316 ผลลัพธ์ สำหรับ *ต่อกัน*
ภาษา
หรือค้นหา: ต่อกัน, -ต่อกัน-NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
ต่อกัน | (adv) each other, See also: mutually, reciprocally, one another, Syn. กัน, ซึ่งกันและกัน, กันและกัน, Example: ความสัมพันธ์ของเราที่ยืดยาวเพราะเราดีต่อกันเสมอมา |
ติดต่อกัน | (adv) consecutively, See also: continually, Syn. ต่อเนื่อง, Example: เขารู้สึกเมื่อยล้าเพราะขับรถติดต่อกันมาหลายชั่วโมงแล้ว, Thai Definition: อย่างต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย, ไม่ขาดตอน |
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน | ว. ต่างฝ่ายต่างปฏิบัติดีต่อกันในเรื่องเดียวกันหรือในทำนองเดียวกัน. |
เลิกแล้วต่อกัน | ก. ยุติการทะเลาะวิวาทบาดหมางกัน. |
กรรมวิธี | (กำมะวิที) น. ลักษณะอาการหรือวิธีการที่ผันแปรหรือเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติหรือที่มนุษย์ทำขึ้น อันดำเนินติดต่อกันเรื่อยไปเป็นลำดับ, กระบวนวิธีดำเนินการในประดิษฐกรรม. |
กระดูกสันหลัง | น. กระดูกที่อยู่ในแนวกึ่งกลางทางด้านหลังของลำตัว เป็นแกนของร่างกาย มีลักษณะเป็นข้อ ๆ ต่อกันเป็นแนวตั้งแต่บริเวณคอต่อจนถึงบริเวณด้านหลังของทวารหนัก ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายให้แก่ไขสันหลัง, โดยปริยายหมายถึงส่วนที่สำคัญ, ส่วนที่เป็นพลังคํ้าจุน, เช่น ชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติ. |
กระแสจิต | น. กระแสความนึกคิดหรือกระบวนความนึกคิดที่เกิดดับต่อเนื่องกันไป, เรียกอาการที่ส่งความนึกคิดติดต่อกันระหว่างจิตของคนหนึ่งกับอีกคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างกันโดยไม่ต้องอาศัยประสาทสัมผัสทั้ง ๕ อย่างใดอย่างหนึ่ง ว่า การส่งกระแสจิต. |
กลเม็ด ๒ | (กนละ-) น. ชื่อเทียนชนิดหนึ่ง ซึ่งตามประเพณีเดิมจุดตั้งแต่วันเกิดมาและเลี้ยงไฟต่อกันไว้จนถึงวันตาย เมื่อถึงวันเผาก็ใช้ไฟนั้นเผา เรียกว่า เทียนกลเม็ด, เทียนจุดคู่ชีพเวลาจะสิ้นใจ. |
กันและกัน | ส. คำใช้แทนชื่อในลักษณะที่มีการกระทำร่วมกันหรือต่อกันโดยมีบุรพบทประกอบหน้า เช่น รักซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์ของกันและกัน. |
กัน ๒ | ว. คำประกอบท้ายกริยาของผู้กระทำตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป แสดงการกระทำร่วมกัน อย่างเดียวกัน หรือต่อกัน เช่น คิดกัน หารือกัน. |
กาบเดียว, กาบเดี่ยว | น. ชื่อเรียกหอยชั้น Gastropoda เปลือกหุ้มตัวต่อกันเป็นชิ้นเดียว โดยม้วนเป็นวงซ้อนกัน และมีช่องให้หอยยื่นตีนออกมาจากเปลือกได้ เช่น หอยสังข์ หอยโข่ง หอยขม. |
กามโรค | น. โรคซึ่งติดต่อกันได้โดยการประกอบกามกิจหรือติดต่อกันโดยใช้สิ่งของร่วมกับคนเป็นกามโรคเป็นต้น, เรียกเป็นสามัญว่า โรคบุรุษ หรือ โรคผู้หญิง. |
การจัดสรรที่ดิน | น. การจำหน่ายที่ดินที่ได้แบ่งเป็นแปลงย่อยรวมกันตั้งแต่สิบแปลงขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งจากที่ดินแปลงเดียวหรือแบ่งจากที่ดินหลายแปลงที่มีพื้นที่ติดต่อกัน โดยได้รับทรัพย์สินหรือประโยชน์เป็นค่าตอบแทน และให้หมายความรวมถึงการดำเนินการดังกล่าวที่ได้มีการแบ่งที่ดินเป็นแปลงย่อยไว้ไม่ถึงสิบแปลงและต่อมาได้แบ่งที่ดินแปลงเดิมเพิ่มเติมภายในสามปี เมื่อรวมกันแล้วมีจำนวนตั้งแต่สิบแปลงขึ้นไปด้วย. |
กำด้น | น. ท้ายทอย, ส่วนที่คอกับศีรษะต่อกัน, เช่น เหมือนกดคอยอกำด้นลูกสาวศรี (มณีพิชัย). |
กินตัว | ริบสิ่งที่นำมาพนันขันต่อกันจากผู้แพ้. |
กุแล | น. ชื่อปลาทะเลหลายชนิดในสกุล Sardinella และ Herklotsichthys วงศ์ Clupeidae ลำตัวยาว แบนข้างมาก สันท้องบางคล้ายคมมีด เกล็ดบางหลุดง่าย เกล็ดในแนวสันท้องเป็นเหลี่ยมคมเรียงต่อกันคล้ายฟันเลื่อย ปากเล็กเชิดขึ้นเล็กน้อย ฟันเล็กมาก ซี่เหงือกมีจำนวนมาก ไม่มีก้านครีบแข็งหรือเงี่ยง ลำตัวสีเงิน เฉพาะด้านหลังสีนํ้าเงินเข้ม บนลำตัวที่ใกล้มุมแผ่นปิดเหงือกมักมีแต้มสีดำคลํ้า ๑ จุด ครีบหลังและครีบหางสีดำคลํ้าอมเหลือง ขนาดยาวได้ถึง ๑๘ เซนติเมตร, อกรา หรือ อกแล ก็เรียก, ส่วน กุแลกลม หรือ กุแลกล้วย หมายถึงชนิดในสกุล Dussumieria ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกัน ลักษณะทั่วไปคล้ายกัน เว้นแต่มีลำตัวแบนข้างเล็กน้อย หัวแหลม ท้องกลม ไม่มีเกล็ดที่เรียงกันเป็นฟันเลื่อย ซี่เหงือกมีจำนวนน้อยและสั้น ขนาดยาวได้ถึง ๒๒ เซนติเมตร, อกรากล้วย หรือ อกแลกล้วย ก็เรียก |
เกี่ยวเนื่อง | ก. เกี่ยวพันติดต่อกัน เช่น โครงการนี้เกี่ยวเนื่องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. |
ขออโหสิ | ก. ขอให้เลิกแล้วต่อกัน, ขอให้ยกโทษให้. |
ข้อ | น. ส่วนที่อยู่ระหว่างปล้องของไม้ไผ่หรืออ้อยเป็นต้น, ส่วนตรงที่ของ ๒ สิ่งมาต่อกัน เช่น ข้อต่อท่อประปา |
ขะแมร์กอฮอม | น. ชื่อเพลงไทยสำเนียงเขมร อัตรา ๓ ชั้น หน้าทับปรบไก่ แต่งขยายจากเพลงเขมรแดง อัตรา ๒ ชั้น นิยมบรรเลงต่อกันเป็นเพลงชุด เรียกว่า สามขะแมร์ ซึ่งประกอบด้วย เพลงขะแมร์กอฮอม เพลงขะแมร์ซอ และเพลงขะแมร์ธม. |
ขะแมร์ซอ | น. ชื่อเพลงไทยสำเนียงเขมร อัตรา ๓ ชั้น หน้าทับปรบไก่ แต่งขยายจากเพลงเขมรขาว อัตรา ๒ ชั้น นิยมบรรเลงต่อกันเป็นเพลงชุด เรียกว่า สามขะแมร์ ซึ่งประกอบด้วย เพลงขะแมร์กอฮอม เพลงขะแมร์ซอ และเพลงขะแมร์ธม. |
ขะแมร์ธม | น. ชื่อเพลงไทยสำเนียงเขมร อัตรา ๓ ชั้น หน้าทับปรบไก่ แต่งขยายจากเพลงเขมรใหญ่ อัตรา ๒ ชั้น นิยมบรรเลงต่อกันเป็นเพลงชุด เรียกว่า สามขะแมร์ ซึ่งประกอบด้วย เพลงขะแมร์กอฮอม เพลงขะแมร์ซอ และเพลงขะแมร์ธม. |
ขาดตอน | ก. ขาดระยะกัน, ไม่ติดต่อกัน. |
เข้าแถว | ก. ยืนเรียงต่อกันเป็นแนว เช่น เข้าแถวหน้ากระดาน เข้าแถวตอนเรียงหนึ่ง. |
เขื่อนเพชร | น. ตึกแถวมีผนังหลังตันหันออกมาข้างนอกในพระราชฐานเฉพาะตรงที่แบ่งข้างหน้ากับข้างในต่อกัน. |
ครอบครองปรปักษ์ | ก. ครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา ๑๐ ปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา ๕ ปี บุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น. |
คู่อาฆาต | น. ผู้ที่มีเรื่องบาดหมางกันรุนแรงและผูกพยาบาทต่อกัน. |
โคก ๒ | น. ชื่อปลาทะเลทุกชนิดในสกุล Anodontostoma และ Nematalosa วงศ์ Clupeidae หัวเล็ก ปากเล็ก ลำตัวสั้น แบนข้าง ท้องเป็นสันแหลม เกล็ดที่สันท้องเป็นเหลี่ยมคมเรียงต่อกันคล้ายฟันเลื่อย พื้นลำตัวสีเงิน ขนาดยาวได้ถึง ๒๐ เซนติเมตร อยู่รวมกันเป็นฝูงเล็ก ๆ ตามชายฝั่งที่มีพื้นท้องทะเลเป็นโคลน, ตะเพียนนํ้าเค็ม ก็เรียก. |
งัว ๔ | น. ชื่อปลาทะเลหลายชนิดหลายสกุล เช่น ในสกุล Triacanthus วงศ์ Triacanthidae, ในสกุล Monacanthus วงศ์ Monacanthidae, ในสกุล Balistes วงศ์ Balistidae, ในสกุล Anacanthus วงศ์ Anacanthidae มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ โดยเฉลี่ยยาว ๓๐ เซนติเมตร บางชนิดยาวได้ถึง ๗๕ เซนติเมตร ผิวหนังหยาบเหนียวหรือเป็นแผ่นกระดูกหนาเรียงติดต่อกัน ฟันเป็นแผ่น ใช้แทะเล็มหาอาหารตามแนวปะการังและพื้นท้องทะเล ก้านครีบหลังก้านแรกและครีบท้องเป็นแท่งกระดูกใหญ่คล้ายเขาสัตว์, บางชนิดมีชื่อเรียกว่า วัว หรือ กวาง. |
งา ๔ | น. ชื่อปลานํ้ากร่อยหรือทะเลขนาดเล็กชนิด Thryssa setirostris (Broussonet) ในวงศ์ Engraulidae กระดูกขากรรไกรบนโค้งยื่นยาวเป็นเส้นจดครีบท้องหรือครีบก้น ลำตัวยาว แบนข้าง ปากกว้าง เกล็ดที่สันท้องเป็นเหลี่ยมคมเรียงต่อกันคล้ายฟันเลื่อย พื้นลำตัวสีเงินอมเหลืองส้ม ขนาดยาวได้ถึง ๑๕ เซนติเมตร. |
จงกลนี | (-กนละนี) น. บัว, บัวดอกคล้ายบัวขม มีเกสรซ้อนหลายชั้น แตกก้านต่อดอกแล้วมีดอกต่อกัน ๓ ดอกบ้าง ๔ ดอกบ้าง. (ทมิฬ เจ็ง ว่า แดง กาฬนีร ว่า บัว หมายความว่า บัวแดง). |
จบ ๓ | ก. ต่อกัน, พบกัน, เช่น จับปลายเชือก ๒ เส้นมาจบกัน. |
จารีต | (-รีด) น. ประเพณีที่ถือสืบต่อกันมานาน. |
จำนำ | ก. ประจำ, เรียกผู้ซื้อขายหรือติดต่อกันเป็นประจำว่า เจ้าจำนำ. |
จิ้มฟันจระเข้ | น. ชื่อปลาทะเลและนํ้าจืดทุกชนิดในวงศ์ Syngnathidae ปากยื่นเป็นท่อ ลำตัวยาวเรียวมาก หน้าตัดเป็นเหลี่ยม ผิวหนังเป็นแผ่นแข็งเรียงต่อกันเป็นเหลี่ยมเป็นข้อ ครีบต่าง ๆ มีขนาดเล็ก ครีบท้องไม่มี ตัวผู้ทำหน้าที่ฟักไข่โดยเก็บไข่ไว้บริเวณหน้าท้อง ลำตัวมักมีสีนํ้าตาล อาจมีลายสีเข้มพาดขวาง ที่พบในนํ้าจืดได้แก่ ชนิด Doryichthys boaja (Bleeker) ส่วนในทะเลได้แก่ชนิดในสกุลต่าง ๆ เช่น Doryrhamphus, Corythoichthys, Trachyramphus มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่. |
เจ้ากรรม | น. ผู้เคยมีกรรมมีเวรต่อกันมาแต่ชาติก่อน, เจ้ากรรมนายเวร ก็ว่า. |
เจ้ากรรมนายเวร | น. ผู้เคยมีกรรมมีเวรต่อกันมาแต่ชาติก่อน, เจ้ากรรม ก็ว่า. |
เจ้าจำนำ | น. ผู้ซื้อขายหรือติดต่อกันเป็นประจำ. |
แจ้ว, แจ้ว ๆ | ว. มีเสียงแจ่มใส เช่น ไก่ขันแจ้ว, มีเสียงดังติดต่อกันไปเป็นระยะ ๆ เช่น พูดแจ้ว ๆ. |
ชุมสายโทรศัพท์ | น. ศูนย์กลางคู่สายโทรศัพท์ และเป็นที่ที่สายโทรศัพท์หมายเลขต่าง ๆ เชื่อมติดต่อกัน. |
เชื้อแถว | น. เชื้อสายวงศ์ตระกูลที่สืบเนื่องต่อกันมา, ว่านเครือ เช่น เขาเป็นคนมีเชื้อแถวเก่าแก่. |
โซ่ลาน | น. โซ่เหล็กกว้างประมาณ ๔ มิลลิเมตร หนา ๐.๕ มิลลิเมตร ไม่ยืดหรือหดในทุกอุณหภูมิ มี ๒ ขนาด คือ ยาว ๔๐ เมตร และ ๕๐ เมตร ทั้ง ๒ ขนาด แบ่งออกเป็น ๑๐๐ ข้อต่อกัน ใช้วัดที่ดิน. |
ดอกรัก | น. ชื่อลวดลายชนิดหนึ่ง คล้ายดอกรักเรียงต่อกัน. |
ตกทอด | ก. สืบต่อกันมาเป็นทอด ๆ, สืบต่อจากผู้หนึ่งไปยังอีกผู้หนึ่ง, เช่น มรดกตกทอด |
ต่อ ๒ | ก. เพิ่มให้ยาวหรือขยายออกไป เช่น ต่อเชือก เอาตู้รถไฟมาต่อกัน ต่อชานบ้าน, เพิ่มให้ยืดออกไป เช่น ต่อเวลาออกไป ต่อหนังสือสัญญา |
ต่อ ๒ | เชื่อมติดกันหรือประสานกัน เช่น ต่อเหล็ก ๒ ท่อนให้ติดกัน กระดูกต่อกันสนิท |
ต่อแต้ม | น. เครื่องเล่นการพนันอย่างหนึ่ง ตัวทำเป็นรูปไม้สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ๒ ตอน มีแต้มตั้งแต่ ๑ ถึง ๖ ใช้ด้านที่แต้มเท่ากันมาต่อกัน ตัวของใครหมดก่อนเป็นผู้ชนะ |
ต่อ ๔ | ถัดไป, สืบไป, ติดต่อกันไป, เช่น ต่อนี้ไป ต่อไป อ่านต่อ วิ่งต่อ, เพิ่มขึ้น เช่น เรียนต่อ. |
ตะลุมพุก ๒ | น. ชื่อปลาทะเลขนาดกลางชนิด Tenualosa toli (Valenciennes) ในวงศ์ Clupeidae ที่ว่ายเข้านํ้าจืดเพื่อสืบพันธุ์ ลำตัวยาวรี แบนข้างมาก ครีบหางเป็นแฉกลึก ท้องเป็นสันแหลม เกล็ดใหญ่ ขอบเรียบ เกล็ดที่สันท้องเป็นเหลี่ยมคม เรียงต่อกันคล้ายฟันเลื่อย พื้นลำตัวสีเงิน หลังสีนํ้าเงินอมเทา ขนาดยาวได้ถึง ๕๐ เซนติเมตร, กระลุมพุก หรือ ชิขัก ก็เรียก. |
ตัดต่อ | ก. ตัดฟิล์มภาพยนตร์ เทปบันทึกภาพ เป็นต้น ที่ไม่ติดต่อกัน แล้วนำมาต่อกันเพื่อให้เป็นไปตามที่ต้องการ. |
ตับเพลง | น. ชุดเพลงที่นำมารวมบรรเลงและขับร้องติดต่อกันโดยเสียงต่อเนื่อง ระหว่างเพลงมักมีระดับเสียงกลมกลืนกัน มีทั้งอัตราเดียวกันและอัตราผสม ตับหนึ่งบรรเลงประมาณ ๓-๑๐ เพลง เช่น ตับลาวเจริญศรี. |
ตับเรื่อง | น. เพลงที่นำมารวมบรรเลงและขับร้องติดต่อกันโดยที่บทร้องเป็นเรื่องเดียวกันและดำเนินไปโดยลำดับ มีทั้งอัตราเดียวกันและอัตราผสม เช่น ตับนางลอย ตับนาคบาศ. |
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
articulate | ๑. ไถ(ฟัน)๒. ออกเสียงชัด๓. เรียงฟันปลอม๔. ต่อกัน [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕] |
adjoining owners | บรรดาเจ้าของที่ดินที่ติดต่อกัน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
adjoining property | ทรัพย์สินที่อยู่ติดต่อกัน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
conjugal rights | สิทธิที่คู่สมรสมีต่อกัน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
concatenate | ต่อกัน [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] |
concatenate | ต่อกัน [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] |
knock-for-knock agreement | ข้อตกลงไม่เรียกร้องต่อกัน [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
พระเมรุมาศ | พระเมรุขนาดสูงใหญ่ ลักษณะเป็น กุฎาคาร คือ เรือนยอด หมายถึงเรือนซึ่งทำหลังคาต่อกันเป็นยอดแหลม [ศัพท์พระราชพิธี] |
Knowledge broker | นายหน้าความรู้, นายหน้าความรู้ ทำหน้าที่เชื่อมโยงคน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ต่อกัน อันจะก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด ประสบการณ์อย่างแคล่วคล่องมากขึ้น ซึ่งความรู้ได้นี้จะเป็นความรู้ในคนหรือความรู้ฝังลึก (Tacit knowledge) เป็นหลัก [การจัดการความรู้] |
Dose limit | ขีดจำกัดปริมาณรังสี, ค่ากำหนดสูงสุดของปริมาณรังสียังผลหรือปริมาณรังสีสมมูลที่บุคคลอาจได้รับจากการดำเนินกิจกรรมทางรังสี ซึ่งคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศด้านการป้องกันรังสี (International Commission on Radiation Protection, ICRP) ได้กำหนดขีดจำกัดปริมาณรังสีไว้ดังนี้ 1. ผู้ปฏิบัติงาน -ปริมาณรังสียังผลเฉลี่ยไม่เกิน 20 มิลลิซีเวิร์ตต่อปีในระยะเวลา 5 ปีติดต่อกัน โดยในปีใดปีหนึ่งต้องได้รับปริมาณรังสียังผลไม่เกิน 50 มิลลิซีเวิร์ตต่อปี -ปริมาณรังสีสมมูลที่เลนส์ตา ไม่เกิน 150 มิลลิซีเวิร์ตต่อปี -ปริมาณรังสีสมมูลที่มือและเท้า หรือที่ผิวหนัง ไม่เกิน 500 มิลลิซีเวิร์ตต่อปี 2. บุคคลทั่วไป ปริมาณรังสียังผลไม่เกิน 1 มิลลิซีเวิร์ตต่อปี โดยไม่รวมปริมาณรังสีจากธรรมชาติและปริมาณรังสีจากการรักษาพยาบาลทางการแพทย์ ทั้งนี้ในทางปฏิบัติต้องจำกัดให้ได้รับรังสีน้อยที่สุด (ดู sievert ประกอบ) [นิวเคลียร์] |
Electromagnetic radiation | รังสีแม่เหล็กไฟฟ้า, คลื่นไฟฟ้าและคลื่นแม่เหล็กที่ประสาน และมีอันตรกิริยาต่อกัน เช่น คลื่นแสง คลื่นวิทยุ รังสีแกมมา และรังสีเอกซ์ รังสีเหล่านี้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่ากับความเร็วแสง และสามารถผ่านสุญญากาศได้ [นิวเคลียร์] |
Internet | อินเทอร์เน็ต, เครือข่ายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เครือข่ายที่มีแม่ข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกมาเชื่อมต่อกันเป็นจำนวนมาก คำๆ นี้มักจะเขียนผิดเป็น "อินเตอร์เน็ต" หรือ "อินเตอร์เน็ท" [คอมพิวเตอร์] |
CAD/CAM | คอมพิวเตอร์ช่วยในงานออกแบบและคอมพิวเตอร์ช่วยในงานผลิต, คอมพิวเตอร์ช่วยในงานออกแบบและคอมพิวเตอร์ช่วยในงานผลิต (ระบบแคด/แคม) เมื่อสองระบบมาต่อกัน ทำให้เกิดการส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ที่มีแบบของสินค้ามายังคอมพิวเตอร์ที่ต่อกับอุปกรณ์การผลิต สามารถทำให้สร้างผลิตภัณฑ์รูปทรงใหม่ได้รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำมาก [Assistive Technology] |
Correspondence | การติดต่อกันทางจดหมาย [TU Subject Heading] |
Coalescing Fan | เนินตะกอนน้ำพารูปพัดติดต่อกัน, Example: เนินตะกอนน้ำพารูปพัดหลาย ๆ เนินที่อยู่ติดต่อกัน [สิ่งแวดล้อม] |
ASEAN Vision 2020 | วิสัยทัศน์อาเซียน พ.ศ. 2563 เป็นเอกสารซึ่งที่ประชุมสุดยอดอาเซียนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2540 ได้ให้ความเห็นชอบ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นและพันธกรณีของอาเซียนที่จะนำประชาชนในภูมิภาคนี้ ไปสู่ (1) การเป็นภูมิภาคที่มีสันติภาพและเสถียรภาพ (2) ความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งด้วยการรวมตัวทางเศรษฐกิจ อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น (3) การเป็นสังคมที่เปิดกว้าง มีความเป็นปึกแผ่นและเอื้ออาทรต่อกัน และ (4) การกระชับความสัมพันธ์กับคู่เจรจาและโลกภายนอก บนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกันและมีความเคารพซึ่งกันและกัน [การทูต] |
Break of Diplomatic Relations | การตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อสองรัฐตัดความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งกันและกัน เพราะมีการไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรง หรือเพราะเกิดสงคราม จึงไม่มีหนทางติดต่อกันได้โดยตรง ดังนั้น แต่ละรัฐมักจะขอให้มิตรประเทศที่เป็นกลางแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐอีกฝ่ายหนึ่ง ช่วยทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในอีกรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ช่วยดูแลคนชาติของรัฐนั้น ตัวอย่างเช่น ในตอนที่สหรัฐอเมริกากับคิวบาได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกดัน สหรัฐอเมริกาได้ขอให้คณะผู้แทนทางการทูตของสวิส ณ กรุงฮาวานา ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเทศคิวบา ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเช็คโกสโลวาเกียในกรุงวอชิงตัน ก็ได้รับการขอจากประเทศคิวบา ให้ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในสหรัฐอเมริกาถึงสังเกตว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกงสุลจะต้องตัดขาดไปด้วย มาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า ?ถ้าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองรัฐขาดลง หรือถ้าคณะผู้แทนถูกเรียกกลับเป็นการถาวรหรือชั่วคราวก. แม้ในกรณีการขัดแย้งกันด้วยอาวุธ รัฐผู้รับจะต้องเคารพและคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทนด้วยข. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการพิทักษ์สถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทน ให้แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับแก่รัฐผู้รับก็ได้ค. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการอารักขาผลประโยชน์ของคนและคนชาติของตน แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แก่รัฐผู้รับก็ได้ [การทูต] |
Cultural Diplomacy | การทูตวัฒนธรรม หมายถึง กิจกรรมด้านวัฒนธรรมในกรอบกว้าง ทั้งภาษา ความคิด อุดมการณ์ ทัศนคติ ประเพณี วิทยาการความรู้ การกีฬาและวิถีชีวิต (ไม่เพียงแต่การส่งคณะนาฏศิลป์ไปแสดงในต่างประเทศเท่านั้น) ทั้งนี้ เพื่อ ใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือสร้างความรู้สึกที่ดีต่อกัน โดยใช้แนวทางปฏิบัติอย่างต่อเนื่องในลักษณะซึมลึกเพื่อให้เข้าถึงประชาชน [การทูต] |
Diplomatic Expressions | ถ้อยคำสำนวนที่ใช้ในวงการทูต กล่าวคือ ในวงการทูตจะมีการนิยมใช้ถ้อยคำสำนวนการทูต ถือกันว่าเป็นภาษาที่สุภาพ ซึ่งจะมีความหมายลึกซื้งเพียงใดนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะทราบกันดี อาทิเช่น?My Government views with concern หรือ with grave concern? จะแสดงถึงท่าทีที่ไม่เห็นด้วย หรือแสดงการประท้วง?My Government cannot remain indifferent to the matter? จะส่อถึงเจตนาที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปส่วนถ้อยคำสำนวนที่ว่า ?In such event my Government would feel bound to reconsider its position หรือ to consider its own interest??My Government will have to claim a free hand? หรือ ?feel obliged to formulate express reservations regarding?เหล่านี้เป็นถ้อยคำสำนวนที่เตือนให้ทราบว่า อาจเกิดการแตกร้าว หรือตัดขาดในพันธไมตรีที่มีต่อกันได้เมื่อรัฐบาลหนึ่งประกาศถือว่าการกระทำ ของอีกรัฐบาลหนึ่งเป็น ?an unfriendly act? หรือการกระทำที่ไม่เป็นมิตรเช่นนี้ ย่อมหมายถึงการเตือนให้ทราบว่า การกระทำเช่นนั้นอาจนำไปสู่สงครามได้ถ้าหากในตอนเสร็จสิ้นการประชุมกันมีการ แถลงการณ์หรือโฆษกของที่ประชุมแจ้งให้ทราบว่า ที่ประชุมได้ทำความตกลงกันโดยสมบูรณ์ (Full agreement) แต่ไม่มีการเปิดเผยให้ทราบว่ามีการตกลงอะไรกันบ้าง จะทำให้เป็นที่สงสัยกันว่าได้มีการตกลงกันโดยสมบูรณ์จริงละหรือ ถ้าหากคำประกาศนั้นใช้ถ้อยคำว่า มี ?substantial agreement? ก็พอจะอนุมานได้ว่าแท้ที่จริงยังมีเรื่องสำคัญ ๆ ที่ยังตกลงกันไม่ได้อีกบางเรื่อง อนึ่ง หากว่ามีการแถลงว่า ?there was a full exchange of views? ก็เท่ากับพูดว่า มิได้มีการตกลงกันแต่อย่างใดทั้งสิ้น [การทูต] |
Exemption from Customs Duties and Inspection of Diplomatic Mission?s Articles | การยกเว้นจากอากรศุลกากร และการตรวจสิ่งของเครื่องใช้ของคณะผู้แทนทางการทูต การยกเว้นดังกล่าวนี้ไม่ถือว่าเป็นสิทธิ แต่เป็นเรื่องของการแสดงอัธยาศัยไมตรีระหว่งประเทศที่ให้ต่อกันมากกว่า กฎหมายระหว่างประเทศก็มิได้กำหนดพันธะที่จะต้องให้การยกเว้นจากอากรศุลกากร อย่างไรก็ดี รัฐส่วนมากได้แสดงอัธยาศัยไมตรีโดยให้ผู้แทนทางการทูตได้รับการยกเว้นอากร ศุลกากรแก่สินค้าและเครื่องใช้ที่นำเข้ามาใช้ในส่วนตัวเองอนุสัญญากรุง เวียนนาได้ระบุไว้ในมาตรที่ 36 ว่า1. รัฐผู้รับจะอนุญาตให้นำเข้าและอำนวยให้มีการยกเว้นจากอากรศุลกากร ภาษี ตลอดจนค่าภาระที่เกี่ยวข้องทั้งมวล นอกจากค่าภาระในการเก็บรักษา การขนส่งและบริการ ให้ทำนองเดียวกันตามกฎหมายหรือข้อบังคับ ซึ่งรัฐผู้รับอาจกำหนดไว้แก่ก. สิ่งของสำหรับใช้ในทางการของคณะผู้แทนข. สิ่งของสำหรับใช้ส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต หรือคนในครอบครัวของตัวแทนทางการทูต ซึ่งประกอบเป็นส่วนครัวเรือนของตัวแทนทางการทูต รวมทั้งสิ่งของที่แสดงเจตนาสำหรับการตั้งถิ่นฐานของตัวแทนทางการทูตด้วย2. หีบห่อส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต ให้ได้รับยกเว้นจากการตรวจตรา นอกจากมีมูลเหตุอันร้ายแรงที่ทำให้สันนิษฐานได้ว่า หีบห่อส่วนตัวนั้นบรรจุสิ่งของซึ่งไม่อยู่ในข่ายแห่งการยกเว้นที่ได้ระบุไว้ ในวรรค 1 ของข้อนี้ หรือสิ่งของซึ่งการนำเข้าหรือส่งออกนั้นต้องห้ามทางกฎหมาย หรือถูกควบคุมตามข้อบังคับว่าด้วยการกักตรวจโรคของรัฐผู้รับ การตรวจตราเช่นว่านี้ให้กระทำต่อหน้าตัวแทนทางการทูต หรือต่อหน้าผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจของตัวแทนทางการทูตเท่านั้น [การทูต] |
Extradition | การส่งผู้ร้ายข้ามแดน การที่ชาติหนึ่งยอมส่งคนในชาติของตนให้แก่อีกชาติหนึ่ง คือคนในชาติที่ถูกกล่าวหา หรือต้องโทษฐานกระทำความผิดภายนอกเขตแดนของตน และเป็นความผิดที่กระทำขึ้นในเขตอำนาจของอีกชาติหนึ่ง ซึ่งมีความสามารถที่จะตัดสินคดี รวมทั้งลงโทษบุคคลที่ถูกกล่าวหานั้นข้ออ้างว่า ในกรณีที่ชนชาติหนึ่งซึ่งถูกกล่าวหาว่าประกอบอาชญากรรมแล้วหลบหนีไปยังต่าง ประเทศนั้น รัฐของผู้ที่ประกอบอาชญากรรมมีสิทธิที่จะขอให้ต่างประเทศนั้นส่งตัวผู้กระทำ ผิดกลับคืนมา เพื่อส่งตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาลงโทษได้ แต่หลายคนยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ในข้อนี้ มีไม่น้อยที่สนับสนุนหลักการที่ว่า กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองหน้าที่ที่จะต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดน กล่าวคือ นอกจากสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่มีต่อกันแล้ว กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองสิทธิที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กัน อย่างไรก็ดี ตามสนธิสัญญาที่มีต่อกัน ผู้ร้ายที่หนีความยุติธรรมจะถูกส่งไปให้อีกประเทศหนึ่งตามสนธิสัญญานั้น จักกระทำโดยวิถีทางการทูต ส่วนผู้หลบหนีเจ้าหน้าที่เพราะเหตุผลทางการเมือง จะส่งข้ามแดนอย่างผู้ร้ายไม่ได้ และเมื่อหลบหนีไปยังอีกประเทศหนึ่งได้สำเร็จ ประเทศนั้นๆ มักจะให้อาศัยพักพิงในประเทศของตนเป็นในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง [การทูต] |
General Border Committee | คณะกรรมการชายแดนทั่วไป เป็นกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคง ชายแดน ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทยและประเทศเพื่อนบ้านเป็นประธานร่วม กัน ทำหน้าที่กกำหนดแนวทางและมาตรการที่เหมาะสมเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือ รักษาความสงบเรียบร้อยและเสถียรภาพในพื้นที่บริเวณชายแดน ซึ่งกลไกนี้ไทยมีกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดต่อกันทั้ง 4 ประเทศ [การทูต] |
Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] |
New Diplomacy | การทูตแบบใหม่ ภายหลังสงครามโลกครั้งแรก หรือตั้งแต่ ค.ศ. 1918 เป็นต้นมา ได้เกิดการทูตแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างไปจาการทูตแบบเก่า อันได้ปฏิบัติกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี นักวิชาการบางท่านมีความเอนเอียงที่จะตำหนิว่า การที่เกิดสงครามโลกขึ้นนั้น เป็นเพราะการทูตประสบความล้มเหลวมากกว่าอย่างไรก็ดี บางท่านเห็นว่าแม้ส่วนประกอบของการทูตจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่เนื้อหาหรือสาระสำคัญของการทูตยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เป็นการผสมผสานเข้าด้วยกันระหว่างการทูตแบบเก่ากับการทูตแบบใหม่อาจกล่าวได้ ว่า มีปัจจัยสำคัญ ๆ อยู่สามประการ ที่มีอิทธิพลหรือบังเกิดผลโดยเฉพาะต่อวิธีการหรือทฤษฎีของการเจรจาระหว่าง ประเทศ กล่าวคือ ข้อแรก ชุมชนนานาชาติทั้งหลายเกิดการตื่นตัวมากขึ้น ข้อที่สอง ได้มีการเล็งเห็นความสำคัญของมติสาธารณะ ( Public Opinion) มากขึ้น และประการสุดท้าย เป็นเพราะการสื่อสารคมนาคมได้เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วอดีตนักการทูตผู้มี ชื่อเสียงคนหนึ่งของอินเดีย ได้แสดงความไม่พอใจและรังเกียจความหยาบอย่างปราศจากหน่วยก้านของการดำเนิน การทูตแบบใหม่ เช่น การโฆษณาชวนเชื่อเข้าใส่กัน การใช้ถ้อยคำในเชิงผรุสวาทต่อกัน การเรียกร้องกันอย่างดื้อ ๆ ขาดความละมุนละไมและประณีต อาทิเช่น การเรียกร้องข้ามหัวรัฐบาลไปยังประชาชนโดยตรงในค่ายของฝ่ายตรงกันข้ามการ กระทำต่าง ๆ ที่จะให้รัฐบาลต้องเสียชื่อหรือขาดความน่าเชื่อถือ ตลอดจนการใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ห้ามไม่ให้ประชาชนติดต่อกันทางสังคม และอื่น ๆ เป็นต้น [การทูต] |
Parliamentary Diplomacy | การทูตแบบรัฐสภา หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ [การทูต] |
Presentation of Credentials | หมายถึง การยื่นสารตราตั้ง เป็นธรรมเนียมปฏิบัติทางการทูตว่า ผู้ใดได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศใดประเทศหนึ่ง ก่อนที่จะปฏิบัติงานในหน้าที่ จะต้องนำสารตราตั้ง (Credentials) ไปยื่นต่อประมุขของรัฐนั้น ๆ พิธียื่นสารตราตั้งจะกระทำไม่เหมือนกันในแต่ละประเทศ แล้วแต่จะพิจารณาเห็นความเหมาะสม และความเคร่งต่อธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติติดต่อกันมาเป็นสำคัญ เช่น อังกฤษเป็นประเทศหนึ่งที่พิธียื่นสารตราตั้งของเอกอัครราชทูตต่อองค์ประมุข ของประเทศค่อนข้างวิจิตรพิสดารมาก ส่วนบางประเทศมีพิธียื่นสารอย่างง่าย ๆ แทบจะไม่มีพิธีรีตองอย่างใดในสหรัฐอเมริกา ณ กรุงวอชิงตันดีซี พิธียื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดีของสหรัฐฯ กระทำอย่างเรียบง่าย กล่าวคือ พอถึงเวลาที่กำหนดในวันยื่นสารตราตั้ง อธิบดีกรมพิธีการทูตหรือผู้แทนของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะนำรถยนต์ลีมูซีนสีดำไปยังทำเนียบของเอกอัครราชทูต เพื่อรับเอกอัครราชทูตและครอบครัวไปยื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดี ณ ตึกทำเนียบขาว ( White House)มีข้อน่าสนใจอันหนึ่งคือ ทางฝ่ายสหรัฐฯ จะสนับสนุนให้เอกอัครราชทูตพาภรรยาและบุตรทั้งชายหญิงไปร่วมในการยื่นสารตรา ตั้งนั้นด้วย การแต่งกายของเอกอัครราชทูตก็สวมชุดสากลผูกเน็คไทตามธรรมดา ระหว่างที่ยื่นสารมีการปฏิสันถารกันพอสมควรระหว่างเอกอัครราชทูตกับ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีช่างภาพของทางราชการถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก และมอบภาพถ่ายให้แก่เอกอัครราชทูตในวันหลัง (ต่างกับพิธีของอังกฤษมาก) เอกอัครราชทูตไม่ต้องพาคณะเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตติดตามไปด้วย หลังจากพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว อธิบดีกรมพิธีการทูตจะนำเอกอัครราชทูตและครอบครัวกลับไปยังทำเนียบที่พักโดย รถยนต์คันเดิม เป็นอันเสร็จพิธียื่นสารตราตั้ง โดยที่ประเทศต่าง ๆ ในโลกต่างมีสถานเอกอัครราชทูตของตนตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตันดีซี ดังนั้น ในวันไหนที่มีการยื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดี ทางการทำเนียบขาวมักจะกำหนดให้เอกอัครราชทูตใหม่จากประเทศต่าง ๆ เข้ายื่นสารในวันนั้นราว 4-5 ประเทศติดต่อกัน มิใช่วันละคนอย่างที่ปฏิบัติในบางประเทศทันทีที่เอกอัครราชทูตยื่นสารตรา ตั้งต่อประธานาธิบดีเรียบร้อยแล้ว เอกอัครราชทูตจะมีหนังสือเวียนไปยังหัวหน้าคณะทูตทุกแห่งในกรุงวอชิงตันดีซี แจ้งให้ทราบว่าในวันนั้น ๆ เขาได้ยื่นสารตราตั้งต่อประมุขของรัฐ ในฐานะเอกอัครราชทูตเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับแสดงความหวังในหนังสือว่าความสัมพันธ์อันดีที่มีอยู่ระหว่างคณะผู้ แทนทางการทูตทั้งสอง ทั้งในทางราชการและทางส่วนตัว จะมั่นคงเป็นปึกแผ่นยิ่งขึ้นอีก จากนั้น เอกอัครราชทูตใหม่ก็จะหาเวลาไปเยี่ยมคารวะเอกอัครราชทูตของประเทศต่าง ๆ ที่ประจำอยู่ในกรุงวอชิงตันดีซีทีละราย กว่าจะเยี่ยมหมดทุกคนก็กินเวลานานอยู่หลายเดือนทีเดียว [การทูต] |
Reciprocity of Rank of Envoys | หมายถึง การถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกันในเรื่องตำแหน่งของทูต กล่าวคือ ประเทศทั้งหลายถือธรรมเนียมปฏิบัติในการแลกเปลี่ยนทูตที่มีตำแหน่งเท่าเทียม กัน ดังนั้น หากประเทศหนึ่งส่งทูตไปประจำอีกประเทศหนึ่ง ในตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม ประเทศนั้นก็คาดว่าประเทศผู้รับย่อมจะให้ถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน โดยส่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มของตนไปประจำที่ประเทศผู้ส่งด้วย พึงสังเกตว่าการถ้อยทีถ้อยปฏิบัติกันเช่นนี้มิใช่เป็นระเบียบข้อบังคับของ กฏหมายระหว่างประเทศ หากเป็นการแสดงไมตรีจิตมิตรภาพต่อกันระหว่างประเทศทั้งหลายมากกว่า [การทูต] |
reconciliation | การปรองดองและลดความเป็นศัตรูต่อกัน [การทูต] |
Thailand ? Cambodia Joint Development Study for Economic Cooperation Plan | โครงการจัดทำแผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจและแผน ปฏิบัติการระหว่างไทย-กัมพูชา มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนา ตลอดจนสาขาทางเศรษฐกิจที่ควรมีความร่วมมือต่อกันเพื่อกระตุ้นให้เกิดความ ร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-กัมพูชาในระยะสั้น ระยะปานกลางและระยะยาว รวม 5 สาขา ได้แก่ โครงสร้างทางกายภาพ (ถนนและไฟฟ้า) อุตสาหกรรมการเกษตรและประมง อุตสาหกรรมเบา การพัฒนาการท่องเที่ยว และการเชื่อมโยงทางการค้า โดยจะส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทและลงทุนในกิจกรรมทางเศรษฐกิจดัง กล่าว ทั้งนี้ โครงการและกิจกรรมต่าง ๆ จะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 15 ปี เริ่ม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 เป็นต้นไป [การทูต] |
Bound rubber | ยางส่วนที่ติดกับอนุภาคของสารตัวเติม (เช่น เขม่าดำ) ที่ไม่สามารถสกัดหรือละลายออกมาได้โดยใช้สารละลายที่ละลายยาง ถ้ามีปริมาณของยางบาวด์มาก แสดงว่ายางกับสารตัวเติมเกิดอันตรกิริยาต่อกันได้ดี [เทคโนโลยียาง] |
Anastomotic Circulations | การมีเส้นเลือดติดต่อกันในครรภ์แฝด [การแพทย์] |
Anthropophilic | ชนิดที่อาศัยอยู่ในคน, นิสัยชอบเลือดคน, ติดต่อกันระหว่างคนด้วยกันเท่านั้น, แมลงที่ชอบกัดดูดเลือดจากคน [การแพทย์] |
Arcade | โค้ง, ติดต่อซึ่งกันและกันเป็นข่ายโค้ง, ส่วนโค้งติดต่อกัน, ทางโค้ง [การแพทย์] |
Arteriovenous Communication | การเชื่อมต่อกันระหว่างหลอดเลือดแดงกับดำ [การแพทย์] |
Arthrospore | สปอร์รูปร่างรีเรียงต่อกันเป็นแนวยาว [การแพทย์] |
Atrium-Ventricular Junction | บริเวณติดต่อกันระหว่างหัวใจห้องบนและล่าง [การแพทย์] |
Beads-Like | คล้ายเป็นเม็ดต่อกัน [การแพทย์] |
Bony Union | ติดต่อกันด้วยกระดูก [การแพทย์] |
Bridges, Cross | การเชื่อมต่อกัน [การแพทย์] |
Carbide, Discontinuous | ชนิดตกตะกอนไม่ติดต่อกัน [การแพทย์] |
Cells, Chords of | เซลล์ต่อกันเป็นสาย [การแพทย์] |
Constant | อย่างติดต่อกันไป, มีมาตลอด, คงที่, ค่าคงที่ [การแพทย์] |
Continuous Method | แบบกินยาติดต่อกันไป [การแพทย์] |
Contraction, Tetanic | การหดกระตุกของกล้ามเนื้อ, กระตุ้นกล้ามเนื้อให้หดตัวติดต่อกัน, การหดรัดตัวโดยไม่คลายอย่างสมบูรณ์ [การแพทย์] |
Craniosynostoses | รอยต่อกระดูกกะโหลกศีรษะต่อกัน, การปิดของรอยแยกสมองเร็วเกินไป [การแพทย์] |
Decerebration | ความผิดปกติรุนแรงของก้านสมองทำให้ขาดการติดต่อกัน, การตัดสมองซีรีบรัม [การแพทย์] |
Diarrhea, Prolonged | ท้องเดินติดต่อกันนานๆ [การแพทย์] |
Disulfide Bridge | สะพานเชื่อมไดซัลไฟด์, สะพานไดซัลไฟด์, เชื่อมต่อกันด้วยพันธะไดซัลไฟด์ [การแพทย์] |
Drug Interactions | ปฎิกิริยาต่อกันของยา, ปฎิกิริยาระหว่างกันของยา, ปฏิกิริยาระหว่างยา, อันตรกิริยาระหว่างยา, ฤทธิ์ระหว่างตัวยาด้วยกัน, ยา, การออกฤทธิ์ระหว่าง, ปฏิกิริยาสัมพันธ์กับยาอื่น, ยา, การออกฤทธิ์ระหว่างกัน [การแพทย์] |
Epileptic Fits, Repeated | อาการชักติดต่อกัน [การแพทย์] |
Exercise, Rhythmical Endurance | ออกกำลังเป็นจังหวะติดต่อกัน [การแพทย์] |
Family Transaction | การปฏิบัติต่อกันระหว่างบุคคลในครอบครัว [การแพทย์] |
Fibrous Union | เอ็นยึดติดกัน, ติดต่อกันด้วยพังผืด [การแพทย์] |
Floating Fragment | ชิ้นกระดูกแยกตัวหลุดออกจากตำแหน่งที่เคยต่อกัน [การแพทย์] |
nucleic acid | กรดนิวคลิอิก, สารอินทรีย์ที่มีอยู่ในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ประกอบด้วยหน่วยย่อยคือ นิวคลีโอไทด์ต่อกันเป็นสาย กรดนิวคลีอิกมี 2 ชนิด คือ DNA และ RNA [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
cardiac muscle | กล้ามเนื้อหัวใจ, เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อที่ประกอบด้วยเซลล์รูปทรงกระบอก มีลายตอนปลายของเซลล์ มีการแตกแขนงและเชื่อมโยงติดต่อกันกับเซลล์ข้างเคียง ทำงานนอกอำนาจจิตใจ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
conditioning | การเรียนรู้แบบมีเงื่อนไข, พฤติกรรมของสัตว์ที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้า 2 ชนิดอย่างมีเงื่อนไข คือเมื่อมีสิ่งเร้าแท้จริงและสิ่งเร้าไม่แท้จริง เร้าติดต่อกันเป็นเวลานาน จนกระทั่งแม้จะไม่มีสิ่งเร้าแท้จริงอยู่ด้วย สิ่งเร้าไม่แท้จริงก็สามารถกระตุ้นให้สัตว์นั้น ๆ ตอบสนองได้ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
การมีปฏิกิริยาต่อกัน | [kān mī patikiriyā tø kan] (n, exp) EN: interaction |
ปฏิบัติต่อกัน | [patibat tø kan] (v, exp) EN: treat one another with |
ติดต่อกัน | [tittø kan] (v, exp) EN: see each other |
ติดต่อกัน | [tittø kan] (x) EN: succesive ; consecutive FR: successif ; consécutif |
ติดต่อกันไป | [tittø kan pai] (x) FR: suivi ; continu |
Longdo Approved EN-TH
adjoining room | [แอดจอยนิ่ง รูมส์] (n) ห้องพักสองห้องที่เชื่อมต่อกัน |
blockchain | (n) บล็อกเชน, วิธีการเก็บข้อมูลรายการเปลี่ยนแปลงตามหลักการทางบัญชี โดยการเข้ารหัสและจัดเรียงข้อมูลเหล่านี้ต่อกันตามลำดับเวลาที่ข้อมูลเข้ามา กลุ่มข้อมูลดังกล่าวจะเผยแพร่ไปให้ผู้ใช้ในเครือข่ายที่กำหนดได้ทราบทั่วกัน ทั้งนี้ ผู้ใช้ทุกคนจะทราบการแก้ไขเพิ่มเติมรายการเปลี่ยนแปลงในบล็อกเชนทุกรายการตลอดเวลา [ ศัพท์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับราชบัณฑิตยสภา ] |
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
abrupt | (adj) ซึ่งขาดตอน, See also: ซึ่งไม่ติดต่อกัน |
ankylose | (vi) เชื่อมต่อกัน |
ankylose | (vt) เชื่อมต่อกัน |
append | (vt) ทำให้เชื่อมต่อกัน, Syn. attach, fasten, fix |
bad blood | (n) ความเกลียดชัง, See also: ความไม่พอใจ, ความรู้สึกไม่ดีต่อกัน, Syn. hatred, Ant. affection |
bad feeling | (n) ความเกลียดชัง, See also: ความไม่พอใจ, ความรู้สึกไม่ดีต่อกัน, Syn. bad blood |
batter | (vt) ทุบตีติดต่อกัน, See also: ตีติดต่อกัน, โจมตีติดต่อกัน, Syn. beat |
block | (n) ช่วงตึก, [ แถวติดต่อกันของอาคาร ] |
batter down | (phrv) ทุบตีติดต่อกัน, See also: ทำร้ายหรือทำลายอย่างต่อเนื่อง |
chronic | (adj) เรื้อรัง, See also: ติดต่อกันเป็นเวลานาน, Syn. continuing, lasting, persisting |
coherently | (adv) อย่างปะติดปะต่อกัน, See also: อย่างต่อเนื่องกัน, Syn. tenaciously |
collage | (n) ศิลปการสร้างภาพจากชิ้นส่วนเล็กๆ ที่นำมาปะติดปะต่อกัน |
conjunctive | (adj) ที่เชื่อมต่อกัน, Syn. connective |
connected | (adj) ที่ทำให้เชื่อมต่อกัน |
connecting | (adj) ที่เชื่อมต่อกัน |
connective | (adj) ที่เชื่อมต่อกัน |
continuation | (n) การต่อเนื่องกัน, See also: การดำเนินต่อไป, การติดต่อกัน, Syn. continuance, prolongation |
continuous | (adj) ซึ่งติดต่อกัน, See also: ซึ่งต่อเนื่องกัน, Syn. uninterrupted |
correspond | (vi) ติดต่อกันทางจดหมาย, See also: โต้ตอบจดหมาย |
correspondence | (n) การติดต่อกันทางจดหมาย |
cursive | (adj) ที่เขียนแบบตัวอักษรต่อกันไป |
couple together | (phrv) เชื่อมต่อกัน (โดยเฉพาะสองสิ่ง), See also: รวมกัน |
couple up | (phrv) เชื่อมต่อกัน (โดยเฉพาะสองสิ่ง), See also: รวมกัน |
expose to | (phrv) เผยต่อ, See also: เปิดเผยต่อ เพื่อให้สิ่งนั้นมีผลต่อกัน |
day after day | (adv) วันแล้ววันเล่า, See also: หลายวันติดต่อกัน |
day in day out | (adv) ทุกวันติดต่อกันเป็นเวลานาน, See also: ไม่หยุดหย่อน, ไม่เว้นแต่ละวัน, Syn. every day |
disjointed | (adj) ไม่ต่อเนื่อง, See also: ไม่เชื่อมต่อกัน, แยกกัน, Syn. disconnected, Ant. unified, joined |
endless | (adj) ทำให้ต่อเนื่องโดยนำปลายมาต่อกัน |
enmity | (n) ความเป็นศัตรู, See also: ความเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน, ความเป็นปรปักษ์ต่อกัน, Syn. antagonism, hatred, hostility |
play one's cards close to one's chest | (idm) ทำอย่างลับ, See also: ติดต่อกันอย่างลับๆ, ติดต่อกันอย่างไม่เป็นทางการ ไม่เปิดเผย |
infectious | (adj) ซึ่งติดเชื้อ, See also: ติดต่อกันได้, Syn. contagious, spreading, Ant. uninfectious |
inosculate | (vi) เชื่อมต่อโดยรูปเปิด, See also: เชื่อมต่อกัน |
interact | (vi) มีปฏิกิริยาต่อกัน, See also: มีผลกระทบต่อกัน, Syn. coact, socialize |
interconnect | (vi) เชื่อมต่อกัน, See also: ต่อเข้าด้วยกัน, Syn. connect, join |
interconnect | (vt) เชื่อมต่อกัน, See also: ต่อเข้าด้วยกัน, Syn. connect, join |
intercourse | (n) การติดต่อกัน, See also: การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น, การพูดคุยกัน, การปฏิสัมพันธ์กัน, Syn. communication, contact |
interlink | (vt) เชื่อมต่อกัน, See also: เชื่อมกัน, โยงใยเข้าด้วยกัน, Syn. interconnect |
interlink | (vi) เชื่อมต่อกัน, See also: เชื่อมกัน, โยงใยเข้าด้วยกัน, Syn. interconnect |
interlock | (vt) ประสานกัน, See also: เชื่อมต่อกัน, Syn. engage, match |
interlock | (vi) ประสานกัน, See also: เชื่อมต่อกัน, Syn. engage, match |
interlock | (n) อุปกรณ์เชื่อมต่อกัน, See also: การเชื่อมต่อกัน |
interplay | (n) การมีปฏิกิริยาต่อกันและกัน, See also: การมีผลกระทบซึ่งกันและกัน, Syn. interaction |
join up | (phrv) ทำให้เข้าใกล้กันมากขึ้น, See also: เกือบติดกัน, เกือบต่อกันมากขึ้น, Syn. close up |
join up | (phrv) รวมกัน, See also: เชื่อมต่อกัน, รวมตัวกัน, Syn. link up, marry up |
knit up | (phrv) ถัก, See also: ทอ, ทำให้ต่อกัน |
lock on | (phrv) เชื่อมต่อกันกับ, See also: เชื่อมต่อกันแน่น, ล๊อคต่อกันแน่น, Syn. lock onto |
lock onto | (phrv) เชื่อมต่อกันแน่น, See also: ล๊อคต่อกันแน่น, Syn. lock on |
lock together | (phrv) ล็อกติดกันแน่น, See also: เชื่อมต่อกันแน่น, ติดไว้ด้วยกัน |
joinder | (n) การเชื่อมต่อกัน, See also: การร่วมกัน, Syn. joining |
linked | (adj) ที่เชื่อมต่อกัน, See also: ที่เชื่อมโยงกัน, Syn. connected, combined, Ant. disconnected, separated |
Hope Dictionary
abrupt | (อะบรัพทฺ') adj. ทันใด, ทันที, ปัจจุบันทันด่วน, ฉุกเฉิน, คับขัน, ฉับพลัน, หยาบ, หยาบคาย, ไม่ติดต่อกัน, ขาดตอนกัน, Syn. precipitate, sudden, Ant. expected, smooth |
adjacency | (อะเจ' เซินซี) n., (pl. -cies) ภาวะที่อยู่ชิดกัน, ภาวะประชิดกัน, การอยู่ติดต่อกัน, ของที่ติดต่อกัน., Syn. juxtaposition |
adjacent | (อะเจ' เซินทฺ) adj. ใกล้, ชิด, ติดต่อกัน, ซึ่งมียอดและด้านเดียวกัน, Syn. adjoining |
alphabetic string | สายตัวอักษรหมายถึงตัวอักขระหลาย ๆ ตัวที่เมื่อนำมาต่อกันแล้วสื่อความหมายบางอย่างและสามารถนำไปเก็บในหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือสื่อชนิดต่าง ๆ ได้มีความหมายเหมือน character string |
anastomose | (อะแนส' ทะโมส) vt., vi. เชื่อมต่อ, ทำให้เชื่อมต่อกัน (connect by anastomosis) |
articulate | (อาร์ทิค'คิวเลท) adj. เป็นข้อ, เป็นปล้อง, ออกเสียงชัดเจน, สามารถพูดได้, ชัดเจน, มีความหมาย. -vt. ออกเสียงชัดเจน, พูดอย่างชัดเจน, ต่อกัน, ประกบ. -articulability, articulateness, articulacy n., Syn. clear, enunciate, Ant. indistinct, confused |
articulation | (อาร์ทิคคิวเล'เชิน) n. การต่อกัน, การเชื่อมประกบ, กระบวนการพูดได้อย่างชัดเจน, ข้อต่อ, ปล้อง, ระดับที่ชัดเจน. -articulatory adj., Syn. joint |
batter { battered | vt. ทุบติดต่อกัน, ตีติดต่อกัน, โจมตีติดต่อกัน, ใช้จนเสีย, นวด - n. ผู้ตี, ผู้นวด, มือตีเบสบอล (หรือคริกเก็ต) |
battering | vt. ทุบติดต่อกัน, ตีติดต่อกัน, โจมตีติดต่อกัน, ใช้จนเสีย, นวด - n. ผู้ตี, ผู้นวด, มือตีเบสบอล (หรือคริกเก็ต) |
batters } | vt. ทุบติดต่อกัน, ตีติดต่อกัน, โจมตีติดต่อกัน, ใช้จนเสีย, นวด - n. ผู้ตี, ผู้นวด, มือตีเบสบอล (หรือคริกเก็ต) |
cascade | (แคส'เคด) { cascaded, cascading, cascades } n. น้ำตกเล็กที่ตกจากหน้าผาที่สูงชัน, น้ำตกเป็นหลั่น ๆ , การต่อไฟฟ้าเป็นหลั่น ๆ , การเชื่อมโยง, ใบพะเนียด vt., vi. ตกลงมาเหมือนน้ำตก, ต่อเนื่องกันเป็นขั้นบันได, Syn. cataract แบบต่อเรียงการจัดเรียงวินโดว์บนจอภาพนั้น สามารถทำได้ 2 แบบ คือให้เป็นแบบต่อเรียง ซึ่งจะทำให้สามารถมองเห็นชื่อของแต่ละวินโดว์ที่เรียงต่อกัน หรือแบบแผ่เรียง tile ซึ่งจะทำให้มองเห็นทุกวินโดว์บนจอพร้อม ๆ กันในขนาดเล็ก ๆ ก็ได้ ทั้งนี้แล้วแต่คำสั่งของผู้ใช้เครื่อง คอมพิวเตอร์ ว่าจะสั่งให้เป็นแบบ cascade หรือ tileดู tile เปรียบเทียบ |
catena | (คะท''นะ) n. อนุกรมที่ติดต่อกัน, สายโซ่ -pl. catenae |
character string | หมายถึง ตัวอักขระหลาย ๆ ตัวที่เมื่อนำมาต่อกันแล้ว สื่อความหมายบางอย่าง และสามารถนำไปเก็บในหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือสื่อ (media) ชนิดต่าง ๆ ได้ นอกจากนั้น จะต้องทำให้คอมพิวเตอร์สามารถแยกออกว่าไม่ใช่คำสั่งในภาษามีความหมายเหมือน alphabetic string หรือ string |
circuit switching | การสลับวงจรในด้านการสื่อสารข้อมูล (data communications) หมายถึงเทคนิคในการสื่อสารข้อมูลจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง เมื่อมีการเชื่อมต่อกันแล้วจะติดต่อกันได้ตลอดเวลา ผู้อื่นจะแทรกเข้ามาไม่ได้เลย จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะปลดวงจรออก ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การติดต่อทางสายโทรศัพท์ เมื่อเริ่มพูดกันได้แล้ว คนอื่นจะต่อสายแทรกเข้ามาไม่ได้ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะวางหูลง (ปลดวงจร) ดู packet switching เปรียบเทียบ |
coalesce | (โคอะเลส') { coalesced, coalescing, coalesces } v. รวมกัน, เชื่อมกัน, ต่อกัน, See also: coalescence n. ดูcoalesce coalescent adj. ดูcoalesce, Syn. unite-A. separate |
comity | (คอม'มะ) n มารยาทที่มีต่อกัน, ไมตรีจิตที่มีต่อกัน |
communicable | (คะมูน'นะคะเบิล) adj. ซึ่งสามารถติดต่อกันได้, ช่างพูด., See also: communicability n. -S... |
concatenate | (คอนแคท 'ทะเนท) vt, เชื่อมเข้าด้วยกัน ต่อกันหมายถึง การเชื่อมโยงสายอักขระ (string) สองสายเข้าเป็นสายเดียวกัน เช่น เชื่อม "ABC" และ "DEF" เป็น "ABCDEF" เป็นต้น เราอาจนำมาใช้กับการนำแฟ้มข้อมูลมาต่อกันก็ได้ |
correspond | (คอรีสฺพอนดฺ') { corresponded, corresponding, corresponds } vi. ตรงกัน, ลงรอยกัน, เหมือนกับ, มีลักษณะเช่นเดียวกัน, ติดต่อกันทางจดหมาย, Syn. agree, Ant. differ |
correspondence | (คอริสพอน'เดินซฺ) n. การติดต่อกันทางจดหมาย, ความตรงกัน, ความลงรอยกัน, ความสอดคล้องกัน, ความเหมือนกัน, Syn. agreement, conformity |
correspondent | (คอริสพอน'เดินทฺ) n. ผู้ติดต่อกันทางจดหมาย, ผู้ส่งจดหมาย, นักข่าว, สิ่งที่เป็นคู่กัน, สิ่งตรงกัน, บุคคลหรือบริษัทที่ติดต่อกัน, ลูกค้า adj. ซึ่งตรงกัน, ซึ่งลงรอยกัน, ซึ่งเหมือนกัน, Syn. corresponding |
cursive | (เคอ'ซิฟว) adj. ติดต่อกันไป (เหมือนคัดลายมือ) n. อักษรคัดลายมือ, See also: cursiveness n. |
dbase | (ดีเบส) เป็นชื่อโปรแกรมสำเร็จที่ได้รับความนิยมมากสมัยหนึ่งในด้านการจัดการฐานข้อมูล (database management) ได้รับการพัฒนาติดต่อกันมาหลายรุ่น (version) |
ddp | (ดีดีพี) ย่อมาจาก distributed data processing (แปลว่า การประมวลผลข้อมูลแบบกระจาย) หมายถึง การประมวลข้อมูลในหน่วยงานที่มีหลายสาขา และ การทำงานเป็นแบบต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างมีข้อมูล แต่อาจมีการเชื่อมติดต่อกันโดยการสื่อสารข้อมูล (data communications) <คำย่อ> ดีดีพี ย่อมาจาก Drug Data for Pharmacist |
defrag | นำ (แฟ้มข้อมูล) มาต่อกันในฮาร์ดดิสก์นั้น เมื่อมีการสั่งบันทึกข้อมูลลงไปแล้วมาสั่งลบภายหลัง จะทำให้มีที่ว่างเกิดขึ้นเป็นหย่อม ๆ ฉะนั้น เมื่อมีการนำแฟ้มข้อมูลใหม่บันทึกลงไป คอมพิวเตอร์ก็จะจัดการแบ่งข้อมูลใหม่นี้ให้ได้สัดส่วนพอดีกับช่องที่ว่างอยู่ก่อน ทำให้แฟ้มข้อมูลเดียวถูกเก็บเป็นหย่อม ๆ การเก็บแฟ้มข้อมูลในลักษณะนี้ เรียกว่า เป็นการกระจาย (fragmentation) โปรแกรมระบบดอสรุ่น 6.0 จึงมีคำสั่ง "defrag" ซึ่งจะช่วยจัดการนำแฟ้มข้อมูลเดียวกันมาเรียงให้ติดต่อกัน เพื่อให้การค้นคืนแฟ้มทำได้รวดเร็วขึ้น ในระบบวินโดว์ ก็จะต้องสั่งให้มีการนำแฟ้มมาต่อกันนี้เป็นครั้งคราวเสมอ |
deuce | (ดูซฺ) n. ไพ่ 2 แต้ม, เต๋า2แต้ม, คะแนนเสมอกันที่ชนะได้ด้วยการทำคะแนนนำติดต่อกัน2เกม, ปีศาจ, ผี, ผีสาง adj., Syn. devil, dickens |
disconnected | adj. ซึ่งแยกออก, ไม่ปะติดปะต่อ, ไม่เชื่อมติดกัน, ไม่ต่อกัน, ซึ่งไร้เหตุผล, ไม่เป็นระเบียบ., Syn. rambling |
disconnection | n. การแยกออก, การไม่ต่อกัน, การไร้เหตุผล, การไม่เป็นระเบียบ, Syn. disconnexion |
even parity | ภาวะคู่หมายถึง การตรวจสอบความผิดพลาดของข้อมูล โดยการเพิ่มบิตต่อกันเข้ากับข้อมูล (concate nate) เพื่อให้จำนวนบิตที่มีค่าเป็น 1 เปลี่ยนเป็นเลขคู่ ดู odd parity เปรียบเทียบ |
first generation computer | คอมพิวเตอร์ยุคที่หนึ่งนับตั้งแต่เริ่มมีเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้ มนุษย์ได้พัฒนาเครื่องมือนี้ติดต่อกันมาตลอด ทำให้มีการแบ่งวิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ออกเป็นยุค (generation) พัฒนาการของคอมพิวเตอร์ยุคแรกถือว่าเริ่มตั้งแต่ ค.ศ.1951 ถึงต้น ค.ศ.1960 คอมพิวเตอร์สมัยนั้นสามารถเก็บโปรแกรมได้ ใช้หลอดสุญญากาศเป็นหน่วยความจำ ทำให้มีขนาดใหญ่ กินเนื้อที่มาก ระหว่างทำงาน จะทำให้เกิดความร้อนสูงตลอดเวลา การทำงานจะทำได้ทีละอย่าง และจะเรียงกันไปตามลำดับคำสั่งอย่างเคร่งครัด ภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมก็มีแต่ภาษาแอสเซมบลี (assembly language) ดู generation ประกอบ |
flow | (โฟล) vi. ไหล, ไหลเวียน, ออกจาก, หลั่ง, มีประจำเดือน, ดำเนินไปอย่างราบรื่นและติดต่อกัน, เต็มไปด้วย, ขึ้น, ปลิว, ปลิวสะบัด, โบกสะบัด vt. ทำให้ไหล, ท่วม, ไหลบ่า. n. การไหล, การไหลเวียน, สิ่งที่ไหล, กระแสน้ำ, การไหลบ่า, การหลั่ง, การมีประจำเดือน, การเคลื่อนตัวของพลังงาน, ลูกศรช |
form feed | ป้อนกระดาษหมายถึงอุปกรณ์ส่วนที่ใช้ป้อนกระดาษเข้าสู่จุดสัมผัสของเครื่องพิมพ์ มักใช้กับกระดาษที่ต่อกันเป็นม้วนหรือพับ เช่นกระดาษต่อเนื่อง (continuous paper) |
fourth generation compute | คอมพิวเตอร์ยุคที่สี่คอมพิวเตอร์ในยุคที่สี่นี้มีขนาดของหน่วยความจำเล็กกว่ายุคที่สามลงไปอีก มีการนำไอซี (IC หรือ integrated circuit) หรือวงจรเบ็ดเสร็จมารวมกันเป็นแผงใหญ่ ๆ เรียกว่าแผงวงจรรวมความจุสูง (large scale integrated circuit) หรือบางทีเรียกกันว่าชิป (chip) ทำให้สร้างคอมพิวเตอร์ได้เล็กลงมาก จึงทำให้เกิดมีไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) หรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (personal computer) หรือพีซีขึ้น ราคาขายในท้องตลาดก็ลดลงได้มาก ทำให้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วในหมู่คนทั่วไป ไม่เฉพาะแต่นักคอมพิวเตอร์ ต่อมาปลายยุคที่สี่นี้ มีการนำพีซีหลาย ๆ เครื่องมาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย (network) ทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นไปอีกดู generation ประกอบ |
fragmental | (แฟรกเมน'เทิล) adj. เป็นเศษ, เป็นชิ้น, เป็นสะเก็ด, ขาด ๆ วิ่น ๆ , ไม่ปะติดปะต่อกัน, ไม่สมบูรณ์. -fragmentally adv. |
fusilade | (ฟิว'ซะเลด, -ลาด) n. การระดมยิงพร้อมกัน, การปล่อยออกมาอย่างโหมระดม. vt. ระดมยิง, โหมระดม, โหมโจมตีติดต่อกัน |
inarticulate | (อินอาร์ทิค' คิวเลท) adj. พูดไม่เก่ง, พูดไม่เป็น, นิ่งเฉย, น้ำท่วมปาก, พูดไม่ออก, ไม่เชื่อมต่อกัน., See also: inarticulately adv. inarticulateness n., Syn. unintelligble |
incessant | (อินเซส' เซินทฺ) adj. ต่อเนื่อง, ไม่หยุดยั้ง, ติดต่อกัน., See also: incessantly adv. |
incommunicable | (อินคะมิว' นะคะเบิล) adj. ติดต่อกันไม่ได้, ถ่ายทอดออกเป็นคำพูดไม่ได้, ไม่ชอบพูดจา., See also: incommunicability, incommunicableness n. incommunicably adv. |
intercommunicate | (อินเทอคะมิว'นิเคท) vi. เชื่อมสัมพันธ์กัน, ติดต่อกัน. vi. แลกเปลี่ยนข่าวสารกัน, แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน., See also: intercommunicability, intercommunicable adj. intercommunication n. intercommunicative adj. intercommunicator n. |
intercourse | (อิน'เทอคอร์ส) n. การติดต่อกัน, การไปมาหาสู่กัน, การแลกเปลี่ยนความคิดกัน, การร่วมประเวณี., Syn. intercommunication |
interdict | (อินเทอไดทฺ') n. คำสั่งห้าม, กฎหมายที่เป็นคำสั่งห้าม, ข้อห้าม, การห้าม. vt. ห้ามขัดขวางโดยการทิ้งระเบิดติดต่อกัน., See also: interdictor n., Syn. prohibit |
joinder | (จอย'เดอะ) n. การร่วมกัน, การร่วมมือกัน, การร่วมฟ้อง, การเชื่อมต่อกัน |
joint | (จอยทฺ) { jointed, jointing, joints } n. ข้อต่อ, รอยต่อ, หัวต่อ, เดือย, ปล้อง, ข้อ, ตาไม้, ส่วนตอ, ตะเข็บ, ที่บรรจบ adj. ร่วมกัน, สัมพันธ์กัน, ในเวลาเดียวกัน, เชื่อม vt., vi. เชื่อมกัน, ต่อกัน, Syn. juncture |
metastasis | (มะแทส'ทะซิส) n. การย้ายของโรคหรือเชื้อหรือเซลล์จากส่วนหนึ่งหรืออวัยวะหนึ่งไปยังอีกส่วนหนึ่งหรืออวัยวะหนึ่งที่ไม่ติดต่อกันโดยตรง., See also: metastatic adj. pl. metastases |
noncommunicable | (นอนคะมิว'นิคะเบิล) adj. ไม่ติดต่อกันได้ |
ogee | (โอจี', โอ'จี) n. เส้นโค้งคล้ายอักษรSที่เกิดจากการต่อกันของเส้นนูนกับเส้นเว้า, เส้นโค้งรูปหัวหอม |
parasymapsis | n. การเชื่อมต่อกันแบบกระหนาบข้างของโครโมโซม |
parity | ภาวะคู่หรือคี่หมายถึง กรรมวิธีของการทดสอบความผิดพลาดของข้อมูลโดยการเพิ่มบิตต่อกันเข้ากับข้อมูล โดยวิธีการเพิ่มบิตที่มีจำนวนค่าเป็นคี่ (1) ให้เปลี่ยนเป็นเลขคู่ (0) เรียกว่า ภาวะเสริมคู่ (even parity) หรือ เพิ่มบิตที่มีจำนวนค่าเป็นคู่ (0) ให้เปลี่ยนเป็นเลขคี่ (1) เรียกว่า ภาวะเสริมคี่ (odd parity) |
patch work | n. สิ่งที่เกิดจากการปะติดปะต่อกัน, ของผสมผเส |
plug and play | ต่อแล้วใช้หมายถึงเทคโนโลยีในการนำอุปกรณ์บางอย่างมาใช้ร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเพียงแต่เสียบต่อกัน ก็ใช้ได้เลย ไม่ต้องมีการติดตั้งให้ลำบากอย่างเครื่องพิมพ์ |
Nontri Dictionary
affix | (vt) ติดต่อกัน, ประทับ(ตรา), ใส่ความ |
articulate | (adj) ที่ติดต่อกัน, ที่เป็นข้อ, ที่เป็นปล้อง |
articulate | (vi, vt) ต่อกัน, เรียง, ประกบ, เป็นข้อ, เป็นปล้อง, ออกเสียงชัด |
coalesce | (vi) รวมกัน, เชื่อมต่อกัน |
coalescence | (n) การรวมกัน, การเชื่อมต่อกัน |
cohere | (vi) ติดกัน, ต่อกัน, เกาะกัน, เชื่อมโยง |
coherence | (n) การติดต่อกัน, การเชื่อมโยง, การเกี่ยวพัน |
coherent | (adj) ติดต่อกัน, เชื่อมโยงกัน, เกี่ยวข้องกัน, สอดคล้องกัน |
communicable | (adj) ซึ่งสามารถติดต่อกันได้ |
conjoin | (vt) ประสานกัน, เชื่อมกัน, รวมกัน, ต่อกัน |
conjugate | (adj) เชื่อมต่อกัน, ผัน |
conjugation | (n) การผันคำกริยา, การเชื่อมต่อกัน, การรวมกัน |
connect | (vi, vt) ติดต่อกัน, เกี่ยวข้อง, เกี่ยวดอง, ต่อเนื่อง, สัมพันธ์ |
connective | (adj) ซึ่งติดต่อกัน, ซึ่งเกี่ยวดองกัน, ซึ่งเกี่ยวข้องกัน |
consecutive | (adj) เป็นลำดับ, ติดต่อกัน, ซึ่งต่อเนื่องมา, ซึ่งตามกันมา |
contagious | (adj) แพร่หลายง่าย, เป็นโรคติดต่อ, ติดต่อกันได้ |
contiguity | (n) ความใกล้ชิด, การประชิด, การเชื่อมติด, การติดต่อกัน |
contiguous | (adj) ใกล้ชิด, ติดกัน, ติดต่อกัน, เชื่อมติด, ประชิด |
continuous | (adj) ติดต่อกัน, สืบเนื่องกัน, ต่อเนื่องกัน, ไม่ขาดสาย |
cursive | (adj) ติดต่อกันไป, ติดกันไป |
desultory | (adj) ไม่ปะติดปะต่อ, ไม่ต่อเนื่อง, ไม่ติดต่อกัน, ข้ามๆไป |
endways | (adv) ปลายทาง, ปลายสุด, ตามยาว, เรียงกัน, ต่อกัน |
incoherence | (n) ความไม่ติดต่อกัน, ความไม่เกาะกัน, ความร่วน |
incoherent | (adj) ไม่ติดต่อกัน, ไม่ต่อเนื่องกัน, ไม่เกาะกัน, ซึ่งร่วนซุย |
incommunicable | (adj) ติดต่อกันไม่ได้, สื่อสารกันไม่ได้ |
infectious | (adj) ติดต่อกัน, ระบาดถึงกัน, แพร่เชื้อ, ลาม |
interact | (vt) มีปฏิกิริยาต่อกัน, มีผลกระทบต่อกัน |
interlock | (vt) ร้อยต่อกัน, ผูกเข้าด้วยกัน, ประสาน |
join | (vt) รวม, เข้าร่วม, ต่อกัน, พบ, บรรจุ, เข้าเป็นสมาชิก |
patchwork | (n) การเย็บปะติดปะต่อกัน |
septic | (adj) ซึ่งติดเชื้อ, ซึ่งติดต่อกัน |
sequent | (adj) ซึ่งติดต่อกัน, ตามลำดับ, ซึ่งต่อเนื่องกัน |
serial | (adj) เป็นตอน, เป็นอันดับ, ต่อเนื่องกัน, ติดต่อกัน |
splice | (vt) ต่อเข้ากับ, ผูกต่อกัน, ประกบ, ทำให้ติดกัน |
telepathy | (n) การติดต่อกันทางจิต |
transact | (vt) ติดต่อกัน, จัดการ, ทำการค้า, ทำธุรกิจ |
transaction | (n) การติดต่อกัน, ธุรกิจ, การซื้อขาย |
unbroken | (adj) ไม่แตก, เป็นทิว, ติดต่อกัน, ไม่เสียหาย |
Longdo Unapproved EN-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
concatenation | (n) การเชื่อมเข้าด้วยกัน, การเชื่อมต่อกัน, การต่อกัน, Syn. concatenate |
in touch | ยังติดต่อกันอยู่ |
interlocking | [れんけつする] (aux, verb) เชื่อมต่อกัน |
panel painting | [แพเนล เพ้นทิง] (n) จิตรกรรมแผง เป็นจิตรกรรมที่เขียนบนแผงที่ทำด้วยไม้ที่อาจจะเป็นแผ่นเดียวหรือหลายแผ่นเชื่อมต่อกัน เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเขียนภาพมาจนถึงราวคริสต์ศตวรรษที่ 16 ก่อนที่การเขียนบนผ้าใบจะกลายมาเป็นที่นิยมกัน (Wikipedia.org) |
spectrum | (n) ความคิด วิธีการซึ่งมีหลากหลายและสัมพันธ์หรือมีผลกระทบต่อกัน (ที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เช่นวิธีแก้ปัญหาคนไร้ที่อยู่อาศัย) |
Longdo Unapproved JP-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
丁目 | [ちょうめ, choume] ช่วงตึก (แถวติดต่อกันของอาคาร) |
連休 | [れんきゅう, renkyuu] วันหยุดติดต่อกันหลายวัน |
連休 | [れんきゅう, renkyuu] วันหยุดติดต่อกันหลายวัน |
Saikam JP-TH-EN Dictionary
繋がる | [つながる, tsunagaru] TH: เชื่อมต่อกันกับ EN: connected to |
Longdo Approved DE-TH
kommunizieren | (vi) |kommunizierte, hat kommuniziert| ติดต่อสื่อสาร, เชื่อมต่อ เช่น Wie kommunizieren Zellen? พวกเซลล์ติดต่อกันอย่างไร, Syn. mitteilen |
Trennfläche | (n) |die, pl. Trennflächen| พื้นผิวสองผิวที่ต่อกัน รอยต่อระหว่างผิวสองผิวที่อาจเป็นคนละชนิดก็ได้ เช่น An der Trennfläche zwischen der Alu-Platte und der Stahlplatte wird zusammengeschweißt. ตรงแนวต่อระหว่างแผ่นอะลูมิเนียมกับแผ่นเหล็กจะถูกเชื่อมเข้าด้วยกัน |
Longdo Unapproved DE-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
zueinander | (adj) ต่อกัน, Syn. gegenseitig |
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Time: 0.054 seconds, cache age: 19.491 (clear)
ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม