379 ผลลัพธ์ สำหรับ *กัก*
ภาษา
หรือค้นหา: กัก, -กัก-Longdo Unapproved TH - EN
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
การกักบริเวณ | [dɪˈtenʃn] (n) detention |
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
กัก | (v) dam up, See also: stop up, block up, retain, Ant. ปล่อย, Example: เขื่อนภูมิพลสามารถกักน้ำไว้ใช้ในการชลประทานในฤดูแล้งได้, Thai Definition: ยึดไว้, ไม่ปล่อยไป |
กัก | (v) confine, See also: restrict, restrain, Syn. กักกัน, Ant. ปล่อย, Example: ครูกักนักเรียนที่ทำผิดระเบียบให้อยู่ต่อหลังเลิกเรียน, Thai Definition: ไม่ให้ล่วงพ้นเขตที่กำหนดไว้ |
กักกัน | (v) detain, See also: confine, Example: แม่กักกันลูกไม่ให้หนีออกไปทำความผิดนอกบ้านอีก |
กักขฬะ | (adj) rough, See also: vulgar, rude, Syn. ชั่ว, Ant. ดี, Example: ผู้ชายคนนั้นมีนิสัยกักขฬะ, Notes: บาลี |
กักขัง | (v) detain, See also: hold in custody, detain under custody, confine, imprison, incarcerate, Syn. ขัง, Ant. ปล่อย, Example: กรมราชทัณฑ์กักขังนักโทษประหารชีวิตไว้ในแดนห้า |
กักคุม | (v) detain, See also: take somebody into custody, hold in custody, Syn. กัน, ห้าม, Ant. ปล่อย, Example: ผู้ต้องหาถูกกักคุมตัวไว้บนโรงพัก |
กักตัว | (v) detain, See also: take(somebody) into custody, Example: ตำรวจกักตัวผู้ต้องสงสัย |
กักตุน | (v) hoard, See also: corner, Syn. สะสม, Example: พ่อค้ากักตุนข้าวสาร, Thai Definition: เก็บสินค้าไว้เป็นจำนวนมากเพื่อเก็งกำไร |
กึกกัก | (adv) sound or clattering, Example: ในความเงียบ เขาได้ยินแต่เสียงเมียทอผ้าดังกึกกัก, Thai Definition: เสียงดังเช่นนั้น |
กึกกัก | (adv) (proceed) in jerks, See also: (bumping) up and down, Example: รถแล่นไปอย่างกึกกักตามทางหลวงที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ, Thai Definition: ติดๆขัดๆ |
กุกกัก | (adv) sound or clattering, Syn. กุกๆ กักๆ, Example: พี่เขินเปิดลิ้นชักค้นอะไรกุกกักในห้องทำงาน, Thai Definition: เสียงดังเช่นนั้น |
กุกกัก | (adv) inconveniently, See also: uneasily, improperly, difficultly, Syn. ติดขัด, ตะกุกตะกัก, Ant. สะดวก, ราบรื่น, Example: เขาตั้งใจอธิบายมากเกินไป จนพูดกุกกักและเก้อเขิน |
กักด่าน | (v) be put under quarantine, Syn. กัน, ห้าม, Example: ตำรวจกักด่านตรวจค้นคนทำผิด, Thai Definition: กักกุมไว้เพื่อตรวจตรา |
กักเก็บ | (v) store, See also: reserve, keep, maintain, Syn. เก็บกัก, Example: การจัดสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กในแต่ละลุ่มน้ำย่อยก็จะสามารถช่วยกักเก็บน้ำแทนการสร้างเขื่อนและอ่างเก็บน้ำได้ |
กุกๆ กักๆ | (adv) inconveniently, See also: uneasily, improperly, difficultly, Syn. กุกกัก, ติดขัด, ตะกุกตะกัก, Ant. ราบรื่น, Example: พี่ใหญ่เดินเข้ามาชิดหลังผมแล้วพูดกุกๆ กักๆ ด้วยความหวาดกลัว |
กักบริเวณ | (v) confine within an area, See also: imprison, Ant. ปล่อย, Example: ฉันถูกแม่กักบริเวณเพราะหนีเที่ยวกลางคืน, Thai Definition: บังคับให้อยู่ในบริเวณที่กำหนดไว้ |
การกักตุน | (n) hoard, Syn. การสะสม, การตุน, Example: การกักตุนสินค้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย |
ค่ายกักกัน | (n) concentration camp, See also: detention camp, Example: ในระยะสงครามโลกครั้งที่ 1 นี้เองมีจดหมายของเชลยศึกที่ส่งจากค่ายกักกันที่กรุงเทพฯ และอยุธยาเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับสงคราม, Count Unit: ค่าย, Thai Definition: สถานที่คุมขังเชลยศึกหรือนักโทษทางการเมือง |
ตะกุกตะกัก | (adv) jerkily, See also: evenly, Syn. ติดๆ ขัดๆ, กุกกัก, กุกๆ กักๆ, Ant. สะดวก, เรียบ, คล่อง, Example: เครื่องยนต์เดินตะกุกตะกัก เพราะมีอายุการใช้งานนานถึง 10 ปีแล้ว, Thai Definition: ไม่สะดวก, ไม่ราบรื่น |
สถานกักกัน | (n) detention center |
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
กัก | ก. ไม่ให้ล่วงพ้นเขตที่กำหนดไว้, กำหนดเขตให้อยู่, เช่น กักตัว, กักกัน ก็ว่า |
กัก | ยึดไว้, ไม่ปล่อยไป, เช่น กักรถ กักนํ้า กักไพ่. |
กัก | ว. อาการที่หยุดชะงัก เช่น หยุดกัก. |
กักกัน | ก. ไม่ให้ล่วงพ้นเขตที่กำหนดไว้, กำหนดเขตให้อยู่, กัก ก็ว่า. |
กักกัน | น. เป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยอย่างหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา ใช้ในการควบคุมผู้กระทำความผิดติดนิสัยไว้ภายในเขตกำหนด เพื่อป้องกันการกระทำความผิด เพื่อดัดนิสัยและเพื่อฝึกหัดอาชีพ. |
กักขัง | ก. บังคับให้อยู่ในสถานที่อันจำกัด, เก็บตัวไว้ในสถานที่อันจำกัด. |
กักขัง | น. โทษทางอาญาสถานหนึ่ง ที่ให้กักตัวผู้ต้องโทษไว้ในสถานที่ซึ่งกำหนดไว้อันมิใช่เรือนจำ มิใช่สถานีตำรวจ และมิใช่สถานที่ควบคุมผู้ต้องหาของพนักงานสอบสวน. |
กักคุม | ก. บังคับให้อยู่ในอารักขา. |
กักด่าน | ก. กักกุมไว้เพื่อตรวจตรา เช่นตรวจโรคติดต่อ. |
กักตัว | ก. ยึดไว้, ไม่ปล่อยไป. |
กักตุน | ก. เก็บหรือกักไว้เพื่อกันขาดแคลนหรือหวังกำไรในการค้า, ตุน ก็ว่า. |
กักตุน | น. มีเครื่องอุปโภคบริโภคไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่จำเป็นสำหรับใช้ส่วนตัว และไม่นำออกจำหน่ายตามวิถีทางการค้าปรกติ. |
กักบริเวณ | ก. บังคับให้อยู่ในบริเวณที่กำหนดไว้. |
กักยาม | น. การกักตัวไว้ในบริเวณใดบริเวณหนึ่งที่สมควรตามที่จะกำหนด. |
กักกรา | (-กฺรา) น. โกฐกักกรา. (ดู โกฐกักกรา ที่ โกฐ). |
กักการุ | น. ดอกฟัก เช่น อิกกักการุดิเรกอเนกดิบุษปวัน อ้อยลำแลใหญ่ครัน คือหมาก (สมุทรโฆษ). |
กักขฬะ | (กักขะหฺละ) ว. หยาบคายมาก. |
กึกกัก | ว. เสียงดังเช่นนั้น, ติด ๆ ขัด ๆ. |
กุกกัก, กุก ๆ กัก ๆ | ว. กึกกัก, ติด ๆ ขัด ๆ, ไม่สะดวก, เสียงดังเช่นนั้น. |
โกฐกักกรา | น. ชื่อเรียกรากแห้งของไม้ล้มลุกชนิด Anacyclus pyrethrum (L.) DC. ในวงศ์ Compositae. |
ค่ายกักกัน | น. สถานที่คุมขังเชลยศึกหรือนักโทษทางการเมือง. |
ตะกุกตะกัก | ว. ติด ๆ ขัด ๆ, ไม่ราบรื่น, (มักใช้แก่การอ่านหรือพูด). |
ผู้ต้องกักขัง | น. ผู้ที่ถูกกักขังตามหมายกักขังของศาล. (ดู กักขัง ประกอบ). |
ผู้ถูกกักกัน | น. ผู้ซึ่งถูกศาลพิพากษาให้กักกัน. (ดู กักกัน ประกอบ). |
เมาะตาโยกัก | ว. มีชื่อเสียงโด่งดัง, เลื่องลือไม่มีใครเสมอ. |
กด ๔ | ก. บังคับลง, ข่ม, ใช้กำลังดันให้ลง, โดยปริยายหมายความว่า แกล้งกักไว้ เช่น กดคดี |
กระแตไต่ไม้ ๒ | น. ชื่อเฟินอิงอาศัยชนิด Drynaria quercifolia (L.) J. Sm. ในวงศ์ Polypodiaceae ขึ้นเกาะตามต้นไม้ใหญ่ในป่าที่ชุ่มชื้น เหง้ามีขนเป็นปุยสีนํ้าตาลแก่คล้ายกระแต ใบมี ๒ ชนิด คือ ใบสร้างอับสปอร์ ยาวประมาณ ๑ เมตร เว้าเป็นแฉกลึกเกือบถึงเส้นกลางใบ และมีอับสปอร์เป็นจุด ๆ สีนํ้าตาลเข้มใต้ใบ ใบไม่สร้างอับสปอร์ ขนาดประมาณฝ่ามือ ขอบจักหยาบ ๆ สีนํ้าตาล แข็งติดอยู่กับเหง้าจนผุ ไม่หล่นเหมือนใบสร้างอับสปอร์ ทำหน้าที่กักปุ๋ย, กระปรอกว่าว ใบหูช้าง สไบนาง สะโมง หรือ หัวว่าว ก็เรียก. |
กระอักกระไอ | ว. อิดเอื้อน, ไม่กล้าพูด, ทำเสียงไออุบอับอยู่ในคอ, เช่น พูดจากุกกักกระอักกระไอ (ไกรทอง). |
กระอึกกระอัก | ว. อึกอัก, อาการที่พูดไม่ออก ติดกึกกักอยู่ในคอเพราะกลัวหรือประหม่าเป็นต้น, อึก ๆ อัก ๆ ก็ว่า. |
กรุกกรัก | ว. เสียงดังกุกกัก เช่น ได้ยินเสียงกรุกกรักก็ทักถาม (ม. ร่ายยาว ชูชก). |
กว้าน ๒ | รวบรวมซื้อจากที่ต่าง ๆ มาไว้เป็นจำนวนมาก เช่น กว้านสินค้ามากักตุนไว้ กว้านซื้อที่ดินเพื่อเก็งกำไร. |
กะกึก | ว. กึก ๆ เช่น ดังกะกึกกุกกักชักสายพาดขึ้นกับไก (ม. ร่ายยาว กุมาร). |
เก็บตัว ๑ | ก. กักตัวไว้. |
แก้มลิง | น. พื้นที่มีลักษณะเป็นแอ่งตามธรรมชาติหรือขุดขึ้นเพื่อรองรับและกักเก็บน้ำในช่วงฝนตกมีน้ำมาก และระบายออกทะเลในช่วงที่น้ำทะเลลดลง เป็นพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและบรรเทาอุทกภัย. |
โกฐ | (โกด) น. ชื่อเครื่องยาสมุนไพรจำพวกหนึ่ง ได้จากส่วนต่าง ๆ ของพืช มีหลายชนิด คือ โกฐทั้ง ๕ ได้แก่ โกฐหัวบัว โกฐสอ โกฐเขมา โกฐเชียง โกฐจุฬาลัมพา, โกฐทั้ง ๗ เพิ่ม โกฐกระดูก โกฐก้านพร้าว, โกฐทั้ง ๙ เพิ่ม โกฐพุงปลา โกฐชฎามังสี, และมีโกฐพิเศษอีก ๓ ชนิด คือ โกฐกักกรา โกฐกะกลิ้ง และโกฐนํ้าเต้า, ตำรายาแผนโบราณเขียนเป็น โกฎ โกฏ โกฏฐ์ โกด หรือ โกษฐ์ ก็มี. |
ขยัก | (ขะหฺยัก) ก. กักหรือเก็บไว้บ้างไม่ปล่อยไปจนหมดหรือไม่ทำให้หมด. |
ขลุกขลัก | ว. ติดกุกกักอยู่ในที่แคบ, ติดขัด, ไม่สะดวก, เสียงดังอย่างก้อนดินกลิ้งอยู่ในหม้อหรือในไห. |
ขัง | กักขังจำเลยหรือผู้ต้องหาโดยศาล. |
ขาใหญ่ | น. นักเลงผู้มีอิทธิพล, นักโทษหรือผู้กักขังที่มีอิทธิพล. |
เขื่อน | น. เครื่องป้องกันไม่ให้ดินริมนํ้าพัง, สิ่งที่สร้างขึ้นขวางกั้นลำนํ้า เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในทางชลประทานเป็นต้น เช่น เขื่อนเจ้าพระยา, โดยปริยายใช้เรียกสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น กำแพงดินหรืออิฐที่ล้อมรอบต้นโพ |
ไข่ดัน | น. ต่อมนํ้าเหลืองที่อยู่ใต้ผิวหนังของบริเวณขาหนีบ ซึ่งเป็นแนวต่อระหว่างลำตัวกับต้นขา มีหน้าที่กักและทำลายเชื้อโรคที่อาจผ่านเข้าในร่างกายท่อนบน. |
ควบคุม | การคุมหรือกักขังผู้ถูกจับโดยพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจในระหว่างสืบสวนและสอบสวน. |
คอห่าน | น. ส่วนของโถส้วมตรงที่มีลักษณะคล้ายคอห่านสำหรับกักนํ้าเพื่อกันกลิ่นเป็นต้น. |
ค่าไถ่ | น. ทรัพย์สินหรือประโยชน์ที่เรียกเอา หรือให้เพื่อแลกเปลี่ยนเสรีภาพของผู้ถูกเอาตัวไป ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยว หรือผู้ถูกกักขัง. |
คุมขัง | ก. คุมตัว ควบคุม ขัง กักขัง หรือจำคุก. |
ด่าน | น. ที่สำหรับกัก ตรวจ คอยระวังเหตุ และป้องกันช่องทางที่จะผ่านเข้าออก เช่น ด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร ด่านกักสัตว์ |
ติด ๑ | กักบริเวณ เช่น ติดสนม |
ติดสนม | ก. ถูกกักบริเวณในเขตพระราชฐาน ใช้แก่พระราชวงศ์ฝ่ายในและข้าราชการฝ่ายใน โดยอยู่ในความควบคุมดูแลของโขลน, ถูกกักบริเวณในวังที่ประทับ โดยอยู่ในความควบคุมดูแลของพวกสนมพลเรือน ใช้แก่ผู้มีฐานันดรศักดิ์แห่งราชวงศ์หรือข้าทูลละอองธุลีพระบาทชั้นผู้ใหญ่. |
ตุน | ก. เก็บหรือกักไว้เพื่อกันขาดแคลนหรือหวังกำไรในการค้า เช่น ตุนสินค้า |
ไถ่ ๑ | ให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์เพื่อแลกเปลี่ยนเสรีภาพของผู้ถูกเอาตัวไป ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยว หรือผู้ถูกกักขัง. |
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
place of confinement | สถานที่กักขัง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
pound | ที่กักสัตว์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
period, quarantine | ระยะกักโรค [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
restrain | ๑. หน่วงเหนี่ยว, กักขัง, ควบคุมตัว (ก. อาญา)๒. จำกัด, ห้ามกระทำการ (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
restraint | การกัก, การยึดยั้ง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
respiration, cogwheel; respiration, interrupted | การหายใจกุกกัก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
restraint | ๑. การหน่วงเหนี่ยว, การกักขัง, การควบคุมตัว (ก. อาญา)๒. การจำกัด, ข้อจำกัด, การยับยั้ง (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
respiration, interrupted; respiration, cogwheel | การหายใจกุกกัก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
reservoir rock | หินกักเก็บ [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] |
retention | ๑. การจัดเข้าที่๒. การกักคั่ง๓. การยึดตรึง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
staccato | ตะกุกตะกัก (พูด) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
substance, no-threshold | สารไม่มีขีดกักกั้น [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
substance, threshold | สารมีขีดกักกั้น [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
social breakdown syndrome | กลุ่มอาการเสียสังคมเหตุถูกกักกันนาน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
syndrome, social breakdown | กลุ่มอาการเสียสังคมเหตุถูกกักกันนาน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
subliminal | ต่ำกว่าขีดกักกั้น [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
abstraction | ๑. การแย่งธาร๒. การกักน้ำ [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] |
arrests, restraints and detainments | การจับกุม หน่วงเหนี่ยว และกักขัง [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
affricate; affricate sound | เสียงกักเสียดแทรก [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕] |
affricate sound; affricate | เสียงกักเสียดแทรก [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕] |
aspirated affricate; aspirated affricate sound | เสียงกักเสียดแทรกธนิต [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕] |
aspirated affricate sound; aspirated affricate | เสียงกักเสียดแทรกธนิต [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕] |
quarantine | ๑. การกักด่าน๒. ระยะเวลากักด่าน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
quarantine | ๑. การกักด่าน๒. ระยะเวลากักด่าน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
quarantine period | ระยะกักโรค [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
mail, detaining or delaying | การกักหรือหน่วงเหนี่ยวไปรษณียภัณฑ์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
concentration camp; camp, concentration | ค่ายกักกัน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
cap rock | หินครอบ, หินกักกั้น [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] |
civil commitment | ๑. การสั่งขังในคดีแพ่ง๒. การกักตัวคนวิกลจริตหรือเมาสุรา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
confinement | การกักขัง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
confinement in lien | การกักขังแทนค่าปรับ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
cogwheel respiration; respiration, interrupted | การหายใจกุกกัก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
camp, concentration; concentration camp | ค่ายกักกัน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
detention home; detention centre | สถานกักกัน, ศูนย์กักกัน, สถานพินิจ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
detention, house of | ๑. สถานกักกัน๒. สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน (ไทย) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
dust-holding capacity | วิสัยสามารถกักฝุ่นผง [ปรับอากาศ ๗ มี.ค. ๒๕๔๕] |
detain | ๑. กักขัง, หน่วงเหนี่ยว (บุคคล), ควบคุมตัว (ก. อาญา)๒. ยึดหน่วง (ก. แพ่ง) [ ดู retain ความหมายที่ ๑ ประกอบ ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
detainer | ๑. ผู้กักขัง, ผู้หน่วงเหนี่ยว (บุคคล) (ก. อาญา)๒. ผู้ยึดหน่วงทรัพย์ (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
detaining or delaying mail | การกักหรือหน่วงเหนี่ยวไปรษณียภัณฑ์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
detention | การกักขัง, การกักกัน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
detention | ๑. การกักขัง, การหน่วงเหนี่ยว, การควบคุมตัว (ป. วิ. อาญา)๒. การยึดหน่วงทรัพย์ (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
detention centre; detention home | สถานกักกัน, ศูนย์กักกัน, สถานพินิจ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
false imprisonment | การกักขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
ejective | เสียงกักเส้นเสียงลมออก [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕] |
embargo | ๑. การกักเรือสินค้าที่อยู่ในท่า๒. การห้ามส่งสินค้า (ไปยังประเทศอื่น) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
impound | ยึดไว้, กักไว้ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
intern | ๑. แพทย์ฝึกหัด๒. กักตัว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
imprisonment, false | การกักขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
internee | ผู้ถูกกักกัน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
implosive | เสียงกักเส้นเสียงลมเข้า [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕] |
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
Oil Initial in Place | ปริมาณของน้ำมันดิบทั้งหมดที่มีอยู่ในแหล่งกักเก็บใต้ดิน, Example: เป็นตัวเลขที่มากกว่าตัวเลขปริมาณสำรอง (reserves) เพราะปริมาณน้ำมันที่มีอยู่นั้นไม่สามารถที่จะนำขึ้นมาได้หมด [ปิโตรเลี่ยม] |
Cap Rock | ชั้นหินที่ไม่ยอมให้ของเหลวหรือก๊าซไหลผ่าน, ชั้นหินที่ไม่ยอมให้ของเหลวหรือก๊าซไหลผ่าน ปิดทับอยู่ด้านบนของชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียม และปิดกั้นไม่ให้ไฮโดรคาร์บอนหนีออกมาถึงพื้นผิวดินได้ [ปิโตรเลี่ยม] |
Blowout | การพุ่งออกมาของน้ำมัน ก๊าซ น้ำ หรือ ของเหลวอื่นๆ จากหลุมในระหว่างการเจาะ, การพุ่งออกมาของน้ำมัน ก๊าซ น้ำ หรือ ของเหลวอื่นๆ จากหลุมในระหว่างการเจาะ โดยไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องมาจากแรงดันภายในแหล่งกักเก็บ [ปิโตรเลี่ยม] |
Petroleum Province | บริเวณที่มีลักษณะโครงสร้างทางธรณีวิทยา และลักษณะชั้นหินที่คล้ายคลึงกัน, บริเวณที่มีลักษณะโครงสร้างทางธรณีวิทยา และลักษณะชั้นหินที่คล้ายคลึงกัน และมีแหล่งกักเก็บปิโตรลียม (Petroleum reservoir) อยู่เป็นจำนวนมาก [ปิโตรเลี่ยม] |
Recoverable Oil in Place | ปริมาณน้ำมันดิบในแหล่งกักเก็บใต้ดิน, ปริมาณน้ำมันดิบในแหล่งกักเก็บใต้ดินที่คาดว่าจะสามารถผลิตขึ้นมาได้และคุ้มค่าต่อการลงทุน [ปิโตรเลี่ยม] |
Stock Tank Oil Initially in Place | น้ำมันที่มีอยู่แต่เดิมในแหล่งกักเก็บ [ปิโตรเลี่ยม] |
Reservoir | แหล่งกักเก็บปิโตรเลียม, Example: โดยปิโตรเลียมซึ่งได้แก่น้ำมันและก๊าซธรรมชาติจะสะสมตัวอยู่ในช่องว่างระหว่างหิน เช่น ชั้นหินทราย [ปิโตรเลี่ยม] |
Reservoir Rock | หินกักเก็บปิโตรเลียม, หินกักเก็บปิโตรเลียม, Example: หินที่มีรูพรุนและยอมให้ของไหลซึมผ่านได้สูง (Good porosity and permeability) เช่น หินทราย (sandstone) หินคาร์บอเนต หินปูน หินโดโลไมต์ เพื่อที่จะสามารถกักเก็บปิโตรเลียมในปริมาณมากได้ นอกจากจะต้องมีความพรุนสูงแล้ว ควรจะต้องมีความหนาด้วย ในแหล่ง ปิโตรเลียมเชิงพาณิชย์ส่วนมากหินกักเก็บจะมีความพรุนสูงกว่า 10% และมีความหนามากกว่า 10 ฟุต จะต้องมีความต่อเนื่องและครอบคลุมบริเวณกว้าง เพื่อที่จะได้มีปริมาตรกักเก็บปิโตรเลียมได้สูง [ปิโตรเลี่ยม] |
Reservoir Simulation | การจำลองการไหลในแหล่งกักเก็บ [ปิโตรเลี่ยม] |
Migration | การเคลื่อนที่ของปิโตรเลียมจากหินต้นกำเนิดไปยังแหล่งกักเก็บ, Example: การเคลื่อนที่มีอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ การเคลื่อนที่แบบปฐมภูมิ (primary migration) เป็นการเคลื่อนที่ของไฮโดรคาร์บอนออกจากหินต้นกำเนิด การเคลื่อนที่แบบทุติยภูมิ (secondary migration) เป็นการเคลื่อนที่ผ่านชั้นหินที่มีคุณสมบัติในการซึมผ่านสูงหรือในหินกักเก็บเอง และการเคลื่อนที่แบบตติยภูมิ (tertiary migration) เป็นการเคลื่อนที่จากแหล่งกักเก็บหนึ่ง (trap) ไปยังอีกแหล่งหนึ่ง หรือเป็นการเคลื่อนที่หายไปของไฮโดรคาร์บอนจากแหล่งกักเก็บ [ปิโตรเลี่ยม] |
Dissolved Gas | ก๊าซธรรมชาติที่ละลายปนอยู่ในน้ำมันในแหล่งกักเก็บใต้ดิน, Example: เมื่อมีการผลิตน้ำมันขึ้นมายังผิวดิน ที่ความดันบรรยากาศก๊าซก็จะแตกตัวออกมา [ปิโตรเลี่ยม] |
Floating Production Storage and Offloading | เรือผลิตและกักเก็บปิโตรเลียม [ปิโตรเลี่ยม] |
Gas Cap | แหล่งปิโตรเลียมที่มีทั้งก๊าซและน้ำมัน, ในแหล่งปิโตรเลียมที่มีทั้งก๊าซและน้ำมัน ก๊าซจะอยู่ส่วนบนของแหล่งกักเก็บ เรียกว่า Gas cap [ปิโตรเลี่ยม] |
Initial Reserves | ปริมาณน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่ประมาณได้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง, ปริมาณน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่ประมาณได้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งว่าจะสามารถผลิตได้จากแหล่งกักเก็บที่สำรวจพบแล้ว โดยรวมถึงปริมาณที่ผลิตไปแล้วทั้งหมดและปริมาณที่คาดว่าจะสามารถผลิตได้ในอนาคต โดยเทคโนโลยีและสภาพเศรษฐกิจที่คาดการณ์ได้ ณ เวลานั้น [ปิโตรเลี่ยม] |
Embargo | การกักเรือ [เศรษฐศาสตร์] |
Embargo | การกักสินค้า [เศรษฐศาสตร์] |
Plant quarantine | การกักพืช [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Quarantine, Veterinary | การกักสัตว์ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Confinement | สิ่งกักกั้น, สิ่งที่สร้างขึ้นล้อมอุปกรณ์หลักของโรงงานนิวเคลียร์ เพื่อป้องกันหรือบรรเทาการปล่อยวัสดุกัมมันตรังสีออกสู่สิ่งแวดล้อมในสภาวะการทำงานปกติหรือกรณีเกิดอุบัติเหตุ เช่น บ่อน้ำแกนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ (ดู containment ประกอบ) [นิวเคลียร์] |
Containment | อาคารคลุมเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์, อาคารหรือสิ่งก่อสร้างชั้นนอกที่ออกแบบให้มีความแข็งแรงเป็นพิเศษเพื่อป้องกันเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จากอุบัติภัยภายนอก และเพื่อไม่ให้สารกัมมันตรังสีแพร่กระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมกรณีเกิดอุบัติเหตุภายในอาคารหรือสิ่งกักกั้นชำรุดหรือเสียหาย [นิวเคลียร์] |
Reactor containment | อาคารคลุมเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์, อาคารหรือสิ่งก่อสร้างชั้นนอกที่ออกแบบให้มีความแข็งแรงเป็นพิเศษเพื่อ ป้องกันเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จากอุบัติภัยภายนอก และเพื่อไม่ให้สารกัมมันตรังสีแพร่กระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมกรณีเกิด อุบัติเหตุภายในอาคารหรือสิ่งกักกั้นชำรุดหรือเสียหาย [นิวเคลียร์] |
Arrest of aircraft | การกักอากาศยาน [TU Subject Heading] |
Arrest of ships | การกักเรือ [TU Subject Heading] |
Concentration camps | ค่ายกักกัน [TU Subject Heading] |
Flood dams and reservoirs | เขื่อนกักน้ำและอ่างเก็บน้ำ [TU Subject Heading] |
Embargo | การกักข่าวสาร [เศรษฐศาสตร์] |
Plant quarantine | การกักพืช [TU Subject Heading] |
Preventive detention | การกักขังผู้กระทำผิด [TU Subject Heading] |
Reactor containment | อาคารคลุมเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์, อาคารหรือสิ่งก่อสร้างชั้นนอกที่ออกแบบให้มีความแข็งแรงเป็นพิเศษเพื่อป้องกันเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จากอุบัติภัยภายนอก และเพื่อไม่ให้สารกัมมันตรังสีแพร่กระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมกรณีเกิดอุบัติเหตุภายในอาคารหรือสิ่งกักกั้นชำรุดหรือเสียหาย [นิวเคลียร์] |
Detention Time | เวลากักพัก, Example: ระยะเวลาที่น้ำถูกกักในถัง นับจากจุดไหลเข้าถึงจุดไหลออก คำนวณหา ได้โดยหารปริมาตรถังด้วยอัตราการไหล [สิ่งแวดล้อม] |
Diplomatic Pouch | ถุงเมล์ทางการทูตที่บรรจุหนังสือโต้ตอบทางราชการ ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาล กับสถานเอกอัครราชทูตต่าง ๆ ใน ต่างประเทศ ถุงเมล์ทูตจะถูกปิดประทับตราของทางราชการ และผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ แม้แต่เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็ขอตรวจไม่ได้ คือได้รับการละเว้นจากการแทรกแซงใด ๆ ทั้งสิ้นเรื่องถุงเมล์ทางการทูตนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในข้อ 27 ว่า?1. ในรัฐผู้รับจะอนุญาตและคุ้มครองการสื่อสารโดยเสรีในส่วนของคณะผู้แทน เพื่อความมุ่งประสงค์ทั้งมวลในการติดต่อกับคณะรัฐบาลและกับคณะผู้แทน และสถานกงสุลอื่นของรัฐผู้ส่งไม่ว่าตั้งอยู่ที่ใด คณะผู้แทนอาจใช้วิถีทางเหมาะสมทั้งมวลได้ รวมทั้งผู้สื่อสารทางการทูต และสารเป็นรหัสหรือประมวล อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนอาจติดตั้งและใช้เครื่องส่งวิทยุได้ด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ เท่านั้น 2. หนังสือโต้ตอบทางการทูตของคณะผู้แทนจะถูกละเมิดมิได้ หนังสือโต้ตอบทางการทูตหมายถึง หนังสือโต้ตอบทั้งมวลที่เกี่ยวกับคณะผู้แทนและภารกิจหน้าที่ของคณะผู้แทน 3. ถุงเมล์ทางการทูตจะไม่ถูกเปิดหรือถูกกักไว้ 4. หีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางการทูตจะต้องมีเครื่องหมายติดไว้ภายนอกที่เห็น ชัดเจน แสดงลักษณะของถุงทางการทูตและอาจบรรจุเอกสารหรือสิ่งของทางการทูต ซึ่งได้เจตนาเพื่อใช้ในทางการเท่านั้น 5. ผู้ถือสารทางการทูต (Diplomatic courrier) จะได้รับเอกสารทางการ แสดงสถานภาพของตนและจำนวนหีบห่อ ซึ่งรวมเป็นถุงทางทูตนั้น ให้ได้รับความคุ้มครองจากรัฐผู้รับในการปฏิบัติการตามหน้าที่ของตน ให้ผู้ถือสารทางการทูตได้อุปโภคความละเมิดมิได้ และจะต้องไม่ถูกจับกุมหรือกักในรูปใด 6. รัฐผู้ส่งหรือคณะผู้แทนอาจแต่งตั้งผู้ถือสารทางการทูตเฉพาะกรณีได้ในกรณีที่ ว่านี้ให้นำบทแห่งวรรค 5 ของข้อนี้มาใช้ด้วย เว้นแต่ว่าความคุ้มกันที่กล่าวไว้ในวรรคนั้นให้ยุติไม่ใช้ เมื่อผู้ถือสารนี้ได้ส่งถุงทางการทูตในหน้าที่ของตนให้แก่ผู้รับแล้ว 7. ถุงทางการทูตอาจจะมอบหมายไว้แก่ผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งได้มีพิกัดจะลง ณ ท่าเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาตแล้วได้ ให้ผู้บังคับบัญชาของเครื่องบินพาณิชย์รับเอกสารทางการ แสดงจำนวนหีบห่อซึ่งรวมเป็นถุง แต่ไม่ให้ถือว่าผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์เป็นผู้ถือสารทางการทูต คณะผู้แทนอาจส่งบุคคลหนึ่งในคณะผู้แทนไปรับมอบถุงทางการทูตได้โดยตรงและโดย เสรีจากผู้บังคับการของเครื่องบิน?คำว่าถุงทางการทูตนี้ กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเรียกว่า ?Diplomatic bag? ส่วนในภาษาฝรั่งเศสใช้คำว่า ?Valise Diplomatique? [การทูต] |
