ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ครา, -ครา- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ ขค | [ขะ-คะ] (n) น. ผู้ไปในอากาศ, นก, แมลงที่ไปในอากาศได้ เช่น ผึ้ง ตั๊กแตน ตะวัน, ดาวเคราะห์, อากาศ, ลม, ลูกศร, ลูกธนู. |
|
| | ดา | (ว) คำแสดงความต้องการมีส่วนร่วม เช่น ฉันขอไปดา แปลว่า ฉันขอไปด้วย *หมายเหตุ ภาษาโคราช, See also: S. เบิ้ง, เดิ้่ง | ถั่วะ | คำประกอบท้ายคำที่แสดงถึงความต้องการให้ทำตามอย่างหงุดหงิด เช่น ดูถั่วะ แปลว่า ดูซิ (ในเชิงน้ำเสียงไม่พอใจ) *หมายเหตุ ภาษาโคราช, See also: S. ซิ | ห่าว | (modal, verb) แก่แดด *หมายเหตุ ภาษาโคราช | เดิ้ง | (ว) คำแสดงกริยาที่ต้องการทำร่วม เช่น ฉันขอกิ่นเดิ้ง แปลว่า ฉันขอกินด้วย *หมายเหตุ ภาษาโคราช, See also: S. ด้วย | เบิ้ง | (ว) คำที่แสดงความรู้สึกต้องการทำร่วมหรือมีส่วนร่วม เช่น ฉันขอลองทำเบิ้ง แปลว่า ฉันขอลองทำบ้าง *ภาษาโคราช, See also: S. บ้าง, ด้วย | แถะ | คำเน้นท้ายคำที่ทำให้ประโยคดูเด่นขึ้น เช่น หิวแถะๆ แปลว่า หิวจังเลย *หมายเหตุ ภาษาโคราช | โกรกกราก | (adv) เร่งรีบ, รีบด่วน *หมายเหตุ ภาษาโคราช |
| มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: N | [มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: N] (n, vi, vt, modal, verb, aux, verb, adj, adv, prep, conj, pron, phrase, jargon, slang, colloq, vulgar, abbrev, name, o) มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: Norma Jeane Mortenson) เกิดวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1926 – 5 สิงหาคม ค.ศ. 1962) เป็นอดีตนักแสดง นักร้อง นางแบบชาวอเมริกัน มีชื่อเสียงจากบทบาท "dumb blonde" เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ทางเพศที่ได้รับความนิยมในคริสต์ทศวรรษ 1950 เป็นสัญลักษณ์ของทัศนคติที่มีต่อเพศแห่งยุค แม้ว่าเธอได้เป็นนักแสดงระดับต้น ๆ เพียงแค่หนึ่งทศวรรษ ภาพยนตร์ของเธอทำรายได้ได้ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐก่อนที่เธอจะเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดใน ค.ศ. 1962[ 1 ] เธอยังถือว่าเป็นสัญรูปของวัฒนธรรมสมัยนิยมหลัก ๆ นับแต่นั้นมา[ 2 ] มอนโรเกิดและเติบโตในลอสแอนเจลิส วัยเด็กเธออาศัยอยู่ในบ้านรับเลี้ยงเด็ก และสถานเด็กกำพร้า และสมรสครั้งแรกเมื่ออายุ 16 ปี ขณะทำงานในโรงงานเป็นส่วนหนึ่งของกำลังสงคราม ใน ค.ศ. 1944 เธอพบกับช่างภาพคนหนึ่ง และเริ่มทำอาชีพนางแบบ งานของเธอทำให้เธอได้เซ็นสัญญากับภาพยนตร์ขนาดสั้น 2 เรื่องกับค่ายทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ (1946-1947) และโคลัมเบียพิกเจอส์ (1948) หลังจากรับบทย่อยในภาพยนตร์จำนวนหนึ่ง เธอเซ็นสัญญาใหม่กับฟอกซ์ใน ค.ศ. 1951 เธอกลายเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วด้วยบทบาทตลกขบขันหลายบทบาท เช่นในเรื่อง แอสยังแอสยูฟีล (1951) และมังกีบิสเนส (1952) และในภาพยนตร์ดรามาเรื่อง แคลชบายไนต์ (1952) และ โดนต์บาเดอร์ทูน็อก (1952) มอนโรเผชิญหน้ากับข่าวลือหลังจากมีการเปิดเผยว่าเธอเคยถ่ายแบบเปลือยก่อนมาเป็นนักแสดง แต่แทนที่จะทำลายอาชีพเธอ มันกลับทำรายได้ให้กับบอกซ์ออฟฟิศ ก่อน ค.ศ. 1953 มอนโรเป็นหนึ่งในดาราฮอลลิวูดที่มีบทบาทนำในภาพยนตร์ 3 เรื่อง ได้แก่ ฟิล์มนัวร์ เรื่อง ไนแอการา (ภาพยนตร์ ค.ศ. 1953)|ไนแอการา ซึ่งมุ่งจุดสนใจที่เสน่ห์ทางเพศของเธอ และภาพยนตร์ตลกเรื่อง เจนเทิลเม็นพรีเฟอร์บลอนส์ และ ฮาวทูแมร์รีอะมิลเลียนแนร์ ซึ่งสร้างภาพลักษณ์ให้เธอเป็น "dumb blonde" แม้ว่าเธอจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างและจัดการภาพลักษณ์สาธารณะของเธอตลอดอาชีพการทำงาน เธอรู้สึกผิดหวังต่อสตูดิโอที่ไทป์แคสต์ และการให้ค่าตัวเธอต่ำไป เธอถูกพักงานเป็นช่วงสั้น ๆ ในต้นปี ค.ศ. 1954 เนื่องจากเธอปฏิเสธโครงการทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง แต่กลับมาเป็นดาราในภาพยนตร์เรื่องที่ประสบความสำเร็จที่สุดเรื่องหนึ่งคือ เดอะเซเวนเยียร์อิตช์ (1955) เมื่อสตูดิโอยังลังเลที่จะเปลี่ยนแปลงสัญญาของเธอ มอนโรก่อตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ใน ค.ศ. 1954 ชื่อ มาริลิน มอนโร โพรดักชันส์ (MMP) ขณะก่อสร้างบริษัท เธอเริ่มศึกษาการแสดงที่แอกเตอส์สตูดิโอ ในปลายปี ค.ศ. 1955 ฟอกซ์มอบฉันทะให้เธอควบคุมและให้เงินเดือนสูงขึ้น หลังจากได้รับคำสรรเสริญจากการแสดงในเรื่อง บัสสต็อป (1956) และการแสดงในภาพยนตร์อิสระเรื่องแรกของบริษัท MMP เรื่อง เดอะพรินซ์แอนด์เดอะโชว์เกิร์ล (1957) เธอได้รับรางวัลลูกโลกทองคำจากเรื่อง ซัมไลก์อิตฮอต (1959) ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของเธอที่ถ่ายทำจนเสร็จคือเรื่อง เดอะมิสฟิตส์ (1961) |
| ครา | (clas) time, See also: occasion, event, Syn. ครั้ง, คราว, หน, ที, Example: พระนิกรหยิบยกคำสั่งสอนและการค้นพบของพระพุทธเจ้ามาพูดหลายครา | ครา | (n) time, See also: occasion, event, Syn. ครั้ง, คราว, หน, ครั้งครา, Example: หลายฝ่ายเกรงกันว่าการเลือกตั้งของชาวอินเดียครานี้จะมีการนองเลือดอีก | คราก | (v) become strained, See also: become sprained, become worn, become loose, Thai Definition: ยืดขยายออกแล้วไม่คืนตัว | คราง | (v) groan, See also: moan, Syn. ครวญ, ร้อง, ครวญคราง, Example: คนไข้ครางด้วยความเจ็บปวดเมื่อพยาบาลทำแผล, Thai Definition: ร้องเบาๆ เรื่อยๆ ด้วยความเจ็บปวด หรือร้องลากยาวๆ | คราด | (n) harrow, See also: rake, curry-comb, Example: เมื่อหว่านเมล็ดแล้วควรใช้คราดเกลี่ยดินกลบบางๆ ช่วยให้เมล็ดหญ้าฝังในดิน, Count Unit: อัน, Thai Definition: เครื่องมือสำหรับชักหรือลากขี้หญ้าหรือหยากเยื่อ ทำเป็นซี่ๆ มีด้ามสำหรับถือ | คราด | (v) harrow, Example: ปกติชาวนาจะใช้แรงวัวควาย หรือแทรกเตอร์ขนาดเล็กคราดในนาดำ, Count Unit: อัน, Thai Definition: ชักหรือลากด้วยคราดนั้น | คราบ | (n) stain, See also: mark, spot, blot, blemish, Syn. รอยเปื้อน, รอยสกปรก, รอยด่าง, Example: มีคราบติดอยู่บนเสื้อลักษณะเหมือนคราบน้ำมัน, Count Unit: รอย, ดวง | คราบ | (n) slough, Example: ลูกแมลงปอบางพวกต้องลอกคราบครั้งแล้วครั้งเล่าตั้งหลายครั้งจึงจะกลายมาเป็นตัวแก่, Count Unit: คราบ, Thai Definition: หนังหรือเปลือกนอกของสัตว์บางชนิดที่ลอกออกได้ | คราบ | (n) crust, Syn. เปลือกนอก, เปลือกหุ้ม, Example: ผมรู้สึกเป็นตัวของตัวเองเนื่องจากได้สลัดคราบจอมปลอมต่างๆ ที่พันธนาการรอบตัวอย่างหนักอึ้งทิ้งจนหมดสิ้น | คราม | (n) indigo, See also: blue, indigo blue, aniline blue, Syn. สีคราม, สีน้ำเงิน | คราม | (n) Indigofera tinctoria, See also: indigo blue tree, Syn. ต้นคราม, Thai Definition: ชื่อไม้พุ่มในวงศ์ Leguminosae ปลูกเพื่อใช้ใบและต้นทำสีน้ำเงิน | คราม | (n) indigo, Syn. ผงคราม, Thai Definition: ผงฟอกขาวสีน้ำเงินที่ได้จากต้นคราม | เครา | (n) beard, See also: whiskers, Syn. หนวดเครา, Example: เขาเม้มปากจนเครากลายเป็นกระจุกเดียวกัน, Thai Definition: ขนที่ขึ้นตามแก้มหรือขากรรไตร | คราว | (n) age, See also: generation, Syn. รุ่น, ปูน, วัย, Example: เธอมีอายุคราวเดียวกับลูกชายของฉันได้, Thai Definition: ช่วงเวลาหรือสมัยแห่งวัยของคนหรือสิ่งอื่น | คราว | (n) occasion, See also: opportunity, chance, Syn. โอกาส, ตา, Example: การบรรยายคราวนี้มีคนมาฟังน้อยกว่าคราวก่อน | คราว | (n) time, Syn. ครั้ง, หน, ที, Example: การแข่งขันคราวนี้ เป็นการแข่งขันแบบเอาเป็นเอาตายกว่าคราวที่แล้ว | คราว | (prep) same as, See also: like, similar to, Syn. เท่ากับ, ราวกับ, ราว, Example: หล่อนได้สามีแก่คราวพ่อ แต่เขาก็รักหล่อนมาก | คราว | (n) old tom-cat, Syn. แมวคราว, Example: ที่โกดังหลังวัดมีแมวคราวตัวใหญ่อาศัยอยู่, Thai Definition: เรียกแมวตัวผู้ แก่ รูปร่างใหญ่ หน้าตาดุน่ากลัว และมีหนวดยาว | คราใด | (n) when, See also: whenever, Syn. เมื่อใด, เวลาใด, Example: ผู้ชายบางคนเมื่อเดินผ่านผู้หญิงจะหลบตาผู้หญิง แต่คราใดที่อยู่ในกลุ่มจะคึกคะนองปากเปราะขึ้นมาทันที | นงคราญ | (n) beauty, See also: girl, goddess, belle, queen, pretty maid, fair maiden, beautiful girl, Syn. นางงาม, นางสาว | นาคราช | (n) the serpent king, Syn. พญางู, พญานาค, Example: ชาวบ้านเชื่อว่าในแม่น้ำโขงมีนาคราชอาศัยอยู่, Count Unit: ตัว | มฤคราช | (n) lion, Syn. ราชสีห์, Count Unit: ตัว, Notes: (สันสกฤต) | มอคราม | (n) sky blue, See also: blue, Syn. สีฟ้า, สีมอคราม | สงคราม | (n) war, Syn. การศึก, การสู้รบ, การทำศึก, การรบพุ่ง | กินเครา | (n) kind of bird in literature, Count Unit: ตัว, Thai Definition: ชื่อนกในวรรณคดี | ขาดคราว | (v) be unavailable at the particular time, Thai Definition: ไม่มีในคราวนั้น | คราคร่ำ | (v) be crowded with, See also: be packed with, Syn. เนืองแน่น, Example: สถานีรถไฟคราคร่ำไปด้วยผู้คน | ครานั้น | (n) at that time, See also: at that moment, Syn. เมื่อนั้น, ครั้งนั้น, Example: ครานั้น บุคคลที่เคารพนับถือท่านหนึ่งชักชวนให้ไปร่วมขบวนผ้าป่าของท่าน | คราวนี้ | (n) this occasion, See also: this time, now, at present, at this time, Syn. ครั้งนี้, โอกาสนี้, ตอนนี้, Ant. คราวนั้น, ตอนนั้น, Example: คราวนี้เราลองมาวาดภาพด้วยสีน้ำมันดูบ้าง | ถึงคราว | (v) meet one's doom, See also: come to one's death-time, Syn. ถึงฆาต, ถึงที่, หมดอายุ, Example: อย่าเสียใจไปเลยนะ คิดซะว่าถึงคราวก็แล้วกัน, Thai Definition: ถึงเวลาตาย | ถึงคราว | (v) reach the time, See also: come to the time, Syn. ถึงกำหนด, ประจวบเวลา, ถึงเวลา, Example: ความสัมพันธ์ที่เคยดีต่อกันถึงคราวจะต้องขาดสะบั้นลงแล้วอย่างสิ้นเชิง, Thai Definition: ถึงกำหนดจะเป็น | ทุกคราว | (adv) every time, See also: at all times, all the time, Syn. ทุกครั้ง, เสมอ, Example: ทุกคราวที่แม่ไปเยี่ยมปู่ ต้องนำผลไม้ไปฝากเสมอ | บางคราว | (adv) occasionally, See also: sometimes, Syn. บางครั้ง, บางที, บางขณะ, Example: ฉันไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดเป็นบางคราวที่มีวันหยุดติดๆ กัน, Thai Definition: ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่ไม่ใช่ทั้งหมด | รอยคราบ | (n) drying mark, Syn. คราบ, รอย, Example: คุณสามารถขจัดรอยคราบของพื้นไม้ขัดได้ด้วยการใช้ส่วนนูนของช้อนถูไปมาหลายๆ ครั้ง, Thai Definition: รอยเปื้อนที่ติดกรังอยู่กับพื้นผิวของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง | ลอกคราบ | (v) slough off, Example: ลูกแมลงปอบางพวกต้องลอกคราบหลายครั้ง จึงจะกลายมาเป็นตัวแก่มีปีกบินได้ | เคราะห์ | (n) fate, See also: luck, fortune, chance, Syn. โชค, ชะตา, โชคชะตา, Example: หมอดูทำนายว่าจะมีเคราะห์ ควรจะต้องไปสะเดาะเคราะห์ด้วยการทำบุญ, Thai Definition: สิ่งที่นำผลมาให้โดยไม่ได้คาดหมาย เช่น เคราะห์ดี เคราะห์ร้าย, มักนิยมใช้ในทางไม่ดี เช่น มีเคราะห์ ฟาดเคราะห์ | เคราแพะ | (n) goatee, Thai Definition: เคราใต้คางที่ไว้ยาวเรียวแหลมคล้ายขนใต้คางของแพะ, เรียกคางที่ไว้เคราเช่นนั้นว่า คางแพะ | ขจัดคราบ | (v) wipe, See also: clean, brush, rub, Syn. กำจัดคราบ, Example: ผงซักฟอกยี่ห้อใหม่ขจัดคราบบนผ้าได้สะอาดหมดจด | ข่าวคราว | (n) news, See also: message, information, Syn. ข่าวสาร, ข้อมูล, ข่าว, Example: เราไม่ได้ข่าวคราวจากทางบ้านมาหลายเดือนแล้ว, Count Unit: เรื่อง, ข่าว, Thai Definition: คำบอกเล่าเรื่องทุกข์สุขความเป็นไปของชีวิต | ครวญคราง | (v) groan, See also: lament, moan, mourn, wail, bewail, Syn. ร่ำไห้, ครวญ, ร้องครวญ, Example: ผู้เคราะห์ร้ายครวญครางด้วยความเจ็บปวด | ครามครัน | (adv) quite, See also: fairly, utterly, Syn. มาก, หลาย, นัก, Example: ฉันยังหวาดกลัวเขาอยู่ครามครัน | คราวก่อน | (n) last time, See also: previous occasion, Syn. ครั้งก่อน, Ant. คราวนี้, ครั้งนี้ | คราวก่อน | (adv) previously, See also: on the previous occasion, Syn. ครั้งก่อน, Example: น้าของหล่อนสวยขึ้นจนผิดตาไว้ผมทรงใหม่ไม่สั้นอย่างคราวก่อน, Thai Definition: ที่ผ่านมา | คราวร้าย | (n) misfortune, See also: bad luck, adversity, hard luck, ill luck, infelicity, Syn. คราวเคราะห์, คราวซวย, Ant. คราวดี, Thai Definition: คราวที่โชคร้าย | คราวหน้า | (n) next time, Syn. คราวหลัง, ครั้งหน้า, ครั้งต่อไป, Ant. คราวก่อน, ครั้งก่อน, ครั้งที่แล้ว | คราวหลัง | (adv) next time, See also: from now on, from now then, from this time on, Syn. คราวหน้าคราวหลัง, Example: อย่าเคียดแค้นกันเลย คราวหลังก็หาเสียงให้มากกว่านี้, Thai Definition: โอกาสครั้งต่อไป | ครืดคราด | (adj) sound of dragging heavy things, Example: เสียงครืดคราดจากรถคันเก่าของพ่อทำให้หล่อนนอนไม่หลับ, Thai Definition: เสียงดังเช่นนั้น | ชั่วคราว | (adv) temporarily, See also: for a time, for a while, Syn. ไม่ยืนยาว, ไม่ถาวร, ไม่ยั่งยืน, ชั่วครั้งชั่วคราว, Ant. ถาวร, คงทน, ยืนยาว, ยั่งยืน, จีรัง, Example: นักศึกษาเช่าหอพักอาศัยของเอกชนชั่วคราว ก่อนที่จะย้ายเข้าไปหอพักในมหาวิทยาลัย | ดีนาคราช | (n) a species of medicinal creeper, See also: selaginella spinosa, Count Unit: ต้น, Thai Definition: ต้นไม้ชนิดหนึ่งเป็นเถามีเกล็ดคล้ายกับเกล็ดงู สำหรับใช้ทำยา | ทำสงคราม | (v) war, See also: battle, Syn. ออกศึก, รบ, รบรา, ทำสงคราม, ต่อสู้, ดวล, สู้, โรมรัน, Example: สหรัฐเคยทำสงครามกับญี่ปุ่นจนญี่ปุ่นแพ้ย่อยยับ |
| กริยานุเคราะห์ | น. กริยาที่ใช้ช่วยกริยาอื่น เช่น คง จะ ถูก น่า, กริยาช่วย ก็ว่า. | ก้ามคราม | ดู ก้ามกราม. | การฌาปนกิจสงเคราะห์ | น. กิจการที่บุคคลหลายคนตกลงเข้าร่วมกันเพื่อทำการสงเคราะห์ซึ่งกันและกันในการจัดการศพ หรือจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัวของบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ตกลงเข้าร่วมกันนั้นซึ่งถึงแก่ความตาย และมิได้ประสงค์จะหากำไรหรือรายได้เพื่อแบ่งปันกัน. | กินเครา | (-เคฺรา) น. ชื่อนกในวรรณคดี เช่น นกพริกจิกจอกกินเครา (สมุทรโฆษ). | เก่าลายคราม | ว. เก่าและมีค่า เช่น รถคันนี้ถึงเก่าก็เก่าลายคราม. | ขาดคราว | ก. ไม่มีไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง. | ข่าวคราว | น. คำบอกเล่าเรื่องทุกข์สุข. | ครวญคราง | ก. ครางเรื่อย ๆ ไป. | ครา | (คฺรา) น. ครั้ง, คราว, หน. | คราก | (คฺราก) ก. ยืดขยายออกแล้วไม่คืนตัว เช่น กระเพาะคราก ท้องคราก | คราก | สึกกร่อน เช่น รูกลอนคราก รูรอดคราก | คราก | กระดูกตะโพกเคลื่อนที่แยกออก เรียกว่า ตะโพกคราก. | คราง ๑ | (คฺราง) ก. ร้องเบา ๆ เรื่อย ๆ ด้วยความเจ็บปวดหรือเสียใจ, มักใช้เข้าคู่กับคำ ครวญ เป็น ครวญคราง | คราง ๑ | ร้องเสียงลากยาว ๆ อย่างเสียงฟ้าร้อง เช่น อัมพรอุทรคราง เรียมคร่ำ ครวญแม่ (นิ. นรินทร์). | คราง ๒ | (คฺราง) น. ชื่อหอยทะเลกาบคู่บางชนิดในสกุล Scapharcaวงศ์ Arcidae ลักษณะคล้ายหอยแครงแต่ขนาดใหญ่กว่า ด้านนอกเปลือกมักมีเส้นคล้ายขน เช่น ชนิด S. inequivalvis (Bruguière), แครงขน ก็เรียก. | คราญ | (คฺราน) ว. งาม, สวย, น่ารัก, ใช้ประสมกับคำอื่น เช่น นงคราญ สะคราญ. | คราด ๑ | (คฺราด) น. เครื่องมือทำไร่ทำนาใช้วัวหรือควายลาก ลักษณะเป็นคาน มีซี่ห่าง ๆ กัน มีคันชักสำหรับลากขี้หญ้าและทำให้ดินที่ไถแล้วซุย, เครื่องมือสำหรับชักหรือลากขี้หญ้าหรือหยากเยื่อเป็นต้น ทำเป็นซี่ ๆ มีด้ามสำหรับจับชักหรือลากไป. | คราด ๑ | (คฺราด) ก. ชักหรือลากขี้หญ้าเป็นต้นด้วยคราดนั้น. | คราด ๒ | (คฺราด) น. ชื่อไม้ล้มลุกหลายชนิดในวงศ์ Compositae ขึ้นตามที่รกร้างว่างเปล่าในที่ชื้นแฉะ เรียกกันว่า ผักคราด หรือ ผักคราดหัวแหวน เช่น ชนิด Acmella oleracea (L.) R. K. Jansen ดอกสีเหลืองทรงกรวยแหลม ขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย, พายัพเรียก ผักเผ็ด. | คราบ | (คฺราบ) น. หนังหรือเปลือกนอกของสัตว์บางชนิดที่ลอกออกได้ เช่น คราบงู คราบกุ้ง, โดยปริยายหมายถึงลักษณาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น คนบาปในคราบของนักบุญ | คราบ | รอยเปื้อนติดกรังอยู่ เช่น คราบนํ้า คราบนํ้ามัน. | คราบหมู | (คฺราบ-) น. เรียกมะขามฝักที่จวนจะแก่ ว่า มะขามคราบหมู. | คราม ๑ | (คฺราม) น. บ้าน, มักใช้ประกอบกับคำอื่น เช่น ราชคราม. | คราม ๒ | (คฺราม) น. ผงสีนํ้าเงินที่ได้จากต้นคราม. | คราม ๒ | (คฺราม) ว. สีนํ้าเงิน. | คราม ๓ | (คฺราม) น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Indigofera tinctoria L. ในวงศ์ Leguminosae ปลูกเพื่อใช้ใบและต้นทำสีนํ้าเงิน ใช้ย้อมผ้า. | คราม ๓ | ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Strobilanthes cusia (Nees) Kuntze ในวงศ์ Acanthaceae ใบใช้ทำสีนํ้าเงิน ใช้ย้อมผ้า, พายัพเรียก ห้อม หรือ ห้อมเมือง, เขียนเป็น ฮ่อม หรือ ฮ่อมเมือง ก็มี. | ครามครัน | (คฺรามคฺรัน) ว. มาก, หลาย, นัก. | คราว ๑ | (คฺราว) น. ครั้ง, หน, เช่น คราวหน้า คราวหลัง, รุ่น เช่น เด็ก ๒ คนนี้อายุคราวเดียวกัน, ใช้เป็นลักษณนาม เช่น สินค้าชนิดนี้ส่งเข้ามา ๓ คราว. | คราว ๒ | (คฺราว) ว. เรียกแมวตัวผู้ที่แก่ รูปร่างใหญ่ หน้าตาดุน่ากลัว และมีหนวดยาว ว่า แมวคราว. | คราส | (คฺราด) ก. กิน เช่น จันทรคราส สุริยคราส (โบราณ เขียนเป็น จันทรคาธ สุริยคาธ โดยถือว่ามาจากบาลีว่า จนฺทคฺคาห สุริยคฺคาห) | คราส | จับ, ถือ, เช่น สิบนิ้วคราสคนธกำจร เทียนธูปบวร (สมุทรโฆษ). | ครืดคราด ๑ | ว. เสียงดังเช่นนั้นอย่างเสียงหายใจไม่สะดวก. | ครืดคราด ๑ | ดูใน ครืด ๒. | ครืดคราด ๒ | ดู ข้างลาย ๑. | เครง, เครงครา | (เคฺรง, -คฺรา) ว. อึกทึก, กึกก้อง, เช่น หนึ่งกล้วยออกเครือเครงครา กลางลำมายา (อภิไธยโพธิบาทว์). | เครา | (เคฺรา) น. ขนที่ขึ้นตามแก้มหรือขากรรไกร, ราชาศัพท์ว่า พระทาฐิกะ. | เคราแพะ | น. เคราใต้คางที่ไว้ยาวเรียวแหลมคล้ายขนใต้คางของแพะ, เรียกคางที่ไว้เคราเช่นนั้น ว่า คางแพะ. | เคราหณี | (เคฺราหะนี) น. ครรภ์ เช่น สํสุทธเคราหณี ว่า มีครรภ์เป็นที่ปฏิสนธิอันหมดจดดี. | เคราะห์ ๑ | (เคฺราะ) น. เรียกดาวเฉพาะ ๙ ดวง เรียงตามลำดับมหาทักษา คือ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ พฤหัสบดี ราหู ศุกร์ เกตุ ซึ่งถือกันว่ามีเทวดาประจำแต่ละดวง ว่า ดาวพระเคราะห์, เรียกดาวพระเคราะห์ทั้ง ๙ ดวงอย่างรวม ๆ ว่า ดาวนพเคราะห์ ถือว่าเป็นดาวที่ยึดโชคของคน | เคราะห์ ๑ | สิ่งที่นำผลมาให้โดยไม่ได้คาดหมาย เช่น เคราะห์ดี เคราะห์ร้าย, มักนิยมใช้ในทางไม่ดี เช่น มีเคราะห์ ฟาดเคราะห์. | เคราะห์ซ้ำกรรมซัด | ก. มีเคราะห์กรรม. | เคราะห์หามยามร้าย | น. เคราะห์ร้าย. | เคราะห์ ๒ | (เคฺราะ) น. เรียกดาวที่ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง ต้องได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ และเป็นบริวารโคจรรอบดวงอาทิตย์ ว่า ดาวเคราะห์ มี ๘ ดวง เรียงลำดับจากใกล้ดวงอาทิตย์ออกไป คือ พุธ (Mercury) ศุกร์ (Venus) โลก (Earth) อังคาร (Mars) พฤหัสบดี (Jupiter) เสาร์ (Saturn) มฤตยู (Uranus) สมุทร (Neptune). | เครื่องเครา | น. เครื่อง, สิ่ง, สิ่งของ. | โครกคราก | (โคฺรกคฺราก) ว. เสียงท้องดังเช่นนั้น. | โครงการในพระบรมราชานุเคราะห์ | น. โครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานข้อเสนอและแนวทางให้หน่วยงานเอกชนรับไปดำเนินงานและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการพัฒนาหมู่บ้านสหกรณ์เนินดินแดง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์. | โครมคราม | (โคฺรมคฺราม) ว. เสียงดังเช่นนั้น. | โคราช | น. ชื่อเพลงพื้นเมืองอย่างหนึ่งของชาวโคราชที่ว่าแก้กันเป็นทำนองตีฝีปากโต้คารมกันบ้าง เกี้ยวพาราสีกันบ้าง คล้ายเพลงฉ่อย วรรคหนึ่งใช้คำตั้งแต่ ๔ ถึง ๗ คำ ๓ คำกลอนเป็นบทหนึ่ง ความไพเราะอยู่ที่สัมผัสในการเล่นคำเล่นความให้สละสลวย บาทสุดท้ายจะเอื้อนเสียงในเวลาร้อง. | จันทรคราส | (-คฺราด) น. “การกลืนดวงจันทร์” ตามความเข้าใจของคนโบราณที่เชื่อว่าพระราหูอมดวงจันทร์, จันทรุปราคา ก็เรียก. |
| | Classification | การวิเคราะห์หนังสือ [เทคโนโลยีการศึกษา] | Content analysis | การวิเคราะห์เนื้อหา , การวิเคราะห์เนื้อหา, Example: Content analysis หมายถึง การวิเคราะห์เนื้อหา เป็นวิธีการในทางสังคมศาสตร์เพื่อการศึกษาเนื้อหาของการสื่อสาร โดยการแยกแยะแจกแจงเนื้อหาหรือแนวคิดที่ปรากฏในตำรา หนังสือ เอกสาร ข่าวสาร สื่อสิ่งพิมพ์ บทสนทนา หรือรูปภาพ วัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์ เนื้อหาเพื่อผลิตสื่อการสอน โดยผู้สอนมักมีวัตถุประสงค์เพื่อแบ่งเนื้อหาทำให้ทราบโครงสร้าง ลำดับของเนื้อหา และขอบเขตเนื้อหาอย่างละเอียด รวมทั้งทำให้ผู้สอนเห็นการเปลี่ยนแปลงของเนื้อหาในแต่ละช่วงเวลาที่ทำการวิเคราะห์ด้วย และผลจากการแยกแยะแจกแจงเนื้อหาช่วยให้สามารถแบ่งเนื้อหาวิชาออกเป็นหัวเรื่อง หัวเรื่องย่อยและหัวข้อย่อย สำหรับหน่วยในการวิเคราะห์ เพื่อใช้แสดงปริมาณของการวิเคราะห์ จึงมักวิเคราะห์ออกมาเป็น หัวเรื่อง หัวเรื่องย่อยหัวข้อย่อย รวมทั้งปริมาณ เช่น จำนวนแนวคิด จำนวนหน้า เป็นต้น [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] | System analysis | การวิเคราะห์ระบบ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Classification, Dewey Decimal | การวิเคราะห์หนังสือระบบทศนิยมดิวอี้, Example: ระบบทศนิยมดิวอี้ (Dewey Decimal Classification Syste, - DDC หรือ DC) เป็นระบบการจัดหมู่หนังสือที่เก่าแก่และนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ผู้คิดระบบทศนิยมดิวอี้ คือ เมลวิล ดิวอี้ (Melvil Dewey) บรรณารักษ์ชาวอเมริกัน เมื่อปี ค.ศ. 1873 และจัดพิมพ์เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1876 ใช้ชื่อว่า A Classicification and Subject Index for Cataloging and Arranging Books and Pamphlets of a Library โดยครอบคลุมการแบ่งย่อยเนื้อหาวิชาจากเรื่องกว้างๆ ไปจนถึงเนื้อเรื่องเฉพาะ นอกเหนือจากฉบับพิมพ์แล้ว ปัจจุบันคือ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 22 ยังมีเป็นแบบออนไลน์อีกด้วย <p> <p> ลักษณะทั่วไปของระบบทศนิยมดิวอี้ <p> 1. ระบบทศนิยมดิวอี้ เป็นระบบที่คิดขึ้นโดยการแบ่งวิชาความรู้ออกเป็นหมวดหมู่ตามหลักทฤษฎี (Theoretical systems) กล่าวคือ กำหนดการแบ่งหมวดหมู่วิชาความรู้ในแต่ละหมวดหมู่ โดยคำนึงถึงลำดับพัฒนาการของการเกิดวิชาความรู้ในแต่ละสาขาเป็นสำคัญ เริ่มจาก <p> - ปรัชญา: เป็นเนื้อหาความรู้แรก เป็นเรื่องที่มนุษย์คิดเกี่ยวกับตน คือใคร มาจากไหน ความดีหรือความชั่ว คืออะไร เป็นอย่างไร <p> - ศาสนา: เป็นวิชาที่มนุษย์คิดเกี่ยวกับพระเจ้า พระเจ้าคือใคร จะช่วยให้มนุษย์หลุดพ้นจากความทุกข์ได้อย่างไร <p> - สังคมศาสตร์: ถัดจากคิดเกี่ยวกับตัวเอง คือ การที่มนุษย์คิดเกี่ยวกับบุคคลอื่น การอยู่ร่วมกันต้องมีการคิดถึงประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับผู้อื่น <p> - ภาษา: การที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคม จึงต้องเรียนรู้เกี่ยวกับถ้อยคำและการสื่อสารเพื่อการติดต่อ สมาคม <p> - วิทยาศาสตร์: มนุษย์คิดเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นปรากฏการณ์ในธรรมชาติ ทำไมจึงเกิด มีการคิด พิสูจน์ ได้ข้อเท็จจริงที่อธิบายปรากฏารณ์ต่างๆ และบันทึกข้อเท็จจริงนั้นๆ ไว้ <p> - วิทยาศาสตร์ประยุกต์ หรือเทคโนโลยี: เมื่อมนุษย์นำความรู้ที่เป็นวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดความสุขสบาย <p> - ศิลปะและนันทนาการ: มนุษย์คิดสร้างสรรค์จากความประทับใจของตนเป็นงานเชิงศิลปะ ดนตรี และความบันเทิง <p> - วรรณกรรมหรือวรรณคดี: งานศิลปะที่สร้างขึ้นถูกมนุษย์นำมาถ่ายทอด และบอกเล่าผ่านทางตัวอักษร <p> - ประวัติศาสตร์: มนุษย์บันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับคน สถานที่ เหตุการณ์เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ <p> - ความรู้ทั่วไปหรือเบ็ดเตล็ด: การเอาความรู้อื่นๆ ที่ไม่อาจจัดไว้ในหมวดหมู่อื่นได้ มารวมไว้ด้วยกัน <p> 2. จัดแบ่งหมวดวิชาความรู้ในสาขาต่างๆ โดยเริ่มจากเรื่องทั่วๆ ไป สู่เรื่องที่เฉพาะยิ่งขึ้น แบ่งออกเป็นชั้น ชั้นละ 10 กลุ่ม จากหมวดใหญ่ไปหาหมวดหมู่ย่อย ดังนี้ <p> 2.1 การแบ่งครั้งที่ 1 (First Summary) คือ แบ่งวิชาความรู้ทุกแขนงวิชาของมนุษยชาติออกเป็นหมวดใหญ่ (Main class) 10 หมวด ใช้เลขอารบิกหลักร้อย 0-9 เป็นสัญลักษณ์แทนวิชาความรู้ทั้ง 10 หมวด ดังนี้ <p> 000 วิทยาการคอมพิวเตอร์และ ความรู้ทั่วไป (Computer science, information & general works) <p> 100 ปรัชญาและจิตวิทยา (Philosophy and psychology) <p> 200 ศาสนา (Religion) <p> 300 สังคมศาสตร์ (Social sciences) <p> 400 ภาษา (Languages) <p> 500 วิทยาศาสตร์ (Science) <p> 600 เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (Technology and applied science) <p> 700 ศิลปะและนันทนาการ (Arts and recreation) <p> 800 วรรณคดี (Literature) <p> 900 ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และชีวประวัติ (History, geography and biography) <p> 2.2 การแบ่งครั้งที่ 2 (Second Summary) คือ การแบ่งหมวดวิชาความรู้หมวดใหญ่แต่ละหมวดออกเป็นหมวดย่อย (Division) 10 หมวด ใช้เลขอารบิกหลักสิบ 0-9 แทนความรู้หมวดย่อย เช่น หมวดใหญ่ 600 เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ แบ่งเป็นหมวดย่อย 10 หมวด คือ <p> 600 เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (Technology (Applied sciences) <p> 610 แพทยศาสตร์ (Medical sciences) <p> 620 วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) <p> 630 เกษตรศาสตร์ (Agriculture) <p> 640 คหกรรมศาสตร์ (Home economics) <p> 650 การจัดการ (Management) <p> 660 อุตสาหกรรมเคมี (Chemical engineering) <p> 670 โรงงานอุตสาหกรรม (Manufacturing) <p> 680 โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้เฉพาะอย่าง (Manufacture for specific uses) <p> 690 การก่อสร้าง (Buildings) <p> ดังนั้น หมวดใหญ่ 10 หมวดจึงแบ่งเป็นหมวดย่อยได้ 100 หมวด ดังนี้ <p> 000 วิทยาการคอมพิวเตอร์และความรู้ทั่วไป (Computer science, information & general works) <p> 010 บรรณานุกรม (Bibliographies) <p> 020 บรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ (Library & information sciences) <p>030 หนังสือรวบรวมความรู้ทั่วไป สารานุกรม (Encyclopedias & books of facts) <p> 040 ยังไม่กำหนดใช้ (No longer used) <p> 050 นิตยสาร วารสาร และสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง (Magazines, journals & serials) <p> 060 สมาคม องค์การและพิพิธภัณฑวิทยา (Associations, organizations & museums) <p> 070 สื่อใหม่ วารสารศาสตร์ และการพิมพ์ (News media, journalism & publishing) <p>080 รวมเรื่อง (General collections) <p> 090 ต้นฉบับตัวเขียน หนังสือหายาก (Manuscripts & rare books) <p> 100 ปรัชญา (Philosophy) <p> 110 อภิปรัชญา (Metaphysics) <p> 120 ญาณวิทยา ความเป็นเหตุผล ความเป็นมนุษย์ (Epistemology, causation, humankind) <p> 130 จิตวิทยานามธรรม (Paranormal phenomena) <p> 140 แนวความคิดปรัชญาเฉพาะกลุ่ม (Specific philosophical schools) <p> 150 จิตวิทยา (Psychology) <p> 160 ตรรกศาสตร์ ตรรกวิทยา (Logic) <p> 170 จริยศาสตร์ ศีลธรรม (Ethics (Moral philosophy)) <p> 180 ปรัชญาสมัยโบราณ สมัยกลาง ตะวันออก (Ancient, medieval, Oriental philosophy) <p> 190 ปรัชญาตะวันตกสมัยใหม่ (Modern Western philosophy (19th-century, 20th-century)) <p> 200 ศาสนา (Religion) <p> 210 ศาสนาธรรมชาติ (Natural theology) <p> 220 ไบเบิล (Bible) <p> 230 เทววิทยาตามแนวคิดคริสต์ศาสนา (Christian theology) <p> 240 ศีลธรรมชาวคริสต์ การอุทิศเพื่อศาสนา (Christian moral & devotional theology) <p> 250 คริสต์ศาสนาในท้องถิ่นและระเบียบแบบแผนปฏิบัติ (Christian orders & local church) <p> 260 สังคมชาวคริสต์ เทววิทยาทางศาสนา (Christian social theology) <p> 270 ประวัติคริสต์ศาสนา (Christian church history) <p> 280 นิกายต่างๆ ในคริสต์ศาสนา (Christian denominations & sects) <p> 290 ศาสนาเปรียบเทียบและศาสนาอื่นๆ (Other & comparative religions) <p> 300 สังคมศาสตร์ สังคมวิทยา และ มนุษยวิทยา (Social sciences, Sociology & anthropology) <p> 310 สถิติศาสตร์ (General statistics) <p> 320 รัฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง (Political science) <p> 330 เศรษฐศาสตร์ (Economics) <p> 340 กฎหมาย (Law) <p> 350 รัฐประศาสนศาสตร์ และวิทยาการทหาร (Public administration) <p> 360 การบริการสังคม และสมาคม (Social services; assoication) <p> 370 การศึกษา (Education) <p> 380 การพาณิชย์ การสื่อสาร การขนส่ง (Commerce, communications, transport) <p>390 ประเพณี ขนบธรรมเนียม คติชนวิทยา (Customs, etiquette, folklore) <p> 400 ภาษา (Language) <p> 410 ภาษาศาสตร์ (Linguistics) <p> 420 ภาษาอังกฤษ (English & Old English) <p> 430 ภาษาเยอรมัน (Germanic languages; German) <p> 440 ภาษาโรมานซ์ ; ภาษาฝรั่งเศส (Romance languages; French) <p> 450 ภาษาอิตาลี ภาษาโรมัน (Italian, Romanian, Rhaeto-Romantic) <p> 460 ภาษาสเปน ภาษาโปรตุเกส (Spanish & Protugese languages) <p> 470 ภาษาละติน (Italic languages; Latin) <p> 480 ภาษากรีก (Hellenic languages; Classical Greek) <p> 490 ภาษาอื่นๆ (Other languages) <p> 500 วิทยาศาสตร์ (Sciences) <p> 510 คณิตศาสตร์ (Mathematics) <p> 520 ดาราศาสตร์ (Astronomy & allied sciences) <p> 530 ฟิสิกส์ (Physics) <p> 540 เคมี (Chemistry & allied sciences) <p> 550 วิทยาศาสตร์โลก (Earth sciences) <p> 560 บรรพชีวินวิทยา (Paleontology; Paleozoology) <p>570 ชีววิทยา (Life sciences) <p> 580 พฤกษศาสตร์ (Plants) <p>590 สัตววิทยา (Zoological sciences/Animals) <p> 600 วิทยาศาสตร์ประยุกต์ เทคโนโลยี (Technology (Applied sciences)) <p> 610 แพทยศาสตร์ (Medical sciences; Medicine) <p>620 วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering & applied operations) <p> 630 เกษตรศาสตร์ (Agriculture) <p> 640 คหกรรมศาสตร์ ชีวิตครอบครัว (Home economics & family living) <p> 650 การจัดการธุรกิจ (Management & auxiliary services) <p> 660 วิศวกรรมเคมี (Chemical engineering) <p> 670 โรงงานอุตสาหกรรม (Manufacturing) <p> 680 สินค้าที่ผลิตจากเครื่องจักร (Manufacture for specific uses) <p> 690 การก่อสร้าง (Buildings) <p> 700 ศิลปกรรม การบันเทิง (Arts) <p> 710 ภูมิสถาปัตย์ (Civic & landscape art) <p> 720 สถาปัตยกรรม (Architecture) <p> 730 ประติมากรรม (Plastic arts; Sculture) <p> 740 การวาดเขียน มัณฑนศิลป์ (Drawing & decorative arts) <p> 750 จิตรกรรม ภาพเขียน (Painting & paintings) <p> 760 ศิลปะการพิมพ์ ศิลปะกราฟิก (Graphic arts; Printmaking & prints) <p> 770 การถ่ายรูป ภาพถ่าย (Photography & photographs) <p> 780 ดนตรี (Music) <p> 790 การบันเทิง นันทนาการ กีฬา (Recreational & performing arts) <p> 800 วรรณกรรม วรรณคดี (Literature) <p> 810 วรรณคดีอเมริกันในภาษาอังกฤษ (Literature rhetoric & criticism) <p> 820 วรรณคดีภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษโบราณ (English & Old English literatures) <p> 30 วรรณคดีภาษาเยอรมัน (Literatures of Germanic languages) <p> 840 วรรณคดีภาษาฝรั่งเศส ภาษาโรมานซ์ (Literatures of Romance languages) <p> 850 วรรณคดีภาษาอิตาลี ภาษาโรมัน (Italian, Romanian, Rhaeto-Romanic) <p> 860 วรรณคดีภาษาสเปน ภาษาโปรตุเกส (Spanish & Portugese literature) <p> 870 วรรณคดีภาษาละติน (Italic literature; Latin) <p> 880 วรรณคดีภาษากรีก (Hellenic literatures; Classical Greek) <p> 890 วรรณคดีภาษาอื่นๆ (Literatures of other languages) <p> 900 ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ (History, geography & biography) <p> 910 ภูมิศาสตร์ การท่องเที่ยว (Geography & travel) <p> 920 ชีวประวัติ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ (Biography, genealogy, insignia) <p> 930 ประวัติศาสตร์ยุคโบราณ (History of ancient world) <p> 940 ประวัติศาสตร์ยุโรป โลกตะวันตก (General history of Europe) <p> 950 ประวัติศาสตร์เอเชีย โลกตะวันออก (General history of Asia; Far East) <p> 960 ประวัติศาสตร์แอฟริกา (General history of Africa) <p> 970 ประวัติศาสตร์อเมริกาเหนือ (General history of North America) <p> 980 ประวัติศาสตร์อเมริกาใต้ (General history of South America) <p> 990 ประวัติศาสตร์ส่วนอื่นๆ ของโลก (General history of other areas) <p>จากหมวดย่อย 100 หมวด เลขตัวที่ 2 คือเลขหลักสิบของหมวดย่อยทั้ง 100 หมวด เป็นเลข 0-9 เหมือนๆ กัน เพราะหมวดใหญ่แต่ละหมวดแบ่งเป็น 10 หมวดย่อยเท่าๆ กัน ซึ่งเป็นหลักการขั้นพื้นฐานของระบบที่ใช้เลขฐาน 10 เป็นหลักในการแบ่งหมวดหมู่วิชาความรู้จากหมวดใหญ่ไปหมวดย่อย และเลขหมู่หมวดใหญ่แต่ละหมวด ต่างก็มีเนื้อหาครอบคลุมวิชาความรู้หมวดย่อยทุกหมวด เช่น หมวด 100 ครอบคลุมวิชาความรู้ในหมวด 110-190 <p> <p>2.3 การแบ่งครั้งที่ 3 (Third Summary) คือ การแบ่งวิชาความรู้ในหมวดย่อยแต่ละหมวดออกเป็นหมู่ย่อย (Section) 10 หมู่ย่อย ตัวอย่าง การแบ่งหมวดย่อย 630 <p> 630 เกษตรศาสตร์ <p> 631 เทคนิค อุปกรณ์ และวัสดุ (Techniques, equipment, materails) <p> 632 ความเสียหายของพืชอันเกิดจากเชื้อโรคและสัตว์ (Plant injuries, diseases, pests) <p> 633 การเพาะปลูกพืชไร่ (Field & plantation crops) <p> 634 การทำสวนผลไม้ ผลไม้ และป่าไม้ (Orchards, fruits, forestry) <p> 635 การทำสวนครัว (Garden crops (Horticulture)) <p> 636 สัตวบาล (Animal husbandry) <p> 637 อุตสาหกรรมนมเนย (Processing dairy & related products) <p> 638 การเพาะเลี้ยงแมลง (Insect culture) <p> 639 การล่าสัตว์ การตกปลา การอนุรักษ์ (Hunting, fishing, comservation) <p> ในแต่ละหมู่ย่อย ยังแบ่งวิชาความรู้ออกไปสู่เรื่องที่เฉพาะมากขึ้นได้อีก โดยการกระจายเลขหลังจุดทศนิยมต่อจากเลข 3 หลักดังกล่าว เช่น <p> หมวด 600 Technology (Applied sciences) เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ประยุกต์ <p> 610 Medical sciences Medicine (การแพทย์) <p> 611 Human anatomy, cytology, tissues (กายวิภาคศาสตร์ เนื้อเยื่อ) <p> 630 Agriculture & related technologies (การเกษตรและเทคโนโลยีการเกษตร) <p> 631 Crops & their production (พืชและผลิตผล) <p> 632 Plant injuries, diseases, pests (โรคพืช แมลงศัตรูพืช) <p> 633 Field crops (พืชไร่) <p> 634 Orchards, fruits, forestry (ผลไม้และการทำป่าไม้) <p> .9 Forestry (การทำป่าไม้) <p> .92 Forest economy (ไม้เศรษฐกิจ) <p> .928 Management (การจัดการ) <p> .956 Forestation (การเพาะพันธุ์) <p> .9562 Seeds, seed collecting, seeding (เมล็ดพันธุ์) <p> ตัวอย่าง หนังสือ เรื่อง การปลูกพืชด้วยเมล็ด เลขหมู่ที่กำหนดได้ คือ 634.9562 <p> พจนานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน เลขหมู่ที่กำหนดได้ คือ 495.913 <p> ระบบทศนิยมดิวอี้มีตารางช่วย (Auxiliary tables) ซึ่งเป็นตารางย่อยใช้เติมเข้ากับเลขหมู่หนังสือ เพื่อระบุลักษณะเฉพาะของหนังสือมากยิ่งขึ้น ว่าเนื้อเรื่องที่เขียนในลักษณะใด เขียนเป็นภาษาใด เกี่ยวกับพื้นที่หรือท้องถิ่นใด หรือเกี่ยวกับใคร เป็นต้น ช่วยให้สามารถวิเคราะห์เนื้อหาได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ตารางช่วยดังกล่าวมี 7 ตาราง ได้แก่ <p> ตารางที่ 1 ตารางเลขวิธีเขียน (Standard subdivisions) หรือ ตารางย่อยมาตรฐาน ใช้ประกอบกับเลขหลักในแผนการจัดหมู่ได้ทุกหมวดหมู่ แสดงถึงวิธีเขียน เช่น <p> 01- สำหรับหนังสือที่เขียนในเชิงทฤษฎีและปรัชญา <p> 02- สำหรับหนังสือคู่มือ หนังสือภาพ หนังสือที่มีตาราง แผนภูมิ หรือแผนภาพเป็นส่วนประกอบสำคัญ หนังสือนามานุกรม และหนังสือเบ็ดเตล็ดอื่นๆ <p> 03- สำหรับหนังสือพจนานุกรม สารานุกรม บัญชีคำศัพท์ <p> 04- เป็นเลขว่างซึ่งจะกำหนดใช้เพื่อแบ่งย่อยเรื่องเฉพาะของเลขหมู่บางเลขหมู่เท่านั้น <p> 05- สำหรับสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง เช่น หนังสือรายปี รายงานประจำปี วารสารและหนังสือพิมพ์ <p> 06- สำหรับเรื่องของสมาคมและชมรมวิชาชีพ รวมทั้งการดำเนินงานของสมาคมหรือชมรมนั้นๆ <p> 07- สำหรับหนังสือที่เขียนขึ้นเพื่อการศึกษาและการสอน เช่น ตำรา งานวิจัย หลักสูตร สมุดแบบฝึกหัด เป็นต้น <p> 08- สำหรับหนังสือที่เขียนถึงประวัติและพรรณนาเรื่องราวของบุคคลกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มเชื้อชาติ กลุ่มอาชีพ <p> 09- สำหรับหนังสือที่เขียนถึงประวัติของเรื่องราวต่างๆ ในยุคสมัยใดยุคสมัยหนึ่ง และเขียนถึงเรื่องราวต่างๆ ในพื้นที่หรือท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่ง <p> ตัวอย่าง <p> เนื้อเรื่องของหนังสือ คือ ประวัติของพุทธศาสนา <p> พุทธศาสนา (เลขหมู่คือ 294) <p> วิธีเขียน (เลขจากตารางที่ 1) <p> ประวัติ (-09) <p> เลขหมู่ที่กำหนดจากการเติม ได้เป็น 294.309 <p> เนื้อเรื่องของหนังสือ เป็น พจนานุกรมทางวิทยาศาสตร์ <p> วิทยาศาสตร์ (500) <p> วิธีเขียน (เลขจากตารางที่ 1) <p> พจนานุกรม (-03) <p> เลขหมู่ที่เกิดจากการเติม 503 <p> ตารางที่ 2 ตารางเลขภูมิศาสตร์ (Areas) ใช้ประกอบกับเลขหลักในแผนการจัดหมู่ที่มีคำอธิบายให้เพิ่มเลขภูมิศาสตร์ เพื่อแสดงให้ทราบถึงสถานที่ทางภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวข้องภายในเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงลงไปว่าเป็นที่ใด ซึ่งอาจจะเป็นทวีป ประเทศ รัฐ เมือง แม่น้ำ มหาสมุทร เป็นต้น <p> -1 เขตภูมิศาสตร์ทั่วๆ ไป ไม่จำกัดเฉพาะในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เช่น เขตมหาสมุทร ทะเล เขตภูมิอากาศ <p> -2 สำหรับหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลในเขตพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ทั่วๆ ไป ไม่จำกัดเฉพาะแห่งใดแห่งหนึ่ง <p> -3 ดินแดนสมัยโบราณ เช่น เมโสโปเตเมีย ปาเลสไตน์ อียิปต์ <p> -4 ทวีปยุโรป <p> -5 ทวีปเอเซีย <p> -6 ทวีปแอฟริกา <p> -7 ทวีปอเมริกาเหนือ <p> -8 ทวีปอเมริกาใต้ <p> -9 พื้นที่ส่วนอื่นๆ เช่น หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก และดินแดนที่อยู่นอกโลก เช่น อวกาศ ดวงจันทร์ ดาวอังคาร <p> ตารางที่ 3 ตารางเลขเฉพาะสำหรับหมวดวรรณคดี ใช้เติมเข้ากับเลขหมู่ในหมวดวรรณคดีเพื่อระบุลักษณะคำประพันธ์ของวรรณคดีนั้นๆ <p> -08 สำหรับหนังสือรวมวรรณคดี เฉพาะภาษาของนักเขียนหลายๆ คน <p> -09 สำหรับหนังสือประวัติศาสตร์และวิจารณ์วรรณคดีเฉพาะภาษาของนักเขียนหลายๆ คน <p> -1-8 ลักษณะคำประพันธ์ ได้แก่ <p> -1 กวีนิพนธ์ <p> -2 บทละคร <p> -3 นวนิยาย <p> -4 ความเรียง บทความ <p> -5 สุนทรพจน์ ปาฐกถา <p> -6 จดหมาย <p> -7 เรื่องเชิงล้อเลียนและตลกขบขัน <p> -8 งานเขียนเบ็ดเตล็ดอื่นๆ เช่น บันทึกประจำวัน บันทึกความจำ สุภาษิตคำคม <p> ตารางที่ 4 ตารางเลขเฉพาะสำหรับหมวดภาษา เป็นตารางเลขย่อยซึ่งกำหนดให้ใช้เติมเข้ากับเลขหมู่ในหมวดภาษาเฉพาะ เพื่อระบุเรื่องเฉพาะของแต่ละภาษานั้น เช่น ไวยากรณ์ภาษา พจนานุกรมภาษา หลักการอ่าน เขียนภาษา เป็นต้น <p> -1 หลักในการเขียนและพูดภาษาต่างๆ ในรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน <p> -2 นิรุกติศาสตร์ <p> -3 พจนานุกรมภาษา <p> -32-39 พจนานุกรมสองภาษา <p> -5 ระบบโครงสร้างหรือหลักไวยากรณ์ของภาษาที่ใช้เป็นมาตรฐาน <p> -7 ภาษาที่ไม่ได้ใช้เป็นมาตรฐาน เช่น ภาษาถิ่น ภาษาแสลง ภาษาโบราณ <p> -8 ภาษาประยุกต์ (การนำเอาภาษาไปประยุกต์ใช้ในกรณีต่างๆ เช่น การแปล การสอน) <p> ตัวอย่าง <p> เนื่อเรื่องของหนังสือ เป็นพจนานุกรมภาษาไทย <p> ภาษาไทย (495.91) <p> เรื่องเฉพาะทางภาษา (เลขจากตารางที่ 4) <p> พจนานุกรมภาษาเดียว (-3) <p> เลขหมู่ที่เกิดจากการเติม 495.913 <p> ตารางที่ 5 ตารางเลขเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ กลุ่มชนชาติ เป็นตารางย่อยที่ใช้เติมเข้ากับเลขหมู่หรือเลขในตารางอื่นเพื่อแบ่งย่อยเนื้อเรื่องออกไปตามกลุ่มเชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ <p> -01 ชนพื้นเมือง <p> -03 กลุ่มเผ่าพันธุ์พื้นฐานของมนุษย์ เช่น คอเคซอยด์ มองโกลอยด์ <p> -1-9 กลุ่มเชื้อชาติของมนุษย์ จัดตามถิ่นกำเนดหรือถิ่นที่อยู่ <p> -1 เชื้อชาติอเมริกันเหนือ <p> -2 เชื้อชาติแองโกล-แซกซอน บริติช อังกฤษ <p> -3 เชื้อชาตินอร์ดดิค เช่น พวกเยอรมัน <p> -4 เชื้อชาติลาตินใหม่ เช่น พวกฝรั่งเศส <p> -5 เชื้อชาติอิตาเลียน <p> -6 เชื้อชาติสเปนและโปรตุเกส <p> -7 เชื้อชาติอิตาลิค เช่น พวกโรมันโบราณ <p> -8 เชื้อชาติกรีก <p> -9 เชื้อชาติอื่นๆ เช่น พวกอินเดียน สลาฟ แอฟริกัน ไทย จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ <p> ตัวอย่าง <p> เนื้อเรื่องของหนังสือ เรื่อง ประเพณีการแต่งงานของไทย <p> ประเพณีการแต่งงาน (392.5) <p> เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ (เลขจากตารางที่ 5) <p> เชื้อชาติไทย (-9591) <p> เลขหมู่ที่เกิดจากการเติม 392.50899591 <p> ตารางที่ 6 ตารางเลขภาษา กำหนดเพื่อใช้กับเลขหมู่ในตารางช่วยอื่น เพื่อระบุภาษาที่ใช้ในการเขียนเนื้อเรื่องของหนังสือแต่ละเล่ม <p> สังเขปตารางเลขภาษา <p> -1 ภาษาอินโด-ยูโรเปียน <p> -2 ภาษาอังกฤษและแองโกล-แซกซอน <p> -3 ภาษาเยอรมัน <p> -4 ภาษาตระกูลโรมานซ์ เช่น ภาษาฝรั่งเศส <p> -5 ภาษาอิตาเลียน <p> -6 ภาษาสเปนและโปรตุเกส <p> -7 ภาษาตระกูลอิตาลิค เช่น ภาษาลาติน <p> -8 ภาษาตระกูลเฮลเลนิก เช่น ภาษากรีก <p> -9 ภาษาอื่นๆ เช่น ภาษาไทย ภาษาบาลี ภาษาฮีบรู เป็นต้น <p> ตัวอย่าง <p> เนื้อเรื่องของหนังสือ สารานุกรมภาษาไทย <p> สารานุกรมทั่วไป (039) <p> ภาษา (เลขจากตารางที่ 6) <p> ภาษาไทย (-95911) <p> เลขหมู่ที่เกิดจากการเติม 039.95911 <p> ตารางที่ 7 ตารางเลขบุคคล เป็นตารางย่อยซึ่งกำหนดให้ใช้เติมเข้ากับเลขหมู่หรือเลขในตารางช่วยอื่นเพื่อระบุเรื่องย่อยของหนังสือว่าเกี่ยวข้องกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลในลักษณะใด เช่น กลุ่มอาชีพ เพศ วัย ชนชั้นทางสังคม ฯลฯ ตาราง 7 จะใช้ประกอบกับเลขหมู่ที่มีคำอธิบายให้เติมเลขบุคคลจากตาราง 7 ช่วย (Add "Persons" notation ...) เช่น Add "Person" notation 04-87 from Table 7 to base number 704 e.g. lawyers as artists 704.344; however, class art dealers in 338.7617; description, critical appraisal, wors, biography of artisits in 709.2 <p> สังเขปตารางเลขบุคคล <p> -01 ปัจเจกบุคคล <p> -02 กลุ่มบุคคลทั่วไปไม่ระบุลักษณะเฉพาะทางอาชีพ เพศ วัย และอื่นๆ <p> -03 กลุ่มบุคคลจัดตามภูมิหลังทางเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ <p> -04 กลุ่มบุคคลจัดตามเพศและความสัมพันธ์ทางเครือญาติ <p> -05 กลุ่มบุคคลจัดตามอายุ <p> -06 กลุ่มบุคคลจัดตามลักษณะทางสังคมและเศรษฐกิจ <p> -08 กลุ่มบุคคลจัดตามสภาพทางร่างกายและจิตใจ <p> -09 กลุ่มบุคคลที่ไม่จัดอยู่ในวิชาชีพเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น นักวิจัย นักการศึกษา บรรณารักษ์ และนักสารสนเทศ โดยจะมีตัวเลขแบ่งย่อยอีกตามกลุ่มบุคคลในสาขาวิชาชีพต่างๆ <p> ตัวอย่าง หนังสือเกี่ยวกับจิตรกรรมและมัณฑนศิลป์ของเด็กนักเรียน <p> จิตรกรรมและมัณฑศิลป์ (704.04-.87) <p> เด็กนักเรียน หาเลขเด็กนักเีรียนจากตาราง 7 (-054 4) <p> เลขหมู่ทีเ่กิดจากการเติม 704.0544 <p> บรรณานุกรม <p>Guide to use of Dewey decimal classification : based on the practice of the Decimal Classification Office at the Library of Congress. 1962. Lake Placid Club, N.Y. : Forest Press. <p>OCLC Online Computer Library Center, Inc. Summaries DDC Dewey Decimal Classification. 2003. Rereive from http://www.oclc.org/dewey/resources/summaries/deweysummaries.pdf. <p> กุลธิดา ท้วมสุข. 2533. การวิเคราะห์เลขหมู่หนังสือ. ขอนแก่น : มหาวิทยาลัยขอนแก่น. <p> ทองหยด ประุทุมวงศ์ และ พรทิยพ์ สุวันทารัตน์. การวิเคราะห์สารนิเทศระบบทศนิยมดิวอี้ ใน เอกสารประกอบการสอนชุดวิชา การวิเคราะห์สารนิเทศ หน้า 150-217. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] | Classification, Library of Congress | ระบบการจัดหมู่รัฐสภาอเมริกัน, การวิเคราะห์หนังสือระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน, Example: ระบบการจัดหมู่รัฐสภาอเมริกัน (Library of Congress Classficiation - LC) หรือเรียกสั้นๆ ว่า LC หรือระบบ LCC เป็นระบบที่จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการจัดหมู่หนังสือของหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน <p> ในระยะแรกก่อตั้งหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน เมื่อปี ค.ศ. 1800 ระบบจัดหมู่หนังสือที่ใช้อยู่นั้น คิดขึ้นโดยจอห์น เบคเลย์ (John Beckley) โดยจัดหนังสือตามขนาดหน้ายก หนังสือขนาดเดียวกันจัดเรียงตามลำดับเลขทะเบียนของหนังสือ <p> ต่อมาในปี ค.ศ. 1812 เมื่อหนังสือมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงได้เปลี่ยนเป็นวิธีการจัดหมู่หนังสือตามเนื้อเรื่อง โดยนำระบบจัดหมู่หนังสือของ The Library Company of Philadelphia มาใช้ แบ่งเนื้อเรื่องเป็น 18 หมวด เมื่อห้องสมุดไฟไหม้ จึงได้จัดซื้อหนังสือจำนวน 6, 487 เล่มจากห้องสมุดส่วนตัวของประธานาธิบดีโธมัส เจฟเฟอร์สัน โดยคิดระบบตามที่ประธานาธิบดีเจฟเฟอร์สัน โดยแบ่งออกเป็น 44 หมวด <p> จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1890 เมื่อมีหนังสือเพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ บรรณารักษ์ของหอสมุดในขณะนั้น คือ จอห์น รัสเซล ยัง (John Russell Young)คิดว่าระบบเดิมไม่เหมาะสม ควรคิดหาระบบใหม่เพื่อให้มีความเหมาะสมมากขึ้น จึงมอบหมายให้ เจมส์ แฮนสัน (James Hanson) และ ชาร์ลส์ มาร์แตล (Charles Martel) ศึกษาหาแนวทางที่จะสร้างระบบจัดหมู่หนังสือใหม่เพื่อใช้ในหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน <p> การศึกษาอย่างจริงจังได้เริ่มเมื่อ เฮอร์เบิร์ต พุตนัม (Herbert Putnum) เข้ามาดำรงตำแหน่งบรรณารักษ์ในปี ค.ศ. 1899 และยังคงมอบหมายให้ แฮนสันและมาร์แตลรับศึกษาต่อไป โดยนำระบบ 3 ระบบ คือ ระบบทศนิยมดิวอี้ ระบบเอ็กแพนซีฟ และระบบจัดหมู่หนังสือของเยอรมัน ชื่อ Halle Schema ของออตโต ฮาร์ตวิก (Otto Hartwig) พบว่า ระบบเอ็กแพนซีฟมีความเหมาะสมมาก เนื่องจากการจัดหมวดหมู่กว้างขวางและสามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายทุกๆ หมวดตามต้องการ สัญลักษณ์ที่ใช้สามารถขยายได้ทั้งชนิดที่เป็นตัวอักษรและตัวเลข เพราะเป็นสัญลักษณ์ผสม เหมาะกับหอสมุดรัฐสภาอเมริกันซึ่งมีหนังสือจำนวนมาก จึงได้จัดทำระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกันขึ้นโดยยึดหลักการของระบบเอ็กแพนซีฟ <p> มีการจัดทำหมวด Z เป็นหมวดแรก เมื่อปี ค.ศ. 1902 <p> ลักษณะทั่วไปของระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน <p>1. ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกันเป็นระบบที่คิดขึ้นโดยจัดแบ่งหมวดหมู่ตามสาขาวิชาความรู้ที่มีอยู่จริงของหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน <p>2. สัญลักษณ์เป็นสัญลักษณ์ผสมระหว่างตัวอักษรโรมันตัวพิมพ์ใหญ่และเลขอารบิค โดยอักษรโรมันตัวใหญ่หนึ่งตัวแทนหมวดใหญ่และเพิ่มอักษรโรมันตัวใหญ่อีกหนึ่งหรือสองตัวแทนหมวดย่อย (ยกเว้นหมวด E-F และ Z) และแบ่งหมู่ย่อยต่อไปอีก โดยใช้เลขอารบิคจาก 1-9999 รวมทั้งขยายโดยใช้จุดทศนิยม <p>3. แผนการจัดหมวดหมู่จัดแบ่งวิชาความรู้ในสาขาต่างๆ โดยเริ่มจากเรื่องทั่วไปสู่เรื่องที่เฉพาะยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ <p>3.1 การแบ่งครั้งที่ 1 เป็นการแบ่งเนื้อหาวิชาเป็น 20 หมวดใหญ่ (Main class) โดยใช้อักษรตัวเดียวโดดๆ A-Z ยกเว้น I, O, W, X, Y <p>A ความรู้ทั่วไป (General Works) <p>B ปรัชญา จิตวิทยา ศาสนา (Philosophy, Psychology, Religion) <p>C ศาสตร์ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ (Auxiliary sciences of history) <p>D ประวัติศาสตร์ : เรื่องทั่วไปและประวัติศาสตร์โลกเก่า (History : general and old world) <p>E-F ประวัติศาสตร์ : อเมริกา (History : America) <p>G ภูมิศาสตร์ แผนที่ มานุษยวิทยา นันทนาการ (Geography, Maps, Anthropology, Recreation) <p>H สังคมศาสตร์ (Social science) <p>J รัฐศาสตร์ (Political science) <p>K กฎหมาย (Law) <p>L การศึกษา (Education) <p>M ดนตรี (Music) <p>N ศิลปกรรม (Fine Arts) <p>P ภาษาและวรรณคดี (Languages and Literature) <p>Q วิทยาศาสตร์ (Sciences) <p>R แพทยศาสตร์ (Medicines) <p>S เกษตรศาสตร์ (Agriculture) <p>T เทคโนโลยี (Technology) <p>U ยุทธศาสตร์ (Military science) <p>V นาวิกศาสตร์ (Naval science) <p>Z บรรณานุกรม บรรณารักษศาสตร์ (Bibliography, Library science) <p>3.2 การแบ่งครั้งที่ 2 เป็นการแบ่งหมวดย่อย (subclass) ตามสาขาวิชา โดยใช้ตัวอักษรโรมันตั้งแต่ 2 ตัว ถึง 3 ตัว เป็นสัญลักษณ์ และใช้หลักการเรียงลำดับตามตัวอักษร A-Z ยกเว้นหมวด Z จะไม่มีการแบ่งครั้งที่ 2 เช่น หมวด Q แบ่งออกเป็นหมวดย่อย 12 หมวดดังนี้คือ <p>Q วิทยาศาสตร์ (Science) <p> QA คณิตศาสตร์ (Mathematics) <p> QB ดาราศาสตร์ (Astronomy) <p> QC ฟิสิกส์ (Physics) <p> QD เคมี (Chemistry) <p> QE ธรณีวิทยา (Geology) <p> QH ธรรมชาติวิทยา (Natural History) <p> QK พฤกษศาสตร์ (Botany) <p> QL สัตววิทยา (Zoology) <p> QM กายวิภาคศาสตร์ (Human Anatomy) <p> QP สรีรวิทยา (Physiology) <p> QR จุลชีววิทยา (Microbiology) <p> ซึ่งยังคงแบ่งต่อไปได้อีก เมื่อต้องการขยายเลขหมู่เพิ่มในภายหลัง <p> 3.3 การแบ่งครั้งที่ 3 คือ การแบ่งออกเป็น หมู่ (division) โดยใช้ตัวเลขอารบิกตั้งแต่ 1-9999 ประกอบตัวอักษรโรมัน ในแต่ละหมู่จะมีจำนวนการแบ่งเป็นหมู่ย่อยไม่เท่ากัน เช่น หมวด LA จะแบ่งเป็น LA1-LA 2397 หรือ หมวด HV จะแบ่งเป็น HV 1-HV 9920 เป็นต้น สามารถที่จะขยายเลขหมู่สำหรับวิชาการที่จะเพิ่มใหม่ การแบ่งครั้งที่ 3 มี 2 ลักษณะ คือ <p> 3.3.1 การแบ่งโดยใช้เลขทศนิยม คือ การนำเอาเลขทศนิยมมาขยายเลขย่อยในกลุ่มนั้น ให้ได้เลขหมู่เพิ่มขึ้นสำหรับเนื้อหาวิชาที่ควรจะอยู่ในกลุ่มเดียวกัน <p> 3.3.2 การแบ่งโดยใช้เลขคัตเตอร์ คือ การใช้ตัวอักษรและตัวเลขสำหรับการแบ่งย่อยเนื้อหาที่ละเอียดลงไปอีก เช่น การแบ่งย่อยตามชื่อทางภูมิศาสตร์ (geographical name) และการแบ่งย่อยตามรายชื่อเนื้อหาวิชาเฉพาะ (special topics) และการแบ่งตามเลขคัตเตอร์สำรองที่ได้กำหนดไว้แล้ว <p> ตัวอย่าง HF 5438.5 HF เป็นหมวดย่อยของ H คือ สังคมศาสตร์ ซึ่ง HF เป็นหมู่ย่อย หมายถึง การค้า (Commerce) และแบ่งออกเป็นหมู่ คือ 5438 หมายถึง การขาย (Selling) จากนั้นแบ่งโดยใช้เลขทศนิยม คือ .5 หมายถึง การส่งเสริมการขาย (Sales promotion) <p> ตัวอย่าง ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น 600 ปี <p> DS เป็นเลขหมู่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย <p> 575 แบ่งย่อยเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทางการเมืองและการทูต <p> .5 แบ่งย่อยเป็นความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ A-Z <p> .J3 ประเทศญี่ปุ่น (Japan = .J3) <p> จะได้เลขหมู่เป็น DS 575.5.J3 ปัจจุบัน หนังสือคู่มือหมวดหมู่รัฐสภาอเมริกันมีทั้งแบบสิ่งพิมพ์และแบบออนไลน์ <p> บรรณานุกรม <p> Library of Congress. Library of Congress Classification Outline. 2011. [ Online ] Retrieve from: http://www.loc.gov/catdir/cpso/lcco/. Accessed 20110516. <p> กุลธิดา ท้วมสุข. 2533. การวิเคราะห์เลขหมู่หนังสือ. ขอนแก่น : ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. <p> กมลา รุ่งอุทัย. 2533. การวิเคราะห์สารนิเทศระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน ใน เอกสารการสอนชุดวิชา การวิเคราะห์สารนิเทศ หน้า 219-281. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. <p> อัมพร ทีขะระ. 2532. คู่มือการจัดหมู่ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน. กรุงเทพฯ : ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาััลัย. [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] | Hazard analysis and critical control point | ระบบวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Speech synthesis | การสังเคราะห์เสียง [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Speech synthesis | การสังเคราะห์เสียง [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Synthesis gas | ก๊าซสังเคราะห์ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Text-to-speech synthesis | เทคโนโลยีสังเคราะห์เสียงจากข้อความ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Automatic blood cell analyzer | เครื่องวิเคราะหฺ์เม็ดเลือดอัตโนมัติ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Chemical synthesis in solution | การสังเคราะห์ทางเคมีในสารละลาย [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Electrochemical synthesis | การสังเคราะห์โดยวิธีทางไฟฟ้า-เคมี [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Latent structure analysis | การวิเคราะห์กลุ่มแฝง [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Logistic regression analysis | การวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติก [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Conjoint analysis (Marketing) | การวิเคราะห์คอนจอยท์ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Plastic analysis (Engineering) | การวิเคราะห์ด้วยวิธีพลาสติก [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Colorimetric analysis | การวิเคราะห์โดยการวัดสี [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Electrochemical analysis | การวิเคราะห์ทางเคมีำไฟฟ้า [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Nearest neighbor analysis (Statistics) | การวิเคราะห์เพื่อนบ้านใกล้ที่สุด (สถิติ) [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Function point analysis | การวิเคราะห์ฟังก์ชันพอยต์ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Diagnosis, Ultrasonic | การวิเคราะห์ด้วยคลื่นเหนือเสียง [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Synthesis | การสังเคราะห์ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Photosynthesis | การสังเคราะห์แสง [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Biosynthesis | ชีวสังเคราะห์ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Asteroid | ดาวเคราะห์น้อย [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Latex, Synthesis | น้ำยางสังเคราะห์ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Photosynthetic bacteria | แบคทีเรียสังเคราะห์แสง [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Dehydration | ถังพักน้ำมันดิบชั่วคราว, ถังพักน้ำมันดิบชั่วคราวเพื่อแยกน้ำออกจากน้ำมัน, Example: โดยการเติมสารเคมี (Demulsifier) ลงไป สารเคมีจะช่วยให้น้ำแยกออกจากน้ำมันและจมลงสู่ก้นถัง และถูกถ่ายเทไปยังถังเก็บน้ำโดยเฉพาะ ส่วนน้ำมันที่ลอยอยู่ส่วนบนจะไหลไปยังถังเก็บน้ำมัน (storage tank) สำหรับก๊าซที่ปนขึ้นมากับน้ำมันด้วยในตอนแรกจะถูกปล่อยสู่บรรยากาศทางท่อเล็กๆ ด้านบนของ tank [ปิโตรเลี่ยม] | Degassing Tank | ถังพักน้ำมันดิบชั่วคราว, ถังพักน้ำมันดิบชั่วคราวเพื่อแยกน้ำออกจากน้ำมัน, Example: โดยการเติมสารเคมี (Demulsifier) ลงไป สารเคมีจะช่วยให้น้ำแยกออกจากน้ำมันและจมลงสู่ก้นถัง และถูกถ่ายเทไปยังถังเก็บน้ำโดยเฉพาะ ส่วนน้ำมันที่ลอยอยู่ส่วนบนจะไหลไปยังถังเก็บน้ำมัน (storage tank) สำหรับก๊าซที่ปนขึ้นมากับน้ำมันด้วยในตอนแรกจะถูกปล่อยสู่บรรยากาศทางท่อเล็กๆ ด้านบนของ tank [ปิโตรเลี่ยม] | Temporary Suspension | การปิดหลุมชั่วคราว [ปิโตรเลี่ยม] | Temporary Suspension | การปิดหลุมชั่วคราว [ปิโตรเลี่ยม] | Activity analysis | การวิเคราะห์กิจกรรม [เศรษฐศาสตร์] | Cost analysis | การวิเคราะห์ต้นทุน [เศรษฐศาสตร์] | Cost-benefit analysis | การวิเคราะห์ต้นทุนต่อผลตอบแทน [เศรษฐศาสตร์] | Analysis | การวิเคราะห์ [เศรษฐศาสตร์] | Economic analysis | การวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ [เศรษฐศาสตร์] | Casual worker | คนงานชั่วคราว [เศรษฐศาสตร์] | Chemical analysis | การวิเคราะห์ทางเคมี [เศรษฐศาสตร์] | Comparative analysis | การวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ [เศรษฐศาสตร์] | Mathematical analysis | คณิตวิเคราะห์ [เศรษฐศาสตร์] | Monetary analysis | การวิเคราะห์ภาวะการเงิน [เศรษฐศาสตร์] | Discriminant analysis | การวิเคราะห์การจำแนกประเภท [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Regression analysis | การวิเคราะห์การถดถอย [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Remote-sensing images | การวิเคราะห์ข้อมูลภาพระยะไกล [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Remote sensing | การวิเคราะห์ข้อมูลระยะไกล [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Error analysis (Mathematics) | การวิเคราะห์ความคลาดเคลื่อน (คณิตศาสตร์) [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Analysis of variance | การวิเคราะห์ความแปรปรวน [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Analysis of covariance | การวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วม [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Value analysis (Cost control) | การวิเคราะห์คุณค่า (การควบคุมต้นทุนการผลิต) [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
| War? | สงครามหรอ? Fullmetal Alchemist the Movie: Conqueror of Shamballa (2005) | A war. | สงครามไง Summer Wars (2009) | (G ROANS) | คราง) Hansel & Gretel: Witch Hunters (2013) | War? | สงคราม? How to Train Your Dragon 2 (2014) | [ Grunting ] | (คราง) Delta Force (2014) | Once the war ends, forget it, but for now it's great. You can make a fortune, don't you think ? | กว่าสงครามจะเลิกก็รวยเละ Schindler's List (1993) | That's when the bootleg wars really began. | นั่นคือช่วงที่สงคราม ของพวกค้าของเถื่อนเริ่ม. The Young Indiana Jones Chronicles (1992) | One jump ahead of the slowpokes One skip ahead of my doom | กระโดดหนึ่งครั้งหนีคนเฉื่อย อีกหนึ่งครั้งหนีเคราะห์ร้าย Aladdin (1992) | People of Agrabah, My daughter has finally chosen a suitor! | ผู้คนแห่งอะคราบาห์ ในที่สุด ลูกสาวข้าก็พบกับคู่แท้แล้ว Aladdin (1992) | And your beard...is so... | และเคราของท่าน ช่าง เป็นเกลียวงาม Aladdin (1992) | You didn't understand what I was saying about the analytic field. | คุณไม่เข้าใจว่าผม พูดอะไรเกี่ยวกับสาขาการวิเคราะห์ Basic Instinct (1992) | Listen, why don't we schedule another meeting. | ฟังนะ ทำไมเรา ไม่นัดกันใหม่คราวหน้า Basic Instinct (1992) | She groaned, her breath catching as he suddenly yanked her hair like a rider pulling on a horse 's mane. | เธอร้องคราง ลมหายใจของเธอเสียงดัง... ...และทันใดนั้นเขาก็ดึงผมเธอ เหมือนยามที่นักขี่ม้าดึงบังเหียน Basic Instinct (1992) | You're not an analyst. | คุณไม่ใช่นักวิเคราะห์ Basic Instinct (1992) | The analyst in my book is obsessed with that sort of thing. | บทวิเคราะห์ในหนังสือของฉัน ถูกครอบงำโดยเรื่องพวกนั้น Basic Instinct (1992) | Kelly met the analyst during her little stay at Holloway Prison. | เคลลี่ได้พบกับนักวิเคราะห์ระหว่าง การมาอยู่ที่เรือนจำฮอลโลเวย์ Basic Instinct (1992) | Her analyst isn't sure. | บทวิเคราะห์ของเธอไม่ค่อยมั่นใจ Basic Instinct (1992) | What can I say? - Hi. | - ไว้คราวหลัง The Bodyguard (1992) | When your time is up it's up. | ถ้าถึงคราวชะตาขาด.. ก็ต้องตาย The Bodyguard (1992) | And I shall kiss you again. | และฉันจะจูบเธออีกครา Wuthering Heights (1992) | If you kiss me again I would have to leave him, and I would not survive. | หากเธอจูบฉันอีกครา ฉันคงต้องทิ้งเขา และฉันคงไม่อาจทนใช้ชีวิตไปได้ Wuthering Heights (1992) | The surest way to kill me is for you to kiss me again. | หากเธออยากฆ่าฉันโดยแน่นอนก็ จงจูบฉันอีกครา Wuthering Heights (1992) | You have me scheduled on a flight back an hour after the ceremony. | แล้วก้อขอบคุณสำหรับนี่ด้วยค่ะ คราวหน้าชั้นเลี้ยงคุณนะ โอเค Hero (1992) | Price check. | เช็คราคา! Jumanji (1995) | That should have been established by your attorney. | อ่อโอเคค่ะ คุณไปเถอะ ใช่ๆ ไว้คราวหน้าก้อได้ค่ะ Hero (1992) | I'm not a criminal. | คราวหน้าลูกจะได้ไม่เก้อเขินไงล่ะ Hero (1992) | He is to be battlefield ready. | มันต้องฝึกในระบบสงครามต่อ The Lawnmower Man (1992) | It's more important than training him for war. | นั่นสำคัญกว่าที่ จะให้มันฝึกสงครามจำลอง The Lawnmower Man (1992) | They want this animal trained in virtual reality... to use the infrared battle helmet, not recite the ABCs. | พวกเขาต้องการให้เราฝึกมัน ในโลกเสมือน เพื่อทดสอบกล้องอินฟราเรด ที่คิดค้นสำหรับใช้ในสงคราม The Lawnmower Man (1992) | Battlefield simulation engaged. | ระบบสงครามเตรียมพร้อม The Lawnmower Man (1992) | Mr. Director, the aggression vectors in Project 5 caused... | ผู้อำนวยการ ผลลัพธ์ที่เกิดคราวที่แล้วนั่น The Lawnmower Man (1992) | This Washington trip couldn't come at a worse time. | มาไปวอชิงตันคราวนี้ มันผิดเวลาจริงๆ The Lawnmower Man (1992) | It only leads to one thing: war. | ทำเป็นมันแต่สงคราม The Lawnmower Man (1992) | OK, listen. This time don't forget. We went into Murray and Ready's. | ฟังนะ คราวนี้อย่าลืมอีกล่ะ เราสมัครงานที่เมอร์เรย์ แอนด์ เรดีส์ Of Mice and Men (1992) | - [ Moans ] | - [ ครวญคราง ] Pulp Fiction (1994) | Yeah, well, next time you answer when you're spoken to. | คราวหน้าหัดตอบซะ เวลามีคนพูดด้วย Of Mice and Men (1992) | Next time you wet the bed, don't stick the things on the boiler. | คราวหน้าที่เธอฝันเปียก อย่ามาจับของในครัว The Cement Garden (1993) | It didn't smell like this the last time I came down. | คราวที่แล้วลงมายังไม่เหม็นเท่านี้ The Cement Garden (1993) | - No, we're gonna push start next time. | - ไม่ เราจะเข็นคราวหน้า Cool Runnings (1993) | Only a circle of salt can protect thy victims from thy power. | การเทเกลือเป็นวงกลมเท่านั้นถึงจะป้องกัน ผู้เคราะห์ร้ายจากพลังเหล่านั้น. Hocus Pocus (1993) | Troops have entered the Ardoyne area of West Belfast... since the collapse of the provisional IRA cease-fire over the weekend. | กองกำลังทหารได้ใส่ พื้นที่ Ardoyne ของเวสต์เบลฟาส ... ตั้งแต่การล่มสลายของชั่วคราว IRA การหยุดยิงเหนือสุดสั In the Name of the Father (1993) | That was a bloody disgrace, them shooting you. | นั่นคือความอัปยศอดสูคราบเลือด พวกเขายิงคุณ In the Name of the Father (1993) | - since the Second World War. | - - นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง In the Name of the Father (1993) | Sir Michael Hagerty will present the case on behalf of the Crown. | เซอร์ไมเคิล Hagerty จะนำเสนอ กรณีในนามของคราวน์ In the Name of the Father (1993) | The Crown's case against them is... that they are a support network for the bombers, and as such... | กรณีของคราวน์ พวกเขาก็คือ ... ว่าพวกเขามีเครือข่ายสนับสนุน สำหรับการทิ้งระเบิดแล? In the Name of the Father (1993) | This one, this one, this one, 14 days solitary! | แต่คราวนี้คนนี้คนนี้ 14 วันโดดเดี่ยว! In the Name of the Father (1993) | It's a war. You're one if its innocent victims. | เป็นสงคราม ถ้าคุณเป็นหนึ่งในเหยื่อที่ไร้เดียงสา In the Name of the Father (1993) | Joe was still at war... and to him, Barker was the enemy. | โจยังอยู่ในสงคราม ... และกับเขา Barker เป็นศัตรู In the Name of the Father (1993) | A lot of people are dying. It's a dirty war. | ผู้คนจำนวนมากจะตาย มันเป็นสงครามสกปรก In the Name of the Father (1993) | - You know, two babies your mother leave on the roadside, in war time? | + รู้ไหม เด็กแฝดที่แม่เธอทิ้งเอาไว้ข้างถนน ตอนช่วงสงคราม The Joy Luck Club (1993) |
