get him outta here! Come on!ฉุกเฉิน รีบพาท่านออกมา ไปเร็ว! Red Eye (2005)
The apartment.ที่อพาทเมนต์ Just Like Heaven (2005)
Get the Generals together, and make them signal to retrieve the soldiers from each garrison.พาท่านนายพลมา แล้วเรียกกำลังเสริมจากเมืองอื่นมาด้วย Fullmetal Alchemist the Movie: Conqueror of Shamballa (2005)
Bobby!ฉันเป็นคนเดียวที่หยุดเธอได้ พาทุกคนไปที่ปลอดภัย X-Men: The Last Stand (2006)
Back when I was a young man, my father ran a team of sled dogs up in the Yukon.ย้อนกลับไปเมื่อสมัยผมยังเด็ก พ่อผมนำสุนัขลากเลื่อน พาทีมสำรวจที่ยูคอน Eight Below (2006)
I take you to hospital, let's go - Jing Sun!ข้าจะพาท่านไปโรงพยาบาล ไป จิ้งเสิ่น! Fearless (2006)
Maybe your dad will give you a vip tour.บางที พ่อเธอจะพาทัวร์แบบ วีไอพี ได้น่ะ Night at the Museum (2006)
All the victims have the keys to the same apartment.เหยื่อยทุกคนมีกุญแจอพาท์เมนท์เหมือนกัน Apt. (2006)
But it was a lot, enough to buy a house.แต่มันเยอะมาก เยอะพาที่จะซื้อบ้านได้ Arang (2006)
Hmm, that's odd because nick savrinn was found dead in his apartment an hour before that call came in to you.น่าแปลกเพราะนิค แซฟรินถูกพบเป็นศพ อยู่ในอพาทเมนต์ 1 ชั่วโมง ก่อนจะมีโทรศัพท์มาหาเธอ Otis (2006)
mr. luthor, we need to get you off the street.มิสเตอร์ลูเธอร์ เราต้องพาท่านออกไปจากตรงนี้ Zod (2006)
I'll be back soon, and I'll walk Dami out.แล้วฉันจะกลับมาเร็วๆนี้ ฉันจะเป็นคนพาทามิ ออกไป Fly, Daddy, Fly (2006)
We can go back to living in the corporate apartment again.พวกเราสามารถกลับไปอยู่ที่ อพาทเม้นท์เดิมได้อีกครั้งด้วยนะ Boys Over Flowers (2005)
Ok, got it.Her apartment's off campus.โอเค ได้ละ อพาทเมนตร์ของเธออยู่นอกมหาวิทยาลัย Compulsion (2005)
Morgan, seal the building get everybody out of there and walk away.มอร์แกน ปิดตึกนี้ซะ/Nพาทุกคนไปให้ไกลบริเวณตึก Compulsion (2005)
Take our soldiers and get out of here.พาทหารหนีออกไปจากที่นี่ซะ The Book of the Three Hans (2006)
No, actually, my father did find a cure.ที่ภัตราคาร? ที่ที่ผมพาทันยาไป, Shopsin's? Chapter Twenty-One 'The Hard Part' (2007)
But you can't afford an apartment.แต่ลูกจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าอพาทเม้นท์ Distant Past (2007)
To provide insight into the bay harbor butcher -เพื่อจะพาท่านเข้าสู่จิตใจ ของเบย์ ฮาเบอร์ บุชเชอร์ See-Through (2007)
You guys, why don't you take tamaraพวกนาย ทำไมไม่พาทามาร่ามาด้วย The Magnificent Seven (2007)
He's got people breaking into a woman's apartment.เค้าสั่งให้คนแอบเข้าไปในอพาทเมนท์ของผู้หญิงคนหนึ่ง The Right Stuff (2007)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
การชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน[kān chīkhāt khøphiphāt raēng-ngān] (n, exp) EN: arbitration
กรณีพิพาท[karanī phiphāt] (n, exp) EN: conflict ; fight ; battle ; dispute ; quarrel ; controversy ; matter of controversy ; subject of litigation ; collision  FR: conflit [ m ]
กรณีพิพาทอินโดจีน[karanī phiphāt Indōjīn] (n, exp) FR: conflit indochinois [ m ]
กรณีพิพาทระหว่างประเทศ[karanī phiphāt rawāng prathēt] (n, exp) EN: international legal dispute
ข้อพิพาท[khøphiphāt] (n) EN: dispute ; argument ; controversy ; controversial point ; disputed point ; matter in dispute ; issue  FR: dispute [ f ]
ข้อพิพาทแรงงาน[khøphiphāt raēng-ngān] (n, exp) EN: labor dispute
คู่พิพาท[khu phiphāt] (n) EN: litigant ; party to the dispute
ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท[klaiklīa khøphiphāt] (v, exp) EN: settle a dispute ; arrange differences ; reconcile differencies
กระดาษพาทเม้นท์[kradāt phātmen] (n, exp) EN: parchment paper
ภาษาพาที[phāsā phāthī] (n, exp) FR: langue usuelle [ f ] ; langue nationale [ f ] ; langue officielle ]f ]
พาท[phāt] (n) EN: word ; speech
พาที[phāthī] (n) EN: word ; speech
พิพาท[phiphāt] (v) EN: dispute ; have a dispute ; litigate ; quarrel  FR: se disputer
ปี่พาทย์[pīphāt] (n) EN: orchestra consisting chiefly of the gamelan ; gamelan  FR: gamelan [ m ]
เทเลพาที[thēlēphāthī] (n) EN: telepathy  FR: télépathie [ f ]
วงปี่พาทย์[wong pīphāt] (n, exp) EN: oboe-based Thai orchestra

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
east(n) ทิศตะวันออก, See also: บุริมทิศ, บูรพาทิศ, บูรพา
go to law(idm) นำขึ้นศาล (กรณีพิพาท)

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
antiparticle(แอน' ทีพาทิเคิล) n. อนุภาคที่ทำลายกันเองเมื่อปะทะกัน เช่น อีเล็คตรอน และโปซิตรอน (as an electron and a positron)
departee(ดิพาท'ที) n. ผู้จากไป
easternmostadj. สุดตะวันออก, สุดบูรพาทิ
good officesการบริการของผู้ไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทอิทธิพล
orient(โอ'เรียนทฺ, ออ'เรียนท) n. -Phr. (the Orient ประเทศในแถบบูรพาทิศ, บูรพาทิศ) adj. ทิศตะวันออก -v. ปรับ, ปรับตัว, ทำให้เข้าใจ, กำหนดตำแหน่งของ, หันไปทางทิศตะวันออก, Syn. adapt, adjust
oriental(โอริเอน'เทิล, ออ'-) adj. เกี่ยวกับประเทศในบูรพาทิศ, (ไข่มุก) แวววาว, ชั้นดีมาก n. ชาวตะวันออก, (โดยเฉพาะคนจีน และญี่ปุ่น) .
pout(เพาทฺ) vi. ยื่นปาก, บุ้ยปาก, ทำหน้าบึ้ง, ทำหน้าไม่พอใจ, โป่ง, บวม, ยื่น. vt. ยื่นปาก, บุ้ยปาก. n. การยื่นปาก, การบุ้ยปาก, อารมณ์บูดบึ้ง., See also: poutful adj. poutingly adv.
rainspout(-สเพาทฺ) n.ท่อน้ำฝน, ท่อระบายน้ำ
spout(สเพาทฺ) n. พวยกา, พวยกาน้ำ, รางน้ำ, รางลาด, ท่อพ่น, หลอดพ่น, โรงรับจำนำ, ลำน้ำ, น้ำที่พุ่งขึ้น, น้ำที่พุ่งไหลvt., vi. พ่น, พุ่ง, ไหลพุ่ง, พูดแบบน้ำไหลไฟดับ, Syn. stream, flow, spew
waterspout(วอ'เทอะสเพาทฺ) n. ท่อระบายน้ำ, ส่วนของเมฆรูปกรวยที่แตะพื้นผิวน้, มองดูคล้ายลำน้ำ

English-Thai: Nontri Dictionary
belligerent(n) คู่พิพาท, คู่ปรปักษ์, คู่สงคราม, คู่กรณี
feud(n) การพิพาทอย่างรุนแรง, ความพยาบาท, ความอาฆาต, การทะเลาะวิวาท
gamelan(n) ระนาด, พิณพาทย์, มโหรี
parley(n) การตกลง, การเจรจาข้อพิพาท, การประชุม
parley(vi) ตกลง, เจรจาข้อพิพาท, ประชุม, สนทนา
quarrel(n) ข้อพิพาท, การทะเลาะ, การวิวาท, เรื่องวิวาท
xylophone(n) ระนาด, พิณพาทย์

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
NDS[n-d-s] (n) เป็นคำย่อมาจาก Nintendo Deal Screen ซึ่งเป็นเครื่องเล่นเกมแบบพกพาที่มี 2 หน้าจอ

Japanese-Thai: Longdo Dictionary
労働争議[ろうどうそうぎ, roudousougi] (n) ข้อพิพาทแรงงาน

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top