มลัก | (มะลัก) ก. ลัก, ลอบ |
มลัก | มัก |
มลัก | รัก |
มลัก | เห็น. |
มลัก | (มะลัก) ว. มากเช่น รู้มลัก. |
รู้มลัก, รู้มลาก | (-มะ-) ก. รู้มากอย่าง, เข้าใจมาก. |
วิมลัก | (วิมะ-) ว. รักยิ่ง. |
กรม ๓ | (กฺรม) น. หมู่เหล่าอันเป็นที่รวมกำลังไพร่พลของแผ่นดินตามลักษณะปกครองสมัยโบราณ เพื่อประโยชน์ในราชการและเวลาเกิดศึกสงคราม จะได้เรียกระดมคนได้ทันท่วงที บรรดาชายฉกรรจ์ต้องเข้าอยู่ในกรมหรือในหมู่เหล่าใดเหล่าหนึ่ง เรียกว่า <b><i>สังกัดกรม </i></b> มีหัวหน้าควบคุมเป็น<b><i>เจ้ากรม ปลัดกรม </i></b> ตามลำดับ ซึ่งเมื่อพระเจ้าแผ่นดินทรงตั้งให้เจ้านายปกครองเป็นองค์ ๆ เรียกว่า<b><i>ตั้งกรม </i></b>แล้ว เจ้านายพระองค์นั้นก็ <b><i>ทรงกรม </i></b> เป็น <b><i>เจ้าต่างกรม </i></b> เพราะมีกรมขึ้นต่างหากออกไปเป็นกรมหนึ่ง มีอำนาจตั้งเจ้ากรม ปลัดกรม เป็น หมื่น ขุน หลวง พระ พระยา ได้ และเรียกชื่อกรมนั้น ๆ ตามบรรดาศักดิ์เจ้ากรมว่า <b><i>กรมหมื่น กรมขุน </i></b>กรมหมื่น กรมขุน <b><i>กรมหลวง </i></b>กรมหลวง<b><i>กรมพระ </i></b>และ<b><i>กรมพระยา </i></b>หรือ เมื่อจะทรงกรมสูงขึ้นกว่าเดิม ก็โปรดให้ <b><i>เลื่อนกรม </i></b> ขึ้น โดยเจ้ากรมมีบรรดาศักดิ์เลื่อนขึ้น เช่นจากหมื่นเป็นขุน, มาในปัจจุบันชื่อกรมเหล่านี้มีความหมายกลายเป็นพระอิสริยยศและพระนามเจ้านายเท่านั้น. |
กรม ๓ | แผนกใหญ่ในราชการ ตามลักษณะปกครองในสมัยโบราณ ซึ่งในปัจจุบัน เรียกว่า กระทรวง เช่น <b><i>กรมพระกลาโหม </i></b> คือ กรมฝ่ายทหาร เป็นกระทรวงกลาโหม, <b><i>กรมมหาดไทย </i></b> คือ กรมฝ่ายพลเรือน เป็นกระทรวงมหาดไทย, <b><i>กรมเมือง </i></b> หรือ <b><i>กรมนครบาล </i></b> รวมอยู่ในกระทรวงมหาดไทย, <b><i>กรมวัง </i></b> แยกเป็นกระทรวงวัง และกระทรวงยุติธรรม (ปัจจุบันกระทรวงวังไม่มีแล้ว), <b><i>กรมพระคลัง </i></b> แยกเป็นกระทรวงการคลัง และกระทรวงการต่างประเทศ, <b><i>กรมนา </i></b> เป็นกระทรวงเกษตราธิการ (ปัจจุบัน คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์). |
กรรมบถ | (กำมะบด) น. ทางแห่งกรรม มี ๒ อย่างตามลักษณะ คือ กุศลกรรมบถและอกุศลกรรมบถ. |