| อาคารสงเคราะห์ | [ākhān songkhrǿ] (n, exp) EN: housing ; housing project | อนุเคราะห์ | [anukhrǿ] (v) EN: help ; aid ; favor ; do a good turn ; support ; back ; stand by ; subsidize FR: favoriser ; aider | อาชญากรรมสงคราม | [ātyākam songkhrām = ātchayākam songkhrām] (n, exp) EN: war crime FR: crime de guerre [ m ] | อาชญากรสงคราม | [ātyākøn songkhrām = ātchayākøn songkhrām] (n, exp) EN: war criminal FR: criminel de guerre [ m ] | อาวุธสงคราม | [āwut songkhrām] (n, exp) EN: weapons of war FR: arme de guerre [ f ] | ใบสำคัญแสดงการวิเคราะห์ | [baisamkhan sadaēng kān wikhrǿ] (n, exp) EN: certificate of analysis | บางครั้งบางคราว | [bāngkhrang-bāngkhrāo] (adv) EN: sometimes ; occasionally ; from time to time FR: quelquefois ; parfois ; de temps en temps ; occasionnellement ; de temps à autre | บางคราว | [bāngkhrāo] (adv) EN: occasionally FR: de temps en temps ; occasionnellement | บาปเคราะห์ | [bāpkhrǿ] (n) EN: misfortune ; bad luck ; adversity FR: malchance [ f ] | บทวิเคราะห์ | [botwikhrǿ] (n) EN: review ; analysis FR: revue [ f ] | ชะคราม | [chakhrām] (n) EN: Seablite | เชลยสงคราม | [chaloēi songkhrām] (n, exp) EN: prisoner of war FR: prisonnier de guerre [ m ] | ชนะสงคราม | [chana songkhrām] (v, exp) EN: defeat the war ; conquer FR: gagner la guerre ; vaincre | ชาติที่ได้รับอนุเคราะห์ยิ่ง | [chāt thī dāirap anukhrǿ ying] (n, exp) EN: Most favoured nation (MFN) | ช่อครามน้ำ | [chø khrām nām] (n, exp) EN: ? FR: ? | ชั่วคราว | [chūakhrāo] (adj) EN: temporary ; transient ; tentative ; provisional ; make-shift FR: temporaire ; passager ; provisoire | ชั่วคราว | [chūakhrāo] (adv) EN: temporarily ; for the time being ; for a while ; for the moment ; for a time FR: temporairement ; provisoirement ; pour le moment | ดาวเคราะห์ | [dāokhrǿ] (n) EN: planet FR: planète [ f ] | ดาวเคราะห์ชั้นใน | [dāokhrǿ channai] (n, exp) EN: inner planet FR: planète intérieure [ f ] | ดาวเคราะห์ชั้นนอก | [dāokhrǿ channøk] (n, exp) EN: outer planet FR: planète extérieure [ f ] | ดาวเคราะห์หิน | [dāokhrǿ hin] (n, exp) FR: planète rocheuse [ f ] | ดาวเคราะก๊าซ | [dāokhrǿ kāt] (n, exp) EN: gas planet FR: planète gazeuse [ f ] | ดาวเคราะห์แคระ | [dāokhrǿ khrae] (n, exp) EN: dwarf planet FR: planète naine [ f ] | ดาวเคราะห์ในแถบไคเปอร์ | [dāokhrǿ nai thaēp Khaipoē] (n, exp) EN: Kuiper belt planet FR: planète de le ceinture de Kuiper [ f ] | ดาวเคราะห์น้อย | [dāokhrǿ nøi] (n, exp) EN: asteroid ; minor planet FR: astéroïde [ m ] | ดาวเคราะห์ย่อย | [dāokhrǿ yøi] (n, exp) EN: minor planet | ดาวนพเคราะห์ | [dāonopphakhrǿ] (n) EN: planet FR: planète [ f ] | โดยวิธีวิเคราะห์ | [dōi withī wikhrǿ] (adv) FR: analytiquement ; par la méthode analytique | ฟันคราด | [fan khrāt] (n, exp) EN: teeth of a rake FR: dent de rateau [ m ] | ฟาดเคราะห์ | [fāt khrǿ] (v, exp) EN: drive off bad luck ; dispel misfortune | ฮอร์โมนสังเคราะห์ | [hǿmōn sangkhrǿ] (n, exp) FR: hormone de synthèse [ f ] | จังหวัดสมุทรสงคราม | [Jangwat Samut Songkhrām] (n, prop) EN: Samut Songkhram province FR: province de Samut Songkhram [ f ] | จันทรคราส | [jantharakhrāt = janthrakhrāt] (n) EN: lunar eclipse FR: éclipse de lune [ f ] | จุดคราก | [jut khrāk] (n, exp) EN: yield point | กำพร้าสงคราม | [kamphrā songkhrām] (n, exp) FR: orphelin de guerre [ m ] | การคิดเชิงวิเคราะห์ | [kān khit choēng wikhrǿ] (n, exp) EN: analytical thinking | การประกันภัยสงคราม | [kān prakanphai songkhrām] (n, exp) EN: war insurance | การประกาศสงคราม | [kān prakāt songkhrām] (n, exp) EN: declaration of war FR: déclaration de guerre [ f ] | การสังเคราะห์ | [kān sangkhrǿ] (n) EN: synthesis FR: synthèse [ f ] | การสังเคราะห์ด้วยแสง | [kān sangkhrǿ dūay saēng] (n, exp) EN: photosynthesis FR: photosynthèse [ f ] | การสจคราม | [kān songkhrām] (n) EN: war FR: guerre [ f ] | การวิเคราะห์ | [kān wikhrǿ] (n) EN: analysis FR: analyse [ f ] | การวิเคราะห์เชิงเหตุผล | [kān wikhrǿ choēng hētphon] (n, exp) EN: causal analysis | การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ | [kān wikhrǿ choēng khunnaphāp] (n, exp) EN: qualitative analysis FR: analyse qualitative [ f ] | การวิเคราะห์เชิงปริมาณ | [kān wikhrǿ choēng parimān] (n, exp) EN: quantitative analysis FR: analyse quantitative [ f ] | การวิเคราะห์ค่าสหสัมพันธ์ | [kān wikhrǿ khā sahasamphan] (n, exp) EN: correlation analysis | การวิเคราะห์คุณภาพน้ำ | [kān wikhrǿ khunnaphāp nām] (n, exp) FR: analyse de la qualité de l'eau [ f ] | การวิเคราะห์ความแปรปรวน | [kān wikhrǿ khwām praēprūan] (n, exp) EN: analysis of variance (ANOVA) | การวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วม | [kān wikhrǿ khwām praēprūan ruam] (n, exp) EN: analysis of covariance (ANCOVA) | การวิเคราะห์กระบวนการ | [kān wikhrǿ krabūankān] (n, exp) EN: process analysis |
| war crime | อาชญากรรมสงคราม | conventional warfare | (phrase) การยุทธตามรูปแบบ, การทำสงครามโดยใช้อาวุธและยุทธวิธีทางการทหาร ซึ่งแต่ละชนชาติจะเผชิญหน้ากันอย่างเปิดเผย | nonwoven | (n) ผ้าใยสังเคราะห์ เช่น The Trade organization for technical textiles and nonwovens industries focuses on promoting innovation, research and education., See also: A. woven | stonefly | (n, name) สโตนฟลาย เป็นแมลงใน อันดับ พลีคอปเทอร่า (Order Plecoptera: Class Insecta) ลักษณะตัวเต็มวัย (adult) แบ่งออกเป็น ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง ชัดเจน; ส่วนหัว (head) มีหนวด (antennae) ยาว 1 คู่ มีตารวม (compound eyes) 1 คู่ มีตาเดี่ยว (ocelli) 0-3 ตา มีปากแบบกัดกิน (Chewing mouthpart), ส่วนอก (thorax) มีขา 3 คู่ มีปีก 2 คู่เป็นแผ่นบางใส (membranous wings) ปีกคู่หลัง (hind wings) จะซ้อนพับอยู่ใต้ปีกคู่หน้า (fore wings), ส่วนท้อง (abdomen) ยาวแบ่งเป็นปล้อง; มีการเจริญเติบโตแบบไม่สมบูรณ์ (Incomplete metamorphosis) คือเจริญเติบโตจากไข่ ฟักออกมาเป็นตัวอ่อน ลอกคราบหลายครั้งจนเป็นตัวเต็มวัย โดยไม่มีระยะดักแด้; ในระยะตัวอ่อน (nymph) มีลักษณะคล้ายตัวเต็มวัยแต่ไม่มีปีก อาจพบเหงือก (gills) รูปร่างต่าง ๆ ตามลำตัวเป็นอวัยวะช่วยในการหายใจ อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำไหล (Lotic habitat, running water) บางชนิดมีนิสัยการกินแบบผู้ล่า (predator) กินสัตว์อื่นที่มีขนาดเล็กกว่าเป็นอาหาร แต่บางชนิดกินเศษซากตะกอนในแหล่งน้ำเป็นอาหาร (detritivore) และเมื่อลอกคราบครั้งสุดท้ายเป็นตัวเต็มวัยจะอาศัยอยู่บนบกใกล้แหล่งน้ำ สโตนฟลายบางชนิดที่มีวงจรชีวิตระยะตัวอ่อนเป็นเวลายาวนาน เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะจับคู่ผสมพันธุ์ทันทีโดยไม่กินอาหาร แต่ในบางชนิดที่มีวงจรชีวิตใช้เวลาในระยะตัวอ่อนน้อย เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะกินน้ำหรือเศษซากพืชหรือซากตะกอนเพียงเล็กน้อย เพื่อพัฒนาระบบสืบพันธุ์ให้เจริญเต็มที่ ก่อนจับคู่ผสมพันธุ์ เมื่อผสมพันธุ์แล้วตัวเต็มวัยเพศเมียจะวางไข่ลงในแหล่งน้ำไหลเพื่อให้ไข่ฟักออกมาเป็นตัวอ่อนอาศัยเจริญเติบโตในแหล่งน้ำไหลนั้นต่อไป; จากลักษณะการดำรงชีวิตโดยอาศัยพึ่งพาแหล่งน้ำอยู่เกือบตลอดทั้งวงจรของชีวิต แมลงชนิดนี้จึงจัดอยู่ในกลุ่มของแมลงน้ำ (Aquatic insect), See also: plecoptera | haccp | (abbrev) การวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤติที่ต้องควบคุม, มาตรฐานการผลิต ที่มีมาตรการป้องกันอันตรายที่ผู้บริโภคอาจได้รับจากการบริโภคอาหาร ย่อจาก hazard analysis critical control point | payroll tax | (n) เงิน (ภาษี) ส่วนหนึ่งที่หักได้จากเงินเดือนหรือค่าจ้าง และอีกส่วนจากนายจ้าง รัฐบาลหรือส่วนการปกครองท้องถิ่นเก็บเงิน (ภาษี) ส่วนนี้เพื่อเป็นค่าสวัสดิการสังคมสงเคราะห์ต่างๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล (เมื่ออายุมาก) ค่าชดเชยหรือใช้จ่ายขณะว่างงาน เป็นต้น | episodic | (adj) ที่เป็นตอนๆ, ชั่วคราว เช่น Researchers had already associated with specific, episodic climate changes. | data science | (n) วิทยาการข้อมูล, สหวิทยาการซึ่งประกอบด้วยวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณิตศาสตร์ สถิติ และสาขาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งใช้ในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจข้อมูลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป [ ศัพท์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับราชบัณฑิตยสภา ] | data analytics | (n) วิทยาการวิเคราะห์ข้อมูล, ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ข้อมูล โดยนำข้อมูลมาประมวลผลด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การจำแนกกลุ่ม การดำเนินการทางสถิติ การวิเคราะห์แนวโน้ม การค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะประจำของข้อมูล ซึ่งอาจจะไม่ปรากฏชัดเจนนัก [ ศัพท์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับราชบัณฑิตยสภา ] |
| abeyance | (n) การระงับไว้ชั่วคราว, See also: การหยุดพักชั่วคราว, Syn. pause | acting | (adj) ที่รักษาการแทน, See also: รักษาการแทน, ทำหน้าที่แทน, ทำหน้าที่ชั่วคราว, Syn. temporary, substitute, substituting, Ant. official, confirmed | adjunct | (adj) ซึ่งได้รับมอบหมายชั่วคราว, See also: ที่เข้ามาเสริมชั่วคราว | adversity | (n) เคราะห์กรรม, See also: ความทุกข์ร้อน, Syn. misfortune, reverse, trouble | afterward | (adv) ภายหลัง, See also: หลังจากนั้น, จากนั้น, ทีหลัง, คราวหลัง, ตอนหลัง, ต่อมา, ต่อจากนั้น, คราวหน้า, ครั้งต่อไป, ต่อไป, Syn. afterwards, subsequently | afterwards | (adv) ภายหลัง, See also: หลังจากนั้น, จากนั้น, ทีหลัง, คราวหลัง, ตอนหลัง, ต่อมา, ต่อจากนั้น, คราวหน้า, ครั้งต่อไป, ต่อไป, Syn. afterwars, subsequently | aid | (vt) ช่วยเหลือ, See also: สงเคราะห์, อนุเคราะห์, Syn. assist, help, assist | aid | (vi) ช่วยเหลือ, See also: เกื้อหนุน, สงเคราะห์, Syn. assist, help, assist | almoner | (n) นักสังคมสงเคราะห์ | almshouse | (n) บ้านสงเคราะห์คนจน, Syn. poorhouse, poverty | always | (adv) เสมอ, See also: เสมอๆ, ทุกคราว, ทุกครั้ง, ทุกที, เป็นประจำ, บ่อยๆ | American Revolution | (n) สงครามระหว่างอังกฤษกับอาณานิคมของอังกฤษในอเมริกา (ค.ศ. 1775-1783) | analyse | (vt) วิเคราะห์, See also: ศึกษา, ตรวจสอบ, พิจารณา, นำมาแยกเป็นส่วนๆ เพื่อพิจารณาในประเด็นต่างๆ, Syn. analyze, resolve into elements | analysis | (n) การวิเคราะห์, See also: การพิเคราะห์, การนำมาแยกเป็นส่วนๆ เพื่อพิจารณาในประเด็นต่างๆ, Syn. separation, breakdown | analysis | (n) จิตวิเคราะห์, See also: การวิเคราะห์ทางจิตใจ, Syn. psychotherapy, depth psychiatry | analysis | (n) ผลการวิเคราะห์ | analyst | (n) นักวิเคราะห์, Syn. examiner, investigator, interpreter | analyst | (n) นักวิเคราะห์ทางจิต, Syn. psychoanalyst, psychiatrist | analytic | (adj) เกี่ยวกับการวิเคราะห์, See also: ซึ่งใช้การวิเคราะห์, Syn. analytical, systematic | analytics | (n) วิเคราะห์วิทยา | analyze | (vt) วิเคราะห์, See also: ศึกษา, ตรวจสอบ, พิจารณา, Syn. analyse, examine, resolve into elements | anatomy | (n) การวิเคราะห์อย่างละเอียด | annular eclipse | (n) สุริยคราสที่เห็นเป็นวงแหวนรอบพระจันทร์ | aphelion | (n) จุดไกลสุดของดาวหางหรือดาวนพเคราะห์ที่อยู่ห่างจากพระอาทิตย์ | apnea | (n) ภาวะหยุดหายใจชั่วคราว, Syn. apnoea | apnoea | (n) ภาวะหยุดหายใจชั่วคราว, Syn. apnea | apogee | (n) จุดไกลสุดของดาวนพเคราะห์หรืออื่น ๆ ที่อยู่ห่างจากโลก | armistice | (n) การพักรบ, See also: การสงบศึกชั่วคราว, การหยุดรบชั่วคราว, Syn. temporary peace, cease-fire, truce | artificial | (adj) เทียม, See also: ปลอม, สังเคราะห์, Syn. unreal, fake, Ant. natural, genuine, real | assay | (n) การวิเคราะห์ทางเคมี | assay | (vt) วิเคราะห์, See also: ตรวจสอบ, Syn. test, analyze | assay | (n) สารที่ใช้วิเคราะห์ | auxiliary verb | (n) กริยานุเคราะห์, See also: กริยาช่วย | at one fell swoop | (idm) ในคราวเดียว, See also: ในเหตุการณ์เดียว | at times | (idm) บางครั้ง, See also: บางคราว | baby boom | (n) ยุคที่มีทารกคลอดมากกว่าปกติ (หลังสงครามโลกครั้งที่2) | baby-boom | (n) ยุคทารกถือกำเนิดมากขึ้น (หลังสงครามโลกครั้งที่2), See also: ยุคเบบี้บูม | baby-boomer | (n) ผู้เกิดตอนหลังสงครามโลกครั้งที่2, Syn. boomer | banshee | (n) วิญญาณหญิงที่ร้องครวญครางเตือนว่าคนในบ้านกำลังจะตาย | battering ram | (n) ไม้ท่อนยาวใหญ่ที่ใช้ในสงครามสำหรับพังประตูหรือกำแพง | battle | (n) การสู้รบ, See also: การประจัญบาน, การรบ, สงคราม, ยุทธการ, Syn. attack, fight | battle fatigue | (n) โรคทางจิตอันเกิดจากสงคราม, See also: โรคกลัวสงคราม, Syn. combat fatigue | battle-scarred | (adj) เหมือนสงคราม | beard | (n) เครา | bemoan | (vt) ร้องคร่ำครวญ, See also: รำพัน, ครวญคราง, โอดครวญ, Syn. bewail, cry | benefit | (n) เงินสงเคราะห์, See also: เงินช่วยเหลือ, เงินส่วนเพิ่ม, เงินชดเชยการประกัน | billet | (n) ที่พักชั่วคราว (โดยเฉพาะสำหรับทหาร) | billet | (n) คำสั่งทางทหารเกี่ยวกับสถานที่พักชั่วคราว | billet | (vt) จัดค่ายพักชั่วคราว, See also: จัดที่พักชั่วคราว, Syn. camp, berth | billet | (vt) สั่งให้ไปพักยังที่พักชั่วคราว |
