ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ประกาศ, -ประกาศ- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ trade terms | [เทรด เทอมส] (n) "ข้อตกลงในการส่งมอบสินค้า" ยังไม่เจาะจงลงไปว่าเป็นแหล่งอ้างอิงจากชื่อใด เข่น AFTD: American Foreign Trade Definition หรือ RWO: Rules of Warsaw and Oxford หรือ GCDM: General Conditions for Delivery of Merchandise หรือ Combiterms หรือ Incoterms ซึ่งในแต่ละแหล่งอ้างอิงมี Terms ให้ใช้คล้ายกัน เช่น Ex Works, FOB หรือ CIF เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แหล่งอ้างอิงที่เสถียรในเรื่องค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงในการส่งมอบ คือแหล่ง Incoterms ทำให้หลายแหล่ง เช่น ล่าสุดทางอเมริกา ประกาศยกเลิก ธรรมนูญการค้าหรือ UCC บางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบสินค้าของตน ซึ่ง UCC นี้เองได้เป็นฐานในการกำหนดงเป็น AFTD ล่าสุดอเมริกาและแทบทั้งโลกมาขอใช้ร่วมกับ Incoterms ของ ICC International Chamber of Commerce, Paris, France นี้ เป็นมีการกำหนดจุดรับภาระที่แน่นอนกว่า |
|
| 发布 | [fā bù, ㄈㄚ ㄅㄨˋ, 发 布] ประกาศ(คำสั่ง); แถลง(ข่าว) | 宣布 | [xuān bù, ㄒㄩㄢ ㄅㄨˋ, 宣 布] ประกาศ; แถลงให้ทราบ |
| ประกาศ | (n) notice, See also: notification, announcement, declaration, proclamation, Syn. ข้อมูล, ข่าวสาร, ข่าว, Example: รัฐบาลปิดประกาศให้ประชาชนไปเสียภาษี, Thai Definition: ข้อความที่แจ้งให้ทราบทั่วกัน | ประกาศ | (v) announce, See also: proclaim, declare, promulgate, publish, state, Syn. แจ้ง, ป่าวร้อง, แจ้งให้ทราบ, ประชาสัมพันธ์, เผยแพร่, บอกกล่าว, พูด, แถลง, Example: รัฐบาลประกาศว่าจะเปิดสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนาม | คำประกาศ | (n) announcement, See also: declaration, proclamation, manifesto, Example: ข้าพเจ้าอ่านคำประกาศกล่าวสดุดีหน่วยต่างๆ ที่ทำการรบในศึกคราวนี้, Count Unit: ฉบับ, Thai Definition: เนื้อความที่บอกให้รู้ทั่วกัน | ประกาศิต | (n) command, See also: order, commandment, Syn. คำสั่งเด็ดขาด, คำพูดที่ศักดิ์สิทธิ์, Example: เขาขัดขืนประกาศิตพระผู้เป็นเจ้า | ใบประกาศ | (n) poster, See also: handbill, notice, circular, Example: ใบประกาศรับสมัครงานติดอยู่หน้าบริษัท | ใบประกาศ | (n) poster, See also: handbill, notice, circular, Example: ใบประกาศรับสมัครงานติดอยู่หน้าบริษัท | ใบประกาศ | (n) poster, See also: handbill, notice, circular, Example: ใบประกาศรับสมัครงานติดอยู่หน้าบริษัท | ติดประกาศ | (v) post a notice, Example: ทางมหาวิทยาลัยจะติดประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการทดสอบในวันพรุ่งนี้, Thai Definition: ติดป้ายบอกเรื่องราวให้ทราบทั่วกัน | ที่ประกาศ | (n) board, See also: notice board, billboard, signboard, display panel, poster board, display panel, poster boa, Syn. ป้ายประกาศ | ประกาศตัว | (v) declare oneself, See also: announce, proclaim, Example: กลุ่มผู้ประท้วงได้พยายามเคลื่อนไหวที่จะประกาศตัวจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นเพื่อต่อต้านรัฐบาล | ประกาศรับ | (v) announce one is accepting application, See also: announce accepting application, Syn. รับสมัคร, ประกาศรับสมัคร, Example: หากบริษัทเรามีตำแหน่งว่าง เราจะประกาศรับทันที, Thai Definition: แจ้งให้ทราบถึงการรับสมัคร | ประกาศใช้ | (v) promulgate, See also: declare, proclaim, Example: รัฐบาลประกาศใช้กฎหมายในราชกิจจานุเบกษา | ปิดประกาศ | (v) post a notice, See also: put up an announcement, placard, Example: ผู้ใช้บริการทุกคนสามารถส่งบทความมาปิดประกาศบนบอร์ดไฟฟ้านี้ได้, Thai Definition: นำแผ่นป้ายประกาศมาติดไว้เพื่อแจ้งให้ผู้คนทราบ | ผู้ประกาศ | (n) announcer, See also: broadcaster, reporter, newsreader, Syn. ผู้ดำเนินรายการ, Example: ฤดีมาสสอบเป็นผู้ประกาศเมื่อหลายปีก่อน, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้อ่านข่าวทางโทรทัศน์หรือวิทยุ | อัญประกาศ | (n) quotation marks, See also: double quotation marks, Syn. เครื่องหมายคำพูด, Thai Definition: เครื่องหมายวรรคตอนรูปดังนี้ สำหรับเขียนคร่อมคำหรือข้อความ เพื่อแสดงว่าข้อความนั้นเป็นคำพูด หรือเพื่อเน้นความนั้นให้เด่นชัดขึ้นเป็นต้น | อัญประกาศ | (n) quotation mark, Syn. เครื่องหมายคำพูด, Example: ประโยคนี้ต้องใส่เครื่องหมายอัญประกาศ, Count Unit: ตัว, คู่, Thai Definition: เครื่องหมายวรรคตอน สำหรับขีดคร่อมคำหรือข้อความเพื่อแสดงว่าเป็นคำพูด | ป่าวประกาศ | (v) announce, See also: publicize, broadcast, proclaim, Syn. ประกาศ, ป่าว, Example: เรามีข้อมูลที่ค่อนข้างจะแจ้งว่าชัยชนะครั้งแรกที่พันธมิตรป่าวประกาศไปทั่วโลกนั้นห่างไกลจากความถูกต้อง, Thai Definition: บอกให้รู้ทั่วกัน | ป้ายประกาศ | (n) sign board, See also: notice board, Example: ผมจะเป็นคนแรกที่เขียนป้ายประกาศให้นักศึกษารู้ว่าอาจารย์คนไหนไม่ควรเข้าเรียน, Count Unit: ป้าย, แผ่น, Thai Definition: แผ่นหนังสือมีแจ้งความไว้ให้คนดู | หมายประกาศ | (n) notice, See also: announcement, notification, Syn. ประกาศ, Example: พระองค์โปรดให้มีหมายประกาศ ห้ามมิให้ฆ่าสัตว์ในเวลาเฉลิมพระชนมพรรษา, Count Unit: ฉบับ | เสียงประกาศ | (n) announcement, Example: งานวัดเลิกลาไปพร้อมกับเสียงประกาศชื่อผู้ใจบุญรายสุดท้ายทางไมโครโฟน, Thai Definition: เสียงป่าวร้องเพื่อแจ้งให้ทราบ | ใบปิดประกาศ | (n) poster, Syn. โปสเตอร์, Example: ทั้ง 2 พรรคการเมืองหาเสียงร่วมกันโดยมีการทำใบปิดประกาศโฆษณาร่วมกัน, Count Unit: แผ่น, ใบ | ประกาศสงคราม | (v) declare war, Syn. ทำสงคราม, Example: อังกฤษประกาศสงครามกับเยอรมนี | ประกาศนียบัตร | (n) certificate, See also: diploma, testimonial, Syn. ใบสุทธิ, วุฒิบัตร, ใบรับรอง, Example: เขาเรียนจบระดับปวส. โดยมีประกาศนียบัตรรับรองความรู้, Thai Definition: เอกสารแสดงคุณวุฒิ ตามปกติต่ำกว่าระดับอุดมศึกษา | ประกาศอิสรภาพ | (v) declare independence, Syn. ปลดปล่อย, Example: วันนี้เป็นวันที่ประเทศอเมริกาประกาศอิสรภาพจากประเทศอังกฤษ | ผู้ประกาศข่าว | (n) announcer, See also: broadcaster, newscaster, newsreader, Syn. ผู้อ่านข่าว, ผู้รายงานข่าว, Example: การรายงานข่าวของสถานีนี้ใช้ผู้ประกาศข่าวถึง 5 คน ซึ่งถือว่าเกินความจำเป็น, Count Unit: คน, Thai Definition: บุคคลที่ทำหน้าที่อ่านหรือรายงานข่าวให้ผู้ฟังได้รับ ทราบ | กิตติกรรมประกาศ | (n) acknowledgement, See also: repute, recognized virtues, Example: เขาเขียนกิตติกรรมประกาศในวิทยานิพนธ์เป็นอย่างดี, Thai Definition: ข้อความที่กล่าวถึงผลงานและแสดงความขอบคุณบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือที่ให้ความช่วยเหลือต่างๆ มักเขียนไว้ตอนต้นของวิทยานิพนธ์ | อัญประกาศเดี่ยว | (n) single quotation marks, Thai Definition: เครื่องหมายวรรคตอนรูปดังนี้ ' ' | อัญประกาศเดี่ยว | (n) single quotation mark, Count Unit: ตัว, คู่, Thai Definition: เครื่องหมายวรรคตอน ' ' ซ้อนอยู่ในข้อความที่มีเครื่องหมายอัญประกาศ | ประกาศนียบัตรชั้นสูง | (n) diploma, Example: มหาวิทยาลัยมหิดลเปิดรับสมัครนักศึกษารอบเพิ่มเติมประจำปีการศึกษา 2541 ในระดับประกาศนียบัตรชั้นสูง, Count Unit: ใบ, Thai Definition: เอกสารแสดงคุณวุฒิ ในระดับอุดมศึกษา |
| กิตติกรรมประกาศ | น. ข้อความที่กล่าวถึงผลงานและแสดงความขอบคุณบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือที่ให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ มักเขียนไว้ตอนต้นของวิทยานิพนธ์. | ประกาศ | ก. ป่าวร้อง, แจ้งให้ทราบ, เช่น ประกาศงานบุญงานกุศล. | ประกาศ | น. ข้อความที่แจ้งให้ทราบทั่วกัน เช่น ประกาศของวัด ประกาศของบริษัท | ประกาศ | ข้อความที่ทางราชการแจ้งให้ประชาชนทราบหรือวางแนวทางให้ปฏิบัติ เช่น ประกาศพระบรมราชโองการ ประกาศกระทรวง ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี. | ประกาศก | (-กาสก) น. ผู้ประกาศ. | ประกาศนียบัตร | (-กาสะนียะบัด, ปฺระกาดสะนียะบัด) น. เอกสารแสดงคุณวุฒิ ตามปรกติตํ่ากว่าระดับอุดมศึกษา. | ประกาศิต | น. คำสั่งเด็ดขาด, คำพูดที่ศักดิ์สิทธิ์. | ป่าวประกาศ | ก. ประกาศให้รู้ทั่วกัน. | สัญประกาศ | (สันยะปฺระกาด) น. เครื่องหมายวรรคตอนรูปดังนี้ – ใช้ขีดไว้ใต้คำหรือข้อความที่สำคัญ เพื่อเน้นให้ผู้อ่านสังเกตเป็นพิเศษ, ขีดเส้นใต้ ก็เรียก. | อัญประกาศ | (อันยะ-) น. เครื่องหมายวรรคตอนรูปดังนี้ “ ” สำหรับเขียนคร่อมคำหรือข้อความ เพื่อแสดงว่าข้อความนั้นเป็นคำพูด หรือเพื่อเน้นความนั้นให้เด่นชัดขึ้นเป็นต้น. | อัญประกาศเดี่ยว | น. เครื่องหมายวรรคตอนรูปดังนี้ ‘ ’ สำหรับเขียนคร่อมคำหรือข้อความที่ซ้อนอยู่ภายในข้อความที่มีเครื่องหมายอัญประกาศอยู่แล้ว. | กฎ | ข้อกำหนดหรือข้อบัญญัติที่บังคับให้ต้องมีการปฏิบัติตาม เช่น พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง | กฎอัยการศึก | น. กฎหมายที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารลิดรอนสิทธิเสรีภาพบางประการของประชาชนได้ตามความจำเป็น ทั้งให้มีอำนาจหน้าที่เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนในส่วนที่เกี่ยวกับการยุทธ การระงับปราบปรามหรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาบางอย่างที่ประกาศระบุไว้แทนศาลพลเรือน การใช้กฎอัยการศึกจะกระทำได้เมื่อมีเหตุจำเป็นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เช่น ในกรณีเกิดสงคราม การจลาจล โดยจะให้มีผลบังคับทุกท้องที่หรือบางท้องที่ก็ได้ตามความจำเป็น. | กตเวทิตา | (กะตะ-) น. ความเป็นผู้ประกาศคุณท่าน, ความเป็นผู้สนองคุณท่าน, เป็นคำคู่กันกับ กตัญญุตา. | กตเวที | (กะตะ-) ว. ซึ่งประกาศคุณท่าน, ซึ่งสนองคุณท่าน, เป็นคำคู่กันกับ กตัญญู. [ ป. กต ว่า อันเขาทำแล้ว + เวที ว่า ซึ่งรู้, ซึ่งประกาศให้รู้ ]. | กรรมวาจา | (กำมะ-) น. คำประกาศกิจการในท่ามกลางสงฆ์. | กระจองงอง, กระจองงอง ๆ | ว. เสียงร้องเช่นนั้นพร้อมตีฆ้องป่าวประกาศว่า กระจองงอง ๆ เจ้าข้าเอ๊ย. | กริยาวิเศษณ์วลี | น. ท่อนความที่มีคำกริยาวิเศษณ์ที่พ่วงบุรพบทเข้าขยายกริยา เช่น ม้าวิ่งไปข้างโน้น ความที่ขีดสัญประกาศนั้นเป็นกริยาวิเศษณ์วลี. | ก้อง ๒ | ก. อ่อนน้อมเจริญพระราชไมตรี เช่น พระเจ้ากรุงไทยแต่งขุนนางไปก้องกรุงปักกิ่ง (ประกาศ ร. ๔). | การยุบสภา | น.อำนาจของฝ่ายบริหารในการประกาศให้สภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ การยุบสภาต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกา. | แกล้ง | ตั้งใจ, จงใจ, เช่น แกล้งประกาศแก่สงฆ์ (ม. คำหลวง วนปเวสน์). | ขีดเส้นใต้ | น. ชื่อหนึ่งของเครื่องหมายสัญประกาศ. (ดู สัญประกาศ). | เขตติดโรค | น. ท้องที่หนึ่งท้องที่ใด ในหรือนอกราชอาณาจักรที่มีโรคติดต่อเกิดขึ้น ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหรือผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศกำหนด. | ครรภมล | (คับพะมน) น. รก. (ประกาศ ร. ๔), ราชาศัพท์ว่า พระครรภมล. | คว่ำบาตร | ก. ไม่ยอมคบค้าสมาคมด้วย, เดิมหมายถึงสังฆกรรมที่พระสงฆ์ประกาศลงโทษคฤหัสถ์ผู้ประทุษร้ายต่อศาสนาด้วยการไม่คบ ไม่รับบิณฑบาต เป็นต้น. | คำเผดียงสงฆ์ | น. ญัตติ, คำสวดประกาศเป็นภาษาบาลี เสนอให้ที่ประชุมสงฆ์ทราบเพื่อทำกิจของสงฆ์ร่วมกัน. | โฆษก | (โคสก) น. ผู้ประกาศ, ผู้โฆษณา, เช่น โฆษกสถานีวิทยุ | โฆษณา | ป่าวร้อง, ป่าวประกาศ, เช่น โฆษณาสินค้า | เงินตาย | น. เงินตราที่ทางราชการประกาศยกเลิก, เงินพดด้วงซึ่งทางราชการประกาศยกเลิกภายหลังที่มีการใช้เงินเหรียญและธนบัตร. | ชทึง | (ชะ-) น. แม่นํ้า เช่น ชลชทึงบึงบาง (ประกาศพระราชพิธี), ใช้ว่า จทึง ฉทึง ชรทึง สทิง สทึง หรือ สรทึง ก็มี. | ญัตติ | น. คำสวดประกาศเป็นภาษาบาลี เสนอให้ที่ประชุมสงฆ์ทราบเพื่อทำกิจของสงฆ์ร่วมกัน, คำเผดียงสงฆ์ ก็ว่า | เดินเหิน | ก. วิ่งเต้นเพื่อขอความช่วยเหลือ เช่น ผู้ใดรับสินบนเดินเหินช่วยแก้ไขให้คนเช่นนั้นได้ไปเป็นผู้สำเร็จราชการหัวเมือง จะได้บาปกรรมมากนัก (ประกาศ ร. ๔) | ตำบล | น. ท้องที่ที่รวมหมู่บ้านหลายหมู่บ้านประมาณยี่สิบหมู่บ้านเข้าด้วยกัน และมีประกาศจัดตั้งเป็นตำบล มีกำนันเป็นหัวหน้าปกครอง. | ติด ๑ | ผนึก เช่น ติดแสตมป์ ติดประกาศ ติดกาว | ถ้อยแถลง | (-ถะแหฺลง) น. คำชี้แจง, คำประกาศ, คำอธิบายเป็นทางการ. | ทอง ๑ | น. ธาตุแท้ชนิดหนึ่งเนื้อแน่นมาก สีเหลืองสุกปลั่ง เป็นโลหะมีค่า, เรียกเต็มว่า ทองคำ, โบราณกำหนดคุณภาพของเนื้อ ตั้งแต่เนื้อสี่ถึงเนื้อเก้า โดยตั้งพิกัดราคาตามเนื้อทอง เช่น ทองเนื้อหก คือ ทองหนัก ๑ บาท ราคา ๖ บาท ทองเนื้อเก้า คือ ทองหนัก ๑ บาท ราคา ๙ บาท. (ประกาศ ร. ๔), ทองเนื้อเก้านี้เป็นทองแท้เป็นทองบริสุทธิ์ เรียกว่า ทองธรรมชาติ ทองเนื้อแท้ ทองนพคุณ หรือบางทีเรียกว่า ทองชมพูนุท เช่น ดังทองชมพูนุทเนื้อเก้า (สังข์ทอง ตอนตีคลี) | โทธก | (-ทก) น. ชื่อฉันท์วรรณพฤติ บทหนึ่งมี ๔ บาท แต่ละบาทมี ๑๑ พยางค์ กำหนดด้วย ภะคณะ ภะคณะ ภะคณะ และครุ ๒ พยางค์ ตามลำดับเหมือนกันทุกบาท (ตามแบบว่า โทธกมิจฺฉติ เจ ภภภาคา) ตัวอย่างว่า มิตรคณาทุรพาละทุพลมี นามก็กระลี หินะชาติ ประกาศภิปราย (ชุมนุมตำรากลอน). | เนติบัณฑิต | น. ผู้ได้รับประกาศนียบัตรทางวิชากฎหมายของโรงเรียนกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม, ผู้สอบได้ตามหลักสูตรของสำนักศึกษาอบรมกฎหมายของเนติบัณฑิตยสภา. | บอกศาลา | ก. ประกาศไม่รับผิดชอบหรือตัดขาดไม่ให้ความอุปการะเลี้ยงดูอีกต่อไป. | บังคับ | ทำให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์การใช้ภาษา เช่น บังคับให้ใช้เครื่องหมายอัญประกาศเมื่ออ้างถึงคำพูดของผู้อื่น ภาษาไทยไม่บังคับการใช้เครื่องหมายมหัพภาคเคร่งครัดนัก | บิหลั่น | น. ผู้ประกาศเชิญชวนให้มุสลิมปฏิบัติศาสนกิจตามเวลา. | ใบแทรก | น. แผ่นกระดาษมีข้อความประกาศหรือโฆษณาเป็นต้นที่แทรกอยู่ในหนังสือพิมพ์. | ใบสัจ | น. เอกสารแสดงรายการสิ่งของที่ถูกปล้นเพื่อแจ้งแก่เจ้าหน้าที่, เอกสารบันทึกคำให้การของโจทก์และจำเลยซึ่งได้ความจริงทั้ง ๒ ฝ่ายแล้ว เช่น ถ้าแลส่งไปให้ปรับ ๆ มาว่าประการใดแล้วให้ยุกระบัตรพิจารณาดู ในใบสัจซึ่งปรับมาใส่ด้วยบทพระอายการ (สามดวง), บางทีเขียนเป็น ใบสัตย์ ก็มี เช่น หลวงญาณประกาศเทพราชธาดา พร้อมหน้านั่งฟังใบสัตย์อยู่ เชิญบทพระไอยการออกอ่านดู ผู้ปรับทั้งคู่อยู่พร้อมกัน (ขุนช้างขุนแผน). | ประกิต | ก. แจ้งความ, ประกาศ, แสดง. | ประโคมข่าว | ก. ป่าวประกาศให้ครึกโครม. | ประจาน | ก. ประกาศเปิดเผยความชั่วให้รู้ทั่วกันด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น พูดประจาน ตัดหัวเสียบประจาน พาตระเวนประจานทั่วเมือง. | ประชุม | ก. มารวมกันหรือเรียกให้มารวมกันเพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง, มาร่วมพบกันเพื่อปรึกษาหารือ, เช่น ประชุมกรรมการ, โดยปริยายใช้หมายถึงเอาสิ่งที่เป็นประเภทเดียวกันมารวมกัน เช่น ประชุมพงศาวดาร ประชุมปาฐกถา, บางทีใช้หมายความอย่างเดียวกับชุมนุม เช่น ประชุมพระบรมราชาธิบาย ประชุมประกาศรัชกาลที่ ๔. | ประตูชัย | น. ประตูที่มีลักษณะเป็นซุ้ม อาจสร้างเป็นการถาวรหรือชั่วคราว สำหรับผู้ชนะสงครามจะเดินลอดในพิธีเพื่อประกาศชัยชนะ. | ประมวลกฎหมาย | น. บทบัญญัติที่รวบรวมไว้อย่างเป็นระบบและได้รับการประกาศให้ใช้บังคับเป็นกฎหมาย เช่น ประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ | ปิด | ติด เช่น ปิดประกาศ ปิดทอง |
| posting | การประกาศ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | posting | การประกาศ [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | proclamation | ประกาศ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | proclamation | ประกาศ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | proclamation, royal | ประกาศพระบรมราชโองการ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | proclamation, Royal | ประกาศพระบรมราชโองการ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | public notice | ประกาศ, แจ้งความ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | poster | ใบปิดประกาศ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | post | ประกาศ [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | publication | ๑. การประกาศโฆษณา๒. สิ่งพิมพ์เผยแพร่ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | promulgation | การประกาศใช้กฎหมาย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | promulgation | ๑. การออกประกาศ (ก. แพ่ง)๒. การประกาศใช้กฎหมาย (ก. ปกครอง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | post | ประกาศ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | post | ๑. ปิดประกาศ๒. ไปรษณีย์๓. ตำแหน่ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | publication of banns | การประกาศชื่อผู้จะสมรส [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] | publicity | โฆษณาการ, การประกาศโฆษณา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | royal proclamation | ประกาศพระบรมราชโองการ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | Royal proclamation | ประกาศพระบรมราชโองการ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | service by publication | การส่งหมายหรือคำคู่ความโดยวิธีประกาศในหนังสือพิมพ์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | self-announcement | การประกาศตนเข้าแข่งขัน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | outlawry | การประกาศให้เป็นคนนอกกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | order-in-council | พระบรมราชโองการ (ที่ประกาศโดยคำแนะนำของคณะองคมนตรีของอังกฤษ) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | order-in-council | พระบรมราชโองการ (ที่ประกาศโดยคำแนะนำของคณะองคมนตรีของอังกฤษ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | acknowledgement | ๑. การตอบรับ๒. กิตติกรรมประกาศ [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | announcement service | การบริการประกาศ [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | bonus declaration | การประกาศเงินปันผล [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | banns of marriage | การประกาศว่าชายหญิงจะสมรสกัน (ก. อังกฤษ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | manifesto | คำแถลงอุดมการณ์, คำประกาศเจตนา [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | manifest | ๑. ประกาศเป็นทางการ (ก. ปกครอง)๒. คำแสดง (ก. ศุลกากร) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | manifesto | ๑. คำแถลงนโยบายทางการเมือง๒. คำประกาศต่อประชาชน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | manifesto | คำประกาศเจตนา [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | certificate | หนังสือสำคัญ, ใบรับรอง, ประกาศนียบัตร [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] | certificate | ๑. ประกาศนียบัตร๒. ใบสำคัญ (การจดทะเบียน) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | citation | ๑. หมายเรียกบุคคล (ของศาลหรือเจ้าพนักงาน) (ป. วิ. อาญา)๒. คำประกาศกิตติคุณ (ก. ปกครอง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | certificate | ๑. ใบรับรอง๒. ประกาศนียบัตร๓. หนังสือสำคัญ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | diploma | ประกาศนียบัตรชั้นสูง [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] | declaration | ๑. ปฏิญญา (ก. ปกครอง และ ก. ระหว่างประเทศ)๒. การประกาศ, การแสดง (ก. แพ่ง)๓. การสำแดง (ศุลกากร) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | declaration of bonus | การประกาศเงินปันผล มีความหมายเหมือนกับ bonus declaration [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | declaration of dividend | การประกาศจ่ายเงินปันผล [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | Declaration of Independence | คำประกาศอิสรภาพ (อเมริกัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | declaration of trust | การประกาศของบุคคลว่าตนยึดถือทรัพย์สินไว้เพื่อประโยชน์ของคนอื่น [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | declaration of war | การประกาศสงคราม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | declaration of war | การประกาศสงคราม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | declaration statement; declarative statement | ข้อความ(สั่ง)ประกาศ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | declarative language | ภาษาเชิงประกาศ [ มีความหมายเหมือนกับ nonprocedural language ] [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | declarative statement; declaration statement | ข้อความ(สั่ง)ประกาศ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | declare | ประกาศ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | declaration | การประกาศ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | declaration | ๑. คำประกาศ, ปฏิญญา๒. การประกาศ, การแสดง๓. การสำแดง (ศุลกากร) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | gazette | ประกาศทางราชการ, กิจจานุเบกษา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
| Acknowledgement | กิตติกรรมประกาศ [เทคโนโลยีการศึกษา] | Acknowledgement | กิตติกรรมประกาศ, ประกาศคุณูปการ, Example: คำที่ผู้เขียนกล่าวขอบคุณผู้ที่ให้ความช่วยเหลือในการเขียนหนังสือ บางครั้งอาจแห่ง อาจใช้เป็น กิตติกรรมประกาศ [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] | Academic decoration of honor | เครื่องหมายประกาศเกียรติคุณของสถาบันการศึกษา [TU Subject Heading] | Certification | ประกาศนียบัตร [TU Subject Heading] | Decorations of honor | เครื่องหมายประกาศเกียรติคุณ [TU Subject Heading] | Acknowledgement | ประกาศคุณูปการ [เทคโนโลยีการศึกษา] | Phrachetiyavisakhabujanusornsakonlokprakadborvornbujawanvisakha | พระเจดีย์วิสาขบูชานุสรณ์สกลโลกประกาศบวรบูชาวันวิสาขะ [TU Subject Heading] | Proclamation | ประกาศ [TU Subject Heading] | Radio announcing | การประกาศทางวิทยุ [TU Subject Heading] | Television announcing | การประกาศทางโทรทัศน์ [TU Subject Heading] | Television news anchors | ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ [TU Subject Heading] | Currency Revaluation | การประกาศเพิ่มค่าเงิน, Example: การประกาศเพิ่มค่าของเงินสกุลหนึ่ง เมื่อเทียบกับค่าเงินตราสกุลอื่นๆ การประกาศเพิ่มค่าเงิน มีความหมายในทางปฏิบัติเช่นเดียวกับการเพิ่มค่าของเงิน (ดู Currency Appreciation) แต่ส่วนที่แตกต่างกัน คือ กรณี "revaluation" จะใช้กับการเพิ่มค่าของเงินตราในระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ โดยการประกาศลดค่าอย่างเป็นทางการ ในขณะที่ "appreciation" ใช้กับการเพิ่มค่าของเงินในระบบอัตราแลกเปลี่ยนอื่นๆ [สิ่งแวดล้อม] | Devaluation, Currency | การประกาศลดค่าเงิน, Example: การประกาศลดค่าของเงินสกุลหนึ่งเมื่อเทียบกับ ค่าเงินตราสกุลอื่นๆ การประกาศลดค่าเงิน มีความหมายในทางปฏิบัติเช่นเดียวกับการลดค่าของเงิน (ดู Currency Depreciation) แต่ส่วนที่แตกต่างกันคือ กรณีของ "Devaluation" จะใช้กับการลดค่าของเงินตราใน ระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่คงที่โดยการประกาศลดลงอย่างเป็นทางการในขณะที่ "Depreciation" ใช้กับการลดค่าของเงินในระบบอัตราแลกเปลี่ยนอื่นๆ [สิ่งแวดล้อม] | Accelerating Economic Recovery in Asia | โครงการเร่งรัดการฟื้นฟูเศรษฐกิจในเอเชีย (สำหรับประเทศไทย) เป็นโครงการที่สหรัฐอเมริกาได้ประกาศในระหว่างการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 6 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2541 ที่จะให้ความช่วยเหลือประเทศในเอเชีย 3 ประเทศที่ประสบภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ คือ สาธารณรัฐเกาหลี อินโดนีเซีย และไทย [การทูต] | Agreement for the Application of the Bolivarian Alternative for the Peoples of our America and the People’s Trade Agreements | ความตกลงอัลบา เกิดขึ้นจากแนวความคิดของประธานาธิบดี Hugo Cha'vez แห่งเวเนซุเอลาหลังประกาศถอนตัวจากการเป็นสมาชิกประชาคมแอนเดียนเพื่อแสดง ความไม่พอใจที่โคลัมเบียและเปรูจัดทำความตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐฯ ข้อตกลง ALBA จึงเป็นทางเลือกในการจัดทำความตกลงทางการค้าตามแนวสังคมนิยมแทนการจัดทำเขต การค้าเสรีแห่งทวีปอเมริกา (FTAA) ปัจจุบันมีประเทศสมาชิก 3 ประเทศ ได้แก่ เวเนซุเอลา คิวบา และโบลิเวีย [การทูต] | Communiqué | คำประกาศทางการหรือแถลงการณ์ทางการ ซึ่งรายงานให้ทราบผลของการประชุม หรือการเจรจาเป็นทางการระหว่างเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ในรัฐบาล เช่น ประมุขของรัฐ หัวหน้ารัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เอกอัครราชทูต หรือบุคคลอื่นในระดับนั้น คำแถลงการณ์ที่เรียกว่า Communiqué นี้ไม่มีรูปแบบโดยเฉพาะแต่อย่างใด โดยปกติอะไรที่ได้ตกลงกันไว้ในการเจรจาจะบรรจุไว้ด้วยถ้อยคำกว้างๆ ส่วนอะไรที่มิได้ระบุไว้ในแถลงการณ์มักจะมีความสำคัญยิ่งกว่าถ้อยคำที่เขียน ไว้เสียด้วย [การทูต] | Consular office Declared ?Non grata? | เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลจะถูกประกาศว่าไม่พึงปรารถนา หรือไม่พึงโปรดได้ ดังข้อ 23 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติไว้ด้วยข้อความดังนี้?1. รัฐผู้รับอาจบอกกล่าวแก่รัฐผู้ส่งในเวลาใดก็ได้ว่าพนักงานฝ่ายกงสุลเป็น บุคคลที่ไม่พึงโปรด หรือบุคคลอื่นใดในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลเป็นที่ไม่พึงยอมรับได้ ในกรณีนั้นรัฐผู้ส่งจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นกลับ หรือเลิกการหน้าที่ของผู้นั้นต่อสถานที่ทำการทางกงสุล แล้วแต่กรณี2. ถ้ารัฐผู้ส่งปฏิเสธหรือไม่นำพาภายในเวลาอันสมควรที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีของ ตนตามวรรค 1 ของข้อนี้ รัฐผู้รับอาจเพิกถอนอนุมัติบัตรจากบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น หรือเลิกถือว่าบุคคลนั้นเป็นบุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลก็ได้ แล้วแต่กรณี3. รัฐผู้รับอาจประกาศว่า บุคคลหนึ่งบุคคลใดซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล เป็นผู้ที่ไม่อาจยอมรับได้ ก่อนที่บุคคลนั้นจะมาถึงอาณาเขตของรัฐผู้รับ หรืออยู่ในรัฐผู้รับแล้ว แต่ก่อนเข้ารับหน้าของตนต่อสถานที่ทำการทางกงสุลก็ได้ ในกรณีใด ๆ เช่นว่านั้น รัฐผู้ส่งจะเพิกถอนการแต่งตั้งบุคคลนั้น4. ในกรณีที่ได้บ่งไว้ในวรรค 1 และ 3 ของข้อนี้ รัฐผู้รับไม่มีพันธะที่จะต้องให้เหตุผลในการวินิจฉัยของตนแก่รัฐผู้ส่ง?การ ที่รัฐผู้รับปฏิเสธที่จะออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตรหลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วนั้น เป็นสิทธิของรัฐผู้รับอันจะถูกโต้แย้งมิได้ ประเด็นที่เป็นปัญหาก็คือ รัฐผู้รับมีพันธะที่จะต้องอธิบายเหตุผลอย่างใดหรือไม่ ในการที่ปฏิเสธไม่ยอมออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตร หลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วข้อนี้ น้ำหนักของผู้ทรงอำนาจหน้าที่ดูแลจะเห็นคล้อยตามทรรศนะที่ว่า รัฐผู้รับไม่จำเป็นต้องแสดงเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้นในการกระทำดังกล่าวเหตุผลของการไม่ยอมออกอนุมัติบัตรให้นั้นคือว่า ผู้ที่ไม่เห็นด้วย หรือไปแสดงสุนทรพจน์อันมีข้อความเป็นที่เสื่อมเสียแก่รัฐผู้รับ หรือเคยมีส่วนร่วมในการก่อการกบฏต่อรัฐผู้รับหรือเข้าไปแทรกแซงกิจการการ เมืองภายในของรัฐผู้รับ เป็นต้น [การทูต] | Declaration | คำประกาศ หรือ ปฏิญญา ตามความเห็นของผู้ทรงคุณความรู้ทางกฎหมายระหว่างประเทศ ส่วนมากได้ให้ความเห็นว่า คำนี้มีความหมายต่างกันอยู่สามประการ คือประการแรก ใช้เป็นชื่อเรียกข้อกำหนดต่าง ๆ ของสนธิสัญญา กล่าวคือ ตามสนธิสัญญานี้ ภาคีคู่สัญญารับที่จะปฏิบัติตามแนวทางบางประการในอนาคตประการที่สอง เป็นคำประกาศถ่ายเดียว (Unilateral Declaration) ซึ่งก่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่แก่รัฐอื่นๆ เช่น คำประกาศสงครามประการสุดท้าย หมายถึง การกระทำซึ่งรัฐหนึ่งหรือหลายรัฐได้ติดต่อแจ้งไปยังรัฐอื่น ๆ ซึ่งเป็นการอธิบายหรือให้เหตุผลสนับสนุนพฤติกรรมของฝ่ายตนในอดีต หรืออธิบายทรรศนะและเจตจำนงเกี่ยวกับเรื่องบางเรื่อง คำประกาศสำหรับความหมายสองประการหลังไม่ถือว่ามีลักษณะเป็นสนธิสัญญาอนึ่ง ในกรณีคำประกาศถ่ายเดียว (Unilateral Declaration) นั้น บางทีรัฐหนึ่งต้องการเสนอนโยบายหรือหนทางปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งของตน โดยประกาศนโยบายหรือหนทางปฏิบัตินั้นไปให้รัฐอื่นๆ ทราบกันไว้ อาทิเช่น ลัทธิมอนโร (Monroe Doctrine) ซึ่งสหรัฐอเมริกาได้ประกาศออกไปในรูปคำประกาศถ่ายเดียว เป็นต้น [การทูต] | Diplomatic Expressions | ถ้อยคำสำนวนที่ใช้ในวงการทูต กล่าวคือ ในวงการทูตจะมีการนิยมใช้ถ้อยคำสำนวนการทูต ถือกันว่าเป็นภาษาที่สุภาพ ซึ่งจะมีความหมายลึกซื้งเพียงใดนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะทราบกันดี อาทิเช่น?My Government views with concern หรือ with grave concern? จะแสดงถึงท่าทีที่ไม่เห็นด้วย หรือแสดงการประท้วง?My Government cannot remain indifferent to the matter? จะส่อถึงเจตนาที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปส่วนถ้อยคำสำนวนที่ว่า ?In such event my Government would feel bound to reconsider its position หรือ to consider its own interest??My Government will have to claim a free hand? หรือ ?feel obliged to formulate express reservations regarding?เหล่านี้เป็นถ้อยคำสำนวนที่เตือนให้ทราบว่า อาจเกิดการแตกร้าว หรือตัดขาดในพันธไมตรีที่มีต่อกันได้เมื่อรัฐบาลหนึ่งประกาศถือว่าการกระทำ ของอีกรัฐบาลหนึ่งเป็น ?an unfriendly act? หรือการกระทำที่ไม่เป็นมิตรเช่นนี้ ย่อมหมายถึงการเตือนให้ทราบว่า การกระทำเช่นนั้นอาจนำไปสู่สงครามได้ถ้าหากในตอนเสร็จสิ้นการประชุมกันมีการ แถลงการณ์หรือโฆษกของที่ประชุมแจ้งให้ทราบว่า ที่ประชุมได้ทำความตกลงกันโดยสมบูรณ์ (Full agreement) แต่ไม่มีการเปิดเผยให้ทราบว่ามีการตกลงอะไรกันบ้าง จะทำให้เป็นที่สงสัยกันว่าได้มีการตกลงกันโดยสมบูรณ์จริงละหรือ ถ้าหากคำประกาศนั้นใช้ถ้อยคำว่า มี ?substantial agreement? ก็พอจะอนุมานได้ว่าแท้ที่จริงยังมีเรื่องสำคัญ ๆ ที่ยังตกลงกันไม่ได้อีกบางเรื่อง อนึ่ง หากว่ามีการแถลงว่า ?there was a full exchange of views? ก็เท่ากับพูดว่า มิได้มีการตกลงกันแต่อย่างใดทั้งสิ้น [การทูต] | Drug-Free ASEAN | อาเซียนที่ปลอดจากยาเสพติด เป็นคำประกาศของอาเซียนในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยที่ 31 ที่กรุงมะนิลา เมื่อเดือนกรกฎาคม 2541 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยการตั้งเป้าหมาย ที่จะทำให้ภูมิภาคนี้ปลอดจากยาเสพติดในปี พ.ศ. 2563 และต่อมา ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยที่ 33 ที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2543 ได้ประกาศร่นกำหนดเวลาดังกล่าวให้เร็วขึ้น 5 ปี จากเดิมในปี พ.ศ. 2563 เป็นปี พ.ศ. 2558 [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Hugo Grotius (1583-1645) | บรมครูทางกฎหมายของเนเธอร์แลนด์ เป็นบุคคลแรกที่ได้ประกาศเสรีภาพของทะเล (Freedom of the Seas) ในตำราของท่านชื่อ Mare Liberumนักกฎหมาย รัฐบุรุษ และปรัชญาเมธีด้านมนุษยธรรมของเนเธอร์แลนด์ผู้นี้ ภายหลังเกิดมาได้ไม่กี่ปีก็ส่อให้เห็นว่าเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดอย่างน่า มหัศจรรย์ เขาเริ่มศึกษาวิชากฎหมายตั้งแต่มีอายุได้ 11 ขวบ ณ สถาบันศึกษาชั้นสูงแห่งเลย์เด็นในเนเธอร์แลนด์ และได้รับปริญญาเอกทางกฎหมายจากมหาวิทยาลัย ณ เมืองออร์ลีนส์ ในประเทศฝรั่งเศสเมื่อมีอายุได้เพียง 15 ปี โดยที่เป็นผู้ฝักใฝ่ในการเมือง เขาได้ถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1618 ด้วยข้อหาทางการเมือง แต่ต่อมาใน ค.ศ. 1621 ได้หลบหนีไปยังประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ 1625 เขาได้แต่งตำรากฎหมายซึ่งถือกันว่าเป็นตำราอมตะชื่อว่า Jure Belli ac Pacis (แปลว่า เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยสงครามและสันติภาพ) เป็นงานเขียนที่เหมาะกับสมัย และเขียนอย่างนักวิชาการอันเยี่ยมยอดที่สุดไม่มีใครเหมือนในสมัยนั้น และด้วยความรู้สึกที่รักความยุติธรรมอย่างแรงกล้าด้วยเหตุนี้ ทั่วโลกจึงขนานนาม Hugo Grotius ว่าเป็นบิดาแห่งกฎหมายระหว่างประเทศหรือกฎหมายนานาชาติ (Father of the Law of Nations) [การทูต] | International Court of Justice | ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1945 ตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ กฎข้อบังคับ (Statute) ของศาลโลกนั้นได้ผนวกอยู่ท้ายกฎบัตรของสหประชาชาติ และถือเป็นส่วนสำคัญอย่างแยกจากกันมิได้ของกฎบัตร ศาลนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นองค์กรแห่งศาลหรือแห่งตุลาการสำคัญที่สุดขององค์การสหประชาชาติ ประเทศใดที่เข้าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลก ย่อมมีสิทธิที่จะส่งคดีใดก็ตามไปให้ศาลโลกพิจารณาได้ ภายใต้เงื่อนไขที่คณะมนตรีความมั่นคงได้จัดวางไว้ นอกจากนั้น คณะมนตรีความมั่นคงก็อาจจะส่งกรณีพิพาททางกฎหมายไปให้ศาลพิจารณาได้ทั้ง สมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงสามารถขอคำปรึกษาหรือความเห็นจากศาลเกี่ยวกับ ปัญหาข้อกฎหมายใดๆ และองค์กรอื่น ๆ ของสหประชาชาติ อันรวมถึงองค์การชำนัญพิเศษ ก็สามารถขอคำปรึกษา หรือความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางกฎหมายใดๆ ที่อยู่ภายในกรอบของงานที่ปฏิบัติอยู่ แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับอนุมัติเห็นชอบจากสมัชชาสหประชาชาติก่อน สมัชชาเคยมอบอำนาจเช่นนี้แก่คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะมนตรีภาวะทรัสตี คณะกรรมาธิการระหว่างกาล (Interim Committee) ของสมัชชา รวมทั้งองค์กรระหว่างรัฐบาลบางแห่งด้วยรัฐทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของสหประชา ชาติถือว่าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกไปในตัว ส่วนประเทศใดที่มิใช่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็อาจเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกได้ ตามเงื่อนไขที่สมัชชาสหประชาชาติเป็นผู้กำหนดเป็นราย ๆ ไป ตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง ศาลโลกมีอำนาจที่จะพิจารณาปัญหาทั้งหลายที่รัฐสมาชิกขอให้พิจารณา รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ทั้งหลายที่ระบุอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ และตามสนธิสัญญาหรืออนุสัญญาที่ใช้บังคับอยู่ รัฐสมาชิกย่อมยอมผูกพันตนล่วงหน้าได้ที่จะยอมรับอำนาจศาลในกรณีพิเศษต่าง ๆ โดยจะต้องลงนามในสนธิสัญญา หรืออนุสัญญาซึ่งยอมให้ส่งเรื่องไปที่ศาลได้ หรือออกประกาศเป็นพิเศษว่าจะปฏิบัติเช่นนั้น ในคำประกาศเช่นนั้นจะต้องระบุว่ายอมรับอำนาจบังคับของศาลโลก และอาจจะยกเว้นคดีบางประเภทมิให้อยู่ในอำนาจของศาลได้ ในการวินิจฉัยลงมติ ศาลโลกจะอาศัยแหล่งที่มาของกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้ คือ- สัญญาหรืออนุสัญญาระห่างประเทศซึ่งวางกฎข้อบังคับที่รัฐคู่กรณียอมรับ- ขนบธรรมเนียมระหว่างประเทศซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปตามที่ กฎหมายรับรองศาลโลกอาจจะตัดสินชี้ขาดว่าสิ่งใดยุติธรรมและดี โดยรัฐภาคีที่เกี่ยวข้องตกลงเห็นชอบด้วยคณะมนตรีความมั่นคงอาจจะรับการขอ ร้องจากรัฐภาคีหนึ่งใดในกรณีพิพาท ให้กำหนดมาตรการที่จะใช้เพื่อให้คำตัดสินของศาลมีผลบังคับ ถ้าคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใต้อำนาจศาลศาลโลก ประกอบด้วยผู้พิพากษารวม 15 ท่าน ซึ่งถือกันว่าเป็น ?