เลี้ยว | (v) turn, See also: make a turn, wheel, change course, veer, swerve, Example: เขาหักพวงมาลัยเลี้ยวขวาเต็มแรงจนรถแทบเสียหลัก, Thai Definition: หักแยก โค้ง หรือคดเคี้ยวไปจากแนวตรง |
ลดเลี้ยว | (v) zigzag, See also: meander, Syn. เลี้ยวลด, คดเคี้ยว, Ant. ตรงไปตรงมา, Example: ถนนลดเลี้ยวขึ้นไปบนเขา, Thai Definition: อ้อมไปอ้อมมา, คดไปคดมา |
ลดเลี้ยว | (adv) zigzag, See also: meanderingly, Syn. เลี้ยวลด, คดเคี้ยว, Ant. ตรงไปตรงมา, Example: เขานำฉันเดินลดเลี้ยวเคี้ยวคดไปมาตามด่านใหญ่ |
เลี้ยวลด | (adj) winding, See also: zigzag, sinuous, meandering, tortuous, Syn. วกวน, วนเวียน, วกเวียน, Example: เชิงดอยเบื้องล่างจะมีถนนสายเลี้ยวลดอยู่ ซึ่งเป็นอันตรายต่อคนขับรถมาก, Thai Definition: ที่อ้อมไปอ้อมมา, ที่คดไปคดมา |
เลี้ยวลด | (v) meander, See also: wind, snake through, Syn. วกวน, วนเวียน, วกเวียน, Example: เส้นทางบนภูเขาก็ต้องเลี้ยวลดอย่างนี้เป็นธรรมดา, Thai Definition: อ้อมไปอ้อมมา, คดไปคดมา |
ไฟเลี้ยว | (n) turn signal, Example: อย่าลืมเปิดไฟเลี้ยวทุกครั้งเมื่อจะเลี้ยวรถ, Thai Definition: ไฟที่ให้สัญญาณเวลาจะเลี้ยว กระพริบมีสีเหลือง เป็นต้น |
หัวเลี้ยว | (n) turn (in the road), See also: bend in the road, corner, curve, Example: บริเวณหัวเลี้ยวแห่งนี้อันตรายมาก, Thai Definition: ทางตอนที่จะเลี้ยว |
เลี้ยวขวา | (v) turn right, See also: turn to the right, Example: ฉันเลี้ยวขวาแทบไม่ทันเพราะป้ายบอกทางเล็กมาก, Thai Definition: หักหรือไปทางด้านขวา |
เลี้ยวซ้าย | (v) turn left, See also: turn to the left, Example: ถ้าคุณเลี้ยวซ้าย คุณจะไปถึงสถานีรถไฟ, Thai Definition: หักหรือไปทางด้านซ้าย |
หัวเลี้ยวหัวต่อ | (n) turning point, See also: critical point, transition, Example: ท่านเชิญผมเข้าร่วมรัฐบาลเมื่อปี 2524 อันเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของการรองรับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่, Thai Definition: ภาวะหรือเหตุการณ์ที่อยู่ในระยะต่อกันถือว่าเป็นตอนสำคัญ |
หัวเลี้ยวหัวต่อ | (n) turning point, See also: critical point, transition, Example: ท่านเชิญผมเข้าร่วมรัฐบาลเมื่อปี 2524 อันเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของการรองรับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่, Thai Definition: ภาวะหรือเหตุการณ์ที่อยู่ในระยะต่อกันถือว่าเป็นตอนสำคัญ |
ลดเลี้ยวเกี้ยวพา | (v) court, See also: woo, Syn. เกี้ยว, เกี้ยวพาราสี, Example: ชายเจ้าชู้ชอบลดเลี้ยวเกี้ยวพาสาวๆ, Thai Definition: พูดจาหว่านล้อมเป็นเชิงเกี้ยว |
ลดเลี้ยว | ก. อ้อมไปอ้อมมา, คดไปคดมา, เช่น ทางลดเลี้ยวไปตามไหล่เขา, อ้อมค้อม, ไม่ตรงไปตรงมา, เช่น พูดจาลดเลี้ยว, เลี้ยวลด ก็ว่า. |
ลดเลี้ยวเกี้ยวพา | ก. พูดจาหว่านล้อมเป็นเชิงเกี้ยว. |
เลี้ยว | ก. หักแยก โค้ง หรือคดเคี้ยวไปจากแนวตรง เช่น เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา. |
เลี้ยว | น. ทางตอนที่โค้งหรือคดไปจากแนวตรง เช่น เลยเลี้ยวแรกไป ๕๐ เมตรก็ถึงที่พัก, หัวเลี้ยว ก็ว่า. |
เลี้ยวลด | ก. อ้อมไปอ้อมมา, คดไปคดมา, เช่น ทางเลี้ยวลดไปตามไหล่เขา, อ้อมค้อม, ไม่ตรงไปตรงมา, เช่น พูดจาเลี้ยวลด, ลดเลี้ยว ก็ว่า. |
เลี้ยวเซียว | ดู ริวกิว. |
หัวเลี้ยว | น. ทางตอนที่โค้งหรือคดไปจากแนวตรง, เลี้ยว ก็ว่า. |
หัวเลี้ยวหัวต่อ | น. ภาวะหรือเหตุการณ์ที่อยู่ในระยะต่อกันถือว่าเป็นตอนสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงสภาพหรือความคิดเป็นต้น เช่น วัยรุ่นเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่. |
คดเคี้ยว | ว. คดไปคดมา, ลดเลี้ยว, วกไปวกมา. |
ซิกแซ็ก | ว. คดไปคดมา, เลี้ยวไปเลี้ยวมา, เฉียงไปเฉียงมา, สลับฟันปลา |
ซิกแซ็ก | ลดเลี้ยวสลับซับซ้อน. |
ตัวเป็นเกลียว | แสดงกิริยาท่าทางด้วยความรู้สึกรุนแรง เช่น เมื่อนั้น โฉมนางตะเภาทองผ่องใส ทั้งนางตะเภาแก้วแววไว ครั้นได้ข่าวผัวตัวเป็นเกลียว จึงว่าดูเอาหรือเจ้าไกร ว่าจะไปหาครูสักประเดี๋ยว มิรู้ช่างโป้ปดลดเลี้ยว ไปเที่ยวเกี้ยวชู้แล้วพามา (ไกรทอง). |
ทักขิณาวัฏ | ว. เวียนไปทางขวา คือเวียนเลี้ยวทางขวาอย่างเข็มนาฬิกา, ทักษิณาวรรต ก็ว่า, ตรงข้ามกับ อุตราวัฏ หรือ อุตราวรรต. |
ทักษิณาวรรต | ว. เวียนไปทางขวา คือเวียนเลี้ยวทางขวาอย่างเข็มนาฬิกา, ทักขิณาวัฏ ก็ว่า, ตรงข้ามกับ อุตราวรรต หรือ อุตราวัฏ. |
บังคับ | ทำตามสภาพที่ถูกกำหนดไว้ เช่น ทางนี้บังคับให้เลี้ยวซ้าย ประตูนี้บังคับให้ผลักเข้า. |
ผงอน | (ผะหฺงอน) ก. เอี้ยว, เลี้ยว. |
ผลูบด | น. ทางเลี้ยว. |
วก | ก. หักเลี้ยวกลับ เช่น รถเลยที่หมายแล้ววกกลับ, ในบทกลอนใช้แผลงเป็น พก ก็มี. |
วกวน | ก. ลดเลี้ยวไปมา, คดไปคดมา, เช่น ทางเข้าออกวกวน, อ้อมไปอ้อมมา, ย้อนไปย้อนมา, เช่น ให้การวกวน เขียนหนังสือวกวนอ่านไม่เข้าใจ. |
วงก์ | ว. คด, โค้ง, ลดเลี้ยว |
วิกฤต, วิกฤต-, วิกฤติ, วิกฤติ- | (วิกฺริด, วิกฺริดตะ-, วิกฺริด, วิกฺริดติ-) ว. อยู่ในขั้นล่อแหลมต่ออันตราย เช่น การเมืองอยู่ในขั้นวิกฤติ, มักใช้แก่เวลาหรือเหตุการณ์ เป็น วิกฤติกาล หรือ วิกฤติการณ์, อยู่ในระยะหัวเลี้ยว หัวต่อ เช่น มุมวิกฤติ จุดวิกฤติ. |
สด ๆ, สด ๆ ร้อน ๆ | ซึ่ง ๆ หน้า เช่น เจ้าข้าเอ่ยบุคคลผู้ใดเลย ในโลกนี้ที่น่าจะเจรจาตลบเลี้ยวลดสด ๆ ร้อน ๆ เหมือนเจ้าพระยาเวสสันดรชีไพรเป็นว่าหามิได้นี้แล้วแล (เวสสันดร), โกหกสด ๆ ร้อน ๆ. |
สะพานเสี้ยว | น. สะพานที่สร้างให้ปลายโค้งเลี้ยวไปทางขวาหรือซ้าย. |
สินธู | น. ลำน้ำ, แม่น้ำ, สายน้ำ, น้ำ, ทะเล, มหาสมุทร, เช่น มังกรเกี่ยวเลี้ยวล่องท้องสินธู เป็นคู่คู่เคียงมาในวารี (อภัย), สินสมุทรสุดรักพระธิดา เอาใส่บ่าแบกวายสายสินธู (อภัย), ใช้ว่า สินธุ หรือ สินธุ์ ก็มี. |
หัก | เลี้ยวอย่างกะทันหัน เช่น หักหัวเรือ หักพวงมาลัย |
อ้อมค้อม | ว. วกวน, ลดเลี้ยว, ไม่ตรงไปตรงมา, (ใช้แก่กริยาพูด). |
อุตราวรรต | (อุดตะรา-) ว. เวียนไปทางซ้าย คือเวียนเลี้ยวทางซ้ายอย่างทวนเข็มนาฬิกา, อุตราวัฏ ก็ว่า, ตรงข้ามกับ ทักษิณาวรรต หรือ ทักขิณาวัฏ. |
อุตราวัฏ | (อุดตะรา-) ว. เวียนไปทางซ้าย คือเวียนเลี้ยวทางซ้ายอย่างทวนเข็มนาฬิกา, อุตราวรรต ก็ว่า, ตรงข้ามกับ ทักขิณาวัฏ หรือ ทักษิณาวรรต. |
Geometrical diffraction | การเลี้ยวเบนเชิงเรขาคณิต [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Bragg’s law | กฎของแบรกก์, กฎที่อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความยาวคลื่นของรังสีเอกซ์ตกกระทบ มุมตกกระทบและระยะห่างของอะตอมซึ่งเป็นเงื่อนไขของการเกิดปรากฏการณ์การเลี้ยวเบนรังสีเอกซ์ กฎนี้ ดับเบิลยู. แอล. แบรกก์ (W. L. Bragg) คิดขึ้น ในปี พ.ศ. 2455 และได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ร่วมกับบิดา คือ ดับเบิลยู. เอช. แบรกก์ (W. H. Bragg) ในปี พ.ศ. 2458 [นิวเคลียร์] |
X-ray diffraction | การเลี้ยวเบนรังสีเอกซ์, ปรากฏการณ์ที่รังสีเอกซ์ซึ่งสะท้อนจากภายในผลึก แล้วรวมกัน เกิดเป็นคลื่นสะท้อนที่มีความเข้มสูงสุด [นิวเคลียร์] |
X-ray diffraction analysis | การวิเคราะห์โดยการเลี้ยวเบนรังสีเอกซ์, การวิเคราะห์โดยใช้เทคนิคการเลี้ยวเบนรังสีเอกซ์ เพื่อหาโครงสร้างของอะตอม หรือโมเลกุลในธาตุ หรือสารประกอบที่มีการเรียงตัวเป็นระเบียบซ้ำๆ กัน เช่น เพชร โซเดียมคลอไรด์ รวมทั้งชีวโมเลกุลที่มีโครงสร้างซับซ้อน เช่น โปรตีน กรดนิวคลีอิก [นิวเคลียร์] |
Diffraction | การเลี้ยวเบน [TU Subject Heading] |
Steering-gear | เฟืองบังคับเลี้ยว [TU Subject Heading] |
New World Order | ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต] |
Diffraction | การกระจาย, ดิฟแฟรคชั่น, ดิฟแฟรกชัน, วิธีการดีฟแฟรคซัน, การเลี้ยวเบน [การแพทย์] |
Recurvature | การเลี้ยวกลับ [อุตุนิยมวิทยา] |
diffraction | การเลี้ยวเบน, การเลี้ยวอ้อมสิ่งกีดขวางของคลื่นในขณะเคลื่อนที่ผ่านช่องหรือขอบของสิ่งกีดขวาง เช่น เมื่อคลื่นน้ำหรือคลื่นแสงเคลื่อนที่ผ่านสิ่งกีดขวางจะแผ่ออกจากขอบของสิ่งกีดขวางไปทางด้านหลังได้ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
grating | เกรตติง, อุปกรณ์ที่ใช้แยกแสงให้เป็น สเปกตรัมโดยวิธีการเลี้ยวเบนและการแทรกสอดของแสง เกรตติงเป็นแผ่นกระจกหรือพลาสติกบาง และมีเส้นขนานกันและระยะห่างเท่า ๆ กัน จำนวนมากบนเกรตติงเหมือนเป็นช่องเล็ก ๆ ขนานกัน เช่น เกรตติงชนิดพลาสติก อาจมี 5, 300 เส้นต่อความยาว 1 เซนติเมตร [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
microwave | ไมโครเวฟ, สื่อกลางในการสื่อสารที่มีความเร็วสูง ใช้สำหรับการเชื่อมต่อระยะไกล โดยการส่งสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปในอากาศพร้อมกับข้อมูลที่ต้องการส่ง และต้องมีสถานีที่ทำหน้าที่ส่งและรับข้อมูล และเนื่องจากสัญญาณไมโครเวฟจะเดินทางเป็นเส้นตรงไม่สามารถเลี้ยวตามความโค้งของผิ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
single slit | สลิตเดี่ยว, ช่องแคบเล็ก ๆ 1 ช่องบนแผ่นวัตถุทึบแสง เมื่อคลื่นแสงเคลื่อนที่ผ่านช่องแคบ ๆ นี้จะเกิดการเลี้ยวเบน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
acoustics | สวนศาสตร์, วิชาฟิสิกส์ของเสียงซึ่งศึกษาเกี่ยวกับการส่งผ่าน การดูดกลืน การสะท้อน การหักเห การเลี้ยวเบน การแทรกสอด และปรากฏการณ์ต่าง ๆ ของเสียงในตัวกลางและภาวะแวดล้อมต่าง ๆ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ | [chūang hūalīohūatø] (n, exp) EN: turning point |
ไฟเลี้ยว | [fai līo] (n) EN: turn signal lights ; indicator ; direction signal (am.) FR: clignotant [ m ] ; clignoteur (Belg.) [ m ] |
ห้ามเลี้ยวขวา | [hām līo khwā] (v, exp) EN: no right turn |
ห้ามเลี้ยวซ้าย | [hām līo sāi] (v, exp) EN: no left turn |
หัวเลี้ยว | [hūalīo] (n) EN: bend ; turn ; curve FR: virage [ m ] ; courbe [ f ] ; tournant (Belg.) [ m ] |
หัวเลี้ยวหัวต่อ | [hūalīohūatø] (n, exp) EN: turning point ; critical point ; crucial point ; period of transition ; transition FR: transition [ f ] |
หัวต่อหัวเลี้ยว | [hūatø-hūalīo] (n, exp) FR: transition [ f ] |
เลี้ยว | [līo] (v) EN: turn ; take a bend ; change course ; wheel ; veer ; swerve FR: tourner ; virer |
เลี้ยวโค้ง | [līo khōng] (v) EN: curve FR: virer |
เลี้ยวขวา | [līo khwā] (v, exp) EN: turn right ; turn to the right FR: tourner à droite ; virer à gauche |
เลี้ยวกลับหลัง | [līo klaplang] (v, exp) FR: faire demi-tour |
เลี้ยวลด | [līolot] (v) EN: meander ; wind ; snake through FR: zigzaguer |
เลี้ยวลด | [līolot] (adj) EN: winding ; zigzag ; sinuous ; meandering ; tortuous FR: sinueux ; tortueux |
เลี้ยวมุม | [līo mum] (v, exp) EN: turn at the corner ; turn the corner FR: tourner au coin |
เลี้ยวซ้าย | [līo sāi] (v, exp) EN: turn left ; turn to the left FR: tourner à gauche ; virer à gauche |
เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด | [līo sāi phān taløt] (v, exp) FR: autorisation de tourner à droite en toute circonstance |
ลดเลี้ยว | [lotlīo] (v) EN: zigzag ; wind FR: serpenter |
ลดเลี้ยวเกี้ยวพา | [lotlīokīophā] (v, exp) EN: court |
ป้ายห้ามเลี้ยวขวา | [pāi hām līo khwā] (n, exp) EN: no-right-turn sign FR: signal d'interdiction de tourner à droite [ m ] ; panneau d'interdiction de tourner à droite [ m ] |
ป้ายห้ามเลี้ยวซ้าย | [pāi hām līo sāi] (n, exp) EN: no-left-turn sign FR: signal d'interdiction de tourner à gauche [ m ] ; panneau d'interdiction de tourner à gauche [ m ] |
ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ | [Prachai Līophairat] (n, prop) EN: Prachai Leophairatana FR: Prachai Leophairatana |
bear left | (phrv) เลี้ยวซ้าย, Syn. keep left, turn left |
bear right | (phrv) เลี้ยวขวา, Syn. keep right, turn right |
bend to | (phrv) เลี้ยวไปทาง, See also: เลี้ยวโค้ง, Syn. lean to |
corner | (vi) เลี้ยวตรงมุม |
detour | (vt) เลี้ยว, See also: อ้อม, วกวน, เบี่ยง, Syn. bypass, circle, skirt, go around, Ant. bisect, cross, go through |
detour | (vi) เลี้ยว, See also: อ้อม, วกวน, เบี่ยง, Syn. bypass, circle, skirt, go around, Ant. bisect, cross, go through |
gee | (int) คำร้องสั่งม้าหรือวัวให้เลี้ยวขวา |
gee | (vi) เลี้ยวขวา, See also: เบี่ยงไปทางขวา |
handlebar | (n) ที่สำหรับมือจับ, See also: ราวสำหรับมือจับ, ด้ามจับจักรยานสำหรับไว้หันเลี้ยว |
jog | (n) เลี้ยว, See also: หัวเลี้ยว, Syn. bend, turn |
juncture | (n) ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ, Syn. point of time |
loop | (n) ทางรถไฟที่ทำเป็นวงสำหรับเลี้ยวกลับ |
meander | (vi) (แม่น้ำ) ไหลคดเคี้ยว, See also: ลดเลี้ยว, คดเคี้ยว, Syn. recoil, change, twine |
reverse | (vt) กลับกัน, See also: เลี้ยวกลับ, วกกลับ, Syn. invert, turn round |
roadholding | (n) การทรงตัวได้ของรถขณะเลี้ยวที่ความเร็วสูง |
rudder | (n) หางเสือเลี้ยว (เครื่องบิน), Syn. helm, tiller |
hang a huey | (sl) เลี้ยวกลับ |
hang a left | (sl) เลี้ยวซ้าย |
hang a louie | (sl) เลี้ยวซ้าย |
hang ralph | (sl) เลี้ยวขวา |
stakeboat | (n) เรือที่จอดไว้เป็นหลักเลี้ยวในการแข่งเรือ |
sweep | (n) การเลี้ยวโค้ง, See also: การเคลื่อนเป็นเส้นโค้ง, Syn. arc, curve, bend |
swerve | (vi) เปลี่ยนทิศทาง, See also: หักเลี้ยว, หักเห, Syn. deviate, veer, turn |
swerve | (n) การหักเลี้ยวอย่างกระทันหัน, See also: การเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลัน, Syn. veer, turn, change in direction |
swerve from | (phrv) เปลี่ยนทิศทางทันที, See also: หักเลี้ยวทันที |
turn | (vt) เลี้ยว, See also: เบี่ยง, เบน |
turn | (n) วงเลี้ยว |
turn | (n) การเลี้ยว, See also: การหัน |
turn signal | (n) ไฟเลี้ยว |
turnaround | (n) การหมุนไปรอบๆ, See also: การเลี้ยวกลับ |
turning | (n) จุดเลี้ยว |
turning point | (n) จุดวิกฤติ, See also: หัวเลี้ยวหัวต่อ |
turning point | (n) จุดเลี้ยว, See also: หัวมุม, หัวเลี้ยว |
turn left | (phrv) เลี้ยวซ้าย, See also: หันทางซ้าย, Syn. bear left, keep left |
wind | (vi) คดเคี้ยว, See also: ลดเลี้ยว |
wind | (vt) คดเคี้ยว, See also: ลดเลี้ยว |
wriggle | (n) เส้นทางที่คดเคี้ยว, See also: เส้นทางที่ลดเลี้ยว |
zigzag | (vi) เคลื่อนที่เป็นรูปฟันปลา, See also: วกวน, เลี้ยวไปมา |
blinker | (บลิง'เคอะ) n. ผู้กะพริบตา, เครื่องปิดตาม้า, ผู้ปิดตาม้า, แว่นตา, ไฟกะพริบให้สัญญาณว่าจะเลี้ยวรถ, ตะเกียงสัญญาณ, ตา vt. สวมที่ปิดตาม้า, กลบเกลื่อน |
climacteric | (ไคลแมค'เทอริค) n. ช่วงระยะหมดระดู, ช่วงระยะที่เปลี่ยนวัย, ระยะหัวเลี้ยวหัวต่อ adj. เกี่ยวกับระยะดังกล่าว, สำคัญ, , Syn. critical |
corner | (คอร์'เนอะ) { cornered, cornering, corners } n. มุม, หัวเลี้ยว, หัวต่อ, หัวโค้ง, หัวถนน, ลูกมุม (ฟุตบอล) vt., vi. ต้อนเข้ามุม, ทำให้จนตรอก, ผูกขาด, กักตุน., Syn. trap |
crisis | (ไคร'ซิส) n. วิกฤติกาล, เหตุการณ์ฉุกเฉิน, ขั้นฉุกเฉิน, ขั้นที่เป็นตายเท่ากัน, ช่วงเวลาชี้ขาด, ขั้นหัวเลี้ยวหัวต่อ, See also: crisic adj. ดูcrisis --pl. crises -Conf. crises, Syn. turning point, emergency |
crook | (ครุค) { crooked, crooking, crooks } n. สิ่งที่ทอ, ไม้เท้าด้ามงอ, ตะขอ, หัวเลี้ยว, ทางโค้ง, คนทุจริต, คนหลอกลวง, โจร, ขโมย vt. งอ, ทำให้งอ, ล่อลวง vi. งอ, โค้ง |
detour | (ดี'ทัวร, ์ ดีทัวร์') n. ทางอ้อม, ทางโค้ง vi. เลี้ยว, อ้อม, Syn. bypass |
haw | (ฮอ) n. ผลไม้ของต้นhawthorn vi. ลังเล, อ้ำอึ้ง. n. เสียงพูดแสดงการลังเล, เสียงอ้ำอึ้ง interj. คำอุทานเรียกสัตว์ให้เลี้ยวซ้าย. vt., vi. (ทำให้) หันซ้าย, (ทำให้) เลี้ยวซ้าย |
left | (เลฟทฺ) adj. ซ้าย, ข้างซ้าย, ด้านซ้าย, มือซ้าย, ทางซ้าย, ปีกซ้าย, ฝ่ายซ้าย (นิยมลัทธิสังคมนิยมหรือคอมมิวนิสต์) n. ด้านซ้าย, สิ่งที่อยู่ทางซ้ายมือ, การหันซ้าย, การเลี้ยวซ้าย adv. ไปทางซ้าย v. กริยาช่อง 2 และช่อง 3 ของ leave (จากไป, ลาจาก) -Phr. (the Left ผู้นิยมการปฏิรูประบบการเมืองสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ, หมัดซ้าย |
right | (ไรทฺ) adj. ถูก, ถูกต้อง, ปกติ, เป็นธรรม, ยุติธรรม, (ด้าน) หน้า, (ด้าน) บน, (ข้าง) ขวา, ตรงไป, เป็นมุมฉาก n. ธรรม, ความยุติธรรม, ความถูกต้อง, สิทธิ, สิทธิตามกฎหมาย, การหันขวา, การเลี้ยวขวา, ฝ่ายที่ถูกต้อง, สมาชิกฝ่ายขวา, สมาชิกรัฐสภาที่นั่งอยู่ทางด้านขวาของประธานสภา vt. ทำให้เรียบร้อย, ทำให่เหทาะสม, แก้แค้น, แก้ไข vi. ทรงตัว, ตั้งตรง adv .เป็นเส้นตรง, อย่างถูกต้อง, แม่นยำ, เหมาะสม |
swerve | (สเวิร์ฟว) vi., vt., n. (การ) หักเลี้ยว, หันอย่างฉับพลัน, เปลี่ยนทิศอย่างฉับพลัน. |
transit | (แทรน'ซิท) vt., vi., n. (การ) ผ่าน, ส่งผ่าน, โคจรผ่าน. vi. ผ่าน, ส่งผ่าน, โคจรผ่านมการเปลี่ยนแปลง, การส่งข้ามเขตแดน, สภาพหัวเลี้ยวหัวต่อ, See also: transitable adj., Syn. transportation, transition |
transition | (แทรนซิซ'เชิน, -เ?ิน) n. การผ่าน, การส่งผ่าน, การนำส่ง, การเปลี่ยนแปลง, ภาวะหัวเลี้ยวหัวต่อ, การเปลี่ยนแปลงลำดับ., See also: transitional adj. transitionary adj. transitionally adv., Syn. change, flux |
transitive | (แทรน'ซิทิฟว) adj. เกี่ยวกับสกรรมกริยา, เกี่ยวกับการผ่านหรือสิ่งผ่าน, เกี่ยวกับสภาพหัวเลี้ยวหัวต่อ, See also: transitivity n. |
turn | (เทิร์น) vt., vi., n. (การ) หมุน, หัน, ไข, เบือน, บิด, งอ, พับ, พลิก, ผิน, หันเห, บ่าย, เลี้ยว, อ้อม, โอบ, เบน, จุดที่มีการเปลี่ยนแปลง, เส้นโค้ง, ส่วนโค้ง, รอบหนึ่ง, พักหนึ่ง, รายการ, นิสัย, ลักษณะ, ท่าทาง, พฤติการณ์, รูปแบบ, ความโน้มเอียง, ความโน้มน้าว, เวร, ลำดับ, การรักษา, การเดินเล่น, |
turnaround | (เทิร์น'อะเราดฺ) n. การหมุนรอบ, การเปลี่ยนแปลง, ที่เลี้ยวรถ, ที่กลับรถ, Syn. turnabout |
turning | (เทิร์น'นิง) n. การหมุน, การหัน, การไข, การบิด, การเบือน, การเลี้ยว, การเปลี่ยนแปลง, ที่เลี้ยว, หัวเลี้ยว, หัวโค้ง, งานกลึง, การกลึง |
u-turn | (ยู'เทิร์น) n. การเลี้ยวหรือทางเลี้ยวเป็นรูปตัว "U" |
windows | ย่อจากคำเต็มว่า Microsoft Windows เป็นชื่อของโปรแกรมระบบวินโดว์สของบริษัทไมโครซอฟต์ ซึ่งทำงานภายใต้ระบบไมโครซอฟต์ดอส (Microsoft DOS) ที่เขียนโดยบริษัทเดียวกัน ถือว่าเป็นโปรแกรมระบบที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน ไมโครคอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิป 80286 ขึ้นไป สามารถใช้ระบบวินโดว์สได้ ระบบวินโดว์ได้พัฒนาตลอดมา ปัจจุบัน กำลังอยู่ระหว่างหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะเปลี่ยนจากวินโดว์ส 3.1 เป็นวินโดว์ส 95 วินโดว์ส 97 และวินโดว์ส 2000 ต่อไป ระบบวินโดว์นี้จะรวมเอาโปรแกรมอรรถประโยชน์ (utility program) ต่าง ๆ ไว้ให้อย่างพร้อมมูล นอกจากนั้น หลายบริษัทยังสร้างโปรแกรมสำเร็จต่าง ๆ ให้ทำงานบนระบบวินโดว์สนี้ เช่น Aldus PageMaker, Freelance ทุกโปรแกรมจะมีวิธีการใช้พื้นฐานคล้ายคลึงกัน ทำให้ง่ายในการเรียนรู้ เพราะเรียนรู้โปรแกรมหนึ่ง ก็ทำให้มีแนวที่จะเรียนโปรแกรมอื่นง่ายขึ้น ระบบวินโดว์สนี้ จะเน้นในเรื่องการใช้ภาพเป็นสื่อ มีการใช้เมาส์ ใช้เมนู มีรายการเลือกต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกสะดวกขึ้นมาก |
bend | (n) หัวโค้ง, หัวเลี้ยว, คุ้งน้ำ, การดัด, เงื่อน |
bend | (vi, vt) โค้งคำนับ, งอ, ดัด, เลี้ยว, เบน, บ่าย, หัน |
corner | (n) มุม, หัวมุม, หัวโค้ง, หัวถนน, หัวเลี้ยวหัวต่อ, หุ้นส่วน |
curvature | (n) ความโค้ง, การเลี้ยวโค้ง, เส้นโค้ง |
curve | (vt) ทำให้โค้ง, เลี้ยวโค้ง |
devious | (adj) คดเคี้ยว, ไม่ตรง, เลี้ยวไปเลี้ยวมา, อ้อมค้อม |
interregnum | (n) เวลาผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน, เวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ, เวลาว่าง |
snaky | (adj) ทรยศ, ลดเลี้ยว, คดโกง |
steer | (vi, vt) คัดท้าย, ถือท้าย, ถือหางเสือ, เลี้ยว, มุ่ง, บ่ายหน้า |
swerve | (vt) หลบ, เหไป, หลีก, หักเลี้ยว, หันขวับ |
transition | (n) การเปลี่ยนแปลง, การผ่าน, ระยะหัวเลี้ยวหัวต่อ |
trend | (vi) โอนเอียง, เลี้ยว, โน้มเอียง |
turn | (n) การหมุน, การหัน, หัวเลี้ยว, การเปลี่ยน, คุ้ง, ความโน้มเอียง |
turn | (vi) หมุน, หันหลัง, เปลี่ยนทิศทาง, เลี้ยว, ใคร่ครวญ |
turn | (vt) ไขลาน, พลิกกลับ, หัน, เปลี่ยน, เบือน, เลี้ยว |
wind | (n) ทางเลี้ยว, ทางคดเคี้ยว, ทางวกวน, การหมุน, การกว้าน |