Exemption from Customs Duties and Inspection of Diplomatic Mission?s Articles | การยกเว้นจากอากรศุลกากร และการตรวจสิ่งของเครื่องใช้ของคณะผู้แทนทางการทูต การยกเว้นดังกล่าวนี้ไม่ถือว่าเป็นสิทธิ แต่เป็นเรื่องของการแสดงอัธยาศัยไมตรีระหว่งประเทศที่ให้ต่อกันมากกว่า กฎหมายระหว่างประเทศก็มิได้กำหนดพันธะที่จะต้องให้การยกเว้นจากอากรศุลกากร อย่างไรก็ดี รัฐส่วนมากได้แสดงอัธยาศัยไมตรีโดยให้ผู้แทนทางการทูตได้รับการยกเว้นอากร ศุลกากรแก่สินค้าและเครื่องใช้ที่นำเข้ามาใช้ในส่วนตัวเองอนุสัญญากรุง เวียนนาได้ระบุไว้ในมาตรที่ 36 ว่า1. รัฐผู้รับจะอนุญาตให้นำเข้าและอำนวยให้มีการยกเว้นจากอากรศุลกากร ภาษี ตลอดจนค่าภาระที่เกี่ยวข้องทั้งมวล นอกจากค่าภาระในการเก็บรักษา การขนส่งและบริการ ให้ทำนองเดียวกันตามกฎหมายหรือข้อบังคับ ซึ่งรัฐผู้รับอาจกำหนดไว้แก่ก. สิ่งของสำหรับใช้ในทางการของคณะผู้แทนข. สิ่งของสำหรับใช้ส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต หรือคนในครอบครัวของตัวแทนทางการทูต ซึ่งประกอบเป็นส่วนครัวเรือนของตัวแทนทางการทูต รวมทั้งสิ่งของที่แสดงเจตนาสำหรับการตั้งถิ่นฐานของตัวแทนทางการทูตด้วย2. หีบห่อส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต ให้ได้รับยกเว้นจากการตรวจตรา นอกจากมีมูลเหตุอันร้ายแรงที่ทำให้สันนิษฐานได้ว่า หีบห่อส่วนตัวนั้นบรรจุสิ่งของซึ่งไม่อยู่ในข่ายแห่งการยกเว้นที่ได้ระบุไว้ ในวรรค 1 ของข้อนี้ หรือสิ่งของซึ่งการนำเข้าหรือส่งออกนั้นต้องห้ามทางกฎหมาย หรือถูกควบคุมตามข้อบังคับว่าด้วยการกักตรวจโรคของรัฐผู้รับ การตรวจตราเช่นว่านี้ให้กระทำต่อหน้าตัวแทนทางการทูต หรือต่อหน้าผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจของตัวแทนทางการทูตเท่านั้น [การทูต] |
Freedom of Communication | เสรีภาพในการติดต่อและสื่อสาร ถือเป็นสิทธิทางกฎหมาย (ไม่ใช่เพียงเอกสิทธิ์เท่านั้น) ที่สำคัญอันหนึ่งของนักการทูตย่อมจะเห็นได้ชัดว่า คณะทูต จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างพึงพอใจ นอกจากจะมีอิสระอย่างสมบูรณ์ในการที่จะมีหนังสือหรือวิถีทางอื่นๆ เพื่อติดต่อกับรัฐบาลของตน หรือจะส่งและรับจดหมาย หรือหนังสือต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ถือสารพิเศษ หรือโดยถุงทางการทูต (Diplomatic pouch) สำหรับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติไว้ในข้อ 27 ดังนี้?1. ให้รัฐผู้รับอนุญาตและคุ้มครองการสื่อสารโดยเสรีในส่วนของคณะผู้แทน เพื่อความมุ่งประสงค์ในทางการทั้งมวลเพื่อการติดต่อกับรัฐบาล และกับคณะผู้แทนและสถานกงสุลอื่นของรัฐผู้ส่ง ไม่ว่าตั้งอยู่ ณ ที่ใด คณะผู้แทนอาจใช้วิถีทางที่เหมาะสมทั้งมวลได้ รวมทั้งผู้ถือสารทางการทูต และสารเป็นรหัสหรือประมวล อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนอาจติดตั้งและใช้เครื่องส่งวิทยุได้ด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ เท่านั้น 2. หนังสือโต้ตอบทางการของคณะผู้แทนจะถูกละเมิดมิได้ หนังสือโต้ตอบทางการ หมายถึง หนังสือโต้ตอบทั้งมวลที่เกี่ยวกับคณะผู้แทนและภารกิจหน้าที่ของคณะผู้แทน 3. ถุงทางการทูต (Diplomatic Pouch) จะไม่ถูกเปิดหรือถูกกักไว้ 4. หีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางการทูต จะต้องมีเครื่องหมายภายนอกที่เห็นได้ชัดเจน สามารถแสดงลักษณะของถุงทางการทูต ซึ่งอาจบรรจุเพียงเอกสารหรือสิ่งของทางการทูตที่เจตนาเพื่อใช้ในทางการเท่า นั้น 5. ผู้ถือสารทางการทูต (Diplomatic courrier) จะได้รับเอกสารทางการแสดงสถานภาพของตน และจำนวนหีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางทูตนั้น ให้ได้รับความคุ้มครองจากรัฐผู้รับ ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ของตน ให้ผู้ถือสารทางการทูตได้อุปโภคความละเมิดมิได้ ส่วนบุคคลจะต้องไม่ถูกจับกุมหรือกักขังในรูปใด 6. รัฐผู้ส่งหรือคณะผู้แทนอาจแต่งตั้งผู้ถือสารทางการทูตเฉพาะกรณีได้ ในกรณีที่ว่านี้ให้นำบทแห่งวรรค 5 ของข้อนี้มาใช้ด้วย เว้นแต่ว่าความคุ้มกันที่กล่าวไว้ในวรรคนั้นให้ยุติไม่ใช้ เมื่อผู้ถือสารนี้ได้ส่งถุงทางการทูตในหน้าที่ของตนให้แก่ผู้รับแล้ว 7. ถุงทางการทูตอาจจะมอบหมายไว้แก่ผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งได้มีพิกัดจะลง ณ ท่าเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาตแล้วได้ ให้ผู้บังคับบัญชาของเครื่องบินพาณิชย์รับเอกสารทางการแสดงจำนวนหีบห่อซึ่ง รวมเป็นถุง แต่ไม่ใช่ถือว่าผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์เป็นผู้ถือสารทางทูต คณะผู้แทนอาจส่งบุคคลหนึ่งในคณะผู้แทนไปรับมอบถุงทางการทูตได้โดยตรง และโดยเสรีจากผู้บังคับการของเครื่องบิน? [การทูต] |
Personal Inviolability of Diplomatic Agents | หมายถึง ตัวบุคคลของตัวแทนทางทูตจะถูกละเมิดมิได้ กล่าวคือ มาตรา 29 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติในเรื่องนี้ไว้ว่า ?ตัวบุคคลของตัวแทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้ ตัวแทนทางการทุตจะไม่ถูกจับกุมหรือกักขังในรูปใด ๆ ให้รัฐผู้รับปฏิบัติต่อตัวแทนทางการทูตด้วยความเคารพตามสมควร และดำเนินการที่เหมาะสมทั้งมวลที่จะป้องกันการประทุษร้ายใด ๆ ต่อตัวบุคคล เสรีภาพ หรือเกียรติของตัวแทนทางการทูต?ตัวบุคคลของตัวแทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้ นั้น ได้ถือเป็นปัจจัยหลักในการที่ให้ผู้แทนทางการทูตได้รับสิทธิและความคุ้มกัน ทั้งมวล ถึงกับมีการพูดกันว่า ผู้ใดประทุษร้ายต่อตัวเอกอัครราชทูต จักถือว่าเป็นการทำร้ายต่อประมุขของประเทศซึ่งผู้แทนทางการทูตผู้นั้นเป็น ตัวแทนอยู่ ทั้งยังถือว่าเป็นการยังผลร้ายต่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชาติทั้ง มวลด้วยตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1964 ชายหนุ่มญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งมีจิตวิปลาส ได้ใช้มีดแทง นายเอ็ดวิน โอไรส์ชาวเออร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศญี่ปุ่น ในเขตนอกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงโตเกียว รัฐมนตรีว่าการกระทวงมหาดไทยญี่ปุ่นได้ลาออกจากตำแหน่งทันทีและรุ่งขึ้นใน วันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1964 นายอิเคดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในสมัยนั้น ได้ทำการขอโทษต่อประชาชนชาวอเมริกันทางวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการดำเนินการในทำนองนี้ และการที่นายกรัฐมนตรีอิเคดะได้ปฏิบัติดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า การที่ตัวบุคคลของผู้แทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้นั้น มีความสำคัญมากเพียงใดตัวแทนทางการทูตจะถูกจับ ถูกฟ้องศาล หรือถูกลงโทษฐานประกอบอาชญากรรมนั้นไม่ได้ เพราะถือว่าผู้แทนทางการทูตมิได้อยู่ในอำนาจศาลของรัฐผู้รับ อย่างไรก็ดี หากผู้แทนทางการทูตกระทำความผิดอย่างโจ่งแจ้ง รัฐผู้รับอาจขอให้รัฐผู้ส่งเรียกตัวกลับไปยังประเทศของเขาได้ในทันที [การทูต] |
