214 ผลลัพธ์ สำหรับ *เวที*
ภาษา
หรือค้นหา: เวที, -เวที-Longdo Unapproved TH - TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
scenes | scene (ซีน) n. ฉาก, เวที, ภาพ, เหตุการณ์, สถานที่เกิดเหตุ, (ละคร) บทหนึ่ง, (ภาพยนตร์) ตอนหนึ่ง, เรื่องราว, อุปกรณ์ประกอบฉาก, สิ่งแวดล้อม, ทัศนียภาพ, ภาพภูมิประเทศ, -Phr. (behind the scenes อยู่เบื้องหลัง) |
Longdo Unapproved TH - EN
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
กตัญญู | ○ grateful, thankful, appreciative ○ obliged (grateful), indebted (especially for cultural, dutiful gratitude towards parents and elders) ■ ความกตัญญู /kwaam ga'dtan·yuu/ gratitude, thankfulness ■ กตัญญูกตเวที /ga'dtan·yuu gà'dtà·weh·tee/ (expr.) one who is grateful and reciprocates |
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
เวที | (n) stage, See also: arena, platform, ring, Example: เมื่อมีงานรื่นเริงครั้งใดเธอจะขึ้นบนเวทีไปร้องเพลงต่อหน้าแขกกว่า 2, 000 คน, Count Unit: เวที, แห่ง, Thai Definition: ที่ที่ยกขึ้นให้สูงใช้เป็นที่เล่นหรือแสดง |
เวที | (n) center, Syn. ศูนย์กลาง, Example: โลกกำลังก้าวสู่ทศวรรษของการจัดระเบียบใหม่อันมีสหประชาชาติเป็นศูนย์กลางหรือเวทีการบริหารการเมืองระหว่างประเทศ, Thai Definition: ศูนย์รวมของการปฏิบัติ |
กตเวที | (adj) grateful, See also: obliged, appreciative, indebted, Syn. ขอบคุณ, รู้สึกขอบคุณ, Example: เราควรมีความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา ครูอาจารย์และผู้มีพระคุณ |
เวทีมวย | (n) boxing ring, See also: canvas, Syn. เวที, สนามมวย, Example: เขาจะขึ้นชกชิงเงินรางวัลใหญ่ที่เวทีมวยลุมพินีบ่ายนี้, Count Unit: เวที, แห่ง, Thai Definition: สถานที่แข่งขันชกมวย |
พื้นเวที | (n) stage, See also: platform, Example: ถ้านั่งอยู่ชั้นบนจะเห็นพื้นเวทีทั้งหมดอย่างชัดเจน, Thai Definition: พื้นของสิ่งที่ยกพื้นขึ้นสูงเพื่อการแสดงต่างๆ เป็นต้น |
ผู้กำกับเวที | (n) stage director, See also: stage manager |
ผู้กำกับเวที | (n) stage director, See also: stage manager, Example: ผู้กำกับเวทีป่วยลงโดยกะทันหันทำให้ต้องงดการซ้อม |
เวทีการเมือง | (n) political stage, See also: political arena, Example: นายกรัฐมนตรีพยายามกำจัดเธอให้พ้นเวทีการเมือง เพราะกลัวเธอจะขึ้นมาเป็นใหญ่อีกครั้ง, Count Unit: เวที |
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
กตเวที | (กะตะ-) ว. ซึ่งประกาศคุณท่าน, ซึ่งสนองคุณท่าน, เป็นคำคู่กันกับ กตัญญู. [ ป. กต ว่า อันเขาทำแล้ว + เวที ว่า ซึ่งรู้, ซึ่งประกาศให้รู้ ]. |
เจนเวที | ก. ขึ้นเวทีมามากแล้ว, โดยปริยายหมายความว่า มีความชำนาญ, ช่ำชอง. |
ละครเวที | น. ละครแบบหนึ่ง แสดงบนเวที มีฉากสมจริงและมีการปิดเปิดม่าน ผู้แสดงดำเนินเรื่องด้วยบทเจรจา เช่น เรื่องผกาวลี ดำเนินเรื่องโดยการแสดงบทและเจรจาอาจมีเพลงแทรกบ้าง เช่น ละครอิงประวัติศาสตร์ของหลวงวิจิตรวาทการ ดรรชนีนาง ขุนศึก ศรอนงค์ พันท้ายนรสิงห์. |
เวทิ, เวที ๑ | น. ที่ที่ยกขึ้นให้สูงใช้เป็นที่ทำการสักการบูชา, แท่นบูชา |
เวทิ, เวที ๑ | ยกพื้นสำหรับเล่นละครและอื่น ๆ เช่น เวทีละคร เวทีมวย. |
เวที ๒ | น. ผู้รู้, นักปราชญ์. |
อกตเวที | (อะกะตะ-) น. ผู้ไม่ประกาศอุปการคุณที่ท่านทำแก่ตน, ผู้ไม่ตอบแทนอุปการคุณที่ท่านได้ทำแก่ตน, เป็นคำคู่กันกับ อกตัญญู. [ ป. อ ว่า ไม่ + กต ว่า (อุปการะ) ที่ท่านทำแล้ว + เวที ว่า ผู้ให้รู้, ผู้ประกาศ ]. |
กตัญญู | (กะตัน-) ว. ซึ่งรู้อุปการะที่ท่านทำให้, ซึ่งรู้คุณท่าน, เป็นคำคู่กันกับ กตเวที. [ ป. กต ว่า อันเขาทำแล้ว + ญู ว่า ซึ่งรู้ ]. |
กะผลุบกะโผล่ | (-ผฺลุบ-โผฺล่) ก. อาการที่ผลุบลงแล้วโผล่ขึ้น เช่น ปลากะผลุบกะโผล่ขึ้นมาหายใจ, อาการที่ผลุบเข้าไปแล้วโผล่ออกมา เช่น มากะผลุบกะโผล่อยู่หลังเวทีทำไม, จม ๆ ลอย ๆ เช่น ขอนลอยน้ำกะผลุบกะโผล่, โดยปริยายหมายความว่า ไปหรือมาไม่สม่ำเสมอ เช่น ถ้าจะมาช่วยงานก็ขอให้มาสม่ำเสมอ อย่ากะผลุบกะโผล่ มาบ้างไม่มาบ้าง, ผลุบโผล่ ๆ หรือ ผลุบ ๆ โผล่ ๆ ก็ว่า. |
คอนเสิร์ต | น. การแสดงดนตรีต่อหน้าผู้ชม โดยกำหนดรายการแสดงที่แน่นอน มักมีผู้แสดงหลายคน ทั้งนี้ไม่รวมถึงการแสดงดนตรีประกอบพิธีทางศาสนาหรือการแสดงบนเวที เช่นอุปรากร ระบำปลายเท้า. |
เคย ๒ | ก. ชิน, คุ้น, เช่น เคยสนาม เคยเวที. |
ฉาก ๑ | น. เครื่องบังหรือเครื่องกั้น มีหลายชนิด ใช้ตั้ง แขวน หรือพับได้, เครื่องประกอบเวทีละครเพื่อให้ดูสมจริงตามเนื้อเรื่อง เช่น ฉากป่า ฉากเมือง |
ฉาก ๑ | เครื่องสำหรับวัดมุมซึ่งมี ๙๐ องศา, มุมซึ่งกางได้ ๙๐ องศา เรียกว่า มุมฉาก, ลักษณนามเรียกตอนย่อยของละครในองก์หนึ่ง ๆ หรือตอนหนึ่งของละครที่เปิดม่านหน้าเวทีครั้งหนึ่ง ๆ เช่น ละคร ๓ ฉาก. |
ชักรอก | น. เรียกโขนที่ชักรอกผู้แสดง เช่น หนุมาน เบญกาย ลอยขึ้นไปจากพื้นเวทีแสดงท่าเหาะ ว่า โขนชักรอก. |
