ชันพอน | น. ชันที่ผสมน้ำมันยาง มีลักษณะเหลว มีสีเหลืองนวล สำหรับใช้พอนเรือเป็นต้น, ลาพอน ก็ว่า. |
พอน ๑ | น. โคนต้นไม้ที่แผ่ขยายออกเป็นปีก เป็นพู หรือเป็นปม เพื่อพยุงลำต้น เช่น พอนตะเคียน พอนมะค่า, พูพอน ก็เรียก. |
พอน ๒ | ว. สีเหลืองนวล, เรียกชันที่ผสมน้ำมันยาง มีลักษณะเหลว ที่มีสีอย่างนั้น สำหรับใช้พอนเรือเป็นต้น ว่า ชันพอน หรือ ลาพอน. |
พอน ๒ | ก. ยาด้วยชันเป็นต้นให้เรียบ เช่น พอนครุ พอนกะโล่. |
พอนเรือ | ก. เอานํ้ามันยางชโลมเรือหลังจากตอกหมันแล้ว. |
พังพอน | น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในสกุล Herpestes วงศ์ Viverridae ขนลำตัวหนาสีนํ้าตาลหรือเทา หัวแหลม หางยาวเป็นพวง เคลื่อนไหวเร็วมาก กินสัตว์ ในประเทศไทยมี ๒ ชนิด คือ พังพอนธรรมดา [ H. javanicus (Geoffroy) ] ตัวเล็ก สีนํ้าตาล และพังพอนกินปูหรือพังพอนยักษ์ [ H. urva (Hodgson) ] ตัวใหญ่สีเทา มีแต้มขาวที่ด้านข้างลำคอ. |
พูพอน | ดู พอน ๑. |
ลาพอน | น. ชันที่ผสมน้ำมันยาง มีลักษณะเหลว มีสีเหลืองนวล สำหรับใช้พอนเรือเป็นต้น, ชันพอน ก็ว่า. |
เสลดพังพอน | น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Barleria lupulinaLindl. ในวงศ์ Acanthaceae มีหนามแหลมสีแดงตามข้อ เส้นกลางใบสีแดง ดอกสีเหลือง ออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง. |
กลัมพร | (กะลำพอน) น. โทษใหญ่, ความฉิบหาย, เช่น มาทำกลัมพรภัย (เสือโค), อันจ่อมกลัมพรภัย (สมุทรโฆษ), ในบทกลอนโดยมากใช้แผลงเป็น กะลำพร กระลำพร หรือ กระลำ ก็มี. |
เกาทุมพร | (-ทุมพอน) น. ผ้าทอด้วยขนสัตว์เนื้อละเอียด เช่น เกาทุมพรแพงค่าควรแสน (ม. คำหลวง ทานกัณฑ์). |
คคนัมพร | (คะคะนำพอน) น. ฟ้า. |
คัคนัมพร | (คักคะนำพอน) น. ฟ้า. |
จตุรพิธพร | (-พิดทะพอน) น. พร ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ, ใช้ในการให้พร ขอให้มีอายุยืน มีผิวพรรณผ่องใส มีความสุขกายสุขใจ และมีกำลังแข็งแรง. |
ตัวผู้ | น. เพศผู้ (ใช้เฉพาะสัตว์และพืชบางชนิด) เช่น แมวตัวผู้ เสลดพังพอนตัวผู้ |
ตัวเมีย | น. เพศเมีย (ใช้เฉพาะสัตว์และพืชบางชนิด) เช่น แมวตัวเมีย เสลดพังพอนตัวเมีย |
ทิคัมพร | (-พอน) น. ชื่อนิกายในศาสนาเชน นักบวชนิกายนี้ประพฤติตนเป็นคนเปลือยกาย, คู่กับ นิกายเศวตัมพรหรือเศวตามพร. [ ป., ส. ทิคฺ (ทิศ, ฟ้า) + อมฺพร (เครื่องนุ่งห่ม) = ผู้มีฟ้าเป็นเครื่องนุ่งห่ม หมายความว่า ไม่นุ่งผ้า ]. |
ทิฆัมพร | (-พอน) น. ท้องฟ้า. [ ป. ทีฆ + อมฺพร (อากาศ, กลางหาว) ]. |
นกุล | (นะกุน) น. พังพอน. |
น้ำนอง ๑ | น. ชื่อปลวกหลายชนิด หลายสกุล และหลายวงศ์ ในอันดับ Isoptera ลำตัวสีดำหรือนํ้าตาลแก่ อาศัยอยู่ใต้ดิน เมื่อมีนํ้านองเกิดตะไคร่ขึ้น พอนํ้าลดจะเดินเป็นขบวนเพื่อมากินตะไคร่และคาบไปเลี้ยงตัวอ่อน จึงเห็นตัวเฉพาะในเวลานํ้านอง เช่น ชนิด Hospitalitermes medioflavusHolmgren, H. asahinaiMorimoto, H. birmanicus Snyder ในวงศ์ Termitidae. |
พร | (พอน) น. คำแสดงความปรารถนาให้ประสบสิ่งที่เป็นสิริมงคล เช่น ให้พร ถวายพระพร, สิ่งที่ขอเลือกเอาตามประสงค์ เช่น ขอพร. |
โรงพยาบาล | น. สถานที่ให้บริการเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย คือทั้งตรวจ รักษา และป้องกันโรคให้แก่ประชาชน และมีเตียงสำหรับรับคนไข้เข้าพักรักษาตัวด้วย. |
ลูกคู่ | น. คนร้องรับต้นเสียง เช่น ลูกคู่ละครร้อง ลูกคู่ละครรำ, คนร้องรับพ่อเพลงแม่เพลง เช่น ลูกคู่เพลงฉ่อย ลูกคู่ระบำชาวไร่, โดยปริยายหมายถึงผู้สนับสนุน เช่น พอนายพูด ลูกน้องก็รับเป็นลูกคู่. |
เศวตัมพร, เศวตามพร | (สะเหฺวตำพอน, -ตามพอน) น. ชื่อนิกายในศาสนาเชนหรือเดียรถีย์นิครนถ์ นักบวชนิกายนี้ประพฤติตนเป็นผู้นุ่งห่มผ้าขาว, คู่กับ นิกายทิคัมพร. |
สถาพร, สถาวร | (สะถาพอน, -วอน) ว. ยืนยง, มั่นคง, เช่น ขอให้มีความสุขสถาพร สถิตสถาพร. |
สมพง | น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Tetrameles nudiflora R.Br. ในวงศ์ Datiscaceae ชอบขึ้นริมนํ้า โคนต้นเป็นพอนแผ่กว้าง เปลือกสีเทาหรือเทาแกมนํ้าตาลเลื่อมเป็นมัน ใบมน ทิ้งใบหมดต้นในฤดูร้อน เนื้อไม้อ่อนเบา ใช้ทำก้านไม้ขีดไฟ เรือขุด และฝ้าเพดานได้, กะพง ก็เรียก. |
สยมพร | (สะหฺยมพอน) น. พิธีเลือกคู่ของกษัตริย์สมัยโบราณ |
สยัมพร | (สะหฺยำพอน) น. สยมพร, สยุมพร หรือ สวยมพร ก็ใช้. |
สยุมพร ๑ | (สะหฺยุมพอน) น. สยมพร, สยัมพร หรือ สวยมพร ก็ใช้. |
สลุมพร | (สะหฺลุมพอน) น. ปลาเนื้ออ่อน, บางทีเขียนเป็น สลุมพอน ก็มี เช่น ไอ้บ้าปลาสลุมพอน ผักพร้าเบี้ยแลหนวดพราม (ประพาสธารทองแดง). |
สุภร | (-พอน) ว. เลี้ยงง่าย. |
หมาหริ่ง | น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิด Melogale personata Geoffroy ในวงศ์ Mustelidae ขนาดไล่เลี่ยกับพังพอนแต่หางสั้นกว่า ขนลำตัวหยาบแข็ง สีน้ำตาลอมเทาถึงดำ หน้าสั้นค่อนข้างแหลม หัวสีดำมีแถบขาวระหว่างตา กลางหัวมีแถบขาวพาดไปจนถึงกลางหลัง ส่วนคิ้วใต้ตา คอ และหูด้านในสีขาว ขาสั้น ฝ่าตีนกว้าง เล็บยาว โค้งปลายแหลมเหมาะสำหรับขุดดินและป่นต้นไม้ ออกหากินในเวลากลางคืน กินสัตว์ขนาดเล็ก. |
อัมพร ๑ | (-พอน) น. ฟ้า, ท้องฟ้า, อากาศ |
อาภรณ์ | (-พอน) น. เครื่องประดับ, บางทีก็ใช้เป็นส่วนท้ายของคำสมาส เช่น พัสตราภรณ์ = เครื่องประดับคือเสื้อผ้า สิราภรณ์ = เครื่องประดับศีรษะ คชาภรณ์ = เครื่องประดับช้าง พิมพาภรณ์ = เครื่องประดับร่างกาย ในคำว่า ถนิมพิมพาภรณ์ ธรรมาภรณ์ = มีธรรมะเป็นเครื่องประดับ. |
อุทุมพร | (-พอน) น. ชื่อมะเดื่อชนิดหนึ่ง. (ดู มะเดื่อ). |
แอ่ง | น. ที่ซึ่งลาดลึกลงไปพอนํ้าขังได้. |
Hydroponics | ไฮโดรพอนิกส์ หรือการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน, Example: <p>ไฮโดรพอนิกส์ (hydroponics) คือ การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน โดยให้รากแช่อยู่ในน้ำที่มีธาตุอาหารพืชละลายอยู่ และส่วนลำต้นและส่วนอื่นๆ จะอยู่เหนือระดับสารละลาย โดยมีวัสดุพยุงไว้อย่างเหมาะสม <p> <p>เทคนิคการปลูกพืชด้วยวิธีไฮโดรพอนิกส์มีการพัฒนาขึ้นหลายรูปแบบโดยแต่ละรูปแบบมีวิธีปลูก วัสดุปลูก และการให้สารละลายธาตุอาหารพืช และอื่นๆ ที่แตกต่างกัน เทคนิคที่นำมาใช้ในเชิงการค้ามีเพียง 6 รูปแบบดังนี้ <p> <p>1. เทคนิคการให้อากาศ เป็นเทคนิคเก่า มีการให้อากาศโดยใช้เครื่องเป่าลมหรืออากาศ การให้ออกซิเจนลงในน้ำจะคล้ายกับการให้อากาศในตู้เลี้ยงปลา เทคนิคนี้ไม่มีการหมุนเวียนของน้ำหรือสารละลาย <p>2. เทคนิคน้ำหมุนเวียน เทคนิคนี้มีหลักการคล้ายเทคนิคการให้อากาศแต่จะต่างกันคือ การให้ออกซิเจนลงในน้ำอาศัยการไหลเวียนของน้ำหรือสารละลายธาตุอาหารพืช <p>3. เทคนิคเอ็นเอฟที (Nutrient Flow Technique, NFT) เป็นเทคนิคที่มีน้ำหรือสารละลายไหลเวียน มีหลักการว่ารากพืชจะต้องแช่อยู่ในรางแบนๆ ที่มีความลาดเอียงร้อยละ 1 - 3 และมีน้ำหรือสารละลายธาตุอาหารพืชไหลผ่านเป็นชั้นแผ่นผิวบางๆ ตามช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อรากจะได้รับความชื้นและออกซิเจนที่เหมาะสม <p>4. เทคนิคฉีดพ่นราก เป็นเทคนิคที่มีน้ำหมุนเวียน รากพืชไม่ได้แช่ในน้ำหรือสารละลายแต่ยกลอยขึ้นในตู้ปลูกที่เป็นห้องมืดและรักษาความชื้นด้วยละอองน้ำจากหัวฉีดที่วางเป็นระยะๆ <p>5. เทคนิคปลูกพืชเพื่อเลี้ยงสัตว์ เป็นเทคนิคการปลูกพืชเพื่อใช้เลี้ยงสัตว์ เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าวฟ่าง จะปลูกในตู้ปลูกที่มีการควบคุมสภาพแวดล้อม ให้น้ำหรือสารละลายธาตุอาหารพืชด้วยน้ำหมุนเวียนโดยการฉีดเป็นละอองฝอยให้ทั่วกระบะหรือใช้วิธีน้ำหยด <p>6. เทคนิควัสดุปลูก เป็นเทคนิคที่นิยมใช้กันมาก มีการลงทุนต่ำกว่า ดูแลง่ายกว่า และสามารถปลูกพืชที่มีอายุยาวได้ดีกว่าการปลูกด้วยเทคนิคที่ใช้น้ำหรือสารละลาย วัสดุปลูก ได้แก่ วัตถุต่างๆ ที่เลือกมาใช้ปลูกพืชแทนการใช้ดินและสามารถทำให้พืชเจริญเติบโตได้เป็นปกติ วัตถุดังกล่าวอาจเป็นอินทรียวัตถุคือ วัตถุที่ได้มาจากสิ่งมีชีวิต เช่น กาบมะพร้าว ชานอ้อย แกลบ หรือเป็นอนินทรียวัตถุคือ วัตถุที่ได้มาจากสิ่งไม่มีชีวิต เช่น กรวด ทราย <p> <p>ข้อดีของการปลูกพืชด้วยวิธีไฮโดรพอนิกส์คือ <p> <p>1. สามารถปลูกในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ เช่น พื้นที่ที่มีภูเขาสูงชัน เป็นทะเลทราย หรือในพื้นที่ที่มีสภาพดินที่ไม่เหมาะสมสำหรับการปลูกพืช เช่น ดินเปรี้ยวจัด เค็มจัด <p>2. ใช้น้ำและปุ๋ยได้อย่างประหยัด ไม่สูญเสียน้ำและปุ๋ยจากการไหลทิ้ง และยังสามารถนำปุ๋ยกลับมาใช้ได้อีก <p>3. ใช้แรงงานในทุกขั้นตอนน้อยกว่าการเพาะปลูกแบบธรรมดา <p>4. สามารถปลูกพืชให้หนาแน่นได้มากกว่าการเพาะปลูกแบบธรรมดา เพราะมีระบบการให้สารละลายธาตุอาหารที่เพียงพอ นอกจากนี้การปลูกพืชสามารถทำได้ทันทีหลังเก็บผลผลิตโดยไม่ต้องรอการเตรียมแปลงปลูก <p>5. สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมต่างๆ ของรากได้ดีกว่าการเพาะปลูกแบบธรรมดา ทำให้พืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงทำให้ได้พืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง <p> <p>ข้อเสียของการปลูกพืชด้วยวิธีไฮโดรพอนิกส์คือ <p> <p>1. มีการลงทุนสูงกว่าการเพาะปลูกแบบธรรมดามาก เช่น ต้องใช้เทคโนโลยีสูง ต้องใช้น้ำที่สะอาด รวมทั้งต้องใช้โรงเรือนที่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ <p>2. ต้องใช้ประสบการณ์และการดูแลเอาใจใส่มากกว่าการเพาะปลูกแบบธรรมดา <p>3. หากแก้ไขการขัดข้องของกระแสไฟฟ้าหรือการชำรุดของเครื่องมือไม่ทันจะมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตรวมถึงการตายของพืช <p>4. มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคในน้ำสูงเพราะโรคพืชโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เกิดกับรากสามารถแพร่กระจายได้ง่ายในน้ำ <p>5. ไม่สามารถใช้ปุ๋ยอินทรีย์ได้และยังทำให้พืชขาดจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อพืชบางชนิดในดิน <br> <br>แหล่งข้อมูล<br> วัฒนา เสถียรสวัสดิ์. (2553). ไฮโดรพอนิกส์. ในสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. (เล่มที่ 27, หน้า 132-163). กรุงเทพฯ : โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] |
Orthosiphon | อรโทสิพอน [TU Subject Heading] |
Work of the United Nations on Human Rights | งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต] |
Anemia, Pernicious | โรคโลหิตจางชนิดร้ายแรง, โรคโลหิตจางแบบเพอร์นิเชียส, โรคเลือดจางอย่างร้าย, โรคโลหิตจางอย่างแรง, โรคเลือดจางแบบร้าย, โลหิตจางร้ายแรง, โรคโลหิตจาง, โลหิตจางชนิดเพอนิเซียส, โรคโลหิตจางเพอร์นีเชียส, โรคโลหิตจางอย่างร้ายแรง, โรคโลหิตจางอย่างแรง, โรคเลือดจางอย่างร้าย, เปอร์นิเซียสอะนีเมีย, โลหิตจางแบบเพอร์นิเชียส, เลือดจางเปอร์นิเชียส [การแพทย์] |
Barleria Lupulna | เสลดพังพอน [การแพทย์] |
Basfapon | บาสฟาพอน [การแพทย์] |
Cerebellopontine Angle | ซีรีเบลโลพอนไตน์แองเกิล, สมองเซเรเบลโลพอนไตแองเกิลแอ่งระหว่างสมองเล็กกับพอนส์ [การแพทย์] |
Cerebellopontine Angle, Tumors of | ทูเมอร์ของแอ่งระหว่างสมองเล็กและพอนส์ [การแพทย์] |
Concentration, Maximum Allowable | ขนาดมาตรฐานของสิ่งคุกคามสุขภาพอนามัย [การแพทย์] |
Dalapon | ดาลาพอน [การแพทย์] |
Dowpon | ดาวพอน [การแพทย์] |
Limit Value, Threshold | ขนาดมาตรฐานของสิ่งคุกคามสุขภาพอนามัย [การแพทย์] |
Mental Health Indicators | ตัวชี้บ่งสุขภาพอนามัยทางจิต [การแพทย์] |
Myelinolysis, Central Pontine | โรคเซนตราลพอนตีนไมอีลิโนไลซีส, การสลายตัวของเยื่อหุ้มประสาทส่วนพอนตีน [การแพทย์] |
capon | (เค'พอน) n. ไก่ตอน |
correspond | (คอรีสฺพอนดฺ') { corresponded, corresponding, corresponds } vi. ตรงกัน, ลงรอยกัน, เหมือนกับ, มีลักษณะเช่นเดียวกัน, ติดต่อกันทางจดหมาย, Syn. agree, Ant. differ |
correspondence | (คอริสพอน'เดินซฺ) n. การติดต่อกันทางจดหมาย, ความตรงกัน, ความลงรอยกัน, ความสอดคล้องกัน, ความเหมือนกัน, Syn. agreement, conformity |
correspondent | (คอริสพอน'เดินทฺ) n. ผู้ติดต่อกันทางจดหมาย, ผู้ส่งจดหมาย, นักข่าว, สิ่งที่เป็นคู่กัน, สิ่งตรงกัน, บุคคลหรือบริษัทที่ติดต่อกัน, ลูกค้า adj. ซึ่งตรงกัน, ซึ่งลงรอยกัน, ซึ่งเหมือนกัน, Syn. corresponding |
corresponding | (คอริสพอน'ดิง) adj. ตรงกัน, เหมือนกัน, สอดคล้องกัน, ลงรอยกัน, เกี่ยวกับการติดต่อทางไปรษณีย์, เกี่ยวกับการส่งจดหมาย |
coupon | (คู'พอน) n. บัตร, บัตรควบ, ตั๋ว, ตั๋วที่ฉีกได้, ใบแนบโฆษณา, บัตรปันส่วน บัตรแลกสินค้า, บัตรลดราคา |
despond | (ดิสพอนดฺ') vt. เศร้าโศกเนื่องจากความหมดหวังหรือหมดกำลังใจ, See also: desponder n., Syn. despair |
despondence | (ดิสพอน'เดินซี, -เดินซฺ) n. ความหดหู่ใจ, ความท้อแท้, Syn. dejection, Ant. cheedrfulness |
despondency | (ดิสพอน'เดินซี, -เดินซฺ) n. ความหดหู่ใจ, ความท้อแท้, Syn. dejection, Ant. cheedrfulness |
despondent | (ดิสพอน'เดินทฺ) adj. หมดหวัง, ท้อแท้ใจ, หดหู่ใจ, Syn. depressed |
ferret | (เฟอ'ริท) n. สัตว์คล้ายพังพอน มีสีขาว-ตาแดง-ใช้ไล่กระต่ายและหนูออกจากรู vt. ขับออก, ไล่ออก, ล่าสัตว์โดยใช้ferret, ค้นหา, สืบหา., See also: ferreter n. ferrety adj. |
irresponsible | (เออริสพอน'ซะเบิล) adj. ไม่รับผิดชอบ, ขาดความรับผิดชอบ., See also: irresponsibility, irresponsibleness n. irresponsibly adv., Syn. irresolute |
marten | (มาร์'เทิน) n. สัตว์ชนิดหนึ่งคล้ายพังพอน |
mongoose | (มอง'กูส, มอน'กูส) n. พังพอน |
nippon | (นีพอน', นิพ'พอน) n. คำญี่ปุ่นที่หมายถึงญี่ปุ่น |
nipponese | (นิพ'พอนีซ, นิพอนนีส') n., adj. เกี่ยวกับญี่ปุ่น, ชาวญี่ปุ่น pl. Nipponese |
outlook | (เอาทฺ'ลุค) n. ภาพ, ทัศนียภาพ, ช่องหรือหอสังเกตการณ์, ทัศนะ, การภายหน้า, ภาพอนาคต, ท่าทาง, การมอง, การสังเกต |
paunch | (พอนชฺ) n. ท้อง, พุง, ท้องน้อย |
paunchy | (พอน'ชี) adj. พุงโต, พุงพลุ้ย, See also: paunchiness n. |
pawn | (พอน) vt. จำนำ, จำนอง. n. เจ้าของโรงรับจำนำ, เบี้ยหมากรุก, ม้ารับใช้, เครื่องมือ, ลูกมือ |
pawnbroker | (พอน'โบรคเคอะ) n. เจ้าของโรงรับจำนำ, See also: pawnbroking, pawnbrokage, pawnbrokery n. |
pawnshop | (พอน'ชอพ) n. โรงรับจำนำ |
pernicious | (เพอนิซ'เชิส) adj. เป็นอันตราย, เป็นภัย, ถึงตาย, ร้ายแรง, ร้ายกาจ, See also: perniciousness n. |
pernickety | (เพอนิค'คิที) adj. จู้จี้, ชอบฟื้นฝอยหาตะเข็บ, ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง, See also: perniciousness n., Syn. deadly |
pond | (พอนดฺ) n. บ่อน้ำ, สระน้ำ, หนองน้ำ |
ponder | (พอน'เดอะ) vi., vt. ครุ่นคิด, คำนึง, ไตร่ตรอง, พิจารณา. |
ponderable | (พอน'เดอระเบิล) adj. น่าพิจาร-ณา, ไตร่ตรองได้., See also: ponderability n. |
ponderance | (พอน'เดอเรินซฺ-) n. ความสำคัญ, น้ำหนัก, ความรุนแรง |
ponderancy | (พอน'เดอเรินซฺ-) n. ความสำคัญ, น้ำหนัก, ความรุนแรง |
ponderous | (พอน'ดะเริส) adj. หนัก, อุ้ยอ้าย เทอะทะ, งุ่มง่าม, ยืดยาด, ทื่อ., See also: ponderousness n. ponderosity n., Syn. heavy, dull |
pongee | (พอนจี', พอน'จี) n. ผ้าไหมที่ทอด้วยเส้นใยไหมป่าและมีสีธรรมชาติ |
poniard | (พอน'เยิร์ด) n., v. (แทงด้วย) ดาบสันสองคม, กริช |
pontiff | (พอน'ทิฟ) n. สังฆราช, บิชอพ, สันตะปาปา, Syn. bishop, Pope |
pontifical | (พอนทิฟ'ฟิเคิล) adj. เกี่ยวกับองค์สันตะปาปา, หยิ่งยโส, คุยโว, ทะนง, พลการ, See also: pontificals เสื้อและสัญลักษณ์อื่นของpontiff |
pontificate | (พอนทิฟ'ฟะคิท) n. ตำแหน่งสังฆราช. vi. พูดจาหยิ่งยโส, พูดแบบวางท่าวางทาง, ทำหน้าที่สังฆราช |
pontoon | (พอนทูน') n. เรือท้องแบน, ทุ่นลอย, ทุ่นท่าเรือ, โป๊ะ, แพ, เรือปั้นจั่น |
preponderance | (พรีพอน'เดอะเรินซฺ) n. ความเหนือกว่า (น้ำหนัก, อำนาจ, อิทธิพล, จำนวนหรืออื่น ๆ), Syn. preponderancy |
preponderant | (พรีพอน'ดะเรินทฺ) adj. เหนือกว่า (น้ำหนัก, อำนาจ, จำนวนหรืออื่น ๆ) |
preponderate | (พรีพอน'ดะเรท) vi. เหนือกว่า (น้ำหนัก, อำนาจ, อิทธิพล, จำนวนหรืออื่น ๆ) ., See also: preponderation n., Syn. prevail |
respond | (รีสพอนดฺ') vi. ตอบ, พูดตอบ, ตอบสนอง, โต้ตอบ, ขานรับ, รับ, vt. พูดตอบ n. ผลตอบ, การตอบ, ฝาผนังที่ต่อกัน, Syn. reply, Ant. ignore |
respondence | (รีสพอน'เดินซฺ) n. การตอบ, การตอบสนอง, การขานรับ, Syn. respondency |
respondent | (รีสพอน'เดินทฺ) adj. เกี่ยวกับการตอบ, เกี่ยวกับการขานรับ n. ผู้ตอบ, ผู้โต้ตอบ, ผู้ตอบสนอง, จำเลย, ผู้แก้คำถาม |
responder | (รีสพอน'เดอะ) n. ผู้ตอบ, ผู้โต้ตอบ, ผู้ตอบสนอง |
response | (รีสพอนซฺ') n. คำตอบ, การตอบ, คำรับ, ผลตอบ, ความรู้สึกตอบ, การโต้ตอบ, การขานรับ, Syn. answer, reply |
responsibility | (ริสพอนซะบิล'ลิที) n. ความรับผิดชอบ, ภาระ, ภาระหน้าที่, สิ่งที่รับผิดชอบ, สิ่งที่เป็นภาระหน้าที่, Syn. accountability |
responsible | (รีสพอน'ซะเบิล) adj. รับผิดชอบ, เป็นภาระ, เป็นภาระหน้าที่, เชื่อถือได้, See also: responsibleness n., Syn. accountable |
responsive | (รีสพอน'ซิฟว) adj. เป็นคำตอบ, เป็นการตอบ, เป็นการตอบสนอง, See also: responsiveness n., Syn. reactive |
saponify | (ซะพอน'นิไฟ) vt. ทำให้ไขมัน (fat) เป็นสบู่โดยใส่กับด่าง, กลายเป็นสบู่., See also: saponification n. saponifier n. |
spawn | (สพอน) n. กลุ่มไข่ปลา, ลูกหลาน, แหล่งกำเนิด, vi., vt. วางไข่, คลอดลูก, ให้กำเนิด, สร้างเป็นจำนวนมาก, See also: spawner n., Syn. produce, generate |
sponsor | (สพอน'เซอะ) n. ผู้ประกัน, ผู้อุปถัมภ์, ผู้ส่งเสริม vt. ประกัน, ค้ำประกัน, อุปถัมภ์, ส่งเสริม., See also: sponsorial adj. sponsorship n. |