Work of the United Nations on Human Rights | งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต] |
ปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว | ปริมาณที่จะสามารถผลิตได้จากแหล่งกักเก็บที่ค้นพบแล้ว, ปริมาณที่จะสามารถผลิตได้จากแหล่งกักเก็บที่ค้นพบแล้ว โดยประเมินได้อย่างมั่นใจพอควร จากข้อมูลทางธรรีวิทยาและวิศวกรรม ทั้งนี้ การผลิตจะต้องอยู่ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ ตลอดจนวิธีปฏิบัติการและกฎระเบียบของรัฐบาลในขณะนั้น [ปิโตรเลี่ยม] |
Cannula, Reservoir | หลอดกักเก็บ [การแพทย์] |
Detention Care Service | สถานกักและอบรม [การแพทย์] |
Dysarthria | พูดไม่ชัด, ลิ้นแข็ง, อาการพูดลำบาก, พูดลำบาก, ความผิดปกติเกี่ยวกับการพูด, การพูดตะกุกตะกัก [การแพทย์] |
Entrap | กัก, ล้อมรอบ, การจับ, จับ [การแพทย์] |
Filters, Depth Type | ตัวกรองแบบกักอนุภาคไว้ภายใน [การแพทย์] |
Filters, Screen Type | ตัวกรองแบบกักอนุภาคไว้บนผิวหน้า [การแพทย์] |
impounding dam | impounding dam, เขื่อนกักเก็บน้ำ [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ] |
intercepted moisture | intercepted moisture, ความชื้นเก็บกัก [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ] |
channel storage | channel storage, ปริมาณน้ำเก็บกักในลำน้ำ [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ] |
flood storage basin | flood storage basin, พื้นที่กักเก็บน้ำท่วม [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ] |
normal pool level | normal pool level, ระดับกักเก็บปกติ [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ] |
retention water level | retention water level, ระดับน้ำกักเก็บ [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ] |
hydro energy | พลังน้ำ, พลังงานที่สะสมอยู่ในน้ำในรูปของพลังงานศักย์โน้มถ่วง เช่น พลังน้ำในเขื่อนกักเก็บน้ำ เมื่อน้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ พลังงานศักย์จะเปลี่ยนเป็นพลังงานจลน์ ซึ่งจะใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ เช่น หมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หรือมีโทษ เช่น ทำความเสียหายให้แก่บ้านเรือน พืช [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
diversion dam | เขื่อนทดน้ำ, สิ่งก่อสร้างขวางแม่น้ำหรือทางน้ำเพื่อกักน้ำให้มีระดับสูงต่ำตามความต้องการที่จะส่งน้ำลงสู่คลองส่งน้ำไปยังทุ่งนา สิ่งก่อสร้างนี้มีประตูปิดเปิดให้น้ำไหลผ่านไปตามแม่น้ำหรือทางน้ำสายเดิมได้ เช่น เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท เขื่อนวชิราลงกรณ์ จังหวัดกาญจบุรี เ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
กัก | [kak] (v) EN: shut up ; confine ; hold back ; detain FR: détenir ; enfermer ; renfermer ; retenir ; confiner |
กักบริเวณ | [kak børiwēn] (v) EN: coop up FR: enfermer |
กักด่วน | [kak dūan] (v) EN: quarantine ; confine for inspection FR: mettre en quarantaine |
กักจดหมาย | [kak jotmāi] (v, exp) EN: intercept a letter ; withhold a letter FR: intercepter une lettre ; retenir une lettre |
กักกัน | [kakkan] (v) EN: confine ; restrict ; detain FR: interner ; détenir |
กักเก็บ | [kakkep] (v) EN: store ; reserve ; keep ; maintain FR: stocker |
กักขฬะ | [kakkhala] (adj) EN: rough ; vulgar ; rude FR: grossier ; abject ; vulgaire |
กักขัง | [kakkhang] (v) EN: imprison ; detain ; hold in custody ; detain under custody ; take into custody ; confine ; imprison ; incarcerate ; take into custody FR: écrouer ; emprisonner ; incarcérer ; séquestrer ; cloîtrer ; boucler (fam.) ; interner ; jeter en prison |
กักตุน | [kaktun] (v) EN: hoard for speculation ; corner |
กักตุนสินค้า | [kaktun sinkhā] (v, exp) EN: hoard goods ; hold back goods from the market |
การกัก | [kān kak] (n) EN: confinement |
การกักด่าน | [kān kak dān] (n, exp) EN: quarantine FR: quarantaine [ f ] |
การกักขัง | [kān kakkhang] (n) EN: detention FR: détention [ f ] ; emprisonnement [ m ] ; incarcération [ f ] ; internement [ m ] |
การกักขังหน่วงเหนี่ยว | [kān kakkhang nūang-nīo] (n, exp) EN: unlawful detention |
การกักตุน | [kān kaktun] (n) EN: hoard |
การถูกกักขัง | [kān thūk kakkhang] (n, exp) EN: captivity |
เขื่อนกักเก็บน้ำไว้ | [kheūoen kakkep nām wai] (n, exp) FR: barrage [ m ] ; barrage-réservoir [ m ] |
ผู้ถูกกักกัน | [phū thūk kakkan] (n, exp) EN: internee |
สถานกักกัน | [sathān kakkan] (n, exp) EN: detention center |
ที่กักกัน | [thī kakkan] (n, exp) EN: youth custody unit ; remand centre ; reform school (Am.) |
ที่กักขัง | [thī kakkhang] (n, exp) EN: detention center FR: centre de détention [ m ] |
Longdo Approved EN-TH
instant water heater | (n) เครื่องทำน้ำอุ่นประเภทที่ให้ความร้อนกับน้ำ ณ ขณะนั้น ไม่มีการกักตุนและเตรียมน้ำอุ่นสำรองไว้, Syn. tankless water heater |
prison camp | (n) ค่ายเชลย, ค่ายกักกัน เช่น America opened its prison camp at Guantanamo Bay to house “the worst of the worst”., Syn. concentration camp |
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
affricate | (n) เสียงกักเสียดแทรก (สัทศาสตร์), See also: เสียงที่เกิดจากการออกเสียงในลักษณะที่เริ่มด้วยฐานกรณ์ปิดสนิทแล้วค่อยๆเปิดออก ทำให้ลม |
animal rights | (n) สิทธิของสัตว์ที่จะมีชีวิตอยู่อย่างอิสระปราศจากการหารประโยชน์ของมนุษย์หรือถูกมนุษย์ทารุณหรือกักขัง |
borstal | (n) สถานกักกันเยาวชน |
bumble | (vi) เดินโซเซ, See also: พูดตะกุกตะกัก, Syn. blunder |
bang up | (phrv) ขังคุก, See also: กักขัง, Syn. lock up |
be behind bars | (idm) จำคุก, See also: กักขัง, ขังคุก |
captivity | (n) การถูกกักขัง, See also: การถูกจองจำ, Syn. imprisonment, confinement |
catchment | (n) การเก็บกักน้ำ |
catchment | (n) น้ำที่กักไว้ |
catchment | (n) สิ่งที่ใช้เก็บกักน้ำ เช่น อ่างเก็บน้ำ |
chain | (vt) กักตัว, See also: กักขัง, คุมตัว, Syn. confine, restrain |
crib | (vt) กักขัง, Syn. confine |
cool up | (phrv) จำกัดสิทธิเสรีภาพ, See also: กักขัง, ปิดกั้น, Syn. coop in |
cut loose | (phrv) ทำตัวป่าเถื่อน, See also: กักขระ |
falter out | (phrv) พูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก, See also: พูดอ้ำอึ้ง |
flounder through | (phrv) พูดตะกุกตะกัก |
detain | (vt) กักขัง, See also: หน่วงเหนี่ยว, กักตัว, เหนี่ยวรั้ง, Syn. retain, hold, confine, Ant. discard, lose |
detainee | (n) ผู้ถูกกักขัง, See also: ผู้ถูกคุมขัง, นักโทษ, Syn. prisoner |
detention centre | (n) สถานกักกันเยาวชน, See also: ทัณฑสถานเด็ก, ที่กักกัน, Syn. juvenile hall |
detention home | (n) สถานกักกันเยาวชน, See also: ทัณฑสถานเด็ก, ที่กักกัน, Syn. jailhouse, prison |
falter | (vi) พูดตะกุกตะกัก, See also: พูดเสียงสั่น, พูดอ้ำอึ้ง, พูดละล่ำละลัก |
falter | (vt) พูดตะกุกตะกัก, See also: พูดเสียงสั่น, พูดอ้ำอึ้ง, พูดละล่ำละลัก |
flounder | (vi) พูดตะกุกกตะกัก, See also: ระส่ำระสาย, ป้ำๆ เป๋อๆ, Syn. falter, waver, muddle, Ant. chatter |
forestall | (vt) กักตุนสินค้า |
hoard up | (phrv) กักตุน, See also: เก็บรวบรวม, สะสม |
incarcerate in | (phrv) จำคุก, See also: กักขัง, คุมขัง |
intern in | (phrv) กักขังใน, See also: กักขังไว้ใน, คุมขังใน, Syn. inter in |
halting | (adj) ที่ตะกุกตะกัก, See also: ที่อึกอัก, ที่ลังเล, Syn. hesitant, indecisive, uncertain |
hem in | (vt) กักขัง, See also: กักตัว, Syn. confine, restrict |
hoard | (vt) กักตุน (อาหาร, เงิน), Syn. cache, stockpile, store, Ant. disburse, scatter, spend |
hoard | (vi) กักตุน (อาหาร, เงิน) |
hoard | (n) แหล่งกักตุน |
immure | (vt) กักขัง (ทางวรรณคดี), See also: ขังคุก, คุมขัง, Syn. confine, imprison |
impound | (vt) กักขัง, See also: กัก, Syn. confine, seize |
imprison | (vt) จำคุก, See also: กักขัง, คุมขัง, Syn. confine, immure |
imprisonment | (n) การจำคุก, See also: การกักขัง, การคุมขัง, Syn. confinement, immurement |
incarcerate | (vt) ขังคุก (คำทางการ), See also: กักขัง, จองจำ, Syn. confine, imprison, jail |
inmate | (n) ผู้ถูกกักกัน, See also: ผู้ถูกกักบริเวณในเรือนจำหรือโรงพยาบาล, Syn. prisoner, inhabitant |
intern | (vt) กักตัว, Syn. confine, detain |
internee | (n) ผู้ถูกกักขัง, See also: ผู้ต้องขัง |
internment | (n) การกักกัน, See also: การกักขัง |
jerk out | (phrv) พูดตะกุกตะกักออกมา |
keep in | (phrv) ถูกกักบริเวณเพื่อทำโทษ (หลังเลิกเรียน), Syn. keep behind, keep indoors, remain behind, remain in |
lock away | (phrv) กักขัง, See also: จำคุก, ใส่กรงขัง, Syn. lock up, put away, shut away |
lock up | (phrv) กักขัง, See also: จำคุก, ใส่กรงขัง, Syn. lock away |
jail | (vt) จำคุก, See also: กักขัง, จองจำ, เข้าตาราง, Syn. imprison, confine, detain, Ant. free, release |
jerk | (vt) พูดตะกุกตะกัก, See also: ตะกุกตะกัก |
pen | (n) สถานดัดสันดาน (คำสแลง), See also: สถานกักกัน, Syn. penitentiary |
pent | (adj) ซึ่งถูกกักขัง, See also: ซึ่งถูกกักตัว, ซึ่งถูกคุมขัง, Syn. confined |
pent-up | (adj) ที่ถูกควบคุมไว้, See also: ที่ถูกกักขังไว้, ซึ่งไม่ได้รับการปลดปล่อย |
Hope Dictionary
bonded | (บอน'ดิด) adj. กักไว้ในโกดังเพื่อรอให้ชำระภาษีให้เป็นที่เรียบร้อย |
brig | (บริก) n. เรือใบสองเสา, ห้องคุกในเรือ, สถานที่กักขัง |
bumble | (บัม'เบิล) { bumbled, bumbling, bumbles } vt. กระทำผิดอย่างมาก, เดินโซเซ, พูดตะกุกตะกัก vi. ทำเสียงคล้ายผึ้ง n. การกระทำที่ผิด |
cage | (เคจฺ) { caged, caging, cages } n. กรง, กรงนก, คุก, ที่คุมขัง, ที่กักขัง, โครง, โครงกระดูก, โครงเหล็กค้ำปืน vt. ใส่ในกรง |
calaboose | (แคล'ละบูส) n. คุกการกักขัง |
catchment | n. ที่กักน้ำ, อ่างกักน้ำ, น้ำที่กักไว้ |
commitment | (คะมิท'เมินทฺ) n. การมอบ, การมอบหมาย (หน้าที่ความไว้วางใจ) , การส่งให้พิจารณา, การกักตัวไว้ในโรงพยาบาลโรคจิต, การส่งเข้าคุก, การให้คำมั่นสัญญา, คำสั่งศาลให้กักหรือเข้าคุก, การกระทำความผิด, การพัวพัน, การเข้าสู่สงคราม., Syn. committal, delive |
concentration camp | n. ค่ายกักกัน |
confine | (คันไฟน์') { confined, confining, confines } vt. ขีดขั้น, จำกัด, ตีวง, เก็บตัว, กักตัว n. ขอบเขต, การจำกัด, การเก็บตัว, คุก, สถานกักกัน., See also: confinable adj. ดูconfine confineable adj. ดูconfine, Syn. intern, imprision |
confinement | (คันไฟน์'เมินทฺ) n. การจำกัด, การเก็บกัก, ภาวะที่ถูกเก็บกัก, การคลอดบุตร, การจำคุก, การกักกัน, Syn. incarceration |
corner | (คอร์'เนอะ) { cornered, cornering, corners } n. มุม, หัวเลี้ยว, หัวต่อ, หัวโค้ง, หัวถนน, ลูกมุม (ฟุตบอล) vt., vi. ต้อนเข้ามุม, ทำให้จนตรอก, ผูกขาด, กักตุน., Syn. trap |
detain | (ดีเทน') vt. กักตัว, หน่วงเหนี่ยว, ทำให้ช้า, ยับยั้ง., See also: detainable adj. detainment n., Syn. keep |
detainer | (ดีเทน'เนอะ) n. การยึดทรัพย์ของคนอื่นไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย, หมายศาลให้กักตัวผู้ต้องหา |
detention | (ดิเทน'เชิน) n. การกักขัง, การคุมตัว, การกักกัน, การยึดทรัพย์ของผู้อื่น adj. เกี่ยวกับการกักขัง |
detenu | (เดทะนู') n. ผู้ถูกกักขัง |
durance | (ดู'เรินซฺ) n. การจำคุก, การกักขัง, ความอดทน, ความทนทาน, Syn. imprisonment |
falter | (ฟอล'เทอะ) { faltered, faltering, falters } v., n. (การ) เดินสะดุด, เดินโซเซ, เดินตัวสั่น, พูดตะกุกตะกัก, ลังเล, รีรอ, วอกแวก, แกว่งไปแกว่งมา, อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ, See also: falterer n. faltering adj. falteringly adv., Syn. doubt, hesitate |
house arrest | การกักกันผู้ต้องหาไว้ในที่อยู่ของเขา |
imprison | (อิมพริส' เซิน) vt. จำคุก, เอาเข้าคุก, กักขัง., See also: imprisoner n., Syn. incarcerate |
imprisonment | (อิมพริส' เซินเมินทฺ) n. การจำคุก, การเอาเข้าคุก, การถูกจำคุก, การกักขัง |
incarcerate | (อินคาร์' เซอเรท) vi. จำคุก, กักขัง, คุมขัง. -adj. ถูกจำคุก, ถูกคุมขัง., See also: incarceration n., Syn. imprison, jail |
inmate | (อิน'เมท) n. ผู้ที่ถูกกักอยู่ในโรงพยาบาลคุกหรืออื่น ๆ , ผู้ที่อยู่ด้วยกัน, Syn. occupant |
internee | (อินเทอนี') n. ผู้ถูกกักกันหรือกักขัง |
internment | (อินเทิร์น'เมินทฺ) n. การกักกัน, การกักขัง, Syn. confinement |
keep | (คีพ) { kept, kept, keeping, keeps } v. เก็บ, สงวนไว้, กักขัง, ป้องกันรักษา, หน่วงเหนี่ยว, ธำรงไว้, ผดุงไว้, กักตัว, ดำเนินกิจการ, ยังคงเป็นอยู่ การรักษาไว้, การสนับสนุน, ตัวตึกที่แข็งแรงที่สุดของปราสาทสมัยกลาง, ส่วนที่แข็งแกร่ง แน่นหนาที่สุด, คุก. -Phr. (forkeeps ด้วยควา |
lock | (ลอค) { locked, locking, locks } n. กุญแจ, เครื่องมือที่ให้ปิด, เครื่องกัก, เครื่องกัน, นกสับ, การติดขัด, ห้องปิดอากาศ, ช่องระหว่างประตูน้ำ, กระจุกผม, ปอยผม., See also: locks ผมที่ศีรษะ, ปอยขน, ปอยฝ้ายหรือเส้นใย -Phr. lock, stock, and barrel ทั้งสิ้น ทั้งหมด สมบู |
lying-in | (ไล'อิงอิน) n. การนอนอยู่บนเตียง, การจำกัดเขต.การกักตัว, Syn. confinement |
pent-up | (เพนทฺ'อัพ') adj. ขังไว้, กักไว้, คุมไว้, ยับยั้งไว้, Syn. suppressed, repressed |
pinch | (พินชฺ) vt. หยิก, หนีบ, บีบ, บิด, บีบ, คลึง, ทำให้แสบ, ลดลง, ฉกฉวย, ทำให้กลุ้ม, กระเบียดกระเสียน, เด็ดทิ้ง, ตัดแต่ง, ขโมย, ทำให้หดเหี่ยว, ปล้น, กักขัง, จับกุม. vi. (รองเท้า) รัด, ทำให้กลัดกลุ้ม, กระเบียดกระเสียน, ประหยัด, เหน็บแนม. -Id. (pinch pennies ประหยัด) n. การหยิก, การหนีบ, จำนวนนิดเดียว, ความขัดสน, สถานการณืที่ลำบาก, ความกดดัน |
quarantine | (ควอ'เรินทีน) vt., n. (การ) กักไว้ (อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่หลายของเชื้อโรค) , สถานที่กักกันดังกล่าว, แยกออก, ทำให้อยู่โดดเดี่ยว, See also: quarantinable adj. |
retention | (รีเทน'เชิน) n. การสงวนไว้, การกักกัน, การกันไว้, สิ่งที่สงวนไว้, ความทรงจำ |
retentive | (รีเทน'ทิฟว) adj. ซึ่งสงวนไว้, ซึ่งรักษาไว้, ซึ่งกักกัน, มีอำนาจกันไว้, มีความทรงจำดี, สามารถเก็บไว้ได้ดี, See also: retentiveness n. |
rig | (ริก) vt., n. (การ) ขึงใบเรือ, ขึงสายระโยงระยาง, ประกอบ, ทำขึ้นชั่วคราว, แต่งตัว, ควบคุม, กำหนด, กักตุนสินค้าเพื่อเก็งกำไร, วางแผนหลอกลวง, เครื่องมือ, อุปกรณ์, ชุดรถม้า, เครื่องมือเจาะน้ำมัน, เครื่องแต่งกาย, เสื้อผ้า |
stagger | (สแทก'เกอะ) vi., vt., n. (การ) (ทำให้) เดินโซเซ, ยืนโซเซ, โงนเงน, เซ, ส่าย, ลังเลใจ, ตะกุกตะกัก, สับหลีก, จัดหลีก. adj. สับหลีก, จัดหลีก, Syn. totter, stun |
stammer | (สแทม'เมอะ) vi., vt. พูดตะกุกตะกัก, พูดติดอ่าง. n. การพูดตะกุกตะกัก, การพูดติดอ่าง., See also: stammerer n. stammeringly adv. |
stump | (สทัมพฺ) n. ตอ, ตอไม้, สิ่งที่กุดด้วน, ส่วนที่เหลือ, เศษ, เศษดินสอ, โคนที่เหลือ, ก้านที่เหลือ, การสะดุดเท้า, การทดสอบ vt. ทำให้เหลือโคน, ขุดตอไม้, ทำให้งงงวย, ทำให้เสื่อมเสียเกียรติ, ทำให้ตะกุกตะกัก ๆ vi. เดินเสียงฝีเท้าหนัก, เดินงุ่มง่าม, , See also: stumps n. ขา |
stutter | (สทัท'เทอะ) vi., vt. พูดติดอ่าง, พูดตะกุกตะกัก., See also: stutterer, stutteringly adv. |
Nontri Dictionary
boor | (n) คนหยาบคาย, คนกักขฬะ, คนบ้านนอก |
boorish | (adj) หยาบคาย, กักขฬะ, บ้านนอก |
cage | (n) กรง, ที่คุมขัง, ที่กักขัง |
cage | (vt) คุมขัง, ใส่กรง, ขังกรง, กักขัง |
calaboose | (n) คุก, เรือนจำ, ที่คุมขัง, ที่กักขัง |
catchment | (n) อ่างเก็บน้ำ, ที่กักเก็บน้ำ |
CONCENTRATION concentration camp | (n) ค่ายกักกัน |
confine | (n) ขอบเขต, วงรอบ, การจำกัด, คุก, สถานกักกัน |
confine | (vt) กักขัง, จำกัดที่, ตีวง |
confinement | (n) การกักขัง, การจำกัดขอบเขต, การกักตัว, การคุมขัง |
coop | (vt) กักบริเวณ, ครอบ, ใส่กรง |
detain | (vt) กักขังไว้, หน่วงไว้, กักกัน, รอไว้, ยับยั้ง |
DETENTION detention home | (n) สถานพินิจเด็ก, สถานกักกัน |
detention | (n) การกักกัน, การกักขัง, การหน่วงไว้, การคุมขัง, การยึดทรัพย์ |
duress | (n) การบีบบังคับ, การบังคับขู่เข็ญ, การข่มขู่, การกักขัง |
falter | (vi อ้ำๆ) อึ้งๆ, พูดตะกุกตะกัก, พูดไม่คล่อง, เดินสะดุด |
gibber | (n) การพูดพล่อยๆ, การพูดไม่ชัด, การพูดตะกุกตะกัก |
gibber | (vi) พูดพล่อยๆ, พูดไม่ชัด, พูดตะกุกตะกัก |
hoard | (n) ของที่สะสมไว้, กอง, บึก, การสะสม, การกักตุน |
hoard | (vt) สะสม, เก็บ(เงิน), รวบรวม, กักตุน |
hobble | (n) การเดินกะเผลก, การพูดตะกุกตะกัก, ความไม่ราบรื่น |
hobble | (vi) เดินกะเผลก, เดินขาเป๋, พูดตะกุกตะกัก |
immure | (vt) กักขัง, จำคุก, ขัง |
imprison | (vt) ขังคุก, กักขัง, จองจำ, จับกุม |
imprisonment | (n) การขังคุก, การกักขัง, การจองจำ, การจับกุม |
intern | (vt) คุมขัง, กักตัว, กักกัน |
irregular | (adj) ผิดปกติ, ตะกุกตะกัก, ไม่สม่ำเสมอ, ไม่ถูกระเบียบ |
jerk | (n) อาการกระตุก, การพูดตะกุกตะกัก, การสะบัด, การเหวี่ยง, การกระชาก |
jerk | (vi, vt) กระตุก, ตะกุกตะกัก, เหวี่ยง, สะบัด, หยุดกึก, ฉุด |
jerky | (adj) กระตุก, ตะกุกตะกัก, เหวี่ยง, สะบัด |
keep | (vt) เก็บ, ดูแล, รักษา, เลี้ยง, ระวัง, กักขัง |
patter | (n) เสียงวิ่งตั๊กๆ, เสียงดังแปะๆ, เสียงกุกกัก, การพูดเร็ว |
penitentiary | (adj) ที่รับผิด, ซึ่งรู้สึกผิด, เกี่ยวกับการกักขัง |
penitentiary | (n) ที่กักขัง, สถานดัดสันดาน |
pent | (adj) ถูกล้อม, ถูกกั้น, ถูกกัก, ถูกคุมขัง |
quarantine | (n) การกักกัน, การกักบริเวณ, การกักตัว |
quarantine | (vt) กักตัว, กักบริเวณ, กักกัน |
retention | (n) การกักไว้, การเก็บไว้, การผูกขาด, การสงวนไว้ |
stammer | (vi) พูดตะกุกตะกัก, พูดติดอ่าง |
stutter | (vi) พูดตะกุกตะกัก, พูดติดอ่าง |
TONGUE-tongue-tied | (adj) พูดไม่ออก, น้ำท่วมปาก, พูดตะกุกตะกัก, ลิ้นแข็ง |
Longdo Unapproved EN-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ground | (vt) กักบริเวณ |
grounded | (adj) โดนกักบริเวณ |
Hyperaldosteronism | เป็นโรคต่อมไร้ท่อที่เกี่ยวข้องกับหนึ่งหรือทั้งสองของต่อมหมวกไตของคุณสร้างมากเกินไปของฮอร์โมนที่เรียกว่า (aldosterone ฮอร์โมนในกลุ่มมิเนราโลคอร์ติคอยด์ ซึ่งสร้างจากอะดรีนัลคอร์เทกซ์ของต่อมหมวกไต ทำหน้าที่ควบคุมสมดุลของโซเดียมในเลือด). ทําให้ร่างกายสูญเสียโพแทสเซียมมากเกินไปและรักษาโซเดียมมากเกินไปซึ่งเพิ่มการกักเก็บน้ําปริมาณเลือดและความดันโลหิต |
Longdo Unapproved JP-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
監禁 | [かんきん, kankin] (n) การคุมขัง, การกักขัง |
ギクシャク | [ぎくしゃく, gikushaku] (adv) ไม่ไหลลื่น, ตะกุกตะกัก (เรื่องราว, การพูด, ท่าทาง, ฯลฯ) |
Saikam JP-TH-EN Dictionary
溜める | [ためる, tameru] TH: กักเอาไว้ EN: to amass |
Longdo Approved DE-TH
KZ | (n, abbrev) เป็นคำย่อของ Konzentrationslager ซึ่งแปลว่า สถานที่หรือค่ายกักกัน(โดยเฉพาะชาวยิวในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง) |
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Time: 0.0463 seconds, cache age: 6.319 (clear)
ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม