ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*ไม่ยอม*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ไม่ยอม, -ไม่ยอม-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary ไทย (TH) - ไทย (TH)
มนุษย์ป้าคำที่ใช้เรียกผู้ที่มีพฤติกรรมที่มีลักษณะที่เห็นแก่ตัว ทำสิ่งต่างๆ โดยไม่สนใจว่าจะทำให้ผู้อื่นหรือสังคมเดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การแย่งที่นั่งว่างในรถโดยสาธารณะ, การแซงคิวไม่ยอมต่อแถวคอยเวลาขึ้นรถไฟฟ้า, โดยส่วนมากจะเป็นสุภาพสตรีในวัยกลางคนจนถึงสูงอายุ จึงเป็นที่มาถึงคำว่า "ป้า​" เริ่มเป็นที่ใช้กันแพร่หลายในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ในช่วงปี 2557 โดยล่าสุดมีลือกันถึงกรณีมีผู้เปิดประตูรถแท็กซี่มีผู้โดยสารอยู่ขณะที่กำลังจอดติดไฟแดง ขอขึ้นไปนั่งด้วยหน้าตาเฉยโดยอ้างว่าขอติดรถไปด้วยตามเส้นทางที่ผ่าน

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
ไม่ยอม(v) refuse, See also: deny, be not willing to, not allow, say no, Syn. ไม่ยินยอม, ไม่สมยอม, Example: เจ้าของบ้านไม่ยอมให้ตำรวจขึ้นไปตรวจค้นชั้นบน, Thai Definition: อาการที่แสดงออกบอกให้รู้ว่าไม่เห็นด้วย ไม่ผ่อนผันให้
ไม่ยอมรับ(v) refuse to admit, See also: refuse to acknowledge, Syn. ไม่รับ, ไม่รับผิด, Example: จำเลยไม่ยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือสังหาร, Thai Definition: ให้คำตอบปฏิเสธ, ไม่ยอมสารภาพ

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ [with local updates]
เสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใครก. ไม่ยอมยกสามีให้หญิงอื่นแม้จะแลกกับทรัพย์สินเงินทองจำนวนมากก็ตาม.
กฎหมายปิดปากน. หลักกฎหมายที่ไม่ยอมให้อ้างหรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ผิดไปจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามพฤติการณ์ ไม่ว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม.
ก้นหนักก. นั่งอยู่ที่ใดที่หนึ่งได้นาน ๆ ไม่ลุกหรือขยับเขยื้อนไปไหนง่าย ๆ เช่น แม่คนนี้ก้นหนัก ไปนั่งคุยอยู่บ้านเพื่อนตั้งแต่เช้ายังไม่ยอมกลับ.
ก้มหัวก. น้อมหัวลงเพื่อแสดงกิริยาเคารพ, โดยปริยายหมายความว่า ยอมอ่อนน้อม (มักใช้ในความปฏิเสธ) เช่น ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร.
กระด้างกระเดื่องว. ไม่อ่อนน้อม, เอาใจออกหากไม่ยอมอ่อนน้อมอย่างเคย.
กระดูก ๓ว. ขี้เหนียวอย่างไม่ยอมให้อะไรแก่ใครง่าย ๆ เช่น เจ้านายคนนี้กระดูกจริง ๆ ดินสอแท่งเดียวก็ไม่ยอมให้เบิก.
กระดูกขัดมันว. ขี้เหนียวมากอย่างไม่ยอมให้อะไรแก่ใครง่าย ๆ เช่น แม่ค้าคนนี้กระดูกขัดมันเหลือเกิน เราซื้อผลไม้แกตั้งร้อยกว่าบาทขอแถมเงาะลูกหนึ่งก็ไม่ได้
กระต่ายสามขาว. ยืนกรานไม่ยอมรับ, กระต่ายขาเดียว ก็ว่า.
กลับลำก. เปลี่ยนความคิด เช่น เมื่อวานเขาให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่ยอมให้มีวันหยุดชดเชย วันนี้กลับลำอนุญาตให้มีตามเดิมแล้ว.
กอดเก้าอี้ก. ยึดตำแหน่ง, ไม่ยอมละตำแหน่ง, เช่น ไม่ว่างานของเขาจะล้มเหลวและก่อให้เกิดความเสียหายเพียงใด เขาก็กอดเก้าอี้แน่น ไม่ยอมลาออก.
กาหลงรังน. ผู้ที่ไปหลงติดอยู่ ณ บ้านใดบ้านหนึ่งแล้วไม่ยอมกลับบ้านของตน, ผู้เร่ร่อนไปไม่มีที่พักพิงเป็นหลักแหล่ง.
เกไม่ยอมปฏิบัติตามระเบียบ
เกลือจิ้มเกลือว. ไม่ยอมเสียเปรียบกัน, แก้เผ็ดให้สาสมกัน. น. คนเค็มต่อคนเค็มมาพบกัน.
เกี่ยงก. อาการที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมทำเพราะกลัวจะเสียเปรียบกันเป็นต้น.
โกงก. ใช้อุบายหรือเล่ห์เหลี่ยมหลอกลวง เช่น โกงเงิน, แสดงอาการดื้อไม่ยอมทำตาม เช่น เด็กโกง ม้าโกง.
ขวนขวาย(-ขฺวาย) ก. หมั่นเสาะแสวงหาเพิ่มเติมโดยไม่ยอมอยู่นิ่ง, ขวายขวน ก็ว่า.
ขวายขวน(ขฺวายขฺวน) ก. หมั่นเสาะแสวงหาเพิ่มเติมโดยไม่ยอมอยู่นิ่ง, ขวนขวาย ก็ว่า.
ขัดข้องก. ไม่ยอมให้ทำ, ไม่ตกลงด้วย, ติดขัด.
ขัดใจก. โกรธเพราะทำไม่ถูกใจ, ไม่ยอมให้ทำตามใจ.
ขิงก็ราข่าก็แรงต่างก็จัดจ้านพอ ๆ กัน, ต่างก็มีอารมณ์ร้อนพอ ๆ กัน, ต่างไม่ยอมลดละกัน.
ขี้แพ้ชวนตีก. แพ้ตามกติกาแล้วยังไม่ยอมรับว่าแพ้จะเอาชนะด้วยกำลัง, แพ้แล้วพาล.
ขืนไม่ควรทำแต่ยังกล้าทำ เช่น ขืนกิน ขืนสู้, ไม่ยอมทำตาม เช่น ขืนคำสั่ง.
เขยื้อน(ขะเยื่อน) ก. ไหวตัวหรือเคลื่อนที่, ทำให้ไหวตัวหรือให้เคลื่อนที่, (มักใช้แก่ของหนัก) เช่น ตู้ใบนี้หนักมาก ดันเท่าไรไม่เขยื้อนเลย, โดยปริยายหมายความว่า ขยับตัว เช่น เรียกใช้ให้ทำงานเท่าไร ๆ ก็นั่งนิ่งไม่ยอมเขยื้อน.
เข้า ๑ใช้ประกอบคำอื่นแสดงความหมายเร่งรัด เช่น เร็วเข้า คิดเข้า, ใช้ประกอบคำอื่นแสดงความหมายมากขึ้น เช่น หนักเข้า ดึกเข้า นานเข้า, ใช้ประกอบคำอื่นแสดงสภาพหรือความรู้สึกที่เกิดมีขึ้น เช่น พอสวยเข้าก็มีหนุ่ม ๆ มารุมจีบ พอเหนื่อยเข้าก็อยากจะเลิกทำ, ใช้ประกอบคำอื่นแสดงความหมายว่าหนุนให้ทำ (มักใช้ในความประชดประชัน) เช่น เอาเข้าไป ว่าแล้วยังไม่ยอมหยุด.
แข็งไม่ยอมง่าย ๆ, ไม่รู้สึกสงสาร, เช่น ใจแข็ง
แข็งข้อก. ไม่ยอมตาม, ตั้งข้อสู้.
แข็งเมืองก. กลับตั้งเป็นอิสระ, ไม่ยอมเป็นเมืองขึ้นอีกต่อไป.
แข่งดีก. มุ่งเอาชนะชิงดีชิงเด่นโดยไม่ยอมลดราวาศอกให้แก่กัน, มุ่งเอาชนะชิงดีชิงเด่นโดยไม่ยอมผ่อนปรนให้แก่กัน.
คว่ำบาตรก. ไม่ยอมคบค้าสมาคมด้วย, เดิมหมายถึงสังฆกรรมที่พระสงฆ์ประกาศลงโทษคฤหัสถ์ผู้ประทุษร้ายต่อศาสนาด้วยการไม่คบ ไม่รับบิณฑบาต เป็นต้น.
คอเป็นเอ็นว. ขึ้นเสียงเถียงโต้อย่างไม่ยอมลดละ, เถียงเก่ง, เช่น หวงแหนหึงผัวตัวเป็นเกลียว จนเสียงขุ่นเสียงเขียวคอเป็นเอ็น (คาวี).
คิดเล็กคิดน้อยก. คิดละเอียดถี่ถ้วนเกินไป ไม่ยอมเสียเปรียบใคร.
โค่ง ๒น. คำเรียกผู้บรรพชาเป็นสามเณรมาจนอายุครบอุปสมบทเป็นภิกษุแต่ไม่ยอมอุปสมบท ว่า เณรโค่ง.
งมงายก. หลงเชื่อโดยไม่มีเหตุผล หรือโดยไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นหรือเหตุผลของผู้อื่น.
จารีตนครบาลน. วิธีไต่สวนพิจารณาคดีนครบาลซึ่งเป็นคดีโจรผู้ร้ายหรือคดีที่มีโทษหลวง เมื่อคนร้ายจนต่อพยานหลักฐานแล้วแต่ยังไม่ยอมรับสารภาพ โดยให้ใช้ได้ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เช่น เฆี่ยน แต่ไม่ให้ถึงแก่ชีวิต.
ใจแข็งว. ไม่ยอมง่าย ๆ, ไม่รู้สึกสงสาร, อดกลั้นความเจ็บปวดหรือทุกข์โศกไว้ได้.
ใจหินว. มีใจโหดเหี้ยม, มีใจที่แข็งมากไม่ยอมโอนอ่อน, เช่น โจรใจหิน.
ชักดาบก. ไม่ยอมจ่ายเงิน.
ชี้ตาไม่กระพริบก. ดื้อมาก, สู้สายตาไม่ยอมแพ้, เช่น เหม่ ! ออนี่หนักหนา ชี้ตาไม่กระพริบเลย ว่าแล้วซิยังเฉยดื้อถือบุญ (ม. ร่ายยาว กุมาร).
เชื่อหน้าก. เชื่อในความซื่อสัตย์หรือความสามารถ เช่น ไม่มีใครเชื่อหน้าเขา เพราะชอบยืมเงินแล้วไม่ยอมใช้คืน นักกีฬาคนนี้แข่งแพ้อยู่เรื่อยจนไม่มีใครเชื่อหน้า.
ดอกพิกุลร่วงเรียกอาการที่นิ่งไม่ยอมพูด ว่า กลัวดอกพิกุลจะร่วง.
ดันทุรังว. ดื้อดึงไม่ยอมแพ้, ดื้อดึงไม่เข้าเรื่อง, ดัน ก็ว่า.
ดีดดิ้นก. เล่นตัวอย่างมีจริตหรือตั้งแง่ไม่ยอมทำหรือไม่ยอมให้ทำง่าย ๆ.
ดึงดื้อว. ดื้อไม่ยอมฟังเหตุผล, ดื้อดึง ก็ว่า.
ดื้อว. ไม่ยอมเชื่อฟังหรือทำตาม.
ดื้อด้านว. ดื้อมากแม้จะถูกลงโทษ ติเตียน หรือตำหนิหลายครั้ง ก็ไม่เข็ดหลาบหรือไม่ยอมฟัง.
ดื้อดึงว. ดื้อไม่ยอมฟังเหตุผล, ดึงดื้อ ก็ว่า.
ดื้อแพ่งก. ขัดขืนไม่ยอมปฏิบัติตาม, ขัดขืนไม่ยอมให้ความร่วมมือ.
ตระหนี่ตัวก. หวงตัว ไม่ยอมให้ใครอุ้ม (ใช้แก่เด็ก).
ตัดเชือกก. ตัดความสัมพันธ์ ไม่ยอมให้ความช่วยเหลืออีกต่อไป. น. การแข่งขันรอบ ๔ คนหรือ ๔ ทีมสุดท้าย.
ตามอำเภอใจว. เอาแต่ใจตัว ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
refuse๑. สละ, บอกปัด, ไม่ยอม๒. ขยะ, มูลฝอย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
repudiationการปฏิเสธ, การไม่ยอมรับ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
repudiation of a childการไม่ยอมรับเด็กว่าเป็นบุตร [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
standpatterผู้ยืนกราน (ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
muteไม่ยอมพูด, เป็นใบ้ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
mutism๑. การพูดไม่ได้๒. การไม่ยอมพูด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
closed-end mortgageการจำนองที่ไม่ยอมให้เพิ่มจำนวนหนี้ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
contumaxผู้ต้องหาที่ไม่ยอมไปศาล [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
disclaimerการบอกเลิกข้อเรียกร้อง, การไม่ยอมรับสิทธิ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
disavowปฏิเสธ, ไม่ยอมรับ (การกระทำที่ไม่ได้รับมอบหมาย) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
disallowance๑. การไม่ยอมรับกฎหมาย (ที่ออกโดยอาณานิคมหรือเขตสังกัด)๒. การบอกปัด (ข้อเรียกร้อง) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
failure to testifyการที่จำเลยไม่ยอมให้การ (ในคดีอาญา) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
impervious; impenetrable๑. -ผ่านไม่ได้๒. ไม่ยอมให้ผ่าน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
impenetrable; impervious๑. -ผ่านไม่ได้๒. ไม่ยอมให้ผ่าน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
irreconcilableไม่ยอมผ่อนปรน [ ดู intransigent ประกอบ ] [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
intransigentไม่ยอมอ่อนข้อ [ ดู irreconcilable ประกอบ ] [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
non-admissionการไม่ยอมรับ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
non placet (L.)ไม่ยอมรับ, ไม่รับรอง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
non-acceptanceการไม่รับรอง (ตั๋วแลกเงิน), การไม่ยอมรับมอบ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
wilful refusal to consummateการจงใจไม่ปฏิบัติตามหน้าที่คู่สมรส, การจงใจไม่ยอมอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Cap Rockชั้นหินที่ไม่ยอมให้ของเหลวหรือก๊าซไหลผ่าน, ชั้นหินที่ไม่ยอมให้ของเหลวหรือก๊าซไหลผ่าน ปิดทับอยู่ด้านบนของชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียม และปิดกั้นไม่ให้ไฮโดรคาร์บอนหนีออกมาถึงพื้นผิวดินได้ [ปิโตรเลี่ยม]
Rejectionสำนักงานสิทธิบัตรปฏิเสธ ไม่ยอมรับคำขอรับสิทธิบัตร [ทรัพย์สินทางปัญญา]
Consular office Declared ?Non grata?เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลจะถูกประกาศว่าไม่พึงปรารถนา หรือไม่พึงโปรดได้ ดังข้อ 23 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติไว้ด้วยข้อความดังนี้?1. รัฐผู้รับอาจบอกกล่าวแก่รัฐผู้ส่งในเวลาใดก็ได้ว่าพนักงานฝ่ายกงสุลเป็น บุคคลที่ไม่พึงโปรด หรือบุคคลอื่นใดในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลเป็นที่ไม่พึงยอมรับได้ ในกรณีนั้นรัฐผู้ส่งจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นกลับ หรือเลิกการหน้าที่ของผู้นั้นต่อสถานที่ทำการทางกงสุล แล้วแต่กรณี2. ถ้ารัฐผู้ส่งปฏิเสธหรือไม่นำพาภายในเวลาอันสมควรที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีของ ตนตามวรรค 1 ของข้อนี้ รัฐผู้รับอาจเพิกถอนอนุมัติบัตรจากบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น หรือเลิกถือว่าบุคคลนั้นเป็นบุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลก็ได้ แล้วแต่กรณี3. รัฐผู้รับอาจประกาศว่า บุคคลหนึ่งบุคคลใดซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล เป็นผู้ที่ไม่อาจยอมรับได้ ก่อนที่บุคคลนั้นจะมาถึงอาณาเขตของรัฐผู้รับ หรืออยู่ในรัฐผู้รับแล้ว แต่ก่อนเข้ารับหน้าของตนต่อสถานที่ทำการทางกงสุลก็ได้ ในกรณีใด ๆ เช่นว่านั้น รัฐผู้ส่งจะเพิกถอนการแต่งตั้งบุคคลนั้น4. ในกรณีที่ได้บ่งไว้ในวรรค 1 และ 3 ของข้อนี้ รัฐผู้รับไม่มีพันธะที่จะต้องให้เหตุผลในการวินิจฉัยของตนแก่รัฐผู้ส่ง?การ ที่รัฐผู้รับปฏิเสธที่จะออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตรหลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วนั้น เป็นสิทธิของรัฐผู้รับอันจะถูกโต้แย้งมิได้ ประเด็นที่เป็นปัญหาก็คือ รัฐผู้รับมีพันธะที่จะต้องอธิบายเหตุผลอย่างใดหรือไม่ ในการที่ปฏิเสธไม่ยอมออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตร หลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วข้อนี้ น้ำหนักของผู้ทรงอำนาจหน้าที่ดูแลจะเห็นคล้อยตามทรรศนะที่ว่า รัฐผู้รับไม่จำเป็นต้องแสดงเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้นในการกระทำดังกล่าวเหตุผลของการไม่ยอมออกอนุมัติบัตรให้นั้นคือว่า ผู้ที่ไม่เห็นด้วย หรือไปแสดงสุนทรพจน์อันมีข้อความเป็นที่เสื่อมเสียแก่รัฐผู้รับ หรือเคยมีส่วนร่วมในการก่อการกบฏต่อรัฐผู้รับหรือเข้าไปแทรกแซงกิจการการ เมืองภายในของรัฐผู้รับ เป็นต้น [การทูต]
Good Offices และ Mediationวิธีการที่จะระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐโดยฉันมิตร คำว่า Good Offices หมายถึง การช่วยเป็นสื่อกลาง ส่วน Mediation หมายถึง การไกล่เกลี่ยศัพท์ทั้งสองนี้หมายถึงวิธีการที่จะระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐ โดยฉันมิตร กล่าวคือ ในกรณีข้อพิพาทซึ่งการเจรจากันทางการทูตไม่สามารถตกลงกันได้ง่าย ๆ ดังนั้น รัฐที่สามอาจยื่นมือเข้าช่วยเป็นสื่อกลาง หน้าที่ในการนี้มิใช่ออกความเห็นหรือวินิจฉัยชี้ขาดว่าใครถูกใครผิดในกรณี ข้อพิพาท หากเป็นแต่เพียงแสวงหาลู่ทางที่จะระงับข้อพิพาทจะต้องมีให้น้อยที่สุดเท่า ที่จะทำได้ และถือว่าเป็นกาดรกระทำฉันมิตร (Friendly act) คู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจปฏิเสธข้อเสนอได้โดยไม่ถือว่าเป็นความผิดทางการ เมือง หรือคู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจขอร้องให้ช่วยเป็นสื่อกลาง หรือให้ช่วยไกล่เกลี่ย ตามธรรมดาการช่วยเป็นสื่อกลางนั้นเป็นเพียงการเข้าช่วยงานพื้นฐาน หรือให้มีการเริ่มต้นการเจรจาเท่านั้น ส่วนงานเจรจาที่จะกระทำโดยตรงกว่าจะมีลักษณะเป็นการไกล่เกลี่ย แต่ในทางปฏิบัติไม่ค่อยมีการคำนึงกันนักถึงความแตกต่างจริงๆ ระหว่างวิธีทั้งสอง คู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจปฏิเสธไม่ยอมรับการไกล่เกลี่ยไม่ว่าเวลาใดก็ได้ จะเห็นได้ว่า การช่วยเป็นสื่อกลางกับการไกล่เกลี่ยนั้นแตกต่างกัน คือ ในกรณีการช่วยเป็นสื่อกลาง ฝ่ายที่สามจะกระทำแต่เพียงช่วยให้มีการหันหน้าเข้าเจรจากันระหว่างคู่พิพาท ส่วนในกรณีการไกล่เกลี่ย ฝ่ายที่สามพยายามจัดให้มีการเจรจากันจริง ๆ ตามมูลฐานข้อเสนอของตน ฝ่ายที่เสนอช่วยเป็นสื่อกลางหรือช่วยไกล่เกลี่ยนั้น อาจจะมาจากประเทศที่สาม หรือจากองค์การระหว่างประเทศ หรือจากบุคคลธรรมดาคนหนึ่งก็ได้ [การทูต]
International Court of Justiceศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1945 ตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ กฎข้อบังคับ (Statute) ของศาลโลกนั้นได้ผนวกอยู่ท้ายกฎบัตรของสหประชาชาติ และถือเป็นส่วนสำคัญอย่างแยกจากกันมิได้ของกฎบัตร ศาลนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นองค์กรแห่งศาลหรือแห่งตุลาการสำคัญที่สุดขององค์การสหประชาชาติ ประเทศใดที่เข้าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลก ย่อมมีสิทธิที่จะส่งคดีใดก็ตามไปให้ศาลโลกพิจารณาได้ ภายใต้เงื่อนไขที่คณะมนตรีความมั่นคงได้จัดวางไว้ นอกจากนั้น คณะมนตรีความมั่นคงก็อาจจะส่งกรณีพิพาททางกฎหมายไปให้ศาลพิจารณาได้ทั้ง สมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงสามารถขอคำปรึกษาหรือความเห็นจากศาลเกี่ยวกับ ปัญหาข้อกฎหมายใดๆ และองค์กรอื่น ๆ ของสหประชาชาติ อันรวมถึงองค์การชำนัญพิเศษ ก็สามารถขอคำปรึกษา หรือความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางกฎหมายใดๆ ที่อยู่ภายในกรอบของงานที่ปฏิบัติอยู่ แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับอนุมัติเห็นชอบจากสมัชชาสหประชาชาติก่อน สมัชชาเคยมอบอำนาจเช่นนี้แก่คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะมนตรีภาวะทรัสตี คณะกรรมาธิการระหว่างกาล (Interim Committee) ของสมัชชา รวมทั้งองค์กรระหว่างรัฐบาลบางแห่งด้วยรัฐทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของสหประชา ชาติถือว่าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกไปในตัว ส่วนประเทศใดที่มิใช่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็อาจเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกได้ ตามเงื่อนไขที่สมัชชาสหประชาชาติเป็นผู้กำหนดเป็นราย ๆ ไป ตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง ศาลโลกมีอำนาจที่จะพิจารณาปัญหาทั้งหลายที่รัฐสมาชิกขอให้พิจารณา รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ทั้งหลายที่ระบุอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ และตามสนธิสัญญาหรืออนุสัญญาที่ใช้บังคับอยู่ รัฐสมาชิกย่อมยอมผูกพันตนล่วงหน้าได้ที่จะยอมรับอำนาจศาลในกรณีพิเศษต่าง ๆ โดยจะต้องลงนามในสนธิสัญญา หรืออนุสัญญาซึ่งยอมให้ส่งเรื่องไปที่ศาลได้ หรือออกประกาศเป็นพิเศษว่าจะปฏิบัติเช่นนั้น ในคำประกาศเช่นนั้นจะต้องระบุว่ายอมรับอำนาจบังคับของศาลโลก และอาจจะยกเว้นคดีบางประเภทมิให้อยู่ในอำนาจของศาลได้ ในการวินิจฉัยลงมติ ศาลโลกจะอาศัยแหล่งที่มาของกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้ คือ- สัญญาหรืออนุสัญญาระห่างประเทศซึ่งวางกฎข้อบังคับที่รัฐคู่กรณียอมรับ- ขนบธรรมเนียมระหว่างประเทศซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปตามที่ กฎหมายรับรองศาลโลกอาจจะตัดสินชี้ขาดว่าสิ่งใดยุติธรรมและดี โดยรัฐภาคีที่เกี่ยวข้องตกลงเห็นชอบด้วยคณะมนตรีความมั่นคงอาจจะรับการขอ ร้องจากรัฐภาคีหนึ่งใดในกรณีพิพาท ให้กำหนดมาตรการที่จะใช้เพื่อให้คำตัดสินของศาลมีผลบังคับ ถ้าคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใต้อำนาจศาลศาลโลก ประกอบด้วยผู้พิพากษารวม 15 ท่าน ซึ่งถือกันว่าเป็น ?สมาชิก? ของศาล และได้รับเลือกตั้งจากสมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ผู้พิพากษาเหล่านี้จะมีอำนาจออกเสียงลงคะแนนอย่างอิสระเสรีหลักเกณฑ์การคัด เลือกผู้พิพากษาศาลโลกจะถือตามคุณสมบัติขอผู้พิพากษานั้น ๆ มิใช่ถือตามสัญชาติของบุคคลดังกล่าว อย่างไรก็ดี จะมีการระมัดระวังด้วยว่า กฎหมายที่นำมาใช้ในศาลจะต้องมาจากระบบกฎหมายที่สำคัญ ๆ ของโลก ในศาลโลกจะมีผู้พิพากษาที่เป็นชาติเดียวกันมากกว่าหนึ่งคนไม่ได้ ผู้พิพากษาทั้งหลายจะมีสิทธิ์ดำรงอยู่ในตำแหน่งได้ เป็นเวลา 9 ปี มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งซ้ำได้ และระหว่างที่ดำรงอยู่ในตำแหน่ง จะต้องไม่ประกอบอาชีพการงานอื่นใดทั้งสิ้น [การทูต]
Iron Curtainม่านเหล็ก เป็นศัพท์ที่อดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ผู้ล่วงลับไปแล้ว คือ เซอร์วินสตัน เชอชิลล์ เป็นผู้บัญญัติขึ้นหมายถึงเครื่องกีดขวางปิดกั้นเขต ซึ่งโซเวียตรัสเซียและประเทศคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกไม่ยอมให้มีการ ติดต่อหรือเดินทางเข้าไปในอาณาเขตของประเทศดังกล่าว ที่เรียกกันว่า ประเทศหลังม่านเหล็ก เป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองในระหว่างสงครามเย็น แต่ภายหลังที่ลัทธิคอมมิวนิสต์ล่มสลาย ม่านเหล็กก็พลอยหมดสภาพไปในที่สุด [การทูต]
Neutralization, Neutrality หรือ Neutralismคำว่า Neutraliza-tion หมายถึง กระบวนการซึ่งรัฐได้รับการค้ำประกันความเป็นเอกราชและบูรณภาพอย่างถาวรภาย ใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ รัฐที่ได้รับการประกันรับรองให้เป็นกลาง (Neutralized State) เช่นนี้จะผูกมัดตนว่า จะละเว้นจาการใช้อาวุธโจมตีไม่ว่าประเทศใดทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าจะถูกโจมตีก่อน ตัวอย่างอันเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความ เป็นกลางอย่างถาวร คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามปฏิญญา (Declaration) ซึ่งมีการลงนามกัน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1815 ประเทศใหญ่ ๆ ในสมัยนั้น คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษ ปรัสเซีย และรัสเซีย ได้รับรองว่า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม จึงเป็นการจำเป็นที่จะให้รัฐเฮลเวติก(Helvetic Swiss States) ได้รับการประกันความเป็นกลางตลอดไป ทั้งยังประกาศด้วยว่า รัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์ตกลงรับปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้ระบุไว้เมื่อไร ความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์ก็จะได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางในทันที และแล้วสมาพันธ์สวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประกาศยอมรับปฏิบัติตาม หรือให้ภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1815 บรรดาประเทศที่รับรองค้ำประกันความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์จึงประกาศ รับรองดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1815 อนึ่ง การค้ำประกันความเป็นกลางในลักษณะที่ครอบคลุมทั้งประเทศของรัฐใดรัฐหนึ่ง นั้น มีความแตกต่างกับการค้ำประกันเพียงดินแดนส่วนใดส่วนหนึ่งของรัฐหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าดินแดนส่วนหนึ่งของรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางจะ ไม่ยอมให้ฝ่ายใดใช้ดินแดนส่วนที่ค้ำประกันนั้นเป็นเวทีสงครามเป็นอันขาด การค้ำประกันความเป็นกลางยังมีอีกแบบหนึ่งคือ รัฐหนึ่งจะประกาศตนแต่ฝ่ายเดียวว่าจะรักษาความเป็นกลางของตนตลอดไปโดยถาวร แต่ในกรณีเช่นนี้ ความเป็นเอกราชและบูรณภาพของรัฐที่ประกาศตนเป็นกลางเพียงฝ่ายเดียว จะไม่ได้รับการค้ำประกันร่วมกันจากรัฐอื่น ๆ แต่อย่างใดส่วนคติหรือลัทธิความเป็นกลาง (Neutralism) เป็นศัพท์ที่หมายถึงสถานภาพของรัฐต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการน้ำประเทศของตนเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสงครามเย็น ( Cold War) ที่กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ระหว่างกลุ่มประเทศภาคตะวันออกกับกลุ่มประเทศภาค ตะวันตก นอกจากนี้ ผู้นำบางคนในกลุ่มของรัฐที่เป็นกลาง ไม่เห็นด้วยกีบการที่ใช้คำว่า ?Neutralism? เขาเหล่านี้เห็นว่าควรจะใช้คำว่า ?ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด? ( Uncommitted ) มากกว่าจะเห็นได้ว่า คำว่า ?ความเป็นกลาง? ( Neutrality ) นั้น หมายถึงความเป็นกลางโดยถาวร ซึ่งได้รับการค้ำประกันจากกลุ่มประเทศกลุ่มหนึ่ง เช่นในกรณีประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้หรือหมายถึงความเป็นกลางเฉพาะในดินแดน ส่วนหนึ่งของรัฐที่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปทำสงครามกันในดินแดนที่เป็นกลางส่วน นั้นเป็นอันขาดก็ได้ ดังนั้น พอจะเห็นได้ว่า แก่นแท้ในความหมายของความเป็นกลาง ( Neutrality) จึงอยู่ที่ท่าที หรือ ทัศนคติของประเทศที่ดำรงตนเป็นกลาง ไม่ต้องการเข้าข้างประเทศคู่สงครามใด ๆ ในสงคราม ในสมัยก่อนผู้คนยังไม่รู้จักความคิดเรื่องความเป็นกลางดังที่รู้จักเข้าใจ กันในปัจจุบัน ความเป็นกลางเป็นผลมาจากการทยอยวางหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของความเป็นกลาง นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน [การทูต]
Niccolo Machiavelli (1469-1527)คือรัฐบุรุษและปรัชญาเมธีทางการเมืองของสาธารณรัฐ ฟลอเรนส์ (Florence) ระหว่างรับราชการ ท่านดำรงตำแหน่งฝ่ายธุรการหลายตำแหน่งซึ่งไม่สู้มีความสำคัญเท่าใด แต่สิ่งที่ท่านสนใจมากที่สุดได้แก่ศิลปะของการเมือง หนังสือสำคัญ ๆ ที่ท่านประพันธ์ขึ้นไว้คือ The Prince เล่มหนึ่ง อีกเล่มหนึ่งชื่อ The Art of War และอีกเล่มหนึ่งคือ Discourses on the First Ten Books of Livyมีนักเขียนหลายคนวิพากษ์ Machiavelli ที่แสดงความเห็นสนับสนุนว่า รัฐบาลใดก็ตมที่ต้องการรักษาอำนาจการปกครองตนให้เข้มแข็งไว้ ย่อมจะใช้วิถีทางใด ๆ ก็ได้ ถึงแม้หนทางเช่นนั้นจะผิดกฎหมายหรือไร้ศีลธรรมก็ตาม และก็มีนักเขียนอีกหลายคนสนับสนุนท่าน โดยชี้ให้เห็นว่า ท่านเป็นแต่เพียงตีแผ่ให้เห็นพฤติกรรมที่แท้จริงของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในยุคสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่มากกว่าอย่างอื่น อาทิเช่น ในหนังสือ The Prince ของท่านตอนหนึ่งอ้างว่า การต่อสู้นั้นมีอยู่สองวิธี วิธีแรกเป็นการต่อสู้โดยวิถีทางกฎหมาย อีกวิธีหนึ่งคือการต่อสู้โดยใช้กำลัง (Force) วิธีแรกนั้นเป็นวิธีที่มนุษย์พึงใช้ ส่วนวิธีที่สองเป็นวิธีเยี่ยงสัตว์ป่า แต่การใช้วิธีแรกมักจะไม่ค่อยได้ผลเสมอไป เพราะไม่เพียงพอ ก็ย่อมจะหันเข้าใช้วิธีที่สองได้ ฉะนั้น ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้น ซึ่ง Machiavelli เรียกว่า Prince จึงจำเป็นต้องรู้ดีว่าจะใช้ทั้งวิธีที่มนุษย์จะพึงใช้ และวิธีเยี่ยงสัตว์ป่าอย่างไร ด้วยเหตุนี้ ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้นไม่จำเป็นต้องมีสัจธรรม หากการกระทำนั้น ๆ จะทำความเสียหายแก่ผลประโยชน์ของประเทศ ท่านเห็นว่า หากมนุษย์ทุกคนเป็นคนดี กฎเช่นนี้ก็เป็นกฎที่ไม่ถูกต้อง แต่โดยที่มนุษย์ไม่ใช่คนดีทั้งหมด ในเมื่อเขาไม่ยอมให้ความศรัทธาความไว้วางใจในตัวท่าน ก็ไม่มีอะไรที่จะมาห้ามมิให้ท่านเลิกศรัทธากับเขาเหล่านั้นได้ [การทูต]
persona non grataบุคคลทางการทูตที่รัฐผู้รับไม่ยอมรับ เช่น กรณีนักการทูตทำผิดกฎหมายหรือข้อบังคับทางศาสนาในประเทศที่พำนักอยู่ จนทางรัฐบาลของประเทศนั้นไม่อาจยอมรับได้และต้องให้เดินทางกลับออกนอกประเทศ นั้น อย่างไรก็ตาม นักการทูตอาจถูกรัฐบาลของรัฐผู้รับให้ออกนอกประเทศเป็น persona non grata ด้วยเหตุผลของการดำเนินการโต้ตอบทางการเมืองระหว่างรัฐผู้รับและรัฐผู้ส่งก็ เป็นได้ โดยที่นักการทูตผู้นั้นมิได้กระทำผิดกฎหมายของรัฐผู้รับหรือกระทำผิดทาง ศาสนาของรัฐผู้รับแต่อย่างใด [การทูต]
Potsdam Proclamationคือคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดม ออกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 โดยหัวหน้าคณะรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และจีน ลงนามโดยประธานาธิบดีของรัฐบาลจีนคณะชาติ เป็นคำประกาศเมื่อตอนใกล้จะเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง โดยฝ่ายสัมพันธมิตรดังกล่าวกำลังทำสงครามขับเคี่ยวอยู่กับฝ่ายญี่ปุ่น พึงสังเกตว่า สหภาพโซเวียต ในตอนนั้นมิได้มีส่วนร่วมในการออกคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดมแต่อย่างใดโดยแท้จริงแล้ว คำประกาศนี้เท่ากับเป็นการยื่นคำขาดให้ฝ่ายญี่ปุ่นตัดสินใจเลือกเอาว่าจะทำ การสู้รบต่อไป หรือจะยอมจำนนเพื่อยุติสงคราม คำประกาศได้เตือนอย่างหนักแน่นว่า หากญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะสู้รบต่อไป แสนยานุภาพอันมหาศาลของสัมพันธมิตรก็จะมุ่งหน้าโจมตีบดขยี้กองทัพและประเทศ ญี่ปุ่นให้แหลกลาญ แต่หากว่าญี่ปุ่นยอมโดยคำนึงถึงเหตุผล ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้ตั้งเงื่อนไขไว้หลายข้อ สรุปแล้วก็คือ ลัทธิถืออำนาจทหารเป็นใหญ่จะต้องถูกกำจัดให้สูญสิ้นไปจากโลกอำนาจและอิทธิพล ของบรรดาผู้ที่ชักนำให้พลเมืองญี่ปุ่นหลงผิด โดยกระโจนเข้าสู่สงครามเพื่อครองโลกนั้น จะต้องถูกทำลายให้สิ้นซาก รวมทั้งพลังอำนาจในการก่อสงครามของญี่ปุ่นด้วยจุดต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด จะต้องถูกยึดครองไว้จนกระทั่งได้ปฏิบัติตามจุดมุ่งหมายของสัมพันธมิตรเป็นผล สำเร็จแล้ว อำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่นให้จำกัดอยู่เฉพาะภายในเกาะฮอนซู ฮ็อกไกโด กิวชู ชิโกกุ และเกาะเล็กน้อยอื่น ๆ ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด อาชญากรสงครามทุกคนจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาล รวมทั้งที่ทำทารุณโหดร้ายต่อเชลยศึกของสัมพันธมิตร รัฐบาลญี่ปุ่นจะต้องกำจัดสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อการรื้อฟื้น และเสริมสร้างความเชื่อถือในหลักประชาธิปไตยในระหว่างพลเมืองญี่ปุ่น และจัดให้มีเสรีภาพในการพูด การนับถือศาสนา และในการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการด้านอุตสาหกรรมที่จะเกื้อกูลต่อภาวะ เศรษฐกิจของประเทศ และความสามารถที่จะชำระค่าปฏิกรรมสงคราม แต่จะไม่ยอมให้คงไว้ซึ่งกิจการอุตสาหกรรมชนิดที่จะช่วยให้ญี่ปุ่นสร้างสม อาวุธเพื่อทำสงครามขึ้นมาอีก ในทีสุด กำลังทหารสัมพันธมิตรจะถอนตัวออกจากประเทศญี่ปุ่นในทันทีที่จุดประสงค์ต่าง ๆ ได้บรรลุผลเรียบร้อยแล้ว ในตอนท้ายของเงื่อนไข สัมพันธมิตรได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข เสียโดยไว [การทูต]
United Nations Emergency Forceกองกำลังฉุกเฉินของสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1956 สมัชชาแห่งสหประชาชาติได้ขอรัองให้เลขาธิการสหประชาชาติเสนอแผนการภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อจัดตั้งกองกำลังระหว่างชาติของสหประชาชาติ โดยได้รับอนุมัติจากชาติที่เกี่ยวข้อง ให้ทำหน้าที่ยุติและควบคุมดูแลการหยุดรบในประเทศอียิปต์ วันรุ่งขึ้น คือ วันที่ 5 พฤศจิกายน สมัชชาก็ได้ลงมติให้จัดตั้งกองบัญชาการแห่งสหประชาชาติขึ้นปรากฏว่า ผู้แทนของสหภาพโซเวียตได้กล่าวอ้างว่า การจัดตั้งกองกำลังดังกล่าวเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ โดยยกบทที่ 7 ของกฎบัตรขึ้นมาอ้างว่า คณะมนตรีความมั่นคงองค์กรเดียวเท่านั้น ที่กฎบัตรให้อำนาจจัดตั้งกองกำลังระหว่างชาติได้ ด้วยเหตุนี้ สหภาพโซเวียตและอีกบางประเทศจึงแถลงว่า จะไม่ยอมมีส่วนร่วมในการออกเงินค่าใช้จ่ายสำหรับกองกำลังดังกล่าวโดยเด็ดขาด พึงสังเกตว่า การที่สหภาพโซเวียตอ้างยืนยันว่า คณะมนตรีความมั่นคงเท่านั้นที่กฎบัตรสหประชาชาติให้อำนาจตั้งกองกำลังสห ประชาชาติได้ ก็เพราะหากยินยอมตามข้ออ้างของสหภาพโซเวียตดังกล่าว จะไม่มีทางจัดตั้งกองกำลังขึ้นได้เลย เพราะสหภาพโซเวียตจะใช้สิทธิยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคงอย่างไม่ต้องสงสัย [การทูต]
Work of the United Nations for the Independence of Colonial Peoplesงานขององค์การสหประชาชาติ ในการช่วยให้ชาติอาณานิคมทั้งหลายได้รับความเป็นเอกราช นับตั้งแต่เริ่มตั้งองค์การสหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ.1945 เป็นต้นมา มีชนชาติของดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเอง รวมทั้งดินแดนในภาวะทรัสตีตามส่วนต่าง ๆ ของโลก ได้รับความเป็นเอกราชไปแล้วไม่น้อยกว่า 170 ล้านคน ดินแดนที่แต่ก่อนยังไม่มีฐานะปกครองตนเองราว 50 แห่งได้กลายฐานะเป็นรัฐเอกราช มีอธิปไตยไปแล้ว ขณะนี้ยังเหลือดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเองอีกไม่มาก กำลังจะได้รับฐานะเป็นประเทศเอกราชต่อไปแม้ว่าปัจจัยสำคัญที่สุดซึ่งทำให้ เกิดวิวัฒนาการอันมีความสำคคัญทางประวัติศาสตร์ จะได้แก่ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของประชาชนในดินแดนเมืองขึ้นทั้งหลาย แต่องค์การสหประชาชาติก็ได้แสดงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนชนชาติ ที่ยังมิได้เป็นเอกราช และชาติที่ยังปกครองดินแดนเหล่านั้นอยู่ ให้รีบเร่งที่จะให้ชาชาติในดินแดนเหล่านั้นได้รับฐานะเป็นเอกราชโดยเร็วที่ สุดเท่าที่จะเป็นไปได้การที่องค์การสหประชาชาติมีบทบาทหน้าที่ดังกล่าวเพราะ ถือตามหลักแห่งความเชื่อศรัทธาที่ว่า มนุษย์ไม่ว่าชายหรือหญิง และชาติทั้งหลายไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกัน และได้ยืนยันความตั้งใจอันแน่วแน่ของประเทศสมาชิกที่จะใช้กลไกระหว่างประเทศ ส่งเสริมให้ชนชาติทั้งหลายในโลกได้ประสบความก้าวหน้าทั้งในทางเศรษฐกิจและ สังคมนอกจากนั้น เพื่อเร่งรัดให้ชนชาติที่ยังอยูใต้การปกครองแบบอาณานิคมได้ก้าวหน้าไปสู่ เอกราช สมัชชาของสหประชาชาติ (General Assembly of the United Nations) ก็ได้ออกปฏิญญา (Declaration) เกี่ยวกับการให้ความเป็นเอกราชแก่ประเทศและชนชาติอาณานิคม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 ซึ่งในปฏิญญานั้น ได้ประกาศยืนยันความจำเป็นที่จะให้ลัทธิอาณานิคมไม่ว่าในรูปใด สิ้นสุดลงโดยเร็วและปราศจากเงื่อนไขใด ๆ สมัชชายังได้ประกาศด้วยว่า การที่บังคับชนชาติอื่นให้ตกอยู่ใต้อำนาจการปกครอง แล้วเรียกร้องประโยชน์จากชนชาติเหล่านั้น ถือว่าเป็นการปฏิเสธไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชนขั้นมูลฐาน เป็นการขัดกับกฎบัตรของสหประชาชาติ เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือของโลกสมัชชาสหประชาชาติ ยังได้ประกาศต่อไปว่า จะต้องมีการดำเนินการโดยด่วนที่สุด โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อสงวนใด ๆ ตามเจตนารมณ์ ซึ่งแสดงออกอย่างเสรี โดยไม่จำกัดความแตกต่างในเรื่องเชื้อชาติ หลักความเชื่อถือ หรือผิว เพื่อให้ดินแดนทั้งหลายที่ยังไม่ได้มีการปกครองของตนเองเหล่านั้นได้รับความ เป็นเอกราชและอิสรภาพโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1961 สมัชชาสหประชาชาติก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อตรวจดูและให้มีการปฏิบัติให้เป็นตามคำปฏิญญาของสหประชาชาติ และถึงสิ้นปี ค.ศ. 1962 คณะกรรมการดังกล่าวได้ประชุมกันหลายต่อหลายครั้งทั้งในและนอกสำนักงานใหญ่ ขององค์การสหประชาชาติ แล้วรวบรวมเรื่องราวหลักฐานจากบรรดาตัวแทนของพรรคการเมืองทั้งหลาย จากดินแดนที่ยังไม่ได้รับการปกครองตนเอง แล้วคณะกรรมการได้ตั้งข้อเสนอแนะต่าง ๆ โดยมุ่งจะเร่งรัดให้การปกครองอาณานิคมสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ [การทูต]
Allograft, Rejection ofการไม่ยอมรับเนื้อเยื่อที่นำมาปลูกฝัง [การแพทย์]
Denialไม่ยอมรับรู้, ปฏิเสธ, ไม่ยอมรับความเป็นจริง, การปฏิเสธ [การแพทย์]
Disapprovalไม่ยอมรับ [การแพทย์]
Foreign Tissue, Rejection ofการไม่ยอมรับสิ่งแปลกปลอม [การแพทย์]
capacitorตัวเก็บประจุ, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งมีสมบัติในการเก็บประจุไฟฟ้า ตัวเก็บประจุอย่างง่าย ๆ ประกอบด้วยแผ่น  ตัวนำคู่เดียวหรือหลายคู่ซึ่งมีฉนวนคั่นระหว่าง แผ่นตัวนำ มีสมบัติสำคัญ  อีกประการหนึ่ง คือให้ไฟฟ้ากระแสสลับผ่านได้แต่ไม่ยอมให้ไฟฟ้า กระแสตรงผ่าน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
Mutismการไม่ยอมพูด, ใบ้, ความเป็นใบ้, การไม่พูดเพราะเหตุผลในจิตสำนึกและจิตไร้สำนึก, พูดไม่ได้ [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
I wouldn't give up what I have for a thousand lives like the Lintons.ฉันจะไม่ยอมแลกสิ่งที่มี แม้กับร้อยชีวิต อย่างพวกลินตันก็ตาม Wuthering Heights (1992)
I shall not stay to be laughed at.ฉันจะไม่ยอมทน ยืนเป็นตัวตลกให้หัวเราะใส่ Wuthering Heights (1992)
And she's sulked since yesterday's walk when I sent her out of your company.หล่อนยังโมโหฉัน\ ตั้งแต่ที่เดินเล่นเมื่อวาน เพราะฉันไม่ยอม ให้หล่อนอยู่ใกล้เธออีกด้วย Wuthering Heights (1992)
He knows Uncle Edgar won't allow it while he lives, but he's afraid of my dying if we wait.ท่านรู้ว่าท่านลุงเอ็ดการ์ ไม่ยอมแน่ๆ ตอนท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่ท่านกลัว ว่าฉันจะตายก่อนหากเรารอ Wuthering Heights (1992)
It opened by itself, and it won't close.มันเปิดออกเอง แล้วไม่ยอมปิด The Lawnmower Man (1992)
And you won't let the big guy talk, is that it?และนายก็ไม่ยอมให้เจ้าตัวโตพูด ใช่มั้ย Of Mice and Men (1992)
So the girl starts screaming, and that gets Lennie all mixed up, so he holds on and he won't let go, cos that's the only thing he can think to do.ผู้หญิงเริ่มหวีดร้อง ทำให้เลนนี่สับสน เขาก็เลยกอดเธอ เอาไว้ไม่ยอมปล่อย เพราะนั่นเป็นสิ่งเดียวที่เขาคิดออก Of Mice and Men (1992)
I know a little place where you can get cheap, but they ain't giving it away.ฉันรู้จักที่เล็ก ๆ ราคาถูก แต่พวกเขาไม่ยอมปล่อยขาย Of Mice and Men (1992)
My old lady wouldn't let me, but this guy says I coulda.แม่ฉันไม่ยอม แต่ชายคนนี้พูดว่าได้ Of Mice and Men (1992)
I ain't gonna let him hurt Lennie.ฉันจะไม่ยอมให้เขาทำร้ายเลนนี่ Of Mice and Men (1992)
You don't even wash properly and you're rude to your sisters and to me.น้ำก็ไม่ยอมอาบ ลูกหยาบคายกับพี่สาว แล้วก็แม่ด้วย The Cement Garden (1993)
I'm certainly not gonna allow you to embarrass ours.ผมไม่ยอมให้คุณมาทำความเสื่อมเสีย กับประเทศเราเด็ดขาด Cool Runnings (1993)
I see a badass mother who don't take no crap off nobody!ฉันเห็นยอดีฝมือ ที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร! Cool Runnings (1993)
- Who don't take no... -- ที่ไม่ยอม... Cool Runnings (1993)
- Who won't take no crap off of nobody!- ที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร! Cool Runnings (1993)
I see a badass mother who won't take no crap off of nobody!ฉันเห็นยอดีฝมือ ที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร! Cool Runnings (1993)
I see a badass mother who won't take no crap off of nobody!ฉันเห็นยอดีฝมือ ที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร! Cool Runnings (1993)
Now you listen to me, buddy.ทีนี้นายฟังฉันให้ดีนะ ฉันไม่ยอมให้นายมาพูดแบบนี้กับฉัน Cool Runnings (1993)
I always try to picture in my mind what really happened, but she would never explain.ฉันพยายามจะนึกภาพอยู่ในหัวเสมอ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่แม่ก็ไม่ยอมอธิบายอะไร The Joy Luck Club (1993)
How can you not tell her?เธอไม่ยอมบอกได้ยังไง The Joy Luck Club (1993)
Then she never go to China, never go to see her sister.งั้นเธอก็จะไม่ยอมไปเมืองจีน ไม่ได้ไปพบกับพวกพี่สาวของเธอเลย The Joy Luck Club (1993)
My son says... you often refuse... to sleep with him.ลูกชายฉันบอกว่าเธอปฏิเสธ... ไม่ยอมนอนกับเขาตลอด The Joy Luck Club (1993)
I still won't.แต่หนูไม่ยอมเล่น The Joy Luck Club (1993)
I wasn't gonna let her get away with it this time, making me feel bad about Rich, the love of my life who treated me like I was perfect.ฉันจะไม่ยอมปล่อยแม่เอาไว้อีกแล้วครั้งนี้ ทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีกับริช คนรักของชีวิตฉัน คนที่ทำกับฉันเหมือนกับว่าฉันเพอร์เฟ็ค The Joy Luck Club (1993)
But she would never talk about it except to say that she had been married to a bad man in China.แต่เธอไม่ยอมจะพูดถึงมัน... เว้นแต่เรื่องที่เธอเคย แต่งงานกับผู้ชายเลวๆในเมืองจีน The Joy Luck Club (1993)
But I will not have her buy you for such a cheap price.แต่แม่จะไม่ยอมให้เธอมาซื้อ ตัวลูกไปในราคาถูกๆหรอก The Joy Luck Club (1993)
But I know you won't. [ Laughs ]แต่เธอคงไม่ยอม Schindler's List (1993)
I told you to stay out of this.คุณไม่ยอมฟังผม หรือไง Deep Throat (1993)
Your body goes peculiar with your period and doesn't stop until menopause.ร่างกายเป็นประจำเดือน และไม่ยอมหยุดจนเข้าวัยทอง Junior (1994)
He's creepy, Larry. I'm not goin' back to him.ลาร์รี่เขาน่ารังเกียจ ฉันไม่ยอมกลับไปหาเขาแน่ Junior (1994)
Can't allow it! He's in a very delicate condition.ฉันไม่ยอมหรอก เขาอยู่ในสภาวะที่อ่อนไหวมาก Junior (1994)
Wildly killing people you don't give a shit about... but you won't get the bastards that killed my whole family?ตอนคุณฆ่าคนคุณไม่เห็นสน... แต่คุณไม่ยอมฆ่าไอ้เลว ที่มันฆ่าครอบครัวของฉันทั้งหมด Léon: The Professional (1994)
- I ain't giving her the shot. I never done this before.- ฉันไม่ยอมให้เธอยิง ผมไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน Pulp Fiction (1994)
- They'd never allow it.พระไม่ยอมแน่ Rapa Nui (1994)
They won't allow it.- พวกเขาต้องไม่ยอมรับแน่ Rapa Nui (1994)
Grandfather must give me something if I compete.พระต้องไม่ยอมแน่ๆ ท่านปู่จะให้รางวัลถ้าข้าเข้าแข่งขัน Rapa Nui (1994)
I can't let her Do that.ข้าไม่ยอมให้ทำงั้น Rapa Nui (1994)
If you can't admit it, you're pathetic.ถ้าเธอไม่ยอมรับ เธอมันน่าสมเพช Wild Reeds (1994)
My mother, God bless her, does not give up easily.แม่ผม ขอพระเจ้าอวยพร ที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ Don Juan DeMarco (1994)
It was a small and isolated town that resisted modern technology.มันเป็นเมืองเล็กๆ และห่างไกล ที่ไม่ยอมรับวิทยาการที่ทันสมัย Don Juan DeMarco (1994)
May I assume that... the upshot of all this is that you will not be easing gracefully into retirement?ขอฉันสมมุตินะว่า ผลสรุปของเรื่องทั้งหมดนี้ ก็คือคุณจะไม่ยอมเกษียณอย่างสงบใช่ไหม Don Juan DeMarco (1994)
They won't let me out.เขาไม่ยอมปล่อยให้ผมไป In the Mouth of Madness (1994)
This wedding's in four days. I cannot have bloodshed here!การวิวาห์จะมีในอีก 4 วัน ผมไม่ยอมให้มีการนองเลือดที่นี่ Ace Ventura: When Nature Calls (1995)
All except Reverend Jones, of course who wouldn't step into such a den of iniquity.ทุกคนเว้นแต่บาทหลวงโจนส์คนเดียว ผู้ซึ่งไม่ยอมเหยียบใกล้อบายมุขเลย The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995)
I'm not taking the heat from my boss. They are not walking.ผมไม่ยอมปล่อยให้มันลอยนวลไป Heat (1995)
Peter hasn't spoken a word since it happened.ปีเตอร์ไม่ยอมพูดซักคำ ตั้งแต่เกิดเหตุค่ะ Jumanji (1995)
Where do you think they're gonna send you if you don't start talking?เธอน่ะสิ ถ้าเธอไม่ยอมพูดซักที Jumanji (1995)
No, no! Frank never allows anybody to help him.เเฟรงค์ไม่ยอมให้ใครมาเเย่งงานเขาหรอก Rebecca (1940)
Where's the child? Well, she's keeping her costume a terrific secret. Wouldn't even let me into her room.หล่อนเก็บชุดไว้เป็นความลับสุดยอด ไม่ยอมให้ผมเข้าไปในห้อง Rebecca (1940)
I won't stand this any longer!ผมจะไม่ยอมทนอีกต่อไปเเล้ว! ผมจะบอกให้ก็ได้ว่า-- Rebecca (1940)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
ไม่ยอม[mai yøm] (v, exp) EN: refuse ; deny ; be not willing to ; not allow ; say no  FR: refuser ; repousser ; ne pas accepter
ไม่ยอมอนุโลม[mai yøm anulōm] (xp) EN: make no exceptions  FR: n'accepter aucune exception
ไม่ยอมให้[mai yømhai] (v, exp) FR: refuser que ; ne pas céder
ไม่ยอมแก่[mai yøm kaē] (adj) EN: ageless  FR: sans âge
ไม่ยอมรับ[mai yømrap] (v, exp) EN: refuse to admit ; refuse to acknowledge ; refuse ; reject ; disapprove  FR: refuser d'admettre ; refuser de reconnaître ; refuser d'accepter
ไม่ยอมรับความจริง[mai yømrap khwāmjing] (v, exp) FR: refuser la vérité

English-Thai: Longdo Dictionary
Not for all the tea in China!เป็นสำนวนแปลว่า เอาอะไรทุกอย่างมาแลกก็ไม่ยอม เช่น Would you like to go to Antarctic? - No, not for all the tea in China.

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
ageless(adj) ไม่ยอมแก่
argue with(phrv) ไม่เห็นด้วยกับ, See also: ไม่ยอมรับความจริงว่า, Syn. disagree with, quarrel with
blacklist(n) รายชื่อผู้ที่รัฐบาลไม่ยอมรับหรือต้องถูกหลีกเลี่ยง
broach(vt) เริ่มพูดคุยในเรื่องที่น่าอับอายหรือคนอื่นไม่ยอมรับ
baulk at(phrv) คัดค้าน, See also: ไม่ยอมทำตาม, Syn. balk at
be on the safe side(idm) ไม่ยอมเสี่ยง
brush off(phrv) ไม่ยอมรับฟัง, See also: ปฏิเสธ
chuck out(phrv) ไม่ยอมรับ, See also: ปฏิเสธ, Syn. fling out, hurl out
cry down(phrv) ไม่ยอมรับ, See also: ปฏิเสธ
cry out against(phrv) ไม่ยอมรับ
decide against(phrv) ตัดสินใจไม่ยอมรับ, Syn. decide on
deny to(phrv) ปฏิเสธ, See also: ไม่ยอมรับ, Syn. refuse to
dig in one's heels(idm) ดื้อรั้น, See also: มุ่งมั่น, ไม่ยอมเปลี่ยนใจ
dig one's heels in(idm) ดื้อรั้น, See also: มุ่งมั่น, ไม่ยอมเปลี่ยนใจ
dirty look(idm) สีหน้าไม่ยอมรับ, See also: หน้าบอกบุญไม่รับ, สีหน้าไม่ชอบ
disapprove of(phrv) ไม่ยอมรับ, See also: ไม่อนุมัติ, Ant. approve of
fling out(phrv) ปฏิเสธ (คำแนะนำ, กฎหมาย), See also: ไม่ยอมรับ, Syn. chuck out, hurl out, throw out, toss out
freeze off(phrv) ปฏิเสธ, See also: ไม่ยอมรับ
frown at(phrv) ไม่ยอมรับ, See also: ไม่อนุมัติ, Syn. frown on
frown on(phrv) ไม่ยอมรับ, See also: ไม่อนุมัติ, Syn. frown at, frown upon
frown upon(phrv) ไม่ยอมรับ, See also: ไม่อนุมัติ, Syn. frown at, frown on
deaf(adj) หูหนวก, See also: ซึ่งไม่ได้ยิน, ไม่ยอมฟัง, ไม่เชื่อฟัง, Syn. obstinate, stubborn, unhearing
decline(vt) ปฏิเสธ, See also: บอกปัด, ไม่ยอมรับ, ไม่รับสมัคร, Syn. pass up, refuse, spurn, Ant. accept
decline(vi) ปฏิเสธ, See also: บอกปัด, ไม่ยอมรับ, ไม่รับสมัคร, Syn. fail to accept, refuse, reject, spurn, Ant. accept
defaulter(n) ผู้ไม่ยอมชำระหนี้, See also: ผู้ขาดชำระ, ผู้ค้างชำระ, Syn. avoider
defiance(n) การท้าทาย, See also: การไม่ยอมทำตาม, การแข็งขืน, การไม่เชื่อฟัง, Syn. opposition, antagonism, Ant. compliance
defiant(adj) แสดงการท้าทาย, See also: ไม่ยอมทำตาม, ไม่เชื่อฟัง, แข็งขืน, ยั่ว, Syn. resistant, insubordinate, challenging
definitiveness(n) การสรุปขั้นสุดท้าย, See also: การตัดสินใจขั้นเด็ดขาด, การไม่ยอมเปลี่ยนแปลง, Syn. finality
demur(vi) ไม่ยอมทำตาม, See also: ปฏิเสธที่จะทำตามที่ได้ถูกร้องขอให้ทำ, คัดค้าน, ปฏิเสธ, รีรอ, Syn. disagree, dispute, challenge
denial(n) การปฎิเสธ, See also: การไม่ยอมรับ, Syn. disovowal, rejection
denier(n) ผู้ปฏิเสธ, See also: ผู้ไม่ยอมรับ, Syn. unbeliever
deny(vt) ปฏิเสธ, See also: ไม่ยอมรับ, ไม่ยอมเชื่อ, ไม่เห็นด้วย, Syn. refuse, Ant. admit, accept, affirm
determined(adj) ดื้อดึง, See also: ไม่ประนีประนอม, ดึงดัน, ซึ่งไม่ยอมเปลี่ยน, Syn. firm, strong-minded, stubborn
diehard(adj) หัวดื้อ, See also: หัวรั้น, ซึ่งไม่ยอมเปลี่ยนแปลง, Syn. conservative, unchanging
disapproval(n) ความไม่เห็นด้วย, See also: ความไม่ชอบ, การไม่ยอมรับ, Syn. dismissal, refusal, Ant. acceptance, welcome
disapprove(vt) ไม่เห็นด้วย, See also: ไม่ชอบ, ไม่ยอมรับ, Syn. dislike, disesteem, Ant. like, favor, esteem
disapproving(adj) ซึ่งไม่เห็นด้วย, See also: ซึ่งไม่ยอมรับ
disclaim(vt) ไม่ยอมรับ, See also: ปฏิเสธ, Syn. deny, contradict, disaffirm, Ant. comfirm, affirm
disfavor(n) ความไม่ชอบ, See also: การไม่ยอมรับ, การปฏิเสธ, Syn. disapproval, disesteem, objection, Ant. approval, admiration, respect
disfavor(vt) ไม่ชอบ, See also: ไม่ยอมรับ, ปฏิเสธ, Syn. dislike, disapprove, Ant. like, favor, esteem
disfavour(n) ความไม่ชอบ, See also: การไม่ยอมรับ, การปฏิเสธ, Syn. disapproval, disesteem, Ant. approval, respect
disfavour(vt) ไม่ชอบ, See also: ไม่ยอมรับ, ปฏิเสธ, Syn. dislike, disapproval, Ant. like, favour, esteem
dislike(vt) ไม่ชอบ, See also: ไม่ยอมรับ, ปฏิเสธ, Syn. disesteem, displeasure
fink(n) คนที่ยังทำงานในขณะที่คนอื่นผละงานประท้วง (คำสแลง), See also: คนงานที่ไม่ยอมหยุดงานขณะมีการประท้วงหยุดงาน, Syn. strikebreaker, scab
get over(phrv) พิสูจน์, See also: ไม่ยอมรับ, บอกปัด
have a distaste for(idm) ไม่ยอมรับ, See also: ไม่ชอบ
have misgivings about(idm) สงสัย, See also: ไม่แน่ใจ, ยังไม่ยอมรับ, กังขา
have reservations about(idm) สงสัย, See also: ไม่แน่ใจ, ยังไม่ยอมรับ, กังขา
hoot down(phrv) ปฏิเสธหรือไม่ยอมรับต่อสาธารณชน, Syn. howl down
hoot off(phrv) ปฏิเสธหรือไม่ยอมรับต่อสาธารณชน, Syn. howl down

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
abc(เอบีซี) ย่อมาจาก Atanasoff-Berry Computer ว่ากันว่า เป็นชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกของโลก (หนังสือบางเล่มว่า เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกมีชื่อว่า ENIAC) ศาสตราจารย์ John Atanasoff แห่งมหาวิทยาลัยไอโอวา และ Clifford Berry เป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องเอบีซีนี้เมื่อราวทศวรรษ 1940 ABEND การหยุดงานผิดปกติ <คำแปล>ย่อมาจาก abnormal end of task หมายถึงการหยุดงานที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่ได้มีคำสั่งให้หยุดในโปรแกรมหรือชุดคำสั่งมักจะเกิดขึ้น เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ถูกสั่งให้ปฏิบัติงานหนึ่งงานใด แล้วไม่ยอมปฏิบัติ อาจจะเป็นเพราะเครื่องเสีย หรือโปรแกรมผิดพลาด
ageless(เอจฺ' เลส) adj. ไม่ยอมแก่, ไม่ยอมล้าสมัย, ชั่วกาลปาวสาน, ตลอดไป, Syn. eternal
cast-ironadj. ทำด้วยเหล็กหล่อ, แข็งแกร่ง, ไม่ยอมแพ้
conchy(คอง'ชี) n. การไม่ยอมเข้ารับราชการทหาร
contumacious(คอนทุเม'เชิส) adj. ดื้อรั้น, แข็งข้อ, ไม่ยอมเชื่อฟัง, See also: contumacity n. ดูcontumacious, Syn. obdurate
cop-out(คอพ'เอาท) n. การไม่ยอมรับผิดชอบ, การไม่ยอมปฏิบัติตามคำมั่นหรือสัญญา, ผู้ที่ชองละทิ้ง
deaf(เดฟ) adj. หูหนวก, ไม่ยอมฟัง, ไม่เชื่อฟัง., See also: deafness n. ดูdeaf
decline(ดิไคลน') vi., n. (การ) เอียง, ลาด, เสื่อมลง, ปฏิเสธ, บอกปัด, ไม่ยอม, Syn. lessen
default(ดิฟอลทฺ') v., n. (การ) ไม่ยอมชำระหนี้, ไม่เข้าร่วมแข่ง, แพ้การแข่งขันเนื่องจากไม่มาแข่ง, ไม่ปฏิบัติตามสัญญา, แพ้คดีเพราะไม่ยอมมาศาล, ทางเลือกก่อนเมื่อไร้ทางเลือก, Syn. failure ค่าโดยปริยายค่าเริ่มต้นหมายถึง ค่าค่าหนึ่งที่กำหนดไว้ในโปรแกรมสำเร็จ ทุกโปรแกรม ให้เป็นค่าที่ใช้ในตอนเริ่มต้นโปรแกรม ทุกครั้งที่เรียกโปรแกรมนี้ใช้ คอมพิวเตอร์ก็จะใช้ค่าที่ตั้งไว้นี้ เช่น ในโปรแกรม Page Maker กำหนดค่าเริ่มต้นไว้ว่า ให้ขนาดของหน้าเป็น A4 ทุกครั้งที่มีการเรียกใช้โปรแกรม คอมพิวเตอร์ก็จะกำหนดขนาดของหน้ามาเป็น A4 ก่อนเสมอ หากต้องการเปลี่ยนแปลงภายหลัง ก็ย่อมทำได้
denial(ดิไน'เอิล) n. การปฏิเสธ, การบอกปัด, การไม่ยอมรับ, การบังคับใจตัวเอง, การไม่ยอมตามใจตัวเอง
denier(ดิไน'เออะ) n. ผู้ปฏิเสธ, ผู้ไม่ยอมรับ
deny(ดิไน') { denied, denying, denies } vt. ปฎิเสธ, ไม่ยอมรับ, ไม่ตกลง, บังคับใจตัวเอง, Syn. dispute, Ant. affirm
die-hard(ได'ฮาร์ด) n. คนหัวดื้อที่สุด, คนที่ไม่ยอมแพ้ต่อเหตุการณ์ที่หมดหวัง
diehard(ได'ฮาร์ด) n. คนหัวดื้อที่สุด, คนที่ไม่ยอมแพ้ต่อเหตุการณ์ที่หมดหวัง
disallow(ดิสอะเลา') vt. ไม่ยอม, ไม่ยอมให้มี, ไม่ยอมรับความจริง, ปฏิเสธ, ไม่อนุญาต, See also: disallowable adj. disallowance n.
disavow(ดิสอะเวา') vt. บอกปัด, ไม่ยอมรับ, ปฏิเสธ (การรับภาระ) ., See also: disavowal n. ดูdisavow
disclaim(ดิสเคลม') vt., vi. ไม่ยอมรับ, สละสิทธิ, ละทิ้ง, ปฏิเสธความเป็นเจ้าของ, ออกตัว
disclaimer(ดิสเคล'เมอะ) n. ผู้สละสิทธิ์, ผู้ไม้ยอมรับ, การไม่ยอมรับ, การสละสิทธิ์, คำพูด ข้อเขียนหรือเอกสารสละสิทธิ์
disclamation(ดิสคละเม'เชิน) n. การสละสิทธิ์, การปฏิเสธความเป็นเจ้าของ, การไม่ยอมรับ
dishonor(ดิสออน'เนอะ) n. ความเสื่อมเกียรติ, ความอัปยศอดสู, ความดูถูก, การไม่ยอมรับตั๋วเงิน, การไม่ยอมจ่ายเงินสำหรับตั๋วเงิน, Syn. disgrace
dishonour(ดิสออน'เนอะ) n. ความเสื่อมเกียรติ, ความอัปยศอดสู, ความดูถูก, การไม่ยอมรับตั๋วเงิน, การไม่ยอมจ่ายเงินสำหรับตั๋วเงิน, Syn. disgrace
disown(ดิสโอน') vt. บอกปัด, ไม่ยอมรับ, ไม่ยอมรับเป็นเจ้าของ, ปฎิเสธ., Syn. repudiate
flour(เฟลา'เออะ) n. แป้ง, แป้งหมี่, แป้งข้าว, ผงละเอียดอ่อน. vt. ทำให้เป็นแป้ง, บดให้ป่นเป็นแป้ง, โรยแป้ง, ลงแป้ง vi. ไม่ยอมรวมตัวกับโลหะอื่นเลยเป็นเม็ดเล็ก ๆ อยู่บนผิวหน้าของโลหะนั้น
god forbid!ไม่ได้อย่างแน่นอน, พระเจ้าไม่ยอม
hard coreบุคคลที่เป็นแกนกลาง, หัวกะทิ, ผู้ไม่ยอมใครง่าย ๆ, Syn. rigid, diehard, extreme
hard-coreadj. ไม่ยอมใครง่าย ๆ , ดื้อรั้น, เอาจริงเอาจัง, Syn. absolute
heathen(ฮี'เธิน) n. คนนอกศาสนา, คนที่ไม่ยอมเชื่อว่ามีพระเจ้า, คนที่ไม่นับถือศาสนาคริสต์หรือยิว, คนป่าเถื่อน adj. ไม่มีศาสนา, นอกศาสนา, นอกรีต, ป่าเถื่อน., See also: heathenness n., Syn. infidel, pagan, idolater, atheist, agnostic คำศั
hellbent(เฮล'เบนทฺ) adj. ดื้อรั้น, มุ่งหน้าอย่างไม่ยอมกลับ
holdoutn. การยึดหน่วง, คนที่ไม่ยอมเข้าร่วมกิจการ
ignore(อิกนอรฺ') vi. ไม่สนใจ, ละเลย, ไม่ยอมรับรู้., See also: ignorable adj. ignorer n., Syn. disregard, Ant. heed
immovable(อิมูฟ'วะเบิล) adj. เคลื่อนไม่ได้, หยุดนิ่ง, ไม่เปลี่ยนแปลง, ไร้อารมณ์, เมินเฉย, ไม่ยอมแพ้, ยืนยัน, เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์. n. สิ่งที่เคลื่อนไม่ได้., See also: immovables n. อสังหาริมทรัพย์. immovability, immovableness n. immovably adv. คำที่ม
immoveable(อิมูฟ'วะเบิล) adj. เคลื่อนไม่ได้, หยุดนิ่ง, ไม่เปลี่ยนแปลง, ไร้อารมณ์, เมินเฉย, ไม่ยอมแพ้, ยืนยัน, เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์. n. สิ่งที่เคลื่อนไม่ได้., See also: immovables n. อสังหาริมทรัพย์. immovability, immovableness n. immovably adv. คำที่ม
impenetrable(อิมเพน' นิทระเบิล) adj. ซึ่งผ่านเข้าไปไม่ได้, ไม่ยอมรับ, หัวดื้อ, เข้าใจยาก., See also: impenetrableness n. impenetrably adv.
impenitent(อิมเพน' นิเทินทฺ) adj. ไม่สำนึกผิด, หัวดื้อ, ดื้อดึง, ไม่ยอม., See also: impenitence, impenitency, impenitentness n. impenitently adv., Syn. remorseless
impermissible(อิมเพอมิส' ซะเบิล) adj. ไม่อนุญาต, ไม่ยอม., See also: impermissibility n.
incompliant(อินคัมไพล' เอินทฺ) adj. ไม่ยอม, ไม่ยินยอม, ไม่อนุโลม., See also: incompliance, incompliancy n.
inelastic(อินอิแลส'ทิค) adj. ไม่ยืดหยุ่น, ไม่ปรับตัว, ไม่พลิกแพลง, ไม่ยอม., See also: inelasticity n., Syn. inflexible
inexorable(อินเอค'เซอระเบิล) adj. ไม่ยอมแพ้, ไม่ย่อท้อ, ไม่เปลี่ยนแปลง, ยืนหยัด, เหนียวแน่น, ไม่ปราณี, ไม่ยอมผ่อนปรน., See also: inexorability, inexorableness n. inexorably adv., Syn. unyielding
inflexible(อินเฟลค'ซะเบิล) adj. ไม่ยืดหยุ่น, ไม่ปรับตัว, งอไม่ได้, แน่วแน่, ดื้อรั้น, ไม่ยอม, มั่นคง, ไม่เปลี่ยนแปลง., See also: inflexibility, inflexibleness n. inflexibly adv., Syn. firm, Ant. flexible
intolerant(อินทอล'เลเรินทฺ) adj. ซึ่งทนไม่ได้, ไม่อดทน, ไม่อดกลั้น, ไม่ยอม, ถือทิฐิ., Syn. narrow-minded
intransigent(อินแทรน'ซิเจินทฺ) adj. ไม่ประนีประนอม, ไม่ยอม, ไม่ยอมอ่อนข้อ, ดื้อ, หัวแข็ง., Syn. uncompromising
martyr(มาร์'เทอะ) n. ผู้ยอมรับการทรมานจากความตายแต่ไม่ยอมละทิ้งซึ่งศาสนา ความเชื่อหรืออุดมการณ์ของตัว, ผู้ได้รับการทรมานอย่างรุนแรงหรือเนืองนิจ, ผู้เรียกร้องความเห็นอกเห็นใจหรือความสนใจโดยแสร้งได้รับความทุกข์ทรมานหรืออื่น ๆ, See also: martyrly adv. adj.
miscreant(มิส'ครีเอินทฺ) adj. สารเลว, เข้าใจผิด, เชื่อในสิ่งที่ผิด. n. คนสารเลว, คนชั่วร้าย, ผู้นอกรีต, ผู้ไม่ยอมเชื่อ, Syn. villain, wretch
nonconforming(นอนคันฟอรฺ'มิง) adj. ซึ่งไม่ลงรอยกัน, ซึ่งไม่ยอมเข้าร่วม
object(ออบ'เจคทฺ) { objected, objecting, objects } n. สิ่งของ, วัตถุ, สิ่งที่เข้าใจได้, เรื่อง, เรื่องราว, จดหมาย, เป้าหมาย, วัตถุประสงค์, กรรมของกริยาหรือบุพบท, ภาวะวิสัย. vi. (ออบเจคทฺ') คัดค้าน, ไม่เห็นด้วย, รังเกียจ, ไม่ยอม. vt. คัดค้าน., See also: objector n.
overrule(โอ'เวอะรูล) adj. ตีกลับ, ลบล้าง, ไม่ยอมตาย, ส่งกลับ, ปกครอง, ใช้อำนาจเหนือ, บังคับอยู่, พิชิต, See also: overruler n., Syn. cancel
passive resistancen. การต่อต้านรัฐบาลหรือกฎหมายโดยการไม่ยอมร่วมมือหรือวิธีรุนแรงอื่น ๆ, See also: passive resister n.
refractory(รีแฟรค'ทอรี) adj. ดื้อ, ดื้อรั้น, รั้น, ดื้อดึง, ไม่ยอมอ่อนข้อ, ไม่อ่อนน้อม, หัวแข็ง, พยศ, (โรค) รักษายาก, ดื้อยา, ต้านโรค, หลอมยาก, Syn. obstinate, headstrong
refusable(รีฟิว'ซะเบิล) adj. ปฏิเสธได้, ไม่ยอมได้, บอกปัดได้,
refusal(รีฟิว'เซิล) n. การปฏิเสธ, การไม่ยอม, การบอกปัด, Syn. rejection, denial, veto

English-Thai: Nontri Dictionary
bilk(vt) โกง, หนีหนี้, ไม่ยอมจ่ายเงิน
deaf(adj) หูตึง, หูหนวก, ไม่ยอมฟัง, ไม่เชื่อฟัง
decline(vt) ปฏิเสธ, บอกปัด, ไม่รับ, ไม่ยอม, กระจายคำ
denial(n) การปฏิเสธ, การไม่ยอมรับ, การบอกปัด
deny(vt) ปฏิเสธ, บอกปัด, ไม่ปฏิบัติตาม, ไม่ตกลง, ไม่ยอมรับ
disallow(vt) ไม่อนุญาต, ไม่ยอม, ปฏิเสธ
disavow(vt) ไม่ยอมรับ, ปฏิเสธ, บอกปัด
disbelief(n) ความไม่เชื่อ, การไม่ยอมรับ
disbelieve(vt) ไม่เชื่อ, ไม่ยอมรับ
disclaim(vt) ไม่ยอมรับ, ออกตัว, ละทิ้ง, สละสิทธิ์
discountenance(vt) ไม่ยอมเชื่อถือ, ทำให้หมดกำลังใจ, ทำให้อึกอัก
disoblige(vt) ไม่ยอมตาม, ขัดขืน, ดื้อ
disown(vt) ไม่ยอมรับ, ปฏิเสธ, บอกปัด, บอกเลิก, บอกศาลา
holdout(vt) ทนทาน, อดทน, ยืนหยัด, ไม่ยอมอ่อนข้อ
impenetrable(adj) ผ่านเข้าไปไม่ได้, เข้าใจยาก, ไม่ยอมรับ
impenitent(adj) ไม่รู้สึกผิด, ดื้อดึง, ดื้อรั้น, ไม่ยอมรับ
inexorable(adj) ไม่ยอมตาย, ไม่ยอมให้, ไม่ปรานี, ใจแข็ง
insusceptible(adj) ไม่ยอมอยู่ในอำนาจ, ไม่ยอมอ่อนให้, ดื้อ
militate(vi) ต่อสู้, ไม่ยอมแพ้, คัดค้าน, แข็งข้อ
refuse(vi, vt) บอกปัด, ปฏิเสธ, ไม่ยอมรับ
relentless(adj) ไม่ยอมอ่อนข้อ, กระด้าง, ฉกรรจ์, ทรหด, บึกบึน
repel(vt) ขับไล่, ต้านทาน, ไม่ยอมรับ, ผลักไส, ปฏิเสธ
scab(n) คนที่ไม่ยอมเข้าพวก, สะเก็ดแผล
uncompromising(adj) ไม่ละลด, เด็ดเดี่ยว, แน่วแน่, ไม่ยอมแพ้

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
neandethal[ni:'ændə:, θɔ:l] (adj) ADJ.เกี่ยวกับมนุษย์ยุคหิน syn:(neanderthal) ADJ. ล้าสมัยมาก relate:{ ซึ่งไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลง } syn:(neanderthal) ADJ. หยาบคาย relate:{ ซึ่งทำสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ } syn:(neanderthal) N. มนุษย์ยุคหิน

Japanese-Thai: Longdo Dictionary
勝気[かちき, kachiki] (n, adj) ชอบเอาชนะ, ไม่ยอมแพ้
始末屋[しまつや, shimatsuya] (n) 1.คนประหยัด, คนมัธยัสถ์ 2.ในสมัยเอโดะ เป็นคนเก็บเงินจากแขกที่ไม่ยอมจ่ายเงินในซ่องโสเภณี

German-Thai: Longdo Dictionary
stumm(adj, adv) เป็นใบ้ หรือ ไม่ยอมพูด เช่น 1° Er sitzt die ganze Zeit stumm da. = เขานั่งเงียบไม่ยอมพูดอะไรตลอดเวลา 2° Meine einzige Tochter ist nach dem Unfall stumm geworden. = ลูกสาวคนเดียวของผมกลายเป็นใบ้หลังจากเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น
wachen(vi) |wachte, hat gewacht, über + A| ไม่นอน, นอนไม่หลับ, คอยเฝ้าระวัง เช่น Er wachte die ganze Nacht am Schreibtisch. เขาอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือไม่ยอมนอนทั้งคืน

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top