| abeyance | (อะเบ' เอินซฺ) n. การหยุด, การยั้ง, การระงับชั่วคราว, ความไม่แน่นอน, Syn. inaction | abeyant | (อะเบ' เอินทฺ) adj. ซึ่งระงับชั่วคราว | accidental | (แอคซิเดน' เทิล) adj., n. บังเอิญ, ส่วนประกอบ, ลักษณะสังกัด, ส่วนที่ไม่เรียบ, เครื่องหมาย (ดนตรี) ชั่วคราว. -accidentally adv., Syn. unexpected | accra | (แอคค' คระ, อะครา') n. เมืองท่าและเมืองหลวงของประเทศกานา (Akkra) | accursed | (อะเคอร์' ซิค) adj. ถูกสาปแช่ง, เคราะห์ร้าย, น่าชิงชัง, อัปรีย์. -accursedness n., Syn. cursed, doomed, condemned | acetaldehyde | (แอสซิแทล' คิไฮดฺ) chem. สารเคมีชนิดหนึ่งที่ ใช้ฉาบแก้วให้เป็นกระจก และใช้ในการสังเคราะห์อินทรียสาร | acetamide | (แอสซิแทม' ไมดฺ) chem. สารเคมีชนิดหนึ่งที่ใช้ในการสังเคราะห์อินทรีย์สาร (acetamid) | acetate | (แอส' ซิเทท) n. เกลือหรือ ester ของ acetic acid, เส้นใยสังเคราะห์ที่ทำจากสารประกอบ acetic ester ของเซลลูโลส | acetic anhydride chem. | สารเคมีชนิดหนึ่งที่ ใช้ในการผลิตพลาสติกและใยสังเคราะห์ | acridine | (แอค' ริดีน) สารเคมีที่ใช้ในการสังเคราะห์สีย้อมและยา | acrolein | (อะโคร' ลีอิน) n., chem. ของเหลวไวไฟชนิดหนึ่ง ใช้สังเคราะห์สีย้อมและยา | acrose | น้ำตาลที่สังเคราะห์จากการจับตัวของ formaldehyde หรือ glucose | acrylic acid | (chem.) เป็นของเหลวที่มีฤทธิ์กัดกร่อนใช้ในการสังเคราะห์ acrylic resins | acrylonitrile | (แอคริโลไน' ทริล) chem. ของเหลวที่เป็นพิษชนิดหนึ่ง ใช้ในการสังเคราะห์บางและเส้นใยผ้า | adversity | (แอดเวอ' ซีที) n. ความเคราะห์ร้าย, ภัยพิบัติ, Syn. misfortune, calamity | aerocraft | (แอ' โรคราฟทฺ) n. เครื่องบิน (plane) | agamemnon | (แอกกะเมม' นอน) n. ชื่อกษัตริย์กรีกที่นำทัพในสงคราม Trojan | aid | (เอด) vt., n. ช่วยเหลือ, สงเคราะห์, อนุเคราะห์, ช่วยฉุกเฉิน, ผู้ช่วย, ผู้อุปถัมภ์, การอาศัย, แรงช่วย, สิ่งช่วย. -aider n. -aidful adj. | aircraft | (แอร์' คราฟทฺ) n., (pl. -craft) เครื่องบิน, Syn. airplane, aeroplane, plane | ajax | (เอ' แจคซฺ) วีรบุรุษชาวกรีกในสงคราม Trojan (great Ajzx, Telamonian Ajax) | albedo | (แอลบี' โด) n. สัดส่วนของแสงที่สะท้อนกลับจากดาวพรเคราะห์กับแสงที่ดาวนั้นได้รับ, อัตราสะท้อนกลับ | algorithm | (แอล' กะริธธึม) n. ระบบกฏเกณฑ์ในการแก้ปัญหาของจำนวนที่แน่นอนทางคณิตศาสตร์เช่นในการหาค่าของตัวหารร่วมที่สุด., Syn. algorism, -algorithmic adj. ขั้นตอนวิธีอัลกอริทึมหมายถึง การวิเคราะห์แยกแยะวิธีการทำงานให้เป็นขั้นเป็นตอนโดยกำหนดให้เรียงกันไปตามลำดับ การเขียนโปรแกรมในยุคแรก ๆ นั้น ผู้เขียนโปรแกรมจะต้องมองเห็นขั้นตอนในการแก้ปัญหาอย่างแจ่มชัดเสียก่อน จึงจะเขียนโปรแกรมได้ | alizarin | (อะลิซ' ซาริน) n., chem. สีย้อมชนิดหนึ่ง ใช้ในการสังเคราะห์สีย้อมชนิดอื่น | almoner | (แอล' มะเนอะ, อา' เมินเนอะ) n. เจ้าหน้าที่แจกของสงเคราะห์, นักสังคมสงเคราะห์ในโรงพยาบาล | almonry | (แอล' เมินรี, อา' เมินรี) n. สำนักงานสงเคราะห์, สำนักงานแจกของสงเคราะห์ | almshouse | (อาล์มซ' เฮาสฺ) n. บ้านสงเคราะห์คนจน, โรงทานสำหรับคนจน | almsman | (อาล์มซ' เมิน) n., (pl. -men) ผู้รับทาน, ผู้รับของสงเคราะห์, ผู้ให้ทาน, ผู้ให้ของสังเคราะห์ | almswoman | (อาล์มซ' วูเมิน) n., (pl. -women) หญิงผู้รับทาน, หญิงผู้รับของสงเคราะห์, หญิงผู้ให้ทานผู้ให้ของสงเคราะห์ | aludel | (แอล' ลูเดล) n. ภาชนะรูปผลแพร์ชนิดหนึ่งที่ใช้ในห้องปฏิบัติการทางเคมีสำหรับรองรับคราบระเบิดที่เกิดขึ้น | amberoid | (แอม' เบอรอยดฺ) n. อำพันสังเคราะห์ ที่ทำจากการอัดเรซิน (resins) ณ ที่อุณหภูมิสูง., Syn. ambroid | american revolution | สงครามระหว่างอังกฤษกับอาณานิคมของอังกฤษในอเมริกา (ค.ศ.1775 - 83) | ampicillin | (แอมพิซิล' ลิน) n. ยาเพนนิซิลลินกึ่งสังเคราะห์ที่มีฤทธิ์ด้านแบคทีเรียชนิดกรัม-บวกและกรัม-ลบ | anabolism | (อะแนบ' โบลิสซึม) n. การสังเคราะห์สารเชิงช้อนจากสารที่เชิงช้อนน้อย กว่าในสิ่งมีชีวิต | anaclisis | (แอนนะไคล' ซิส) n. ขบวนการเลือกแบบหนึ่งทางจิตวิเคราะห์ โดยดูจากปมที่เกี่ยวกับตัณหา (livido) . -anaclitic adj. | analyse | (แอน' นะไลซ) vt. วิเคราะห์, แยกธาตุจำแนกแยกแยะ, วิภาค, วิเคราะห์ | analysis | (อะแนล' ลิซิส) n. การวิเคราะห์, การแยกธาตุ, การจำแนกแยกแยะ, การวิเคราะห์, การวิภาค, Syn. anatomization, dissection | analyst | (แอน' นะลิสทฺ) n. ผู้วิเคราะห์, นักวิเคราะห์, จิตแพทย์ผู้ทำการวิเคราะห์ | analytic | (แอนนะลิท' ทิค, -เคิล) adj. เกี่ยวกับการวิเคราะห์, เกี่ยวกับการแยกธาตุ, เกี่ยวกับการจำแนกแยกแยะ., Syn. logical | analytics | (แอนนะลิท' ทิคซฺ') n. วิเคราะห์วิทยา | anatomy | (อะแนท' โทมี) n. กายวิภาควิทยา, แบบจำลองสิ่งมีชีวิตเพื่อใช้ศึกษาด้านกายวิภาควิทยา, โครงกระดูก, การตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียด | angary | (แอง' กะรี) n สิทธิของรัฐที่ทำสงครามในการยึดครองหรือทำลายทรัพย์สินของประเทศที่เป็นกลางแล้ว, รอไว้ชดใช้ค่าเสียหาย หรือสินไหมทดแทนในภายหลัง | anil | (แอน' นิล) n. พืชจำพวก Indigofera suffruticosa ที่ให้คราม. indigo, คราม, สีน้ำเงินเข้ม (......weak old woman) | aniline | (แอน' นิลิน -ไลน์) n. ของเหลวชนิดหนึ่งที่ใช้ในการสังเคราะห์สีและยา., Syn. anilin, aniline oil, phenylamine | anisole | (แอน' นิโซล) n. ของเหลวชนิดหนึ่งที่มีกลิ่นหอม , ใช้ในเครื่องหอม ในการสังเคราะห์สารอินทรีย์และเป็นยาฆ่าพยาธิ | annular eclipse l | ุริยคราสเป็นวงแหวนรอบพระจันทร์ที่มืด (an eclipse of the su | another | (อะนา' เธอะ) adj., pron. อีก, อีกหนึ่ง, อื่น, อย่างอื่น, คล้ายกัน. -one another ซึ่งกันและกัน. -another time คราวหน้า, Syn. substitute, alternative | ante-bellum | (แอน' ทิเบล' ลัม) adj. ก่อนสงคราม (before the war) | antiaircraft | (แอนทีแอร์' คราฟทฺ) adj., n. ต่อต้านอากาศยาน, ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน | aphanite | (แอฟ'ฟะไนท) แร่หินอย่างละเอียดที่ส่วนประกอบต่าง ๆ ของมันไม่สามารถวิเคราะห์ได้ด้วยตาเปล่า. -aphanitic adj. -aphanitism n. (a fine-grainedigneous rock) | aphelion | (อะฟี'ลิอัน, อะเฟ็ล'ลิอัน) n., (pl. aphelia) จุดไกลสุดของดาวหางหรือดาวนพเคราะห์ที่อยู่ห่างจากพระอาทิตย์ (furthest from the sun) |
| abeyance | (n) การพัก, การหยุด, การระงับชั่วคราว | accommodate | (vt) อำนวยความสะดวก, สงเคราะห์, จัดหาที่พักให้ | accursed | (adj) ถูกแช่ง, ถูกสาป, เคราะห์ร้าย, อัปรีย์ | adversity | (n) ความขัดสน, ความทุกข์ยาก, ภัยพิบัติ, ความเคราะห์ร้าย | aid | (n) ความช่วยเหลือ, การสงเคราะห์, การอุปถัมภ์ | aid | (vt) ช่วยเหลือ, อุปถัมภ์, สงเคราะห์ | aider | (n) ผู้ช่วย, ผู้สงเคราะห์, ผู้อุปถัมภ์ | almoner | (n) ผู้บริจาคทาน, นักสังคมสงเคราะห์ | ameliorate | (vt) สงเคราะห์, ช่วยเหลือ, เยียวยา, ผดุง | amelioration | (n) การสงเคราะห์, การเยียวยา, การช่วยเหลือ | analyse | (vt) วิเคราะห์, จำแนก, วิภาค, แยกแยะ | analysis | (n) วิภาค, การแยกแยะ, การวิเคราะห์ | analytic | (adj) เกี่ยวกับการวิเคราะห์ | analytical | (adj) เกี่ยวกับการวิเคราะห์ | analyze | (vt) วิเคราะห์, จำแนก, วิภาค, แยกแยะ | anatomize | (vt) วิเคราะห์, แบ่งแยก, ชำแหละ(ร่างกาย) | antiquarian | (adj) เก่าแก่, โบราณ, เก่าลายคราม | antique | (adj) เก่าลายคราม, เก่าแก่, พ้นสมัย, ล้าสมัย, โบราณ | assay | (n) การพยายาม, การทดสอบ, การทดลอง, การวิเคราะห์ | assay | (vt) พยายาม, ทดสอบ, ตรวจสอบ, ทดลอง, วิเคราะห์ | assist | (vt) ช่วยเหลือ, สงเคราะห์, สนับสนุน | assistance | (n) ความช่วยเหลือ, การอนุเคราะห์, การสงเคราะห์ | asteroid | (n) ดาวเคราะห์ | AUXILIARY auxiliary verb | (n) กริยาช่วย, กริยานุเคราะห์ | battle | (n) การต่อสู้, การรบ, การปะทะ, การสงคราม, การประจัญบาน | beard | (n) หนวดเครา | bearded | (adj) มีหนวดมีเครา | beardless | (adj) ไม่มีหนวด, ไม่มีเครา | belligerence | (n) การทำสงคราม, ความกระหายสงคราม | belligerency | (n) ภาวะสงคราม, การทำสงคราม | belligerent | (adj) ชอบรบกัน, ชอบสงคราม, กระหายสงคราม, ชอบตีรันฟันแทง | belligerent | (n) คู่พิพาท, คู่ปรปักษ์, คู่สงคราม, คู่กรณี | bemoan | (vt) ร้องคร่ำครวญ, ร้องครวญคราง | blueing | (n) ครามย้อมผ้า | CHEMICAL chemical warfare | (n) สงครามเคมี | china | (n) เครื่องลายคราม, เครื่องถ้วยชาม, เครื่องเคลือบดินเผา | chinaware | (n) เครื่องลายคราม, เครื่องถ้วยชาม, เครื่องสังคโลก | CIVIL civil war | (n) สงครามกลางเมือง | COLD cold war | (n) สงครามเย็น | coming | (adj) ที่กำลังมา, ต่อไป, จะมาถึง, คราวหน้า, มีหวัง | conflict | (n) การต่อสู้, การปะทะกัน, สงคราม, การสู้รบ | construe | (n) การตีความ, การวิเคราะห์ประโยค, การอนุมาน, การอธิบาย | construe | (vt) แปลความ, บรรยาย, อธิบาย, ขยายความ, ชี้แจง, ตีความ, วิเคราะห์ | critic | (n) นักวิจารณ์, นักวิเคราะห์, ผู้ติ | criticism | (n) การวิจารณ์, การวิเคราะห์, การติเตียน, บทวิจารณ์ | criticize | (vt) วิจารณ์, วิเคราะห์, ติเตียน, จับผิด | Crusade | (n) สงครามศาสนา, สงครามครูเสด | crusader | (n) ผู้ทำสงครามศาสนา | deciduous | (adj) ซึ่งเปลี่ยนคราบ, ซึ่งสลัดใบ, ซึ่งผลัดใบ, ซึ่งเปลี่ยนใบ | delineate | (vt) วาดภาพ, วาดเค้าโครง, วาดลายเส้น, วิเคราะห์, พรรณนา |
| Act of war | เหตุแห่งสงคราม คือการกระทำหรือเหตุการณ์ใดๆที่ทำให้อีกฝ่ายมีความชอบธรรมในการประกาศสงคราม, Syn. Casus belli | analyzed | (vt) กระบวนการวิเคราะห์ | art of war | (phrase) ตำราพิชัยสงคราม | bankai | (vi, vt) บังไค (ตราสวัสดิกะ) สัญลักษณ์ที่ใช้ในสมัยสงครามโลก ถูกคิดค้นขึ้นโดยฮิตเลอร์ หรือ คำที่ใช้ในการ ปลดปล่อยพลังของเหล่ายมฑูต ในการ์ตูนเรื่อง Bleach Ex: ปลดปล่อยสวัสดิกะ - จงโปรยปรายเซมบงซากุระคาเงโยชิ หรือ บังไค เซมบซากุระคาเงโยชิ นั่นเอง Image: | Brick Dust Urine | ปัสสาวะเข้มข้นมากในช่วงสองสามวันแรกของทารกสามารถมีผลึกยูริก (ผลึกกรดยูริก) ผลึกเหล่านี้อาจทําให้เกิดสีชมพู, สีแดง, หรือสีส้ม, ผงคราบในผ้าอ้อมเด็กทารกของคุณเรียกว่าฝุ่นอิฐ.อาจจะน่ากลัว แต่ฝุ่นอิฐเป็นเรื่องปกติสําหรับทารกแรกเกิดจํานวนมาก | chinaware | เครื่องลายคราม | Chloroprene rubber | (n) ยางคลอโรพรีน เป็นยางที่สังเคราะห์จากมอนอเมอร์ของคลอโรพรีน ภายใต้สภาวะที่เหมาะสม เป็นยางที่มีขั้วเนื่องจากประกอบด้วยอะตอมของคลอรีน ทำให้ยางชนิดนี้มีสมบัติด้านการทนไฟ, ความทนต่อสารเคมีและน้ำมัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้งานในลักษณะดังกล่าวได้แก่ ยางซีล, ยางสายพานลำเลียงในเหมืองแร่ เป็นต้น | chromatograph | (n) กรรมวิธีในการวิเคราะห์ทางวิชาเคมี : เทคนิคสำหรับการแยกส่วนประกอบในสารผสม | contingent worker | (n) พนักงานชั่วคราว, ลูกจ้างชั่วคราว | curiousity | (n) ความอยากรู้อยากเห็น, ของหายาก, ของลายคราม, ลักษณะที่แปลกและน่ารู้น่าสนใจ, ความผิดธรรมดา, ความแปลก, คนหรือปรากฏการณ์แปลกๆ, ความอยากรู้ | declare war on | (vt, phrase) ประกาศสงครามกับ | Diskriminanzanalyse { f } | การวิเคราะห์จำแนกประเภท | dispatcher | (n) คือผู้มีหน้าที่รับลงทะเบียน ยอดจำนวนลูกค้าที่ Sender แต่ละคน มาแจ้งให้ทราบและเรียกรถยนต์VIP ซึ่งจอดรออยู่แล้วให้มารับ-ส่ง ลูกค้า (รถเบ็นซ์, วอลโว่, ครามลีย์) ค้นหาเพิ่มเติมได้ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Dispatcher | Epstein pearls | ซีสต์สีขาวขนาดเล็กชั่วคราวที่เกิดขึ้นตามแนวกึ่งกลางของเพดานแข็งของทารกแรกเกิดจํานวนมาก | facade | (n) คราบ | faddish | [/ˈfadɪʃ/] (adj) เป็นที่นิยมชมชอบชั่วครั้งชั่วคราว, เป็นที่นิยมอย่างมากในระยะเวลาสั้นๆ | Grand Master | (n) อัคราจารย์, บรมครู | hospitalers | (n) สมาชิกคณะสงฆ์และทางทหารตั้งแต่สมัยสงครามครูเสด ผูสงเคราะห์คนเจ็บในโรงพยาบาล | mayfly | (n, name, uniq) ชีปะขาว หรือชีผะขาวก็เรียก ชีผ้าขาวก็เรียก หรือเมย์ฟลายส์ (mayflies) ชื่อวิทยาศาสตร์ เอพฮีมีรอบเทอรา (Ephemeroptera) ตัวขนาดเล็กถึงกลาง ปีกบางมีเส้นมากมาย ปีกคู่แรกใหญ่กว่าคู่หลัง ตัวเมียวางไข่ในน้ำ ตัวอ่อนรูปร่างเรียวยาวอาศัยในน้ำนาน 1-2 ปี ลอกคราบหลายครั้งจนเป็นแมลงโตเต็มวัย มีปีก ชอบเล่นไฟ มันมีอายุเพียง 1-2 วันเท่านั้น ไม่กินอาหาร ผสมพันธุ์แล้วตาย ฤดูกาลวางไข่อยู่ในราวกลางเดือนเมษายน พบใกล้แหล่งน้ำ บ่อน้ำ ลำธาร ตัวแก่เต็มที่จะลอกคราบออกพร้อมบินขึ้นจากผิวน้ำไปยังแสงสว่าง เป็นการบินขึ้นมาดูโลกครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิต | Nakhon Ratchasima | (n) นครราชสีมา, โคราช | overanalyze | วิเคราะห์มากเกินไป | overlapping territorial claims area | (n) พื้นที่ทับซ้อน, พื้นที่ทางบกหรือทางทะเลซึ่งมีประเทศมากกว่า ๑ ประเทศ อ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ สงคราม ความเชื่อทางศาสนา ที่ตั้งของชุมชนทางชาติพันธุ์หรือชนกลุ่มน้อย หรือผลประโยชน์แห่งรัฐ เช่น พื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหารที่มีปัญหาการอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ดังกล่าว ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา. หมู่เกาะสแปรตลีที่เป็นพื้นที่ทับซ้อน มีหลายประเทศต่างอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะทั้งหมดหรือบางส่วนของหมู่เกาะ ได้แก่ จีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน บูรไน และ มาเลเซีย | p.o.w. | (n) เชลยสงคราม, Syn. prisoner of war | pop-up store | ร้านค้าที่เปิดในลักษณะชั่วคราวในระยะเวลาสั้นๆ ไม่ถาวร โดยมักเช่าพื้นที่ เช่น ตามห้างสรรพสินค้า หรืองานเทศกาลต่างๆ | pop-up store | ร้านผุดชั่วคราว | RMB | (n, uniq) The renminbi (simplified Chinese: 人民币; traditional Chinese: 人民幣; pinyin: rénmínbì; literally "people's currency") is the currency of the People's Republic of China (PRC) - คือ ชื่อเรียกของเงินจีน โดยหน่วยเงินสกุลนี้ คือ หยวน [ yuan (simplified Chinese: 元 or 圆; traditional Chinese: 圓; pinyin: yuán; Wade-Giles: yüan) ] เงิน RMB - renmibi นั้น เริ่มต้นครั้งแรกในปี 1948 โดยธนาคาร People's Bank of China หนึ่งปีก่อนพรรคคอมมิวนิสจีนจะชนะในสงครามการเมือง โดยเงินนี้ เรียกว่า renmibi นั้น แปลว่า เงินของประชาชน "People's Currency" - สำหรับหน่วยเงินจีนนั้น สามารถใช้ได้ทั้ง RMB / CNY / ¥. >> อ่านเพิ่มเติมใน http://en.wikipedia.org/wiki/Rmb Image: | S.W.O.T | การวิเคราะห์ จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส และภัยคุกคาม S = Strengths W = Weaknesses O = Oppoortunities T = Threats หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ใน website ด้วยคำว่า "SWOT Analysis" ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?passTo=3f7fd969a12ed4fdee7b1181c449fb60&bookID=292&read=true&count=true | scum | (n, vt) เกี่ยวกับการพิมพ์ หมายถึง การเกิดคราบในบริเวณไร้ภาพบนแม่พิมพ์ออฟเซ็ต | shelter | (n) สถานสงเคราะห์ | sit tight | อดทนรอคอยจนกว่าจะถึงคราวถัดไป | spectroscopy | (n) การใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์สเปกตรัม | stand down | (n) การหยุดการโจมตี(ปฏิบัติการ)ชั่วคราว | Stoneflies | (n) สโตนฟลาย เป็นแมลงใน อันดับ พลีคอปเทอร่า (Order Plecoptera: Class Insecta) ลักษณะตัวเต็มวัย (adult) แบ่งออกเป็น ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง ชัดเจน; ส่วนหัว (head) มีหนวด (antennae) ยาว 1 คู่ มีตารวม (compound eyes) 1 คู่ มีตาเดี่ยว (ocelli) 0-3 ตา มีปากแบบกัดกิน (Chewing mouthpart), ส่วนอก (thorax) มีขา 3 คู่ มีปีก 2 คู่เป็นแผ่นบางใส (membranous wings) ปีกคู่หลัง (hind wings) จะซ้อนพับอยู่ใต้ปีกคู่หน้า (fore wings), ส่วนท้อง (abdomen) ยาวแบ่งเป็นปล้อง; มีการเจริญเติบโตแบบไม่สมบูรณ์ (Incomplete metamorphosis) คือเจริญเติบโตจากไข่ ฟักออกมาเป็นตัวอ่อน ลอกคราบหลายครั้งจนเป็นตัวเต็มวัย โดยไม่มีระยะดักแด้; ในระยะตัวอ่อน (nymph) มีลักษณะคล้ายตัวเต็มวัยแต่ไม่มีปีก อาจพบเหงือก (gills) รูปร่างต่าง ๆ ตามลำตัวเป็นอวัยวะช่วยในการหายใจ อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำไหล (Lotic habitat, running water) บางชนิดมีนิสัยการกินแบบผู้ล่า (predator) กินสัตว์อื่นที่มีขนาดเล็กกว่าเป็นอาหาร แต่บางชนิดกินเศษซากตะกอนในแหล่งน้ำเป็นอาหาร (detritivore) และเมื่อลอกคราบครั้งสุดท้ายเป็นตัวเต็มวัยจะอาศัยอยู่บนบกใกล้แหล่งน้ำ สโตนฟลายบางชนิดที่มีวงจรชีวิตระยะตัวอ่อนเป็นเวลายาวนาน เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะจับคู่ผสมพันธุ์ทันทีโดยไม่กินอาหาร แต่ในบางชนิดที่มีวงจรชีวิตใช้เวลาในระยะตัวอ่อนน้อย เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะกินน้ำหรือเศษซากพืชหรือซากตะกอนเพียงเล็กน้อย เพื่อพัฒนาระบบสืบพันธุ์ให้เจริญเต็มที่ ก่อนจับคู่ผสมพันธุ์ เมื่อผสมพันธุ์แล้วตัวเต็มวัยเพศเมียจะวางไข่ลงในแหล่งน้ำไหลเพื่อให้ไข่ฟักออกมาเป็นตัวอ่อนอาศัยเจริญเติบโตในแหล่งน้ำไหลนั้นต่อไป; จากลักษณะการดำรงชีวิตโดยอาศัยพึ่งพาแหล่งน้ำอยู่เกือบตลอดทั้งวงจรของชีวิต แมลงชนิดนี้จึงจัดอยู่ในกลุ่มของแมลงน้ำ (Aquatic insect), See also: Stonefly, Plecoptera, Stonefly, Syn. Plecoptera | swot | (abbrev) SWOT คือ รูปแบบการวิเคราะห์ทางการตลาด เกิดจาก Strengths, Weaknesses, Opportunities และ Threats, Syn. SWOT Analysis | swot | การวิเคราะห์ จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส และภัยคุกคาม S = Strengths W = Weaknesses O = Oppoortunities T = Threats หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ใน website ด้วยคำว่า "SWOT Analysis" ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?passTo=3f7fd969a12ed4fdee7b1181c449fb60&bookID=292&read=true&count=true | union | (n) ทหารฝ่ายเหนือของสงครามกลางเมือง, Syn. yankee | warlock | [วอ-ล๊อค] (n) กุญแจแห่งสงคราม | WWII | (n) สงครามโลกครั้งที่ 2 | งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารอยต่อเหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กกล้าไร้สนิม เนื่องจ | งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารอยต่อเหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กกล้าไร้สนิม เนื่องจากมีความแตกต่างด้านสมบัติวัสดุทั้งสองชนิดทำให้เกิดจุดบกพร่องต่างๆทำให้การเชื่อมรอยต่อโลหะทั้งสองได้ค่อนข้างยาก งานวิจัยนี้เพื่อศึกษาปัจจัยการเชื่อมที่มีผลต่อสมบัติเชิงกลความต้านแรงดึงและค่าความแข็งด้วยโปรแกรม ทางสถิติ โดยใช้กระบวนการเชื่อม มิกส์ ลวดเชื่อมสเตนเลสSpeedarc308 Lsi*1.2mm การทดสอบประกอบด้วยโครงสร้างจุลภาค ความแข็ง ความแข็งแรงดึง การดัดโค้ง และการใช้โปรแกรมทางสถิติ กระแสไฟเชื่อม 112A ความเร็วเชื่อ 2 m/s แก๊สปกคลุมแนวเชื่อม Ar 80% + CO2 20 % การทดสอบตามมาตรฐาน ASME BPVC IX ผลการทดสอบค่าความแข็งเฉลี่ย 166.23 HV ความแข็งแรงดึงเฉลี่ย 262.25 MPa การดัดโค้งพบว่าชิ้นงานที่ทำการทดสอบนั้นแตกหัก (Broken) ทั้งหมด จึงสรุปได้ว่าชิ้นงานที่ทำการทดสอบนั้นไม่สามารถรับแรงดัดโค้งได้ การวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมทางสถิติ เมื่อกำหนดค่า α มีค่าเท่ากับ 0.05 พิจารณาอันตรกิริยาจากค่า P-Value Strength เท่ากับ 0.884 และค่าความแข็ง Hardness เท่ากับ 0.227 การทดลองทั้งหมดมีระดับความเชื่อมั่นอยู่ที่ 95% ทำให้การทดลองครั้งนี้ไม่มีอิทธิพลต่อผลการทดลองอย่างนี้นัยสำคัญ คำสำคัญ: เหล็กคาร์บอน SS400 , เหล็กกล้าไร้สนิม SUS304 , การเชื่อมมิก , โปรแกรมทางสถิติ | อุกาบาต | (n) (แอส'เทอรอยด) n. ดาวเคราะห์น้อย, อุกาบาต, กลุ่มวัตถุในอวกาศที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-480 ไมล์ หรือน้อยกว่าโคจรอยุ่ระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัส. -adj. คล้ายดาว. -asteroidal adj. (minor planet) หมายเหตุ. ฝรั่งเขาใช่คำว่า asteroid 2014 แต่ไทยใช้คำว่า อุกาบาต 2014, See also: meteorite, pallasite |
| 休校 | [きゅうこう, kyuukou] (vt) ปิดโรงเรียน(ชั่วคราว) | 惑星 | [わくせい, wakusei] (n) ดาวเคราะห์ | 戦争 | [せんそう, sensou] (n) สงคราม | 明敏 | [めいびん, meibin] (n, adj, adv) ความคิด, เชาวน์, ไหวพริบ, มีไหวพริบ, เข้าใจภาษา, เป็นเรื่องเป็นราว, ฉลาด, รู้จักคิด, รู้จักเหตุผล, ข่าวคราว | 暫定 | [ざんてい, zantei] (n) กำหนดไว้ชั่วคราว | 暫定政府 | [ざんていせいふ, zanteiseifu] (n) รัฐบาลชั่วคราว | 暫定案 | [ざんていあん, zanteian] (n) แผนการชั่วคราว | 検討 | [けんとう, kentou] (n) การค้นคว้า พิเคราะห์พิจารณา | 次回 | [じかい, jikai] (n) ครั้งต่อไป, คราวหน้า | 臨時 | [りんじ, rinji] (adj, adv) เฉพาะกิจ, ชั่วคราว |
| 育児手当 | [いくじてあて, ikujiteate] (n) เงินสงเคราะห์บุตร | 人口甘味料 | [じんこうかんみりょう, jinkoukanmiryou] (n) น้ำตาลเทียม, น้ำตาลสังเคราะห์ | 泥濘 | [ぬかるみ, nukarumi] (n, vt) คราบ, รอยเปื้อน | 油井 | [ゆせい, yusei] (n) ดาวนพเคราะห์ | 解析 | [かいせき, kaiseki] (n) การวิเคราะห์ | 解析する | [かいせきする, kaisekisuru] (vt) การวิเคราะห์ | 便 | [び, bi] (n) ข่าวคราว วิธีการขนส่ง | 藍 | [あい, ai] (n) (สี)คราม ผงคราม ต้นคราม, See also: R. 藍色 | 縁 | [よすが, yosuga] (n, vi, vt) (ชานซฺ) n. โอกาส, หนทาง, ลักษณะที่เป็นไปได้, หนทางสำเร็จ, ความเป็นไปได้, การเสี่ยง, ช่องทาง, ท่าทาง, โชค, วาสนา, เคราะห์, ยถากรรม, ความบังเอิญ. -vi. ถือโอกาส, เสี่ยง, พบโดยบังเอิญ -vt. เกิดขึ้นโดยบังเอิญ, S. happening, risk, opening, happen | 補助 | [ほじょ, hojo] การอนุเคราะห์ ความช่วยเหลือทางการเงิน (ของ)สำรอง | 合成 | [ごうせい, gousei] (n) (n) การปะติดปะต่อ, การสังเคราะห์, การประสม | 仮置き | [かりおき, karioki] (n) การวางไว้ชั่วคราว | 費用便益分析 | [ひようべんえきぶんせき, hiyouben'ekibunseki] การวิเคราะห์ต้นทุนและผลประโยชน์, See also: R. cost-benefit analysis | 助動詞 | [じょどうし, jodoushi] (n) คำกริยานุเคราะห์, See also: R. auxiliary verb | 黄ばみ | [きばみ, kibami] (n) คราบเหลือง | 戦法 | [きばみ, senpou] (n) สูตรสงคราม | 戻ってきたのは | [もってきたのは, mottekitanoha] (n) การพูดไม่ออก, การเป็นใบ้ชั่วคราว (จากความตะลึง) | 武勲 | [ぶくん, bukun] (n) ผลงาน, เกียรติประวัติ, วีรกรรม (ในสงคราม) | 砲戦 | [ほうせん, housen] (n) สงครามปืนใหญ่ | 人造 | [じんぞう, jinzou] สร้างโดยมนุษย์, สังเคราะห์, เทียม, ประดิษฐ์ |
| 戦時 | [せんじ, senji] TH: สมัยสงคราม | 被る | [こうむる, koumuru] TH: รับเคราะห์ EN: suffer | 生やす | [はやす, hayasu] TH: ไว้หนวดเครา EN: to wear beard | 休む | [やすむ, yasumu] TH: หยุดพักชั่วคราว EN: to have a break |
| Krieg | (n) |der, pl. Kriege| สงคราม | jammern | (vt) |jammerte, hat gejammert| บ่นครวญคราง, รำพึงรำพัน | Pech | (n) |das, nur Sing.| โชคร้าย, การมีเคราะห์ | gelegentlich | (adj, adv) บางครั้งบางคราว, ในบางโอกาส เช่น Er raucht gelegentlich, aber ich nie. เขาสูบบุหรี่เป็นบางครั้ง แต่ฉันไม่สูบเลย, Syn. manchmal | Luftangriff | (n) |der, pl. Angriffe| การโจมตีทางอากาศ ในสงคราม | Gefallene | (n) |der, pl. Gefallenen| ทหารที่เสียชีวิตในสงคราม | stachlig | (adj) ที่มีหนามมาก เช่น ein stachliger Kaktus = ต้นกระบองเพชรที่มีหนามทิ่มตำ, ein Bart = หนวดเครา | vorübergehend | (adv) ชั่วคราว | KZ | (n, abbrev) เป็นคำย่อของ Konzentrationslager ซึ่งแปลว่า สถานที่หรือค่ายกักกัน(โดยเฉพาะชาวยิวในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง) | untersuchen | (vt) |untersuchte, hat untersucht| ตรวจสอบ, ทดสอบ, วิเคราะห์ | analysieren | (vt) |analysierte, hat analysiert| วิเคราะห์, ศึกษาหรือตรวจสอบคุณสมบัติหรือโครงสร้าง เช่น ein Problem analysieren วิเคราะห์ปัญหา | zerstören | (vt) |zerstörte, hat zerstört| ทำลาย, ทำให้เสียหายพินาศ เช่น Der zweite Weltkrieg hat Deutschland total zerstört. สงครามโลกครั้งที่สองได้ทำความเสียหายแก่ประเทศเยอรมนีเป็นอย่างมาก | erobern | (vt) |eroberte, hat erobert| ชนะ(ใจหรือสงคราม ไม่ได้หมายถึงด้านกีฬาหรือการแข่งขัน) เช่น Die Schauspielerin erobert die Herzen ihrer Zuschauer. นักแสดงคนนี้ชนะใจของผู้ชม, Syn. besiegen | Sozialamt | (n) |das, pl. Sozialämter| กรมสังคมสงเคราะห์ | Planet | (n) |der, pl. Planeten| ดาวเคราะห์ | Satellit | (n) |der, pl. Satelliten| บริวาร, ดาวเทียม, ดาวบริวารของดาวนพเคราะห์ Image: | von Zeit zu Zeit | (phrase) เป็นบางครั้งบางคราว | auswerten | (vt) |wertete aus, hat ausgewertet| วิเคราะห์ออกมา, ประเมินผลออกมา เช่น Seine Gruppe wertete unter anderem aus, wie viele Patente die Unternehmensgründer zusammen mit Kollegen anmeldeten. | Reaktionszentrum | (n) |das, pl. Reaktionszentren| ศูนย์รวมการรับแสงของปฏิกิริยาสังเคราะห์ด้วยแสงในคลอโรพลาสต์ เช่น Die absorbierte Energie wird über eine Vielzahl von Pigmenten zum sogenannten Reaktionszentrum geleitet. Dieser Energietransferprozess ist sehr schnell., In Pflanzen ist jedes Reaktionszentrum der Photosynthese von mehreren hundert Farbstoff-Molekülen umgeben. |
| de temps en temps | (phrase) บางครั้งบางคราว | temporaire | (adj) ชั่วคราว เช่น Travail temporaireว L’hébergement temporaire permet d’accueillir des personnes âgées au sein d’un logement-foyer pour une durée limitée. |
| SylvainKz | (n) อ่านว่า Sylvain เป็น ถูกเรียกชื่อใหม่โดยชาวฝรั่งเศษผู้หนึ่งซึ่งได้อ่าน เจอในตำนานกรีก ซึ่งเป็นนักรบร่างกำยำ ฉลาดเป็นเลิศ (ชื่อของแม่ทัพนั้นออกเสียงคล้ายกัน) และได้ถูกยกย่องเป็นกษัตริย์ หลังจากได้นำกองกำลังไปช่วยเครทอส เพื่อปราบเทพเจ้า Olympus จึงได้ตั้งชื่อไปในพจนานุกรมใหม่ว่า SylvainKz K หมายถึงกษัตริย์ z หมายถึง ผู้ที่อยู่เบื้องหลังสุด ของชัยชนะในสงครามเทพเจ้านั้น |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |