83 ผลลัพธ์ สำหรับ *กระเทือน*
หรือค้นหา: กระเทือน, -กระเทือน-

NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
กระเทือน(v) shake, See also: vibrate, tremble, shiver, bump, quake, rock, Syn. สะเทือน, Example: พอมีรถบรรทุกวิ่งผ่าน บ้านก็กระเทือนทันที, Thai Definition: มีอาการเหมือนไหวหรือสั่นเพราะถูกกระทบ
กระเทือนใจ(v) be affected, See also: be touched, be moved, strike one's mind, be hurt, Syn. สะเทือนใจ, กระทบกระเทือนใจ, Example: ทุกครั้งที่มีเรื่องทำให้กระเทือนใจหล่อนต้องร้องไห้, Thai Definition: มีจิตใจหวั่นไหวอย่างรุนแรง เพราะมีสิ่งอื่นมากระทบจิตใจ
กันกระเทือน(adj) shockproof, Syn. กันกระแทก, Example: เขาใช้แผ่นยางกันกระเทือน
กระทบกระเทือน(v) affect, See also: impact, influence, effect, have an impact on, have a repercussion, Syn. กระเทือน, กระทบ, Example: การที่อังกฤษจะเข้ามีส่วนในตลาดร่วมยุโรปย่อมกระทบกระเทือนถึงประเทศอื่นด้วย, Thai Definition: มีผลไปถึง
กระทบกระเทือนใจ(v) hurt one's feelings, See also: be mentally moved, be touched, be stirred, stir up one's feeling, be hurt, Syn. สะเทือนใจ, Example: ปัญหาครอบครัวแตกแยกส่งผลกระทบกระเทือนใจต่อเด็ก, Thai Definition: พาดพิงไปถึงให้รู้สึกสะเทือนใจ
ความกระทบกระเทือน(n) effect, See also: impact, Syn. ผลกระทบ, ผลกระทบกระเทือน, Example: เศรษฐกิจได้รับความกระทบกระเทือนจากความวุ่นวายทางการเมือง

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
กระทบกระเทือนก. กระเทือนไปถึง, พาดพิงไปถึงให้รู้สึกสะเทือนใจ.
กระเทือนก. มีอาการสั่นไหวเพราะถูกกระทบ เช่น นั่งรถที่แล่นไปตามทางขรุขระก็รู้สึกกระเทือน เสียงระเบิดทำให้บ้านกระเทือน, โดยปริยายหมายความว่า เป็นทุกข์กังวล เช่น เขาว่าลูกก็กระเทือนไปถึงแม่ ใครจะว่าอย่างไร ๆ ก็ไม่กระเทือน, บางทีก็ใช้เข้าคู่กับคำ กระทบ เป็น กระทบกระเทือน, สะเทือน ก็ว่า.
กระเทือนใจก. ไม่สบายใจเพราะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากระทบ, สะเทือนใจ ก็ว่า.
กระเทือนซางก. เป็นทุกข์กังวลเพราะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากระทบความรู้สึกอย่างรุนแรง เช่น ว่าเท่าไร ๆ ก็ไม่กระเทือนซาง ถูกตำหนิอย่างแรงทำให้รู้สึกกระเทือนซาง.
ฟ้าไม่กระเทือนสันหลังน. อำนาจเบื้องบนหรือผู้ปกครองยังไม่ลงโทษทัณฑ์ ใช้ในสำนวนว่า ถ้าฟ้าไม่กระเทือนสันหลังก็ยังไม่รู้สึก.
กระทบก. โดน, ถูกต้อง, ปะทะ, ในบทกลอนใช้ว่า ทบ ก็มี เช่น ของ้าวทบประทะกัน (ตะเลงพ่าย), หรือ ประทบ ก็มี เช่น ประทบประทะอลวน (ตะเลงพ่าย), พูดหรือทำให้กระเทือนไปถึงผู้อื่น เช่น พูดกระทบเขา ตีวัวกระทบคราด.
กระทบกระทั่งก. แตะต้อง, ทำให้กระเทือนถึง, ทำให้กระเทือนใจ.
กระทั่ง ๑ให้เสียงสัญญาณ เช่น ตามช่องฉากบังกระทั่งไอ (คาวี), ถ้าใช้เข้าคู่กับคำ กระทบ เป็น กระทบกระทั่ง หมายถึง แตะต้อง, ทำให้กระเทือนถึง, ทำให้กระเทือนใจ
กระทืบยอบน. ชื่อไม้ล้มลุก ๓ ชนิด คือ Biophytum adiantoides Wight ex Edgew. et Hook. f., B. petersianum Klotzsch และ B. sensitivum (L.) DC. ในวงศ์ Oxalidaceae ต้นเล็ก ๆ ใบคล้ายใบผักกระเฉด เมื่อถูกกระเทือนหุบได้ ดอกสีเหลือง, กระทืบยอด ก็เรียก.
กระเทื้อมก. กระเทือน เช่น เสียงดังโครมใหญ่ไม่กระเทื้อม (อภัย)
กินแถวก. เอาตัวหมากออกจากกระดานตลอดทั้งแถว (ใช้เฉพาะการเล่นหมากแยก). ว. กระทบกระเทือนทุกคนในพวกนั้น, ถูกลงโทษทุกคนในพวกนั้น.
ขนหน้าแข้งไม่ร่วงว. ไม่กระทบกระเทือนถึงเดือดร้อน (ใช้แก่คนมั่งมีที่ต้องจ่ายเงินแม้จะมากแต่ก็ดูเหมือนเป็นจำนวนเล็ก ๆ น้อย ๆ ).
เขย่า(ขะเหฺย่า) ก. อาการที่จับสิ่งใดสั่นหรือยกขึ้นยกลงเร็ว ๆ เพื่อให้สิ่งนั้นกระเทือนหรือเคลื่อนไหว เช่น เขย่าตัวเพื่อให้ตื่น เขย่าขวดเพื่อให้ยาระคนกัน เขย่ากิ่งไม้เพื่อให้ลูกไม้หล่น, กระเทือน, ทำให้กระเทือน, เช่น รถเขย่า เกวียนเขย่า, โดยปริยายหมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น เขย่าขวัญ เขย่าโลก.
งงอาการมึนเกิดเพราะหัวหรือบริเวณหน้าได้รับความกระทบกระเทือนอย่างแรงเป็นต้น.
ตบหัวลูบหลังก. ทำหรือพูดให้กระทบกระเทือนใจในตอนแรกแล้วกลับทำหรือพูดเป็นการปลอบใจในตอนหลัง.
บัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่นก. รู้จักผ่อนปรนเข้าหากัน มิให้กระทบกระเทือนใจกัน, รู้จักถนอมนํ้าใจไม่ให้ขุ่นเคืองกัน, บัวไม่ให้ชํ้า นํ้าไม่ให้ขุ่น ก็ว่า.
ไมยราบ(ไมยะราบ) น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Mimosa pudica L. ในวงศ์ Leguminosae ใบคล้ายใบกระเฉด เมื่อถูกกระเทือนก็หุบราบไป, หญ้าปันยอด ก็เรียก.
ระคายก. ทำให้คายคันเหมือนถูกละออง เช่น ระคายตัว, กระทบกระเทือนกายใจให้เกิดรำคาญไม่สุขใจ เช่น ระคายหู, (กลอน) ใช้เป็น กระคาย ก็มี.
ลูบหน้าปะจมูกก. ทำอะไรเด็ดขาดจริงจังลงไปไม่ได้ เพราะเกรงจะไปกระทบกระเทือนพวกพ้องเป็นต้น.
สะเทือน, สะเทื้อนก. มีอาการสั่นไหวเพราะถูกกระทบ เช่น นั่งรถที่แล่นไปตามทางขรุขระก็รู้สึกสะเทือน เสียงระเบิดทำให้บ้านสะเทือน, โดยปริยายหมายความว่า เป็นทุกข์กังวล เช่น เขาว่าลูกก็สะเทือนไปถึงแม่ ใครจะว่าอย่างไร ๆ ก็ไม่สะเทือน, กระเทือน ก็ว่า.
สะเทือนใจก. ไม่สบายใจเพราะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากระทบ เช่น เห็นภาพแม่กอดศพลูกร้องไห้แล้วรู้สึกสะเทือนใจ, กระเทือนใจ ก็ว่า.
สิทธิ, สิทธิ์อำนาจที่กฎหมายรับรองให้กระทำการใด ๆ โดยสุจริตได้อย่างอิสระ แต่ต้องไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิของคนอื่น.
แสลงใจ ๑ก. อาการที่รู้สึกกระทบกระเทือนใจเหมือนถูกของมีคมบาดหัวใจ เช่น พอเห็นคนรักเก่าเดินไปกับหญิงคนใหม่ ก็รู้สึกแสลงใจ.
หนุบ, หนุบ ๆว. ลักษณะอาการตอด, อาการที่เจ็บในกายรู้สึกเต้นกระเทือนแต่น้อย ๆ
หมวกนิรภัยน. หมวกสำหรับสวมป้องกันหรือลดอันตรายเมื่อศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนเป็นต้น, (ปาก) หมวกกันน็อก.

ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
amensalismภาวะกระทบกระเทือน [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
myelitis, concussionไขสันหลังอักเสบเหตุกระแทกกระเทือน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
concussionการกระแทกกระเทือน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
concussion myelitisไขสันหลังอักเสบเหตุกระแทกกระเทือน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]

คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
Order of Precedenceหมายถึง ลำดับอาวุโสทางการทูต โดยถือยศหรือตำแหน่งเป็นบรรทัดฐาน โดยเฉพาะในโอกาสที่ไปร่วมพิธีต่าง ๆ ตลอดจนการเลี้ยงอาหารอย่างเป็นทางการ นักการทูตทั่วโลกต่างถือลำดับอาวุโสเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิถีพิถันกันไม่ น้อย เพราะในฐานะที่เป็นตัวแทนของประเทศ หากมีการจัดลำดับอาวุโสไม่ถูกต้อง เขาผู้นั้นซึ่งคำนึงถึงศักดิ์ศรีในฐานะตัวแทนของประเทศย่อมต้องรู้สึกว่า นอกจากจะไม่ได้รับความถูกต้องแล้ว ยังเป็นการดูแคลนประเทศของตนด้วยในสมัยก่อน ผู้ที่ทำหน้าที่ชี้ขาดในเรื่องลำดับอาวุโสของบรรดาประมุขของรัฐทั้งหลาย คือสมเด็จพระสันตะปาปา ต่อมาในการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาเมื่อปี ค.ศ. 1815 ที่ประชุมได้ตกลงกันให้ถือวันที่เดินทางมาถึงประเทศผู้รับ และได้แจ้งให้ทราบเป็นทางการว่าเป็นเรื่องลำดับอาวุโส ผู้ที่มาถึงก่อนย่อมมีอาวุโสกว่าผู้ทีมาทีหลัง อย่างไรก็ดี มาในทุกวันนี้มีหลายประเทศถือหลักว่า ผู้แทนทางการทูตที่ยื่นสารตราตั้งก่อนจะมีอาวุโสกว่าผู้ยื่นสารตราตั้งที หลัง และในกรณีที่เกิดความเห็นไม่ลงรอยกันระหว่างบุคคลในคณะทูตเรื่องลำดับอาวุโส ประเทศเจ้าภาพหรือประเทศผู้รับจะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดอนุสัญญากรุงเวียนนาว่า ด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติเกี่ยวกับลำดับอาวุโสของผู้แทนทางการ ทูตไว้ดังนี้ ?ข้อ 16 1. ให้หัวหน้าคณะผู้แทนมีลำดับอาวุโสในแต่ละชั้นของตนตามลำดับวันและเวลาที่ เข้ารับการหน้าที่ของตนในรัฐผู้รับ เมื่อตนได้ยื่นสารตราตั้ง หรือเมื่อได้บอกกล่าวการมาถึงของตนและได้เสนอสำเนาที่ถูกต้องของสารตราตั้ง ต่อกระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงตามแนวปฏิบัติที่มีอยู่ในรัฐผู้รับ ซึ่งจะต้องใช้ในทำนองอันเป็นเอกรูป 2. การเปลี่ยนแปลงในสารตราตั้งของหัวหน้าคณะผู้แทน ซึ่งไม่เกี่ยวพันกับการเปลี่ยนแปลงชั้นใด ๆ จะไม่กระทบกระเทือนลำดับอาวุโสของหัวหน้าคณะผู้แทน 3. ข้อนี้ไม่เป็นที่เสื่อมเสียแก่ทางปฏิบัติใด ซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับ ในเรื่องลำดับอาวุโสของผู้แทนของโฮลี่ซี ข้อ 17 ลำดับอาวุโสของสมาชิกคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายทูตของคณะผู้แทนนั้น ให้หัวหน้าคณะผู้แทนเป็นผู้บอกกล่าวแก่กระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน? [การทูต]
Personal Diplomacyคือการเจรจากันโดยตรงระหว่างรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงต่างประเทศด้วยกัน ส่วนการเจรจากันโดยตรงระหว่างประมุขของรัฐ หรือหัวหน้าของรัฐบาล แต่เดิมก็จัดอยู่ในประเภทการมทูตส่วนบุคคล แต่มาในปัจจุบันนี้ มักนิยมเรียกกันว่าเป็นทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) แยกออกต่างหากจากการทูตส่วนบุคคลมีผู้สังเกตการณ์หลายคนเตือนว่า ในกรณีที่เกิดเรื่องหรือปัญหาที่ยังคาราคาซังอยู่นั้น ไม่ควรหันเข้าใช้วิธีส่งผู้แทนพิเศษจากนครหลวงไปแก้ปัญหา ควรให้เอกอัครราชทูตเป็นผู้ดำเนินการมากกว่า เพราะประการแรก การกระทำเช่นนั้นยังผลเสียหายต่อศักดิ์ศรีของตัวเอกอัครราชทูตเอง ทั้งยังกระทบกระเทือนต่อการที่เขาจะปฏิบัติงานให้ประสบผลอย่างเต็มที่ ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้นในภายหน้าด้วย อีกประการหนึ่ง จะพึงคาดหมายได้อย่างไรว่า ตัวผู้แทนพิเศษที่ส่งไปนั้นจะมีความรอบรู้เกี่ยวกับภูมิหลังของปัญหา รวมทั้งตัวบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเท่ากับตัวเอกอัครราชทูตเอง ซึ่งได้ประจำทำงานอยู่ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ณ ที่นั่น แม้แต่ แฮโรลด์ นิโคลสัน ก็ไม่เห็นด้วย และได้เตือนว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศหนึ่งไปเยือนและพบปะกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอีกประเทศหนึ่งบ่อย ๆ นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำและไม่ควรสนับสนุน เพราะการกระทำเช่นนี้ นอกจากจะทำให้ประชาชนคาดหมายไปต่าง ๆ นานาแล้ว ยังจะทำให้เกิดเข้าใจผิด และเกิดความสับสนขึ้นมาได้แม้แต่ผู้รอบรู้ในเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติทางการ ทูตบางคนก็ยังแคลงใจว่า การทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) จะได้ประโยชน์และให้ผลจริง ๆ หรือไม่ นอกจากเฉพาะในกรณียกเว้นจริง ๆ เท่านั้น บ้างเห็นว่า การพบปะเจรจาแบบสุดยอดมักจะกลายสภาพเป็นการโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์มากกว่า ที่จะเป็นการเจรจากันอย่างแท้จริง เพราะมีอันตรายอยู่ว่า ผู้ร่วมเจรจามักจะแสดงความคิดเห็นตามความรู้สึกมากกว่าตามข้อเท็จจริง เพราะมัวแต่เป็นห่วงและคำนึงถึงประชามติในประเทศของตนมากเกินไปนอกจากนี้ ผู้เจรจาไม่อยู่ในฐานะที่จะให้ข้อลดหย่อนหรือทำการประนีประนอม ( ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งหากจะให้เจรจาบังเกิดผล) เพราะกลัวเสียหน้าหากกระทำเช่นนั้น ตามปกติ ถ้าให้นักการทูตเป็นผู้เจรจา เขาจะมีโอกาสมากกว่าที่จะใช้วิธีหลบหลีกอันชาญฉลาดในการเจรจาต่อรอง เพื่อให้เป็นผลตามที่มุ่งประสงค์ [การทูต]
Regional Organizationsคือองค์การส่วนภูมิภาค ในเรื่องนี้ ข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติไว้ว่า ?ไม่มีข้อความใดในกฎบัตรฉบับปัจจุบัน อันจักริดรอนสิทธิประจำตัวในการป้องกันตนเองโดยลำพังหรือโดยร่วมกัน หากการโจมตีโดยกำลังอาวุธบังเกิดแก่สมาชิกของสหประชาชาติ จนกว่าคณะมนตรีความมั่นคงจะได้ดำเนินมาตรการที่จำเป็น เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ มาตรการที่สมาชิกได้ดำเนินไปในการใช้สิทธิป้องกันตนเองนี้ จักต้องรายงานให้คณะมนตรีความมั่นคงทราบโดยทันที และจักไม่กระทบกระเทือนอำนาจและความรับผิดชอบของคณะมนตรีความมั่นคงภายใต้กฎ บัตรฉบับปัจจุบันแต่ทางหนึ่งทางใด ในอันที่จักดำเนินการเช่นที่เห็นจำเป็น เพื่อธำรงไว้หรือสถาปนากลับคืนมา ซึ่งสันติภาพความมั่นคงระหว่างประเทศ?จะเห็นได้ว่า ประเทศต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเดียวกันมักจะทำข้อตกลงกันในส่วนภูมิภาค โดยอาศัยสนธิสัญญา และโดยที่อาศัยอยู่ในเขตภูมิศาสตร์ใกล้เคียงกัน ( Geographical Propinquity ) หรือมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด และมีวัตถุประสงค์ที่จะอำนวยความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเมืององค์การส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่งที่พอจะหยิบยก มาเป็นตัวอย่างได้ คือ องค์การสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEATO) ซึ่งบัดนี้ได้ยุบเลิกไปแล้วเพราะหมดความจำเป็น องค์การรัฐอเมริกัน (Organization of American States-OAS) องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ (NATO) องค์การร่วมมือระหว่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา (ANZUS) เป็นต้น องค์การภูมิภาคเหล่านี้ตั้งขึ้นโดยอาศัยข้อ 51 ของกฎบัตร สหประชาชาติ ซึ่งกล่าวถึงสิทธิของประเทศสมาชิกที่จะทำการป้องกันตนเองโดนลำพังหรือโดย ร่วมกัน หากถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธ [การทูต]
Affectกระทบกระเทือน, อารมณ์, ผลกระทบ, สภาพอารมณ์, ลักษณะอารมณ์ [การแพทย์]
Amenorrhoea, Hypothalamicภาวะไม่มีระดูที่มีสาเหตุทางจิดใจกระทบกระเทือน [การแพทย์]
Brain Concussionสมองกระเทือน [การแพทย์]
Brain Traumaการกระทบกระเทือนโดยตรงต่อสมอง [การแพทย์]
Cerebral Concussionสมองกระทบกระเทือน, สมองได้รับความสะเทือน [การแพทย์]
Concussionสมองกระทบกระเทือน [การแพทย์]
Concussionความกระทบกระเทือน, กระทบกระเทือน [การแพทย์]
Emotional Disturbedกระทบกระเทือนทางอารมณ์ [การแพทย์]
Experience, Traumaticความบกพร่องในพัฒนาการทางอารมณ์, การกระทบกระเทือนต่อจิตใจ [การแพทย์]
amnionถุงน้ำคร่ำ, ถุงหุ้มเอ็มบริโอของสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังชั้นสูง  มีลักษณะเป็นเยื่อบาง ๆ ภายในถุงมีของเหลวบรรจุอยู่ ทำหน้าที่ป้องกันตัวอ่อนจากการกระทบกระเทือน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
dura materดูรามาเตอร์, เยื่อหุ้มชั้นนอกสุดของสมองและไขสันหลังเพื่อป้องกันการกระทบกระเทือน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
hard diskฮาร์ดดิสก์, อุปกรณ์บันทึกข้อมูล ซึ่งประกอบด้วยแผ่นบันทึกแบบแข็งเคลือบด้วยสารแม่เหล็กที่ผิวทั้งสองด้านหลายแผ่นเรียงซ้อนกัน มีหัวอ่านข้อมูลติดอยู่บนแขนที่เลื่อนเข้าออกได้ โดยอุปกรณ์ทั้งหมดนี้ถูกบรรจุในกล่องที่ปิดสนิทเพื่อป้องกันฝุ่นและการกระทบกระเทือน สามารถเก็บข้อมูลไ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
Injuries, Intracranialความกระทบกระเทือนในสมอง, อันตรายเกิดขึ้นที่สมอง [การแพทย์]

Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
กระเทือน[kratheūoen] (v) EN: shake ; affect ; vibrate ; tremble ; shock ; convulse ; shiver ; bump ; quake ; rock  FR: secouer ; affecter ; ébranler
กระเทือนใจ[kratheūoenjai] (v) EN: be affected ; be touched ; be moved ; strike one's mind ; be hurt
กระเทือนซาง[kratheūoen sāng] (v, exp) EN: ?  FR: ?
กระทบกระเทือน[krathopkratheūoen] (v) EN: affect ; impact ; influence ; have an impact on ; have a repercussion  FR: affecter ; toucher
กระทบกระเทือนใจ[krathopkratheūoenjai] (v) EN: hurt one's feelings ; be mentally moved ; be touched ; be stirred ; stir up one's feeling ; be hurt  FR: être affecté ; être touché

NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
affecting(adj) ที่กระทบกระเทือนใจ, Syn. moving, touching, pathetic
insusseptible(adj) ซึ่งไม่ถูกชักจูงได้ง่าย, See also: ซึ่งไม่ถูกกระทบกระเทือนได้ง่าย, Ant. susceptible
jar(n) การสั่นสะเทือน, See also: การกระเทือน, Syn. vibration, jolt
susceptibility(n) ความรู้สึกไว, See also: ความอ่อนไหวง่าย, ความกระเทือนใจง่าย, Syn. sensitivity, impressibility, affectibility
tell(vi) มีผลกระทบ, See also: กระทบกระเทือน, Syn. be effective
tremble(vi) กระเทือน, See also: สั่น, สั่นสะเทือน, ไหว
unaffected(adj) ซึ่งไม่กระทบกระเทือน, See also: ซึ่งไม่สะทกสะท้าน
unaffected(adj) ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบ, See also: ซึ่งไม่ได้รับความกระทบกระเทือน, Syn. unmoved, untouched, unstirred, Ant. affected
unaffectedly(adv) อย่างไม่กระทบกระเทือน, Syn. simply
unaffectedness(n) การไม่กระทบกระเทือน
wadding(n) สิ่งที่นำมาห่อหรือบุของเพื่อป้องกัน (กระเทือน, แตก), See also: สิ่งบุรองหรืออุด, Syn. wad

Hope Dictionary
affect(vi., vt. อะเฟคทฺ'; -n. เอฟ' แฟคทฺ, อะเฟคท'ฺ) -vt., vi. มีผลต่อ, ส่งผลต่อ, กระทบกระเทือน, ทำให้เสียใจ, ทำให้สงสาร, เป็น (โรค) , เสแสร้ง, ชอบ, โน้มเอียงไปทาง-n. ความรู้สึก, อารมณ์
affected(อะเฟค' ทิด) adj. ได้รับผล, ได้รับอิทธิพล, กระทบกระเทือน (จิตใจ) , เสียใจ, สงสาร, แกล้ง, เสแสร้ง, โน้มเอียงไปทาง, Syn. supurious, artificial, Ant. spontaneous, real, moved
affecting(อะเฟค' ทิง) adj. กระทบกระเทือนใจ, เร้าอารมณ์. -affectation n. - affectional adj., Syn. friendship, love, goodwill
catalysis(คะแทล'ลิซิส) n. การเร่งปฏิกิริยาทางเคมีโดยการเติมสารกระตุ้น, ปฏิกิริยาระหว่างบุคคลหรือแรงโดยมีตัวกระตุ้นที่ไม่ถูกกระทบกระเทือน, See also: catalytic adj. ดูcatalysis pl. catalyses, Syn. katalysis, stimulation
concussion(คันคัส'เชิน) n. การสั่นสะเทือน, การปะทะอย่างแรง, การกระเทือนที่เกิดจากการกระทบกระแทก, ภาวะสมองไขสันหลัง หรืออื่น ๆ ถูกกระทบอย่างแรง., See also: concussant adj. ดูconcussion concussive adj. ดูconcussion, Syn. shaking, shoc
emotional(อิโม'เชินเนิล) adj. มีอารมณ์, เกี่ยวกับความรู้สึก, ซึ่งกระเทือนอารมณ์, ซึ่งเร้าอารมณ์, Syn. feeling
impactedadj. อัด, ยัดเยียด, ซึ่งถูกกระทบกระเทือน, อุดตัน
impervious(อิมเพอ' เวียส) adj. เข้าไม่ได้, ผ่านไม่ได้, ไม่อนุญาตให้เข้า, ไม่ถูกรบกวน, ไม่ถูกกระทบกระเทือน, ไม่สะดุ้งสะเทือน., See also: imperviable. imperviously adv. imperviousness n., Syn. im
injure(อิน'เจอะ) vt. ทำอันตราย, ทำให้ได้รับบาดเจ็บ, ทำให้เสียหาย, ทำผิด, ทำร้าย, ประทุษร้าย, กระทบกระเทือน, ร้าวราน., See also: injurable adj. injurer n., Syn. hurt
insusceptible(อินซะเซพ'ทิเบิล) adj. ดื้อ, ไม่รับ, ไม่ถูกกระทบกระเทือนได้., See also: insusceptibility n. insusceptibly adv.
intact(อินแทคทฺ') adj. ไม่เปลี่ยนแปลง, ไม่เสื่อมเสีย, ไม่ถูกกระทบกระเทือน, เหมือนเดิม., See also: intactness n., Syn. untorched
pique(พิค) vt., vi. ทำให้โกรธ, ทำให้เสียใจ, กระเทือนใจ, ทำให้ตื่นเต้น, ดึงดูดความสนใจ, กระตุ้นอารมณ์, เร้าใจ. n. ความโกรธ, ความเสียใจ
quick(ควิค) adj. รวดเร็ว, เร็ว, ไว, ฉับไว, คล่องแคล่ว, ใจร้อน, ไม่อดทน, หลักแหลม, เข้าใจได้เร็ว n. บุคคลที่มีชีวิตทั้งหลาย, แก่นแท้, จุดสำคัญ. -Phr. (cut to the quick ทำให้ได้รับบาดเจ็บลึก, กระทบกระเทือนความรู้สึก) adv. รวดเร็ว, เร็ว, See also: quickness n.
shook-up(ชูค'อัพ) adj. ถูกกระทบกระเทือนทางใจอย่างรุนแรง
susceptibility(ซะเซพทะบิล'ลิที) n. ความรู้สึกไว, ความอ่อนแอทางใจ, การถูกกระทบกระเทือนทางใจได้ง่าย, อัตราการเป็นแม่เหล็ก, Syn. sensibility, vulnerability

Nontri Dictionary
friction(n) การขัดถู, การกระทบกระเทือน, ความฝืด, การเสียดสี

Time: 0.8434 secondsLongdo Dict -- https://dict.longdo.com/