ตื่น | แสดงอาการผิดปรกติเพราะตกใจ ดีใจ หรือแปลกใจ เป็นต้น เช่น วัวตื่น ควายตื่น ตื่นเวที ตื่นยศ ตื่นไฟ |
นอกสังเวียน | ว. นอกวงการ, นอกเวที, เช่น เขาก็ดีแต่เก่งนอกสังเวียน. |
พระ | ใช้ประกอบหน้าคำอื่นแสดงความยกย่อง ๑. เทพเจ้าหรือเทวดาผู้เป็นใหญ่ เช่น พระอิศวร พระนารายณ์ พระพิรุณ ๒. พระเจ้าแผ่นดินหรือของที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าแผ่นดินและเจ้านายชั้นสูง เช่น พระมหากษัตริย์ พระราชวงศ์ ๓. สมณศักดิ์ชั้นราชาคณะ เช่น พระราชเวที พระเทพเมธี ๔. ภิกษุ เช่น พระสมศักดิ์ ๕. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น พระภูมิ |
มวยไทย | น. กีฬาชกมวยบนเวทีที่มีกติกายอมให้คู่ชกใช้เท้า ศอก และเข่าได้. |
มวยล้ม | น. การชกมวยบนเวทีที่คู่ต่อสู้ฝ่ายหนึ่งแกล้งยอมเป็นฝ่ายแพ้ เพื่อหวังผลในการพนัน, โดยปริยายหมายถึงการต่อสู้หรือเรื่องราวที่ดูเหมือนเอาจริงเอาจัง แต่กลับไม่จริงหรือเลิกล้มไป. |
มวยสากล | น. กีฬาชกมวยบนเวทีที่มีกติกาห้ามคู่ชกใช้อวัยวะอื่นใดนอกจากหมัด. |
เรื้อ | ก. ขาดการฝึกฝนเสียนาน เช่น ไม่ได้พูดภาษาฝรั่งเศสมานานเลยเรื้อไป, ห่างไปนาน เช่น เรื้อเวที เรื้อสังเวียน. |
ละคร | (-คอน) น. การแสดงประเภทหนึ่ง ผู้แสดงเรียกว่า ตัวละคร มีเวทีหรือสถานที่ใช้ในการแสดง มีบทให้ตัวละครแสดงตามเนื้อเรื่อง โดยมากมีดนตรีประกอบ มีลักษณะแตกต่างกันออกไปหลายชนิด |
ละครเพลง | น. ละครเวทีแบบหนึ่ง ผู้แสดงร้องเพลงดำเนินเรื่องตลอดทั้งเรื่อง ใช้เพลงและดนตรีสากล ไม่มีลูกคู่ จัดฉากและแต่งกายแบบสมัยนิยมตามเนื้อเรื่อง ต้องการเน้นเพลง เช่น จุฬาตรีคูณ บางครั้งนำบทละครเวที เช่น เรื่องราชินีบอด เรื่องเปลวสุริยา มาดัดแปลงเป็นละครเพลง. |
ลูกหลง | ลูกปืนที่ค้างอยู่ในกระบอกปืนโดยหลงลืม, ลูกปืนหรือสิ่งอื่นที่พลาดไปถูกผู้อื่นซึ่งมิได้หมายไว้, โดยปริยายหมายถึงการที่ผู้ใดผู้หนึ่งพลอยได้รับเคราะห์หรืออันตรายจากการกระทำของผู้อื่นโดยผู้กระทำมิได้มีเจตนาเช่นนั้น เช่น กรรมการห้ามมวยถูกลูกหลงของนักมวยลงไปหมอบกับพื้นเวที. |
อกตเวทิตา | (อะกะตะ-) น. ความเป็นผู้ไม่ประกาศอุปการคุณที่ท่านทำแก่ตน, ความเป็นผู้ไม่ตอบแทนอุปการคุณที่ท่านได้ทำแก่ตน, เป็นคำคู่กันกับ อกตัญญุตา. [ ป. อ ว่า ไม่ + กต ว่า (อุปการะ) ที่ท่านทำแล้ว + เวที ว่า ผู้ให้รู้, ผู้ประกาศ + ตา ว่า ความเป็น ]. |
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
ring | ๑. กลุ่มภายในพรรค๒. กลุ่มมิจฉาชีพ๓. เวทีการเมือง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
stage directions | บทกำกับเวที [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] |
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
Stage lighting | การจัดแสงบนเวที [TU Subject Heading] |
Stage management | การกำกับเวที [TU Subject Heading] |
Stage managers | ผู้กำกับเวที [TU Subject Heading] |
Stage-setting and scenery | การจัดเวทีและฉาก [TU Subject Heading] |
Asia Cooperation Dialogue | ความร่วมมือเอเชีย เวทีความร่วมมือในระดับทวีปเอเชีย โดยเป็นความคิดริเริ่มของไทยในการสร้างกรอบความร่วมมือที่ครอบคลุมทุกอนุ ภูมิภาคของเอเชีย มีวัตถุประสงค์ที่จะเชื่อมโยงจุดแข็งและต่อยอดความร่วมมือต่าง ๆ ของประเทศเอเชีย โดยอาศัยความแตกต่างหลากหลายและทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งเอเชียมีอยู่มา ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมุ่งสร้างความร่วมมือในวงกว้างทั้งทวีปเอเชีย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ซึ่งจะทำให้ภูมิภาคเอเชียแข็งแกร่งและเป็นหุ้นส่วนที่เข้มแข็งสำหรับภูมิภาค อื่น ๆ เอซีดีได้มีการประชุมครั้งแรกเมื่อ 18-19 มิถุนายน 2545 โดยมีผู้แทนระดับรัฐมนตรีจาก 18 ประเทศเข้าร่วม ที่ประชุมได้แบ่งกรอบความร่วมมือเป็น 2 มิติ ได้แก่ มิติการหารือ (dialogue dimension) และมิติโครงการความร่วมมือ (project dimension) เช่น การท่องเที่ยว ความมั่นคงทางพลังงาน และการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asian Bond Market) [การทูต] |
Australia-Thailand Business Council | สภาธุรกิจไทย-ออสเตรเลีย เป็นเวทีความร่วมมือด้านธุรกิจระหว่าง 2 ประเทศ [การทูต] |
ASEAN Inter-Parliamentary Organization | องค์การรัฐสภาอาเซียน " เป็นเวทีการประชุมของผู้แทนรัฐสภาของประเทศสมาชิกอาเซียน จัดขึ้น เป็นประจำทุกปี " [การทูต] |
ASEAN Regional Forum | การประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก " เป็นการประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับรัฐมนตรี ต่างประเทศของประเทศคู่เจรจาของอาเซียน (Dialogue Partners) ได้แก่ ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย จีน รัสเซีย และสหภาพยุโรป ผู้สังเกตการณ์ (Observers) ของอาเซียน ได้แก่ ปาปัวนิวกินี และประเทศอื่น ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น มองโกเลียและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) โดย ARF ได้ใช้ ""geographical footprint"" หรือขอบเขตทางภูมิศาสตร์ เป็นปัจจัยสำคัญเพื่อประกอบการพิจารณารับสมาชิกใหม่ ปัจจุบัน ARF มีประเทศสมาชิก 22 ประเทศ กับ 1 กลุ่ม (สหภาพยุโรป) โดยมีการประชุมเป็นประจำทุกปีในช่วงต่อเนื่องกับการประชุมรัฐมนตรี ต่างประเทศอาเซียน (ASEAN Ministerial Meeting - AMM) เป็นเวทีปรึกษาหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ระดับพหุภาคีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และพัฒนาแนวทางการ ดำเนินการทางการทูตเชิงป้องกัน (Preventive Diplomacy) ที่มุ่ง ป้องกันการเกิดและขยายตัวของความขัดแย้ง โดยใช้มาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ (Confidence Building Measures - CBMs) ระหว่างกัน ทั้งนี้ ARF มีการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2537 และไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ARF ระดับรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่ 7 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2543 นอกจากการประชุม ARF ประจำปีแล้วยังมีการดำเนินกิจกรรมระหว่างปี (Inter-sessional Activities) ในสองระดับ คือ กิจกรรมที่เป็นทางการ (Track I) และกิจกรรมที่ไม่เป็นทางการ (Track II) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับสถาบันวิชาการของ ประเทศผู้เข้าร่วม ARF ได้แก่ (1) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมกลุ่มสนับสนุนว่าด้วยมาตรการสร้างความไว้เนื้อ เชื่อใจของ ARF (ARF Inter-sessional Support Group on Confidence Building Measures - ARF ISG on CBMs) (2) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการบรรเทาภัยพิบัติของ ARF (ARF Inter-sessional Meeting on Disaster Relief - ARF ISM on DR) (3) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการรักษาสันติภาพของ ARF (Inter-sessional Meeting on Peace-keeping Operations - ARF ISM on PKO) และ (4) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการประสานและร่วมมือด้านการค้นหาและกู้ภัย ของ ARF (ARF Inter-sessional Meeting on Search and Rescue Coordination - ARF ISM on SAR) " [การทูต] |
ARF Security Policy Conference | เวทีการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายทหารในกรอบ การประชุม อาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก [การทูต] |
Conference on Disamament | การประชุมว่าด้วยการลดอาวุธ จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2522 เพื่อเป็นเวทีเจรจาการลดอาวุธระหว่างประเทศ มีขอบเขตความรับผิดชอบเกี่ยวกับประเด็นด้านการลดอาวุธทุกด้าน และมีหน้าที่ รายงานต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติทุกปี ปัจจุบันมีสมาชิก 65 ประเทศ(ไทยมิได้เป็นสมาชิก) โดยที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จในการเจรจาจัดทำความตกลงระหว่างประเทศ ด้านการลดอาวุธหลายฉบับ ที่สำคัญได้แก่ สนธิสัญญาไม่แพร่อาวุธนิวเคลียร์ อนุสัญญาห้ามเคมี อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ และสนธิสัญญาห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ [การทูต] |
East Asia Forum | เวทีเอเชียตะวันออก [การทูต] |
East Asia Latin American Forum | เวทีหารือระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกและลาตินอเมริกา " ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2542 ประกอบด้วยสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และประเทศจาก ภูมิภาคลาตินอเมริกา 12 ประเทศ เม็กซิโก ปานามา โคลัมเบีย เอกวาดอร์ เวเนซุเอลา เปรู บราซิล ชิลี อาร์เจนตินา อุรุกวัย ปารากวัย และโบลิเวีย " [การทูต] |
East Asia Vision Group | กลุ่มวิสัยทัศน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก จัดตั้งขึ้นตามข้อเสนอของประธานาธิบดีคิม แด จุง แห่งสาธารณรัฐเกาหลี ในระหว่างการประชุมหัวหน้ารัฐบาลอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ที่กรุงฮานอย เมื่อเดือนธันวาคม 2541 เพื่อเป็นเวทีระดมความคิดและแสวงหาแนวทางขยายความร่วมมือระหว่างกันในทุก ด้านและทุกระดับเพื่อมุ่งแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจและพัฒนาภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง [การทูต] |
Forum for Comprehensive Development of Indochina | เวทีเพื่อการพัฒนาอย่างสมบูรณ์แบบในอินโดจีน เป็นความริเริ่มโดยกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นที่จะให้มีเวทีปรึกษาหารือ เพื่อช่วยพัฒนาประเทศลาว กัมพูชา และเวียดนาม กลไกประกอบด้วยคณะทำงานด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คณะที่ปรึกษาภาคเอกชนโดยเน้นบทบาทในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาภาค เอกชนตลอดจนการสร้างความเชื่อมโยงกับกรอบความร่วมมือ (GMS) [การทูต] |
Forum for East Asia - Latin America Cooperation | เวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกและลาตินอเม ริกา สมาชิก 32 ประเทศ จากภูมิภาคเอเชียและลาตินอเมริกา โดยมีสมาชิก จากฝ่ายเอเชีย 15 ประเทศ คือ กลุ่ม ASEAN (10 ประเทศ) จีน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ และจากฝ่ายลาตินอเมริกา 17 ประเทศ ได้แก่ เม็กซิโก กัวเตมาลา เอลซัลวาดอร์ คอสตาริกา นิการากัว คิวบา ปานามา เปรู โคลอมเบีย เวเนซุเอลา บราซิล โบลิเวีย เอกวาดอร์ ปารากวัย อุรุกวัย อาร์เจนตินา และชิลี วัตถุประสงค์ จัดตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2542 มีการประชุมระดับรัฐมนตรีต่าง -ประเทศทุก 2 ปี ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ปีละ 2 ครั้ง และคณะทำงาน 3 คณะ ปีละ 2 ครั้ง (คณะทำงานด้านการเมือง วัฒนธรรม และการศึกษา / ด้านเศรษฐกิจและสังคม / และด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเวทีปรึกษาหารือและร่วมมือกันอย่างไม่เป็นทางการระหว่างประเทศเอเชียและ ลาตินอเมริกา โดยมีเป้าหมายไปที่การดำเนินโครงการความร่วมมือในทุกสาขาที่ประเทศสมาชิกมี ความสนใจร่วมกัน [การทูต] |
Francophonie (International Organization of the Francophony) | องค์การระหว่างประเทศกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษา ฝรั่งเศส ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2513 ที่เมือง Niamey ประเทศ Niger เพื่อเป็นเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและประสานนโยบายความร่วมมือต่าง ๆ เน้นการส่งเสริมประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน การส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรมโดยใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นสื่อกลาง และส่งเสริมความร่วมมือพหุพาคีเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ปัจจุบันมีสมาชิก 53 ประเทศ (เบลเยียม บัลแกเรีย ฝรั่งเศส ลักเซมเบิร์ก มอลโดวา โมนาโก โรมาเนีย สวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา โดมินิกา เฮติ เซนต์ลูเซีย เบนิน บูร์กินาฟาโซ บุรุนดี แคเมอรูน เคปเวิร์ด สาธารณรัฐแอฟริกากลาง ชาด คอโมโรส สาธารณรัฐคองโก โกตดิวัวร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก จิบูตี อียิปต์ อิเควทอเรียลกินี กาบอง กินี กินีบิสเซา มาดากัสการ์ มาลี มอริเตเนีย มอริเซียส โมร็อกโก ไนเจอร์ รวันดา เซาตูเมและปรินซิปี เซเนกัล เชเชลส์ โตโก ตูนีเซีย กัมพูชา ลาว เลบานอน เวียดนาม วานูอาตู แอลเบเนีย มาซิโดเนีย สาธารณรัฐเช็ก ลิทัวเนีย สาธารณรัฐสโลวัก สาธารณรัฐโลวีเนีย และโปแลนด์) และ 3 มลรัฐ [ แคนาดา-นิวบรันสวิก แคนาดา- ควิเบก และชุมชนฝรั่งเศสในเบลเยียม (French Community in Belgium) ] [การทูต] |
India-Brazil-South Africa | เวทีเจรจาสามฝ่าย ระหว่างอินเดีย บราซิล และแอฟริกาใต้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสิมความร่วมมือในกรอบใต้-ใต้ใน วงกว้าง เป้าหมายหลัก IBSA คือการส่งเสริมและขยายโอกาส ด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาสังคม และการเลแกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน [การทูต] |
International Maritime Organization | องค์การกิจการทางทะเลระหว่างประเทศ " เป็นทบวงการชำนัญพิเศษขององค์การสหประชาชาติ ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2502 โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเป็นเวทีระหว่างประเทศสมาชิก ในการกำหนดมาตรฐาน และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับความปลอดภัย ในการเดินเรือ และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล รวมทั้งเป็นกลไกในการสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างประเทศสมาชิก ปัจจุบัน มีสมาชิก 155 ประเทศ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร " [การทูต] |
The New Partnership for Africa?s Development | หุ้นส่วนใหม่เพื่อการพัฒนาแอฟริกา เป็นแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของแอฟริกา มีวัตถุประสงค์ในการ ส่งเสริมความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศแอฟริกา การขจัดความยากจนและการขจัดความเสียเปรียบของประเทศแอฟริกาในยุคโลกาภิวัตน์ NEPAD พัฒนามาจากการประชุม สุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ G8 ที่ญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2542 ซึ่งในการประชุมนี้ ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ประธานาธิบดีไนจีเรีย และประธานาธิบดี แอลจีเรียได้เสนอต่อที่ประชุม ขอให้กลุ่มประเทศเหนือและประเทศใต้ร่วมกันแก้ปัญหาที่ทั้งสองกลุ่มประเทศ เผชิญอยู่ บนพื้นฐานของ ผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเน้นการพัฒนาประเทศที่ยากจน เช่น ประเทศ ในภูมิภาคแอฟริกา ต่อมาบรรดาผู้นำของกลุ่มประเทศแอฟริกาได้ร่วมกันกำหนดแผนพัฒนาแอฟริกาสำหรับ ใช้ขอรับการสนับสนุนจากประเทศพัฒนาแล้วในเวทีการประชุมระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่เรียกว่า New Africa Initiative (NAI) ที่ประชุมองค์การเอกภาพแอฟริกา หรือ OAU (ซึ่งต่อมากลายเป็น African Union ? AU) ได้เห็นชอบต่อแผน NAI ดังกล่าวในเดือนกรกฎาคม 2544 ผู้นำของประเทศแอฟริกาได้นำเสนอ NAI ต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ G8 เมื่อปี พ.ศ. 2544 และได้รับการปรับปรุงแก้ไขจนเป็น NEPAD ในปัจจุบัน [การทูต] |
Neutralization, Neutrality หรือ Neutralism | คำว่า Neutraliza-tion หมายถึง กระบวนการซึ่งรัฐได้รับการค้ำประกันความเป็นเอกราชและบูรณภาพอย่างถาวรภาย ใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ รัฐที่ได้รับการประกันรับรองให้เป็นกลาง (Neutralized State) เช่นนี้จะผูกมัดตนว่า จะละเว้นจาการใช้อาวุธโจมตีไม่ว่าประเทศใดทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าจะถูกโจมตีก่อน ตัวอย่างอันเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความ เป็นกลางอย่างถาวร คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามปฏิญญา (Declaration) ซึ่งมีการลงนามกัน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1815 ประเทศใหญ่ ๆ ในสมัยนั้น คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษ ปรัสเซีย และรัสเซีย ได้รับรองว่า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม จึงเป็นการจำเป็นที่จะให้รัฐเฮลเวติก(Helvetic Swiss States) ได้รับการประกันความเป็นกลางตลอดไป ทั้งยังประกาศด้วยว่า รัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์ตกลงรับปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้ระบุไว้เมื่อไร ความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์ก็จะได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางในทันที และแล้วสมาพันธ์สวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประกาศยอมรับปฏิบัติตาม หรือให้ภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1815 บรรดาประเทศที่รับรองค้ำประกันความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์จึงประกาศ รับรองดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1815 อนึ่ง การค้ำประกันความเป็นกลางในลักษณะที่ครอบคลุมทั้งประเทศของรัฐใดรัฐหนึ่ง นั้น มีความแตกต่างกับการค้ำประกันเพียงดินแดนส่วนใดส่วนหนึ่งของรัฐหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าดินแดนส่วนหนึ่งของรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางจะ ไม่ยอมให้ฝ่ายใดใช้ดินแดนส่วนที่ค้ำประกันนั้นเป็นเวทีสงครามเป็นอันขาด การค้ำประกันความเป็นกลางยังมีอีกแบบหนึ่งคือ รัฐหนึ่งจะประกาศตนแต่ฝ่ายเดียวว่าจะรักษาความเป็นกลางของตนตลอดไปโดยถาวร แต่ในกรณีเช่นนี้ ความเป็นเอกราชและบูรณภาพของรัฐที่ประกาศตนเป็นกลางเพียงฝ่ายเดียว จะไม่ได้รับการค้ำประกันร่วมกันจากรัฐอื่น ๆ แต่อย่างใดส่วนคติหรือลัทธิความเป็นกลาง (Neutralism) เป็นศัพท์ที่หมายถึงสถานภาพของรัฐต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการน้ำประเทศของตนเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสงครามเย็น ( Cold War) ที่กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ระหว่างกลุ่มประเทศภาคตะวันออกกับกลุ่มประเทศภาค ตะวันตก นอกจากนี้ ผู้นำบางคนในกลุ่มของรัฐที่เป็นกลาง ไม่เห็นด้วยกีบการที่ใช้คำว่า ?Neutralism? เขาเหล่านี้เห็นว่าควรจะใช้คำว่า ?ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด? ( Uncommitted ) มากกว่าจะเห็นได้ว่า คำว่า ?ความเป็นกลาง? ( Neutrality ) นั้น หมายถึงความเป็นกลางโดยถาวร ซึ่งได้รับการค้ำประกันจากกลุ่มประเทศกลุ่มหนึ่ง เช่นในกรณีประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้หรือหมายถึงความเป็นกลางเฉพาะในดินแดน ส่วนหนึ่งของรัฐที่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปทำสงครามกันในดินแดนที่เป็นกลางส่วน นั้นเป็นอันขาดก็ได้ ดังนั้น พอจะเห็นได้ว่า แก่นแท้ในความหมายของความเป็นกลาง ( Neutrality) จึงอยู่ที่ท่าที หรือ ทัศนคติของประเทศที่ดำรงตนเป็นกลาง ไม่ต้องการเข้าข้างประเทศคู่สงครามใด ๆ ในสงคราม ในสมัยก่อนผู้คนยังไม่รู้จักความคิดเรื่องความเป็นกลางดังที่รู้จักเข้าใจ กันในปัจจุบัน ความเป็นกลางเป็นผลมาจากการทยอยวางหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของความเป็นกลาง นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน [การทูต] |
Organisation for Economic Cooperation and Development | องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา จัดตั้งขึ้นตามอนุสัญญาที่ลงนามในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2503 และมีผลบังคับใช้ วันที่ 30 กันยายน 2504 มีสมาชิก 29 ประเทศ (ส่วนใหญ่เป็นประเทศพัฒนาแล้ว) เป็นเวทีหารือระหว่างรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส [การทูต] |
Shanghai Cooperation Organization | พัฒนามาจากเวทีการประชุม Shanghai Five ซึ่งจีนเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 เดิมมีสมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ จีน รัสเซีย คาซัคสถาน สาธารณรัฐคีร์กีซ และทาจิกิสถาน ต่อมาเมื่อเดือนมิถุนายน 2544 อุซเบกิสถาน ได้เข้าเป็นสมาชิกด้วย จึงมีการเปลี่ยนชื่อกลไกความ ร่วมมือนี้เป็น Shanghai Cooperation Organization เดิมมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับพรมแดนของประเทศสมาชิก และต่อมาได้ขยายขอบเขตความร่วมมือให้ครอบคลุม ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจการค้า วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม การศึกษา พลังงาน การคมนาคม [การทูต] |
Southeast Asia Nuclear Weapon-Free Zone Treaty | สนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ " เป็นสนธิสัญญาของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้ง 10 ประเทศ ลงนามในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 5 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2538 มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมสันติภาพ และเสถียรภาพของภูมิภาคและส่งเสริมความพยายามระหว่างประเทศในระดับภูมิภาคใน การป้องกันการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่ง นอกจากเป็นส่วนประกอบสำคัญของแผนงานว่าด้วยเขตแห่งสันติภาพ เสรีภาพ และความเป็นกลางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Zone of Peace, Freedom and Neutrality - ZOPFAN) แล้ว ยังเป็นการสนับ สนุนกระบวนการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ในเวทีระดับโลกอีกด้วย " [การทูต] |
South Pacific Forum | เวทีหารือของกลุ่มประเทศในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ " จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2514 ประเทศสมาชิกประกอบด้วย ออสเตรเลีย หมู่เกาะคุก ไมโครนีเซีย คีรีบาส หมู่เกาะมาร์แชล เนารู นิวซีแลนด์ นุย ปาปัวนิวกินี หมู่เกาะโซโลมอน ตูวาลู ซามัวตะวันตก วานูอาตู ตองกา ฟิจิ " [การทูต] |
United Nations Conference on Trade and Development | การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) " เป็นองค์กรของสหประชาชาติที่รับผิดชอบเรื่องการค้า การเงิน การ ลงทุน เทคโนโลยี และการพัฒนาแบบเบ็ดเสร็จ โดยมีหน้าที่เป็นเวทีประสานนโยบายระหว่างรัฐบาล ศึกษาวิเคราะห์สภาวะเศรษฐกิจโลกและให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ประเทศ กำลังพัฒนา ปัจจุบันมีรัฐสมาชิก 190 ประเทศ ประชุมระดับรัฐมนตรีปีละ 4 ครั้ง ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอังค์ถัดครั้งล่าสุด (ครั้งที่ 10) เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2543 " [การทูต] |
World Economic Forum | การประชุม "เวทีเศรษฐกิจโลก" นาย Klaus Schwab ได้ริเริ่มให้มีการประชุมครั้งแรกขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2513 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งในปี พ.ศ. 2514 นาย Schwab ได้จัดตั้งเป็น European Management Forum ในลักษณะขององค์กรที่ไม่หวังผลกำไร และเปิดให้นักธุรกิจชั้นนำ รวมทั้งนักการเมืองระดับสูงเป็นสมาชิก ต่อมาในปี พ.ศ. 2530 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น World Economic Forum และเปิดรับสมาชิกจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก มีสำนักงานตั้งอยู่ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กิจกรรมสำคัญประจำปี ได้แก่ การประชุมประจำปีที่เมืองดาวอส (มกราคม หรือ กุมภาพันธ์) การจัดพิมพ์ World Competitiveness Report และการจัดประชุมเพื่อหารือประเด็นเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองในประเทศต่าง ๆ [การทูต] |
Knowledge Forum | เวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้ [การจัดการความรู้] |
ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
ด้วยกตเวที | [dūay katawēthī] (adv) EN: gratefully |
กตัญญูกตเวที | [katanyūkatawēthī] (n) EN: gratitude ; grateful |
กตเวที | [katawēthī] (n) EN: grateful person ; appreciative person |
ละครเวที | [lakhøn wēthī] (n) EN: play ; stageplay |
ผู้กำกับเวที | [phūkamkap wēthī] (n, exp) EN: stage manager |
แสดงกตเวที | [sadaēng katawēthī] (v, exp) EN: be grateful to ; show gratitude (to/for) |
เวที | [wēthī] (n) EN: stage ; arena ; platform ; rostrum ; ring ; dais FR: scène [ f ] ; estrade [ f ] ; tribune [ f ] ; chaire [ f ] ; ring [ m ] |
เวที | [wēthī] (n) EN: center ; agora ; forum FR: forum [ m ] |
เวทีการเมือง | [wēthī kānmeūang] (n, exp) EN: political stage ; political arena FR: arène politique [ f ] |
เวทีมวย | [wēthī mūay] (n, exp) EN: boxing ring ; prize ring FR: ring de boxe [ m ] |
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
acting | (adj) เพื่อใช้สำหรับแสดงบนเวทีละคร |
agora | (n) เวที |
arena | (n) สนามกีฬา, See also: สังเวียน, เวที, Syn. field, ground, coliseum |
backstage | (adv) อยู่ (หรือไป) หลังเวที, See also: อยู่ หรือไป หลังฉาก, ถอยไปอยู่หลังฉาก, Syn. offstage |
backstage | (adj) ซึ่งอยู่หลังเวที, See also: ซึ่งอยู่หลังฉาก, Syn. behind-the-scenes |
bowl | (n) เวที |
cabaret | (n) การแสดงบนเวที (เช่น การเต้นรำ) |
callboy | (n) ผู้ที่ทำหน้าที่เรียกนักแสดงขึ้นเวที |
cockpit | (n) เวทีชนไก่ |
dais | (n) เวที, See also: ปะรำ, ยกพื้น, Syn. platform |
dance floor | (n) เวทีสำหรับเต้นรำ, See also: ฟลอร์เต้นรำ |
footlights | (n) แสงไฟหน้าเวที |
go off | (phrv) ออกจาก (เวที, ฉาก, นักแสดง) |
go on with | (phrv) ปรากฏตัวบนเวทีพร้อมกับ |
go on | (phrv) เกิดขึ้นบน (เวที หรือสนามกีฬา), Syn. come on |
go up | (phrv) (ม่านบนเวที)เปิดเพื่อเริ่มการแสดง, See also: ม่านยกสูงขึ้นเพื่อเริ่มการแสดง |
take the floor | (idm) เดินไปยังเวทีเต้นรำ |
limelight | (n) ไฟสำหรับฉายตัวละครบนเวทีสมัยก่อน, Syn. spotlight |
mise en scene | (n) การจัดฉากบนเวที |
offstage | (adj) ซึ่งไม่แสดงบนเวที, See also: ซึ่งเกิดในชีวิตจริง |
onstage | (adj) ซึ่งอยู่บนเวที, See also: ซึ่งอยู่ต่อหน้าผู้ชม |
opera glasses | (n) กล้องเล็กสำหรับส่องดูผู้แสดงบนเวที |
orchestral pit | (n) บริเวณกั้นไว้หน้าเวทีแสดงสำหรับวงดนตรีนั่ง, See also: เช่น การแสดงบัลเล่ต์ โอเปร่า, Syn. pit |
plank | (n) เวทีที่นักการเมืองยืนพูดหาเสียง |
platform | (n) แท่น, See also: เวทีสำหรับกล่าวคำปราศรัย, เวที, ยกพื้น, Syn. dais, pulpit |
prize ring | (n) เวทีมวย, Syn. gymnasium, arena |
proscenium | (n) ส่วนหน้าของเวที |
put on | (phrv) บอกให้ขึ้น (เวที), See also: บอกให้เข้าสู่สนามกีฬา |
rostrum | (n) ยกพื้นสำหรับกล่าวคำปราศรัย, See also: แท่นหรือเวที, Syn. platform, stage |
runway | (n) เวทีที่ยื่นเป็นทางยาวไปยังผู้ชม |
scenery | (n) ฉากบนเวที, Syn. backdrop |
set | (n) ฉาก, See also: ม่านหลังเวที, Syn. setting, backdrop |
stage | (n) เวที, See also: แท่น, Syn. platform |
stage fright | (n) ความประหม่าเมื่ออยู่บนเวที |
stagehand | (n) เจ้าหน้าควบคุมเวที |
stage-manage | (vt) กำกับเวที |
staging | (n) การแสดงบนเวที |
stagy | (adj) เกี่ยวกับการแสดงบนเวที, Syn. showy, dramatic |
striplight | (n) ไฟส่องที่เรียงเป็นแถวบนเวที, Syn. row of lamps |
tableau curtain | (n) ม่านเวทีที่เลื่อนจาก2ข้างเวทีแล้วพบกันตรงกลางเวที, See also: คำย่อคือ tab |
upstage | (adv) หลังเวที, See also: หลังฉาก, Ant. downstage |
upstage | (adj) ซึ่งอยู่หลังเวที, See also: ซึ่งอยู่หลังฉาก, Ant. downstage |
upstage | (n) หลังเวที, See also: ด้านหลังเวที |
upstager | (n) ผู้อยู่หลังเวที |
Hope Dictionary
a gogo | (อาโก' โก) มากเท่าที่คุณต้องการ, ไม่มีขอบเขต, เดินเพ่นพ่าน, จังหวะเต้นรำอะโกโก้, เวที่เต้นรำจังหวะอะโกโก้, Syn. a Go go, a go-go, au gogo |
apron | (เอ'พรอน) n. ผ้ากันเปื้อนส่วนหน้าของร่างกาย โดยคาดไว้ที่เอว, กะบังโลหะ, ลานจอดเครื่องบิน, ที่กำบัง, ที่ค้ำ, หน้าเวที, Syn. bib, pinafore |
arena | (อะรี'นะ) n. สนามกีฬา, สังเวียน, เวที |
arena theatre | โรงละครที่มีเวทีและมีอย่างน้อยสามด้านที่ล้อมเวที |
bandstand | (แบน'สแทนดฺ) n. เวทีวงดนตรีที่ยกขึ้น, Syn. platform -pl. bandsmen |
board | (บอร์ดฺ) { boarded, boarding, boards } n. ไม้กระดาน, แผ่นกระดาน, แผ่นกระดาษแข็ง, กระดานหมากรุก, ข้างเรือ, ค่าอาหาร, อาหาร, ที่พัก, โต๊ะประชุม, โต๊ะอาหาร, เวที, คณะกรรมการ, สภา, กลุ่มผู้บริหารของหน่วยงาน, แป้นสวิตช์ไฟฟ้าบนผลฝาผนัง, ขอบ, ข้าง vt. ใช้กระดานปู, บริการอาหาร, บริการ แผงวงจรแผงหมายถึง แผ่นพลาสติกที่มีการติดตั้งวงจรไฟฟ้าซึ่งใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ แผงเหล่านี้จะทำหน้าที่ต่าง ๆ เช่น แผงวงจรเร่งความเร็ว (accelerator board) จะมีตัวประมวลผลที่ทำงานเร็วกว่าตัวประมวลผลทีมีอยู่เดิม แผงวงจรภาพ (video board) แผงวงจรเสียง (sound board) ก็จะเป็นตัวเพิ่มภาพและเสียง เป็นต้น |
callboy | (คอล'บอย) n. พนักงานชายบริการในโรงแรม, พนักงานคอยเรียกผู้แสดงขึ้นเวที |
canvas | (แคน'เวิส) n. ผ้าใบ, ภาพเขียนน้ำมันบนผ้าใบ, เต๊นท์, ผ้าใบของเรือ, ใบเรือ, พื้นเวทีมวย -Id. (kiss the canvas ถูกชกล้ม) |
dais | (เด'อิส) n. เวที, ปะรำ, ยกพื้น, แท่นบรรยาย, โต๊ะบรรยาย |
exit | (เอค'ซิท, เอค'ซิท) n. ทางออก, ประตูฉุกเฉิน, การจากไป, การลงจากเวที, การตาย. vi. ออกไป, จากไป, ลงจากเวที, ตาย. -make one's exit ออกไป, จากไป, Syn. outlet, ออกทางออกหมายถึงคำสั่งที่ผู้ใช้โปรแกรมใช้ เมื่อต้องการหยุดหรือเลิกใช้โปรแกรมนั้นเพื่อกลับออกไปสู่ระบบปฏิบัติการ operating systems หลังจากที่ใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว โปรแกรมต่าง ๆ ของแมคอินทอชมักจะใช้คำว่า Quit แทน ซึ่งก็มีความหมายเหมือนกัน ในระบบวินโดว์ของพีซี ทุกโปรแกรมจะมีคำสั่งนี้ไว้ให้เลือกใต้เมนู File ซึ่งเป็นคำสั่งกลับออกไปยังระบบวินโดว์นั้นเอง |
highlight | (ไฮ'ไลทฺ) vt. เน้น, ทำให้เด่น, ฉายแสงจ้าไปที่. n. เหตุการณ์ที่สำคัญ, บริเวณที่มีแสงสว่างจ้าที่สุดบนเวที, Syn. core, crux |
limelight | (ไลมฺ'ไลทฺ) n. ไฟแก๊สสำหรับฉายตัวละครบนเวทีสมัยก่อน, แสงไฟหินปูน, จุดที่ประชาชนสนใจ, สายตาของประชาชน., See also: limelighter n. |
offstage | (ออฟ'สเทจ) adv. นอกเวที. adj. นอกเวที, หลังเวที, |
platform | (แพลท'ฟอร์ม) n. แท่น, ชานชลาสถานี, เวทีสำหรับกล่าวคำปราศัย, ยกพื้น, ดาดฟ้า, แท่นยิง, แท่นปืนใหญ่, นโยบายของพรรคการเมือง, คำแถลงการณ์, การปราศรัยต่อมวลชน, การแสดงปาฐกถา |
prize ring | n. เวทีมวย, การซ้อมชกมวย |
producer | (โพรดิว'เซอะ) n. ผู้ผลิต, ผู้ให้กำเนิด, ผู้สร้าง, ผู้อำนวยการสร้างภาพยนต์, ผู้ควบคุมเวที |
proscenium | (โพรซี'เนียม) n. ส่วนหน้าของเวทีที่กั้นระหว่างเวทีกับผู้ชม, ส่วนหน้า, เวที, เวทีนอกม่าน (ตอนหน้า) pl. proscenia |
ringside | n. บริเวณใกล้เวทีการแสดง, บริเวณใกล้เวทีมวย, บริเวณที่สามารถมองเห็นการแสดง |
rostrum | (รอส'ทรัม) n. จะงอนปาก, ปุ่มหรือหัวที่คล้ายของ, พลับพลา, ยกพื้น, เวทีพูด pl. rostra, rostrums, Syn. platform |
scene | (ซีน) n. ฉาก, เวที, ภาพ, เหตุการณ์, สถานที่เกิดเหตุ, (ละคร) บทหนึ่ง, (ภาพยนตร์) ตอนหนึ่ง, เรื่องราว, อุปกรณ์ประกอบฉาก, สิ่งแวดล้อม, ทัศนียภาพ, ภาพภูมิประเทศ, -Phr. (behind the scenes ส่วนตัว, เป็นความลับ), Syn. view, landscape, setting, display, s |
stage | (สเทจฺ) n. เวที, เวทีละคร, ศิลปะละคร, ร้าน, แท่น, รถม้าโดยสาร, ระยะการเจริญเติบโต, ตอน, ระยะ, สมัย, ช่วง, โป๊ะ, ท่าเรือพื้นราบ, ชั้น, ขั้น, ขั้นบันได vt. แสดงละคร, นำขึ้นแสดง -Phr. (the stage อาชีพการแสดงละคร) |
tableau curtain | n. ม่านเวทีละครชนิดเป็นกลาง |
tormenter | (ทอร์เมน'เทอะ) n. ผู้ทรมาน, ตัวมาร, สิ่งที่ทรมาน, เครื่องหมาย, ม่านปีกทั้งสองข้างของเวที, ส้อมขนาดยาว |
tormentor | (ทอร์เมน'เทอะ) n. ผู้ทรมาน, ตัวมาร, สิ่งที่ทรมาน, เครื่องหมาย, ม่านปีกทั้งสองข้างของเวที, ส้อมขนาดยาว |
tribune | (ทริบ'บิวน์) n. ผู้พิทักษ์สิทธิของประชาชน, เจ้าหน้าที่คุ้มครองประชาชน, เวทีแสดงสุนทรพจน์, เวทีอภิปราย, ยกพื้นสำหรับการแสดงสุนทรพจน์, See also: tribuneship n. |
upstage | (อัพ'สเทจฺ) adv., adj., n. หลังเวที, หลังฉาก vt. ไปทางหลังเวที, กระทำล้ำหน้า, แย่งละคร. |
Nontri Dictionary
backdrop | (n) ฉากหลัง, ม่านหลังเวที |
backstage | (adv) หลังเวที, หลังฉาก, อย่างลับๆ, ส่วนตัว |
canvas | (n) ผ้าใบ, เต็นท์, พื้นเวทีมวย, ภาพ |
dais | (n) เวที, แท่นยกพื้น, โต๊ะบรรยาย, ปะรำ |
footlights | (n) ไฟฟ้าหน้าเวที |
kiosk | (n) แผงขายหนังสือพิมพ์, ตู้โทรศัพท์, ปะรำ, ศาลาพักร้อน, เวทีดนตรี |
platform | (n) ชานชาลา, เวที, ยกพื้น, แท่น, ดาดฟ้า |
pulpit | (n) เวที, มุข, ธรรมาสน์ |
rostrum | (n) พลับพลา, เวทีพูด, ยกพื้น |
scene | (n) ฉาก, ภาพ, เวที, ตอน, เหตุการณ์, เรื่องราว, ทัศนียภาพ |
tribune | (n) ผู้พิทักษ์ประชากร, เวทีอภิปราย |
wing | (n) ปีก, กองบินน้อย, บังโคลนรถ, ฉากข้างเวที, ฝ่าย, ซีก |
Longdo Unapproved EN-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
curtain call | (n) เวลาที่ผู้แสดงออกมายืนหน้าเวทีหลังจบการแสดงเพื่อรับคำขอบคุณ |
filial piety | (n) ความกตัญญูกตเวที |
ป้ายรางวัล | แผ่นบ้ายที่ใช้มอบรางวัลบนเวที |
Longdo Unapproved JP-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
舞台 | [ぶたい, butai] (n) สเทจฺ) n. เวที, เวทีละคร, ศิลปะละคร, ร้าน, แท่น, รถม้าโดยสาร, ระยะการเจริญเติบโต, ตอน, ระยะ, สมัย, ช่วง, โป๊ะ, ท่าเรือพื้นราบ, ชั้น, ขั้น, ขั้นบันได vt. แสดงละคร, นำขึ้นแสดง -Phr. (the stage อาชีพการแสดงละคร) |
Longdo Approved DE-TH
Bühne | (n) |die, pl. Bühnen| เวที |
Laufsteg | (n) |der, pl. Laufstege| เวทีเดินแบบ, ทางเดินยาวแคบใช้ในการเดินแฟชั่น เช่น Auf dem Laufsteg ist Topmodel Gisele Bündchen im Moment nicht häufig zu sehen. |
Longdo Approved FR-TH
faire du théâtre | (vt) เล่นละครเวที |
entrée des artistes | (n) ทางขึ้นเวที, See also: entrée |
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Time: 0.0315 seconds, cache age: 11.799 (clear)
ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม