Search result for

*ภูมิคุ้มกัน*

   
Languages
Dictionaries languages






Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ภูมิคุ้มกัน, -ภูมิคุ้มกัน-
Some results are hidden.
configure
Dictionaries languages






Chinese Phonetic Symbols


Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
ภูมิคุ้มกัน(n) immunity, See also: immunizing agents, Syn. ภูมิต้านทาน, Example: ร่างกายของเด็กมีภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์ดังนั้นพ่อแม่ควรดูแลเป็นอย่างดี, Thai Definition: สภาพที่ร่างกายมีแรงต่อต้านเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย
วิทยาภูมิคุ้มกัน(n) immunology, Example: ตระกูลเขาทั้งตระกูลเป็นผู้เชี่ยวชาญและชำนาญทางด้านวิทยาภูมิคุ้มกัน

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ [with local updates]
ภูมิคุ้มกัน(พูม-) น. สภาพที่ร่างกายมีแรงต่อต้านเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย, ภูมิต้านทาน ก็เรียก.
ปลูกฝีก. นำวัคซีนเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังตรงรอยที่กรีดไว้ เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันโรคฝีดาษ.
ม้ามน. อวัยวะภายในร่างกายริมกระเพาะอาหารข้างซ้าย มีหน้าที่ทำลายเม็ดเลือดแดง สร้างเม็ดนํ้าเหลืองและสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย.
วัคซีนน. ผลิตผลที่ประกอบด้วยเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่ถูกฆ่าหรือทำให้มีฤทธิ์อ่อนแรงจนไม่เป็นอันตราย สำหรับฉีดเข้าสู่ร่างกายเพื่อกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันโรคซึ่งเกิดจากเชื้อนั้น ๆ.
เศรษฐกิจพอเพียงน. ปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเป็นแนวทางการดำรงชีวิตและปฏิบัติตนของประชาชนตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ให้ดำเนินไปในทางสายกลาง ไม่ประมาท ไม่โลภ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น คำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัว ตลอดจนใช้ความรู้และคุณธรรม เป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตให้รอดพ้นจากวิกฤติ มีความมั่นคงและยั่งยืนท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ.
เอดส์น. กลุ่มอาการและอาการแสดงที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันเสื่อมเหตุไวรัส HIV, กลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม ก็ว่า.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
passive immunisation; immunization, passiveการก่อภูมิคุ้มกันรับมา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
passive immunityภูมิคุ้มกันรับมา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
passive immunization; immunisation, passiveการก่อภูมิคุ้มกันรับมา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
panimmunityภูมิคุ้มกันหลายโรค [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
period, windowระยะหลบ (กลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
local immunityภูมิคุ้มกันเฉพาะที่ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
residual immunityภูมิคุ้มกันตกค้าง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
syndrome, acquired immune deficiency; AIDS; syndrome, acquired immunodeficiencyกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
syndrome, acquired immunodeficiency; AIDS; syndrome, acquired immune deficiencyกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
serum, hyperimmuneเซรุ่มภูมิคุ้มกันสูง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
specific immunityภูมิคุ้มกันจำเพาะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
active immunisation; immunization, activeการก่อภูมิคุ้มกันขึ้นเอง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
AIDS; syndrome, acquired immune deficiency; syndrome, acquired immunodeficiencyกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
acquired immune deficiency syndrome; AIDS; syndrome, acquired immunodeficiencyกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
acquired immunityภูมิคุ้มกันได้มา (หลังเกิด) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
acquired immunodeficiency syndrome; AIDS; syndrome, acquired immune deficiencyกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
active immunityภูมิคุ้มกันก่อขึ้นเอง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
active immunization; immunisation, activeการก่อภูมิคุ้มกันขึ้นเอง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
mixed immunityภูมิคุ้มกันผสม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
congenital immunityภูมิคุ้มกันแต่กำเนิด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
disease, immune deficiency; disease, immunodeficiencyโรคขาดภูมิคุ้มกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
disease, immunodeficiency; disease, immune deficiencyโรคขาดภูมิคุ้มกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
disimmune-สิ้นภูมิคุ้มกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
disimmunise; disimmunizeขจัดภูมิคุ้มกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
disimmunityสภาพสิ้นภูมิคุ้มกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
disimmunize; disimmuniseขจัดภูมิคุ้มกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunodeficiencyภูมิคุ้มกันบกพร่อง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunodeficiency disease; disease, immune deficiencyโรคขาดภูมิคุ้มกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunodiagnosisการวินิจฉัยทางภูมิคุ้มกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunologistนักวิทยาภูมิคุ้มกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunologyวิทยาอิมมูน, วิทยาภูมิคุ้มกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunity, congenitalภูมิคุ้มกันแต่กำเนิด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunity, inherited; immunity, innateภูมิคุ้มกันสืบทอด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunity, innate; immunity, inheritedภูมิคุ้มกันสืบทอด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunity, localภูมิคุ้มกันเฉพาะที่ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunity, mixedภูมิคุ้มกันผสม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunity, naturalภูมิคุ้มกันธรรมชาติ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunity, nonspecificภูมิคุ้มกันไม่จำเพาะ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
inherited immunity; immunity, innateภูมิคุ้มกันสืบทอด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
innate immunity; immunity, inheritedภูมิคุ้มกันสืบทอด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunisation, passive; immunization, passiveการก่อภูมิคุ้มกันรับมา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunise; immunize๑. ก่อภูมิคุ้มกัน๒. ให้วัคซีน (กิน, ฉีด, ขีด) [ มีความหมายเหมือนกับ vaccinate ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunise; immunize๑. ก่อภูมิคุ้มกัน๒. ให้วัคซีน (กิน, ฉีด, ขีด) [ มีความหมายเหมือนกับ vaccinate ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunityภูมิคุ้มกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunityการมีภูมิคุ้มกัน [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
immunity, acquiredภูมิคุ้มกันได้มา (หลังเกิด) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immunity, activeภูมิคุ้มกันก่อขึ้นเอง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immune-ภูมิคุ้มกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immune deficiency; immunodeficiency-ขาดภูมิคุ้มกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
immune deficiency disease; disease, immunodeficiencyโรคขาดภูมิคุ้มกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Acquired immunodeficiency syndromeโรคเอดส์หรือกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม, Example: <p>โรคเอดส์เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า human immunodeficiency virus หรือเรียกย่อๆ ว่า HIV (เอชไอวี) โดยเชื้อไวรัสจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาวซึ่งมีความสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันต่ำลง จึงทำให้ร่างกายติดเชื้อโรคฉวยโอกาสได้ง่าย เช่น เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และโรคต่างๆ เหล่านี้เป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในที่สุด <p> <p>เชื้อเอชไอวีติดต่อได้หลายวิธีดังนี้<br/> - การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ ทั้งในรักร่วมเพศและรักต่างเพศ<br/> - การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะในผู้ติดยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นที่มักใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน<br/> - การรับเลือดและองค์ประกอบของเลือด การปลูกถ่ายอวัยวะ การผสมเทียม<br/> - ทารกติดเชื้อจากมารดา โดยทารกอาจได้รับเชื้อแพร่มาตามเลือดสายสะดือ หรือติดเชื้อขณะคลอดจากเลือดและเมือกในช่องคลอด หรือติดเชื้อในระยะเลี้ยงดูโดยได้รับเชื้อจากน้ำนม <p> <p>อาการของโรค<br/> ภายหลังได้รับเชื้อในระยะแรกผู้ติดเชื้อบางรายมีอาการไข้และมีต่อมน้ำเหลืองโตตามซอกคอและซอกรักแร้ อาการเหล่านี้จะเป็นอยู่ไม่นานและหายไปได้เอง เมื่อการติดเชื้อดำเนินต่อไปอีกหลายปี ผู้ป่วยจะมีภูมิคุ้มกันเสื่อมลง ต่อมน้ำเหลืองโตทั่วร่างกาย ต่อมาเริ่มมีอาการ เช่น ไข้เรื้อรัง ท้องร่วงเรื้อรัง มีฝ้าขาวในปาก เมื่อถึงระยะเป็นโรคเอดส์เต็มขั้น ผู้ป่วยจะมีการติดเชื้อฉวยโอกาสและจะเป็นมะเร็งชนิดที่ไม่ค่อยพบในคนทั่วไป นอกจากนี้ผู้ป่วยยังมีอาการทางระบบประสาท เช่น เฉื่อยชา ความจำเสื่อม ผู้ป่วยจะมีน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว <p> <p>ระยะตั้งแต่เชื้อเอชไอวีเข้าสู่ร่างกายจนถึงระยะแสดงอาการโรคเอดส์เต็มขั้นจะกินเวลานานหลายปี ในระหว่างนี้ถ้าต้องการจะทราบว่าติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่สามารถทำได้โดยการตรวจเลือด <p> <p>การรักษา<br/> 1. การดูแลผู้ป่วยโดยทั่วไป เช่น การให้อาหารที่เพียงพอ<br/> 2. การรักษาตามอาการ<br/> 3. การรักษาโรคติดเชื้อฉวยโอกาส<br/> 4. การให้ยาต้านเชื้อเอชไอวีเพื่อยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส<br/> 5. การให้ยากระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน <br> <br>แหล่งข้อมูล<br> ประเสริฐ ทองเจริญ จันทพงษ์ วะสี และรวงผึ้ง สุทเธนทร์. (2539). กลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อมหรือโรคเอดส์. ในสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. (เล่มที่ 20, หน้า 242-269). กรุงเทพฯ : โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Immunotheraphyการรักษาด้วยการก่อภูมิคุ้มกัน [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Cellular immunityภูมิคุ้มกันด้านเซลล์ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Immunodeficencyภูมิคุ้มกันบกพร่อง [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Immunological adjuventสารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Acquired immunodeficiency syndrome ; AIDS (Disease)กลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม [TU Subject Heading]
AIDS (Disease) And the artsกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อมกับศิลปกรรม [TU Subject Heading]
AIDS (Disease) in mass mediaกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อมในสื่อมวลชน [TU Subject Heading]
Aids and devicesกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อมในสื่อมวลชน, เครื่องช่วยและอุปกรณ์ [TU Subject Heading]
AIDS serodiagnosisการวินิจฉัยกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อมโดยตรวจซีรั่ม [TU Subject Heading]
Allergy and immunology ; Immunologyวิทยาภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน [TU Subject Heading]
Children of AIDS patientsบุตรของผู้ป่วยกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม [TU Subject Heading]
Immune seraเซรุ่มภูมิคุ้มกัน [TU Subject Heading]
Immune systemระบบภูมิคุ้มกัน [TU Subject Heading]
Immunityภูมิคุ้มกัน [TU Subject Heading]
Immunity, Cellularเซลล์ภูมิคุ้มกัน [TU Subject Heading]
Immunizationการก่อภูมิคุ้มกัน [TU Subject Heading]
Immunogeneticsพันธุศาสตร์ภูมิคุ้มกัน [TU Subject Heading]
Immunologic dificiency syndromesกลุ่มอาการขาดภูมิคุ้มกัน [TU Subject Heading]
Immunologic diseasesโรคภูมิคุ้มกัน [TU Subject Heading]
Immunologic surveillanceการเฝ้าระวังโรคทางภูมิคุ้มกันวิทยา [TU Subject Heading]
Immunologic techniquesเทคนิคทางภูมิคุ้มกัน [TU Subject Heading]
Immunologic testsการทดสอบทางภูมิคุ้มกันวิทยา [TU Subject Heading]
Immunological aspectsแง่ภูมิคุ้มกันวิทยา [TU Subject Heading]
Immunologistsนักวิทยาภูมิคุ้มกัน [TU Subject Heading]
Immunotherapyการรักษาด้วยการก่อภูมิคุ้มกัน [TU Subject Heading]
Parents of AID patientsบิดามารดาของผู้ป่วยภูมิคุ้มกันเสื่อม [TU Subject Heading]
Veterinary immunologyภูมิคุ้มกันวิทยาทางสัตวแพทยศาสตร์ [TU Subject Heading]
Dendrimer antibodyเดนดริเมอร์ แอนติบอดี้ คือ แอนติบอดี้ที่เชื่อมติดกับโมเลกุลพอลิเมอร์ที่มีแขนงกิ่งก้านยื่นออกมาคล้ายต้นไม้ ซึ่งเรียกว่า เดนดริเมอร์ โดย เดนดริเมอร์ แอนติบอดี้ มักใช้ในการตรวจวัดปริมาณสารแอนติเจน และถือว่าเป็นการประยุกต์ใช้เดนดริเมอร์ในการวัดสารภูมิคุ้มกันของร่างกายวิธีหนึ่ง [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Acquired Immunodeficiency Syndromeกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม, โรคภูมิต้านทานบกพร่อง, ภูมิคุ้มกันบกพร่องภายหลัง, โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง, เอดส์, โรคเอดส์, โรคภูมิต้านทานเสื่อม [การแพทย์]
Allergy and Immunologyวิทยาภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน; ภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน, วิทยา [การแพทย์]
Anamnestic Responseผลของการกระตุ้นให้สร้างแอนติบอดีย์แบบทุติยภูมิ, การตอบสนองทุติยภูมิ, ภูมิคุ้มกันปริมาณสูง, เกิดภูมิคุ้มกันโรคที่มากๆรวดเร็วและคงอยู่ได้ [การแพทย์]
Anemia, Hemolytic, Autoimmuneเลือดจางเฮโมลิติกชนิดออโตอิมมูน, เลือดจางฮีโมลัยติก ออโตอิมมูน, โรคโลหิตจางบางชนิด, การทำลายเม็ดเลือดแดง, การทำลายเม็ดเลือดแดงที่ส่วนขอบของภูมิคุ้มกัน [การแพทย์]
Antibodiesแอนติบอดีย์จำเพาะ, อิมมูนแอนติบอดี้, แอนตี้บอดี้, แอนติบอดีย์ที่ไม่คงตัว, สิ่งต่อต้าน, ภูมิต่อต้านโรค, ภูมิคุ้มกัน, แอนติบอดี, แอนติบอดี้, ภูมิต้านทาน, สารต่อต้านโรค, แอนติบอดีย์, สารแอนติบอดีย์, แอนติโบดี, แอนตีบอดี, ความต้านทาน, แอนติบอดี้, แอนตี้โบดี้, สารต่อต้าน, ภูมิคุ้มกันโรค, แอนติบอดี, ภูมิคุ้มกันร่างกาย, ภูมิคุ้มกันโรค [การแพทย์]
Antibodies, Cell-Mediatedภูมิคุ้มกันที่อาศัยเซลล์ [การแพทย์]
Antibodies, Humoralแอนติบอดีย์ไหลเวียน, ภูมิคุ้มกันที่มีในกระแสเลือด [การแพทย์]
Antibodies, Spermภูมิคุ้มกันอสุจิ, ภูมิต้านทานต่อตัวอสุจิ [การแพทย์]
Antibody Producing Organsอวัยวะที่สร้างภูมิคุ้มกัน [การแพทย์]
Antibody-Producting Mechanismกลไกปฎิกิริยาในการสร้างภูมิคุ้มกัน [การแพทย์]
Auto-Immunityภูมิคุ้มกันอัตโนมัติ [การแพทย์]
Autoantibodiesออโตแอนติบอดี, สาร; ภูมิต้านเนื้อเยื่อตนเอง; ภูมิคุ้มกันต่อเนื้อเยื่อตนเอง; ออโตแอนติบอดี; ออโตแอนติบอดี้; ออโตแอนติบอดีย์ [การแพทย์]
Autoimmuneภูมิคุ้มกัน, การแพ้เนื้อเยื่อตนเอง, ภูมิคุ้มกันตัวเอง [การแพทย์]
Autoimmune Diseasesออโตอิมมูน, โรค; โรคภูมิต้านทานต่อตนเอง; โรคภูมิคุ้มต้านตนเอง; โรคต้านเนื้อเยื่อของตัวเอง; โรคภูมิแพ้ต่อตนเอง; โรคออโตอิมมูน; โรคต้านเนื้อเยื่อของตัวเอง; โรคออโตอิมมูน; โรคทางภูมิคุ้มกัน [การแพทย์]
Autoimmune Etiologyโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันอัตโนมัติ [การแพทย์]
Autoimmunityการเกิดภูมิต้านทานในตนเอง, ภูมิแพ้ต่อเนื้อเยื่อของตนเอง, ภูมิต้านตนเอง, ภูมิคุ้มกันต่อต้านตัวเอง, การเกิดภูมิต้านทานต่อเนื่อเยื่อของตนเอง [การแพทย์]
Autoimmunizationร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ออสุจิของตนเอง [การแพทย์]
Coproantibodiesโคโปรแอนติบอดี, ภูมิคุ้มกันเฉพาะที่ในลำไส้ [การแพทย์]
Diphtheria Antibodyภูมิคุ้มกันต่อโรคไข้คอตีบ [การแพทย์]
Evaluation of Immunological Factorsการตรวจทางภูมิคุ้มกันวิทยา [การแพทย์]
Expanded Programme on Immunization (EPI)โครงการขยายงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Miscarriage-prone female reproductive system is merely an extension... of the body's natural and necessary instincts to reject foreign matter.ผู้หญิงที่มีแนวโน้มแท้งบุตร จริงๆแล้วเป็นระบบภูมิคุ้มกัน ที่ร่างกายทำการปฏิเสธวัตถุแปลกปลอมตามธรรมชาติ Junior (1994)
I spent the last few years building up an immunity to iocane powder.ผมใช้เวลามา 2-3 ปี... เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันยาพิษชนิดนี้ The Princess Bride (1987)
It seems that the cause is an overloading of the system to remove parasites in the body.ดูเหมือนระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานหนักเกินไปน่ะ Final Fantasy VII: Advent Children (2005)
It's important that he receives immunisations.สำคัญมากที่เขาต้องได้รับภูมิคุ้มกัน. Transporter 2 (2005)
The blood tests confirm that I remain immune.... for both the airborne and contact strains.นั่นแสดงว่า ผมยังมีภูมิคุ้มกันทั้งทางเชื้อ ทางอากาศ และทางสัมผัส I Am Legend (2007)
Canines remain immune to airborne strain only.สุนัขยังมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อทางอากาศเท่านั้น แกยังเล่นในที่มืดไม่ได้นะ, หมาโง่ I Am Legend (2007)
Krippin virus is....ผมยังไม่สามารถถ่ายทอดภูมิคุ้มกันของผมให้กับผู้ติดเชื้อได้ ไวรัสคริปปินช่าง.. I Am Legend (2007)
5 of us were immune.- พวกเรา 5 คนมีภูมิคุ้มกัน\ I Am Legend (2007)
You must dispense one of these medical boosters into the infant's mouth.ท่านต้องหยดยาสร้างภูมิคุ้มกันพวกนี้ เข้าทางปากของเด็กน้อย Star Wars: The Clone Wars (2008)
Like I was immune or something.เหมือนกับว่าฉันมีภูมิคุ้มกันอะไรบางอย่าง Lazarus Rising (2008)
Immune?ภูมิคุ้มกัน? Lazarus Rising (2008)
Ah, well, I mean, now that you got immunity --อ่าา ฉันหมายถึงว่าตอนนี้นายมีภูมิคุ้มกัน Lazarus Rising (2008)
Metal's immune to disease, ภูมิคุ้มกันโรค Alpine Fields (2008)
Tin cans are immune to diseaseกระป๋องดีบุกมีภูมิคุ้มกันต่อโรค Alpine Fields (2008)
It killed most of 'em, but a couple were immune, มันฆ่าได้เกือบหมดยกเว้น 2 ตัวที่มีภูมิคุ้มกัน Alpine Fields (2008)
Your daughter sydney has an immunity.ลูกสาวของคุณมีภูมิคุ้มกันโรค Alpine Fields (2008)
Could be his immune system's on hyperdrive.บางทีระบบภูมิคุ้มกันเค้าอาจจะสูงกว่าปกติ Adverse Events (2008)
Her asthma inhaler did the same for you, wiped out your mouth's immune system.โรคหืดของคุณ ก็ทำแบบเดียวกันนี้กับคุณ เช็ดปากคุณซะ ระบบภูมิคุ้มกัน Lucky Thirteen (2008)
Usually in the first 20 weeks of pregnancy, and in women who have trouble with their immune system.ปกติใน 20 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ และในผู้หญิงที่มีปัญหากับระบบภูมิคุ้มกัน Joy (2008)
History of drug abuse could've compromised her immune system.ประวัติการเสพยาอาจไปรวมกับอาการของระบบภูมิคุ้มกัน Joy (2008)
Antibody tests back?ผลตรวจภูมิคุ้มกันกลับมาหรือยัง The Itch (2008)
Leaving their immune systems too week to dealทำให้ภูมิคุ้มกันเขา อ่อนแอเกินกว่าจะรับ Last Resort (2008)
Show it to an immunologist, they'll see autoimmune.เอามันไปให้นักภูมิคุ้มกันวิทยาดู เขาอาจจะเห็นว่าเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง Dying Changes Everything (2008)
I already showed it to an immunologist.ฉันเอาไปให้นักภูมิคุ้มกันวิทยาดูแล้ว Dying Changes Everything (2008)
Alcohol reduces the white blood cell count, which deteriorates the immune system... and impairers judgment, which can result in second and third Woo-Rahm!แอลกอฮอล์น่ะทำให้เม็ดเลือดขาวลดลง ทำลายเม็ดเลือดและระบบภูมิคุ้มกัน ระบบซ่อมแซ่ม การตัดสินใจ แล้ว... Baby and I (2008)
Some people have a natural immunity to specific viruses.บางคนมีภูมิคุ้มกัน ต่อไวรัสบางชนิด Day of the Dead (2008)
You're saying the virus is restrained because of the injection.จะบอกว่าเธอมีภูมิคุ้มกันเชื้อโรค เพราะยาที่ฉีดไปก่อนหน้านั้นเหรอ Death Note: L Change the World (2008)
Does it mean Maki's body has both... the virus and the hint to restrain the virus?นี่หมายความว่าเลือดของมากิมีทั้งเชื้อโรค และภูมิคุ้มกันที่ยับยั้งเชื้อโรคนี้ได้อย่างงั้นเหรอ Death Note: L Change the World (2008)
No life-forms are immune to it.ไม่มีสิ่งมีชีวิตหน้าไหนมีภูมิคุ้มกันมันได้ Blue Shadow Virus (2009)
You're immune to my charms.เธอมีภูมิคุ้มกันสเน่ห์ของฉัน The Monster at the End of This Book (2009)
His name's Miles Kinberg, immunologist, cutting edge work, an expert in his field.เขาชื่อไมล์ คินเบิร์ก เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกัน มีผลงานล้ำหน้า เป็นผู้เชี่ยวชาญในสายงานของเขา Bound (2009)
No time for the immune response.ไม่มีเวลาให้กับภูมิคุ้มกันตอบโต้ Bound (2009)
Or a byproduct of the cancer suppressing his immune system.หรือสิ่งที่เกิดพร้อมมะเร็งอาจไปกดระบบภูมิคุ้มกันเขา House Divided (2009)
Those toxins suppressed his immune system.พิษไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน House Divided (2009)
Morgan: this guy has his on work spaceและรับสารสร้างภูมิคุ้มกันทุกปี เขาคนนี้มีพื้นที่ในการทำงาน Amplification (2009)
Systemic lupus erythematosus, a very advanced case.โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง มันเป็น สิ่งที่พัฒนา มาก Night of Desirable Objects (2009)
Lupus results in an overactive immune system.ผลจากโรคผิวหนังลูปัส ทำให้ ระบบภูมิคุ้มกันทำงานมากไป Night of Desirable Objects (2009)
Her own body would have destroyed the fetusภูมิคุ้มกันของเธอจึงไป ทำลายตัวอ่อนในครรภ์ Night of Desirable Objects (2009)
It secretes a remarkable immune-boosting enzyme.ยังเป็นความลับอยู่ เป็นเอ็นไซม์ที่เร่งสร้าง ภูมิคุ้มกันอย่างน่าทึ่ง Snakehead (2009)
Or if you wanted to treat any number of immune deficiency disorders.หรือถ้าคุณอยากใช้ ในการรักษาโรคใดๆ ที่เกี่ยวกับความผิดปกติ ของภูมิคุ้มกันร่างกาย Snakehead (2009)
She has some sort of immune deficiency disorder?เธอเป็นโรคบางอย่าง ที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน ผิดปกติรึเปล่า? Snakehead (2009)
Matt Jarvis suffers from a rare immune deficiency disorder.แมต จาร์นิส ทุกข์ทรมานจาก การทำงานผิดปกติของ ภูมิคุ้มกันร่างกาย Snakehead (2009)
We turned up more financial records at his shop that trace back to six other patients with immune deficiency.เราค้นพบประวัติ ทางการเงินของร้านเขา แกะรอยย้อนหลังไปหาคนไข้ อีก 6 รายที่มีปัญหาภูมิคุ้มกัน Snakehead (2009)
It is surprising that it survives and should fulfill your potential.ยากดภูมิคุ้มกันนี่ จะช่วยต่อชีวิตเธอ และเพิ่มพลังเธอถึงขีดสุด Push (2009)
A little suffering's good for the soul.-เจ็บหน่อย ใจจะได้มีภูมิคุ้มกัน Star Trek (2009)
Maybe she's immune to whatever it is the others picked up.บางที เธออาจมีภูมิคุ้มกัน Pain (2010)
It's HIV protocol stuff... steroids.มันเป็นยาภูมิคุ้มกันโรคเอดส์ วัตถุดิบยา... สเตียรอยด์ Home (2010)
The rest of it is that HIV shit.ยาพวกภูมิคุ้มกันโรคเอดส์ที่เหลือขายไม่ได้ Turning and Turning (2010)
If you've haven't had them, you're not immune.ถ้าคุณไม่เคยเป็น คุณก็ไม่มีภูมิคุ้มกัน The Chase (2010)
HIV. A virus which destroys the immune system.HIV คือไวรัสที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกัน Confessions (2010)

English-Thai: Longdo Dictionary
immunostimulation(vt) การกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เช่น Several prominent researchers have been issued multiple patents for immunostimulation based, hair loss treatments., Syn. immune stimulation
Amyotrophic Lateral Sclerosis (ALS)(n, name) โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ พยาธิสภาพของโรคเอแอลเอสอยู่ที่บริเวณแกนสมอง และไขสันหลัง ทำให้ผู้ป่วยมีกล้ามเนื้อแขนขา และลำตัวอ่อนแรง กลืนลำบาก และพูดไม่ชัด คำว่า “Amyotrophic” หมายถึง กล้ามเนื้ออ่อนแรง ฝ่อลีบและเต้นพลิ้ว (fasciculation) ส่วนคำว่า “Lateral sclerosis” หมายถึงรอยโรคในทางเดินของกระแสประสาทซึ่งควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อในไขสันหลัง โรคเอแอลเอสพบน้อยมาก โดยพบได้เพียง 4 ถึง 6 ต่อประชากร 100, 000 คน และโอกาสที่จะพบผู้ป่วยรายใหม่มีเพียง 1.5 ถึง 2.5 ต่อประชากร 100, 000 คนต่อปี โรคนี้เป็นกับผู้ใหญ่วัยใดก็ได้ แต่จะพบบ่อยขึ้นตามอายุ อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 65 ปี โดยมักเป็นในเพศชายมากกว่าเพศหญิง จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าโรคเอแอลเอสเกิดขึ้นได้อย่างไร ผู้ป่วยราวร้อยละ 5 (โดยเฉพาะผู้ป่วยอายุน้อย) อาจมีประวัติโรคนี้ในครอบครัว สิ่งแวดล้อมหรือสารพิษบางชนิด อาจมีผลกับการเกิดโรคนี้ เนื่องจากพบว่าในบางพื้นที่ของโลก เช่นที่เกาะกวม พบโรคนี้มากกว่าที่อื่น นอกจากนั้นการศึกษาทางระบาดวิทยายังพบว่า นักกีฬาบางประเภท โดยเฉพาะนักฟุตบอลอาชีพมีโอกาสเป็นโรคนี้สูงกว่าประชากรทั่วไป ปัจจุบันเชื่อว่าสาเหตุของโรคนี้อาจเกิดจาก กลไกภูมิคุ้มกันต่อตนเองผิดปกติ (Autoimmune attack) หรือเกิดจากกลไกอนุมูลอิสระ (Free radicals) ทำลายเซลล์ประสาทของตนเอง ส่วนอีกทฤษฎีหนึ่งเชื่อว่า การเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทในสมองและไขสันหลังเกิดจากสารสื่อนำกระแสประสาท (neurotransmitter) ที่เรียกว่ากลูตาเมต (glutamate) กระตุ้นให้เกิดการทำลายเซลล์ (ข้อมูลจาก ผศ.นพ.รุ่งนิรันดร์ ประดิษฐสุวรรณ สาขาวิชาอายุรศาสตร์ปัจฉิมวัย : http://www.thonburihospital.com/th/tip_detail.asp?id=22 , http://www.inf.ku.ac.th/article/diag/520506/alsmnd.html)

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
AIDS(n) เอดส์ (คำย่อของ Acquired Immune Deficiency Syndrome), See also: โรคเอดส์, โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
antiserum(n) ซีรัมที่มีแอนติบอดี้มีภูมิคุ้มกันโรค
human immunodeficiency virus(n) เฮชไอวี, See also: เชื้อไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่อง, เชื้อไวรัสเอดส์
immune(adj) เกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน
immune(adj) ซึ่งมีภูมิคุ้มกันโรค, See also: ซึ่งมีภูมิต้านทานต่อโรค, Syn. inoculated, vaccinated
immune(n) ผู้มีภูมิคุ้มกัน
immune system(n) ระบบภูมิคุ้มกันโรค
immunise(vt) ฉีดภูมิคุ้มกันโรค, See also: ทำให้มีภูมิต้านทาน ด้วยการฉีดวัคซีน, Syn. inoculate, vaccinate
immunity(n) ภูมิคุ้มกันโรค, See also: ภูมิต้านทานโรค, การมีภูมิคุ้มกันโรค, Syn. inoculation, vaccination
immunize(vt) ฉีดภูมิคุ้มกันโรค, See also: ทำให้มีภูมิต้านทาน ด้วยการฉีดวัคซีน, Syn. inoculate, vaccinate
immunodeficiency(n) ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
immunology(n) ภูมิคุ้มกันวิทยา, See also: การศึกษาถึงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
inoculation(n) การฉีดวัคซีน, See also: การปลูกฝี, การใส่หรือฉีดเชื้อเข้าในร่างกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน, การเพาะหรือใส่ความคิด, Syn. vaccination, injection
vaccinate(vt) ฉีดวัคซีน, See also: ฉีดภูมิคุ้มกัน, ปลูกฝี, Syn. immunize, inoculate, vaccinate
vaccinator(n) ผู้ฉีดวัคซีน, See also: ผู้ให้ภูมิคุ้มกัน
vaccine(n) วัคซีน, See also: สารต้านพิษ, เซรุ่ม, ภูมิคุ้มกัน, Syn. antibody, antitoxin

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
active immunityการเกิดภูมิคุ้มกันเนื่องจากการสร้างแอนตี้บอดี้ภายในสิ่งมีชีวิตเอง
aidsabbr. (เอดสฺ) Acquired Immune Deficiency Syndrome โรคเอดส์ (โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง, โรคภูมิคุ้มกันเสื่อม)
anergy(แอน' เนอจี) n. ภาวะไร้ภูมิคุ้มกันต่อ antigen -anergic adj. (deficiency of energy)
antiserum(แอนทีซี' รัม) n., (pl. -serums, -sera) ซีรัมที่มี antibodies ซึ่งมีภูมิคุ้มกัน
booster(บูส'เทอะ) n. ผู้สนับสนุน, ผู้ยก, ผู้เลื่อน, สิ่งที่สนับสนุน, สิ่งกระตุ้น, ท่อนแรกของจรวดหลายท่อน, เครื่องเพิ่ม กำลัง -Phr. (booster dose, booster shot ขนาดยาหรือสารสร้างภูมิคุ้มกัน, ยาหรือสารเสริมฤทธิ์ยาตัวอื่น, เครื่องเสริมการขับดัน)
hivคำย่อ Human Immunovirus เป็นไวรัสที่ทำให้ภูมิคุ้มกันของคนบกพร่อง
immune(อีมิวนู') adj. มีภูมิคุ้มกันโรค, ได้รับการยกเว้น. n. ผู้มีภูมิคุ้มกันโรค, ผู้ได้รับการยกเว้น, Syn. exempt
immunise(อิม'มะไนซ) vt. ทำให้มีภูมิคุ้มกันโรค, ทำให้ยกเว้น, ทำให้รอดจาก., See also: immuniser, immunizer n.
immunize(อิม'มะไนซ) vt. ทำให้มีภูมิคุ้มกันโรค, ทำให้ยกเว้น, ทำให้รอดจาก., See also: immuniser, immunizer n.
immuno-Pref. ภูมิคุ้มกันโรค'
immunology(อิมมะนอล'โลจี) n. ภูมิคุ้มกันวิทยา, See also: immunological adj. adv. immunologist n.
passive immunityn. ภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการฉีดแอนตี้บอดี้ จากสิ่งมีชีวิตอื่นหรือ (ในทารก) จากแอนตี้บอดี้ของมารดาผ่านรก

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Cytokineโปรตีนที่ขับออกมาโดยเซลล์น้ำเหลืองซึ่งทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเซลล์และควบคุมการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน
Hypersensitivityแพ้ (หรือที่เรียกว่าปฏิกิริยาแพ้หรือแพ้) หมายถึงปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ที่ผลิตโดยระบบภูมิคุ้มกันปกติรวมถึงโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันอัตโนมัติ ปฏิกิริยาแพ้ต้องมีสถานะก่อนไวต่อความรู้สึก (ภูมิคุ้มกัน) ของโฮสต์ (สัตว์หรือพืชที่เป็นที่อาศัยของปรสิต)
immunocompromisedมีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องหรืออ่อนแอ (เช่นเดียวกับยาหรือการเจ็บป่วย)
immunological[อิมมิวโนโลจิคอล] (n) การศึกษาเกี่ยวกับวิทยาภูมิคุ้มกัน
Polymyositisโรคอักเสบของกล้ามเนื้อที่เริ่มต้นเซลล์เม็ดเลือดขาว, เซลล์ภูมิคุ้มกันของการอักเสบ, เป็นธรรมชาติกล้ามเนื้อ, โดยเฉพาะกับลำตัว, ส่งผลให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อ, และอ่อนแอ
psychoneuroimmunology(n) จิตประสาทภูมิคุ้มกัน; การแพทย์สาขาที่เกี่ยวกับสภาวะอารมณ์มีผลต่อภูมิคุ้มกันอย่างไร

add this word


You know the meaning of this word? click [add this word] to add this word to our database with its meaning, to impart your knowledge for the general benefit


Are you satisfied with the result?



Discussions

About our ads
We know you don’t love ads. But we need ads to keep Longdo Dictionary FREE for users. Thanks for your understanding! Click here to find out more.
Go to Top