*อึ้ง* แปลว่าอะไร ดูความหมาย ตัวอย่างประโยค หมายความว่า พจนานุกรม Longdo Dictionary แปลภาษา คำศัพท์
×
Dictionaries languages







English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


114 ผลลัพธ์ สำหรับ *อึ้ง*
ภาษา
หรือค้นหา: อึ้ง, -อึ้ง-

มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
อึ้ง(v) be silent, See also: be quiet, Example: ผู้จัดการอึ้งไปนาน ก่อนพยักหน้าตอบรับ, Thai Definition: นิ่งอยู่พักหนึ่ง
อ้ำอึ้ง(v) be speechless, Syn. นิ่ง, อึ้ง, Example: เมื่อปรายตาไปบนผนัง พวกเราต่างก็อ้ำอึ้งหันไปมองหน้ากัน เพราะแทบจะทั่วทั้งผนังมีปีกนกน้อยใหญ่ประดับครืดเต็มไปหมด, Thai Definition: นิ่งอั้นไม่ยอมพูด, พูดไม่ออกด้วยจนใจ หรือจนปัญญา, ไม่รู้จะพูดอะไร
นิ่งอึ้ง(v) be dumb, See also: be voiceless, be speechless, be mute, Syn. นิ่งเฉย, นิ่งเงียบ, Example: เธอตอบเขาเบาๆ หลังจากนิ่งอึ้งไปนาน, Thai Definition: พูดไม่ออกเพราะตกใจเป็นต้น
หนักอึ้ง(adv) heavily, Syn. หนัก, Ant. เบาหวิว, Example: เขาสลัดคราบจอมปลอมต่างๆ ที่พันธนาการรอบตัวอย่างหนักอึ้งทิ้งจนหมดสิ้น, Thai Definition: มากจนเกือบจะแบกรับไม่ไหว
หนักอึ้ง(v) be heavy, Syn. หนัก, Ant. เบาหวิว, Example: กระเป๋าใบนี้หนักอึ้งจนต้องใช้คน 3 คนช่วยกันแบก, Thai Definition: มากจนเกือบจะแบกรับไม่ไหว
อ้ำๆ อึ้ง(adv) murmur, Syn. อ้ำอึ้ง, Example: เขากล่าวตอบอย่างอ้ำๆ อึ้งๆ กับนักข่าวเมื่อถูกถามถึงข่าวฉาวที่เกิดขึ้น, Thai Definition: กล่าวอย่างไม่เต็มปาก

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
กระดูกอึ่งน. ชื่อไม้พุ่ม ๓ ชนิดในสกุล Dendrolobium และ Dicerma วงศ์ Leguminosae คือ ชนิด D. triangulare (Retz.) Schindl. มักขึ้นในที่โล่งตํ่าซึ่งชุ่มแฉะในฤดูฝน ฝักเล็กแบนคอดกิ่วเป็นข้อ ๆ ใช้ทำยาได้, ขมิ้นนาง ขมิ้นลิง ลูกประคำผี หน้านวล เหนียวหมา หรือ อีเหนียว ก็เรียก
กระดูกอึ่งชนิด D. lanceolatum (Dunn) Schindl. ขึ้นตามป่าผลัดใบที่มีต้นไผ่ สูงประมาณ ๑ เมตร ใบรูปไข่กลับ โคนใบสอบ, กระดูกเขียด แกลบหนู แกลบหูหนู แปรงหูหนู หรือ อึ่งใหญ่ ก็เรียก
กระดูกอึ่งและชนิด Dicerma biarticulatum (L.) DC. ชอบขึ้นตามไหล่ทางที่ตัดผ่านทุ่งนา สูงประมาณ ๑ เมตร ใบเล็กคล้ายใบมะขาม ดอกสีม่วง.
ปัญญาแค่หางอึ่งว. มีความรู้น้อย, โง่.
อ้ำอึ้งก. นิ่งอั้นไม่ยอมพูด, พูดไม่ออกด้วยจนใจหรือจนปัญญา, ไม่รู้จะพูดอะไร.
อึ่งน. ชื่อสัตว์สะเทินนํ้าสะเทินบกหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Microhylidae ขนาดแตกต่างกันแล้วแต่ชนิดอยู่ระหว่าง ๒-๘ เซนติเมตร รูปร่างอ้วนป้อมและมักพองตัวได้ ส่วนใหญ่เป็นสีเทาหรือน้ำตาลเข้ม ผิวหนังเรียบ บริเวณฝ่าตีนมีสันแข็งใช้ขุดดิน อาศัยอยู่ใต้ผิวดินหรือใต้ก้อนหินในเวลากลางวันและในฤดูแล้ง ออกหากินตามพื้นดินเมื่ออากาศชื้นโดยเฉพาะช่วงหลังฝนตก กินแมลงและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น อึ่งอ่างหรืออึ่งอ่างบ้าน ( Kaloula pulchra Gray) อึ่งแว่น อึ่งแดง หรืออึ่งลาย [ Calluella guttulata (Blyth) ].
อึ่งอ่างน. ชื่อสัตว์สะเทินนํ้าสะเทินบกในสกุล Kaloula วงศ์ Microhylidae สีนํ้าตาลลายขาว โตเต็มวัยยาวประมาณ ๗ เซนติเมตร มักทำตัวพองเมื่อถูกรบกวน ตัวผู้ร้องเสียงดังเมื่อนํ้านองหลังฝนตก ที่พบทั่วไปมี ๒ ชนิด คือ อึ่งอ่างหรืออึ่งอ่างบ้าน ( K. pulchra Gray) และอึ่งอ่างหลังขีดหรืออึ่งอ่างก้นขีด [ K. mediolineata (Smith) ].
อึ้งว. นิ่งอั้นอยู่.
อึ่งใหญ่ดู กระดูกอึ่ง.
กระดูกเขียดดู กระดูกอึ่ง.
แกลบหนู, แกลบหูหนู(แกฺลบ-) ดู กระดูกอึ่ง.
ขมิ้นนางดู กระดูกอึ่ง.
ขมิ้นลิงดู กระดูกอึ่ง.
งันก. หยุดชะงัก เช่น นิ่งงัน, ไม่งอกงาม เช่น ต้นไม้งันไป, อาการที่ชะงักนิ่งอึ้งไปชั่วขณะเพราะคาดไม่ถึง ในคำว่า ตะลึงงัน.
ตะลึงก. อาการที่ชะงักงันนิ่งอึ้งไปชั่วขณะหนึ่งเพราะคาดไม่ถึง.
เบ่งก. ตะเบ็ง เช่น เบ่งเสียง, พยายามขับดันสิ่งเช่นอุจจาระปัสสาวะเป็นต้นให้ออกมา เช่น เบ่งอุจจาระเบ่งปัสสาวะ เบ่งลูก, ทำให้พองตัวขึ้นหรือขยายตัวออก เช่น อึ่งอ่างเบ่ง เบ่งกล้าม
แปรงหูหนูดู กระดูกอึ่ง.
พองก. อาการที่โป่งหรือฟูขึ้นมาเพราะมีอากาศหรือน้ำเป็นต้นอยู่ภายใน เช่น ลูกโป่งพองลม ถูกน้ำร้อนลวกหนังพอง เหยียบไฟเท้าพอง, ทำให้โป่ง ฟู หรือตั้งขึ้น เช่น อึ่งอ่างพองตัว เป่าลูกโป่งให้พอง เป่าปี่จนแก้มพอง ลิงพองขน แมวทำขนพอง
ลูกประคำผีดู กระดูกอึ่ง.
สะเทินน้ำสะเทินบกว. ที่อยู่ได้หรือปฏิบัติการได้ทั้งในนํ้าและบนบก เช่น การรบสะเทินนํ้าสะเทินบก เรือสะเทินนํ้าสะเทินบก เครื่องบินสะเทินนํ้าสะเทินบก, เรียกสัตว์จำพวกที่อยู่ได้ทั้งในนํ้าและบนบก เช่น กบ คางคก อึ่งอ่าง ว่า สัตว์สะเทินนํ้าสะเทินบก.
หน้านวล ๓ดู กระดูกอึ่ง.
เหนียวหมาดู กระดูกอึ่ง.
อมพะนำว. นิ่งอึ้งไม่พูดจา, อำพะนำ ก็ว่า.
อั้นว. อาการที่นิ่งอึ้ง พูดไม่ออก, มักใช้เข้าคู่กับคำ นิ่ง เป็น นิ่งอั้น.
อั้นตู้, อั้นอ้นว. นิ่งอึ้ง, อํ้าอึ้ง, จนปัญญา, คิดไม่ออก.
อำพะนำว. นิ่งอึ้งไม่พูดจา, อมพะนำ ก็ว่า.
อีเหนียวดู กระดูกอึ่ง.

คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]

ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
It's a rough journey and a sad heart to travel it. เป็นการเดินทางที่ยากลำบาก พร้อมกับหัวใจอันหนักอึ้ง Wuthering Heights (1992)
You are Huang Yao Shi? ท่านคืออึ้งเอี๊ยะซือ? Return of the Condor Heroes (1983)
It doesn't matter that you and Aunty Guo won't let me stay at Peach Blossom Island. มันจะไม่เป็นงั้นหรอกถ้าท่านลุงกับท่านป้าอึ้งย้งให้ข้าอยู่ด้วยที่เกาะดอกท้อ. Return of the Condor Heroes (1983)
Is Aunty Guo not on good terms with my father? ท่านป้าอึ้งย้งไม่ถูกกับพ่อข้าเหรอ? Return of the Condor Heroes (1983)
when we commissioned the schmectel corporation to research this precise event sequence scenario, it was determined that the continual stockpiling and development of our nuclear arsenal was becoming self-defeating. เราได้จ้าง Schmectel Corp. ทำการวิจัยสถานการณ์โลก สรุปได้ว่า การแข่งกันสะสมอาวุธ และการเร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ กลายเป็นภาระอันหนักอึ้ง Spies Like Us (1985)
You're mumbling, brother! Explain. ชักจะอ้ำๆอึ้งๆไปแล้วนะ อธิบายมา Pola X (1999)
And he hemming and he showing. อ้ำ ๆ อึ้ง The Corporation (2003)
Although it can be a burden. แม้จะเป็นภาระที่หนักอึ้ง Mulan 2: The Final War (2004)
The fury of Hurricane Noelani stunned weather experts yesterday slamming into the island chain with a cataclysmic force never before witnessed. ความรุนแรงของเฮอร์ริเคนโนลานี ทำเอานักพยากรณ์อากาศต้องอึ้ง ... พายุโถมเข้าสู่ญี่ปุ่น... ... ซึ่งไม่ได้เตรียมการรับมือพลังมหันตภัย The Day After Tomorrow (2004)
You feel something. You dream of flying. อึ้งไปเลยเหรอ คุณคงฝันอยากจะบิน Around the World in 80 Days (2004)
But then I get stiffed. แต่แล้วชั้นก็อึ้งไปเลย 50 First Dates (2004)
So let's dazzle them here. งั้นมาทำให้พวกเขาถึงกับอึ้งกันเถอะ Mr. Monk Takes Manhattan (2004)
Is that so hard to believe? Oh, no, no. I'm, I'm just stunned. นั่นมันเป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อนักหรือไงกัน โอ้ ไม่ๆๆๆ ฉันแค่อึ้ง Mr. Monk and the Blackout (2004)
Oh, you're getting heavy. โอ้, หนักอึ้งเลย The Amityville Horror (2005)
I've just called him. He can't believe it. แม่เพิ่งวางสายจากทอม เขาก็อึ้งไปเหมือนกัน Match Point (2005)
[ Chuckling ] (หัวเราะ อึ้งไป) Imagine Me & You (2005)
You're stunned, I know. อึ้งไปเลยสิ, ผมรู้. V for Vendetta (2005)
The steady breathing of the 300 at his back ready to die for him without a moment's pause. หมวกเหล็กนั้นน่าอึดอัด โล่ห์ก็หนักอึ้งแล้ว 300 (2006)
Slaughter them! โล่ห์ก็หนักอึ้ง ทำให้ทรงตัวได้ยากยิ่ง 300 (2006)
when I came to you, my heart was heavy. ฉันรู้อยู่คนเดียวว่า ฉันมาหาพวกคุณด้วยหัวใจหนักอึ้ง Big Momma's House 2 (2006)
You seemed to have struck her quite speechless. A feat in itself. คุณทำเอาเธออึ้งไปเลย The Illusionist (2006)
I'm bowled over. เล่นเอาผมอึ้งเลย The Page Turner (2006)
The painful burden that has weighted me down ปัญหาอันหนักอึ้งที่ทับถมฉันอยู่ Arang (2006)
I can't even jerk off. พูดไรอ้ำๆอึ้งๆอยู่ได้ No Regret (2006)
No one would volunteer. It's a pain-in-the-ass job. ไม่มีใครอาสาหรอก มันเป็นงานที่หนักอึ้งเลยหล่ะ Art Isn't Easy (2007)
What'sthematter? Cat got your tongue? เป็นไรไปล่ะ / ถึงกับอึ้งไปเลยหรอ Live Free or Die Hard (2007)
You don't seem afraid. Are you not surprised to see us? ดูท่าทางเจ้าไม่กลัวเลย ไม่อึ้งเลยเหรอที่เห็นพวกเรา Transformers (2007)
You ain't got nothing to say now, fool! อึ้ง ทึ่ง เสียวไปเลยมั้ยล่ะ The Brave One (2007)
- I'm stunned. ฉันอึ้งเลย Cassandra's Dream (2007)
Can we have faith? And a little bit of silence? เราก็แค่อึ้ง เลยเผลอเงียบไปหน่อย Episode #2.5 (2008)
But, please, wow me. แต่ ได้โปรด ทำให้ผมอึ้งที Ghosts (2008)
And this right here, it blew my mind here. แล้วก็ตรงนี้ ทำเอาผมอึ้งไปเลย It Might Get Loud (2008)
I mean... Oh, my god. ฉันอึ้งมาก Brave New World (2008)
The mother, overburdened at the end of her rope. แม่ที่มีภาระหนักอึ้ง Emancipation (2008)
Come here! มัวอ้ำอึ้งอะไรอยู่! My Sassy Girl (2008)
Don't stumble, and speak clearly! ไม่ต้องอ้ำๆ อึ้งๆ บอกมาตรงๆ! My Sassy Girl (2008)
I'm kind of flabbergasted when you say things like that. It's Weird. ฉันล่ะอึ้งจริงๆเวลานายพูดถึง อะไรแบบนั้น มันแปลกพิกล Pineapple Express (2008)
Your stupidity amazes me. แกมันโง่จนฉันอึ้งไปเลย Pineapple Express (2008)
And the oceans became heavy with salt. มหาสมุทร จึงหนัีกอึ้งไปด้วย เกลือแร่ Home (2009)
I was surprised. Yeah, it was good. แต่ก็รอด ฉันล่ะอึ้งเลย The Girlfriend Experience (2009)
I was so stunned, but... ฉันมัวแต่อึ้ง แต่... Peekaboo (2009)
Hell of a turnout. - Who knew he had so many friends? ฉันอึ้งไปเลย ไม่นึกว่าเขาจะมีเพื่อนมากขนาดนี้ The Best Thing That Ever Could Have Happened (2009)
I'm not surprised. He was a good man. ฉันไม่อึ้งหรอก เพราะเขาเป็นคนดี The Best Thing That Ever Could Have Happened (2009)
Your depth of knowledge astounds. อึ้งกับความรู้เธอเลยนะเนี่ย Ben 10: Alien Swarm (2009)
Stop acting like a nut case. You're a teacher. อย่าทำเป็นอึ้ง เธอก็เป็นครูของเรา Gokusen: The Movie (2009)
You guys kicked some serious tail up there tonight. คืนนี้พวกนายทำเอาอึ้งไปตามๆกันเลย Acafellas (2009)
Stick that in your pipe and smoke it. เป็นไง นั่งอึ้งกันเลยสิ The Rhodes Not Taken (2009)
But jack and kate Were left stunned. แต่แจ็คกับเคทถึงกับอึ้ง Lost: The Story of the Oceanic 6 (2009)
Let's just say the doctors are baffled. เอาเป็นว่า เล่นเอาหมออึ้งไปเลย Good God, Y'All (2009)
Well, my dad was in corporate banking and left me a lot of money when he died which always surprised me. คือพ่อผมทำธุรกิจธนาคาร แล้วก็แค่มรดกผมเยอะตอนพ่อตาย... ...ซึ่งผมเองยังอึ้ง เพราะว่าพ่อน่ะ... Watchmen (2009)

Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
อึ่ง[eung] (n) EN: bullfrog
อึ้ง[eung] (v) EN: be struck dumb ; be speechless ; be tongue-tied ; be silent  FR: être interdit ; être interloqué
อึ้ง[eung] (adj) EN: speechless  FR: interdit ; sans voix ; interloqué
อึ่งอ่าง[eung-āng] (n) EN: spade toad ; bullfrog
อึ่งกรายหมอบุญส่ง[eung krāi Mø Bunsong] (n, exp) EN: Boonsong's Horned Toad
อึ่งยาง[eungyāng] (n) EN: bullfrog
ใจ อึ๊งภากรณ์[Jai Eungphakøn] (n, prop) EN: Giles Ji Ungpakorn   FR: Giles Ji Ungpakorn ; Giles Ungpakorn
จอน อึ๊งภากรณ์[Jøn Eungphakøn] (n, prop) EN: Jon Ungpakorn  FR: Jon Ungpakorn
นิ่งอึ้ง[ning eung] (v, exp) EN: keep silent ; remain quiet ; be tongue-tied
ป๋วย อึ๊งภากรณ์[Pūay Eungphakon] (n, prop) EN: Puey Ungpakorn  FR: Puey Ungpakorn

NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
falter out(phrv) พูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก, See also: พูดอ้ำอึ้ง
dumbly(adv) อย่างพูดอะไรไม่ออก, See also: อึ้ง, Syn. mutely
falter(vi) พูดตะกุกตะกัก, See also: พูดเสียงสั่น, พูดอ้ำอึ้ง, พูดละล่ำละลัก
falter(vt) พูดตะกุกตะกัก, See also: พูดเสียงสั่น, พูดอ้ำอึ้ง, พูดละล่ำละลัก
haw(vi) ทำเสียงที่แสดงความลังเล, See also: ทำเสียงอ้ำอึ้ง
haw(n) เสียงพูดแสดงความลังเล, See also: เสียงอ้ำอึ้ง
taken aback(idm) อึ้ง, See also: ตกตะลึง, ตกใจ
throw someone(idm) ทำให้สับสน, See also: ทำให้อึ้ง, ทำให้นึกอะไรไม่ออก
silent(adj) เงียบ, See also: ไร้เสียง, ไม่ออกเสียง, สงบนิ่ง, นิ่งเงียบ, นิ่งอึ้ง, เงียบกริบ, ไม่ค่อยพูด, Syn. hushed, soundless, speechless
swamp(vt) ทำให้แบกรับภาระ, See also: ทำให้หนักอึ้ง, Syn. overburden, overwhelm, overload

Hope Dictionary
falter(ฟอล'เทอะ) { faltered, faltering, falters } v., n. (การ) เดินสะดุด, เดินโซเซ, เดินตัวสั่น, พูดตะกุกตะกัก, ลังเล, รีรอ, วอกแวก, แกว่งไปแกว่งมา, อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ, See also: falterer n. faltering adj. falteringly adv., Syn. doubt, hesitate
haw(ฮอ) n. ผลไม้ของต้นhawthorn vi. ลังเล, อ้ำอึ้ง. n. เสียงพูดแสดงการลังเล, เสียงอ้ำอึ้ง interj. คำอุทานเรียกสัตว์ให้เลี้ยวซ้าย. vt., vi. (ทำให้) หันซ้าย, (ทำให้) เลี้ยวซ้าย
leaden(เลด'เดิน) adj. หนัก, หนักอึ้ง, ไม่มีรสชาติ, ดื้อ, ไม่มีชีวิตชีวา, สีเทา, เฉื่อยชา, เชื่องช้า, งุ่มง่าม, ประกอบด้วยตะกั่ว vt. ทำให้หนัก, ทำให้เชื่องช้า., Syn. precede
mumble(มัม'เบิล) vi. พูดพึมพำ, พูดไม่ชัด vt. พูดพึมพำ, อ้ำอึ้งอยู่ในปาก. n. เสียงพึมพำ, เสียงพูดที่ไม่ชัด, คำพูดอู้อี้., See also: mumbler n. mumblingly adv., Syn. murmur, Ant. speak up
oppressive(อะเพรส'ซิฟว) adj. เป็นการกดขี่, ซึ่งทำให้ลำบากใจ, ซึ่งทำให้เป็นทุกข์หนักอึ้ง., See also: oppressiveness n., Syn. tyrannical
plod(พลอด) v., n. (การ) เดินอย่างหนักอึ้งหรือลำบาก, ค่อย ๆ เดิน, เพียรพยายาม, See also: plodder n. plodness n, Syn. drudge
speechless(สพีชฺ'ลิส) adj. เงียบอึ้ง, ไม่พูด, พูดไม่ออก, เป็นใบ้, ไม่มีถ้อยคำ, ไม่มีการกล่าวสุนทรพจน์, ไม่สามารถจะถ่ายทอดเป็นคำพูดได้., See also: speechlessness n.

Nontri Dictionary
falter(vi อ้ำๆ) อึ้งๆ, พูดตะกุกตะกัก, พูดไม่คล่อง, เดินสะดุด
mumble(vi, vt) บ่นพึมพำ, พูดอู้อี้, พูดไม่ชัด, อ้ำอึ้ง, เคี้ยวเอื้อง

Longdo Approved DE-TH
sprachlos(adj) อึ้งจนพูดไม่ออก หรือ ดีใจ, ประหลาดใจจนพูดไม่ออก (vor Freude; Schreck; Überraschung; Erstaunen sprachlos sein), See also: Related: die Sprachlosigkeit

ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ

Time: 0.0432 seconds, cache age: 3.521 (clear)
ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม