มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ คอมมิวนิสต์ | (n) communism, Syn. ลัทธิคอมมิวนิสต์, ระบอบคอมมิวนิสต์, Example: หน่วยงานของพรรคให้การสนับสนุนไม่ทางตรงก็ทางอ้อม รวมทั้งพรรคคอมมิวนิสต์บริวารหรือคอมมิวนิสต์สาขาในเขตสาธารณรัฐต่างๆ ด้วย, Thai Definition: ชื่อลัทธิการเมืองเกี่ยวกับการจัดระเบียบสังคมที่ยึดหลักว่า การรวมกันของบรรดาทรัพย์สินทั้งหลายเป็นของกลางร่วมกันทั้งหมด, เอกชนจะถือกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์มิได้, Notes: (อังกฤษ) | คอมมิวนิสต์ | (n) communist, Example: วันนั้นผมฆ่าคอมมิวนิสต์ได้หลายคนอย่างสมใจอยาก, Thai Definition: ผู้ที่นิยมในลัทธิคอมมิวนิสต์, Notes: (อังกฤษ) | คอมมิวนิสต์ | (adj) communist, Example: สันติภาพในตะวันออกกลางนั้นดำเนินควบคู่มากับปัญหาสงครามเย็นระหว่างโลกเสรีกับโลกคอมมิวนิสต์มาช้านานแล้ว, Thai Definition: เกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์, Notes: (อังกฤษ) | ลัทธิคอมมิวนิสต์ | (n) communism, Syn. คอมมิวนิสต์, Example: ลัทธิคอมมิวนิสต์ครองอำนาจอยู่ในหลายประเทศในโลก, Thai Definition: ลัทธิเกี่ยวกับการจัดระเบียบสังคมที่ยึดหลักว่า การรวมกันของบรรดาทรัพย์สินทั้งหลายเป็นของกลางร่วมกันทั้งหมด เอกชนจะถือกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์มิได้, ผู้ที่นิยมในลัทธินั้น | ลัทธิคอมมิวนิสต์ | (n) communism, Example: ทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนกันในการต่อสู้กับลัทธิคอมมิวนิสต์, Thai Definition: ลัทธิเกี่ยวกับการจัดระเบียบสังคมที่ยึดหลักว่า การรวมกันของบรรดาทรัพย์สินทั้งหลายเป็นของกลางร่วมกันทั้งหมด เอกชนจะถือกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์มิได้ |
|
| คอมมิวนิสต์ | น. ระบบเศรษฐกิจการเมืองและสังคมแบบหนึ่งของลัทธิสังคมนิยมที่มีอุดมการณ์ให้รวมทรัพย์สินทั้งปวงเป็นสมบัติส่วนกลางของชุมชน ไม่ให้มีกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคล และให้จัดสรรรายได้แก่บุคคลอย่างเสมอภาคกัน ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาความทุกข์ยากของคนในสังคมอันเป็นผลจากความไม่เสมอภาคในทรัพย์สิน, ผู้ที่นิยมระบบคอมมิวนิสต์. | คอมมิวนิสต์ | ว. เกี่ยวกับระบบคอมมิวนิสต์. | ซ้าย | เรียกกลุ่มที่มีอุดมคติเพื่อลดช่องว่างระหว่างชนชั้นในด้านเศรษฐกิจและการเมือง เป็นต้น มักใช้วิธีการที่รุนแรงและรวดเร็ว ว่า ฝ่ายซ้าย, โดยทั่วไปใช้หมายถึงกลุ่มที่นิยมลัทธิสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์. | ปลุกผี | รื้อฟื้นเรื่องที่ยุติไปแล้วขึ้นมาใหม่ เช่น ปลุกผีคอมมิวนิสต์. | ฝ่ายซ้าย | น. กลุ่มที่มีอุดมคติเพื่อลดช่องว่างระหว่างชนชั้นในด้านเศรษฐกิจและการเมืองเป็นต้น มักใช้วิธีการที่รุนแรงและรวดเร็ว, โดยทั่วไปใช้หมายถึงกลุ่มที่นิยมลัทธิสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์. |
|
| | Communism | ลัทธิคอมมิวนิสต์ [TU Subject Heading] | Communism and agriculture | ลัทธิคอมมิวนิสต์กับเกษตรกรรม [TU Subject Heading] | Communism and Buddhism | ลัทธิคอมมิวนิสต์กับพุทธศาสนา [TU Subject Heading] | Communism and culture | ลัทธิคอมมิวนิสต์กับวัฒนธรรม [TU Subject Heading] | Communism and Islam | ลัทธิคอมมิวนิสต์กับศาสนาอิสลาม [TU Subject Heading] | Communism and religion | ลัทธิคอมมิวนิสต์กับศาสนา [TU Subject Heading] | Communism and