*ลัทธิ* แปลว่าอะไร ดูความหมาย ตัวอย่างประโยค หมายความว่า พจนานุกรม Longdo Dictionary แปลภาษา คำศัพท์
×
Dictionaries languages







English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


372 ผลลัพธ์ สำหรับ *ลัทธิ*
ภาษา
หรือค้นหา: ลัทธิ, -ลัทธิ-

มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
ลัทธิ(n) doctrine, See also: cult, creed, ideology, faith, belief, Syn. ความเชื่อ, หลักการ, แนวคิด, Example: ปราสาทนี้สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาในลัทธิศาสนา, Thai Definition: คติความเชื่อถือหรือความคิดเห็น
ลัทธิฮินดู(n) Hinduism
ลัทธิขงจื้อ(n) Confucianism
ลัทธิทุนนิยม(n) capitalism, Example: ขณะนี้เศรษฐกิจโลกถูกครอบงำด้วยลัทธิทุนนิยม ทำให้การแข่งขันกันมีระดับความรุนแรงมากขึ้น, Thai Definition: ลัทธินิยมที่แต่ละบุคคลมีสิทธิ์ที่จะถือครองทรัพย์สินและควบคุมกรรมวิธีการผลิตได้โดยตรง
ลัทธิชาตินิยม(n) nationalism
ลัทธิอาณานิคม(n) colonialism
ลัทธิเผด็จการ(n) dictatorship, See also: totalitarianism, Syn. ิเผด็จการ, Example: ผู้นำประเทศใช้ลัทธิเผด็จการบังคับให้คนในชาติคิดและปฏิบัติเหมือนกับตน, Thai Definition: การใช้อํานาจบริหารเด็ดขาด
ลัทธิเสรีนิยม(n) liberalism, Syn. ิเสรีนิยม, Example: ลัทธิเสรีนิยมนั้นอยู่กึ่งกลางระหว่างลัทธิจารีตนิยมกับลัทธิสังคมนิยม
ลัทธิความเชื่อ(n) creed, See also: faith, ideology, credo, belief, doctrine, Example: ศาสนิกชนของทุกศาสนา สามารถประกอบพิธีกรรมตามลัทธิความเชื่อของตนได้อย่างอิสระเสรี, Count Unit: ลัทธิ
ลัทธิจารีตนิยม(n) conservatism, Syn. จารีตนิยม, Example: ลัทธิเสรีนิยมนั้นอยู่กึ่งกลางระหว่างลัทธิจารีตนิยมกับลัทธิสังคมนิยม
ลัทธิสังคมนิยม(n) socialism
ลัทธิคอมมิวนิสต์(n) communism, Syn. คอมมิวนิสต์, Example: ลัทธิคอมมิวนิสต์ครองอำนาจอยู่ในหลายประเทศในโลก, Thai Definition: ลัทธิเกี่ยวกับการจัดระเบียบสังคมที่ยึดหลักว่า การรวมกันของบรรดาทรัพย์สินทั้งหลายเป็นของกลางร่วมกันทั้งหมด เอกชนจะถือกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์มิได้, ผู้ที่นิยมในลัทธินั้น
ลัทธิคอมมิวนิสต์(n) communism, Example: ทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนกันในการต่อสู้กับลัทธิคอมมิวนิสต์, Thai Definition: ลัทธิเกี่ยวกับการจัดระเบียบสังคมที่ยึดหลักว่า การรวมกันของบรรดาทรัพย์สินทั้งหลายเป็นของกลางร่วมกันทั้งหมด เอกชนจะถือกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์มิได้
ลัทธิประชาธิปไตย(n) democracy
ลัทธิจักรพรรดินิยม(n) imperialism, Syn. จักรพรรดินิยม, Example: กระแสของประชาชนกำลังต่อต้านระบบจักรพรรดินิยมมีมากขึ้น
ลัทธิจักรวรรดินิยม(n) imperialism, Syn. จักรวรรดินิยม, Example: ประเทศอังกฤษใช้เทคโนโลยีทั้งเรือรบและปืนไฟขยายลัทธิจักรวรรดินิยมไปทำลายประเทศต่างๆ เกือบทั่วโลก, Thai Definition: ลัทธิขยายอาณาเขตและอำนาจปกครองของรัฐ
ลัทธิสมบูรณาญาสิทธิราชย์(n) absolutism, See also: despotism, Syn. สมบูรณาญาสิทธิราชย์, Example: คณะราษฎร์กระทำการปฏิวัติยึดอำนาจเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยเมื่อพ.ศ.2475, Thai Definition: ระบอบการปกครองซึ่งพระมหากษัตริย์มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการบริหารประเทศ

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ลัทธิน. คติความเชื่อถือ ความคิดเห็น และหลักการ ที่มีผู้นิยมนับถือและปฏิบัติตามสืบเนื่องกันมา เช่น ลัทธิสังคมนิยม ลัทธิชาตินิยม ลัทธิทุนนิยม.
กระพัง ๒น. ภาชนะชนิดหนึ่ง สำหรับใส่นํ้าทำพิธีต่าง ๆ ตามลัทธิไสยศาสตร์ เรียกว่า “กระพังนํ้า” ซึ่งน่าจะมีรูปคล้ายกับหม้อนํ้ามนตร์ของเรา.
กาลจักร(กาละ-) น. ชื่อพิธีกรรมในลัทธิตันตระ ซึ่งมีข้อปฏิบัติเบื้องต้น ๕ อย่าง คือ ดื่มนํ้าเมา กินเนื้อสัตว์ พรํ่ามนตร์ แสดงท่ายั่วยวน และเสพเมถุน ซึ่งปฏิบัติในเวลากลางคืนหรือที่มืด, กาฬจักร ก็ว่า.
กำบัง ๓น. ชื่อว่านต้นดั่งกระชาย หัวเล็ก ๆ ติดกันดั่งกล้วยไข่ ต้นและใบเขียว เนื้อในขาว ใช้สำหรับเป็นว่านกันภัยในทางลัทธิ และกันว่านร้ายต่าง ๆ, ว่านกั้นบัง ก็เรียก.
กำลังภายในน. กำลังที่เร้นอยู่ภายใน, กำลังที่เกิดจากการฝึกจิต โดยเฉพาะในลัทธิเต๋าและพระพุทธศาสนาบางนิกาย เพื่อให้จิตใจกล้าแข็งจนสามารถทำสิ่งที่คนทั่วไปทำไม่ได้.
กินบวชก. กินเครื่องกระยาบวชในลัทธิพิธี เช่นพิธีตรุษ, ใช้เข้าคู่กับคำ ถือศีล เป็น ถือศีลกินบวช, กินในเวลาตามกำหนดของการถือพรตในลัทธิศาสนา.
ข้าวนก ๒น. ชื่อเรือชนิดหนึ่ง เช่น ถ้าทรงเรือแผงและเรือข้าวนกประพาสบัว (ลัทธิ).
เข้าเงียบก. ประพฤติสงบจิตใจอยู่ในที่สงัดตามลัทธิคริสต์ศาสนา.
คติสุขารมณ์น. ลัทธิที่ถือว่าความสุขทางผัสสะหรือโลกียสุขในชีวิตปัจจุบัน เป็นสิ่งสูงสุดหรือเป็นความดีสูงสุดของชีวิต.
คอมมิวนิสต์น. ระบบเศรษฐกิจการเมืองและสังคมแบบหนึ่งของลัทธิสังคมนิยมที่มีอุดมการณ์ให้รวมทรัพย์สินทั้งปวงเป็นสมบัติส่วนกลางของชุมชน ไม่ให้มีกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคล และให้จัดสรรรายได้แก่บุคคลอย่างเสมอภาคกัน ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาความทุกข์ยากของคนในสังคมอันเป็นผลจากความไม่เสมอภาคในทรัพย์สิน, ผู้ที่นิยมระบบคอมมิวนิสต์.
จักรวรรดินิยม(-หฺวัดนิยม) น. ลัทธิขยายอาณาเขตและอำนาจปกครองของรัฐ.
จารวาก(จาระ-) น. ลัทธิโลกายัต. <i> (ดู โลกายัต ที่ โลก, </i> <i> โลก-)</i>.
จิตนิยม(จิดตะ-, จิด-) น. ลัทธิที่เชื่อว่าจิตเท่านั้นเป็นความแท้จริงขั้นสูงสุด วัตถุทั้งหลายเป็นเพียงสิ่งที่จิตคิดขึ้น.
เจตภูต(เจดตะพูด) น. สภาพเป็นผู้คิดอ่าน คือ มนัส, ที่เรียกในภาษาสันสกฤตว่า “อาตมัน” เรียกในภาษาบาลีว่า “อัตตา” ก็มี “ชีโว” ก็มี, มีอยู่ในลัทธิว่า “ในโลกนี้ไม่มีอะไรสูญ แม้คนและสัตว์ตายแล้ว ร่างกายเท่านั้นทรุดโทรมไป ส่วนเจตภูตเป็นธรรมชาติไม่สูญ ย่อมถือปฏิสนธิในกำเนิดอื่นสืบไป”, ลัทธินี้ทางพระพุทธศาสนาจัดเป็นสัสตทิฐิ แปลว่า ความเห็นว่าเที่ยง, ตามสามัญที่เข้าใจกัน เจตภูต คือวิญญาณที่สิงอยู่ในตัวคน กล่าวกันว่าออกจากร่างได้ในเวลานอนหลับ.
ชาตินิยม(ชาดนิยม) น. ลัทธิที่ถือชาติเป็นใหญ่, ความรักชาติ.
ซ้ายเรียกกลุ่มที่มีอุดมคติเพื่อลดช่องว่างระหว่างชนชั้นในด้านเศรษฐกิจและการเมือง เป็นต้น มักใช้วิธีการที่รุนแรงและรวดเร็ว ว่า ฝ่ายซ้าย, โดยทั่วไปใช้หมายถึงกลุ่มที่นิยมลัทธิสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์.
ญาติธรรม(ยาดติ-) น. ญาติในทางธรรม, ผู้มีความสัมพันธ์กันฉันญาติเพราะนับถือศาสนาหรือลัทธิของศาสนาร่วมกัน.
ตีรถังกรน. เจ้าลัทธิในศาสนาเชน.
ถึงแก่มรณภาพก. ตาย (ใช้แก่พระภิกษุสามเณร หรือนักบวชในลัทธิศาสนาอื่น), ที่ใช้สั้น ๆ ว่า ถึงมรณภาพ หรือ มรณภาพ ก็มี.
ถึงมรณภาพก. ตาย (ใช้แก่พระภิกษุสามเณร หรือนักบวชในลัทธิศาสนาอื่น), มรณภาพ ก็ว่า, ใช้เต็มว่า ถึงแก่มรณภาพ.
ถือบวชก. ประพฤติพรตตามลัทธิศาสนาต่าง ๆ
เถรวาท(เถระวาด) น. ลัทธิที่ถือตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระอรหันตเถระรวม ๕๐๐ รูป ได้รวบรวมไว้ในคราวปฐมสังคายนา, ชื่อนิกายพระพุทธ-ศาสนาฝ่ายใต้ที่ถือกันในลังกา พม่า และไทยเป็นต้น, หินยาน หีนยาน หรือ ทักษิณนิกาย ก็ว่า.
ทรราชน. ผู้ปกครองบ้านเมืองที่ใช้อำนาจตามอำเภอใจ ทำความเดือดร้อนทารุณให้แก่ผู้อยู่ใต้การปกครองของตน. (อ. tyrant), เรียกลัทธิเช่นนั้น ว่า ทรราชย์ หรือ ระบบทรราชย์.
ทัก ๑ก. กล่าวเป็นเชิงเตือน, พูดโอภาปราศรัยด้วยอัธยาศัยไมตรีเมื่อพบหน้ากัน, กล่าวหรือออกเสียงให้ระวังหรือสังเกตว่าจะเป็นภัยตามลัทธิที่ถือกัน เช่น จิ้งจกทัก.
ทักษิณาจารน. ชื่อลัทธิตันตระแบบหนึ่งนับเนื่องในนิกายหนึ่งของศาสนาพราหมณ์ยุคหลัง เป็นแบบขวาหรือฝ่ายขวา มีพิธีกรรมเปิดเผย ไม่มีลามกอนาจาร, คู่กับ วามาจาร, ชื่อลัทธิพุทธตันตระแบบหนึ่ง ซึ่งมีหลักปฏิบัติทำนองเดียวกับลัทธิตันตระของพราหมณ์ โดยถือพระไวโรจนพุทธะแทนพรหมัน.
เทพนิยม(เทบ-) น. ลัทธิที่เชื่อว่ามีพระเจ้าจำนวนมากประจำอยู่ในสรรพสิ่ง แต่พระเจ้านั้นไม่มีอำนาจครอบครองโลก.
เทวนิยมน. ลัทธิที่เชื่อว่ามีพระเป็นเจ้าผู้ทรงอำนาจยิ่งใหญ่ ทรงมีอำนาจครอบครองโลกและสามารถดลบันดาลความเป็นไปในโลก.
แท่นมณฑลน. แท่นยกพื้นสี่เหลี่ยมผืนผ้าดาดเพดานด้วยผ้าขาวติดระบายรอบ ใช้ตั้งปูชนียวัตถุและเครื่องใช้เป็นต้นในการเข้าพิธีเฉลิมฉลองตามลัทธิประเพณี.
นักบวชน. ผู้ที่ได้เข้าพิธีบวชตามลัทธิศาสนาต่าง ๆ เช่น ภิกษุ สามเณร บาทหลวง.
นิยมก. ชมชอบ, ยอมรับนับถือ, ชื่นชมยินดี, ใช้ประกอบท้ายคำสมาสบางคำใช้เป็นชื่อลัทธิ เช่น ลัทธิชาตินิยม ลัทธิสังคมนิยม.
นิยัตินิยม(นิยัดติ-) น. ลัทธิความเชื่อที่ว่า การกระทำทุกอย่างของมนุษย์หรือเหตุการณ์ทั้งหลายได้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว.
ประสบการณ์นิยม(ปฺระสบกาน-) น. ลัทธิทางปรัชญาที่ถือว่าประสบการณ์เป็นบ่อเกิดของความรู้ทุกอย่าง
เผด็จการน. การใช้อำนาจบริหารเด็ดขาด, เรียกลัทธิหรือแบบการปกครองที่ผู้นำคนเดียวหรือบุคคลกลุ่มเดียวใช้อำนาจอย่างเด็ดขาดในการบริหารประเทศ ว่า ลัทธิเผด็จการ, เรียกผู้ใช้อำนาจเช่นนั้น ว่า ผู้เผด็จการ.
ฝ่ายซ้ายน. กลุ่มที่มีอุดมคติเพื่อลดช่องว่างระหว่างชนชั้นในด้านเศรษฐกิจและการเมืองเป็นต้น มักใช้วิธีการที่รุนแรงและรวดเร็ว, โดยทั่วไปใช้หมายถึงกลุ่มที่นิยมลัทธิสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์.
พรตมรรยาท, เขตแห่งความประพฤติ, ธรรมเนียม, ประเพณี, การสมาทานหรือประพฤติตามลัทธิศาสนา, การจำศีล (เช่น การเว้นบริโภค เว้นเมถุนธรรม)
พลากร ๒น. อากรที่เรียกเก็บจากจำนวนต้นของไม้ผลยืนต้น ๗ ชนิด คือ ขนุน สะท้อน (กระท้อน) เงาะ ส้มต่าง ๆ มะไฟ ฝรั่ง สาเก และไม้ล้มลุกคือสับปะรด (ลัทธิธรรมเนียม).
พิธีน. งานที่จัดขึ้นตามลัทธิหรือความเชื่อถือตามขนบธรรมเนียมประเพณีเพื่อความขลังหรือความเป็นสิริมงคลเป็นต้น เช่น พิธีพระราชทานปริญญาบัตร พิธีมงคลสมรส พิธีประสาทปริญญา
พินทุ ๑น. หยาดเช่นหยาดนํ้า, จุด, จุดที่ใส่ไว้ใต้ตัวอักษร, จุดกลมแต้มที่หน้าผากระหว่างคิ้วของผู้หญิงตามลัทธิพราหมณ์, รูปวงเล็ก ๆ.
ฟาสซิสต์น. ลัทธิการเมืองที่ผู้นำรวบอำนาจทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมไว้หมด และมีนโยบายชาตินิยมอย่างรุนแรง แต่เคารพในกรรมสิทธิ์ของเอกชน, ผู้ที่นิยมลัทธินั้น.
ฟาสซิสต์ว. เกี่ยวกับลัทธิฟาสซิสต์.
มัชฌิมชนบทน.ในสมัยพุทธกาลหมายถึง ดินแดนส่วนกลางของประเทศอินเดียอันเป็นที่อยู่ของพวกอริยกะ เป็นถิ่นที่อุดมสมบูรณ์ เป็นที่ตั้งนครใหญ่ ๆ เป็นศูนย์กลางการปกครอง และเป็นที่ประชุมของนักปราชญ์ คณาจารย์ เจ้าลัทธิต่าง ๆ.
โยค-, โยคะวิธีบำเพ็ญสมาธิตามลัทธิของอาจารย์ปตัญชลี
โยคีน. นักบวชผู้ปฏิบัติตามลัทธิโยคะ, ฤษีพวกหนึ่ง.
ลอยบาปก. ปลดเปลื้องบาปให้ลอยไปในแม่น้ำคงคาตามลัทธิศาสนาพราหมณ์.
ล้างสมองก. ทำให้บุคคลเปลี่ยนความคิดเห็นหรือความเชื่อถือของตนโดยเฉพาะในลัทธิการเมือง สังคม หรือศาสนาไปอย่างสิ้นเชิง และยอมรับความคิดเห็นหรือความเชื่อใหม่โดยใช้วิธีการต่าง ๆ รวมทั้งอาจมีการทรมานจิตใจอย่างรุนแรง.
โลกายัตน. ชื่อหนึ่งของลัทธิปรัชญาฝ่ายวัตถุนิยมของอินเดีย ถือว่าโลกนี้เกิดจากการรวมตัวกันเองของวัตถุธาตุ ๔ คือ ดิน นํ้า ไฟ ลม ชีพหรือชีวิตเป็นเพียงผลิตผลของวัตถุธาตุที่รวมตัวกันนั้น คนเราเกิดครั้งเดียว ตายแล้วขาดสูญ ไม่มีโลกหน้า จึงควรแสวงหากามสุขเสียแต่วันนี้ พรุ่งนี้เราอาจตาย, ลัทธินี้ทางพระพุทธศาสนาจัดเป็นอุจเฉททิฐิ แปลว่า ความเห็นว่าตายแล้วสูญ, จารวาก ก็เรียก.
วัชรยานน. ชื่อหนึ่งของลัทธิพุทธตันตระ ซึ่งถือว่ามีหลักปรัชญาสูงเหนือธรรมชาติ มีความแข็งเหมือนเพชร ใสเหมือนอากาศ ไม่มีใครต้านทานได้เหมือนสายฟ้า จึงเรียกหลักปรัชญานั้นว่า วัชระ และเรียกลัทธิว่า วัชรยาน.
วาท, วาท-ลัทธิ, ความเห็น.
วามาจารน. ชื่อลัทธิตันตระแบบหนึ่ง นับเนื่องในนิกายหนึ่งของศาสนาพราหมณ์ยุคหลัง เป็นแบบซ้ายหรือฝ่ายซ้าย มีพิธีกรรมลี้ลับ อนาจาร, คู่กับ ทักษิณาจาร
วามาจารชื่อลัทธิพุทธตันตระแบบหนึ่ง ซึ่งมีหลักปฏิบัติทำนองเดียวกับลัทธิตันตระของพราหมณ์, เรียกผู้ปฏิบัติในลัทธินี้ ว่า วามาจาริน.

ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
parallelismลัทธิขนาน [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
parallelism, psycho-physicalลัทธิขนานระหว่างกายกับจิต [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
protectionismลัทธิคุ้มครอง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
pointillismลัทธิผสานจุดสี [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
personality cultลัทธิบูชาบุคคล [ ดู cult of personality ] [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
paternalismระบบพ่อปกครองลูก, ลัทธิพ่อเมือง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
psycho-physical parallelismลัทธิขนานระหว่างกายกับจิต [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
populismลัทธิอิงสามัญชน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
post-impressionismลัทธิประทับใจยุคหลัง [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
Leninismลัทธิเลนิน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
radicalismคติมูลวิวัติ, คตินิยมการเปลี่ยนถึงรากฐาน, ลัทธิสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงที่ต้นตอ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
revisionismลัทธิแก้ (ลัทธิที่แก้ไขลัทธิมากซ์) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
romanticismจินตนิยม, ลัทธิโรแมนติก [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
Stalinismลัทธิสตาลิน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
Sexismลัทธิกีดกันทางเพศ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
surrealismลัทธิเหนือจริง [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
stoicismลัทธิสโตอิก [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
sectลัทธิ, นิกาย [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
abstract expressionismลัทธิสำแดงพลังอารมณ์แนวนามธรรม [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
anarchismลัทธิอนาธิปไตย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
anarchistผู้นิยมลัทธิอนาธิปไตย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
authoritarianismลัทธิอำนาจนิยม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
anti-clericalismคตินิยมต่อต้านศาสนจักร, ลัทธิต่อต้านศาสนจักร [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
anti-Semitismลัทธิต่อต้านยิว [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
alarmismลัทธิสร้างสถานการณ์ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
Bolshevismลัทธิบอลเชวิก [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
Monroe Doctrineลัทธิมอนโร (อเมริกัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
Maoismลัทธิเหมาเจ๋อตง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
mysticismรหัสยลัทธิ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
Menshevismลัทธิเมนเชวิก (ลัทธิสังคมนิยมสายกลางของรัสเซีย) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
mannerismลัทธิเกินพอดี, จริตนิยม [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
millenarianismลัทธิสหัสวรรษ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
Malthusianismลัทธิมัลทัส [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
mercantilismลัทธิพาณิชยนิยม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
Marxismลัทธิมากซ์ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
Marxismลัทธิมาร์กซิสต์ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
Marxismลัทธิมากซ์ [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
Marxism-Leninismลัทธิมากซ์-เลนิน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
marxistผู้นิยมลัทธิมากซ์ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
constructivismลัทธิเค้าโครง [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
capitalismลัทธินายทุน, ทุนนิยม [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
chauvinismลัทธิคลั่งชาติ (ฝรั่งเศส) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
communismลัทธิคอมมิวนิสต์ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
communismลัทธิคอมมิวนิสต์ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
chilling effect doctrineลัทธิที่ขัดขวางการใช้สิทธิของบุคคลตามรัฐธรรมนูญ (ก. อเมริกัน) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
colonialismลัทธิอาณานิคม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
containmentการจำกัดการขยายตัวของลัทธิที่ไม่พึงปรารถนา [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
cult of personality; cult, personalityลัทธิบูชาบุคคล [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
cult, personality; cult of personalityลัทธิบูชาบุคคล [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
cynicismลัทธิซีนิก [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]

คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
Economic doctrineลัทธิเศรษฐกิจ [เศรษฐศาสตร์]
Political doctrineลัทธิการเมือง [เศรษฐศาสตร์]
Art, Tantric-Buddhistศิลปะพุทธศาสนาลัทธิตันตระ [TU Subject Heading]
Authoritarianismลัทธิอำนาจนิยม [TU Subject Heading]
Communismลัทธิคอมมิวนิสต์ [TU Subject Heading]
Communism and agricultureลัทธิคอมมิวนิสต์กับเกษตรกรรม [TU Subject Heading]
Communism and Buddhismลัทธิคอมมิวนิสต์กับพุทธศาสนา [TU Subject Heading]
Communism and cultureลัทธิคอมมิวนิสต์กับวัฒนธรรม [TU Subject Heading]
Communism and Islamลัทธิคอมมิวนิสต์กับศาสนาอิสลาม [TU Subject Heading]
Communism and religionลัทธิคอมมิวนิสต์กับศาสนา [TU Subject Heading]
Communism and societyลัทธิคอมมิวนิสต์กับสังคม [TU Subject Heading]
Communist revisionismลัทธิแก้ [TU Subject Heading]
Confucianismลัทธิขงจื๊อ [TU Subject Heading]
Confucianistsผู้นับถือลัทธิขงจื๊อ [TU Subject Heading]
Cultsลัทธิพิธี [TU Subject Heading]
History of doctrinesประวัติของลัทธิ [TU Subject Heading]
Holismลัทธิองค์รวม [TU Subject Heading]
Hygiene, Taoistอนามัยแบบลัทธิเต๋า [TU Subject Heading]
Internationalismลัทธิสากลนิยม [TU Subject Heading]
Liberalismลัทธิเสรีนิยม [TU Subject Heading]
Mercantile systemลัทธิพาณิชยนิยม [TU Subject Heading]
Phallicismลัทธิบูชาลึงค์ [TU Subject Heading]
Post-communismแนวคิดหลังลัทธิคอมมิวนิสต์ [TU Subject Heading]
Protectionismลัทธิปกป้อง [TU Subject Heading]
Sexismลัทธิเพศนิยม [TU Subject Heading]
Sexism in educational testsลัทธิเพศนิยมในการทดสอบทางการศึกษา [TU Subject Heading]
Sexism in textbooksลัทธิเพศนิยมในแบบเรียน [TU Subject Heading]
Shintoลัทธิชินโต [TU Subject Heading]
Shinto and stateลัทธิชินโตกับรัฐ [TU Subject Heading]
Shinto shrinesที่สถิตวิญญาณทางลัทธิชินโต [TU Subject Heading]
Sufismลัทธิซูฟี [TU Subject Heading]
Tantrismลัทธิตันตระ [TU Subject Heading]
Taoismลัทธิเต๋า [TU Subject Heading]
Protectionismลัทธิคุ้มครองการค้า, Example: นโยบายของรัฐบาลที่นำภาษี โควต้า และมาตรการจำกัดสินค้านำเข้า มาใช้เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมภายใน ประเทศสามารถอยู่รอดได้ ไม่ต้องแข่งขันกับสอนค้าชนิดเดียวกัน จากต่างประเทศ นักเศรษฐศาสตร์ฝ่ายเสรีนิยมมักมองลัทธิคุ้มครองการค้าว่าก่อให้เกิดผลเสีย หายต่อประเทศโดยส่วนรวม เช่นรัฐบาลให้ความคุ้มครองอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ โดยการตั้งภาษีสินค้านำเข้าในอัตราสูงมากหรือห้ามนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ ผลประโยชน์จะตกกับผู้ประกอบรถยนต์เพียงกลุ่มเดียว แต่ผู้บริโภคทั้งประเทศจะเสียผลประโยชน์โดยต้องซื้อสินค้าในราคาที่สูงขึ้น โดยไม่มีเหตุผล [สิ่งแวดล้อม]
Commission on Human Rightsคณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น [การทูต]
Declarationคำประกาศ หรือ ปฏิญญา ตามความเห็นของผู้ทรงคุณความรู้ทางกฎหมายระหว่างประเทศ ส่วนมากได้ให้ความเห็นว่า คำนี้มีความหมายต่างกันอยู่สามประการ คือประการแรก ใช้เป็นชื่อเรียกข้อกำหนดต่าง ๆ ของสนธิสัญญา กล่าวคือ ตามสนธิสัญญานี้ ภาคีคู่สัญญารับที่จะปฏิบัติตามแนวทางบางประการในอนาคตประการที่สอง เป็นคำประกาศถ่ายเดียว (Unilateral Declaration) ซึ่งก่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่แก่รัฐอื่นๆ เช่น คำประกาศสงครามประการสุดท้าย หมายถึง การกระทำซึ่งรัฐหนึ่งหรือหลายรัฐได้ติดต่อแจ้งไปยังรัฐอื่น ๆ ซึ่งเป็นการอธิบายหรือให้เหตุผลสนับสนุนพฤติกรรมของฝ่ายตนในอดีต หรืออธิบายทรรศนะและเจตจำนงเกี่ยวกับเรื่องบางเรื่อง คำประกาศสำหรับความหมายสองประการหลังไม่ถือว่ามีลักษณะเป็นสนธิสัญญาอนึ่ง ในกรณีคำประกาศถ่ายเดียว (Unilateral Declaration) นั้น บางทีรัฐหนึ่งต้องการเสนอนโยบายหรือหนทางปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งของตน โดยประกาศนโยบายหรือหนทางปฏิบัตินั้นไปให้รัฐอื่นๆ ทราบกันไว้ อาทิเช่น ลัทธิมอนโร (Monroe Doctrine) ซึ่งสหรัฐอเมริกาได้ประกาศออกไปในรูปคำประกาศถ่ายเดียว เป็นต้น [การทูต]
Eisenhower Doctrineลัทธิไอเซนฮาวร์ เมื่อวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1957 ประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความวิตกห่วงใยในสถานการณ์ที่ล่อแหลมต่ออันตรายในภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้อ่านสารพิเศษต่อที่ประชุมร่วมระหว่างสภาผู้แทนกับวุฒิสภาขอร้องให้รัฐสภา สหรัฐฯ ลงมติรับรองโครงการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและทางทหาร เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งเอกราชแห่งชาติของบรรดาประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น ดังนั้น ในการสนองตอบสารพิเศษดังกล่าว รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านข้อมติร่วมกันเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1957 มอบให้ประธานาธิบดีมีอำนาจให้ความร่วมมือและอำนวยความช่วยเหลือแก่ชาติหรือ กลุ่มชาติต่างๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งต้องการความช่วยเหลือเช่นนั้น ในการที่จะพัฒนาพลังทางเศรษฐกิจเพื่อรักษาไว้ซึ่งเอกราชแห่งชาติตน และให้จัดโครงการช่วยเหลือทางทหารแก่ชาติต่างๆ ในภาคนั้นซึ่งต้องการความช่วยเหลือดังกล่าว ทั้งได้มอบอำนาจให้ประธานาธิบดีสามารถใช้กองทัพสหรัฐฯ เข้าช่วยเหลือชาติเหล่านั้นที่แสดงเจตนาขอความช่วยเหลือ เพื่อต่อต้านการรุกรานจากประเทศใด ๆ ที่อยู่ใต้อำนาจควบคุมของคอมมิวนิสต์ระหว่างประเทศ [การทูต]
Iron Curtainม่านเหล็ก เป็นศัพท์ที่อดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ผู้ล่วงลับไปแล้ว คือ เซอร์วินสตัน เชอชิลล์ เป็นผู้บัญญัติขึ้นหมายถึงเครื่องกีดขวางปิดกั้นเขต ซึ่งโซเวียตรัสเซียและประเทศคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกไม่ยอมให้มีการ ติดต่อหรือเดินทางเข้าไปในอาณาเขตของประเทศดังกล่าว ที่เรียกกันว่า ประเทศหลังม่านเหล็ก เป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองในระหว่างสงครามเย็น แต่ภายหลังที่ลัทธิคอมมิวนิสต์ล่มสลาย ม่านเหล็กก็พลอยหมดสภาพไปในที่สุด [การทูต]
Marshall Planแผนการมาร์แชล ในโอกาสวันประสาทปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1947 ยอร์ช ซี.มาร์แชล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สมัยนั้น ได้กล่าวอยู่ตอนหนึ่งในสุนทรพจน์ว่า?สหรัฐอเมริกาควรจะทำทุกอย่างเท่าที่จะ สามารถกระทำได้ เพื่อช่วยให้ดินแดนต่าง ๆ ในโลกได้กลับคืนสู่ภาวะปกติทางเศรษฐกิจ เพราะหากปราศจากภาวะดังกล่าว โลกก็จะไม่มีเสถียรภาพที่สถาพร นโยบายของสหรัฐฯ มิได้มุ่งจะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศใดหรือลัทธิใด หากมุ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อความหิวโหย ความยากจน ความสิ้นหวัง และความยุ่งเหยิง การที่จะให้สหรัฐอเมริการับภาระในการจัดวางโครงการแต่ฝ่ายเดียว เพื่อช่วยให้ทวีปยุโรปสามารถช่วยตนเองทางเศรษฐกิจขึ้นใหม่ นับว่ายังไม่เหมาะสมและถูกต้องนัก ควรจะให้เป็นภาระหน้าที่ของชนชาวยุโรปทั้งหลายเอง บทบาทของสหรัฐฯ ควรจะเป็นเพียงผู้เสนอให้ความความช่วยเหลือฉันมิตร ในการร่างโครงการช่วยเหลือทวีปยุโรป และให้ความสนับสนุนแก่โครงการนั้น ตราบที่โอกาสจะเอื้ออำนวยต่อการกระทำเช่นนั้นได้?จากสุนทรพจน์ข้างต้น พอจะเข้าใจจุดประสงค์สำคัญของสหรัฐอเมริกาได้ไม่ยากว่า ไม่ต้องการให้ทวีปยุโรป ซึ่งกำลังอ่อนแอโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจหลังจากเสร็จสงครามใหม่ ๆ ต้องตกไปอยู่ใต้อำนาจครอบงำของฝ่ายคอมมิวนิสต์นั่นเอง [การทูต]
Neutralization, Neutrality หรือ Neutralismคำว่า Neutraliza-tion หมายถึง กระบวนการซึ่งรัฐได้รับการค้ำประกันความเป็นเอกราชและบูรณภาพอย่างถาวรภาย ใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ รัฐที่ได้รับการประกันรับรองให้เป็นกลาง (Neutralized State) เช่นนี้จะผูกมัดตนว่า จะละเว้นจาการใช้อาวุธโจมตีไม่ว่าประเทศใดทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าจะถูกโจมตีก่อน ตัวอย่างอันเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความ เป็นกลางอย่างถาวร คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามปฏิญญา (Declaration) ซึ่งมีการลงนามกัน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1815 ประเทศใหญ่ ๆ ในสมัยนั้น คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษ ปรัสเซีย และรัสเซีย ได้รับรองว่า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม จึงเป็นการจำเป็นที่จะให้รัฐเฮลเวติก(Helvetic Swiss States) ได้รับการประกันความเป็นกลางตลอดไป ทั้งยังประกาศด้วยว่า รัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์ตกลงรับปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้ระบุไว้เมื่อไร ความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์ก็จะได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางในทันที และแล้วสมาพันธ์สวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประกาศยอมรับปฏิบัติตาม หรือให้ภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1815 บรรดาประเทศที่รับรองค้ำประกันความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์จึงประกาศ รับรองดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1815 อนึ่ง การค้ำประกันความเป็นกลางในลักษณะที่ครอบคลุมทั้งประเทศของรัฐใดรัฐหนึ่ง นั้น มีความแตกต่างกับการค้ำประกันเพียงดินแดนส่วนใดส่วนหนึ่งของรัฐหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าดินแดนส่วนหนึ่งของรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางจะ ไม่ยอมให้ฝ่ายใดใช้ดินแดนส่วนที่ค้ำประกันนั้นเป็นเวทีสงครามเป็นอันขาด การค้ำประกันความเป็นกลางยังมีอีกแบบหนึ่งคือ รัฐหนึ่งจะประกาศตนแต่ฝ่ายเดียวว่าจะรักษาความเป็นกลางของตนตลอดไปโดยถาวร แต่ในกรณีเช่นนี้ ความเป็นเอกราชและบูรณภาพของรัฐที่ประกาศตนเป็นกลางเพียงฝ่ายเดียว จะไม่ได้รับการค้ำประกันร่วมกันจากรัฐอื่น ๆ แต่อย่างใดส่วนคติหรือลัทธิความเป็นกลาง (Neutralism) เป็นศัพท์ที่หมายถึงสถานภาพของรัฐต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการน้ำประเทศของตนเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสงครามเย็น ( Cold War) ที่กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ระหว่างกลุ่มประเทศภาคตะวันออกกับกลุ่มประเทศภาค ตะวันตก นอกจากนี้ ผู้นำบางคนในกลุ่มของรัฐที่เป็นกลาง ไม่เห็นด้วยกีบการที่ใช้คำว่า ?Neutralism? เขาเหล่านี้เห็นว่าควรจะใช้คำว่า ?ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด? ( Uncommitted ) มากกว่าจะเห็นได้ว่า คำว่า ?ความเป็นกลาง? ( Neutrality ) นั้น หมายถึงความเป็นกลางโดยถาวร ซึ่งได้รับการค้ำประกันจากกลุ่มประเทศกลุ่มหนึ่ง เช่นในกรณีประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้หรือหมายถึงความเป็นกลางเฉพาะในดินแดน ส่วนหนึ่งของรัฐที่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปทำสงครามกันในดินแดนที่เป็นกลางส่วน นั้นเป็นอันขาดก็ได้ ดังนั้น พอจะเห็นได้ว่า แก่นแท้ในความหมายของความเป็นกลาง ( Neutrality) จึงอยู่ที่ท่าที หรือ ทัศนคติของประเทศที่ดำรงตนเป็นกลาง ไม่ต้องการเข้าข้างประเทศคู่สงครามใด ๆ ในสงคราม ในสมัยก่อนผู้คนยังไม่รู้จักความคิดเรื่องความเป็นกลางดังที่รู้จักเข้าใจ กันในปัจจุบัน ความเป็นกลางเป็นผลมาจากการทยอยวางหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของความเป็นกลาง นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน [การทูต]
New World Orderระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต]
Potsdam Proclamationคือคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดม ออกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 โดยหัวหน้าคณะรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และจีน ลงนามโดยประธานาธิบดีของรัฐบาลจีนคณะชาติ เป็นคำประกาศเมื่อตอนใกล้จะเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง โดยฝ่ายสัมพันธมิตรดังกล่าวกำลังทำสงครามขับเคี่ยวอยู่กับฝ่ายญี่ปุ่น พึงสังเกตว่า สหภาพโซเวียต ในตอนนั้นมิได้มีส่วนร่วมในการออกคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดมแต่อย่างใดโดยแท้จริงแล้ว คำประกาศนี้เท่ากับเป็นการยื่นคำขาดให้ฝ่ายญี่ปุ่นตัดสินใจเลือกเอาว่าจะทำ การสู้รบต่อไป หรือจะยอมจำนนเพื่อยุติสงคราม คำประกาศได้เตือนอย่างหนักแน่นว่า หากญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะสู้รบต่อไป แสนยานุภาพอันมหาศาลของสัมพันธมิตรก็จะมุ่งหน้าโจมตีบดขยี้กองทัพและประเทศ ญี่ปุ่นให้แหลกลาญ แต่หากว่าญี่ปุ่นยอมโดยคำนึงถึงเหตุผล ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้ตั้งเงื่อนไขไว้หลายข้อ สรุปแล้วก็คือ ลัทธิถืออำนาจทหารเป็นใหญ่จะต้องถูกกำจัดให้สูญสิ้นไปจากโลกอำนาจและอิทธิพล ของบรรดาผู้ที่ชักนำให้พลเมืองญี่ปุ่นหลงผิด โดยกระโจนเข้าสู่สงครามเพื่อครองโลกนั้น จะต้องถูกทำลายให้สิ้นซาก รวมทั้งพลังอำนาจในการก่อสงครามของญี่ปุ่นด้วยจุดต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด จะต้องถูกยึดครองไว้จนกระทั่งได้ปฏิบัติตามจุดมุ่งหมายของสัมพันธมิตรเป็นผล สำเร็จแล้ว อำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่นให้จำกัดอยู่เฉพาะภายในเกาะฮอนซู ฮ็อกไกโด กิวชู ชิโกกุ และเกาะเล็กน้อยอื่น ๆ ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด อาชญากรสงครามทุกคนจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาล รวมทั้งที่ทำทารุณโหดร้ายต่อเชลยศึกของสัมพันธมิตร รัฐบาลญี่ปุ่นจะต้องกำจัดสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อการรื้อฟื้น และเสริมสร้างความเชื่อถือในหลักประชาธิปไตยในระหว่างพลเมืองญี่ปุ่น และจัดให้มีเสรีภาพในการพูด การนับถือศาสนา และในการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการด้านอุตสาหกรรมที่จะเกื้อกูลต่อภาวะ เศรษฐกิจของประเทศ และความสามารถที่จะชำระค่าปฏิกรรมสงคราม แต่จะไม่ยอมให้คงไว้ซึ่งกิจการอุตสาหกรรมชนิดที่จะช่วยให้ญี่ปุ่นสร้างสม อาวุธเพื่อทำสงครามขึ้นมาอีก ในทีสุด กำลังทหารสัมพันธมิตรจะถอนตัวออกจากประเทศญี่ปุ่นในทันทีที่จุดประสงค์ต่าง ๆ ได้บรรลุผลเรียบร้อยแล้ว ในตอนท้ายของเงื่อนไข สัมพันธมิตรได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข เสียโดยไว [การทูต]
Work of the United Nations for the Independence of Colonial Peoplesงานขององค์การสหประชาชาติ ในการช่วยให้ชาติอาณานิคมทั้งหลายได้รับความเป็นเอกราช นับตั้งแต่เริ่มตั้งองค์การสหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ.1945 เป็นต้นมา มีชนชาติของดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเอง รวมทั้งดินแดนในภาวะทรัสตีตามส่วนต่าง ๆ ของโลก ได้รับความเป็นเอกราชไปแล้วไม่น้อยกว่า 170 ล้านคน ดินแดนที่แต่ก่อนยังไม่มีฐานะปกครองตนเองราว 50 แห่งได้กลายฐานะเป็นรัฐเอกราช มีอธิปไตยไปแล้ว ขณะนี้ยังเหลือดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเองอีกไม่มาก กำลังจะได้รับฐานะเป็นประเทศเอกราชต่อไปแม้ว่าปัจจัยสำคัญที่สุดซึ่งทำให้ เกิดวิวัฒนาการอันมีความสำคคัญทางประวัติศาสตร์ จะได้แก่ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของประชาชนในดินแดนเมืองขึ้นทั้งหลาย แต่องค์การสหประชาชาติก็ได้แสดงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนชนชาติ ที่ยังมิได้เป็นเอกราช และชาติที่ยังปกครองดินแดนเหล่านั้นอยู่ ให้รีบเร่งที่จะให้ชาชาติในดินแดนเหล่านั้นได้รับฐานะเป็นเอกราชโดยเร็วที่ สุดเท่าที่จะเป็นไปได้การที่องค์การสหประชาชาติมีบทบาทหน้าที่ดังกล่าวเพราะ ถือตามหลักแห่งความเชื่อศรัทธาที่ว่า มนุษย์ไม่ว่าชายหรือหญิง และชาติทั้งหลายไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกัน และได้ยืนยันความตั้งใจอันแน่วแน่ของประเทศสมาชิกที่จะใช้กลไกระหว่างประเทศ ส่งเสริมให้ชนชาติทั้งหลายในโลกได้ประสบความก้าวหน้าทั้งในทางเศรษฐกิจและ สังคมนอกจากนั้น เพื่อเร่งรัดให้ชนชาติที่ยังอยูใต้การปกครองแบบอาณานิคมได้ก้าวหน้าไปสู่ เอกราช สมัชชาของสหประชาชาติ (General Assembly of the United Nations) ก็ได้ออกปฏิญญา (Declaration) เกี่ยวกับการให้ความเป็นเอกราชแก่ประเทศและชนชาติอาณานิคม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 ซึ่งในปฏิญญานั้น ได้ประกาศยืนยันความจำเป็นที่จะให้ลัทธิอาณานิคมไม่ว่าในรูปใด สิ้นสุดลงโดยเร็วและปราศจากเงื่อนไขใด ๆ สมัชชายังได้ประกาศด้วยว่า การที่บังคับชนชาติอื่นให้ตกอยู่ใต้อำนาจการปกครอง แล้วเรียกร้องประโยชน์จากชนชาติเหล่านั้น ถือว่าเป็นการปฏิเสธไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชนขั้นมูลฐาน เป็นการขัดกับกฎบัตรของสหประชาชาติ เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือของโลกสมัชชาสหประชาชาติ ยังได้ประกาศต่อไปว่า จะต้องมีการดำเนินการโดยด่วนที่สุด โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อสงวนใด ๆ ตามเจตนารมณ์ ซึ่งแสดงออกอย่างเสรี โดยไม่จำกัดความแตกต่างในเรื่องเชื้อชาติ หลักความเชื่อถือ หรือผิว เพื่อให้ดินแดนทั้งหลายที่ยังไม่ได้มีการปกครองของตนเองเหล่านั้นได้รับความ เป็นเอกราชและอิสรภาพโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1961 สมัชชาสหประชาชาติก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อตรวจดูและให้มีการปฏิบัติให้เป็นตามคำปฏิญญาของสหประชาชาติ และถึงสิ้นปี ค.ศ. 1962 คณะกรรมการดังกล่าวได้ประชุมกันหลายต่อหลายครั้งทั้งในและนอกสำนักงานใหญ่ ขององค์การสหประชาชาติ แล้วรวบรวมเรื่องราวหลักฐานจากบรรดาตัวแทนของพรรคการเมืองทั้งหลาย จากดินแดนที่ยังไม่ได้รับการปกครองตนเอง แล้วคณะกรรมการได้ตั้งข้อเสนอแนะต่าง ๆ โดยมุ่งจะเร่งรัดให้การปกครองอาณานิคมสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ [การทูต]
protectionismลัทธิการคุ้มครองทางการค้า, Example: เป็นนโยบายที่มุ่งปกป้องสินค้าและบริการที่ผลิตภายในประเทศเพื่อมิให้ถูกแข่งขันจากสินค้าหรือบริการจากต่างประเทศ รัฐบาลจะใช้มาตรการต่างๆ เพื่อกีดกันสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ตั้งกำแพงภาษี การกำหนดโควต้าการนำเข้า รวมทั้งการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ผู้ผลิตภายในประเทศ [เศรษฐศาสตร์]
Existentialismเอกซิสเทนเซียลิสม์, ลัทธิ, เอ็กซิสเทนเซียลิสม [การแพทย์]
Indoctrinationการปลูกฝังลัทธิความเชื่อบางอย่าง [การแพทย์]
Marxผู้นิยมลัทธิมาร์กซ์ [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
You're as sectarian as your mother. You can't understand. เธอเองก็เป็นพวกคลั่งลัทธิแบบแม่เธอ ไม่เข้าใจหรอก Wild Reeds (1994)
When does fiction become religion? นิยายเรื่องนี้เป็นลัทธิตั้งแต่เมื่อไหร่ In the Mouth of Madness (1994)
With religion in general? ด้วยลัทธิทั่วๆไป In the Mouth of Madness (1994)
Religion seeks discipline through fear... yet doesn't understand the true nature of creation. ลัทธินั่นแหละที่แสวงหาบทเรียนให้กับความกลัว พูดแบบนี้คงจะไม่เข้าใจ ถึงธรรมชาติที่แท้จริงของสิ่งมีชีวิตล่ะสิ In the Mouth of Madness (1994)
- It takes all sorts. ลัทธิฟาสซิสต์คือสิ่งที่คุณ เติบโตออกมาจาก How I Won the War (1967)
Thank you, sir, for not holding fascism against me. ขอบคุณครับ ไม่ถือลัทธิฟาสซิสต์กับฉัน ฉันเป็นเพื่อนที่ดีของมอสลีย์ How I Won the War (1967)
-So is the future of science, with that rabble-rouser fomenting a senseless military adventure. อนาคตวิทยาการก็มีภัย เพราะพวกนักปฏิวัติบ้าลัทธิทางการทหาร Beneath the Planet of the Apes (1970)
Northern Italy, during the Nazi-Fascist occupation ค.ศ. 1944-45 ทางเหนือของอิตาลี่ ในช่วงที่ถูกยึดโดยลัทธิฟาสซิสต์ Salò, or the 120 Days of Sodom (1975)
We Fascists are the only true anarchists เราผู้ยึดถือลัทธิฟาสซิสคือ true anarchists เท่านั้น Salò, or the 120 Days of Sodom (1975)
Our Taoist shrines can be found all over the world. แท่นบูชาของลัทธิเต๋าสามารถพบเห็นได้ทั่วไป. Return of the Condor Heroes (1983)
I have heard the evil stories of the Thuggee cult. ผมเคยได้ยินเรื่องราวความชั่วร้ายของลัทธิทักกี Indiana Jones and the Temple of Doom (1984)
Well, they're more like some crazy cult than onlookers. เอาล่ะพวกที่เหลือ เป็นกลุ่มคลั่งลัทธิและไทมุง Akira (1988)
... oratIeast a Communist sympathizer. ... หรืออย่างน้อยก็เป็น เป็นพวกคลั่งลัทธิคอมมิวนิส The Story of Us (1999)
I joined a football team, not a cult. นี่ ฉันเข้าร่วมทีมฟุตบอลนะ, ไม่ใช่ลัทธิประหลาด Hothead (2001)
Baby, what if this place belongs to some kind of cult? เด็กสิ่งที่ถ้าสถานที่แห่งนี้เป็นชนิดของลัทธิบาง Wrong Turn (2003)
- Talking about Maoism. - คุยเรื่องลัทธิเหมา เพราะอะไร The Dreamers (2003)
I hate to say it, my friend, but I think you have lost your good woman to a cult. ผมไม่อยากพูดเลยนะเพื่อน แต่ผมว่าคุณเสียแฟนคุณให้พวกลัทธิอะไรซักอย่างนะ Hope Springs (2003)
Because there was are cognition that fascism rose in Europe with the help of enormous corporations. เพราะเป็นที่ยอมรับกันว่า ลัทธิฟาสซิสต์ขึ้นครองอำนาจในยุโรป ด้วยความช่วยเหลือของบรรษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย The Corporation (2003)
Well for one thing avoid the comfortable idea that the mere form of government can of itself safeguard a nation against despotism. อย่าปักใจเชื่อง่าย ๆ ว่า แค่มีรัฐบาลในรูปแบบประชาธิปไตย จะสามารถคุ้มครองชาติให้พ้นจากลัทธิเผด็จการได้ The Corporation (2003)
What are them drawings? You some kind of devil worshipper? นั่นรูปอะไร นายบูชาลัทธิปีศาจเหรอ Around the World in 80 Days (2004)
This is totally different from our fight against Japan! You damn communist! แค่ลัทธิก็สำคัญพอที่จะทำให้ เราฆ่าคนอื่นได้แล้วเหรอวะ? Tae Guk Gi: The Brotherhood of War (2004)
I didn't tell you my last girlfriend, a feminist vegan punk... broke up with me because she thought I was too angry. ผมยังไม่ได้บอกคุณว่าแฟนคนล่าสุดของผม เธอเป็นผู้สนับสนุนลัทธิแฟมินสต์ เธอขอเลิกกับผม ก็เพราะเธอคิดว่าผมขี้โมโหเกินไป Saw (2004)
What are we, the mob? เราเป็นอะไรล่ะ พวกคลั่งลัทธิรึไง? Everybody Has a Little Secret (2004)
I remember that guy. He was a serious radical in Boston. ผมจำผู้ชายคนนั้นได้ เขาเป็นพวกลัทธิหัวรุนแรงในบอสตัน Mr. Monk and the Blackout (2004)
Many call Opus Dei a brainwashing cult. หลายคนเรียกโอปุสเดอีว่าเป็นลัทธิล้างสมอง The Da Vinci Code (2006)
and it has nothing to do with worshiping the devil. และมันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับลัทธิบูชาปีศาจ The Da Vinci Code (2006)
What are you, part of some cult or something? ลุงพูดอะไรน่ะ หลักการของลัทธิ หรืออะไรอย่างนั้นหรือ Peaceful Warrior (2006)
Yeah, like the Amish or something. เหมือนพวกลัทธิอามิช The Wicker Man (2006)
Hidden in the mountains, armed men are still fighting the new Fascist regime. ผู้คนต่างเร้นกายอยู่ในหุบเขาลึก เหล่ากองกำลังติดอาวุธยังคงต่อสู้ เพื่อลัทธิฟาสซิสต์ใหม่ Pan's Labyrinth (2006)
They called us a cult. They said we were like a branch of the Moonies or something. พวกเขาเรียกเราว่าลัทธิ บอกว่าเรา เหมือนกับสาขาลัทธิเถื่อนอะไรแบบนั้น The Astronaut Farmer (2006)
You know, in the Soviet Union, ordering scientists to change their studies to conform with the ideology... I've seen scientists who were persecuted,  คุณรู้ไหม ในสหภาพโซเวียต การสั่งนักวิทยาศาสตร์ ให้เปลี่ยนผลการศึกษาให้สอดคล้องกับลัทธิ... ผมได้เห็นนักวิทยาศาสตร์ An Inconvenient Truth (2006)
We defeated totalitarianism and won a war in the Pacific and the Atlantic simultaneously. เราปราบลัทธิผูกขาดครองโลกและชนะสงคราม ในแปซิฟิคและแอตแลนติคพร้อมๆกัน An Inconvenient Truth (2006)
We worked together in a completely bipartisan way to bring down communism. เราทำงานด้วยกันโดยได้รับ การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทั้ง 2 พรรค ในการโค่นล้มลัทธิคอมมิวนิสต์ An Inconvenient Truth (2006)
Hey, those satanists in Florida, they marked their victims, didn't they? ลัทธิซาตานในฟลอริดา ทำเครื่องหมายเหยื่อใช้มั๊ย? Bloodlust (2006)
Used for necromancy, right? - ใช้กับลัทธิหมอผีใช้มั๊ยครับ Children Shouldn't Play with Dead Things (2006)
A young girl's been kidnapped by an evil cult. หญิงสาว โดนลัทธิชั่วจับไป No Exit (2006)
True democracy and capitalism cannot coexist. ประชาธิปไตยที่แท้จริงกับลัทธิทุนนิยมอยู่ด้วยกันไม่ได้ Super Rookie (2005)
That a vote for Katherine is a vote for fascism. ถ้าโหวตให้แคทเทอรีนก็แสดงว่าเป็นพวกลัทธิฟาสซิสม์ Art Isn't Easy (2007)
It's a cult. มันเป็นลัทธิ No Such Thing as Vampires (2007)
They sound like a friggin' cult. Besides, they already have three kids, they're greedy little bitches. ฟังดูยังกะพวกคลั่งลัทธิเพี้ยนๆ แล้วอีกอย่าง พวกเขามีเด็ก3คนอยู่แล้วนะ เป็นพวกโลภชัดๆ Juno (2007)
The cult of the demon Baphomet. ปีศาจบาโฟเมตโดยลัทธิเปลีอย Return to House on Haunted Hill (2007)
The Inquisition forced the cult members to go underground. ศาลพระสอบสวนลัทธิเปลือยที่อยู่ใต้ดิน Return to House on Haunted Hill (2007)
Mrs. Carmody. เธอเป็นลัทธิแห่งความกลัว The Mist (2007)
I wanna jump out of this damn chair. เอาละ, ลัทธิดาร์วินด้านสังคม ได้แสดงบทบาทของมันแล้ว Chapter Twenty-Two 'Landslide' (2007)
- Jesus freak. - บ้าลัทธิ The Haunting of Molly Hartley (2008)
Between colorado authorities and a fringe religious group known as the sepatarian sect. ระหว่าง จนท.รัฐโคโลราโด้ กับกลุ่ม ศาสนาตกขอบที่เรียกกันว่าลัทธิเซปาเทเรี่ยน Minimal Loss (2008)
Colorado attorney general jim wells says the reclusive cult has been the subject of a 6-month weapons investigation. ทนายรัฐโคโลราโด้ จิม เวลส์ กล่าวว่าลัทธิสันโดษนี้ ถูกสอบสวนอยู่ 6 เดือนกรณีมีอาวุธในครอบครอง Minimal Loss (2008)
What do we know about this sect? เรารู้อะไรเกี่ยวกับลัทธินี้บ้าง? Minimal Loss (2008)
Clearly this sect abandoned libertarian principles. เห็นได้ชัดว่าลัทธินี้ละทิ้งนโยบายของนักเสรีนิยม Minimal Loss (2008)
Benjamin cyrus, the current leader, introduced religion 8 years ago when kane left. เบนจามิน ไซรัส, ผู้นำคนปัจจุบัน เผยแพร่ลัทธินี้ 8 ปีก่อนตอนเคนออกจากไร่ Minimal Loss (2008)

Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
ลัทธิ[latthi] (n) EN: ideology ; faith ; doctrine  FR: idéologie [ f ] ; doctrine [ f ] ; croyance [ f ]
ลัทธิ-[latthi-] (pref) EN: -ism (suff.)  FR: -isme (suff.)
ลัทธิชาฅินิยม[latthi chāt niyom] (n, exp) EN: patriotism ; nationalism  FR: patriotisme [ m ] ; nationalisme [ f ]
ลัทธิชนชาติ[latthi chon chāt] (n) EN: racism  FR: racisme [ m ]
ลัทธินายทุน[latthi nāi thun] (n) EN: capitalism  FR: capitalisme [ f ]
ลัทธิปฏิรูป[latthi patirūp] (n, exp) EN: reformism  FR: réformisme [ m ]
ลัทธิพฤติกรรม[latthi phreuttikam] (n) EN: behaviourism  FR: béhaviorisme [ m ]
ลัทธิสังคมนิยม[latthi sangkhomniyom] (n, exp) EN: socialism  FR: socialisme [ m ]

Longdo Approved EN-TH
civil disobedience(n) ลัทธิดื้อแพ่ง/อารยะขัดขืน, เป็นการปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามกฎหมายบางมาตรา ด้วยเหตุผลที่ว่ากฎหมายนั้นๆ ไม่ชอบธรรม
radicalism(n) ลัทธิสุดโต่ง

NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
activism(n) ลัทธิที่ดำเนินการเพื่อให้บรรลุผลทางการเมือง
anarchism(n) ลัทธิที่เห็นว่าบ้านเมืองไม่ควรมีกฎหมายหรือรัฐบาล
cult(n) กลุ่มคนที่เชื่อในศาสนาหนึ่ง, See also: กลุ่มคนที่อยู่ในลัทธิ
cult(n) ศาสนา, See also: ลัทธิความเชื่อ, ลัทธิ
deprogram(vt) ทำให้หลุดพ้นจากอิทธิพลของคำสั่งสอนในลัทธิ, See also: ปลดเปลื้องให้พ้นจากคำสั่งสอนในลัทธิ, Syn. deprogramme
fascism(n) ลัทธิฟาสซิสต์, See also: ลัทธิชาตินิยมในอิตาลีก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง
Hitler(n) อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ จอมเผด็จการของเยอรมันและเป็น ผู้นำลัทธินาซี (ค.ศ.1889-1945)
ideologic(adj) เกี่ยวกับระบบความคิดอันเป็นรากฐานของสังคม เศรษฐกิจ การเมือง, See also: เกี่ยวกับลัทธิ, เกี่ยวกับอุดมการณ์
ideological(adj) เกี่ยวกับระบบความคิดอันเป็นรากฐานของสังคม เศรษฐกิจ การเมือง, See also: เกี่ยวกับลัทธิ, เกี่ยวกับอุดมการณ์, Syn. theoretical, visionary
imperialism(n) ลัทธิจักรวรรดินิยม, See also: นโยบายล่าอาณานิคม, ลัทธิล่าอาณานิคม, Syn. colonialism
irredentism(n) ลัทธิสนับสนุนการเรียกร้องดินแดนคืน (ในอิตาลีปีค.ศ.1878)
ism(n) ลัทธิ
isolationism(n) ลัทธิการอยู่โดดเดี่ยว, See also: ลัทธิโดดเดี่ยว
liberal(adj) เกี่ยวกับลัทธิเสรีนิยม, See also: นิยมลัทธิเสรีนิยม
liberalism(n) ลัทธิเสรีนิยม, Syn. broad-mindedness
Maoism(n) ลัทธิเหมาเซตุง, See also: ลัทธิสังคมนิยมของเหมาเซตุงซึ่งยึดถือหลักการของมาร์กซิสและเลนิน, Syn. communism, Marxism-Leninism
Marx(n) คาร์ล มาร์กซ์ (Karl Marx) เป็นผู้ก่อตั้งลัทธิมาร์กซ์
marxian(n) ผู้ยึดถือลัทธิมาร์กซ์
Marxism(n) ลัทธิมาร์กซ์เป็นหลักเศรษฐกิจและการเมืองของคาร์ล มาร์กซ์
Marxist(n) ผู้เลื่อมใสลัทธิมาร์กซ์, Syn. communist, socialist
Marxist(adj) เกี่ยวกับลัทธิมาร์กซ์
materialism(n) วัตถุนิยม, See also: ลัทธิวัตถุนิยม, Syn. utilitarianism
mechanist(n) ผู้เชื่อในลัทธิวัตถุนิยม
national socialism(n) แนวความคิดของพรรคนาซี, See also: ลัทธินาซี, Syn. Nazism
National Socialism(n) แนวความคดของพรรคนาซี, See also: ลัทธินาซี, Syn. Nazism
naturalism(n) ธรรมชาตินิยม, See also: ลัทธิธรรมชาตินิยม, Syn. verisimilitude, realism
Nazism(n) ลัทธินาซี
paganism(n) ลัทธินอกศาสนา, Syn. heathenism
perfectionism(n) อุดมคตินิยม, See also: ลัทธิที่แสวงหาความสมบูรณ์แบบ, Syn. overniceness, fastidiousness
pessimism(n) ลัทธิมองโลกในแง่ร้าย
polytheism(n) ลัทธิหลายพระเจ้า, See also: การเชื่อในหลายพระเจ้า, Syn. paganism, pantheism, henotheism
prayer wheel(n) ธรรมจักรที่ใช้ในลัทธิมหายานในธิเบต
purism(n) ลัทธิบริสุทธิ์
radicalism(n) ลัทธิที่ยึดหลักความรุนแรง, See also: ลัทธิหัวรุนแรง, นโยบาย, ความเชื่อที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจและสัง, Ant. conservatism
Rastafarian(n) ผู้นับถือลัทธิของศาสนาหนึ่งที่มีพฤติกรรมและการแต่งตัวเฉพาะตัว
realism(n) ลัทธินิยมความจริง
religion(n) ศาสนา, See also: ลัทธิความเชื่อ, Syn. mysticism, theism
religiosity(n) ความเลื่อมใสในลัทธิหรือศาสนา
religiousness(n) ความเลื่อมใสในลัทธิหรือศาสนา
revisionism(n) การปฏิรูปลัทธิของ Marx ใหม่
rightist(adj) ซึ่งยึดถือลัทธิอนุรักษ์นิยม, Syn. right-wing
rightist(n) ผู้ถือลัทธิอนุรักษ์นิยม, Syn. conservative, right-winger
sect(n) นิกาย (ทางศาสนา), See also: กลุ่ม, พรรค, สำนัก, คณะ, ภาค, ลัทธิ, หมู่, เหล่า, Syn. group, division, party, branch, denomination
sectarian(adj) เกี่ยวกับนิกายย่อยๆ ในศาสนา, See also: เกี่ยวกับผู้ที่มีความเห็นทางศาสนาแตกต่างจากลัทธิหลัก, เกี่ยวกับนิกาย, Syn. denominational, sectional, factional
surreal(adj) เกี่ยวกับลัทธิศิลปะที่มุ่งแสดงสิ่งที่เหนือจริง, Syn. surrealistic
surreal(n) ลักษณะแบบลัทธิที่อยู่เหนือความจริง, Syn. surrealism
asm(suf) ภาวะ, See also: ระบบ, ลัทธิ
ism(suf) ภาวะ, See also: ระบบ, ลัทธิ
Taoism(n) ลัทธิเต๋า
terrorism(n) การใช้ความรุนแรงเพื่อข้อเรียกร้องทางการเมือง, See also: ลัทธิก่อการร้าย, Syn. disorder, lawlessness, nihilism

Hope Dictionary
absolutism(แอบ' โซทิส' ซึม) n . ลัทธิเบ็ดเสร็จหรือเผด็จการ. -absolutist n.
acommodationism(อะคิมโมเด' ชันนิสซึม) n. ลัทธิโอนอ่อนผ่อนตาม
activism(แอค' ทิฟวิซึม) n. ทฤษฎีที่ว่าความจริงคือการดำเนินการที่บริสุทธิ์โดยเฉพาะทางจิต, ทฤษฎีที่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างจิตและวัตถุ การดำเนินการหรือขบวนการของจิต, ลัทธิดำเนินการเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือง (essence of reality)
adamite(แอด' ดะไมทฺ) n. ผู้สืบเนื่องต่อมาจากอาดัม, มนุษย์, ผู้นิยมลัทธิเปลือยการหรืออาบแดด, นักอาบแดดเปลือยกาย. -adamitic, -adamitical adj.
anarchism(แอน' นะคิสซีม) n. ลัทธิที่เห็นว่าบ้านเมืองไม่ควรมีกฎหมายหรือรัฐบาล, ลัทธิไม่มีรัฐบาล, อนาธิปไตย
antitheism(แอนทีธี' อิสซีม) n. ลัทธิต่อต้านเทวนิยม
associationism(อะโซชีเอ'เชินนิสซึม) n. ลัทธิเชื่อมโยง -associationist adj., n.
bill of rightsn. พระราชบัญญัติลัทธิและเสรีภาพของพลเมือง
casualism(แคซ'ซวลลิสซึม) n. ความเชื่อหรือลัทธิที่เชื่อว่าสิ่งต่าง ๆ เป็นไปโดยบังเอิญ, See also: casualist n.
classicismn. ลัทธิคลาสซิค, กฎเกณฑ์และลักษณะของคลาสซิค, Syn. classicalism
collectivismn. ลัทธิกรรมสิทธิร่วมกัน, ลัทธิส่วนรวม, , See also: collectivist n. collectivistic adj.
commercialism(คะเมอ'ชะลิสซึม) n. หลักการหรือวิธีการพานิชย์, ลัทธิการค้าเพื่อหวังผลกำไร, ลักษณะพ่อค้า, See also: commercialist n. ดูcommercialism commercialistic adj. ดูcommercialism
communism(คอม'มิวนิสซึม) n. ลัทธิคอมมิวนิสต์
communist(คอม'มิวนิสทฺ) n. ผู้นิยมลัทธิคอมมิวนิสต์, สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์, สมาชิกของระบบคอมมูน commune) adj. เกี่ยวกับพรรคหรือลัทธิคอมมิวนิสต์, See also: communistic adj.
confucianism(คันฟิว'ชะนิสซึม) n. ลัทธิคำสอนของขงจื้อ -Confucianist n., adj.
conservatism(คันเซอ'วะทิสซึม) n. ลัทธิจารีตนิยม, ลัทธิอนุรักษ์นิยม
conventionalism(คันเวน'ช'?ะเนิลลิซึม) n. ลัทธิธรรมปฎิบัติ, การปฎิบัติตามจารีตประเพณีหรือประเพณีนิยม
corporatism(คอ'พะระทิศซึม) n. หลักการลัทธิหรือระบบการร่วมกันทางการเมือง
credendum(คริเดน'ดัม) n. ลัทธิที่ต้องการความเชื่อ, สิ่งที่เชื่อถือ -pl. credenda
cult(คัลทฺ) n. การบูชา, ลัทธิ, ศาสนา, ความคลั่งในศาสนา, พิธีปฎิบัติในศาสนาหรือลัทธิ, See also: cultism n. ดูcult cultist n. ดูcult, Syn. worship, devotion, clique
cynic(ซิน'นิค) n. ผู้ที่ชอบเยาะเย้ยถากถาง, See also: Cynic n. ลัทธิที่เชื่อว่าคุณความดีของมนุษย์นั้นอยู่ที่การควบคุมตัวเอง adj. ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่น, Syn. pessimist
cynicism(ซิน'นิซิสซึม) ลัทธิเกลียดชังสังคมมนุษย์, See also: Cynicism ลัทธิของ Cynic, Syn. pessimism
defeatism(ดิฟีท'ทิสซึม) n. ลัทธิ , ยอมแพ้.
dejure(ดีจัว'รี) ตามกฎหมาย, ตามลัทธิ
doctrinal(ดอค'ทรินัล) adj. เกี่ยวกับทฤษฎี, เกี่ยวกับคำสั่งสอน, เกี่ยวกับลัทธิหรือศาสนา., See also: doctrinality n. ดูdoctrinal
doctrine(ดอค'ทริน) n. หลัก, ทฤษฎี, คำสั่งสอนศาสนา, ลัทธิ (tenet, dogma, precept)
dogma(ดอก'มะ) n. หลักเกณฑ์หรือกฎเกณฑ์ที่ไร้ข้อพิสูจน์, คำสอนของศาสนา, ลัทธิแบบศาสนา, คำสอนแบบกำปั้นทุบดิน, ความเชื่อ, สิทธันต์, Syn. tenet, doctrine
dogmatism(ดอก'มะทิสซึม) n. ลักษณะของคัมภีร์, การถือแต่หลักโดยไม่ดูความจริง, ความหยิ่งยโส, ลัทธิถือหลักเอง
egoism(เอก'โกอิสซึม, อี-) n. ลัทธิอัตตา, คตินิยมตน, ความเห็นแก่ตัว, ลัทธิเห็นแก่ตัว, See also: egoistic adj. ดูegoism egoistical adj. ดูegoism, Syn. egotism
egress(อี'เกรส) n. การออกไปข้างนอก, ลัทธิในการออก vi. (อิเกรส') ออก, ออกไป, See also: egression n.
fascism(แฟซ'ซิสซึม) n. ลัทธิชาตินิยมของรัฐบาลเผด็จการ มีลักษณะก้าวร้าวและแบ่งผิว
fascist(แฟช'ซิสทฺ) n. ผู้ยึดถือลัทธิfascism, ผู้เผด็จการ. adj. เกี่ยวกับลัทธิฟาสซิสท์., See also: fascistic adj.
feudalism(ฟิว'เดิลลิสซึม) n. ระบบศักดินา, วิธีการทางศักดินา, ลัทธิศักดินา. -feudalist n., See also: feudalistic adj.
gandhi(กาน'ดี) Magatma, มหาตมะคันธรัฐบุรุษของอินเดียผู้เป็นเจ้าของลัทธิอหิงสา (Gandhism) หรือลัทธิการขัดขวางโดยไม่ต่อสู้
gospel(กอส'เพิล) n., adj. คำสั่งสอนหรือเรื่องราวของพระเยซูคริสต์, ลัทธิหรือความเชื่อที่มีความสำคัญมาก.
humanism(ฮิว'เมินนิสซึม) n. ลัทธิมนุษยธรรม, มานุษยวิทยา, นิสัยมนุษย์, ความรักเพื่อนมนุษย์
ideologic(ไอดีอะลอจ'จิค, -เคิล) adj. เกี่ยวกับความนึกคิด, เกี่ยวกับลัทธิ, เกี่ยวกับมโนคติ.
ideological(ไอดีอะลอจ'จิค, -เคิล) adj. เกี่ยวกับความนึกคิด, เกี่ยวกับลัทธิ, เกี่ยวกับมโนคติ.
ideologist(ไอดีออล'ละจิสทฺ) n. นักคิด, ผู้เคร่งลัทธิ, นักลัทธิ, บุคคลที่ชอบคิดชอบฝัน
imperialism(อิมเพีย' เรียลลิสซึม) n. ลัทธิจักรวรรดินิยม, ลัทธิล่าอาณานิคม, การปกครองระบบจักรวรรดินิยม., See also: imperialist n. imperialistic adj. imperialistically adv.
ism(อิส'ซึม) n. ลัทธิ, ทฤษฎี, ระบบ, ความเชื่อ, วิชาการ, Syn. doctrine, theory, system
lefitst(เลฟ'ทิสทฺ) n. ผู้นิยมฝ่ายซ้าย, สมาชิกฝ่ายซ้าย (ผู้นิยมลัทธิสังคมนิยมหรือการปฏิรูประบบสังคม การเมืองหรือเศรษฐกิจ) ., See also: leftism n.
left(เลฟทฺ) adj. ซ้าย, ข้างซ้าย, ด้านซ้าย, มือซ้าย, ทางซ้าย, ปีกซ้าย, ฝ่ายซ้าย (นิยมลัทธิสังคมนิยมหรือคอมมิวนิสต์) n. ด้านซ้าย, สิ่งที่อยู่ทางซ้ายมือ, การหันซ้าย, การเลี้ยวซ้าย adv. ไปทางซ้าย v. กริยาช่อง 2 และช่อง 3 ของ leave (จากไป, ลาจาก) -Phr. (the Left ผู้นิยมการปฏิรูประบบการเมืองสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ, หมัดซ้าย
leftist(เลฟ'ทิสทฺ) n. ผู้นิยมฝ่ายซ้าย, สมาชิกฝ่ายซ้าย (ผู้นิยมลัทธิสังคมนิยมหรือการปฏิรูประบบสังคม การเมืองหรือเศรษฐกิจ) ., See also: leftism n.
macrobiotics(แมคโรไบออท'ทิคซฺ) n. ศิลปหรือวิชาที่ทำให้มีชีวิตยืนนาน (โดยเฉพาะลัทธิการกินเจหรือกินแต่พืชผัก)
maoism(เมา'อิสซึม) n. ลัทธิเมาเซตุง
marxism(มาร์ค'ซิสซึม) n. ลัทธิของคาร์ลมาคซ์ที่เกี่ยวกับการเมือง สังคมและเศรษฐกิจ เป็นลัทธิเจ้าตำรับของระบบคอมมิวนิสต์, See also: Marxist n., adj.
materialism(มะเทีย'เรียลลิสซึม) n. ลัทธิวัตถุนิยม, ลัทธิเห็นแก่เงินทอง, ลัทธิเห็นแก่เงินทอง, ลัทธิยึดถือความสุขทางกาย
materialist(มะเทีย'เรียลลิสทฺ) n. ผู้ยึดถือเอาวัตถุเป็นสำคัญ, ผู้ยึดถือลัทธิ'materialism, See also: marterialistic adj. maeterialistically adv.
mechanism(เมค'คะนิสซึม) n. ระบบเครื่องกลไก, เครื่องกลไก, กลวิธาน, วิธีการ, โครงสร้าง, ลัทธิวัตถุนิยม, กระบวนการและปฏิกิริยาของแรงจิต., See also: mechanismic adj. mechanist n. mechanistic adj.

Nontri Dictionary
abolitionist(n) ผู้นิยมลัทธิการล้มเลิก
anarchy(n) อนาธิปไตย, ลัทธิไม่มีรัฐบาล
apostle(n) สาวก, ผู้เผยแพร่ศาสนา, ผู้เผยแพร่ลัทธิ
capitalism(n) ลัทธินายทุน, ระบบทุนนิยม
colonialism(n) ลัทธิล่าอาณานิคม, ลัทธิล่าเมืองขึ้น
communism(n) ลัทธิคอมมิวนิสต์
communist(n) ผู้นับถือลัทธิคอมมิวนิสต์
conservatism(n) ลัทธิจารีตนิยม, ลัทธิอนุรักษ์นิยม
creed(n) ลัทธิ, หลักความเชื่อ, ข้อบัญญัติศาสนา
despotism(n) ลัทธิสมบูรณาญาสิทธิราช, อำนาจเผด็จการ, ระบอบเผด็จการ
doctrine(n) หลักคำสอน, วินัย, ลัทธิ, ศาสนา
dogma(n) กฎเกณฑ์, หลักเกฎท์, ความเชื่อ, คำสอน, ลัทธิศาสนา
dogmatism(n) ลัทธิถือหลักตนเอง, ความหยิ่งยโส, ความดื้อรั้น
egoism(n) ความเห็นแก่ตัว, ลัทธิอัตตานิยม, คตินิยมตนเอง
ideology(n) ลัทธิ, มโนคติวิทยา
imperialism(n) ลัทธิจักรวรรดินิยม
individualism(n) การปลีกตัวอยู่ลำพัง, การเชื่อถือในลัทธิปัจเจกชน
individualist(n) คนปลีกตัวอยู่ลำพัง, ผู้เชื่อถือในลัทธิปัจเจกชน
Judaism(n) ลัทธิยิว
liberalism(n) ลัทธิเสรีนิยม
materialism(n) ลัทธิวัตถุนิยม
materialistic(adj) เป็นรูปธรรม, มีตัวตน, ซึ่งถือลัทธิวัตถุนิยม
militarism(n) ลัทธิทหาร, ความชอบทางทหาร
militarist(n) ผู้นิยมลัทธิทหาร, นักการทหาร
nationalism(n) ลัทธิชาตินิยม, ความรักชาติ
oligarchy(n) การปกครองลัทธิคณาธิปไตย
pacifism(n) ลัทธิอหิงสา, ลัทธิต่อต้านความรุนแรง
paganism(n) ลัทธินอกศาสนา
pantheism(n) ลัทธิเชื่อว่ามีพระเจ้าอยู่ทุกแห่ง
patriotism(n) ลัทธิชาตินิยม, ความรักชาติ
proselyte(n) ผู้เปลี่ยนศาสนา, ผู้เปลี่ยนลัทธิ
proselyte(vt) ทำให้เปลี่ยนใจ, ทำให้เปลี่ยนศาสนา, ทำให้เปลี่ยนลัทธิ
protestant(n) ผู้นับถือลัทธิโปรเตสแตนต์, ผู้ประท้วง, ผู้คัดค้าน
provincialism(n) ลัทธิท้องถิ่น
radicalism(n) ลัทธินิยมความรุนแรง
realism(n) ลัทธินิยมความจริง, ความเป็นจริง, ลักษณะเหมือนจริง
socialism(n) ลัทธิสังคมนิยม
spiritualism(n) ลัทธิเชื่อผี
terrorism(n) การทำให้ตกใจกลัว, ลัทธิก่อการร้าย

Longdo Unapproved EN-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
antidisestablishmentarianism[แอนตี้ดิสเอสตาบลิชเมนทาเรียนิซึ่ม] (n) กลุ่มต่อการการไม่สนับสรุนการก่อตั้งลัทธิ
antitheism(n) ลัทธิต่อต้านเทวนิยม
antitheist(n) ผู้ต่อต้านลัทธิเทวนิยม
Dominican(n) ลัทธิโดมินิกัน
Goddism(n) ศาสนาที่รักเทิดทูน, ศาสนาเเห่งความรักของพระเจ้ากับมนุษยชาติ, ลัทธิความเชื่อที่เกี่ยวกับความรักของพระเจ้า
neoliberalism(n) ลัทธิเสรีนิยมใหม่
Vaishnavism(n) ไวษณพนิกาย, ลัทธิไวษณพ, นิกายในศาสนาฮินดูที่นับถือพระวิษณุเป็นพระเจ้าสูงสุด
Vaishnavism(n) ไวษณพนิกาย, ลัทธิไวษณพ, นิกายในศาสนาฮินดูที่นับถือพระวิษณุเป็นพระเจ้าสูงสุด

Longdo Approved DE-TH
optimistisch(adj, adv) ซึ่งมองในแง่ดี, ซึ่งมองโลกในแง่ดี, เกี่ยวกับลัทธิเบิกบานใจ, โดยคาดหวังสิ่งที่ดี, See also: A. pessimistisch

ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ

Time: 0.038 seconds, cache age: 6.927 (clear)
ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม