369 ผลลัพธ์ สำหรับ *ออกไป*
ภาษา
หรือค้นหา: ออกไป, -ออกไป-Longdo Unapproved MED - TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
rumor mill | (n) กระบวนการแพร่ข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริงออกไป |
Longdo Unapproved TH - TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
แผ่นกั้น | วัตถุที่มีลักษณะแบนเรียบ ใช้สำหรับการกั้น ขวาง ไม่ให้มีวัตถุอื่นเข้ามาและออกไป |
Longdo Unapproved KO - TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
동방신기 | [ทงบังชินกิ] (n, uniq) เป็นบอยแบนด์จากเกาหลีใต้ ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 2003 ในสังกัดเอสเอ็มเอ็นเตอร์เทนเมนต์ชื่อวงแปลว่า "เหล่าเทวาผู้เจิดจรัสแห่งบุรพทิศ" แรกก่อตั้ง วงประกอบด้วยสมาชิก 5 คน คือ ยูโน ยุนโฮ หัวหน้าวง, ชเวคัง ชางมิน, ยองอุง แจจุง, มิกกี ยูชอน และซีอา จุนซู กระทั่งเดือนกรกฎาคม 2009 แจจุง ยูชอน และจุนซู ฟ้องร้องตันสังกัด กิจกรรมต่าง ๆ ของวงจึงหยุดเป็นเวลา 2 ปี 3 เดือน ภายหลัง สมาชิกทั้งสามลาออกไปตั้งวงใหม่ชื่อ เจวายเจ (JYJ) สังกัดซีเจสเอนเตอร์เทนเมนต์ (C-JeS Entertainment) ทงบังชินกีจึงกลายเป็นกลุ่มนักร้องคู่โดยเหลือสมาชิกคือ ยุนโฮ และ ชางมิน |
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
กรม ๓ | (กฺรม) น. หมู่เหล่าอันเป็นที่รวมกำลังไพร่พลของแผ่นดินตามลักษณะปกครองสมัยโบราณ เพื่อประโยชน์ในราชการและเวลาเกิดศึกสงคราม จะได้เรียกระดมคนได้ทันท่วงที บรรดาชายฉกรรจ์ต้องเข้าอยู่ในกรมหรือในหมู่เหล่าใดเหล่าหนึ่ง เรียกว่า สังกัดกรม มีหัวหน้าควบคุมเป็นเจ้ากรม ปลัดกรม ตามลำดับ ซึ่งเมื่อพระเจ้าแผ่นดินทรงตั้งให้เจ้านายปกครองเป็นองค์ ๆ เรียกว่าตั้งกรม แล้ว เจ้านายพระองค์นั้นก็ ทรงกรม เป็น เจ้าต่างกรม เพราะมีกรมขึ้นต่างหากออกไปเป็นกรมหนึ่ง มีอำนาจตั้งเจ้ากรม ปลัดกรม เป็น หมื่น ขุน หลวง พระ พระยา ได้ และเรียกชื่อกรมนั้น ๆ ตามบรรดาศักดิ์เจ้ากรมว่า กรมหมื่น กรมขุน กรมหมื่น กรมขุน กรมหลวง กรมหลวงกรมพระ และกรมพระยา หรือ เมื่อจะทรงกรมสูงขึ้นกว่าเดิม ก็โปรดให้ เลื่อนกรม ขึ้น โดยเจ้ากรมมีบรรดาศักดิ์เลื่อนขึ้น เช่นจากหมื่นเป็นขุน, มาในปัจจุบันชื่อกรมเหล่านี้มีความหมายกลายเป็นพระอิสริยยศและพระนามเจ้านายเท่านั้น. |
กระจัด ๑ | แยกย้ายออกไป เช่น ลูกหลานกระจัดพลัดพราย (คาวี). |
กระจายเสียง | ก. ส่งเสียงแพร่ไกลออกไป. |
กระชัง ๒ | น. เครื่องสำหรับขังปลาชนิดหนึ่ง ใช้ไม้ไผ่ทำเป็นกง ๔ อัน แล้วผูกด้วยซี่ไม้ไผ่โดยรอบ รูปกลม หัวท้ายเรียว ตอนบนเจาะเป็นช่อง มีฝาปิด ใช้ไม้ขัดฝา ๒ ข้าง ใช้ไม้ไผ่กระหนาบเพื่อให้ลอยได้ ในขณะออกไปจับปลาตามกรํ่า เมื่อจับปลาหรือกุ้งได้ก็เอาใส่ไว้ในนั้นชั่วคราว, อีกชนิดหนึ่ง สานด้วยไม้ไผ่ มีปากเปิดกว้างคล้าย ๆ ตะกร้าหรือเข่งใส่ของ แต่ใหญ่กว่ากระชังชั่วคราวนั้นหลายเท่า เป็นที่สำหรับจับปลาขนาดใหญ่มาขังไว้หรือเลี้ยงลูกปลาให้โตตามที่ต้องการ เพื่อบริโภคหรือค้าขาย และเอากระชังนี้ผูกติดหลักแช่ลอยนํ้าไว้. |
กระเด็น | ก. เคลื่อนจากที่เดิมหรือแตกแยกจากที่เดิมออกไปโดยเร็วเพราะกระทบสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยแรง. |
กระถด | ก. ขยับออกไปเล็กน้อย, ถด ก็ว่า. |
กระทงเพชร | น. ไม้ติดขวางรองแคร่เกวียนเพื่อยึดไม่ให้แคร่แยกออกไป. |
กระเบน | น. ชื่อปลากระดูกอ่อนพวกหนึ่ง มีหลายชนิด หลายสกุล และหลายวงศ์ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ลำตัวกว้างตั้งแต่ ๑๕-๓๐๐ เซนติเมตร ลำตัวแบนลงมาก และต่อเนื่องกับครีบอกแผ่ออกด้านข้าง บางชนิดแผ่ออกไปจดด้านหน้าและด้านท้ายเกือบเป็นวงกลมดูคล้ายจานหรือว่าว บางชนิดแผ่ยื่นด้านข้างออกไปเป็นปีกคล้ายนกหรือผีเสื้อ และบางชนิดครีบอกแผ่ไปไม่ถึงส่วนหน้า ทำให้หัวแยกจากลำตัวและส่วนยื่นของหัวเป็นลอน มีเหงือก ๕ คู่ อยู่ด้านล่างของส่วนหัว บริเวณถัดจากส่วนท้ายของนัยน์ตามีรูเปิดข้างละช่อง ซึ่งด้านในติดต่อกับโพรงเหงือกและปาก หางส่วนมากเรียว สั้นบ้างยาวบ้าง มักมีผิวหยาบหรือขรุขระ บางพวกมีเงี่ยงอยู่บนหางตอนใกล้ลำตัว และมีต่อมน้ำพิษอยู่บริเวณโคนเงี่ยง เมื่อใช้เงี่ยงแทงจะปล่อยน้ำพิษออกมาด้วย ทำให้คนหรือสัตว์ที่ถูกแทงรู้สึกปวด |
กระสุนโดด | น. ลูกปืนที่ยิงออกไปทีละลูก, (ปาก) ลูกโดด. |
กระหนกนารี | น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Cercestis mirabilis (N. E. Br.) Bogner ในวงศ์ Araceae ต้นมีไหลเลื้อยเหนือพื้นดินแยกออกไปเป็นต้นใหม่ได้ ใบคล้ายใบบอนสี มีลายขาวตามเส้นใบ, กระหนกกินรี กระหนกนฤมิต บอนลายกระหนก หรือ แม้นเขียน ก็เรียก. |
กริยาวิเศษณ์ | น. คำวิเศษณ์ใช้ประกอบคำกริยาหรือคำวิเศษณ์ด้วยกันให้มีความแปลกออกไป. |
กลาง | ที่รวม, ที่รวมกิจการงานที่มีสาขาย่อยออกไป, เช่น สำนักงานกลาง ไปรษณีย์กลาง. |
กว่าง | (กฺว่าง) น. ชื่อแมลงพวกด้วงหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Scarabaeidae ตัวผู้มีเขาที่หลังอก ตัวเมียไม่มีเขา เช่น ชนิด Xylotrupes gideon Linn. ตัวผู้ที่มีขนาดใหญ่เรียกว่า กว่างโซ้งหรือกว่างชน มีเขาที่หลังอกยื่นยาวเป็นจะงอยเรียวไปทางด้านหน้าและโค้งลง ตรงปลายเป็น ๒ แฉก กับที่หัวมีเขาเล็กยื่นออกไปเป็นเขาเดี่ยว โค้งขึ้นคล้ายนอแรด แต่ปลายแยกเป็น ๒ แฉก ตัวผู้ที่มีขนาดย่อมมีเขาสั้นเรียก กว่างกิหรือกว่างแซม ตัวเมียไม่มีเขาเรียก กว่างแม่หรือกว่างอีลุ่ม. |
กว้าง | (กฺว้าง) ว. ไม่แคบ, แผ่ออกไป. |
กว้างขวาง | ก. แผ่ออกไปมาก, ใหญ่โต, เช่น มีเนื้อที่กว้างขวาง |
กว้างใหญ่ | ก. แผ่ออกไปไกล. |
กะ ๓ | น. ส่วนของสมอแบบหนึ่ง ลักษณะคล้ายแขนยื่นออกไป ๒ ข้าง สำหรับช่วยยึดเกาะติดพื้นท้องน้ำ. |
กะเร่อกะร่า | ว. อาการที่แต่งกายรุ่มร่ามเกินพอดี เช่น เขาแต่งตัวกะเร่อกะร่าผิดกาลเทศะ, ซุ่มซ่าม เช่น เขาเดินกะเร่อกะร่าออกไปกลางถนนเลยถูกรถชน, เซ่อซ่า เช่น เขากะเร่อกะร่าเข้าไปอยู่กับพวกเล่นการพนันเลยถูกจับไปด้วย, เก้งก้าง เช่น เขาเป็นคนท่าทางกะเร่อกะร่า, กะเล่อกะล่า เร่อร่า หรือ เล่อล่า ก็ว่า. |
กัน ๓ | ก. กีดขวางไว้ไม่ให้เข้ามาหรือออกไป หรือไม่ให้เกิดมีขึ้น เช่น กันฝน กันสนิม กันภัย, แยกไว้ เช่น กันเงินไว้ ๕๐๐ บาทเพื่อจ่ายในสิ่งที่จำเป็น กันเอาไว้เป็นพยาน. น. ชื่อช้างศึกพวกหนึ่ง มีหน้าที่ป้องกันและล้อมทัพ, เรียกเรือซึ่งกำหนดให้เข้ากระบวนเสด็จทางชลมารค ตั้งเป็นแถวขนาบกระบวนเรือพระที่นั่งทั้ง ๒ ข้าง ทำหน้าที่ถวายอารักขา ว่า เรือกัน. |
กันสาด | น. แผงหรือส่วนที่ต่อยื่นออกไปจากชายคาสำหรับกันฝน, บังสาด ก็เรียก. |
กั้นซู่ | น. ส่วนประกอบของเครื่องมือชนิดหนึ่งใช้จับปลา มีลักษณะเป็นไม้ซึ่งปักเป็นปีกออกไป ๒ ข้างของปากไซมาน. |
กาง ๑ | ก. ถ่างออก เช่น กางขา, คลี่ เช่น กางปีก, เหยียดออกไป เช่น กางแขน, ขึงออกไป เช่น กางใบ กางมุ้ง, แบะออก เช่น กางหนังสือ. |
กำปั่น ๑ | น. เรือเดินทะเลขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง หัวเรือเรียวแหลม ท้ายเรือมนและราบในระดับเดียวกับหัวเรือ, ถ้ามีเสายาวยื่นออกไปสำหรับผูกสายใบ มีเสากระโดง ๓ เสา มีใบ เรียกว่า กำปั่นใบ, ถ้าเสากระโดงตรงกลางไม่มี มีปล่องไฟโดยใช้เดินด้วยกำลังเครื่องจักรไอนํ้า เรียกว่า กำปั่นไฟ. |
กิ่ง | ใช้เรียกส่วนย่อยที่แยกออกไปจากส่วนใหญ่ แต่ยังขึ้นอยู่กับส่วนใหญ่ เช่น กิ่งอำเภอ กิ่งสถานีตำรวจ |
กุบ | น. ซองหนังชนิดหนึ่ง เมื่อตัดทองคำใบชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ สอดในกระดาษแก้วหนาแผ่นเล็กซ้อนกันเป็นตั้งแล้วใส่ในซองหนังนั้น ตีซองแผ่ทองคำให้บางออกไป |
เกก | ว. เก, เกไป, เรียกเขาวัวเขาควายเป็นต้นที่เฉออกไม่เข้ารูปกัน ว่า เขาเกก, เรียกงาช้างที่ปลายเฉออกไป ว่า งาเกก เช่น งาเกกข้างหนึ่งเข้า โดยหลัง (ตำราช้างคำโคลง), เรียกเสาเขื่อนที่เฉออก ว่า เขื่อนเกก. |
เกรินบุษบก | น. เกรินที่ต่อออกไปทางด้านข้างฐานบุษบกมาลาทั้ง ๒ ข้าง เพื่อส่งรูปฐานบุษบกให้งอนแอ่นขึ้นคล้ายหัวและหางเรือ. |
เกรียก ๑ | (เกฺรียก) ก. เอามีดสับ ผ่า หรือจักชิ้นไม้ให้ฉีกออกไปตามเนื้อไม้ เพื่อให้เป็นซีกเป็นเสี้ยวน้อย ๆ เช่น เกรียกไม้ทำเชื้อไฟ. |
เกลี่ย | (เกฺลี่ย) ก. กระจายของออกไปให้เสมอกัน. |
แกนท้องฟ้า | น. เส้นสมมุติที่เกิดจากการยืดแกนของโลก จากปลายเหนือและใต้ออกไปตัดกับท้องฟ้า. |
แกลบ ๒ | (แกฺลบ) น. ชื่อแมลงหลายชนิดหลายสกุลและหลายวงศ์ อันดับ Blattodea ลักษณะคล้ายแมลงสาบ แต่มีขนาดเล็กกว่า คือ ยาว ๑.๐-๒.๕ เซนติเมตร ลำตัวแบน รูปไข่ ขอบหน้าด้านหลังของปล้องอกยื่นออกไปคลุมหัว หนวดยาว ขายาวปกคลุมด้วยหนาม บางชนิดอาศัยอยู่ตามขี้เลื่อย หรือกองแกลบที่ผุพัง เช่น ชนิด Pycnoscelus surinamensis (Linn.) ในวงศ์ Blaberidae บางชนิดอาศัยอยู่ในบ้านเรือน ตามกองกระดาษหรือเศษขยะมูลฝอย เช่น ชนิด Blattella germanica (Linn.), Supella supellectilium (Serville) ในวงศ์ Blattellidae. |
ไก ๑ | น. ที่สำหรับเหนี่ยวให้ลูกกระสุนเป็นต้นลั่นออกไปเช่น ไกปืน ไกหน้าไม้. |
ขจัด | กระจัด, แยกย้ายออกไป. |
ขยาย | (ขะหฺยาย) ก. อธิบาย, ชี้แจง, เช่น ขยายความ, แผ่กว้างออกไป เช่น ขยายตัว, เปิดเผย เช่น ขยายความลับ, คลายให้หายแน่น เช่น ขยายเข็มขัดให้หลวม, คลี่, แย้ม, เช่น ดอกไม้ขยายกลีบ, ทำให้กว้างใหญ่ออกไป เช่น ขยายห้อง ขยายรูป, ทำให้มากขึ้น เช่น ขยายพันธุ์. |
ขว้าง | (ขฺว้าง) ก. เอี้ยวตัวเบี่ยงแขนไปทางหลังแล้วซัดสิ่งที่อยู่ในมือออกไปโดยแรง. |
ขว้างจักร | (-จัก) น. กรีฑาประเภทลานอย่างหนึ่ง ผู้แข่งขันจะต้องยืนอยู่ในวงเขตที่กำหนด แล้วขว้างจานไม้กลมตรงกลางนูนทั้ง ๒ ข้างออกไปให้ไกลที่สุด. |
ขอบเหล็ก | น. นาชนิดที่ไม่มีทางจะบุกเบิกออกไปได้อีก เรียกว่า นาขอบเหล็ก, นาเชิงทรง ก็ว่า. |
ขา ๑ | เรียกส่วนที่ยื่นออกไปจากส่วนใหญ่เหมือนรูปขา เช่น ขากางเกง. |
ขาหยั่ง | (-หฺยั่ง) น. ไม้ ๓ อันผูกปลายรวมกันและกางออกไป สำหรับตั้งหรือห้อยของต่าง ๆ. |
ข้านอกเจ้าข้าวนอกหม้อ | น. จำนวนคนซึ่งมีจำนวนมาก ย่อมกระทำหรือประพฤตินอกออกไปจากคำสั่งหรือแบบอย่างขนบธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติกันมามากเช่นกัน ดังข้อความว่า กาลแต่ก่อนเจ้านายน้อยตัว ก็ไม่รั่วไม่ร้ำข้างไหนหนัก ครั้นภายหลังเจ้านายมากขึ้นก็เกิดการรั่วร้ำไปต่าง ๆ เป็นการข้านอกเจ้า เข้านอกหม้อ ลูกนอกพ่อ หลานนอกปู่ เป็นขึ้น (พระราชหัตถเลขารัชกาลที่ ๔). |
ขีปนาวุธ | (ขีปะ-) น. อาวุธซึ่งถูกส่งออกไปจากผิวพิภพเพื่อใช้ประหัตประหารหรือทำลายในการสงคราม โดยมีการบังคับวิถีในตัวเองเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย การบังคับวิถีนี้บังคับเฉพาะตอนขึ้นเท่านั้น มีหลายชนิด เช่น ขีปนาวุธข้ามทวีป. |
ขี้ยอก | น. ชื่อปลานํ้าจืดหลายชนิด ในสกุล Mystacoleucusวงศ์ Cyprinidae รูปร่างทั่วไปคล้ายปลาตะเพียน เว้นแต่มีหนามแข็งยื่นจากต้นครีบหลังออกไปข้างหน้า ขนาดยาวได้ถึง ๒๐ เซนติเมตร เช่น ชนิด Mystacoleucus marginatus (Valenciennes), M. atridorsalis Fowler, ชื่อนี้เรียกกันเฉพาะในเขตแม่นํ้าปิงเท่านั้น ในเขตแม่นํ้าน่านเรียก หนามไผ่, ปักษ์ใต้เรียก หญ้า. |
ขึง | ก. ทำให้ตึง เช่น ขึงเชือก ขึงจอภาพยนตร์, ผูกสิ่งเป็นเส้นให้ยาวเหยียดออกไปเป็นราว เช่น ขึงราว, โดยปริยายหมายถึงอาการคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น หน้าขึง. |
เขี่ย | ปัดไปให้พ้น เช่น ถูกเขี่ยออกไป. |
แขน ๑ | เรียกสิ่งที่ยื่นออกไปจากส่วนใหญ่เหมือนรูปแขน เช่น แขนเสื้อ ไม้เท้าแขน. |
ไขรา | น. ส่วนของหลังคาอาคารสถาปัตยกรรมไทย เฉพาะตอนที่ยื่นพ้นผนังอาคารออกไปยังขอบหลังคา, ถ้าส่วนที่ยื่นนั้นอยู่ตรงหน้าจั่ว เรียก ไขราหน้าจั่ว, ถ้าอยู่ปลายหน้าบัน เรียก ไขราหน้าบัน, ถ้าเป็นหลังคาปีกนก เรียก ไขราปีกนก, ถ้าเป็นหลังคาบังสาดตามขนาดยาวของเต้า เรียก ไขราจันทันเต้า หรือ ไขราเต้า. |
คร่า | (คฺร่า) ก. ฉุดลากไปอย่างไม่ปรานี เช่น ถ้าเจรจาถึง ๒ ครั้งไซ้ให้คร่ามือออกไปจากพระโรงแลให้ห้ามเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (สามดวง), ท่านให้มาว่ากล่าวร้องฟ้องณะโรงสานตามกระบินเมืองอย่าให้ตีด่าฉุดคร่าเอาโดยกำลังเองศักอันเลย (สามดวง) |
คล้อยคล้อย | ก. ไกลออกไปทุกที, เคลื่อนออกไปไกล. |
คลายเคล่ง | (-เคฺล่ง) ก. ขยายตรงออกไป, เดินตรงไป, เช่น ครองคลายเคล่งอาศรมบทนั้น (ม. คำหลวง ทานกัณฑ์). |
ควบแน่น | น. กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในลักษณะซึ่งโมเลกุลของสารตั้งแต่ ๒ โมเลกุลขึ้นไปเข้ารวมตัวกันเป็นโมเลกุลใหญ่ขึ้นของสารใหม่ โดยวิธีขจัดโมเลกุลของนํ้าหรือโมเลกุลของสารอื่นออกไป |
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
prolongation | การต่อออกไป [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
re-export; re-exportation | การส่งกลับออกไป [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
re-exportation; re-export | การส่งกลับออกไป [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
out-migration | การย้ายถิ่นออกไป [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] |
abstract | ๑. ถอนออกไป, ลอบเอาไป๒. บทคัดย่อ๓. นามธรรม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
quit | ๑. ออกไป๒. ปล่อย๓. สละ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
departure | การจากไป, การออกไป [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] |
egress | ๑. สิทธิที่จะออกไป๒. ทางออก [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
expatriation | ๑. การถูกขับออกจากบ้านเมือง๒. การถูกถอนสัญชาติ๓. การสละสัญชาติ๔. การออกไปอยู่นอกประเทศ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
exclusion | การกีดกัน, การกันออกไป [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
extension of time | การขยายเวลาออกไป [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
exile | ๑. การเนรเทศ๒. การลี้ภัย๓. การออกไปอยู่ต่างถิ่น๔. ผู้พลัดถิ่น [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
vacation | ๑. การออกไป๒. วันหยุดงาน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
vacate | ออกไปจาก, ถอนออกไป, ทำให้ว่าง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
Annihilation | ประลัย, ปฏิกิริยาระหว่างอนุภาคกับปฏิยานุภาคของอนุภาคนั้นๆ แล้วอนุภาคทั้งสองหายไปกลายเป็นรังสีแกมมาพลังงานเท่ากันเคลื่อนที่ออกไปในทิศทางตรงข้ามกัน เช่นการรวมตัวของอิเล็กตรอนกับโพซิตรอน ได้รังสีแกมมาพลังงานรวม 1.02 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ (ดู Antimatter ประกอบ), Example: [นิวเคลียร์] |
Blast wave | คลื่นแรงผลักดันฉับพลัน, คลื่นกระแทกที่แพร่ไปในอากาศ หรือ คลื่นที่มีความดันเพิ่มขึ้นซึ่งกำหนดได้แน่ชัด กระจายผ่านตัวกลางที่แวดล้อมอยู่ออกไปอย่างรวดเร็วจากศูนย์กลางของระเบิด หรือปรากฏการณ์ของแรงที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน [นิวเคลียร์] |
Characteristic X-ray | รังสีเอกซ์ลักษณะเฉพาะ, รังสีที่เกิดจากการที่อะตอมถูกกระตุ้น ทำให้อิเล็กตรอนวงในหลุดออกไป และอิเล็กตรอนวงถัดไปเข้ามาแทนที่ แล้วให้พลังงานส่วนเกินออกมาในรูปของรังสีเอกซ์ซึ่งมีค่าพลังงานเฉพาะของธาตุที่ถูกกระตุ้น (ดู excited state ประกอบ) [นิวเคลียร์] |
Compton scattering | การกระเจิงแบบคอมป์ตัน, ปรากฏการณ์เมื่อโฟตอนวิ่งชนอิเล็กตรอนของอะตอม แล้วเกิดการกระเจิง โฟตอนที่กระเจิงออกไปจะมีพลังงานลดลงจากเดิม ซึ่งขึ้นอยู่กับมุมของการกระเจิงและมวลของอนุภาคที่ถูกชน ปรากฏการณ์นี้ตั้งชื่อตามผู้ค้นพบ คือ อาร์เทอร์ ฮอลลี คอมป์ตัน (Arthur Holly Compton) ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลในปี พ.ศ.2470 [นิวเคลียร์] |
Controlled area | พื้นที่ควบคุม, พื้นที่ที่ต้องมีมาตรการป้องกันและข้อกำหนดด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะในการควบคุมการรับรังสีจากการทำงาน หรือจำกัดการเปื้อนของสารกัมมันตรังสีไม่ให้แพร่กระจายออกไปในระหว่างการทำงานเพื่อหลีกเลี่ยง หรือจำกัดโอกาสการได้รับรังสี, Example: [นิวเคลียร์] |
Cyclotron | ไซโคลทรอน, เครื่องเร่งอนุภาคที่อนุภาคถูกเร่งด้วยสนามไฟฟ้าและถูกควบคุมด้วยสนามแม่เหล็ก ให้วิ่งวนเป็นวงออกไปคล้ายก้นหอย เมื่อได้ความเร็วที่ต้องการ อนุภาคจะถูกปล่อยให้ชนกับวัสดุที่ใช้เป็นเป้า เครื่องเร่งอนุภาคชนิดนี้ใช้ในการวิจัยฟิสิกส์มูลฐาน และการผลิตสารไอโซโทปรังสี ผู้ประดิษฐ์ คือ เออร์เนสต์ โอ. ลอว์เรนซ์ (Earnest O. Lawrence) ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ในปี พ.ศ. 2482 [นิวเคลียร์] |
X-rays | รังสีเอกซ์, รังสีในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีอำนาจทะลุทะลวงสูงไม่ได้มีต้นกำเนิดจากนิวเคลียสของอะตอม แต่เกิดขึ้นเมื่ออะตอมถูกกระตุ้น ทำให้อิเล็กตรอนวงในหลุดออกไป และอิเล็กตรอนวงถัดไปเข้ามาแทนที่ แล้วให้พลังงานส่วนเกินออกมาในรูปของรังสีเอกซ์ หรือเกิดจากการระดมยิงเป้าโลหะหนักบางชนิด เช่น ทังสเตน ด้วยอิเล็กตรอนความเร็วสูง ซึ่งอิเล็กตรอนจะถูกหน่วงให้ช้าลงอย่างทันทีทันใดและปล่อยรังสีเอกซ์ออกมา บางคน เรียกรังสีเอกซ์ว่า รังสีเรินต์เก็น ตามชื่อของ วิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เก็น นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันผู้ค้นพบรังสีนี้เมื่อ ปี พ.ศ. 2438 [นิวเคลียร์] |
Shock wave | คลื่นกระแทก, แรงผลักดันฉับพลัน ในอากาศ น้ำ หรือดิน ที่แผ่ขยายออกไปเป็นคลื่นเนื่องจากการระเบิด การเกิดคลื่นกระแทกมี 2 ระยะ ระยะที่หนึ่ง แรงผลักดันของตัวกลางเพิ่มขึ้นฉับพลันถึงระดับสูงสุดแล้วลดลงสู่ระดับปกติ ระยะที่สอง แรงผลักดันของตัวกลางจะลดลงแล้วกลับสู่ระดับปกติ คลื่นกระแทกที่เกิดในอากาศมักเรียกว่า คลื่นแรงผลักดันฉับพลัน (ดู blast wave ประกอบ) [นิวเคลียร์] |
Roentgen rays | รังสีเรินต์เก็น, รังสีในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีอำนาจทะลุทะลวงสูงไม่ได้มีต้นกำเนิดจากนิวเคลียสของอะตอม แต่เกิดขึ้นเมื่ออะตอมถูกกระตุ้น ทำให้อิเล็กตรอนวงในหลุดออกไป และอิเล็กตรอนวงถัดไปเข้ามาแทนที่ แล้วให้พลังงานส่วนเกินออกมาในรูปของรังสีเอกซ์ หรือเกิดจากการระดมยิงเป้าโลหะหนักบางชนิด เช่น ทังสเตน ด้วยอิเล็กตรอนความเร็วสูง ซึ่งอิเล็กตรอนจะถูกหน่วงให้ช้าลงอย่างทันทีทันใดและปล่อยรังสีเอกซ์ออกมา บางคน เรียกรังสีเอกซ์ว่า รังสีเรินต์เก็น ตามชื่อของ วิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เก็น นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันผู้ค้นพบรังสีนี้เมื่อ ปี พ.ศ. 2438 [นิวเคลียร์] |
Neutron bomb | ลูกระเบิดนิวตรอน, ลูกระเบิดไฮโดรเจนขนาดเล็ก ออกแบบเป็นพิเศษให้มีผลทำลายน้อยที่สุดจากแรงระเบิดและความร้อนในวงจำกัดรัศมีสองร้อยถึงสามร้อยเมตร แต่มีผลในวงกว้างทำให้สิ่งมีชีวิตถึงตายได้จากอนุภาคนิวตรอนและรังสีแกมมา ลูกระเบิดนิวตรอนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายรถถังและกองทหารในสนามรบโดยไม่เป็นอันตรายต่อตัวเมืองและย่านชุมชนที่อยู่ห่างออกไป <br>(ดู H-bomb ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์] |
Ion pair | คู่ไอออน, ไอออนบวกและไอออนลบที่มีขนาดประจุเท่ากัน เกิดจากการแตกตัวของอะตอมหรือโมเลกุลที่เป็นกลางเมื่อได้รับรังสี โดยอิเล็กตรอนที่หลุดออกจากอะตอมหรือโมเลกุลจะเป็นไอออนลบ ส่วนอะตอมหรือโมเลกุลที่อิเล็กตรอนหลุดออกไปนั้นจะเป็นไอออนบวก [นิวเคลียร์] |
Oceanic Zone | น้ำในระบบนิเวศทะเลนับแต่เขตไหล่ทวีปออกไป, Example: บริเวณที่มีความลึกมากกว่า 200 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของมหาสมุทร และพื้นที่ประมาณร้อยละ 88 มีความลึกมากกว่า 1.5 กิโลเมตร สามารถ แบ่งเป็น Bathyal zone, Euphotic zone, Abyssal zone และ Hadal zone ดู Bathyal zone, Euphotic zone, Abyssal zone และ Hadal zone เพิ่มเติม [สิ่งแวดล้อม] |
continental shelf | ไหล่ทวีป ไหล่ทวีปของรัฐชายฝั่งประกอบด้วย พื้นดินท้องทะเลและดินใต้ผิวดินของบริเวณใต้ทะเล ซึ่งขยายเลยทะเลอาณาเขตของรัฐตลอดส่วนต่อออกไปตามธรรมชาติของดินแดนทางบกของ ตนจนถึงริมนอกของขอบทวีป หรือจนถึงระยะ 200 ไมล์ทะเลจากเส้นฐานซึ่งใช้วัดความกว้างของทะเลอาณาเขตในกรณีที่ริมนอกของ ขอบทวีปขยายไปไม่ถึงระยะนั้น [การทูต] |
Dean (หรือ Doyen) of the Diplomatic Corps | หัวหน้า (Dean) ของคณะทูตานุทูตในนครหลวงของประเทศใดก็ตาม ได้แก่ ตัวทูตที่อาวุโสที่สุด (คือเป็นทูตอยู่ในประเทศนั้นๆ เป็นเวลานานที่สุด) ตัวหัวหน้าคณะทูตานุทูตจะมีลำดับอาวุโสเหนือทุกคนในคณะทูตานุทูต ทำหน้าที่เป็นโฆษกของคณะทูตเมื่อถึงความจำเป็น และเป็นผู้ดูแลและคุ้มครองบรรดาเอกสิทธ์และความคุ้มกันทางการทูตที่คณะ ทูตานุทูตมีอยู่ แต่หน้าที่ที่แท้จริงนั้น โดยมากเกี่ยวกับเรื่องพิธีการทูตมากกว่า อาทิเช่น เมื่อถึงวันที่ระลึกครบรอบวันเกิดประมุขของรัฐ (เช่นวันเฉลิมพระชนมพรรษาในประเทศไทย) Dean ของคณะทูตจะเป็นผู้กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสดังกล่าวในนามของคณะทูตทั้งหมด แต่การที่จะเรียกหรือขอให้บุคคลในคณะทูตไปประชุมเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง นั้น เป็นสิ่งที่ Dean ไม่พึงกระทำ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีผู้แทนทางการทูตคนใดไปร่วมการประชุมระหว่างบุคคลในคณะทูตด้วยกัน เกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศโดยมิได้รับคำสั่งโดยเฉพาะจากรัฐบาลของตนก่อน ภริยาของ Dean หรือ Doyen นั้นเรียกว่า Doyenneเมื่อหัวหน้าคณะทูตวายชนม์ขณะที่ดำรงตำแหน่งอยู่ บุคคลในคณะทูตที่มีอาวุโสรองลงมาหรือเป็นบุคคลที่สองจะเป็นผู้รับช่วงงาน ทันที และมีตำแหน่งเรียกว่า อุปทูตชั่วคราว (Chargé d?Affaires ad interim) ทั้งจะต้องดูว่า เอกสารทางราชการต่าง ๆ โดยเฉพาะเอกสารลับหรือปกปิด จะไม่ทิ้งรวมอยู่กับ เอกสารส่วนตัวของทูตผู้วายชนม์อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทาง การทูต ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1961 จากการประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับการติดต่อและความคุ้มกันทางการทูต ได้บัญญัติไว้ว่า?ข้อ 39 (3) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามี สิทธิที่จะได้รับไปจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป(4) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว ให้รัฐผู้รับอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่ส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้ามในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในคราอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดกและการรับมรดกนั้น ๆ ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับ เพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่ฝ่ายเดียวของผู้วายชนม์ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทนอนึ่ง อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1963 ได้บัญญัติไว้ว่า ?ข้อ 51 ในกรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล หรือของคนในครอบครัว ซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว รัฐผู้รับ(ก) จะอนุญาตให้ส่งออกซึ่งสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ โดยมีข้อยกเว้นแก่ทรัพย์สินเช่นว่า ทรัพย์ใด ๆ ที่ได้มาในรัฐผู้รับนั้น ซึ่งการส่งออกของทรัพย์ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลดังกล่าวถึงแก่มรณกรรม(ข) จะไม่เรียกเก็บอากรกองมรดก อากรสืบช่วงมรดกหรืออากรรับมรดก และอากรการโอน ไม่ว่าจะเป็นอากรของชาติ ของภูมิภาค หรือของเทศบาล จากสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการที่สังหาริมทรัพย์นั้นอยู่ในรัฐผู้รับก็เนื่องมาแต่ฝ่ายเดียว จากการที่ผู้วายชนม์อยู่ในรัฐนั้นฐานะบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุลหรือใน ฐานะคนในครอบครัวของบุคคลในที่ทำการกงสุล? ?ข้อ 53(5) กรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล คนในครอบครัวซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว จะคงได้รับอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ได้ประสาทให้แก่ตนต่อไป จนกว่าตนจะออกไปจากรัฐผู้รับ หรือจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะสามารถให้ตนกระทำดังนั้นได้ แล้วแต่ว่าเวลาไหนจะมาถึงก่อนกัน? [การทูต] |
Declaration | คำประกาศ หรือ ปฏิญญา ตามความเห็นของผู้ทรงคุณความรู้ทางกฎหมายระหว่างประเทศ ส่วนมากได้ให้ความเห็นว่า คำนี้มีความหมายต่างกันอยู่สามประการ คือประการแรก ใช้เป็นชื่อเรียกข้อกำหนดต่าง ๆ ของสนธิสัญญา กล่าวคือ ตามสนธิสัญญานี้ ภาคีคู่สัญญารับที่จะปฏิบัติตามแนวทางบางประการในอนาคตประการที่สอง เป็นคำประกาศถ่ายเดียว (Unilateral Declaration) ซึ่งก่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่แก่รัฐอื่นๆ เช่น คำประกาศสงครามประการสุดท้าย หมายถึง การกระทำซึ่งรัฐหนึ่งหรือหลายรัฐได้ติดต่อแจ้งไปยังรัฐอื่น ๆ ซึ่งเป็นการอธิบายหรือให้เหตุผลสนับสนุนพฤติกรรมของฝ่ายตนในอดีต หรืออธิบายทรรศนะและเจตจำนงเกี่ยวกับเรื่องบางเรื่อง คำประกาศสำหรับความหมายสองประการหลังไม่ถือว่ามีลักษณะเป็นสนธิสัญญาอนึ่ง ในกรณีคำประกาศถ่ายเดียว (Unilateral Declaration) นั้น บางทีรัฐหนึ่งต้องการเสนอนโยบายหรือหนทางปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งของตน โดยประกาศนโยบายหรือหนทางปฏิบัตินั้นไปให้รัฐอื่นๆ ทราบกันไว้ อาทิเช่น ลัทธิมอนโร (Monroe Doctrine) ซึ่งสหรัฐอเมริกาได้ประกาศออกไปในรูปคำประกาศถ่ายเดียว เป็นต้น [การทูต] |
Departure Ceremony | พิธีการส่ง ซึ่งมีลำดับขั้นตอน (procedure) แตกต่างกันออกไปตามระดับของผู้มาเยือนและประเภทของการเยือน [การทูต] |
Departure of Diplomatic Agents | การออกไปจากรัฐผู้รับของเจ้าหน้าที่ทางการทูต ข้อ 44 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติได้ว่า ?แม้ในกรณีการขัดกันด้วยอากร รัฐผู้รับต้องอำนวยความสะดวก เพื่อให้บุคคลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน นอกจากคนชาติของรัฐผู้รับและคนในครอบครัวของบุคคลเช่นว่านี้ โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติของบุคคลเหล่านั้น ออกไปในขณะที่เร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้ ในกรณีที่จำเป็นโดยเฉพาะ รัฐผู้รับต้องจัดพาหนะเดินทางในการขนส่งสำหรับตัวบุคคลเหล่านั้น และทรัพย์สินของบุคคลเหล่านั้นให้ด้วย? [การทูต] |
Duration of Diplomatic Privileges and Immunities | ระยะเวลาของการอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทาง การทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตราที่ 39 ว่า?1. บุคคลทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน ที่จะได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันนั้นตั้งแต่ขณะที่บุคคลนั้นเข้ามาใน อาณาเขตของรัฐผู้รับในการเดินทางไปรับตำแหน่งของตน หรือถ้าอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับแล้ว ตั้งแต่ขณะที่ได้บอกกล่าวการแต่งตั้งของตนต่อกระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน 2. เมื่อภารกิจหน้าที่ของบุคคล ซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันยุติลง เอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามปกติให้สิ้นสุดลงขณะที่บุคคลนั้นออกไปจากประเทศ หรือเมื่อสิ้นกำหนดอันสมควรที่จะทำเช่นนั้น แต่จะยังมีอยู่จนกระทั่งเวลานั้น แม้ในกรณีของการขัดแย้งด้วยอาวุธ อย่างไรก็ดี ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่ได้ปฏิบัติไปโดยบุคคลเช่นว่านั้น ในการปฏิบัติการหน้าที่ของตนในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน ความคุ้มกันนั้นให้มีอยู่สืบไป 3. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามีสิทธิที่จะได้สืบไป จนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป 4. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นอยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว รัฐผู้รับสามารถอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่การส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดก และการรับมรดกนั้น ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับเพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่เพียงถ่ายเดียวของผู้วายชนม์ ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน หรือในฐานะเป็นคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน? [การทูต] |
Free Trade Zones | เขตปลอดภาษี เป็นอาณาบริเวณที่อยู่ใกล้ท่าเรือหรือท่าอากาศยานที่อนุญาตให้นำเข้าโดยไม่ ต้องเสียภาษีนำเข้า ทั้งนี้ อาจเป็นการนำเข้าเพื่อส่งไปยังประเทศที่สาม หรือนำเข้าเพื่อใช้ในการผลิตสินค้าสำหรับส่งออกตามที่กฎหมายกำหนด จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตสินค้าของประเทศ นั้น ๆ ให้สามารถส่งออกไปขายแข่งกับตลาดโลกได้มากขึ้น [การทูต] |
Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] |
Immunity from Jurisdiction of Diplomatic Agents | ความคุ้มกันจากอำนาจศาลของตัวแทนทางการทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตรา 31 ว่า?1. ให้ตัวแทนทางการทูตได้อุปโภคความคุ้มกันจากอำนาจศาลทางอาญาของรัฐผู้รับ ตัวแทนทางการทูตยังจะได้อุปโภคความคุ้มกันจากอำนาจศาลทางแพ่ง และทางการปกครองของรัฐผู้รับด้วย เว้นแต่ในกรณีของก) การดำเนินคดีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัว ที่ตั้งอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับนอกจากตัวแทนทางการทูตครอบครองไว้ในนามของ รัฐผู้ส่งเพื่อความมุ่งประสงค์ของคณะผู้แทนข) การดำเนินคดีเกี่ยวกับการสืบมรดกซึ่งเกี่ยวพันถึงตัวแทนทางการทูตในฐานะผู้ จัดการมรดกโดยพินัยกรรม ผู้จัดการมรดกโดยศาลตั้งทายาท หรือผู้รับมรดกในฐานะเอกชน และมิใช่ในนามของรัฐผู้ส่งค) การดำเนินคดีเกี่ยวกับกิจกรรมใดในทางวิชาชีพ หรือพาณิชย์ ซึ่งตัวแทนทางการทูตได้กระทำในรัฐผู้รับ นอกเหนือจากการหน้าที่ทางการของตน 2. ตัวแทนทางการทูตไม่จำเป็นต้องให้การในฐานะพยาน 3. มาตรการบังคับคดี ไม่อาจดำเนินได้ในส่วนที่เกี่ยวกับตัวแทนทางการทูต เว้นแต่ในกรณีซึ่งอยู่ภายใต้อนุวรรค (ก) (ข) และ (ค) ของวรรค 1 ของข้อนี้ และโดยมีเงื่อนไขว่ามาตรการที่เกี่ยวข้องอาจดำเนินไปได้โดยปราศจากการละเมิด ความละเมิดมิได้ในตัวบุคคลของตัวผู้แทนทางการทูต หรือที่อยู่ของตัวแทนทางการทูต 4. ความคุ้มกันของตัวแทนทางการทูตจากอำนาจศาลของรัฐผู้รับ ไม่ยกเว้นตัวแทนทางการทูตจากอำนาจศาลของรัฐผู้ส่ง?เกี่ยวกับความคุ้มกันตัว แทนทางการทูตจากขอบเขตของอำนาจศาลทางแพ่ง อาจกล่าวได้อย่างกว้างๆ ว่า ตัวแทนทางการทูตนั้นได้รับการยกเว้นจากอำนาจของศาลแพ่งในท้องถิ่นคือตัวแทน ทางการทูตนั้นได้รับการยกเว้นจากอำนาจของศาลแพ่งในท้องถิ่นคือตัวแทนทางการ ทูตจะถูกฟ้องมิได้ และถูกจับกุมมิได้เกี่ยวกับหนี้สิน รวมทั้งทรัพย์สินของเขา เช่น เครื่องเรือน รถยนต์ ม้า และสิ่งอื่นๆ ทำนองนั้นก็จะถูกยืดเพื่อใช้หนี้มิได้ ตัวแทนทางการทูตจะถูกกีดกันมิให้ออกไปจากรัฐผู้รับในฐานะที่ยังมิได้ชดใช้ หนี้สินของเขานั้นก็มิได้เช่นกัน อนึ่ง นักกฎมายบางกลุ่มเห็นว่า ตัวแทนทางการทูตจะถูกหมายศาลเรียกตัว (Subpoenaed) ไม่ได้ หรือแม้แต่ถูกขอร้องให้ไปปรากฎตัวเป็นพยานในศาลแพ่งหรือศาลอาญาก็ไม่ได้ อย่างไรก็ดี ถ้าหากตัวแทนทางการทูตสมัครใจที่จะไปปรากฏตัวเป็นพยานในศาล ก็ย่อมจะทำได้ แต่จะต้องขออนุมัติจากรัฐบาลในประเทศของเขาก่อน [การทูต] |
Notes in Diplomatic Correspondence | หมายถึง หนังสือหรือจดหมายโต้ตอบทางการทูตระหว่างหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต (Head of mission) กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่หัวหน้าคณะผู้ แทนทางการทูตนั้นประจำอยู่ หรือกับหัวหน้าผู้แทนทางการทูตอีกแห่งหนึ่ง หนังสือทางการทูตนี้ อาจใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 หรือบุรุษที่ 3 ก็ได้ หนังสือทางการทูตที่ใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 มักจะเกี่ยวกับเรื่องที่มีความสำคัญหรือมีความละเอียดอ่อนกว่าหนังสืออีก ชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า Note Verbale หรือต้องการจะแทรกความรู้สึกส่วนตัวลงไปด้วย หนังสือนี้จะส่งจากหัวหน้า หรือผู้รักษาการแทนหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือไปถึงหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตอื่น ๆ ไม่เหมือนกับ Note Verbale กล่าวคือ หนังสือทางการทูตนี้จะต้องระบุสถานที่ตั้ง รวมทั้งลงชื่อของผู้ส่งด้วยตามปกติ ประโยคขึ้นต้นด้วยประโยคแรกในหนังสือจะใช้ข้อความว่า ?have the honour? นอกจากจะมีถึงอุปทูตซึ่งมีฐานะตำแหน่งต่ำกว่าอัครราชทูต ถ้อยคำลงท้ายของหนังสือทางการทูตจะมีรูปแบบเฉพาะ เช่น?Accept, Excellency (หรือ Sir), ในกรณีที่ผู้รับมีตำแหน่งเป็นอุปทูต (Charge d? Affaires) the assurances (หรือ renewed assurances ) of my highest (หรือ high ในกรณีที่เป็นอุปทูต ) consideration?หรือ ?I avail myself of this opportunity to express to your Excellency, the assurances ( หรือ renewed assurances) of my highest consideration ?ถ้อยคำที่ว่า ?renewed assurances ? นั้น จะใช้ก็ต่อเมื่อผู้ส่งหนังสือกับผู้รับหนังสือ ได้มีหนังสือติดต่อทางทูตกันมาก่อนแล้ว ส่วนถ้อยคำว่า ?high consideration ? โดยปกติจะใช้ในหนังสือที่มีไปยังอุปทูต ถ้อยคำ ?highest consideration ? จะใช้เมื่อมีไปถึงเอกอัครราชทูต และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ย่อมแล้วแต่ท้องถิ่นด้วย บางแห่งอาจนิยมใช้แตกต่างออกไป และก็จะเคารพปฏิบัติตามท้องถิ่นนั้น ๆ โดยมารยาทส่วนหนังสือที่เรียกว่า Note Verbale หรือ Third person note เป็นหนังสือทางการทูตที่ใช้บ่อยที่สุด หนังสือนี้จะขึ้นต้นด้วยประโยคดังต่อไปนี้?The Ambassador (หรือ The Embassy ) of Thailand presents his (หรือ its ) compliments to the Minster (หรือ Ministry ) of Foreign affairs and has the honour??หนังสือบุรุษที่สาม หรืออาจเรียกว่าหนังสือกลางนี้ ไม่ต้องบอกตำบลสถานที่ ( Address) และไม่ต้องลงชื่อ แต่บางทีในตอนลงท้ายของหนังสือกลางมักใช้คำว่า?The Ambassador avails himself of this opportunity to express to his Excellency the renewed assurances of his highest consideration?มีหนังสือทางการทูตอีกประเภทหนึ่งเรียกว่า Collective note เป็นหนังสือที่หัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตของรัฐบาลหลายประเทศรวมกันมีไปถึง รัฐบาลแห่งเดียว เกี่ยวกับเรื่องที่รัฐบาลเหล่านั้นพร้อมใจกันที่จะร้องเรียน หรือต่อว่าร่วมกัน หัวหน้าคณะทูตทั้งหมดอาจร่วมกันลงนามในหนังสือนั้น หรือ อาจจะแยกกันส่งหนังสือซึ่งมีถ้อยคำอย่างเดียวกันไปถึงก็ได้ [การทูต] |
Palestine Question | ปัญหาปาเลสไตน์ เมื่อวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1947 ประเทศอังกฤษได้ขอให้สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ทำการประชุมสมัยพิเศษเพื่อพิจารณาปัญหาปาเลสไตน์ สมัชชาได้ประชุมกันระหว่างวันที่ 28 เมษายน ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1947 และที่ประชุมได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษเกี่ยวกับปาเลสไตน์ขึ้น ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศสมาชิกรวม 11 ประเทศ ซึ่งหลังจากที่เดินทางไปตรวจสถานการณ์ในภาคตะวันออกกลาง ก็ได้เสนอรายงานเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว รายงานนี้ได้ตั้งข้อเสนอแนะรวม 12 ข้อ รวมทั้งโครงการฝ่ายข้างมาก (Majority Plan) และโครงการฝ่ายข้างน้อย (Minority Plan) ตามโครงการข้างมาก กำหนดให้มีการแบ่งดินแดนปาเลสไตน์ออกเป็นรัฐอาหรับแห่งหนึ่ง รัฐยิวแห่งหนึ่ง และให้นครเยรูซาเล็มอยู่ภายใต้ระบบการปกครองระหว่างประเทศ รวมทั้งให้ดินแดนทั้งสามแห่งนี้มีความสัมพันธ์ร่วมกันในรูปสหภาพเศรษฐกิจ ส่วนโครงการฝ่ายข้างน้อย ได้เสนอให้ตั้งรัฐสหพันธ์ที่เป็นเอกราชขึ้น ประกอบด้วยรัฐอาหรับและรัฐยิว อันมีนครเยรูซาเล็มเป็นนครหลวงต่อมาในวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1947 สมัชชาสหประชาชาติได้ประชุมลงมติรับรองข้อเสนอของโครงการฝ่ายข้างมาก ซึ่งฝ่ายยิวได้รับรองเห็นชอบด้วย แต่ได้ถูกคณะกรรมาธิการฝ่ายอาหรับปฏิเสธไม่รับรอง โดยต้องการให้มีการจัดตั้งรัฐอาหรับแต่เพียงแห่งเดียว และทำหน้าที่คุ้มครองสิทธิของคนยิวที่เป็นชนกุล่มน้อย อนึ่ง ตามข้อมติของสมัชชาสหประชาชาติได้กำหนดให้อำนาจอาณัติเหนือดินแดนปาเลสไตน์ สิ้นสุดลงและให้กองทหารอังกฤษถอนตัวออกไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และอย่างช้าไม่เกินวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1948 นอกจากนั้นยังให้คณะมนตรีภาวะทรัสตีของสหประชาชาติจัดทำธรรมนูญการปกครองโดย ละเอียดสำหรับนครเยรูซาเล็มจากนั้น สมัชชาสหประชาชาติได้ตั้งคณะกรรมาธิการปาเลสไตน์แห่งสหประชาชาติขึ้น ประกอบด้วยประเทศโบลิเวีย เช็คโกสโลวาเกีย เดนมาร์ก ปานามา และฟิลิปปินส์ ทำหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะของสมัชชา ส่วนคณะมนตรีความมั่นคงก็ได้รับการขอร้องให้วางมาตรการที่จำเป็น เพื่อวินิจฉัยว่า สถานการณ์ในปาเลสไตน์จักถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพหรือไม่ และถ้าหากมีการพยายามที่จะใช้กำลังเพื่อเปลี่ยนแปลงความตกลงตามข้อมติของ สมัชชาเมื่อใด ให้ถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพ โดยอาศัยข้อ 39 ของกฎบัติสหประชาชาติเป็นบรรทัดฐาน [การทูต] |
Persona non grata | เป็นศัพท์ที่ใช้กับนักการทูตหรือผู้แทนทางการทูต ที่ประจำอยู่ในประเทศซึ่งรัฐบาลของประเทศนั้นไม่ปรารถนาให้อยู่ต่อไปอีกแล้ว หลังจากที่ได้ไปประจำทำงานในตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้น หรือก่อนหน้าที่นักการทูตผู้นั้นจะเดินทางไปถึงดินแดนของประเทศผู้รับ (Receiving State) นักการทูตที่ถูกประกาศเป็น persona non grata หรือ บุคคลที่ไม่พึงปรารถนานั้น เป็นเพราะสาเหตุดังต่อไปนี้ คือ กล่าวคำดูหมิ่นรัฐบาลของประเทศที่ตนไปประจำอยู่ ละเมิดกฎหมายของบ้านเมืองนั้น แทรกแซงในการเมืองภายในของเขา เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในประเทศของเขา ใช้ถ้อยคำก้าวร้าวต่อประเทศนั้น วิพากษ์ประมุขแห่งประเทศของเขากระทำการอันเป็นที่เสียหายต่อประโยชน์หรือต่อ ความมั่นคงของประเทศ และกระทำการอื่น ๆ ในทำนองนั้นตามปกติรัฐบาลของประเทศเจ้าภาพที่เป็นฝ่ายเสียหายจะขอร้องให้ รัฐบาลผู้ส่ง (Sending government) เรียกตัวนักการทูตผู้กระทำผิดกลับประเทศ ซึ่งตามปกติรัฐบาลผู้ส่งมักจะปฏิบัติตาม รัฐบาลของประเทศผู้เสียหายจะแจ้งให้นักการทูตผู้นั้นทราบว่า รัฐบาลจะไม่ทำการติดต่อเกี่ยวข้องเป็นทางการกับเขาอีกต่อไป หรืออาจจะบอกให้นักการทูตผู้นั้นออกไปจากประเทศโดยไม่เกรงใจแต่อย่างใดก็ได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในข้อ 9 ดังต่อไปนี้ ?1. รัฐผู้รับอาจบอกกล่าวแก่รัฐผู้ส่งในเวลาใดก็ได้ และโดยมิต้องชี้แจงถึงการวินิจฉัยของตนว่า หัวหน้าคณะผู้แทนหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ไม่พึงโปรด หรือว่าบุคคลอื่นใดในคณะเจ้าหน้าที่ของคณะผู้แทนเป็นที่ไม่พึงยอมรับได้ ในกรณีใดเช่นว่านี้ ให้รัฐผู้ส่งเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นกลับ หรือเลิกการหน้าที่ของผู้นั้นกับคณะผู้แทนเสียก็ได้ตามที่เหมาะสมบุคคลอาจจะ ถูกประกาศให้เป็นผู้ไม่พึงโปรด หรือไม่พึงยอกรับได้ก่อนที่จะมาถึงอาณาเขตของรัฐผู้รับก็ได้ 2. ถ้ารัฐผู้ส่งปฏิเสธ หรือไม่นำพาภายในระยะเวลาอันสมควร ที่จะปฏิบัติตามข้อผูกพันของคนภายใต้วรรค 1 ของข้อนี้ รัฐผู้รับสามารถปฏิเสธที่จะยอมรับนับถือบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นว่าเป็นบุคคล ในคณะผู้แทนก็ได้? [การทูต] |
self-determination | การกำหนดใจตนเอง หมายถึง สิทธิและเสรีภาพในการที่จะให้ชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในประเทศใดประเทศหนึ่ง ตัดสินหรือกำหนดสถานะด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของตน โดยเลือกที่จะอยู่อย่างเดิมหรือแยกตัวออกไป [การทูต] |
Termination of Mission of Diplomatic Agent | ภารกิจของผู้แทนทางการทูตหรือหัวหน้าคณะทูตจะสิ้น สุดลง 1. ระยะเวลาที่ผู้แทนทางการทูตได้รับแต่งตั้งให้ประจำอยู่ในประเทศผู้รับได้ครบ กำหนดตามวาระ2. เมื่อวัตถุประสงค์ของภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติได้สัมฤทธิผลเรียบ ร้อยแล้ว3. ถูกเรียกตัวกลับเนื่องจากต้องโยกย้ายไปที่อื่น หรือลาออก หรือเนื่องจากครบเกษียณอายุ4. ถูกเรียกตัวกลับเนื่องจากไม่เป็นที่พอใจของรัฐบาลของตน หรือกระทำตามคำขอร้องของรัฐบาลของประเทศผู้รับ ซึ่งเขาได้รับแต่งตั้งให้ประจำทำงานอยู่5. เนื่องจากการเสด็จสวรรคตของพระมหากษัตริย์ของประเทศตน หรือประเทศที่ตนได้รับแต่งตั้งให้ประจำทำงาน6. หากตัวเขาเองได้กระทำการอันเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศบางอย่าง หรือเนื่องจากเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่คาดไม่ถึง และมีลักษณะร้ายแรงจริง ๆ ตัวเขาเองจะต้องรับผิดชอบในการตัดความสัมพันธ์7. เมื่อรัฐบาลผู้รับ ซึ่งตัวเขาได้รับแต่งตั้งให้ประจำทำงานอยู่นั้น แล้วจะด้วยเหตุผลอย่างใดก็ตาม ได้แจ้งให้เขาเดินทางออกไปจากประเทศในทันที โดยไม่ต้องระให้รัฐบาลของตนเรียกตัวกลับ8. เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งของผู้แทนทางการทูต ดังเช่น ได้รับเลื่อนตำแหน่งจากอัครราชทูตขึ้นเป็นเอกอัครราชทูต9. เนื่องจากเกิดสงครามขึ้นระหว่างรัฐทั้งสอง10. เนื่องจากถูกถอดจากตำแหน่ง หรือสละราชบัลลังก์ของประมุขของประเทศใดประเทศหนึ่ง 11. เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงในประเทศใดประเทศหนึ่ง จากระบบพระมหากษัตริย์เป็นระบบสาธารณรัฐ หรือเป็นระบบสาธารณรัฐอันมีประมหากษัตริย์ทรงอยู่ใต้กฎหมาย12. เนื่องจากรัฐใดรัฐหนึ่งของทั้งสองรัฐต้องสูญสภาวะในการเป็นรัฐเหตุผลข้างต้น ทั้งหมดนี้ เป็นทรรศนะของเซอร์เออร์เนสท์ ซาทาว ซึ่งได้ให้ไว้ในหนังสือของท่าน ชื่อว่า ?A Guide to Diplomatic Practice? ฉบับเรียบเรียงใหม่ครั้งที่ 4 โดยเซอร์เนวิลล์ แบลนด์ [การทูต] |
Vienna Convention on Consular Relations | อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 1961 สมัชชาใหญ่สหประชาชาติได้ตกลงให้จัดการประชุมระหว่างผู้แทนผู้มีอำนาจเต็ม จากประเทศสมาชิก เพื่อทำหน้าที่พิจารณาปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล และได้ประชุมกัน ณ กรุงเวียนนา เมื่อต้นเดือนมีนาคม ค.ศ. 1963 ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม ถึงวันที่ 22 เมษายน มีประเทศสมาชิกเข้าร่วมประชุม เป็นจำนวน 92 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ส่วนประเทศโบลิเวีย กัวเตมาลา ปละปารากวัย ได้เข้าร่วมประชุมด้วยในฐานะผู้สังเกตการณ์ (Observers)มีข้อน่าสังเกตว่า ในข้อ 73 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างอนุสัญญานี้ว่า จะไม่มีผลกระทบต่อความตกลงระหว่างประเทศอื่น ๆ ที่ใช้บังคับระหว่างรัฐภาคีแห่งความตกลงดังกล่าว และไม่มีข้อความใดในอนุสัญญานี้ที่จะตัดหนทางของรัฐในการทำความตกลงระหว่าง ประเทศ เพื่อยืนยันหรือเติมต่อหรือยืดขยายบทแห่งอนุสัญญานี้ออกไปอีก [การทูต] |
cyclotron | เครื่องไซโคลตรอน , เป็นเครื่องสำหรับเร่งอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า ผู้ประดิษฐ์คือ Earnest O. Lawrence ชาวอเมริกัน ซึ่งได้รับรางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์ในปี พ.ศ. 2482 ในเครื่องเร่งอนุภาคชนิดนี้ อนุภาคถูกเร่งด้วยสนามไฟฟ้า ในขณะเดียวกันก็ถูกควบคุมด้วยสนามแม่เหล็ก ให้วิ่งวนเป็นวงออกไป เมื่อได้ความเร็วที่เหมาะสม ก็จะถูกปล่อยให้ไปชนกับเป้าที่ต้องการ เครื่องเร่งนี้ใช้ในการวิจัยทางฟิสิกส์พื้นฐาน และการผลิตสารไอโซโทปรังสี [พลังงาน] |
Compression set | รูปร่างและมิติของยางที่ได้กลับคืนมาหลังจากนำแรงกดออกไป ซึ่งจะบอกถึง ความสามารถของยางในการรักษาสมบัติความยืดหยุ่นหลังจากยางได้รับแรงกดเป็น ระยะเวลาหนึ่ง คำนวณเป็นร้อยละของปริมาณที่ไม่สามารถกลับคืนรูปร่างเดิมได้ มาตรฐานการทดสอบ เช่น ISO 815, ASTM D395 [เทคโนโลยียาง] |
Deproteinised or Deproteinized natural rubber | ยางธรรมชาติที่เตรียมโดยการกำจัดโปรตีนที่มีอยู่ในยางธรรมชาติออกไป สามารถทำได้ทั้งในรูปของน้ำยางและยางแห้ง วิธีที่นิยมใช้ในการกำจัดโปรตีน คือ การย่อยสลายโปรตีนด้วยเอนไซม์ (proteolytic enzymes) เช่น เอนไซม์ปาเปอิน (papain) หรืออาจใช้ด่าง (alkaline hydrolysis) หรือใช้น้ำร้อนในการกำจัดโปรตีน [เทคโนโลยียาง] |
Acanthocytosis | ผนังยื่นออกไปคล้ายหนาม [การแพทย์] |
Advancement | ความก้าวหน้า, การย้ายที่เกาะของกล้ามเนื้อหรือเอ็นให้ไกลออกไป [การแพทย์] |
Branches, Delicated | แขนงยื่นออกไปบางๆ [การแพทย์] |
Calcification, Metastatic | แคลเซี่ยมไปจับในที่ห่างไกลออกไป [การแพทย์] |
Cell Process | เซลล์ส่วนที่ยื่นยาวออกไป [การแพทย์] |
Cells, Columnar | เซลล์รูปทรงคล้ายลูกบาศก์เซลล์มีส่วนยื่นยาวออกไปคอลัมนาร์เซลล์ [การแพทย์] |
Cervical Stump, Carcinoma of the | มะเร็งปากมดลูกในรายที่ตัดมดลูกออกไปแล้ว [การแพทย์] |
Clearance, Non-Renal | การที่ยาถูกกำจัดออกไปนอกไต [การแพทย์] |
Cortical, Juxta | ก้อนขนาดเล็กยื่นออกไปจากคอร์เท็กซ์ [การแพทย์] |
Criteria, Exclusion | กฎเกณฑ์การตัดตัวอย่างที่เลือกมาออกไป [การแพทย์] |
Demineralization | ถูกละลายออกไป, กระดูกจาง, การสลายของกระดูก, การบางของกระดูก [การแพทย์] |
Depurination | การขับไล่ออกไป [การแพทย์] |
Diffusion | บริเวณเจ็บปวดกว้าง, เป็นทั่วๆไป, การซึม, การซึมผ่าน, การกระจาย, การแพร่, การแผ่ออกไป, การแพร่กระจาย, วิธีดูดซึม, แพร่กระจาย, การกระจาย, ซึมซ่าน, การแพร่, การซ่านซึม, การซึมซ่าน, การซึมซ่าน, อยู่กระจายทั่วไป, การแพร่ผ่าน, การแพร่ผ่าน, การซึมซาบ, ซึมผ่าน, กระจาย, การแพร่กระจาย, การแพร่ผ่าน [การแพทย์] |
Discharge | ตาแฉะ, ขี้ตา, ออกจากโรงพยาบาล, สิ่งไหลออก, การลดประจุไฟฟ้า, สิ่งปลดปล่อย, น้ำเหลือง, มีของไหล, ปล่อยประจุไฟฟ้าออกไป, ถูกขับออกมา [การแพทย์] |
Donor Site | ตำแหน่งที่จะต้องเอากระดูกออกไป, ตำแหน่งที่ย้ายเนื้อเยื่อไปปลูกที่อื่นที่บริเวณให้ [การแพทย์] |
Elimination | ปฏิกิริยาการกำจัด, ปล่อยสิ่งแปลกปลอมที่ถูกทำลายแล้วออกไปจากเซลล์ [การแพทย์] |
Elute | ชะล้าง, การชะ, ชะ, ถูกชะ, ชะสารต่างๆออกไป [การแพทย์] |
Extension, Extraocular | การลุกลามออกไปนอกลูกตา [การแพทย์] |
Fear of Castration | ความกลัวว่าอวัยวะเพศจะถูกตัดออกไป [การแพทย์] |
Flexion and Abduction Fragment | กางออกไปทางด้านข้าง [การแพทย์] |
ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
ให้ออกไป | [hai-øk pai] (v) EN: dismiss FR: renvoyer ; licencier ; révoquer ; congédier |
การเลื่อนออกไป | [kān leūoen øk pai] (n, exp) EN: adjournment ; postponement |
เลื่อนออกไป | [leūoen øk pai] (v, exp) EN: postpone FR: postposer |
ออกไป | [øk pai] (v) EN: go out ; exit FR: sortir ; partir ; s'en aller ; prendre la porte |
ออกไป | [øk pai] (x) EN: get out ! ; go out ! FR: dehors ! |
ออกไปข้างนอก | [øk pai khāng-nøk] (v, exp) EN: go out FR: sortir |
ออกไปลงคะแนน | [pai longkhanaēn] (v, exp) EN: go to the polls FR: aller voter ; se rendre aux urnes |
ทดรองจ่ายออกไปก่อน | [thotrøng jāi øk pai køn] (v, exp) EN: advance |
ทดรองจ่าย...ออกไปก่อน | [thotrøng jāi … øk pai køn] (v, exp) EN: advance … |
ยื่นออกไป | [yeūn øk pai] (v, exp) FR: projeter |
ยืดขยายลานบินออกไป | [yeūt khayāi lānbin øk pai] (v, exp) EN: prolong the runway of an airfield FR: allonger la piste d'atterissage |
ยืดออกไป | [yeūt øk pai] (v, exp) FR: allonger |
Longdo Approved EN-TH
tow away | (vt) ลากออกไป เช่น the police tows the car away. |
to hang out | (v, slang) ออกไปข้างนอก สังสรรค์ คุยกัน เช่น กับเพื่อนๆ |
effluent | (n) ของเสียที่ปล่อยออกมา เช่นจากโรงงาน ออกไปสู่สิ่งแวดล้อม |
oil cake | (n, jargon) กากทะลายปาล์มที่เกิดขึ้นหลังจากการหีบน้ำมันปาล์มแล้ว, กากของเมล็ดฝ้ายที่ผ่านการบีบเอาน้ำมันออกไปแล้ว |
to see a man about a horse | (phrase, slang) เป็นการขอโทษเมื่อต้องการจะออกไปข้างนอก มักพูดเมื่อจะขอตัวไปห้องน้ำ หรือออกไปซื้อเครื่องดื่ม เช่น Can we stop, Simon? I have to see a man about a horse., Syn. to see a man about a dog |
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
adjourn | (vi) บอกเลื่อน, See also: เลื่อนออกไป, เลื่อน, Syn. postpone, dismiss |
adjourn | (vt) บอกเลื่อน, See also: เลื่อนออกไป, เลื่อน |
adjournment | (n) การเลื่อน, See also: การเลื่อนออกไป, Syn. postponement, delay |
appendage | (n) ส่วนที่ยื่นออกไปจากร่างกาย, Syn. limb |
apse | (n) ส่วนของอาคารที่เป็นมุขยื่นออกไป |
aside | (adv) ออกไปจาก, See also: ออกไปจากใจ, ออกไปจากความคิด, Syn. out of the way |
adjourn to | (phrv) เลื่อนออกไป (เวลา), See also: เปลี่ยนเวลาเป็น, เปลี่ยนเป็น |
allow out | (phrv) อนุญาตให้ออกไป (จากห้อง ตึก อาคาร ประตู), See also: ยอมให้ออกไป, Syn. permit out |
ask out | (phrv) ชวนออกไป, See also: ชวนไปข้างนอก, Syn. go about, go out, go out with |
back number | (n) หนังสือพิมพ์/นิตยสารที่เคยตีพิมพแล้วแต่ยังมีค่าอยู่, See also: สำเนาหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารฉบับที่ออกไปแล้ว, Syn. back issue |
bail | (vt) ประกันตัวออกไป |
beyond | (adv) ที่อยู่ไกลออกไป, See also: ยังไกลออกไป, Syn. further |
beyond | (prep) อยู่ทางนั้น, See also: เลยออกไป, ถัดออกไป, ไกลออกไป ใช้แสดงตำแหน่งหรือทิศทาง |
boomerang | (n) สิ่งที่ให้ผลร้ายแบบไม่คาดคิดแก่ผู้ที่ทำหรือพูดออกไป, Syn. backfire |
bandy about | (phrv) กระจายไปทั่ว, See also: ลือกันไป, แพร่ออกไป, ซุบซิบ |
bandy around | (phrv) กระจายไปทั่ว, See also: ลือกันไป, แพร่ออกไป, ซุบซิบ |
bandy round | (phrv) กระจายไปทั่ว, See also: ลือกันไป, แพร่ออกไป, ซุบซิบ |
be all over | (phrv) แพร่ออกไป, See also: กระจายออกไป |
be beyond | (phrv) อยู่ไกลกว่า, See also: อยู่เลยออกไป |
be off | (phrv) จากไป, See also: ออกไป, Syn. go away |
be on ice | (idm) เลื่อนออกไป (คำไม่เป็นทางการ) |
be out of | (phrv) ถูกนำออกไป, See also: กำจัดออกไป |
bear away | (phrv) (เรือ) แล่นออกไป |
beat off | (phrv) ขับไล่, See also: ผลักดันให้ออกไป |
beetle off | (phrv) ปลีกตัวออกไป (คำไม่เป็นทางการ), See also: ผละไปโดยเร็ว, ละทิ้งไป |
belt out | (phrv) รีบออกไปข้างนอก (คำไม่เป็นทางการ) |
blaze abroad | (phrv) ทำให้แพร่ออกไป, See also: แพร่กระจาย, Syn. bruit abroad, noise abroad, rumour abroad |
blink away | (phrv) กระพริบตาถี่เพื่อไล่น้ำตาออกไป, Syn. wink away, wink back |
blink back | (phrv) กระพริบตาถี่เพื่อไล่น้ำตาออกไป, Syn. wink away, wink back |
blow off | (phrv) พัดออกไป |
blow out | (phrv) พัดออกไป, See also: พัดพาไป |
bog off | (phrv) ไปให้พ้น (คำสแลง), See also: ออกไปเสีย, Syn. push off |
bolt out | (phrv) รีบผละไป, See also: รีบออกไป |
bounce out | (phrv) กระเด้งออก, See also: เด้งออกไป |
bounce out | (phrv) โยนออก (เพราะทำความผิด), See also: เตะออกไป, ถีบออกไป, Syn. throw out |
branch out | (phrv) ขยายสาขา, See also: ขยายออกไป |
break out | (phrv) พังออกไป |
bring out | (phrv) เคลื่อนย้ายออกไปจาก (ห้องหรืออาคาร), Syn. fetch out |
bruit about | (phrv) ทำให้รู้กันทั่ว, See also: บอกให้รู้กันทั่ว, ทำให้แพร่หลาย, ทำให้กระจายออกไป, Syn. blaze abroad, noise abroad, rumour abroad, spread abroad |
bruit abroad | (phrv) ทำให้รู้กันทั่ว, See also: บอกให้รู้กันทั่ว, ทำให้แพร่หลาย, ทำให้กระจายออกไป, Syn. blaze abroad, noise abroad, rumour abroad, spread abroad |
bugger off | (phrv) ออกไป |
bundle off | (phrv) รีบออกไป, See also: รีบจากไป, Syn. bundle away, pack off |
burgeon out | (phrv) แพร่ออกไป, See also: กระจาย, ขยายไปอย่างเร็ว |
bush telegraph | (idm) การบอกกันต่อๆ ไป (คำไม่เป็นทางการ), See also: การกระจายข่าวออกไป |
buzz off | (phrv) ไปให้พ้น (คำไม่เป็นทางการ), See also: ออกไปให้พ้น, ออกไป, Syn. push off |
chain gang | (n) นักโทษที่ถูกล่ามโซ่ไว้ด้วยกัน (โดยเฉพาะที่ต้องออกไปทำงานนอกคุก) |
clearance | (n) การทำให้หมดไป, See also: การเอาออกไป, Syn. removal, withdrawal |
coextend | (vt) ขยายออกไปเท่าๆ กัน (ได้ทั้งพื้นที่และเวลา) |
coextend | (vi) ขยายออกไปเท่าๆ กัน (ได้ทั้งพื้นที่และเวลา) |
counter | (adj) ที่โต้ตอบออกไป |
Hope Dictionary
+ | เครื่องหมาย cross hairs เป็นรูปลักษณ์ของตัวชี้ตำแหน่ง (cursor) แบบหนึ่ง ที่แตกต่างกันออกไปในบางโปรแกรม เช่น ในโปรแกรมการวาดภาพในระบบวินโดว์ส มักมีลักษณะเป็นเส้นตัดกัน (+) แทนที่จะเห็นเป็นลูกศรตามปกติ |
aff | (แอฟ) prep., adv. ห่างไป, ออกไป |
apo- | (คำเสริมหน้า) มีความหมายว่า "จาก", "ออกไป" ("away," "different from,") |
apse | (แอพซฺ) n. ส่วนของอาคารที่เป็นมุขยื่นออกไป. -apsidal adj., Syn. projection |
binary tree | ต้นไม้แบบทวิภาคโครงสร้างข้อมูล ที่แต่ละจุดต่อ (node) มีกิ่งยื่นออกไปได้ไม่เกินสองกิ่ง |
blank disk | จานบันทึกเปล่าหมายถึง จานบันทึกที่ไม่มีข้อมูลเก็บ หรือข้อมูลถูกลบออกไปหมด |
blank tape | แถบเปล่าหมายถึง แถบบันทึกที่ไม่มีข้อมูลเก็บ หรือข้อมูลถูกลบออกไปหมด |
boomerang | (บูม'มะแรง) { boomeranged, boomeranging, boomerangs } n. ไม้รูปโค้งซึ่งเมื่อเหวี่ยงออกไปแล้วกลับมาหาผู้เหวี่ยง, อาวุธลับที่กลับไปทำลายผู้ใช้, ดาบที่คืนสนอง vt. ทำอันตรายอย่างไม่คาดคิดกับผู้ริเริ่ม |
bouncer | n. บุคคลหรือสิ่งที่เด้งกลับผู้มีหน้าที่เอาคนก่อกวนออกไป, คนโกหก, ใหญ่และแข็งแรง |
branch | (เบรานชฺ) { branched, branching, branches } n. กิ่งก้าน, กิ่ง, สาขา, แขนง, วิชาย่อย, ทางแยก, สายย่อย, แคว vt. แตกกิ่งก้านสาขา, , Syn. bough แยกแตกกิ่ง1. หมายถึง การแยกตัวออกไปจากโปรแกรมที่ทำอยู่ ไปทำโปรแกรมอีกอันหนึ่ง เช่น แยกออกจากโปรแกรมหลัก main program ไปทำงานที่โปรแกรมย่อย subprogram ตามคำสั่ง Go to2. ความหมายที่ใช้กับ "ต้นไม้" tree มีความหมายถึงการแตกกิ่งก้านสาขา เช่นในการแสดงแฟ้มข้อมูลในโปรแกรม Windows Explorer ของ Windows 95 |
bus | (บัส) 1. { bussed, bussing, buses } n. รถโดยสารประจำทาง, รถเมล์, รถบัส, รถม้า, เครื่องบินโดยสาร, ตัวเชื่อมต่อวงจรไฟฟ้าหลายวงจร, สายรวม, สายตัวนำใช้สำหรับการส่งสัญญาณ, หมายถึงวงจรหนึ่งที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสื่อสำหรับส่งถ่ายขัอมูลจากอุปกรณ์หนึ่งไปสู่อีกอุปกรณ์หนึ่ง, สายตา 2. วงจรหรือทางเดินไฟฟ้าที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสื่อสำหรับส่งอิเล็กตรอน ให้กระจายออกไปยังจุดต่าง ๆ คอมพิวเตอร์มีบัสไว้ เพื่อทำหน้าที่กระจายอิเล็กตรอน (ซึ่งแทรกรหัสข้อมูลไปตามจุดที่ต้องการภายในเวลาที่กำหนดให้) |
check sum | ผลรวมตรวจสอบหมายถึง ผลการคำนวณเพื่อยืนยันในความแม่นตรงของการถ่ายโอนข้อมูลผ่านทางโมเด็ม ส่วนมากจะเป็น XModem โดยปกติ ในการส่งข้อมูล คอมพิวเตอร์จะต้องจัดการแยกข้อมูลทั้งหมดออกเป็นส่วนเล็ก ๆ ก่อน ฉะนั้นเมื่อส่งเรียบร้อยแล้ว จึงต้องมีการตรวจสอบผลรวม ถ้าตรงกัน ก็แปลว่า ข้อมูลที่ส่งออกไปถูกต้องครบถ้วน |
computer crime | อาชญากรรมคอมพิวเตอร์หมายถึง อาชญากรรมหรือความผิดที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ช่วย เช่น การแก้ไขตัวเลขในบัญชีเงินฝากของลูกค้า จนทำให้สามารถขโมย หรือยักย้ายถ่ายเทเงินออกไปได้ หรือการแอบเข้าไปดูและแก้ไขคะแนนสอบ เป็นต้น |
cray research, inc. | <ชื่อบริษัท>สถาบันวิจัยเครย์ <คำแปล>เป็นชื่อบริษัทที่สร้างคอมพิวเตอร์เมนเฟรมที่ยิ่งใหญ่บริษัทหนึ่ง ส่วนมากจะเป็นขนาดที่เรียกกับว่า supercomputer ผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกมีชื่อว่า Cray I ในปี ค.ศ.1977 คอมพิวเตอร์ขนาดนี้จะมีราคาสูงมาก และมักจะใช้กับงานใหญ่ ๆ เป็นต้นว่า การส่งยานอวกาศออกไปนอกโลก เป็นต้น |
cross hairs | n. เส้นไขว้กล้องสำหรับหมายวัตถุที่ส่องดู, เส้นกากบาทในกล้องปืนเล็งเป้า + <เครื่องหมาย>เป็นรูปลักษณ์ของตัวชี้ตำแหน่ง (cursor) แบบหนึ่ง ที่แตกต่างกันออกไปในบางโปรแกรม เช่น ในโปรแกรมการวาดภาพในระบบวินโดว์ มักมีลักษณะเป็นเส้นตัดกัน (+) แทนที่จะเห็นเป็นลูกศรตามปกติ |
daisey wheel printer | เครื่องพิมพ์แบบจานอักขระหมายถึงเครื่องพิมพ์แบบกระทบ (impact printer) ชนิดหนึ่ง ที่ใช้วิธีพิมพ์ด้วยการมีจานอักขระหรือจานกลม ๆ ที่มีลักษณะเหมือนวงล้อ มีตัวอักขระต่าง ๆ ติดอยู่ที่ปลายก้านแต่ละก้านที่กางออกไปจากศูนย์ตรงกลาง) เวลาพิมพ์ จานนี้ก็จะหมุนไปรอบ ๆ เมื่ออักษรตัวใดกระทบกับกระดาษ ก็จะเกิดเป็นอักษรตัวนั้นบนกระดาษดู daisy wheel ประกอบ |
daisy wheel | จานอักขระหมายถึง จานกลม ๆ มีลักษณะเหมือนวงล้อ มีตัวอักขระต่าง ๆ ติดอยู่ที่ปลายก้านแต่ละก้านที่กางออกไปจากศูนย์ตรงกลาง ใช้กับเครื่องพิมพ์แบบกระทบ (impact printer) เวลาพิมพ์ จานนี้ก็จะหมุนไปรอบ ๆ เมื่ออักษรตัวใดกระทบกับกระดาษ ก็จะเกิดเป็นอักษรตัวนั้นบนกระดาษ |
date | (เดท) { dated, dating, dates } n. วันที่, วันเดือนปี, วันนัด, การนัด, ผู้ถูกนัดหมาย (เพศตรงข้าม) , อายุ, ยุคสมัย v. ระบุวันที่, เป็นของยุคสมัย, นัดหมาย, ล้าสมัย, ออกไปพบตามนัด, ผลอินผลัม, date palm (ดู), See also: datable adj. ดูdate dateable adj. ดูdate data |
deaden | (เดด'เดิน) vt. ทำให้ชา, ทำให้อ่อนแอ, ทำให้เสียงไม่สามารถลอดเข้ามาหรือออกไปได้ vi. ตาย, กลายเป็นตาย, See also: deadener n., Syn. mute |
deferment | (ดิเฟอร์'เมินทฺ) n. การเลื่อน, การยึดเวลาออกไป, การยกเว้น, การถูกเกณฑ์ทหารชั่วคราว |
deferred | (ดิเฟอร์ดฺ') adj. ซึ่งเลื่อนไป, ซึ่งยึดเวลาออกไป, ซึ่งได้รับยกเว้นไม่ต้องถูกเกณฑ์ทหารชั่วคราว |
door | (ดอร์, โดร์) n. ประตู, ทางเข้า, ทางผ่าน, บ้านที่มีประตูริมทาง, วิธีการ -Id. (show someone the door ขอให้ออกไปได้), Syn. doorway, means |
egress | (อี'เกรส) n. การออกไปข้างนอก, ลัทธิในการออก vi. (อิเกรส') ออก, ออกไป, See also: egression n. |
elongation | (อีลองเก'เชิน) n. การทำให้ยาวออกไป, สิ่งที่ถูกทำให้ยาวออกไป, ส่วนที่ยืดออก |
erasable storage | หน่วยเก็บที่ลบได้ <คำแปล>หมายถึง สื่อเก็บข้อมูลที่สามารถบันทึกข้อมูลใหม่ทับข้อมูลเก่าได้ เช่น แถบบันทึก (tape) หรือ จานบันทึก (diskette) เมื่อบันทึกข้อมูลใหม่ ข้อมูลเก่าจะถูกลบออกไปเอง ส่วนบัตร (card) เป็นหน่วยเก็บที่ลบไม่ได้ หมายความว่า ใช้ได้ครั้งเดียวก็ต้องโยนทิ้ง |
exclude | (เอคซฺคลูด') vt. กันออกไป, แยกออกไป, กันไม่ให้เข้ามา, ไล่ออก, ขับไล่ออก, See also: excludability n. ดูexclude excludable adj. ดูexclude excludible adj. ดูexclude excluder n. ดูexclude exclusory adj. ดูexclude |
exclusion | (เอคซฺคลู'เชิน) n. การกันออกไป, การไล่ออก, See also: exclusionary adj. ดูexclusion |
exit | (เอค'ซิท, เอค'ซิท) n. ทางออก, ประตูฉุกเฉิน, การจากไป, การลงจากเวที, การตาย. vi. ออกไป, จากไป, ลงจากเวที, ตาย. -make one's exit ออกไป, จากไป, Syn. outlet, ออกทางออกหมายถึงคำสั่งที่ผู้ใช้โปรแกรมใช้ เมื่อต้องการหยุดหรือเลิกใช้โปรแกรมนั้นเพื่อกลับออกไปสู่ระบบปฏิบัติการ operating systems หลังจากที่ใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว โปรแกรมต่าง ๆ ของแมคอินทอชมักจะใช้คำว่า Quit แทน ซึ่งก็มีความหมายเหมือนกัน ในระบบวินโดว์ของพีซี ทุกโปรแกรมจะมีคำสั่งนี้ไว้ให้เลือกใต้เมนู File ซึ่งเป็นคำสั่งกลับออกไปยังระบบวินโดว์นั้นเอง |
farther | (ฟาร์'เธอะ) adv., adj. ไกลออกไปอีก , ไกลกว่า, |
feeze | (ฟีซ', เฟซ) n. ความกังวล, การพุ่งออกไปอย่างรุนแรง, การชนอย่างแรง, การปะทะกันอย่างแรง |
fend | (เฟนดฺ) { fended, fending, fends } vt. ป้องกัน, พิทักษ์, ปัดเป่า, ผลักออกไป, ปัดออกไป. vi. ต้าน, ต่อต้าน, หลบหลีก, ล้อมรั้ว, พยายามต่อสู้เพื่อให้ได้มา, Syn. ward off |
forth | (ฟอร์ธ) adv., prep. ไปข้างหน้า, ไปข้างนอก, ออกมา, ออกไป. -Phr. (and so forth และต่อมา) |
further | (เฟอ'เธอะ) adv. ต่อไป, ไกลออกไป, นานออกไป, นอกจากนี้. adj. ไกลกว่า, ขยายออกไปอีก, เพิ่มเติม, มากขึ้น. vt. ช่วยทำให้ก้าวไปข้างหน้า, ส่งเสริม, ผลักดัน, ก้าวหน้า., See also: furtherer n., Syn. farther |
local variable | ตัวแปรเฉพาะที่เป็นคำที่นักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ใช้อธิบายถึงข้อมูลที่แยกออกไปอยู่ในบางส่วนบางตอนของโปรแกรม เช่น อาจเป็นตัวแปลที่อยู่เฉพาะในโปรแกรมย่อยเท่านั้น |
multiplexing | หลายทางหมายถึง การถ่ายทอดสัญญาณ การส่งข่าวสารหลาย ๆ ทาง โดยเฉพาะข่าว เช่น ทางโสต และทางทัศน์ ลงในช่องเดียวกันเพื่อส่งออกไปทางเดียว |
off | (ออฟ) adv. ออก, ห่างออกไป, ห่าง, แยกออกจาก, ไกลออกไป, พ้นไป, ไปเสีย, ไป, หลุด, ขาดออก, ขาด, พ้น, สิ้นเชิง, หมดไป prep. แยกออกจาก, ห่างออกไป, หลุด, ขาดออก, จากไป, ขาด, พ้น, จาก adj. ผิด, ผิดปกติ, ผิดมาตรฐาน, ไม่เป็นที่พอใจ, ไม่เป็นที่พอใจ, ไม่เป็นผล, อิสระ, ว่าง, พัก, หยุดพัก, หยุดทำงาน, (ขับรถ) บนด้านขวา, เริ่มไป, ไม่สำคัญ, แยก, ค่อนข้างเลว n. ภาวะที่อยู่ห่างออกไป, ภาวะที่หยุดพักการทำงาน, ภาวะที่ผิดมาตรฐาน หรือค่อนข้างเลว ภาวะที่ออกนอกเส้น, ออกไป, ไปให้พ้น |
offing | (ออฟ'ฟิง) n. ทะเลตอนเห็นจากฝั่งไกลลิบออกไป, ตำแหน่งที่อยู่ไกลจากฝั่งมาก. -phr. (in the offing ไกลออกไปแต่ยังมองเห็น, ในอนาคตที่คาดหมายไว้) |
offshoot | (ออฟ'ชูท) n. กิ่งก้าน, สาขา, แขนงหน่อ, เชื้อสายที่ห่างออกไป, ผลปลีกย่อย, ควันหลง |
on line processing | การประมวลผลแบบเชื่อมตรงหมายถึง การประมวลผลที่ทำโดยอุปกรณ์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าอุปกรณ์นั้นจะเป็นส่วนหนึ่งของตัวเครื่อง (เช่นเครื่องอ่านบัตร) หรืออุปกรณ์นั้นจะอยู่ห่างออกไปแต่สามารถติดต่อโดยตรงกับเครื่องได้ เช่น การประมวลผลโดยมีการสื่อสารระหว่างเครื่องปลายทางหรือเทอร์มินัล (terminal) และหน่วยประมวลผลกลางโดยทางโทรศัพท์ หรือวิธีอื่น ๆ การทำเช่นนี้เครื่องจะประมวลผลทันทีที่ได้รับข้อมูล ซึ่งจะเข้าสู่ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา เช่น ที่ใช้ในการส่งยานอากาศไปนอกโลก การถอนเงินในระบบเงินด่วน เป็นต้น ดู batch processing เปรียบเทียบ |
ostracise | (ออส'ทระไซซ) vt. เอาออกไปจากสังคม, เนรเทศ, เอาออก, ตัดสิทธิ์ |
ostracize | (ออส'ทระไซซ) vt. เอาออกไปจากสังคม, เนรเทศ, เอาออก, ตัดสิทธิ์ |
out | (เอาทฺ) adv., adj. ออกไป, ออก, ข้างนอก, ออกหมด, หมด, หมดสิ้น, ห่างไกลกัน, พ้น, พ้นสมัย, ขาด, ผิด, ขาด, ตก, สลบไป, หมดสติ -Phr. (all out เต็มที่, พยายามเต็มที่) -Phr. (out from under ออกจากสภาวะที่ลำบาก) n. ภายนอก, ส่วนไม่ดี prep. ไปข้างนอก, ...ไปตาม. interj. ไปให้พ้น!, ออกไป |
outgo | (เอาทฺ'โก) n. การออกไป, นอกเขต, รายจ่าย, สิ่งที่ไหลออกไป, การกระทำได้ดีกว่า, การเดินทางได้ไกลกว่า -S. |
outgoing | (เอาทฺ'โกอิง) adj. ออกไป, จากไป, ออกสังคม, เกี่ยวกับอาหารนอกบ้าน |
outing | (เอา'ทิง) n. การออกนอกบ้าน, การออกไปเที่ยว, กิจกรรมนอกบ้าน, ทะเลนอกฝั่ง, การแข่งขันทางกีฬา, การซ้อมการควบม้าหรือแข่งเรือ, Syn. excursion |
output data | ข้อมูลออกหมายถึงข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ทำการประมวลผลให้เรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะส่งออกไปทางจอภาพ เครื่องพิมพ์ พล็อตเตอร์ หรืออุปกรณ์ส่งออกอื่น ๆ รวมทั้งหน่วยขับจานบันทึก |
outshoot | (เอาทฺ'ชูท) v., n. (การ) ยิงปืนได้ดีกว่า, ยิงเลย, ยิงออกไป, ส่งออกไป, การยิงออก, สิ่งที่ยิงออก, สิ่งที่ส่งออก |
pier | (เพียร์) n. ตอม่อ, เสาสะพาน, สะพานที่ยื่นออกไปในน้ำ, เขื่อนกันคลื่น, ท่าเรือชนิดยื่นออกไปในน้ำ, เสาค้ำ, ฝาค้ำ, ฝาหรือเสากลางหน้าต่าง. |
pineal body | เป็นต่อมเล็ก ๆ ยังไม่ทราบหน้าที่แน่นอน แต่จะหดหายไปเมื่ออายุมากกว่า 7 ปี แต่เชื่อว่าต่อมนี้มีหน้าที่ในการยับยั้งการเจริญเติบโต ช่วยกระตุ้น ACTH ทำให้เข้าสู่วัยรุ่นช้าออกไป |
print buffer | บัฟเฟอร์เครื่องพิมพ์หมายถึง ส่วนหนึ่งของหน่วยความจำที่ถูกกันไว้ให้มีหน้าที่เก็บผลที่จะพิมพ์ ออกไว้ชั่วคราว ทั้งนี้เป็นเพราะเครื่องพิมพ์ทำงานช้ากว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ เมื่อคอมพิวเตอร์ประมวลผลเสร็จแล้ว ก็จะส่งผลมารอเก็บไว้ที่นี่ก่อน แล้วเครื่องพิมพ์ก็จะค่อย ๆ ทยอยพิมพ์ออกไป |
Nontri Dictionary
abroad | (adv) ในต่างประเทศ, นอกประเทศ, นอกบ้าน, กว้างออกไป |
abstracted | (adj) ที่แยกออกไป, ใจลอย |
aloof | (adv) ปลีกตัว, ออกห่าง, ห่างออกไป |
apart | (adv) ต่างหาก, ห่างออกไป |
beetling | (adj) ยื่นออกไป, โผล่ออกมา |
continue | (vt) ทำเรื่อยไป, ทำต่อไป, ทำให้ยืดออกไป |
diffuse | (vi, vt) แพร่, เผยแพร่, กระจายออกไป, ไหลท่วม |
diffusion | (n) การแพร่กระจาย, การแผ่ออกไป, การกระจายตัว, การเผยแพร่ |
dislodge | (vt) แยกย้าย, ขับออกไป, เคลื่อนออกจาก, ย้ายที่ |
emanate | (vi) ออกไป, ขจร, ฟุ้ง, กระจาย, ระเหย, ส่องแสง, ฉายแสง |
emanation | (n) การออกไป, การระเหยออก, บ่อเกิด, การกำเนิด, การปล่อยออกมา |
emerge | (vt) ออกไป, โผล่, ปรากฏออกมา |
emergence | (n) การออกไป, การปรากฏออกมา, การโผล่ออกมา, วิวัฒนาการ |
emission | (n) การส่งออกไป, การแพร่ออกมา, การฉาย, การปล่อยออกมา |
emit | (vt) ส่งออกไป, แพร่ออกไป, ฉายออกมา, กระจายออกมา |
exodus | (n) การออกไป, การจากไป, การไหลออก |
extend | (vi, vt) ขยายออกไป, ยืดออก, แผ่ออก, กางออก, เพิ่มขึ้น, ไปถึง |
extrude | (vt) ยื่นออกไป, โผล่ออกมา, ไหลออกมา, เล็ดลอดออกมา |
farther | (adv) ไกลออกไป, ห่างออกไป |
flare | (vi) ลุกเป็นไฟ, แผ่ออกไป, ส่องแสงแวววาว, กางออก, บานออก, เดือดดาล |
further | (adj) มากขึ้น, ไกลกว่า, ขยายออกไปอีก |
further | (adv) ห่างออกไป, ไกล, ไกลห่าง, ต่อไป, นอกจากนี้ |
isolate | (vt) แยกจากกัน, ปลีกออกไป, ตีตัวออกห่าง |
issue | (n) การออกไป, ปัญหา, ผลลัพธ์, ผลประโยชน์, การส่งออกไป, รุ่น, ชุด, ฉบับ |
issue | (vt) ส่งออกไป, ออกคำสั่ง, แจกจ่าย, เป็นผล, ตีพิมพ์ |
jet | (n) ลำน้ำที่พุ่งออกไป, หัวท่อ, นิล, พวย, นมหนู |
jut | (n) สิ่งที่ยื่นออกไป |
jut | (vi) ยื่นออกไป, โผล่ |
leave | (vi) จากไป, ลาจาก, ออกไป, ร่ำลา, ลาหยุด |
off | (adv) ไกลออกไป, แยกไป, ห่างออกไป, พ้น, หมดสิ้น |
off | (pre) ออกไป, หมด, สิ้นเชิง, พ้น, จากไป, ขาด |
out | (adv) ออกไป, ข้างนอก, พันสมัย, ดับ(ไฟ), หมดสิ้น |
outbound | (adj) แล่นออก, (เรือ)ขาออก, ออกไปข้างนอก |
outflow | (n) การเคลื่อนออกไป, สิ่งที่ไหลออก |
outreach | (vt) แผ่ออกไป, ยื่นออกไป |
outstretched | (adj) แผ่ออก, อ้า, กางออก, ยื่นออกไป, ขยายออก |
project | (vi) ยิงออกไป, ปล่อยออกมา, ฉายเป็นเงา, พุ่งออกไป, ถ่ายแผนที่ |
projectile | (adj) พุ่งออกไปได้, ที่ยิงออกไป, ซึ่งขับเคลื่อน |
projectile | (n) สิ่งที่พุ่งไป, สิ่งที่ยิงออกไป, สิ่งที่ขับเคลื่อน, ขีปนาวุธ, กระสุน |
prolong | (vt) ยืดออกไป, ต่อออกไป, ขยายออก |
prolongation | (n) การยืดออก, การต่อออกไป, การขยายออก |
protract | (vt) กางออกไป, ยืดเยื้อ, ขยายออก |
splay | (vi) บาน, แผ่ออกไป, กาง, แบะ, ขยาย, ผายออก, ถ่างออก |
stretch | (vt) ยื่นออกไป, แผ่ออกไป, ผายออก, ยืด, ขึง, เหยียด |
subtend | (vt) โอบล้อม, ขยายออกไป, หุ้ม |
ulterior | (adj) ห่างออกไป, ลี้ลับ, ไกลโพ้น, ซ่อนเร้น |
Longdo Unapproved EN-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
accolade | ส่วนที่ประดับบนประตูโค้ง มักเป็นเส้นโค้งรูปตัวเอสที่มาบรรจบกันตรงกลาง แต่ละส่วนจะโค้งเว้าออกไปทางส่วนปลายและจะนูนออกไปทางจุดที่เส้นบรรจบกัน |
consignee | [คันไซ้นี่] (n) ผู้รับมอบกรรมสิทธิ์ในสินค้า หากระบุในใบตราส่งจะอยู่ในช่องที่ 2 อ้านซ้ายริมบน ซึ่งมีเรียงกัน 3 ช่องเป็นมาตรฐานเดียวกันหมด คือ ช่อง 1 Shipper คือ ผู้ส่งสินค้าซึ่งจะเป็นใครก็ได้ ช่อง 2 Consignee คือ ผู้รับมอบกรรมสิทธิ์ในสินค้า จะระบุต้นทาง หรือปลายทางก็ได้ตามบริบทแวดล้อม ช่อง 3 คือ Notify Party คือ ผู้รับแจ้งเมื่อมีการส่งสินค้าออกไปจากต้นทางแล้ว |
flooding | (n) การกระจายออกไป, Syn. broadcast |
fuck off | (phrase, vulgar) ออกไป, ไปไกลๆ (หยาบคาย, โปรดระวังการใช้งาน), Syn. clear off |
itnw | (n, name) เป็นชื่อเพลงที่ย่อมาจาก into the new world ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลเปิดตัวของสาว ๆ Girls' Generation หรือที่รู้จักกันในนาม SNSD ซึ่งมีตัวย่อมาจาก So Nyeo Shi Dae ในลักษณะการเต้นของเพลงนี้จะออกไปทางด้านการเต้นแอโรบิคในแบบที่น่ารักและมีเสน่ห์ ซึ่งเป็นที่ติดตาของหลาย ๆ คนจนถึงทุกวันนี้ |
may winter a far to eater | (n, vi, vt, modal, ver) ขอให้ฤดูหนาวห่างไกลออกไปอีก |
sousaphone | แตรวงแหวนขนาดใหญ่มาก เสียงต่ำ มีปากแตรหันออกไปด้านหน้า เวลาบรรเลงต้องคล้องไหล่ |
spruiker | (n) คนที่โปรโมตธุรกิจด้วยการแกล้งออกไปยืนต่อคิวซื้อสินค้าของตัวเอง |
take it out | (phrase) เอามันออกไป, พามันออกไป |
Uvulopalatopharyngoplasty | เป็นขั้นตอนการผ่าตัดหรือการนอนหลับที่ใช้ในการเอาเนื้อเยื่อออกไปและ/หรือเนื้อเยื่อสร้างใหม่ในลำคอ |
Longdo Approved JP-TH
拡充 | [かくじゅう, kakujuu] (vt) ขยาย ทำให้ขยายออกไป, Syn. 拡張充実 |
Longdo Unapproved JP-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
改竄 | [かいざん, kaizan] (vt) แยกออกไป, แยกย้ายออกไป, แยกกัน, กระจายออก |
延期になる | [えんきになる, enkininaru] (n) การเลื่อนกำหนดออกไปอีก |
外出 | [がいしゅつ, gaishutsu] (n) ออกไปข้างนอก |
溜飲が下がる | [りゅういんがさがる, ryuuingasagaru] (vi) สะใจ (มีความโกรธสะสมอยู่เต็ม แล้วในที่สุดก็ได้ระบายออกไป) |
規制延期 | [きせいえんき, kiseienki] กฏระเบียบที่ถุกเลื่อนออกไป กฏระเบียบที่ถุกขยายเวลาออกไป |
規制延期 | [きせいえんき, kiseienki] กฏระเบียบที่ถุกเลื่อนออกไป กฏระเบียบที่ถุกขยายเวลาออกไป |
Saikam JP-TH-EN Dictionary
取り除く | [とりのぞく, torinozoku] TH: กำจัดออกไป EN: to take away |
出る | [でる, deru] TH: ออกไป EN: to leave |
延びる | [のびる, nobiru] TH: ยืดออกไป |
出迎え | [でむかえ, demukae] TH: การออกไปรับผู้มาเยือนถึงที่ที่เขามาถึง EN: meeting |
移す | [うつす, utsusu] TH: ย้ายออกไป EN: to remove |
延ばす | [のばす, nobasu] TH: ยืดเวลาออกไป |
持ち出す | [もちだす, mochidasu] TH: เอาออกไป EN: to take out |
広がる | [ひろがる, hirogaru] TH: ยื่นออกไป EN: to stretch |
移送 | [いそう, isou] TH: ย้ายออกไป EN: removal |
出かける | [でかける, dekakeru] TH: ออกไปข้างนอก EN: to go out |
Longdo Approved DE-TH
weg | (adv) ไกลๆ พ้นๆ เช่น Geh weg! ไปพ้นๆ หรือแปลว่า ออกไปข้างนอก เช่น Sie ist schon weg. |
eben | (adv) เพิ่งจะ เช่น Er ist eben weggelaufen. เขาเพิ่งจะเดินออกไปเอง, Syn. erst |
heraus | (adv) บ่งชี้ทิศทางออกข้างนอกของผู้พูด เช่น Heraus mit dir! ออกไปซะ |
hinaus | ออกไปนอก |
beleidigt | (adv) |über etw.(A)| รู้สึกถูกดูถูกเหยียดหยาม เช่น Er ist beleidigt darüber, dass ich ihm die Meinung gesagt habe. เขารู้สึกถูกดูถูกที่ฉันได้พูดความคิดเห็นออกไป |
Longdo Unapproved DE-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
entfernen | (vt) เอาออกไป ตัดออก |
entfernung | (n) 1.ระยะทาง ระยะ ความไกล 2.การเคลื่อนย้ายออกไป การขับไล่ไสส่ง |
Longdo Approved FR-TH
partir | (vi) |je pars, tu pars, il part, nous partons, vous partez, ils partent| ออกไป, ไป, เริ่มออกไป เช่น Il est parti en France à huit heures. เขาเดินทางออกไปฝรั่งเศสตอนแปดโมงแล้ว, Syn. aller, provenir |
s'en aller | (v/pr,, reflexiv) ออกไปจากที่ ที่ผู้พูดกำลังอยู่ขณะนั้น, Syn. partir |
quand | เมื่อไหร่ (คำขึ้นต้นประโยคคำถาม) เช่น Tu sors quand? = Quand est-ce que tu sors? เธอออกไปเมื่อไหร่ |
jeter | (vt) โยนทิ้ง, ขว้างออกไป |
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Time: 0.0473 seconds, cache age: 9.399 (clear)
ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม