จูง | (v) lead, See also: induce, persuade, wheel, influence, take, Syn. ลาก, ดึง, Example: เพื่อนบ้านย่านใกล้เคียงที่ยกโขยงหอบลูกจูงหลานออกมาฟังดนตรี, Thai Definition: นำหน้าพาไปด้วยอาการคล้ายดึงหรือฉุด |
จูงใจ | (v) persuade, See also: induce, persuade, influence, Syn. ล่อใจ, ชักชวน, หว่านล้อม, ชักนำ, ชักพา, Example: ปัจจุบันการฝากเงินกับแบงก์มีดอกเบี้ยไม่จูงใจ คนจึงต้องหันไปลงทุนทางด้านอื่น, Thai Definition: ชักนำหรือเกลี้ยกล่อมเพื่อให้เห็นคล้อยตาม |
จูงมือ | (v) lead someone by the hand, Ant. ปล่อยมือ, Example: ทั้งสองจูงมือกันเดินไปบนทางเดินเล็กๆ ที่ตัดผ่านสวนดอกไม้, Thai Definition: จับมือนำพาไปด้วยอาการคล้ายดึงหรือฉุด |
ชักจูง | (v) induce, See also: persuade, lead, influence, entice, Syn. ชักนำ, ชักชวน, แนะนำ, Example: สิ่งแวดล้อมในปัจจุบันเป็นสาเหตุหนึ่งที่จะชักจูงเด็กวัยรุ่นไปในทางที่ผิดได้ง่าย |
ลากจูง | (v) tow, See also: tug, haul, drag, draw, pull, Syn. ลาก, จูง, ฉุด, Example: มนุษย์จอมพลังจะลากจูงรถบรรทุก 10 คันเพื่อทำลายสถิติ, Thai Definition: ทำให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการดึง |
จูงจมูก | (v) lead someone by the nose, Syn. ชักนำ, หว่านล้อม, Example: เขาไม่ใช่คนที่ใครจะมาจูงจมูกเขาง่ายๆ, Thai Definition: ถูกเขาชักนำไปโดยไม่ใช้ความคิดของตน, Notes: (สำนวน) |
การจูงใจ | (n) persuasion, See also: persuasion, inducement, allurement, Example: การจูงใจด้วยเงินก้อนโตก็ไม่สามารถฉุดเขาไว้ได้ |
ชักจูงใจ | (v) persuade, See also: induce, convince, influence, Syn. ชักจูง, ชักนำ, Example: การได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้มาจากความสำเร็จของหัวคะแนนที่ชักจูงใจให้ชาวบ้านลงคะแนนเสียงให้แก่ผู้สมัครที่ตนสนับสนุน |
แรงจูงใจ | (n) motivation, Syn. สิ่งจูงใจ, แรงกระตุ้น, Example: วิทยากรแนะนำให้สร้างแรงจูงใจให้เกิดขึ้นภายในองค์กรก่อนสิ่งอื่นใด, Thai Definition: สิ่งที่เป็นเหตุกระตุ้นให้เกิดการกระทำ |
แรงจูงใจ | (n) incentive, See also: stimulus, encouragement, Syn. แรงบันดาลใจ, แรงดลใจ |
สิ่งจูงใจ | (n) temptation, See also: enticement, lure, Syn. เครื่องล่อใจ, สิ่งล่อใจ, สิ่งดึงดูดใจ |
สิ่งจูงใจ | (n) incentive, See also: encouragement, enticement, lure, stimulus, inducement, motivation, Syn. สิ่งดึงดูด, Example: รัฐควรหาสิ่งจูงใจให้คนมาทำงานด้านจิตเวชมากขึ้น, Count Unit: แบบ, ชนิด, Thai Definition: สิ่งดึงดูดให้ผู้อื่นสนใจ |
เหตุจูงใจ | (n) motive, Syn. สิ่งจูงใจ, มูลเหตุจูงใจ, Example: มีเหตุจูงใจบางอย่างเกิดขึ้นทำให้เขาตัดสินใจแบบนั้น, Thai Definition: สิ่งที่ชักนำไปหรือพาไปเป็นต้นเหตุให้ทำ |
มูลเหตุจูงใจ | (n) motivation, See also: motive, Syn. แรงจูงใจ, Example: เรื่องของมูลเหตุจูงใจช่วยอธิบายได้ว่าทำไมบางคนคนจึงต้องทำอย่างนั้น หรือทำอย่างนี้ |
จูง | ก. พาไปด้วยอาการจับมือหรือจับเชือกเป็นต้น เช่น จูงเด็ก จูงสุนัข จูงควาย. |
จูงจมูก | ก. อาการที่จับเชือกที่สนตะพายจมูกวัวควายแล้วจูงไป, โดยปริยายใช้แก่คนว่า ถูกจูงจมูก หมายความว่า ถูกเขาชักนำไปโดยไม่ใช้ความคิดของตน. |
จูงใจ | ก. ชักนำหรือเกลี้ยกล่อมเพื่อให้เห็นคล้อยตาม เช่น พูดจูงใจ. |
จูงนางเข้าห้อง | น. ชื่อการเล่นชนิดหนึ่ง ใช้เบี้ยทอดแล้วเดินตามช่องในรูปเป็นวงอย่างก้นหอย. |
จูงนางลีลา | น. ชื่อท่ารำชนิดหนึ่งที่ควาญช้างรำเมื่อนำช้างบำรูงาเสร็จครั้งแรกแล้ว. |
จูงมือ | ก. จับมือพากันไป. |
ชักจูง | ก. จูงใจเพื่อให้เห็นคล้อยตาม. |
เรือลากจูง | น. เรือกลไฟสำหรับโยงหรือลากเรือใหญ่เพื่อเข้าเทียบท่า. |
วัยจูง | น. วัยของเด็กระหว่างวัยแล่นกับวัยอุ้ม. |
กระจองอแง | ว. เสียงเด็กที่ร้องไห้ ก่อให้เกิดความรำคาญ, ใช้เรียกลูกเด็กเล็กแดงหรือที่ยังต้องอุ้มต้องจูงอยู่ว่า ลูกกระจองอแง. |
เกลี้ยกล่อม | ก. ชักชวนจูงใจให้ร่วมพวก, พูดจูงใจให้คล้อยตามหรือปฏิบัติตาม. |
จรุง, จรูง | (จะรุง, จะรูง) ก. จูง, ชักชวน, เช่น ปลดยากพรากทุกข์ยุคเขิน จรุงราษฎร์ดำเนิน สู่ศุขสวัสดีโดยไว (ดุษฎีสังเวย) |
ชรโลง | (ชะระ-) ก. ชโลง, จูง, พยุง, โยง. |
ชโลง | (ชะ-) ก. พยุงไว้ไม่ให้เซ, จรรโลง, จูง เช่น ให้เป็นหลักชโลงจิต (กฎ. ราชบุรี). |
ชวน ๑ | ก. จูงใจ, โน้มนำ, เช่น ชวนกิน |
ชี้นำ | ก. แนะหรือชักจูงไปในทางที่ตนต้องการ. |
ดลใจ | ก. มีเหตุอันไม่ปรากฏจูงใจให้คิดหรือให้ทำ เช่น เทวดาดลใจ กุศลดลใจ มารดลใจ. |
เถอะ | ว. คำประกอบท้ายกริยาแสดงความหมายเป็นเชิงตกลง วิงวอน หรือชักจูง เช่น เอาเถอะ มาเถอะ กินเถอะ, เถิด ก็ว่า, พูดเพี้ยนเป็น เหอะ ก็มี. |
เถิด | ว. คำประกอบท้ายกริยาแสดงความหมายเป็นเชิงตกลง วิงวอน หรือชักจูง เช่น เอาเถิด มาเถิด กินเถิด, เถอะ ก็ว่า. |
นกต่อ | น. คนที่รับแผนจากผู้อื่นมาติดต่อหรือชักจูงหลอกล่อให้หลงเชื่อ (ใช้ในทางไม่ดี). |
น้ำหนัก | น. ความหนักของสิ่งต่าง ๆ, ความสำคัญ เหตุผล หรือพยานหลักฐาน เป็นต้น ที่ควรแก่การเชื่อถือ หรือที่จูงใจให้เชื่อถือ. |
บันเบา | ว. น้อย (โดยมากมักใช้ในทางปฏิเสธหรือเป็นเชิงคำถาม) เช่น เขามีวาทศิลป์พูดชักจูงใจคนไม่บันเบาทีเดียว. |
ปาฏิหาริย์ | (-ติหาน) น. สิ่งที่น่าอัศจรรย์, ความอัศจรรย์, มี ๓ อย่าง คือ ๑. อิทธิปาฏิหาริย์ = ฤทธิ์เป็นอัศจรรย์ หมายถึง การแสดงฤทธิ์ที่พ้นวิสัยของสามัญมนุษย์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ๒. อาเทสนาปาฏิหาริย์ = การดักใจเป็นอัศจรรย์ หมายถึง การดักใจทายใจคนได้อย่างน่าอัศจรรย์ ๓. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ = การสอนเป็นอัศจรรย์ หมายถึง คำสั่งสอนอันอาจจูงใจคนให้นิยมเชื่อถือไปตามได้อย่างน่าอัศจรรย์. |
พะยุพยุง | (พะยุพะยุง) ก. ช่วยกันพยุง เช่น ช่วยพะยุพยุงคนเจ็บ, พะยุพยุงจูงจับหิ้วปากคนละข้าง (ม. ร่ายยาว ชูชก). |
โยง ๑ | ก. ผูกให้ต่อเนื่องกัน เช่น โยงมงคลคู่แต่งงาน, ผูกให้ต่อเนื่องกันเพื่อลากหรือจูงไป เช่น โยงเรือ, แขวนให้ห้อยอยู่เหนือพื้น เช่น โยงแป้งขนมจีน |
โยง ๑ | ว. เรียกอาการที่มัดมือ ๒ ข้างแขวนขึ้นไปให้เท้าเรี่ย ๆ พื้น ว่า มัดมือโยง, เรียกอาการที่อยู่ประจำแต่ผู้เดียว ผู้อื่นไม่ต้องอยู่ ว่า อยู่โยง, เรียกเรือสำหรับลากจูงเรืออื่น ว่า เรือโยง และเรียกเรือที่ผูกลากตามเรือโยงที่ลากจูงไปนั้น ว่า เรือพ่วง. |
รถจักร | น. รถหัวขบวนรถไฟ มีเครื่องยนต์ใช้ลากจูงรถไฟทั้งขบวน, หัวรถจักร ก็เรียก. |
รถม้า | น. รถที่ใช้ม้าเทียมลากจูงไป มีทั้งชนิด ๒ ล้อ และ ๔ ล้อ. |
เรือพ่วง | น. เรือที่ผูกลากตามเรือโยงที่ลากจูงไป |
เรือโยง | น. เรือสำหรับลากจูงเรืออื่น. |
ลมปาก | น. ถ้อยคำที่กล่าว เช่น อย่าสัญญาเพียงลมปาก, คำพูดที่จูงใจให้เห็นคล้อยตาม เช่น หลงลมปากจึงตามเขาไป. |
ล่อหลอก | ก. ล่อให้เชื่อโดยมีเครื่องจูงใจ เช่น เอาตุ๊กตามาล่อหลอกเด็กให้หยุดร้องไห้, หลอกล่อ ก็ว่า. |
ลูกเต้าเล้าอ่อน | น. ลูกเล็ก ๆ หลายคน เช่น เธอมีลูกเต้าเล้าอ่อน ไปไหนทีก็ต้องอุ้มบ้างจูงบ้าง. |
แล่น ๑ | น. ชื่อวัยของเด็กถัดจากวัยจูง เรียกว่า วัยแล่น. |
วัยแล่น | น. วัยของเด็กถัดจากวัยจูง. |
วัยอุ้ม | น. วัยของเด็กก่อนวัยจูง. |
สัญญาณจราจร | น. สัญญาณใด ๆ ไม่ว่าจะแสดงด้วยธง ไฟ ไฟฟ้า มือ แขน เสียงนกหวีด หรือด้วยวิธีอื่นใดสำหรับให้ผู้ขับขี่ คนเดินเท้า หรือคนที่จูง ขี่ หรือไล่ต้อนสัตว์ ปฏิบัติตามสัญญาณนั้น. |
สินบน | ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่ให้แก่บุคคลเพื่อจูงใจให้ผู้นั้นกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ |
หนังขายยา | น. ภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ ที่ผู้ขายยานำไปเร่ฉายตามที่ต่าง ๆ เพื่อชักจูงให้คนมาดูและซื้อยา. |
หน้าม้า | น. ผู้ที่ทำเล่ห์เหลี่ยมเป็นเหมือนคนซื้อหรือคนเล่นการพนันเป็นต้น เพื่อเป็นสื่อจูงใจให้คนหลงซื้อหรือหลงเล่นการพนันด้วย, โดยปริยายใช้เรียกคนที่หากินในลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น. |
หลอกล่อ | ก. หลอกให้เชื่อโดยมีเครื่องจูงใจ, ล่อหลอก ก็ว่า. |
หัวรถจักร | น. รถหัวขบวนรถไฟ มีเครื่องยนต์ใช้ลากจูงรถไฟทั้งขบวน, รถจักร ก็เรียก. |
อนุสาสนีปาฏิหาริย์ | น. การสอนเป็นอัศจรรย์ หมายถึง คำสั่งสอนอันอาจจูงใจคนให้นิยมเชื่อถือไปตามได้อย่างน่าอัศจรรย์, เป็นปาฏิหาริย์อย่าง ๑ ในปาฏิหาริย์ ๓ ได้แก่ อิทธิปาฏิหาริย์ อาเทสนาปาฏิหาริย์ และอนุสาสนีปาฏิหาริย์. |
อุ้ม | น. ชื่อวัยของเด็กก่อนวัยจูง เรียกว่า วัยอุ้ม. |
Agricultural incentive | สิ่งจูงใจทางการเกษตร [เศรษฐศาสตร์] |
Export incentives | สิ่งจูงใจการส่งออก [เศรษฐศาสตร์] |
Wage incentive | สิ่งจูงใจในรูปค่าจ้าง [เศรษฐศาสตร์] |
Achievement motivation | แรงจูงใจที่สัมฤทธิผล [TU Subject Heading] |
Early retirement incentives | สิ่งจูงใจในการเกษียณอายุก่อนกำหนด [TU Subject Heading] |
Employee motivation | แรงจูงใจในการทำงาน [TU Subject Heading] |
Incentive awards | รางวัลจูงใจ [TU Subject Heading] |
Incentives in industry | สิ่งจูงใจในอุตสาหกรรม [TU Subject Heading] |
Intrinsic motivation | แรงจูงใจภายใน [TU Subject Heading] |
Manipulative behavior | พฤติกรรมชักจูง [TU Subject Heading] |
Motivation (Psychology) | แรงจูงใจ (จิตวิทยา) [TU Subject Heading] |
Motivation in education | แรงจูงใจในการศึกษา [TU Subject Heading] |
Motivation research (Marketing) | การวิจัยแรงจูงใจ (การตลาด) [TU Subject Heading] |
Motivational interviewing | การสัมภาษณ์แบบสร้างแรงจูงใจ [TU Subject Heading] |
Personality and motivation | บุคลิกภาพกับแรงจูงใจ [TU Subject Heading] |
Persuasion (Psychology) | การจูงใจ (จิตวิทยา) [TU Subject Heading] |
Persuasion (Rhetoric) | การจูงใจ (ศิลปะการใช้ถ้อยคำ) [TU Subject Heading] |
Towing | การลากจูง [TU Subject Heading] |
Incentive | สิ่งจูงใจ, Example: สิ่งจูงใจเพื่อช่วยสนับสนุนการนำวัสดุกลับมา ใช้อีก [สิ่งแวดล้อม] |
International Civil Aviation Organization | เรียกโดยย่อว่า ICAO คือองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1947 หลังจากที่ประเทศสมาชิก 28 แห่ง ได้ให้สัตยาบันแก่อนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือน ซึ่งได้ร่างขึ้นโดยที่ประชุมองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศในนครชิคาโก เมื่อปี ค.ศ.1944วัตถุประสงค์ของ ICAO คือการศึกษาปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการบินพลเรือนระหว่างประเทศ รวมทั้งจัดวางมาตรฐานระหว่างประเทศ และระเบียบข้อบังคับสำหรับการบินพลเรือนองค์การจะพยายามสนับสนุนให้มีการใช้ มาตรการว่าด้วยความปลอดภัย วางระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการปฏิบัติให้เสมอเหมือนกันหมด และให้ใช้วิธีปฏิบัติที่สะดวกง่ายขึ้นตรงพรมแดนระหว่างประเทศ องค์การจะส่งเสริมการใช้วิธีการทางเทคนิคและอุปกรณ์เครื่องมือใหม่ ๆ ดังนั้น ด้วยความร่วมมือจากประเทศสมาชิก องค์การจะจัดวางแนวบริการทางอุตุนิยมวิทยา การควบคุมการจราจรทางอากาศ การคมนาคมสื่อสารไฟสัญญาณด้านวิทยุ จัดระเบียบการค้นหาและช่วยเหลือ รวมทั้งอุปกรณ์ความสะดวกอื่น ๆ ซึ่งจำเป็นที่จะให้การบินระหว่างประเทศได้รับความปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังชักจูงให้รัฐบาลประเทศสมาชิกวางแนวทางปฏิบัติด้านศุลกากรให้สะดวกง่าย ขึ้น รวมทั้งการตรวจคนเข้าเมือง และระเบียบเกี่ยวกับสาธารณสุขที่ใช้กับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ นอกจากนี้ องค์การยังรับผิดชอบต่องานร่างกฎหมายเกี่ยวกับการบินระหว่างประเทศ ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศในด้านเศรษฐกิจมาก มายหลายอย่างองค์การ ICAO ดำเนินงานโดยองค์การต่าง ๆ ดังนี้1. สมัชชา (Assembly) ประกอบด้วยผู้แทนของประเทศสมาชิกทุกประเทศ ทำการประชุมกันปีละครั้ง และจะลงมติเกี่ยวกับมาตรการทางการเงิน และจะรับพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ที่คณะมนตรีส่งมาให้ดำเนินการ2. คณะมนตรี (Council) ประกอบด้วยผู้แทนจากชาติต่าง ๆ 21 ชาติ ซึ่งสมัชชาเป็นผู้เลือก โดยคำนึงถึงประเทศที่มีความสำคัญในการขนส่งทางอากาศ รวมทั้งประทเศที่มีส่วนเกื้อกูลไม่น้อยในการจัดอำนวยอุปกรณ์ความสะดวกแก่การ เดินอากาศฝ่ายพลเรือนระหว่างประเทศ และจัดให้มีตัวแทนตามจำนวนที่เหมาะสมในเขตภูมิศาสตร์ใหญ่ ๆ ของโลก คณะมนตรีเป็นผู้เลือกตั้งประธาน (President) ขององค์การ3. เลขาธิการ (Secretary-General) ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่ขององค์การ [การทูต] |
Nuclear Test Ban | หมายถึง สนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งในบรรยากาศ ในอวกาศ และใต้น้ำ สนธิสัญญาฉบับนี้ได้มีผลบังคับเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1963 ประเทศที่ลงนามเริ่มแรกในสนธิสัญญาได้แก่ อังกฤษ สหภาพโซเวียต และ สหรัฐอเมริกา รวมสามประเทศจุดมุ่งหมายสำคัญของสนธิสัญญาคือ รัฐบาลของประเทศทั้งสาม ต้องการให้มีการทำความตกลงกันเป็นผลสำเร็จเกี่ยวกับการลดอาวุธ หรือปลดกำลังอาวุธทั้งหมดโดยสิ้นเชิง ภายใต้การควบคุมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ตามความมุ่งประสงค์ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งต้องการให้ยุติหรือเลิกการแข่งขันกันสะสมอาวุธ และกำจัดมิให้มีเหตุจูงใจที่จะผลิตและทดสอบอาวุธไม่ว่าชนิดใดทั้งหมด รวมทั้งอาวุธนิวเคลียร์ด้วย นอกจากนี้ ยังเสาะแสวงหาที่จะให้หยุดการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ไปตลอดชั่วกาลนานสนธิ สัญญานี้มีข้อความอยู่ 5 มาตรา และไม่จำกัดอายุเวลา ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประเทศอื่น ๆ ทั้งหลายเข้าร่วมลงนามเป็นภาคีได้ ในทางตรงกันข้าม ประเทศภาคีก็มีสิทธิใช้อธิปไตยแห่งชาติได้เพื่อถอนตัวจากสนธิสัญญา ถ้าหากประเทศนั้น ๆ เห็นว่า ประโยชน์อันสูงสุดของประเทศตนต้องตกอยู่ในอันตราย และแจ้งล่วงหน้าสามเดือนให้ประเทศภาคีอื่น ๆ ทั้งหมดทราบการตกลงใจนั้น [การทูต] |
Public Diplomacy | การทูตสาธารณะ หมายถึง การดำเนินการทางการทูตแบบหนึ่งเพื่อโน้มน้าวชักจูงให้สาธารณชนและกลุ่มเป้า หมายและกลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ในต่างประเทศที่มีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจของรัฐให้มีความชื่นชมและเข้าใจ ถึงแนวทางการดำเนินนโยบายต่างประเทศของประเทศใคประเทศหนึ่ง ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระดับประชาชนให้มีความใกล้ชิดแน่นแฟ้น และประสบผลสำเร็จอน่างแนบเนียน โดยจะมี ความแตกต่างจากการดำเนินการทางการทูตแบบดั้งเดิม ที่เน้นการสื่อสารระหว่างรัฐต่อรัฐ(Government to Government)แต่การทูตสาธารณะจะเน้นวิธีการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับ ประชาชน( Government to People) ภาคเอกชน ประชาสังคม หรือสื่อมวลชนในต่างประเทศหรือระหว่าประชาชนด้วยกันเอง อนึ่ง การทูตวัฒนธรรม (Cultural Diplomacy) ที่ใช้วัฒนธรรมเป็นสื่อเชื่อมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนนั้น ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งของการดำเนินการทางการทูตสู่สาธารณชนนี้ [การทูต] |
Sanctions | การบังคับตามกฎระหว่างประเทศ หมายถึงการที่หลาย ๆ ชาติได้ลงมติใช้มาตรการบังคับหรือจูงใจพร้อม ๆกันเพื่อบังคับให้ชาติหนึ่งที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ทำการยับยั้ง (Desist) หรือยินยอมให้มีการชี้ขาดตัดสิน (Adjudication) หรือกล่าวอย่างสั้น ๆ แซ็งชั่นก็คือ หนทางที่บังคับพันธกรณีทางกฎหมายให้เป็นไปตามกฎหมายเรื่องแซ็งชั่นนี้ กฎบัตรสหประชาชาติได้กล่าวไว้ในบทที่ 7 ข้อ 41 และ 42 มีข้อความดังนี้ ?ข้อ 41 คณะมนตรีความมั่นคงอาจวินิจฉัยว่า จะต้องใช้มาตรการอันใดอันไม่มีการใช้กำลังอาวุธ เพื่อยังผลให้เกิดแก่คำวินิจฉัยของคณะมนตรี และอาจเรียกร้องให้สมาชิกแห่งสหประชาชาติใช้มาตรการเช่นว่านั้น มาตรการเหล่านี้อาจรวมถึงการตัดสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และการคมนาคมทางรถไฟ ทางทะเล ทางอากาศ ทางไปรษณีย์โทรเลข ทางวิทยุ และวิถีทางคมนาคมอย่างอื่นโดยสิ้นเชิงหรือแต่บางส่วน และการตัดความสัมพันธ์ทางการทูต ข้อ 42 หากคณะมนตรีความมั่นคงพิจารณาเห็นว่ามาตรการที่บัญญัติไว้ในข้อ 41 น่าจะไม่เพียงพอ หรือได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เพียงพอ คณะมนตรีก็อาจดำเนินการใช้กำลังทางอากาศ ทางทะเล หรือทางพื้นดินเช่นที่เห็นจำเป็น เพื่อธำรงไว้ หรือสถาปนากลับคืนมาซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ การดำเนินการเช่นว่านี้ อาจรวมถึงการแสดงแสนยานุภาพ การปิดล้อม และการปฏิบัติอย่างอื่นโดยกำลังทางอากาศ ทางทะเล หรือทางพื้นดินของบรรดาสมาชิกแห่งสหประชาชาติ [การทูต] |
ความคับข้องใจ | ความคับข้องใจ, สภาพทางจิตใจหรือความรู้สึกที่เป็นผลสืบเนื่องอันได้แก่ ความหงุดหงิด กระวนกระวายใจ กลุ้มใจ สิ่งเหล่านี้มาจากความปรารถนาที่บุคคลมุ่งหวัง แต่ถูกขัดขวาง ทำให้ลดแรงจูงใจ บั่นทอนอิทธิพลความพยายาม ไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย ไม่ตอบสนองความต้องการของตนเองได้ ด้วยอุปสรร [สุขภาพจิต] |
Incentives, Economic | สิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจ [การแพทย์] |
Inducement | เครื่องจูงใจ [การแพทย์] |
Motivating | การจูงใจผู้ร่วมงาน [การแพทย์] |
Motivation | แรงผลักดัน, แรงจูงใจ, เหตุจูงใจ, การจูงใจ, แรงผลักดันตามประสบการณ์แรงผลักดัน, แรงดลใจ, การตั้งใจ, การกระตุ้นและยั่วยุ, [การแพทย์] |
Motivation for Achievement | ความจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ [การแพทย์] |
Motivation, Extrinsic | การจูงใจภายนอก [การแพทย์] |
Motivation, Human | แรงจูงใจในมนุษย์ [การแพทย์] |
Motivation, Intrinsic | การจูงใจภายใน, การจูงใจจากภายใน [การแพทย์] |
Motivation, Unconscious | แรงจูงใจที่อยู่ในจิตใต้สำนึก [การแพทย์] |
Motivational Arousal System | ระบบเกี่ยวกับการยั่วยุทางแรงจูงใจ [การแพทย์] |
Motivational System, Secondary | ระบบแรงจูงใจทุติยภูมิ [การแพทย์] |
Motive, Dependency | แรงจูงใจใฝ่พึ่งพา [การแพทย์] |
Motives | แรงจูงใจ [การแพทย์] |
Motives, Personal | แรงจูงใจส่วนบุคคล [การแพทย์] |
Motives, Physiological | แรงจูงใจทางร่างกาย [การแพทย์] |
allure | (n) การจูงใจ, See also: ความยั่วยวน, Syn. fastination |
allure | (vt) ดึงดูด, See also: ยั่วยวน, ล่อใจ, ล่อตาล่อใจ, จูงใจ, Syn. attract, entice, fastinate |
allure | (vi) ดึงดูด, See also: ยั่วยวน, ล่อใจ, ล่อตาล่อใจ, จูงใจ, Syn. attract, entice, fastinate |
allurement | (n) การจูงใจ, See also: ความยั่วยวน, เครื่องล่อใจ, Syn. attraction |
bargepole | (n) เสายาวใช้จูงหรือดุนให้เรือแล่น |
brainwash | (vt) ล้างสมอง, See also: ชักจูงให้เชื่อตามที่พูด, Syn. proselytize |
brainwash | (n) การล้างสมอง, See also: การชักจูงให้เชื่อตามที่พูด |
beat down | (phrv) ต่อราคาให้ลดลง (คำไม่เป็นทางการ), See also: ต่อรองราคา, ตกลงราคา, โน้มน้าวให้ลดราคา, ชักจูงให้ลดราคา, Syn. knock down, knock off |
buy off | (phrv) จ่ายเงินเพื่อชักจูงให้ทำหรือพูดบางอย่าง, See also: จ่ายค่าปิดปาก, Syn. buy over |
cajoling | (n) การโน้มน้าว, See also: การชักจูง, Syn. persuasion |
cogency | (n) การโน้มน้าว, See also: การชักจูง |
cogent | (adj) ที่โน้มน้าวจิตใจ, See also: ที่ชักชวน, ที่ชักจูง, Syn. convincing, persuasive |
come-on | (n) สิ่งจูงใจ, See also: สิ่งที่เสนอเพื่อเป็นการจูงใจ |
convince | (vt) โน้มน้าว, See also: ชักจูง, Syn. persuade |
carry someone with one | (idm) ชักจูง, See also: โน้มน้าว, ชักชวน, ชักนำความคิด, สนับสนุน |
fetch over | (phrv) โน้มน้าวให้เปลี่ยนความคิด, See also: ชักจูง, Syn. bring over |
fetch round | (idm) ชักจูงให้เปลี่ยนความคิด, See also: โน้มน้าว, Syn. bring round |
diverting | (adj) ที่ทำให้หันเห, See also: ที่ชักจูงใจ |
force | (n) อำนาจในการชักจูง, See also: อำนาจในการโน้มน้าว, Syn. efficacy, cogency, potency, |
get round | (phrv) โน้มน้าวให้เปลี่ยนความคิด, See also: ชักจูงให้เปลี่ยนความคิด, Syn. bring around, bring over |
go to work on | (idm) ชักจูง, See also: โน้มน้าว |
inveigle into | (phrv) ชักชวนให้ทำ, See also: โน้มน้าวในเรื่อง, ชักจูงในเรื่อง, ชวนให้ทำ |
get | (vt) มีอิทธิพลต่อ, See also: มีผลต่อ, กระตุ้น, ชักจูง, Syn. arouse, stimulate |
ginger group | (n) กลุ่มคนในพรรคการเมืองหรือองค์กรที่ชักจูงคนอื่นให้คล้อยตาม |
hand | (vt) จูง |
get-up-and-go | (idm) แรงจูงใจ (คำไม่เป็นทางการ), See also: พลัง, แรง |
hand in hand | (idm) จับมือกัน, See also: จูงมือกัน |
sell someone something | (idm) ชักจูง (บางคน) ให้เชื่อใน (บางสิ่ง) |
sweet-talk someone | (idm) เยินยอเพื่อชักจูงให้ทำหรือยอมตามบางสิ่ง |
twist someone's arm | (idm) บังคับ, See also: ชักจูง |
what makes someone tick | (idm) สิ่งกระตุ้น, See also: สิ่งที่จูงใจ |
impel | (vt) กระตุ้น, See also: จูงใจ, ผลักดัน, Syn. drive, induce, urge |
impulse | (n) แรงกระตุ้น, See also: แรงผลักดัน, แรงจูงใจ, สิ่งกระตุ้น, Syn. drive, caprice, urge, whim |
induce | (vt) ชักชวน, See also: ชักนำ, ชักจูง, โน้มน้าว, Syn. convince, influence, persuade |
inducement | (n) การชักนำ, See also: การโน้มน้าว, การจูงใจ, Syn. lure, encouragement |
inducement | (n) สิ่งจูงใจ, See also: เครื่องจูงใจ, อามิสสินจ้าง, Syn. incentive, stimulus |
influence | (n) การจูงใจ, See also: การโน้มน้าว, การชักจูง, Syn. attraction, sway, spell, magnetism |
influence | (vt) มีอิทธิพลต่อ, See also: ชักจูง อำนาจบังคับ, Syn. manipulate, sway, affect |
insusseptible | (adj) ซึ่งไม่ถูกชักจูงได้ง่าย, See also: ซึ่งไม่ถูกกระทบกระเทือนได้ง่าย, Ant. susceptible |
lay alongside | (phrv) จูง (เรือ) เข้าไปใกล้, See also: ลาก เรือ เข้าใกล้, Syn. draw alongside, lie alongside, pull alongside |
lead by | (phrv) จูงด้วย (เช่น ด้วยเชือก, มือ), See also: นำด้วย |
lead by the nose | (idm) จูงจมูก (ควบคุมได้) (คำไม่เป็นทางการ), See also: หลอกลวง |
lobby for | (phrv) พยายามชักจูงผู้มีอำนาจให้อนุมัติกฎหมาย |
jawbone | (vi) พยายามจูงใจ (คำไม่เป็นทางการ), See also: ชักนำ, เกลี้ยกล่อม |
lead | (n) เชือก (จูงสุนัข), See also: เชือกนำทาง, Syn. leash |
mass suggestion | (n) การชักจูงคนจำนวนมาก |
motivate | (vt) กระตุ้น, See also: ให้แรงบันดาลใจ, ดลใจ, จูงใจ, เป็นแรงกระตุ้น, Syn. stimulate, induce, move, provoke, prompt, cause, Ant. soothe, discourage |
motivation | (n) แรงบันดาลใจ, See also: แรงจูงใจ, Syn. motive, driving force |
motivation | (n) แรงจูงใจ, See also: แรงกระตุ้น, แรงบันดาลใจ, Syn. motive, drive |
motivation | (n) การให้แรงจูงใจ, See also: การให้แรงบันดาลใจ, การกระตุ้น |
allure | (อะเลียว') vt. ล่อ, ชักชวน, จูงใจ, ทำให้หลงเสน่ห์. -n. เสน่ห์. -alluring n., Syn. seduce, charm, sex appeal |
attract | (อะแทรคทฺ') vt., vi. ดึงดูด, จูงใจ, กระ-ตุ้นความสนใจ, มีเสน่ห์, ล่อใจ. -attractable adj. |
forcible | (ฟอร์ซฺ'ซิเบิล) adj. ใช้กำลัง, มีกำลัง, มีพลัง, ให้กำลัง, ได้ผล, จูงใจ, โน้มน้าวจิตใจ., See also: forcibility n., forcibly adv., Syn. compulsory |
forensic | (ฟอเรน'ซิค) adj. (เกี่ยวกับ) กฎหมาย, ศาลยุติธรรม, การเล่นสำนวนโวหาร, See also: forensics n. วิชาเกี่ยวกับศิลปะแห่งการพูดหรือเขียนเพื่อจูงใจคน forensicality n. forensicsally adv. |
induce | (อินดิวซฺ') vt. ชักจูง, ชักนำ, ชักชวน, เหนี่ยวนำ, มีอิทธิพลต่อ, ทำให้เกิดขึ้น, พิสูจน์, หาความจริงด้วยการสังเกตข้อเท็จจริง., See also: inducer n. inducible adj., Syn. instigate, persuade |
inducement | (อินดิวซฺ'เมินทฺ) n. การจูงใจ, การชักจูง, การชักนำ, สิ่งจูงใจ, สิ่งดลใจ, มูลเหตุ |
influence | (อิน'ฟลูเอินซฺ) n. อิทธิพล, อำนาจชักจูง, สิ่งชักจูง, ผู้มีอิทธิพลโน้มน้าว. vt. มีอิทธิพลต่อ, มีอำนาจโน้มน้าว., See also: influenceable adj. influencer n., Syn. control, power |
influential | (อินฟลูเอน'เชิล) adj. มีอิทธิพล, มีอำนาจชักจูง, มีผลสะท้อน., Syn. weighty |
invitation | (อินวิเท'เชิน) n. การเชื้อเชิญ, การเชิญ, คำเชิญ, บัตรเชิญ, ความดึงดูดใจ, การชักจูง., See also: invitational adj., Syn. bid, summons |
lead | (ลีด) { led, led, leading, leads } vt. นำ, พา, จูง, ชักจูง, จูงให้, ทำให้เกิดขึ้น, ล่อให้เกิดขึ้น, นำหน้า, พูดนำ, สั่ง, บัญชา, เป็นหัวหน้า, เล็ง vi. เป็นตัวนำ, นำไปสู่, นำหน้า, นำทาง, โจมตี, เล่นก่อน n. ตำแหน่งนำ, การนำ, ผู้นำ, สิ่งนำ, สำคัญที่สุด, ชั้นนำ, ตะกั่ว:Pb; -S...conduct, guide |
mayhem | (เม'เฮม, เม'เฮิม) n. การกระทำความผิดที่จูงใจทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ, การประทุษร้าย, Syn. violenc |
motivation | (โมทะเว'เชิน) n. การกระตุ้น, เหตุจูงใจ, สิ่งกระตุ้น, สิ่งดลใจ, แรงดลใจ |
persuade | (เพอสเวด') vt. ชักชวน, ชักจูง, จูงใจ, โอ้โลม, แนะนำ, ทำให้เชื่อ, กล่อม, See also: persuadability n. persuadable adj. persuader n. persuadably adv. persuadedly adv. persuadingly adv., Syn. induce, convince, influenc |
persuasion | (เพอสเว'เชิน) n. การชักชวน, การชักจูง, การจูงใจ, ภาวะที่ถูกชักชวน, ความมั่นใจ, ความเชื่อ, ระบบหรือรูปแบบของความเชื่อ, สำนักนิกาย, หมู่คณะ, Syn. conversion, inducement, belief, potency |
persuasive | (เพอสเว'ซิฟว) adj. สามารถชักจูงได้, ซึ่งชักจูง, โน้มน้าวใจ. n. สิ่งที่โน้มน้าวใจ, สิ่งจูงใจ, การล่อใจ |
predispose | (พรีดิสโพซ') vt. จูงใจ, ทำให้โน้มเอียง, จัดการล่วงหน้า, จัดการล่วงหน้า, จัดการก่อน, vi. มีใจโน้มเอียงไปทาง, มักจะชอบ., See also: predisposal n. predisposedly adv. predisposedness n. |
pull | (พูล) v., n. (การ) ดึง, ลาก, ทิ้ง, จูง, กระชาก, ถอน, เด็ด, เก็บ, ฉุด, ชัก, พาย (เรือ) , ดึงดูด, ดูด, ดื่ม -Phr. (pull in มาถึง) -Phr. (pull off กระทำด้วยความสำเร็จ) (โดยเฉพาะที่ยากลำบาก) , -Phr. (pull oneself together ควบคุมอารมณ์) -Phr. (pull someone's leg หยอกล้อ) |
rhetoric | (เรท'เทอริค) n. ศิลปะการใช้ถ้อยคำ, วาทศิลป์, เชิงสำนวน, ศิลปะในการพูดชักจูงใจคน, เชิงคุยโว, เชิงโวหาร, Syn. expressiveness, bombast |
seduce | (ซีดิวซฺ') vt. ล่อใจ, ล่อลวง, ชักจูงให้ร่วมเพศ, ล่อลวงให้ไปเสียตัว, ดึงดูดใจ, ยั่ว-ยวนใจ., See also: seducer n. seducible adj. seducingly adv. seducive adj., Syn. allure, decoy, tempt, entice |
seduction | (ซีดัค'เชิน) n. การล่อใจ, การล่อลวง, การชักจูงให้ร่วมเพศ, การล่อลวงให้ไปเสียตัว, การถูกล่อลวง, วิธีการล่อลวง, การยั่วยวน, ความดึงดูดใจ., Syn. seducement, temptation |
sheep | (ชีพ) n. แกะ, หนังแกะ, บุคคลที่เหนียมอายและถูกชักจูงได้ง่าย, ศาสนิกชน, Syn. milksop |
silver-tongued | adj. ชักชวน, ชักจูง, พูดคล่อง, เจ้าสำนวนโวหาร |
solicit | (ซะลิส'ซิท) vt., vi. เรียกร้อง, ชักชวน, ขอร้อง, วิงวอน, เชื้อเชิญ, จูงใจ, ล่อใจ, (โสเภณี) ดึงแขก, กระตุ้นใจ., See also: solicitant n. solicitation n. |
solicitor | (ซะลิส'ซิเทอะ) n. ผู้เรียกร้อง, (ชักชวน, ขอร้อง, วิงวอน, เชื้อเชิญ, จูงใจ, ล่อใจ, กระตุ้นใจ) , (ในอังกฤษ) ทนายความชั้นรองลงมาจากbarrister, อัยการ., See also: solictorship n. |
suasion | (ซเว'เ?ิน) n. การแนะนำ, การชักชวน, การพูดจูงใจ, การโน้มน้าว., See also: suasive adj. suasiveness n. |
tamper | (แทม'เพอะ) vi. ยุ่ง, ชักจูง, โน้มน้าว, ให้สินบน.n. ผู้ตอก, ผู้กระทุ้ง, ผู้อุด, ไม้ตอก, ไม้กระทุ้ง., See also: tamperer n. |
tow | (โท) vt., n. (การ) ลาก, จูง, พ่วง, โยง, ดึง, สิ่งที่ถูกลาก (จูง...) , เรือหรือรถที่ใช้ลาก, เชือกหรือโซ่ที่ใช้ลาก, -Phr. (in tow ถูกลาก ภายใต้การนำ เป็นผู้ติดตาม) , -Phr. (under tow ถูกลาก), Syn. drag, pull |
towage | (โท'อิจฺ) n. การลาก, การจูง, การพ่วง, การโยง, การดึง, ภาวะที่ถูกลาก (จูง...) ค่าโยง, ค่าลาก |
attract | (vt) ดึงดูดใจ, จูงใจ, ชวนมอง, ล่อใจ |
attraction | (n) การดึงดูด, เสน่ห์, สิ่งจูงใจ, สิ่งล่อใจ |
attractive | (adj) ที่ดึงดูด, มีเสน่ห์, น่ามอง, ที่จูงใจ |
attractively | (adv) อย่างน่าดึงดูดใจ, อย่างมีเสน่ห์, อย่างจูงใจ |
draw | (vi, vt) วาดภาพ, เขียนภาพ, ลาก, ดึง, ล่อใจ, ชักจูง, ดึงดูด, เคลื่อนตัว |
halter | (n) เชือกจูงม้า, เชือกแขวนคอ, บ่วงแขวนคอ |
HAND IN hand in hand | (vt) จับมือกัน, จูงมือ |
hand | (vt) จับ, จูง, ถือ, หิ้ว, พยุง, ส่งให้, มอบ, ยื่น |
induce | (vt) เป็นเหตุให้, ปลอบโยน, จูงใจ, ชักนำ, แนะนำ |
inducement | (n) เครื่องจูงใจ, การปลอบโยน, การชักนำ, การแนะนำ |
influence | (vt) ใช้อิทธิพลต่อ, ชักจูง, ชักชวน, บีบบังคับ |
lead | (vt) นำ, พา, ล่อ, เป็นหัวหน้า, นำหน้า, พูดนำ, ดำเนินชีวิต, ชักจูง |
leash | (n) สายรั้ง, เชือกจูงสุนัข |
persuade | (vt) ชักจูง, ชักนำ, เกลี้ยกล่อม, โน้มน้าว, ชักชวน, โอ้โลม |
persuasion | (n) การชักจูง, การชักนำ, การโน้มน้าว, การชักชวน, การโอ้โลม |
predispose | (vt) จัดการล่วงหน้า, เป็นช่องทางให้, จูงใจ |
propel | (vi) ดุน, ลากจูง, ดัน, ขับเคลื่อน |
propulsion | (n) การดุน, การลากจูง, การแล่น, การขับเคลื่อน, แรงดัน |
puller | (n) ผู้ดึง, ผู้จูง, ผู้ชักลาก, ผู้ลาก |
seduction | (n) การล่อลวง, การนำไปในทางชั่ว, การชักจูง |
solicit | (vt) วิงวอน, ขอร้อง, เชื้อเชิญ, ชักชวน, จูงใจ |
solicitation | (n) การวิงวอน, การขอร้อง, การเชื้อเชิญ, การชักชวน, การจูงใจ |
tamper | (vi) ปนกันยุ่ง, โน้มน้าว, ชักจูง, ให้สินบน |
tow | (n) การลาก, การพ่วง, การจูง, การโยง, การดึง |
tow | (vt) ลาก, พ่วง, จูง, โยง, ดึง |
wheel | (vi, vt) จูง, หัน, กลับ, หมุนเวียน, กลิ้ง, หมุน, วกเวียน |