101 Results for *เผ่าพันธุ์*
หรือค้นหา: เผ่าพันธุ์, -เผ่าพันธุ์-

NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
เผ่าพันธุ์(n) lineage, See also: ethnic group, origin, stock, clan, Syn. เชื้อสาย, Example: แรงขับทางเพศมีไว้เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์, Thai Definition: กลุ่มชนที่มีเชื้อชาติเดียวกัน

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
เผ่าพันธุ์น. เชื้อสาย.
กรรมพันธุ์มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ คือ เกี่ยวเนื่องด้วยกรรมของตนเอง.
กำพืดน. เทือกเถา, เผ่าพันธุ์, (มักใช้เป็นทำนองหยาม) เช่น รู้กำพืด.
โคตร, โคตร-(โคด, โคดตฺระ-) น. วงศ์สกุล, เผ่าพันธุ์, ต้นสกุล, เช่น โคตมโคตร
ชาติ ๑, ชาติ- ๑เหล่ากอ, เทือกเถา, เผ่าพันธุ์, เช่น ชาตินักรบ ชาติไพร่.
เชื้อ ๑ผู้ที่สืบวงศ์วานว่านเครือเผ่าพันธุ์ต่อ ๆ กันมา เช่น มีเชื้อจีน มีเชื้อแขก
เชื้อชาติน. ผู้ที่ร่วมเผ่าพันธุ์เดียวกัน.
ตระกูล(ตฺระ-) น. สกุล, วงศ์, เชื้อสาย, เผ่าพันธุ์.
บรรพชนน. บุคคลรุ่นก่อน ๆ แต่โบราณ ซึ่งเป็นต้นเผ่าพันธุ์หนึ่ง ๆ.
บังกัดก. ปิดบัง, อำพราง, เช่น มาตราหนึ่ง ผู้ใดบังกัดพี่น้องลูกหลานเผ่าพันธุ์แห่งงานท่านก็ดี ส่งเสียไปอยู่ประเทษเมืองอื่นดั่งนั้น ท่านว่าเสมอพวกศึก ให้มีโทษ ๖ สถาน, บังกัดข้าคนท่านไว้เรือนตนก็ดี ฃ้าคนท่านหนีมาสู้หาตน ๆ เล้าโลมเอาข้าคนท่านไว้ก็ดี (สามดวง).
ประยุร, ประยูร(ปฺระยุน, ปฺระยูน) น. เผ่าพันธุ์, เชื้อสาย, ตระกูล.
สกุล(สะกุน) น. ตระกูล, วงศ์, เชื้อสาย, เผ่าพันธุ์
เหล่ากอน. เชื้อสาย เผ่าพันธุ์, ต้นตระกูล, บางทีใช้ควบกับคำอื่น เช่น เทือกเถาเหล่ากอ พงศ์เผ่าเหล่ากอ โคตรเหง้าเหล่ากอ.

ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
raceเผ่าพันธุ์ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
genocideการทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
genocideการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์, พันธุฆาต [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
genocideการล้างชาติ, การล้างเผ่าพันธุ์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ethnic cleansingการล้างเผ่าพันธุ์ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]

คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
Convention on the Prevention and Punishment of the Crime of Genocide (1948)อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษอาชญากรรมทำลายล้างเผ่าพันธุ์ (ค.ศ. 1948) [TU Subject Heading]
Genocideการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ [TU Subject Heading]
Holocaust, Jewish (1939-1945)การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิว (ค.ศ.1939-1945) [TU Subject Heading]
Commission on Human Rightsคณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น [การทูต]
genocideการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ [การทูต]
Genocideการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1946 สมัชชาสหประชาชาติได้ยืนยันเป็นเอกฉันท์ว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือการฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อนนั้นให้ถือเป็นอาชญากรรม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งโลกที่บรรลุความเจริญแล้วประณามอย่างรุนแรงอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกัน และการลงโทษอาชญากรรมเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ สมัชชาสหประชาชาติได้ลงมติรับรองเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 1948 อนุสัญญานี้ได้นิยามคำว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) หมายถึงการประกอบอาชญากรรมบางอย่าง โดยมีเจตนาที่จะทำลายล้างกลุ่มชนชาติ กลุ่มเผ่าพันธุ์ กลุ่มเชื้อชาติ หรือกลุ่มศาสนา ในบางส่วนหรือทั้งหมดก็ตาม การประกอบกรรมซึ่งถือเป็นการฆ่าล้างชาตินั้นได้แก่ การฆ่า การทำให้เกิดความเสียหายอย่างสาหัส ทั้งต่อร่างกายหรือจิตใจ และการบังคับให้มีสภาวะการครองชีพที่เจตนาจะให้ชีวิตร่ายกายถูกทำลาย ไม่ว่าจะเพียงส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดก็ตาม ตลอดจนออกมาตรการกีดกันมิให้มีลูกและโยกย้ายเด็ก ๆ ไม่เพียงแต่การฆ่าล้างชาติอย่างเดียว หากแต่การคบคิดหรือการยุยงให้มีการฆ่าล้างชาติ รวมทั้งความพยายามที่จะฆ่าล้างชาติและสมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมดังกล่าว ย่อมถูกลงโทษได้ตามนัยแห่งอนุสัญญานี้ บรรดาผู้ที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกลงโทษไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้ ปกครอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง หรือเอกชนส่วนบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดของตามกฎหมายก็ตามบรรดาประเทศที่ภาคี อนุสัญญานี้จำเป็นต้องออกกฎหมายของตนเพื่อรองรับ และจะต้องตกลงเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนในกรณีที่บุคคลนั้นๆ มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติ และบุคคลที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกพิจารณาลงโทษในประเทศที่มีการ ประกอบอาชญากรรมดังกล่าวขึ้น หรือโดยศาลระหว่างประเทศที่มีอำนาจครอบคลุมถึงเจตนารมณ์ของสนธิสัญญานี้ เพื่อต้องการป้องกัน และลงโทษอาชญากรรมฆ่าล้างชาติ ไม่ว่าจะประกอบขึ้นในยามสงครามหรือในยามสงบก็ตามอนุสัญญาดังกล่าวได้เริ่มมี ผลบังคับเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1951 เป็นเวลา 90 วันหลังจากที่ 20 ประเทศได้ให้สัตยาบัน หรือให้ภาคยานุวัติตามที่ระบุอยู่ในอนุสัญญา อนุสัญญานี้จะมีผลบังคับเป็นเวลา 10 ปี และมีการต่ออายุสัญญาทุก 5 ปี สำหรับประเทศที่มิได้บอกเลิกสัญญา หากประเทศที่ยังเป็นภาคีอนุสัญญามีจำนวนเหลือไม่ถึง 16 ประเทศ อนุสัญญานี้จะเลิกมีผลบังคับทันที [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
Responsibility to protectหลักการความรับผิดชอบในการคุ้มครอง เป็นหลักการที่ได้รับการรับรองในการประชุมระดับผู้นำ เพื่อทบทวนผลของปฏิญญาสหัสวรรษ(High Level Panel Meeting - HLPM) เมื่อวันที่ 14-16 กันยายน พ.ศ. 2548 ณ นครนิวยอร์ก ที่เกี่ยวข้องกับการแทรกแซงทางมนุษยธรรม ( humanitarian interference/intervention of humanity)เพื่อคุ้มครองประชาชนจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การฆ่าล้างชนชาติ โดยจะถือเป็นความรับผิดชอบและที่จะต้องดำเนินการร่วมกันโดยประชาคมระหว่าง ประเทศ อย่างไรก็ตาม หลักการเรื่องนี้มีนัยเกี่ยวข้องกับกฏหมายระหว่างประเทศ อธิปไตย ของรัฐ ความอ่อนไหวทางการเมือง และความชอบธรรมในการปฏิบัติ จึงยังไม่มีการนิยามแนวความคิด R2P รวมถึงขอบเขตของ R2P ที่ชัดเจน [การทูต]

ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
"were a murderous race of creatures... ผู้ที่อาศัยในยุคต่อมาของเผ่าพันธุ์นักฆ่าเหล่านี้ In the Mouth of Madness (1994)
And in ten years, maybe less... the human race will just be a bedtime story... for their children. อีกสิบปีข้างหน้า หรือเร็วกว่านั้น เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็จะเป็นแค่เรื่องเล่าก่อนนอน สำหรับเด็กๆ In the Mouth of Madness (1994)
If not, the peaceable Wachati will be obliterated. ถ้าไม่งั้น พวกวาชาติจะถูกล้างเผ่าพันธุ์ Ace Ventura: When Nature Calls (1995)
Your breed made a desert of it ages ago. เผ่าพันธุ์คุณทําให้มันเป็นทะเลทราย เมื่อครั้งโบราณกาล Beneath the Planet of the Apes (1970)
If you would like to leave That inuman race ถ้าเธออยากไปจากเผ่าพันธุ์อมนุษย์ The Little Prince (1974)
I pledge allegiance to Adolf Hitler... the immortal leader of our race. ผมสัญญาว่าจะจงรักภักดีต่อ แอโดลฟ ฮิทเลอ ผู้นำซึ่งเป็นอมตะของเผ่าพันธุ์ของพวกเรา The Blues Brothers (1980)
Mr. Harris, the so-called novels of Terence Mann ... endorse promiscuity, godlessness, the mongrelization of the races, and disrespect to high-ranking officers of the United States Army. คุณแฮร์ริส นวนิยาย ของเทอเรนซ์ แมนน์... สนับสนุนความสำส่อน ความไม่เชื่อในพระเจ้า การผสมข้ามเผ่าพันธุ์... Field of Dreams (1989)
Gambling with the fate of the human race. การเล่นการพนันกับชะตากรรมของเผ่าพันธุ์มนุษย์ The Russia House (1990)
Ashitaka. But I'll never forgive the human race. อะชิตะกะ แต่ฉันไม่เคยจะให้อภัยเผ่าพันธุ์มนุษย์ Princess Mononoke (1997)
And nine nine rings were gifted to the race of Men who, above all else, desire power. และเก้าวง 9 วงเป็นกำนัลแด่เผ่าพันธุ์มนุษย์ ผู้ซึ่งใฝ่อำนาจ ยิ่งกว่าสิ่งใด The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001)
Middle-earth being, after all, full of strange creatures beyond count Hobbits must seem of little importance being neither renowned as great warriors nor counted among the very wise. ก็ไม่ค่อยสนใจ มิ้ดเดิ้ลเอิร์ธเป็นที่อยู่อาศัยของ เผ่าพันธุ์ต่างๆมากมายนับไม่ถ้วน แล้วฮ๊อบบิทก็ดูจะเป็นเผ่าพันธุ์ ที่สำคัญน้อยที่สุด The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001)
Men are weak. The race of Men is failing. ช่างอ่อนเเอ เผ่าพันธุ์มนุษย์กำลังเสื่อมโทรม The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001)
Each race is bound to this fate, this one doom. ทุกเผ่าพันธุ์ล้วนมีซะตากรรม ร่วมกัน The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001)
The Germans claim to be intelligent. พวกเยอรมัน ชอบคุยว่าเผ่าพันธุ์ตัวเองฉลาด The Pianist (2002)
Well, my sources are no longer fully annotated, and my information is somewhat anecdotal, but I believe what was once one race... is now two. ผมอธิบายไม่ได้ละเอียดนัก... ผมมีแค่เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย แต่ที่รู้หนึ่งเผ่าพันธุ์แตกเป็น 2 The Time Machine (2002)
After the moon fell from the sky, the Earth could no longer sustain the species. หลังจากที่ดวงจันทร์ ตกลงมาจากฟากฟ้า สิ่งมีชีวิต ก็ดำรงเผ่าพันธุ์อยู่บนโลกไม่ได้ The Time Machine (2002)
Bred to be predators, but bred also to be controlled. เผ่าพันธุ์นักล่า แล้วยังมีชนัช้นผู้ควบคุม The Time Machine (2002)
And for those who are suitable, to be breeding vessels... for our other colonies. แล้วพวกที่เหมาะสม ก็จะ... สืบเผ่าพันธุ์ของเขาต่อไป The Time Machine (2002)
The door to your left leads back to the Matrix, to her and the end of your species. ประตูขวามือจะพากลับไปยังเมทริกซ์ ไปหาทรินิตี้ และจุดจบของเผ่าพันธุ์มนุษย์ The Matrix Reloaded (2003)
-That may be but our species do have a common ancestor. .... แต่เผ่าพันธุ์เราก็ยังมีบรรพบุรุษเดียวกัน Underworld (2003)
They were the one race that would not bow. เผ่าพันธุ์ผู้กล้าท้าชน The Chronicles of Riddick (2004)
The only race the Necromongers still fear. เผ่าพันธุ์เดียวที่พวกมันยังหวาดกลัว The Chronicles of Riddick (2004)
The treasure are the individual genes that make up the blueprint of the human race. ที่ประกอบขึ้นเป็นพิมพ์เขียวของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ทุกครั้งที่แยกรหัสพันธุกรรมออกมาได้ตัวหนึ่ง The Corporation (2003)
In this 'verse, humans have been fractured... divided by all their many races, creeds, and mistaken faiths. จักรวาลนี้ มนุษย์ถูกแบ่งชนชั้น ไปตามเผ่าพันธุ์สายเลือด ศาสนาและศรัทธาที่ผิดๆ The Chronicles of Riddick (2004)
Are we happier as a human race? เรามีความสุขมากขึ้น เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์? Contact (1997)
This is RTLM, Hutu Power Radio. นี่คือ คลื่น RTLM วิทยุพลัง ฮูตู(สถานีวิทยุต้นตอสาเหตุปลุกปั่นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ) Hotel Rwanda (2004)
Only one more generation of our species could survive. เผ่าพันธุ์ของพวกเราจะคงอยู่รอดต่อไป\อีกรุ่นเดียว Æon Flux (2005)
Those who could flee did so, but our ancestors decided to stay. สิ่งเหล่านั้นเท่าที่สามารถจะหนีไป ได้หนีจากไปจนหมดแล้ว แต่เผ่าพันธุ์ของพวกเราเลือกที่จะอยู่ March of the Penguins (2005)
QUASl-DEADS: Now we find thoughts of an Elemental. ค้นพบความทรงจำถึงเผ่าพันธุ์ธาตุ The Chronicles of Riddick (2004)
The one race that would slow the spread of Necromongers. เผ่าพันธุ์เดียว ที่อาจยับยั้งเนโครมังเกอร์ได้ The Chronicles of Riddick (2004)
Mercenaries. Elementals. Necromongers. เมอร์คจอมกระหายเงิน เผ่าพันธุ์แห่งธาตุ เนโครมังเกอร์ The Chronicles of Riddick (2004)
How unexpected... An Elemental. Here? เผ่าพันธุ์ธาตุ มาที่นี่ โดนจับเป็นเชลย The Chronicles of Riddick (2004)
Elementals. เผ่าพันธุ์ธาตุ ปากก็ว่าเป็นกลาง The Chronicles of Riddick (2004)
Elementals, we calculate. -เราเผ่าพันธุ์ธาตุเชื่อการคำนวณ The Chronicles of Riddick (2004)
This was before he became Lord Marshal, of course. ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์น่าจะทำให้เรื่องจบได้ The Chronicles of Riddick (2004)
of those of different skin, of women. ผู้คนต่างสีผิว เผ่าพันธุ์ และสตรี The Da Vinci Code (2006)
- There's much our cultures could share. เผ่าพันธุ์ท่านช่างน่าหลงใหล แม้บัดนี้ท่านยังท้าทายข้า ทั้งที่กำลังเผชิญหน้าการทำลายล้าง 300 (2006)
You're a very advanced race. Together, we can look for a solution. คุณเป็นเผ่าพันธุ์ที่ก้าวหน้ามาก ด้วยกัน เราสามารถมองการแก้ปัญหา Ice Age: The Meltdown (2006)
Man is a narcissistic species by nature. โดยธรรมชาติแล้ว มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่หลงตัวเอง Chapter One 'Genesis' (2006)
perhaps i've underestimated the females of your species. บางทีีฉันอาจจะประเมินผู้หญิงของเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่ำไป Zod (2006)
Now, GyehRu is about to become extinct. ตอนนี้ เครู ต้องมากลายเป็นสิ้นเผ่าพันธุ์ Episode #1.42 (2006)
This virus could kill an entire species. ไวรัสนี่อาจฆ่า ได้หมดทั้งเผ่าพันธุ์ Chapter Seven 'Out of Time' (2007)
That is how our race was born. นี่แหล่ะคือ กำเนิดของเผ่าพันธุ์พวกเรา Transformers (2007)
The People of the Dawn have always had a Pathfinder. เผ่าพันธุ์แห่งรุ่งอรุณ/Nต้องมีผู้นำทางเสมอ Pathfinder (2007)
And the restoration of humanity. และการฟื้นฟูของเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ I Am Legend (2007)
We are biochemically engineered to spread our seed. เราเป็นนักวิศวะเคมี เพื่อเพิ่มเผ่าพันธุ์ให้กับมนุษย์เรา The Ten (2007)
Remember to protect the race. จำไว้นะว่าเราต้องปกป้องเผ่าพันธุ์ของเรา Frontier(s) (2007)
Doesn't your race have a rather sordid history or exploiting and feeding off innocent people? ก็ตามประวัติศาสตร์แล้วเผ่าพันธุ์คุณ มีคดีมากมายไม่ใช่เหรอ เช่น ดื่มเลือดมนุษย์ผู้บริสุทธิ์ Strange Love (2008)
Number two, doesn't your race have a history of exploitation? ข้อที่สอง แล้วเผ่าพันธุ์ของคุณ ไม่เคยมีคดีเลวร้ายเลยเหรอคะ Strange Love (2008)
It's out of the question. อะไรที่คุณกำลังพูดถึงนั่น คือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นะ Chapter Twenty 'Five Years Gone' (2007)

NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
desegregate(vt) ขจัดการแบ่งแยกผิวหรือเผ่าพันธุ์, Syn. unite, bond, link, Ant. segregate, separate
desegregate(vi) ขจัดการแบ่งแยกผิวหรือเผ่าพันธุ์, Syn. unite, bond, link, Ant. segregate, separate
desegregation(n) การขจัดการแบ่งแยกผิวหรือเผ่าพันธุ์
discriminate(vi) แบ่งแยกเชื้อชาติ, See also: แบ่งแยกสีผิวหรือเผ่าพันธุ์, Syn. exclude, isolate, Ant. unite, integrate
ethnic(adj) เกี่ยวกับชาติพันธุ์, See also: เกี่ยวกับเชื้อชาติ, เกี่ยวกับเผ่าพันธุ์
ethnography(n) มานุษยวิทยาแขนงหนึ่งซึ่งศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมของเผ่าพันธุ์ต่างๆ
genocide(n) การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์, See also: การทำลายล้างเชื้อชาติ
human race(n) เผ่าพันธุ์มนุษย์
kinship(n) ตระกูล, See also: ญาติ, เผ่าพันธุ์, โคตร, วงศาคณาญาติ, Syn. family
race(n) เชื้อชาติ, See also: กลุ่มชาติพันธุ์, เผ่าพันธุ์, Syn. nationality
tribe(n) เผ่า, See also: เผ่าพันธุ์

Hope Dictionary
amalgamation(อะแมลกะเม' เชิน) n. การรวมกับปรอท, ผลที่เกิดจากการรวมกับปรอท, การรวมบริษัทกัน, การร่วมกันทางชีวภาพของเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต, การสกัดโลหะจากแร่ด้วยปรอท (union, blend)
australoid(อสส'พระลอยด์) n. มนุษย์เผ่าพันธ์หนึ่งที่รวมทั้งชาวพื้นเมืองออสเตรเลีย Papuans คนแระในฟิลิปปินส์ มาเลเซีย. -adj. เกี่ยวกับมนุษย์เผ่าพันธุ์ดังกล่าว
aymara(ไอ'มารา) n. ชาวอินเดียแดงเผ่าพันธุ์หนึ่ง, ภาษาของคนพวกนี้. -Aymaran adj. (of an Indian people)
clan(แคลน) n. เผ่า, เผ่าพันธุ์, วงศ์, วงศ์ตะกูล, ชาติวงศ์, ครอบครัว, กลุ่มคน, พวก, พ้อง
intermarriage(อินเทอแม'ริเอจฺ) n. การแต่งงานระหว่างหญิงชายที่มีชนชาติศาสนาหรือเผ่าพันธุ์ต่างกัน, การแต่งงานระหว่างหญิงชายจากครอบครัวหรือกลุ่มเดียวกัน
paleethnology(เพลีเอธนอล'โลจี) n. วิชาว่าด้วยเผ่าพันธุ์ของมนุษย์โบราณ., See also: paleethnologic adj. paleethnological adj. paleethnologist n.
race(เรส) vi., vt., n. (การ) วิ่งแข่ง, วิ่งอย่างรวดเร็ว, แข่งม้า., แข่งขันความเร็ว, การแข่งขัน, ความเชี่ยว, เชื้อชาติ, ชนชาติ, เผ่าพันธุ์, วงศ์ตระกูล, เชื้อสาย, พันธุ์, ชนชั้น, รสนิยม
racial(เร'เชิล) adj. เกี่ยวกับเชื้อชาติ (ชนชาติ, มนุษยชาติ, เผ่าพันธุ์, วรรณะ, เชื้อสาย)
racism(เร'ซิสซึม) n. ลัทธิชนชาติ, ลัทธิเชื้อชาติ, ลัทธิเผ่าพันธุ์, ลัทธิเหยียดผิว, ลัทธิเหยียดหยามชนชาติ, See also: racist n.
tribal(ไทร'เบิล) adj. เกี่ยวกับเผ่า, เกี่ยวกับเผ่าพันธุ์., See also: tribally adv.

Nontri Dictionary
clan(n) สกุล, แซ่, ตระกูล, เผ่าพันธุ์, ครอบครัว
racial(adj) เกี่ยวกับผิว, เกี่ยวกับเชื้อชาติ, เกี่ยวกับเผ่าพันธุ์

Saikam JP-TH-EN Dictionary
人種[じんしゅ, jinshu] TH: เผ่าพันธุ์  EN: race

Time: 0.0294 seconds, cache age: 14.744 (clear)Longdo Dict -- https://dict.longdo.com/