สมาชิก? ของศาล และได้รับเลือกตั้งจากสมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ผู้พิพากษาเหล่านี้จะมีอำนาจออกเสียงลงคะแนนอย่างอิสระเสรีหลักเกณฑ์การคัด เลือกผู้พิพากษาศาลโลกจะถือตามคุณสมบัติขอผู้พิพากษานั้น ๆ มิใช่ถือตามสัญชาติของบุคคลดังกล่าว อย่างไรก็ดี จะมีการระมัดระวังด้วยว่า กฎหมายที่นำมาใช้ในศาลจะต้องมาจากระบบกฎหมายที่สำคัญ ๆ ของโลก ในศาลโลกจะมีผู้พิพากษาที่เป็นชาติเดียวกันมากกว่าหนึ่งคนไม่ได้ ผู้พิพากษาทั้งหลายจะมีสิทธิ์ดำรงอยู่ในตำแหน่งได้ เป็นเวลา 9 ปี มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งซ้ำได้ และระหว่างที่ดำรงอยู่ในตำแหน่ง จะต้องไม่ประกอบอาชีพการงานอื่นใดทั้งสิ้น [การทูต] | Joint Declaration for a Socially Cohesive and Caring ASEAN | ปฏิญญาร่วมว่าด้วยสังคมที่เป็นปึกแผ่นและเอื้ออาทรในอาเซียน เป็นคำประกาศของอาเซียนซึ่งมีการลงนามที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2543 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะให้มีการดำเนินโครงการด้านโครงข่ายรองรับทาง สังคมในภูมิภาคนี้ร่วมกันอย่างจริงจัง ในอันที่จะเป็นการนำอาเซียนไปสู่การเป็นสังคมที่มีความเป็นปึกแผ่นและเอื้อ อาทรตามวิสัยทัศน์อาเซียนปี พ.ศ. 2563 [การทูต] | moratorium | ประกาศพัก/ระงับชั่วคราว [การทูต] | National Holiday | วันชาติ คือสถานเอกอัครราชทูตทีมีอยู่ทั่วโลก จะนิยมฉลองวันชาติของประเทศของตน ส่วนมากจะถือเอาวันครบรอบปีแห่งการประกาศเอกราช หรือวันครบรอบปีของเหตุการณ์ที่ทรงความสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ของ ประเทศตนเป็นวันชาติ ส่วนในประเทศที่มีระบอบกษัตริย์ ก็จะยึดเอาวันพระราชสมภพชองกษัตริย์หรือราชินีเป็นวันชาติของประเทศ ในวันชาติ สถานเอกอัครราชทูตจะมีธรรมเนียมจัดงานเลี้ยงรับรอง (Reception) ขึ้นในสถานเอกอัครราชทูตของตนหรือหากเป็นการไม่สะดวกที่จัดงานดังกล่าวขึ้น ในสถานทูต ก็มักไปจัดกัน ณ โรงแรมที่เหมาะสม ในงานเลี้ยงรับรองนี้จะเชิญข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงการต่างประทเศ หัวหน้าคณะทูตข้าราชการในสถานเอกอัครราชทูตอื่น ๆ นักหนังสือพิมพ์ เจ้าหน้าที่สื่อมวลชน บุคคลชั้นนำด้านธุรกิจและอุตสาหกรรม บรรดาคนชาติเดียวกับเอกอัครราชทูตที่กำลังอาศัยอยู่ในประเทศนั้น ตลอดจนบุคคลสำคัญในสังคม รวมทั้งมิตรสหายของสถานเอกอัครราชทูต และบุคคลอื่น ๆ ที่สมควรเชิญ [การทูต] | Neutralization, Neutrality หรือ Neutralism | คำว่า Neutraliza-tion หมายถึง กระบวนการซึ่งรัฐได้รับการค้ำประกันความเป็นเอกราชและบูรณภาพอย่างถาวรภาย ใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ รัฐที่ได้รับการประกันรับรองให้เป็นกลาง (Neutralized State) เช่นนี้จะผูกมัดตนว่า จะละเว้นจาการใช้อาวุธโจมตีไม่ว่าประเทศใดทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าจะถูกโจมตีก่อน ตัวอย่างอันเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความ เป็นกลางอย่างถาวร คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามปฏิญญา (Declaration) ซึ่งมีการลงนามกัน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1815 ประเทศใหญ่ ๆ ในสมัยนั้น คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษ ปรัสเซีย และรัสเซีย ได้รับรองว่า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม จึงเป็นการจำเป็นที่จะให้รัฐเฮลเวติก(Helvetic Swiss States) ได้รับการประกันความเป็นกลางตลอดไป ทั้งยังประกาศด้วยว่า รัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์ตกลงรับปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้ระบุไว้เมื่อไร ความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์ก็จะได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางในทันที และแล้วสมาพันธ์สวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประกาศยอมรับปฏิบัติตาม หรือให้ภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1815 บรรดาประเทศที่รับรองค้ำประกันความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์จึงประกาศ รับรองดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1815 อนึ่ง การค้ำประกันความเป็นกลางในลักษณะที่ครอบคลุมทั้งประเทศของรัฐใดรัฐหนึ่ง นั้น มีความแตกต่างกับการค้ำประกันเพียงดินแดนส่วนใดส่วนหนึ่งของรัฐหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าดินแดนส่วนหนึ่งของรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางจะ ไม่ยอมให้ฝ่ายใดใช้ดินแดนส่วนที่ค้ำประกันนั้นเป็นเวทีสงครามเป็นอันขาด การค้ำประกันความเป็นกลางยังมีอีกแบบหนึ่งคือ รัฐหนึ่งจะประกาศตนแต่ฝ่ายเดียวว่าจะรักษาความเป็นกลางของตนตลอดไปโดยถาวร แต่ในกรณีเช่นนี้ ความเป็นเอกราชและบูรณภาพของรัฐที่ประกาศตนเป็นกลางเพียงฝ่ายเดียว จะไม่ได้รับการค้ำประกันร่วมกันจากรัฐอื่น ๆ แต่อย่างใดส่วนคติหรือลัทธิความเป็นกลาง (Neutralism) เป็นศัพท์ที่หมายถึงสถานภาพของรัฐต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการน้ำประเทศของตนเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสงครามเย็น ( Cold War) ที่กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ระหว่างกลุ่มประเทศภาคตะวันออกกับกลุ่มประเทศภาค ตะวันตก นอกจากนี้ ผู้นำบางคนในกลุ่มของรัฐที่เป็นกลาง ไม่เห็นด้วยกีบการที่ใช้คำว่า ?Neutralism? เขาเหล่านี้เห็นว่าควรจะใช้คำว่า ?ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด? ( Uncommitted ) มากกว่าจะเห็นได้ว่า คำว่า ?ความเป็นกลาง? ( Neutrality ) นั้น หมายถึงความเป็นกลางโดยถาวร ซึ่งได้รับการค้ำประกันจากกลุ่มประเทศกลุ่มหนึ่ง เช่นในกรณีประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้หรือหมายถึงความเป็นกลางเฉพาะในดินแดน ส่วนหนึ่งของรัฐที่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปทำสงครามกันในดินแดนที่เป็นกลางส่วน นั้นเป็นอันขาดก็ได้ ดังนั้น พอจะเห็นได้ว่า แก่นแท้ในความหมายของความเป็นกลาง ( Neutrality) จึงอยู่ที่ท่าที หรือ ทัศนคติของประเทศที่ดำรงตนเป็นกลาง ไม่ต้องการเข้าข้างประเทศคู่สงครามใด ๆ ในสงคราม ในสมัยก่อนผู้คนยังไม่รู้จักความคิดเรื่องความเป็นกลางดังที่รู้จักเข้าใจ กันในปัจจุบัน ความเป็นกลางเป็นผลมาจากการทยอยวางหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของความเป็นกลาง นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน [การทูต] | Open Diplomacy | คือการทูตแบบเปิดเผย อดีตประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน แห่งสหรัฐอเมริกา เป็นบุคคลที่สนับสนุนและเผยแพร่วิธีการทูตแบบเปิดเผยอย่างเต็มที่ หวังจะให้ชุมชนนานาชาติพร้อมใจกันสนับสนุนการทูตนี้เช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1918 วูดโรว์ วิลสัน ได้ประกาศให้โลกทราบนโยบายของท่าน 14 ข้อ ข้อหนึ่งในจำนวนนั้นท่านปรารถนาว่า ในอนาคตประเทศต่าง ๆ ควรจะทำความตกลงกันเกี่ยวกับเรื่องสันติภาพอย่างเปิดเผย และต่อไปไม่ควรจะมีการเจรจาทำความตกลงระหว่างประเทศแบบลับเฉพาะอย่างใดทั้ง สิ้นแม้ว่าโดยทั่วไปจะเห็นพ้องด้วยกับนโยบายข้อแรกของ วูดโรว์ วิลสัน คือ ความตกลงหรือสนธิสัญญาใด ๆ เมื่อตกลงเสร็จสิ้นแล้ว ให้ประกาศเปิดเผยให้โลกทราบ แต่สำหรับข้องสองคือการเจรจาในระหว่างทำสนธิสัญญาให้กระทำกันอย่างเปิดเผย นั้น ส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะเห็นว่าลำพังการเจรจานั้น โดยสารัตถะสำคัญแล้วควรจะถือเป็นความลับไว้ก่อนจนกว่าจะเสร็จการเจรจา ทั้งนี้ เซอร์เดวิด เคลลี่ อดีตนักการทูตอังกฤษเคยให้ทรรศนะว่า การทูตแบบเปิดเผยนั้นเป็นถ้อยคำที่ขัดกันในตัว คือหากกระทำกันอย่างเปิดเผยเสียแล้วก็ไม่ใช่การทูตเกี่ยวกับเรื่องนี้ มาตรา 102 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติว่า ?1. สนธิสัญญาทุกฉบับ และความตกลงระหว่างประเทศทุกฉบับ ซึ่งสมาชิกใด ๆ แห่งสหประชาชาติได้เข้าเป็นภาคี ภายหลังที่กฎบัตรปัจจุบันได้ใช้บังคับ จักต้องจดทะเบียนไว้กับสำนักเลขาธิการโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจักได้พิมพ์ขึ้นโดยสำนักงานนี้ 2. ภาคีแห่งสนธิสัญญา หรือความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่าใด ซึ่งมิได้จดทะเบียนไว้ตามบทบัญญัติในวรรคหนึ่งข้อนี้ ไม่อาจยกเอาสนธิสัญญาหรือความตกลงนั้น ๆ ขึ้นกล่าวอ้างต่อองค์กรใด ๆ ของสหประชาชาติ? [การทูต] | Pacific Charter | คือกฎบัตรแปซิฟิค ซึ่งประกาศ ณ กรุงมะนิลา เมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1954 ในโอกาสที่มีการตกลงกันทำสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( Southeast Asia Defense Treaty-SEATO ) ประเทศที่ลงนามเป็นภาคีในสนธิสัญญา คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ไทย อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาสาระสำคัญในสนธิสัญญาดังกล่าว หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า SEATO (ซีโต้) นั้นคือ ทุกประเทศภาคีจะร่วมมือกันในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมให้พลเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมาตรฐานการครอง ชีพสูงขึ้น มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และมีสวัสดิภาพสังคมที่ดี แต่จุดมุ่งหมายที่สำคัญที่สุดคามสนธิสัญญาคือ บรรดาประเทศภาคีตกลงที่จะป้องกันหรือตอบโต้ความพยายามใด ๆ ที่จะล้มล้างเสรีภาพที่มีอยู่ในเขตสนธิสัญญา หรือทำลายอธิปไตยหรือบูรณภาพแห่งเขตแดนของประเทศภาคี พูดอย่างสั้น ๆ ก็คือฝ่ายโลกเสรีอันมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ ต้องการกีดกันมิให้ประเทศฝ่ายคอมมิวนิสต์เข้าไปมีอำนาจครอบงำดินแดนเขต เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระหว่างสงครามเย็น (Cold War ) โดยวิธีรุกรานหรือวิธีอื่นใดก็ตาม [การทูต] | Persona non grata | เป็นศัพท์ที่ใช้กับนักการทูตหรือผู้แทนทางการทูต ที่ประจำอยู่ในประเทศซึ่งรัฐบาลของประเทศนั้นไม่ปรารถนาให้อยู่ต่อไปอีกแล้ว หลังจากที่ได้ไปประจำทำงานในตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้น หรือก่อนหน้าที่นักการทูตผู้นั้นจะเดินทางไปถึงดินแดนของประเทศผู้รับ (Receiving State) นักการทูตที่ถูกประกาศเป็น persona non grata หรือ บุคคลที่ไม่พึงปรารถนานั้น เป็นเพราะสาเหตุดังต่อไปนี้ คือ กล่าวคำดูหมิ่นรัฐบาลของประเทศที่ตนไปประจำอยู่ ละเมิดกฎหมายของบ้านเมืองนั้น แทรกแซงในการเมืองภายในของเขา เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในประเทศของเขา ใช้ถ้อยคำก้าวร้าวต่อประเทศนั้น วิพากษ์ประมุขแห่งประเทศของเขากระทำการอันเป็นที่เสียหายต่อประโยชน์หรือต่อ ความมั่นคงของประเทศ และกระทำการอื่น ๆ ในทำนองนั้นตามปกติรัฐบาลของประเทศเจ้าภาพที่เป็นฝ่ายเสียหายจะขอร้องให้ รัฐบาลผู้ส่ง (Sending government) เรียกตัวนักการทูตผู้กระทำผิดกลับประเทศ ซึ่งตามปกติรัฐบาลผู้ส่งมักจะปฏิบัติตาม รัฐบาลของประเทศผู้เสียหายจะแจ้งให้นักการทูตผู้นั้นทราบว่า รัฐบาลจะไม่ทำการติดต่อเกี่ยวข้องเป็นทางการกับเขาอีกต่อไป หรืออาจจะบอกให้นักการทูตผู้นั้นออกไปจากประเทศโดยไม่เกรงใจแต่อย่างใดก็ได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในข้อ 9 ดังต่อไปนี้ ?1. รัฐผู้รับอาจบอกกล่าวแก่รัฐผู้ส่งในเวลาใดก็ได้ และโดยมิต้องชี้แจงถึงการวินิจฉัยของตนว่า หัวหน้าคณะผู้แทนหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ไม่พึงโปรด หรือว่าบุคคลอื่นใดในคณะเจ้าหน้าที่ของคณะผู้แทนเป็นที่ไม่พึงยอมรับได้ ในกรณีใดเช่นว่านี้ ให้รัฐผู้ส่งเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นกลับ หรือเลิกการหน้าที่ของผู้นั้นกับคณะผู้แทนเสียก็ได้ตามที่เหมาะสมบุคคลอาจจะ ถูกประกาศให้เป็นผู้ไม่พึงโปรด หรือไม่พึงยอกรับได้ก่อนที่จะมาถึงอาณาเขตของรัฐผู้รับก็ได้ 2. ถ้ารัฐผู้ส่งปฏิเสธ หรือไม่นำพาภายในระยะเวลาอันสมควร ที่จะปฏิบัติตามข้อผูกพันของคนภายใต้วรรค 1 ของข้อนี้ รัฐผู้รับสามารถปฏิเสธที่จะยอมรับนับถือบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นว่าเป็นบุคคล ในคณะผู้แทนก็ได้? [การทูต] | Potsdam Proclamation | คือคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดม ออกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 โดยหัวหน้าคณะรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และจีน ลงนามโดยประธานาธิบดีของรัฐบาลจีนคณะชาติ เป็นคำประกาศเมื่อตอนใกล้จะเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง โดยฝ่ายสัมพันธมิตรดังกล่าวกำลังทำสงครามขับเคี่ยวอยู่กับฝ่ายญี่ปุ่น พึงสังเกตว่า สหภาพโซเวียต ในตอนนั้นมิได้มีส่วนร่วมในการออกคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดมแต่อย่างใดโดยแท้จริงแล้ว คำประกาศนี้เท่ากับเป็นการยื่นคำขาดให้ฝ่ายญี่ปุ่นตัดสินใจเลือกเอาว่าจะทำ การสู้รบต่อไป หรือจะยอมจำนนเพื่อยุติสงคราม คำประกาศได้เตือนอย่างหนักแน่นว่า หากญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะสู้รบต่อไป แสนยานุภาพอันมหาศาลของสัมพันธมิตรก็จะมุ่งหน้าโจมตีบดขยี้กองทัพและประเทศ ญี่ปุ่นให้แหลกลาญ แต่หากว่าญี่ปุ่นยอมโดยคำนึงถึงเหตุผล ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้ตั้งเงื่อนไขไว้หลายข้อ สรุปแล้วก็คือ ลัทธิถืออำนาจทหารเป็นใหญ่จะต้องถูกกำจัดให้สูญสิ้นไปจากโลกอำนาจและอิทธิพล ของบรรดาผู้ที่ชักนำให้พลเมืองญี่ปุ่นหลงผิด โดยกระโจนเข้าสู่สงครามเพื่อครองโลกนั้น จะต้องถูกทำลายให้สิ้นซาก รวมทั้งพลังอำนาจในการก่อสงครามของญี่ปุ่นด้วยจุดต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด จะต้องถูกยึดครองไว้จนกระทั่งได้ปฏิบัติตามจุดมุ่งหมายของสัมพันธมิตรเป็นผล สำเร็จแล้ว อำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่นให้จำกัดอยู่เฉพาะภายในเกาะฮอนซู ฮ็อกไกโด กิวชู ชิโกกุ และเกาะเล็กน้อยอื่น ๆ ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด อาชญากรสงครามทุกคนจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาล รวมทั้งที่ทำทารุณโหดร้ายต่อเชลยศึกของสัมพันธมิตร รัฐบาลญี่ปุ่นจะต้องกำจัดสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อการรื้อฟื้น และเสริมสร้างความเชื่อถือในหลักประชาธิปไตยในระหว่างพลเมืองญี่ปุ่น และจัดให้มีเสรีภาพในการพูด การนับถือศาสนา และในการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการด้านอุตสาหกรรมที่จะเกื้อกูลต่อภาวะ เศรษฐกิจของประเทศ และความสามารถที่จะชำระค่าปฏิกรรมสงคราม แต่จะไม่ยอมให้คงไว้ซึ่งกิจการอุตสาหกรรมชนิดที่จะช่วยให้ญี่ปุ่นสร้างสม อาวุธเพื่อทำสงครามขึ้นมาอีก ในทีสุด กำลังทหารสัมพันธมิตรจะถอนตัวออกจากประเทศญี่ปุ่นในทันทีที่จุดประสงค์ต่าง ๆ ได้บรรลุผลเรียบร้อยแล้ว ในตอนท้ายของเงื่อนไข สัมพันธมิตรได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข เสียโดยไว [การทูต] | Unfriendly Act | การกระทำที่ไม่เป็นมิตร กล่าวคือ เมื่อรัฐหนึ่งประกาศว่า จะถือว่าการปฏิบัติบางอย่างของอีกประเทศหนึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตร นั่นหมายความว่า เป็นการเตือนว่าการกระทำเช่นนั้นอาจนำไปสู่สงครามได้ [การทูต] | Work of the United Nations for the Independence of Colonial Peoples | งานขององค์การสหประชาชาติ ในการช่วยให้ชาติอาณานิคมทั้งหลายได้รับความเป็นเอกราช นับตั้งแต่เริ่มตั้งองค์การสหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ.1945 เป็นต้นมา มีชนชาติของดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเอง รวมทั้งดินแดนในภาวะทรัสตีตามส่วนต่าง ๆ ของโลก ได้รับความเป็นเอกราชไปแล้วไม่น้อยกว่า 170 ล้านคน ดินแดนที่แต่ก่อนยังไม่มีฐานะปกครองตนเองราว 50 แห่งได้กลายฐานะเป็นรัฐเอกราช มีอธิปไตยไปแล้ว ขณะนี้ยังเหลือดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเองอีกไม่มาก กำลังจะได้รับฐานะเป็นประเทศเอกราชต่อไปแม้ว่าปัจจัยสำคัญที่สุดซึ่งทำให้ เกิดวิวัฒนาการอันมีความสำคคัญทางประวัติศาสตร์ จะได้แก่ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของประชาชนในดินแดนเมืองขึ้นทั้งหลาย แต่องค์การสหประชาชาติก็ได้แสดงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนชนชาติ ที่ยังมิได้เป็นเอกราช และชาติที่ยังปกครองดินแดนเหล่านั้นอยู่ ให้รีบเร่งที่จะให้ชาชาติในดินแดนเหล่านั้นได้รับฐานะเป็นเอกราชโดยเร็วที่ สุดเท่าที่จะเป็นไปได้การที่องค์การสหประชาชาติมีบทบาทหน้าที่ดังกล่าวเพราะ ถือตามหลักแห่งความเชื่อศรัทธาที่ว่า มนุษย์ไม่ว่าชายหรือหญิง และชาติทั้งหลายไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกัน และได้ยืนยันความตั้งใจอันแน่วแน่ของประเทศสมาชิกที่จะใช้กลไกระหว่างประเทศ ส่งเสริมให้ชนชาติทั้งหลายในโลกได้ประสบความก้าวหน้าทั้งในทางเศรษฐกิจและ สังคมนอกจากนั้น เพื่อเร่งรัดให้ชนชาติที่ยังอยูใต้การปกครองแบบอาณานิคมได้ก้าวหน้าไปสู่ เอกราช สมัชชาของสหประชาชาติ (General Assembly of the United Nations) ก็ได้ออกปฏิญญา (Declaration) เกี่ยวกับการให้ความเป็นเอกราชแก่ประเทศและชนชาติอาณานิคม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 ซึ่งในปฏิญญานั้น ได้ประกาศยืนยันความจำเป็นที่จะให้ลัทธิอาณานิคมไม่ว่าในรูปใด สิ้นสุดลงโดยเร็วและปราศจากเงื่อนไขใด ๆ สมัชชายังได้ประกาศด้วยว่า การที่บังคับชนชาติอื่นให้ตกอยู่ใต้อำนาจการปกครอง แล้วเรียกร้องประโยชน์จากชนชาติเหล่านั้น ถือว่าเป็นการปฏิเสธไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชนขั้นมูลฐาน เป็นการขัดกับกฎบัตรของสหประชาชาติ เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือของโลกสมัชชาสหประชาชาติ ยังได้ประกาศต่อไปว่า จะต้องมีการดำเนินการโดยด่วนที่สุด โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อสงวนใด ๆ ตามเจตนารมณ์ ซึ่งแสดงออกอย่างเสรี โดยไม่จำกัดความแตกต่างในเรื่องเชื้อชาติ หลักความเชื่อถือ หรือผิว เพื่อให้ดินแดนทั้งหลายที่ยังไม่ได้มีการปกครองของตนเองเหล่านั้นได้รับความ เป็นเอกราชและอิสรภาพโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1961 สมัชชาสหประชาชาติก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อตรวจดูและให้มีการปฏิบัติให้เป็นตามคำปฏิญญาของสหประชาชาติ และถึงสิ้นปี ค.ศ. 1962 คณะกรรมการดังกล่าวได้ประชุมกันหลายต่อหลายครั้งทั้งในและนอกสำนักงานใหญ่ ขององค์การสหประชาชาติ แล้วรวบรวมเรื่องราวหลักฐานจากบรรดาตัวแทนของพรรคการเมืองทั้งหลาย จากดินแดนที่ยังไม่ได้รับการปกครองตนเอง แล้วคณะกรรมการได้ตั้งข้อเสนอแนะต่าง ๆ โดยมุ่งจะเร่งรัดให้การปกครองอาณานิคมสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ [การทูต] | Work of the United Nations on Human Rights | งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต] | wetlands | พื้นที่ชุ่มน้ำ หมายถึง พื้นที่ลุ่ม พื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่ลุ่มชื้นแฉะ พื้นที่ฉ่ำน้ำ มีน้ำท่วม มีน้ำขัง พื้นที่พรุ พื้นที่แหล่งน้ำ ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยอาจเป็นแหล่งน้ำนิ่งและน้ำไหล ทั้งที่เป็นน้ำจืด น้ำกร่อยและน้ำเค็ม รวมไปถึงพื้นที่ชายทะเล และพื้นที่ของทะเล ในบริเวณซึ่งเมื่อน้ำลดลงต่ำสุดมีความลึกของระดับน้ำไม่เกิน 6 เมตร ซึ่งภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ ประเทศต่าง ๆ สามารถที่จะกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญ ระหว่างประเทศ เช่น ประเทศไทยได้ประกาศให้บริเวณเขตพรุควนขี้เสียน และบริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ นอกจากนี้ พื้นที่ชุ่มน้ำบางแห่งอาจอยู่ตามพรมแดนระหว่างประเทศด้วย [การทูต] | เชื้อเพลิง | เชื้อเพลิง, หมายความรวมถึง ถ่านหิน หินน้ำมัน ทรายน้ำมัน น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซเชื้อเพลิง เชื้อเพลิงสังเคราะห์ ฟืน ไม้ แกลบ กากอ้อย ขยะและสิ่งอื่น ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา [พลังงาน] | ไอน้ำมันเชื้อเพลิง | ไอน้ำมันเชื้อเพลิง, ไอน้ำมันเบนซิน และให้หมายความรวมถึง ไอของน้ำมันเชื้อเพลิงอื่นที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด [พลังงาน] | น้ำมันเชื้อเพลิง | น้ำมันเชื้อเพลิง, ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ำมันเบนซิน น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันหล่อลื่นและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่นที่ใช้หรืออาจใช้เป็นเชื้อเพลิงหรือเป็นสิ่งหล่อลื่น ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ หรือสิ่งอื่นที่ใช้หรืออาจใช้เป็นวัตถุดิบในการกลั่นหรือผลิตเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวข้างต้น และให้หมายความรวมถึงสิ่งอื่นที่ใช้หรืออาจใช้เป็นเชื้อเพลิงหรือเป็นสิ่งหล่อลื่นตามที่รัฐมนตรีกำหนดให้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา [พลังงาน] | Declared dividend | เงินปันผลที่ประกาศจ่าย [การบัญชี] | Acknowledgement | กิติกรรมประกาศ [การแพทย์] | Certification | ประกาศนียบัตร, การสอบเพื่อตัดสินผล [การแพทย์] | Declaration on Population | คำประกาศว่าด้วยประชากร [การแพทย์] | Bulletin board | กระดานข่าว, กระดานข่าว, บอร์ดประกาศ, Example: Bulletin board หมายถึง กระดานข่าว กระดานข่าวมีไว้สำหรับติดประกาศข้อความต่าง ๆ เช่น เพื่อโฆษณารายการที่ต้องการหรือเพื่อประกาศหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ กระดานข่าวมักจะทำจากวัสดุเช่นไม้ก๊อกเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดประกาศข้อความเพิ่มเติมหรือเอาข้อความออกได้ง่าย ในปัจจุบันใช้กระดานข่าวแม่เหล็กแทนกระดานไม้ก๊อกกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากไม่ต้องมีปัญหาเสื่อมสภาพจากการปักหมุดและการถอนหมุดตลอดเวลา ในห้องสมุดมักจะติดกระดานข่าวไว้กับผนังใกล้ประตูทางเข้าห้องสมุดเพื่อใช้แสดงประกาศเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กำลังจะมาถึง บนกระดานข่าวบางครั้งจะจัดแสดงใบหุ้มปกของหนังสือใหม่ หรือรายการหนังสือใหม่ของห้องสมุด บทวิจารณ์และข้อเสนอแนะจากผู้ใช้ห้องสมุด บางครั้งเป็นคำตอบจากผู้บริหารห้องสมุด และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของห้องสมุด กระดานข่าวอาจทำเป็นตู้ปิดล็อคหรือเปิดโล่งก็ได้ กระดานข่าวเป็นวิธีที่ง่ายและให้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มสีสันการประดับตกแต่งในห้องสมุด ทำให้ผนังของห้องสมุดสว่างขึ้นและให้ความรู้กับผู้ใช้เกี่ยวกับทรัพยากรห้องสมุด บรรณารักษ์สามารถใช้กระดานข่าวเพื่อดึงดูดใจลูกค้าห้องสมุดให้อ่านได้ตลอดทั้งปี [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] |
| The whole kingdom has turned out for father's announcement! | ทั้งอาณาจักร กำลังตื่นตากับการประกาศของเสด็จพ่อ ไม่นะ จัสมิน Aladdin (1992) | Let's go home. We'll have to make an announcement. | กลับบ้านเถอะ ประกาศออกไป The Bodyguard (1992) | Fine, Bill, you make it! | เอาเลยบิลล์ คุณประกาศสิ The Bodyguard (1992) | Rachel, if you want to be in your seat for Best Actress, you have to go now. | โทษทีนะ ถ้าคุณจะไปประกาศ ดีเด่นฝ่ายหญิง ก็รีบไปได้แล้ว The Bodyguard (1992) | I think it's time the guards came into the factory. Japan, with all her treachery and greed-- | มีประกาศเยอรมันยอมแพ้แล้ว... Schindler's List (1993) | [ Ring Announcer ] ln the heavyweight division, | [ แหวนประกาศ ] ln ส่วนรุ่นที่ Pulp Fiction (1994) | [ Announcer ] It's official. It's official. | [ ประกาศ ] มันอย่างเป็นทางการ มันเป็นอย่างเป็นทางการ Pulp Fiction (1994) | - [ Announcer #2 ] Well, Dan, that had to be the bloodiest, hands down, the most brutal fight this city's ever seen. | - [ ประกาศ # 2 ] ดีแดนที่จะต้องชุ่ม, มือลง, การต่อสู้ที่โหดร้ายมากที่สุดของเมืองนี้ที่เคยเห็น Pulp Fiction (1994) | [ Radio Announcer ] Visit the Jackrabbit Slim's nearest you... | [ วิทยุประกาศ ] เยี่ยมชม Jackrabbit บางของใกล้บ้านท่าน ... Pulp Fiction (1994) | [ Radio Announcer ] i EI burro! | [ วิทยุประกาศ ] ไอ EI ลา! Pulp Fiction (1994) | ...in Oran, where a curfew is now in effect. | ...เมืองออรานซึ่งประกาศเคอร์ฟิว ตอนนี้ได้รับผลกระทบ Wild Reeds (1994) | I even got a certificate in Biarritz, when I was a kid. | ฉันได้ประกาศนียบัตร ที่เบียร์ริชซ์ตอนเด็กด้วย Wild Reeds (1994) | I also built that library and used it to help a dozen guys get a high school diploma. | ฉันยังสร้างห้องสมุดที่ และใช้มันเพื่อช่วยให้พวกโหลได้รับประกาศนียบัตรจากโรงเรียนสูง The Shawshank Redemption (1994) | Don Alfonso was humiliated that he had been cuckolded by a 16-year old boy... so to retaliate, he announced publicly... that he and my mother had been having an affair for many years. | ดอนอัลฟองโซขายหน้า ที่ถูกเด็กผู้ชายอายุ 16 สวมเขา ดังนี้เพื่อเอาคืน เขาประกาศในต่อหน้าสาธารณะ Don Juan DeMarco (1994) | And when they descended, it was to announce that Ffynnon Garw was indeed a mountain of 1, 002 feet and that they were engaged to be married. | และเมื่อเขาลงมา ก็มีการประกาศว่าฟินาฮ่อนการู ก็คือภูเขาจริง ๆ The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995) | Declare war on Napaloni! | ประกาศสงครามกับ เนโพโลนี The Great Dictator (1940) | A declaration of war. | คำประกาศสงคราม The Great Dictator (1940) | - Your declaration of war. | - คำประกาศสงครามของท่าน The Great Dictator (1940) | I'm ready to walk into court and declare a hung jury. | ฉันพร้อมที่จะเดินเข้าไปในศาลและประกาศแขวนลูกขุน 12 Angry Men (1957) | Wanted in 15 counties of this state the condemned standing before us... | มีประกาศจับจาก 15 เขตในรัฐนี้... ...ผู้ต้องหาที่ยืนตรงหน้าเรา... The Good, the Bad and the Ugly (1966) | And headquarters has declared that we must take that ridiculous flyspeck even if all of us are killed. | และกองบัญชาการก็ประกาศไว้ ว่าต่อให้ต้องตายกันหมด เราก็ต้อง... ...เราต้องยึดตามดระยำนั่นให้ได้ The Good, the Bad and the Ugly (1966) | Now there's rarely any tenseness. | มันผ่อนคลายคุณคำประกาศ How I Won the War (1967) | And grant, in the name of Your prophet, our great Lawgiver, that we, Your chosen servants, created and born in Your divine image, may aspire the more perfectly to that spiritual godliness and bodily beauty | เเละประกาศชัยในพระนามท่าน เทพเจ้าผู้ยิ่งยง เราคือสาวกผู้ซึ่งท่านเลือกสรรมาเกิด Beneath the Planet of the Apes (1970) | Signora Maggi's story merits immediate re-enactment | มาดามเรื่องราวของ Maggi merit immediate อีกครั้ง-ประกาศใช้เป็นกฎหมาย Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | According to the story, God has appeared on earth to reaffirm that He lives and our world can work. | ตามเรื่องที่เขาบอก พระเจ้าปรากฏร่างบนโลก และประกาศว่าท่านมีตัวตน Oh, God! (1977) | He's having one of his big dos at the Shrine Auditorium. | เขากำลังประกาศศาสนาครั้งใหญ่ ที่หอประชุมชาไรน์ Oh, God! (1977) | -...was the most significant act in colonial affairs since the Declaration of Independence. | - เป็นเรื่องใหญ่สุด ในราชอาณาจักร นับแต่วันประกาศเอกราช Gandhi (1982) | And Mr. Prakash, who, I fear is awaiting trial for sedition and inducement to murder. | และคุณประกาศ ซึ่งรอขึ้นศาลคดีก่อความไม่สงบ และชักนำให้เกิดฆาตกรรม Gandhi (1982) | But it gave them an excuse to impose martial law throughout Bengal. | แต่เป็นข้ออ้างที่เขาจะประกาศ กฎอัยการศึกทั่วเบงกอล Gandhi (1982) | And that's the basis of this declaration of independence? | แล้วนั่นเป็นพื้นฐาน ของการประกาศเอกราชรึไง Gandhi (1982) | I heard that Miss Long announced to the world that you will be having a duel today to find a husband. | ข้าได้ยินมาว่าแม่นางเล้งประกาศออกไปว่าจะหาคู่ในวันนี้. Return of the Condor Heroes (1983) | We have an unconfirmed report that the president is going to announce a full-scale military alert tonight. | ขณะนี้มีรายงานยืนยัน ว่าประธานเป็นไปที่จะประกาศ เต็มรูปแบบคืนนี้แจ้งเตือน ทหาร 2010: The Year We Make Contact (1984) | This is a most difficult announcement. | นี่คือประกาศที่ยากที่สุด 2010: The Year We Make Contact (1984) | One day, I hope to announce his betrothal. | วันหนึ่งฉันหวังที่จะประกาศการหมั้นของเขา Greystoke: The Legend of Tarzan, Lord of the Apes (1984) | It is with great pleasure that I call upon his grandson... the present earl, to declare the Greystoke Gallery open. | มันมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะ เรียกร้องให้หลานชายของเขา ... เอิร์ลปัจจุบันจะประกาศ โตแกลเลอรี่เปิด Greystoke: The Legend of Tarzan, Lord of the Apes (1984) | Not if it's publicly declared, perhaps. | ไม่ ถ้ามันถูกประกาศแจกแจงทรัพย์สิน Clue (1985) | Lay off the fuckin' booze for a while, why don't ya? | ทำไมไม่ร้องประกาศขายเหล้าดูวะ? Day of the Dead (1985) | Well, guys, I better get home before my mom puts me on the "1 0 Most Wanted List." | งั้น เพื่อน ฉันขอกลับบ้านก่อนที่แม่ฉัน จะขึ้นบัญชีประกาศจับนะ Stand by Me (1986) | Why not skywrite it? ""Penny got knocked up by Robbie, the creep."" | ทำไมไม่ทำป้ายประกาศเลยล่ะ? "เพนนี จะทำแทงค์ลูกของไอ้ รอบบี้ เฮงซวย" Dirty Dancing (1987) | I sleep alone these days, too, but I am not about to advertise it. | เค้าเองก็นอนโดดเดี่ยวเหมือนกัน แต่เค้าก็ไม่เคยป่าวประกาศเลยนะ Mannequin (1987) | "Five years later, the main square of Florin City was filled as never before | 5 ปีต่อมา ณ จตุรัสกลางเมืองฟลอริน คลาคล่ำไปด้วยผู้คนอย่างไม่เคยมีมาก่อน เพื่อฟังประกาศว่า ... The Princess Bride (1987) | Enacting disaster protocols. | ประกาศกฎอัยการศึก Akira (1988) | Enacting disaster protocols. | ประกาศกฎอัยการศึก Akira (1988) | Announce a state of emergency, arrest all members of the executive council and remove them from the chain of command! | ประกาศสถานะสภาวะฉุกเฉินและ จับกุมสมาชิกสภาทั้งหมด... ...และย้ายพวกเขาออกจาก เงื่อนไขของคำสั่ง! Akira (1988) | Get your diploma and join the police! | เอาประกาศนียบัตรแกมา แล้วก็สมัครเป็นตำรวจซะ ! Cinema Paradiso (1988) | Professor... the auditors taking the exam for the grade school diploma. | อาจารย์... นักเรียนสอบเทียบจะมาสอบ เอาประกาศนียบัตรของโรงเรียน. Cinema Paradiso (1988) | I have an announcement. Elvis has canceled. Aww! | มีเรื่องประกาศให้ทราบ เอลวิสยกเลิกการแสดง Punchline (1988) | They want you all on stage to get a real reaction when they announce the winner. | พวกเขาต้องการทุกคน บนเวทีตอนประกาศ - อะไรกัน Punchline (1988) | Anybody who does not get on that staircase now is disqualified. | ...ตอนที่ผมประกาศคนชนะ ใครไม่ขึ้น... ...ถือว่าสละสิทธิ์ ผมพูดจริงๆ นะ Punchline (1988) | Radio said there was some trouble. We didn't see anything. | วิทยุประกาศว่าเกิดเรื่อง แต่เราไม่เห็นอะไรเลย Night of the Living Dead (1990) |
| อัญประกาศ | [anyaprakāt] (n) EN: quotation marks FR: guillemets [ mpl ] | อัญประกาศเดี่ยว | [anyaprakāt dīo] (n, exp) EN: single quotation marks ; ' ' | ใบปิดประกาศ | [baipit prakāt] (n, exp) EN: poster FR: affiche [ f ] | ใบประกาศ | [baiprakāt] (n) EN: poster ; handbill ; notice ; circular FR: affiche [ f ] | บอร์ดประกาศ | [bøt prakāt] (n, exp) EN: bulletin board FR: tableau d'affichage [ m ] ; valves [ fpl ] (Belg.) | การป่าวประกาศ | [kān pāoprakāt] (n) FR: annonciation [ f ] (vx) ; annoncement [ m ] (vx) | การปิดประกาศ | [kān pit prakāt] (n, exp) FR: affichage [ m ] | การประกาศ | [kān prakāt] (n) EN: announcement ; declaration ; stating FR: déclaration [ f ] ; annonce [ f ] ; proclamation [ f ] | การประกาศใช้ | [kān prakāt chai] (n, exp) EN: promulgation FR: promulgation [ f ] | การประกาศใช้กฎหมาย | [kān prakāt chai kotmāi] (n, exp) FR: promulgation d'une loi [ f ] | การประกาศอิสรภาพ | [kān prakāt itsaraphāp] (n, exp) FR: proclamation d'indépendance [ f ] | การประกาศจ่ายเงินปันผล | [kān prakāt jāi ngoen panphon] (n, exp) EN: declaration of a dividend | การประกาศเจตจำนง | [kān prakāt jētjamnong] (n, exp) EN: declaration of intent FR: déclaration d'intention [ f ] | การประกาศของเทพ | [Kān Prakāt Khøng Thēp] (n, prop) EN: Annunciation FR: Annonciation [ f ] | การประกาศสงคราม | [kān prakāt songkhrām] (n, exp) EN: declaration of war FR: déclaration de guerre [ f ] | คำประกาศิต | [khamprakāsit] (n) EN: command | คำประกาศ | [khamprakāt] (n) EN: announcement ; declaration | เครื่องหมายอัญประกาศ | [khreūangmāi anyaprakāt] (n, exp) EN: « “ “ » ; « » ; quotation marks ; double quotation marks FR: « “ “ » ; « » ; guillemets [ mpl ] | เครื่องหมายสัญประกาศ | [khreūangmāi sanyaprakāt] (n, exp) EN: « _ » ; underscore FR: « _ » ; soulignement [ m ] | หมายประกาศ | [māi prakāt] (n, exp) EN: announcement ; notice | มีประกาศว่า... | [mī prakāt wa ...] (v, exp) EN: it has been announced that ... | เงินปันผลที่ประกาศจ่าย | [ngoenpanphon thī prakāt jāi] (n, exp) EN: declared dividend | ป้ายประกาศ | [pāi prakāt] (n, exp) EN: bilboard FR: panneau d'affichage [ m ] | ป่าวประกาศ | [pāoprakāt] (v) EN: announce ; publicize ; broadcast ; proclaim FR: annoncer ; proclamer | ป่าประกาศ | [pāprakāt] (v) EN: proclaim | ผู้ป่าวประกาศ | [phū pāoprakāt] (n, exp) FR: annonciateur [ m ] ; annonciatrice [ f ] | ผู้ปิดประกาศ | [phū pit prakāt] (n, exp) FR: afficheur [ m ] ; placardeur [ m ] (vx) | ผู้ประกาศ | [phūprakāt] (n) EN: announcer ; broadcaster ; reporter ; newsreader ; speaker FR: annonceur [ m ] ; présentateur [ m ] | ผู้ประกาศข่าว | [phūprakāt khāo] (n, exp) EN: newsreader ; newscaster | ปิดประกาศ | [pit prakāt] (v, exp) EN: post a notice FR: placarder | ประกาศิต | [prakāsit] (n) EN: command | ประกาศ | [prakāt] (n) EN: announcement ; declaration ; proclamation ; notice ; notification FR: annonce [ f ] ; déclaration [ f ] ; proclamation [ f ] ; notification [ f ] | ประกาศ | [prakāt] (v) EN: announce ; promulgate ; proclaim ; give notice ; declare ; publish ; notice ; post ; state ; make known ; advertise FR: annoncer ; proclamer ; déclarer ; faire savoir ; promulguer ; prononcer | ประกาศใช้ | [prakāt chai] (v) EN: promulgate | ประกาศอิสรภาพ | [prakāt itsaraphāp] (v, exp) EN: declare independence | ประกาศจับ | [prakāt jap] (n, exp) EN: wanted poster | ประกาศคำพิพากษา | [prakāt khamphiphāksā] (v, exp) EN: pronounce a judgement | ประกาศโฆษณา | [prakāt khōtsanā = prakāt khōsanā] (n, exp) EN: advertising poster ; advertisement | ประกาศลดราคา | [prakāt lot rākhā] (v, exp) EN: announce a price cut | ประกาศรับ | [prakāt rap] (v, exp) EN: announce one is accepting application | ประกาศรับรอง | [prakāt raprøng] (v, exp) EN: declare | ประกาศรับสมัคร | [prakāt rap samak] (v, exp) EN: announce one is accepting application | ประกาศนียบัตร | [prakātsanīyabat] (n) EN: diploma ; certificate FR: diplôme [ m ] ; certificat [ m ] ; brevet [ m ] | ประกาศนียบัตรชั้นสูง | [prakātsanīyabat chan sūng] (n, exp) EN: diploma | ประกาศนียบัตรวิชาชีพ | [prakātsanīyabat wichāchīp] (n, exp) EN: vocational certificate | ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง | [prakātsanīyabat wichāchīp chan sūng] (n, exp) EN: high vocational Certificate | ประกาศสงคราม | [prakāt songkhrām] (v, exp) EN: declare war FR: déclarer la guerre | ประกาศเตือนภัย | [prakāt teūoen phai] (n, exp) FR: avis d'alerte [ m ] | ประกาศต่อหน้าธารกำนัล | [prakāt tønā thārakamnan] (v, exp) EN: declare openly ; declare publicly ; proclaim in public FR: déclarer publiquement | ประกาศตัว | [prakāt tūa] (v) EN: declare oneself |
| | absolve | (vt) ประกาศว่าพ้นผิด, Syn. acquit, exonerate | acquit | (vt) ประกาศว่าไม่มีความผิด, See also: ประกาศว่าพ้นผิด, Syn. exonerate, clear, absolve | admission | (n) การประกาศยอมรับ, See also: การยอมรับ | advertise | (vt) ลงประกาศ, See also: แจ้งความ, เสนอข่าว | advertise | (vi) ลงประกาศ, See also: แจ้งความ, เสนอข่าว, Syn. proclaim, publicize, announce | air | (vt) ประกาศ, See also: แสดง | align | (vt) ประกาศสนับสนุน | aline | (vt) ประกาศสนับสนุน | anchor | (vt) เป็นผู้ประกาศข่าว | anchor | (n) ผู้ประกาศข่าว, Syn. newscaster, commentator | announce | (vt) ป่าวประกาศ, See also: ประกาศ, Syn. declare, proclaim | announcement | (n) การประกาศ, See also: เสียงประกาศ, การป่าวประกาศ, Syn. declaration, notification, proclamation | announcement | (n) คำประกาศ, Syn. statement, news | announcer | (n) ผู้ประกาศ, See also: โฆษก, Syn. program announcer, broadcaster | annulment | (n) การประกาศว่าเป็นโมฆะ, Syn. invalidation, nullification, cancellation | annunciator | (n) ผู้ประกาศ, Syn. announcer | absolve from | (phrv) ยกโทษให้, See also: ประกาศว่า บางคน ไม่มีความผิด | absolve of | (phrv) ยกโทษให้, See also: ประกาศว่า บางคน ไม่มีความผิด | acquit of | (phrv) ประกาศว่าไม่มีความผิด (ทางกฎหมาย) | advertise for | (phrv) ประกาศรับ, See also: โฆษณา เพื่อรับสมัคร | announce to | (phrv) ประกาศต่อ | assign to | (phrv) ระบุว่าเป็นหรืออยู่ในช่วง, See also: ประกาศว่าเป็นของ | billboard | (vt) ประกาศหรือโฆษณา | bulletin | (n) แถลงการณ์, See also: ประกาศ, Syn. announcement | book off | (phrv) ประท้วงไม่ทำงาน, See also: ประกาศไม่เข้าทำงาน | bring down | (phrv) ประกาศหรือบอกให้รู้อย่างเป็นทางการ, Syn. hand down | caller | (n) ผู้ประกาศ, Syn. announcer | canonise | (vt) ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็นนักบุญ, Syn. canonize, saint, sanctify | canonize | (vt) ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็นนักบุญ, Syn. canonise, saint, sanctify | celebrate | (vt) ประกาศ, Syn. declare, proclaim | certificate | (n) ประกาศนียบัตร, Syn. credential | certificate | (vt) ให้หนังสือรับรอง, See also: ให้ประกาศนียบัตร | certify | (vt) ประกาศว่าวิกลจริตตามกฎหมาย | certify | (vt) ให้หนังสือรับรอง, See also: ให้ประกาศนียบัตร | clarion | (vt) ประกาศอย่างดัง | condemn | (vt) ประกาศว่าทำผิด, See also: กล่าวโทษ, Syn. convict | crier | (n) ผู้ประกาศ, Syn. proclaimer | call by2 | (phrv) เรียกชื่อ, See also: ประกาศชื่อ, ขานชื่อ, Syn. go by | charge with | (phrv) ประกาศว่ามีความผิด | close the door on | (idm) ประกาศว่าหมดหวังสำหรับ, Syn. shut on | convict of | (phrv) ประกาศว่ามีความผิดฐาน, See also: มีความผิดในเรื่อง | count out | (phrv) ประกาศว่าสมาชิกในการประชุมสภาไม่เพียงพอ (เพื่อปิดการประชุม) | declaim against | (phrv) ประกาศโจมตีต่อสาธารณชน, Syn. declare for | declare for | (phrv) ประกาศโจมตีต่อสาธารณชน, Syn. declaim against | declare off | (phrv) ประกาศว่าจะไม่เกิดขึ้น, Syn. break off, declare on | declare on | (phrv) ประกาศว่าจะไม่เกิดขึ้น, Syn. break off, declare on | declare on | (phrv) ประกาศทำลาย (ด้วยทุกวิถีทาง), Syn. declare against, make on | declare oneself | (phrv) แสดงตัวอย่างชัดเจน, See also: ประกาศอย่างชัดเจน | declare to | (phrv) ประกาศต่อ | drop a bombshell | (idm) ประกาศข่าวที่น่าตื่นตะลึง (คำไม่เป็นทางการ), See also: ทำให้แตกตื่น |
| advertise | (แอด' เวอไทซ, แอดเวอไทซ') vt., vi. แจ้งความ, โฆษณา, ประกาศ. | advertize | (แอด' เวอไทซ, แอดเวอไทซ') vt., vi. แจ้งความ, โฆษณา, ประกาศ. | announce | (อะเนาซฺ') vt., vi. ประกาศ, แจ้ง, แสดง, ทำให้รู้, ทำหน้าที่เป็นโฆษก, โฆษณา | announcement | (อะเนาซฺ' เมินทฺ) n. การประกาศ, การแถลง, การทำให้รู้, การโฆษณา | announcer | (อะเนา' เซอะ) n. ผู้ประกาศ, ผู้แถลง, ผู้โฆษณา, Syn. broadcaster | annunciate | (อะนัน' ซีเอท) vt. แจ้งให้ทราบ, ประกาศ, ประกาศให้ทราบ -annunciable adj., Syn. tell, announce -annunciation n. | annunciator | (อะนัน'ซีเอเทอะ) n. ผู้ประกาศ, เครื่องบอกสัญญาณ (signaling apparatus) | attaint | (อะเทนทฺ') vt. ประกาศเพิกถอนสิทธิ, ทำให้เสื่อมเสีย (เกียรติ) , กล่าวหา -n. =attainder, ความเสื่อมเสีย (เกียรติ) (disgrace, taint) | avow | (อะเวา') vt. ประกาศ, รับรอง, ยอมรับ, รับสารภาพ, ปฏิญาณ, สบถสาบาน. -avower n., Syn. testify, avouch, Ant. deny, hide | avowal | (อะเวา'เอิล) n. การรับรองอย่างเปิดเผยการประกาศ, การยอมรับ (acknowledgment) | ban | (แบน) { banned, banning, bans } vt., n. ห้าม, ประกาศห้าม, สั่งห้าม, ขับออกนอกศาสนา, ประณาม, สาปแช่ง | banns | (แบนซ) n., pl. ประกาศล่วงหน้าที่แจ้งการแต่งงานที่จะมีขึ้น | bans | (แบนซ) n., pl. ประกาศล่วงหน้าที่แจ้งการแต่งงานที่จะมีขึ้น | bbs | (บีบีเอส) ย่อมาจาก bulletin board system หรือที่แปลว่า ระบบแผงข่าว เป็นโปรแกรมหนึ่งที่ทำหน้าที่เก็บรายการ หัวข้อ หรือข้อมูลที่เป็นที่สนใจ ผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเหล่านี้ อาจจะโทรศัพท์ผ่านเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อขอคัดลอกแฟ้มข้อมูล หรือสอบถามข้อความ ก็ได้ เช่น บีบีเอสของมหาวิทยาลัยก็อาจมีประกาศต่าง ๆ เช่น ประกาศรับสมัครนิสิตเข้าเรียนในระดับต่าง ๆ ปฏิทินการศึกษา รายการกีฬา ฯ ผู้ใช้บริการจะต้องมีคอมพิวเตอร์และโมเด็มพร้อมกับโปรแกรมที่จำเป็น ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับข้อมูลสำคัญในทางธุรกิจ จะมีการเรียกเก็บค่าบริการด้วย (มีใช้เฉพาะในระบบเครือข่าย) | bid | (บิด) { bade/bid, bidden/bid, bidding, bids } vt., n. (การ) ออกคำสั่ง, สั่ง, กล่าว, บอก, ให้ราคา, ประมูลราคา, เชื้อเชิญ, ประกาศอย่างเปิดเผย, รับเป็นสมาชิก, ความพยายามเพื่อให้ได้มา vi. ออกคำสั่ง, กริยาช่อง 3 ของ bide, See also: bidder n. ดู bid -Conf. bade | bill poster | n. ผู้ติดประกาศ, ผู้ติดโฆษณา, ผู้ติดใบปลิว, See also: billsticking n. | bill sticker | n. ผู้ติดประกาศ, ผู้ติดโฆษณา, ผู้ติดใบปลิว, See also: billsticking n. | billposter | n. คนที่ประกาศ, คนติดโฆษณา, คนติดใบปลิว, See also: billposting, billsticking n. | billsticker | n. คนที่ประกาศ, คนติดโฆษณา, คนติดใบปลิว, See also: billposting, billsticking n. | blazer | (เบล'เซอะ) n. สิ่งที่ลุกสว่างโชติช่วง, ผู้แพร่กระจาย, ผู้ประกาศ | blazon | (เบล'เซิน) { blazoned, blazoning, blazons } n. ตรา, เครื่องหมาย ธง vt. ทำเครื่องหมาย, ทำตรา, แสดง, ประกาศ, เผยแพร่, โอ้อวด, See also: blazoner n. blazonment n. ดูblazon blazoning n. ดูblazon, Syn. proclaim | bulletin | (บูล'ละทิน) n. แถลงการณ์, ประกาศ, รายงานข่าว, สิ่งตีพิมพ์ที่ออกมาเป็นระยะ | bulletin board system | ระบบการบริการเครือข่ายที่อนุญาตให้ผู้ใช้ที่มีผลประโยชน์ร่วมให้ส่งและรับข้อมูลหรือได้รับซอฟแวร์ เป็นต้น ระบบแผงข่าวศูนย์รวมข่าวใช้ตัวย่อว่า BBS (อ่านว่า บีบีเอส) เป็นโปรแกรมหนึ่งที่ทำหน้าที่เก็บรายการ หัวข้อ หรือข้อมูลที่เป็นที่สนใจ ผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเหล่านี้ อาจจะโทรศัพท์ผ่านเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อขอคัดลอกแฟ้มข้อมูล หรือสอบถามข้อความ ก็ได้ เช่น ระบบแผงข่าวของมหาวิทยาลัยก็อาจมีประกาศต่าง ๆ เช่น ประกาศรับสมัครนิสิตเข้าเรียนในระดับต่าง ๆ ปฏิทินการศึกษา รายการกีฬา ฯ ผู้ใช้บริการจะต้องมีคอมพิวเตอร์และโมเด็มพร้อมกับโปรแกรมที่จำเป็น ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับข้อมูลสำคัญในทางธุรกิจ จะมีการเรียกเก็บค่าบริการด้วย (มีใช้เฉพาะในระบบเครือข่าย) | canonise | (แคน'นะไนซ) { canonized, canonised, canonizeingcanonising, canonizes, canonises } vt. ประกาศให้เป็นนักบุญ (saint) , ยกย่องว่าประเสริฐ, ถือว่าศักดิ์สิทธิ์, ถือว่าถูกต้องแท้จริง, จัดอยู่ในบทหนังสือฉบับแท้ของพระคัมภีร์ไบเบิล., See also: canonisation n. ดูcanoniz | canonize | (แคน'นะไนซ) { canonized, canonised, canonizeingcanonising, canonizes, canonises } vt. ประกาศให้เป็นนักบุญ (saint) , ยกย่องว่าประเสริฐ, ถือว่าศักดิ์สิทธิ์, ถือว่าถูกต้องแท้จริง, จัดอยู่ในบทหนังสือฉบับแท้ของพระคัมภีร์ไบเบิล., See also: canonisation n. ดูcanoniz | ccp | (ซีซีพี) ย่อมาจาก Certificate in Computer Programming หมายถึงประกาศนียบัตรที่ให้แก่ผู้ที่สอบผ่านความรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม การสอบนี้จะทำปีละ 1 ครั้งในประเทศใหญ่ ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฯ | cedula | n. หลักฐานการเสียภาษีแล้ว, ประกาศนียบัตร | celebrate | (เซล'ละเบรท) { celebrated, celebrating, celebrates } v. ฉลอง, ประกอบพิธี, เฉลิม, ประกาศ, สรรเสริญ, ยกย่อง, ทำพิธี, จัดงานเลี้ยงฉลอง, See also: celebrative adj. ดูcelebrate celebrator n. ดูcelebrate -Conf. celibate | certificate | (เซอทิฟ'ฟะเคท) { certificated, certificating, certificates } n. หนังสือรับรอง, ประกาศนียบัตร, ใบรับรอง, ในสุทธิ, ใบสำคัญ, ข้อพิสูจน์ vt. รับรองด้วยหนังสือรับรอง, See also: certificatory adj. | charter | (ชาร์'เทอะ) { chartered, chartering, charters } n. ตราตั้ง, กฎบัตร, กฎหมาย, สัญญาเช่าเรือ, สัญญาเช่า, สิทธิพิเศษ, สิทธิยกเว้น, หนังสือรับรอง, ประกาศนียบัตร -vt. อนุญาตด้วยตราตั้ง, ให้สิทธิพิเศษ. -adj. เช่ามา, เหมา, See also: charterer n. -Conf. chartered กริยาช | cold war) | n. สงครามเย็น, สงครามที่ไม่ประกาศสงคราม | confession | (คันเฟส'เชิน) n . การสารภาพ, การยอมรับ, การสารภาพความผิด, สิ่งที่ได้สารภาพ, การประกาศความเลื่อมใสและยอมรับการปฎิบัติตามความเชื่อทางศาสนา, สุสานนักบุญ, Syn. admission, confirmation | credential | (คริเดิน'เชิล) n. หลักฐานอ้างอิง, หนังสือรับรอง, หนังสือแนะนำตัว, สาสน์ตราตั้งทูต, ประกาศนียบัตร. adj. ซึ่งเป็นหลักฐานอ้างอิง หรือรับรอง, See also: credentialed adj. | crier | (ไคร'เออะ) n. ผู้ร้อง, คนร้องขาย, เจ้าหน้าที่ศาลที่เรียกขาน, เจ้าหน้าที่ประกาศ | cry | (ไคร) { cried, crying, cries } vt., vi., n. (การ, เสียง) ร้อง, ร้องเรียก, ร้องขอ, แผดเสียงร้อง, ร้องไห้, หลั่งน้ำตา, การป่าวประกาศ, การเรียกพยานในศาล | declaration | (เดคคละเร'เชิน) n. การประกาศ, See also: declarative ดิแคล'ระทิฟว adj., Syn. statement | declare | (ดิแคลร์') v. ประกาศ, แถลงการณ์, แจ้ง (การชำระภาษี) , เรียก (ไพ่), See also: declarer n., Syn. avow | decree | (ดีครี') n. คำสั่ง, คำบัญชา, คำพิพากษา, พระราชกฤษฎีกา, ประกาศิตของสวรรค์ v. สั่ง, บัญชา, พิพากษา, ประกาศใช้กฎหมาย | denounce | (ดิเนาซฺ') vt. ประณาม, กล่าวโทษ, ติเตียน, ประกาศเลิก, บอกเลิก., See also: denouncement n. denouncer n., Syn. accuse | denunciation | (ดินันซีเอ'เชิน) n. การประณาม, การติเตียน, การกล่าวโทษ, การเพิกถอน, การประกาศเพิกถอน, Syn. accusation | diploma | (ดิโพล'มะ) n., อนุปริญญา, ประกาศนียบัตร, ในอนุญาต, หนังสือสำคัญ vt. ให้ diploma | diplomate | (ดิพ'ละเมท) n. ผู้ได้รับประกาศนียบัตร, ผู้ได้รับอนุปริญญา | divulge | (ดิวัลจฺ') vt. เปิดเผย, ประกาศ., See also: divulgement n. ดูdivulge divulger n. ดูdivulge | divulgence | n. การเปิดเผย, การประกาศ, Syn. divulging | edict | (เอด, 'ดิคทฺ) n. คำสั่ง, กฤษฎีกา, คำประกาศ, พระบรมราชโองการ., See also: edital adj. ดูedict, Syn. decree | enact | (เอนแนคทฺ') { enacted, enacting, enacts } vt. ประกาศใช้เป็นกฎหมาย, ประกาศใช้, แสดงออก, บัญญัติ, See also: enactable adj. ดูenact enactive adj. ดูenact enactory adj. ดูenact enactor n. ดูenact, Syn. decree | enunciate | (อินัน'ซิเอท) vt. อ่านออกเสียง, ออกเสียง, กล่าวอย่างชัดแจ้ง, ประกาศ, แถลง, สาธยาย., See also: enunciation n. ดูenunciate enunciative adj. ดูenunciate enunciatory adj. ดูenunciate enunciator n. ดูenunciate | firman | (เฟอร์'เมิน) n. คำสั่ง, ประกาศิต, กฤษฎีกา, พระบรมราชโองการ , (-pl. firmans) | herald | (เฮอ'เริลดฺ) n. ผู้ถือสาร, ผู้นำก่อน, สิ่งที่นำก่อน, ผู้ป่าวประกาศ. vt. ประกาศ, แถลง, แจ้งให้ทราบ, เป็นลาง, Syn. envoy | intimate | อิน'ทะเมท) adj. คุ้นเคย, ใกล้ชิด, สนิทสนม, ละเอียด, ส่วนตัว, สนิทสนมในทางเพศ, ในสุด, ลึกซึ้ง, แก่นแท้. n. เพื่อนสนิท., See also: intimately adv. intimateness n. vt. แนะนำ, ชี้แนะ, แย้ม, บอกเป็นนัย, ประกาศ, แจ้ง. intimater n. intimation n. |
| advertise | (vt) โฆษณา, ประกาศ, แจ้งความ | advertisement | (n) การโฆษณา, การประกาศ, การแจ้งความ | affirmation | (n) การประกาศ, การยืนยัน, การรับรอง | announce | (vt) ประกาศ, แถลง, แจ้ง | announcement | (n) การประกาศ, การแถลง, การแจ้ง | announcer | (n) ผู้ประกาศ, ผู้แถลง | annunciate | (vt) ประกาศ, แจ้ง | annunciation | (n) การประกาศ, การแจ้ง | annunciator | (n) ผู้ประกาศ, ผู้แจ้ง | avow | (vt) รับสารภาพ, ประกาศ, รับรอง, สบถสาบาน, ปฏิญาณ | ban | (n) การห้าม, การประกาศห้าม, การสั่งห้าม | ban | (vt) ห้าม, สั่งห้าม, ประกาศห้าม | bellman | (n) คนตีระฆัง, คนเดินประกาศข่าว, ยาม | billboard | (n) บอร์ด, กระดานปิดประกาศ | billsticker | (n) ผู้ติดประกาศ, ผู้ติดโฆษณา, ผู้ติดใบปลิว | blaze | (vt) แพร่, กระจาย, เผยแพร่, แถลง, ประกาศ | blazer | (n) เสื้อสามารถ, ผู้ประกาศ | blazon | (vt) ประกาศ, ทำเครื่องหมาย, ประดับ, แสดง | bulletin | (n) ประกาศ, แถลงการณ์ | certificate | (n) ประกาศนียบัตร, ใบสุทธิ, ใบรับรอง, หนังสือรับรอง | credentials | (n) ประกาศนียบัตร, ใบสุทธิ, หนังสือรับรอง, หลักฐานอ้างอิง, สาสน์ตราตั้ง | crier | (n) คนป่าวประกาศ, ผู้ประกาศ | declaration | (n) คำประกาศ, การประกาศ, การเปิดเผย, การแจ้ง, แถลงการณ์ | declarative | (adj) ซึ่งบอกเล่า, ที่เปิดเผย, ที่ประกาศ, ที่อธิบาย | declare | (vi, vt) ประกาศ, แถลง, เปิดเผย, บอกกล่าว, แจ้ง | decree | (n) กฎ, พระราชกฤษฎีกา, คำสั่ง, คำบัญชา, ประกาศิต, คำพิพากษา | decree | (vt) ประกาศพระราชกฤษฎีกา, สั่ง, บัญชา, พิพากษา | diploma | (n) ปริญญาบัตร, ประกาศนียบัตร, อนุปริญญา, หนังสือสำคัญ | divulge | (vt) เปิดเผย, บอก(ความลับ), ประกาศ | edict | (n) คำสั่ง, คำประกาศ, คำประกาศิต, พระบรมราชโองการ, พระราชกฤษฎีกา | enact | (vt) ประกาศเป็นกฎหมาย, แสดงบทบาท, ออกพระราชบัญญัติ | enactment | (n) การประกาศเป็นกฎหมาย, พระบรมราชโองการ, พระราชบัญญัติ | enunciate | (vi) เปล่งเสียง, แถลง, สาธยาย, ประกาศ | enunciation | (n) การออกเสียง, การอ่านออกเสียง, การแถลง, การประกาศ, การสาธยาย | harbinger | (vt) ประกาศ, นำทาง, เบิกทาง, ไปล่วงหน้า | herald | (vt) แจ้งข่าว, ประกาศ, แถลง | heraldic | (adj) เกี่ยวกับผู้สื่อข่าว, เป็นพิธีการ, เกี่ยวกับการประกาศ | intimate | (vt) แนะ, บอก, แจ้ง, แสดง, ประกาศ | intimation | (n) การแนะ, การบอก, การแจ้ง, การแสดง, การชี้แจง, การประกาศ | launch | (vt) ปล่อยลงน้ำ, ปล่อย(จรวด), ส่งหมัด, ประกาศ, กล่าว, ยิง | mandate | (n) คำสั่ง, อำนาจที่ได้รับมอบหมาย, อาณัติ, กฤษฎีกา, ประกาศิต | mandate | (vt) ทำให้อยู่ในอาณัติ, มอบอำนาจ, ออกประกาศิต | manifestation | (n) การปรากฏ, การประกาศ, การสำแดง, การเดินขบวน | moratorium | (n) การเลื่อนการชำระหนี้, ประกาศพักชำระหนี้ | noise | (vt) ส่งเสียง, ทำเสียงดัง, ประกาศลั่น | notice | (vt) สังเกตเห็น, ประกาศ, ออกความเห็น, แจ้งล่วงหน้า, สนใจ | notification | (n) การประกาศ, การเตือนล่วงหน้า, การแจ้งความ | notify | (vt) เตือนล่วงหน้า, แจ้งความ, บอกให้ทราบ, ประกาศ | outlaw | (vt) หนีกฎหมาย, ผิดกฎหมาย, นอกกฎหมาย, ห้าม, ประกาศ | placard | (n) ใบปลิว, ใบประกาศ, ป้ายประกาศ |
| Act of war | เหตุแห่งสงคราม คือการกระทำหรือเหตุการณ์ใดๆที่ทำให้อีกฝ่ายมีความชอบธรรมในการประกาศสงคราม, Syn. Casus belli | alhambra decree | (n) พระราชประกาศอาลัมบรา เป็นพระราชประกาศที่ออกโดยสมเด็จพระราชินีนาถอิสซาเบลลาแห่งสเปน และสมเด็จพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งอาราอน เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1492 เพื่อขับไล่ชาวยิวออกจากสเปน (wikipedia.org), Syn. Edict of Expulsion | Declaration of a State of Emergency | (n) ประกาศภาวะฉุกเฉิน | declare war on | (vt, phrase) ประกาศสงครามกับ | NOTAM | [no-tam] (Notice to Airmen) ประกาศนักบิน | public service announcements | ประกาศโฆษณาในบริการสาธารณะ |
| 伝道師 | [でんどうし, dendoushi] (n) นักประกาศ (ศาสนาคริสต์) | 名乗り | [なのり, nanori] (n) การประกาศตัว | 証明書 | [しょうめいしょ, shoumeisho] (n) ใบรับรอง ประกาศนียบัตร |
| 予告 | [よこく, yokoku] (n, vi) (การ)ประกาศ หรือแจ้งเตือนล่วงหน้า, See also: R. 通知、警告 | 掲示 | [けいじ, keiji] (n) การติดประกาศ | 掲示板 | [けいじばん, keijiban] (n) กระดานข่าว, เว็บบอร์ด, บอร์ดติดประกาศ | 発布 | [はっぷ, happu] การประกาศใช้กฎหมาย | 立て札 | [たてふだ, tatefuda] (n) ป้ายประกาศ | アナウンサー | [あなうんさー, anaunsa] (n) ผู้ประกาศ (ข่าว), โฆษก |
| 掲示板 | [けいじばん, keijiban] TH: ป้ายติดประกาศ EN: bulletin board | お知らせ | [おしらせ, oshirase] TH: หมายประกาศ EN: Notification |
| Sprecher | (n) |der, pl. Sprecher| โฆษก, ผู้ประกาศ | Zeugnis | (n) |das, pl. Zeugnisse| ประกาศนียบัตร | Nachricht | (n) |die, pl. Nachrichten| คำประกาศ | ankündigen | (vt) |kündigte an, hat angekündigt| ประกาศ, แจ้ง เช่น In Tschechien ist es üblich, daß man einen Besuch telefonisch ankündigt., See also: melden | Ansage | (n) |die, pl. Ansagen| คำประกาศตามวิทยุ, โทรทัศน์, หรือตามงานต่างๆ | ansagen | (n) |sagte an, hat angesagt| ประกาศตามวิทยุ, โทรทัศน์, หรือตามงานต่างๆ ว่ามีรายการอะไรถัดไป, Syn. ankündigen | Plakat | (n) |das, pl. Plakate| ใบประกาศ, ป้ายโฆษณา, ป้ายประกาศ, โปสเตอร์ | beglaubigen | (vt) |beglaubigte, hat beglaubigt, etw.(A)| ให้การรับรอง, ยืนยัน, พิสูจน์ว่าจริง เช่น Die Kopie des Abschlusszeugnisses muß beglaubigt werden. สำเนาใบประกาศนียบัตรจบการศึกษาต้องได้รับการรับรอง | Fachoberschule | (n) |die, pl.Fachoberschulen| สถาบันวิชาชีพ, สถานศึกษาด้านอาชีพหรือโรงเรียนอาชีวะซึ่งเทียบเท่ากับโรงเรียนมัธยมปลาย จบไปได้ประกาศนียบัตรเป็น Fachhochschulreife | angeblich | (adj, adv) เป็นที่ประกาศให้ทราบ, เป็นที่รู้กัน เช่น Er ist angeblich wieder mit seiner Ex-Freundin zusammen und will sie sogar heiraten. | Bekanntgabe | (n) |die, nur Sg.| การประกาศอย่างเป็นทางการ เช่น Der Amtsinhaber trat nach Bekanntgabe der Wahlergebnisse im Fernsehen auf. |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |