ค่าเสียหาย | น. มูลค่าแห่งความเสียหายที่ผู้เสียหายพึงได้รับการชดใช้. |
ผู้เสียหาย | น. ในทางอาญาหมายถึงบุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง รวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจจัดการแทนได้ตามที่กฎหมายกำหนด. |
เสียหาย | ก. เสื่อมเสีย เช่น เขาประพฤติตัวไม่ดี ทำให้วงศ์ตระกูลพลอยเสียหายไปด้วย |
เสียหาย | ยับเยิน, ย่อยยับ, เช่น ปีนี้ฝนตกหนัก น้ำท่วมไร่นาเสียหายหมด, เสีย ก็ว่า. |
ก่อการร้าย | น. เป็นฐานความผิดอาญา ที่ผู้กระทำก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อบุคคล ต่อทรัพย์สินอันเป็นสาธารณะ หรือต่อทรัพย์สินของรัฐหนึ่งรัฐใด หรือของบุคคลใดหรือต่อสิ่งแวดล้อมอันก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างสำคัญ โดยผู้กระทำมุ่งหมายเพื่อขู่เข็ญหรือบังคับรัฐบาลไทย รัฐบาลต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศ ให้กระทำหรือไม่กระทำการใดอันจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง หรือเพื่อสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน แต่ทั้งนี้ไม่รวมถึงการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ. |
กอดเก้าอี้ | ก. ยึดตำแหน่ง, ไม่ยอมละตำแหน่ง, เช่น ไม่ว่างานของเขาจะล้มเหลวและก่อให้เกิดความเสียหายเพียงใด เขาก็กอดเก้าอี้แน่น ไม่ยอมลาออก. |
การก่อวินาศกรรม | น. การกระทำใด ๆ อันเป็นการมุ่งทำลายทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐ หรือสิ่งอันเป็นสาธารณูปโภค หรือการรบกวนขัดขวางหน่วงเหนี่ยวระบบการปฏิบัติงานใด ๆ ตลอดจนการประทุษร้ายต่อบุคคลอันเป็นการก่อให้เกิดความปั่นป่วนทางการเมืองการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยมุ่งหมายที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของรัฐ. |
แกล้ง | (แกฺล้ง) ก. ทำให้เดือดร้อนรำคาญ เช่น เขาแกล้งฉัน, แสร้ง เช่น เขาแกล้งทำเป็นปวดฟัน, จงใจทำ พูด หรือแสดงอาการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้เขาเสียหาย อาย เดือดร้อน ขัดข้อง เข้าใจผิด เป็นต้น เช่น ข้าพเจ้าไม่ได้ทำผิดเลยแต่เขาแกล้งใส่ร้าย |
โกงเจ้าหนี้ | น. เป็นฐานความผิดอาญา ที่ลูกหนี้ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์ที่ตนจำนำไว้ หรือกระทำการบางอย่างที่ทำให้เจ้าหนี้เสียหายในการที่จะได้รับชำระหนี้ เช่น โอนทรัพย์ให้คนอื่นหรือแกล้งเป็นหนี้ที่ไม่เป็นความจริง. |
เข้าเนื้อ | เสียหาย, เสียเปรียบ, เช่น พูดให้เข้าเนื้อ |
แขกไม่ได้รับเชิญ | น. คนหรือสัตว์ที่ไม่พึงปรารถนาซึ่งเข้ามาทำให้เกิดความเสียหาย หรือเดือดร้อนรำคาญ มักหมายถึง ขโมยหรือสัตว์บางชนิด เช่น ก่อนนอนอย่าลืมปิดประตูหน้าต่าง มิฉะนั้นแขกไม่ได้รับเชิญจะขนของไปหมด กางเต็นท์นอนในป่าระวังแขกไม่ได้รับเชิญจะเข้ามา. |
คลุม | (คฺลุม) ก. ปกหรือปิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้เสียหายหรือทำให้มองไม่เห็นเป็นต้น เช่น เอาผ้าใบคลุมรถยนต์ไว้ ไม้เลื้อยคลุมหลังคา |
ความผิดต่อส่วนตัว | น. ความผิดที่มีผลต่อผู้เสียหายเป็นการเฉพาะตัวโดยตรง และมีกฎหมายกำหนดให้เป็นความผิดต่อส่วนตัว ในปัจจุบันประมวลกฎหมายอาญาเรียกว่า ความผิดอันยอมความได้. |
ความผิดอันยอมความได้ | น. ความผิดที่มีผลต่อผู้เสียหายเป็นการเฉพาะตัวโดยตรง และมีกฎหมายกำหนดให้เป็นความผิดอันยอมความได้ ในการดำเนินคดีอาญาในความผิดอันยอมความได้ ผู้เสียหายต้องฟ้องหรือร้องทุกข์ภายในสามเดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดและเมื่อฟ้องแล้วจะถอนฟ้อง หรือยอมความในเวลาใดก่อนคดีถึงที่สุดก็ได้. |
ความผิดอาญาแผ่นดิน | น. ความผิดอาญาที่ยอมความกันไม่ได้ และพนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนดำเนินคดีได้แม้ผู้เสียหายไม่ร้องทุกข์. |
ค่าทดแทน | น. เงินหรือสิ่งอื่นที่กฎหมายกำหนดให้ต้องชำระ หรือชดใช้เพื่อทดแทนความเสียหายจากการผิดสัญญา การละเมิดสิทธิหรือการล่วงล้ำสิทธิของบุคคล หรือการอื่น เช่นในกรณีลูกจ้างได้รับอันตรายจากการทำงาน. |
ค่าสินไหมทดแทน | น. สิ่งที่ให้หรือการกระทำที่ทำ เพื่อชดใช้หรือทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทรัพย์สินหรือแก่บุคคลอันเนื่องมาจากการละเมิดหรือการผิดสัญญา รวมทั้งการคืนทรัพย์สินให้แก่ผู้เสียหายด้วย. |
คำกล่าวโทษ | น. การที่บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ว่ามีบุคคลรู้ตัวหรือไม่ก็ดี ได้กระทำความผิดอย่างหนึ่งขึ้น. |
คำร้องทุกข์ | น. การที่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ ว่ามีผู้กระทำความผิดขึ้น จะรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ก็ตามซึ่งกระทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย และการกล่าวหาเช่นนั้นได้กล่าวโดยมีเจตนาจะให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ. |
เจ้าทุกข์ | น. ผู้ที่เสียหายได้รับทุกข์หรือเดือดร้อน, ผู้ที่ไม่มีความสุขใจ. |
โจทก์ | พนักงานอัยการ หรือผู้เสียหายซึ่งฟ้องคดีอาญาต่อศาลหรือทั้งคู่ในเมื่อพนักงานอัยการและผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมกัน |
ชำรุด | ก. เสื่อมจากสภาพเดิมจนถึงบกพร่องเสียหายหรือบุบสลายไป เช่น หนังสือชำรุด เกวียนชำรุด. |
ซน ๑ | ก. อาการที่อยู่ไม่สุขจับโน่นฉวยนี่หรือเล่นไม่เป็นเรื่องเป็นราวทำให้เดือดร้อนเสียหาย. |
ซุ่มซ่าม | ว. กิริยาที่กระทำไปโดยไม่ระมัดระวังหรือไม่ถูกกาลเทศะ เช่น เดินซุ่มซ่ามชนสิ่งของจนเสียหาย ซุ่มซ่ามเข้าไปในห้องที่กำลังประชุม. |
ด่า | ก. ใช้ถ้อยคำว่าคนอื่นให้เสียหาย มักใช้คำหยาบหรือคำที่มีความหมายส่อไปในทางไม่ดี, ตำหนิ เช่น เมื่อเช้าถูกนายด่า. |
ตราสิน | น. ถ้อยคำที่แจ้งความไว้เพื่อเป็นหลักฐานของทรัพย์สินที่เสียหายหรือสูญหายจากการถูกปล้น, บางทีเขียนเป็น ตราสีน ก็มี เช่น ให้ทำฎีกาตราสีนแต่โดยสัจโดยจรีง (สามดวง ลักษณะโจร) |
ตายประชดป่าช้า | ก. แกล้งทำหรือพูดแดกดันประชดอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ตัวเองกลับเป็นฝ่ายเสียหายจากการทำหรือพูดนั้น. |
ถ้วนถี่ | ว. ละเอียดลออ, รอบคอบ, โดยปริยายหมายความว่า ไม่ยอมให้ตกหล่นเสียหาย, ถี่ถ้วน ก็ว่า. |
ถี่ถ้วน | ว. ละเอียดลออ, รอบคอบ, โดยปริยายหมายความว่า ไม่ยอมให้ตกหล่นเสียหาย, ถ้วนถี่ ก็ว่า. |
ทดแทน | ก. ตอบแทน เช่น เราต้องทดแทนคุณแผ่นดิน, ชดใช้หรือชดเชยสิ่งที่เสียไป เช่น ทำของเขาเสียหายไป ก็ต้องหาของใหม่มาทดแทน. |
ทนทาน | ว. มั่นคง, ไม่เสียหายง่าย. |
ทับถม | โดยปริยายหมายความว่ากล่าวซํ้าเติมให้เขาเสียหายหนักขึ้น. |