society | ลัทธิคอมมิวนิสต์กับสังคม [TU Subject Heading] | Communist countries | กลุ่มประเทศคอมมิวนิสต์ [TU Subject Heading] | Communist strategy | ยุทธศาสตร์คอมมิวนิสต์ [TU Subject Heading] | Communists | คอมมิวนิสต์ [TU Subject Heading] | Malayan Communist Party | พรรคคอมมิวนิสต์มาลายา [TU Subject Heading] | Post-communism | แนวคิดหลังลัทธิคอมมิวนิสต์ [TU Subject Heading] | Eisenhower Doctrine | ลัทธิไอเซนฮาวร์ เมื่อวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1957 ประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความวิตกห่วงใยในสถานการณ์ที่ล่อแหลมต่ออันตรายในภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้อ่านสารพิเศษต่อที่ประชุมร่วมระหว่างสภาผู้แทนกับวุฒิสภาขอร้องให้รัฐสภา สหรัฐฯ ลงมติรับรองโครงการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและทางทหาร เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งเอกราชแห่งชาติของบรรดาประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น ดังนั้น ในการสนองตอบสารพิเศษดังกล่าว รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านข้อมติร่วมกันเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1957 มอบให้ประธานาธิบดีมีอำนาจให้ความร่วมมือและอำนวยความช่วยเหลือแก่ชาติหรือ กลุ่มชาติต่างๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งต้องการความช่วยเหลือเช่นนั้น ในการที่จะพัฒนาพลังทางเศรษฐกิจเพื่อรักษาไว้ซึ่งเอกราชแห่งชาติตน และให้จัดโครงการช่วยเหลือทางทหารแก่ชาติต่างๆ ในภาคนั้นซึ่งต้องการความช่วยเหลือดังกล่าว ทั้งได้มอบอำนาจให้ประธานาธิบดีสามารถใช้กองทัพสหรัฐฯ เข้าช่วยเหลือชาติเหล่านั้นที่แสดงเจตนาขอความช่วยเหลือ เพื่อต่อต้านการรุกรานจากประเทศใด ๆ ที่อยู่ใต้อำนาจควบคุมของคอมมิวนิสต์ระหว่างประเทศ [การทูต] | Freedom of Movement of Diplomatic Agents | เสรีภาพในการเคลื่อนย้ายและการเดินทางของผู้แทน ทางการทูต โดยปกติ รัฐผู้รับย่อมอนุญาตโดยเสรีแก่ผู้แทนทางการทูต ที่จะเคลื่อนย้ายและเดินทางไปไหนมาไหนได้ทั่วประเทศ แต่ระหว่างสงครามเย็นที่ผ่านมา ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ตั้งข้อจำกัดการเดินทางแก่ผู้แทนทางการทูตของกลุ่ม ประเทศคอมมิวนิสต์บางแห่ง ได้แก่ สหภาพโซเวียต บัลแกเรีย เชคโกสโลวาเกีย ฮังการี รูเมเนีย และโปแลนด์ นัยว่าสหรัฐฯ ได้กำหนดเขตแขวงในดินแดนของตน 355 แห่ง หรือประมาณร้อยละ 11 ของพื้นที่ทั้งหมด เป็นเขตห้ามเข้าสำหรับผู้แทนทางการทูตของประเทศเหล่านั้นในทำนองเดียวกัน กลุ่มประเทศคอมมิวนิสต์ดังกล่าวก็ได้ตั้งข้อจำกัดการเดินทางแก่ผู้แทนทางการ ทูตของสหรัฐฯ เช่นกัน สำหรับเสรีภาพการเคลื่อนย้ายนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติในข้อ 26 ว่า?ภายในบังคับของกฎหมาย และข้อบังคับของรัฐผู้รับเกี่ยวกับการเข้าไปในเขตหวงห้ามหรือวางระเบียบไว้ โดยเหตุผลของความมั่นคงแห่งชาติ ให้รัฐผู้รับประกันแก่สมาชิกทั้งมวลของคณะเกี่ยวกับเสรีภาพในการเคลื่อนไหว และการเดินทางในอาณาเขตของตน? [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Iron Curtain | ม่านเหล็ก เป็นศัพท์ที่อดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ผู้ล่วงลับไปแล้ว คือ เซอร์วินสตัน เชอชิลล์ เป็นผู้บัญญัติขึ้นหมายถึงเครื่องกีดขวางปิดกั้นเขต ซึ่งโซเวียตรัสเซียและประเทศคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกไม่ยอมให้มีการ ติดต่อหรือเดินทางเข้าไปในอาณาเขตของประเทศดังกล่าว ที่เรียกกันว่า ประเทศหลังม่านเหล็ก เป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองในระหว่างสงครามเย็น แต่ภายหลังที่ลัทธิคอมมิวนิสต์ล่มสลาย ม่านเหล็กก็พลอยหมดสภาพไปในที่สุด [การทูต] | Marshall Plan | แผนการมาร์แชล ในโอกาสวันประสาทปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1947 ยอร์ช ซี.มาร์แชล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สมัยนั้น ได้กล่าวอยู่ตอนหนึ่งในสุนทรพจน์ว่า?สหรัฐอเมริกาควรจะทำทุกอย่างเท่าที่จะ สามารถกระทำได้ เพื่อช่วยให้ดินแดนต่าง ๆ ในโลกได้กลับคืนสู่ภาวะปกติทางเศรษฐกิจ เพราะหากปราศจากภาวะดังกล่าว โลกก็จะไม่มีเสถียรภาพที่สถาพร นโยบายของสหรัฐฯ มิได้มุ่งจะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศใดหรือลัทธิใด หากมุ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อความหิวโหย ความยากจน ความสิ้นหวัง และความยุ่งเหยิง การที่จะให้สหรัฐอเมริการับภาระในการจัดวางโครงการแต่ฝ่ายเดียว เพื่อช่วยให้ทวีปยุโรปสามารถช่วยตนเองทางเศรษฐกิจขึ้นใหม่ นับว่ายังไม่เหมาะสมและถูกต้องนัก ควรจะให้เป็นภาระหน้าที่ของชนชาวยุโรปทั้งหลายเอง บทบาทของสหรัฐฯ ควรจะเป็นเพียงผู้เสนอให้ความความช่วยเหลือฉันมิตร ในการร่างโครงการช่วยเหลือทวีปยุโรป และให้ความสนับสนุนแก่โครงการนั้น ตราบที่โอกาสจะเอื้ออำนวยต่อการกระทำเช่นนั้นได้?จากสุนทรพจน์ข้างต้น พอจะเข้าใจจุดประสงค์สำคัญของสหรัฐอเมริกาได้ไม่ยากว่า ไม่ต้องการให้ทวีปยุโรป ซึ่งกำลังอ่อนแอโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจหลังจากเสร็จสงครามใหม่ ๆ ต้องตกไปอยู่ใต้อำนาจครอบงำของฝ่ายคอมมิวนิสต์นั่นเอง [การทูต] | New World Order | ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต] | Pacific Charter | คือกฎบัตรแปซิฟิค ซึ่งประกาศ ณ กรุงมะนิลา เมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1954 ในโอกาสที่มีการตกลงกันทำสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( Southeast Asia Defense Treaty-SEATO ) ประเทศที่ลงนามเป็นภาคีในสนธิสัญญา คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ไทย อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาสาระสำคัญในสนธิสัญญาดังกล่าว หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า SEATO (ซีโต้) นั้นคือ ทุกประเทศภาคีจะร่วมมือกันในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมให้พลเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมาตรฐานการครอง ชีพสูงขึ้น มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และมีสวัสดิภาพสังคมที่ดี แต่จุดมุ่งหมายที่สำคัญที่สุดคามสนธิสัญญาคือ บรรดาประเทศภาคีตกลงที่จะป้องกันหรือตอบโต้ความพยายามใด ๆ ที่จะล้มล้างเสรีภาพที่มีอยู่ในเขตสนธิสัญญา หรือทำลายอธิปไตยหรือบูรณภาพแห่งเขตแดนของประเทศภาคี พูดอย่างสั้น ๆ ก็คือฝ่ายโลกเสรีอันมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ ต้องการกีดกันมิให้ประเทศฝ่ายคอมมิวนิสต์เข้าไปมีอำนาจครอบงำดินแดนเขต เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระหว่างสงครามเย็น (Cold War ) โดยวิธีรุกรานหรือวิธีอื่นใดก็ตาม [การทูต] | Parliamentary Diplomacy | การทูตแบบรัฐสภา หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ [การทูต] |
| Is it true that communists can help soldiers to desert? | จริงเหรอที่คอมมิวนิสต์นั่น ช่วยพาหนีทัพได้? Wild Reeds (1994) | - You are. Drinking coffee in Communist headquarters, like a perfect commie. | นายไง การดื่มกาแฟ ในฐานทัพคอมมิวนิสต์ Wild Reeds (1994) | I saw the address of the Party headquarters on a poster. | ฉันเจอที่อยู่ ฐานทัพคอมมิวนิสต์บนโปสเตอร์ Wild Reeds (1994) | But she's a communist, a feminist, an idealist and materialist, so it's normal you don't get on. | เธอเป็นทั้งคอมมิวนิสต์ เฟมินิสต์ พวกอุดมคตินิยม และพวกวัตถุนิยม ไม่แปลกที่นายจะสับสน Wild Reeds (1994) | You're a communist! | คุณเป็นคอมมิวนิสต์! Clue (1985) | No, Mr. Green, communism is just a red herring. | ไม่ คุณกรีนคอมมิวนิสต์เป็นเพียงแค่ข้ออ้าง Clue (1985) | No. Communism was just a red herring. | ไม่เลย คอมมิวนิสต์เป็นเพียงข้ออ้าง Clue (1985) | Communism was just a red herring. | คอมมิวนิสต์เป็นเพียงแค่ข้ออ้าง Clue (1985) | My father says he's a communist. | พ่อของผมบอกว่าเขาเป็นพวก คอมมิวนิสต์ ครับ. Cinema Paradiso (1988) | He's a pervert! Probably a Communist, too! | ผมคิดว่าเขาเป็นพวกโรคจิต หรือไม่ก็พวกคอมมิวนิสต์ Field of Dreams (1989) | No. My father hated liberals. He took the communist line mainly. | ที่พ่อของฉันเกลียดเสรีนิยม เขาเอาสายคอมมิวนิสต์ส่วนใหญ่ The Russia House (1990) | Communism soldier come from China. Very nice. | ทหารคอมมิวนิสต์เข้ามาจากจีน ใจดีมากเลย Seven Years in Tibet (1997) | They give food, money. Very nice. Communism soldier. | เอาอาหารกับเงินมาให้ ใจดีมาก ทหารคอมมิวนิสต์น่ะ Seven Years in Tibet (1997) | The Japanese army is facing a growing challenge... not from China's unified front... but from the powerful Chinese Communist Army. | กองทัพญี่ปุ่นกำลังตกที่นั่งลำบาก ไม่ใช่เพราะทัพร่วม กองหน้าจากจีน แต่เป็นกองกำลังคอมมิวนิสต์ ที่ทรงพลังของจีน Seven Years in Tibet (1997) | The rumor is that the Communists have taken over... the whole of North and Central China. | มีข่าวลือว่าคอมมิวนิสต์ เข้ายึดครอง จีนตอนเหนือและตอนกลางไว้หมดแล้ว Seven Years in Tibet (1997) | Have the Communists won? | คอมมิวนิสต์ชนะรึเปล่า Seven Years in Tibet (1997) | Didn't she join the Communist Party? | เธอเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์ไม่ใช่เหรอ Malèna (2000) | She was photographed with her arms around the Commie leader. | เธอถูกถ่ายรูป... ตอนโอบแขนกอดผู้นำคอมมิวนิสต์ Malèna (2000) | Communists? | หรือว่าพวกคอมมิวนิสต์ ? Millennium Actress (2001) | I love Lucy. Even if she is a communist. | ฉันชอบลูซี่ ถึงเธอจะเป็นคอมมิวนิสต์ Mona Lisa Smile (2003) | All those millions of Red Guards... marching together into the future... with the Little Red Book in their hands. | เหล่าชาวจีนคอมมิวนิสต์ นับล้านคนพวกนี้... พวกเขากำลัง เดินขบวน มุ่งสู่อนาคตด้วยกัน... พร้อมกับ หนังสือสีแดงเล่มเล็กๆในมือ The Dreamers (2003) | - No, no. No, listen to me. | ไม่ ฟังก่อน พวกจีนคอมมิวนิสต์ The Dreamers (2003) | Like the church the monarchy and the communist party in other times and places the corporation is today's dominant institution. | เช่นเดียวกับศาสนจักร ระบอบกษัตริย์และพรรคคอมมิวนิสต์ ในบางยุคและบางสถานที่ The Corporation (2003) | They could be a Jehovah's witness for two a homosexual for three a communist for six or a Jew for eight. | สาวกนิกาย Jehovah's witness คือหมายเลข 2 โฮโมเซกชวลคือหมายเลข 3 คอมมิวนิสต์คือหมายเลข 6 หรือยิวคือหมายเลข 8 The Corporation (2003) | Or have you ever been a member of the Communist party? | คุณมีหรือเคยเป็นสมาชิก ของพรรคคอมมิวนิสต์? Contact (1997) | We must protect our country! | ไปรบที่แนวหน้ากันเพื่อขับไล่ พวกคอมมิวนิสต์ Tae Guk Gi: The Brotherhood of War (2004) | I was a student but I volunteered to fight | ฉัน เต-ซู ฉันหนีมาจากเกาหลีเหนือ แต่ฉันไม่ใช่คอมมิวนิสต์ นะ Tae Guk Gi: The Brotherhood of War (2004) | That's why we've got to win this war! | พวกคอมมิวนิสต์จะมาต้องไหนก็ไม่รู้ Tae Guk Gi: The Brotherhood of War (2004) | Who gives a shit who wins! | ถ้าไปร่วมกับพวกคอมมิวนิสต์. Tae Guk Gi: The Brotherhood of War (2004) | This ain't circus! Go back to the bunker! This is it? | พวกคอมมิวนิสต์เข้ามาฆ่าครอบครัวเขา Tae Guk Gi: The Brotherhood of War (2004) | Communist troops have been driven out of Seoul, Korea... by U.S. Forces led by General Douglas MacArthur. | กลุ่มคอมมิวนิสต์ในกรุงโซล กำลังถูกขับไล่ Walk the Line (2005) | Cut! | เป็นพวกคอมมิวนิสต์รึไง King Kong (2005) | Communism is so over. | พวกคอมมิวนิสต์น่ะ มันเชยไปแล้ว Just Like Heaven (2005) | The Communist Party and the Jews were the ones that quit. | เป็นเพราะพวกคอมมิวนิสต์กับพวกยิวนั่นแหละที่หนีไปก่อน Fullmetal Alchemist the Movie: Conqueror of Shamballa (2005) | - Commie! | คอมมิวนิสต์! Cars (2006) | Yep. They're communists, you know? | ช่าย พวกมันเป็นคอมมิวนิสต์ รู้ไหม? The Last King of Scotland (2006) | We worked together in a completely bipartisan way to bring down communism. | เราทำงานด้วยกันโดยได้รับ การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทั้ง 2 พรรค ในการโค่นล้มลัทธิคอมมิวนิสต์ An Inconvenient Truth (2006) | This is equipped with some kind of microscopic, infrared tracking device that determines her mother's communist affiliations? | เดาว่ามันคงติดอุปกรณ์... พวกไมค์และเครื่องติดตามสินะ จะได้รู้ว่าแม่เธอเป็นคอมมิวนิสต์รึเปล่า Chuck Versus the Imported Hard Salami (2007) | The government's got us seeing Communists in our soup. | พวกรัฐบาลจับตา/มองหาคอมมิวนิสต์ในซุปเรา Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull (2008) | But one of the principal justifications you gave for the incursion was the supposed existence of the "headquarters of the entire Communist military operation in South Vietnam," | แต่หลักการหนึ่งในการพิสูจน์ความถูกต้อง ที่ใช้ในการบุกเข้าไป คือการไม่ปรากฎให้เห็นเลยของ กองบัญชาการทหารคอมมิวนิสต์ ในเวียดนามใต้ Frost/Nixon (2008) | /"The Organic Squirrel /Gets a Bike Helmet"? I'm not reading these communist books to you guys. | ฉันไม่อ่านหนังสือคอมมิวนิสต์พวกนี้\ พวกเธอไม่มีเรื่องดีๆบ้างหรอ? Bedtime Stories (2008) | It's not like we're communists. | เราไม่ใช่คอมมิวนิสต์นะ Chapter Ten '1961' (2009) | Which most Texans believe to be a commie plot. | ซึ่งชาวเท็กซัสส่วนใหญ่คิดว่า เป็นแผนการของคอมมิวนิสต์ The Cornhusker Vortex (2009) | This is a sovereign territory of communist China, a country that ours believes was responsible for the blackout. | นี่คือเขตปกครองพิเศษ ของคอมมิวนิสต์จีน ประเทศที่พวกเราต่างเชื่อกันว่า ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ หมดสติ A561984 (2009) | We might have to make a public inquiry into any past communist affiliations you might have had. | อย่างนี้คงต้องให้สังคมตั้งข้อสงสัย... ...เรื่องความข้องเกี่ยวกับคอมมิวนิสต์ ของคุณในอดีตล่ะมั้ง Watchmen (2009) | There's been a sighting of a known Communist subversive in this area passing out literature | มีคนพบเห็นพวกคอมมิวนิสต์ ทำการแจกจ่ายพวกเอกสารต่างๆ Shutter Island (2010) | Very nice. | แล้วเอาเงินไปซื้อสร้อยมุขให้วอลลิสอีก ขณะที่คอมมิวนิสต์กำลังจะครองยุโรปหรือ The King's Speech (2010) | Look, I appreciate it, guys, but it just isn't me. I know who I am, and I'm not allowed to show it. It's like communism. | ขอบใจทุกคน แต่มันไม่ใช่ตัวฉัน และฉันเป็นตัวเองไม่ได้ ยังกับคอมมิวนิสต์ Theatricality (2010) | ♪ Where Clinton is viewed as a crazy commie clown ♪ | ที่ซึ่งคลินตันถูกมองว่าเป็น ตัวตลกคอมมิวนิสต์ติงต๊อง Excellence in Broadcasting (2010) | I think you are a godless, socialist, pot-smoking, maggot-infested member of the blame-America-first crowd, and I think you want the terrorists to win. | ฉันก็คิดว่าแกเป็นพวกไร้พระเจ้า คอมมิวนิสต์ดูดปุ๊น กาฝากสังคม ที่มีอะไรๆ ก็โทษแต่อเมริกา Excellence in Broadcasting (2010) |
| คอมมิวนิสต์ | [khømmiūnit = khømmiūnis] (n) EN: communist FR: communiste [ m ] | คอมมิวนิสต์ | [khømmiūnit = khømmiūnis] (adj) EN: communist FR: communiste | เผด็จการคอมมิวนิสต์ | [phadetkān khømmiūnit = phadetkān khømmiūnis] (n, exp) EN: Communist dictator | พรรคคอมมิวนิสต์ | [phak khømmiūnit = phak khømmiūnis] (n, exp) FR: parti communiste [ m ] | พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) | [Phak Khømmiūnit Haeng Prathēt Thai (Phø.Khø.Thø.)] (org) EN: Communist Party of Thailand (CPT) | ประเทศคอมมิวนิสต์ | [prathēt khømmiūnit = prathēt khømmiūnis] (n, exp) EN: Communist country FR: pays communiste [ m ] | สังคมนิยมคอมมิวนิสต์ | [sangkhomniyom khømmiūnit] (n, exp) EN: Communist Socialism |
| Bolshevik | (n) คอมมิวนิสต์ | commie | (n) คนที่เป็นคอมมิวนิสต์ | communism | (n) คอมมิวนิสต์ | communist | (n) สมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์ | hammer and sickle | (n) สัญลักษณ์ของคอมมิวนิสต์เป็นรูปค้อนกับเคียว | iron curtain | (n) เขตแบ่งประเทศคอมมิวนิสต์กับอดีตโซเวียตจากยุโรปตะวันตก, See also: ม่านเหล็ก | Khmer Rouge | (n) กลุ่มเขมรแดง ซึ่งนิยมระบบคอมมิวนิสต์ | presidium | (n) คณะกรรมการบริหารที่มีอำนาจเต็มที่ของโซเวียต, See also: กลุ่มผู้เป็นสภาบริหารสูงสุดของประเทศคอมมิวนิสต์, Syn. praesidium | red | (n) ฝ่ายซ้าย, See also: คอมมิวนิสต์, Syn. communist | Commie | (sl) คอมมิวนิสต์ | Viet Cong | (n) ทหารเวียดนามซึ่งเป็นทหารคอมมิวนิสต์, See also: เวียดกง ช่วงปีค.ศ.1954-1976, Syn. communist, Vietcong | Vietcong | (n) เวียดกง, See also: ทหารคอมมิวนิสต์ในเวียดตามใต้ที่รบกับทหารเวียดนามเหนือ ในช่วงปีค.ศ 1954-1976 | VietCong | (n) ทหารเวียดนามซึ่งเป็นทหารคอมมิวนิสต์, See also: เวียดกง ช่วงปีค.ศ.1954-1976, Syn. communist, Viet cong | west | (n) ประเทศทางทวีปยุโรปและอเมริกาที่ไม่ได้ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ในระหว่างสงครามเย็น |
| bolshevik | (บอล'ชะ วิค) n. พวกสังคมนิยมที่เข้าปกครองรัสเซียตั้งแต่ปี ค.ศ.1917, สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ของรัสเซีย, สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์, ผู้ที่มีหัวรุนแรง, See also: bolshevism n. ดูBolshevik Bolshevism n. ดูBolshevik Boshevist n. ดูBolshevik bolshevistic | commie | (คอม'มี) n., adj. คอมมิวนิสต์, Syn. commy, communist | communism | (คอม'มิวนิสซึม) n. ลัทธิคอมมิวนิสต์ | communist | (คอม'มิวนิสทฺ) n. ผู้นิยมลัทธิคอมมิวนิสต์, สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์, สมาชิกของระบบคอมมูน commune) adj. เกี่ยวกับพรรคหรือลัทธิคอมมิวนิสต์, See also: communistic adj. | comrade | (คอม'ริด, คอม'เรด) n. สหาย, เพื่อน, มิตรสนิท, เพื่อนสมาชิกหรือพรรค, สมาชิกพรรค คอมมิวนิสต์, Syn. friend, companion | economism | (อีคอน'นะมัสซึม) n. การเพิ่มผลผลิตโดยการให้ชาวนาได้รับส่วนแบ่ง ของผลผลิตมากขึ้นการเพิ่มค่าแรงงานสวัสดิการและอื่น ๆ (เป็นทฤษฎีหรือหลักการ ของคอมมิวนิสต์จีน) | free world | n. โลกเสรี, ชาติทั้งหลายที่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์หรืออยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการ | left | (เลฟทฺ) adj. ซ้าย, ข้างซ้าย, ด้านซ้าย, มือซ้าย, ทางซ้าย, ปีกซ้าย, ฝ่ายซ้าย (นิยมลัทธิสังคมนิยมหรือคอมมิวนิสต์) n. ด้านซ้าย, สิ่งที่อยู่ทางซ้ายมือ, การหันซ้าย, การเลี้ยวซ้าย adv. ไปทางซ้าย v. กริยาช่อง 2 และช่อง 3 ของ leave (จากไป, ลาจาก) -Phr. (the Left ผู้นิยมการปฏิรูประบบการเมืองสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ, หมัดซ้าย | marx | (มาร์คซฺ) n. Karl (Heinrich) (ค.ศ.1819-1883) นักสังคมนิยมผู้ก่อตั้งระบบคอมมิวนิสต์ | marxism | (มาร์ค'ซิสซึม) n. ลัทธิของคาร์ลมาคซ์ที่เกี่ยวกับการเมือง สังคมและเศรษฐกิจ เป็นลัทธิเจ้าตำรับของระบบคอมมิวนิสต์, See also: Marxist n., adj. | politbureau | (พอล'ลิทบิวโร) n. ชื่อคณะกรรมการหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์ในโซเวียต | politburo | (พอล'ลิทบิวโร) n. ชื่อคณะกรรมการหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์ในโซเวียต | pravda | (พราฟว'ดะ) n. หนังสือพิมพ์ทางการของพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียต | red | (เรด) n. สีแดง, สิ่งที่มีสีแดง, ผู้นิยมซ้ายจัด (โดยเฉพาะคอมมิวนิสต์) -Phr. (in the red ขาดทุน, เป็นหนี้) adj. สีแดง, มีรอยแดง, (การเมือง) ซ้ายจัด, คอมมิวนิสต์, See also: redly adv. redness n. | red china | n. สาธารณรัฐประชาชนจีน (คอมมิวนิสต์), Syn. China |
| | coexistence | (n) การอยู่รวมกัน (ของโลกตะวันออกและโลกคอมมิวนิสต์), อยู่ร่วมกัน, See also: coexist, Syn. coexistent |
| 共産党 | [きょうさんとう, kyousantou] (n) พรรคคอมมิวนิสต์ |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |