ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*วิ*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: วิ, -วิ-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary ศัพท์แพทย์ศาสตร์สำหรับคนไทย (MED) - ไทย (TH)
diag (ไดแอ็ก)(vi) มาจากคำว่า diagnose วินิจฉัยโรค, วินิจจัยเพื่อหาสาเหตุของความเจ็บป่วย

Longdo Dictionary ไทย (TH) - ไทย (TH)
จิ้น(vt) จินตนาการ ค่อนไปในทางชู้สาว เช่น “ฉันเห็นกวินกับอ๋อจับมือกันอ่ะ เห็นแล้วจิ้นไปไกลเลย"
มนุษย์ป้าคำที่ใช้เรียกผู้ที่มีพฤติกรรมที่มีลักษณะที่เห็นแก่ตัว ทำสิ่งต่างๆ โดยไม่สนใจว่าจะทำให้ผู้อื่นหรือสังคมเดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การแย่งที่นั่งว่างในรถโดยสาธารณะ, การแซงคิวไม่ยอมต่อแถวคอยเวลาขึ้นรถไฟฟ้า, โดยส่วนมากจะเป็นสุภาพสตรีในวัยกลางคนจนถึงสูงอายุ จึงเป็นที่มาถึงคำว่า "ป้า​" เริ่มเป็นที่ใช้กันแพร่หลายในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ในช่วงปี 2557 โดยล่าสุดมีลือกันถึงกรณีมีผู้เปิดประตูรถแท็กซี่มีผู้โดยสารอยู่ขณะที่กำลังจอดติดไฟแดง ขอขึ้นไปนั่งด้วยหน้าตาเฉยโดยอ้างว่าขอติดรถไปด้วยตามเส้นทางที่ผ่าน
มะม่วงหาว มะนาวโห่ชื่อเต็ม มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่, ผลไม้ในกลุ่มเบอร์รี่ชนิดหนึ่ง มีรสเปรี้ยว ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Carissa carandas, ชื่อสามัญ Karanda, Carunda, Christ’s thorn, Bengal Currants ที่มา: https://www.disthai.com/17039488/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B9%88

Longdo Dictionary ไทย (TH) - อังกฤษ (EN)
ทิฏฐิวิบัติ(n) misbelief; erroneous opinions; false theory

Longdo Dictionary ภาษา อิตาลี (IT) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
a secco[อา-เซ็คโค] (n) จิตรกรรมที่เขียนบนปูนแห้งซี่งเป็นการเขียนจิตรกรรมฝาผนังวิธีหนึ่ง, See also: R. fresco
buon fresco[บวน เฟรสโค] (n) จิตรกรรมที่เขียนบนปูนเปียกซี่งเป็นการเขียนจิตรกรรมฝาผนังวิธีหนึ่ง, See also: R. fresco
libretto[ละ-เบรต-โต] (n) เนื้อร้องประกอบดนตรีที่ใช้ในอุปรากร, จุลอุปรากร, งานแสดงสวมหน้ากาก, ละครเพลง และบัลเลต์ คำว่าบทร้องบางครั้งอาจจะหมายถึงเนื้อของงานสำคัญทางศาสนาสำหรับงานเช่นมิสซา, บทสรรเสริญผู้เสียชีวิต (requiem) หรือเพลงศาสนา (cantata) (Wikipedia.org), See also: R. opera, cantata, requiem
mezzo fresco[เมซโซ เฟรสโค] (n) จิตรกรรมที่เขียนบนปูนชื้นซี่งเป็นการเขียนจิตรกรรมฝาผนังวิธีหนึ่ง, See also: R. fresco

Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
dervish[เดอวิช] (n) สมาชิกกลุ่มอิสลาม
dyslexic(n) " ดิสเลคซิค” (dyslexic-บุคคลที่พร่องความสามารถในการเขียนเป็นคำๆ ปกติแล้วจะสัมพันธ์กับความบกพร่องทางประสาทวิทยา)
guesswork[เกสส์ เวิร์ก] กระบวนการในการสร้างการคาดเดา
LDS[แอลดีเอส] (n) วิสุทธิชนยุคสุดท้าย, See also: S. Latter-day Saints
LDS Church(org) ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย, See also: S. LDS
LDSC(org) องค์กรเพื่อการกุศลวิสุทธิชนยุคสุดท้าย Latter-day Saint Charities, See also: S. LDS Church
Mormon[มอรมอน(อ่านออกเสียง มอร์-มอน)] (n, org) มอรมอน หรือ ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุดสุดท้าย, See also: S. LDS Church
saint(n) วิสุทธิชนม ธรรมิกชน สิทธิชน, See also: S. ธรรมิกชน นักบวช นักบุญ สิทธิชน
saint[เซนท์] (n) วิสุทธิชน ธรรมิกชน นักบวช นักบุญ, See also: S. ธรรมิกชน นักบุญ
The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints(org) ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย, See also: S. LDS Church
กินนร[/กิน - นอน / eng /kin. neon/] (n) รูปพหูพจน์ของสัตว์ (อมนุษย์) ในป่าหิมพานต์ ร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์ ท่อนล่างเป็นนก มีปีกบินได้; รูปพหูพจน์ที่รวมทั้งเพศผู้และเพศเมียของสิ่งมีชีวิตในเทพนิยายดังกล่าว; กินรี และ กินริน = เพศเมีย และ กินนรา = (รูปเอกพจน์) เพศผู้
ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์[ชุ-ติ-กาญน์ ศรี-วิ-บูลย์] (n, name) รองศาสตราจารย์ ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา รับมอบยาฟ้าทะลายโจร จํานวน ๕๐๐ ขวด จากคุณปรินดา ตั้งวิรุฬธรรม ผู้จัดการบริษัทฉมา แอ็สเซ็ท ในวันศุกร์ที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๕ เพื่อนําไปใช้ในการดูแลสุขภาพของบุคลากร และประชาชนทั่วไปในคลินิคแพทย์แผนไทยวังสวนสุนันทา
ฌาณ(n) ฌาณ หรือ อธิจิต(supraconscious) เป็นจิตที่เป็นที่สุดของปัญญา คือความรู้ชัดธรรมชาติของมนุษย์ว่านี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา(คือความรู้มรรค 8 การคิดปฏิบัติเพื่อดับทุกข์) เป็นจิตที่อยู่เหนือและสามารถ ควบคุมหรือข่ม ได้ทั้งจิตสำนึก(consious) และจิตใต้สำนึก(subconsious) ซึ่งเป็นความรู้ที่สูดของวิญญาณคือความรู้แจ้งของธรรมชาติของมนุษย์ว่า นี้สุข นี้ทุกข์ นี้มิใช่ทุกข์ มิใช่สุข อธิจิตใช้สำหรับดับกิเลส ซึ่งสามารถทำให้เกิดนิมิตขึ้นมาได้ เพื่อดับกิเลสในเวลาที่เกิดกิเลสขึ้น พระผู้มีพระภาค(พระพุทธเจ้า)ได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ไว้ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์๑๐. วิตักกสัณฐานสูตรว่าด้วย อาการแห่งวิตก การเรียกอธิจิตของตนเอง ถ้าไม่มีพรสวรรค์หรือบารมีที่สะสมมาแต่ปางก่อน จะเรียกไม่ได้ เพราะจิตยังไม่มั่นคงพอ จะต้องเรียนรู้และทำความเพียรที่ทนได้ยาก ฝึกฝน จนเกิดความชำนาญ ซึ่งข้าพเจ้ามีความสามารถที่จะให้คนทั่วไปเรียกอธิจิตของตนเองได้ เช่นให้ผู้ป่วยเรียกอธิจิตของเขาออกมารักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งทางกายและใจของเขาที่เป็นอยู่ โดยสั่งให้จิตของเขาตกอยู่ในภาวะภวังค์ ด้วยการสั่งระงับจิตหยาบที่ทำให้เขาเกิดโรคทั้งทางกายและทางใจ เพื่อเขาจะได้มีจิตที่มั่นคงถึงอธิจิตแล้วสั่งยาหรือภูมิต้านทานในตัวของเขาออกมารักษาโรค ซึ่งได้ผลดีกว่าแพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์ทางเลือกวิธีอื่น นี่คือประโยชน์จากการเรียกหรือฝึกเรียกอธิจิตของตนเอง ซึ่งพระพุทธเจ้าสามารถเรียก Stem cell ในพระวรกายของพระองค์ออกมารักษาโรคได้นานมาแล้วหรือมากกว่า 2554 ปี ส่วนนักวิทยาศาสตร์พึ่งจะมาค้นพบวิธีใช้ Stem cell รักษาบางโรคเมื่อ 50 ปีมานี้เอง การรักษายังมีข้อบ่กพร่องและเงื่อนไขในการรักษาเพื่อจะได้ผลลัพท์จนเป็นที่น่าพอใจของแพทย์อยู่อีกมาก แต่วิธีของพระพุทธองค์ไม่มีเงื่อนไข ถ้าคนป่วยสามารถเรียกอธิจิตของตนเองได้ ข้าพเจ้าได้ใช้อธิจิตรักษา โรคปวดตามอวัยวะและโรคหวัดป่วยของข้าพเจ้าเอง และรักษาโรคปวดและอัมพาลให้กับคนป่วยแล้วหลายราย ซึ่งได้รับผลเป็นที่น่าพอใจของข้าพเจ้าและของคนป่วย
บังกล้อง[บัง-กล้อง] (n) เป็นชื่อ ที่ เรียกแทน บุคคล ที่ มีคุณสมบัติ คือ กาก เกรียน เพี้ยน หลุดโลก มักชอบทำอะไร เพี้ยนๆ ไม่เหมือนคนอื่น ชอบการ fag เป็นชีวิตจิตใจ คติประจำใจ คือ สเต็ปอยู่ในไต
ปลาแรด[Pla-Raed] (n) Giant gourami-แปลตรงตัว "ปลากระดี่ยักษ์"; ชื่อวิทยาศาสตร์: Osphronemus goramy) เป็นปลาน้ำจืดในสกุลปลาแรด ในวงศ์ Osphroneminae ซึ่งอยู่ในวงศ์ใหญ่ Osphronemidae นับเป็นปลาแรดชนิดที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด
วิ[ปะ-วิด] (uniq) ผู้สร้าง, ผู้กำหนด
ปูจั๊กจั่น(n) Red Frog Crab, Spanner Crab หรือ Kona Crab; ชื่อวิทยาศาสตร์: Ranina vanima) เป็นปูในวงศ์ รานินีดี้ (Family Raninidae) ถิ่นที่อยู่ตั้งแต่หมู่เกาะฮาวาย ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ไทย จนไปถึงหมู่ เกาะอินโดนีเซีย และ แอฟริกาตะวันออก
ม่อนวิวงาม[ม่อน-วิว-งาม] (n) คือรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
รพีน. พระอาทิตย์. (ป., ส. รวิ)

Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - อังกฤษ (EN) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
greenhouse effectปรากฏการณ์เรือนกระจก ภาวะที่กลุ่มของก๊าซชนิดต่างๆมาห่อหุ้มชั้นบรรยากาศของโลกไว้ กลุ่มก๊าซเหล่านี้ประกอบด้วยก๊าซหลักๆ 5 ชนิด ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ สารซีเอฟซี ออกไซด์ของไนโตรเจน มีเธนและโอโซน ก๊าซเหล่านี้เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของบรรยากาศโลกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และเป็นกลุ่มก๊าซที่มีความสามารถในการดูดซับรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ เป็นผลให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นจนเหมาะที่สิ่งมีชีวิตต่างๆจะอาศัยอยู่ได้
One day, Father Khwan Khao brought Khwan Khao to leave with Grandpa.วันหนึ่งคุณพ่อของขวัญข้าวพาขวัญข้าวมาฝากไว้กับคุณปู่ เพราะคุณพ่อต้องไปขับรถส่งผู้โดยสารที่กรุงเทพมหานคร วันนี้คุณปู่พาขวัญข้าว มาดูข้าวที่คุณปู่ได้ปลูกไว้ จนถึงเย็นฝนก็ตกลงมา ขวัญข้าวจึงพูดว่าคุณปู่ตะรีบเข้าบ้านเดี๋ยวไม่สบาย คุณปู่จึงพูดว่าฝนไม่ได้ทำให้ไม่สบายหรอก แต่ต้องไปอาบน้ำ ตอนกลางคืนฝนก็ตกหนักมาก จนขวัญข้าวนอนไม่หลับ ขวัญข้าวตื่นมาให้คุณปู่เล่านิทานให้ฟังปู่เล่านิทานให้ฟังก็ได้ปู่ตอบ มีอยู่วันหนึ่งในดินเเดนแห้งเเร้งทุกคนไม่มีน้ำดื่ม จนกระทั่งวันหนึ่งมีจอบตกลงมาจากบนท้องฟ้า ทุกคนจึงหยิบจอบมาเพื่อขุด แต่ในดินแดนก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนจึงเลิกขุด เเต่มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งขุดไปเรื่อยๆจากที่ขุด1ไร่กลายเป็น2ไร่จากที่ขุด2ไร่กลายเป็น4ไร่ จนเด็กผู้ชายคนนั้นก็ล้มลง จากนั้นฝนก็ได้ตกลงมา ทุกคนจึงมีชีวิตอยู่ พอคูณปู่เล่าเสร็จคุณปู่หันไปไหว้รูปในหลวงรัชกาลที่่9 วันต่อมาโรงเรียนของขวัญข้าวมีกิจกรรมขายของ ขวัญข้าวจึงทำวุ้นมะพร้าวจากสีธรรมชาติ จอมขายมะม่วงกวน วันต่อมาคุณพ่อของขวัญข้าวมาหาขวัญข้าว แล้วทุกคนจึงเปิดโครงการ"ของขวัญจากดิน" เพราะทุกอย่างที่นำมาขายล้วนแต่ปลูกมาจากดbo
Serviceman[เซอ วิส แมน] (n) ลูกแถว (ตำรวจ)
คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาFaculty of Sociology and Anthropology
จุดชมวิ(n) scenic point
นักวิทยุสมัครเล่นAmateur radio operator
นักศึกษาวิชาทหาร (นศท.)(n, phrase) Reserve Officer Training Cops Student (ROTCS)
ป้ายไฟวิ่(n) moving sign display, electronic/neon sign with running text
พนักงานมหาวิทยาลัย(ชื่อส่วนงาน) (พศ.))(n) University staff (Faculty Section)
มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: N[มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: N] (n, vi, vt, modal, verb, aux, verb, adj, adv, prep, conj, pron, phrase, jargon, slang, colloq, vulgar, abbrev, name, o) มาริลิน มอนโร (อังกฤษ: Marilyn Monroe) หรือชื่อเกิด นอร์มา จีน มอร์เทนสัน (อังกฤษ: Norma Jeane Mortenson) เกิดวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1926 – 5 สิงหาคม ค.ศ. 1962) เป็นอดีตนักแสดง นักร้อง นางแบบชาวอเมริกัน มีชื่อเสียงจากบทบาท "dumb blonde" เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ทางเพศที่ได้รับความนิยมในคริสต์ทศวรรษ 1950 เป็นสัญลักษณ์ของทัศนคติที่มีต่อเพศแห่งยุค แม้ว่าเธอได้เป็นนักแสดงระดับต้น ๆ เพียงแค่หนึ่งทศวรรษ ภาพยนตร์ของเธอทำรายได้ได้ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐก่อนที่เธอจะเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดใน ค.ศ. 1962[ 1 ] เธอยังถือว่าเป็นสัญรูปของวัฒนธรรมสมัยนิยมหลัก ๆ นับแต่นั้นมา[ 2 ] มอนโรเกิดและเติบโตในลอสแอนเจลิส วัยเด็กเธออาศัยอยู่ในบ้านรับเลี้ยงเด็ก และสถานเด็กกำพร้า และสมรสครั้งแรกเมื่ออายุ 16 ปี ขณะทำงานในโรงงานเป็นส่วนหนึ่งของกำลังสงคราม ใน ค.ศ. 1944 เธอพบกับช่างภาพคนหนึ่ง และเริ่มทำอาชีพนางแบบ งานของเธอทำให้เธอได้เซ็นสัญญากับภาพยนตร์ขนาดสั้น 2 เรื่องกับค่ายทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ (1946-1947) และโคลัมเบียพิกเจอส์ (1948) หลังจากรับบทย่อยในภาพยนตร์จำนวนหนึ่ง เธอเซ็นสัญญาใหม่กับฟอกซ์ใน ค.ศ. 1951 เธอกลายเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วด้วยบทบาทตลกขบขันหลายบทบาท เช่นในเรื่อง แอสยังแอสยูฟีล (1951) และมังกีบิสเนส (1952) และในภาพยนตร์ดรามาเรื่อง แคลชบายไนต์ (1952) และ โดนต์บาเดอร์ทูน็อก (1952) มอนโรเผชิญหน้ากับข่าวลือหลังจากมีการเปิดเผยว่าเธอเคยถ่ายแบบเปลือยก่อนมาเป็นนักแสดง แต่แทนที่จะทำลายอาชีพเธอ มันกลับทำรายได้ให้กับบอกซ์ออฟฟิศ ก่อน ค.ศ. 1953 มอนโรเป็นหนึ่งในดาราฮอลลิวูดที่มีบทบาทนำในภาพยนตร์ 3 เรื่อง ได้แก่ ฟิล์มนัวร์ เรื่อง ไนแอการา (ภาพยนตร์ ค.ศ. 1953)|ไนแอการา ซึ่งมุ่งจุดสนใจที่เสน่ห์ทางเพศของเธอ และภาพยนตร์ตลกเรื่อง เจนเทิลเม็นพรีเฟอร์บลอนส์ และ ฮาวทูแมร์รีอะมิลเลียนแนร์ ซึ่งสร้างภาพลักษณ์ให้เธอเป็น "dumb blonde" แม้ว่าเธอจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างและจัดการภาพลักษณ์สาธารณะของเธอตลอดอาชีพการทำงาน เธอรู้สึกผิดหวังต่อสตูดิโอที่ไทป์แคสต์ และการให้ค่าตัวเธอต่ำไป เธอถูกพักงานเป็นช่วงสั้น ๆ ในต้นปี ค.ศ. 1954 เนื่องจากเธอปฏิเสธโครงการทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง แต่กลับมาเป็นดาราในภาพยนตร์เรื่องที่ประสบความสำเร็จที่สุดเรื่องหนึ่งคือ เดอะเซเวนเยียร์อิตช์ (1955) เมื่อสตูดิโอยังลังเลที่จะเปลี่ยนแปลงสัญญาของเธอ มอนโรก่อตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ใน ค.ศ. 1954 ชื่อ มาริลิน มอนโร โพรดักชันส์ (MMP) ขณะก่อสร้างบริษัท เธอเริ่มศึกษาการแสดงที่แอกเตอส์สตูดิโอ ในปลายปี ค.ศ. 1955 ฟอกซ์มอบฉันทะให้เธอควบคุมและให้เงินเดือนสูงขึ้น หลังจากได้รับคำสรรเสริญจากการแสดงในเรื่อง บัสสต็อป (1956) และการแสดงในภาพยนตร์อิสระเรื่องแรกของบริษัท MMP เรื่อง เดอะพรินซ์แอนด์เดอะโชว์เกิร์ล (1957) เธอได้รับรางวัลลูกโลกทองคำจากเรื่อง ซัมไลก์อิตฮอต (1959) ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของเธอที่ถ่ายทำจนเสร็จคือเรื่อง เดอะมิสฟิตส์ (1961)
ม่อนวิวงาม[mon-view-ngarm] (n) A resort on high hill in Chiang Mai, north of Thailand.
ระเบียบวิธีเชิงตัวเลข(n) Numerical Method

Longdo Dictionary ภาษา ศัพท์แพทย์ศาสตร์สำหรับคนไทย (MED) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
hematologist(n) นักโลหิตวิทยา
histology(n) มิญชวิทยา, วิทยาเนื้อเยื่อ
laparoscopic splenectomy(n) การผ่าตัดม้ามโดยวิธีส่องกล้อง
PET Scan(n, vt) PET Scan ย่อมาจาก Positron Emmision Tomography เป็นเครื่องมือใหม่ที่ใช้เพื่อ ตรวจหาการกระจายและปริมาณความผิดปกติของสารเภสัชรังสีโพสิตรอน ทำให้ข้อมูลที่ได้จาก PET มีความแตกต่างจากเครื่องมืออื่นๆ ซึ่งเรารู้จักกันดี เช่น การตรวจด้วย ultrasound, CT และ MRI ที่ส่วนใหญ่จะแสดงเพียงลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางกายวิภาค การตรวจด้วย PET เป็นการถ่ายภาพการกระจายตัวของสารเภสัชรังสีที่สลายตัวให้โพสิตรอน (positron) สารเภสัชรังสีเหล่านี้จะสัมพันธ์และแสดงถึงขบวนการชีววิทยาต่างๆ ในร่างกาย ทำให้เราสามารถตรวจขบวนการเผาผลาญ (metabolism) ของเซลล์ได้ หลักการของเครื่องตรวจนี้คือ ใช้้ในการตรวจหาเซลล์ที่มีเมตะบอลลิสม์ผิดปกติ เป็นการตรวจหาการทำงานของเซลล์และผ่านกลวิธีทำให้ออกมาเป็นรูปให้เราเห็น ในการตรวจมะเร็งปอดเราใช้น้ำตาล เมื่อเราทำให้น้ำตาลนั้นจับกับสารกัมมันตภาพ (Glucose 2-fluoro-2-deoxy-D-glucose หรือ FDG) ฉีดเข้าไปในเลือด เซลล์ไหนที่มีเมตะบอลลิสม์สูงจะใช้น้ำตาลมาก เช่น เซลล์ของมะเร็ง เซลล์ไหนที่ตายหรือมีเมตะบอลลิสม์ต่ำจะใช้น้ำตาลน้อย เมื่อใช้ Radiotracer จับปริมาณกัมมันตภาพ เราจะพบว่าก้อนมะเร็งนั้นมีกัมมันตภาพสูงกว่าเนื้อธรรมดาและใช้ตรวจทั้งตัว ก็ได้
plastination(n) วิธีการกำซาบเนื้อเยื่อด้วยพลาสติก

Longdo Dictionary ภาษา สเปน (ES) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
la vida no vale nada(phrase) ชีวิตที่ไม่มีค่าอะไร

Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - ฝรั่งเศส (FR) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
คณะกรรมการควบคุมการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม(org) Comité d'encadrement de la profession d'ingénieur

Longdo Dictionary ภาษา อังกฤษ (EN) - อังกฤษ (EN) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ชงโค(name) ..............ชงโค................ ชื่อทางวิทยาศาสตร์............Bauhinia purpurea ชื่อวงศ์............................CAESALPINIACEAE ชื่อสามัญ..........................Orchid Tree, Purder ชื่ออื่นๆ............................เสี้ยวดอกแดง, เสี้ยวดอกขาว ถิ่นกำเนิด..........................ทวีปเอเซีย การขยายพันธุ์....................เพาะเมล็ด ประวัติและข้อมูลทั่วไป.........ดอกชงโคมีหลายสี เช่น ชมพู ขาว ม่วง ชาวอินเดียถือว่าเป็นไม้สวรรค์ขึ้นอยู่ในเทวโลกและถือว่าเป็นไม้ของพระลักษมี นิยมปลูกร่วมกับ กาหลง และ โยทะกา เพราะมีใบคล้ายกัน ลักษณะทางพฤกษศาสตร์......ชงโคเป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นผลัดใบสูงประมาณ 15 เมตร ใบเป็นรูปไข่แยกเป็น 2 แฉกลึก ช่อดอกออกตามกิ่งข้างและจำนวนดอกน้อย กลีบดอกขาวหรือม่วง ลักษณะคล้ายดอกกล้วยไม้ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เกสรตัวผู้ 5 อัน ขนาดไม่เท่ากัน มีผลเป็นฝักขนาดกว้าง 1.5-2 ซม. ยาว 15-20 ซม. การปลูกและดูแลรักษา...........ชงโคเป็นไม้ที่ชอบแดด ควรปลูกในที่ได้รับแสงแดดทั้งวัน ดินปลูกควรเป็นดินร่วนระบายน้ำดี มีความ

Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - ญี่ปุ่น (JP) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ชีววิทยา[せいぶつがく] (n) 生物学

Longdo Dictionary ภาษา ไทยภาคเหนือ (TH-NORTH) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ต้าวหกล้ม ตัวอย่าง "ล่นเวยล้ำไป เลยข้องขาตั๋วเก่าต้าว(วิ่งเร็วเกินไป เลยสะดุดขาตัวเองหกล้ม)"

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
วิ(n) two, Syn. คู่, สอง, ยี่, แฝด, Example: ชาตินี้พ่อมีเอ็งเป็นลมหายใจของพ่อ ไม่ต้องภพหน้า ชาติหน้าหรือทวิภพ, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
วิ(n) sun, Syn. รวิ, รพิ, รพี, รำไพ, พระอาทิตย์, Count Unit: ดวง, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
วิ(n) wig, See also: hairpiece, Syn. ผมปลอม, วิกผม, Example: วิกที่ทำจากเส้นผมมีราคาแพงกว่าชนิดที่ทำจากเส้นใยวัสดุสังเคราะห์, Count Unit: ชิ้น, อัน, Notes: (อังกฤษ)
วิ(v) feel dizzy, See also: feel giddy, Syn. วิงเวียน, Thai Definition: รู้สึกใจหวิว
วิ(v) turn, See also: revolve, rotate, spin, gyrate, Syn. หมุน, วน
วิ(n) sort, See also: kind, section, Syn. อย่าง, ชนิด, แบบ, วิธา, Notes: (บาลี)
วิ(n) view, See also: landscape, panorama, perspective, scene, Syn. ทิวทัศน์, Example: บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี, Thai Definition: ลักษณะภูมิประเทศที่ปรากฏเห็นตามธรรมชาติ
วิ(v) yearn, See also: think of, Syn. คิดถึง, คิด, Example: หญิงสาวถวิลถึงควันเทียนสีเทา ซึ่งเป็นความทรงจำที่ดีของหล่อน, Thai Definition: มีใจจดจ่อ
วิ(n) bird, See also: twice-born, Syn. นก, Count Unit: ตัว, Thai Definition: ผู้เกิดสองหน, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
วิ(n) Brahman, See also: twice-born, Syn. พราหมณ์, ทวิชงค์, ทวิชาติ, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้เกิดสองหน, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
วิ(n) elephant, Syn. ช้าง, Count Unit: เชือก, Thai Definition: ผู้ดื่มสองหน ด้วยงวงและปาก, Notes: (สันสกฤต)
วิกล(adj) deformed, See also: disfigured, crippled, weak, feeble, impaired, imperfect, Syn. ไม่ปกติ, อ่อนแอ, ไม่สมบูรณ์
วิชา(n) subject, See also: knowledge, branch of knowledge, science, technology, learning, Example: ท่านไม่พอใจเท่าไหร่เพราะผมทำเกรดได้ไม่ดีในวิชาหลักๆ อาทิ เลข วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์, Count Unit: วิชา, Thai Definition: ความรู้ที่ได้ด้วยการเล่าเรียนหรือฝึกฝน
วิตก(v) be serious, See also: tense, strain, be nervous, be stern, be taut, Syn. หนักใจ, วุ่นวายใจ, กังวล, เป็นทุกข์, วิตกกังวล, กลุ้มใจ, Ant. สบายใจ, Example: การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสูงขึ้นจนน่าวิตก
วิถี(n) way, See also: course, path, road, route, direction, Ant. แนว, แนวทาง, Example: การช็อปปิ้งกลายเป็นวิถีที่นิยมของคนเมืองกรุงไปเสียแล้ว
วิถี(n) path, See also: way, course, route, Syn. ทาง, เส้นทาง, สาย, แนว, ถนน, Example: สมัยก่อนผู้คนใช้ทางน้ำเป็นวิถีสำคัญติดต่อกัน, Count Unit: ทาง, สาย, เส้น
วิทู(n) sage, See also: scholar, learned person, savant, expert, Syn. ผู้ฉลาด, ผู้รอบรู้, ผู้มีปัญญา, ผู้ชำนาญ, Count Unit: คน, Notes: (บาลี)
วิธี(n) means, See also: way, method, process, mode, Syn. แบบ, ทาง, แนว, Example: การหาเงินทำนุบำรุงโบราณสถานในช่วงดังกล่าวใช้วิธีลงโฆษณาตามหน้าหนังสือพิมพ์เป็นจำนวนมาก, Count Unit: วิธี, Thai Definition: ทางหรือหนทางที่จะทำ
วิธู(n) moon, Syn. พระจันทร์, ดวงจันทร์, จันทร์, แข, Count Unit: ดวง, Notes: (บาลี)
วิภา(n) beauty, Syn. ความงดงาม, ความงาม, ความสวยงาม, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
วิภา(n) ray, See also: light, splendour, brightness, clearness, lustre, Syn. รัศมี, แสงสว่าง, ความสุกใส, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
วิภู(adj) strong, Syn. แข็งแรง, แข็งแกร่ง, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
วิภู(n) king, See also: ruler, monarch, sovereign, Syn. ผู้ครอง, พระราชา, พระเจ้าแผ่นดิน, กษัตริย์, ผู้ปกครอง, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
วิภู(adj) powerful, See also: great, mighty, Syn. ยิ่งใหญ่, มีอำนาจ, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
วิมล(adj) clean, See also: pure, stainless, flawless, chaste, unblemished, Syn. ใส, สะอาด, กระจ่าง, บริสุทธิ์, Ant. ขุ่น, สกปรก, เลอะ, Thai Definition: ที่ปราศจากมลทิน, ที่ไม่มีตำหนิ, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
วิหค(n) bird, Syn. นก, ปักษี, ปักษา, Ant. ตัว, Example: ฝูงวิหคบินจากรังส่งเสียงร้องไปทั่ว
วิไล(adj) beautiful, See also: pretty, Syn. งาม, สวย, สวยงาม
วิ่(v) run, Example: ทหารกองรักษาการณ์วิ่งมาบอกว่า ญี่ปุ่นมายึดกองรักษาการณ์, Thai Definition: ใช้ขาพาตัวเคลื่อนไปข้างหน้าโดยเร็ว, แล่นไปโดยเร็ว
วิ(n) net, See also: fishing net, Count Unit: ปาก
วิ(n) dip-net, See also: hand-net, spoon-net, Example: ชาวนาหาปลาโดยใช้เครื่องมือที่ใช้มาแต่โบราณกาลเช่น ลอบ เบ็ด แห สวิง ยอ เป็นต้น, Count Unit: ปาก, Thai Definition: เครื่องช้อนปลาชนิดหนึ่ง ถักเป็นร่างแห ลักษณะเป็นถุง มักใช้ไม้หรือหวายทำขอบปาก
วิ(v) be near, See also: come near, be almost, Syn. เฉียด, จวนเจียน, หวุดหวิด, เกือบ, Example: เขาหวิดจะถูกรถชนเสียแล้ว
วิ(v) near, Syn. เฉียด, จวนเจียน, หวุดหวิด, Example: เขาหวิดจะถูกรถชนเสียแล้ว
วิ(adv) dizzily, See also: giddily, Example: ใจฉันสั่นหวิว ท้องไส้ปั่นป่วนชอบกล, Thai Definition: มีความรู้สึกที่ดูเหมือนใจจะขาดไป, หวาดอย่างใจหาย
วิ(adv) extremely (light), See also: very (light), Example: เมื่อได้ลองสัมผัสของชิ้นนี้ จึงรู้ว่ามันเบาหวิวจริงๆ, Thai Definition: เบาแทบจะไร้น้ำหนัก, เบามาก
วิ(v) feel dizzy, See also: be giddy, have a feeling of faintness or giddiness, Example: ผมหวิวๆ เหมือนมีใครมากัดลูกมะนาวทั้งลูกกร้วมใหญ่ๆ ต่อหน้าผม, Thai Definition: มีความรู้สึกที่ดูเหมือนใจจะขาดไป, หวาดอย่างใจหาย
วิ(v) open, See also: uncover, lift, take off, Syn. เลิก, เปิด, แหวก, Ant. ปิด, Example: หญิงแก่ที่อยู่ในบ้านเวิกผ้าม่านขึ้นช้าๆ เพราะเกรงว่าคนข้างนอกจะเห็น
วิ(v) butt, See also: gore, horn, ram, Syn. เสี่ยว, ชน, Example: สัตว์มีเขาไว้เพื่อขวิดเวลาที่ต้องป้องกันตัว, Thai Definition: กิริยาของหมูหรือสัตว์ที่มีเขาใช้เขี้ยวหรือเขาทำร้าย
ชีวิ(n) life, See also: existence, living, Syn. ชีพ, ความเป็นอยู่, การดำรงอยู่, การดำรงชีวิต, Ant. ความตาย, Example: ชีวิตของคนกรุงเทพฯ ต้องดิ้นรนต่อสู้กับมลพิษที่เพิ่มปริมาณขึ้นทุกวัน, Count Unit: ชีวิต, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
วิบท(n) biped, See also: two-footed animal, bipedal, Syn. สัตว์สองเท้า, ทวิบาท, Notes: (สันสกฤต)
นาวิ(adj) naval, See also: marine, maritime, Thai Definition: เกี่ยวกับเรือ, เกี่ยวกับการเดินเรือ, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
นาวิ(n) sailor, See also: mariner, seaman, Syn. คนเรือ, Count Unit: คน, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
นาวิ(n) marine, See also: seaman, mariner, Syn. คนเรือ, Thai Definition: ทหารเรือที่ประจำการพลรบในกองทัพเรือ, Notes: (สันสกฤต)
ระวิ(n) reel, See also: spool, spinning wheel, Syn. เครื่องปั่นด้าย, Count Unit: ตัว, Thai Definition: เครื่องสำหรับเอาเข็ดด้ายหรือไหมสวม เมื่อเวลาสาวเส้นด้ายจะได้ออกเป็นเส้นๆ ไม่ขาดไม่ยุ่ง
วิกรม(n) courage, See also: bravery, Syn. ความเก่งกล้า, ความกล้าหาญ
วิกรม(v) go on with bravery, See also: be brave, stride forward bravely, march on courageously, Syn. เก่งกล้า, กล้าหาญ, Thai Definition: ก้าวล่วงไปด้วยความกล้าหาญ
วิกฤต(adj) critical, See also: risky, serious, dangerous, perilous, Syn. วิกฤต, Example: แม้จะอยู่ในวัยแก่เฒ่า เขาก็ยังจดจำรำลึกถึงเหตุการณ์วิกฤตครั้งนั้นได้, Thai Definition: ถึงขั้นอันตราย, ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อขั้นแตกหัก
วิกฤต(v) be critical, See also: be risky, Syn. วิกฤติ, Example: สภาพปัญหาเหล่านี้ นับวันจะวิกฤตขึ้นเรื่อยๆ, Thai Definition: ถึงขั้นอันตราย, ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อขั้นแตกหัก
วิกาล(n) night, See also: nighttime, Syn. กลางคืน, ยามวิกาล, Ant. กลางวัน, Example: ผู้คนออกมาเที่ยวเตร่ กินอาหารยามวิกาล, Thai Definition: ยามค่ำคืน, เวลากลางคืน, Notes: (บาลี)
วิจัย(n) research, See also: study, probe, Syn. การศึกษาค้นคว้า, Example: มหาวิทยาลัยไคโรเป็นมหาวิทยาลัยที่นักศึกษาไทยเดินทางไปทำวิจัยในระดับปริญญาเอกกันมาก, Thai Definition: การค้นคว้าเพื่อหาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนตามหลักวิชา
วิจัย(v) do research, See also: research, Syn. ศึกษา, Example: รัฐบาลได้จัดตั้งองค์กรระดับชาติเพื่อค้นคว้าวิจัยเรื่องนี้โดยตรงแล้ว, Thai Definition: ค้นคว้าเพื่อหาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนตามหลักวิชา

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
กรรมวิธี(กำมะวิที) น. ลักษณะอาการหรือวิธีการที่ผันแปรหรือเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติหรือที่มนุษย์ทำขึ้น อันดำเนินติดต่อกันเรื่อยไปเป็นลำดับ, กระบวนวิธีดำเนินการในประดิษฐกรรม.
กรรมวิบาก(กำมะวิบาก) น. ผลของกรรม.
กรวิก ๑(กะระ-, กอระ-) น. นกการเวก.
กรวิก ๒(กะระ-, กอระ-) น. ชื่อภูเขาชั้นที่ ๓ ในหมู่เขาสัตบริภัณฑ์ที่ล้อมเป็นวงกลมรอบเขาพระสุเมรุ. (ป.; ส. กรวีก). <i> (ดู สัตบริภัณฑ์, สัตภัณฑ์ ที่ สัต ๒, สัต- ๒, สัตตะ ๑)</i>.
กระต้อยตีวิ<i>ดู กระแตแต้แว้ด</i><i> ๑</i>.
กระวิน ๑น. ห่วงที่เกี่ยวกันสำหรับโยงสัปคับช้าง, ห่วงติดกับบังเหียน หรือเหล็กผ่าปากม้า, ประวิน ก็ใช้.
กระวิน ๒ว. สีนํ้าตาล เช่น โคกระวิน.
กระสุนวิถีน. ทางแห่งกระสุน, วิถีกระสุน ก็ว่า.
กริยาวิเศษณ์น. คำวิเศษณ์ใช้ประกอบคำกริยาหรือคำวิเศษณ์ด้วยกันให้มีความแปลกออกไป.
กริยาวิเศษณ์วลีน. ท่อนความที่มีคำกริยาวิเศษณ์ที่พ่วงบุรพบทเข้าขยายกริยา เช่น ม้าวิ่งไป<u>ข้างโน้น</u> ความที่ขีดสัญประกาศนั้นเป็นกริยาวิเศษณ์วลี.
กริยาวิเศษณานุประโยค(-วิเสสะนานุปฺระโหฺยก) น. อนุประโยคที่ประกอบคำกริยาหรือคำวิเศษณ์ในสังกรประโยค, ประโยควิเศษณ์ ก็ว่า.
กลวิธี(กนละ-, กน-) น. วิธีพลิกแพลง โดยอาศัยความรู้ความชำนาญ.
กวดวิชาก. เรียนเสริมหรือเพิ่มเติมเพื่อให้ทันหรือมีความรู้ดียิ่งขึ้น.
วิ(กะวิน) ว. ดีงาม เช่น ใครกวินซื่อแท้ ผ่านฟ้าป่าวอวยพร (แช่งนํ้า).
กัยวิกัย(ไกยะวิไก) น. การซื้อและการขาย.
กามวิตกน. ความครุ่นคิดในกาม, ความคิดคำนึงในทางกาม (ป.).
กามวิตถาร(กามวิดถาน) น. การประกอบกามกิจที่ผิดปรกติวิสัย เช่น รักร่วมเพศ, การทรมานตนหรือผู้อื่นก่อนหรือในระหว่างร่วมเพศ.
กามวิตถาร(กามวิดถาน) ว. ผิดปรกติทางเพศเช่นนั้น.
กายวิภาคศาสตร์(-วิพากคะสาด) น. วิทยาศาสตร์การแพทย์สาขาหนึ่ง ว่าด้วยเรื่องโครงสร้างของร่างกายโดยศึกษาเป็นส่วน ๆ.
การก่อวินาศกรรมน. การกระทำใด ๆ อันเป็นการมุ่งทำลายทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐ หรือสิ่งอันเป็นสาธารณูปโภค หรือการรบกวนขัดขวางหน่วงเหนี่ยวระบบการปฏิบัติงานใด ๆ ตลอดจนการประทุษร้ายต่อบุคคลอันเป็นการก่อให้เกิดความปั่นป่วนทางการเมืองการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยมุ่งหมายที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของรัฐ.
การวิ(การะวิก) น. นกการเวก เช่น การวิกรวังวนกุณาล พเพรียกพร้องกระแสงใส (สมุทรโฆษ).
กำมังวิลิตน. ตำหนักในสระ.
กิมิวิทยาน. วิชาว่าด้วยหนอน.
กีฏวิทยาน. วิชาว่าด้วยแมลง.
กุสุมวิจิตรน. ชื่อฉันท์วรรณพฤติแบบหนึ่ง กำหนดด้วย ๔ คณะ คือ น คณะ ย คณะ น คณะ ย คณะ บาทละ ๑๒ คำ หรือ ๑๒ พยางค์ (ตามแบบว่า นยสหิตานฺยา กุสุมวิจิตฺตา) ตัวอย่างว่า จะรจิตรอรรถา ปิสุณวจีขวน พิปริตญาณยล บรชนทำลาย (ชุมนุมตำรากลอน).
แก้ววิเชียรน. ชื่อโรคซางละอองเป็นฝ้าบาง ๆ ที่ขึ้นตามลิ้นหรือเพดานหรือกระพุ้งแก้ม สีขาวดั่งเนื้อในมะพร้าว มีอาการท้องอืด ลงท้องนับหนไม่ถ้วน.
โกวิ(-วิด) ว. ฉลาด, ชำนิชำนาญ, รอบรู้ในการอันใดอันหนึ่ง, เช่น อัศวโกวิท ว่า ผู้มีความชำนาญในเรื่องม้า.
โกวิฬาร(-ลาระ) น. ไม้ทองหลาง.
ขวัดขวิ(ขฺวัดขฺวิด) ก. กวัดไกว เช่น เท้ากวัดขวัดขวิดคือควัน (ม. ฉันท์ มหาราช).
วิด ๑(ขฺวิด) ก. กิริยาของหมูป่าหรือสัตว์ที่ใช้เขาหรือนอทำร้าย, เสี่ยว, ชน.
วิด ๑(ขฺวิด) ว. อาการที่เดินสะดุดขาตัวเองเพราะอายหรือรีบร้อน เรียกว่า เดินขาขวิด.
วิด ๒(ขฺวิด) น. มะขวิด.
ขาขวิว. อาการที่เดินสะดุดขาตัวเองเพราะอายหรือรีบร้อน เรียกว่า เดินขาขวิด.
แข่งเกมวิบากน. การเล่นชนิดหนึ่ง ผู้เล่นต้องวิ่งข้ามสิ่งกีดขวางหรือทำกิจกรรมที่ยาก ๆ เช่น ใช้ปากควานหาสตางค์ในแป้ง สนเข็ม เป่าลูกโป่งให้แตก ใครทำเสร็จและวิ่งถึงเส้นชัยก่อนเป็นผู้ชนะ.
ไขพระวิสูตรก. เปิดม่าน, คู่กับ ปิดพระวิสูตร หมายความว่า ปิดม่าน.
คณะกรรมาธิการวิสามัญน. คณะกรรมาธิการที่สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา หรือที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา แต่งตั้งจากผู้เป็นหรือมิได้เป็นสมาชิกแห่งสภานั้น ๆ เพื่อปฏิบัติหน้าที่เฉพาะเรื่องที่สภามอบหมาย และเมื่อปฏิบัติหน้าที่เสร็จแล้ว คณะกรรมาธิการนั้นย่อมพ้นจากตำแหน่ง.
คนธรรพวิวาห์(คนทันพะ-) น. การได้เสียเป็นผัวเมียกันเองโดยไม่แต่งงาน.
คลื่นวิทยุน. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ส่งผ่านบรรยากาศด้วยความถี่วิทยุ.
ความถี่วิทยุน. ความถี่ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ใช้ในการส่งวิทยุและโทรทัศน์ ขนาดตํ่าสุดตั้งแต่ ๑๐ ถึง ๓๐ กิโลเฮิรตซ์ ขนาดสูงสุดตั้งแต่ ๓๐, ๐๐๐ ถึง ๓๐๐, ๐๐๐ เมกะเฮิรตซ์.
วินิน(คฺวินิน) น. ชื่อสารประกอบประเภทแอลคาลอยด์ ใช้เป็นยารักษาโรคไข้จับสั่น สกัดได้จากเปลือกต้นซิงโคนา.
วิว ๆ(คฺวิว-) ว. อาการที่ใจหวิว ๆ เช่น ควิวควิวอกควากคว้าง ลมลอยแลแม่ (นิ. นรินทร์).
วิวควัง, ควิวควั่ง, ควิวคว่าง, ควิวคว้าง(-คฺวัง, -คฺวั่ง, -คฺว่าง, -คฺว้าง) ก. หมุนคว้างจนใจหวิว ๆ, อาการที่จิตใจรู้สึกหวาดหวิ
วิวควัง, ควิวควั่ง, ควิวคว่าง, ควิวคว้างใช้โดยปริยายว่า เวิ้งว้าง, กว้างใหญ่, น่ากลัว, เช่น สาครควิวคว่าง, โบราณเขียนเป็น ควิวคว่งง ก็มี เช่น สมุทรพิศารลิว ควิวคว่งง แลนา (กำสรวล).
คุณพิเศษ, คุณวิเศษ(คุนนะ-) น. ความดีแปลกกว่าสามัญ.
คู่ชีวิน. ผู้ร่วมเป็นร่วมตาย, ผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุข, สามีหรือภรรยา.
โควิถีน. ชื่อทางสำหรับโคจรของพระอาทิตย์.
โฆรวิ(โคระวิด) น. งูพิษ.
โฆรวิ(โคระวิด) ว. มีพิษร้าย.
จรวดนำวิถีน. อาวุธปล่อยนำวิถีซึ่งขับเคลื่อนด้วยจรวด.
จักขุวิญญาณน. ความรู้อันอาศัยทางตาเกิดขึ้น.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
phylogenetic classificationการจำแนกตามวิวัฒนาการชาติพันธุ์ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
phylogenyวิวัฒนาการชาติพันธุ์ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
perpetualตลอดกาล, ตลอดชีวิ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
perpetuityการดำรงอยู่ตลอดชีวิต, การดำรงอยู่ตลอดกาล [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
prosthodonticsวิชาทันตกรรมประดิษฐ์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
prosthodontics; denture prostheticsวิชาทันตกรรมประดิษฐ์ [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
phenomenologyปรากฏการณ์วิทยา [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
panoramic methodวิธีปริทัศน์ [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
probable length of lifeความยืนยาวที่น่าจะเป็นของชีวิ[ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
patient, apprehensiveผู้ป่วยหวาดวิตก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pasteurisation; pasteurizationการฆ่าเชื้อวิธีปาสเตอร์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pasteuriser; pasteurizerเครื่องฆ่าเชื้อวิธีปาสเตอร์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pasteurization; pasteurisationการฆ่าเชื้อวิธีปาสเตอร์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pasteurizer; pasteuriserเครื่องฆ่าเชื้อวิธีปาสเตอร์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
palynologyเรณูวิทยา [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
peaceful settlement; pacific settlementการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
professionวิชาชีพ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
professionวิชาชีพ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
professional indemnity insuranceการประกันภัยความรับผิดจากวิชาชีพ [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
professional misconductการประพฤติมิชอบในวิชาชีพ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
professional schoolโรงเรียนวิชาชีพ, สถานศึกษาวิชาชีพ [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
petrologyศิลาวิทยา [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
pathology, generalพยาธิวิทยาทั่วไป [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pathology, geographicalภูมิศาสตร์พยาธิวิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pathology, internal; pathology, medicalอายุรพยาธิวิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pathology, medical; pathology, internalอายุรพยาธิวิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pathology, mental; psychopathologyจิตพยาธิวิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pathology, specialพยาธิวิทยาจำเพาะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pathology, surgicalศัลยพยาธิวิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
procedural lawกฎหมายวิธีพิจารณาความ [ ดู adjective law ] [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
procedural lawกฎหมายวิธีพิจารณาความ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
procedureวิธีพิจารณาความ, วิธีดำเนินการ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
procedureวิธีดำเนินการ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
period analysisการวิเคราะห์ตามช่วงเวลา [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
payor insuranceการประกันชีวิตผู้ชำระเบี้ยประกันภัย [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
partnership insuranceการประกันชีวิตเพื่อธุรกิจ มีความหมายเหมือนกับ business insurance และ corporation insurance [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
pharyngologyวิทยาคอหอย [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
proof, ontologicalการให้เหตุผลทางภววิทยา, ข้อพิสูจน์ทางภววิทยา [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
per autre vie (L., Fr.)ชั่วชีวิตของอีกคนหนึ่ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
posologyวิทยาพิกัดยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
pyelography, intravenousการทำไพอีโลแกรมวิธีฉีดเข้าหลอดเลือด [ มีความหมายเหมือนกับ pyelography, excretion ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
policy, lifeกรมธรรม์ประกันชีวิ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
pacific settlement; peaceful settlementการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
pochoir๑. กลวิธีพิมพ์สีลายฉลุ๒. ภาพพิมพ์สีลายฉลุ [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
protozoologyวิทยาสัตว์เซลล์เดียว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
parliamentary procedure; procedure, parliamentaryวิธีดำเนินการทางรัฐสภา [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
perversionความวิปริต [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
parapsychologyปรจิตวิทยา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
parallel evolutionวิวัฒนาการแนวขนาน [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
palaeoclimatology; paleoclimatologyภูมิอากาศบรรพกาลวิทยา [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Equipmentอุปกรณ์, เครื่องมือต่างๆ ที่นำมาช่วยในการใช้วัสดุให้เกิดประสิทธิภาพ เช่น เครื่องเล่นจานเสียง เครื่องบันทึกเสียง เครื่องรับวิทยุ เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องฉายภาพยนต์ เครื่องฉายสไลด์ เครื่องฉายภาพข้ามศีรษะ เครื่องฉายฟิล์มสติรป เป็นต้น [เทคโนโลยีการศึกษา]
Instructional Mediaสื่อการเรียนการสอน, คำนี้นักการศึกษาบางท่านใช้คำว่า &quot;สื่อการเรียน&quot; เพราะเห็นว่าสื่อต่างๆ ที่เรานำมาใช้นั้นเพื่อการศึกษา หรือเพื่อช่วยในการเรียนรู้ของผู้เรียน ส่วนนักการศึกษาบางท่านจะใช้คำ &quot;สื่อการสอน&quot; เพราะเห็นว่าสื่อต่างๆ นั้น เป็นตัวถ่ายทอดการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน<br />สื่อการเรียนการสอนนี้ ได้มีนักการศึกษาได้ให้ความหมาย หรือคำจำกัดความไว้หลายท่านด้วยกัน แต่พอจะสรุปความได้คือ &quot;สื่อการเรียนการสอน&quot; หมายถึง วัสดุ เครื่องมือ ตลอดจนถึงวิธีการต่างๆ ที่จะเป็นตัวช่วยถ่ายทอดความรู้ จากแหล่งความรู้ไปยังผู้เรียน [เทคโนโลยีการศึกษา]
Innovationนวัตกรรม, นวัตกรรม หรือนวกรรม หมายถึง วิธีการปฏิบัติใหม่ๆ ที่แปลกไปจากเดิม โดยอาจจะได้มาจากการคิดค้นพบวิธีการใหม่ๆ ขึ้นมา หรือการปรุงแต่งของเก่าให้ใหม่และเหมาะสม และสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ได้รับการทดลองพัฒนาจนเป็นที่เชื่อถือได้แล้วว่าได้ผลดีในทางปฏิบัติ ทำให้ระบบก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น โดย มีหลักการที่สำคัญอยู่ 3 ประการ ที่จัดเป็นหลักพิจารณาว่าสิ่งใดเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาหรือไม่ คือ <ul><li>สิ่งนั้นควรเป็นสิ่งที่ค้นพบ หรือประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ หรือการปรับปรุงแต่งของเก่าให้ใหม่เหมาะสมกับกาลสมัยมาใช้ในวงการศึกษา เพื่อให้ระบบการศึกษาก้าวหน้าไปอย่างมีประสิทธิภาพ</li><li>ได้ผ่านการทดลอง การปรับปรุงพัฒนา จนเป็นที่ยอมรับกับอย่างแพร่หลาย</li><li>ได้มีการนำมาปฏิบัติจริงในวงการนั้น</li></ul> [เทคโนโลยีการศึกษา]
Educational Technologyเทคโนโลยีการศึกษา, การประยุกต์เอาระเบียบวิธีการ แนวความคิดต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนผลิตผลอันเกิดจากผลของวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการศึกษาให้กว้างขวางยิ่งขึ้น [เทคโนโลยีการศึกษา]
Subject reference booksหนังสืออ้างอิงเฉพาะวิชา [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Critical Path Methodวิธีวิถีวิกฤติ [เทคโนโลยีการศึกษา]
Protocolเกณฑ์วิธี [เทคโนโลยีการศึกษา]
Virtual universityมหาวิทยาลัยเสมือน [เทคโนโลยีการศึกษา]
Videoวีดิทัศน์, คำว่า วีดิทัศน์ เป็นศัพท์บัญญัติตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า video (อ่านว่า วิ-ดี-โอ). ศาสตราจารย์ ดร. คุณบรรจบ พันธุเมธา เป็นผู้คิดคำนี้ขึ้น โดยเห็นว่า คำว่า “วีติ” ในภาษาสันสกฤต แปลว่า “ความสนุกสนานรื่นเริง” มีเสียงใกล้เคียงกับคำว่า video ในภาษาอังกฤษ เมื่อเติมคำว่า “ทัศน์” ลงไปข้างท้าย ก็อาจจะแปลได้ว่า “เครื่องที่แสดงภาพเพื่อความสนุกสนานรื่นเริง” คำนี้มักจะเขียนตามคำอ่าน ซึ่งพบว่ามีการใช้สระผิด เช่น เขียนว่า วิดีทัศน์ หรือ วีดิโอ คำที่ถูกต้องคือ วีดิทัศน์ (ว สระอี ด สระ อิ ..) และ วิดีโอ (ว สระอิ ด สระอี ...) [เทคโนโลยีการศึกษา]
Classificationการวิเคราะห์หนังสือ [เทคโนโลยีการศึกษา]
Dissertations, Academicวิทยานิพนธ์ [เทคโนโลยีการศึกษา]
Bibliographerผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาวิชา [เทคโนโลยีการศึกษา]
University pressสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัย [เทคโนโลยีการศึกษา]
Thesisวิทยานิพนธ์ [เทคโนโลยีการศึกษา]
Technical reportรายงานการวิจัย [เทคโนโลยีการศึกษา]
World Wide Web (WWW)วิล์ดไวด์เว็บ [เทคโนโลยีการศึกษา]
Bibliographerผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาวิชา, ผู้รวบรวมจัดทำบรรณานุกรม [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Scientific libraryห้องสมุดวิทยาศาสตร์, Example: <p>หากจัดแบ่งตามประเภทห้องสมุด ซึ่งมี 5 ประเภท คือ หอสมุดแห่งชาติ ห้องสมุดประชาชน ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย ห้องสมุดโรงเรียน และห้องสมุดเฉพาะ <p>ห้องสมุดวิทยาศาสตร์ จัดอยู่ในประเภทห้องสมุดเฉพาะ ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศเฉพาะสาขาวิชา ให้บริการแก่ผู้ใช้เฉพาะกลุ่มหรือบางกลุ่มซึ่งเป็นผู้ที่ทำงานหรือศึกษาในสาขาวิชานั้น ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานราชการ องค์กรวิจัย เป็นต้น ทำหน้าที่จัดหาหนังสือ และให้บริการความรู้ ข้อมูล และข่าวสาร เฉพาะเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของหน่วยงานนั้น ๆ <P>ที่ตั้งและสถานภาพของห้องสมุดวิทยาศาสตร์ ส่วนใหญ่เป็นห้องสมุดคณะวิทยาศาสตร์ สังกัดมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา หรือ หน่วยงาน องค์กรวิจัย ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี <P>ห้องสมุดวิทยาศาสตร์ที่โดดเด่น เช่น ห้องสมุดคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กรมวิทยาศาสตร์บริการ เป็นต้น [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
World Wide Web (WWW)วิล์ดไวด์เว็บ, Example: World Wide Web หรือ WWW หรือ เว็บ <p>เป็นบริการหนึ่งในอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลที่อยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ โดยใช้โปรโตคอลเป็น Http (Hypertext Transfer Protocol) ในการเรียกใช้เอกสารผ่านโปรแกรมประเภทเว็บบราวเซอร์ <p>ประมาณปี ค.ศ. 1989 Tim Berners-Lee ซึ่งทำงานที่ CERN (European Laboratory for Particle Physics) ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ได้เสนอ URL (Uniform Resource Locator) ซึ่งเป็นวิธีการชี้บอกแหล่งที่อยู่ของเอกสารเพื่อใช้เป็นสากล หลังจากที่ทาง CERN ได้พัฒนาโปรโตคอลพื้นฐานของ WWW แล้ว NCSA (National Center for Supercomputer Applications) ประเทศสหรัฐอเมริกาได้พัฒนาโปรแกรมชื่อ Mosaic ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับเรียกดูข้อมูลในเว็บ หลังจากนั้นได้มีผู้พัฒนาโปรแกรมในการเรียกดูเว็บมากขึ้น แต่ละโปรแกรมผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก เว็บจึงเป็นบริการทางอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ก็เป้นบริการที่ต้องใช้ทรัพยากร (Resources) ของเครื่องมากที่สุดเช่นกัน <p>องค์ประกอบหลักของ WWW <p>1. เว็บเซิร์ฟเวอร์ ทำหน้าที่ให้บริการเว็บ เครื่องคอมพิวเตอร์ใดที่จะให้บริการเว็บ จะต้องมีการติดตั้งโปรแกรมเว็บเซิร์ฟเวอร์ก่อน โปรแกรมเว็บเซิร์ฟเวอร์นั้น เรียกว่า HTTP (Hypertext Transfer Protocol) <p>2. เว็บบราวเซอร์ คือ โปรแกรมที่ใช้สำหรับดูข้อมูลในเว็บ ซึ่งนอกจากดูข้อความ (ไฮเปอร์เท็กซ์) ได้แล้ว ยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือฟังเสียง (ไฮเปอร์มีเดีย) ได้ <p>3. HTML (Hypertext Markup Language) เนื่องจากเว็บเป็นข้อมูลในรูปของเอกสารที่สามารถเชื่อมโยงถึงกัน ดังนั้น ข้อมูลหรือเอกสารจะต้องเขียนในรูปแบบที่เรียกว่า HTML เพื่อทำให้โปรแกรมเซิร์ฟเวอร์และบราวเซอร์สามารถทำงานได้ตามความต้องการ โดยเอกสารที่เขียนในรูปของ HTML ประกอบด้วยชุดคำสั่ง HTML และตัวเนื้อหาของเอกสาร <p>4. URL (Uniform Resource Locator) ยูอาร์แอล เป็นการระบุตำแหน่งของข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ <p>1. โปรโตคอล <p>2. ชื่อเครื่องให้บริการหรือเครื่องแม่ข่าย <p>3. เส้นทางที่บอกที่อยู่ของเอกสารในเครื่องที่ให้บริการ (หรือชื่อไดเร็กทอรี่/ชื่อแฟ้ม) <p>ตัวอย่าง <p>http://www.nstda.or.th <p>โปรโตคอล คือ http ซึ่งหมายถึง โปรโตคอลที่ใช้ในเว็บ จะมีเครื่องหมาย : อยู่ข้างท้าย <p>ชื่อเครื่อง คือ www.nstda.or.th หมายถึง สามารถใช้โปรแกรมบราวเซอร์ดูข้อมุลได้ที่เครื่อง www.nstda.or.th ชื่อเครื่องให้บริการ จะมีเครื่องหมาย // นำหน้า <p>ตัวอย่าง <p>http://www.nstda.or.th/thairesearch <p>โปรโตคอล คือ http ซึ่งหมายถึง โปรโตคอลที่ใช้ในเว็บ จะมีเครื่องหมาย : อยู่ข้างท้าย <p>ชื่อเครื่อง คือ www.nstda.or.th หมายถึง สามารถใช้โปรแกรมบราวเซอร์ดูข้อมุลได้ที่เครื่อง www.nstda.or.th ชื่อเครื่องให้บริการ จะมีเครื่องหมาย // นำหน้า <p>เอกสารที่ต้องการดูอยู่ที่ thairesearch มีเครื่องหมาย / นำหน้าในแต่ละเส้นทาง <p>บรรณานุกรม <p>บุปผชาติ ทัฬหิกรณ์. เทคโนโลยีสารสนเทศทางวิทยาศาสตร์ศึกษา. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2546. <p>ธงชัย โรจน์กังสดาล และ ชาญ อาริยะกุล. "การสืบค้นข้อมูล." ใน อินเตอร์เน็ต : นานาสาระแห่งการบริการ หน้า 87-106. กรุงเทพฯ : สถาบันวิทยบริการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2538. <p>Rojas, Raul, editor. Encyclopedia of Computers and Computer History. Vol. 2. Chicago : Fitzroy Dearborn, 2001. [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Book reviewบรรณนิทัศน์, การวิจารณ์หนังสือ [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Conference paperเอกสารการประชุมทางวิชาการ, Example: <p>เอกสารการประชุมทางวิชาการ คือ เอกสารหรือบทความที่นำเสนอต่อที่ประชุมทางวิชาการหรือวิชาชีพ ที่จัดขึ้นทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ โดยสมาคม หน่วยงาน หรือองค์กร จัดให้มีการประชุม เพื่อเป็นการพบปะระหว่างนักวิทยาศาสตร์ นักวิชาชีพ ในสาขาวิชาเดียวกันอย่างต่อเนื่อง วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และความร่วมมือกัน มีการนำเสนอผลการค้นคว้าวิจัยใหม่ในที่ประชุม โดยต้องส่งเอกสารหรือบทความ หรือสาระสังเขป (บทคัดย่อ) ของเรื่องที่จะนำเสนอในที่ประชุมล่วงหน้า ในช่วงที่ประกาศรับการเสนอบทความ (Call for papers) และงานต้องมีคุณภาพมากเพียงพอที่กรรมการพิจารณาบทความจะยอมรับให้ได้ตีพิมพ์และนำเสนอบทความในการประชุมครั้งนั้น <p>ตัวอย่างการประชุมทางวิชาการ เช่น IFLA Conference (International Federation of Library Associations and Institutions : สหพันธ์ระหว่างประเทศว่าด้วยสมาคมและสถาบันห้องสมุด) ในกลุ่มวิชาชีพบรรณารักษศาสตร์และ สารนิเทศศาสตร์ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เป็นต้น [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Content analysisการวิเคราะห์เนื้อหา , การวิเคราะห์เนื้อหา, Example: Content analysis หมายถึง การวิเคราะห์เนื้อหา เป็นวิธีการในทางสังคมศาสตร์เพื่อการศึกษาเนื้อหาของการสื่อสาร โดยการแยกแยะแจกแจงเนื้อหาหรือแนวคิดที่ปรากฏในตำรา หนังสือ เอกสาร ข่าวสาร สื่อสิ่งพิมพ์ บทสนทนา หรือรูปภาพ วัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์ เนื้อหาเพื่อผลิตสื่อการสอน โดยผู้สอนมักมีวัตถุประสงค์เพื่อแบ่งเนื้อหาทำให้ทราบโครงสร้าง ลำดับของเนื้อหา และขอบเขตเนื้อหาอย่างละเอียด รวมทั้งทำให้ผู้สอนเห็นการเปลี่ยนแปลงของเนื้อหาในแต่ละช่วงเวลาที่ทำการวิเคราะห์ด้วย และผลจากการแยกแยะแจกแจงเนื้อหาช่วยให้สามารถแบ่งเนื้อหาวิชาออกเป็นหัวเรื่อง หัวเรื่องย่อยและหัวข้อย่อย สำหรับหน่วยในการวิเคราะห์ เพื่อใช้แสดงปริมาณของการวิเคราะห์ จึงมักวิเคราะห์ออกมาเป็น หัวเรื่อง หัวเรื่องย่อยหัวข้อย่อย รวมทั้งปริมาณ เช่น จำนวนแนวคิด จำนวนหน้า เป็นต้น [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Cyclopediaวิทยานุกรม [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Dissertationsวิทยานิพนธ์ [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Journalวารสารวิชาการ, Example: <p><img src="http://thaiglossary.org/sites/default/files/20110307-journal.jpg" alt="Journal"> <p>วารสารวิชาการจัดเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีกำหนดออกที่แน่นอนและต่อเนื่อง โดยมีการนำเสนอเนื้อหาในลักษณะบทความและเรื่องราวทางวิชาการซึ่งเขียนโดยผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิ ขนาดส่วนใหญ่ประมาณ A4 มีความยาวของเนื้อหามากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับหนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ต่อเนื่องประเภทหนึ่ง อีกทั้งมีการออกแบบและเทคนิคการจัดพิมพ์เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อ่านด้วยภาพและสี <p>วารสารจัดเป็นแหล่งค้นคว้าและติดตามเรื่องราวและผลการศึกษาวิจัยใหม่ๆ ทางด้านวิชาการและความรู้ที่ทันสมัย ตลอดจนทัศนะและความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ รวดเร็วกว่าหนังสือ หรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ ดังนั้น สารสนเทศจากวารสารจึงมีความทันสมัยกว่าสารสนเทศจากแหล่งอื่นๆ <p>ส่วนประกอบหลักในวารสาร <p>ปก ส่วนใหญ่มักเป็นปกอ่อน และมีภาพที่สื่อถึงเนื้อหาในฉบับนั้นๆ โดย พิมพ์สี เพื่อความสวยงามและดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน ข้อมูลที่นำเสนอในหน้าปก คือ ชื่อวารสาร ชื่อผู้รับผิดชอบในการจัดทำ ข้อความระบุตัวเลขและ/หรือตัวอักษร คือ ปีที่ ฉบับที่ เดือน ปี พ.ศ. ของวารสารฉบับนั้นๆ ข้อความที่ระบุกำหนดออก ราคา เลขมาตรฐานสากลประจำวารสาร หรือ ISSN และ ชื่อบทความเด่นในวารสารฉบับนั้นๆ <p>หน้าปกใน ข้อมูลที่นำเสนอในหน้าปก คือ ชื่้อวารสาร ผู้รับผิดชอบในการจัดทำในส่วนต่างๆ เช่น บรรณาธิการ กองบรรณาธิการ ผู้ช่วยบรรณาธิการ เจ้าของ เป็นต้น ข้อความระบุตัวเลขและ/หรือตัวอักษร คือ ปีที่ ฉบับที่ เดือน ปี พ.ศ. ของวารสารฉบับนั้นๆ กำหนดออก ราคาค่าบอกรับ ISSN วัตถุประสงค์ในการจัดทำ สำนักงาน หรือสถานที่ติดต่อ <p>หน้าบรรณาธิการ เป็นการพูดคุยระหว่างบรรณาธิการกับผู้อ่านเกี่ยวกับวารสารฉบับนั้นๆ <p>สารบัญ แสดงรายชื่อบทความ ผู้เขียน พร้อมหมายเลขหน้าที่เริ่มต้นบทความนั้นๆ เรียงลำดับตามเลขหน้า <p>เนื้อหา คือ ส่วนที่เป็นบทความ และคอลัมน์ โดยจัดเรียงลำดับตามที่สารบัญระบุไว้ อาจเป็นเรื่องสั้น หรือเรื่องยาว ทั้งที่จบในฉบับ หรืออ่านต่อเนื่องกันหลายฉบับ <p>รายละเอียดการพิมพ์ท้ายเล่ม คือ แหล่งข้อมูลสถานที่พิมพ์ โรงพิมพ์ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา <p>อื่นๆ วารสารวิชาการบางชื่อในส่วนท้ายเล่ม อาจมี ระเบียบการเขียนบทความที่จะลงพิมพ์ในวารสาร คำแนะนำการเตรียมต้นฉบับ รูปแบบการพิมพ์บทความ การส่งต้นฉบับ แบบฟอร์มใบสมัครสมาชิกวารสาร เป็นต้น <p>วารสารแต่ละชื่อมีกำหนดการออกทั้งที่เหมือนและแตกต่างกัน โดยแบ่งได้ดังนี้ <p>รายสัปดาห์ (Weekly) คือ 7 วัน : ครั้ง <p>รายปักษ์ (Bi-weekly) คือ 15 วัน : ครั้ง หรือ ครึ่งเดือน : ครั้ง <p>รายเดือน (Monthly) คือ 1 เดือน : ครั้ง <p>รายสองเดือน (Bi-monthly) คือ 2 เดือน : ครั้ง <p>รายสามเดือน (Quarterly) คือ 3 เดือน : ครั้ง หรือ ปีละ 4 ฉบับ <p>รายสี่เดือน (Quarterly) คือ 4 เดือน : ครั้ง หรือ ปีละ 3 ฉบับ <p>รายหกเดือน (Two times a year) คือ 6 เดือน : ครั้ง หรือ ปีละ 2 ฉบับ <p>รายชื่อวารสารสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย ศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย เข้าถึงที่ http://www.kmutt.ac.th/jif/public_html/images/l_menu_S&T%20journal_02.png <p>รายชื่อวารสารสาขามนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ โดย ศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย เข้าถึงที่ http://www.kmutt.ac.th/jif/public_html/list%20journal.php?branch=H <p>แหล่งข้อมูล <p>มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สาขาวิชาศิลปศาสตร์. เอกสารการสอนชุดวิชา 13312 การวิเคราะห์สารสนเทศ. นนทบุรี : สาขาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2546. [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Library instruction serviceบริการสอนวิธีใช้ห้องสมุด [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Library professionวิชาชีพห้องสมุด [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Monographหนังสือ, เอกสารทางวิชาการ [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Professional librarianบรรณารักษ์วิชาชีพ [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Research reportรายงานการค้นคว้าวิจัย, Example: <p>รายงานการค้นคว้าวิจัยหรือรายงานผลการวิจัย (Research Report) หมายถึง เรื่องราวที่เป็นผลจากการค้นคว้าทางวิชาการ แล้วนำมาเรียบเรียงอย่างมีระเบียบแบบแผน เรื่องราวที่นำมาเขียนรายงานต้องเป็นข้อเท็จจริง หรือความรู้ อันเกิดจากการรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการค้นคว้าที่เป็นระบบ มีลักษณะเป็นวิทยาศาสตร์ <p>วัตถุประสงค์ของรายงานการค้นคว้าวิจัย หรือรายงานผลการวิจัย ดังนี้ <p>1. เพื่อเสนอข้อเท็จจริง หรือความรู้ ที่เกิดจากการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบ อันเป็นแนวทางในการเสนอข้อมูลทางวิชาการแนวใหม่ หรือปรับปรุงข้อมูลเดิม <p>2. เพื่อพัฒนาความคิด ด้านความคิดริเริ่ม การวิเคราะห์ และการประมวลความคิดอย่างมีระบบระเบียบ ตลอดจนการถ่ายทอดความคิดเป็นภาษาเขียนที่ชัดเจน สละสลวย <p>3. เพื่อส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ในการรวบรวมข้อมูลหรือประกอบการอ้างอิง อันเป็นวิธีการหาความรู้ด้วยตนเอง <p>ส่วนประกอบที่สำคัญของรายงานการค้นคว้าวิจัย ประกอบด้วย ความนำ เอกสารหรืองานวิจัยที่เกี่ยวข้อง วิธีการวิจัย ผลของการวิจัย <p>แนวทางการเขียนเนื้อเรื่องรายงานผลการวิจัย ส่วนเนื้อเรื่องถือเป็นส่วนสำคัญที่สุดของรายงานผลการวิจัย ซึ่งมีแนวทางในการเขียน คือ ความนำ การเขียนความนำเป็นการเกริ่นนำเรื่องให้ผู้อ่านได้ทราบถึงที่มาของปัญหา <p>ส่วนเนื้อหา <p>1. เริ่มด้วยการเชื่อมโยงจากส่วนนำเข้าสู่เนื้อหา <p>2. อธิบายวิธีการศึกษาเรื่องนั้น ๆ เช่น รวบรวมจากเอกสาร สัมภาษณ์ สังเกต ทดลอง เป็นต้น <p>3. เสนอหลักการ ทฤษฎี ข้อค้นพบ หรือข้อวิเคราะห์วิจารณ์ให้ชัดเจน ยกเหตุผลสนับสนุนให้หนักแน่น อ้างอิงแหล่งข้อมูลให้ถูกต้อง หากมีหลายประเด็นควรจำแนกเป็นประเด็น ๆ ไป <p>4. ให้นิยามศัพท์เฉพาะที่สำคัญ <p>5. อธิบายขยายความ ยกตัวอย่างประกอบให้เข้าใจง่าย <p>6. ใช้แผนภูมิ ภาพ ตาราง กราฟ ฯลฯ ประกอบในส่วนที่จำเป็นเพื่อให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น <p>ส่วนสรุป <p>1. สรุปเนื้อหา อาจสรุปย่อประเด็นสำคัญ เป็นข้อความหรือแผนภูมิ เพื่อให้เห็นภาพรวมของเนื้อหาอย่างชัดเจน <p>2. กล่าวย้ำจุดสำคัญหรือจุดเด่นของเนื้อหา <p>3. เสนอทรรศนะของผู้เขียน แต่ต้องระบุให้ชัดเจนว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัว มิใช่หลักการหรือทฤษฎีตายตัวที่ทุกคนต้องทำตาม <p>4. ชี้นำให้ผู้อ่านขบคิดพิจารณาต่อไป เพื่อให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาและพัฒนาวิชาการนั้น ๆ <p>บรรณานุกรม <p>สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ. คู่มือการเขียนรายงานการวิจัย. Available at : http://www.riclib.nrct.go.th/link/info/researchwrite.pdf. Accessed June 6, 2012. [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Research serviceบริการช่วยการวิจัย, Example: <p>บริการช่วยการวิจัย (Research service) เป็นบริการสำคัญหนึ่งของห้องสมุด จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ในการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังศึกษาวิจัย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแหล่งสารสนเทศได้อย่างรวดเร็วและสมบูรณ์ ซึ่งบรรณารักษ์จะติดตามข่าวสารความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ศึกษาวิจัยนั้น รวบรวมข้อมูลรายการบรรณานุกรมจากหนังสือ วารสาร เอกสาร ทั้งที่เป็นสิ่งตีพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น ฐานข้อมูลออนไลน์ โดยรูปแบบการจัดบริการช่วยการวิจัย มีดังนี้ <p>1. บริการสืบค้นข้อมูลในเรื่องที่กำลังศึกษาวิจัย โดยรวบรวมรายการบรรณานุกรมจากทรัพยากรสารสนเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจจัดทำสาระสังเขปประกอบไว้ด้วยเพื่อช่วยประหยัดเวลาในการอ่านของผู้ใช้ <p>2. บริการจัดทำดรรชนี เพื่อเป็นคู่มือในการค้นหาสารสนเทศจากทรัพยากรห้องสมุด เช่น ดรรชนีวารสารที่ห้องสมุดบอกรับ <p>3. บริการจัดทำสาระสังเขป สาระสังเขปแต่ละรายการจะให้รายละเอียดทางบรรณานุกรมอย่างครบถ้วน ได้แก่ ผู้แต่ง ชื่อเรื่อง สถานที่พิมพ์ สำนักพิมพ์ ปีที่พิมพ์ พร้อมเนื้อหาสาระที่สำคัญโดยสรุป ทั้งนี้เพื่อเป็นการประหยัดเวลาของผู้ใช้ หากสนใจอ่านฉบับเต็มก็สามารถติดตามหาอ่านได้ง่าย <p>4. บริการแนะนำการเขียนอ้างอิงและบรรณานุกรม [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Technical reportรายงานการวิจัย, Example: คำว่า การวิจัย มาจากคำว่า Research มีรากศัพท์มาจาก Re + Search Re แปลว่า ซ้ำ Search แปลว่า ค้น ดังนั้น Research แปลว่า ค้นคว้าซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งน่าจะหมายถึง การค้นหาความรู้ความจริง ค้นแล้วค้นอีก ซึ่งจะทำให้ได้รับรู้ความรู้ ความจริงที่น่าเชื่อถือ ถูกต้อง เพราะมีข้อมูลที่เพียงพอต่อการสรุปเป็นความรู้ความจริงนั้น ๆ ความหมายของการวิจัยตามพจนานุกรม การวิจัย คือ การค้นคว้าเพื่อหาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนตามหลักวิชา (พจนานุกรม. 2525) การวิจัยคือ กระบวนการหาความรู้ความจริงใหม่ ที่มีระบบแบบแผนตามหลักวิชา อาศัยหลักเหตุผล ที่รอบคอบ รัดกุม ละเอียดและเชื่อ ถือได้ และความรู้ความจริงนั้นจะนำไปเป็นหลักการ ทฤษฎี หรือ ข้อปฏิบัติที่ทำให้มนุษย์ได้รับรู้และนำไปใช้เพื่อให้สามารถดำรงชีวิต ด้วยความสงบสุขหรือป้องกันและหลีกเลี่ยงภัยอันตรายต่าง ๆ ได้ ความหมายของรายงานผลการวิจัย หรือเรียกสั้นๆว่า รายงาน หมายถึง เรื่องราวที่เป็นผลจากการค้นคว้าทางวิชาการ แล้วนำมาเรียบ เรียงอย่างมีระเบียบแบบแผน เรื่องราวที่นำมาเขียนรายงานต้องเป็นข้อเท็จจริง หรือความรู้ อันเกิดจากการรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการค้น คว้าที่เป็นระบบ มีลักษณะเป็นวิทยาศาสตร์ <p>วัตถุประสงค์ของรายงานผลการวิจัย <p>1. เพื่อเสนอข้อเท็จจริง หรือความรู้ ที่เกิดจากการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบ อันเป็นแนวทางในการเสนอข้อมูลทางวิชาการแนวใหม่ หรือปรับปรุงข้อมูลเดิม <p>2. เพื่อพัฒนาความคิด ด้านความคิดริเริ่ม การวิเคราะห์ และการประมวลความคิดอย่างมีระบบระเบียบ ตลอดจนการถ่ายทอดความคิด เป็นภาษาเขียนที่ชัดเจน สละสลวย <p>3. เพื่อส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ในการรวบรวมข้อมูลหรือประกอบการอ้างอิงอันเป็นวิธีการหาความรู้ด้วยตนเอง [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Thesisวิทยานิพนธ์, Example: บทนิพนธ์ที่ผู้เรียบเรียงยกเอาหัวข้อเรื่องใดหัวข้อเรื่องหนึ่งขึ้นวิจัยหรือพรรณนาขยายความ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอก วิทยานิพนธ์มีรูปแบบและมีส่วนประกอบ 3 ส่วน ดังนี้ <p> <p> <p>1. ส่วนประกอบตอนต้น ( Preliminary Section) <p>2. ส่วนเนื้อความ (Text Section or Body of Text) <p>3. ส่วนอ้างอิงหรือส่วนประกอบตอนท้าย (References Section) <p>1. ส่วนประกอบดอนต้น (Preliminary Section) ส่วนนี้รวมตั้งแต่ปกหน้าไปจนถึงหน้าท้ายสุดก่อนส่วนเนื้อความ มีส่วนประกอบดังต่อไปนี้ <p>1.1 ปก มีข้อมูลประกอบเฉพาะของวิทยานิพนธ์ คือ ชื่อเรื่องของวิทยานิพนธ์ ชื่อผู้เขียนวิทยานิพนธ์ ข้อมูลที่แจ้งว่าวิทยานิพนธ์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาปริญญาใด ระดับการศึกษาใด ชื่อปริญญา ภาควิชา สถาบันการศึกษา ปีที่สำเร็จ และการอนุมัติปริญญา <p>1.2 ปกใน มีข้อมูลเช่นเดียวกับปก จะมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หรือภาษาต่างประเทศอื่นๆ <p>1.3 หน้าอนุมัติ หรือหน้าตรวจรับรอง (Approval page)จะมีข้อมูลหัวข้อวิทยานิพนธ์ ผู้เขียน ภาควิชา อาจารย์ที่ปรึกษา ข้อความอนุมัติและลายเซ็นต์คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย และคณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ <p>1.4 บทคัดย่อ หรือสาระสังเขป (Abstract) ประกอบด้วยข้อความสรุปเนื้อหาของวิทยานิพนธ์ที่สั้นกระทัดรัด ชัดเจน ทำให้ผู้อ่านทราบถึงเนื้อหาของวิทยานิพนธ์อย่างรวดเร็ว มีทั้งบทคัดย่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หรือภาษาต่างประเทศอื่นๆ <p>1.5กิตติกรรมประกาศ (Acknowledgements) คือ ข้อความแสดงความขอบคุณบุุคคล สถาบัน และ/หรือหน่วยงานที่มีส่วนช่วยเหลือ ให้ความร่วมมือในการค้นคว้าเพื่อเขียนวิทยานิพนธ์ ตลอดทั้งคณะกรรมการสอบ ผู้สนับสนุนเงินทุนวิจัย ผู้ให้ข้อคิดเห็น ให้ข้อมูล และผู้ที่อนุญานให้ใช้ข้อเขียนหรือเครื่องมือในการวิจัย <p>1.6 สารบัญ (Contents) เป็นรายการที่แสดงถึงส่วนประกอบสำคัญทั้งหมดของวิทยานิพนธ์ <p>1.7 สารบัญตาราง (List of Tables) (ถ้ามี) เป็นส่วนที่แจ้งตำแหน่งของตารางทั้งหมดที่มีอยู่ในวิทยานิพนธ์ พิมพ๋เรียงลำดับต่อจากส่วนสารบัญ <p>1.8 สารบัญภาพหรือสารบัญแผนภูมิ (List of Figures or List of Illustrations) (ถ้ามี) เป็นส่วนที่แจ้งตำแหน่งหน้าของรูปภาพ (รูปภาพ แผนที่ แผนภูมิ กราฟ ฯลฯ) ทั้งหมดที่มีอยู่ในวิทยานิพนธ์ <p>1.9 คำอธิบายสัญลักษณ์และคำย่อ (List of Abbreviations) (ถ้ามี) เป็นส่วนที่อธิบายถึงสัญลักษณ์และคำย่อต่างๆ ที่ใช้ในวิทยานิพนธ์ <p>2. ส่วนเนื้อความหรือเนื้อเรื่อง (Body of Text) ประกอบด้วย บทนำ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง วิธีดำเนินการวิจัย ผลการวิเคราะห์ข้อมูล สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ <p>3. ส่วนอ้างอิง (Refereces Section) เป็นส่วนท้ายเล่ม ประกอบด้วย บรรณานุกรม ภาคผนวก และประวัติผู้เขียนวิทยานิพนธ์ <p> <p>รายการอ้างอิง <p>พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2552. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2546. [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Transactionsรายงานของสมาคมหรือสถาบันทางวิชาการ [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
University libraryห้องสมุดมหาวิทยาลัย [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
University pressสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัย, Example: <p>สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัย (University press) เป็นสำนักพิมพ์ประเภทหนึ่ง จัดอยู่ในสำนักพิมพ์ของทางราชการ องค์การ สมาคม และหน่วยงานต่าง ๆ <p>สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่จัดพิมพ์ตำรา เอกสารประกอบการเรียน และสิ่งพิมพ์อื่น ๆ ของมหาวิทยาลัย อาจจัดเป็นสำนักพิมพ์เฉพาะได้ แต่สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมีลักษณะแตกต่างจากสำนักพิมพ์อื่น ดังนี้ <p>1. จัดพิมพ์สิ่งพิมพ์ทางวิชาการในสาขาวิชาการต่าง ๆ กว้างขวางกว่าสำนักพิมพ์เฉพาะ <p>2. ส่วนมากได้รับเงินอุดหนุนจากมหาวิทยาลัย <p>3. ไม่ต้องเสียภาษี <p>4. ไม่ได้มุ่งหวังเพื่อแสวงหาผลกำไร <p>สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยในต่างประเทศที่มีชื่อเสียง เช่น <p>Cambridge University Press และ Oxford University Press ของอังกฤษ <p>Columbia University Press และ University of Chicago Press ของสหรัฐอเมริกา <p>ในประเทศไทย มหาวิทยาลัยบางแห่งมีทั้งสำนักพิมพ์ โรงพิมพ์ และมีหน่วยงานรับผิดชอบในการจัดจำหน่ายโดยเฉพาะ เช่น <p>สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม (ฝ่ายโรงพิมพ์) <p>ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ <p>สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ <p>สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง (สำนักพิมพ์ และโรงพิมพ์ ใช้ชื่อเดียวกัน) ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยรามคำแหง <p>สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย <p>บรรณานุกรม <p>สำนักหอสมุดแห่งชาติ. (2553). คู่มือคัดเลือก จัดหา รวบรวมทรัพยากรสารสนเทศหอสมุดแห่งชาติ. กรุงเทพฯ : สำนัก. [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
System analysisการวิเคราะห์ระบบ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Classification, Dewey Decimalการวิเคราะห์หนังสือระบบทศนิยมดิวอี้, Example: ระบบทศนิยมดิวอี้ (Dewey Decimal Classification Syste, - DDC หรือ DC) เป็นระบบการจัดหมู่หนังสือที่เก่าแก่และนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ผู้คิดระบบทศนิยมดิวอี้ คือ เมลวิล ดิวอี้ (Melvil Dewey) บรรณารักษ์ชาวอเมริกัน เมื่อปี ค.ศ. 1873 และจัดพิมพ์เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1876 ใช้ชื่อว่า A Classicification and Subject Index for Cataloging and Arranging Books and Pamphlets of a Library โดยครอบคลุมการแบ่งย่อยเนื้อหาวิชาจากเรื่องกว้างๆ ไปจนถึงเนื้อเรื่องเฉพาะ นอกเหนือจากฉบับพิมพ์แล้ว ปัจจุบันคือ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 22 ยังมีเป็นแบบออนไลน์อีกด้วย <p> <p> ลักษณะทั่วไปของระบบทศนิยมดิวอี้ <p> 1. ระบบทศนิยมดิวอี้ เป็นระบบที่คิดขึ้นโดยการแบ่งวิชาความรู้ออกเป็นหมวดหมู่ตามหลักทฤษฎี (Theoretical systems) กล่าวคือ กำหนดการแบ่งหมวดหมู่วิชาความรู้ในแต่ละหมวดหมู่ โดยคำนึงถึงลำดับพัฒนาการของการเกิดวิชาความรู้ในแต่ละสาขาเป็นสำคัญ เริ่มจาก <p> - ปรัชญา: เป็นเนื้อหาความรู้แรก เป็นเรื่องที่มนุษย์คิดเกี่ยวกับตน คือใคร มาจากไหน ความดีหรือความชั่ว คืออะไร เป็นอย่างไร <p> - ศาสนา: เป็นวิชาที่มนุษย์คิดเกี่ยวกับพระเจ้า พระเจ้าคือใคร จะช่วยให้มนุษย์หลุดพ้นจากความทุกข์ได้อย่างไร <p> - สังคมศาสตร์: ถัดจากคิดเกี่ยวกับตัวเอง คือ การที่มนุษย์คิดเกี่ยวกับบุคคลอื่น การอยู่ร่วมกันต้องมีการคิดถึงประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับผู้อื่น <p> - ภาษา: การที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคม จึงต้องเรียนรู้เกี่ยวกับถ้อยคำและการสื่อสารเพื่อการติดต่อ สมาคม <p> - วิทยาศาสตร์: มนุษย์คิดเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นปรากฏการณ์ในธรรมชาติ ทำไมจึงเกิด มีการคิด พิสูจน์ ได้ข้อเท็จจริงที่อธิบายปรากฏารณ์ต่างๆ และบันทึกข้อเท็จจริงนั้นๆ ไว้ <p> - วิทยาศาสตร์ประยุกต์ หรือเทคโนโลยี: เมื่อมนุษย์นำความรู้ที่เป็นวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดความสุขสบาย <p> - ศิลปะและนันทนาการ: มนุษย์คิดสร้างสรรค์จากความประทับใจของตนเป็นงานเชิงศิลปะ ดนตรี และความบันเทิง <p> - วรรณกรรมหรือวรรณคดี: งานศิลปะที่สร้างขึ้นถูกมนุษย์นำมาถ่ายทอด และบอกเล่าผ่านทางตัวอักษร <p> - ประวัติศาสตร์: มนุษย์บันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับคน สถานที่ เหตุการณ์เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ <p> - ความรู้ทั่วไปหรือเบ็ดเตล็ด: การเอาความรู้อื่นๆ ที่ไม่อาจจัดไว้ในหมวดหมู่อื่นได้ มารวมไว้ด้วยกัน <p> 2. จัดแบ่งหมวดวิชาความรู้ในสาขาต่างๆ โดยเริ่มจากเรื่องทั่วๆ ไป สู่เรื่องที่เฉพาะยิ่งขึ้น แบ่งออกเป็นชั้น ชั้นละ 10 กลุ่ม จากหมวดใหญ่ไปหาหมวดหมู่ย่อย ดังนี้ <p> 2.1 การแบ่งครั้งที่ 1 (First Summary) คือ แบ่งวิชาความรู้ทุกแขนงวิชาของมนุษยชาติออกเป็นหมวดใหญ่ (Main class) 10 หมวด ใช้เลขอารบิกหลักร้อย 0-9 เป็นสัญลักษณ์แทนวิชาความรู้ทั้ง 10 หมวด ดังนี้ <p> 000 วิทยาการคอมพิวเตอร์และ ความรู้ทั่วไป (Computer science, information & general works) <p> 100 ปรัชญาและจิตวิทยา (Philosophy and psychology) <p> 200 ศาสนา (Religion) <p> 300 สังคมศาสตร์ (Social sciences) <p> 400 ภาษา (Languages) <p> 500 วิทยาศาสตร์ (Science) <p> 600 เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (Technology and applied science) <p> 700 ศิลปะและนันทนาการ (Arts and recreation) <p> 800 วรรณคดี (Literature) <p> 900 ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และชีวประวัติ (History, geography and biography) <p> 2.2 การแบ่งครั้งที่ 2 (Second Summary) คือ การแบ่งหมวดวิชาความรู้หมวดใหญ่แต่ละหมวดออกเป็นหมวดย่อย (Division) 10 หมวด ใช้เลขอารบิกหลักสิบ 0-9 แทนความรู้หมวดย่อย เช่น หมวดใหญ่ 600 เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ แบ่งเป็นหมวดย่อย 10 หมวด คือ <p> 600 เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (Technology (Applied sciences) <p> 610 แพทยศาสตร์ (Medical sciences) <p> 620 วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) <p> 630 เกษตรศาสตร์ (Agriculture) <p> 640 คหกรรมศาสตร์ (Home economics) <p> 650 การจัดการ (Management) <p> 660 อุตสาหกรรมเคมี (Chemical engineering) <p> 670 โรงงานอุตสาหกรรม (Manufacturing) <p> 680 โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้เฉพาะอย่าง (Manufacture for specific uses) <p> 690 การก่อสร้าง (Buildings) <p> ดังนั้น หมวดใหญ่ 10 หมวดจึงแบ่งเป็นหมวดย่อยได้ 100 หมวด ดังนี้ <p> 000 วิทยาการคอมพิวเตอร์และความรู้ทั่วไป (Computer science, information & general works) <p> 010 บรรณานุกรม (Bibliographies) <p> 020 บรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ (Library & information sciences) <p>030 หนังสือรวบรวมความรู้ทั่วไป สารานุกรม (Encyclopedias & books of facts) <p> 040 ยังไม่กำหนดใช้ (No longer used) <p> 050 นิตยสาร วารสาร และสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง (Magazines, journals & serials) <p> 060 สมาคม องค์การและพิพิธภัณฑวิทยา (Associations, organizations & museums) <p> 070 สื่อใหม่ วารสารศาสตร์ และการพิมพ์ (News media, journalism & publishing) <p>080 รวมเรื่อง (General collections) <p> 090 ต้นฉบับตัวเขียน หนังสือหายาก (Manuscripts & rare books) <p> 100 ปรัชญา (Philosophy) <p> 110 อภิปรัชญา (Metaphysics) <p> 120 ญาณวิทยา ความเป็นเหตุผล ความเป็นมนุษย์ (Epistemology, causation, humankind) <p> 130 จิตวิทยานามธรรม (Paranormal phenomena) <p> 140 แนวความคิดปรัชญาเฉพาะกลุ่ม (Specific philosophical schools) <p> 150 จิตวิทยา (Psychology) <p> 160 ตรรกศาสตร์ ตรรกวิทยา (Logic) <p> 170 จริยศาสตร์ ศีลธรรม (Ethics (Moral philosophy)) <p> 180 ปรัชญาสมัยโบราณ สมัยกลาง ตะวันออก (Ancient, medieval, Oriental philosophy) <p> 190 ปรัชญาตะวันตกสมัยใหม่ (Modern Western philosophy (19th-century, 20th-century)) <p> 200 ศาสนา (Religion) <p> 210 ศาสนาธรรมชาติ (Natural theology) <p> 220 ไบเบิล (Bible) <p> 230 เทววิทยาตามแนวคิดคริสต์ศาสนา (Christian theology) <p> 240 ศีลธรรมชาวคริสต์ การอุทิศเพื่อศาสนา (Christian moral & devotional theology) <p> 250 คริสต์ศาสนาในท้องถิ่นและระเบียบแบบแผนปฏิบัติ (Christian orders & local church) <p> 260 สังคมชาวคริสต์ เทววิทยาทางศาสนา (Christian social theology) <p> 270 ประวัติคริสต์ศาสนา (Christian church history) <p> 280 นิกายต่างๆ ในคริสต์ศาสนา (Christian denominations & sects) <p> 290 ศาสนาเปรียบเทียบและศาสนาอื่นๆ (Other & comparative religions) <p> 300 สังคมศาสตร์ สังคมวิทยา และ มนุษยวิทยา (Social sciences, Sociology & anthropology) <p> 310 สถิติศาสตร์ (General statistics) <p> 320 รัฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง (Political science) <p> 330 เศรษฐศาสตร์ (Economics) <p> 340 กฎหมาย (Law) <p> 350 รัฐประศาสนศาสตร์ และวิทยาการทหาร (Public administration) <p> 360 การบริการสังคม และสมาคม (Social services; assoication) <p> 370 การศึกษา (Education) <p> 380 การพาณิชย์ การสื่อสาร การขนส่ง (Commerce, communications, transport) <p>390 ประเพณี ขนบธรรมเนียม คติชนวิทยา (Customs, etiquette, folklore) <p> 400 ภาษา (Language) <p> 410 ภาษาศาสตร์ (Linguistics) <p> 420 ภาษาอังกฤษ (English & Old English) <p> 430 ภาษาเยอรมัน (Germanic languages; German) <p> 440 ภาษาโรมานซ์ ; ภาษาฝรั่งเศส (Romance languages; French) <p> 450 ภาษาอิตาลี ภาษาโรมัน (Italian, Romanian, Rhaeto-Romantic) <p> 460 ภาษาสเปน ภาษาโปรตุเกส (Spanish & Protugese languages) <p> 470 ภาษาละติน (Italic languages; Latin) <p> 480 ภาษากรีก (Hellenic languages; Classical Greek) <p> 490 ภาษาอื่นๆ (Other languages) <p> 500 วิทยาศาสตร์ (Sciences) <p> 510 คณิตศาสตร์ (Mathematics) <p> 520 ดาราศาสตร์ (Astronomy & allied sciences) <p> 530 ฟิสิกส์ (Physics) <p> 540 เคมี (Chemistry & allied sciences) <p> 550 วิทยาศาสตร์โลก (Earth sciences) <p> 560 บรรพชีวินวิทยา (Paleontology; Paleozoology) <p>570 ชีววิทยา (Life sciences) <p> 580 พฤกษศาสตร์ (Plants) <p>590 สัตววิทยา (Zoological sciences/Animals) <p> 600 วิทยาศาสตร์ประยุกต์ เทคโนโลยี (Technology (Applied sciences)) <p> 610 แพทยศาสตร์ (Medical sciences; Medicine) <p>620 วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering & applied operations) <p> 630 เกษตรศาสตร์ (Agriculture) <p> 640 คหกรรมศาสตร์ ชีวิตครอบครัว (Home economics & family living) <p> 650 การจัดการธุรกิจ (Management & auxiliary services) <p> 660 วิศวกรรมเคมี (Chemical engineering) <p> 670 โรงงานอุตสาหกรรม (Manufacturing) <p> 680 สินค้าที่ผลิตจากเครื่องจักร (Manufacture for specific uses) <p> 690 การก่อสร้าง (Buildings) <p> 700 ศิลปกรรม การบันเทิง (Arts) <p> 710 ภูมิสถาปัตย์ (Civic & landscape art) <p> 720 สถาปัตยกรรม (Architecture) <p> 730 ประติมากรรม (Plastic arts; Sculture) <p> 740 การวาดเขียน มัณฑนศิลป์ (Drawing & decorative arts) <p> 750 จิตรกรรม ภาพเขียน (Painting & paintings) <p> 760 ศิลปะการพิมพ์ ศิลปะกราฟิก (Graphic arts; Printmaking & prints) <p> 770 การถ่ายรูป ภาพถ่าย (Photography & photographs) <p> 780 ดนตรี (Music) <p> 790 การบันเทิง นันทนาการ กีฬา (Recreational & performing arts) <p> 800 วรรณกรรม วรรณคดี (Literature) <p> 810 วรรณคดีอเมริกันในภาษาอังกฤษ (Literature rhetoric & criticism) <p> 820 วรรณคดีภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษโบราณ (English & Old English literatures) <p> 30 วรรณคดีภาษาเยอรมัน (Literatures of Germanic languages) <p> 840 วรรณคดีภาษาฝรั่งเศส ภาษาโรมานซ์ (Literatures of Romance languages) <p> 850 วรรณคดีภาษาอิตาลี ภาษาโรมัน (Italian, Romanian, Rhaeto-Romanic) <p> 860 วรรณคดีภาษาสเปน ภาษาโปรตุเกส (Spanish & Portugese literature) <p> 870 วรรณคดีภาษาละติน (Italic literature; Latin) <p> 880 วรรณคดีภาษากรีก (Hellenic literatures; Classical Greek) <p> 890 วรรณคดีภาษาอื่นๆ (Literatures of other languages) <p> 900 ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ (History, geography & biography) <p> 910 ภูมิศาสตร์ การท่องเที่ยว (Geography & travel) <p> 920 ชีวประวัติ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ (Biography, genealogy, insignia) <p> 930 ประวัติศาสตร์ยุคโบราณ (History of ancient world) <p> 940 ประวัติศาสตร์ยุโรป โลกตะวันตก (General history of Europe) <p> 950 ประวัติศาสตร์เอเชีย โลกตะวันออก (General history of Asia; Far East) <p> 960 ประวัติศาสตร์แอฟริกา (General history of Africa) <p> 970 ประวัติศาสตร์อเมริกาเหนือ (General history of North America) <p> 980 ประวัติศาสตร์อเมริกาใต้ (General history of South America) <p> 990 ประวัติศาสตร์ส่วนอื่นๆ ของโลก (General history of other areas) <p>จากหมวดย่อย 100 หมวด เลขตัวที่ 2 คือเลขหลักสิบของหมวดย่อยทั้ง 100 หมวด เป็นเลข 0-9 เหมือนๆ กัน เพราะหมวดใหญ่แต่ละหมวดแบ่งเป็น 10 หมวดย่อยเท่าๆ กัน ซึ่งเป็นหลักการขั้นพื้นฐานของระบบที่ใช้เลขฐาน 10 เป็นหลักในการแบ่งหมวดหมู่วิชาความรู้จากหมวดใหญ่ไปหมวดย่อย และเลขหมู่หมวดใหญ่แต่ละหมวด ต่างก็มีเนื้อหาครอบคลุมวิชาความรู้หมวดย่อยทุกหมวด เช่น หมวด 100 ครอบคลุมวิชาความรู้ในหมวด 110-190 <p> <p>2.3 การแบ่งครั้งที่ 3 (Third Summary) คือ การแบ่งวิชาความรู้ในหมวดย่อยแต่ละหมวดออกเป็นหมู่ย่อย (Section) 10 หมู่ย่อย ตัวอย่าง การแบ่งหมวดย่อย 630 <p> 630 เกษตรศาสตร์ <p> 631 เทคนิค อุปกรณ์ และวัสดุ (Techniques, equipment, materails) <p> 632 ความเสียหายของพืชอันเกิดจากเชื้อโรคและสัตว์ (Plant injuries, diseases, pests) <p> 633 การเพาะปลูกพืชไร่ (Field & plantation crops) <p> 634 การทำสวนผลไม้ ผลไม้ และป่าไม้ (Orchards, fruits, forestry) <p> 635 การทำสวนครัว (Garden crops (Horticulture)) <p> 636 สัตวบาล (Animal husbandry) <p> 637 อุตสาหกรรมนมเนย (Processing dairy & related products) <p> 638 การเพาะเลี้ยงแมลง (Insect culture) <p> 639 การล่าสัตว์ การตกปลา การอนุรักษ์ (Hunting, fishing, comservation) <p> ในแต่ละหมู่ย่อย ยังแบ่งวิชาความรู้ออกไปสู่เรื่องที่เฉพาะมากขึ้นได้อีก โดยการกระจายเลขหลังจุดทศนิยมต่อจากเลข 3 หลักดังกล่าว เช่น <p> หมวด 600 Technology (Applied sciences) เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ประยุกต์ <p> 610 Medical sciences Medicine (การแพทย์) <p> 611 Human anatomy, cytology, tissues (กายวิภาคศาสตร์ เนื้อเยื่อ) <p> 630 Agriculture & related technologies (การเกษตรและเทคโนโลยีการเกษตร) <p> 631 Crops & their production (พืชและผลิตผล) <p> 632 Plant injuries, diseases, pests (โรคพืช แมลงศัตรูพืช) <p> 633 Field crops (พืชไร่) <p> 634 Orchards, fruits, forestry (ผลไม้และการทำป่าไม้) <p> .9 Forestry (การทำป่าไม้) <p> .92 Forest economy (ไม้เศรษฐกิจ) <p> .928 Management (การจัดการ) <p> .956 Forestation (การเพาะพันธุ์) <p> .9562 Seeds, seed collecting, seeding (เมล็ดพันธุ์) <p> ตัวอย่าง หนังสือ เรื่อง การปลูกพืชด้วยเมล็ด เลขหมู่ที่กำหนดได้ คือ 634.9562 <p> พจนานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน เลขหมู่ที่กำหนดได้ คือ 495.913 <p> ระบบทศนิยมดิวอี้มีตารางช่วย (Auxiliary tables) ซึ่งเป็นตารางย่อยใช้เติมเข้ากับเลขหมู่หนังสือ เพื่อระบุลักษณะเฉพาะของหนังสือมากยิ่งขึ้น ว่าเนื้อเรื่องที่เขียนในลักษณะใด เขียนเป็นภาษาใด เกี่ยวกับพื้นที่หรือท้องถิ่นใด หรือเกี่ยวกับใคร เป็นต้น ช่วยให้สามารถวิเคราะห์เนื้อหาได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ตารางช่วยดังกล่าวมี 7 ตาราง ได้แก่ <p> ตารางที่ 1 ตารางเลขวิธีเขียน (Standard subdivisions) หรือ ตารางย่อยมาตรฐาน ใช้ประกอบกับเลขหลักในแผนการจัดหมู่ได้ทุกหมวดหมู่ แสดงถึงวิธีเขียน เช่น <p> 01- สำหรับหนังสือที่เขียนในเชิงทฤษฎีและปรัชญา <p> 02- สำหรับหนังสือคู่มือ หนังสือภาพ หนังสือที่มีตาราง แผนภูมิ หรือแผนภาพเป็นส่วนประกอบสำคัญ หนังสือนามานุกรม และหนังสือเบ็ดเตล็ดอื่นๆ <p> 03- สำหรับหนังสือพจนานุกรม สารานุกรม บัญชีคำศัพท์ <p> 04- เป็นเลขว่างซึ่งจะกำหนดใช้เพื่อแบ่งย่อยเรื่องเฉพาะของเลขหมู่บางเลขหมู่เท่านั้น <p> 05- สำหรับสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง เช่น หนังสือรายปี รายงานประจำปี วารสารและหนังสือพิมพ์ <p> 06- สำหรับเรื่องของสมาคมและชมรมวิชาชีพ รวมทั้งการดำเนินงานของสมาคมหรือชมรมนั้นๆ <p> 07- สำหรับหนังสือที่เขียนขึ้นเพื่อการศึกษาและการสอน เช่น ตำรา งานวิจัย หลักสูตร สมุดแบบฝึกหัด เป็นต้น <p> 08- สำหรับหนังสือที่เขียนถึงประวัติและพรรณนาเรื่องราวของบุคคลกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มเชื้อชาติ กลุ่มอาชีพ <p> 09- สำหรับหนังสือที่เขียนถึงประวัติของเรื่องราวต่างๆ ในยุคสมัยใดยุคสมัยหนึ่ง และเขียนถึงเรื่องราวต่างๆ ในพื้นที่หรือท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่ง <p> ตัวอย่าง <p> เนื้อเรื่องของหนังสือ คือ ประวัติของพุทธศาสนา <p> พุทธศาสนา (เลขหมู่คือ 294) <p> วิธีเขียน (เลขจากตารางที่ 1) <p> ประวัติ (-09) <p> เลขหมู่ที่กำหนดจากการเติม ได้เป็น 294.309 <p> เนื้อเรื่องของหนังสือ เป็น พจนานุกรมทางวิทยาศาสตร์ <p> วิทยาศาสตร์ (500) <p> วิธีเขียน (เลขจากตารางที่ 1) <p> พจนานุกรม (-03) <p> เลขหมู่ที่เกิดจากการเติม 503 <p> ตารางที่ 2 ตารางเลขภูมิศาสตร์ (Areas) ใช้ประกอบกับเลขหลักในแผนการจัดหมู่ที่มีคำอธิบายให้เพิ่มเลขภูมิศาสตร์ เพื่อแสดงให้ทราบถึงสถานที่ทางภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวข้องภายในเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงลงไปว่าเป็นที่ใด ซึ่งอาจจะเป็นทวีป ประเทศ รัฐ เมือง แม่น้ำ มหาสมุทร เป็นต้น <p> -1 เขตภูมิศาสตร์ทั่วๆ ไป ไม่จำกัดเฉพาะในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เช่น เขตมหาสมุทร ทะเล เขตภูมิอากาศ <p> -2 สำหรับหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลในเขตพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ทั่วๆ ไป ไม่จำกัดเฉพาะแห่งใดแห่งหนึ่ง <p> -3 ดินแดนสมัยโบราณ เช่น เมโสโปเตเมีย ปาเลสไตน์ อียิปต์ <p> -4 ทวีปยุโรป <p> -5 ทวีปเอเซีย <p> -6 ทวีปแอฟริกา <p> -7 ทวีปอเมริกาเหนือ <p> -8 ทวีปอเมริกาใต้ <p> -9 พื้นที่ส่วนอื่นๆ เช่น หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก และดินแดนที่อยู่นอกโลก เช่น อวกาศ ดวงจันทร์ ดาวอังคาร <p> ตารางที่ 3 ตารางเลขเฉพาะสำหรับหมวดวรรณคดี ใช้เติมเข้ากับเลขหมู่ในหมวดวรรณคดีเพื่อระบุลักษณะคำประพันธ์ของวรรณคดีนั้นๆ <p> -08 สำหรับหนังสือรวมวรรณคดี เฉพาะภาษาของนักเขียนหลายๆ คน <p> -09 สำหรับหนังสือประวัติศาสตร์และวิจารณ์วรรณคดีเฉพาะภาษาของนักเขียนหลายๆ คน <p> -1-8 ลักษณะคำประพันธ์ ได้แก่ <p> -1 กวีนิพนธ์ <p> -2 บทละคร <p> -3 นวนิยาย <p> -4 ความเรียง บทความ <p> -5 สุนทรพจน์ ปาฐกถา <p> -6 จดหมาย <p> -7 เรื่องเชิงล้อเลียนและตลกขบขัน <p> -8 งานเขียนเบ็ดเตล็ดอื่นๆ เช่น บันทึกประจำวัน บันทึกความจำ สุภาษิตคำคม <p> ตารางที่ 4 ตารางเลขเฉพาะสำหรับหมวดภาษา เป็นตารางเลขย่อยซึ่งกำหนดให้ใช้เติมเข้ากับเลขหมู่ในหมวดภาษาเฉพาะ เพื่อระบุเรื่องเฉพาะของแต่ละภาษานั้น เช่น ไวยากรณ์ภาษา พจนานุกรมภาษา หลักการอ่าน เขียนภาษา เป็นต้น <p> -1 หลักในการเขียนและพูดภาษาต่างๆ ในรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน <p> -2 นิรุกติศาสตร์ <p> -3 พจนานุกรมภาษา <p> -32-39 พจนานุกรมสองภาษา <p> -5 ระบบโครงสร้างหรือหลักไวยากรณ์ของภาษาที่ใช้เป็นมาตรฐาน <p> -7 ภาษาที่ไม่ได้ใช้เป็นมาตรฐาน เช่น ภาษาถิ่น ภาษาแสลง ภาษาโบราณ <p> -8 ภาษาประยุกต์ (การนำเอาภาษาไปประยุกต์ใช้ในกรณีต่างๆ เช่น การแปล การสอน) <p> ตัวอย่าง <p> เนื่อเรื่องของหนังสือ เป็นพจนานุกรมภาษาไทย <p> ภาษาไทย (495.91) <p> เรื่องเฉพาะทางภาษา (เลขจากตารางที่ 4) <p> พจนานุกรมภาษาเดียว (-3) <p> เลขหมู่ที่เกิดจากการเติม 495.913 <p> ตารางที่ 5 ตารางเลขเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ กลุ่มชนชาติ เป็นตารางย่อยที่ใช้เติมเข้ากับเลขหมู่หรือเลขในตารางอื่นเพื่อแบ่งย่อยเนื้อเรื่องออกไปตามกลุ่มเชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ <p> -01 ชนพื้นเมือง <p> -03 กลุ่มเผ่าพันธุ์พื้นฐานของมนุษย์ เช่น คอเคซอยด์ มองโกลอยด์ <p> -1-9 กลุ่มเชื้อชาติของมนุษย์ จัดตามถิ่นกำเนดหรือถิ่นที่อยู่ <p> -1 เชื้อชาติอเมริกันเหนือ <p> -2 เชื้อชาติแองโกล-แซกซอน บริติช อังกฤษ <p> -3 เชื้อชาตินอร์ดดิค เช่น พวกเยอรมัน <p> -4 เชื้อชาติลาตินใหม่ เช่น พวกฝรั่งเศส <p> -5 เชื้อชาติอิตาเลียน <p> -6 เชื้อชาติสเปนและโปรตุเกส <p> -7 เชื้อชาติอิตาลิค เช่น พวกโรมันโบราณ <p> -8 เชื้อชาติกรีก <p> -9 เชื้อชาติอื่นๆ เช่น พวกอินเดียน สลาฟ แอฟริกัน ไทย จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ <p> ตัวอย่าง <p> เนื้อเรื่องของหนังสือ เรื่อง ประเพณีการแต่งงานของไทย <p> ประเพณีการแต่งงาน (392.5) <p> เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ (เลขจากตารางที่ 5) <p> เชื้อชาติไทย (-9591) <p> เลขหมู่ที่เกิดจากการเติม 392.50899591 <p> ตารางที่ 6 ตารางเลขภาษา กำหนดเพื่อใช้กับเลขหมู่ในตารางช่วยอื่น เพื่อระบุภาษาที่ใช้ในการเขียนเนื้อเรื่องของหนังสือแต่ละเล่ม <p> สังเขปตารางเลขภาษา <p> -1 ภาษาอินโด-ยูโรเปียน <p> -2 ภาษาอังกฤษและแองโกล-แซกซอน <p> -3 ภาษาเยอรมัน <p> -4 ภาษาตระกูลโรมานซ์ เช่น ภาษาฝรั่งเศส <p> -5 ภาษาอิตาเลียน <p> -6 ภาษาสเปนและโปรตุเกส <p> -7 ภาษาตระกูลอิตาลิค เช่น ภาษาลาติน <p> -8 ภาษาตระกูลเฮลเลนิก เช่น ภาษากรีก <p> -9 ภาษาอื่นๆ เช่น ภาษาไทย ภาษาบาลี ภาษาฮีบรู เป็นต้น <p> ตัวอย่าง <p> เนื้อเรื่องของหนังสือ สารานุกรมภาษาไทย <p> สารานุกรมทั่วไป (039) <p> ภาษา (เลขจากตารางที่ 6) <p> ภาษาไทย (-95911) <p> เลขหมู่ที่เกิดจากการเติม 039.95911 <p> ตารางที่ 7 ตารางเลขบุคคล เป็นตารางย่อยซึ่งกำหนดให้ใช้เติมเข้ากับเลขหมู่หรือเลขในตารางช่วยอื่นเพื่อระบุเรื่องย่อยของหนังสือว่าเกี่ยวข้องกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลในลักษณะใด เช่น กลุ่มอาชีพ เพศ วัย ชนชั้นทางสังคม ฯลฯ ตาราง 7 จะใช้ประกอบกับเลขหมู่ที่มีคำอธิบายให้เติมเลขบุคคลจากตาราง 7 ช่วย (Add "Persons" notation ...) เช่น Add "Person" notation 04-87 from Table 7 to base number 704 e.g. lawyers as artists 704.344; however, class art dealers in 338.7617; description, critical appraisal, wors, biography of artisits in 709.2 <p> สังเขปตารางเลขบุคคล <p> -01 ปัจเจกบุคคล <p> -02 กลุ่มบุคคลทั่วไปไม่ระบุลักษณะเฉพาะทางอาชีพ เพศ วัย และอื่นๆ <p> -03 กลุ่มบุคคลจัดตามภูมิหลังทางเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ <p> -04 กลุ่มบุคคลจัดตามเพศและความสัมพันธ์ทางเครือญาติ <p> -05 กลุ่มบุคคลจัดตามอายุ <p> -06 กลุ่มบุคคลจัดตามลักษณะทางสังคมและเศรษฐกิจ <p> -08 กลุ่มบุคคลจัดตามสภาพทางร่างกายและจิตใจ <p> -09 กลุ่มบุคคลที่ไม่จัดอยู่ในวิชาชีพเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น นักวิจัย นักการศึกษา บรรณารักษ์ และนักสารสนเทศ โดยจะมีตัวเลขแบ่งย่อยอีกตามกลุ่มบุคคลในสาขาวิชาชีพต่างๆ <p> ตัวอย่าง หนังสือเกี่ยวกับจิตรกรรมและมัณฑนศิลป์ของเด็กนักเรียน <p> จิตรกรรมและมัณฑศิลป์ (704.04-.87) <p> เด็กนักเรียน หาเลขเด็กนักเีรียนจากตาราง 7 (-054 4) <p> เลขหมู่ทีเ่กิดจากการเติม 704.0544 <p> บรรณานุกรม <p>Guide to use of Dewey decimal classification : based on the practice of the Decimal Classification Office at the Library of Congress. 1962. Lake Placid Club, N.Y. : Forest Press. <p>OCLC Online Computer Library Center, Inc. Summaries DDC Dewey Decimal Classification. 2003. Rereive from http://www.oclc.org/dewey/resources/summaries/deweysummaries.pdf. <p> กุลธิดา ท้วมสุข. 2533. การวิเคราะห์เลขหมู่หนังสือ. ขอนแก่น : มหาวิทยาลัยขอนแก่น. <p> ทองหยด ประุทุมวงศ์ และ พรทิยพ์ สุวันทารัตน์. การวิเคราะห์สารนิเทศระบบทศนิยมดิวอี้ ใน เอกสารประกอบการสอนชุดวิชา การวิเคราะห์สารนิเทศ หน้า 150-217. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Classification, Library of Congressระบบการจัดหมู่รัฐสภาอเมริกัน, การวิเคราะห์หนังสือระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน, Example: ระบบการจัดหมู่รัฐสภาอเมริกัน (Library of Congress Classficiation - LC) หรือเรียกสั้นๆ ว่า LC หรือระบบ LCC เป็นระบบที่จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการจัดหมู่หนังสือของหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน <p> ในระยะแรกก่อตั้งหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน เมื่อปี ค.ศ. 1800 ระบบจัดหมู่หนังสือที่ใช้อยู่นั้น คิดขึ้นโดยจอห์น เบคเลย์ (John Beckley) โดยจัดหนังสือตามขนาดหน้ายก หนังสือขนาดเดียวกันจัดเรียงตามลำดับเลขทะเบียนของหนังสือ <p> ต่อมาในปี ค.ศ. 1812 เมื่อหนังสือมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงได้เปลี่ยนเป็นวิธีการจัดหมู่หนังสือตามเนื้อเรื่อง โดยนำระบบจัดหมู่หนังสือของ The Library Company of Philadelphia มาใช้ แบ่งเนื้อเรื่องเป็น 18 หมวด เมื่อห้องสมุดไฟไหม้ จึงได้จัดซื้อหนังสือจำนวน 6, 487 เล่มจากห้องสมุดส่วนตัวของประธานาธิบดีโธมัส เจฟเฟอร์สัน โดยคิดระบบตามที่ประธานาธิบดีเจฟเฟอร์สัน โดยแบ่งออกเป็น 44 หมวด <p> จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1890 เมื่อมีหนังสือเพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ บรรณารักษ์ของหอสมุดในขณะนั้น คือ จอห์น รัสเซล ยัง (John Russell Young)คิดว่าระบบเดิมไม่เหมาะสม ควรคิดหาระบบใหม่เพื่อให้มีความเหมาะสมมากขึ้น จึงมอบหมายให้ เจมส์ แฮนสัน (James Hanson) และ ชาร์ลส์ มาร์แตล (Charles Martel) ศึกษาหาแนวทางที่จะสร้างระบบจัดหมู่หนังสือใหม่เพื่อใช้ในหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน <p> การศึกษาอย่างจริงจังได้เริ่มเมื่อ เฮอร์เบิร์ต พุตนัม (Herbert Putnum) เข้ามาดำรงตำแหน่งบรรณารักษ์ในปี ค.ศ. 1899 และยังคงมอบหมายให้ แฮนสันและมาร์แตลรับศึกษาต่อไป โดยนำระบบ 3 ระบบ คือ ระบบทศนิยมดิวอี้ ระบบเอ็กแพนซีฟ และระบบจัดหมู่หนังสือของเยอรมัน ชื่อ Halle Schema ของออตโต ฮาร์ตวิก (Otto Hartwig) พบว่า ระบบเอ็กแพนซีฟมีความเหมาะสมมาก เนื่องจากการจัดหมวดหมู่กว้างขวางและสามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายทุกๆ หมวดตามต้องการ สัญลักษณ์ที่ใช้สามารถขยายได้ทั้งชนิดที่เป็นตัวอักษรและตัวเลข เพราะเป็นสัญลักษณ์ผสม เหมาะกับหอสมุดรัฐสภาอเมริกันซึ่งมีหนังสือจำนวนมาก จึงได้จัดทำระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกันขึ้นโดยยึดหลักการของระบบเอ็กแพนซีฟ <p> มีการจัดทำหมวด Z เป็นหมวดแรก เมื่อปี ค.ศ. 1902 <p> ลักษณะทั่วไปของระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน <p>1. ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกันเป็นระบบที่คิดขึ้นโดยจัดแบ่งหมวดหมู่ตามสาขาวิชาความรู้ที่มีอยู่จริงของหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน <p>2. สัญลักษณ์เป็นสัญลักษณ์ผสมระหว่างตัวอักษรโรมันตัวพิมพ์ใหญ่และเลขอารบิค โดยอักษรโรมันตัวใหญ่หนึ่งตัวแทนหมวดใหญ่และเพิ่มอักษรโรมันตัวใหญ่อีกหนึ่งหรือสองตัวแทนหมวดย่อย (ยกเว้นหมวด E-F และ Z) และแบ่งหมู่ย่อยต่อไปอีก โดยใช้เลขอารบิคจาก 1-9999 รวมทั้งขยายโดยใช้จุดทศนิยม <p>3. แผนการจัดหมวดหมู่จัดแบ่งวิชาความรู้ในสาขาต่างๆ โดยเริ่มจากเรื่องทั่วไปสู่เรื่องที่เฉพาะยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ <p>3.1 การแบ่งครั้งที่ 1 เป็นการแบ่งเนื้อหาวิชาเป็น 20 หมวดใหญ่ (Main class) โดยใช้อักษรตัวเดียวโดดๆ A-Z ยกเว้น I, O, W, X, Y <p>A ความรู้ทั่วไป (General Works) <p>B ปรัชญา จิตวิทยา ศาสนา (Philosophy, Psychology, Religion) <p>C ศาสตร์ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ (Auxiliary sciences of history) <p>D ประวัติศาสตร์ : เรื่องทั่วไปและประวัติศาสตร์โลกเก่า (History : general and old world) <p>E-F ประวัติศาสตร์ : อเมริกา (History : America) <p>G ภูมิศาสตร์ แผนที่ มานุษยวิทยา นันทนาการ (Geography, Maps, Anthropology, Recreation) <p>H สังคมศาสตร์ (Social science) <p>J รัฐศาสตร์ (Political science) <p>K กฎหมาย (Law) <p>L การศึกษา (Education) <p>M ดนตรี (Music) <p>N ศิลปกรรม (Fine Arts) <p>P ภาษาและวรรณคดี (Languages and Literature) <p>Q วิทยาศาสตร์ (Sciences) <p>R แพทยศาสตร์ (Medicines) <p>S เกษตรศาสตร์ (Agriculture) <p>T เทคโนโลยี (Technology) <p>U ยุทธศาสตร์ (Military science) <p>V นาวิกศาสตร์ (Naval science) <p>Z บรรณานุกรม บรรณารักษศาสตร์ (Bibliography, Library science) <p>3.2 การแบ่งครั้งที่ 2 เป็นการแบ่งหมวดย่อย (subclass) ตามสาขาวิชา โดยใช้ตัวอักษรโรมันตั้งแต่ 2 ตัว ถึง 3 ตัว เป็นสัญลักษณ์ และใช้หลักการเรียงลำดับตามตัวอักษร A-Z ยกเว้นหมวด Z จะไม่มีการแบ่งครั้งที่ 2 เช่น หมวด Q แบ่งออกเป็นหมวดย่อย 12 หมวดดังนี้คือ <p>Q วิทยาศาสตร์ (Science) <p> QA คณิตศาสตร์ (Mathematics) <p> QB ดาราศาสตร์ (Astronomy) <p> QC ฟิสิกส์ (Physics) <p> QD เคมี (Chemistry) <p> QE ธรณีวิทยา (Geology) <p> QH ธรรมชาติวิทยา (Natural History) <p> QK พฤกษศาสตร์ (Botany) <p> QL สัตววิทยา (Zoology) <p> QM กายวิภาคศาสตร์ (Human Anatomy) <p> QP สรีรวิทยา (Physiology) <p> QR จุลชีววิทยา (Microbiology) <p> ซึ่งยังคงแบ่งต่อไปได้อีก เมื่อต้องการขยายเลขหมู่เพิ่มในภายหลัง <p> 3.3 การแบ่งครั้งที่ 3 คือ การแบ่งออกเป็น หมู่ (division) โดยใช้ตัวเลขอารบิกตั้งแต่ 1-9999 ประกอบตัวอักษรโรมัน ในแต่ละหมู่จะมีจำนวนการแบ่งเป็นหมู่ย่อยไม่เท่ากัน เช่น หมวด LA จะแบ่งเป็น LA1-LA 2397 หรือ หมวด HV จะแบ่งเป็น HV 1-HV 9920 เป็นต้น สามารถที่จะขยายเลขหมู่สำหรับวิชาการที่จะเพิ่มใหม่ การแบ่งครั้งที่ 3 มี 2 ลักษณะ คือ <p> 3.3.1 การแบ่งโดยใช้เลขทศนิยม คือ การนำเอาเลขทศนิยมมาขยายเลขย่อยในกลุ่มนั้น ให้ได้เลขหมู่เพิ่มขึ้นสำหรับเนื้อหาวิชาที่ควรจะอยู่ในกลุ่มเดียวกัน <p> 3.3.2 การแบ่งโดยใช้เลขคัตเตอร์ คือ การใช้ตัวอักษรและตัวเลขสำหรับการแบ่งย่อยเนื้อหาที่ละเอียดลงไปอีก เช่น การแบ่งย่อยตามชื่อทางภูมิศาสตร์ (geographical name) และการแบ่งย่อยตามรายชื่อเนื้อหาวิชาเฉพาะ (special topics) และการแบ่งตามเลขคัตเตอร์สำรองที่ได้กำหนดไว้แล้ว <p> ตัวอย่าง HF 5438.5 HF เป็นหมวดย่อยของ H คือ สังคมศาสตร์ ซึ่ง HF เป็นหมู่ย่อย หมายถึง การค้า (Commerce) และแบ่งออกเป็นหมู่ คือ 5438 หมายถึง การขาย (Selling) จากนั้นแบ่งโดยใช้เลขทศนิยม คือ .5 หมายถึง การส่งเสริมการขาย (Sales promotion) <p> ตัวอย่าง ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น 600 ปี <p> DS เป็นเลขหมู่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย <p> 575 แบ่งย่อยเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทางการเมืองและการทูต <p> .5 แบ่งย่อยเป็นความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ A-Z <p> .J3 ประเทศญี่ปุ่น (Japan = .J3) <p> จะได้เลขหมู่เป็น DS 575.5.J3 ปัจจุบัน หนังสือคู่มือหมวดหมู่รัฐสภาอเมริกันมีทั้งแบบสิ่งพิมพ์และแบบออนไลน์ <p> บรรณานุกรม <p> Library of Congress. Library of Congress Classification Outline. 2011. [ Online ] Retrieve from: http://www.loc.gov/catdir/cpso/lcco/. Accessed 20110516. <p> กุลธิดา ท้วมสุข. 2533. การวิเคราะห์เลขหมู่หนังสือ. ขอนแก่น : ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. <p> กมลา รุ่งอุทัย. 2533. การวิเคราะห์สารนิเทศระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน ใน เอกสารการสอนชุดวิชา การวิเคราะห์สารนิเทศ หน้า 219-281. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. <p> อัมพร ทีขะระ. 2532. คู่มือการจัดหมู่ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน. กรุงเทพฯ : ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาััลัย. [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Special bibliographyบรรณานุกรมหัวข้อวิชาใดหัวข้อวิชาหนึ่ง, Example: <p>บรรณานุกรม (Bibliography) เป็นหนังสืออ้างอิงประเภทหนึ่ง ให้ความรู้เกี่ยวกับแหล่งข้อมูล รายชื่อหนังสือ หรือสิ่งพิมพ์อื่น ๆ ทั้งในรูปแบบของสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นหนังสืออ้างอิงประเภทที่บอกให้ทราบว่าจะค้นหาสารสนเทศได้จากแหล่งใด <p>ลักษณะของบรรณานุกรม ในหนึ่งรายการ ส่วนใหญ่ประกอบด้วย ชื่อผู้แต่ง ชื่อหนังสือหรือสิ่งพิมพ์ ครั้งที่พิมพ์ สถานที่พิมพ์ เมืองที่พิมพ์ ปีที่พิมพ์ จำนวนหน้า ราคา หรืออาจมีคำอธิบายสาระสำคัญของหนังสือโดยย่อประกอบด้วย <p>ความสำคัญของบรรณานุกรม คือ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นคว้าหาสารสนเทศประกอบการศึกษา วิจัย ได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วน เป็นเครื่องมือติดตามความเคลื่อนไหวของทรัพยากรสารสนเทศ และเป็นคู่มือในการจัดหาและช่วยในการคัดเลือกทรัพยากรสารสนเทศ <p>บรรณานุกรม มีหลายประเภท เช่น บรรณานุกรมทั่วไป บรรณานุกรมแห่งชาติ บรรณานุกรมเฉพาะวิชา <p>บรรณานุกรมเฉพาะวิชา (Special bibliography) เป็นบรรณานุกรมที่รวบรวมรายชื่อหนังสือ สิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เฉพาะสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง อาจมีบทคัดย่อประกอบ ตัวอย่างเช่น บรรณานุกรมวิทยานิพนธ์ทางบรรณารักษศาสตร์และบทคัดย่อ <p>ในอีกความหมายหนึ่ง บรรณานุกรม หมายถึงข้อความที่ประกอบ หรือระบุไว้ในส่วนท้าย หรือแนบท้ายหนังสือ รายงาน บทความวิชาการ และงานวิจัย ที่ผู้เขียนได้ใช้ประกอบในการเขียนผลงาน เพื่อแสดงหลักฐาน ความน่าเชื่อถือ เและเป็นการให้ความเคารพผลงานทางปัญญาที่ผู้อื่นได้แสดงไว้ รวมทั้งเป็นแหล่งข้อมูลให้ผู้อ่านที่สนใจติดตามและศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Subject bibliographyบรรณานุกรมเฉพาะวิชา [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Subject dictionaryพจนานุกรมเฉพาะวิชา [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Subject encyclopediaสารานุกรมเฉพาะวิชา [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Subject specialistผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาวิชา [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Digital videoดิจิทัลวิดีโอ [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
แจงพระรูปวิธีเอาเถ้าถ่านและกระดูกศพที่เผาเสร็จแล้วบนกองฟอนมาเรียงลำดับเป็นอย่างรูปคน ให้หัวอยู่ทางทิศตะวันตกแล้ว หันกลับมาทางทิศตะวันออก หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แปรรูป หรือแปรธาตุ [ศัพท์พระราชพิธี]
Aflatoxinอะฟลาทอกซิน เป็นสารพิษชนิดหนึ่งที่ผลิตโดยเชื้อราแอสเปอร์จิลลัสฟลาวัส และแอสเปอร์จิลลัส พาราวิติกัส [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
พระโกศที่ใส่พระบรมศพ และพระศพเจ้านาย ของพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศ์ กับโกศที่พระราชทานสำหรับศพข้าราชการผู้มีบรรดาศักดิ์สูง ตามคตินิยมของพราหมณ์ที่เชื่อว่า ต้องตั้งพระศพในท่ายืน, นั่ง, คุกเข่า หรือกอดเข่าประสานมือ เพื่อส่งพระศพและพระวิญญาณเสด็จกลับสู่สรวงสวรรค์ พระโกศสามารถแบ่งตามวัตถุประสงค์การใช้งานได้ ๒ ประเภท ๑. พระโกศสำหรับทรงพระบรมศพหรือพระศพ ๒. พระโกศพระบรมอัฐิหรือพระอัฐิ, Example: <p><img src="http://stks.or.th/thaiglossary/sites/default/files/re-IM-2009-01.JPG" alt="พระโกศ"> <p>ที่ใส่พระบรมศพ และพระศพเจ้านาย ของพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศ์ [ศัพท์พระราชพิธี]
Paleontologyบรรพชีวิวิทยา [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Fertilization (Biology)ปฏิสนธิ (ชีววิทยา) [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Radio?วิทยุ? Cool Runnings (1993)
ReRun!วิ่ง! Showtime (2002)
Run!วิ่ง! The Matrix Reloaded (2003)
Darwin.ดาร์วิ Mr. Monk and the Panic Room (2004)
Run!วิ่ง! Madagascar (2005)
Fantastic.วิเศษ I Lied, Too. (2009)
Run.วิ่ Wrong Turn 3: Left for Dead (2009)
- 29 seconds.29 วิ. Introduction to Film (2009)
A living corpse.เป็นศพมีชีวิ You're Undead to Me (2009)
College.ในวิทยาลัย Chapter Nine 'Brother's Keeper' (2009)
Marvin!มาร์วิ RED (2010)
Run!วิ่ Predators (2010)
David?เดวิด? Incursion: Part 2 (2010)
Dogs are fast.หมาวิ่งเร็วแฮะ The Legacy (2011)
Hey, George.- วิ The Art of Getting By (2011)
Victor.วิเต้อ A Cinderella Story: Once Upon a Song (2011)
- Fantastic.วิเศษ Sad Professor (2011)
Viv?วิ Halloween: Part 1 (2011)
Dr Selvig.ดร.ซิลวิก? Thor (2011)
Run!วิ่ง! Bringing Out the Dead (2012)
Ten seconds?10 วิ? Matter of Time (2012)
- Travis.- ทราวิ The Road Not Taken (2012)
Forever.ทั้งชีวิ Happily Ever Aftermath (2012)
Kevin!เควิน! Blood Brother (2012)
Victoria?วิคตอเรีย! Resurrection (2012)
Run.วิ่ Burned (2013)
Run!วิ่ Clockwork (2013)
Run!วิ่ง! Curtains (2013)
Move!วิ่งไป! Isolation (2013)
Run.วิ่ I, Frankenstein (2014)
Run!วิ่ง! The Grey Hat (2014)
Run!วิ่ง! The Magician (2014)
Vinnie.วินนี The Big Short (2015)
Whew.วิ้ Kill the Boy (2015)
Run! Run! Hide!วิ่วิ่ง ซ่อน! Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
Slave in the Magic Mirror, come from the farthest space.ทาสในกระจกวิเศษ, มาจากพื้นที่ที่ไกลที่สุด Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
Magic Mirror on the wall, who is the fairest one of all?กระจกวิเศษบนผนัง ผู้ที่เป็นสังขารหนึ่งทั้งหมด หรือไม่ Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
Don't run away.อย่าวิ่งหนีไป Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
Run away, hide!วิ่งหนีไปซ่อน! Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
Please don't run away.กรุณาอย่าวิ่งหนีไป Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
Life is just like a bright, sunny dayชีวิตก็เหมือนเป็นเพียงแค่สดใส วันแดด Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
Аnd life flows alongและชีวิตไหลไปตาม Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
I can't sleep in the ground like you or in a tree the way you do.ฉันไม่สามารถนอนหลับได้ใน พื้นดินเช่นเดียวกับคุณ หรือในต้นไม้วิธีที่คุณทำ Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
Oh, how silly of me. I'm Snow White.โอ้วิธีโง่ของฉัน ฉันหิมะขาว Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
Well... Well, my, my dear Quincess... Princess.ก็ก็ของฉันรักของฉัน ควินเสส ปริ๊นเซ Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
How shocking!วิธีที่น่าตกใจ! Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
-How hard do ya scrub?วิธีการที่ยากไม่ขัด ya? Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
Well, it's good for the soul Аnd it's good for the hide to go...ก็ก็เป็นสิ่งที่ก็ให้กับดวง วิญญาณ และมันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการ ซ่อนที่จะไป Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
Magic Mirror on the wall, who now is the fairest one of all?กระจกวิเศษบนผนัง ซึ่งตอนนี้เป็นสังขารหนึ่ง ทั้งหมดหรือไม่ Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
Snow White still lives, the fairest in the land.หิมะขาวยังคงมีชีวิตอยู่ สังขารในแผ่นดิน Snow White and the Seven Dwarfs (1937)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
แอนท์เวิร์ป[Aēntwoēp] (n, prop) EN: Antwerp  FR: Anvers
แอสตัน วิลล่า[Aēstan Willā] (tm) EN: Aston villa  FR: Aston Villa [ m ]
อาหารมังสวิรัติ[āhān mangsawirat] (n, exp) EN: vegetarian food  FR: cuisine végétarienne [ f ] ; nourriture végétarienne [ f ] ; alimentation végétarienne [ f ]
อาจารย์มหาวิทยาลัย[ājān mahāwitthayālai] (n, exp) EN: lecturer
อาคารวิจัย[ākhān wijai] (n, exp) EN: research center  FR: centre de recherches [ m ] ; unité de recherches [ f ]
อักขรวิธี[akkharawithī] (n) EN: treatise on spelling and phonetics ; orthography
อาณาจักรวิทยาศาสตร์[ānājak witthayāsāt] (n, exp) EN: domain of science ; field of science  FR: domaine de la science [ m ]
อันทเวิร์ป[Antwoēp] (tm) EN: Antwerp  FR: Anvers
อนุกรมวิธานสัตว์[anukrom withān sat] (n, exp) EN: taxonomy  FR: taxinomie animale [ m ] ; taxonomie animale [ f ]
อาชญาวิทยา = อาชญาวิทยา[ātchayāwitthayā = ātyāwitthayā] (n) EN: criminology  FR: criminologie [ f ]
อัศวิ[atsawin] (n) EN: knight  FR: chevalier [ m ]
อัศวิน โต๊ะกลม[Atsawin Toklom] (n, prop) EN: Knights of the Round Table   FR: Les chevaliers de la Table ronde [ mpl ]
อัตวิสัย[attawisai] (n) EN: subject ; subjectivity
อัตวิสัย[attawisai] (adj) EN: subjective
อาชญาวิทยา = อาชญาวิทยา[ātyāwitthayā = ātchayāwitthayā] (n) EN: criminology  FR: criminologie [ f ]
วิชชา[awitchā] (n) EN: ignorance ; condition without knowledge  FR: ignorance [ f ]
ใบสำคัญแสดงการวิเคราะห์[baisamkhan sadaēng kān wikhrǿ] (n, exp) EN: certificate of analysis
บรรจุหีบห่อด้วยวิธีสุญญากาศ[banju hīphø dūay withī sunyākāt] (adj) EN: vacuum-packed
เบาวิสต้า[Baowittā] (tm) EN: Boavista  FR: Boavista
เบาหวิ[bao wiū] (v, exp) EN: feel weightless ; feel light ; be light  FR: être léger comme l'air
บาทวิถี[bātwithī] (n) EN: pavement ; footpath ; sidewalk (Am.)  FR: trottoir [ m ]
โบราณคดีวิทยา[bōrānnakhadīwitthayā] (n) EN: archeology  FR: archéologie [ f ]
บริษัทประกันชีวิ[børisat prakan chīwit] (n, exp) EN: life assurance company ; life insurance company
บทวิจารณ์[botwijān] (n) EN: critique ; criticism  FR: critique [ f ]
บทวิเคราะห์[botwikhrǿ] (n) EN: review ; analysis  FR: revue [ f ]
บัววิคตอเรีย[būa Wiktørīa] (n, exp) EN: Giant water lily ; Victoria water lily ; Amazon water lily ; Royal water lily ; Water Maize
บุคคลวิกลจริต[bukkhon wikonjarit] (n, exp) EN: mentally disturbed person ; person of unsound mind
ใช้ชีวิ[chai chīwit] (v, exp) EN: live ; spend one's life ; make a living  FR: passer sa vie
ใช้เป็นกริยาวิเศษณ์[chai pen kriyāwisēt = chai pen kariyāwisēt] (v, exp) FR: adverbialiser (vx)
ใช้วิธีการอันมิชอบ[chai withīkān an michøp] (xp) EN: fixing
ใช้วิธีอย่างเดียวกัน[chai withī yāng dīokan] (v, exp) EN: after the same method ; in the same way  FR: de la même manière
ชาก-หลุยส์ ดาวิ[Chāk-Lui Dāwit] (n, prop) EN: Jacques Louis David  FR: Jacques Louis David
ชาลส์ ดาร์วิ[Chāl Dāwin = Chān Dāwin] (n, prop) EN: Charles Darwin  FR: Charles Darwin
ชนะอย่างหวุดหวิ[chana yāng wutwit] (v, exp) EN: edge out  FR: gagner sur le fil
ช่างซ่อมวิทยุ[chang sǿm witthayu] (n, exp) EN: radio technician
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ[Chānwit Kasetsiri] (n, prop) EN: Charnvit Kasetsiri  FR: Charnvit Kasetsiri
ชาวสวิ[Chāo Sawis] (n, prop) EN: Swiss  FR: Suisse [ m, f ] ; Suissesse [ f ] ; ressortissant suisse [ m ] ; citoyen suisse [ m ]
ชื่อวิทยาศาสตร์[cheū witthayāsāt] (n, exp) EN: scientific name  FR: nom scientifique [ m ] ; nom latin [ m ]
ชีววิทยา[chīwawitthayā] (n) EN: biology  FR: biologie [ f ]
ชีววิทยาเชิงคำนวณ[chīwawitthayā choēng khamnūan] (n, exp) EN: computational biology
ชีววิทยาของเซลล์[chīwawitthayā khøng sel] (n, exp) EN: cell biology  FR: biologie cellulaire [ f ]
ชีววิทยาของเซลล์ทางการแพทย์[chīwawitthayā khøng sel thāng kān phaēt] (n, exp) EN: medical cell biology
ชีวิ[chīwit] (n) EN: life ; existence ; living  FR: vie [ f ] ; existence [ f ]
ชีวิตชีวา[chīwitchīwā] (n) EN: life
ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม[chīwit kap singwaētløm] (n, exp) EN: human being and environment
ชีวิตความเป็นอยู่[chīwit khwām penyū] (n, exp) EN: living conditions
ชีวิตหลังความตาย[chīwit lang khwām tāi] (n, exp) EN: life afterr death  FR: une vie après la mort
ชีวิตในโรงเรียน[chīwit nai rōngrīen] (n, exp) EN: school life
ชีวิตประจำวัน[chīwit prajamwan] (n, exp) EN: daily life ; everyday life  FR: vie quotidienne [ f ] ; vie de tous les jours [ f ] ; quotidien [ m ]
ชีวิตเรียบ ๆ[chīwit rīep-rīep] (n, exp) EN: plain living  FR: vie simple [ f ]

English-Thai: Longdo Dictionary
doraemon(n) ชื่อตัวละครของการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องหนึ่ง เป็นหุ่นยนต์มาจากโลกอนาคต มีกระเป๋าสารพัดประโยชน์ คอยใช้ของวิเศษเพื่อช่วยเหลือโนบิตะ การ์ตูนเรื่องนี้เป็นที่นิยมอย่างมากประมาณในช่วงทศวรรษที่ 80
CCD(n, abbrev) ย่อมาจากคำว่า Charge Coupled Device เป็นอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ สำหรับแปลงสัญญาณแสงเป็นสัญญาณไฟฟ้า มักใช้เป็นอุปกรณ์รับภาพสำหรับกล้องถ่ายวิดีโอ กล้องถ่ายภาพนิ่งดิจิตอล และเครื่องอ่านภาพ (Scanner), See also: camera, CMOS sensor
bayer pattern(n) รูปแบบตารางแผ่นกรองหลากสี สำหรับปะหน้าตัวรับภาพที่แยกแยะได้เฉพาะค่าความสว่าง (เช่น CCD หรือ CMOS Sensor) เพื่อให้สามารถแยกแยะสีของภาพได้ โดยแผ่นกรองนี้จะยอมให้แสงสีที่กำหนดผ่านไปตกบนตัวรับภาพ ณ บริเวณที่กำหนดเท่านั้น bayer pattern ที่นิยมใช้กันมากในกล้องถ่ายภาพมี สองชนิด คือ RGB bayer pattern และ CMY bayer pattern ซึ่งยอมให้แสงสี Red-Green-Blue และ Cyan-Magenta-Yellow ไปตกบนตัวรับภาพได้ ตามลำดับ ชื่อของแบบตาราง มาจากชื่อของ Dr. Bayer นักวิทยาศาสตร์ของบริษัท Kodak ผู้คิดค้น, See also: CCD
biologyชีววิทยา
workaround(n, jargon) วิธีแก้แบบขัดตาทัพ
Stay tuned!(vi) เป็นภาษาพูด แปลว่า ติดตามต่อไป (ส่วนใหญ่ใช้ตามวิทยุหรือทีวี) เช่น Stay tuned for more details! Stay tuned to the brand new watch!
keep one's fingers crossed(phrase) เป็นสำนวน แปลว่า ให้กำลังใจ เช่น He will take the final examination tomorrow. I will keep my fingers crossed for him. พรุ่งนี้เขามีสอบวิชาสุดท้าย ฉันจะเป็นกำลังใจให้เขาค่ะ
nerdy(adj, slang) (คน) ที่ฉลาดแต่เรื่องเรียนหรือทางวิชาการ แต่มักไม่ค่อยเก่งในการเข้าสังคม, See also: nerd, geek
nstda(org) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ National Science and Technology Development Agency
biotec(org) ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ National Center for Genetic Engineering and Biotechnology
death toll(n) ยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติภัยหรือเหตุการณ์ต่างๆ
biologist(n) นักชีววิทยา
marathon(n, vt) การวิ่งแข่งมาราธอน (วิ่งนาน ต้องใช้ความอดทน)
appeal(vi, vt) วิงวอน, ร้องขอ, อุทธรณ์
CIFS(org) สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม (Central Institute of Forensic Science)
a piece of (one's) mind(phrase) คำวิจารณ์หรือตำหนิอย่างตรงไปตรงมาและรุนแรง, เช่น She gave him a piece of her mind. เธอตำหนิเขาตรงๆ อย่างรุนแรง
DSL(abbrev) ย่อมาจากคำว่า Digital Subscriber Line เป็นวิธีการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เพื่อการสื่อสารแบบหนึ่ง นิยมใช้ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ผู้ใช้ทั่วไป
wake(n) การพบปะพูดคุยกันหลังจากที่มีเหตุการณ์ที่สำคัญผ่านไป โดยมากหมายถึง การไปชุมนุมกันที่บ้านของผู้ที่เสียชีวิตก่อนจะมีพิธีฝังศพ (โดยมักถูกอ้างว่ามีที่มาจาก การปลุกให้ผู้ตายมีชีวิตขึ้นมาอีก) เช่น A wake usually lasts 3 full days, afterwards on the 4th day the funeral takes place.
GMO(n) สิ่งมีชีวิตที่ถูกดัดแปลงด้วยการตัดต่อทางพันธุกรรม ย่อมาจาก genetically modified organism
emeritus(adj, n) กิตติคุณ เป็นตำแหน่งที่มหาวิทยาลัยมอบให้แก่บุคลากรอาวุโสที่เกษียณอายุแล้ว โดยเป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์แก่มหาวิทยาลัยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เช่น president emeritus อธิการบดีกิตติคุณ, professor emeritus ศาสตราจารย์กิตติคุณ
nag(vi, n) เหน็บแนม, ชอบวิพากษ์วิจารณ์สิ่งเล็กๆน้อยๆในแง่ลบ, คนที่ชอบป่วนรบกวนคนอื่น
transgenic(adj, jargon) ที่ถูกตัดต่อพันธุกรรม โดยเฉพาะการตัดต่อสารพันธุกรรมจากสิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์ เช่น ยีนเรืองแสงของแมงกระพรุนมาใส่ในหนูให้หนูเรืองแสง เป็นต้น
once in a lifetime(phrase) ครั้งหนึ่งในชีวิต เช่น Don't miss it because it's your once in a lifetime opportunity.
string quintet(n) วงดนตรีเครื่องสายที่ประกอบไปด้วยเครื่องดนตรี 5 ชนิด ส่วนใหญ่ประกอบด้วย ไวโอลิน 2 เครื่อง วิโอลา 2 เครื่อง และเชลโล่ 1 เครื่อง (ซึ่งเท่ากับวง string quartet และ วิโอลา 1 เครื่อง)
conventional warfare(phrase) การยุทธตามรูปแบบ, การทำสงครามโดยใช้อาวุธและยุทธวิธีทางการทหาร ซึ่งแต่ละชนชาติจะเผชิญหน้ากันอย่างเปิดเผย
biosphere(n) ชีวมณฑล, พื้นที่และชั้นบรรยากาศของโลกที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่
have a go at someone(phrase) วิจารณ์ใครบางคน หรือบ่นเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง
anesthesiologist(n) วิสัญญีแพทย์
mechanical engineer(n) วิศวกรเครื่องกล
mechanical engineering(n) วิศวกรรมเครื่องกล
automotive engineering(n) วิศวกรรมยานยนต์
CERIAS(n) ศูนย์การศึกษาและวิจัย ด้านการรับรองและรักษาความปลอดภัยด้านข้อมูล ย่อมาจาก The Center for Education and Research in Information Assurance and Security
heterogeneous(adj) วิวิธพันธ์, ที่เป็นเนื้อผสม, ที่ไม่เข้ากัน, See also: A. homogeneous
geeky(adj) ที่เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยี หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, บ้าเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, บ้าวิชาการ, ที่หมกมุ่นกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาก
ayurveda(n) อายุรเวช (มาจากสันสกฤต หมายความว่าความรู้ (เวช) เกี่ยวกับชีวิต (อายุร))
physiological(adj) ซึ่งเกี่ยวกับกระบวนการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายของสิ่งมีชีวิ
physiology(n) กระบวนการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายของสิ่งมีชีวิ
physiology(n) ศาสตร์ที่ศึกษาถึงกระบวนการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายของสิ่งมีชีวิต, สรีรศาสตร์, สรีรวิทยา
push-up(n) |Amer| การวิดพื้น
canter(vi) วิ่งโขยก, วิ่งเหยาะๆ
curfew(n) ในยุโรปสมัยกลางบ้านเรือนทำมาจากท่อนซุง ตรงพื้นกลางบ้านมักจะขุดเป็นหลุมเพื่อเอาไว้ใช้เป็นเตา เพราะกลัวไฟไหม้ ตอนดึกๆ จึงต้องมียามเดินไปให้สัญญาว่าได้เวลานอนแล้ว ขอให้กลบไฟซะให้เรียบร้อยด้วย ซึ่งภาษาฝรั่งเศสว่า cuevre-feu แปลเป็นอังกฤษว่า to cover the fire เมื่อพระเจ้าวิลเลี่ยมแห่งฝรั่งเศสตีอังกฤษได้ ก็เอามาใช้ในอังกฤษ ให้ทุกบ้านดับไฟและห้ามออกจากบ้าน Curfew ก็จึงพัฒนามาเป็นคำที่หมายถึง มาตรการห้ามออกนอกเคหสถานในเวลากำหนด
stonefly(n, name) สโตนฟลาย เป็นแมลงใน อันดับ พลีคอปเทอร่า (Order Plecoptera: Class Insecta) ลักษณะตัวเต็มวัย (adult) แบ่งออกเป็น ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง ชัดเจน; ส่วนหัว (head) มีหนวด (antennae) ยาว 1 คู่ มีตารวม (compound eyes) 1 คู่ มีตาเดี่ยว (ocelli) 0-3 ตา มีปากแบบกัดกิน (Chewing mouthpart), ส่วนอก (thorax) มีขา 3 คู่ มีปีก 2 คู่เป็นแผ่นบางใส (membranous wings) ปีกคู่หลัง (hind wings) จะซ้อนพับอยู่ใต้ปีกคู่หน้า (fore wings), ส่วนท้อง (abdomen) ยาวแบ่งเป็นปล้อง; มีการเจริญเติบโตแบบไม่สมบูรณ์ (Incomplete metamorphosis) คือเจริญเติบโตจากไข่ ฟักออกมาเป็นตัวอ่อน ลอกคราบหลายครั้งจนเป็นตัวเต็มวัย โดยไม่มีระยะดักแด้; ในระยะตัวอ่อน (nymph) มีลักษณะคล้ายตัวเต็มวัยแต่ไม่มีปีก อาจพบเหงือก (gills) รูปร่างต่าง ๆ ตามลำตัวเป็นอวัยวะช่วยในการหายใจ อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำไหล (Lotic habitat, running water) บางชนิดมีนิสัยการกินแบบผู้ล่า (predator) กินสัตว์อื่นที่มีขนาดเล็กกว่าเป็นอาหาร แต่บางชนิดกินเศษซากตะกอนในแหล่งน้ำเป็นอาหาร (detritivore) และเมื่อลอกคราบครั้งสุดท้ายเป็นตัวเต็มวัยจะอาศัยอยู่บนบกใกล้แหล่งน้ำ สโตนฟลายบางชนิดที่มีวงจรชีวิตระยะตัวอ่อนเป็นเวลายาวนาน เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะจับคู่ผสมพันธุ์ทันทีโดยไม่กินอาหาร แต่ในบางชนิดที่มีวงจรชีวิตใช้เวลาในระยะตัวอ่อนน้อย เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะกินน้ำหรือเศษซากพืชหรือซากตะกอนเพียงเล็กน้อย เพื่อพัฒนาระบบสืบพันธุ์ให้เจริญเต็มที่ ก่อนจับคู่ผสมพันธุ์ เมื่อผสมพันธุ์แล้วตัวเต็มวัยเพศเมียจะวางไข่ลงในแหล่งน้ำไหลเพื่อให้ไข่ฟักออกมาเป็นตัวอ่อนอาศัยเจริญเติบโตในแหล่งน้ำไหลนั้นต่อไป; จากลักษณะการดำรงชีวิตโดยอาศัยพึ่งพาแหล่งน้ำอยู่เกือบตลอดทั้งวงจรของชีวิต แมลงชนิดนี้จึงจัดอยู่ในกลุ่มของแมลงน้ำ (Aquatic insect), See also: plecoptera
Greyhound racing(n) การแข่งวิ่งสุนัขพันธ์เกรย์ฮาวนด์ เป็นที่นิยมในอังกฤษ(คล้ายแข่งม้าแต่ไม่มี jockey)
haccp(abbrev) การวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤติที่ต้องควบคุม, มาตรฐานการผลิต ที่มีมาตรการป้องกันอันตรายที่ผู้บริโภคอาจได้รับจากการบริโภคอาหาร ย่อจาก hazard analysis critical control point
God bless you!พระเจ้าคุ้มครองคุณ (หรือพูดสั้นๆว่า Bless you!) เป็นคำอวยพรที่พูดเมื่อบุคคลอื่นมีอาการจาม เพราะสมัยก่อนเชื่อกันว่า ขณะที่คนเราจามนั้นวิญญาณสามารถออกจากร่างได้ ทำให้อาจมีโรคภัยได้ง่าย
privatization(n) การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
anaesthetist(n) วิสัญญีแพทย์, แพทย์ผู้ชำนาญการวางยาชาหรือยาสลบ เช่น The anaesthetist's major role lies in providing anaesthesia during surgery., See also: anesthesiologist, Syn. anesthetist
go for the jugular(phrase) กะจะเอาให้ถึงตาย สู้ยิบตา, วิจารณ์หรือพูดจาทิ่มแทงใจ เช่น Hannity did not go for the jugular with this opening, but rather he explained the issue fairly objectively and pressed for an opinion.
anthropogenic(adj) เกี่ยวกับการศึกษาเรื่องการกำเนิดและการวิวัฒนาการของมนุษย์, ที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ เช่น The anthropogenic contribution to greenhouse gas has been established as an infinitesimally small amount., See also: anthropogenetic
research methodology(n) ระเบียบวิธีวิจัย

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
abiogenesis(n) สมมติฐานที่ว่าสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นได้จากสิ่งไม่มีชีวิ
abnormal(adj) ผิดปกติ, See also: ผิดธรรมดา, ผิดวิสัย, ผิดแปลก, แปลก, Syn. deviant, unnatural
abstract(adj) ทางทฤษฎี, See also: ทางหลักวิชา, ทางหลักการ, ทางวิชาการ, Syn. theoretical
academic(adj) ซึ่งมีลักษณะเป็นนักวิชาการ, See also: ซึ่งคงแก่เรียน, Syn. schoraly, scholastic
academic(adj) ด้านวิชาการ, See also: ทางวิชาการ
academic(n) อาจารย์หรือนักศึกษามหาวิทยาลัย
academic(adv) ด้านวิชาการ
academician(n) สมาชิกของสโมสร (ทางด้านต่างๆเช่น ศิลปะ วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์)
academy(n) โรงเรียน, See also: สถานศึกษา, สถาบันการศึกษา, วิทยาลัยเฉพาะด้าน
acoustics(n) วิชาว่าด้วยเสียง
actinology(n) วิทยาศาสตร์ในสาขาที่เกี่ยวกับรังสีของแสงและปฏิกิริยาของแสง
activate(vt) กระตุ้น, See also: ทำให้มีชีวิตชีวา, Syn. arouse, stimulate, initiate
activate(vi) มีชีวิตชีวา
activity(n) การกระตือรือร้น, See also: การกระทำอย่างมีชีวิตชีวา, Syn. liveliness
adjudicate(vt) วินิจฉัย, See also: พิจารณา, ตัดสิน
adjudicate(vi) วินิจฉัย, See also: พิจารณา, ตัดสิน, Syn. judge, adjudge
admiral(n) นาวิกโยธิน
adv(n) คำกริยาวิเศษณ์ (คำย่อของ adverb), See also: คำช่วยกริยา
adverb(n) คำวิเศษณ์, See also: คำกริยาวิเศษณ์, คำที่ทำหน้าที่ขยายกริยา คุณศัพท์ หรือคำกริยาวิเศษณ์ด้วยกันเอง
adverbial(adj) เกี่ยวกับกริยาวิเศษณ์
adverbial(n) คำวิเศษณ์, See also: คำกริยาวิเศษณ์, คำหรือกลุ่มคำที่ทำหน้าที่เป็นกริยาวิเศษณ์
adverbial clause(n) กริยาวิเศษณานุประโยค
adverbial phrase(n) กริยาวิเศษณ์วลี
aerial(adj) เกี่ยวกับเครื่องบิน, See also: โดยวิธีทางเครื่องบิน
aerial(adj) ซึ่งอยู่ในอากาศ, See also: ซึ่งเกิดขึ้นในอากาศ, ซึ่งมีชีวิตในอากาศ
aerial(adj) เบาหวิ
aero(adj) ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์หรือศิลปะการบิน
aerobe(n) สิ่งมีชีวิต, See also: สิ่งที่มีชีวิตอยู่ได้โดยต้องอาศัยออกซิเจน
aerobic(adj) ซึ่งต้องการอากาศหรือออกซิเจนในการดำรงชีวิ
aeromedicine(n) วิชาแพทย์ทางอากาศ, See also: การแพทย์ที่เกี่ยวกับโรคหรือความผิดปกติซึ่งเกิดจากการเดินทางในชั้นบรรยากาศของโลก
aerostation(n) วิทยาศาสตร์หรือศิลปะที่เกี่ยวกับการสร้างวัตถุเช่น บอลลูนให้ลอยในอากาศ
affray(n) การทะเลาะวิวาท, See also: การปะทะคารม, การตะลุมบอน, Syn. quarrel, brawl
afterlife(n) ชีวิตหลังความตาย
afternoon(n) ช่วงหลัง, See also: ช่วงหลังของชีวิต
age(n) ช่วงชีวิต, See also: ช่วง, ช่วงวัย, Syn. duration, lifetime, span
agent(n) วิถีทาง, See also: พาหะ
aggravate(vt) ทำให้โกรธ, See also: ยั่วยุ, ชวนวิวาท, ทำให้รำคาญ, Syn. irritate, annoy, provoke
agrology(n) วิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับผลผลิตทางการเกษตร
agronomics(n) วิทยาศาสตร์และเศรษฐศาสตร์เกี่ยวกับผลผลิตทางการเกษตร, Syn. agronomy
agronomy(n) วิทยาศาสตร์และเศรษฐศาสตร์เกี่ยวกับผลผลิตทางการเกษตร, Syn. agronomics
air(vt) ออกอากาศทางสถานีวิทยุหรือโทรทัศน์, See also: ถ่ายทอด
airflow(n) กระแสลมที่เกิดจากเครื่องบินหรือรถยนต์ที่วิ่งผ่าน
airstrip(n) ทางวิ่งของเครื่องบิน
airwaves(n) สื่ออากาศของการกระจายเสียงวิทยุและโทรทัศน์
Aladdin(n) อาละดิน, See also: ตัวละครในนวนิยายอาหรับราตรีผู้เป็นเจ้าของตะเกียงวิเศษที่สามารถเนรมิตทุกสิ่งทุกอย่าง
alchemy(n) การแปรธาตุในยุคสมัยกลางเพื่อหากรรมวิธีเปลี่ยนโลหะให้เป็นทองและการหาน้ำอมฤต
alcove(n) เวิ้งที่ติดกับห้องสำหรับตั้งเตียงตู้หรือเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ
algorithm(n) ชุดของคำสั่งที่สร้างไว้ตามขั้นตอน, See also: อัลกอริธึม, คำสั่ง, ขั้นตอนวิธี
alienation(n) สภาวะผิดปกติ, See also: สภาวะวิกลจริต
alive(adj) มีชีวิตชีวา, Syn. alert, living

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
+เครื่องหมาย cross hairs เป็นรูปลักษณ์ของตัวชี้ตำแหน่ง (cursor) แบบหนึ่ง ที่แตกต่างกันออกไปในบางโปรแกรม เช่น ในโปรแกรมการวาดภาพในระบบวินโดว์ส มักมีลักษณะเป็นเส้นตัดกัน (+) แทนที่จะเห็นเป็นลูกศรตามปกติ
a la(อา' ลา) fr. ตามวิธีการของ......
a-ใช้นำหน้าคำนามให้เป็นกริยาวิเศษณ์, จาก, ออก, จาก, ไม่
a. a. a. s.abbr. American Association for the Advancement of Science สมาคมเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์แห่งอเมริกา
a. a. s.abbr. American Academy of Sciences (สภาวิทยาศาสตร์แห่งอเมริกา)
a. a. u. w.abbr. American Association of University Women (สมาคมสตรีมหาวิทยาลัยแห่งอเมริกา)
aar(อาร์) n. ชื่อแม่น้ำสายหนึ่งในสวิทเซอแลนด์มันไหลไปทางเหนือของแม่น้ำไรน์
abbeville(แอบ' บีวิล) n. ชื่อเมืองในฝรั่งตอนเหนือ (a town)
abbevillian(แอบวิล' เลียน) n. ซึ่งเกี่ยวกับยุคที่มนุษย์เริ่มรู้จักทำขวานหินเป็นอาวุธ.
abbreviate(อะบรี'วิเอท) vt. ย่อ, เขียนย่อ, คำย่อ, การย่อ -abbreviator n., -abbreviation n. ตัวอย่าง: *The word "inch" is abbreviated "in" คำว่า "inch" ถูกย่อเป็น "in"* (แบบ 1, 18)
abbreviated(อะบรี' วิเอเทด) adj .สั้น, ทำให้สั้นเข้า, หายาก, ไม่พอเพียง, Syn. shortened
abc(เอบีซี) ย่อมาจาก Atanasoff-Berry Computer ว่ากันว่า เป็นชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกของโลก (หนังสือบางเล่มว่า เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกมีชื่อว่า ENIAC) ศาสตราจารย์ John Atanasoff แห่งมหาวิทยาลัยไอโอวา และ Clifford Berry เป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องเอบีซีนี้เมื่อราวทศวรรษ 1940 ABEND การหยุดงานผิดปกติ <คำแปล>ย่อมาจาก abnormal end of task หมายถึงการหยุดงานที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่ได้มีคำสั่งให้หยุดในโปรแกรมหรือชุดคำสั่งมักจะเกิดขึ้น เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ถูกสั่งให้ปฏิบัติงานหนึ่งงานใด แล้วไม่ยอมปฏิบัติ อาจจะเป็นเพราะเครื่องเสีย หรือโปรแกรมผิดพลาด
abfarad(แอบแฟ' แรด) n. หน่วยความจุไฟฟ้าซึ่งเป็นเซ็นติเมตร-กรัม-วินาทีและมีค่าเท่ากับ 109 farads
abhenry(แอบเฮน' รี) n. หน่วยการนำไฟฟ้าที่เป็นเซ็นติเมตร-กรัม-วินาที และมีค่าเท่ากบ 10-9 henry (centimeter-gram-second unit)
abiogenesis(เอ' บิโอเจน' นิซิส) n. การกำเนิดของสิ่งมีชีวิตจากสิ่งไม่มีชีวิต, การเกิดขึ้นเอง. -abiogenetic adj. (spontaneous generation)
abiosis(เอ' ไบโอ' ซิส) n. การไร้ชีวิต, ภาวะที่ไม่มีชีวิตหรือสิ่งมีชีวิต. -abiotic adj.
abmho(แอบ' โบ) n., (pl. -mhos) หน่วยการนำไฟฟ้า (เซนติเมตร/กรัม/วินาที) ซึ่งมีค่าเท่า 109 mhos (เซนติเมตร/กรัม/วินาที)
abnormal psychologyจิตวิทยาที่เกี่ยวกับความวิปริตของบุคลิกภาพ (branch of psychology)
abvolt(แอบโวลท') n. หน่วยแรงแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งเป็นเซนติเมตร-กรัม-วินาที มีค่าเท่ากับ 10-9 โวลท์
academy(อะแคด' ดิมี) โรงเรียน, สำนัก, สภา, สถาบันการศึกษา, กลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ, สำนักปัญญาปรัชญาของ Plato, วิทยสถาน, Syn. school
acarology(แอคคาร็อล' โลจี) n. ชีววิทยาที่เกี่ยวกับตัวเห็บหรือหมัด -acarologist n.
access(แอค' เซส) n. ทางเข้า, การเข้าไปได้, วิธีเข้า, อารมณ์รุนแรงและกระทันหัน, Syn. way
access methodวิธีเข้าถึงโปรแกรมสำหรับเข้าถึงหมายถึง ระเบียบวิธีการเขียนโปรแกรมหรือชุดคำสั่งสำหรับการเก็บและเรียกใช้ข้อมูลมี 2 วิธี คือ วิธีการเข้าถึงโดยตรง (direct) หรือโดยสุ่ม (random) และวิธีการเข้าถึงโดยอ้อม (indirect) หรือโดยลำดับ (sequential) ดู direct และ indirect access ประกอบ
accessoriesโปรแกรมประกอบหมายถึงโปรแกรมต่าง ๆ ที่โปรแกรมระบบเตรียมให้มาไว้ใช้เป็นโปรแกรมประกอบ หรือโปรแกรมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน เช่น โปรแกรมประกอบของโปรแกรม ระบบวินโดว์ 95 หรือ 98 จะมีโปรแกรม NotePad, Paint, WordPad , Multimedia, Calculator เป็นต้น
accidence(แอค' ซิเดินซฺ) n. อักขรวิธี, การศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของรูปคำ, Syn. rudiment
acclivity(อะคลิฟ' วิที) n. ที่ชันขึ้น, ทางขึ้น.
accounting(อะเคา' ทิง) n. ทฤษฎีระบบการทำบัญชี, วิชาการทำบัญชี
accredit(อะเครด' ดิท) vt. เพิ่มบัญชี, เชื่อถือ, อนุญาต, แต่งตั้ง, ถือว่า, รับรอง, รับรองวิทยฐานะ accre-ditation, accreditment n.
acoustics(อะคู' สทิคซฺ) n. วิชาที่ว่าด้วยเสียง, โสตศาสตร์, ประสิทธิภาพของห้องที่มีต่อเสียง
acquiesce(แอค' ควิเอส) vi. ยอมรับในใจ, ยินยอม, นิ่งเฉย. -acquiescence n.,
acquisitive(อะควิซ' ซิทิฟว) adj. อยากได้, สามารถได้มาซึ่ง, สามารถได้รับ
acquit(อะควิท') vt. ทำให้พ้นไป, ชำระ, ตัดสินให้พ้นโทษ, ปฏิบัติ, ดำเนินการได้ผล. -acquiter n., Syn. forgive, pardon, clear, free
acquittal(อะควิท' เทิล) n. การตัดสินให้พ้นโทษ, การปฏิบัติ, การชำระหนี้, Syn. discharge
acquittance(อะควิท' เทินซฺ) n. การชำระหนี้
active immunityการเกิดภูมิคุ้มกันเนื่องจากการสร้างแอนตี้บอดี้ภายในสิ่งมีชีวิตเอง
active windowวินโดว์ที่กำลังใช้งานหมายถึง วินโดว์ที่กำลังใช้อยู่ หรืออาจพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ได้ว่า เป็นวินโดว์ที่มีโปรแกรมที่กำลังเปิดใช้อยู่ หรืออยู่หน้าวินโดว์อื่น ๆ วินโดว์นี้ จะเป็นวินโดว์ที่ตอบสนองการสั่งงานทุกอย่าง ถ้าบนจอภาพมีวินโดว์แสดงอยู่มากกว่าหนึ่งวินโดว์ จะมีวินโดว์ใช้งานอยู่เพียงวินโดว์เดียว นอกนั้นเป็นวินโดว์ที่ไม่ได้ใช้งาน (non-active window) โดยปกติแล้ว ถ้าเป็นระบบไมโครซอฟต์ วินโดว์ของพีซี (PC) ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จะทราบว่า วินโดว์ ไหนเป็นวินโดว์ใช้งาน โดยดูที่แถบชื่อ (title bar) ถ้าวินโดว์ ใดมีแถบชื่อที่สีต่างกว่าวินโดว์อื่น วินโดว์นั้นจะเป็นวินโดว์ที่ใช้งานอยู่ ถ้าเป็นเครื่องแมคอินทอช วินโดว์ใช้งานจะมีเส้นหลาย ๆ เส้น ในช่องแถบชื่อนั้น ส่วนวินโดว์ที่ยังไม่ใช้งานแถบชื่อจะว่างเปล่า
activism(แอค' ทิฟวิซึม) n. ทฤษฎีที่ว่าความจริงคือการดำเนินการที่บริสุทธิ์โดยเฉพาะทางจิต, ทฤษฎีที่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างจิตและวัตถุ การดำเนินการหรือขบวนการของจิต, ลัทธิดำเนินการเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือง (essence of reality)
activist(แอค' ทิวิสทฺ) n. ผู้ดำเนินการที่มีความกระตือรือร้น, ผู้ยึดถือทฤษฎี -activism n.
activity(แอคทีฟ' วิที) n. กิจกรรม, การเคลื่อนไหว, ลักษณะการดำเนินการ, ลักษณะการเคลื่อนไหว, ระดับความมีชีวิตชีวา, เรื่องราวที่ดำเนินการ, กิจกรรม, Syn. action, pursuit
adjectival(แอคจิคไท' เวิล) adj. เกี่ยวกับหรือใช้เป็นคุณศัพท์ (of an adjective)
admission(แอคมิช' เชิน) n. การรับเข้า, การยอมรับรอง, การรับสารภาพ, สิทธหรือวิธีการเข้าไป, ราคาสำหรับเข้าไป, การยอมรับข้อกล่าวหาหรือความจริง, Syn. allowance, admittance
adventurism(แอดเวน' เซอริสซึม) n. (นโยบาย, วิธีการ, การกระทำ) ที่เสี่ยง. -adventurist n., -adventuristic adj.
adverb(แอด' เวอบ) n กิริยาวิเศษณ์
adverbial(แอดเวอ' เบียล) adj. เกี่ยวกับหรือทำหน้าที่เป็นกริยาวิเศษณ์ (of an adverb)
aeroballistics(แอโรบะลิส' ทิคซฺ) n. วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับขีปนาวุธ. -aeroballistic adj.
aerobe(แอ' โรบ) n. สิ่งมีชีวิต (โดยเฉพาะแบคทีเรีย) ที่ต้องอาศัยออกซิเจนในการดำรงชีพ
aerobiosis(แอโรไบโอ' ซิส) n. ชีวิตในสิ่งแวดล้อมที่มีอากาศหรืออ็อกซิเจน -aerobiotically, adv. (life in an environment, containing air or oxygen)
aerograph(แอ' โรกราฟ) n. บันทึกอุตุวิทยา
aeromedicine(แอโรมิแมค' ดิซิน) n. วิชาแพทย์ทางอากาศ. -aeromedical adj.
aeronautics(แอโรนอท' ทิคซฺ) n. วิทยาศาสตร์ หรือศิลปะการบิน (science of flight)

English-Thai: Nontri Dictionary
aberrant(adj) ผิดปกติ, ผิดวิสัย, วิปริต, วิปลาส
aberration(n) ความผิดปกติ, ความวิปริต, ความวิปลาส
abnormal(adj) ผิดปกติ, วิปริต, วิปลาส, พิกล
abnormality(n) ความผิดปกติ, ความวิปริต, ความวิปลาส, ความพิกล
academic(adj) เชิงวิชาการ, เกี่ยวกับโรงเรียน, เกี่ยวกับสถาบันการศึกษา
academician(n) นักวิชาการ
access(n) วิธีเข้าถึง
acoustics(n) เสียงสะท้อน, การได้ยิน, วิชาเสียง
acquaintance(n) การวิสาสะ, ความสนิทสนม, ความเป็นกันเอง, ความคุ้นเคย
adverb(n) กริยาวิเศษณ์
adverbial(adj) เกี่ยวกับกริยาวิเศษณ์
aeronautics(n) วิชาการบิน
affray(n) การทะเลาะวิวาท, การต่อสู้
agronomist(n) นักปฐพีวิทยา
agronomy(n) ปฐพีศาสตร์, ปฐพีวิทยา
alcove(n) ซอก, เวิ้งผา, ห้องเล็ก, ซุ้มไม้
alive(adj) มีชีวิตอยู่, คงอยู่, ดำรงอยู่, ร่าเริง, กระปรี้กระเปร่า
allegorical(adj) โดยวิธีสาธก, เป็นเชิงเปรียบเทียบ
altercate(vi) ทะเลาะกัน, วิวาทกัน, เป็นปากเสียงกัน
altercation(n) การวิวาท, การทะเลาะ
analyse(vt) วิเคราะห์, จำแนก, วิภาค, แยกแยะ
analysis(n) วิภาค, การแยกแยะ, การวิเคราะห์
analytic(adj) เกี่ยวกับการวิเคราะห์
analytical(adj) เกี่ยวกับการวิเคราะห์
analyze(vt) วิเคราะห์, จำแนก, วิภาค, แยกแยะ
anatomical(adj) เกี่ยวกับกายวิภาค, เกี่ยวกับร่างกาย
anatomist(n) นักกายวิภาคศาสตร์
anatomize(vt) วิเคราะห์, แบ่งแยก, ชำแหละ(ร่างกาย)
anatomy(n) กายวิภาคศาสตร์, กายวิภาควิทยา
animadversion(n) การวิจารณ์, การติเตียน, การตำหนิ
animadvert(vt) วิจารณ์, ติเตียน, ตำหนิ
animate(adj) มีชีวิต, เป็นสัตว์
animate(vt) กระตุ้น, ทำให้มีชีวิ
animated(adj) กระปรี้กระเปร่า, ร่าเริง, มีชีวิตชีวา
animation(n) ความมีชีวิต, ความมีชีวิตชีวา, ความกระตือรือร้น
anomalous(adj) วิปริต, ผิดปกติ, ผิดหลัก, ผิดที่
anomaly(n) ความวิปริต, ความผิดปกติ
anthropology(n) มานุษยวิทยา
anthropometry(n) มานุษยวิทยาเกี่ยวกับการวัดร่างกายของคน
approach(n) การเข้าใกล้, วิธีการเข้าไป
area(n) พื้นที่, เขต, เนื้อที่, บริเวณ, สาขาวิชา
artistic(adj) งดงาม, วิจิตร, เกี่ยวกับศิลปะ
artistry(n) งานศิลป์, ศิลปกรรม, วิจิตรศิลป์
assay(n) การพยายาม, การทดสอบ, การทดลอง, การวิเคราะห์
assay(vt) พยายาม, ทดสอบ, ตรวจสอบ, ทดลอง, วิเคราะห์
astronautics(n) วิทยาศาสตร์การบิน
atmospherics(n) การรบกวนคลื่นวิทยุ
aviation(n) การบิน, วิชาการบิน, วิธีการบิน
bail(vt) ประกันตัว, วิดน้ำ
batty(adj) บ้า, วิกลจริต, ฟั่นเฟือน

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Saboteur(n) วินาศกร
*ผงชูรส*(n) เป็นชื่อกลางที่ใช้เรียก โมโนโซเดียมกลูตาเมต (Monosodium Glutamate) วัตถุเจือปนอาหารประเภท วัตถุปรุงแต่งรสอาหารมีลักษณะเป็นผงผลึกสีขาวไม่มีกลิ่น มีประโยชน์ในการเป็นสารเพิ่มรสชาติอาหาร (Flavor Enhancer) ทำให้อาหารมีรสชาติโดยรวมดีขึ้น โดยช่วยเพิ่มรสชาติของรสชาติพื้นฐาน 4 รสที่เรารู้จักกันดีคือ รสหวาน รสเค็ม รสเปรี้ยว และรสขม ให้เด่นชัดมากขึ้น ในการศึกษาทางเภสัชวิทยาเกี่ยวกับรสชาติพบว่าผงชูรสสามารถกระตุ้น Glutamate Receptor แล้วทำให้เกิดรสชาติเฉพาะตัวที่เรียกว่ารสอูมามิ (Umami) ซึ่งเป็นรสที่ 5 ที่มนุษย์สามารถรับรู้ได้และมีเอกลักษณ์แตกต่างจากรสชาติพื้นฐานทั้ง 4
Abiotic factors(n) ปัจจัยที่ไม่มีชีวิต ได้แก่ ความแห้งแล้ง ความหนาวเย็น แสงแดดเผา การขาดสารอาหาร ค่าความเป็นกรดด่างไม่สมดุล เป็นต้น
absolute altimeter(n) มาตราวัดความสูงสัมบูรณ์ม เครื่องวัดความสูงสัมบูรณ์--เครื่องวัดความสูงชนิดหนึ่ง ซึ่งวัดระยะตามแนวดิ่งไปยังผิวพื้นด้านล่าง โดยใช้เทคโนโลยีทางวิทยุ เรดาร์ เสียง เลเซอร์ หรือ คาแพซิทิฟ
Absorptiometryการวัดปริมาณรังสีที่ดูดซึม (ตามเนื้อเยื่อที่มีชีวิต) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อตรวจสอบความหนาแน่น
academiaโรงเรียน มหาวิทยาลัย
accrediting amount(n) เงินวิทยฐานะ
all mod cons(adj) (บ้านหรือห้องพัก) ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่นเครื่องซักผ้า ตู้เย็น ครบถ้วน สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวก
alprazolamใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรักษาความวิตกกังวลเล็กน้อยถึงปานกลาง
Amateur radio operator(n) นักวิทยุสมัครเล่น
analyzed(vt) กระบวนการวิเคราะห์
animationภาวะที่มีชีวิตชีวา, ขบวนการสร้างหนังการ์ตูน, ความกระตือรือร้น, พลังงาน, ความดีใจ,
Anthropocene[อันโธรพะซีน] (adv) เกี่ยวกับหรือหมายถึงยุคสมัยในทางธรณีวิทยาที่ซึ่งการกระทำของมนุษย์มีอิทธิพลมากที่สุดต่อสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม
anthropological linguisticsภาษาศาสตร์มนุษยวิทยา
antioxidant(n) สารต้านอนุมูลอิสระ(วิทย์.)
Archbasilica(n) อัครมหาวิหาร
assumptionพระแม่มารีย์ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
Assumption University(n) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
Automated Meteorological Data Acquisition System(jargon) ระบบรับข้อมูลอุตุนิยมวิทยาโดยอัตโนมัติ
BBier[บีบี'เออร์] (n) นักพกบีบี, สิ่งมีชีวิตที่มีชื่อจริง และนามสกุลเป็นรหัสอักษรและเลข8ตัว
beings[บี'อิง] ความมีชีวิตอยู่ ; มนุษย์ ; สิ่งมีชีวิต ; ความเป็นอยู่
Beltane(uniq) เทศกาลเฉลิมฉลอง หนึ่งใน เทศกาลแห่งเปลวเพลิง ซึ่งรับทอดมาจากศาสตร์เซลติกโบราณ ซึ่งนิยมจะเฉลิมฉลองกันในยามค่ำคืน เพแกนจะขี่เหล่าปศุสัตว์ระหว่างกองไฟซึ่งก่อ ณ กลางแจ้ง ทั้งสองกอง เป็นความเชื่อว่าจะปกป้องพวกเขาจากโรคร้าย ส่วนคู่หนุ่มสาวที่ปราถณาจะมีชีวิตคู่ที่ชุ่มชื่นก็จะ "กระโดดเหนือกองไฟ" ในคืน Beltane
biosecurityความปลอดภัยทางชีวะภาพ ความหมาย มาตรการที่มุ่งป้องกันการนำเข้าและ/หรือการแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายไปยังสัตว์และพืช เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อ ในการเกษตร มาตรการเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การปกป้องพืชผลอาหารและปศุสัตว์จากศัตรูพืช ชนิดพันธุ์ที่รุกราน และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
biosecurityความปลอดภัยทางชีวะภาพ ความหมาย มาตรการที่มุ่งป้องกันการนำเข้าและ/หรือการแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายไปยังสัตว์และพืช เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อ ในการเกษตร มาตรการเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การปกป้องพืชผลอาหารและปศุสัตว์จากศัตรูพืช ชนิดพันธุ์ที่รุกราน และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
biosecurityความปลอดภัยทางชีวะภาพ ความหมาย มาตรการที่มุ่งป้องกันการนำเข้าและ/หรือการแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายไปยังสัตว์และพืช เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อ ในการเกษตร มาตรการเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การปกป้องพืชผลอาหารและปศุสัตว์จากศัตรูพืช ชนิดพันธุ์ที่รุกราน และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
Biotic factors(n, modal, verb) ปัจจัยที่มีชีวิต ได้แก่ เชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส ไส้เดือนฝอย
Biotrophs(n) เชื้อโรคที่ตามธรรมชาติ ได้รับอาหารจากเนื้อเยื่อ และดำรงชีวิตอยู่จนครบชีพจักรบนพืชอาศัยที่มีชีวิตอยู่
Buddhism Thoughtวิถีพุทธ
by mean of(prep) โดยวิธี
capacity[เคอะแพ้เซอะทิ] (n) วิสัย (อ้างอิง: พจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน 2542 หน้า 1082)
cathedral(n) วัดของคริสต์ศาสนาที่มีสังฆราช (bishop) เป็นประมุขและที่เป็นทีตั้งของ “อาสนะสังฆราช” (bishop's cathedra) เป็นสถานที่ทางศาสนาที่ใช้ในการสักการะบูชา (โดยเฉพาะสำหรับนิกายที่มีระบบฐานันดรการปกครองเช่นนิกาย นิกายโรมันคาทอลิก นิกายอีสเติร์นออร์โธด็อกซ์ นิกายอังกลิคัน และ นิกายลูเทอรัน มหาวิหารจะเป็นวัดที่เป็นที่นั่งของสังฆราช (วัดประจำตำแหน่ง) ที่ใช้เป็นศูนย์กลางของสังฆมณฑล (Diocese หรือ See) ที่อยู่ใต้การปกครองของสังฆราชที่กำหนดไว้
cern[Organisation Européenne pour la Recherche Nucléaire] (n) เป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปยุโรปเพื่อวิจัยและพัฒนาทางด้านนิวเคลียร์, Syn. European Organization for Nuclear Research
chemoautotroph[chem-mo-au-to-troph] (n) สิ่งมีชีวิตที่ใช้สารอนินทร์ เช่น hydrogen sulfide, ammonium or ferrous iron เป็นแหล่งสร้างพลังงาน เช่น Bacteria
chromatograph(n) กรรมวิธีในการวิเคราะห์ทางวิชาเคมี : เทคนิคสำหรับการแยกส่วนประกอบในสารผสม
Clostridium difficile[คลอสตริเดียม ดิฟฟิไซล] แบคทีเรียหนึ่งในสาเหตุที่พบมากที่สุดของการติดเชื้อของลำไส้ใหญ่ ในสหรัฐอเมริกามีผลต่อผู้คนนับล้านต่อปี ผู้ป่วยที่ใช้ยาปฏิชีวนะอยู่ในความเสี่ยงของการกลายเป็นติดเชื้อกับการรักษาได้ยาก. ยาปฏิชีวนะจะรบกวนแบคทีเรียปกติของลำไส้, ช่วยให้ดื้อยาแบคทีเรียที่จะกลายเป็นตัวต้านที่อยู่ภายในลำไส้ใหญ่. หลายคนติดเชื้อแบคทีเรียรักษาลำบากเพราะไม่มีอาการ. คนเหล่านี้กลายเป็นผู้ให้บริการของเชื้อแบคทีเรียและสามารถติดเชื้อผู้อื่น ในคนอื่นๆ, สารพิษที่มีผลก่อให้เกิดโรคอุจจาระร่วง, อาการปวดท้อง, การอักเสบอย่างรุนแรงของลำไส้ใหญ่ (ไส้ใหญ่), ไข้, การตรวจนับเม็ดเลือดขาว, อาเจียนและการคายน้ำ. ในผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง, เยื่อบุภายในของลำไส้ใหญ่จะกลายเป็นที่รุนแรงอักเสบ (สภาพที่เรียกว่าเยื่อแผ่นบาง ๆ รอบเซลล์ผิดปกติ). ไม่ค่อยมีผนังและหลุมพัฒนา (ลำไส้ใหญ่จะไม่ค่อยมีผนังกั้นแต่จะเป็นรูพรุน) ซึ่งสามารถนำไปสู่การติดเชื้อที่คุกคามชีวิตของช่องท้อง
collegiality(n) วิทยามิตร
community enterpriseวิสาหกิจชุมชน
community enterpriseกิจการของชุมชนเกี่ยวกับการผลิตสินค้า การให้บริการ หรือการอื่น ๆ ที่ดำเนินการโดยคณะบุคคลที่มีความผูกพัน มีวิถีชีวิตร่วมกันและรวมตัวกันประกอบกิจการดังกล่าว เพื่อสร้างรายได้และเพื่อการพึ่งพาตนเองของครอบครัว ชุมชน และระหว่างชุมชน
convergent evolution(n) การวิวัฒนาการแบบเข้าหากัน
Copy that(slang) (ทางทหาร) รับทราบ, ได้ยิน, เข้าใจ มักใช้สื่อสารทางวิทยุ
Coronavirus Crisis(n) วิกฤติไวรัสโคโรนา
critical thinkingคิดแบบมีวิจารณญาณ
crowdsource(vt, uniq) เป็นการรวมกันของคำว่า Crowd + Outsourcing คือการกระจายปัญหาไปยังกลุ่มค้นเพื่อค้นหาคำตอบ และวิธีการในการแก้ปัญหาทางธุรกิจนั้นๆ บริษัทสามารถ broadcast คำถามหรือปัญหาที่ต้องการคำตอบไปยังกลุ่มคนขนาดใหญ่เพื่อให้ได้มาซึ่งวิธีการใหม่ ๆ Crowd หรือ User ส่วนมากในการทำ Crowdsourcing เราจะหมายถึงกลุ่มชุมชน Online
decomposer[ดีคอมโพสเซอร์] (n) ผู้ย่อยสลาย หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่ได้สารอาหารจากการย่อยซากสิ่งมีชีวิต เช่น จุลินทรีย์ เห็ด รา เป็นต้น(ศัพท์ทางชีววิทยา)
dermatology(n) ตจวิทยา
discerningมีวิสัยทัศน์
Discipline[ดิสซะพลิน] (n) วิชา, สาขา, วงการ
disease(n) การตอบสนองทางพยาธิสรีรวิทยาต่อปัจจัยภายนอก หรือภายใน
Diskriminanzanalyse { f }การวิเคราะห์จำแนกประเภท
distress(n) ความเจ็บปวด, เศร้าเสียใจ หรือวิตกกังวลอย่างรุนแรง, Syn. suffering

Japanese-Thai: Longdo Dictionary
〜方[〜かた, ~ kata] (n) เมื่อนำกริยามาเติมข้างหน้าจะหมายถึง วิธีการ เช่น 読み方(よみかた) วิธีอ่าน หรือ 使い方(つかいかた) วิธีการใช้งาน
のぞみ[のぞみ, nozomi] (name) ชื่อประเภทของรถชินคันเซ็นสายโตไกโดและซันโย (วิ่งระหว่างโตเกียว-โอซะกะ-ฟุคุโอกะ)
ウェハー[うえはー, ueha-] (n) แผ่นชิพหรือไมโครชิพ (ทางวิศกรรมไฟฟ้า)
Image:
スイス[すいす, suisu] (n) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
マラソン[まらそん, marason] (n) กีฬาวิ่งมาราธอน
リハーサル[りはーさる, riha-saru] (n) การฝึกซ้อม (โดยจะใช้เฉพาะอย่างยิ่งกับ การฝึกซ้อมการบรรยายสำหรับเตรียมการประชุมวิชาการ), See also: S. practice, rehearsal
一世一代[いっせいちだい, isseichidai] (phrase) ครั้งหนึ่งในชีวิ
五書[ごしょ, gosho] (n) หนังสือเบญจบรรณ เป็นหนังสือห้าเล่มแรกของพระคริสต์ธรรมคัมภีร์(ภาคพันธสัญญาเก่า) ซึ่งประกอบไปด้วย หนังสือปฐมกาล หนังสืออพยพ หนังสือเลวีนิติ หนังสือกันดารวิถี และหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ, See also: R. Old Testament, Genesis, Exodus, Leviticus, Numbers, Deuteronomy
人生[じんせい, jinsei] ชีวิตมนุษย์
人生の春[じんせいのはる, jinseinoharu] ฤดูใบไม้ผลิของชีวิต/เวลาแห่งความเป็นหนุ่มสาว
人生最悪[じんせいさいあく, jinseisaiaku] (n) สิ่งเลวร้ายที่สุดในชีวิ
人生航路[じんせいこうろ, jinseikouro] เส้นทางเดินของชีวิ
保険料[ほけんりょう, hokenryou] (n) ค่าประกัน(ชีวิต, สุขภาพ)
入学[にゅうがく, nyuugaku] (n) การเข้ามหาวิทยาลัย (เริ่มเข้าไปเรียน)
[いのち, inochi] (n) ชีวิ
土木工学[どぼくこうがく, dobokukougaku] (n) วิศวกรรมโยธา
大学院[だいがくいん, daigakuin] (n) บัณฑิตวิทยาลัย
学者[がくしゃ, gakusha] (n) นักวิชาการ
学部[がくぶ, gakubu] (n) คณะวิชา (ในมหาวิทยาลัย)
学長[がくちょう, gakuchou] (n) อธิการบดี(ของมหาวิทยาลัย)
安否[あんぴ, anpi] (n) ความปลอดภัย การรอดชีวิ
安否情報[あんぴじょうほう, anpijouhou] (n) ข้อมูลหรือข่าวสารเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือการรอดชีวิ
実践[じっせん, jissen] การปฏิบัติ การกระทำ วิธีปฏิบัติ สิ่งที่ปฏิบัติ
専門[せんもん, senmon] (n) วิชาเฉพาะทาง
弦楽四重奏[げんがくしじゅうそう, gengakushijuusou] (n) วงดนตรีที่มีเครื่องสายสี่ชนิดด้วยกัน โดยมักจะประกอบด้วย ไวโอลิน 2 เครื่อง วิโอลา 1 เครื่อง และ เชลโล 1 เครื่อง
戦略[せんりゃく, senryaku] (n) แผน, แผนการรบ, ยุทธวิธี, Syn. 戦法
東北大学[tohoku daigaku, tohoku daigaku] (n, uniq) มหาวิทยาลัยโตโฮกุ ตั้งอยู่ที่เมืองเซนได ประเทศญี่ปุ่น เป็นมหาวิทยาลัยที่ตั้งขึ้นเป็นแห่งที่สามของประเทศญี่ปุ่น
段差[だんさ, dansa] (n) ผิวต่างระดับ (วิศวะ), ระดับขั้นบรรทัด
気象庁[きしょうちょう, kishouchou] (n) สำนักงานอุตุนิยมวิทยา
生命保険[せいめいほけん, seimeihoken] (n) ประกันชีวิ
研究[けんきゅう, kenkyuu] (n, vt) วิจัย
研究者[けんきゅうしゃ, kenkyuusha] (n) นักวิจัย
科研費[かけんひ, kakenhi] (n) ทุนวิจัย
総武線[そうぶせん, soubusen] (n, name) เส้นทางรถไฟสายโซบุของ JR (Japanese Railway) วิ่งระหว่างโตเกียวกับชิบะ สัญลักษณ์ใช้สีเหลือง (ข้อมูล พฤศจิกายน 2546)
臨時国会[りんじこっかい, rinjikokkai] (n) การประชุมสภาสมัยวิสามัญ
診断[しんだん, shindan] ตรวจโรค, วินิจฉัยโรค, Syn. 診察
走る[はしる, hashiru] (n) วิ่
軽量化[けいりょうか, keiryouka] (n) ทำให้เบาลง ลดน้ำหนัก ( ใช้กับงานทางด้านวิศวกรรม )
電波[でんぱ, denpa] (n) คลื่นวิทยุ
[たましい, tamashii] (n) วิญญาน

Japanese-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
短期大学[たんきだいがく, tankidaigaku] (n) ปวช., วิทยาลัยเทคนิค, อาชีวศึกษา
理工学部[りこうがくぶ, rikougakubu] (phrase) คณะวิศวกรรมศาสตร์-วิทยาศาสตร์
早稲田[わせだ, waseda] (name, org) วาเซดะ (ชื่อของมหาวิทยาลัย), มหาวิทยาลัยวาเซดะ
鬼ごっこ[おにごっこ, onigokko] (n) การละเล่นเหมือนกับ วิ่งไล่จับ, See also: R. 鬼
一足違い[ひとあしちがい, hitoashichigai] (adv) อย่างหงุดหวิ
工学士[こうがくし, kougakushi] (n) วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต
工学科[こうがくか, kougakuka] (n) ภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์
工学部[こうがくぶ, kougakubu] (n) คณะวิศวกรรมศาสตร์
工学部[こうがくぶ, kougakubu] (n) คณะวิศวกรรมศาสตร์
博士論文[はくしろんぶん, hakushironbun] (n) วิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอก
仕様[しよう, shiyou] 1.วิธีการ 2.หนทาง
慰霊[いれい, irei] (พิธี)เซ่นไหว้ดวงวิญญาณ
短大[たんだい, tandai] วิทยาลัยระดับอนุปริญญา
走り[はしり, hashiri] การวิ่ง , ผลไม้ผักปลา , ต้นฤดู , จุดเริ่มปรากฏการณ์
統計学[とうけいがく, toukeigaku] (n) วิชาสถิติ
科学的管理[かがくてきかんり, kagakutekikanri] (n) การควบคุมอย่างมีหลักการทางวิทยาศาสตร์
忍術[にんじゅつ, ninjutsu] (n) วิชานินจา
殉職[じゅんしょく, junshoku] (n, vi) การเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ เช่น 知り合いのおまわりさんが殉職しました
書面[しょめん, shomen] เอกสาร (มักใช้หรือพูดในเวลาที่ต้องการจะกล่าวถึงวิธีการ เช่น บอกด้วยปากเปล่า อย่างกรณี 書面 นี้ก็จะเป็นว่า ด้วยเอกสาร หรืออาจจะใช้ในความหมายในลักษณะที่ว่า ในหน้าเอกสาร) ความแตกต่างระหว่าง 書類 ก็คือ 書類 มักใช้ในความหมายถึงเอกสารทั่วไปโดยปกติ, See also: R. 書類
補数[ほすう, hosuu] ภาษาไทยมักใช้ทับศัพท์ว่า Complement เป็นศัพท์เฉพาะทางในสายวิชาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ One Complement 1の補数, Two Complement 2の補数 One Complement คือ จำนวนที่บวกเพิ่มเข้าไปกับค่าค่าหนึ่งแล้วทำให้ได้เป็นค่าสูงสุดของเลขฐานนั้นๆ ในจำนวน digit ที่เท่ากัน เช่น คำถาม: ให้หา One Complement ของ 345 ในระบบเลขฐาน 10 คำตอบ: 345 มี 3 หลัก (digit) ค่าสูงสุดของเลขฐาน 10 ที่มี 3 หลักคือ 999 999-345=654 654 คือ One Complement ของ 345 ในระบบเลขฐาน 10 Two Complement คือ จำนวนน้อยที่สุดที่บวกเพิ่มเข้าไปกับค่าค่าหนึ่งแล้วทำให้จำนวนหลัก (digit) ของผลลัพธ์เพิ่มขึ้น 1 หลัก (digit) โดยปกติ วิธีการหา Two Complement ก็คือ เอา One Complement + 1 เช่น คำถามข้างบน ก็จะได้ Two Complement ของ 345 เป็น 655
手順[てじゅん, tejun] วิธีการ
蜻蛉日記[かげろうにっき, kagerounikki] (n) วรรณกรรมประเภทบันทึกสมัยเฮอัน ที่ได้รับการบันทึกโดยสตรีเล่มแรกของญี่ปุ่น เขียนโดย 道綱の母(みちつなのはは)เนื้อหาพรรณาเกี่ยวกับความเศร้าจากชีวิตแต่งงานของผู้เขียน
研究室[けんきゅうしつ, kenkyuushitsu] (n) ห้องทดลอง, ห้องวิจัย
細胞[さいぼう, saibou] (n) เซลล์, หน่วยเล็กสุดในร่างกายของสิ่งมีชีวิ
死亡[しぼう, shibou] เสียชีวิ
死亡[しぼう, shibou] การเสียชีวิ
todai[とうだい, toudai] (n) มหาวิทยาลัยโตเกียว (เป็นชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งของมหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น)
解析[かいせき, kaiseki] (n) การวิเคราะห์
解析する[かいせきする, kaisekisuru] (vt) การวิเคราะห์
便[び, bi] (n) ข่าวคราว วิธีการขนส่ง
建築[けんちく, kenchiku] (n) สถาปัตยกรรม, วิชาการก่อสร้าง, รูปแบบการก่อสร้าง
見事[みごと, migoto] ยอดเยี่ยม, วิเศษ, อัจฉริยะ, งดงาม, โอ่อ่า, โอ่โถง, น่าชมเชยยิ่ง, แจ่มจรัส, แวววาว, รุ่งโรจน์.,
破壊[はかい, hakai] การทำลาย, วิธีการทำลาย, การล้างผลาญ, สิ่งที่ถูกทำลาย
手段[しゅだん, shudan] วิธี, หนทาง
テーゼ[てーぜ, teze] (n) วิทยานิพนธ์
命綱[いのちづな, inochizuna] (n) 1.เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เวลาทำงานในที่สูง หรือบนเรือ <BR>2.ฟางเส้นสุดท้าย (มีความหมายว่า เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวสุดท้าย ถ้าไม่มีสิ่งที่พูดมาข้างต้น จะไม่สามารถทำให้ลุล่วงสำเร็จไปได้ หรือว่าทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก หรืออันตรายถึงชีวิต)
賛否両論[さんぴりょうろん, sanpiryouron] (n) การวิพากวิจารณ์ที่แยกสองฝ่ายทั้งดีและไม่ดี
結界[けっかい, kekkai] (n) สิ่งกีดขวาง, สิ่งยับยั้ง (มักใช้กับเวทมนตร์หรือจิตวิญญาณ)
通り魔[とおりま, toorima] (n) คนบ้าไล่ฟันคน พวกฆาตกรที่มีจิตวิปริตไล่ฟันผู้คนตามท้องถนน
結構[けっこう, kekkou] (adj) ยอดเยี่ยม, วิเศษ, อัจฉริยะ, งดงาม, โอ่อ่า, โอ่โถง, น่าชมเชยยิ่ง, แจ่มจรัส, แวววาว, รุ่งโรจน์
同棲[どうせい, dousei] (n) ใช้ชีวิตร่วมกันโดยไม่แต่งงาน
ninkungz[人くん, nin kun] (n, name) (น.) วิญญาณ ดิจิตอล , ชายที่ใช้ชีวิตในโลกวิทยาการ, See also: S. nin koong z
台詞[せりふ, serifu] (n) (สพีชฺ) n. การพูด, วิธีการพูด, คำพูด, คำบรรยาย, คำสุนทรพจน์, วิชาเกี่ยวกับการพูด, ข่าวลือ, ภาษาชนชาติ, ภาษา., S. utterance
準備[じゅんび, junbi] (n) (เพรพพะเร'เชิน) n. การเตรียม, การเตรียมการ, วิธีการเตรียมการ, สิ่งที่เตรียม, ตัวอย่างสำหรับตรวจ วินิจฉัยหรืออื่น ๆ , (พระคัมภีร์ไบเบิล) วันก่อนวันSabbath, the Preparation บทสวดมนต์น้ำในพิธีศาสนาหรือ Mass (ดู)
Hidetoe[じゅんび, Hidetoe] (name) เจ้าชายรูปหล่อแห่ง Pramool board เป็นผู้ที่ yong mavin madpackits ให้ความเกรงกลัว และเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนในบอร์ด เกลียดแมนยูเป็นชีวิตจิตใจ เพราะเป็นแฟนหงส์สุดยอมทีมของโลก
格好[かっこう, kakkou] (n, vi, vt) (เชพ) n. สัณฐาน, รูป, รูปแบบ, รูปโฉม, ร่าง, รูปร่าง, โฉม, ทรวดทรง, การกำหนดสัณฐาน (รูป, รูปแบบ, รูปโฉม..) การจัดอย่างมีระเบียบ, การซ่อมแซม, วิถีทางชีวิต, สภาพการณ์, เครื่องอาภรณ์แสดงละคร, -Phr. (take shape ก่อร่าง, เป็นรูปเป็นร่างขึ้น) vt., vi. ก่อร่าง, แสดงออกเป็นถ้อยคำ
情報工学[じょうほうこうがく, jouhoukougaku] (n) วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
知識工学[ちしきこうがく, chishikikougaku] (n) วิศวกรรมข้อมูลความรู้ วิศวกรรมสารสนเทศ
通信工学[つうしんこうがく, tsuushinkougaku] (n) วิศวกรรมสื่อสาร
電気工学[でんきこうがく, denkikougaku] (n) วิศวกรรมไฟฟ้า

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
学内[がくない, gakunai] TH: อยู่ภายในบริเวณสถานศึกษา เช่น โรงเรียน, วิทยาสัย หรือ มหาวิทยาลัย  EN: within the school
科学[かがく, kagaku] TH: วิทยาศาสตร์  EN: science
研究所[けんきゅうじょ, kenkyuujo] TH: สถาบันวิจัย  EN: research institute
書き方[かきかた, kakikata] TH: วิธีเขียน ลายมือเขียนหนังสือ  EN: way of writing
組み方[くみかた, kumikata] TH: วิธีประกบ
暮らす[くらす, kurasu] TH: ใช้ชีวิต  EN: to live
暮らす[くらす, kurasu] TH: ดำเนินชีวิต  EN: to get along
力学[りきがく, rikigaku] TH: วิชากลศาสตร์  EN: mechanics
[びょう, byou] TH: วินาที  EN: second (.016 min)
視点[してん, shiten] TH: วิสัยทัศน์  EN: visual point
大生[だいせい, daisei] TH: นักศึกษามหาวิทยาลัย  EN: college student
訴える[うったえる, uttaeru] TH: เรียกความสนใจ(โดยวิธีการ)  EN: to appeal to
進学[しんがく, shingaku] TH: เรียนในระดับที่สูงขึ้นต่อไป เช่นจากมัธยมปลายเป็นมหาวิทยาลัย  EN: going on to university (vs)
考え方[かんがえかた, kangaekata] TH: ความคิด, วิธีการคิด  EN: way of thinking
教え方[おしえかた, oshiekata] TH: วิธีการสอน  EN: method of teaching
渉外部[しょうがいぶ, shougaibu] TH: แผนกวิเทศสัมพันธ์  EN: liaison department
京大[きょうだい, kyoudai] TH: ชื่อย่อของมหาวิทยาลัยเกียวโต  EN: Kyoto University (abbr)
走る[はしる, hashiru] TH: วิ่ง  EN: to run
京都大学[きょうとだいがく, kyoutodaigaku] TH: มหาวิทยาลัยเกียวโต
生物[せいぶつ, seibutsu] TH: สิ่งมีชีวิต  EN: creature
駆ける[かける, kakeru] TH: วิ่ง  EN: to run
診る[みる, miru] TH: วินิจฉัย(โรค)  EN: to examine
生まれ変わる[うまれかわる, umarekawaru] TH: ตั้งต้นชีวิตใหม่  EN: to make a fresh start in life
生活[せいかつ, seikatsu] TH: การดำเนินชีวิต  EN: living (vs)
電気通信大学[でんきつうしんだいがく, denkitsuushindaigaku] TH: มหาวิทยาลัยเดงกิซือชิน  EN: University of Electro-Communication
出産[しゅっさん, shussan] TH: การเกิด, การกำเนิดของสิ่งมีชีวิต  EN: birth
北大[ほくだい, hokudai] TH: ชื่อย่อเรียกมหาวิทยาลัยฮอกไกโด  EN: Hokkaido University
動力学[どうりきがく, dourikigaku] TH: วิชากลศาสตร์แขนงหนึ่งว่าด้วยการเคลื่อนที่ของของแข็ง  EN: dynamics
追いかける[おいかける, oikakeru] TH: วิ่งไล่  EN: to run after
理学[りがく, rigaku] TH: วิทยาศาสตร์กายภาพ  EN: physical science
ワークステーション[わーくすてーしょん, wa-kusute-shon] TH: เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง มักใช้ในงานวิจัย  EN: workstation
東京大学[とうきょうだいがく, toukyoudaigaku] TH: มหาวิทยาลัยโตเกียว  EN: Tokyo University
消す[けす, kesu] TH: ปิดสวิทซ์  EN: to turn off power
生きる[いきる, ikiru] TH: มีชีวิต  EN: to live
助ける[たすける, tasukeru] TH: ช่วยชีวิ
憧れる[あこがれる, akogareru] TH:วิลหา  EN: to yearn after
専門[せんもん, senmon] TH: วิชาเอก  EN: subject of study
研究[けんきゅう, kenkyuu] TH: ศึกษาวิจัย  EN: study (vs)
研究[けんきゅう, kenkyuu] TH: ทำวิจัย  EN: research
乗り切る[のりきる, norikiru] TH: ผ่านพ้นวิกฤต  EN: to get over
学会[がっかい, gakkai] TH: การประชุมสัมมนาทางวิชาการ  EN: academic meeting
過ごす[すごす, sugosu] TH: ใช้ชีวิต  EN: to pass
方法[ほうほう, houhou] TH: วิธีการ  EN: method
工学[こうがく, kougaku] TH: วิศวกรรม, วิศวกรรมศาสตร์  EN: engineering
大学[だいがく, daigaku] TH: มหาวิทยาลัย  EN: university
学園際[がくえんさい, gakuensai] TH: งานฉลองประจำปีของโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยมักจัดในช่วงวันวัฒนธรรมปลายเดือนพฤศจิกายน  EN: school festival
理学部[りがくぶ, rigakubu] TH: คณะวิทยาศาสตร์

German-Thai: Longdo Dictionary
Kritik(n) |die, pl. Kritiken| คำวิจารณ์, ตำหนิ
Kultur(n) |die, pl. Kulturen| วัฒนธรรม, ความศิวิไล
Leben(n) |das, pl. Leben| ชีวิ
Medium(n) |das, pl. Medien| สื่อ เช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์
Mittel(n) |das, pl. Mittel| วิธีการ, เครื่องมือ
Universität(n) |die, pl. Universitäten| มหาวิทยาลัย
Weise(n) |die, pl. Weisen| วิธีการ, เส้นทางวิธี (ไม่ใช่ทางเดิน)
dadurchดังนั้น, ด้วยวิธีนั้น
durch(präp) ด้วย (เป็นบุพบทที่ใช้บ่งว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งส่งให้เกิดผล) เช่น Durch diese Behandlung ist er gerettet. เขารอดชีวิตมาได้ด้วยวิธีการรักษานี้
durch(präp) ผ่าน, ทะลุผ่าน เช่น Wir fahren von Deutschland durch die Schweiz nach Italien. เราขับรถออกจากเยอรมนีผ่านสวิตเซอร์แลนด์ไปยังอิตาลี
durchausทั้งนี้และทั้งนั้น, ทุกวิถีทาง, จำเป็นอย่างยิ่ง เช่น Er möchte durchaus in diese Schule gehen. ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาต้องการจะเข้าโรงเรียนนี้, Syn. unbedingt
einesหนึ่ง (รูปแสดงความเป็นเจ้าของ Genetiv ของคำนามเพศชายและเพศกลาง) เช่น das Leben eines Mannes ชีวิตของผู้ชายคนหนึ่ง, See also: ein
entwickeln(vt) |entwickelte, hat entwickelt| พัฒนา, วิวัฒนาการ เช่น Hast du das Gerät entwickelt? เธอพัฒนาอุปกรณ์ชี้นนี้หรือ
gelten(vi) |gilt, galt, hat gegolten| มีผลใช้ได้(บัตร, ตั๋ว, กฏ, ระเบียบ) เช่น Sein Visum gilt nur für Deutschland, aber nicht für die Schweiz. วีซ่าของเขาใช้ได้เฉพาะในเยอรมนีเท่านั้น ในสวิสใช้ไม่ได้, See also: gültig
her(adv) นี่ (ทิศทางจากนอกเข้ามา) เช่น von irgendwo her จากที่ใดที่หนึ่ง, Wir kennen uns von der Uni her. เรารู้จักกันจากตอนมหาวิทยาลัย
lebenใช้ชีวิตอยู่, มีชีวิ
perโดยวิธี เช่น per Telex ส่งด้วยเทเล็กซ์
einschränken(vi) |schränkte sich ein, hat sich eingeschränkt| ใช้ชีวิตอย่างจำกัดจำเขี่ย
Bereich(n) |der, pl. Bereiche| ขอบข่ายของงาน, ขอบข่ายทางวิชาการ
Datum(n) |das, pl. Daten| วันที่ เช่น Welches Datum haben wir heute? - Heute ist der 27. Oktober 2001. (วิธีการบอกวันที่เป็นภาษาเยอรมันโดยทั่วไป - Das Sommersemester fängt am 15.04 an., การบอกวันที่ในจดหมาย - den 12 Oktober 2003)
schwindlig(adj) วิงเวียน, คลื่นไส้ เช่น Mir ist schwindlig. ฉันมีอาการวิงเวียน, See also: schwindelig
schwindelig(adj) วิงเวียน, คลื่นไส้ เช่น Mir ist schwindelig. ฉันมีอาการวิงเวียน, See also: schwindlig
Abkürzung(n) |die, pl. Abkürzungen| วิธีลัด
Lebewesen(n) |das| สิ่งมีชีวิต, See also: die Kreatur
surfen(vt) |surfte, hat gesurft| เล่นวินด์เซิร์ฟ
joggen(vt) |joggte, hat gejoggt| วิ่งจ๊อกกิ้ง
Marathonlauf(n) |der, nur Sg.| การวิ่งมาราธอน
auf Kritik stoßenเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เช่น Im Jahr 2002 ist die Währungsumstellung zu Euro in Europa auf Kritik gestoßen.
S-Bahn(n) |die, pl. S-Bahnen| รถไฟเร็วที่วิ่งจากในตัวเมืองถึงหัวเมืองซึ่งในเยอรมนีมีเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ เท่านั้น
U-Bahn(n) |die, pl. U-Bahnen| รถไฟใต้ดิน (ซึ่งบางช่วงอาจวิ่งบนดิน) ที่วิ่งเฉพาะในตัวเมืองเท่านั้นหรือวิ่งระยะไม่ไกลเท่ารถประเภท S-Bahn
Schall(n) |der, nur Sing.| เสียง (เรียกในเชิงวิทยาศาสตร์) เช่น die Schallwelle คลื่นเสียง, See also: die Stimme, das Geräusch
Herzlichen Beileid!(phrase) เป็นคำแสดงความเสียใจแก่ญาติของคนที่เสียชีวิ
der Fall sein(phrase) ในกรณีนี้ เช่นนี้ (ใช้อ้างถึงสิ่งที่เพิ่งเอ่ยถึง) เช่น Hoffentlich besucht er mich in diesem Sommer. Wenn das der Fall ist, fahren wir in die Schweiz zusammen. หวังว่าเขาจะมาเยี่ยมฉันหน้าร้อนนี้ ถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะขับรถไปเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์
Fachhochschule(n) |die, pl. Fachhochschulen| มหาวิทยาลัยที่เน้นการเรียนด้านปฏิบัติ เมื่อจบการศึกษาจะได้รับวุฒิที่เทียบเท่าปริญญาตรีที่เมืองไทย ในขณะที่ในมหาวิทยาลัยทั่วไป (Universität)จะได้วุฒิที่เทียบเท่ากับปริญญาโท
Forelle(n) |die, pl. Forellen| ปลาประเภทหนึ่งที่มีชีวิตอยู่ในน้ำเย็น รสชาดดี รูปร่างคล้ายปลาแซลมอนแต่มีขนาดเล็กกว่า ตามท้องปลามักมีจุดสีดำ เนื้อปลามีทั้งสีขาวและสีส้ม
Lachs(n) |der, pl. Lachs| ปลาขนาดใหญ่ที่มีชีวิตอยู่ในน้ำเย็นตามทะเลเหนือ และแพร่พันธุ์ตามแม่น้ำ รสชาดดี เนื้อปลามีสีส้ม
verlaufen(vi) |verlief, hat/ist verlaufen| สิ่งใดสิ่งหนึ่งเดินหรือดำเนินไปในทิศทางหนึ่ง เช่น Der Weg verläuft zwischen zwei Dörfen. เส้นทางนี้วิ่งผ่านระหว่างสองหมู่บ้าน
etw. mit etw. verwechseln(vt) จำสลับกัน เช่น Einmal hat sie die Cola mit dem Whiskey verwechselt. ครั้งหนึ่งเธอเคยหยิบโค้กมาแทนวิสกี้, Syn. etw. mit etw. vertauschen
einfahren(vi) |fährt ein, fuhr ein, ist eingefahren| รถไฟหรือเรือกำลังถึงสถานีหรือท่า เช่น Der Zug nach Freiburg fährt in ein paar Minuten ein. รถไฟที่จะไปไฟร์บวร์กกำลังวิ่งเข้ามาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้
promovieren(vi) |promovierte, hat promoviert| ศึกษาหรือเรียนระดับปริญญาเอก เช่น Meine Schwester promovierte im Jahr 1991 an der Mahidol Universität. น้องสาวของผมเรียนจบระดับปริญญาเอกจากที่มหาวิทยาลัยมหิดลในปี 1991, Syn. eine Doktorarbeit machen
Forschung(n) |die, pl. Forschungen| งานวิจัย
Unglück(n) |das, nur Sg.| ความโชคร้าย หรือ ไม่มีดวง, อุบัติเหตุ, โศกนาฏกรรม ตัวอย่างการใช้คำ 1° Bei diesem Unglück sind 13 Schüler aus Stuttgart gestorben. = ในโศกนาฏกรรม ครั้งนี้ ทำให้นักเรียนจากเมืองชตุ๊ดการ์ด, เยอรมนี ได้เสียชีวิตลง 13 คน 2° Busunglück = อุบัติเหตุโดยรถโดยสารประจำทาง ( ร้ายแรงกว่า Autounfall หน่อย เพราะจำนวนผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตมีจำนวนมากกว่า ) 3° Das bringt mir Unglück! = ผม ช่างโชคร้าย อะไรเช่นนี้ ( Unglück นิยมพูด โดยละ Artikel, das ) 4° Unglücklicherweise, daß ich deine Geschichte erfahren habe! = ช่างโชคร้าย อะไรเช่นนี้ ที่ผมต้องมารับรู้ เรื่องราวของคุณอย่างนี้นะ! ), See also: die Katastrophe, das Pech, Syn. der Unfall
unterbelichtet(adj, slang) ไม่ถนัด หรือ ไม่เก่ง ตัวอย่างการใช้คำ In Mathe bin ich unterbelichtet. = ผมไม่ถนัดวิชาเลข
wissenschaftlich(adj) ทางวิชาการ หรือ ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์หรือวิชาการ
in die Schule gehen(phrase) ไปเรียน หรือ ไปโรงเรียน สามารถแปลว่า ไปมหาวิทยาลัยได้ด้วย เช่น 1° a: Wann geht Ihr Sohn in die Schule? = ลูกชายคุณจะเข้าโรงเรียนเมื่อไหร่ครับ b: wahrscheinlich, nächstes Jahr! = อ๋อ ก็คงจะปีหน้านะ, Syn. zur Schule gehen
schwindelfrei(adj, adv) ไม่วิงเวียนหรือปวดศรีษะ เช่น เวลาขึ้นที่สูงๆ, See also: A. schwindelig
Bauzeichnung(n) |die, pl. Bauzeichungen| วิชาเขียนแบบโยธาฯ, งานเขียนแบบโยธาฯ
Baukonstruktion(n) |die, pl. Baukonstruktionen| วิชาโครงสร้างโยธาฯ, งานโครงสร้างโยธาฯ
Gefallene(n) |der, pl. Gefallenen| ทหารที่เสียชีวิตในสงคราม
Ablehnungsbescheid(n) |der| คำปฏิเสธ เช่น คำปฏิเสธเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย เป็นต้น, See also: A. der Zulassungsbescheid

German-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
*nblick { m }; Ansicht { f }; Sicht { f }; Blick { m }; Aus*n. ภาพ, ทิวทัศน์, ทัศนวิสัย, ทรรศนะ, สายตา, การมอง, การสังเกต, ข้อคิดเห็น, ทัศนคติ, จุดประสงค์, เจตนา, จุดมุ่งหมาย, การสำรวจทั่วไป, -Phr. (in view ภายในแนวสายตา ภายใต้การพิจารณา) -Phr. (in view of เมื่อพิจารณาถึงในเรื่องเกี่ยวกับ) vt. ดู, มอง, สังเกต, สำรวจ, ตรวจสอบ
Android { m }; Androide { m }คือแพลตฟอร์มใหม่สำหรับโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์พกพา ซึ่งประกอบด้วยระบบปฏิบัติการ ไลบรารี เฟรมเวิร์ค และซอฟต์แวร์อื่นๆ
der Meteorogin(n) นักอุตุนิยมวิทยาหญิง, See also: Meteoroge, Syn. Meteorologist
geprüft(เก-พรูฟ-เทอะ) vt. ทบทวน, ตรวจสอบอีก, พิจารณาใหม่, วิจารณ์, ตรวจพล, สังเกตการณ์ vi. เขียนบทวิจารณ์, เขียนบทปฏิทัศน์
herrlich(adj) วิเศษ ดีเยี่ยม งดงามยิ่ง in hohem Maß schön, gut odor angenehm <Wetter, ein Tag, Sonnenschein, ein Essen, ein Ausblick usw; etwas klingt, riecht, schmeckt herrlich> , See also: Hẹrrlichkeit
Kybernetik { f }; Regelungstechnik { f }(n) วิชาที่เกี่ยวกับการติดต่อ ควบคุมสัตว์เเล้วเครื่งจักร
Markgraf"มาร์คกราฟ" เป็นบรรดาศักดิ์เยอรมัน เทียบเท่ากับบรรดาศักดิ์ "มาร์ควิส" ของอังกฤษ, See also: Marquess, Marquis, Landgraf, Syn. Margrave
pretuval(n) วิตามิน
rennen(vi) วิ่
velo(n, slang) จักรยาน(เป็นคำที่ใช้ในสวิสเซอร์แลนด์)

French-Thai: Longdo Dictionary
faire un jogging(vt) วิ่งจ๊อกกิ้ง
Image:
Suisse(n) |f| ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, See also: suisse
Image:
suisse(adj) |ใช้รูปเดียวกันทั้งที่ขยายนามเพศชายและหญิง| ที่เกี่ยวกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์
Genève(n) la Genève = เมืองเจนีวา ในสวิตเซอร์แลนด์
enseignement supérieur(n) le, = การเรียนการสอนในระดับอุดมศุกษา, มหาวิทยาลัย
enseigner(vt) (donner un cours)สอนวิชาใดวิชาหนึ่ง , (apprendre)สอนให้ทำ
en(prep) ที่ (ใช้ตอบคำถาม ไปที่ไหน หรือ อยู่ที่ไหน) เช่น Le Chili, c'est en Amérique. ประเทศชิลีอยู่ในทวีปอเมริกา, Elle va à la fac chaque jour. เธอไปที่มหาวิทยาลัยทุกวัน
bête(n) la, = สิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่คน, สัตว์ ex; la belle et la bête = โฉมงามกับอสูร (การ์ตูนของวอลท์ดีสนีย์)
courrir(vi) 1) วิ่ง, วิ่งแข่ง, วิ่งตาม, รีบเร่ง ex: Ce chien a besoins de courir. 2) เสี่ยง ex: Il ne veut pas courrir ce risque. 3)ค้นหา(เกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆ) ex: Courir les filles., Syn. parcourir
Image:
course(n) n.f. การวิ่ง, การวิ่งแข่งขัน(กีฬา), การแข่งม้า (หรือสัตว์ชนิดอื่น เช่น กระต่าย)
thèse(n) |f, pl. thèses| วิทยานิพนธ์
écouter(vt) |je écoute, tu écoutes, il écoute, nous écoutons, vous écoutez, ils écoutent| ฟัง เช่น écouter un concert à la radio ฟังคอนเสิร์ตทางวิทยุ
recherche(n) |f| งานวิจัย, การวิจัย, Syn. étude
soutenance d'une thèse(n) |f| การแสดงผลงานวิทยานิพนธ์ที่ได้ศึกษา ก่อนจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก
chimie(n) |f| สาขาเคมี, วิชาเคมี
physique(n) |f| สาขาฟิสิกส์, วิชาฟิสิกส์
soutenir une thèse(vt) แสดงผลงานวิทยานิพนธ์ที่ได้ศึกษา ก่อนจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก

French-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
RAPEEPORN[ระ-พี-พร] (n) สิ่งมีชีวิต เคลื่อนไหวได้ มีความเป็นปัจเจกสูง ชอบทานมาม่าดิบ
République et Canton de Genèveสาธารณรัฐแห่งรัฐเจนีวา เป็นหนึ่งในยี่สิบหกรัฐของสมาพันธรัฐสวิ

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top