กระกัติ | ก. กระกัด, ใคร่, อยาก, ยินดี, เช่น อย่ายักษ์มลักกรีฑาดล ด้าวอำเภอพลลการกระกัติกามา (สรรพสิทธิ์). |
แกล่ | (แกฺล่) ว. ใกล้, เกือบ, เช่น สามลักษณะนี้ใกล้ แกล่แม้นไป่มี (โลกนิติ). |
ขานยาม | ขานรับเมื่อผู้ตรวจเรียกชื่อนักโทษทุกยาม เช่น ถ้าลักพระปล้นสดมลักช้างม้าเปนสัจให้จำ ๕ ประการไว้ในคุกให้ขานยาม (สามดวง). |
ขายตามคำพรรณนา | น. การซื้อขายที่คู่สัญญาตกลงซื้อขายทรัพย์สินตามลักษณะและคุณภาพที่ผู้ขายได้บรรยายไว้อย่างละเอียด. |
ฉายา ๑ | ชื่อที่พระอุปัชฌาย์ตั้งให้เป็นภาษาบาลีเมื่ออุปสมบท, ชื่อตั้งให้กันเล่น ๆ หรือตามลักษณะที่หมายรู้กันในหมู่คณะ. |
ดำ ๓ | ว. สีอย่างสีเขม่าไฟจับก้นหม้อ, ใช้ประกอบสิ่งต่าง ๆ บางอย่างโดยอนุโลมตามลักษณะสี เป็นชื่อเรียกเฉพาะ เช่น ผ้าดำ เต่าดำ มดดำ. |
แดง ๑ | ว. สีอย่างสีเลือดหรือสีชาด, ใช้ประกอบสิ่งต่าง ๆ บางอย่างโดยอนุโลมตามลักษณะสี เป็นชื่อเรียกเฉพาะ เช่น มดแดง ผ้าแดง. |
ตา ๒ | เรียกลายที่เป็นตาตามรูปต่าง ๆ ตามลักษณะของสิ่งของ เช่น ตาสมุก ตาราชวัติ ตาเมล็ดงา ตาเม็ดบัว ตาหมากรุก. |
ตาด ๑ | น. ชื่อผ้าชนิดหนึ่ง ทอด้วยไหมควบกับเงินแล่งหรือทองแล่งจำนวนเท่ากัน, เรียกชื่อตามลักษณะของลาย เช่น ตาดลายคดกริช ตาดตาตั๊กแตน, ถ้ามีไหมปักทับลงไปอีกเป็นดอก ๆ เรียกว่า ตาดระกำไหม. |
ทอง ๑ | เรียกสิ่งที่ทำด้วยทองเหลือง ว่า ทอง ก็มี เช่น กระทะทอง หม้อทอง, โดยปริยายหมายถึงสีเหลือง ๆ อย่างสีทอง เช่น เนื้อทอง ผมทอง แสงทอง, ใช้ประกอบสิ่งต่าง ๆ บางอย่างโดยอนุโลมตามลักษณะสี เป็นชื่อเรียกเฉพาะ เช่น ขนมทอง คือขนมชนิดหนึ่ง รูปวงกลม มีนํ้าตาลหยอดข้างบน, ปลาทอง คือปลาชนิดหนึ่ง ตัวสีเหลืองหรือแดงส้ม. |
แทรกเตอร์ | (แทฺรก-) น. รถทุ่นแรงที่ใช้ในงานเกษตรกรรมหรืองานก่อสร้าง มีทั้งแบบตีนตะขาบและแบบล้อ ใช้ลากหรือขับเคลื่อนอุปกรณ์อย่างอื่นที่ติดเข้ากับตัวรถตามลักษณะงานที่ใช้. |
นั่งเทียน | น. เรียกวิธีทำนายอย่างหนึ่งโดยจุดเทียนติดไว้ที่ขอบปากบาตรเป็นต้นแล้วนั่งเพ่งดูนํ้าในบาตร แล้วทำนายไปตามลักษณะหยดเทียนที่ปรากฏในนํ้านั้น |
น้ำจิ้ม | น. เครื่องจิ้มลักษณะเป็นน้ำใสหรือข้น โดยมากมีรสเปรี้ยวเค็มหวาน ใช้ชูรสอาหาร เช่น นํ้าจิ้มทอดมัน น้ำจิ้มอาหารทะเล. |
ผัน ๒ | เปลี่ยนบางส่วนไปตามลักษณะทางไวยากรณ์ เช่น ผันวิภัตติในภาษาบาลีสันสกฤต ผันกริยาในภาษาอังกฤษ. |
ผ้า | น. สิ่งที่ทำด้วยเยื่อใย เช่น ฝ้าย ไหม ขนสัตว์ โดยวิธีทอหรืออัดให้เป็นผืน, มักเรียกตามลักษณะของสิ่งที่ทำ เช่น ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าขนสัตว์ หรือตามลักษณะที่ใช้ เช่น ผ้ากราบ ผ้าอาบ ผ้าอ้อม. |
เพชรลูก | น. เพชรที่เจียระไนให้มีเหลี่ยมมุมลักษณะต่าง ๆ เช่น เหลี่ยมเกสร เหลี่ยมกุหลาบ. |
ฟืน | น. ไม้สำหรับใช้เป็นเชื้อไฟ, ลักษณนามเรียกตามลักษณะ เช่น ดุ้น อัน ท่อน ชิ้น. |
มีด | น. เครื่องใช้สำหรับฟัน ผ่า จัก เหลา เป็นต้น ทำด้วยโลหะมีเหล็กเป็นต้น ใบมีดมีลักษณะเป็นแผ่น รูปยาวรี มีคมด้านหนึ่ง มีสันอยู่อีกด้านหนึ่ง หรือมีคมทั้ง ๒ ด้าน ปลายมีดรูปร่างแหลมก็มี ป้านก็มี โคนมีดเป็นกั่นรูปเดือยเรียวแหลม หรือเป็นแผ่นสอดติดอยู่ในด้ามซึ่งมักทำด้วยไม้หรือเขาสัตว์ มีชื่อเรียกต่าง ๆ ตามลักษณะและวัตถุประสงค์ที่ใช้. |
มีดดาบ | น. มีดขนาดใหญ่ ใบมีดรูปยาวรีประมาณ ๑ ศอก ปลายงอนขึ้นเล็กน้อย ด้ามทำด้วยไม้ยาว ๑ คืบ ดาบของหลวงปรกติสอดไว้ในฝัก ดาบเชลยศักดิ์ไม่นิยมทำฝักสำหรับสอดดาบ ใช้เป็นอาวุธ มีชื่อเรียกต่างกันออกไปตามลักษณะปลายดาบ, ถ้าปลายแหลม หัวงอน เรียกว่ามีดดาบหัวปลาซิว, ถ้าปลายมนแหลม เรียกว่า มีดดาบหัวปลาหลด, ถ้าปลายตัดขวาง เรียกว่า มีดดาบหัวตัด, ถ้าปลายแหลมตัดปลายสันเฉียงปัดไปทางปลายดาบ เรียกว่า มีดดาบหัวเผล้. |
ยา ๑ | น. สิ่งที่ใช้แก้หรือป้องกันโรค หรือบำรุงร่างกาย เรียกชื่อต่าง ๆ กัน คือ เรียกตามลักษณะก็มี เช่น ยาผง ยาเม็ด ยานํ้า เรียกตามสีก็มี เช่น ยาแดง ยาเขียว ยาเหลือง ยาดำ เรียกตามรสหรือกลิ่นก็มี เช่น ยาขม ยาหอม เรียกตามวิธีทำก็มี เช่น ยาต้ม ยากลั่น ยาดอง เรียกตามกิริยาที่ใช้ก็มี เช่น ยากวาด ยากิน ยาฉีด ยาดม ยาอม |
ยีราฟ | น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชนิด <i>Giraffa camelopardalis</i> (Linn.) ในวงศ์ Giraffidae เป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องกีบคู่ คอยาวมาก มีเขา ๑ คู่ ซึ่งมีหนังและขนคลุม ลำตัวลายมีสีต่าง ๆ กัน โดยมากเป็นสีน้ำตาลอมเหลืองหรือน้ำตาลเข้มลักษณะเป็นดอกหรือเป็นตาราง ปลายหางเป็นพู่ อยู่รวมกันเป็นฝูง มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา. |
รถแทรกเตอร์ | น. รถทุ่นแรง ใช้ลากหรือขับเคลื่อนอุปกรณ์อย่างอื่นที่ติดเข้าไปกับตัวรถตามลักษณะงานที่ใช้ มี ๒ แบบ คือ แบบตีนตะขาบ และแบบล้อซึ่งมีล้อหลังใหญ่กว่าล้อหน้า. |
เรือรบ | น. เรือที่ต่อหรือดัดแปลงขึ้นเพื่อใช้ในการรบ มีขีดความสามารถต่าง ๆ เช่น ต่อตีเรือข้าศึก คุ้มกันกระบวนเรือลำเลียง และระดมยิงฝั่ง เป็นต้น มีหลายประเภท เรียกชื่อตามลักษณะและหน้าที่ที่สำคัญ เช่น เรือบรรทุกเครื่องบิน เรือดำน้ำ เรือลาดตระเวน เรือวางทุ่นระเบิด. |
เรือนทรงมนิลา | น. เรือนที่เรียกตามลักษณะทรงหลังคาที่มีจั่ว ๒ ด้าน มีหลังคาลาดลงมาทั้ง ๔ ด้าน ได้รับอิทธิพลจากเรือนในกรุงมนิลา ประเทศฟิลิปปินส์, เรือนทรงมลิลา ก็เรียก. |
เรือนปั้นหยา | น. เรือนที่เรียกตามลักษณะทรงหลังคา ซึ่งมีหลังคาเอนเข้าหาอกไก่ทั้ง ๔ ด้าน ไม่มีหน้าจั่ว. |
เรือนฝาขัดแตะ | น. เรือนที่เรียกตามลักษณะของฝา ทำด้วยไม้ไผ่ซีกสอดขัดกับลูกตั้งที่เป็นไม้ไผ่ซีก. |
แว่น ๑ | น. สิ่งที่เป็นแผ่นเป็นวงหรือเป็นดวง เช่น หั่นมะเขือเทศให้เป็นแว่น, ใช้แก่สิ่งซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น อาจจะมีคำอื่นมาขยาย และเรียกชื่อตามหน้าที่ตามความหมาย หรือตามลักษณะของสิ่งนั้น ๆ เช่น แว่นแคว้น แว่นส่องหน้า |
สิ้นสังขาร | ก. ตาย เช่น ร้องประกาศแก่พหลพลยักษ์ อันรามลักษมณ์สุดสิ้นสังขาร (รามเกียรติ์). |
หอย | น. ชื่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ไฟลัม Mollusca มีเปลือกหุ้มตัว ส่วนใหญ่แบ่งออกได้เป็น ๒ จำพวก ตามลักษณะเปลือก คือ จำพวกกาบเดี่ยว เช่น หอยขม (<i>Filopaludina doliaris</i> Gould) และจำพวกกาบคู่ เช่น หอยนางรม [ <i>Saccostrea forskali (</i>Gmelin) ] ที่มีเป็นส่วนน้อยเป็นพวกที่มีเปลือกแตกต่างออกไป เช่น หอยงาช้าง ชนิด <i>Dentalium longitrorsum</i> Reeve หอยงวงช้าง ชนิด <i>Nautilus pompilius</i> (Linn.). |
โหมโรง | เพลงเริ่มต้นของการบรรเลงหรือการแสดง เพื่อบอกให้ทราบว่าพิธีหรืองานนั้นได้เริ่มขึ้นแล้ว แบ่งเป็นหลายชนิดตามลักษณะของงานมหรสพที่แสดง และการบรรเลง เช่น โหมโรงเย็น โหมโรงเช้า โหมโรงเทศน์ โหมโรงละคร โหมโรงเสภา. |