ทำขวัญ | ให้เงินหรือสิ่งของเพื่อปลอบใจ หรือเพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้อื่น, เสียเงินค่าปรับให้แก่ผู้ถูกทำร้ายหรือถูกหมิ่นประมาท. |
ทำเจ็บ | ก. ทำให้เดือดร้อนเสียหาย, ทำเสียเจ็บ หรือ ทำเอาเจ็บ ก็ว่า. |
ทำร้าย | ก. ทำให้บาดเจ็บหรือเสียหาย. |
ทำเสียเจ็บ | ก. ทำให้เดือดร้อนเสียหาย, ทำเจ็บ หรือ ทำเอาเจ็บ ก็ว่า. |
ทำให้เสียทรัพย์ | น. เป็นฐานความผิดอาญา ที่ผู้กระทำทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย. |
ทำเอาเจ็บ | ก. ทำให้เดือดร้อนเสียหาย, ทำเจ็บ หรือ ทำเสียเจ็บ ก็ว่า. |
เทกระจาด | ก. อาการที่รถบรรทุกหรือรถโดยสารคว่ำทำให้ผู้โดยสารตายหรือได้รับบาดเจ็บหรือข้าวของต้องเสียหายไปทั้งคัน. |
นายประกัน | น. ผู้รับประกันหรือคํ้าประกัน, ผู้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแทน. |
นิรโทษกรรม | (นิระโทดสะกำ) น. ในทางแพ่ง หมายถึง การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น แต่กฎหมายยกเว้นให้ ไม่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เช่น การกระทำการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย การกระทำตามคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมาย |
บังวาย | ก. เสื่อมเสีย, เสียหาย, เช่น ท่านท้าวเทเวศทังหลาย ทำกลบังวาย มิได้พินิตริะตรอง (สามดวง), เสื่อมคลาย เช่น แม้รักด้วยฤทธิ์ประสิทธิมน ตรวิกลกฤติยา พลันหน่ายบังวายสวาทอา ดุรร้าง บ่ รางนาน (กฤษณา). |
เบี้ยทำขวัญ | น. เงินที่ฝ่ายหนึ่งต้องเสียให้อีกฝ่ายหนึ่งเป็นค่าเสียหาย. |
เบี้ยประกันภัย | น. จำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องชำระให้แก่ผู้รับประกันภัยตามสัญญา เพื่อที่จะได้รับเงินผลประโยชน์หรือค่าสินไหมทดแทนเมื่อตนเสียชีวิต หรือเมื่อได้รับความเสียหายตามชนิดของภัยที่ได้เอาประกันภัยไว้. |
ปฏิกรรมสงคราม | น. การชดใช้ค่าเสียหายที่ฝ่ายชนะสงครามเรียกร้องเอาจากฝ่ายแพ้. |
ประกัน | ก. รับรองว่าจะรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น, รับรองว่าจะมีหรือไม่มีเหตุการณ์นั้น ๆ. |
ประณาม ๒ | ก. กล่าวร้ายให้เขาเสียหาย เช่น ถูกประณามว่าเป็นคนโกง |
ประทุษร้าย | (ปฺระทุดสะ-) ก. ทำให้บาดเจ็บ เช่น ประทุษร้ายร่างกาย, ทำให้เสียหาย เช่น ประทุษร้ายทรัพย์สิน. |
ปากโป้ง | ก. ชอบพูดเปิดเผยสิ่งที่ไม่สมควรออกมาโดยไม่คำนึงถึงความผิดพลาดเสียหาย. |
เป็นเสียเอง | ก. ทำเรื่องเสียหายเอง, เป็นเอง ก็ว่า. |
Kill Well | การปรับสภาพความดันหลุมให้เข้าสู่สมดุลย์ความดันและการกำจัดของไหลออกจากหลุม, การปรับสภาพความดันหลุมให้เข้าสู่สมดุลย์ความดันและการกำจัดของไหลออกจากหลุมโดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายกับหลุมเจาะ (หรือหากมีก็ให้น้อยที่สุด) [ปิโตรเลี่ยม] |
Average (Maritime law) | การเฉลี่ยค่าเสียหาย (ในการประกันภัยทางทะเล) [เศรษฐศาสตร์] |
Containment | อาคารคลุมเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์, อาคารหรือสิ่งก่อสร้างชั้นนอกที่ออกแบบให้มีความแข็งแรงเป็นพิเศษเพื่อป้องกันเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จากอุบัติภัยภายนอก และเพื่อไม่ให้สารกัมมันตรังสีแพร่กระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมกรณีเกิดอุบัติเหตุภายในอาคารหรือสิ่งกักกั้นชำรุดหรือเสียหาย [นิวเคลียร์] |
Reactor containment | อาคารคลุมเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์, อาคารหรือสิ่งก่อสร้างชั้นนอกที่ออกแบบให้มีความแข็งแรงเป็นพิเศษเพื่อ ป้องกันเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จากอุบัติภัยภายนอก และเพื่อไม่ให้สารกัมมันตรังสีแพร่กระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมกรณีเกิด อุบัติเหตุภายในอาคารหรือสิ่งกักกั้นชำรุดหรือเสียหาย [นิวเคลียร์] |
Radiobiology | ชีววิทยารังสี, วิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งที่ศึกษาผลของรังสีชนิดก่อไอออนต่อสิ่งมีชีวิต ตั้งแต่การดูดกลืนรังสีจนถึงผลที่แสดงออกมาทั้งในระยะสั้น และระยะยาว รวมถึงศึกษาปฏิกิริยาและความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับรังสี [นิวเคลียร์] |
pollution | มลพิษ, มลภาวะ, มลพิษ - พิษเกิดจากความมัวหมองหรือความสกปรก <p>มลภาวะ - ความมัวหมอง หรือความสกปรก ไม่แสดงว่ามีพิษ เป็นอันตรายหรือก่อให้เกิดความเสียหาย น้ำตามลำคลองหรืออากาศโดยทั่ว ๆ ไปก็สกปรกแต่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสียหาย [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Radiation syndrome | กลุ่มอาการป่วยจากรังสี, กลุ่มอาการที่ปรากฏเมื่อมนุษย์ได้รับรังสีที่มีอำนาจทะลุทะลวงสูงจากภายนอกทั่วร่างกายในระยะเวลาสั้นๆ มี 3 กลุ่มอาการขึ้นอยู่กับปริมาณรังสีที่ได้รับ ได้แก่ กลุ่มอาการทางไขกระดูกหรือกลุ่มอาการทางระบบเลือด กลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหาร และกลุ่มอาการทางระบบประสาทส่วนกลาง ทุกกลุ่ม จะแสดงอาการเป็น 3 ระยะ คือ <br>-ระยะเริ่มต้น (prodromal stage) มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย</br> <br>-ระยะแอบแฝง (latent stage) เป็นระยะที่ไม่แสดงอาการ</br> <br>-ระยะแสดงอาการที่แท้จริง (manifest illness stage) มีอาการที่แสดงถึงความเสียหายของอวัยวะ</br> <br>(ดู bone marrow syndrome, cerebrovascular syndrome และ gastrointestinal syndrome ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์] |
Radiation biology | ชีววิทยารังสี, วิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งที่ศึกษาผลของรังสีชนิดก่อไอออนต่อสิ่งมีชีวิต ตั้งแต่การดูดกลืนรังสีจนถึงผลที่แสดงออกมาทั้งในระยะสั้น และระยะยาว รวมถึงศึกษาปฏิกิริยาและความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับรังสี [นิวเคลียร์] |
surge protector | เครื่องป้องกันไฟกระชาก, อุปกรณ์ที่อยู่ระหว่างคอมพิวเตอร์กับกระแสไฟฟ้าบ้าน และป้องกันไม่ให้คอมพิวเตอร์เสียหายจากกระแสไฟฟ้าที่กระชากขึ้นสูง โดยกระทันหัน อย่างไรก็ตามเครื่องนี้จะไม่สามารถป้องกันกระแสไฟฟ้าตก หรือไฟฟ้าดับได้ [คอมพิวเตอร์] |
Potential exposure | การรับรังสีไม่คาดหมาย, การรับรังสีเชิงศักย์, การรับรังสีที่ไม่ได้คาดไว้ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากการดำเนินงานตามปกติ เช่น เกิดจากอุบัติเหตุของต้นกำเนิดรังสี เครื่องมือชำรุดเสียหาย หรือเกิดความผิดพลาดในการดำเนินงาน การรับรังสีนี้ สามารถวิเคราะห์ ประเมิน และกำหนดแนวทางป้องกัน เพื่อลดโอกาสการรับรังสี [นิวเคลียร์] |
Nuclear incident | อุบัติการณ์นิวเคลียร์, เหตุการณ์ที่เกิดขัดข้องในโรงงานนิวเคลียร์ ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหาย แต่ไม่รุนแรงเท่าอุบัติเหตุนิวเคลียร์ (ดู INES ประกอบ) [นิวเคลียร์] |
ประณาม | กล่าวร้ายให้เขาเสียหาย, Example: คำที่มักเขียนผิด คือ ประนาม [คำที่มักเขียนผิด] |
Average (Maritime law) | การเฉลี่ยความเสียหาย (กฎหมายพาณิชยนาวี) [TU Subject Heading] |
Damages | ค่าเสียหาย [TU Subject Heading] |
Exemplary damages | ค่าเสียหายเชิงลงโทษ [TU Subject Heading] |
Exhaustion of administrative remedies | การแก้ไขความเสียหายให้ครบขั้นตอนก่อนฟ้องคดีปกครอง [TU Subject Heading] |
Flood damage | ความเสียหายจากอุทกภัย [TU Subject Heading] |
Flood damage prevention | การป้องกันความเสียหายจากอุทกภัย [TU Subject Heading] |
International Convention on the Establishment of an International Fund for Compensation for Oil Pollution Damage (1971) | อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการจัดตั้งกองทุนระหว่างประเทศเพื่อชดใช้ความเสียหายอันเนื่องมาจากมลพิษของน้ำมัน (ค.ศ. 1971) [TU Subject Heading] |
International Convention on the Establishment of an International Fund for Compensation for Oil Pollution Damage (1971) | อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการจัดตั้งกองทุนระหว่างประเทศเพื่อชดใช้ความเสียหายอันเนื่องมาจากมลพิษของน้ำมัน (ค.ศ. 1971) [TU Subject Heading] |
Liability for environmental damages | ความรับผิดสำหรับความเสียหายของสิ่งแวดล้อม [TU Subject Heading] |
Liability for hazardous substance pollution damages | ความรับผิดสำหรับความเสียหายจากมลพิษของสารอันตราย [TU Subject Heading] |
Liability for oil pollution damages | ความรับผิดสำหรับความเสียหายจากมลพิษของน้ำมัน [TU Subject Heading] |
Losses | ความเสียหาย [TU Subject Heading] |
Mutilation, defacement, ect | การทำให้เสียหาย [TU Subject Heading] |
Post-conviction remedies | การแก้ไขความเสียหายหลังการตัดสิน [TU Subject Heading] |
Postharvest losses | ความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว [TU Subject Heading] |
Remedies (Law) | การแก้ไขความเสียหาย (กฎหมาย) [TU Subject Heading] |
Reparation (Criminal justice) | การชดใช้ค่าเสียหาย ((งานยุติธรรมทางอาญา) [TU Subject Heading] |
Restitution | การชดใช้ค่าเสียหาย [TU Subject Heading] |
Tsunami damage | ความเสียหายจากคลื่นซึนามิ [TU Subject Heading] |
Reactor containment | อาคารคลุมเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์, อาคารหรือสิ่งก่อสร้างชั้นนอกที่ออกแบบให้มีความแข็งแรงเป็นพิเศษเพื่อป้องกันเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จากอุบัติภัยภายนอก และเพื่อไม่ให้สารกัมมันตรังสีแพร่กระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมกรณีเกิดอุบัติเหตุภายในอาคารหรือสิ่งกักกั้นชำรุดหรือเสียหาย [นิวเคลียร์] |
Victims | ผู้เสียหาย [TU Subject Heading] |
Genocide | การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1946 สมัชชาสหประชาชาติได้ยืนยันเป็นเอกฉันท์ว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือการฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อนนั้นให้ถือเป็นอาชญากรรม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งโลกที่บรรลุความเจริญแล้วประณามอย่างรุนแรงอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกัน และการลงโทษอาชญากรรมเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ สมัชชาสหประชาชาติได้ลงมติรับรองเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 1948 อนุสัญญานี้ได้นิยามคำว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) หมายถึงการประกอบอาชญากรรมบางอย่าง โดยมีเจตนาที่จะทำลายล้างกลุ่มชนชาติ กลุ่มเผ่าพันธุ์ กลุ่มเชื้อชาติ หรือกลุ่มศาสนา ในบางส่วนหรือทั้งหมดก็ตาม การประกอบกรรมซึ่งถือเป็นการฆ่าล้างชาตินั้นได้แก่ การฆ่า การทำให้เกิดความเสียหายอย่างสาหัส ทั้งต่อร่างกายหรือจิตใจ และการบังคับให้มีสภาวะการครองชีพที่เจตนาจะให้ชีวิตร่ายกายถูกทำลาย ไม่ว่าจะเพียงส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดก็ตาม ตลอดจนออกมาตรการกีดกันมิให้มีลูกและโยกย้ายเด็ก ๆ ไม่เพียงแต่การฆ่าล้างชาติอย่างเดียว หากแต่การคบคิดหรือการยุยงให้มีการฆ่าล้างชาติ รวมทั้งความพยายามที่จะฆ่าล้างชาติและสมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมดังกล่าว ย่อมถูกลงโทษได้ตามนัยแห่งอนุสัญญานี้ บรรดาผู้ที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกลงโทษไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้ ปกครอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง หรือเอกชนส่วนบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดของตามกฎหมายก็ตามบรรดาประเทศที่ภาคี อนุสัญญานี้จำเป็นต้องออกกฎหมายของตนเพื่อรองรับ และจะต้องตกลงเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนในกรณีที่บุคคลนั้นๆ มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติ และบุคคลที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกพิจารณาลงโทษในประเทศที่มีการ ประกอบอาชญากรรมดังกล่าวขึ้น หรือโดยศาลระหว่างประเทศที่มีอำนาจครอบคลุมถึงเจตนารมณ์ของสนธิสัญญานี้ เพื่อต้องการป้องกัน และลงโทษอาชญากรรมฆ่าล้างชาติ ไม่ว่าจะประกอบขึ้นในยามสงครามหรือในยามสงบก็ตามอนุสัญญาดังกล่าวได้เริ่มมี ผลบังคับเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1951 เป็นเวลา 90 วันหลังจากที่ 20 ประเทศได้ให้สัตยาบัน หรือให้ภาคยานุวัติตามที่ระบุอยู่ในอนุสัญญา อนุสัญญานี้จะมีผลบังคับเป็นเวลา 10 ปี และมีการต่ออายุสัญญาทุก 5 ปี สำหรับประเทศที่มิได้บอกเลิกสัญญา หากประเทศที่ยังเป็นภาคีอนุสัญญามีจำนวนเหลือไม่ถึง 16 ประเทศ อนุสัญญานี้จะเลิกมีผลบังคับทันที [การทูต] |
Inviolability of the Mission Premises | คือความละเมิดมิได้จากสถานที่ของคณะผู้แทน หมายความว่า บ้านของตัวแทนทางการทูต รวมทั้งสถานที่อื่น ๆ ที่ใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการทูต รวมถึงตึกรามใด ๆ ที่ผู้แทนทางการทูตใช้ดำเนินงานทางการทูตในตำแหน่งที่ของเขา ไม่ว่าสถานที่นั้น ๆ จะเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลของเขาหรือเป็นของเขาเอง หรือแม้แต่เป็นสถานที่ที่ให้ตัวแทนทางการทูตเช่า เหล่านี้จะได้รับความคุ้มกัน (Immunity) ทั้งสิ้น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใด โดยเฉพาะเจ้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เก็บภาษี หรือเจ้าหน้าที่ศาล จะเข้าไปในที่อยู่หรือทำเนียบของผู้แทนทางการทูตมิได้ นอกจากจะได้รับความยินยอมให้กระทำเช่นนั้นอย่างไรก็ดี หากเกิดอาชญากรรมขึ้นภายในสถานที่ของคณะผู้แทน หรือในที่อยู่ของตัวแทนทางการทูต โดยบุคคลซึ่งมิได้อุปโภคความละเมิดมิได้ ตัวแทนทางการทูตผู้นั้นจะต้องมอบตัวอาชญากรดังกล่าวให้แก่รัฐบาลท้องถิ่นตาม ที่ขอร้อง กล่าวโดยทั่วไป ตัวแทนทางการทูตจะยอมให้ที่พักพิงในสถานทูตแก่อาชญากรใด ๆ ไม่ได้ เว้นแต่ในกรณีที่เห็นว่าอาชญากรผู้นั้นตกอยู่ในอันตรายที่จะถูกฆ่าจากฝูงชน ที่ใช้ความรุนแรง ก็จะยอมให้เข้าไปพักพิงได้เป็นกรณีพิเศษในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้กล่าวไว้ในข้อ 22 ดังนี้ ?1. สถานที่ของคณะผู้แทนจะถูกละเมิดมิได้ ตัวแทนของรัฐผู้รับไม่อาจเข้าไปในสถานที่นั้นได้ เว้นแต่ด้วนความยินยอมของหัวหน้าคณะผู้แทน 2. รัฐผู้รับมีหน้าที่พิเศษที่จะดำเนินการทั้งมวลที่เหมาะสม เพื่อคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทนจากการบุกรุกหรือความเสียหายใด ๆ และที่จะป้องกันการรบกวนใด ๆ ต่อความสงบสุขของคณะผู้แทน หรือการทำให้เสื่อมเสียเกียรติ 3. สถานที่ของคณะผู้แทน เครื่องตกแต่ง และทรัพย์สินอื่นของคณะผู้แทนในสถานที่นั้น ตลอดจนพาหนะในการขนส่งของคณะผู้แทน ให้ได้รับความคุ้มกันจาการค้น การเรียกเกณฑ์ การอายัด หรือการบังคับคดี ? [การทูต] |
maritime casualities | ความเสียหายอันเนื่องมาจากภัยพิบัติทางทะเล [การทูต] |
Niccolo Machiavelli (1469-1527) | คือรัฐบุรุษและปรัชญาเมธีทางการเมืองของสาธารณรัฐ ฟลอเรนส์ (Florence) ระหว่างรับราชการ ท่านดำรงตำแหน่งฝ่ายธุรการหลายตำแหน่งซึ่งไม่สู้มีความสำคัญเท่าใด แต่สิ่งที่ท่านสนใจมากที่สุดได้แก่ศิลปะของการเมือง หนังสือสำคัญ ๆ ที่ท่านประพันธ์ขึ้นไว้คือ The Prince เล่มหนึ่ง อีกเล่มหนึ่งชื่อ The Art of War และอีกเล่มหนึ่งคือ Discourses on the First Ten Books of Livyมีนักเขียนหลายคนวิพากษ์ Machiavelli ที่แสดงความเห็นสนับสนุนว่า รัฐบาลใดก็ตมที่ต้องการรักษาอำนาจการปกครองตนให้เข้มแข็งไว้ ย่อมจะใช้วิถีทางใด ๆ ก็ได้ ถึงแม้หนทางเช่นนั้นจะผิดกฎหมายหรือไร้ศีลธรรมก็ตาม และก็มีนักเขียนอีกหลายคนสนับสนุนท่าน โดยชี้ให้เห็นว่า ท่านเป็นแต่เพียงตีแผ่ให้เห็นพฤติกรรมที่แท้จริงของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในยุคสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่มากกว่าอย่างอื่น อาทิเช่น ในหนังสือ The Prince ของท่านตอนหนึ่งอ้างว่า การต่อสู้นั้นมีอยู่สองวิธี วิธีแรกเป็นการต่อสู้โดยวิถีทางกฎหมาย อีกวิธีหนึ่งคือการต่อสู้โดยใช้กำลัง (Force) วิธีแรกนั้นเป็นวิธีที่มนุษย์พึงใช้ ส่วนวิธีที่สองเป็นวิธีเยี่ยงสัตว์ป่า แต่การใช้วิธีแรกมักจะไม่ค่อยได้ผลเสมอไป เพราะไม่เพียงพอ ก็ย่อมจะหันเข้าใช้วิธีที่สองได้ ฉะนั้น ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้น ซึ่ง Machiavelli เรียกว่า Prince จึงจำเป็นต้องรู้ดีว่าจะใช้ทั้งวิธีที่มนุษย์จะพึงใช้ และวิธีเยี่ยงสัตว์ป่าอย่างไร ด้วยเหตุนี้ ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้นไม่จำเป็นต้องมีสัจธรรม หากการกระทำนั้น ๆ จะทำความเสียหายแก่ผลประโยชน์ของประเทศ ท่านเห็นว่า หากมนุษย์ทุกคนเป็นคนดี กฎเช่นนี้ก็เป็นกฎที่ไม่ถูกต้อง แต่โดยที่มนุษย์ไม่ใช่คนดีทั้งหมด ในเมื่อเขาไม่ยอมให้ความศรัทธาความไว้วางใจในตัวท่าน ก็ไม่มีอะไรที่จะมาห้ามมิให้ท่านเลิกศรัทธากับเขาเหล่านั้นได้ [การทูต] |
Persona non grata | เป็นศัพท์ที่ใช้กับนักการทูตหรือผู้แทนทางการทูต ที่ประจำอยู่ในประเทศซึ่งรัฐบาลของประเทศนั้นไม่ปรารถนาให้อยู่ต่อไปอีกแล้ว หลังจากที่ได้ไปประจำทำงานในตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้น หรือก่อนหน้าที่นักการทูตผู้นั้นจะเดินทางไปถึงดินแดนของประเทศผู้รับ (Receiving State) นักการทูตที่ถูกประกาศเป็น persona non grata หรือ บุคคลที่ไม่พึงปรารถนานั้น เป็นเพราะสาเหตุดังต่อไปนี้ คือ กล่าวคำดูหมิ่นรัฐบาลของประเทศที่ตนไปประจำอยู่ ละเมิดกฎหมายของบ้านเมืองนั้น แทรกแซงในการเมืองภายในของเขา เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในประเทศของเขา ใช้ถ้อยคำก้าวร้าวต่อประเทศนั้น วิพากษ์ประมุขแห่งประเทศของเขากระทำการอันเป็นที่เสียหายต่อประโยชน์หรือต่อ ความมั่นคงของประเทศ และกระทำการอื่น ๆ ในทำนองนั้นตามปกติรัฐบาลของประเทศเจ้าภาพที่เป็นฝ่ายเสียหายจะขอร้องให้ รัฐบาลผู้ส่ง (Sending government) เรียกตัวนักการทูตผู้กระทำผิดกลับประเทศ ซึ่งตามปกติรัฐบาลผู้ส่งมักจะปฏิบัติตาม รัฐบาลของประเทศผู้เสียหายจะแจ้งให้นักการทูตผู้นั้นทราบว่า รัฐบาลจะไม่ทำการติดต่อเกี่ยวข้องเป็นทางการกับเขาอีกต่อไป หรืออาจจะบอกให้นักการทูตผู้นั้นออกไปจากประเทศโดยไม่เกรงใจแต่อย่างใดก็ได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในข้อ 9 ดังต่อไปนี้ ?1. รัฐผู้รับอาจบอกกล่าวแก่รัฐผู้ส่งในเวลาใดก็ได้ และโดยมิต้องชี้แจงถึงการวินิจฉัยของตนว่า หัวหน้าคณะผู้แทนหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ไม่พึงโปรด หรือว่าบุคคลอื่นใดในคณะเจ้าหน้าที่ของคณะผู้แทนเป็นที่ไม่พึงยอมรับได้ ในกรณีใดเช่นว่านี้ ให้รัฐผู้ส่งเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นกลับ หรือเลิกการหน้าที่ของผู้นั้นกับคณะผู้แทนเสียก็ได้ตามที่เหมาะสมบุคคลอาจจะ ถูกประกาศให้เป็นผู้ไม่พึงโปรด หรือไม่พึงยอกรับได้ก่อนที่จะมาถึงอาณาเขตของรัฐผู้รับก็ได้ 2. ถ้ารัฐผู้ส่งปฏิเสธ หรือไม่นำพาภายในระยะเวลาอันสมควร ที่จะปฏิบัติตามข้อผูกพันของคนภายใต้วรรค 1 ของข้อนี้ รัฐผู้รับสามารถปฏิเสธที่จะยอมรับนับถือบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นว่าเป็นบุคคล ในคณะผู้แทนก็ได้? [การทูต] |
Personal Diplomacy | คือการเจรจากันโดยตรงระหว่างรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงต่างประเทศด้วยกัน ส่วนการเจรจากันโดยตรงระหว่างประมุขของรัฐ หรือหัวหน้าของรัฐบาล แต่เดิมก็จัดอยู่ในประเภทการมทูตส่วนบุคคล แต่มาในปัจจุบันนี้ มักนิยมเรียกกันว่าเป็นทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) แยกออกต่างหากจากการทูตส่วนบุคคลมีผู้สังเกตการณ์หลายคนเตือนว่า ในกรณีที่เกิดเรื่องหรือปัญหาที่ยังคาราคาซังอยู่นั้น ไม่ควรหันเข้าใช้วิธีส่งผู้แทนพิเศษจากนครหลวงไปแก้ปัญหา ควรให้เอกอัครราชทูตเป็นผู้ดำเนินการมากกว่า เพราะประการแรก การกระทำเช่นนั้นยังผลเสียหายต่อศักดิ์ศรีของตัวเอกอัครราชทูตเอง ทั้งยังกระทบกระเทือนต่อการที่เขาจะปฏิบัติงานให้ประสบผลอย่างเต็มที่ ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้นในภายหน้าด้วย อีกประการหนึ่ง จะพึงคาดหมายได้อย่างไรว่า ตัวผู้แทนพิเศษที่ส่งไปนั้นจะมีความรอบรู้เกี่ยวกับภูมิหลังของปัญหา รวมทั้งตัวบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเท่ากับตัวเอกอัครราชทูตเอง ซึ่งได้ประจำทำงานอยู่ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ณ ที่นั่น แม้แต่ แฮโรลด์ นิโคลสัน ก็ไม่เห็นด้วย และได้เตือนว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศหนึ่งไปเยือนและพบปะกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอีกประเทศหนึ่งบ่อย ๆ นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำและไม่ควรสนับสนุน เพราะการกระทำเช่นนี้ นอกจากจะทำให้ประชาชนคาดหมายไปต่าง ๆ นานาแล้ว ยังจะทำให้เกิดเข้าใจผิด และเกิดความสับสนขึ้นมาได้แม้แต่ผู้รอบรู้ในเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติทางการ ทูตบางคนก็ยังแคลงใจว่า การทูตแบบสุดยอด (Summit Diplomacy) จะได้ประโยชน์และให้ผลจริง ๆ หรือไม่ นอกจากเฉพาะในกรณียกเว้นจริง ๆ เท่านั้น บ้างเห็นว่า การพบปะเจรจาแบบสุดยอดมักจะกลายสภาพเป็นการโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์มากกว่า ที่จะเป็นการเจรจากันอย่างแท้จริง เพราะมีอันตรายอยู่ว่า ผู้ร่วมเจรจามักจะแสดงความคิดเห็นตามความรู้สึกมากกว่าตามข้อเท็จจริง เพราะมัวแต่เป็นห่วงและคำนึงถึงประชามติในประเทศของตนมากเกินไปนอกจากนี้ ผู้เจรจาไม่อยู่ในฐานะที่จะให้ข้อลดหย่อนหรือทำการประนีประนอม ( ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งหากจะให้เจรจาบังเกิดผล) เพราะกลัวเสียหน้าหากกระทำเช่นนั้น ตามปกติ ถ้าให้นักการทูตเป็นผู้เจรจา เขาจะมีโอกาสมากกว่าที่จะใช้วิธีหลบหลีกอันชาญฉลาดในการเจรจาต่อรอง เพื่อให้เป็นผลตามที่มุ่งประสงค์ [การทูต] |
sustainable development | การพัฒนาที่ยั่งยืน หมายถึง การพัฒนาใด ๆ ที่ไม่ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับผลกระทบเสียหายและเกิดการ เสื่อมโทรม [การทูต] |
weapons of mass destruction | อาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง เป็นอาวุธที่มีอานุภาพทำลายมวลชน สัตว์ พืชและสิ่งของ โดยไม่อาจจำกัดหรือควบคุมเป้าหมายและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้แน่ชัด ประกอบด้วยอาวุธเคมี อาวุธชีวะ และอาวุธนิวเคลียร์ [การทูต] |
Letter of undertaking | หนังสือยินยอมชดใช้ค่าเสียหาย [การบัญชี] |
Elongation | ความสามารถของวัสดุที่ยืดออกได้โดยไม่เกิดการแตกหักเสียหาย โดยมากมักจะวัดค่า “ultimate elongation – การยืดสูงสุด” หรือ “elongation at break – การยืด ณ จุดขาด” ซึ่งจะแสดงค่าเป็นร้อยละของความยาวเดิม [เทคโนโลยียาง] |
Behavior, Destructive | ปฏิกิริยาทำลายของให้เสียหาย [การแพทย์] |
Brain Damage | สมองถูกทำลาย, สมองเสียหาย, ความผิดปกติที่สมอง, การทำลายสมอง, ความผิดปกติทางสมอง, สมองถูกทำลาย [การแพทย์] |
Brain Injuries, Ischemic Hypoxic | สมองเสียหายจากการพร่องออกซิเจนและการขาดเลือด [การแพทย์] |
Cytolysis | การเสียหายของผิวเซลล์, การสลายตัวของเซลล์, การละลายของเซลล์, เซลล์เนื้องอกสลายตัว, เซลล์แตกทำลาย, การแตกสลายของเซลล์, การสลายตัวของเซลล์, การแตกสลายของเซลล์, ซัยโตลัยลิส [การแพทย์] |
Defects | ส่วนเสียหาย, บกพร่อง [การแพทย์] |
Economic Loss | ความเสียหายทางเศรษฐกิจ, การสูญเสียทางเศรษฐกิจ [การแพทย์] |
hydro energy | พลังน้ำ, พลังงานที่สะสมอยู่ในน้ำในรูปของพลังงานศักย์โน้มถ่วง เช่น พลังน้ำในเขื่อนกักเก็บน้ำ เมื่อน้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ พลังงานศักย์จะเปลี่ยนเป็นพลังงานจลน์ ซึ่งจะใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ เช่น หมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หรือมีโทษ เช่น ทำความเสียหายให้แก่บ้านเรือน พืช [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
ชำรุดเสียหาย | [chamrutsīahāi] (v) EN: wear out |
ชดใช้ค่าเสียหาย | [chotchai khāsīahāi] (v, exp) EN: compensate for damages ; pay damages |
ฟ้องเรียกค่าเสียหาย | [føng rīek khāsīahāi] (v, exp) EN: bring an action for damages ; sue for damages |
การชดใช้ค่าเสียหาย | [kān chotchai] (n) EN: compensation |
การชดใช้ค่าเสียหาย | [kān chotchai khāsīahāi] (n, exp) EN: compensation ; indemnification FR: indemnisation [ f ] ; dédommagement [ m ] |
การชดใช้ค่าเสียหาย | [kān chotchai khāsīahāi] (n, exp) EN: restitution |
การประเมินความเสียหาย | [kān pramoēn khwāmsīahāi] (n, exp) EN: appraisal of damage ; assessment of damage |
การเรียกร้องค่าเสียหาย | [kān rīekrøng khāsīahāi] (n, exp) EN: claim for damages |
การสำรวจความเสียหาย | [kān samrūat khwāmsīahāi] (n, exp) EN: survey |
คำฟ้องเรียกค่าเสียหาย | [khamføng rīek khāsīahāi] (n, exp) EN: action for damages |
ค่าเสียหาย | [khāsīahāi] (n) EN: damages FR: dommages [ mpl ] |
เคลมค่าเสียหาย | [khlēm khāsīahāi] (v, exp) EN: claim damages |
ข้อเสียหาย | [khø sīaihāi] (n) EN: shortcoming ; disadvantage ; fault ; demerit ; cost ; price |
ความเสียหาย | [khwāmsīahāi] (n) EN: damage ; detriment FR: détriment [ m ] (vx) |
ความเสียหาย | [khwāmsīahāi] (n) EN: damage FR: dégâts [ mpl ] ; dommage [ m ] ; perte [ f ] |
ความเสียหายบางส่วน | [khwāmsīahāi bāng suan] (n, exp) EN: partial loss |
ความเสียหายเฉพาะ | [khwāmsīahāi chaphǿ] (n, exp) EN: particular average |
ความเสียหายร่วม | [khwāmsīahāi ruam] (n, exp) EN: general average |
ความเสียหายที่ไม่อาจแก้ไขได้ | [khwāmsīahāi thī mai āt kaēkhai dāi] (n, exp) EN: irreparable damaga |
ความเสียหายต่อทรัพย์สิน | [khwāmsīahāi tø sapsin] (n, exp) EN: damage to property |
หนังสือเรียกร้องค่าเสียหาย | [nangseū rīekrøng khāsīahāi] (n, exp) EN: claim for reimbursement |
ผลเสียหาย | [phon sīahāi] (n, exp) EN: damage ; loss |
ผู้สำรวจความเสียหาย | [phū samrūat khwāmsīahāi] (n, exp) EN: surveyor |
ผู้เสียหาย | [phū sīahāi] (n, exp) EN: injured person ; sufferer ; wounded ; injured party ; person harmed ; victim FR: victime [ f ] |
รายงานการสำรวจความเสียหาย | [rāi-ngān kān samrūat khwāmsīahāi] (n, exp) EN: survey report |
รายงานความเสียหาย | [rāi-ngān khwāmsīahāi] (n, exp) EN: survey report |
เรียกค่าเสียหาย | [rīek khāsīahāi] (v, exp) EN: recover damage ; claim damages FR: réclamer des dommages |
สำรวจความเสียหาย | [samrūat khwāmsīahāi] (v, exp) EN: survey |
เสียหาย | [sīahāi] (adj) FR: abîmé ; endommagé |
สิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย | [sitthi rīekrøng khāsīahāi] (n, exp) EN: claim for damages |
ความเสียหาย | [thamhaikoēt khwāmsīahāi] (v, exp) FR: pauser des dégâts ; provoquer des dégâts |
ทำให้เสียหาย | [thamhai sīahāi] (v, exp) FR: abîmer ; endommager |
ถนนชำรุดเสียหาย | [thanon chamrutsīahāi] (n, exp) FR: route délabrée [ f ] |
ตีค่าเสียหาย | [tī khāsīahāi] (v, exp) EN: assess the damage |
all in one piece | (idm) อย่างปลอดภัย, See also: อย่างไม่เสียหาย, อย่างไม่บุบสลาย |
bane | (n) สิ่งที่ก่อให้เกิดความตายหรือความเสียหาย, Syn. bugaboo, nuisance |
baneful | (adj) ก่อความเสียหาย, Syn. pernicious, destructive |
blight | (n) ความเสียหาย, See also: ความยากลำบาก |
blight | (vt) ทำลาย, See also: ทำให้เสียหาย, เป็นสาเหตุทำให้เสียหาย, Syn. afflict, ruin |
boggle | (vt) ทำผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ, See also: ทำให้เสียหาย |
bungler | (n) ผู้ที่ทำเสียหาย, Syn. botcher |
bang about | (phrv) ทำลาย, See also: เสียหาย, Syn. bash about |
bang around | (phrv) ทำลาย, See also: เสียหาย, Syn. bash about |
bang up | (phrv) ทำลาย (คำไม่เป็นทางการ), See also: ทำให้เสียหาย, Syn. smash up |
beat in | (phrv) ตีให้บาดเจ็บ, See also: ตีให้มีบาดแผล, ตีให้เสียหายหรือทำลาย, Syn. bash in, crush in |
bumble through | (phrv) ทำเสียหาย, See also: ทำพัง, ทำลวกๆ |
bust up | (phrv0) ทำลาย, See also: ทำให้เสียหาย |
cost | (n) ความเสียหาย, Syn. damage, harm |
cut up | (phrv) ทำลายอย่างรุนแรง, See also: เสียหายอย่างมาก |
cut up | (phrv) ทำให้ทุกข์กับ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ทำความเสียหายให้กับ |
damage | (n) ความเสียหาย, See also: ผลเสียหาย, ผลร้าย, ผลเสีย |
damage | (vi) ทำความเสียหาย, See also: ทำให้เสียหาย, ก่อผลเสียหาย, ส่งผลร้าย, ทำลาย, ล้างผลาญ, Syn. harm, hurt, ruin |
damage | (vt) ทำความเสียหาย, See also: ทำให้เสียหาย, ก่อผลเสียหาย, ส่งผลร้าย, ทำลาย, ล้างผลาญ, Syn. harm, hurt, ruin |
damageable | (adj) ซึ่งทำให้เสียหาย, See also: เกี่ยวกับผลร้าย, ซึ่งเป็นอันตราย, Syn. hurtable, harmful, injurious |
damages | (n) ค่าเสียหาย, See also: ค่าป่วยการ, ค่าชดเชย, เงินชดเชย, ค่าสินไหม, ค่าชดใช้, Syn. compensation |
damaging | (adj) ซึ่งทำให้เสียหาย, See also: เกี่ยวกับผลร้าย, ซึ่งเป็นอันตราย, Syn. hurtable, harmful, injurious |
dash | (vt) ทำลาย, See also: ลบล้าง, ทำให้ตกต่ำ, ทำให้เสียหาย, Syn. destroy, break, foil, frustate, ruin, spoil, damage |
detriment | (n) ความเสียหาย, See also: อันตราย, Syn. harmfulness, ill, damage |
detrimental | (adj) ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสียหาย, Syn. harmful, injurious, painful, Ant. beneficial, useful, healthful |
devastate | (vt) ทำลายล้าง, See also: ทำให้เสียหายอย่างรุนแรง, Syn. desolate, devastate |
devastating | (adj) ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากมาย, See also: ซึ่งทำลายล้าง, Syn. calamitous, disastrous, desolating |
devastation | (n) การทำลายล้าง, See also: การทำให้เสียหายอย่างรุนแรง, Syn. destruction, defoliation |
dilapidation | (n) ความเสียหาย, See also: ความชำรุด, ความทรุดโทรม, ความเน่าเปื่อย, Syn. destruction, demolition, ruin |
disadvantageous | (adj) ซึ่งเป็นข้อเสียหาย |
disfigurement | (n) สิ่งที่ทำให้เสียโฉม, See also: สิ่งที่ทำให้ไม่สวย, สิ่งที่ทำให้เสียหาย, Syn. blemish, defacement, scar |
disgrace | (vt) ทำให้เสื่อมเสีย, See also: ทำให้เสียหาย, ทำให้อับอาย, ทำให้เสียชื่อเสียง, ทำให้อัปยศ, Syn. dishonor, discredit, shame, scandalize, Ant. honor |
fault | (n) ข้อผิดพลาด, See also: ข้อบกพร่อง, ข้อเสียหาย, รอยตำหนิ, Syn. error, mistake, defect, flaw, Ant. virtue |
faultily | (adv) อย่างผิดพลาด, See also: อย่างบกพร่อง, อย่างเสียหาย, Syn. badly, incompletely |
fragile | (adj) เปราะแตกง่าย, See also: ไม่แข็งแรงคงทน, ไม่ทนทาน, เสียหายง่าย, Syn. flimsy, frail, Ant. sturdy |
fragility | (n) การเปราะแตกง่าย, See also: ความไม่แข็งแรงคงทน, ความไม่ทนทาน, การเสียหายง่าย, Syn. flimsiness, frailty, Ant. sturdiness |
happen to | (phrv) ทำให้เสียหาย, See also: ทำให้พัง, ทำให้หาย |
indemnify against | (phrv) ชดใช้ค่าเสียหาย, See also: คุ้มครองค่าเสียหาย, Syn. insure against |
indemnify for | (phrv) ชดใช้...ด้วยค่าเสียหาย |
insulate from | (phrv) ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายจาก |
gig | (n) ข้อบกพร่อง, See also: ข้อเสียหาย, สิ่งผิดพลาด |
harm | (n) ความเสียหาย, See also: การบาดเจ็บ, Syn. damage, injury |
havoc | (n) ความหายนะ, See also: ความเสียหายอย่างรุนแรง, Syn. destruction, devastation, ravagement |
hurt | (n) การทำร้าย, See also: การทำอันตราย, การทำลาย, ความปวดร้าว, ความเสียใจ, ความเจ็บปวด, ความเสียหาย, อาการเจ็บปวด |
queer someone's pitch | (idm) ทำให้แผนการหรือการจัดการเสียหาย, See also: ทำให้รวน |
impair | (vt) ทำให้แย่ลง, See also: ทำให้คุณภาพลดลง, ทำให้เสียหาย, Syn. diminish, undermine |
impaired | (adj) บกพร่อง, See also: ซึ่งเสียหาย, ซึ่งไม่สมบูรณ์, ซึ่งไม่แข็งแรง, ซึ่งอ่อนแอ, Syn. deteriorated |
inflict | (vt) สร้างความเจ็บปวด, See also: ทำให้เสียหาย, ทำโทษ, Syn. impose, punish, Ant. alleviate |
infliction | (n) การลงโทษ, See also: การสร้างความเดือดร้อน, การสร้างความเสียหาย, Syn. punishment, imposition |
injury | (n) การทำให้เสียหาย (กฎหมาย), Syn. wrong, offense, damage |
amends | (อะเมนซ') n. การชดเชยค่าเสียหาย, การชดเชย, การฟื้นฟูสภาพเดิม, การขอขมา |
angary | (แอง' กะรี) n สิทธิของรัฐที่ทำสงครามในการยึดครองหรือทำลายทรัพย์สินของประเทศที่เป็นกลางแล้ว, รอไว้ชดใช้ค่าเสียหาย หรือสินไหมทดแทนในภายหลัง |
assumpsit | (อะซัมพ'ซิท) n. การดำเนินคดีให้ชดใช้สินไหมทดแทนค่าเสียหายที่เกิดจากการผิดสัญญา |
backing store | หน่วยเก็บหนุนหน่วยเก็บข้อมูล ที่ใช้เป็นที่เก็บหนุน หรือเก็บข้อมูลสำรองไว้ ในกรณีที่หน่วยเก็บที่ใช้งานอยู่เกิดขัดข้อง หรือเสียหาย ก็อาจใช้หน่วยเก็บหนุนนี้แทนได้ โดยทั่วไปก็จะหมายถึงหน่วยเก็บความจำอื่น ๆ นอกไปจากหน่วยความจำหลัก (main memory) เป็นต้นว่าสื่อต่าง ๆ เช่น แถบบันทึก (tape) หรือจานบันทึก (disk) มีความหมายเหมือน auxiliary storage หรือ backup storage |
backup storage | หน่วยเก็บสำรอง <คำแปล>หมายถึง หน่วยเก็บข้อมูลที่ใช้เป็นที่เก็บหนุน หรือเก็บข้อมูลสำรองไว้ ในกรณีที่หน่วยเก็บที่ใช้งานอยู่เกิดขัดข้อง หรือเสียหาย ก็อาจใช้หน่วยเก็บสำรองแทนได้ โดยทั่วไปก็จะหมายถึงหน่วยความจำอื่น ๆ นอกไปจากหน่วยความจำหลัก (main memory) เป็นต้นว่าสื่อต่าง ๆ เช่น แถบบันทึก (tape) หรือจานบันทึก (disk) มีความหมายเหมือน auxiliary storage หรือ backing store |
cadmean | adj. เกี่ยวกับชัยชนะที่ต้องเสียหายยับเยิน |
comprehensive | (คอมพริเฮน'ซิฟว) adj. กว้างขวาง, ครอบคลุม, เข้าใจได้กว้าง, ซึ่งหยั่งรู้, ซึ่งประกันความเสียหายอย่างกว้างขวาง n. การทดสอบความรู้อย่างกว้างขวาง, See also: comprehensiveness n. ดูcomprehensive, Syn. far-reaching, wide |
cost | (คอสทฺ) { cost, cost, costing, costs } n. ทุน, ต้นทุน, ทุนที่ซื้อมา, ค่าโสหุ้ย, ค่าใช้จ่าย, ค่าตอบแทน, ค่าเสียหาย, ค่าฤชาธรรมเนียม, ค่าธรรมเนียมฟ้องร้อง. -at all costs โดยทุกวิถีทาง vt. เป็นมูลค่า, เป็นราคา, ต้องใช้, ต้องเสีย vi. หมดเปลือง, สิ้นเปลือง, หาค่าประเมิน -Conf. |
cracked | (แครคทฺ) adj. แตก, เป็นรอยแตก, ได้รับความเสียหาย, ได้รับบาดเจ็บ, บ้า, เสียงแตก, เสียงแหบ, See also: crackedness n., Syn. split |
damage | (แดม'มิจฺ) { damaged, damaging, damages } n. ความเสียหาย, การทำให้เสียหาย, การทำให้ได้รับอันตราย, See also: damages n., pl. ค่าเสียหาย เงินชดเชยค่าเสียหาย vt. ทำให้เสียหาย, ทำให้ได้รับอันตราย, เป็นภัย n. เสียหาย. damageable adj. damager n. ดูdamage |
damaging | (แดม'มิจจิง) adj. ซึ่งทำให้เสียหาย, ซึ่งเป็นภัยกับ, เป็นอันตราย |
damnify | (แดม'นะไฟ) vt. ทำให้เกิดการสูญเสียหรือเสียหายแก่ |
data redundancy | ความซ้ำซ้อนข้อมูลหมายถึงข้อมูลที่ซ้ำซ้อนกัน หากตัดออก ก็จะไม่ทำให้ข้อมูลที่เหลืออยู่เสียหาย ถ้าใช้กับตัวเครื่อง (hardware) หมายถึง เครื่องที่มีระบบการทำงานซ้ำซ้อนกัน ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องมีหรือใช้ ถ้าต้องการให้มีความเชื่อถือได้สูง |
defect | (ดิเฟคทฺ') { defected, defecting, defects } n. ข้อบกพร่อง, ปมด้อย, ข้อเสียหาย, สิ่งที่ขาดตกบกพร่อง. vi. ละทิ้ง, เอาใจออกห่าง, หนีงาน, หลบหนีออกนอกประเทศ, Syn. flaw-A. strength |
derogatory | (ดิรอก'กะโทรี) adj. เสื่อมเสีย, เสียหาย., See also: derogatoriness n. |
detriment | (ดี'ทริเมินทฺ) n. การสูญเสีย, ความเสียหาย, ความทรุดโทรม, การได้รับบาดเจ็บ, สาเหตุของความสูญเสียหรือความเสียหาย, Syn. harm |
disadvantage | (ดิสอัดแวน'ทิจฺ) n. ความเสียเปรียบ, ข้อเสียเปรียบ, ข้อเสียหาย, ความเสียหาย, ความเป็นเบี้ยล่าง. vt. ทำให้เสียเปรียบ, ทำให้เป็นเบี้ยล่าง, Syn. damage, loss, injury |
disadvantageous | (ดิสแอดเวินเท'เจิส) adj. เสียเปรียบ, เป็นเบี้ยล่าง, ไม่เหมาะ, เสียหาย., See also: disadvantageousness n. ความเสียเปรียบ, Syn. adverse, Ant. favourable |
disagree | (ดิสอะกรี') { disagreed, disagreeing, disagrees } vi. ไม่เห็นด้วย, ไม่เห็นพ้อง, โต้แย้ง, ทะเลาะ, ไม่เหมาะ, ทำความเสียหายแก่, Syn. dissent, quarrel |
disservice | n. การเป็นภัย, อันตราย, การก่อความเสียหาย, ความร้าย, Syn. harm |
expense | (อิคซฺเพนซฺ') n. ค่าใช้จ่าย, การใช้จ่าย, การสละ, ค่าเสียหาย, ความสิ้นเปลือง. -Phr. (at the expense of สูญเสีย) -Phr. (at his (her, our, etc.) expense ทำความเสื่อมเสียแก่), Syn. cost |
fragile | (แฟรก'ไจล์) adj. เปราะ, หักง่าย, แตกง่าย, เสียหายง่าย, อ่อนแอ, บอบบาง, อ่อน. -fragilely adv, See also: fragility n. fragileness n., Syn. frail, brittle, feeble, Ant. strong, durable |
hack | (แฮค) v. ฟัน, ตัด, สับ, คราด, ทำให้เสียหาย, ทำให้ได้รับบาดเจ็บ, ทำให้เสียรูปร่าง, ไอครอก ๆ , เตะแข้ง, ไปเรื่อยเปื่อย, เที่ยวเตร่ n. การฟัน, การตัด, การสับ, การไอครอก ๆ , นักเขียนรับจ้าง, ม้าแก่, ม้าที่ให้เช่า , แท็กซี่, หิ้งตากอาหาร, Syn. chop, cut |
harm | (ฮาร์ม) n. อันตราย, การทำให้ได้รับบาดเจ็บ, ความเสียหาย, การเป็นภัย, ความชั่ว, ความผิด. vt. ทำอันตราย, ทำให้ได้รับบาดเจ็บ., See also: harmer n., Syn. injury, damage |
havoc | (แฮฟ'วัค) n. ความหายนะ, ความเสียหาย vt. ทำให้เสียหาย, ทำลาย., See also: havocker n., Syn. ruin, disaster |
hurt | (เฮิร์ท) vt., vi. ทำให้ (รู้สึก) บาดเจ็บ, ทำให้เจ็บปวด, ทำอันตราย, ทำให้เจ็บใจ, ทำให้เสียใจ. -n. การทำให้ได้รับบาดเจ็บ, บาดแผล, ความเจ็บปวด, ความเสียหาย, Syn. injure, wound, harm |
hurtful | (เฮิร์ท'ฟูล) adj. ซึ่งทำให้ได้รับบาดแผล, เป็นอันตราย, ซึ่งทำให้เสียหาย., See also: hurtfully adv. hurtfulness n., Syn. injurious, harmful |
impair | (อิมแพร') vt. ทำให้เลวลง, ลดคุณค่า, ทำให้อ่อนแอ, ทำให้เสียหาย, ทำให้ได้รับบาดเจ็บ, เลวลง., See also: impairable adj. impairer n. impairment n., Syn. diminish, injure |
indemnify | (-เดม' นะไฟ) vt. ชดใช้ค่าเสียหาย, ชดใช้, ทำขวัญ, คุ้มครอง., See also: indemnifier n. |
indemnitor | (อินเดม' นิเทอะ) n. ผู้ชดใช้, ผู้ใช้เงินค่าเสียหาย, ผู้ใช้ค่าสินไหมทดแทน |
indemnity | (อินเดม' นิที) n. การชดเชยค่าเสียหาย, สิ่งชดเชย, เงินชดเชยค่าเสียหาย, ค่าสินไหมทดแทน, การป้องกัน, การคุ้มครอง, Syn. repay |
injure | (อิน'เจอะ) vt. ทำอันตราย, ทำให้ได้รับบาดเจ็บ, ทำให้เสียหาย, ทำผิด, ทำร้าย, ประทุษร้าย, กระทบกระเทือน, ร้าวราน., See also: injurable adj. injurer n., Syn. hurt |
injurious | (อินจัว'เรียส) adj. ได้รับบาดเจ็บ, ได้รับอันตราย, ได้รับความเสียหาย, ถูกร้าวราน., See also: injuriousness n., Syn. hurtful |
injury | (อิน'จะรี) n. อันตราย, ภัย, ความเสียหาย, ความอยุติธรรมที่ได้รับ, การล่วงละเมิด, การก้าวร้าว, Syn. harm, hurt |
inviolable | (อินไว'อะละเบิล) adj. ล่วงละเมิดไม่ได้, ฝ่าฝืนไม่ได้, ขัดขืนไม่ได้, ทำลายไม่ได้, ทำให้เสียหายไม่ได้., See also: inviolableness n. inviolably adv., Syn. intact, unbroken |
inviolate | (อินไว'อะลิท, -ทิด) adj. ไม่ถูกล่วงละเมิด, ไม่เสียหาย, ไม่ถูกทำลาย, ไม่เสื่อม., See also: inviolacy, inviolateness n. |
inviolated | (อินไว'อะลิท, -ทิด) adj. ไม่ถูกล่วงละเมิด, ไม่เสียหาย, ไม่ถูกทำลาย, ไม่เสื่อม., See also: inviolacy, inviolateness n. |
kaput | (คาพุท') adj. เสียหาย, เสื่อมเสีย, สลักหักพัง |
lose | (ลูส) { lost, losing, loses } vt. ขาดทุน, สูญ, เสีย, แพ้, ทำให้สูญเสีย, พลาด, เสียโอกาส vi. ได้รับความเสียหาย, แพ้, เล่นเสีย, (นาฬิกา) เดินช้า. -Phr. (lose out แพ้), See also: losable adj. losableness n., Syn. fail-A. find |
loss | (ลอส) n. การขาดทุน, การสูญเสีย, การแพ้, การหาย, ความเสียหาย, ความผิดพลาด, การทำลาย, ความหายนะ, การสูญเสียทหาร, จำนวนทหารที่สูญเสียไป, ภาวะที่ไม่แน่นอน, ภาวะที่งงงวย, Syn. deprivation |
mangle | (แมง'เกิล) vt. ตัดเฉือนหรือขยี้จนเสียรูปเสียร่าง, ทำให้เสีย, ทำให้เสียหาย, ทำให้บุบบู้บี้, ทำให้แหลกเหลว, รีดน้ำออกจากผ้า, กลิ้งให้เรียบ n. เครื่องรีดน้ำออกจากผ้า, เครื่องบีบผ้าที่ซักแล้วด้วยลูกกลิ้ง, See also: mangler n. -S... |
mar | (มาร์) vt. ทำให้เสื่อมเสีย, ทำให้เสียหาย, ทำลาย, ทำให้เสียโฉม, ทำให้เสียรูปเสียร่าง |
prejudice | (เพรจ'จะดิส) n. อคติ, ความรู้สึกไม่ดีที่มีอยู่ก่อน, ความรู้สึกที่ไม่มีเหตุผล, ความเสียหาย, ข้อเสียเปรียบ. vt. ทำให้มีอคติ, ทำให้เสียหาย, ละเมิด, เป็นผลร้าย., See also: prejudicedly adv., Syn. bias, partiality |
prejudicial | (เพรจจะดิช'เชิล) adj. เป็นผลร้าย, ทำให้เสียหาย, ไม่เป็นผลดี, ทำให้เสียเปรียบ., See also: prejudicialness n., Syn. detrimental |
ravage | (แรฟ'วิจฺ) vt., vi. ทำให้เสียหาย, ทำให้เกิดผลร้าย, ทำลาย, ปล้นสะดม., See also: ravagement n. ravager n., Syn. havoc, damage |
salvage | (แซล'วิจฺ) n. การกู้เรือ, การกู้ทรัพย์สินให้พ้นภัยพิบัติ, ทรัพย์สินที่กอบกู้ให้พ้นความเสียหาย, เรือที่กอบกู้ขึ้นมาได้, ค่ากู้ให้พ้นภัย, มูลค่าทรัพย์สินที่กู้ให้พ้นภัย, การใช้ของเสียให้เป็นประโยชน์, การช่วยเหลือ, การช่วยชีวิต. vt. กู้เรือ, กอบกู้ทรัพย์สินให้พ้นภัย |
shatter | (แชท'เทอะ) vi., vt. (ทำให้) แตกละเอียด, แตกเป็นชิ้น ๆ , เสื่อมเสีย, เสียหาย., See also: shatterer n. shatteringly adv., Syn. bust, break |
shockproof | adj. กันกระแทก, กันไม่ให้เสียหายจากการถูกกระ ทบกระแทก. vt. ป้องกันความเสียหายจากการถูกกระทบกระแทก |
singe | (ซินจฺ) vt., n. (การ) ทำให้ไหม้เกรียม, ลนไฟ, ลนไฟเอาขนออก, ทำให้เสียหาย, ทำให้บาดเจ็บ, แผลไหม้เกรียม, , See also: singeingly adv. |
toll | (โทล) vt., vi. ตีระฆัง (ใหญ่) , เคาะระฆัง, ล่อ, ล่อลวง, ส่งเสียงดังต่อเนื่อง, จัดเก็บภาษีหรือค่าธรรมเนียม. n. การตีระฆัง, เสียงระฆัง, ภาษี, ส่วย, ค่าบำรุง, ค่าผ่านถนน, ค่าวางของขาย, ค่าธรรมเนียมบริการ, ค่าธรรมเนียมขนส่ง, ปริมาณความเสียหาย, จำนวนคนที่เสียชีวิต |
breakage | (n) การทำแตก, ค่าเสียหาย, ค่าสึกหรอ, ความแตกแยก |
casualty | (n) ความเสียหาย, อุบัติเหตุ, ผู้บาดเจ็บ, จำนวนผู้เสียชีวิต |
cost | (n) ราคา, ค่าโสหุ้ย, ทุน, มูลค่า, ต้นทุน, ค่าใช้จ่าย, ค่าเสียหาย |
damage | (n) อันตราย, ความเสียหาย, ค่าเสียหาย |
damage | (vt) ทำให้ได้รับอันตราย, ทำให้เสียหาย, ทำให้แตกหัก, เป็นภัย |
decimate | (vt เลือกชิ้นที่) 10, ทำลายยับเยิน, ทำให้เสียหายมาก, ฆ่าทิ้ง |
derogation | (n) การทำให้เสื่อม, ความเสียหาย, ความเลว |
derogatory | (adj) เสื่อม, เสื่อมเสีย, เลว, เสียหาย |
deteriorate | (vi) เสื่อมลง, เลวลง, ชำรุดเสียหาย |
detriment | (n) ความเสียหาย, อันตราย, การสูญเสีย, การบาดเจ็บ |
disadvantage | (n) ความเสียเปรียบ, ความเสียหาย |
faultless | (adj) ไม่ผิด, ไม่ผิดพลาด, ถูกต้อง, สมบูรณ์, ไม่เสียหาย |
founder | (vi) ล่ม, จมน้ำ, อับปาง, ล้ม, ทรุดลง, ล้มเหลว, เสียหาย |
harm | (n) อันตราย, ภัย, ความเสียหาย, ความผิด, ความชั่ว |
harm | (vt) ทำอันตราย, ทำให้บาดเจ็บ, ทำให้เสียหาย |
havoc | (n) ความหายนะ, ความเสียหาย, ความฉิบหาย, ความยุ่งเหยิง |
hurt | (vi) บาดเจ็บ, เสียหาย, เป็นอันตราย, ทำอันตราย |
incapacitate | (vt) ทำให้ไม่สามารถ, ทำให้ทุพพลภาพ, ทำให้เสียหาย |
incapacity | (n) ความไม่สามารถ, ความทุพพลภาพ, ความเสียหาย, การขาดคุณสมบัติ |
injure | (vt) ทำให้เสียหาย, ทำร้าย, ทำอันตราย, ทำให้บาดเจ็บ |
injurious | (adj) เป็นอันตราย, บาดเจ็บ, ร้าวราน, เสียหาย |
injury | (n) อันตราย, ความบาดเจ็บ, ความเสียหาย, ความก้าวร้าว |
loss | (n) สิ่งที่เสียไป, การแพ้, ความเสียหาย, การขาดทุน, การสูญหาย |
mar | (vt) ทำลาย, ทำให้เสียหาย, ทำให้เสียโฉม, ทำให้เสื่อมเสีย |
mischief | (n) อันตราย, ความเสียหาย, ความซน, การประสงค์ร้าย |
mutilate | (vt) ตัด, ทำให้พิการ, ทำให้เสียหาย, ทำให้เสียโฉม |
pernicious | (adj) ร้ายแรง, เป็นอันตราย, เสียหาย, ถึงตาย |
pollute | (vt) ทำให้สกปรก, ทำให้เปรอะเปื้อน, ทำให้เปื้อน, ทำให้เสียหาย |
pollution | (n) การทำให้สกปรก, การทำให้เปื้อน, การทำให้เสียหาย |
prejudice | (n) ความลำเอียง, ความรังเกียจเดียดฉันท์, อุปาทาน, ความเสียหาย |
singe | (vt) ลนไฟ, ทำให้ไหม้, ทำให้เสียหาย |
suffer | (vt) ทนทุกข์, เสียหาย, อดทน, อนุญาต, ยอม |
unbroken | (adj) ไม่แตก, เป็นทิว, ติดต่อกัน, ไม่เสียหาย |
waste | (n) ของเสีย, ความเสียหาย, การสิ้นเปลือง, ที่ร้าง |
wound | (n) บาดแผล, การบาดเจ็บ, ความเสียหาย |
wrack | (n) ความพินาศ, ความฉิบหาย, ความอับปาง, ความเสียหาย, ความหายนะ |